Professional Documents
Culture Documents
เอกสารประกอบการสอนวิชาสังคมศึกษา ม.4 1 - 2566
เอกสารประกอบการสอนวิชาสังคมศึกษา ม.4 1 - 2566
4 1
หน่วยที่ 1 สังคมวิทยา
สังคมวิทยา (Sociology) เป็นสาขาหนึ่งของสังคมศาสตร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อ
- อธิบายความสัมพันธ์ของมนุษย์ในสังคมอย่างเป็นระบบ
- ศึกษาเกี่ยวกับชีวิตทางสังคมของมนุษย์ กลุ่มคน สังคม รวมทั้งกฎเกณฑ์และกระบวนการทางสังคม
0 down (1798 - 1857) จึงได้ชื่อว่าเป็น บิดาแห่งสังคมวิทยา
- ริเริ่มโดยชาวฝรั่งเศส ชื่อว่า _________
- เพื่ออธิบายการขยายตัวของสังคมในช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรม
1. มนุษย์กับสังคมและวัฒนธรรม
Ø มนุษย์
วิชาสังคมวิทยาแบ่งสัตว์ออกเป็น 2 ประเภท
1. สัตว์โลก เป็นสัตว์ที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม ต้องปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ
u /1120
เพื่อความอยู่รอดและดำรงเผ่าพันธุ์ เช่น _____________________________________
2. สั ต ว์ ส ั ง คม (Social Animal) เป็ น สั ต ว์ ท ี ่ ต ้ อ งอยู ่ ร ่ ว มกั น เป็ น กลุ ่ ม เพื ่ อ พึ ่ ง พาอาศั ย ซึ ่ ง กั น และกั น
spoi Est
มีการกระทำร่วมกัน เช่น _____________________________________________
swiorswurzoor
สรุป มนุษย์เป็นสัตว์สังคม เพราะมนุษย์ต้อง_____________________________________
v ความเหมือนและความแตกต่างของมนุษย์กับสัตว์สังคมอื่น
ความเหมือน : 1) ความต้องการทางกายภาพและชีวภาพ 2) การผลิตสมาชิกใหม่ 3) การปรับตัวให้เข้า
กับสิ่งแวดล้อมได้
ความแตกต่ า ง : 1) มนุ ษ ย์ ม ี ม ั น สมองขนาดใหญ่ จ ึ ง ฉลาดกว่ า 2) มี ค วามสามารถในการเรี ย นรู้
3) มีความเป็นอิสระในการดำรงชีพ 4) มีการสร้างสรรค์วัฒนธรรม
สรุป you hitz
มนุษย์ à สมองใหญ่ à เรียนรู้ได้ง่าย à มี_________
ENUIGN
สัตว์ à สมองเล็ก à เรียนรู้ได้ยาก à มี__________
Ø วัฒนธรรม (Culture)
·i wirrzu rsitt Wirin
v วัฒนธรรม ในทางสังคมวิทยา มี 2 ความหมาย คือ
fam
1) วัฒนธรรมในความหมายโดยแคบ คือ ________ของมนุ ษย์ที่เกิดจากการเรียนรู้และสั่งสอน
provis
2) วัฒนธรรมในความหมายโดยกว้าง คือ ____________ที ่มนุษย์สร้างขึ้น
v ลักษณะสำคัญของวัฒนธรรม
1) เป็นสิ่งทีด่ ีหรือไม่ดกี ็ได้ 184
2) เป็นสิ่งที_่ writi -
______สร้างขึ้น (หากเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้าง เรียกว่า กายภาพ)
3) เกิดจากการเรียนรู้หรือ____________________
sun indictde
muz wowmt (วัฒนธรรมจึงเป็นมรดกทางสังคม)
4) แต่ละท้องถิ่นจะมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน (จึงเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละสังคม)
5) มีการเปลี่ยนแปลงปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมไปเรื่อย ๆ ทำให้เกิดเป็นวิวัฒนาการ
v ตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม
1) วัฒนธรรมเก่าถูกยกเลิกหรือสูญสิ้นไป
2) การยืมและแพร่กระจายจากวัฒนธรรมอื่น
3) การคิดค้น/ค้นพบ
v รูปแบบวัฒนธรรม
nice was
