You are on page 1of 22

คู่มอื การใช้ สื่อสิ่ งพิมพ์ คำนำ

คูม่ ือการใช้สื่อประเภทบทเรี ยนพันธุกรรมน่ารู ้ เรื่ อง “การถ่ายทอด


ประเภท บทเรียนพันธุกรรมน่ ารู้ ลักษณะทางพันธุกรรม” ประกอบการจัดการเรี ยนการสอนวิชาชีววิทยา ช่วงชั้น
ที่ 4 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 4 เล่มนี้ จัดทำขึ้นเพื่อเป็ นแนวทางในการจัด
เรื่อง การถ่ ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม กิจกรรมการเรี ยนการสอน มีค ำชี้แจงวิธีการใช้และเฉลยแบบฝึ กหัด ใบงาน
ต่าง ๆ รวมทั้งข้อเสนะแนะในการจัดกิจกรรมการเรี ยนการสอนและแหล่งเรี ยน
รู ้ที่หลากหลาย
ผูจ้ ดั ทำหวังเป็ นอย่างยิง่ ว่า คู่มือการใช้บทเรี ยนพันธุกรรมน่ารู ้ เรื่ อง
เสนอ “การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม” จะเป็ นประโยชน์แก่ครู ผสู ้ อน ผูเ้ รี ยน
และผูส้ นใจที่จะศึกษาหาความรู ้ หากมีขอ้ เสนอแนะประการใด ผูจ้ ดั ทำยินดี
ผศ.ดร.ไพศาล สุ วรรณน้ อย รับฟังและนำไปปรับปรุ งในการจัดทำบทเรี ยน ในโอกาส ต่อไป

เทียนทอง ดีรักษา

จัดทำโดย
นางสาวเทียนทอง ดีรักษา รหัส
515050042-5
นักศึกษาปริญญาโท สาขาวิทยาศาสตร์ ศึกษา
มหาวิทยาลัยขอนแก่ น สารบัญ

หน้ า
คู่มือการใช้ 1 จุดประสงค์ :
จุดประสงค์ 1 1. นักเรี ยนบอกความหมายและบอกลักษณะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้
คำแนะนำในการใช้ 2-3 2. อธิ บายลักษณะของโครโมโซมและจำแนกประเภทของโครโมโซมได้
ใบงานกลุ่มที่ 1 4 3. บอกลักษณะและระบุความผิดปกติของโครโมโซมของคนเป็ นโรคกลุ่ม
ใบงานกลุ่มที่ 2 5 อาการต่าง ๆ ได้
ใบงานกลุ่มที่ 3 6
ใบงานกลุ่มที่ 4 7
เฉลยใบงานกลุ่มที่ 1 – 4 8-9
ข้อเสนอแนะ 10
บรรณานุกรม 11

2
คำแนะนำในการใช้ สื่อ
1 1. สื่ อการสอน เรื่ องการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมชนิดนี้ ใช้กบั นักเรี ยน
ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 4 ที่เรี ยนวิชาชีววิทยา โดยใช้เวลา 3 ชัว่ โมง
คู่มอื การใช้ 2. ครู ผสู ้ อนจะต้องศึกษาหาความรู ้เกี่ยวกับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
จากแหล่งเรี ยนรู ้ต่าง ๆ เพื่อเตรี ยมความพร้อมในการเรี ยนการสอน
ชื่อสื่ อ : บทเรียนพันธุกรรมน่ ารู้ 3. นำสื่ อสิ่ งพิมพ์ชิ้นนี้มาใช้ประกอบการเรี ยนการสอน ในขั้นเรี ยนรู ้ดว้ ย
ตนเอง
เรื่อง “การถ่ ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม”
3
-32-

โดย ชัว่ โมงที่ 1 ครู แจกเอกสาร เรื่ องการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม


ให้
นักเรี ยนทุกคนแล้วให้นกั เรี ยนศึกษาด้วย ตนเอง จนจบเนื้อหา ต่อมา
ชัว่ โมง
ที่ 2 ให้นกั เรี ยนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 5-6 คน จากนั้นครู แจกใบงานเรื่ อง
การ
ถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ให้แต่ละกลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มจะได้ใบงาน
ในการศึกษาไม่ซ้ำกัน
4. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่ม ร่ วมกัน ศึกษาค้นคว้าและตอบคำถามในใบงาน
5. ชัว่ โมงที่ 3 หลังจากตอบคำถามเสร็ จเรี ยบร้อยแล้ว แต่ละกลุ่มรวบรวม
4
ข้อมูลที่ช่วยกันตอบคำถาม ได้น ำมาเสนอและอภิปรายซักถาม หน้าชั้น
เรี ยน ใบงานกลุ่มที่ 1
เพื่อให้เกิดแนวคิดที่ชดั เจนเป็ นการอภิปรายขยายความรู ้ให้เกิดความ คำชี้แจง : ให้นกั เรี ยนร่ วมกันตอบคำถามลงในใบงานให้สมบูรณ์
ต่อเนื่องและครอบคลุมประเด็นที่แต่ละกลุ่มศึกษา 3 กำหนดให้

