Professional Documents
Culture Documents
I So 90012015
I So 90012015
สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรม (สมอ.)
กระทรวงอุตสาหกรรม
โครงสร้างหลักสูตร
ระบบการจัดการระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001:2015
เนื้อหาในโครงสร้างหลักสูตร
แบ่งออกเป็น 8 เรื่อง
1 สถานการณ์ด้านระบบบริหารงานคุณภาพ
2 โครงสร้างมาตรฐานตาม High Level Structure (HLS)
3 หลักการบริหารความเสี่ยง และหลักการและสาระสาคัญของมาตรฐาน ISO 9001:2015
4 อนุกรมมาตรฐาน ISO 9000
5 นิยามและคาศัพท์ใน ISO 9001:2015 ตาม ISO 9000:2015
6 ข้อกาหนดของมาตรฐาน ISO 9001:2015 และแนวทางการจัดทาระบบ
7 ขั้นตอนการจัดทาระบบระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001:2015
8 การประเมินตนเองก่อนขอการรับรองการจัดการด้านระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001:2015
เนื้อหาในข้อกาหนดที่ 4 – 10
(1) อธิบำยควำมเชื่อมโยงของข้อกำหนดแบ่งออกเป็น
- กระบวนกำรหลัก
- กระบวนกำรสนับสนุน
- กระบวนกำรบริหำร
(2) ระบุรำยละเอียดข้อกำหนดแต่ละข้อ
(3) บอกหลักกำรข้อกำหนด
(4) วัตถุประสงค์ข้อกำหนด
(5) ขั้นตอนกำรปฏิบัติ
(6) ตัวอย่ำงเอกสำรสำรสนเทศ
(7) ตัวอย่ำงกำรเก็บข้อมูลสำรสนเทศ
(8) ควำมเชื่อมระหว่ำงข้อกำหนดหลัก
ระบบการบริหารงานคุณภาพ
4. บริบทขององค์กร
อธิบำยควำมเชื่อมโยงของข้อกำหนดทั้ง 4 ข้อ
4.1 ควำมเข้ำใจในองค์กรและบริบทขององค์กร
4.2 ควำมเข้ำใจในควำมต้องกำรและควำม คำดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
4.3 กำรกำหนดขอบเขตของระบบ
4.4 ระบบกำรจัดกำรและกระบวนกำรต่ำงๆ
แบบประเมินควำมเข้ำใจข้อกำหนด 4.1-4.4
5 ความเป็นผู้นา
อธิบำยควำมเชื่อมโยงของข้อกำหนดทั้ง 3 ข้อ
5.1 ควำมเป็นผู้นำและควำมมุ่งมั่น
5.2 นโยบำยคุณภำพ
5.3 บทบำท ควำมรับผิดชอบ และอำนำจหน้ำที่
แบบประเมินความเข้าใจข้อกาหนด 5.1-5.3
6 การวางแผนสาหรับระบบ
อธิบำยควำมเชื่อมโยงของข้อกำหนดทั้ง 3 ข้อ
6.1 กำรดำเนินกำรกับควำมเสี่ยงและโอกำสที่ระบุไว้
6.2 วัตถุประสงค์คุณภำพ และกำรวำงแผนให้บรรลุผลสำเร็จ
6.3 กำรวำงแผนกำรเปลี่ยนแปลง
แบบประเมินควำมเข้ำใจข้อกำหนด 6.1-6.3
7 การสนับสนุน
อธิบำยควำมเชื่อมโยงของข้อกำหนดทั้ง 7 ข้อ
7.1 ทรัพยำกร
7.2 ควำมรู้ ควำมสำมำรถ
7.3 ควำมตระหนัก
7.4 กำรสื่อสำร
โครงกำรพัฒนำหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มำตรฐำน ISO 9001:2015 หน้ำ 3 จำก 5
โครงสร้างหลักสูตรระบบระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001:2015
7.5 เอกสำรสำรสนเทศ
แบบประเมินควำมเข้ำใจข้อกำหนด 7.1-7.5
8 การปฏิบัติการ
อธิบำยควำมเชื่อมโยงของข้อกำหนดทั้ง 7 ข้อ
8.1 กำรวำงแผน และกำรควบคุมกำรดำเนินงำน
8.2 กำรพิจำรณำข้อกำหนดผลิตภัณฑ์และบริกำร
8.3 กำรออกแบบและพัฒนำผลิตภัณฑ์และบริกำร
8.4 กำรควบคุมกำรจัดหำผลิตภัณฑ์และบริกำรจำกภำยนอก
8.5 กำรผลิตและกำรบริกำร
8.6 กำรปล่อยผลิตภัณฑ์ และบริกำร
8.7 กำรควบคุมผลลัพธ์ที่ไม่เป็นไปตำมข้อกำหนด
แบบประเมินควำมเข้ำใจข้อกำหนด 8.1-8.7
9 การประเมินสมรรถนะ
อธิบำยควำมเชื่อมโยงของข้อกำหนดทั้ง 3 ข้อ
10 การพัฒนา
อธิบำยควำมเชื่อมโยงของข้อกำหนดทั้ง 3 ข้อ
10.1 บททั่วไป
10.2 ควำมไม่สอดคล้อง และกำรปฏิบัติกำรแก้ไข
10.3 กำรปรับปรุงอย่ำงต่อเนื่อง
แบบประเมินควำมเข้ำใจข้อกำหนด 10.1 – 10.3
สรุปขั้นตอนการดาเนินงานและเอกสารที่ต้องมีในระบบ
มีรำยกำรประเมินควำมพร้อมก่อนขอกำรรับรองประกอบด้วยควำมพร้อมแต่ละส่วน ดังนี้
- กำรวำงระบบ
- กำรนำไปปฏิบัติ
- กำรตรวจวัด
- กำรพัฒนำ/ปรับปรุง
แบบประเมินแบ่งเป็นระดับกำรประเมินออกเป็นมีระบบ มีผลกำรปฏิบัติ มีกำรประเมินผลกำรดำเนินงำน
มีคำแนะนำในกำรดำเนินงำนหลังผลกำรประเมิน
1 สถานการณ์ด้านระบบบริหารงานคุณภาพ
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
สถานการณ์ด้านระบบบริหารงานคุณภาพ
1. สถานการณ์ด้านระบบบริหารงานคุณภาพ
แบ่งการให้ความรู้ในส่วนนี้ออกเป็น 3 ส่วน คือ วิวัฒนาการของคุณภาพ ลักษณะสาคัญของ ISO 9000 และ
ความเป็นมาของ ISO 9000 ตามรายละเอียด ดังนี้
วิวัฒนาการของคุณภาพ
ระบบบริหารงานคุณภาพได้มีการวิวัฒนาการโดยแบ่งลาดับชั้นไว้ 5 ลาดับ ดังนี้
1. เกณฑ์การยอมรับคุณภาพ (Acceptance Inspection)
2. การควบคุมคุณภาพ (Quality Control)
3. การประกันคุณภาพ (Quality Assurance)
4. การบริหารคุณภาพโดยรวม (Total Quality Management)
5. การประกันคุณภาพโดยรวม (Total Quality Assurance)
ข้อสอบ
สถานการณ์ด้านระบบบริหารงานคุณภาพ
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
สถานการณ์ด้านระบบบริหารงานคุณภาพ
ข้อสอบ_สถานการณ์ด้านระบบบริหารงานคุณภาพ
1. จงเรียงลำดับวิวัฒนำกำรคุณภำพ?
1. กำรควบคุมคุณภำพ (Quality Control)
2. เกณฑ์กำรยอมรับคุณภำพ (Acceptance Inspection)
3. กำรประกันคุณภำพ (Quality Assurance)
4. กำรบริหำรคุณภำพโดยรวม (Total Quality Management)
5. กำรประกันคุณภำพโดยรวม (Total Quality Assurance)
ก. 1 2 3 4 5
ข. 2 3 1 4 5
ค. 2 1 3 4 5
ง. 3 2 1 5 4
3. “ISO” ย่อมำจำกข้อใด?
ก. The International Standardization Organization
ข. International Organization for Standardization
ค. Standardization from International Organization
ง. The International Organization for Standardization
4. มำตรฐำนระบบบริหำรงำนคุณภำพ เป็นระบบที่ครอบคลุมกระบวนกำรใด?
ก. กระบวนกำรหลัก (Core Process)
ข. กระบวนกำรสนับสนุน (Supporting Process)
ค. กระบวนกำรบริหำร (Management Process)
ง. ถูกทุกข้อ
5. ข้อใดกล่ำวถูกต้องเกี่ยวกับอนุกรมมำตรฐำนระบบบริหำรงำนคุณภำพ?
ก. เป็นมำตรฐำนสำกลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์
ข. เน้นกระบวนกำรรับรองคุณภำพผลิตภัณฑ์/ บริกำรขั้นสุดท้ำย
ค. เป็นมำตรฐำนที่เกี่ยวกับระบบบริหำรงำนคุณภำพ
ง. กำรจัดทำระบบบริหำรงำนคุณภำพต้องเป็นเอกสำรควบคุมกำรดำเนินงำน
7. ผู้มีหน้ำที่ในกำรจัดทำระบบบริหำรงำนคุณภำพขององค์กำรคือใคร ?
ก. ผู้บริหำรระบบสูง
ข. คณะผู้บริหำร
ค. พนักงำนทุกระดับในองค์กร
ง. ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับองค์กร
8. แต่ละกระบวนกำรในระบบบริหำรงำนคุณภำพควรอธิบำยด้วยวิธีใดในกำรกำหนดขั้นตอนกำรดำเนินงำน ?
ก. 5W 1H
ข. Why Why
ค. What if
ง. 3 G (3 จริง)
9. ข้อใดคือผลกำรปรับปรุงตำมระบบบริหำรงำนคุณภำพ ?
ก. บุคลำกรในกำรปฏิบัติงำนมีควำมควำมสำมำรถมำกขึ้น
ข. ขั้นตอนกำรดำเนินงำนมีประสิทธิผลมำกขึ้น
ค. ใช้ทรัพยำกรคุ้มค่ำมำกขึ้น ปรับสภำพแวดล้อมในกำรทำงำนให้เหมำะสมมำกขึ้น
ง. ถูกทุกข้อ
เฉลยข้อสอบ
สถานการณ์ด้านระบบบริหารงานคุณภาพ
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
สถานการณ์ด้านระบบบริหารงานคุณภาพ
เฉลยข้อสอบ_สถานการณ์ด้านระบบบริหารงานคุณภาพ
1. จงเรียงลำดับวิวัฒนำกำรคุณภำพ?
1. กำรควบคุมคุณภำพ (Quality Control)
2. เกณฑ์กำรยอมรับคุณภำพ (Acceptance Inspection)
3. กำรประกันคุณภำพ (Quality Assurance)
4. กำรบริหำรคุณภำพโดยรวม (Total Quality Management)
5. กำรประกันคุณภำพโดยรวม (Total Quality Assurance)
ก. 1 2 3 4 5
ข. 2 3 1 4 5
ค. 2 1 3 4 5
ง. 3 2 1 5 4
3. “ISO” ย่อมำจำกข้อใด?
ก. The International Standardization Organization
ข. International Organization for Standardization
ค. Standardization from International Organization
ง. The International Organization for Standardization
4. มำตรฐำนระบบบริหำรงำนคุณภำพ เป็นระบบที่ครอบคลุมกระบวนกำรใด?
ก. กระบวนกำรหลัก (Core Process)
ข. กระบวนกำรสนับสนุน (Supporting Process)
ค. กระบวนกำรบริหำร (Managemant Procss)
ง. ถูกทุกข้อ
5. ข้อใดกล่ำวถูกต้องเกี่ยวกับอนุกรมมำตรฐำนระบบบริหำรงำนคุณภำพ?
ก. เป็นมำตรฐำนสำกลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์
ข. เน้นกระบวนกำรรับรองคุณภำพผลิตภัณฑ์/ บริกำรขั้นสุดท้ำย
ค. เป็นมำตรฐำนที่เกี่ยวกับระบบบริหำรงำนคุณภำพ
ง. กำรจัดทำระบบบริหำรงำนคุณภำพต้องเป็นเอกสำรควบคุมกำรดำเนินงำน
7. ผู้มีหน้ำที่ในกำรจัดทำระบบบริหำรงำนคุณภำพขององค์กำรคือใคร ?
ก. ผู้บริหำรระบบสูง
ข. คณะผู้บริหำร
ค. พนักงำนทุกระดับในองค์กร
ง. ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับองค์กร
8. แต่ละกระบวนกำรในระบบบริหำรงำนคุณภำพควรอธิบำยด้วยวิธีใดในกำรกำหนดขั้นตอนกำรดำเนินงำน ?
ก. 5W 1H
ข. Why Why
ค. What if
ง. 3 G (3 จริง)
9. ข้อใดคือผลกำรปรับปรุงตำมระบบบริหำรงำนคุณภำพ ?
ก. บุคลำกรในกำรปฏิบัติงำนมีควำมควำมสำมำรถมำกขึ้น
ข. ขั้นตอนกำรดำเนินงำนมีประสิทธิผลมำกขึ้น
ค. ใช้ทรัพยำกรคุ้มค่ำมำกขึ้น ปรับสภำพแวดล้อมในกำรทำงำนให้เหมำะสมมำกขึ้น
ง. ถูกทุกข้อ
โครงสร้างการเขียนมาตรฐานตาม HLS
โครงสร้างมาตรฐาน ISO
ลักษณะโครงสร้างของ High Level Structure หรือ HLS ประกอบด้วย
1) โครงสร้างหลักทั่วไป
2) ข้อกาหนดหลัก
3) ข้อกาหนดทั่วไป
4) คาจากัดความ
รายละเอี ย ดของรู ป แบบ Annex SL ที่ ถู ก น ามาใช้ ในโครงสร้ า งระบบบริ ห ารในมาตรฐานการจั ด การ คื อ
Appendix 2 ของ Annex SL เรียกว่า High Level Structure หรือ HLS ซึง่ ประกอบด้วย 3 ส่วนคือ
1) โครงสร้างหลัก
2) ข้อกาหนดหลัก
3) คาจากัดความ
ดังนั้นมาตรฐานระบบการจัดการที่ถูกเขียนตาม High Level Structure (HLS) จะมีโครงสร้างระบบบริหารใน
มาตรฐานเหมือนกัน ข้อกาหนดหลักเหมือนกัน และคาจากัดหลักเหมือนกัน แต่จะมีข้อกาหนดทั่วไปที่ไม่เหมือนกัน
ข้อก าหนดทั่ ว ไปที่ ไม่ เหมื อนกั น เนื่ องมาจากในแต่ ล ะมาตรฐานจะมีวัต ถุป ระสงค์ข องการจัดท าระบบที่ ไม่
เหมือนกันทั้งหมด ส่งผลให้มีการย่อยข้อกาหนดที่แตกต่างกันไปบ้างเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของมาตรฐาน ซึ่งถ้ามอง
แบบผิวเผินจะดูว่าโครงสร้างระบบบริหารเหมือนกัน แต่ถ้าอ่านโดยละเอียดจะเห็นว่ามีความแตกต่างกันบ้าง จึงเรียกการ
เขียนโครงสร้างระบบบริหารในมาตรฐานนี้ว่า High Level Structure (HLS)
2. ข้อกาหนดหลัก
3. คาศัพท์ทั่วไป
ข้อสอบ
โครงสร้างมาตรฐานตาม High Level Structure (HLS)
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อสอบ_โครงสร้างมาตรฐานตาม High Level Structure (HLS)
1. ระบบบริหารงานคุณภาพ มาตรฐาน ISO 9001:2015 .เป็นการจัดทาตามโครงสร้างตามข้อ ?
ก. มติของคณะกรรมการ
ข. British Standard
ค. High Level Structure
ง. ถูกทุกข้อ
ก. โครงสร้างหลักทั่วไป
ข. ข้อกาหนดหลัก
ค. ข้อกาหนดทั่วไป
ง. คาจากัดความ
9. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง ?
ก. ISO 9001 ใช้เป็นแนวทางในการวางระบบริหารงานคุณภาพสาหรับทุกธุรกิจ
ข. ระบบบริหารงานคุณภาพทุกมาตรฐานจะใช้แนวทางการบริหารตาม ISO 9001
ค. องค์กรต้องจัดทาระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001 ให้แล้วเสร็จก่อน จึงจะทาระบบบริหารงาน
คุณภาพเฉพาะธุรกิจได้
ง. องค์กรสามารถจัดทาระบบบริหารงานคุณภาพเฉพาะธุรกิจได้โดยไม่ต้องจัดทา ISO 9001 ก่อน
เฉลยข้อสอบ
โครงสร้างมาตรฐานตาม High Level Structure (HLS)
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
เฉลยข้อสอบ_โครงสร้างมาตรฐานตาม High Level Structure (HLS)
1. ระบบบริหารงานคุณภาพ มาตรฐาน ISO 9001:2015 .เป็นการจัดทาตามโครงสร้างตามข้อ ?
ก. มติของคณะกรรมการ
ข. British Standard
ค. High Level Structure
ง. ถูกทุกข้อ
ก. โครงสร้างหลักทั่วไป
ข. ข้อกาหนดหลัก
ค. ข้อกาหนดทั่วไป
ง. คาจากัดความ
9. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง ?
ก. ISO 9001 ใช้เป็นแนวทางในการวางระบบริหารงานคุณภาพสาหรับทุกธุรกิจ
ข. ระบบบริหารงานคุณภาพทุกมาตรฐานจะใช้แนวทางการบริหารตาม ISO 9001
ค. องค์กรต้องจัดทาระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001 ให้แล้วเสร็จก่อน จึงจะทาระบบบริหารงาน
คุณภาพเฉพาะธุรกิจได้
ง. องค์กรสามารถจัดทาระบบบริหารงานคุณภาพเฉพาะธุรกิจได้โดยไม่ต้องจัดทา ISO 9001 ก่อน
3 หลักการบริหารความเสี่ยง และหลักการสาระสาคัญของมาตรฐาน
ISO 9001 : 2015
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
หลักการบริหารความเสี่ยง หลักการและสาระสาคัญของมาตรฐาน ISO 9001:2015
หลักการบริหารความเสี่ยง
การเปลี่ยนแปลงที่สาคัญประการหนึ่งของการปรับปรุงมาตรฐาน ISO 9001:2015 คือการสร้างแนวทางที่
เป็นระบบในการพิจารณาความเสี่ยงมากกว่า “การป้องกัน” ในการคงรักษาระบบไว้ ซึง่ ความเสี่ยงจะมีอยู่ในทุกด้าน
ของระบบการจัดการคุณภาพ ทั้งความเสี่ยงในระบบ ความเสี่ยงกระบวนการ และหน้าที่ความรับผิดชอบ แนวคิดความ
เสี่ยงเป็นเครื่องมือที่จะทาให้มั่นใจว่าความเสี่ยงเหล่านี้ได้รับการระบุพิจารณาและควบคุมตลอดตั้งแต่การออกแบบและ
การดาเนินการตามระบบการบริหารงานคุณภาพ
แนวความคิดด้านความเสี่ยงในมาตรฐาน ISO 9001 ต้องนาไปสู่การปรับปรุงระบบบริหารทั้งระบบ ซึ่งการ
พิจารณาความเสี่ยงต้องถูกกาหนดเป็นกระบวนการ เพื่อให้เกิดกระบวนการป้องกันโดยแท้จริง โดยเริ่มกระบวนการ
บริหารความเสี่ยงตั้งแต่กิจกรรมการวางแผน การปฏิบัติ การวิเคราะห์ และการประเมิน ดังนั้นสรุปการบริหารความ
เสี่ยงได้
กระบวนการบริหารความเสี่ยงถูกวางเป็นระบบบริหาร
การบริหารความเสี่ยงถูกวางเป็นกระบวนการไว้ในระบบการจัดการไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นวัตถุประสงค์
ระบบการบริหารงานคุณภาพ ISO 9001:2015 ไม่ได้ต้องการให้องค์กรแสดงความเสี่ยงในกระบวนการทั้งหมด
เนื่องจากการแสดงความเสี่ยงในแต่ละกระบวนการเพื่อนาไปทาการวางแผน และทาการควบคุมอย่างเป็นทางการเพื่อให้
เกิดการเฝ้าระวังมากกว่าคนอื่นๆนั้นไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร
“ความเสี่ยง ผลกระทบของความเสี่ยงเป็นไปได้ทั้งเชิงบวก และเชิงลบ”
การจัดการความเสี่ยงในระบบการบริหารงานคุณภาพ
แนวคิดเรื่องการคิดตามความเสี่ยงได้อธิบายไว้ในบทนาของ ISO 9001: 2015 เป็นส่วนสาคัญของ
กระบวนการผลิต
แนวทางความเสี่ยงเพื่ออะไร?