1) วัฒนธรรมหลัก เป็นของคนส่วนใหญ่ในสังคม เช่น การพูดภาษาไทย การไหว้ ___________
2) วัฒนธรรมย่อย เป็นของคนเฉพาะกลุ่ม เช่น การพูดภาษาถิ่น วัฒนธรรมพื้นบ้าน (สามารถพัฒนาเป็น
awserfan auste
วัฒนธรรมหลักได้ หาก______________________)
vos
v หน้าทีข่ องวัฒนธรรม
- หล่อหลอมบุคลิกภาพให้กับสมาชิกของสังคม เช่น ความเชื่อ ความสนใจ ความรู้ ท่าทาง
- เป็นตัวกำหนดความสัมพันธ์หรือพฤติกรรมของมนุษย์
- เป็นตัวควบคุมทางสังคม โดยใช้บรรทัดฐาน
- ใช้ในการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม
v ความสำคัญของวัฒนธรรม
- มนุษย์กับวัฒนธรรมเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ต้องอยู่ควบคู่กันไป
Ide
- มนุษย์สร้างวัฒนธรรม แล้วใช้วัฒนธรรมเป็นตัวสร้าง______มนุ ษย์
- สังคมและวัฒนธรรมจึงมีส่วนช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกัน
2. โครงสร้างของสังคม
โครงสร้างทางสังคม หมายถึง การจัด_______________residenti ของคนในสังคม
I
a wrf is ne
- ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เป็นโครงสร้างสังคมได้ คือ ____________
v ลักษณะของโครงสร้างสังคม
- มีกลุ่มคนทีต่ ิดต่อสัมพันธ์กัน (สำคัญที่สุด)
- มีกฎเกณฑ์
- มีวัตถุประสงค์
- มีการเปลี่ยนแปลงเสมอ
โครงสรางสังคม
คานิยม บรรทัดฐาน
v ประเภทของกลุ่มสังคม
1) กลุ่มปฐมภูมิ คือ กลุ่มคนที่มีความสัมพันธ์แบบส่วนตัว ใกล้ชิดกัน เช่น ความสัมพันธ์ในครอบครัว
เพื่อนสนิท สังคมชนบท เป็นต้น
2) กลุ่มทุติยภูมิ คือ กลุ่มคนที่ความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ ไม่ใกล้ชิดหรือ เฉพาะด้าน เช่น
ความสัมพันธ์ของนายจ้างกับลูกจ้าง สังคมเมือง เป็นต้น
Ø สถาบันสังคม (Social Institution)
สถาบันสังคม หมายถึง
inwonistin ่ทำให้สังคมเป็นระเบียบที่ได้รับการยึดถือจากสมาชิกของสังคมอย่างมั่นคง เป็น
1) _________ที
เวลานานภายใต้กฎเกณฑ์ที่แน่นอน
2) กลุ่มของบรรทัดฐาน ที่ใช้เป็นหลักในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของสมาชิกในสังคม
คดี s
สนองความต้องการของ - กลุ่มสังคมในบริษัท - แบบแผนในการผลิต 1. ผลิต_______InzUfMu
jis11y
มนุษย์ในด้าน______ โ ร ง แ ร ม ธ น า ค า ร สินค้า &
2. กระจาย______
ร้านค้า - การจัดระบบ ไปสู ่ ผ ู ้ บ ริ โ ภคหรื อ
การตลาด สมาชิกในสังคม
เศรษฐกิจ
- การกำหนดราคา
สินค้า
- แ บ บ แ ผน ใ น ก า ร
ประกอบอาชีพต่าง ๆ
v กลไกในการจัดระเบียบสังคม
ได้แก่ สถานภาพและบทบาท ค่านิยม บรรทัดฐาน การขัดเกลาทางสังคม และการควบคุมทางสังคม
Ø สถานภาพและบทบาท
v สถานภาพ (Social Status)
&119 is
สถานภาพ หมายถึง _________ของบุ คคลในสังคม (บ่งบอกว่า “เราเป็นใคร” ในสังคม)
แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
evich
1) สถานภาพที่ได้มาแต่กำเนิด (Ascribed Status) เช่น เพศ อายุ เชื้อชาติ ______
2) สถานภาพที่ได้มาภายหลัง หรือ สถานภาพ_________ pro (Achieved Status) เช่น การศึกษา
อาชีพ ยศ การสมรส (สามี ภรรยา การเป็นพ่อแม่)
Ø การขัดเกลาทางสังคม (Socialization)
die
การขัดเกลาทางสังคม หรือ สังคมประกิต คือ กระบวนการของสังคมในการ_______แบบแผน Noc
Ingers
3.
My navies.