6. นักเรี ยนและครู ร่วมกันสรุ ปในหัวข้อที่แต่ละกลุ่มนำเสนอ และสรุ ป


บทเรี ยน เรื่ องการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
1. ลักษณะทางพันธุกรรม หมายถึง ?
2. จากภาพนักเรี ยนจงร่ วมกันอธิ บายว่าเป็ น
ความผิดปกติของโครโมโซมแบบใด มีสาเหตุมาจากอะไร และลั 6 กษณะ
1. นักเรี ยนจงพิจารณาภาพ 2 ภาพ นี้ ว่ามีความเหมือนหรื อแตกต่างกันอย่างไร อาการเป็ นอย่างไร
พร้อมให้เหตุผล 5 ใบงานกลุ่มที่ 3
2. จงระบุเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดจำแนก พร้อมทั้งอธิ บายเกณฑ์ที่นกั เรี ยนเลือก คำชี้แจง : ให้นกั เรี ยนร่ วมกันตอบคำถามลงในใบงานให้สมบูรณ์
ใบงานกลุ่มที่ 2 กำหนดให้
คำชี้แจง : ให้นกั เรี ยนร่ วมกันตอบคำถามลงในใบงานให้สมบูรณ์
1. โครโมโซมแบ่งออกเป็ นกี่ประเภท ได้แก่ ? 1. ภาพบนเป็ นภาพความผิดปกติของโครโมโซมแบบใด และมี
8 สาเหตุมาจาก?
2. จากภาพนักเรี ยนจงร่ วมกันอธิบายว่าเป็ นความผิดปกติของโครโมโซม 2. ภาพล่างเป็ นภาพความผิดปกติของโครโมโซมแบบใด และมีสาเหตุมาจาก?
7 เฉลยใบงาน
แบบใด มีสาเหตุมาจากอะไร และลักษณะอาการเป็ นอย่างไร
ใบงานกลุ่มที่ 4 กลุ่มที่ 1
คำชี้แจง : ให้นกั เรี ยนร่ วมกันตอบคำถามลงในใบงานให้สมบูรณ์ ข้ อ 1 ตอบ ภาพทั้ง 2 ภาพเหมือนกันคือ เป็ นภาพการถ่ายทอดลักษณะ
กำหนดให้ ทางพันธุกรรม แต่ที่แตกต่างกันคือ ภาพบนเป็ นลักษณะทางพันธุกรรมที่มีความ
แปรผันแบบไม่ต่อเนื่อง ในขณะที่ภาพข้างล่างเป็ นการถ่ายทอดลักษณะทาง
พันธุกรรมที่มีความแปรผันแบบต่อเนื่อง
ข้ อ 2 ตอบ เกณฑ์ที่ใช้ในการจัดจำแนกภาพทั้ง 2 ออกจากกันคือ ใช้
ความต่อเนื่องและไม่ต่อเนื่องของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมเป็ นตัว
แยก นัน่ คือ ถ้าลักษณะทางพันธุกรรมแปรผันแบบไม่ต่อเนื่อง จะสามารถแยก
ความแตกต่างได้อย่างเด่นชัด แต่ถา้ ลักษณะทางพันธุกรรมแปรผันแบบต่อเนื่อง
จะไม่สามารถแยกความแตกต่างได้อย่างเด่นชัด
กลุ่มที่ 2
ข้ อ 1 ตอบ ลักษณะทางพันธุกรรม เป็ น ลักษณะที่ถ่ายทอดจาก
บรรพบุรุษไปยังลูกหลานได้ เป็ นลักษณะที่ตอ้ งอาศัยการรวบรวมข้อมูลจาก
9

