You are on page 1of 18

เรื่ อง ใส่ แมสยังไงให้ไม่เป็ นสิ ว

กลุ่มสาระการเรี ยนรู้ IS

จัดทำโดย
1. นายปัชฌย์รัฐ บุญสุ วรรณ เลขที่ 15
2. นางสาวปริ ยากร แซ่เล่า เลขที่ 23
3. นางสาวฮูดา นิยมเดชา เลขที่ 24

ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5/13

โครงงานนี้เป็ นส่ วนหนึ่งของ รายวิชา ว 31191 ออกแบบเทคโนโลยี 1


ภาคเรี ยนที่ 2 ปี การศึกษา 2564
โรงเรี ยนหาดใหญ่วิทยาลัย

คำนำ

รายงานเล่มนี้จดั ทำขึ้นเพื่อเป็ นส่ วนหนึ่งของวิชา IS ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่5 เพื่อให้ได้ศึกษาหาความรู ้


ในเรื่ องของการลดปัญหาสิ วที่เกิดจากการใส่ แมสเนื่องจากปั จจุบนั ผูค้ นจำเป็ นต้องใส่ แมสเป็ นเวลานานเพื่อ
ที่จะป้ องกันโรคระบาด covid-19 และมีผคู้ นประสบปั ญหาการเกิดสิ วจากการใส่ แมสเป็ นเวลานานจำนวน
มากทางผูจ้ ดั ทำได้เล็งเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและได้ศึกษาอย่างเข้าใจเพื่อเป็ นประโยชน์กบั บุคคลทัว่ ไปที่
กำลังประสบปัญหานี้ และต้องการที่จะหาทางแก้ไขปั ญหาที่เกิดขึ้น

ผูจ้ ดั ทำหวังว่า รายงานเล่มนี้จะเป็ นประโยชน์กบั ผูอ้ ่าน หรื อนักเรี ยน นักศึกษา ที่ก ำลังหาข้อมูลเรื่ อง
นี้อยู่ หากมีขอ้ แนะนำหรื อข้อผิดพลาดประการใด ผูจ้ ดั ทำขอน้อมรับไว้และขออภัยมา ณ ที่น้ ี ดว้ ย
ผูจ้ ดั ทำ
นายปัชฌย์ รัฐ บุญสุ วรรณ
นางสาวปริยากร แซ่ เล่ า
นางสาวฮูดา นิยมเดชา

วันที่2 กรกฎาคม พ.ศ.2565

สารบัญ
คำนำ ก
สารบัญ ข
ที่มาและความสำคัญ 1
บทที่ 1 “ สิ ว คืออะไร? ” 2
บทที่ 2 “ สิ ว มีกี่ประเภท? ” 3
บทที่ 3 “ สิ ว รักษาได้อย่างไร” 4
บทที่ 4 “ ประเภทของหน้ากากอนามัย ” 5
บทที่ 5 “ ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ช่วงในการรักษาผิวหน้าจากปัญหาสิ ว ” 6
บรรณานุกรม ค
ภาคผนวก ง

ที่มาและความสำคัญ
ในปั จจุบนั ได้มีการแพร่ ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่ งเชื้อไวรัสโคโรน่า (CoVs) พบได้
ทัว่ โลก โดยในเขตอบอุ่น (temperate climates) มักพบเชื้อโคโรนาไวรัสในช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ
การติดเชื้อโคโรนาไวรัสอาจทำให้เกิดอาการในระบบทางเดินหายใจส่ วนบนได้ถึงร้อยละ 35 และสัดส่ วน
ของโรคไข้หวัดที่เกิดจากเชื้อโคโรนาไวรัสอาจสู งถึงร้อยละ 15 อาจ การติดเชื้อพบได้ในทุกลุ่มอายุ แต่พบ
มากในเด็ก อาจพบมีการติดเชื้ อซ้ำได้ เนื่องจากระดับภูมิคุม้ กันจะลดลงอย่างรวดเร็ วภายหลังการติดเชื้ อ
สำหรับการติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลันรุ นแรง หรื อซาร์ส (SARS CoV) พบการระบาดปี พ.ศ. 2546 โดย
พบเริ่ มจากประเทศจีนแล้วแพร่ กระจายไปทัว่ โลก+พบรายงานผูป้ ่ วยโรคซาร์สทั้งสิ้ นมากกว่า 8, 000 ราย
และเสี ยชีวิตมากกว่า 750 ราย
ทำให้เกิดปัญหาสิ ว อันเกิดมาจากการสะสมความมันและสิ่ งสกปรกบนผิวหน้าเป็ นระยะเวลานาน
หรื อเรี ยกอีกอย่างว่า maskne ซึ่ งมีคนจำนวนไม่นอ้ ยที่ตอ้ งเผชิญกับปัญหานี้ บางคนอาจะสงสัยว่า maskne
คืออะไรและมีที่มามาจากคำว่าอะไร
Maskneคื อ ภาวะปั ญหาของผิวหนังที่ เกิ ดจากการสวมใส่ แมสก์ที่ เล็กจนเกิ นไปหรื อใส่ เป็ นเวลานาน
ทำให้เกิ ดสิ วที่ เรี ยกว่า Acne mechanica นั่นคื อสิ วที่ เกิ ดจากการเสี ยดสี ระหว่างผิวหนังกับแมสก์
ทำให้เกิ ดการระคายเคืองและอุดตันรู ข ุมขนจนทำให้เกิ ดเป็ นสิ วขึ้ นมา อี กทั้งความชื้ นและเหงื่ อเกิ ด
ขึ้ นภายใต้หน้ากากที่ สวมใส่ เป็ นเวลานานก็จะยิ่งส่ งเสริ มให้เกิ ดสิ วได้เช่ นกัน ดังนั้ นMaskneจึ งเป็ น
อาการของสิ วที่ ผ ุดขึ้ นมาบริ เวณที่ ถูกแมสก์ปิ ดไว้น ั ่นเอง ส่ วนใหญ่ จะเกิ ดที่ คาง แนวกราม แก้ม จมูก
และรอบปาก (O-Zone ตามรู ป A) ทั้งนี้ มากไปกว่าสิ ว พบว่าแมสก์ย งั ทำให้เกิ ดสภาวะโรคผิวหนัง
อักเสบ (Rosacea) หรื อ ผื่นผิวหนังอักเสบรอบปาก (Perioral dermatitis) ที่ เป็ นโรคผิวหนังเรื้ อรั งได้
อี กด้วย