4. X 9,15m
RyUN8
5. Ues 10. As
เอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชา ส31101 สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ม.4 9
v ประเภทการควบคุมทางสังคม แบ่งตามเกณฑ์ต่าง ๆ ได้ดังนี้
1) การควบคุมจากภายในและภายนอก
- การควบคุมภายใน เช่น การมีจิตสำนึก การมีมโนธรรม
- การควบคุมภายนอก เช่น การใช้กฎหมาย การประณาม
2) การควบคุมอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ
- การควบคุมอย่างเป็นทางการ โดยการใช้กฎหมาย
- การควบคุมอย่างไม่เป็นทางการ เช่น การประณาม การประชาทัณฑ์ การนินทา
3) การควบคุมโดยการจูงใจและการลงโทษ
- การจูงใจ โดยการให้รางวัล เพื่อให้ปฏิบัติตาม เช่น การยกย่อง การมอบเหรียญ ประกาศนียบัตร
- การลงโทษ สำหรับผู้ฝ่าฝืน เช่น การดูถูก การเยาะเย้ย ติเตียน ปรับ จำคุก
4. สังคมไทย
สังคมไทย มีลักษณะร่วมของคนในสังคม โดยมีปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่าง ๆ ดังนี้
1) ปัจจัยด้านธรรมชาติ ทำให้สังคมไทยเป็นสังคม______interior จึงทำให้ชีวิตผู้คนผูกพันกับสภาพลมฟ้า
with downrans
อากาศเป็นสำคัญ เกิดขนบธรรมเนียมประเพณีเกี่ยวกับเกษตรกรรม เช่น_____________________
2) ปัจจัยด้านสังคมและวัฒนธรรม ได้แก่
- ศาสนา (ศาสนาพุทธ : หลักธรรมคำสอนต่าง ๆ / ศาสนาพราหมณ์ : พิธีแรกนาขวัญ
สงกรานต์ การใช้สายสิญจน์)
- อิทธิพลจากตะวันตก เช่น เทคโนโลยี การสร้างบ้าน การแต่งกาย
Ø ลักษณะทั่วไปของสังคมไทย
สังคมไทย ประกอบด้วยสังคมเมือง (เช่น กรุงเทพมหานคร) และสังคมชนบท (ต่างจังหวัด) ซึ่งมี
ประชากรเพศหญิง___กว่ Wil ing
าเพศชาย และมีประชากรวัยชรา___ในขณะที ่ประชากรเด็ก____
*dDS ทำให้สังคมไทย
เริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) นอกจากนี้สังคมไทยยังมีลักษณะทั่วไปต่าง ๆ ดังนี้
1) เป็นสังคมเกษตรกรรมและสังคมชนบท
2) คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ จึงทำให้
- คนไทยเน้นความสงบสุข เช่น สันโดษ เสียสละ กฎแห่งกรรม สังสารวัฏ
- ความเชื่อเรื่องกรรม ทำให้คนไทยชอบทำบุญ และยอมรับเรื่องความแตกต่างทางชนชั้นว่า
เป็นเรื่องธรรมดา
3) มีโครงสร้างการแบ่งชนชั้น (หลัง พ.ศ.2475 การแบ่งชนชั้นเกิดจากปัจจัยทาเศรษฐกิจและสังคม
ได้แก่ ตระกูล ตำแหน่งทางการเมือง ตำแหน่งทางราชการ ความมั่งคั่ง การศึกษา อาชีพ)
4) เทิดทูนและยึดมั่นในสถาบันกษัตริย์
5) มีการรวมอำนาจและความเจริญไว้ทสี่ ่วนกลาง (กทม.)
Ø ความแตกต่างของสังคมชนบทและสังคมเมือง
ประเด็น สังคมชนบท สังคมเมือง
- ชีวิตอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติมาก และใช้ชีวิตเผชิญ - เมืองไม่ค่อยสัมผัสกับธรรมชาติ
กับธรรมชาติโดยตรง - ประชากรหนาแน่น บ้านเรือนอยู่ใกล้ชิดกัน
ลักษณะทั่วไป - ผู้คนประกอบอาชีพ______ IEMUI/I ต้องพึ่งพาอาศัย - ผูค้ นในเมืองประกอบอาชีพ________ O MURUra
กันโดยตรง (เช่น การลงแขก) พาณิชยกรรม จึงต้องแข่งขันกันสูง
- บ้านเรือนกระจัดกระจาย - มีการจัดระเบียบชุมชน กำหนดพื้นที่เมือง
- เป็นสังคมชาวบ้าน ผู้คนมีชีวิตความเป็นอยู่และ - ผู้คนมากมาย หลากหลาย และแตกต่าง
วัฒนธรรมที่เรียบง่าย - ผู ้ ค นอยู ่ ก ั น หนาแน่ น ไม่ ร ู ้ จ ั ก กั น จึ ง เป็ น
- ผู้คนรู้จักกันเป็นส่วนตัว ผูกพันกันทางจิตใจ จึง ความสัมพันธ์แบบ_______ perc
Uzu is
เป็นความสัมพันธ์แบบ_______ - ผู ้ ค นมี ก ารศึ ก ษา อาชี พ และฐานะทาง