เมื่อพิจารณาความเสี่ยงทั่วทั้งระบบและทุกกระบวนการในความเป็นไปได้ที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ที่กาหนด
ไว้ส่งผลให้สมรรถนะเพิ่มขึ้น และ/หรือผลลัพธ์จะสอดคล้องกันมากขึ้น และลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลิตภัณฑ์
หรือบริการที่คาดหวังไว้
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015 หน้า 1 จาก 8
#R.2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
หลักการบริหารความเสี่ยง หลักการและสาระสาคัญของมาตรฐาน ISO 9001:2015
แนวคิดความเสี่ยง:
ปรับปรุงการกากับดูแล
สร้างวัฒนธรรมเชิงรุกในการปรับปรุง
ช่วยให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบ
มั่นใจถึงความสม่าเสมอในคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ
เพิ่มความมั่นใจและความพึงพอใจของลูกค้า
“บริษัทสามารถใช้การบริหารความเสี่ยงได้อย่างถ่องแท้จะเป็นบริษัทที่ประสบความสาเรจ”
“Successful companies intuitively incorporate risk-based thinking”
(อ้างอิงจาก Risk base thinking ใน ISO/TC 176/SC2/N1284 www.iso.org/tc176/sc02/public)
กระบวนการบริหารความเสี่ยง
กระบวนการบริหารความเสี่ยงตามมาตรฐาน ISO 31000:2009 เชื่อมโยงกับระบบการบริหารงานคุณภาพ
กระบวนการบริหารความเสี่ยงตามมาตรฐาน ISO 31000:2009
จากกระบวนการบริหารความเสี่ยง ถูกวางเป็นระบบการบริหารงานคุณภาพสามารถแสดงให้เห็นได้ดังภาพ
ด้านล่าง
ระบบการบริหารงานคุณภาพ ISO 9001:2015 ตามแนวทางการบริหารความเสี่ยง
แนวคิด หลักการที่สาคัญของระบบการบริหารงานคุณภาพ
แนวคิดระบบการบริหารงานคุณภาพ
ISO 9001 เป็นระบบการบริหารงานคุณภาพตามมาตรฐานสากล แนวคิดสาคัญของ ISO 9001 คือ
การจัดวางระบบบริห ารงานเพื่อการประกันคุณภาพ ซึ่ง เป็นระบบที่ทาให้ เชื่อมั่นได้ว่ากระบวนการต่างๆ ได้รับการ
ควบคุมและสามารถตรวจสอบได้ โดยผ่านระบบที่ระบุขั้นตอนและวิธีการทางาน เพื่อให้มั่นใจว่าบุคลากรในองค์กรรู้
หน้าที่ความรับผิดชอบและขั้นตอนต่างๆ ในการปฏิบัติงาน โดยต้องมีการฝึกอบรมให้ความรู้และทักษะในการปฏิบั ติงาน
มีการจดบั น ทึกข้อมู ล รวมทั้งการตรวจสอบการปฏิ บัติงานว่าเป็น ไปตามที่ ระบุไว้ในระบบหรือไม่ และมีการแก้ไข
ข้อ ผิ ด พลาดรวมทั้ งมี แ นวทางในการป้ อ งกั น ข้อ ผิ ด พลาดเดิ ม ซึ่ งในปั จจุ บั น มาตรฐาน ISO 9001:2015 มี ก ารเพิ่ ม
ข้อกาหนดในเรื่องการทาความเข้าใจกับองค์กรและบริบทองค์กร การทาความเข้าใจกับความต้องการและความคาดหวัง
ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อใช้สาหรับการดาเนินการกับความเสี่ยงและโอกาสรวมถึงข้อกาหนดอื่นๆ ซึ่งเป็นพื้นฐานหนึ่งที่
จะช่วยให้องค์กรสามารถมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนได้ต่อไป
ISO 9001 เน้นบทบาทของผู้บริหารระดับสูงที่จะต้องให้ความสาคัญกับความต้องการ ความคาดหวัง
ของลูกค้า และผู้ที่เกี่ยวข้อง องค์กรทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรมการผลิตหรือภาคบริการทั้งรัฐและเอกชน
หลักบริหารงานคุณภาพ
ในการปรับปรุง ISO 9000 ระบบการบริหารงานคุณภาพ-หลักการพื้นฐานและคาศัพท์ ทีประกาศใช้ในปี
ค.ศ. 2000 ISO/TC 176 ได้ใช้หลักการของการบริหารงานคุณภาพ ซึ่งรวบรวมมาจากความรู้และประสบการณ์ของ
ผู้เชี่ยวชาญด้านคุณภาพทั่วโลก
หลักการของการบริหารงานคุณภาพ คือการบริหารงานอย่างเป็นระบบและโปร่งใส คานึงถึงความต้องการ
ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้บริหารระดับสูงควรนาไปใช้ในการบริหารให้เป็นส่วนหนึ่ง
ของระบบการบริหารงานโดยรวมขององค์กรเพื่อให้ประสบผลสาเร็จในการทาให้ลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเกิดความ
พึงพอใจ
หลักการของการบริหารงานคุณภาพ (Quality Management Principle-QMP)
ที่ทาให้การบริหารระบบคุณภาพประสบผลสาเร็จ ประกอบด้วยหลักการ 7 ประการ ดังนี้
4. เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
5. เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน
หน้าทีแ่ ต่ละระดับที่เกี่ยวข้องกับการจัดทาระบบระบบการบริหารงานคุณภาพ
บทบาทหน้าที่ผู้บริหารระดับสูง
1. มีภาระรับผิดชอบต่อประสิทธิผลของระบบ
2. นโยบายและวัตถุประสงค์สอดคล้องกับกลยุทธ์ และบริบทองค์กร
3. บูรณาการระบบเข้ากับกระบวนการทางธุรกิจ
4. การจัดสรรทรัพยากรอย่างเพียงพอ
5. สื่อสารประสิทธิผลของระบบและการสอดคล้อง
6. มั่นใจระบบการบริหารบรรลุผลสัมฤทธิ์ตามที่คาดหวังไว้
7. กากับ และสนับสนุนบุคลากรเข้ามามีส่วนร่วมให้ระบบเกิดประสิทธิผล
8. ส่งเสริมให้มีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
9. สนับสนุนบทบาทหน้าที่ให้ผู้บริหารได้แสดงความเป็นผู้นา และความมุ่งมั่นในการประยุกต์ใช้มาตรฐาน
บทบาทหน้าที่ผู้บริหาร
1. กาหนดวัตถุประสงค์ และแผนการจัดการระดับหน่วยงานตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายขององค์กรเพื่อ
การพัฒนาปรับปรุง
2. จัดทางบประมาณและค่าใช้จ่ายด้านการบริหารภายในหน่วยงาน
3. ควบคุมและติดตามระบบให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด
4. ประสานงานเรื่องการชี้บ่ง ประเมินความเสี่ยงด้านวัตถุประสงค์ และสมรรถนะที่เกี่ยวข้อง
5. ควบคุมกระบวนการให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่องค์กร ข้อกาหนด กฎหมายกาหนด
6. ติดตามประสิทธิผลการดาเนินงานภายใต้ความรับผิดชอบ และรายงานต่อผู้บริหาร
7. ส่งเสริมและสร้างความเข้าใจเรื่องนโยบายบริษัท กฎระเบียบข้อบังคับในการทางานให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชา
8. สร้างขวัญกาลังใจ การร่วมมือทางานเป็นทีมให้แก่สร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง
9. ส่งเสริมให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเกิดการเรียนรู้พัฒนา และช่วยเหลือให้คาแนะนาการดาเนินระบบ ISO 9001
10. ให้ความร่วมมือในการทากิจกรรมพิเศษต่างๆ เช่น 5ส TPM หรือมวลชนสัมพันธ์ เป็นต้น
บทบาทหัวหน้างาน
1. จัดทาแผนงานระดับหน่วยงานตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายของหน่วยงานเพื่อการพัฒนาปรับปรุง
2. ดาเนินการให้ข้อมูลเพื่อการชี้บ่ง ประเมินความเสี่ยงด้านวัตถุประสงค์ และสมรรถนะที่เกี่ยวข้อง
3. ควบคุมและตรวจสอบตรวจวัดระบบให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด
4. ควบคุมกระบวนการให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่องค์กร ข้อกาหนด และกฎหมาย
5. ติดตามประสิทธิผลการดาเนินงานภายใต้ความรับผิดชอบ และรายงานต่อผู้บริหารตามสายการบังคับ
บัญชา
6. สร้างความเข้าใจเรื่องนโยบายบริษัท กฎระเบียบข้อบังคับในการทางานให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชา
7. สร้างขวัญกาลังใจและการร่วมมือทางานเป็นทีม สร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง
8. ดาเนินการให้ผู้ใต้บังคับบัญชามีทักษะความสามารถตามแผนงาน
9. ให้ความร่วมมือในการทากิจกรรมพิเศษต่างๆ เช่น 5ส TPM หรือมวลชนสัมพันธ์ เป็นต้น
ข้อสอบ
หลักการบริหารความเสี่ยง และหลักการสาระสาคัญของมาตรฐาน
ISO 9001 : 2015
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อสอบ_หลักการบริหารความเสี่ยง และหลักการสาระสาคัญของมาตรฐาน ISO9001V2015
2. วัตถุประสงค์ของแนวความคิดบริหารความเสี่ยงคือเรื่องใด?
ก. การควบคุมผลิตภัณฑ์และบริการขั้นสุดท้าย
ข. การบริหารดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้มีการพัฒนา
ค. การปฏิบัติการแก้ไขและป้องกัน
ง. การปรับปรุงระบบบริหารทั้งระบบ
4. ข้อใดถูกต้องตามคาว่า “ความเสี่ยง” ?
ก. ผลกระทบเชิงบวก
ข. ผลกระทบเชิงลบ
ค. ผลกระทบทั้งเชิงบวกและเชิงลบ
ง. การเปลี่ยนแปลง
5. มาตรฐานใดคือ “กระบวนการบริหารความเสี่ยง” ?
ก. ISO 9001
ข. ISO 14001
ค. ISO 31000
ง. ISO 31010
9. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับหลักบริหารงานคุณภาพ (QMP)?
ก. การบริหารงานอย่างเป็นระบบและโปร่งใส
ข. การบริหารงานที่คานึงถึงความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ค. การบริหารงานที่มีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
ง. ถูกทุกข้อ
11. หลักการของการบริหารงานคุณภาพประกอบด้วยข้อใด ?
ก. การให้ความสาคัญกับลูกค้า ความเป็นผู้นา การมีส่วนร่วมของบุคลากร
ข. การให้ความสาคัญกับลูกค้า การบริหารเชิงกระบวนการ การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
ค. การให้ความสาคัญแก่ลูกค้า ความเป็นผู้นา การมีส่วนร่วมของบุคลากร การบริหารเชิงกระบวนการ
การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง การตัดสินใจบนพื้นฐานของหลักฐาน การบริหารจัดการความสัมพันธ์เพื่อ
ประโยชน์ร่วมกัน
ง. การให้ความสาคัญกับลูกค้า ความเป็นผู้นา การมีส่วนร่วมของบุคลากร การบริหารเชิงกระบวนการ
การบริหารที่เป็นระบบ การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
19. ตาแหน่งงานใดในองค์กรที่เกี่ยวข้องกับระบบบริหารงานคุณภาพ?
ก. ผู้บริหารระดับสูง
ข. ผู้บริหารทุกหน่วยงาน
ค. พนักงาน
ง. ถูกทุกข้อ
20. ข้อใดคือหน้าที่ของผู้บริหารระดับสูง?
ก. รับผิดชอบต่อประสิทธิผลของระบบ
ข. แผนงานแต่ละหน่วยงาน
ค. ควบคุมกระบวนการให้เป็นไปตามเกณฑ์
ง. ถูกทุกข้อ
เฉลยข้อสอบ
หลักการบริหารความเสี่ยง และหลักการสาระสาคัญของมาตรฐาน
ISO 9001 : 2015
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
เฉลยข้อสอบ_หลักการบริหารความเสี่ยง และหลักการสาระสาคัญของมาตรฐาน ISO9001:2015
2. วัตถุประสงค์ของแนวความคิดบริหารความเสี่ยงคือเรื่องใด?
ก. การควบคุมผลิตภัณฑ์และบริการขั้นสุดท้าย
ข. การบริหารดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้มีการพัฒนา
ค. การปฏิบัติการแก้ไขและป้องกัน
ง. การปรับปรุงระบบบริหารทั้งระบบ
4. ข้อใดถูกต้องตามคาว่า “ความเสี่ยง” ?
ก. ผลกระทบเชิงบวก
ข. ผลกระทบเชิงลบ
ค. ผลกระทบทั้งเชิงบวกและเชิงลบ
ง. การเปลี่ยนแปลง
5. มาตรฐานใดคือ “กระบวนการบริหารความเสี่ยง” ?
ก. ISO 9001
ข. ISO 14001
ค. ISO 31000
ง. ISO 31010
9. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับหลักบริหารงานคุณภาพ (QMP)?
ก. การบริหารงานอย่างเป็นระบบและโปร่งใส
ข. การบริหารงานที่คานึงถึงความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ค. การบริหารงานที่มีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
ง. ถูกทุกข้อ
11. หลักการของการบริหารงานคุณภาพประกอบด้วยข้อใด ?
ก. การให้ความสาคัญกับลูกค้า ความเป็นผู้นา การมีส่วนร่วมของบุคลากร
ข. การให้ความสาคัญกับลูกค้า การบริหารเชิงกระบวนการ การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
ค. การให้ความสาคัญแก่ลูกค้า ความเป็นผู้นา การมีส่วนร่วมของบุคลากร การบริหารเชิงกระบวนการ
การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง การตัดสินใจบนพื้นฐานของหลักฐาน การบริหารจัดการความสัมพันธ์เพื่อ
ประโยชน์ร่วมกัน
ง. การให้ความสาคัญกับลูกค้า ความเป็นผู้นา การมีส่วนร่วมของบุคลากร การบริหารเชิงกระบวนการ
การบริหารที่เป็นระบบ การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
19. ตาแหน่งงานใดในองค์กรที่เกี่ยวข้องกับระบบบริหารงานคุณภาพ?
ก. ผู้บริหารระดับสูง
ข. ผู้บริหารทุกหน่วยงาน
ค. พนักงาน
ง. ถูกทุกข้อ
20. ข้อใดคือหน้าที่ของผู้บริหารระดับสูง?
ก. รับผิดชอบต่อประสิทธิผลของระบบ
ข. แผนงานแต่ละหน่วยงาน
ค. ควบคุมกระบวนการให้เป็นไปตามเกณฑ์
ง. ถูกทุกข้อ
ความเคลื่อนไหวของมาตรฐานระบบการบริหารงานคุณภาพ
ความเคลื่อนไหวของมาตรฐานระบบการบริหารงานคุณภาพ มีความต่อเนื่องในการพัฒนามาตรฐาน
ISO 9001 ดังนี้
- มาตรฐานทุกมาตรฐานจะถูกนามาทบทวนทุกๆ 5 ปี
- การประกาศใช้มาตรฐาน ISO 9001 แต่ละฉบับ ตามช่วงเวลา
o ประกาศใช้ฉบับแรกเมื่อปี พ.ศ. 2530 (1987)
o ประกาศแก้ไขเป็นฉบับ 2 (2nd Edition) ปี พ.ศ. 2537(1994)
o ประกาศแก้ไขเป็นฉบับ 3 (3rd Edition) ปี พ.ศ. 2543 (2000)
o ประกาศแก้ไขเป็นฉบับ 4 (4th Edition) ปี พ.ศ. 2552 (2008)
o ปัจจุบันการประกาศใช้ เป็นฉบับที่ 5 (5th Edition) เมือ่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
- วัตถุประสงค์ในการทบทวนมาตรฐานเพื่อให้มั่นใจว่า :
a) มาตรฐานสามารถนาไปใช้ในทางปฏิบัติได้หรือไม่
b) มาตรฐานยังเหมาะสมที่จะใช้ในการฝึกอบรม หรือเหมาะสมในการใช้งานอยู่หรือไม่
c) มาตรฐานสามารถนาไปใช้งานได้อย่างเหมาะสมครอบคลุมงานทุกประเภท หรือทุก
ขนาดขององค์กร หรือทุกอุตสาหกรรม หรือทุกผลิตภัณฑ์หรือไม่
ช่วงเวลาและการปรับเปลี่ยนระบบการบริหารงานคุณภาพ
โครงสร้างของระบบการจัดการในชุดอนุกรมมาตรฐานระบบการบริหารงานคุณภาพ
- องค์กรที่แสวงหาความสาเร็จอย่างยั่งยืนในการใช้ระบบการบริหารงานคุณภาพ
- ลูกค้าที่ต้องการความเชื่อมั่นในความสามารถขององค์กรในการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการที่สอดคล้อง
กับความต้องการอย่างต่อเนื่อง
- องค์กรที่แสวงหาความเชื่อมั่นในห่วงโซ่อุปทานของตนว่าจะต้องปฏิบัติตามข้อกาหนดด้านผลิตภัณฑ์
และบริการ
- องค์กรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต้องการปรับปรุงโดยการสื่อสารด้วยความเข้าใจร่วมกันในคาศัพท์ที่ใช้ใน
การจัดการคุณภาพ
- องค์กรที่ดาเนินการประเมินความสอดคล้องตามข้อกาหนด ISO 9001
- ผู้ที่ให้การฝึกอบรม การประเมินผล หรือให้คาปร้กษาแนะนาในการจัดทาระบบการบริหารงาน
คุณภาพ
- นักพัฒนามาตรฐานที่เกี่ยวข้อง
มาตรฐานสากล ISO 9000 ฉบับนี้ให้แนวคิดพื้นฐานหลัก และคาศัพท์สาหรับระบบการจัดการคุณภาพ
โดยเป็นพื้นฐานสาหรับมาตรฐานระบบการบริหารงานคุณภาพด้านอื่น ๆ จุดมุ่งหมายเพื่อช่วยผู้ใช้ในการทาความเข้าใจ
เกี่ยวกับแนวคิดพื้นฐานหลัก และคาศัพท์ในการบริหารจัดการคุณภาพเพื่อให้สามารถนาระบบไปใช้ และเกิดความตระหนัก
ถ้งคุณค่าจากระบบการบริหารงานคุณภาพตามมาตรฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แนวคิดพื้นฐานหลักการกระบวนการและทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพจะช่วยให้องค์กรสามารถบรรลุ
วัตถุประสงค์ได้ รวมถ้งใช้ได้กับทุกองค์กรโดยไม่คาน้งถ้งขนาดขนาดความซับซ้อนหรือรูปแบบธุรกิจ มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่ม
ความตระหนักขององค์กรเกี่ยวกับหน้าที่และความมุ่งมั่นในการตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของลูกค้าและผู้มี
ส่วนได้เสียและเพื่อสร้างความพ้งพอใจต่อผลิตภัณฑ์และบริการขององค์กร
มาตรฐานสากลฉบับนี้ประกอบด้วยหลักการบริหารงานคุณภาพ 7 ประการ ในหลักการการจัดการคุณภาพ
แต่ละข้อมี "คาอธิบาย" อธิบายถ้งหลักการ และ "เหตุผล" อธิบายถ้งเหตุผลที่ทาไมองค์กรต้องจัดทา และ "ประโยชน์หลัก"
ที่จะได้รับ และ "การกระทาที่เป็นไปได้" เพื่อทีอ่ งค์กรสามารถนาหลักการนี้ไปใช้ได้
การบริหารเชิงกระบวนการ
(การนาข้อกาหนดตั้งแต่ข้อ4 ถ้ง ข้อ10 มาวางเป็นการบริหารเชิงกระบวนการ)
ISO 9001:2015, Figure 2 — Representation of the structure of this International Standard in the PDCA cycle
ที่มา ; https://www.iso.org/obp/ui/#iso:std:iso:9004:ed-4:v1:en
หลักการสาคัญที่ทาให้การตรวจประเมินเกิดประสิทธิผลและมีความน่าเชื่อถือทาให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
เพื่อการปรับปรุงสมรรถนะองค์กร มี 2 ส่วนคือ ผู้ตรวจประเมิน และกระบวนการตรวจประเมิน ดังนั้นจะแสดงภาพ
ของกระบวนการตรวจประเมิน และความสามารถผู้ตรวจประเมินเป็นผังกระบวนการ ด้านล่าง
ผังแสดงกระบวนการในการจัดการโปรแกรมการตรวจประเมิน
รูปแบบของกิจกรรมการตรวจประเมิน
ผังแสดงความสัมพันธ์ของการประเมินผู้ตรวจประเมินระยะต่าง ๆ
ข้อสอบ
อนุกรมมาตรฐาน ISO 9000
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อสอบ_อนุกรมมาตรฐาน ISO 9000
2. มาตรฐานคุณภาพฉบับเริ่มต้นคือมาตรฐานฉบับใด ?
ก. BS 5750
ข. อนุกรมมาตรฐาน 176
ค. อนุกรมมาตรฐาน ISO 9000
ง. อนุกรมมาตรฐาน ISO 9001
4. มาตรฐานทุกมาตรฐานจะถูกนามาทบทวนทุกกี่ปี ?
ก. 3 ปี
ข. 5 ปี
ค. 6 ปี
ง. 8 ปี
12. มาตรฐานฉบับใดที่นาไปใช้เพื่อขอการรับรองได้ ?
ก. ISO 9000 ; หลักการพื้นฐานและคาศัพท์ (Fundamental and Vocabulary)
ข. ISO 9001 ; ข้อกาหนด (Requirements)
ค. ISO 9004 ; แนวทางกระบวนการปรับปรุงระบบบริหารคุณภาพ(A quality management
approach)
ง. ISO19011 ; แนวทางการตรวจประเมินระบบการจัดการ (Guidelines for auditing management
systems)
13. หากต้องการแนวทางในการพัฒนาองค์กรต้องใช้มาตรฐานฉบับใด?
ก. ISO 9000 ; หลักการพื้นฐานและคาศัพท์ (Fundamental and Vocabulary)
ข. ISO 9001 ; ข้อกาหนด (Requirements)
ค. ISO 9004 ; แนวทางกระบวนการปรับปรุงระบบบริหารคุณภาพ(A quality management
approach)
ง. ISO19011 ; แนวทางการตรวจประเมินระบบการจัดการ (Guidelines for auditing management
systems)
เฉลยข้อสอบ
อนุกรมมาตรฐาน ISO 9000
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
เฉลยข้อสอบ_อนุกรมมาตรฐาน ISO 9000
2. มาตรฐานคุณภาพฉบับเริ่มต้นคือมาตรฐานฉบับใด ?
ก. BS 5750
ข. อนุกรมมาตรฐาน 176
ค. อนุกรมมาตรฐาน ISO 9000
ง. อนุกรมมาตรฐาน ISO 9001
4. มาตรฐานทุกมาตรฐานจะถูกนามาทบทวนทุกกี่ปี ?
ก. 3 ปี
ข. 5 ปี
ค. 6 ปี
ง. 8 ปี
12. มาตรฐานฉบับใดที่นาไปใช้เพื่อขอการรับรองได้ ?
ก. ISO 9000 ; หลักการพื้นฐานและคาศัพท์ (Fundamental and Vocabulary)
ข. ISO 9001 ; ข้อกาหนด (Requirements)
ค. ISO 9004 ; แนวทางกระบวนการปรับปรุงระบบบริหารคุณภาพ(A quality management
approach)
ง. ISO19011 ; แนวทางการตรวจประเมินระบบการจัดการ (Guidelines for auditing management
systems)
13. หากต้องการแนวทางในการพัฒนาองค์กรต้องใช้มาตรฐานฉบับใด?
ก. ISO 9000 ; หลักการพื้นฐานและคาศัพท์ (Fundamental and Vocabulary)
ข. ISO 9001 ; ข้อกาหนด (Requirements)
ค. ISO 9004 ; แนวทางกระบวนการปรับปรุงระบบบริหารคุณภาพ(A quality management
approach)
ง. ISO19011 ; แนวทางการตรวจประเมินระบบการจัดการ (Guidelines for auditing management
systems)
ในการศึกษาความหมายของคาที่ใช้ในระบบบริหารงานคุณภาพเป็นไปตามแนวทางมาตรฐาน แบ่งกลุ่ม
คาศัพท์ตามโครงสร้างระบบ คือ Plan-Do-Check-Action และให้ความหมาย
- การวางแผน (ข้อกาหนด 4-6)
- การปฏิบัติ (ข้อกาหนด 7-8)
- การประเมินสมรรถนะ (ข้อกาหนด 9)
- การพัฒนา (ข้อกาหนด 10)
การวางแผน
นโยบาย (Policy)
ความตัง้ ใจโดยรวมและทิศทางขององค์กรซึ่งได้ถูกกาหนดอย่างเป็นทางการโดยผู้บริหารสูงสุดขององค์กร
องค์กร (Organization)
บุคคลหรือกลุ่มของบุคคลซึ่งมีหน้าที่ของตนเองโดยการกาหนดความรับผิดชอบ อานาจหน้าที่ และ
ความสัมพันธ์ต่อกันเพื่อทาให้บรรลุต่อวัตถุประสงค์
วัตถุประสงค์ (Objective)
ผลลัพธ์ที่ต้องการบรรลุ
ข้อกาหนด (Requirement)
ความต้องการและความคาดหวังที่ได้ระบุไว้หรือเป็นที่เข้าใจโดยทั่วไปหรือข้อปฏิบัติตามหลักกฎหมาย
ความเสี่ยง (Risk)
ผลกระทบของความไม่แน่นอน
ความสามารถ (Competence)
การประยุกต์ใช้ความรู้ และทักษะเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ
กระบวนการ (Process)
กลุ่มของกิจกรรมที่สัมพันธ์ หรือมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันเพื่อเปลี่ยนปัจจัยนาไปสู่ผลลัพธ์ที่ต้องการ
การประเมินผลการปฏิบัติงาน (Performance)
การตรวจประเมิน (Audit)
กระบวนการที่กระทาอย่างเป็นอิสระ จัดทาเป็นลายลักษณ์อักษร อย่างเป็นกระบวนการเพื่อรวบรวม
หลักฐานการตรวจประเมิน และประเมินผลอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อตัดสินระดับผลการบรรลุเป้าหมายของ
เกณฑ์การตรวจประเมิน
ประสิทธิผล (Effectiveness)
ขอบเขตที่ซึ่งกิจกรรมที่ได้รับการวางแผนไว้ถูกทาให้เป็นจริงขึ้นมาและผลลัพธ์ที่วางแผนไว้ก็บรรลุผลสาเร็จ
สมรรถนะ (Performance)
ผลลัพธ์ที่วัดได้
การตรวจสอบ (Monitoring)
การดาเนินตามสถานะของระบบ ซึ่งเป็นระบบหรือกิจกรรม
การวัด (Measurement)
กระบวนการในการพิจารณาค่า
การพัฒนา (Improving)
ความสอดคล้อง (Conformity)
การปฏิบัติตามข้อกาหนด
ความไม่สอดคล้อง (Nonconformity)
การไม่บรรลุผลตามข้อกาหนด
ข้อสอบ
นิยามและคาศัพท์ใน ISO 9001 : 2015 ตาม ISO 9000 : 2015
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อสอบ_นิยามและคาศัพท์ใน ISO 9001V2015 ตาม ISO 9000:2015
2. “ภายในองค์กร: ผู้บริหาร พนักงาน คปอ. สหภาพฯ ภายนอกองค์กร: ลูกค้า ผู้ขาย ผู้รับจ้าง ผู้เยี่ยมชม
ชุมชน หน่วยงานภาครัฐ” เป็นกิจกรรมหรือการดาเนินงานสอดคล้องกับความหมายของคาอธิบายศัพท์ ใน
กับคาศัพท์ใด
ก. ข้อกาหนด
ข. องค์กร
ค. ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ง. เอกสารสารสนเทศ
8. คาศัพท์ใดต่อไปนี้ให้ความหมายไม่ได้อยู่ในส่วนของการวางแผนในระบบบริหารงานคุณภาพ ?
ก. ผู้มีส่วนได้เสีย (Interested party)
ข. ความเสี่ยง (Risk)
ค. วัตถุประสงค์ (Objective)
ง. ความสอดคล้อง (Conformity)
9. ความหมายดังต่อไปนี้
“ความตั้งใจโดยรวมและทิศทางขององค์กรซึ่งได้ถูกกาหนดอย่างเป็นทางการโดยผู้บริหารสูงสุดของ
องค์กร” คือความหมายของคาศัพท์ใด?