บทที่ 1
สิ วคืออะไร?
สิ ว นับเป็ นตัวปัญหาใหญ่บนใบหน้าสวยๆ ของคุณผูห้ ญิงและคุณผูช้ ายโดยเฉพาะวัยรุ่ นและวัยหนุ่ม
สาว ส่ วนใหญ่อาการของสิ วจะไม่รุนแรงนัก แต่สิวในบางคนอาการจะรุ นแรงและอักเสบมาก ที่ส ำคัญคือ
เมื่อสิ วหายไปแล้วยังคงทิ้งร่ องรอยไว้ให้ดูต่างหน้า บ้างก็เป็ นแผลเป็ น รอยดำ รอยบุ๋ม หรื อรอยนูน

เนื่องจากสิ วเกิดจากการอักเสบของต่อมไขมัน (sebaceous) ทำให้เรามักจะพบสิ วในบริ เวณที่มีต่อม


ไขมันมาก เช่น ใบหน้า หน้าอก หลังส่ วนบน คอ ไหล่ หรื อต้นแขน โดยจะพบสิ วได้หลายระยะทั้งสิ วอุดตัน
เช่น สิ วหัวเปิ ดสี ด ำ หรื อสิ วหัวปิ ด ซึ่ งจะเห็นเป็ นหัวขาว ๆ อยูใ่ ต้ผวิ หนัง ต่อมาอาจจะกลายเป็ นสิ วอักเสบ
เห็นเป็ นตุ่มแดง (papulonodular) ได้ บางคนถ้าการอักเสบมาก อาจพบเป็ นตุ่มหนอง (pustule) หรื อเป็ นสิ ว
อักเสบขนาดใหญ่ที่อยูล่ ึกลงไปใต้ผวิ หนังที่เรี ยกว่าสิ วหัวช้าง (nodulocystic) ได้ดว้ ย

สาเหตุ 4 ประการที่นำไปสู่ การก่อตัวของสิว

1. Seborrhea คือ การผลิตน้ำมันของต่อมไขมันในผิวมากเกินไป เกิดได้จากหลายปั จจัย เช่น ฮอร์โมน


สภาพอากาศ ยาบางชนิด พันธุกรรม เป็ นต้น
2. Hyperkeratosis คือ การที่ผวิ หนังชั้นนอกสุ ด (Stratum corneum) เกิดการหนาตัวขึ้นผิดปกติ
เนื่องจากเกิดการผลัดเซลล์ผวิ ที่ตายแล้วผิดปกติ ทำให้เกิดการอุดตันท่อต่อมไขมัน และส่ งผล
รบกวนการไหลของน้ำมันออกมานอกผิวหนัง
3. Microbial colonization คือ แบคทีเรี ยที่เจริ ญเติบโตอยูบ่ ริ เวณรู ขมุ ขน (Propionibacterium acne)
เป็ นสาเหตุให้สิวอุดตัน เกิดการอักเสบ บวมแดง หรื อเป็ นหัวหนองขึ้นมา
4. Inflammation คือ กระบวนการอักเสบของร่ างกาย ทำให้เกิดสิ วบวมแดงและอักเสบขึ้น ในกรณี ที่
เป็ น Severe acne การอักเสบจะขยายและลึกลงไปในบริ เวณเนื้ อเยือ่ ที่อยูใ่ กล้เคียงมากขึ้น