บรรพบุรุษหลายชัว่ อายุ เช่น สี ผวิ ความสูง ความฉลาด การห่อลิ้น การมีติ่งหู ลักษณะ รู ปร่ างเตี้ย ไม่มีประจำเดือน เป็ นหมันมดลูกขนาดเล็10
กและรังไข่ฝ่อผลิต
รู ปร่ างลักษณะของใบ ดอก ผล ไข่ไม่ได้ คอสั้นมีแผ่นเนื้อพับไปมา  มักจะปั ญญาอ่อน
ข้ อ 2 ตอบ จากภาพเป็ นลักษณะของกลุ่มอาการดาวส์  
( Down ’s Syndrome ) สาเหตุเกิดจาก  โครโมโซม คู่ที่ 21 เกินมา 1 ท่อน ข้ อเสนอแนะ :
โครโมโซมในเซลล์ร่างกายจึงเป็ น 47 ท่อน เกิดกับแม่ที่มีอายุมาก สร้างไข่ผดิ นอกจากวิธีการใช้สื่อบทเรี ยนพันธุกรรมน่ารู ้ เรื่ อง การถ่ายทอด
ปกติ  ( 23 + x) จะมีลกั ษณะศีรษะเล็กกลม ท้ายทอยแบน จมูกแบน นัยน์ตาห่าง ลักษณะทางพันธุกรรมแล้ว ยังมีแหล่งเรี ยนรู ้ที่หลากหลาย ที่มีความเหมาะสม
และชี้ข้ ึน ลิ้นโตคับปาก ใบหูต ่ำและเล็ก กับเนื้อหาวิชานี้ ซึ่ งครู ผสู ้ อนหรื อผูท้ ี่สนใจสามารถศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมและ
กลุ่มที่ 3 นำมาประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรี ยนการสอน เรื่ อง การถ่ายทอด
ข้ อ 1 ตอบ โครโมโซมแบ่งออกเป็ น 2 ประเภท คือ โครโมโซม ลักษณะทางพันธุกรรม เพื่อให้บรรลุวตั ถุประสงค์ที่ก ำหนดไว้
ร่ างกาย จะเหมือนกันทั้งผูช้ ายและผูห้ ญิง และโครโมโซมเพศ จะแตกต่างกัน
ผูช้ ายและผูห้ ญิง โดยผูช้ ายจะมีโครโมโซมเป็ น XY ส่ วนผูห้ ญิงจะมีโครโมโซม
เป็ น XX
ข้ อ 2 ตอบ จากภาพเป็ นกลุ่มอาการเอ็ดวาดส์ สาเหตุ  เกิดจาก
โครโมโซมคู่ที่ 18 เกินมา 1 ท่อน  ทำให้มีโครโมโซมในเซลล์ร่างกายเป็ น
47 ท่อน
กลุ่มที่ 4

ข้ อ 1 ตอบ ภาพบนเป็ นความผิดปกติของอาการไคลน์เฟลเตอร์ส ซิ นโด


รม  เป็ นอาการที่เกิดในชายที่มีโครโมโซม X   มากกว่าปกติ  (XXY) ทำให้มี
เต้านมโตคล้ายผูห้ ญิง อวัยวะเพศมีขนาดเล็กไม่มีการสร้างเชื้ออสุ จิเป็ นหมัน รู ป
ร่ างสู งและอ้วน  มักปัญญาอ่อน

ข้ อ 2 ตอบ ภาพล่างคือ อาการเทอร์ เนอร์ ส ซินโดรม  เป็ นอาการที่เกิด 11


ในหญิงที่เกิดจากโครโมโซม X  ทั้งอันหรื อบางส่ วนขาดหายไป  ทำให้มี
บรรณานุกรม
สถาบันส่ งเสริ มการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.). ช่ วงชั้นที่ 4 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 4
(2548). หนังสือเรียนสาระการเรียนพืน้ ฐานและเพิม่ เติม ชีววิทยา
เล่ม 1 ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 4. พิมพ์ครั้งที่ 4.โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
http://images.google.co.th/images?um ค้นเมื่อ 7 กรกฎาคม 2551
http://nara2.homeip.net/~salamai/e_learning/genetic/index1.html
ค้นเมื่อ 7 กรกฎาคม 2551
http://www.prd.go.th/files/peoplefile/ ค้นเมื่อ 7 กรกฎาคม 2551