ก. ระบบ (system)
ข. การบริหารงานระบบคุณภาพ (quality management system)
ค. นโยบาย (policy)
ง. ระบบบริหาร (management system)
17. “คู่มือ Procedure, Work instruction, Form, ประกาศ กฎระเบียบ สัญลักษณ์เตือนอันตราย โปรแกรม
SAP, โปรแกรม Pay roll” เป็นกิจกรรมสอดคล้องกับความหมายของคาอธิบายศัพท์ ในกับคาศัพท์ใด
ก. เอกสารสารสนเทศ
ข. เอกสาร
ค. บันทึก
ง. คู่มือการปฏิบัติงาน
18. ความหมายดังต่อไปนี้
“บุคคลหรือกลุ่มของบุคคลซึ่งมีหน้าที่ของตนเองโดยการกาหนดความรับผิดชอบ อานาจหน้าที่ และ
ความสัมพันธ์ต่อกันเพื่อทาให้บรรลุต่อวัตถุประสงค์” คือความหมายของคาศัพท์ใด?
ก. สภาพแวดล้อมในการทางาน(work Environment)
ข. องค์กร(organization)
ค. ผังองค์กร(organization structure)
ง. โครงสร้างพื้นฐาน(Infrastructure)
เฉลยข้อสอบ
นิยามและคาศัพท์ใน ISO 9001 : 2015 ตาม ISO 9000 : 2015
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
เฉลยข้อสอบ_นิยามและคาศัพท์ใน ISO 9001:2015 ตาม ISO 9000:2015
2. “ภายในองค์กร: ผู้บริหาร พนักงาน คปอ. สหภาพฯ ภายนอกองค์กร: ลูกค้า ผู้ขาย ผู้รับจ้าง ผู้เยี่ยมชม
ชุมชน หน่วยงานภาครัฐ” เป็นกิจกรรมหรือการดาเนินงานสอดคล้องกับความหมายของคาอธิบายศัพท์ ใน
กับคาศัพท์ใด
ก. ข้อกาหนด
ข. องค์กร
ค. ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ง. เอกสารสารสนเทศ
8. คาศัพท์ใดต่อไปนี้ให้ความหมายไม่ได้อยู่ในส่วนของการวางแผนในระบบบริหารงานคุณภาพ ?
ก. ผู้มีส่วนได้เสีย (Interested party)
ข. ความเสี่ยง (Risk)
ค. วัตถุประสงค์ (Objective)
ง. ความสอดคล้อง (Conformity)
9. ความหมายดังต่อไปนี้
“ความตั้งใจโดยรวมและทิศทางขององค์กรซึ่งได้ถูกกาหนดอย่างเป็นทางการโดยผู้บริหารสูงสุดของ
องค์กร” คือความหมายของคาศัพท์ใด?
ก. ระบบ (system)
ข. การบริหารงานระบบคุณภาพ (quality management system)
ค. นโยบาย (policy)
ง. ระบบบริหาร (management system)
17. “คู่มือ Procedure, Work instruction, Form, ประกาศ กฎระเบียบ สัญลักษณ์เตือนอันตราย โปรแกรม
SAP, โปรแกรม Pay roll” เป็นกิจกรรมสอดคล้องกับความหมายของคาอธิบายศัพท์ ในกับคาศัพท์ใด
ก. เอกสารสารสนเทศ
ข. เอกสาร
ค. บันทึก
ง. คู่มือการปฏิบัติงาน
18. ความหมายดังต่อไปนี้
“บุคคลหรือกลุ่มของบุคคลซึ่งมีหน้าที่ของตนเองโดยการกาหนดความรับผิดชอบ อานาจหน้าที่ และ
ความสัมพันธ์ต่อกันเพื่อทาให้บรรลุต่อวัตถุประสงค์” คือความหมายของคาศัพท์ใด?
ก. สภาพแวดล้อมในการทางาน(work Environment)
ข. องค์กร(organization)
ค. ผังองค์กร(organization structure)
ง. โครงสร้างพื้นฐาน(Infrastructure)
ข้อกาหนดมาตรฐาน : Requirement
ข้อกาหนดระบบบริหารงานคุณภาพ ข้อ 0 - 3
0 บทนา
0.1 ทั่วไป
ระบบบริหำรงำนคุณภำพต้องกำรให้องค์กรมีกำรตัดสินใจเชิงกลยุทธ์เพื่อปรับปรุงประสิทธิภำพและมี
พื้นฐำนเพื่อพัฒนำอย่ำงยั่งยืน
ผลประโยชน์ระบบบริหำรงำนคุณภำพตำมมำตรฐำนสำกล คือ
ก) ควำมสำมำรถในกำรจัดหำผลิตภัณฑ์และบริกำรที่ตอบสนองต่อลูกค้ำและข้อกำหนดตำมกฎหมำย
และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
ข) เพิ่มควำมพึงพอใจลูกค้ำ
ค) มีกระบวนกำรจัดกำรกับควำมเสี่ยงและโอกำส ที่เกี่ยวข้องกับบริบท และวัตถุประสงค์ขององค์กร
ง) มีระบบบริหำรงำนคุณภำพตำมมำตรฐำนฉบับนี้
โครงกำรพัฒนำหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มำตรฐำน ISO 9001:2015 หน้า 1 จาก 15
#R2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อกำหนดของมำตรฐำน ISO 9001:2015 และแนวทำงกำรจัดทำระบบ
1. ผลวัตถุประสงค์ของมำตรฐำนนี้คือเพื่อช่วยให้องค์กรต่ำงๆสำมำรถให้บริกำรได้ ผลิตภัณฑ์และบริกำรที่ตอบสนอง
ทุกควำมต้องกำรของลูกค้ำที่เกี่ยวข้องและและสอดคล้องกับกฎระเบียบและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องทั้งหมดสำมำรถ
บรรลุได้ โดยกำรวำงระบบบริหำรงำนคุณภำพต้องให้มีควำมต่อเนื่องและเหมำะสมเพื่อให้ระบบมีประสิทธิผล
และมีกำรปรับปรุงอย่ำงต่อเนื่อง
2. ระบบกำรบริหำรงำนคุณภำพต้องเป็นเชิงกลยุทธ์ และมีประสิทธิภำพอย่ำงเป็นกระบวนกำร ต้องดำเนินกำรดังนี้
a. ผู้บริหำรระดับสูง ผู้บริหำรทุกหน่วยงำนต้องพิจำรณำจัดระบบกำรบริหำรงำนคุณภำพให้ครอบคลุมทุก
กระบวนกำรขององค์กรตำมขอบข่ำยและขอบเขต ในกรณีที่องค์กรไม่พร้อมในกำรจัดระบบทั้งองค์กรอัน
เนื่องมำจำกขำดแคลนทรัพยำกร และควำมจำเป็นทำงธุรกิจ ก็อำจพิจำรณำจัดระบบให้ครอบคลุมเฉพำะ
ผลิตภัณฑ์หรือบริกำร หรือ สถำนประกอบกำรบำงแห่งก่อน แล้วจึงมำขยำยผลต่อไปในภำยหลัง โดยมี
แนวทำงในกำรพิจำรณำขอบข่ำยของระบบตำมข้อ 4 ของมำตรฐำนฉบับนี้
b. ผู้บริหำรระดับสูงขององค์กรต้องนำกำรบริหำรควำมเสี่ยงมำประยุกต์ใช้ในองค์กร และมอบหมำยให้
ผู้บริหำรทุกหน่วยงำนเข้ำมำร่วมตัดสินใจเชิงกลยุทธ์เพื่อปรับปรุงประสิทธิภำพและมีพื้นฐำนเพื่อพัฒนำ
อย่ำงยั่งยืน
3. องค์กรต้องวำงระบบให้เห็นว่ำสำมำรถให้บริกำรผลิตภัณฑ์และบริกำรได้อย่ำงสม่ำเสมอ สำมำรถตอบสนองควำม
ต้องกำรของลูกค้ำได้สอดคล้อง รวมถึงข้อกำหนดทำงกฎหมำยและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง โดยต้องวำงระบบและ
ได้ผลกำรปฏิบัติ (Intended Outcome) ออกมำต้องมีอย่ำงน้อย 3 ด้ำน ดังนี้
a. ควำมสำมำรถเพิ่มควำมพึงพอใจของลูกค้ำได้อย่ำงต่อเนื่อง
b. ควำมสำมำรถปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริกำรได้อย่ำงต่อเนื่อง
c. ควำมสำมำรถในกำรปฏิบัติและผลของกระบวนกำรควำมสำมำรถในกำรทำให้ผลิตภัณฑ์และบริกำร
สอดคล้องกับข้อกำหนดของลูกค้ำ สอดคล้องตำมข้อกำหนดตำมกฎหมำยและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
อย่ำงต่อเนื่อง
0.2 หลักการบริหารงานคุณภาพ
มำตรฐำนสำกลฉบับนี้ยึดหลักกำรบริหำรจัดกำรคุณภำพที่อธิบำยไว้ใน ISO 9000 คำอธิบำยรวมถึง
คำอธิบำยแต่ละข้อว่ำทำไมหลักกำรมีควำมสำคัญต่อองค์กรตัวอย่ำงของผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับหลักกำรและ
ตัวอย่ำงกำรกระทำโดยทั่วไป ปรับปรุงประสิทธิภำพขององค์กรเมื่อใช้หลักกำรนี้
หลักกำรบริหำรคุณภำพคือ
1. ให้ควำมสำคัญแก่ลูกค้ำ (Customer Focus)
2. ควำมเป็นผู้นำ (Leadership)
3. กำรมีส่วนร่วมของบุคลำกร (Engagement of people)
4. กำรบริหำรเชิงกระบวนกำร (Process approach)
5. กำรปรับปรุงอย่ำงต่อเนื่อง (Improvement)
6. กำรตัดสินบนพื้นฐำนของหลักฐำน (Evidence-based decision making)
7. กำรบริหำรจัดกำรควำมสัมพันธ์เพื่อประโยชน์ร่วมกัน (Relationship management)
0.3.3 หลักกำรบริหำรควำมเสี่ยง
หลักกำรบริหำรควำมเสี่ยงมีควำมสำคัญต่อกำรบรรลุประสิทธิภำพระบบบริหำรคุณภำพ องค์กรต้องวำงแผนและ
ดำเนินกำรเพื่อจัดกำรควำมเสี่ยงและโอกำสต่ำงๆเพื่อให้เป็นไปตำมข้อกำหนดของมำตรฐำนสำกลฉบับนี้ กำรจัดกำร
กับควำมเสี่ยงและโอกำสสร้ำงพืน้ ฐำนสำหรับกำรเพิ่มประสิทธิภำพของระบบกำรจัดกำรคุณภำพกำรบรรลุผลทีด่ ีขึ้น
และป้องกันผลเสีย
0.3.1 ทั่วไป
มำตรฐำนสำกลฉบับนี้สนับสนับสนุนและส่งเสริมให้องค์กรนำ 3 กระบวนกำรมำใช้ให้เป็นระบบ
บริหำรงำนคุณภำพ คือ 1) กระบวนกำรพัฒนำ 2) กระบวนกำรนำระบบไปปฏิบัติ และ 3)กำรปรับปรุงประสิทธิผลของ
ระบบบริหำรงำนคุณภำพ ทั้ง3 กระบวนกำรเพื่อเพิ่มควำมพึงพอใจของลูกค้ำโดยกำรตอบสนองข้อกำหนดของลูกค้ำ
โดยในมำตรฐำนฉบับนี้ได้กำหนดกำรวำงกระบวนกำรอย่ำงเป็นระบบกำรไว้ในข้อ 4.4
กำรบริหำรเชิงกระบวนกำร คือกลยุทธ์กำรจัดกำร เมื่อผู้บริหำรดำเนินกำรบริหำรเชิงกระบวนกำร
หมำยถึง ต้องทำกำรจัดกำรและควบคุมกระบวนกำรขององค์กรโดยกำรสร้ำงปฏิสัมพันธ์ระหว่ำงกระบวนกำร ควบคุม
ปัจจัยนำเข้ำและผลผลิตของกระบวนกำรเหล่ำนี้อย่ำงเป็นระบบ
รูป ควำมหมำยของกระบวนกำรและกำรจัดกำรเชิงกระบวนกำร
- กำรตรวจสอบย้อนกลับ - กระบวนกำรประเมินผลกำรปฏิบัติงำน
- กระบวนกำรจัดจำหน่ำย - กระบวนกำรออกแบบและพัฒนำ
- กระบวนกำรบำรุงรักษำ - กระบวนกำรจัดกำรข้อมูล
- กระบวนกำรบริหำรจัดกำร - กระบวนกำรสื่อสำรกับลูกค้ำ
- กระบวนกำรหลังกำรส่งมอบ
ปัจจัยนำเข้ำและผลผลิต มำตรฐำน ISO 9001:2015 กำหนดผลผลิตเป็น "ผลลัพธ์ของกระบวนกำร" ซึง่
ผลผลิตแยกได้เป็น 4 ประเภท ได้แก่ บริกำร ซอฟต์แวร์ ฮำร์ดแวร์ และวัสดุแปรรูป อย่ำงไรก็ตำมผลลัพธ์ของ
กระบวนกำรเป็นได้ทั้งสิ่งที่จับต้องได้ หรือสิ่งที่จับต้องไม่ได้
“ผลผลิต” หมำยรวมถึง
- ผลผลิตประเภท กำรบริกำรซอฟต์แวร์ ฮำร์ดแวร์ และวัสดุกำรประมวลผลที่ให้ทิศทำงกำรตัดสินใจ
เช่น โปรแกรมซอฟแวร์ประเภทต่ำงๆ ตัวอย่ำง โปรมแกรมวำงแผน เช่น MRP - Material
Requirement Planning, ERP - Enterprise Resource Planning หรือ เครื่องมือของกำร
ประมวลผล เช่น SAP, Oracle
- ผลผลิตประเภท คำแนะนำ แผนกำร นโยบำย ข้อเสนอ กำรแก้ปัญหำ ควำมคำดหวัง เช่น งำนบริกำร
ให้คำปรึกษำ
- ผลผลิตประเภท กฎระเบียบ ควำมต้องกำร ข้อเสนอแนะ ข้อร้องเรียนข้อคิดเห็นกำรวัดและรำยงำน
เช่น งำนของภำครัฐ งำนด้ำนดำรตลำด
ซึง่ ผลผลิตเป็นได้เกือบทุกอย่ำง ซึ่งสังเกตได้ว่ำผลผลิตของกระบวนกำรย้อนไปที่ปัจจัยนำเข้ำจริงๆ
แล้วเป็นสิ่งเดียวกัน
กระบวนการและ PDCA
กำรบริหำรเชิงกระบวนกำรเป็นกระบวนกำรที่เชื่อมโยงกันอย่ำงเป็นระบบโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บรรลุ
วัตถุประสงค์ตำมนโยบำยคุณภำพและทิศทำงกลยุทธ์ขององค์กร กำรบริหำรเชิงกระบวนกำรจะใช้วิธีกำร “วำงแผน-
ปฏิบัติ-ตรวจสอบ-พัฒนำ”(PDCA) ที่เน้น “กำรบริหำรควำมเสี่ยง” เพื่อป้องกันผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์
ปฏิสัมพันธ์ของกระบวนการ
กำรเชื่อมโยงกระบวนกำรทั้งหมดเป็นระบบบริหำรงำนคุณภำพตั้งแต่ “ปัจจัยนำเข้ำ” ไปถึง
“ผลผลิต”ซึ่งมีควำมยุ่งยำกและซับซ้อน ดังนั้นจึงควรสร้ำงแผนภำพของระบบบริหำรงำนคุณภำพที่ครอบคลุม
กระบวนกำรทั้งหมดที่สัมพันธ์กันไว้เป็นแผนผังฉบับเดียว ตำมแผนผังด้ำนล่ำง
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. กระบวนกำรตำม ISO 9001 ส่วนที่ 0.3 นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับกระบวนกำรของระบบบริหำรงำนคุณภำพ โดย
ข้อกำหนดที่ 4 ถึง 10 อธิบำยสิ่งที่ต้องนำมำสร้ำงเป็นกระบวนกำร
2. กระบวนกำรในระบบบริหำรงำนคุณภำพเป็นกำรนำนโยบำยคุณภำพมำบริหำรโดยกำหนดเป็นกระบวนกำรเพื่อ
จัดกำรและควบคุมให้บรรลุวัตถุประสงค์คุณภำพ แต่ละกระบวนกำรในขอบข่ำยกำรดำเนินธุรกิจต้องสัมพันธ์กัน
และเชื่อมโยงกัน
3. แต่ละกระบวนกำรใช้ทรัพยำกรในกำรแปลง “ปัจจัยนำเข้ำ” เป็น “ผลผลิต” โดยผลผลิตของกระบวนกำรหนึ่ง
กลำยเป็นข้อมูลของกระบวนกำรอื่น
4. กระบวนกำรทีม่ ีควำมสัมพันธ์กันตั้งแต่ปัจจัยนำเข้ำไปเป็นผลผลิตอย่ำงเป็นระบบเป็นกำรสร้ำงระบบบริหำรงำน
คุณภำพ
5. องค์กรต้องกำหนดกระบวนกำรภำยใต้ขอบข่ำยระบบบริหำรงำนคุณภำพ นำไประบุลำดับและปฏิสัมพันธ์ของ
กระบวนกำรให้เป็นระบบ ระบุปัจจัยนำเข้ำที่จำเป็นและผลลัพธ์ที่คำดหวังสำหรับแต่ละกระบวนกำรเพื่อระบุควำม
เสี่ยงและโอกำส มอบหมำยหน้ำที่และอำนำจหน้ำที่ของแต่ละฝ่ำย จำกนั้นระบุวิธีกำรที่จำเป็นในกำรดำเนินกำรแต่
ละกระบวนกำร กำรติดตำมวัดประเมินและควบคุมแต่ละขั้นตอนของกระบวนกำร
6. เมื่อสร้ำงระบบบริหำรงำนคุณภำพแล้ว ต้องพิจำรณำทรัพยำกรที่จำเป็นในแต่ละกระบวนกำร ต้องพิจำรณำกำร
จัดกำรควำมเสี่ยงและโอกำสที่อำจมีผลต่อกำรดำเนินกระบวนกำร รวมถึงพิจำรณำว่ำบริบทและผู้มีส่วนได้เสีย
สำมำรถส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ที่ตั้งใจไว้
7. กำรทำแผนภำพระบบบริหำรงำนคุณภำพแสดงกระบวนกำรต่ำงๆ ตัวอย่ำง
1. เป็นหนึ่งในวัตถุประสงค์หลักของระบบบริหำรงำนคุณภำพเพื่อทำหน้ำที่เป็นเครื่องมือป้องกัน
2. แนวคิดของกำรดำเนินกำรป้องกัน
3. องค์กรต้องวำงแผนและดำเนินกำรเพื่อแก้ไขปัญหำควำมเสี่ยงและโอกำสต่ำงๆ
0.4 ความสัมพันธ์กับระบบมาตรฐานการจัดการอื่นๆ
มำตรฐำนสำกลฉบับนี้ใช้กรอบกำรพัฒนำของ ISO เพื่อปรับปรุงกำรจัดตำแหน่งระหว่ำงมำตรฐำนสำกล
สำหรับระบบกำรจัดกำร (ดูข้อ A.1)
มำตรฐำนสำกลฉบับนี้ช่วยให้องค์กรสำมำรถใช้แนวทำงกระบวนกำรควบคู่กับวัฏจักร PDCA และกำรคิด
ตำมควำมเสี่ยงเพื่อให้สอดคล้องหรือบูรณำกำรระบบกำรจัดกำรด้ำนคุณภำพกับข้อกำหนดของมำตรฐำนระบบ
กำรจัดกำรอื่น ๆ รูป Relationship with other management system standards
วัตถุประสงค์ของข้อกาหนด
มำตรฐำน ISO 9001:2015 สำมำรถบูรณำกำรเข้ำกับมำตรฐำนสำกลต่ำงๆ ได้
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. ดำเนินกำรบูรณำกำร (Integrate) มำตรฐำนต่ำงๆได้ง่ำยมำกขึ้นเนื่องจำกเป็นมำตรฐำนโครงสร้ำง HLS
2. ควำมสัมพันธ์ของ ISO 9001 กับมำตรฐำนกำรจัดกำรอื่นๆ เป็นตำมตำรำง (ตำมข้อ 0.4 ควำมเชื่อมโยง
กับมำตรฐำนต่ำงๆ ใน ISO 9001:2015)
1 ขอบเขต (Scope)
1. ขอบเขต (Scope)
ข้อกำหนดเฉพำะนี้ใช้กับระบบบริหำรคุณภำพขององค์กร
a) ต้องกำรแสดงถึงควำมสำมำรถอย่ำงสม่ำเสมอที่จะเตรียมผลิตภัณฑ์และบริกำรให้สอดคล้องกับควำม
ต้องกำรลูกค้ำและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องและข้อกฎหมำย
b) มุ่งมั่นที่จะยกระดับควำมพึงพอใจลูกค้ำโดยผ่ำนกำรประยุกต์ใช้ระบบให้มีประสิทธิภำพ รวมถึงกระบวนกำร
ต่ำงๆ เพื่อกำรปรับปรุงของระบบ และกำรประกันควำมสอดคล้องต่อข้อกำหนดของลูกค้ำและกฎข้อบังคับ
ที่เกี่ยวข้อง
ข้อกำหนดของมำตรฐำนสำกลฉบับนี้เป็นข้อกำหนดทั่วไปและมีวัตถุประสงค์ที่สำมำรถประยุกต์ใช้กับทุกองค์กร
ประเภท ขนำด ผลิตภัณฑ์ และบริกำร
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
วัตถุประสงค์ของมำตรฐำนนี้คือเพื่อช่วยให้องค์กรต่ำงๆสำมำรถจัดหำผลิตภัณฑ์และบริกำรที่ตอบสนอง
ทุกควำมต้องกำรของลูกค้ำที่เกี่ยวข้อง สอดคล้องกับกฎระเบียบ และข้อบังคับที่เกี่ยวข้องทั้งหมดสำมำรถบรรลุได้ โดย
กำรวำงระบบบริหำรงำนคุณภำพต้องให้มีควำมต่อเนื่องและเหมำะสมเพื่อให้ระบบมีประสิทธิผล และมีกำรปรับปรุง
อย่ำงต่อเนื่อง
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. จัดตั้งระบบกำรบริหำรงำนคุณภำพเป็นเชิงกลยุทธ์ และมีประสิทธิภำพ ดำเนินกำรดังนี้
1.1 ผู้บริหำรระดับสูงพิจำรณำจัดระบบกำรบริหำรงำนคุณภำพให้ครอบคลุมทุกกระบวนกำรขององค์กรตำม
ขอบข่ำยและขอบเขต โดยมีแนวทำงในกำรพิจำรณำขอบข่ำยของระบบตำมข้อ 4 ของมำตรฐำนฉบับนี้
1.2 ผู้บริหำรระดับสูงขององค์กรต้องนำกำรบริหำรควำมเสี่ยงมำประยุกต์ใช้ในองค์กร และมอบหมำยให้ผู้บริหำร
ทุกหน่วยงำนในองค์กรมีกำรตัดสินใจเชิงกลยุทธ์เพื่อปรับปรุงประสิทธิภำพและมีพื้นฐำนเพื่อพัฒนำอย่ำงยั่งยืน
1.3 ผู้บริหำรระดับสูงต้องนำกำรผลิตและกำรบริกำร ควำมมุ่งมั่นขององค์กร พันธสัญญำกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
และกำรจัดกำรควำมเสี่ยงมำบูรณำกำรกับกำรบริหำรงำนขององค์กรและมำกำหนดไว้ในกระบวนกำร จำกนั้น
จัดทำเป็นผังกระบวนกำร ตัวอย่ำงเช่น
- วัตถุประสงค์องค์กร
- กำรควบคุมสินค้ำ/บริกำรหลักขององค์กร
- เงื่อนไขทำงธุรกิจ เช่น กฎหมำย กฎระเบียบ เช่น ระเบียบสำนักนำยกรัฐมนตรีว่ำด้วยกำรพัสดุ เงื่อนไข
กำรส่งเสริมกำรลงทุน เงื่อนไขในกำรขอกำรรับรองคุณภำพผลิตภัณฑ์
- สถำนกำรณ์ตลำด เช่น คู่แข่ง โอกำสในกำรขยำยตลำด เจำะตลำดใหม่
2. องค์กรต้องวำงระบบให้เห็นว่ำสำมำรถให้บริกำรผลิตภัณฑ์และบริกำรได้อย่ำงสม่ำเสมอ สำมำรถตอบสนองได้ตำม
ควำมต้องกำรของลูกค้ำได้สอดคล้อง รวมถึงข้อกำหนดทำงกฎหมำยและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง โดยต้องวำงระบบ
และได้ผลกำรปฏิบัติ (Intent Outcome) ออกมำต้องมีอย่ำงน้อย 3 ด้ำน ดังนี้
- ควำมสำมำรถในกำรปฏิบัติ และผลของกระบวนกำรในกำรทำให้ให้ผลิตภัณฑ์และบริกำรสอดคล้องกับ
ข้อกำหนดของลูกค้ำ สอดคล้องตำมข้อกำหนดตำมกฎหมำยและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่ำงต่อเนื่อง
- ควำมสำมำรถในกำรเพิ่มควำมพึงพอใจลูกค้ำได้อย่ำงต่อเนื่อง
- ควำมสำมำรถปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริกำรได้อย่ำงต่อเนื่อง
ข้อสอบ
ข้อกำหนดของมำตรฐำน ISO 9001 : 2015
และแนวทำงกำรจัดทำระบบ
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อสอบ_ข้อกาหนดตัวมาตรฐาน
1. ข้อใดไม่ต้องนาเข้ามาเกี่ยวข้องในการออกแบบระบบการบริหารงานคุณภาพ?