ปัจจัยที่ก่อให้ เกิดสิว มีอยูห่ ลายประการ อย่างเช่น

HORMONE การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเป็ นปั จจัยหนึ่งที่สำคัญ โดยระดับฮอร์โมนแอนโดรเจน จะมี


ระดับสู งในช่วงวัยรุ่ นโดยเฉพาะเพศชาย ทำให้เราพบสิ วในช่วงอายุน้ ีมากกว่าช่วงอื่น ฮอร์โมนนี้ จะไป
กระตุน้ ให้ต่อมไขมันมีขนาดใหญ่ข้ นึ มีการสร้างไขมันออกมามากขึ้น และในขณะที่น ้ำมันเดินทางจากต่อม
ไขมันสู่ ปาก รู ขมุ ขน เกิดไปผสมเข้ากับแบคทีเรี ยและเซลล์ผวิ ที่ตายแล้วซึ่ งอยูใ่ นรู ขมุ ขน ทำให้เกิดการอุด
ตันของรู ขมุ ขนกลายเป็ นสิ วอุดตัน ระหว่างนั้นเม็ดเลือดขาวในร่ างกายจะออกมากำจัดแบคทีเรี ย ทำให้สิว
อักเสบ เกิดเป็ นตุ่มแดง บวม เจ็บ และเป็ นหัวหนองในที่สุด

สิ วอาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างตั้งครรภ์ ระหว่างมีประจำเดือนผูห้ ญิงบางคน อาจมีสิวเห่อ มากขึ้นในระยะก่อน


มีประจำเดือนได้ เนื่องจากระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่ เพิม่ สู งขึ้น ทำให้มีการบวมของรู ขมุ ขนและการ
คัง่ ของน้ำในร่ างกาย หรื อ โรคบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน เช่น โรคถุงน้ำ ในรังไข่ (polycystic ovary
syndrome)

FOOD เดิมเชื่อว่าอาหารบางชนิด เช่น ช็อกโกแลต หรื อ อาหารมันๆ ทำให้เกิดสิ ว แต่ในความเป็ นจริ งแล้ว
ยังไม่มีการศึกษาใดๆ ที่บ่งชี้วา่ อาหารเป็ นสาเหตุของการเกิดสิ ว แต่ถา้ สังเกตว่าอาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง
ทำให้อาการสิ วอักเสบแย่ลง อาจลองหลีกเลี่ยงหรื อหยุดรับประทานอาหารชนิดนั้นๆ แล้วสังเกตว่าอาการสิ ว
อักเสบดีข้ ึนหรื อไม่

SKIN CARE การใช้เครื่ องสำอางก็เป็ นสาเหตุหนึ่งของสิ ว ดังนั้นในคนที่มีโอกาสเป็ นสิ วง่าย แนะนำให้


พยายามใช้เครื่ องสำอางให้นอ้ ยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าจำเป็ นต้องใช้ให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำมัน
(oil-free) และควรจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุวา่ ไม่ท ำให้เกิดสิ วอุดตันหรื อสิ วอักเสบ (noncomedogenic และ
non-acnegenic) นอกจากนี้การใช้สเปรย์หรื อเจลบำรุ งเส้นผม ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริ เวณใบหน้า
STRESS ความเครี ยดจะกระตุน้ ให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น

MEDICATION ยาบางอย่างเช่น สเตียรอยด์และลิเธี ยม มีรายงานว่าทำให้เกิดสิ วได้ในบางคน

GENES กรรมพันธุ์มีผลต่อการเกิดสิ วด้วยเช่นกัน ถ้าพ่อแม่มีประวัติเป็ นสิ วในวัยรุ่ น ลูกใน วัยรุ่ นก็มีโอกาส


ที่จะเป็ นสิ วด้วยเช่นกัน

การรักษา การเริ่ มรักษา หรื อปรึ กษาผูเ้ ชี่ยวชาญหรื อแพทย์ผวิ หนังตั้งแต่ระยะแรกที่เริ่ มเป็ นสิ ว จะทำให้ผล
การรักษามีประสิ ทธิภาพ และสามารถป้ องกันการเกิดสิ วในระดับรุ นแรงได้

การรักษาสิ วโดยทัว่ ไปคือ การป้ องกันการเกิดสิ วใหม่ และลดการอักเสบของรอยโรคเดิมลง ซึ่ งต้องใช้ระยะ


เวลาในการรักษา ปัจจุบนั การรักษาสิ วมีท้ งั ยาทาเฉพาะที่และยารับประทาน โดยจะเลือกใช้วิธีรักษาแบบใด
ขึ้นกับความรุ นแรงของสิ วในขณะนั้น