http://www.ipst.ac.th/biology. ค้นเมื่อ 6 กรกฏาคม 2551


http://www.vchakarn.com. ค้นเมื่อ 7 กรกฎาคม 2551

จัดทำโดย นางสาวเทียนทอง ดีรักษา


บทเรียนพันธุกรรมน่ ารู้ คำนำ
ในการจัดกิจกรรมการเรี ยนการสอนวิทยาศาสตร์ รายวิชาชีววิทยา
ประกอบการจัดการเรียนการสอนวิชาชีววิทยา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 4 เรื่ อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม มัก
ประสบปั ญหาคือขาดสื่ อการสอนที่น่าสนใจ ครู ผสู ้ อนส่ วนมากจะบรรยายและ ภาพแสดงยีนที่ควบคุมลักษณะและการปฏิสนธิ 8-9
ให้ท ำแบบฝึ กหัด นักเรี ยนจึงขาดความกระตือรื อร้น ขาดความสนใจที่จะเรี ยนรู ้ ความแปรผันทางพันธุกรรม 10-13
ดังนั้นเพื่อให้การเรี ยนการสอนบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ก ำหนดไว้ ผูจ้ ดั ทำจึง โครโมโซม 14-15
ได้คิดผลิตสื่ อการเรี ยนการสอน ประเภทบทเรี ยนพันธุกรรมน่ารู ้ เล่มนี้ข้ นึ ความผิดปกติของโครโมโซม 16
เพื่อให้นกั เรี ยนได้ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมและใช้ประกอบการสอนในเนื้ อหา 1. ความผิดปกติของออโตโซม 16-21
อีกทั้งยังเป็ นสื่ อที่ช่วยกระตุน้ ความสนใจของผูเ้ รี ยนให้ต้ งั ใจเรี ยน ในเนื้อหาวิชา 2. ความผิดปกติของโครโมโซมเพศ 22-26
มากขึ้น ส่ งผลให้เกิดความเข้าใจ และสนุกสนานไปกับการเรี ยนวิทยาศาสตร์ บรรณานุกรม 27
ผูจ้ ดั ทำหวังเป็ นอย่างยิง่ ว่า บทเรี ยนพันธุกรรมน่ารู ้ เล่มนี้ จะเป็ น
ประโยชน์ต่อผูท้ ี่สนใจ หากมีขอ้ เสนอแนะหรื อข้อแนะนำที่คิดว่าควรจะ
ปรับปรุ งแก้ไขที่ส่วนใด ผูจ้ ดั ทำยินดีรับฟังและนำไปปรับปรุ งในการจัดทำบท
เรี ยน อ่านประกอบกิจกรรมการเรี ยนรู้วิทยาศาสตร์ในโอกาสต่อไป

เทียนทอง ดีรักษา

เนือ้ หาบทเรียนพันธุกรรมน่ ารู้


สารบัญ เรื่อง การถ่ ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
หน้ า การถ่ ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
สิ่ งมีชีวิตแต่ละชนิดบนโลกมีลกั ษณะแตกต่างกัน และถึงแม้จะเป็ นสิ่ งมี
การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม 1 ชีวิตชนิดเดียวกันก็ยงั มีลกั ษณะแตกต่างกันด้วย เช่น ความสู ง สี ผวิ ลักษณะที่
ลักษณะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม 2-3 แตกต่างกันนี้ถ่ายทอดจากสิ่ งมีชีวิตรุ่ นหนึ่งไปยังสิ่ งมีชีวิตอีกรุ่ นหนึ่งอย่างต่อ
ตัวอย่างของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม 4-7
เนื่อง โดยมีหน่วยที่มีคุณสมบัติควบคุมลักษณะต่าง ๆ ของสิ่ งมีชีวิตที่เรี ยกว่า ลักษณะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
พันธุกรรม ลักษณะทางพันธุกรรม จึงหมายถึง ลักษณะที่ถ่ายทอดจากบรรพบุรุษไป
นักเรี ยนเคยเห็นเด็กเล็ก ๆ บางคนมีลกั ษณะคล้ายพ่อแม่ หรื อบางคน ยังลูกหลานได้ เป็ นลักษณะที่ตอ้ งอาศัยการรวบรวมข้อมูลจากบรรพบุรุษหลาย
ไม่มีลกั ษณะคล้ายพ่อ แม่ แต่มีลกั ษณะคล้ายปู่ ย่า ตา หรื อยาย แสดงว่าลักษณะ ชัว่ อายุ เช่น สี ผวิ ความสู ง ความฉลาด การห่อลิ้น การมีติ่งหู รู ปร่ างลักษณะของ
บางอย่างสามารถถ่ายทอดจากปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม่ ไปยังลูกหลานได้ ลักษณะนี้ ใบ ดอก ผล ลักษณะทางพันธุกรรมที่แสดงออกขึ้นอยูก่ บั ปั จจัยภายนอก เช่น
เรี ยก ลักษณะทางพันธุกรรม (genetic character) อาหาร อุณหภูมิ แสงสว่าง ส่ วนปั จจัยภายใน ได้แก่ ฮอร์โมนและระบบ
ประสาท
        ลักษณะที่ถ่ายทอดไปสู่ ร่นต่อไปโดยผ่านทางเซลล์สืบพันธ์ของพ่อและ
แม่   เมื่อเซลล์สืบพันธ์ของพ่อ  (อสุ จิ)  ผสมกับเซลล์สืบพันธ์ของแม่ (ไข่)
ลักษณะต่างๆ จากพ่อแม่จะถูกถ่ายทอดไปสู่ ลูก