ก. สภาพแวดล้อมของธุรกิจ ความเปลี่ยนแปลงและความเสี่ยง
ข. การเปลี่ยนแปลงของความต้องการและความคาดหวัง
ค. ผลิตภัณฑ์และบริการที่ยังไม่สามารถควบคุมได้
ง. วัตถุประสงค์ขององค์กร
เฉลยข้อสอบ
ข้อกำหนดของมำตรฐำน ISO 9001 : 2015
และแนวทำงกำรจัดทำระบบ
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
เฉลยข้อสอบ_ข้อกาหนดตัวมาตรฐาน
1. ข้อใดไม่ต้องนาเข้ามาเกี่ยวข้องในการออกแบบระบบการบริหารงานคุณภาพ?
ก. สภาพแวดล้อมของธุรกิจ ความเปลี่ยนแปลงและความเสี่ยง
ข. การเปลี่ยนแปลงของความต้องการและความคาดหวัง
ค. ผลิตภัณฑ์และบริการที่ยังไม่สามารถควบคุมได้
ง. วัตถุประสงค์ขององค์กร
(4) ระบบการบริหารงานคุณภาพ
4.1 ความเข้าใจองค์กรและบริบทขององค์กร
องค์กรต้องกำหนดประเด็นภำยนอกและภำยในที่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์และทิศทำงเชิงกลยุทธ์
ขององค์กร และส่งผลต่อควำมสำมำรถในกำรบรรลุผลตำมที่กำหนดไว้ในระบบกำรจัดกำรคุณภำพ
องค์กรต้องติดตำมและทบทวนข้อมูลจำกประเด็นภำยในและภำยนอก
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
นำวัตถุประสงค์องค์กร แผนกลยุทธ์องค์กร และสมรรถนะในกำรดำเนินกำรขององค์กรมำเป็นตัวตั้ง เพื่อ
พิจำรณำประเด็นภำยใน และประเด็นภำยนอกองค์กรว่ำมีประเด็นใดที่กระทบทั้งทำงบวกและทำงลบ และ
ทบทวนเป็นระยะ
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. นำข้อมูลองค์กรในด้ำนวัตถุประสงค์องค์กร แผนกลยุทธ์องค์กร และสมรรถนะในกำรดำเนินกำรขององค์กร
มำเป็นข้อตัวตั้ง
- วัตถุประสงค์องค์กร (Purpose) พิจำรณำจำกใบอนุญำตประกอบกิจกำร ใบจดทะเบียนบริษัท
วัตถุประสงค์ในกำรจัดตั้งองค์กร เช่น องค์กรเป็นธุรกิจหนึ่งของบริษัทแม่ (Corporates)
- แผนกลยุทธ์องค์กร พิจำรณำจำกแผนกลยุทธ์ขององค์กร หรือวัตถุประสงค์หรือแผนงำนจำกบริษัท
แม่ หรือวัตถุประสงค์และแผนงำนที่องค์กรตกลงไว้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
- ควำมสำมำรถขององค์กร พิจำรณำจำกควำมสำมำรถของกระบวนกำร ณ ปัจจุบัน
2. พิจำรณำปัจจัยภำยใน หมำยถึงประเด็นทั้งด้ำนบวกและด้ำนลบที่องค์กรควบคุมได้ เช่น 4M ค่ำนิยม
วัฒนธรรม ควำมรู้ และสมรรถนะขององค์กร
3. พิจำรณำปัจจัยภำยนอก หมำยถึงประเด็นทั้งด้ำนบวกและด้ำนลบที่องค์กรควบคุมไม่ได้ ประเด็นที่มำจำก
กฎหมำย เทคโนโลยี กำรแข่งขัน กำรตลำด วัฒนธรรม สังคม และสภำพเศรษฐกิจ ไม่ว่ำจะในระดับ
นำนำชำติ ระดับประเทศ ระดับภูมิภำค หรือระดับท้องถิ่น
4. กำหนดระยะเวลำในกำรติดตำม และสถำนกำรณ์ที่ต้องทบทวนปัจจัยภำยในและปัจจัยภำยนอก
สรุปสาระสาคัญ
o จัดทำข้อมูลองค์กร และปัจจัยภำยในภำยนอกที่กระทบกับวัตถุประสงค์องค์กร แผนกลยุทธ์องค์กร และ
สมรรถนะในกำรดำเนินกำร เพื่อใช้พิจำรณำกำหนดขอบข่ำยระบบบริหำรงำนคุณภำพ(ข้อ 4.3) ต่อไป
4.2 ควำมเข้ำใจควำมต้องกำรและควำมคำดหวังของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
เนื่องด้วยผลกระทบหรือแนวโน้มผลกระทบต่อควำมสำมำรถขององค์กรในกำรที่จะรักษำ
ควำมสำมำรถในกำรทำให้ผลิตภัณฑ์และบริกำรให้เป็นไปตำมข้อกำหนดลูกค้ำและข้อกำหนดทำง
กฎหมำย องค์กรต้องพิจำรณำ
a) ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องกับระบบบริหำรคุณภำพ
b) ข้อกำหนดของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องกับระบบบริหำรคุณภำพ
องค์กรต้องติดตำมและทบทวนข้อมูลของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
พิจำรณำผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องและกระทบต่อกำรดำเนินกิจกำรขององค์กร และจัดหำข้อกำหนดของผู้มี
ส่วนได้ส่วนเสียดังกล่ำวเป็นระยะ
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. พิจำรณำนำข้อมูลองค์กร และขอบข่ำยกำรดำเนินกิจกำรขององค์กร
2. พิจำรณำรำยกำรผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตำมขอบข่ำยกำรดำเนินกิจกำรขององค์กร ดังนี้
- ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภำยในองค์กร เช่น ผู้บริหำร พนักงำน พนักงำนรับเหมำ คณะกรรมกำรต่ำงๆ
เป็นต้น
- ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภำยนอกองค์กร เช่น ลูกค้ำ ผู้บริโภค ผู้สนับสนุนผลิตภัณฑ์และบริกำร
หน่วยงำนที่ควบคุมกฎระเบียบ ชุมชน หน่วยงำนภำครัฐ เป็นต้น
3. นำข้อกำหนดของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตำมขอบข่ำยกำรดำเนินกิจกำรขององค์กรมำพิจำรณำ
- ควำมสำมำรถในกำรผลิต และบริกำร เช่น สัญญำกับบริษัทแม่ สัญญำกับลูกค้ำ สัญญำกับคู่ค้ำ
คุณสมบัติบุคลำกร,คุณลักษณะของเครื่องจักร,โครงสร้ำงพื้นฐำน และสำธำรณูปกำรตำมใบอนุญำต
- ข้อกำหนดผลิตภัณฑ์ เช่น มำตรฐำนผลิตภัณฑ์และบริกำรของลูกค้ำ มำตรฐำนผลิตภัณฑ์และ
บริกำรตำมวัตถุประสงค์องค์กร มำตรฐำนผลิตภัณฑ์และบริกำรตำมกฎหมำย หรือมำตรฐำน
ผลิตภัณฑ์และบริกำรตำมใบอนุญำต
- ข้อกำหนดตำมกฎหมำย เช่น มำตรฐำนผลิตภัณฑ์และบริกำร(เช่น มอก.) กฎหมำยเกี่ยวกับวัตถุ
อันตรำย มำตรฐำนกระบวนกำร EIA/ESA/IEE
- กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น ระเบียบปฏิบัติที่องค์กรประกำศใช้(เช่น CoC, Best practice)
ระเบียบปฏิบัติจำกบริษัทแม่ ระเบียบปฏิบัติจำกหน่วยงำนผู้ให้ใบอนุญำต คู่มือปฏิบัติจำกผู้อนุญำต
(Authorized Manual) กฎระเบียบทำงธุรกิจตำมกลุ่มธุรกิจ Code of Conduct(CoC)
- เป็นต้น
4. กำหนดระยะเวลำ และสถำนกำรณ์ที่ต้องติดตำมรำยกำรผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง
สรุปสาระสาคัญ
o จัดทำรำยกำรผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และรวบรวมข้อกำหนดของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อใช้พิจำรณำ
กำหนดขอบข่ำยระบบบริหำรงำนคุณภำr(ข้อ 4.3) และกำหนดกระบวนกำร(ข้อ 4.4)ในกำร
ดำเนินกำรตำมข้อกำหนดต่อไป
4.3 การพิจารณาขอบข่ายของระบบบริหารคุณภาพ
องค์กรต้องกำหนดขอบข่ำยและกำรประยุกต์ใช้ของระบบกำรบริหำรคุณภำพเพื่อระบุขอบเขตของ
กำรใช้งำน เมื่อพิจำรณำขอบข่ำยกำรประยุกต์ใช้องค์กรต้องพิจำรณำถึง
a) ประเด็นภำยในและภำยนอก อ้ำงอิงในข้อกำหนด 4.1
b) ข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยอ้ำงอิงในข้อกำหนด 4.2
c) ผลิตภัณฑ์และบริกำรขององค์กร
กรณีที่ขอบข่ำยกำรดำเนินกำรครอบคลุมตำมข้อกำหนดสำกลฉบับนี้ องค์กรต้องนำมำเป็นส่วน
หนึ่งในกำรประยุกต์ใช้ด้วย
ขอบเขตจะต้องระบุถึงลักษณะของผลิตภัณฑ์และบริกำร และระบุข้อละเว้นข้อกำหนดที่ไม่
ประยุกต์ใช้ในระบบบริหำรคุณภำพ
ควำมสอดคล้องของข้อกำหนดฉบับนี้จะถูกประยุกต์ใช้ทั้งหมด เว้นแต่กรณีที่ข้อกำหนดที่ไม่ถูก
ประยุกต์ใช้เหล่ำนั้นไม่ส่งผลต่อควำมสำมำรถและควำมรับผิดชอบขององค์กร ที่มีต่อควำมสอดคล้องต่อ
ข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์และบริกำรและควำมพึงพอใจของลูกค้ำ
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
ระบุขอบเขต(Boundaries) และขอบข่ำย(Scope) ในกำรจัดทำระบบกำรบริหำรงำนคุณภำพขององค์กร โดยจะ
พิจำรณำจำกผลิตภัณฑ์และบริกำรขององค์กร ปัจจัยภำยในและปัจจัยภำยนอก ข้อกำหนดของผู้มีส่วนได้ส่วน
เสียที่เกี่ยวข้อง
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. สรุปผลกำรพิจำรณำวัตถุประสงค์องค์กร ผลิตภัณฑ์และบริกำรขององค์กร ปัจจัยภำยในและปัจจัยภำยนอก
และข้อกำหนดของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องแล้ว นำมำกำหนดขอบข่ำย(Scope) และขอบเขต
(Boundaries) ในกำรจัดทำระบบกำรบริหำรงำนคุณภำพ
2. จัดทำขอบข่ำยระบบบริหำรคุณภำพเป็นข้อมูลสำรสนเทศ เช่น ประกำศ คู่มือระบบบริหำร แผนผังกำร
บริหำร โดยต้องครอบคลุม 4 ประเด็น ดังนี้
- ขอบข่ำย(Scope) หมำยถึงกำรดำเนินกิจกำรที่จะดำเนินกำรตำมระบบกำรบริหำรงำนคุณภำพ
- ขอบเขต(Boundaries) หมำยถึงสถำนที่ตั้ง และหรือสถำนที่ดำเนินกิจกำร
ตัวอย่ำงขอบข่ำยระบบกำรบริหำรงำนคุณภำพ
1. ธุรกิจกำรผลิต และมีกำรไม่ประยุกต์ใช้ข้อกำหนด
o บริษัท กรีนเนอร์ยี่ จำกัด
o ดำเนินธุรกิจผลิตพลังงำนไฟฟ้ำจำกเชื้อเพลิงชีวมวล(กำกอ้อยและแกลบ)
o โรงผลิตกระแสไฟฟ้ำตั้งอยู่เลขที่ 888 หมู่ 9 ต.เทพนคร อ.เมือง จ.กำแพงเพชร
o ครอบคลุมกิจกรรม : กำรรับเชื้อเพลิงและน้ำดิบ กำรผลิตพลังงำนไฟฟ้ำเพื่อใช้เอง และจำหน่ำยพลังงำนไฟฟ้ำ
o ขอบข่ำยกำรบริหำรขององค์กรตำมมำตรฐำนสำกลระบบบริหำรงำนคุณภำพ ตำมมำตรฐำน ISO 9001:2015
โดยไม่ประยุกต์ใช้ขอ้ กำหนด 8.3 กำรออกแบบและพัฒนำผลิตภัณฑ์และบริกำร เนื่องจำกกระบวนกำรผลิตถูกออกแบบเพื่อกำร
ผลิตกระแสไฟฟ้ำอย่ำงมีประสิทธิภำพเท่ำนั้น
2. ธุรกิจบริกำร และประยุกต์ใช้ข้อกำหนดทุกข้อกำหนด
3. ธุรกิจกำรผลิต และประยุกต์ใช้ข้อกำหนดทุกข้อกำหนด
4.4 ระบบบริหารคุณภาพขององค์กร
4.4.1 องค์กรต้องจัดทำ นำไปปฏิบัติ คงรักษำ และปรับปรุงอย่ำงต่อเนื่องในระบบคุณภำพ รวมถึง
กระบวนกำรที่จำเป็น และกำรปฏิสัมพันธ์ต่อกัน เพื่อให้สอดคล้องกับมำตรฐำนสำกลฉบับนี้
องค์กรต้องพิจำรณำกระบวนกำรที่จำเป็นต่อกำรดำเนินกำรของระบบบริหำรคุณภำพและกำร
ประยุกต์ใช้ทั่วทั้งองค์กรโดยองค์กรต้อง
a) พิจำรณำปัจจัยนำเข้ำและปัจจัยนำออกที่คำดหวังของแต่ละกระบวนกำร
b) พิจำรณำลำดับและกำรปฏิสัมพันธ์ต่อกันของกระบวนกำรเหล่ำนี้
c) พิจำรณำและประยุกต์ใช้เกณฑ์ วิธีกำร (รวมทั้งกำรตรวจติดตำม ตรวจวัด และ สมรรถนะ
ของกระบวนกำร ที่จำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่ำกำรควบคุมกระบวนกำรเกิดประสิทธิผล
d) พิจำรณำทรัพยำกรที่จำเป็นต่อกระบวนกำรให้พอเพียง
e) ระบุควำมรับผิดชอบและอำนำจในแต่ละกระบวนกำร
f) ระบุปัจจัยควำมเสี่ยงและโอกำสตำมข้อกำหนด 6.1
g) ประเมินกระบวนกำร และดำเนินกำรเปลี่ยนตำมควำมจำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่ำกระบวนกำร
บรรลุผลลัพธ์ที่คำดหวัง
h) ปรับปรุงกระบวนกำรและระบบบริหำรคุณภำพ
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
กำรพิจำรณำกระบวนกำรทำงธุรกิจในขอบเขตของระบบกำรบริหำรงำนคุณภำพ เพื่อกำหนดกระบวนกำรและ
จัดทำลำดับควำมสัมพันธ์ของของกระบวนกำรและครบทุกข้อกำหนดที่ประยุกต์ใช้เป็นแผนผังระบบ และแผนผัง
กระบวนเป็นข้อมูลสำรสนเทศ
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. จัดทำผังโครงสร้ำงองค์กรตำมขอบข่ำยระบบกำรบริหำรงำนคุณภำพ
2. จัดทำควำมสัมพันธ์ของกระบวนกำรทั้งหมดในระบบกำรบริหำรงำนคุณภำพตั้งแต่“ปัจจัยนำเข้ำ”ไปถึง
“ผลผลิต”ตำมขอบข่ำยในข้อกำหนด 4.3 และครอบคลุมกระบวนกำรทำงำนของทุกหน่วยงำนตำมผัง
โครงสร้ำงองค์กร
รวมถึงกำรจ้ำงหน่วยงำนภำยนอกดำเนินกำร(outsource)ในกระบวนกำร และ/หรือกระบวนกำรจ้ำง
เหมำช่วง (Outsourced processes)ที่มีผลกระทบต่อคุณภำพของสินค้ำและบริกำรด้วย
3. ระบบกำรบริหำรงำนคุณภำพ ประกอบไปด้วยกิจกรรมขององค์กรตำมขอบข่ำยระบบกำรบริหำรงำน
คุณภำพ ดังนี้
- กระบวนกำรหลัก ได้แก่กระบวนกำรที่จัดทำผลิตภัณฑ์และบริกำร
- กระบวนกำรสนับสนุน ได้แก่กระบวนกำรที่สนับสนุนให้กระบวนกำรหลักทำงำนอย่ำงมีประสิทธิผล
- กระบวนกำรบริหำร ได้แก่กระบวนกำรของผู้บริหำรในกำรวำงแผน ประเมินสมรรถนะ และพัฒนำ
4. จัดทำเป็นแผนภำพของระบบกำรบริหำรงำนคุณภำพที่ครอบคลุมกระบวนกำรทั้งหมดที่สัมพันธ์กันไว้เป็น
แผนผังฉบับเดียว
5. มอบหมำยหน้ำที่และอำนำจหน้ำที่ของแต่ละฝ่ำยเพื่อจัดทำกระบวนกำร
6. ผู้บริหำรที่ได้รับมอบหมำยในแต่ละกระบวนกำรต้องพิจำรณำทรัพยำกรที่จำเป็น ระบุวิธีกำรที่จำเป็นใน
กำรดำเนินกำร กำรติดตำมวัดประเมิน ควบคุมแต่ละขั้นตอนของกระบวนกำร และต้องพิจำรณำกำร
จัดกำรควำมเสี่ยงและโอกำสที่อำจมีผลต่อกำรดำเนินกระบวนกำร
7. จัดทำแผนภำพกระบวนกำรต่ำงๆ (Flowcharts)
สรุปสาระสาคัญ
o จัดทำผังโครงสร้ำงองค์กร
o จัดทำผังกระบวนกำรธุรกิจ (Business Process Flow) ที่ครอบคลุมขอบข่ำยกำรจัดทำระบบกำร
บริหำรงำนคุณภำพ
o จัดทำรำยกำรกระบวนกำร หรือผังกระบวนกำรตำมผังกระบวนกำรธุรกิจ
ตัวอย่ำงผังกระบวนกำรทำงธุรกิจ 1
ตัวอย่ำงผังกระบวนกำรทำงธุรกิจ 2
ตัวอย่ำงกระบวนกำรในระบบกำรบริหำรงำนคุณภำพ
ข้อสอบ
ข้อกำหนด 4 ระบบกำรบริหำรงำนคุณภำพ
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อสอบ_ข้อกาหนด 4 บริบทองค์กร
เฉลยข้อสอบ
ข้อกำหนด 4 ระบบกำรบริหำรงำนคุณภำพ
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
เฉลยข้อสอบ_ข้อกาหนด 4 บริบทองค์กร
5. การเป็นผู้นา (Leadership)
5.1 การเป็นผู้นาและความมุ่งมั่น
5.1.1 ข้อกาหนดทั่วไป
ผู้บริหำรระดับสูงต้องแสดงให้เห็นภำวะผูน้ ำและควำมมุง่ มั่นต่อระบบบริหำรคุณภำพโดย
a) รับผิดชอบในประสิทธิผลของระบบบริหำรคุณภำพ
b) มั่นใจว่ำมีกำรจัดทำนโยบำยคุณภำพและวัตถุประสงค์คุณภำพ สำหรับระบบบริหำรคุณภำพ และ
สอดคล้องกับบริบทและทิศทำงกลยุทธ์ขององค์กร
c) มั่นใจว่ำได้มีกำรนำข้อกำหนดระบบบริหำรคุณภำพประยุกต์ใช้ในกระบวนกำรขององค์กร
d) ส่งเสริมกำรมุ่งเน้นกระบวนกำรและกำรคิดบนพื้นฐำนควำมเสี่ยง
e) จัดให้มีทรัพยำกรที่จำเป็นสำหรับระบบกำรจัดกำรคุณภำพเพียงพอ
f) สื่อสำรควำมสำคัญของกำรบริหำรคุณภำพที่มีประสิทธิผล และควำมสอดคล้องกับข้อกำหนดของ
ระบบบริหำรคุณภำพ
g) มั่นใจว่ำ ระบบกำรจัดกำรคุณภำพบรรลุได้ตำมควำมตั้งใจ
h) สร้ำงกำรมีส่วนร่วม กำหนดแนวทำง และสนับสนุนพนักงำนดำเนินกิจกรรมในระบบบริหำร
คุณภำพอย่ำงมีประสิทธิผล
i) ส่งเสริมกำรปรับปรุง
j) สนับสนุนบทบำทอื่นๆ ในกำรบริหำร เพื่อแสดงให้เห็นถึงภำวะผู้นำในส่วนงำนที่รบั ผิดชอบ
5.1.2 การมุ่งเน้นลูกค้า
ผู้บริหำรระดับสูงต้องแสดงภำวะผู้นำ ควำมมุ่งมัน่ ในกำรมุ่งเน้นลูกค้ำโดยทำให้มั่นใจว่ำ
a) ข้อกำหนดลูกค้ำ กฎหมำยและข้อกำหนดอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ได้รับกำรพิจำรณำทำควำมเข้ำใจ และมี
ควำมครบถ้วน
b) ควำมเสี่ยงและโอกำสทีส่ ่งผลต่อควำมสอดคล้องของผลิตภัณฑ์และบริกำรและควำมสำมำรถที่ทำ
ให้ลูกค้ำพึงพอใจได้รับกำรพิจำรณำและระบุไว้
c) มุ่งเน้นกำรเพิ่มควำมพึงพอใจของลูกค้ำอย่ำงสม่ำเสมอ
โครงกำรพัฒนำหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มำตรฐำน ISO 9001:2015 หน้ำ 1 จำก 8
#R2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อกำหนดของมำตรฐำน ISO 9001:2015 และแนวทำงกำรจัดทำระบบ
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
1. ผู้บริหำรระดับสูงมีบทบำท หน้ำที่ควำมรับผิดชอบในระบบบริหำรงำนคุณภำพ
2. นำกระบวนกำรบริหำรควำมเสี่ยงมำใช้ในองค์กร
3. กำหนดกระบวนกำรเกี่ยวข้องกับควำมต้องกำรและควำมคำดหวังของลูกค้ำ ข้อกำหนดผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. พิจำรณำตำแหน่งผู้บริหำรระดับสูงขององค์กรจำกผังโครงสร้ำงองค์กรและขอบข่ำยระบบตำมข้อ 4.3
2. ผู้บริหำรระดับสูงแสดงควำมมุ่งมั่นโดยกำรดำเนินกำรในแต่ละเรื่องตำมข้อกำหนด 5.1.1 หรือจัดทำเป็น
เอกสำรสำรสนเทศหน้ำที่ควำมรับผิดชอบ
3. ผู้บริหำรระดับสูงกำหนดเครื่องมือ และกระบวนกำรเข้ำมำใช้ในองค์กร และมอบหมำยหน้ำที่ควำม
รับผิดชอบในกระบวนกำร ดังนี้
- กระบวนกำรพิจำรณำควำมเสี่ยง
- กระบวนกำรสื่อสำร และรับข้อมูลย้อนกลับจำกลูกค้ำ
- กระบวนกำรประยุกต์ใช้กฎหมำย ระเบียบปฏิบัติจำกผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น หน่วยงำนรำชกำร
ผู้ถือหุ้น เจ้ำหนี้ ชุมชนและสังคม ผู้ขำย ตลอดจนบุคลำกรขององค์กรเอง
4. สิ่งที่จำเป็นอย่ำงยิ่งสำหรับผู้บริหำรระดับสูงนอกจำกให้กำรสนับสนุนทำงด้ำนทรัพยำกร ยังจะต้อง
แสดงออกถึงควำมมุ่งมั่น ตั้งใจจริง และกำรมีส่วนร่วมในกำรดำเนินงำนในแต่ละบทบำทดังที่ได้กล่ำว
มำแล้ว โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งกำรทบทวนระบบและกำรร่วมแก้ไขปัญหำที่เกิดขึ้น จะสร้ำงแรงจูงใจให้