ยาทาเฉพาะที่ ที่ใช้ในการรักษาสิ วมีหลายกลุ่มด้วยกัน เช่น ยาปฏิชีวนะ ซึ่ งจะออกฤทธิ์ ตา้ นเชื้อแบคทีเรี ยที่
เป็ นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิ ว แต่เนื่องจากถ้าใช้แต่เพียงตัวเดียว อาจทำให้เกิดการดื้อยาได้ จึงควรใช้ร่วม
กับยาทาในกลุ่มอื่นๆ เช่น ยากลุ่ม benzoyl peroxide โดยทาทิ้งไว้ 5-10 นาที จะช่วยลดสิ วอุดตันและลดการ
อักเสบของสิ วได้ และยาในกลุ่มวิตามินเอ ซึ่ งจะช่วยลดการเกิดสิ วอุดตันและช่วยทำให้สิวอุดตันที่เกิดขึ้น
แล้วหลุดลอกออกไปได้โดยง่าย ยาทาเฉพาะที่ส่วนใหญ่จะมีผลข้างเคียงทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง
อาจทำให้เกิดรอยแดง แห้งหรื อลอกได้ ดังนั้นจึงควรทาบางๆ และเริ่ มใช้ในปริ มาณน้อยๆ ก่อน ถ้ามีอาการ
ระคายเคืองให้หยุดยาดังกล่าว แต่ถา้ ไม่มีอาการแสบหรื อแดงก็สามารถทายาปริ มาณมากขึ้น หรื อทายาแล้ว
ทิ้งเอาไว้นานขึ้นก่อนจะล้างออกได้

ในกรณี ที่สิวอักเสบเป็ นรุ นแรงหรื อรักษาด้วยยา ข้างต้นไม่ดี การใช้ยาทาแต่เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ


จำเป็ นต้องรับประทานยาร่ วมด้วย ซึ่ งมีท้ งั ยาปฏิชีวนะและยาในกลุ่มอนุพนั ธ์ของวิตามินเอ ซึ่ งควรจะปรึ กษา
แพทย์ผเู ้ ชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เนื่องจากยาชนิดนี้ จะมีผลต่อการตั้งครรภ์ การทำงานของตับและไขมันใน
เลือด

การรักษาสิ วด้วยยาฮอร์โมน หรื อยาคุมกำเนิด นั้นมีประสิ ทธิ ภาพในผูห้ ญิง ซึ่ งยาจะไปมีผลต่อฮอร์โมนพวก
estrogen และ androgen ซึ่ งจะส่ งผลต่อการยับยั้งการทำงานของต่อมไขมัน

สำหรับการรักษาด้วยการกดสิ ว ควรทำโดยแพทย์ผรู ้ ักษาเพื่อขจัดสิ วอุดตัน แต่ไม่ควรบีบหรื อแกะสิ วเอง


เนื่องจากอาจเกิดการติดเชื้อซ้ำลงไปบริ เวณนั้นและทำให้เกิดรอยดำหรื อแผลเป็ นตามมาได้ ในกรณี ที่เป็ นสิ ว
อักเสบมาก แพทย์อาจพิจารณาฉีดยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ เข้าไปในตำแหน่งที่เกิดสิ วอักเสบนั้น ก็จะช่วย
ให้สิวยุบลงได้ ดังนั้นการรักษาสิ วจึงเป็ นเรื่ องสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดตามมา
ในปั จจุบนั นี้นอกจากยาทาและยารับประทานแล้ว การใช้แสงเลเซอร์ และการฉายแสงสี ฟ้า แสงสี แดง จะ
ช่วยเสริ มผลการรักษาสิ วให้หายเร็ วขึ้นด้วย

การรักษาสิ ว ไม่วา่ จะเป็ นการใช้ยาหรื อไม่ใช้ยา ก็ไม่สำคัญเท่า การใช้เวลาในการรักษาสิ ว

โดยทัว่ ไปการรักษาจะใช้เวลา 4-8 สัปดาห์ หรื ออาจยาวนานถึง 3 เดือน และระหว่างการรักษา อาการของสิ ว


อาจดูแย่ลงก่อนที่จะดีข้ ึน จึงอาจทำให้คนไข้ทอ้ ใจ และคิดจะยกเลิกการรักษา ดังนั้นสิ่ งที่สำคัญที่จะต้องรู ้ไว้
คือ ต้องรักษาต่อไปแม้วา่ อาการจะไม่ได้ดีข้ ึนในทันทีกต็ าม