- ผู้คนเป็นเกษตรกรเหมือนกัน ไม่มีความต่างกันนัก เศรษฐกิจแตกต่างกัน
ลักษณะสังคม - ผูกพันกับศาสนา - คนเมืองจึงมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม
- ผู้คนเน้นการปฏิบัติตามจารีต เปลี่ยนแปลงได้น้อย - มีการเคลื่อนไหวทางสังคมสูง เช่น เปลี่ยน
- ยกย่องคนที่คุณงามความดี ตำแหน่งหน้าที่การงาน
- เป็นสังคมปิด สถานภาพของคนจะตายตัว - เปลี่ยนแปลงเร็ว (จากอิทธิพลจากตะวันตก)
- ศูนย์กลางของชุมชน คือ วัด - เป็นสังคมเปิด สถานภาพคนเปลี่ยนแปลง
- ผู้คนประกอบอาชีพเกษตร - ประกอบอาชีพอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม
ลักษณะเศรษฐกิจ - มีรายได้_i__ - คนเมืองให้ความสำคัญกับเวลามาก
- มีรายได้___ Es มีการออมทรัพย์มาก
- คนชนบทมักไม่สนใจเรื่องการเมืองการปกครอง - คนเมืองให้ความสนใจเรื่องการเมืองการ
ลักษณะการปกครอง ปกครองมากกว่าคนชนบท
- การปกครองมักจะว่ากันตามกฎหมาย
- สภาพแวดล้ อ มดี มี อ ากาศบริ ส ุ ท ธิ ์ ธรรมชาติ - เป็นศูนย์รวมความเจริญ โดยเฉพาะด้าน
สวยงาม วัตถุ
ข้อดี - ชาวชนบทมีน้ำใจ เมตตาต่อกัน - มี ความสะดวกสบายในเรื ่ องต่ าง ๆ เช่ น
- เป็นสังคมเบ็ดเสร็จ คือ อยู่ได้ด้วยตัวเอง แม้จะ การเดินทาง สาธารณูปโภค
ไม่ได้ติดต่อกับชุมชนภายนอก - มาตรฐานการครองชีพสูง
Discerni
สังคมชนบทและสังคมเมืองต้อง______________
- ชนบทพึ่งเมือง ด้านผลผลิตทางอุตสาหกรรม ตลาด เทคโนโลยีและบริการต่าง ๆ
- เมืองพึ่งชนบท ด้านผลผลิตทางเกษตรกรรม แรงงาน และพลังงานต่าง ๆ
Ø สถาบันสังคมที่สำคัญของไทย
1. สถาบันครอบครัวไทย เป็นครอบครัวเดี่ยวอย่างเห็นได้ชัด ให้ความสำคัญต่อระบบอาวุโส นิยมมี
คู่ครองคนเดียว
2. สถาบันเศรษฐกิจไทย ส่วนใหญ่เป็นสังคมเกษตรกรรม มีหัตถกรรมที่แสดงถึงภูมิปัญญาไทย เน้น
อุตสาหกรรมขนาดกลางและย่อม (SMEs) มีมูลค่าด้านธุรกิจการค้ามากขึ้น มีการบริโภคมากขึ้นตามยุคบริโภค
นิยม หลงในกระแสวัตถุนิยมและทุนนิยม
3. สถาบันการเมืองไทย อยู่ภายใต้ระบบอุปถัมภ์ (ผู้คนต่างเคารพนับถือ เชื่อฟังผู้ใหญ่ที่เป็นผู้อุปถัมภ์)
ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น
4. สถาบันศาสนาไทย มีเสรีภาพในการที่จะนับถือศาสนา ผู้คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ แต่เน้น
พิธีกรรมมากกว่าเข้าถึงหลักธรรม
5. สถาบั น การศึ ก ษาไทย มี แ หล่ ง การเรี ย นรู ้ ท ี ่ ห ลากหลายมากขึ ้ น เช่ น โรงเรี ย น ครอบครั ว สื่ อ
อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ทำให้มีการศึกษา 3 รูปแบบ คือ ในระบบ (ในโรงเรียน) นอกระบบ และอัธยาศัย
Ø ค่านิยมของสังคมไทย
ค่านิยม เป็นตัวบ่งชี้ถึงความเป็นสังคมไทยได้ดีที่สุด
ค่านิยมไทยที่สำคัญและควรปลูกฝัง ค่านิยมไทยที่ควรแก้ไข
1) Isnow s 1) UVI mis
2) Poster i 2) irriz
3) ↑ erow wid 3)
4) 4)
5) 5)
6) 6)
7) 7)
8) 8)
v ลักษณะภูมิปัญญาท้องถิ่น
1) เป็นรูปธรรม เป็นเรื่องเฉพาะด้าน เช่น อาหาร อาชีพ ศิลปะ ดนตรี
2) เป็นนามธรรม เป็นโลกทัศน์ ปรัชญา คุณค่า ความหมายของทุกสิ่งในชีวิต มี 3 ด้าน
- ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ เพื่อสังคมอยู่ได้
- ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับโลก คือ สัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมอื่นรอบตัว
- ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นอำนาจเหนือธรรมชาติ
Ø ตัวอย่างภูมิปัญญาสังคมอื่น
v จีน