พนักงำนร่วมมือร่วมใจในกำรจัดระบบได้ดียิ่งขึ้น
สรุปสาระสาคัญ
o หน้ำที่ควำมรับผิดชอบของฝ่ำยบริหำรระดับสูง
o กระบวนกำรบริหำรควำมเสี่ยง
o กระบวนกำรสื่อสำรและรับข้อมูลจำกลูกค้ำ
o มอบหมำยหน้ำที่ควำมรับผิดชอบในระบบบริหำรงำนคุณภำพให้ผู้บริหำรตำมขอบข่ำยหน้ำที่ ควำมรับผิดชอบ
ตัวอย่ำงหน้ำที่ควำมรับผิดชอบของผู้บริหำรระดับสูง
- รับผิดชอบต่อประสิทธิผลของระบบ
- นโยบำยและวัตถุประสงค์สอดรับกันกับกลยุทธ์
- กำรบูรณำกำรกระบวนกำรทำงธุรกิจ
- นำกำรบริหำรควำมเสี่ยงมำใช้
- จัดสรรทรัพยำกรที่จำเป็น
- สื่อสำรให้เข้ำใจถึงควำมสำคัญระบบฯ
- ระบบบริหำรฯบรรลุผลสัมฤทธิ์ตำมที่คำดหวังไว้
- สนับสนุนบุคลำกรเข้ำมำมีส่วน
- ส่งเสริมให้มีกำรปรับปรุงอย่ำงต่อเนื่อง
- สนับสนุนให้ผู้บริหำรได้แสดงควำมเป็นผู้นำ
5.2 นโยบาย
5.2.1 การจัดทานโยบายคุณภาพ
ผู้บริหำรระดับสูงต้องจัดทำ นำไปปฏิบัติ และคงรักษำไว้นโยบำยคุณภำพซึ่ง :
a) เหมำะสมกับวัตถุประสงค์และบริบทขององค์กรและสนับสนุนทิศทำงกลยุทธ์ขององค์กร
b) เป็นกรอบในกำรกำหนดวัตถุประสงค์คุณภำพ
c) แสดงถึงควำมมุ่งมั่นในกำรบรรลุตำมข้อกำหนดที่องค์กรเกี่ยวข้อง
d) แสดงถึงควำมมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงระบบบริหำรคุณภำพอย่ำงต่อเนื่อง
5.2.2 การสื่อสารนโยบายคุณภาพ
นโยบำยคุณภำพต้อง
a) จัดทำและอยู่ในรูปแบบเอกสำรข้อมูล
b) สื่อสำรภำย ให้เข้ำใจ และนำไปปฏิบัติได้ภำยในองค์กร
c) มีควำมสอดคล้องกับผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องกับองค์กรตำมควำมเหมำะสม
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
1. ผู้บริหำรระดับสูงกำหนดนโยบำยคุณภำพที่สอดคล้องกับธุรกิจ และทิศทำงกลยุทธ์
2. กำหนดวัตถุประสงค์คุณภำพระดับองค์กร
3. จัดทำเป็นข้อมูลสำรสนเทศ และสื่อสำรนโยบำยให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภำยในและภำยนอกองค์กร
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. แนวทำงกำรกำหนดนโยบำยคุณภำพ นำข้อมูลมำพิจำรณำเพื่อกำหนดนโยบำย
- วัตถุประสงค์ขององค์กร
- แนวทำงกลยุทธ์(กรณีที่มี)
- บริบทองค์กรทั้งปัจจัยภำยใน ปัจจัยภำยนอก ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภำยในและภำยนอกองค์กร
- ข้อมูลที่ได้จำกกำรสอบถำมและข้อมูลที่ได้จำกกำรเก็บรวบรวม ทบทวน มำสรุป เป็นควำมต้องกำร
ของลูกค้ำ
2. ผู้บริหำรระดับสูงกำหนดนโยบำยคุณภำพ โดยเนื้อหำในนโยบำยคุณภำพต้องแสดงถึงเจตนำรมณ์ ดังนี้
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
กำหนดหน้ำที่ควำมรับผิดชอบ และอำนำจแต่ละตำแหน่งงำน และสื่อสำรหน้ำที่ควำมรับผิดชอบให้ผู้ดำรง
ตำแหน่งเข้ำใจ
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. ตรวจสอบขอบข่ำยกำรจัดทำระบบ พิจำรณำผังโครงสร้ำงองค์กรและขอบข่ำยระบบตำมข้อ 4.3 เพื่อ
กำหนดขอบข่ำยหน้ำที่ควำมรับผิดชอบ ดังนี้
- ทุกหน่วยงำนตำมผังโครงสร้ำง
- ผู้ที่ทำงำนในนำมขององค์กร
2. กำหนดหน้ำที่ควำมรับผิดชอบ และอำนำจแต่ละตำแหน่งงำนให้ครบตำมผังโครงสร้ำงองค์กร และขอบข่ำย
กำรจัดทำระบบ ดังนี้
- แต่ละตำแหน่งงำนตำมผังโครงสร้ำง
- ตำแหน่งพิเศษที่ไม่ได้อยู่ในผังโครงสร้ำง เช่น ตำแหน่งตำมกฎหมำย ระเบียบปฏิบัติ ข้อกำหนด
ตำแหน่งตำมประกำศ
- แต่ละตำแหน่งงำนของผู้ที่ทำงำนในนำมขององค์กร
3. กำรกำหนดหน้ำที่ควำมรับผิดชอบ และอำนำจผู้บริหำรแต่ละหน่วยงำนต้องครอบคลุมทั้งด้ำนงำนปฏิบัติกำร
ตำมขอบข่ำยระบบ ด้ำนกลยุทธ์ และด้ำนส่งเสริม
4. จัดทำเอกสำรหน้ำที่ควำมรับผิดชอบเป็นข้อมูลสำรสนเทศ ต้องประกอบด้วยหัวข้อ ดังนี้
- หน้ำที่ควำมรับผิดชอบ
- อำนำจ
สรุปสาระสาคัญ
o จัดทำเอกสำรสำรสนเทศทุกหน่วยงำน และทุกตำแหน่งงำนตำมขอบข่ำยระบบบริหำรงำนคุณภำพ
o สื่อสำรหน้ำที่ควำมรับผิดชอบให้เป็นที่เข้ำใจ
ตัวอย่ำงหน้ำที่ควำมรับผิดชอบ
ตัวอย่ำงหน้ำที่ควำมรับผิดชอบของผู้บริหำร
- บริหำรจัดกำรให้วสิ ัยทัศน์และพันธกิจบริหำรนโยบำยและวัตถุประสงค์ขององค์กรประสบควำมสำเร็จตำมเป้ำหมำย
- กำหนดแผนงำนตำมกลยุทธ์ในกำรบริหำรควำมเสี่ยงตำมนโยบำย และวัตถุประสงค์ อย่ำงมีประสิทธิภำพและมีกำรปรับปรุง
อย่ำงต่อเนื่อง
- บูรณำกำรระบบเข้ำกับกระบวนกำรทำงธุรกิจ
- ควบคุมให้มีกำรชี้บ่งประเมินควำมเสี่ยงด้ำนวัตถุประสงค์ และสมรรถนะที่เกี่ยวข้อง
- จัดสรรทรัพยำกร และนำเสนอกำรใช้ทรัพยำกรด้ำนกำรบริหำรภำยในหน่วยงำน
- ควบคุมและติดตำมกำรดำเนินงำนให้มีประสิทธิภำพและประสิทธิผลสูงสุด
- ควบคุมกระบวนกำรให้เป็นไปตำมเกณฑ์ที่องค์กร ข้อกำหนด กฎหมำยกำหนด
- ติดตำมประสิทธิผลกำรดำเนินงำนภำยใต้ควำมรับผิดชอบ และรำยงำนต่อผู้บริหำร
- ส่งเสริมและสร้ำงควำมเข้ำใจเรื่องนโยบำยบริษัท กฎระเบียบข้อบังคับในกำรทำงำนให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชำ
- สร้ำงขวัญกำลังใจและกำรร่วมมือทำงำนเป็นทีมให้แก่สร้ำงควำมสัมพันธ์อันดีกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง
- ส่งเสริมให้ผู้ใต้บังคับบัญชำเกิดกำรเรียนรู้และพัฒนำ
- ให้ควำมร่วมมือในกำรทำกิจกรรมพิเศษต่ำงๆ เช่น 5ส TPM หรือมวลชนสัมพันธ์ เป็นต้น
อำนำจ
1. มีอำนำจในกำรตัดสินใจกำรดำเนินธุรกิจ กำรให้ทรัพยำกรเพื่อกำรพัฒนำองค์กร
2. มีอำนำจสั่งกำร ดำเนินกำร ตลอดจนเข้ำลงนำมในนิติกรรม สัญญำ เอกสำรคำสั่ง หนังสือแจ้งหรือหนังสือใด ๆ ที่ใช้ติดต่อกับ
หน่วยงำนหรือบุคคลอื่น เพื่อให้กำรดำเนินงำนของบริษัทฯ สำเร็จลุลว่ งอย่ำงมีประสิทธิภำพและประสิทธิผล
3. มีอำนำจในกำรบรรจุ แต่งตั้ง ถอดถอน เลื่อน ลด ตัดเงินเดือนหรือค่ำจ้ำง ลงโทษทำงวินัย ตลอดจนให้ออกจำกตำแหน่งตำม
ระเบียบ ข้อกำหนด หรือคำสั่งที่คณะกรรมกำรบริษัท และ/หรือ บริษัทฯ กำหนด
4. มีอำนำจในกำรมอบอำนำจช่วง และ/หรือมอบหมำยให้บุคคลอื่นปฏิบัติงำนเฉพำะแทนได้ โดยกำรมอบอำนำจช่วง และ/หรือ
กำรมอบหมำยดังกล่ำวให้อยูภ่ ำยใต้ขอบเขตแห่งกำรมอบอำนำจตำมหนังสือมอบอำนำจ และ/หรือ ให้เป็นไปตำมระเบียบ
ข้อกำหนด หรือคำสั่งที่คณะกรรมกำรบริษัท และ/หรือ บริษัทฯ กำหนดไว้
ตัวอย่ำงหน้ำที่ควำมรับผิดชอบของหัวหน้ำงำน
- จัดทำแผนกำรจัดกำรระดับหน่วยงำนตำมวัตถุประสงค์และเป้ำหมำยของหน่วยงำนเพื่อกำรพัฒนำปรับปรุง
- ประสำนงำน และให้ข้อมูลกำรชี้บง่ ประเมินควำมเสี่ยงด้ำนวัตถุประสงค์ และสมรรถนะที่เกี่ยวข้อง
- บริหำรทรัพยำกรภำยในหน่วยงำน
- ควบคุมและติดตำมกำรดำเนินงำนให้มีประสิทธิภำพตำมแผน
- ควบคุมกระบวนกำรให้เป็นไปตำมเกณฑ์ที่องค์กร ข้อกำหนด กฎหมำยกำหนด
- ติดตำมประสิทธิผลกำรดำเนินงำนภำยใต้ควำมรับผิดชอบ และรำยงำนต่อผู้บริหำรตำมสำยกำรบังคับบัญชำ
- ส่งเสริมและสร้ำงควำมเข้ำใจเรื่องนโยบำยบริษัท วัตถุประสงค์องค์กร วัตถุประสงค์หน่วยงำน กฎระเบียบข้อบังคับในกำร
ทำงำนให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชำ
- ขวัญกำลังใจและกำรร่วมมือทำงำนเป็นทีมให้แก่สร้ำงควำมสัมพันธ์อันดีกับผู้มสี ่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง
- ส่งเสริมให้ผู้ใต้บังคับบัญชำเกิดกำรเรียนรู้และพัฒนำ
- ให้ควำมร่วมมือในกำรทำกิจกรรมพิเศษต่ำงๆ เช่น 5ส TPM หรือมวลชนสัมพันธ์ เป็นต้น
อำนำจ
- อนุมัติข้อมูลสำรสนเทศ และแผนงำนของแผนกที่รับผิดชอบ
- อนุมัติกำรกำรขำด ลำ มำสำยของผู้ใต้บังคับบัญชำ
ตัวอย่ำงหน้ำที่ควำมรับผิดชอบพนักงำน
- มีควำมเข้ำใจในนโยบำย วัตถุประสงค์ของบริษัท ควำมเสี่ยงต่ำงในกิจกรรม และปฏิบัติตำมที่นโยบำย ข้อบังคับเกี่ยวกับกำร
ทำงำนของบริษัทและข้อกำหนดของมำตรฐำนต่ำงกำหนดไว้
- มีหน้ำที่ดูแลรับผิดชอบคุณภำพงำนของตนเอง ควบคุมควำมเสีย่ ง และผลกระทบของตนเอง และเพื่อนร่วมงำน
- ปฏิบัติตำมกฎระเบียบ ขั้นตอน/วิธีกำรปฏิบัติงำนที่ตนเองเกี่ยวข้องอย่ำงเคร่งรัด
- ให้ข้อเสนอแนะหรือข้อร้องเรียนในกำรปรับปรุงกำรปฏิบตั ิงำนหรือคุณภำพงำนจำกกำรปฏิบตั ิงำนต่อผู้บังคับบัญชำหรือ
ผู้เกี่ยวข้อง
- มีส่วนร่วมในกำรในให้ควำมคิดเห็นเกี่ยวกับกำรปรับปรุงและพัฒนำ
อำนำจ
- ไม่มี
ตัวอย่างนโยบายคุณภาพ และวัตถุประสงค์องค์กร
ข้อสอบ
ข้อกำหนด 5ควำมเป็นผู้นำ
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อสอบ_ข้อกาหนด 5 ความเป็นผู้นา
2. ข้อใดคือวัตถุประสงค์ของข้อกาหนด “การให้ความสาคัญกับลูกค้า”?
ก. สร้างกระบวนการวัดความพึงพอใจของลูกค้า
ข. พิจารณากลุ่มลูกค้าความต้องการและความคาดหวัง
ค. กาหนดกระบวนการ “การประเมินความเสี่ยงจากกลุ่มลูกค้า”
ง. กาหนดกระบวนการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้า
4. ข้อมูลใดที่ใช้นามาพิจารณากาหนดเป็น “นโยบายคุณภาพ” ?
1) วัตถุประสงค์ขององค์กร
2) แนวทางกลยุทธ์
3) บริบทองค์กรทั้งปัจจัยภายใน ปัจจัยภายนอก ผูม้ ีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายในและภายนอกองค์กร
4) ข้อมูลความต้องการของลูกค้า
ก. 123
ข. 134
ค. 124
ง. 1234
9. ข้อใดคือวัตถุประสงค์ของข้อกาหนด “อานาจหน้าที่และความรับผิดชอบ”?
ก. กาหนดความรับผิดชอบและอานาจหน้าที่เป็นเอกสารทุกตาแหน่งงาน
ข. กาหนดหน้าที่ความรับผิดชอบทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ค. กาหนดหน้าที่ความรับผิดชอบ External Providers ที่เกี่ยวข้องในระบบฯ
ง. ถูกทุกข้อ
เฉลยข้อสอบ
ข้อกำหนด 5ควำมเป็นผู้นำ
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
เฉลยข้อสอบ_ข้อกาหนด 5 ความเป็นผู้นา
2. ข้อใดคือวัตถุประสงค์ของข้อกาหนด “การให้ความสาคัญกับลูกค้า”?
ก. สร้างกระบวนการวัดความพึงพอใจของลูกค้า
ข. พิจารณากลุ่มลูกค้าความต้องการและความคาดหวัง
ค. กาหนดกระบวนการ “การประเมินความเสี่ยงจากกลุ่มลูกค้า”
ง. กาหนดกระบวนการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้า
4. ข้อมูลใดที่ใช้นามาพิจารณากาหนดเป็น “นโยบายคุณภาพ” ?
1) วัตถุประสงค์ขององค์กร
2) แนวทางกลยุทธ์
3) บริบทองค์กรทั้งปัจจัยภายใน ปัจจัยภายนอก ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายในและภายนอกองค์กร
4) ข้อมูลความต้องการของลูกค้า
ก. 1 2 3
ข. 1 3 4
ค. 1 2 4
ง. 1 2 3 4
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015 หน้า 1 จาก 3
#R2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
เฉลยข้อสอบ_ข้อกาหนด 5 ความเป็นผู้นา
9. ข้อใดคือวัตถุประสงค์ของข้อกาหนด “อานาจหน้าที่และความรับผิดชอบ”?
ก. กาหนดความรับผิดชอบและอานาจหน้าที่เป็นเอกสารทุกตาแหน่งงาน
ข. กาหนดหน้าที่ความรับผิดชอบทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ค. กาหนดหน้าที่ความรับผิดชอบ External Providers ที่เกี่ยวข้องในระบบฯ
ง. ถูกทุกข้อ
6. การวางแผน (Planning)
6.1 การดาเนินการเพื่อระบุความเสี่ยงและโอกาส
6.1.1 เมื่อมีกำรวำงแผนสำหรับระบบกำรจัดกำรคุณภำพ, องค์กรต้องพิจำรณำประเด็นที่ระบุในข้อ
4.1 และ ข้อกำหนดต่ำงๆที่อ้ำงอิงจำกข้อ 4.2 และกำรพิจำรณำควำมเสี่ยงและโอกำสที่จำเป็น
ที่จะต้องระบุเพื่อ
a) ให้มั่นใจว่ำระบบบริหำรคุณภำพจะสำมำรถบรรลุตำมผลลัพธ์ขององค์กรได้
b) ทำให้ได้มำซึ่งผลตำมเจตนำ
c) ป้องกัน หรือ ลดผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์
d) บรรลุผลกำรปรับปรุงอย่ำงต่อเนื่อง
6.1.2 องค์กรต้องวำงแผนสำหรับ:
a) กำรดำเนินกำรเพื่อระบุควำมเสี่ยงและโอกำสเหล่ำนี้
b) วิธีกำร
1) บูรณำกำรและดำเนินกำรในกระบวนกำรจัดกำรระบบคุณภำพ(ดูข้อ 4.4)
2) ประเมินประสิทธิผลของกำรกระทำเหล่ำนี้
กำรดำเนินกำรเพื่อรับมือกับควำมเสี่ยงและโอกำสจะต้องสอดคล้องกับผลกระทบที่อำจเกิด
ขึ้นกับควำมสอดคล้องของผลิตภัณฑ์และบริกำร
หน้ำ 1 จำก 12
โครงกำรพัฒนำหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มำตรฐำน ISO 9001:2015
#R2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อกำหนดของมำตรฐำน ISO 9001:2015 และแนวทำงกำรจัดทำระบบ
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
ระบุควำมเสี่ยงและโอกำส โดยคำนึงถึงประเด็นปัจจัยภำยนอกและปัจจัยภำยใน และผู้มีส่วนได้เสียต่อระบบ
บริหำรงำนคุณภำพ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ หรือกลยุทธ์ตำมที่ต้องกำร ป้องกัน หรือลดผลกระทบที่ไม่พึง
ปรำรถนำ หรือป้องกันผลกระทบ
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. ผู้บริหำรระดับสูงพิจำรณำเลือกเครื่องมือกำรพิจำรณำควำมเสี่ยงมำใช้ในองค์กร ซึ่งสำมำรถเลือกได้จำก
ISO 31010 (ISO 31010 Risk management — Risk assessment techniques Table A.1 – Tools
used for Risk Assessment)
2. กำหนดผู้รับผิดชอบในกำรพิจำรณำควำมเสี่ยง ซึ่งต้องเป็นผู้บริหำรแต่ละหน่วยงำน หรือคณะกรรมกำรที่
แต่งตั้งขึ้นมำ
3. กำหนดกระบวนกำรพิจำรณำควำมเสี่ยงซึ่งในกระบวนกำรต้องประกอบไปด้วย
1) กำรทบทวนข้อมูล และบริบทองค์กร
2) กำรพิจำรณำปัจจัยเสี่ยง
3) กำรชี้บ่งควำมเสี่ยง
4) กำรวิเครำะห์ควำมเสี่ยง
5) กำรประเมินค่ำควำมเสี่ยง
6) กำรลดควำมเสี่ยง
7) ประเมินประสิทธิผลมำตรกำรลดควำมเสี่ยง
8) ทบทวนควำมเสี่ยง
4. องค์กรจัดทำเกณฑ์กำรพิจำรณำควำมเสี่ยง โดยนำผลกระทบควำมเสี่ยงมำพิจำรณำทำเกณฑ์กำรพิจำรณำ
เช่น
- กลยุทธ์ (Strategic Impact)
- ผลกระทบด้ำนกำรเงิน (Financial Impact)
- ผลกระด้ำนด้ำนปฏิบัติกำร (Operational Impact)
- ผลกระทบด้ำนกำรปฏิบัติตำมกฎระเบียบข้อบังคับ (Compliance Impact)
5. ผู้รับผิดชอบพิจำรณำควำมเสี่ยงทำกำรชี้บ่งควำมเสี่ยง โดยพิจำรณำจำกข้อมูลองค์กร และนำปัจจัยภำยใน
ภำยนอก มำพิจำรณำ
6. ทำกำรวิเครำะห์ควำมเสี่ยงตำมเกณฑ์กำรพิจำรณำที่กำหนด และตัดสินควำมเสี่ยง
7. ผลกำรประเมินควำมเสี่ยงที่เป็น “ควำมเสี่ยงและโอกำส” ต้องทำกำรจัดกำรควำมเสี่ยง โดยสำมำรถจัดกำร
ได้ 4 วิธีกำรดังนี้
- กำรกำหนดวัตถุประสงค์ และแผนงำน
หน้ำ 2 จำก 12
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อกำหนดของมำตรฐำน ISO 9001:2015 และแนวทำงกำรจัดทำระบบ
สรุปสาระสาคัญ
o กำหนดวิธีกำรพิจำรณำควำมเสี่ยง
o จัดทำเกณฑ์กำรประเมินควำมเสี่ยง
o ประเมินควำมเสี่ยง
o กำหนดมำตรกำรจัดกำรควำมเสี่ยงและโอกำส
o กำหนดแผนติดตำมประสิทธิผลกำรจัดกำรควำมเสี่ยง และ
o ทบทวนผลกำรพิจำรณำควำมเสี่ยงให้เป็นปัจจุบัน
ส่วนที่ 1 เครื่องมือกำรพิจำรณำควำมเสี่ยง
หน้ำ 3 จำก 12
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อกำหนดของมำตรฐำน ISO 9001:2015 และแนวทำงกำรจัดทำระบบ
หน้ำ 4 จำก 12
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อกำหนดของมำตรฐำน ISO 9001:2015 และแนวทำงกำรจัดทำระบบ
หน้ำ 1 จำก 12
โครงกำรพัฒนำหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มำตรฐำน ISO 9001:2015
#R2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อกำหนดของมำตรฐำน ISO 9001:2015 และแนวทำงกำรจัดทำระบบ
หน้ำ 2 จำก 12
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อกำหนดของมำตรฐำน ISO 9001:2015 และแนวทำงกำรจัดทำระบบ
หน้ำ 3 จำก 12
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อกำหนดของมำตรฐำน ISO 9001:2015 และแนวทำงกำรจัดทำระบบ
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
จัดทำวัตถุประสงค์คุณภำพ(Quality Objective) ตำมสำยงำน ระดับและกระบวนกำรต่ำงๆ ที่เกี่ยวข้อง
โดยวัตถุประสงค์คุณภำพดังกล่ำวต้องสอดคล้องกับนโยบำยคุณภำพ สำมำรถวัดได้ สอดคล้องกับข้อกำหนดที่
ประยุกต์ใช้ ควำมสอดคล้องของผลิตภัณฑ์และบริกำรและกำรเพิ่มควำมพึงพอใจของลูกค้ำ ต้องได้รับกำรติดตำม
ได้รับกำรสื่อสำร และปรับปรุงตำมควำมเหมำะสม
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. ผู้บริหำรแต่ละหน่วยงำนขององค์กรต้องกำหนดวัตถุประสงค์คุณภำพระดับหน่วยงำนให้สอดคล้องกับ