บทที่2
สิ ว มีกี่ประเภท?
สิ วแบ่งออกเป็ น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่
สิ วชนิดไม่อกั เสบ คือ สิ วที่เกิดจากการอุดตันของรู ขมุ ขน เรี ยกว่า โคมีโดน (comedone) หรื อเรี ยกอีกอย่างว่า
สิ วอุดตัน แบ่งออกเป็ น 2 ชนิด ตามลักษณะของหัวสิ ว ได้แก่
-สิ วหัวปิ ด หรื อ สิ วหัวขาว
-สิ วหัวเปิ ด หรื อ สิ วหัวดำ

สิ วชนิดอักเสบ คือ สิ วที่มีการอุดตันของรู ขมุ ขน และพบลักษณะของการอักเสบร่ วมด้วย โดยมากมักเกิด


ตามหลังสิ วหัวปิ ดที่ไม่ได้รับการรักษา ร่ วมกับมีการติดเชื้อแบคทีเรี ยในบริ เวณรู ขมุ ขน แบ่งออกเป็ น 3 ชนิด
ตามลักษณะของสิ วที่พบ
-Papule (ผืน่ นูน) หมายถึง สิ วที่มีลกั ษณะตุ่มนูน สี แดง ขนาดเล็ก
-Pustule (ตุ่มหนอง) หมายถึง สิ วที่มีลกั ษณะตุ่มหนอง ซึ่ งแบ่งเป็ น ชนิดตื้น และชนิดลึก
-Nodule (ตุ่มใหญ่) หมายถึง สิ วที่มีลกั ษณะก้อนสี แดงที่ขนาดใหญ่ข้ นึ โดยอาจพบเป็ นหลายหัวสิ วที่อยูต่ ิด
กัน
-Cyst (สิ วหัวช้าง) หมายถึง สิ วที่มีลกั ษณะก้อนนูนแดงขนาดใหญ่ มีความนุ่ม (ภายในอาจมีหนองปนเลือด)