1) อาหารจีน
- ยึดหลักหยินหยาง และเบญจธาตุ เพื่อปรับสมดุลอวัยวะภายในทั้งห้า คือ หัวใจ ตับ ม้าม ปอด และไต
- หยินเป็นอาหารที่อุดมด้วยโพแทสเซียม หยางเป็นอาหารที่อุดมด้วยโซเดียม
- เบญจรส ประกอบด้วย เผ็ด(แก้หวัด) หวาน เปรี้ยว ขม(ขับร้อน) และเค็ม
2) อักษรจีน : เขียนจากขวาไปซ้าย
3) บ้านจีน : สร้างด้วยดินเหนียวผสมหญ้า คล้ายตึก
v เกาหลี - กิมจิ (ผักดอง) - ระบำหน้ากาก
v ญี่ปุ่น - บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป - ลัทธิบูชิโด (ซามูไร)
v ตะวันตก - อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีต่าง ๆ
v UNESCO
6. การเปลี่ยนแปลงในสังคมไทยและแนวโน้ม
Ø ประเภทการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
1) การเปลี่ยนแปลงทางสังคม
- เป็นการเปลี่ยนแปลงที_่ new wi
__________ ของคน (โครงสร้างสังคม)
- เป็นการเปลี่ยนแปลงสถานภาพ บทบาท
- เป็นการเปลี่ยนแปลงจำนวนคน
- เช่น ผู้หญิงมีสถานภาพสูงขึ้น ผู้หญิงมีบทบาททางการเมืองมากขึ้น ความสัมพันธ์ของคนเป็นแบบทุติย
ภูมิมากขึ้น
2) การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม
awes
- เป็นการเปลี่ยนแปลงสิ่งที_่ __________
- เป็นการเปลี่ยนแปลงความคิดของคน
- เช่น การนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น ผู้หญิงไม่นิยมนุ่งผ้าถุง
ข้อสังเกต
- สังคมประชาธิปไตยจะเปลี่ยนแปลง___กว่
NI าสังคมคอมมิวนิสต์
- สังคมที่ติดต่อกับคนภายนอกจะเปลี่ยนแปลง____กว่
Wi าสังคมปิด
- สังคมชนบทผูกพันกับขนบธรรมเนียมประเพณีจะเปลี่ยนแปลง____กว่ Ul าสังคมเมือง
การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมเริ่มมีอย่างเป็นแบบแผนตั้งแต่การประกาศใช้
แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ฉบับที่ 1 พ.ศ.2504
↳otwo
aft in fr เป็นนายกรัฐมนตรี)
(สมัย______________________
Ø สาเหตุของปัญหาสังคม
1) การเสียระเบียบทางสังคม คือ สังคมจัดระเบียบไม่ดีจึงเกิดปัญหา เช่น ปัญหารถติด(วางผังเมืองไม่ดี)
ปัญหาคุณภาพชีวิตประชากร
2) พฤติกรรมเบี่ยงเบน คือ การไม่ทำตามกรอบ เช่น ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น
Ø ปัญหาสำคัญของสังคมไทย
1) ปัญหาครอบครัวขาดความอบอุ่น (เกิดจากสภาพสังคมเปลี่ยนไป จึงเป็นปัญหาพื้นฐานที่ทำให้เกิด
ปัญหาอื่นตามมา)
2) ปัญหาอาชญากรรม
3) ปัญหายาเสพติด เกิดจากความอยากรู้อยากลองและการชักชวนของเพื่อน แก้โดยการให้ความรู้แก่
เยาวชน ส่งเสริมความอบอุ่นในครอบครัว โครงการโรงเรียนสีขาว
4) ปัญหาความยากจน พบมากในสังคมชนบท
5) ปัญหาโสเภณี ไม่ได้เกิดจากความยากจนเสมอไป แต่อาจเกิดจากค่านิยมที่ผิดได้เช่นกัน
6) ปัญหาการว่างงาน พบมากในสังคมเมือง
7) ปัญหาโรคเอดส์ เกิดจากการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน การไม่ป้องกันขณะมีเพศสัมพันธ์
8) ปัญหาสิ่งแวดล้อม ทั้งดิน น้ำ อากาศ
9) ปัญหาการฉ้อราษฎร์บังหลวง
10) ปัญหาชุมชนแออัด เกิดในสังคมเมืองเท่านั้น
วิธีการป้องกันและแก้ไขปัญหาสังคมที่ดีที่สุด คือ
ส่งเสริมการศึกษาให้ประชาชนตระหนัก ถึงสาเหตุของปัญหาและแนวทางแก้ไข
Ø ด้านการเมืองการปกครอง
Fo
- การปกครองสมัยเดิมแบ่งออกเป็น “แว่นแคว้น” ต่าง ๆ โดยแต่ละแว่นแคว้นจะเรียกว่า “_____”
หากว่าใหญ่มากจะเรียกว่า “มหาชนบท”
- แต่ละชนบทจะประกอบด้วย นิคม(เมือง) และคาม(ตำบล)
- ชมพูทวีปแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