วัตถุประสงค์องค์กร (ตำมข้อกำหนด 5.2)
2. ที่มำของวัตถุประสงค์ของแต่ละหน่วยงำน มีที่มำได้อีก ดังนี้
- ควำมเสี่ยงและโอกำส
- ข้อกำหนดผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
หน้ำ 1 จำก 12
โครงกำรพัฒนำหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มำตรฐำน ISO 9001:2015
#R2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อกำหนดของมำตรฐำน ISO 9001:2015 และแนวทำงกำรจัดทำระบบ
- กำรพัฒนำ
3. กำหนดวัตถุประสงค์ระดับหน่วยงำน และทบทวนควำมเป็นไปได้โดยครอบคลุมรำยกำร ดังนี้
- สอดคล้องกับนโยบำยคุณภำพ หมำยถึงไปในทิศทำงเดียวกับควำมตั้งใจขององค์กร
- สำมำรถวัดได้ หมำยถึงต้องหำตัวชี้วัดและหลักฐำนผลกำรดำเนินงำนได้
- มีควำมเกี่ยวข้องกับข้อกำหนดที่ประยุกต์ใช้ หมำยถึง ค่ำของวัตถุประสงค์ต้องไม่ด้อยกว่ำกฎหมำย
ข้อกำหนดผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สมรรถนะที่องค์กรกำหนด และสมรรถนะของหน่วยงำนที่ผ่ำนมำ
- มีควำมเกี่ยวข้องกับควำมสอดคล้องข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์และบริกำร และเพื่อเพิ่มระดับควำม
พึงพอใจลูกค้ำ หมำยถึงต้องไม่กระทบต่อข้อกำหนดที่ตกลงไว้กับลูกค้ำในทำงที่ลดลง
4. จัดทำวัตถุประสงค์เป็นเอกสำรสนเทศ โดยที่แสดงให้เห็นถึง
- ควำมเชื่อมโยงของวัตถุประสงค์องค์กรกับวัตถุประสงค์หน่วยงำน
- ผู้รับผิดชอบแต่ละวัตถุประสงค์
- ช่วงเวลำกำรติดตำมสมรรถนะวัตถุประสงค์
5. ทำกำรสื่อสำรวัตถุประสงค์ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ำใจ คือ ผู้รับผิดชอบวัตถุประสงค์ ผู้ที่รับผิดชอบกิจกรรมใน
วัตถุประสงค์ ผู้ที่ทำงำนในนำมขององค์กร ผู้เกี่ยวข้องภำยนอก
6. นำวัตถุประสงค์มำจัดทำแผนงำนเป็นเอกสำรสำรสนเทศ โดยครอบคลุมหัวข้อดังนี้
- กิจรรมที่ต้องดำเนินกำร
- ทรัพยำกรที่จำเป็น
- ผู้รับผิดชอบในแต่ละกิจกรรม
- กรอบเวลำแล้วเสร็จ
- วิธีกำรประเมินผลควำมสำเร็จของโครงกำร
7. กำรทวนสอบแผนงำนว่ำสำมำรถประสบควำมสำเร็จได้ ดังนี้
- กิจกรรมในแผนงำนสอดคล้องกับวัตถุประสงค์
- ระยะเวลำในกำรดำเนินงำนเหมำะสมกับกิจกรรม และช่วงเวลำ
- ผู้รับผิดชอบกิจกรรมในแผนงำนสอดคล้องกับหน้ำที่ควำมรับผิดชอบ
- วิธีกำรวัดและติดตำมผลเหมำะสม
8. ผู้รับผิดชอบแผนงำนดำเนินงำนตำมแผนงำน เฝ้ำระวังผลกำรปฏิบัติงำน และทำกำรปรับปรุงตำมควำม
เหมำะสม
สรุปสาระสาคัญ
o กำหนดวัตถุประสงค์ระดับหน่วยงำนตำมวัตถุประสงค์องค์กร
o พิจำรณำที่มำของวัตถุประสงค์ในด้ำนอื่นๆ
o จัดทำวัตถุประสงค์ และแผนงำนเป็นเอกสำรสนสนเทศ
หน้ำ 2 จำก 12
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อกำหนดของมำตรฐำน ISO 9001:2015 และแนวทำงกำรจัดทำระบบ
ตัวอย่างวัตถุประสงค์หน่วยงานผลิต
ลาดับ วัตถุประสงค์(Objective) ตัวชี้วัดผลการดาเนินงาน (KPIs)
วัตถุประสงค์องค์กร
ที่ หัวข้อ ตัวชี้วัด หน่วยวัด การคานวน
ปริมาณการขายตามสัญญาที่ 95.5%(183,360
1 ประสิทธิภาพสูง 1.1 เดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าได้อย่างต่อเนือ่ ง ผลิตกระแสไฟฟ้า 5.5 ล้านหน่วย/เดือน MW
kW*จานวนวัน)
ปริมาณการใช้กากอ้อยต่อชั่วโมง/พลังงานไฟฟ้าที่
1.2 ใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้กากอ้อยไม่เกิน 1.95 ตันต่อ MW Ton
ผลิตได้ตอ่ ชั่วโมง
นับจานวนชั่วโมง Breakdown จากรายงานปัญหา
1.3 ดูแลรักษาเครื่องจักรให้อยูใ่ นสภาพดีเสมอ Break dowm ไม่เกิน 240 ชั่วโมง/ปี Hour
ส่วนผลิตไฟฟ้าประจาปี
ปรับปรุงประสิทธิภาพด้านสิง่ แวดล้อมอย่าง
1.6 ได้รับการรับรอง ISO 14001:2015 ภายในปี 2561 Certificate ได้รับ Certificate ตามแผนงานทีก่ าหนดไว้
ต่อเนือ่ ง
ผลตอบเทนในการดาเนินงานทีด่ ตี อ่ ผูถ้ อื หุน้ ปริมาณการใช้กากอ้อยต่อชั่วโมง/พลังงานไฟฟ้าที่
2 2.1 เดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าได้อย่างต่อเนือ่ ง ผลิตกระแสไฟฟ้า 5.5 ล้านหน่วย/เดือน MW
พนักงาน และผูท้ เี่ กีย่ วข้อง ผลิตได้ตอ่ ชั่วโมง
2.3 ปฏิบตั ติ ามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่มีข้อร้องเรียนจากน่วยงานรัฐ เรื่อง จานวนเรื่อง
ส่งผลกระทบต่อชุมชน และสิง่ แวดล้อม
3 3.1 มีสภาพการทางานทีป่ ลอดภัยต่อพนักงาน ไม่มีอบุ ตั เิ หตุถงึ ขั้นหยุดงาน ราย นับจานวนอุบตั ทิ เี่ กิดขึ้นถึงขั้นหยุดงานเกิน 3 วัน
น้อยทีส่ ดุ
3.2 โรงงานสวยสะอาดน่ามอง ส่งโรงงานเข้าประกวด ASEAN ENERGY AWORD ในปี 2562 ใบสมัคร การส่งเข้าประกวดตามแผนงานทีก่ าหนดไว้
ระดับผลการดาเนินงานโดยรวม :
หน้ำ 1 จำก 12
โครงกำรพัฒนำหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มำตรฐำน ISO 9001:2015
#R2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อกำหนดของมำตรฐำน ISO 9001:2015 และแนวทำงกำรจัดทำระบบ
6.3 การวางแผนเปลี่ยนแปลง
เมื่อองค์กรพิจำรณำควำมจำเป็นในกำรเปลี่ยนแปลงระบบบริหำรคุณภำพ กำรเปลี่ยนแปลง
จะต้องดำเนินกำรภำยในแผนงำนอย่ำงสม่ำเสมอ (ดูข้อ 4.4)
องค์กรต้องพิจำรณำ
a) วัตถุประสงค์ของกำรเปลี่ยนแปลงและผลที่อำจตำมมำ
b) ควำมครบถ้วนของระบบบริหำรคุณภำพ
c) ควำมเพียงพอของทรัพยำกร
d) กำรกำหนดและหมุนเวียนของควำมรับผิดชอบและอำนำจ
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
วำงแผนเพื่อจัดกำรหรือควบคุมกำรเปลี่ยนแปลงทีก่ ระทบต่อควำมสมบูรณ์ของระบบงำนคุณภำพ
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. พิจำรณำสถำนกำรณ์หรือปัจจัยใดๆที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อกำรรักษำหรือควำมสมบูรณ์ของระบบกำร
บริหำรงำนคุณภำพ ดังนี้
- ปัจจัยภำยใน ภำยนอกที่กระทบองค์กร(ตำมข้อกำหนด 4.1)
ปัจจัยภำยใน เช่น กระบวนกำรผลิตภัณฑ์หรือบริกำรใหม่ กำรเปลี่ยนกระบวนกำรผลิตภัณฑ์หรือ
บริกำร กำรยกเลิกกระบวนกำรผลิตผลิตภัณฑ์หรือบริกำร ประสิทธิภำพทรัพยำกร วัฒนธรรม
ปัจจัยภำยนอก เช่น สภำพแวดล้อมธุรกิจเปลี่ยนแปลงไป ทิศทำงกลยุทธ์ ทำงกำรเมือง เศรษฐกิจ สังคม
เทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม กฎหมำย
- ควำมต้องกำรและควำมคำดหวังของลูกค้ำเปลี่ยนแปลงไป (ตำมข้อกำหนด 4.2)
- ขอบข่ำยของระบบบริหำรคุณภำพเปลี่ยนแปลงไป (ตำมข้อกำหนด 4.3)
- มำตรกำรกำรลดควำมเสี่ยงและเพิ่มโอกำส (ตำมข้อกำหนด 6.1)
- นโยบำยและวัตถุประสงค์คุณภำพ (ตำมข้อกำหนด 6.2)
- กำรพัฒนำ(ตำมข้อกำหนด 10.3) เช่น กำรปรับแผนกำรตลำด กำรนำเทคโนโลยีหรือกระบวนกำร
ใหม่มำใช้ นวัตกรรมในกระบวนกำรอุปกรณ์ผลิตภัณฑ์หรือบริกำร กำรปรับโครงสร้ำงทำงธุรกิจ
2. พิ จ ำรณำกำรเปลี่ ย นแปลงมี วัต ถุ ป ระสงค์ เพื่ อ เป็ น ประโยชน์ ต่ อองค์ ก ร ควรพิ จ ำรณำควำมจ ำเป็ น ที่ ต้ อ ง
ดำเนินกำร ควำมคุ้มทุน ระยะเวลำดำเนินกำร ระยะเวลำคืนทุน ผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เป็นต้น
3. ผู้บริหำรระดับสูงพิจำรณำควำมพร้อมใช้งำนของทรัพยำกร เช่น คน โครงสร้ำงพื้นฐำน สิ่งอำนวยควำมสะดวก
เพื่อจัดสรรทรัพยำกร หรือกำรจัดสรรหน้ำที่และอำนำจหน้ำที่ใหม่
4. มอบหมำยหน้ำที่ควำมรับผิดชอบเพื่อจัดทำแผนควบคุมกำรเปลี่ยนแปลงนั้นๆ
หน้ำ 1 จำก 12
โครงกำรพัฒนำหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มำตรฐำน ISO 9001:2015
#R2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อกำหนดของมำตรฐำน ISO 9001:2015 และแนวทำงกำรจัดทำระบบ
สรุปสาระสาคัญ
1. สถำนกำรณ์ หรือกิจกรรมที่มีผลต่อกำรเปลี่ยนแปลง
2. ผู้รับผิดชอบ และทรัพยำกรที่ใช้ในกำรเปลี่ยนแปลง
3. แผนควบคุมกำรเปลี่ยนแปลง และข้อมูลสำรสนเทศกำรเปลี่ยนแปลง
หน้ำ 2 จำก 12
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อสอบ
ข้อกำหนด 6 กำรวำงแผน
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อสอบ_ข้อกาหนด 6 การวางแผน
7. ลักษณะสาคัญของวัตถุประสงค์คุณภาพข้อใด ?
ก. สามารถวัดได้
ข. สอดคล้องกับนโยบายคุณภาพ
ค. สอดคล้องกับข้อกาหนดที่เกี่ยวข้อง
ง. ถูกทุกข้อ
8. คุณลักษณะของเอกสารสารสนเทศ “แผนงานบรรลุวัตถุประสงค์”ต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง ?
ก. กิจกรรม ผู้รับผิดชอบ กรอบเวลา วิธีการประเมินผลความสาเร็จ
ข. กิจกรรม ทรัพยากรที่ต้องใช้ ผู้รับผิดชอบ กรอบเวลา
ค. กิจกรรม ทรัพยากรที่ต้องใช้ ผู้รับผิดชอบ กรอบเวลา วิธีการประเมินผลความสาเร็จ
ง. กิจกรรม ทรัพยากรที่ต้อง กรอบเวลา วิธีการประเมินผลความสาเร็จ
9. ข้อใดคือวัตถุประสงค์ของการจัดทาเอกสารแผนระบบบริหารงานคุณภาพตามข้อกาหนด “การวางแผนระบบ
บริหารงานคุณภาพ”?
ก. ให้ครอบคลุมสินค้า/บริการขององค์กร
ข. ให้ครอบคลุมขอบข่ายในการจัดระบบบริหารงานคุณภาพ
ค. สอดคล้องกับความต้องการและความคาดหวังของลูกค้า
ง. ถูกทุกข้อ
10. “การวางแผนเพื่อจัดการหรือควบคุมการเปลี่ยนแปลงที่กระทบต่อความสมบูรณ์ของระบบงานคุณภาพ”
คือการวางแผนในข้อใด ?
ก. การวางแผนกระบวนการผลิตและบริการ
ข. การวางแผนเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์
ค. การวางแผนการเปลี่ยนแปลง
ง. การวางแผนจัดการความเสี่ยงและโอกาส
เฉลยข้อสอบ
ข้อกำหนด 6 กำรวำงแผน
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
เฉลยข้อสอบ_ข้อกาหนด 6 การวางแผน
7. ลักษณะสาคัญของวัตถุประสงค์คุณภาพข้อใด ?
ก. สามารถวัดได้
ข. สอดคล้องกับนโยบายคุณภาพ
ค. สอดคล้องกับข้อกาหนดที่เกี่ยวข้อง
ง. ถูกทุกข้อ
8. คุณลักษณะของเอกสารสารสนเทศ “แผนงานบรรลุวัตถุประสงค์”ต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง ?
ก. กิจกรรม ผู้รับผิดชอบ กรอบเวลา วิธีการประเมินผลความสาเร็จ
ข. กิจกรรม ทรัพยากรที่ต้องใช้ ผู้รับผิดชอบ กรอบเวลา
ค. กิจกรรม ทรัพยากรที่ต้องใช้ ผู้รับผิดชอบ กรอบเวลา วิธีการประเมินผลความสาเร็จ
ง. กิจกรรม ทรัพยากรที่ต้อง กรอบเวลา วิธีการประเมินผลความสาเร็จ
9. ข้อใดคือวัตถุประสงค์ของการจัดทาเอกสารแผนระบบบริหารงานคุณภาพตามข้อกาหนด “การวางแผนระบบ
บริหารงานคุณภาพ”?
ก. ให้ครอบคลุมสินค้า/บริการขององค์กร
ข. ให้ครอบคลุมขอบข่ายในการจัดระบบบริหารงานคุณภาพ
ค. สอดคล้องกับความต้องการและความคาดหวังของลูกค้า
ง. ถูกทุกข้อ
10. “การวางแผนเพื่อจัดการหรือควบคุมการเปลี่ยนแปลงที่กระทบต่อความสมบูรณ์ของระบบงานคุณภาพ”
คือการวางแผนในข้อใด ?
ก. การวางแผนกระบวนการผลิตและบริการ
ข. การวางแผนเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์
ค. การวางแผนการเปลี่ยนแปลง
ง. การวางแผนจัดการความเสี่ยงและโอกาส
7. การสนับสนุน (Support)
7.1 ทรัพยำกร
7.1.1 ข้อกาหนดทั่วไป
องค์กรต้องพิจำรณำกำหนดและจัดให้มีทรัพยำกรที่จำเป็นสำหรับกำรจัดทำ นำไปกำรปฏิบัติ คงรักษำ
ไว้ และปรับปรุงอย่ำงต่อเนื่อง ในระบบบริหำรคุณภำพ
องค์กรต้องพิจำรณำ
a) ควำมสำมำรถ และข้อจำกัดของทรัพยำกรภำยในองค์กรที่มีอยู่
b) ควำมจำเป็นในกำรเลือกใช้ผู้ให้บริกำรภำยนอก
7.1.2 บุคลากร
องค์กรต้องพิจำรณำและจัดหำบุคลำกรให้เพียงพอเพื่อให้เกิดประสิทธิผลของกำรดำเนินงำนในระบบ
บริหำรคุณภำพและสำหรับกำรดำเนินงำนและควบคุมกระบวนกำรต่ำงๆในระบบบริหำรคุณภำพ
7.1.3 โครงสร้างพื้นฐาน
องค์กรต้องพิจำรณำ จัดหำ และคงรักษำไว้ซึ่งโครงสร้ำงพื้นฐำนสำหรับกำรดำเนินกระบวนกำรเพื่อให้
บรรลุได้ตำมข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์และบริกำร
7.1.4 สภาพแวดล้อมในการดาเนินกระบวนการ
องค์กรต้องพิจำรณำ จัดหำ และคงรักษำ สภำพแวดล้อมที่จำเป็นสำหรับกำรดำเนินกระบวนกำร และ
เพื่อให้บรรลุข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์และบริกำร
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
พิจำรณำเพื่อกำหนด และจัดสรร ทรัพยำกรที่จำเป็นอย่ำงเพียงพอเพื่อกำรปฏิบัติ รักษำไว้ และกำรปรับปรุงระบบ
เพื่อให้ระบบสำมำรถดำเนินกำรได้อย่ำงมีประสิทธิผล บรรลุวัตถุประสงค์ และเพิ่มควำมพึงพอใจของลูกค้ำ
ทรัพยำกร ครอบคลุมถึง ทรัพยำกรมนุษย์ ทักษะเฉพำะทำง โครงสร้ำงพื้นฐำน สภำพแวดล้อมสำหรับกำร
ปฏิบัติกำร เครื่องมือวัด เทคโนโลยี และกำรเงิน กำหนดและจัดหำทรัพยำกรที่จำเป็นเพื่อให้สอดคล้องกับ
ข้อกำหนด
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. จัดสรรทรัพยำกรที่จำเป็น ซึ่งหมำยถึง ทรัพยำกรบุคคล ทักษะเฉพำะทำง โครงสร้ำงพื้นฐำน เทคโนโลยี และ
กำรเงิน ในกำรกำหนดวัตถุประสงค์ และแผนงำน เพื่อ : -
กำรปฏิบัติตำมระบบ และรักษำไว้มีประสิทธิผล
บรรลุตำมนโยบำย
โครงกำรพัฒนำหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มำตรฐำน ISO 9001:2015 หน้ำ 2 จำก 22
#R2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อกำหนดของมำตรฐำน ISO 9001:2015 และแนวทำงกำรจัดทำระบบ
ลดและควบคุมควำมเสี่ยงและโอกำส
เพิ่มควำมพึงพอใจของผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย
กำรปรับปรุงประสิทธิผลอย่ำงต่อเนื่อง
2. กำรระบุควำมต้องกำรทรัพยำกรที่จำเป็นสำหรับระบบกำรบริหำรงำนคุณภำพให้พิจำรณำถึง
จำนวนบุคลำกร
โครงสร้ำงพื้นฐำน แบ่งออกเป็น 2 กรณี สภำวะปกติ และสภำวะไม่ปกติจนถึงสถำนกำรณ์เหตุ
ฉุกเฉิน
อำคำร สถำนที่ เครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องมือเฝ้ำระวังที่ใช้ในกำรผลิตและบริกำร
ระบบข้อมูลข่ำวสำร ละอุปกรณ์สื่อสำร
เทคโนโลยี เช่น โปรแกรมที่ใช้ในกำรปฏิบัติงำน กำรสื่อสำร
ระบบกำรขนส่ง เช่น รถขนส่ง ระบบควบคุมกำรขนส่ง
สำธำรณูปโภค เช่น ไฟฟ้ำ ก๊ำซธรรมชำติ ก๊ำซปิโตรเลียมเหลว น้ำใช้ น้ำสำรอง
ระบบป้องกันและระงับเหตุฉุกเฉิน อย่ำงน้อยตำมกฎหมำยตำมขอบข่ำยกำรดำเนินธุรกิจ
ฯลฯ
สภำพแวดล้อมสำหรับกำรปฏิบัติกำร เช่น แสงสว่ำง เสียง อุณหภูมิ ควำมชื้น ควำมสะอำด หรือ
กำรยศำสตร์
ทรัพยำกรในกำรตรวจสอบตรวจวัดเพื่อกำรตัดสินผลผลิตภัณฑ์และบริกำร เช่น เครื่องมือวัด
โปรแกรมซอฟแวร์ที่ใช้ในกำรตรวจสอบตรวจวัด บุคลำกรที่เป็นผู้ตัดสิน
กำรฝึกอบรมทักษะเฉพำะทำงเพื่อสร้ำงควำมสำมำรถ
กำรเงิน บุคลำกรและทรัพยำกรอื่นๆ ทีจ่ ำเป็นสำหรับกำรดำเนินกำร
3. ทรัพยำกรด้ำนบุคลำกร องค์กรจัดทำผังอัตรำกำลังคน โดยครอบคลุมกำรดำเนินธุรกิจ กรณีไม่เพียงพอต้อง
ดำเนินสรรหำ หรือจ้ำงทำงำนในนำมขององค์กรโดยกำรกำหนดกระบวนกำรสรรหำว่ำจ้ำงและกำรจัดซื้อจัด
จ้ำงผู้ที่ทำงำนในนำมขององค์กร
4. โครงสร้ำงพื้นฐำน องค์กรกำหนดรำยกำรโครงสร้ำงพื้นฐำนที่เกี่ยวข้อง และจัดหำโครงสร้ำงพื้นฐำนตำมที่
กำหนด ชี้บ่งโครงสร้ำงพื้นฐำน วำงแผนบำรุงรักษำโครงสร้ำงพื้นฐำนให้มีประสิทธิภำพในกำรปฏิบัติงำน
และพิจำรณำควำมเพียงพอควำมเหมำะสมจำกทะเบียนโครงสร้ำงพื้นฐำน กรณีไม่เพียงพอต้องดำเนินสรร
หำจ้ำงผู้ที่ทำงำนในนำมขององค์กร
5. สภำพแวดล้อมในกำรปฏิบัติงำน องค์กรชี้บ่งสภำพแวดล้อมในกำรทำงำนที่มีผลต่อกำรรับวัตถุดิบ กำรผลิต
กำรบริกำร กำรจัดเก็บ กำรรักษำผลิตภัณฑ์เพื่อให้คงคุณภำพ เป็นไปตำมข้อกำหนดของลูกค้ำหรือ
มำตรฐำนผลิตภัณฑ์ จัดทำแผนกำรดูแลและ/หรือตรวจสอบสภำพแวดล้อม
สรุปสาระสาคัญ
o กำหนด และสรรหำทรัพยำกรที่จำเป็นในกำรดำเนินกำรผลิตผลิตภัณฑ์และบริกำร และกำรพัฒนำ
o สรรหำหรือกำหนดให้ผู้ที่ทำงำนในนำมขององค์กร หรือจัดซื้อจัดจ้ำงทรัพยำกรที่กำหนด
o จัดทำผังอัตรำกำลังคน และ/หรือกำหนดกระบวนกำรสรรหำบุคลำกร
o จัดทำรำยกำรโครงสร้ำงพื้นฐำน และแผนกำรดูแลรักษำ และ/หรือสัญญำจ้ำงในกรณีสรรหำว่ำจ้ำง
o กำหนดสภำพแวดล้อมในกำรปฏิบัติงำน และแผนกำรดูแลสภำพแวดล้อม
7.1.5 ทรัพยากรในการตรวจติดตามและตรวจวัด
7.1.5.1 ทั่วไป
องค์กรต้องพิจำรณำและจัดเตรียมทรัพยำกรที่จำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่ำผลจำกกำรติดตำมหรือ
ตรวจวัดมีควำมถูกต้องและน่ำเชื่อถือ ในกำรติดตำมหรือกำรตรวจวัดเพื่อประเมินควำมสอดคล้อง