บทที่3
สิ วรักษาได้อย่างไร?
1. ทำความสะอาดใบหน้าและทามอยส์เจอไรเซอร์ (สารช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น) ทุกวัน การดูแลผิวอย่างอ่อน
โยนจะช่วยป้ องกันปัญหาผิวได้ โดยควรล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว ปราศจากน้ำหอมแล้วตาม
ด้วยการทามอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับผิวของคุณทันที ควรทาก่อนและหลังจากการสวมหน้ากากอนามัย
เพื่อป้ องกันปั ญหาผิวโดยเฉพาะอย่างยิง่ ถ้าคุณมีผวิ แห้งหรื อผิวแพ้ง่าย
2. ปกป้ องริ มฝี ปากของคุณด้วยการทาวาสลีนเจลลี่ ผิวแห้งและริ มฝี ปากแตกเป็ นปั ญหาผิวจากการสวม
หน้ากากอนามัยที่พบบ่อย คุณสามารถป้ องกันไม่ให้ริมฝี ปากแตกได้โดยทาวาสลีนเจลลี่ที่ริมฝี ปากของคุณ
หลังการล้างหน้า ก่อนสวมหน้ากากและก่อนนอน
3.งดการแต่งหน้าขณะสวมหน้ากากอนามัย การแต่งหน้ามีแนวโน้มที่จะทำให้ผวิ หนังบริ เวณที่สวมหน้ากาก
อนามัยมีการอุดตันรู ขมุ ขนและนำไปสู่ การเกิดสิ ว หากจำเป็ นต้องแต่งหน้าให้ใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มี
ข้อความว่า “non-comedogenic” หรื อ “ไม่อุดตันรู ขมุ ขน”
4. หลีกเลี่ยงการลองใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวใหม่ ๆ ที่อาจทำให้ผวิ ของคุณระคายเคือง เพราะแม้แต่การสวม
หน้ากากอนามัยระยะเป็ นเวลาสั้น ๆ ก็สามารถทำให้ผวิ ของคุณผิวไวต่อการระคายเคืองมากขึ้น เพื่อลด
ปั ญหาผิวหลีกเลี่ยงการลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีที่รุนแรงต่อผิวเป็ นครั้งแรกเช่น สารเคมีที่ใช้ในการลอก
หน้าผลัดเซลล์ผวิ การขัดผิว หรื อเรตินอยด์ (อนุพนั ธ์ของวิตามินเอ)
5. ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ใช้อยูใ่ ห้นอ้ ยลงหากใบหน้าของคุณมีอาการระคายเคือง เมื่อคุณสวมหน้ากาก
อนามัยบนใบหน้า ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวบางชนิดที่คุณเคยใช้เป็ นประจำอาจทำให้ผวิ ของคุณเกิดการระคายเคือง
ได้ เช่น ซาลิไซลิก แอซิด (ยาลอกผิวหนัง) เรตินอยด์ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้หลังจากการโกนหนวดฯลฯ
6. เลือกสวมหน้ากากอนามัยที่เหมาะสม เพื่อลดปั ญหาผิว ควรใช้หน้ากากอนามัยที่มีคุณสมบัติดงั ต่อไปนี้
– กระชับพอดีท้ งั ด้านข้างจมูกและใต้คาง ใส่ สบาย
– มีผา้ มาประกอบกันอย่างน้อย 2 ชั้น
– เนื้อผ้าที่นุ่มทำจากเส้นใยธรรมชาติและระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้ าย หลีกเลี่ยงการใช้ใยสังเคราะห์เพราะ
อาจทำให้ระคายเคืองต่อผิวและทำให้เกิดสิ วได้ ในการสวมใส่ หน้ากากอนามัยควรให้ผา้ ชั้นในสุ ดแนบสนิท
กับผิวหน้าของคุณพอดี
7. ถอดพักการสวมหน้ากากอนามัยเป็ นเวลา 15 นาที ทุก 4 ชัว่ โมง ผูท้ ี่ปฏิบตั ิงานกับผูป้ ่ วยในช่วงของการ
แพร่ ระบาดไวรัสโคโรนา พบว่าการปฏิบตั ิอย่างนี้ช่วยรักษาผิวหน้าของพวกเขาได้ แต่การที่จะทำอย่างนี้ได้ก็
ต่อเมื่อแน่ใจว่ามันเป็ นการปลอดภัยและหลังจากได้ลา้ งมือแล้วเท่านั้น สถานที่ปลอดภัยในการถอดหน้ากาก
อนามัย เช่น
– สถานที่กลางแจ้งหรื อบริ เวณภายนอกอาคารที่คุณสามารถอยูห่ ่างจากผูอ้ ื่นได้อย่างน้อยหกฟุต
– ภายในรถของคุณเมื่อคุณอยูค่ นเดียว
– ที่บา้ น
8. ซักทำความสะอาดหน้ากากอนามัยแบบผ้า ควรซักทำความสะอาดหน้ากากอนามัยทุกวันหลังการใช้งาน
การซักทำความสะอาดจะช่วยขจัดน้ำมันและเซลล์ผวิ ที่สะสมอยูภ่ ายในหน้ากากซึ่ งอาจนำไปสู่ ปัญหาผิวได้
การซักทำความสะอาดอาจทำโดยใช้เครื่ องซักผ้าหรื อการซักด้วยมือซึ่ งทั้งสองวิธีน้ ีสามารถที่จะช่วยขจัดเชื้อ
โรคและคราบสกปรกอื่น ๆ ได้ โดยในการทำความสะอาดควรปฏิบตั ิดงั นี้
– ปฏิบตั ิตามคำแนะนำวิธีการในการทำความสะอาดของหน้ากากอนามัยแต่ละชนิด
– ล้างหน้ากากอนามัยในน้ำร้อนยกเว้นมีขอ้ ห้ามระบุไว้ในคำแนะนำ
– ใช้น ้ำยาซักผ้าที่ปราศจากน้ำหอมและไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้
หลังจากซักทำความสะอาดหน้ากากอนามัยแล้วควรตรวจสอบดูรูปร่ างของหน้ากากอีกที หากไม่กระชับ
พอดีหรื อสวมแล้วไม่สุขสบายก็ไม่ควรนำมาใช้อีกต่อไป
9. ปฏิบตั ิตามแผนการรักษา หากคุณมีปัญหาผิว เช่น สิ วหรื อโรคผิวหนังอักเสบโรซาเซี ย (Rosacea) สิ่ งที่
สำคัญคือการปฏิบตั ิตามแผนการรักษาที่แพทย์ก ำหนดไว้ เพราะจะช่วยให้ควบคุมอาการได้
การใส่ ใจดูแลตนเองในการใช้หน้ากากอนามัยอย่างถูกต้องและเหมาะสมนอกจากจะช่วยป้ องกันมลพิษ เชื้อ
โรค และป้ องกันการแพร่ กระจายเชื้อโรคไปสู่ ผอู ้ ื่นได้ดีแล้ว ยังช่วยให้ผวิ ของคุณคงมีสุขภาพดีเป็ นปกติได้
ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิง่ ในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโคโรนา

บทที่4
ประเภทของหน้ากากอนามัย
ประเภทของหน้ากากอนามัย

๑. หน้ากากอนามัย N95 มีประสิ ทธิภาพป้ องกันเชื้อโรคได้ค่อนข้างสู ง บางรุ่ นจะมีวาล์วระบายอากาศให้


หายใจได้สะดวก ช่วยระบายความร้อน แต่ราคาก็จะแพงขึ้นไปอีก ข้อดีคือ สามารถป้ องกันฝุ่ น PM 2.5 และ
เชื้อโรคขนาดเล็กกว่า ๐.๓ ไมครอนได้ ใช้งานได้สูงสุ ด ๒ - ๓ วัน แต่ถา้ เปลี่ยนได้ทุกวันก็จะดีที่สุด ข้อควร
ระวัง : หน้ากาก N95 อาจทำให้หายใจได้ไม่สะดวกมากนัก ไม่ควรใส่ ขณะออกกำลังกาย หากไม่ใช่แบบ ที่
ซักได้กไ็ ม่ควรนำมาซัก เพราะจะลดประสิ ทธิ ภาพในการกรองได้