3
2 เมื่อเซลล์ไข่และอสุ จิผสมกัน โครโมโซม 23 แท่งจากเซลล์อสุ จิและ
ภาพแสดงจำนวนโครโมโซมในการสร้ างเซลล์ สืบพันธุ์ของคน โครโมโซมอีก 23 แท่ง จากเซลล์ไข่จะมาจับคู่กนั ได้เซลล์ใหม่ที่เกิดจากการ
ผสมของเซลล์ไข่กบั อสุ จิ ที่เรี ยกว่า ไซโกต ซึ่ งจะมีจ ำนวนโครโมโซม 23 คู่
และมีการเจริ ญแบ่งเซลล์เป็ นเซลล์ร่างกายที่มีโครโมโซม 23 คู่ หรื อ 46 แท่ง
เท่าเดิม ดังภาพ
      
- ขนตายาว   ขนตาสั้น
                                  

4
5

ตัวอย่ างของการถ่ ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม       - ถนัดขวา     ถนัดซ้ าย


           - คิว้ ห่ าง        คิว้ ต่ อ

                                   
                                

การถ่ ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
ลักษณะที่ปรากฏในลูกเป็ นผลเนื่องมาจากมีการถ่ายทอดยีนจากพ่อ
และแม่โดยผ่านทางเซลล์สืบพันธุ์ ซึ่ งสิ่ งที่ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม เรี ยก
ว่า ยีน (gene) ซึ่ งมียนี เด่นและยีนด้อย ยีนอยูบ่ นโครโมโซม (chromosome) คน
มียนี ประมาณ 40,000 ยีนกระจัดกระจายอยูบ่ นโครโมโซมทั้ง 46 แท่ง

                                
            6
  - ผมหยิก      ผมตรง
8
7

ภาพ แสดงยีนที่ควบคุมลักษณะต่ าง ๆ จะอยู่กนั เป็ นคู่

ภาพ แสดงการถ่ ายทอดลักษณะจากบรรพบุรุษมายังลูกหลานโดยผ่ านทางยีน ในการแบ่งเซลล์เพื่อสร้างเซลล์สืบพันธุ์ ( เซลล์ไข่และอสุ จิ )


ยีนแต่ละคู่จะควบคุมลักษณะของสิ่ งมีชีวิตลักษณะเดียวกัน เช่น ลักษณะ โครโมโซมแต่ละคู่จะแยกจากกันไปอยูใ่ นเซลล์ใหม่ (เซลล์ที่จะเจริ ญไปเป็ น
ใบหน้าถูกควบคุมโดยยีน A โครโมโซมแท่งหนึ่ง และยีน a บนโครโมโซมอีก เซลล์สืบพันธุ์ ) ทำให้ยนี ที่อยูบ่ นโครโมโซมแยกกันไปด้วย และเมื่อเซลล์ไข่
แท่นหนึ่งลักษณะใบหน้าที่ปรากฏออกมาจึงขึ้นอยูก่ บั ว่า ยีนที่อยูบ่ นโครโมโซม และ อสุ จิมารวมกันในการปฏิสนธิ ยีนก็จะมาเข้าคู่กนั อีกครั้งหนึ่ง ซึ่ งยีนคู่ใหม่
ทั้งสองเป็ นยีนที่ควบคุม หรื อกำหนดให้มีลกั ษณะ ที่ได้น้ ีครึ่ งหนึ่งจะมาจากพ่อ ( จากเซลล์อสุ จิ ) ส่ วนอีกครึ่ งหนึ่งจะมาจากแม่ (จา
ใบหน้าเป็ นแบบใด ( กลม เหลี่ยม หรื อรู ปไข่ ) กเซลล์ไข่ ) เซลล์ใหม่ที่ได้ ( เซลล์ลูก ) จึงมียนี ของทั้งพ่อและแม่รวมกันและได้
รับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมจากพ่อและแม่มาด้วย
9

คล้ายคลึงกันมากกว่าสิ่ งมีชีวิตต่างสปี ชีส์กนั หรื อสิ่ งมีชีวิตชนิดเดียวกันจะมี


ลักษณะคล้ายคลึงกันและมีความแตกต่างกันน้อยกว่าสิ่ งมีชีวิตต่างชนิดกัน
ความแตกต่างอันเนื่องจากมีลกั ษณะพันธุการรมแตกต่างกัน เรี ยกว่า
ความแปรผันทางพันธุกรรม (genetic variation)
1. ความผันแปรทางพันธุกรรม ทีไ่ ม่ ต่อเนื่อง (discontinuous variation)
เป็ นลักษณะทางพันธุกรรมที่สามารถแยกความแตกต่างได้อย่างชัดเจน
เกิดจากอิทธิ พลของกรรมพันธุ์เพียงอย่างเดียว  เช่น มีลกั ยิม้ -ไม่มีลกั ยิม้  
มีติ่งหู-ไม่มีติ่งหู    ห่อลิ้นได้-ห่อลิน้ ไม่ได้ จำนวนชั้นของหนังตา การเวียนของ
ขวัญ ฯลฯ
11
ภาพ แสดงการปฏิสนธิระหว่างสเปิ ร์ มจากพ่ อและไข่ จากแม่

ลักษณะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมในมนุษย์และสัตว์ เช่น โครงสร้าง


อวัยวะที่ใช้ในการเคลื่อนไหว สี ขน สี ผวิ รู ปร่ าง ฯลฯ
           ลักษณะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมในพืช เช่น โครงสร้างของลำต้น รู ป
ร่ างของผล ดอก ใบ การเรี ยงตัวของใบ กลีบดอก และสี

10

ความแปรผันทางพันธุกรรม (genetic variation) 


สิ่ งมีชีวิตที่อยูใ่ นสปี ชีส์เดียวกัน ย่อมมีลกั ษณะทางพันธุกรรมที่
ภาพ แสดงลักษณะความแปรผันแบบไม่ ต่อเนื่อง สามารถแยก
ความแตกต่ างได้ อย่างเด่ นชัด 12

2. ความผันแปรทางพันธุกรรมแบบต่ อเนื่อง (continuous variation) 


เป็ นลักษณะทางพันธุกรรมที่ไม่สามารถแยกความแตกต่างได้อย่างเด่น
ชัด  เช่นความสูง น้ำหนัก โครงร่ าง สี ผวิ ซึ่ งเป็ นเกิดจากอิทธิ พลของกรรมพันธุ์
และสิ่ งแวดล้อมร่ วมกัน เช่นความสูง   ถ้าได้รับสารอาหารถูกต้องตามหลัก ภาพ ลักษณะความแปรผันต่ อเนื่องของผลไม้ ที่เก็บจากต้ นเดียวกัน13
แต่ คนละกิง่
โภชนาการ  และมีการออกกำลังกายก็จะทำให้มีร่างกายสู งได้
ภาพ แสดงลักษณะความแปรผันแบบต่ อเนื่อง ไม่ สามารถแยกความแตกต่ างได้
อย่ างเด่ นชัด โดย
2 ภาพบน เป็ นคนที่มีสีผวิ ที่แตกต่ างกัน
2 ภาพล่าง เป็ นคนที่มคี วามสู งต่ างกัน
14
10
โครโมโซม

โดยปกติแล้วสิ่ งมีชีวิตประกอบด้วยหน่วยพื้นฐานที่สำคัญ ก็คือ


เซลล์   เซลล์มีส่วนประกอบที่สำคัญได้แก่ 1. เยือ่ หุม้ เซลล์ 2. ไซโตพลาสซึ ม    
3. นิวเคลียส ภายในนิวเคลียสจะมีองค์ประกอบที่ส ำคัญชนิดหนึ่งที่ท ำหน้าที่
ควบคุมลักษณะของสิ่ งมีชีวิต เรี ยกว่า โครโมโซม  โครโมโซมมีองค์ประกอบ
เป็ นสารเคมีประเภทโปรตีน และ กรดนิวคลีอิก โครโมโซมมีลกั ษณะเป็ น
เส้นใยเล็ก ๆ ประกอบด้วยโปรตีนพันกันเป็ นเกลียว มี 2 เส้นคู่และยึดติดกัน
บริ เวณ เซนโทรเมียร์   และจะมีจ ำนวนเป็ นเลขคู่  เช่น  โครโมโซมของคนมี  
46    แท่ง หรื อ  23  คู่    ซึ่ งจะมี 22 คู่ที่เหมือนกันในเพศหญิงและเพศชาย เรา
จะเรี ยกคู่โครโมโซมนี้วา่ โครโมโซมร่ างกาย (autosome) ส่ วนโครโมโซมที่
เหลืออีก  1 คู่ จากทั้งหมด  23  คู่ จะเป็ นโครโมโซมที่ท ำหน้าที่ก ำหนดเพศ ภาพ แสดงโครโมโซมของมนุษย์ ซึ่งมี 23 คู่ หรือ 46 โครโมโซม
16
เรี ยกว่า โครโมโซมเพศ (sex chromosome)ในผูช้ าย โครโมโซมเพศ 1 คู่น้ นั 10
15 ความผิดปกติของโครโมโซม
10
มีรูปร่ างลักษณะและขนาดต่างกัน คือ X และ Y ให้สญ
ั ลักษณ์ XY ในผูห้ ญิง ความผิดปกติของโครโมโซม แบ่งออกเป็ น 2 ประเภท คือ
โครโมโซมเพศ 1 คู่ มีรูปร่ างลักษณะและขนาดเท่ากัน คือ X และ X ให้ 1. ความผิดปกติของออโตโซม 2. ความผิดปกติของโครโมโซมเพศ
สัญลักษณ์ XX
ความผิดปกติของออโตโซม ตายตั้งแต่อายุยงั น้อย อายุเฉลี่ยประมาณ 89 วัน
1.  กลุ่มอาการคริดูซาต์  ( Cri – du – chat Syndrome) สาเหตุ  โครโมโซม
คู่ที่ 5  เส้นหนึ่งมีบางส่ วนของแขนข้างสั้นหายไป โดยจำนวนท่อน
โครโมโซม ในเซลล์ร่างกายยังคงเป็ น 46 ท่อนเท่าเดิม ผูป้ ่ วยจะมีปัญญาอ่อน
ศีรษะเล็กกว่าปกติการเจริ ญเติบโตช้า หน้ากลม ใบหูอยูต่ ่ำกว่าปกติและคนไข้
มีเสี ยงร้องแหลมคล้ายเสี ยงแมวร้องซึ่ งเป็ นที่มาของชื่อนี้