ต่อข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์และบริกำร
องค์กรต้องมั่นใจว่ำทรัพยำกรที่จัดเตรียมเหมำะสมกับวิธีกำรในกำรติดตำมและกำรตรวจสอบที่มี
กำรดำเนินกำรอยู่เป็นกำรเฉพำะได้รับกำรดูแลรักษำเพื่อให้มั่นใจว่ำเหมำะสมกับกำรใช้งำนตำม
วัตถุประสงค์ อย่ำงต่อเนื่อง
องค์กรต้องเก็บเอกสำรข้อมูลที่เหมำะสมเพื่อใช้เป็นหลักฐำนควำมเหมำะสมในวัตถุประสงค์กำรใช้
งำนของทรัพยำกรในกำรติดตำมและตรวจวัด
7.1.5.2 การสอบกลับของกระบวนการตรวจวัด
ในกรณีที่มีกำรสอบกลับของกำรวัด เป็นข้อกำหนดหรือพิจำรณำจำกองค์กร เพื่อให้เกิดควำม
เชื่อมั่นผลที่ได้จำกกำรวัด อุปกรณ์กำรตรวจวัดต้อง
a) มีกำรสอบเทียบหรือทวนสอบ หรือทั้งสองอย่ำง ตำมช่วงเวลำที่กำหนด หรือก่อนใช้
งำนตำมมำตรฐำนที่อ้ำงอิงได้ระดับสำกลหรือระดับชำติ ในกรณีที่ไม่มีมำตรฐำน
อ้ำงอิงต้องจัดเก็บเอกสำรข้อมูลในยืนยันกำรสอบเทียบหรือทวนสอบ
b) มีกำรชี้บ่งเพื่อระบุสถำนะของอุปกรณ์ตรวจวัด
c) ป้องกันจำกกำรปรับแต่ง ควำมเสียหำยหรือกำรเสื่อมสภำพ ซึ่งส่งผลต่อสถำนะของ
กำรสอบเทียบหรือส่งผลต่อข้อมูลกำรตรวจวัดที่เกิดขึ้น
องค์กรต้องพิจำรณำดำเนินกำรแก้ไขตำมควำมเหมำะสมในกรณีที่พบผลกำรตรวจวัดในครั้งก่อนมี
ผลที่ด้อยลงจำกเดิมซึ่งอำจพบได้ในขณะใช้งำนอุปกรณ์ตรวจวัดไม่เหมำะสมต่อกำรใช้งำนตำม
วัตถุกปสูระสงค์
โครงกำรพัฒนำหลั และต้องดำเนินกิLearning
ตร E-Learning/Mobile จกรรมตำมควำมจ ำเป็9001:2015
มำตรฐำน ISO น หน้ำ 4 จำก 22
#R2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อกำหนดของมำตรฐำน ISO 9001:2015 และแนวทำงกำรจัดทำระบบ
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
กำรพิจำรณำกระบวนกำรทำงธุรกิจในขอบเขตของระบบกำรบริหำรงำนคุณภำพ เพื่อจัดทำลำดับ
ควำมสัมพันธ์ของกระบวนกำร ในรูปแบบของ ผังกระบวนกำรทำงธุรกิจ (business process map) หรือ
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
1. จัดทำรำยกำรทรัพยำกรเฝ้ำระวังและตรวจวัดที่จำเป็นเพื่อแสดงว่ำผลิตภัณฑ์และบริกำรสอดคล้องกับ
ข้อกำหนด
2. จัดทำแผนกำรสอบเทียบหรือทวนสอบ และสอบเทียบหรือทวนสอบ ตำมช่วงระยะเวลำที่กำหนดไว้ หรือ
ก่อนนำไปใช้งำน
3. ชี้บ่ง และควบคุมอุปกรณ์ฯ ให้มีควำมเหมำะสมต่อกำรใช้งำน ป้องกันกำรคลำดเคลื่อน
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. องค์กรกำหนดกระบวนกำรควบคุมทรัพยำกรในกำรตรวจติดตำมและตรวจวัดในกำรตัดสินผลผลิตภัณฑ์และ
บริกำร หรือทรัพยำกรเฝ้ำติดตำมและตรวจวัดกระบวนกำรในกรณีที่เป็นกระบวนกำรต่อเนื่อง
2. กำรกำหนดทรัพยำกรในกำรตรวจติดตำมและตรวจวัดทั้งที่จับต้องได้ และจับต้องไม่ได้ ดังนี้
- เครื่องมือตรวจติดตำมและตรวจวัด
- บุคลำกรที่ตัดสินผล
- ซอฟท์แวร์ที่ใช้ในกำรพิจำรณำตัดสินผล หรือใช้ในกำรตัดสินผลผลิตภัณฑ์และบริกำร
3. จัดทำทะเบียนทรัพยำกรในกำรตรวจติดตำมและตรวจวัด และทำแผนกำรสอบเทียบและหรือทวนสอบ
4. ทวนสอบผลกำรสอบเทียบหรือทวนสอบก่อนกำรใช้งำน
5. จัดทำวิธีกำรปฏิบัติงำนสำหรับกำรสอบเทียบหรือทวนสอบผลโดยพิจำรณำจำกวิธีมำตรฐำน กฎหมำย หรือ
วิธีกำรที่ตกลงกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในกรณีที่ไม่มีวิธีมำตรฐำนกำหนดไว้ ให้ระบุทฤษฎีหรือที่มำของวิธีกำร
ไว้เป็นเอกสำรดำเนินกำรสอบเทียบตำมแผนงำน และตำมเอกสำรวิธีปฏิบัติงำนที่กำหนดไว้
- วิธีกำรสอบเทียบ
- วิธีกำรทวนสอบ
- วิธีกำรรับรองควำมสำมำรถบุคลำกร
- วิธีกำรรับรองควำมสำมำรถระบบซอฟแวร์
6. ดำเนินกำรสอบเทียบ หรือทวนสอบตำมแผนงำน
7. วิเครำะห์ผลกำรสอบเทียบทั้งภำยใน และภำยนอกองค์กร โดยต้องตรวจสอบ สภำพเครื่องมือวัด วันที่ทำ
กำรสอบเทียบ รำยงำนผลกำรสอบเทียบ(Calibration Report) ต้องแสดงผลกำรสอบสำมำรถสอบกลับได้
ถึงมำตรฐำนและเครื่องมือที่ใช้ในกำรสอบเทียบ
8. ระบุผลกำรสอบเทียบ และกำรชี้บ่งเฉพำะอื่นๆ (ถ้ำมี) เช่น ห้ำมปรับแต่ง ค่ำแก้สำหรับกำรใช้งำน
โครงกำรพัฒนำหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มำตรฐำน ISO 9001:2015 หน้ำ 5 จำก 22
#R2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อกำหนดของมำตรฐำน ISO 9001:2015 และแนวทำงกำรจัดทำระบบ
9. กำหนดวิธีป้องกันกำรปรับแต่งที่จะทำให้สูญเสียควำมถูกต้องของผลกำรวัด ป้องกันควำมเสียหำย
10. จัดทำข้อมูลสำรสนเทศวิธีกำรใช้งำน กำรจัดเก็บ กำรเคลื่อนย้ำย สภำพแวดล้อมที่จัดเก็บหรือต้องห้ำม
เพื่อป้องกันกำรควำมเสียหำย กำรเสื่อมสภำพระหว่ำงกำรเคลื่อนย้ำย กำรใช้งำน กำรจัดเก็บ
11. ในกรณีที่พบภำยหลังว่ำอุปกรณ์ไม่เป็นไปตำมเกณฑ์กำหนด ต้องประเมินและบันทึกควำมถูกต้องของผล
กำรวัดที่ผ่ำนมำ และมีกำรดำเนินกำรกับอุปกรณ์นั้น และ ผลิตภัณฑ์และบริกำรที่ได้รับผลกระทบตำม
ควำมเหมำะสม
สรุปสาระสาคัญ
o กำหนดรำยกำรทรัพยำกรเฝ้ำระวังและตรวจวัดเพื่อให้ได้หลักฐำนแสดงถึงควำมเป็นไปตำมข้อกำหนด
ของผลิตภัณฑ์และบริกำร
o จัดทำกระบวนกำรสอบเทียบและ/หรือทวนสอบทรัพยำกรเฝ้ำระวังและตรวจวัด วิธีกำรสอบเทียบ
ดำเนินกำรสอบเทียบหรือทวนสอบตำมช่วงเวลำที่กำหนดและสำมำรถสอบกลับได้ไปยังมำตรฐำน
ระดับชำติหรือระดับนำนำชำติ
o ชี้บ่งผลสอบเทียบหรือทวนสอบ
o กำหนดวิธีกำรป้องกันกำรปรับแต่งที่จะทำให้สูญเสียควำมถูกต้องของผลกำรวัด ป้องกันควำมเสียหำย
และเสื่อมสภำพระหว่ำงกำรเคลื่อนย้ำย กำรบำรุงรักษำ และ กำรจัดเก็บ
o กำหนดวิธีกำรจัดกำรกรณีที่พบภำยหลังว่ำอุปกรณ์ไม่เป็นไปตำมเกณฑ์กำหนด มีบันทึกผลกำรสอบ
เทียบและกำรทวนสอบ
7.1.6 ความรู้ขององค์กร
องค์กรต้องพิจำรณำกำหนด ควำมรู้ที่จำเป็นสำหรับกำรดำเนินกระบวนกำรและเพื่อให้บรรลุถึงข้อกำหนด
ของผลิตภัณฑ์และบริกำร
ควำมรู้เหล่ำนี้ต้องได้รับกำรจัดเก็บและมีครบถ้วนตำมขอบเขตอย่ำงเพียงพอ
เมื่อเกิดกำรเปลี่ยนแปลงควำมต้องกำรและแนวโน้ม องค์กรต้องทบทวนควำมรู้ในปัจจุบัน และพิจำรณำ
วิธีกำรทำให้ได้มำหรือเข้ำถึงควำมรู้ส่วนเพิ่มเติม และให้มีควำมทันสมัย
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
กำหนดควำมรู้ที่จำเป็นสำหรับกำรปฏิบัติในแต่ละกระบวนกำรและต่อกำรบรรลุควำมสอดคล้องของผลิตภัณฑ์
และบริกำร และทบทวนองค์ควำมรู้ให้ทันสมัย
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. องค์กรสร้ำงแหล่งควำมรู้ขึ้นภำยในองค์กร โดยวิธีกำรต่ำงๆ เช่น
- ห้องสมุด
- กำรแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Knowledge Sharing)
- พูดคุยกับกลุ่มเป้ำหมำย
- กำรวิเครำะห์ โอกำส อุปสรรคในกำรทำงำน
- กำรเขียนผลงำน
- Knowledge Management
2. สร้ำงแหล่งควำมรู้เกี่ยวกับกำรดำเนินกิจกำรขององค์กร ทั้งผลิตภัณฑ์และบริกำร กระบวนกำรดำเนินกำร
- แหล่งควำมรู้เกี่ยวกับกำรดำเนินธุรกิจ
- แหล่งควำมรู้ด้ำนตัวผลิตภัณฑ์และบริกำร
- แหล่งควำมรู้ด้ำนกระบวนกำรผลิตผลิตภัณฑ์และกำรบริกำร
3. นำควำมรู้ที่มีกำรพัฒนำภำยในองค์กร หรือแหล่งควำมรู้จำกภำยนอกองค์กรมำเป็นแหล่งควำมรู้ที่เป็น
ปัจจุบัน
- แหล่งควำมรู้จำกผลงำนขององค์กร จำกโครงกำรต่ำง
- แหล่งควำมรู้จำกองค์กรภำยนอกที่กำรดำเนินกำร หรือกระบวนกำรใกล้เคียงกัน
- แหล่งควำมรู้จำกเทคโนโลยี เศรษฐกิจ สถำนกำรณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
สรุปสาระสาคัญ
o สร้ำงแหล่งควำมรู้เกี่ยวกับกำรดำเนินกิจกำรขององค์กร ทั้งตัวผลิตภัณฑ์และบริกำร กระบวนกำรดำเนินกำร
o นำควำมรู้ที่มีกำรพัฒนำภำยในองค์กร หรือแหล่งควำมรู้จำกภำยนอกองค์กรมำเป็นแหล่งควำมรู้ที่เป็น
ปัจจุบัน
7.2 ความสามารถ
องค์กรต้องกำหนดควำมสำมำรถที่จำเป็นของบุคลำกรที่ทำงำนภำยใต้กำรดำเนินกำรที่มีผลต่อสมรรถนะด้ำน
คุณภำพและประสิทธิผลในระบบบริหำรคุณภำพ
ทำให้มั่นใจว่ำบุคลำกรเหล่ำนี้มีควำมสำมำรถบนพื้นฐำนกำรศึกษำ กำรฝึกอบรม หรือ ประสบกำรณ์
ในกรณีที่ทำได้ ต้องดำเนินกำรเพื่อได้มำที่ซึ่งควำมสำมำรถที่จำเป็น และกำรประเมินประสิทธิผลของกำร
ดำเนินกำรดังกล่ำว
จัดเก็บหลักฐำนที่แสดงถึงควำมสำมำรถเป็นเอกสำรข้อมูล
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
บุคคลขององค์กรหรือทำงำนในนำมขององค์กรที่มีผลต่อระบบกำรบริหำรงำนคุณภำพ หรือคุณภำพ
ผลิตภัณฑ์และบริกำร กำหนดควำมสำมำรถประจำตำแหน่ง ดำเนินกำรให้มีควำมสำมำรถ และคุณสมบัติที่เหมำะสม
กับหน้ำที่ควำมรับผิดชอบ และมีกำรจัดเก็บข้อมูลสำรสนเทศที่เกี่ยวข้อง
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. กำหนดคุณสมบัติของบุคลำกรแต่ละตำแหน่งงำนโดยคุณสมบัติต้องเป็นพื้นฐำนในกำรปฏิบัติงำนได้หรือให้
สำมำรถสร้ำงควำมสำมำรถตำมตำแหน่งงำนทำงำนได้ โดยจัดทำเป็นเอกสำรกำหนดหน้ำที่ควำมรับผิดชอบ ใน
เรื่องคุณสมบัติ หรือ ควำมสำมำรถตำมตำแหน่งงำน
2. กำหนดคุณสมบัติบุคลำกรตำมตำแหน่ง ต้องพิจำรณำอย่ำงน้อย 3 ด้ำนคือ กำรศึกษำ กำรฝึกอบรม หรือ
ประสบกำรณ์
3. กำหนดควำมสำมำรถของบุคลำกรในแต่ละตำแหน่งงำน และควำมสำมำรถของผู้ที่ทำงำนในนำมขององค์กร
โดยพิจำรณำจำก
- ผลกระบวนต่อควำมเสี่ยงและโอกำส
- ผลกระทบต่อกระบวนกำร
- ผลกระทบต่อคุณภำพของผลิตภัณฑ์และบริกำร
- กฎหมำยและข้อกำหนดอื่นๆ เช่น ผู้ควบคุมประจำหม้อน้ำ ผู้ปฏิบัติงำนสถำนที่ใช้ก๊ำซธรรมชำติ บุคลำกร
เฉพำะรับผิดชอบควำมปลอดภัยกำรเก็บรักษำวัตถุอันตรำย เป็นต้น
- หน้ำที่ตำมที่มอบหมำยเพิ่ม เช่น คณะกรรมกำร ตำแหน่งพิเศษ
4. ต้องกำหนดขั้นตอนกำรคัดสรรบุคลำกร และผู้ทำงำนในนำมองค์กร เช่น ผู้รับเหมำ(Contractors) ผู้กำร
ดำเนินกำรโดยหน่วยงำนภำยนอก(Outsource) ทีก่ ำรปฏิบัติงำนและผลกำรปฏิบัติงำนมีผลกระทบต่อควำม
สอดคล้องกับข้อกำหนดผลิตภัณฑ์และบริกำร
สรุปสาระสาคัญ
o กำหนดควำมสำมำรถที่จำเป็นของบุคลำกร
o ดำเนินกำรด้วยวิธีกำรใดๆเพื่อให้เกิดควำมสำมำรถ และ ประเมินประสิทธิผล
o มีข้อมูลสำรสนเทศเกี่ยวข้องกับควำมสำมำรถของบุคลำกร
7.3 ความตระหนัก
องค์กรต้องมั่นใจว่ำบุคลำกำรที่ทำงำนภำยใต้กำรควบคุมขององค์กร มีควำมตระหนักในเรื่องนโยบำย
คุณภำพ วัตถุประสงค์คุณภำพที่เกี่ยวข้อง กำรดำเนินงำนที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของระบบกำรบริหำร
คุณภำพ รวมถึงผลที่ได้ของกำรปรับปรุงสมรรถนะ ผลที่ตำมมำของกำรดำเนินกำรที่ไม่สอดคล้องกับ
ข้อกำหนดของระบบบริหำรคุณภำพ
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
บุคลำกรที่อยู่ภำยใต้ระบบบริหำรคุณภำพขององค์กรต้องตระหนักถึงนโยบำยคุณภำพ วัตถุประสงค์
คุณภำพ กำรมีส่วนร่วมของประสิทธิผลของระบบบริหำรคุณภำพ และผลของควำมไม่สอดคล้องกับข้อกำหนดของ
ระบบบริหำรคุณภำพ
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. กำหนดวิธีกำร หรือกระบวนกำรในกำรสร้ำงจิตสำนึกภำยในองค์กร เช่น
- กำรสร้ำงแหล่งควำมรู้
- กำรสื่อสำร กำรให้ข้อมูล
- กำรให้เข้ำมำมีส่วนร่วม
- กำรตรวจประเมิน
2. กำหนดหัวข้อที่ต้องกำรสื่อสำร และวิธีกำรเพื่อให้บุคลำกรเข้ำใจ และปฏิบัติตำม
- นโยบำย และวัตถุประสงค์องค์กร
- วัตถุประสงค์หน่วยงำน
- ควำมเสี่ยงและโอกำสขององค์กร และหน่วยงำน
- ข้อกำหนดกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
3. ดำเนินกำรสร้ำงควำมตระหนักตำมวิธีกำรที่กำหนด เช่น กำรให้มีส่วนร่วมในกำรพัฒนำและแก้ไข กำรให้รำงวัล
กับผู้ที่มีควำมสำมำรถ กำรทดสอบควำมสำมำรถหรือควำมชำนำญเป็นระยะ กำรตรวจประเมินหรือผู้บริหำร
ตรวจสอบเพื่อแนะนำ(President audit) และติดตำมผล
สรุปสาระสาคัญ
กำหนดกระบวนกำรในกำรสร้ำงจิตสำนึกให้บุคลำกรที่ทำงำนในองค์กรหรือทำงำนในนำมขององค์กร ซึ่งรวมถึง
ผู้รับเหมำให้เกิดควำมตระหนัก
7.4 การสื่อสาร
องค์กรต้อง พิจำรณำกำรสื่อสำรภำยใน และสื่อสำรภำยนอก ที่เกี่ยวข้องกับระบบบริหำรงำนคุณภำพ โดย
พิจำรณำ สื่อสำรอะไรบ้ำง สื่อสำรเมื่อไหร่ สื่อสำรให้ใครบ้ำง สื่อสำรอย่ำงไร สื่อสำรโดยใคร
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
กำหนดกำรสื่อสำรทั้งภำยในและภำยนอกที่เกี่ยวข้องกับระบบกำรบริหำรงำนคุณภำพ ประเด็นที่ต้องสื่อสำร
รวมถึงแผนกำรสื่อสำร
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. กำหนดข้อมูลที่ต้องกำรสื่อสำรโดยพิจำรณำจำก
- เรื่องที่ต้องกำรสื่อสำรให้เข้ำใจ เช่น นโยบำย วัตถุประสงค์ ควำมเสี่ยงและโอกำส หน้ำที่ควำม
รับผิดชอบและอำนำจ เงื่อนไขพันธสัญญำ
- เรื่องที่ต้องปฏิบัติ เช่น กฎระเบียบองค์กร กฎหมำย ข้อกำหนดอื่นๆ กระบวนกำร
- เรื่องที่ต้องเข้ำมำมีส่วนร่วม เช่น กำรรำยงำน กำรเสนอแนะ กำรร้องเรียน
- เรื่องที่แจ้งเพื่อทรำบ เช่น ผลกำรประเมิน ข้อมูลอื่นๆ
2. กำหนดกลุ่มที่ต้องทำกำรสื่อสำร ดังนี้
- ภำยในองค์กรได้แก่พนักงำนทุกคน ทุกระดับ ผู้รับเหมำที่ปฏิบัติงำนภำยในองค์กร รวมถึงผู้ที่
ทำงำนนำมขององค์กร
- ภำยนอกองค์กร เช่น ลูกค้ำ หน่วยงำนรำชกำร ผู้ขำย/ผู้ให้บริกำร สื่อมวลชน เป็นต้น
3. จัดทำวิธีกำรหรือแผนกำรสื่อสำรสำหรับภำยในองค์กร และแผนกำรสื่อสำรภำยนอกองค์กร ภำยในแผน
ประกอบด้วย
- กำหนดกลุ่มเป้ำหมำย
- ช่องทำงและวิธีกำรสื่อสำร ให้เหมำะสมกับกลุ่มเป้ำหมำย เช่น ประชุมชี้แจง รำยงำน เอกสำร
เวียน ติดประกำศ วรสำร ตู้รับข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ Websites/Intranet, E mail, Line จัด
นิทรรศกำร เปิดบ้ำน(Open House) เป็นต้น
- ข้อมูล และประเภทของข้อมูล
4. ผู้บังคับบัญชำแต่ละหน่วยงำนทำกำรสื่อสำรตำมสำยกำรบังคับบัญชำ และตำมหน้ำที่ที่รับผิดชอบในกรณีที่
เกี่ยวข้องกับผู้ที่ทำงำนในนำมขององค์กร
5. ดำเนินกำรสื่อสำรตำมข้อมูล ไปยังกลุ่มเป้ำหมำยทั้งภำยในและภำยนอก ตำมช่องทำงและวิธีกำรสื่อสำรที่
กำหนดไว้
โครงกำรพัฒนำหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มำตรฐำน ISO 9001:2015 หน้ำ 11 จำก 22
#R2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อกำหนดของมำตรฐำน ISO 9001:2015 และแนวทำงกำรจัดทำระบบ
สรุปสาระสาคัญ
1. กำหนดวิธีกำรสื่อสำรสำหรับพนักงำน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง
2. กำหนดหัวข้อ และข้อมูลเพื่อกำรสื่อสำร ภำยในระหว่ำงระดับและหน่วยงำนต่ำงๆ ในองค์กร
7.5 เอกสารข้อมูล
7.5.1 ทั่วไป
ระบบบริหำรงำนคุณภำพขององค์กรต้องประกอบด้วยเอกสำรข้อมูลที่กำหนดโดยมำตรฐำนนำนำชำติฉบับนี้
เอกสำรข้อมูลที่จำเป็นสำหรับกำรดำเนินงำนเพื่อประสิทธิผลในระบบบริหำรงำนคุณภำพขององค์กร
7.5.2 การจัดทาและทาให้ทันสมัย
เมื่อมีกำรจัดทำและปรับปรุงเอกสำรข้อมูลขององค์กร องค์กรต้องมั่นใจว่ำ
มีกำรชี้บ่ง และคำอธิบำย (เช่น ชื่อเอกสำร วันที่จัดทำ ผู้จัดทำ หรือหมำยเลขเอกสำร)
มีกำรกำหนดรูปแบบ (เช่นภำษำ รุ่นซอฟท์แวร์ รูปภำพ) และสื่อที่ใช้ (เช่น กระดำษ ข้อมูล
อิเล็กทรอนิกส์)
มีกำรทบทวนและอนุมัติ อย่ำงเหมำะสมและเพียงพอ
7.5.3 การควบคุมเอกสารข้อมูล
7.5.3.1 เอกสำรข้อมูลที่จำเป็นในระบบบริหำรจัดกำรคุณภำพ และมำตรฐำน นำนำชำติฉบับนี้
ต้องได้รับกำรควบคุมเพื่อให้มั่นใจว่ำ
มีเพียงพอและเหมำะสมในกำรใช้งำน ตำมควำมจำเป็นในแต่ละกระบวนกำรและขั้นตอน
ได้รับกำรป้องกันอย่ำงเหมำะสม(เช่น เสี่ยงต่อกำรถูกเปิดเผย, นำไปใช้อย่ำงไม่ถูกต้อง หรือไม่ครบถ้วน)
7.5.3.2 สำหรับกำรควบคุมเอกสำรข้อมูล องค์กรต้องดำเนินกิจกรรมต่อไปนี้ ตำมควำมเหมำะสม
มีกำรแจกจ่ำย, กำรเข้ำใช้, กำรค้นหำ และ กำรนำไปใช้
มีกำรจัดเก็บและกำรป้องกัน รวมถึงกำรดูแลรักษำให้เนื้อหำอ่ำนได้ง่ำย
มีควบคุมกำรเปลี่ยนแปลง (เช่นกำรระบุฉบับที่ของกำรแก้ไข) มีกำรกำหนดเวลำจัดเก็บ และกำร
ทำลำย
เอกสำรข้อมูลภำยนอกที่องค์กรพิจำรณำว่ำจำเป็นสำหรับกำรวำงแผนและกำรปฏิบัติของระบบบริหำร
คุณภำพ ต้องได้รับกำรชี้บ่งและควบคุมตำมควำมเหมำะสม
เอกสำรข้อมูลใช้เป็นหลักฐำนที่แสดงถึงควำมสอดคล้องต้องได้รับกำรป้องกันจำกกำรแก้ไขโดยไม่ตั้งใจ