๒. หน้ากาก FFP1 หน้ากากอนามัย FFP1 เป็ นหน้ากากที่ให้ประสิ ทธิ ภาพใกล้เคียงกับหน้ากากอนามัย N95


สามารถ ช่วยป้ องกันทั้งฝุ่ น เชื้อแบคทีเรี ย และเชื้อไวรัสได้อย่างมีประสิ ทธิ ภาพสู ง ดักจับอนุภาคขนาดเล็ก
PM 2.5 และ PM10 ไม่นอ้ ยกว่า 94% แต่นอกเหนือจาก N95 คือ สามารถป้ องกันสารเคมี ฟูมโลหะ ได้เพิ่ม
เติมอีกด้วย ทั้งยังออกแบบ ให้ส่วนบนมีความเว้า ครอบลงไปที่บริ เวณหน้าปากและจมูกอย่างมิดชิด

๓. หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (หน้ากากแบบทัว่ ไป) เป็ นหน้ากากอนามัยที่คนนิยมสวมใส่ กนั มาก เพราะ


หาซื้ อได้ตามร้านขายยาและร้านค้าสะดวกซื้ อทัว่ ไป ราคาไม่แพงก่อนที่จะมีสถานการณ์แพร่ ระบาดของโรค
โควิด ด้านหนึ่งเป็ นสี เขียวหรื อฟ้ า ทำด้วยเยือ่ กระดาษ ๓ ชั้น ข้อดีคือ สามารถป้ องกันเชื้อโรคที่ปนมากับ
ละอองน้ำมูกหรื อน้ำลายได้ แต่มีอายุใช้งานสั้น ควรใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง ถ้าใช้ซ้ำกันหลายๆ ครั้ง อาจเป็ น
แหล่งสะสมเชื้อโรคได้ ข้อควรระวัง : ต้องพึงนึกเสมอว่า แค่สวมหน้ากากอนามัย ไม่ได้ป้องกันไวรัสได้ 100
% อย่าสัมผัสหน้ากากตัวเอง ระหว่างวัน และควรเปลี่ยนทุกวันอย่าใช้ซ้ำ และอย่าซักมาใช้ซ้ำ
๔. หน้ากากอนามัยแบบคาร์บอน หน้ากากประเภทนี้ ดา้ นหนึ่งจะเป็ นสี เทา ประสิ ทธิ ภาพไม่ต่างจากหน้ากาก
อนามัยแบบทัว่ ไปมากนัก แต่ต่างกันที่เยือ่ ชั้นคาร์บอน ช่วยกรองกลิ่นได้มากกว่า มีความหนาของเส้นใย ๔
ชั้น ข้อดีคือ สามารถกรองเชื้อแบคทีเรี ย ได้ถึง 95% ถ้าสวมทับกัน ๒ แผ่นจะสามารถกรองฝุ่ นละอองขนาด
๓ ไมครอน ได้กว่า 89% เพราะฉะนั้นสามารถ สวมเพื่อป้ องกันฝุ่ นทัว่ ไปได้

๕. หน้ากากอนามัยแบบผ้าฝ้ าย เป็ นหน้ากากคล้ายแบบเยือ่ กระดาษ เน้นการป้ องกันการกระจายของสารคัด


หลัง่ จากการไอจาม แต่อาจไม่สามารถกรองเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กมากๆ ได้ แต่สามารถป้ องกันฝุ่ นละออง
ขนาดใหญ่กว่า ๓ ไมครอน ขึ้นไป แต่ฝนุ่ ละอองที่พบในปั จจุบนั นี้ มีขนาดเล็กกว่า ๒.๕ ไมครอน จึงไม่
สามารถป้ องกันได้
๖. หน้ากากฟองน้ำ หน้ากากอนามัยแบบฟองน้ำ ผลิตจากโพลียรู ี เทนคาร์บอนสำหรับกรองอากาศโดยเฉพาะ
สามารถ ซักทำความสะอาดได้ แห้งเร็ว พับเก็บไม่ยบั สามารถคืนรู ปเดิมได้ไม่เสี ยทรง ส่ วนประสิ ทธิ ภาพใน
การป้ องกัน สามารถกันฝุ่ นละอองที่มีขนาดเล็กและเกสรดอกไม้ได้

บทที่5
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ช่วงในการรักษาผิวหน้าจากปั ญหาสิ ว