acti
1) แว่นแคว้นส่วนกลาง เรียกว่า มัชฌิมชนบท (มัธยมชนบท) เป็นที่อยู่ของชาว___ (ผิวขาว)
de (ผิวดำ)
2) แว่นแคว้นชั้นนอก เรียกว่า ปัจจันตชนบท เป็นที่อยู่ของพวก________
v ความเชื่อเรื่องโลกกับชีวิต
- มีความเชื่อเกี่ยวกับโลกและชีวิตถึง 62 ลัทธิ
1) เรื่องการเกิดและการตาย
- บ้างก็เชื่อว่าตายแล้วเกิด บ้างก็เชื่อว่าตายแล้วสูญ
2) เรื่องชีวิตหลังการตาย
- บ้างก็ว่ายังมีความจำได้ บ้างก็ว่าจำไม่ได้ บ้างก็ว่าสรุปไม่ได้
3) เรื่องสถานะของสรรพสิ่ง
- บ้างก็ว่าเที่ยงแท้ บ้างก็ว่าเที่ยงแท้บางส่วน
4) เรื่องสถานภาพของโลก
- บ้างก็ว่าโลกมีจุดจบ บ้างก็ว่าไม่มีจุดจบ บ้างก็ว่ามีที่สุด บ้างก็ว่าสรุปไม่ได้
5) เรื่องความสุขทุกข์
- บ้างก็ว่าเกิดขึ้นเอง (ไม่มีเหตุ ไม่มปี ัจจัย) บ้างก็ว่ามีเหตุมีปัจจัย
6) เรื่องเป้าหมายสูงสุด
- บ้างก็ว่าคือกามารมณ์ บ้างก็ว่าการได้ชั้นฌานต่าง ๆ
7) บางกลุ่มคิดว่าไม่ควรตั้งทฤษฎีใดเลย
v กลุ่มความเชื่อแบบต่าง ๆ
1) ศาสนาพราหมณ์
1) วิวัฒนาการก่อนมาเป็นศาสนาพราหมณ์
- ลัทธิบูชาธรรมชาติ : โดยชาวอารยันบูชาธรรมชาติเบื้อง__ Who เช่น พระอาทิตย์ พระจันทร์
Emi สงบด้วยโยควิธีของพวกโยคี
3) การฝึกโยคะ คือการฝึก_____ให้
2. พุทธประวัติ
Ø ชาติตระกูล
เจ้าชายสิทธัตถะทรงถือกำเนิดในวรรณะกษัตริย์ ประสูติเมื่อวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ก่อนพ.ศ. 80 ปี
v พระบิดา คือ____________ กษัตริย์แห่งศากยวงศ์ แคว้นสักกะ มีเมืองกบิลพัสดุ์เป็นเมืองหลวง
อยู่ทางตอนเหนือของดินแดนชมพูทวีป ในปัจจุบันเป็นประเทศเนปาล
v พระมารดา คือ____________ แห่งโกลิยะวงศ์ เป็นพระธิดาของกษัตริย์
แห่งแคว้นโกลิยะ มีเมืองเทวทหะเป็นเมืองหลวง ปัจจุบันอยู่ในเขตประเทศเนปาล
4. พระไตรปิฎก
- สมัยพุทธกาล คำสอนของพระพุทธเจ้า เรียกว่า พระธรรมวินัย
- หลังพระพุทธเจ้าปรินิพพาน เกิดการสังคายนาพระไตรปิฎกขึ้น
- สังคายนา หมายถึง การประชุมสงฆ์เพื่อสอบทานชำระพระไตรปิฎก
Ø หมวดของพระไตรปิฎก
- พระไตรปิฎกมีทั้งสิ้น 84,000 พระธรรมขันธ์ โดยแยกได้ 3 หมวดหมู่ คือ
1) พระ_______ปิฎก : พระวินัยของภิกษุ ภิกษุณี
(1) มหาวิภังค์ : วินัยที่เป็นหลักใหญ่ ๆ ของภิกษุ
(2) ภิกขุนีวิภังค์ : วินัยที่เป็นหลักใหญ่ ๆ ของภิกษุณี
(3) มหาวรรค : กำเนิดภิกษุสงฆ์และระเบียบการเป็นอยู่และกิจการของภิกษุสงฆ์
(4) จุลวรรค : ระเบียบความเป็นอยู่และกิจการของภิกษุสงฆ์
(5) ปริวารวรรค : คู่มือถามตอบซักซ้อมเกี่ยวกับพระวินัย
3) พระ______ปิฎก : ธรรมะล้วน ๆ
(1) ธัมมสังคณี : แจกแจงนับธรรมที่รวมเป็นหมวดเป็นประเภท
(2) วิภังค์ : อธิบายธรรมแต่ละเรื่อง โดยแยกแยะออกชี้แจงและวินิจฉัยอย่างละเอียด
(3) ธาตุกถา : จัดข้อธรรมต่าง ๆ เข้าในขันธ์ อายตนะ ธาตุ
(4) ปุคคลบัญญัติ : บัญญัติความหมายบุคคลประเภทต่าง ๆ ตามคุณธรรมที่มี
(5) กถาวัตถุ : แถลงและวินิจฉัยทัศนะของนิกายต่าง ๆ
(6) ยมก : ยกธรรมขึ้นวินิจฉัย โดยตอบคำถามที่ตั้งย้อนกันเป็นคู่ ๆ
(7) ปัฏฐาน : อธิบายปัจจัยคือลักษณะความสัมพันธ์เนื่องอาศัยกัน 24 แบบ
Ø ลำดับชั้นคัมภีร์ในศาสนาพุทธ
ลำดับชั้นที่ 1 พระไตรปิฎก (บาลีพระไตรปิฎก/ บาลีพุทธวจนะ)
ลำดับชั้นที่ 2 อรรถกถา (วรรณนา)
ลำดับชั้นที่ 3 ฎีกา
สัททาวิเสส : ตำราไวยากรณ์บาลี
ลำดับชั้นที่ 4 อนุฎีกา
Ø การสังคายนาพระไตรปิฎก
ครั้ง ระยะ
เวลา สถานที่ ผู้อุปถัมภ์ ประธาน พระที่เข้าร่วม สาเหตุ จุดเด่น
ที่ เวลา
พระมหากัสสปะ –