ภาพ แสดงคนเป็ นโรคกลุ่มอาการพาโต (Patau’s Syndrome)18


ลักษณะอาการคริดูชาต์ และโครโมโซมของกลุ่มคริดูชาต์17
10       10
      
 3.  กลุ่มอาการเอ็ดวาดส์ ( Edward’s Syndrome ) สาเหตุ  โครโมโซมคู่ที่ 18
2.  กลุ่มอาการพาโต  ( Patau’s Syndrome ) สาเหตุ  โครโมโซม คู่ที่ 13 เกินมา
 เกินมา 1 ท่อน  ทำให้มีโครโมโซมในเซลล์ร่างกายเป็ น 47 ท่อน มีลกั ษณะ
1 ท่อน  ทำให้มีโครโมโซมในเซลล์ร่างกายเป็ น 47 ท่อน ทารกที่เป็ น
ผิดปกติที่สำคัญ คือ น้ำหนักน้อย ศีรษะและใบหน้ามีลกั ษณะเฉพาะ คือ
พาโทส์ ซิ นโดรม มีลกั ษณะผิดปกติที่สำคัญ คือ น้ำหนักน้อย ศีรษะเล็ก
ศีรษะ
ตาเล็กหรื อ ไม่มีตา ปากแหว่ง และเพดานโหว่ ตา 2 ข้างอยูห่ ่างกัน มีรอยย่น
ยาวและท้ายทอยยืน่ ใบหน้าใหญ่และเป็ นเหลี่ยม ตาห่าง ปากแคบ ใบหู
ที่หวั ตา จมูกโต คางสั้น ใบหูเล็กผิดปกติและอยูต่ ่ำ นิ้วมักเกิน หัวใจพิการแต่
ผิดปกติและอยูท่ ี่ต ่ำ บางรายปากแหว่ง และเพดานโหว่ หลังคอเป็ นลอน
กำเนิด ไตผิดปกติ อาจมีอวัยวะภายในท้องอยูก่ บั ซ้ายขวากัน เป็ นต้น ทารก
และ
เหล่านี้จะเจริ ญเติบโตช้า ปัญญาอ่อน หูหนวก ส่ วนมากตาบอดด้วยและมัก
19
10
มีการเกร็ งของกล้ามเนื้ อ แขนเกร็ งอยูใ่ นท่างอ เท้างอขึ้นอาจมีความผิดปกติแต่
กำเนิดของหัวใจและไต ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือประมาณร้อยละ 80 ที่พบ
เป็ นหญิง มักตายตั้งแต่อายุยงั น้อย

           

ภาพ แสดงโครโมโซมของกลุ่มเอ็ดวาดส์

ภาพ แสดง ลักษณะอาการเอ็ดวาดส์


20
10
4.  กลุ่มอาการดาวส์  ( Down ’s Syndrome ) ดาวน์ส ซิ นโดรม
(down’ s syndrome) มีชื่อเรี ยกกันทัว่ ๆไปอีกอย่างว่า มองโกลิซึม
(mongolism) ซึ่ งมีจ ำนวนโครโมโซมในเซลล์ 47 โครโมโซม เป็ น
อาการผิดปกติที่เกิดจากความผิดปกติของออโตโซมแท่งที่ 21 เกินมามี
ความผิดปกติทางร่ างกายและสติปัญญา ส่ วนใหญ่สติปัญญาต่ำ I,Q อยู่
ระหว่าง 20-50 มีนอ้ ยมากที่ปัญญาเกือบเหมือนคนปกติ ลักษณะความ
ผิดปกติของร่ างกายเห็นได้ชดั ตั้งแต่แรกเกิดและอาจกล่าวได้วา่ มีความ
ผิดปกติในอวัยวะต่างๆทัว่ ร่ างกาย ได้แก่สมองเล็ก กะโหลกศีรษะเล็ก
กลม ท้ายทอยแบน จมูกเล็กแฟบ ฟันขึ้นช้าหรื อไม่ข้ นึ เลย เนื่องจากช่อง
ปากเล็ก จึงทำให้ดูเหมือนว่า ลิ้นโตคับปาก ใบหูเล็ก ตาห่าง หัวใจพิการ
แต่ก ำเนิด การพัฒนาทางเพศมีนอ้ ยแต่บางรายในหญิงอาจมีลูกได้ ส่ วน
ใหญ่ในเพศชายมักเป็ นหมัน พบบ่อยในทารกที่เกิดจากมารดาที่อายุมาก
ตั้งแต่อายุ 35 ปี ขึ้นไป อายุเฉลี่ยของคนพวกนี้ ประมาณ 18 ปี