1. Benzac AC 5% Water Base Gel

ครี มลดสิ ว สำหรับใครที่มีสิวอักเสบ สิ วอุดตัน มีคุณสมบัติที่ท ำหน้าที่ฆ่าเชื้อโรค P. Acne ซึ่ งเป็ นสาเหตุ
หนึ่งของการเกิดสิ ว มีให้เลือกระดับความเข้มข้นตั้งแต่ 2.5-10% สำหรับผูเ้ ริ่ มใช้ แนะนำให้เริ่ มใช้ที่ 2.5%
หรื อ 5% อีกทั้งเนื่องจากมีคุณสมบัติในการช่วยผลัดเซลล์ผวิ ซึ่ งทำให้หน้าขาวขึ้นได้ ดังนั้นจึงแนะนำให้ใช้
คู่กบั ครี มกันแดดเสมอ

ปริ มาณ 60 ml./ราคา 120 บาท


2. Smooth E Cream

ด้วยส่ วนผสมจาก 100% Natural Vitamin E, Centella essence, Allium Cepa จึงไม่ท ำให้หน้าแห้ง มี
เทคโนโลยี Semi-occlusive ที่ช่วยล็อกความชุ่มชื่นให้ผวิ มากถึง 97% ช่วยลดสิ วทั้งสิ วอักเสบ สิ วผด
นอกจากนี้ยงั ขึ้นชื่อเรื่ องการลดรอยสิ วและรอยดำรอยแดงอีกด้วย

ปริ มาณ 60 ml./ราคา 85 บาท

3. Acne-Aid Liquid Cleanser

ผลิตภัณฑ์ประเภทคลีนเซอร์ ทำความสะอาดผิวหน้าสู ตรอ่อนโยนสำหรับผูท้ ี่มีปัญหาสิ ว ผิวมัน ด้วย PH


Balance ช่วยรักษาสภาพความเป็ นกรดของผิว ช่วยลดการอุดตันของรู ขมุ ขน ไม่ก่อให้เกิดสิ ว สามารถใช้ได้
ทั้งผิวหน้าและผิวกาย

ปริ มาณ 100 ml./ราคา 149 บาท


4. BK Acne Balancing Mask

มาสก์ที่ประกอบด้วยสารสกัดธรรมชาติจากสมุนไพรไทยอย่างใบบัวบก ซึ่ งมีคุณสมบัติในการช่วยสมาน


แผลได้ดี สารสกัดต้นหลิว,ใบ Tea Tree,เห็ดยุโรปและเกลือทะเล ลดรอยดำรอยแดงจากสิ ว ดูดช่วยซับความ
มันส่ วนเกิน ฟื้ นฟูให้ผวิ ดูกระจ่างยิง่ ขึ้น

ปริ มาณ 35 g/ราคา 350 บาท

5. Mizumi Peptide Acne Gel

เจลแต้มสิ วเปปไทด์ ช่วยลดสิ วรวดเร็ วภายใน 24 ชัว่ โมง มีส่วนผสมหลัก จาก Oligopeptide-10 อะมิโนสกัด
จากพืช ต่อต้านเชื้อแบคทีเรี ยสิ ว Phytosaccharide สารสกัดจากสาหร่ ายสี น ้ำตาล ช่วยยับยั้งการเติบโตของ
P.Acne และลดการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมัน และวิตามิน B3 ที่ช่วยลดรอยแดง รอยหมองคล้ำ จุดด่างดำจาก
สิ ว ให้ผวิ กลับมากระจ่างใส

ปริ มาณ 9 g/ราคา 149 บาท


บรรณานุกรม
นพดล นพคุณ, เพ็ญวดี ทิมพัฒนพงษ์, วัณณศรี สิ นธุภคั และคณะ. แนวทางการดูแลรักษาโรคสิ ว. Clinical
practice guideline ของสมาคมโรคผิวหนังแห่งประเทศไทย [อินเตอร์เน็ต]. 2554 [เข้าถึงเมื่อ 20 ส.ค.2562].
เข้าถึงได้จาก: http://www.dst.or.th/files_news/Acne_2010.pdf

ลีลาวดี เตชาเสถียร. หน้าใส ไร้สิว. Srinagarind Medical Journal [อินเตอร์เน็ต]. 2559 [เข้าถึงเมื่อ 20
ส.ค.2562]. เข้าถึงจาก: http://www.smj.ejnal.com/e-journal/showdetail/showpdf.php?
file_pdf=2066_speaker__7.PDF&art_id=2066

Zaenglein AL, Pathy AL, Schlosser BJ, Alikhan A, Baldwin HE, Berson DS, et al. Guidelines of care for
the management of acne vulgaris. J AM ACAD DERMATOL [Internet]. 2016 [cited 2019 Aug 20].
Available from: https://www.aad.org/practicecenter/quality/clinical-guidelines/acne
ภาคผนวก

You might also like