พระพุทธเจ้า ซักถาม
ถ้ำ ____________
ปรินิพพาน พระเจ้า พระ 7 พระอุบาลี – ตอบ
1 สัตตบรรณ 500 รูป จาบจ้วงพระพุทธเจ้าและ
แล้ว 3 อชาตศัตรู มหากัสสปะ เดือน พระวินัย
คูหา พระวินัย
เดือน พระอานนท์ – ตอบ
พระธรรม
พระวัชชีบุตรละเมิดพระ
พระเจ้า พระยศ พระเรวตะ – ซักถาม
วาลิการาม 8 วินัย
2 พ.ศ.100 กาลาโศก กากัณฑก 700 รูป พระสัพพกามี –
แคว้นวัชชี เดือน เช่น ฉันอาหารตอนบ่าย
ราช บุตร ตอบพระวินัย
สอง
5. หลักธรรมของพระพุทธศาสนา
Ø ความสำคัญของหลักธรรม
- หัวใจของศาสนา คือ หลักธรรมคำสอน
- หลักธรรมของศาสนาพุทธเกิดจากการค้นพบของพระพุทธเจ้า
Ø พระรัตนตรัย
- พระรัตนตรัย ได้แก่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
v พระพุทธ คือ ____________________ (ผู้ตรัสรู้อริยสัจ 4 ผู้กำจัดกิเลสจนเกิดความ
เบิกบานในใจ)
พระพุทธแบ่งออกเป็น
1) พระสัมมาสัมพุทธเจ้า (สัพพัญญูพุทธะ) หมายถึง พระพุทธเจ้าผูต้ รัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง
สามารถสอนให้ผู้อื่นรู้ตาม และตั้ง________ได้
2) พระปัจเจกพุทธ หมายถึง พระพุทธผู้ตรัสรู้ด้วยตนเอง แต่ไม่สอนผู้อื่น
3) พระอนุพุทธ (สาวกพุทธ) หมายถึง ผู้ตรัสรู้ตามพระพุทธเจ้า
คุณค่าของพระพุทธ คือ พุทธจริยา ได้แก่ โลกัตถจริยา ญาตัตถจริยา และพุทธัตถจริยา
พระคุณของพระพุทธองค์ 1) พระปัญญาคุณ 2) พระวิสุทธิคุณ (ทรงมีจิตใจบริสุทธิ,์ ทรงทำได้
ตามที่สอน, ทรงสอนด้วยใจบริสุทธิ์ใจ) 3) พระกรุณาธิคุณ (ทรงช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์)
v พระธรรม
พระธรรม เป็นความจริงที่มีอยู่โดยธรรมชาติ เมื่อพระพุทธเจ้าทรงค้นพบแล้วจึงนำมาสั่งสอนสรรพ
สัตว์
v พระสงฆ์
กลุ่มชนที่เลื่อมใสในคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้วออกบวช มีหน้าที่ศึกษา ปฏิบัติตาม และเผยแผ่
หลักธรรม
ชวนคิด
Q: หลักธรรมหรือคำสอนใดที่นักเรียนใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันมากที่สุด พร้อมอธิบายเหตุผล
และยกตัวอย่างประกอบ
A:___________________________________________________
_________________________________________________________
_________________________________________________________
_________________________________________________________
_________________________________________________________
_________________________________________________________
_________________________________________________________
_________________________________________________________
_________________________________________________________
2) วิญญาณ : การ___ผานประสาทสัมผัส
ขันธ 5
จิต
ทั้ง 6 คือ หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ
3) เวทนา : ความ____
นามธรรม (สุข ทุกข อุเบกขา)
เจตสิก คือ
4) สัญญา : การ____หมายรู ส่วนประกอบ
ของจิต
5) สังขาร : __ที่ปรุงแตงขึ้น
แรงจูงใจ
v โลกธรรม 8
- หมายถึง เรื่องราวธรรมดาที่เกิดขึ้นบนโลก แบ่งเป็น
สุข-ทุกข์ ลาภ-เสื่อมลาภ ยศ-เสื่อมยศ สรรเสริญ-นินทา
- โลกธรรมมุ่งสอนให้เรายอมรับว่าสรรพสิ่งในโลก____________
Ø สมุทัย (ธรรมะที่ควรละ)
ได้แก่ หลักกรรม, ปฏิจจสมุปบาท, นิยาม 5, วิตก 3, มิจฉาวณิชชา 5, นิวรณ์ 5, อุปาทาน 4
v หลักกรรม
- กรรม คือ การกระทำที่ม_ี _____ (การกระทำที่ไม่มีเจตนา เรียกว่า กิริยา)