21 ภาพ แสดงคนเป็ นโรคกลุ่มอาการดาวส์ (Down ’s Syndrome22)


10 ความผิดปกติที่เกิดกับโครโมโซมเพศ 14
1. อาการเทอร์ เนอร์ ส ซินโดรม (Turner’s  Syndrome)  เป็ นอาการที่เกิดในหญิง เกิดในชายที่มีโครโมโซม X   มากกว่าปกติ  (XXY) ทำให้มีเต้านมโตคล้าย

ที่เกิดจากโครโมโซม X  ทั้งอันหรื อบางส่ วนขาดหายไป  ทำให้มีลกั ษณะ ผูห้ ญิง อวัยวะเพศมีขนาดเล็กไม่มีการสร้างเชื้ออสุ จิเป็ นหมัน รู ปร่ างสู งและ

รู ปร่ างเตี้ย ไม่มีประจำเดือน เป็ นหมันมดลูกขนาดเล็กและรังไข่ฝ่อผลิตไข่ อ้วน  มักปั ญญาอ่อน

ไม่ได้ คอสั้นมีแผ่นเนื้อพับไปมา  มักจะปัญญาอ่อน

             

ลักษณะอาการไคลน์ เฟลเตอร์ และโครโมโซมของกลุ่มอาการไคลน์ เฟลเตอร์

                      
24
14
ลักษณะอาการเทอร์ เนอร์ และโครโมโซมของกลุ่มอาการเทอร์23
เนอร์ 3. อาการทริปเปิ ล เอกซ์ ซินโดรม ( Triple x Syndrome) เป็ นอาการในหญิง
14 ที่
2. อาการไคลน์ เฟลเตอร์ ส ซินโดรม  (Klinefelter’s Syndrome)  เป็ นอาการที่
มีโครโมโซม x 3 อัน (XXX)  เป็ นเพศหญิงที่มีลกั ษณะทัว่ ไปดูปกติ แต่
25
สติปัญญาต่ำกว่าปกติ  ถ้าไม่เป็ นหมัน ลูกที่เกิดจากหญิงที่มีโครโมโซมแบบ 14

นี้อาจมีความผิดปกติทางโครโมโซมเหมือนแม่ หรื อเป็ น XXY ได้


                                  

ภาพ แสดงความผิดปกติของโครโมโซมเพศ กลุ่มอาการ Triple x Syndrome

ภาพ แสดงลักษณะอาการทริปเปิ ล เอกซ์ ซินโดรม


26
14
4. อาการดับเบิล วาย ซินโดรม (Double y Syndrome) เป็ นอาการในชายที่มี บรรณานุกรม
โครโมโซม y เกิน (XYY) ทำให้มีรูปร่ างสูงกว่าปกติ เป็ นสิ วมาก อวัยวะเพศ
ใหญ่ผดิ ปกติ สติปัญญาด้อย ใจเร็ ว อารมณ์ร้าย โมโหง่าย แต่บางรายก็มีจิตใจ  พิมพันธ์ เดชะคุปต์ และ พเยาว์ ยินดีสุข. (2548).
ปกติ และไม่เป็ นหมัน แผนการจัดการเรียนรู้ สองแนวทางที่เน้ นผู้เรียนเป็ นสำคัญ
ชีววิทยา ม.4. กรุ งเทพฯ : บริ ษทั พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.).
ประยูร พรหมสกุล. การถ่ ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม. [ออนไลน์]
ม.ป.ป. [อ้างเมื่อ 9 กรกฎาคม 2551]. จาก
http://nara2.homeip.net/~salamai/e_learning/genetic/index1.html
http://www.prd.go.th/files/peoplefile/ ค้นเมื่อ 7 กรกฎาคม 2551
  http://www.ipst.ac.th/biology. ค้นเมื่อ 6 กรกฏาคม 2551
http://www.vchakarn.com. ค้นเมื่อ 7 กรกฎาคม 2551

ภาพ แสดงลักษณะอาการดับเบิล วาย ซินโดรม

You might also like