- กฎแห่งกรรม กล่าวไว้ว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ซึ่งตรงกับสำนวนไทย เช่น กงเกวียนกำเกวียน,
วัวใครเข้าคอกคนนั้น, หว่านพืชเช่นไร ย่อมได้ผลเช่นนั้น, สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
- ศาสนาพุทธเชื่อว่ากรรมมีจริง (กัมมสัทธา) เชื่อเรื่องผลของกรรม (วิปากสัทธา) และเชื่อว่าสัตว์ทั้ง
ปวงมีกรรมของตนเอง (กัมมัสสกตาสัทธา)
v กรรม 12
ชนิดของกรรมตามเวลาที่ให้ผล
1) ส่งผลทันตาเห็น หรือในชาตินี้ (ทิฏฐธัมมเวทนียกรรม)
2) ส่งผลในกาลหน้า หรือชาติหน้า (อุปัชชเวทนียกรรม)
3) ส่งผลในเวลานานมาก หรือชาติต่อ ๆ ไป (อปราปรเวทนียกรรม)
Ø พิธีทอดกฐิน
- ทำได้ปีละครั้ง ตั้งแต่ แรม 1 ค่ำ เดือน 11 จนถึง ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 (1 เดือนเต็มหลังวันออกพรรษา)
- มีจุดประสงค์เพื่อให้พระเปลี่ยนผ้าครองจีวรใหม่
- กฐิน แปลว่า ไม้สะดึง หรือ กรอบไม้สำหรับขึงผ้าเย็บจีวร
- สมัยโบราณ ชาวบ้านถวายผ้าให้พระ แล้วพระจะนำไปเย็บเอง
- การทอดกฐิน ต้องนำผ้ากฐินไปวางหน้าพระสงฆ์อย่างน้อย 5 รูป
- พระสงฆ์จะพิจารณาผ้าว่าจะให้พระรูปใดไปครอง เรียกว่า กรานกฐิน
ข้อสังเกต พิธีการถวายทานที่คล้ายคลึงพิธีทอดกฐิน คือ การทอดผ้าป่า
การทอดผ้าป่า เป็นการถวายโดยไม่เจาะจงพระภิกษุเหมือนกัน
แต่ต่างที่จำนวนครั้งและไม่มีการจำกัดเวลา แต่ละปีทางวัดจะจัดให้มีกี่ครั้งก็ได้
v บทสวดพระสังฆคุณ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีแล้ว
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติตรงแล้ว
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติรู้แล้ว
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติสมควรแล้ว
ยะทิทัง ได้แก่บุคคลเหล่านี้คือ
จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา คู่แห่งบุรุษสี่คู่ นับเรียงตัวได้แปดบุรุษ
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า
อาหุเนยโย เป็นผู้ควรแก่สักการะที่เขานำมาบูชา
ปาหุเนยโย เป็นผู้ควรแก่สักการะที่เขาจัดไว้ต้อนรับ
ทักขิเณยโย เป็นผู้ควรรับทักษิณาทาน
อัญชะลีกะระณีโย เป็นผู้ที่บุคคลทั่วไปควรทำอัญชลี
อนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า
11. การบริหารจิตและเจริญปัญญา
Ø การบริหารจิต (การฝึกสมาธิ, สมถกรรมฐาน)
- การฝึกสมาธิจะทำให้เราคิดเรื่องเดียว ไม่ฟุ้งซ่าน
- จุดมุ่งหมายของการฝึกสมาธิในทางศาสนา คือ เพื่อกำจัด__________ ได้แก่
1) กามฉันทะ (ใคร่ในกาม) 2) พยาบาท (โกรธ) 3) ถีนมิทธะ (ง่วง)
4) อุทธัจจกุกกุจจะ (ฟุ้งซ่าน) 5) วิจิกิจฉา (ลังเลสงสัย)
- ระดับของสมาธิ มี 3 ระดับ ได้แก่
1) ขณิกสมาธิ สมาธิชั่วขณะ
2) อุปจารสมาธิ สมาธิเกือบจะแน่วแน่
3) อัปปนาสมาธิ สมาธิแน่วแน่
v วิธีฝึกสมาธิด้วยวิธี “สติปัฏฐาน”
สติปัฏฐาน เป็นการใช้ สติ พิจารณา 4 เรื่อง ต่อไปนี้
1) ________นุปัสสนา พิจารณากาย โดย
- พิจารณาลมหายใจ - พิจารณาอิริยาบถ
- พิจารณาความเคลื่อนไหว - พิจารณาร่างกายให้เห็นความไม่สะอาด
- พิจารณาร่างกายโดยแยกออกเป็นส่วน ๆ
2) ________นุปัสสนา พิจารณาความรู้สึกให้เท่าทันมัน เช่น เจ็บหนอ เมื่อยหนอ
3) ________นุปัสสนา พิจารณาจิต เช่น โกรธหนอ ชอบหนอ
4) ________นุปัสสนา พิจารณาธรรมะ เช่น นิวรณ์ ขันธ์ อริยสัจ
Ø การเจริญปัญญา
- ฝึกด้วย “วิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการ 10” ซึ่งเป็นกระบวนการคิดอย่างละเอียดลึกซึ้ง อย่างถูกวิธี มีเหตุผล