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
ต้องควบคุมเอกสำรข้อมูลที่จำเป็นตำมข้อกำหนด และเอกสำรข้อมูลที่จำเป็นที่กำหนดโดยองค์กร โดยเอกสำรข้อมูล
ดังกล่ำวจะต้องได้รับกำรบ่งชี้ กำหนดรูปแบบ และมีกำรทบทวน และอนุมัติอย่ำงเหมำะสมและเพียงพอ
โครงกำรพัฒนำหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มำตรฐำน ISO 9001:2015 หน้ำ 12 จำก 22
#R2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อกำหนดของมำตรฐำน ISO 9001:2015 และแนวทำงกำรจัดทำระบบ
ต้องควบคุมเอกสำรข้อมูล ที่มำจำกภำยนอกที่จำเป็นต้องใช้ในกำรวำงแผนและกำรปฏิบัติกำรในระบบกำร
บริหำรงำนคุณภำพด้วยวิธีกำรที่เหมำะสม
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. กำหนดเอกสำรสำรสนเทศที่ต้องใช้ในระบบกำรบริหำรงำนคุณภำพ โดยพิจำรณำจำก
- ข้อกำหนดในมำตรฐำน ISO 9001:2015 พิจำรณำดังนี้
จัดทำเป็นเอกสำรสำรสนเทศสำหรับควบคุมกำรปฏิบัติ (Maintain document information)
จัดทำข้อมูลสำรสนเทศเพื่อเป็นหลักฐำนกำรปฏิบัติงำน(Retain document information)
- ข้อกำหนดผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น กฎหมำย ระเบียบปฏิบัติจำกลูกค้ำ มำตรฐำนที่ได้รับกำรรับรอง
- องค์กรกำหนดเองในกรณีที่ต้องกำรประสิทธิผลและประสิทธิภำพ กำรควบคุมควำมเสี่ยงและโอกำส และ
นำไปสู่กำรสร้ำงมูลค่ำเพิ่มให้แก่องค์กร
2. กำหนดรูปแบบเอกสำรสำรสนเทศทีต่ ้องใช้ในแต่ละกระบวนกำรของระบบกำรบริหำรงำนคุณภำพ ในรูปแบบ
หรือสื่อใด เช่น
โปรแกรม
สื่อแม่เหล็ก (magnetic)
ดิสก์คอมพิวเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ หรือ ออฟติคอล (electronic or optical computer disc)
รูปภำพ (photograph)
ชิ้นงำนตัวอย่ำง (master sample)
เอกสำร
3. เอกสำรสำรสนเทศที่ใช้ในระบบกำรบริหำรงำนคุณภำพ เช่น
ข้อกำหนดผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ขอบข่ำยกำรจัดทำระบบ (Scope of Quality Management System)
ผังกระบวนกำรธุรกิจ (Business process Flow)
นโยบำยคุณภำพ (quality policy)
วัตถุประสงค์คุณภำพ (quality objectives)
แผนคุณภำพ (quality plan)
ข้อกำหนดรำยละเอียด (specifications)
แนวทำง (guidelines)
ผังกำรไหลของงำน (flowcharts)
ขั้นตอนกำรดำเนินงำน (procedures)
วิธีปฏิบัติงำน (work instructions)
ผลกำรปฏิบัติงำน (retain Document information)
โครงกำรพัฒนำหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มำตรฐำน ISO 9001:2015 หน้ำ 13 จำก 22
#R2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อกำหนดของมำตรฐำน ISO 9001:2015 และแนวทำงกำรจัดทำระบบ
สรุปสาระสาคัญ
o กำหนดเอกสำรสำรสนเทศที่ต้องมีในระบบบริหำรงำนคุณภำพ และประเภทเอกสำรสนเทศ
o กำหนดกระบวนกำรควบคุมเอกสำรสำรสนเทศตำมประเภทเอกสำรสนเทศที่ใช้ในองค์กร
o กำหนดกำรดูแลเอกสำรสำรสนเทศ และข้อมูลสำรสนเทศตำมประเภทเอกสำรสำรสนเทศจำกภัยคุกคำม
ตัวอย่างการสนับสนุนด้านทรัพยากร
การขออนุมัตจิ านวนพนักงานประจาแยกตามหน่วยงาน
จานวนพนักงานประจา
สังกัด ปัจจุบันทีไ่ ด้รับอนุมตั ิ อัตรากาลังพล
เพิม่ /(ลด)
1 ก.ค.61 30 มิ.ย.61
ฝ่ายสานักงาน
• แผนกบัญชี 2 2
• แผนกจัดซื้อท้องถิ่น 1 1
• พัสดุ 2 2
• แผนกบุคคล 1 1
• จป. 1 1
รวมสานักงาน 7 7 0
ฝ่ายผลิต
• แผนกเคมี 2 2
• แผนกหน่วยงานธุรการ 4 4
• แผนกหม้อไอน้า 29 31 2
• แผนกไฟฟ้า 16 16
รวมฝ่ายผลิต 51 53 2
รวมฝ่ายสานักงานผลิต 58 60 2
ตัวอย่ำงกำรสนับสนุนโครงสร้ำงพื้นฐำน และสภำพแวดล้อมในกำรดำเนินกระบวนกำร
ตารางตรวจสอบการเตรียมความพร้อมของทรัพยากรต่างๆ
สถานะ
No. รายการตรวจสอบ รายละเอียดการตรวจสอบ Remark
Yes No
1 พื้นที่ผลิต
1.1 กำรแบ่งพื้นที่
ตำมแผนผังพื้นที่ผลิต
1.2 ผนัง / พื้น
ไม่มฝี ุ่น/หยำกไย่/สัตว์พำหะ/สัตว์กัดแทะ
1.3 กำรระบำยอำกำศ ไม่มีควำมชื้น/หยอดหรือไอน้ำ
1.4 แสงสว่ำง สำมำรถอ่ำนฉลำกได้ชัดเจน/Fluorescent 1
หลอด/m2
1.5 ไม่มีกำรใช้ของมีคมและพลำสติคแข็ง ใช้คัตเตอร์มดี ้ำมและระบบล๊อค ไม่มีกำรหัก
ใบมีด มีกำรใช้แม๊กซ์ ลวดหนีบกระดำษ และไม่มี่
ของมีคม แก้ว และพลำสติคแข็งในพื้นที่ผลิต
1.6 ป้ำยสื่อควำม
ชี้บ่งพื้นที่จัดเก็บชิ้นส่วน/ผลิตภัณฑ์
2 ความเพียงพอของอุปกรณ์การผลิต
2.1 โต๊ะ ครบ/สมบูรณ์ใช้งำนได้/สะอำด
3 อุปกรณ์เตรียมความพร้อมและตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน
3.1 ถังดับเพลิง ติดตั้งตำมพื้นที่ที่กำหนด มีผลกำรตรจสอบตำม
ช่วงเวลำ สภำพถังสมบูรณ์ ไม่มีสิ่งกีดขวำง
3.2 ประตูทำงออก ไม่ล๊อคและเปิดออกได้ตลอดเวลำ ไม่มสี ิ่งกีดขวำง
3.3 ทำงหนีไฟ ไม่มสี ิ่งกีดขวำง เส้นทำงไปสู่พื้นทีป่ ลอดภัย
3.3 สำยไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้ำ สมบูรณ์ จัดเก็บเรียบร้อย รอยต่อมิดชิด ปลั๊ก
สมบูรณ์ ไม่มสี ำยเปลือยหรือเปื่อย
4 พื้นที่เก็บวัตถุดิบ
4.1 พื้นที่ ไม่มีควำมชื้น/หยอดหรือไอน้ำ/เชือ้ รำ/แมลง
4.2 ควำมสะอำด สะอำด ไม่มฝี ุ่น ร่องรอยหรือแหล่งที่ทำให้เกิด
กำรปนเปื้อน
4.3 กำรจัดเรียง จัดวำงตำมข้อมูลที่บรรจุภณั ฑ์ระบุ และกำรเรียง
ง่ำยต่อกำรตรวจสอบและนำมำใช้
4.4 กำรนำไปใช้ กำรเข้ำออก ออกก่อน (FIFO)
4.5 กำรป้องกันกำรเกิดอัคีภัย ไม่ใกล้ควำมร้อน/ปลั๊กไฟฟ้ำ/อุปกรณ์ไฟฟ้ำ/ ห่ำง
จำกหลอดฟลูออเรสเซน>60 CM
5 พื้นที่เก็บสินค้าสาเร็จรูป
5.1 พื้นที่ ไม่มีควำมชื้น/หยอดหรือไอน้ำ/เชือ้ รำ/แมลง
5.2 สะอำด สะอำด ไม่มฝี ุ่น ร่องรอยหรือแหล่งที่ทำให้เกิด
กำรปนเปื้อน
5.3 กำรจัดเรียง จัดวำงซ้อนไม่เกิน 2 ชั้น และกำรเรียงง่ำยต่อ
กำรตรวจสอบและจัดส่ง
5.4 กำรนำไปใช้ กำรเข้ำออก ออกก่อน (FIFO)
5.5 กำรป้องกันกำรเกิดอัคีภัย ไม่ใกล้ควำมร้อน/ปลั๊กไฟฟ้ำ/อุปกรณ์ไฟฟ้ำ/ ห่ำง
จำกหลอดฟลูออเรสเซน>60 CM
6 อื่นๆ (ระบุ)
....... .......
ตัวอย่างการสนับสนุนด้านทรัพยากรในการตรวจติดตามและตรวจวัด
แผนการสอบเทียบ/ทะเบียนควบคุมการสอบเทียบ
ชื่อเครื่องตรวจ ความถี่ของ กาหนดการสอบเทียบ/ทวนสอบประจาปี…………….. สถาบันที่ทา
ลาดับ หน่วยงาน หมาย
เครื่องวัดและเครื่อง ผู้ผลิต แบบ/รุน หมายเลข การสอบ การสอบ
ที่ ที่ใช้เก็บ ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. เหตุ
ทดสอบ เทียบ เทียบ
ตัวอย่างความสามารถบุคลากร
ตาแหน่ง/ประเภทงาน การรับรองความสามารถ
พนักงานใหม่ ประจาปี
งานเชื่อมเหล็ก ใบรับรองการสอบ ทดสอบการปฏิบัติงาน
ทดสอบการปฏิบัติงาน และ และประเมินผลงาน
ประเมินผลงาน
สแตนเลท ใบรับรองการสอบ ทดสอบการปฏิบัติงาน
ทดสอบการปฏิบัติงาน และ และประเมินผลงาน
ประเมินผลงาน
วัสดุเกรดพิเศษ ใบรับรองการสอบ ทดสอบการปฏิบัติงาน
ทดสอบการปฏิบัติงาน และ และประเมินผลงาน
ประเมินผลงาน
ตัวอย่างแผนการสื่อสาร
ตารางแสดงรายละเอียดการสื่อสาร สาหรับพนักงานภายในบริษัทฯ
หัวข้อการสื่อสาร ความถี่ ช่องทางการสื่อสาร ผู้รับการสื่อสาร
นโยบายบริษัทฯ - ประกาศใช้ ประกาศบริษัทฯ
พนักงานทุกคน
- มีการเปลี่ยนแปลง ชี้แจงหรืออบรม
วัตถุประสงค์องค์กร - มีกิจกรรมใหม่ ประกาศบริษัทฯ
พนักงานทุกคน
- มีการเปลี่ยนแปลง ชี้แจงหรืออบรม
- มีกิจกรรมใหม่ ประกาศบริษัทฯ
ผลการประเมินความเสี่ยง พนักงานทุกคน
- มีการเปลี่ยนแปลง ชี้แจงหรืออบรม
- มีการจัดทาใหม่ ประกาศบริษัทฯ
วัตถุประสงค์และเป้าหมายโครงการ พนักงานทุกคน
- มีการเปลี่ยนแปลง ชี้แจงหรืออบรม
- ประกาศใช้ ประกาศบริษัทฯ
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง พนักงานทุกคน
- มีการเปลี่ยนแปลง ชี้แจงหรืออบรม
โครงสร้างหน้าที่ และความ - ประกาศใช้ ประกาศบริษัทฯ
พนักงานทุกคน
รับผิดชอบ - มีการเปลี่ยนแปลง ชี้แจงหรืออบรม
- เมื่อต้องการร้องเรียน หรือ ประกาศบริษัทฯ
ข้อร้องเรียน และข้อเสนอแนะ พนักงานทุกคน
เสนอแนะ ชี้แจงหรืออบรม
- ประกาศใช้ ประกาศบริษัทฯ
การสื่อสาร และ ช่องทางการสื่อสาร พนักงานทุกคน
- มีการเปลี่ยนแปลง ชี้แจงหรืออบรม
การควบคุมและ
- มีการจัดทา ชี้แจงหรืออบรม พนักงานที่เกี่ยวข้อง
การดาเนินการ
- มีการเปลี่ยนแปลง รับทราบเอกสาร ผู้จัดการฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ในการปฏิบัติงาน KPI
- มีการจัดทา ประกาศบริษัทฯ
การติดตามและการตรวจวัด พนักงานทุกคน
- มีการเปลี่ยนแปลง ชี้แจงหรืออบรม
ประกาศบริษัทฯ
ข้อมูลย้อนกลับจากลูกค้า เมื่อได้รับข้อมูล พนักงานทุกคน
ชี้แจงหรืออบรม
ข้อมูลย้อนกลับจากผูม้ ีส่วนได้ส่วน ประกาศบริษัทฯ
เมื่อได้รับข้อมูล พนักงานทุกคน
เสีย ชี้แจงหรืออบรม
ตารางแสดงรายละเอียดการสื่อสาร สาหรับบุคคลภายนอกบริษัทฯ
หัวข้อการสื่อสาร ความถี่ ช่องทางการสื่อสาร ผู้รับการสื่อสาร
เอกสารชี้แจง
- ประกาศใช้ แผ่นพับ ลูกค้า
นโยบาย - มีการเปลี่ยนแปลง ประชาสัมพันธ์ ผู้รับเหมา และ Supplier
อบรมชี้แจง
เอกสารชี้แจง
- ประกาศใช้ แผ่นพับ ลูกค้า
การสื่อสาร และ ช่องทางการสื่อสาร
- มีการเปลี่ยนแปลง ประชาสัมพันธ์ ผู้รับเหมา และ Supplier
อบรมชี้แจง
เอกสารชี้แจง
- เมื่อต้องการร้องเรียน หรือ แผ่นพับ ลูกค้า
ข้อร้องเรียน และข้อเสนอแนะ
เสนอแนะ ประชาสัมพันธ์ ผู้รับเหมา และ Supplier
อบรมชี้แจง
- มีการเข้ามาปฏิบัติงาน เอกสารชี้แจง
การควบคุมและการดาเนินการ ใน
- มีการเปลี่ยนแปลง ชี้แจงหรืออบรม ผู้รับเหมา และ Supplier
การปฏิบัติงาน
- เกี่ยวกับกระบวนการ รับทราบเอกสาร
โทรศัพท์ เพื่อนบ้าน
การแจ้งเหตุในกรณีฉุกเฉิน เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
ไลน์ นิติบุคคลหมู่บ้าน
การแจ้งลูกค้ากรณีเกิดเหตุฉุกเฉินกับ เมื่อเหตุการณ์นั้นมีผลและ/ ชี้แจงเป็นลายลักษณ์
ลูกค้า
กระบวนการและผลิตภัณฑ์ หรือกระทบกับลูกค้า อักษร
ข้อสอบ
ข้อกำหนด 7 กำรสนับสนุน
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อสอบ_ข้อกาหนด 7 การสนับสนุน
3. จากการดาเนินงานตามข้อมูลด้านล่าง เป็นการดาเนินงานตามข้อกาหนดใด?
“โรงงานติดตั้งระบบสารองข้อมูลเพื่อรองรับระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในกระบวนผลิตและบริการที่อาจเกิดอาการ
เสีย และมีการบารุงรักษาระบบทุก 3 เดือน”
ก. 7.1.1
ข. 7.1.3
ค. 7.1.5
ง. 7.5.1
4. จากการดาเนินงานตามข้อมูลด้านล่าง เป็นการดาเนินงานตามข้อกาหนดใด?
“แผนกเย็ บ ผ้ าถู ก ก าหนดให้ มี ค วามสว่างที่ จัก รแต่ ล ะตั ว อย่ างน้ อ ย 1000 ลั ก ซ์ เพื่ อ ให้ เห็ น รอยที่ ต้ อ งเย็ บ
(Marking) และเห็นฝีเข็มบนชิ้นงาน”
ก. 7.1.1
ข. 7.1.3
ค. 7.1.4
ง. 7.1.5
5. จากการดาเนินงานตามข้อมูลด้านล่าง เป็นการดาเนินงานตามข้อกาหนดใด?
“กาหนดหัวข้อการทดสอบ วิธีการทดสอบ และเกณฑ์ตัดสินผลการทดสอบของตาแหน่งงานที่ต้องรับรอง
ความสามารถ เช่น พนักงานขนส่ง พนักงานผลิต”
ก. 7.1.2
ข. 7.1.5
ค. 7.2
ง. 7.3
6. จากการดาเนินงานตามข้อมูลด้านล่าง เป็นการดาเนินงานตามข้อกาหนดใด?
“กาหนดความสามารถของบุคลากรที่ปฏิบัติงาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการต้องมี
ความสามารถปฏิบัติงานตามเอกสารวิธีปฏิบัติงาน เช่น Procedure, Work Instruction, มาตรฐานการ
ทางานจากลูกค้าได้”
ก. 7.1.2
ข. 7.1.5
ค. 7.2
ง. 7.3
7. จากการดาเนินงานตามข้อมูลด้านล่าง เป็นการดาเนินงานตามข้อกาหนดใด?
“บุคลากรขององค์กรและบุคลากรที่ทางานในนามมีความเข้าใจและปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิผลในเรื่อง
นโยบาย วัตถุประสงค์องค์กร ข้อกาหนด ความเสี่ยงและการจัดการความเสี่ยงในงานที่รับผิดชอบ”
ก. 7.1.2
ข. 7.1.5
ค. 7.2
ง. 7.3
8. จากการดาเนินงานตามข้อมูลด้านล่าง เป็นการดาเนินงานตามข้อกาหนดใด?
“กาหนดกระบวนการทวนสอบความสามารถของโปรแกรม SAP เพื่อรับรองความแม่นยา การแปรค่า และการ
วิเคราะห์ข้อมูลของระบบทุก 2 ปี”
ก. 7.1.1
ข. 7.1.3
ค. 7.1.5
ง. 7.5.3
9. เหตุการณ์ด้านล่างเป็นการดาเนินงานตามข้อกาหนดใด?
“บันทึกคุณภาพของบริษัทประกอบโทรทัศน์ (Television set) ได้ถูกกาหนดให้จัดเก็บไว้ตามหน่วยงานที่
รับผิดชอบ ซึ่งกาหนดช่วงเวลาจัดเก็บรักษาบันทึกไว้เป็นเวลา 3 ปี หรือ 5 ปี หรือ 10 ปี โดยพิจารณาจาก
ระยะเวลาประกันผลิตภัณฑ์”
ก. 7.1.5
ข. 7.5.1
ค. 7.5.2
ง. 7.5.3
เฉลยข้อสอบ
ข้อกำหนด 7 กำรสนับสนุน
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
เฉลยข้อสอบ_ข้อกาหนด 7 การสนับสนุน
3. จากการดาเนินงานตามข้อมูลด้านล่าง เป็นการดาเนินงานตามข้อกาหนดใด?
“โรงงานติดตั้งระบบสารองข้อมูลเพื่อรองรับระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในกระบวนผลิตและบริการที่อาจเกิดอาการ
เสีย และมีการบารุงรักษาระบบทุก 3 เดือน”
ก. 7.1.1
ข. 7.1.3
ค. 7.1.5
ง. 7.5.1
4. จากการดาเนินงานตามข้อมูลด้านล่าง เป็นการดาเนินงานตามข้อกาหนดใด?
“แผนกเย็ บ ผ้ าถู ก ก าหนดให้ มี ค วามสว่างที่ จัก รแต่ ล ะตั ว อย่ างน้ อ ย 1000 ลั ก ซ์ เพื่ อ ให้ เห็ น รอยที่ ต้ อ งเย็ บ
(Marking) และเห็นฝีเข็มบนชิ้นงาน”
ก. 7.1.1
ข. 7.1.3
ค. 7.1.4
ง. 7.1.5
5. จากการดาเนินงานตามข้อมูลด้านล่าง เป็นการดาเนินงานตามข้อกาหนดใด?
“กาหนดหัวข้อการทดสอบ วิีีการทดสอบ และเกณ์์ตัดสินผลการทดสอบของตาแหน่งงานที่ต้องรับรอง
ความสามารถ เช่น พนักงานขนส่ง พนักงานผลิต”
ก. 7.1.2
ข. 7.1.5
ค. 7.2
ง. 7.3
6. จากการดาเนินงานตามข้อมูลด้านล่าง เป็นการดาเนินงานตามข้อกาหนดใด?
“กาหนดความสามารถของบุคลากรที่ปฏิบัติงาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพผลิตภัณ์์และบริการต้องมี
ความสามารถปฏิบัติงานตามเอกสารวิีีปฏิบัติงาน เช่น Procedure, Work Instruction, มาตรฐานการ
ทางานจากลูกค้าได้”
ก. 7.1.2
ข. 7.1.5
ค. 7.2
ง. 7.3
7. จากการดาเนินงานตามข้อมูลด้านล่าง เป็นการดาเนินงานตามข้อกาหนดใด?
“บุคลากรขององค์กรและบุคลากรที่ทางานในนามมีความเข้าใจและปฏิบัติได้อย่างมีประสิทีิผลในเรื่อง
นโยบาย วัตถุประสงค์องค์กร ข้อกาหนด ความเสี่ยงและการจัดการความเสี่ยงในงานที่รับผิดชอบ”
ก. 7.1.2
ข. 7.1.5
ค. 7.2
ง. 7.3
8. จากการดาเนินงานตามข้อมูลด้านล่าง เป็นการดาเนินงานตามข้อกาหนดใด?
“กาหนดกระบวนการทวนสอบความสามารถของโปรแกรม SAP เพื่อรับรองความมั่นยา การแปรค่า และการ
วิเคราะห์ข้อมูลของระบบทุก 2 ปี”
ก. 7.1.1
ข. 7.1.3
ค. 7.1.5
ง. 7.5.3
9. เหตุการณ์ด้านล่างเป็นการดาเนินงานตามข้อกาหนดใด?
“บันทึกคุณภาพของบริษัทประกอบโทรทัศน์ (Television set) ได้ถูกกาหนดให้จัดเก็บไว้ตามหน่วยงานที่
รับผิดชอบ ซึ่งกาหนดช่วงเวลาจัดเก็บรักษาบันทึกไว้เป็นเวลา 3 ปี หรือ 5 ปี หรือ 10 ปี โดยพิจารณาจาก
ระยะเวลาประกันผลิตภัณ์์”
ก. 7.1.5
ข. 7.5.1
ค. 7.5.2
ง. 7.5.3
8. การปฏิบัติงาน (Operation)
8. การปฏิบัติงาน (Operation)
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
กำรพิจำรณำกระบวนกำรทำงธุรกิจในขอบเขตของระบบบริหำรงำนคุณภำพ เพื่อจัดทำลำดับ
ควำมสัมพันธ์ของกระบวนกำร ในรูปแบบของ ผังกระบวนกำรทำงธุรกิจ (business process map) หรือ
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. นำผังกระบวนกำรทำงธุรกิจมำพิจำรณำว่ำต้องจัดตั้งกระบวนใดบ้ำง และกระบวนกำรที่ต้องจัดตั้งขึ้นตำม
หน้ำที่ควำมรับผิดชอบจำกผังโครงสร้ำงองค์กร
2. นำผลกำรพิจำรณำควำมเสี่ยงและโอกำส และวัตถุประสงค์คุณภำพมำควบคุมกำรดำเนินงำน
3. ขั้นตอนในกำรดำเนินงำนนำมำเขียนเป็นผังกำรไหลของงำน แผนคุณภำพ หรือผังกระบวนกำรเพื่อควบคุมกำร
ดำเนินงำน
1. ชี้บ่งกระบวนการที่จาเป็นในการควบคุมกระบวนการ
องค์กรต้องนำผังกระบวนกำรทำงธุรกิจมำพิจำรณำว่ำต้องจัดตั้งกระบวนกำรใดที่จำเป็นต้องมี และใครจะเป็น
ผู้รับผิดชอบกระบวนกำรนั้นๆ ซึ่งกระบวนกำรที่จำเป็นต้องมีคือกระบวนกำรที่ทำให้องค์กรบรรลุผลลัพธ์ตำมที่
ตั้งใจไว้ (Intended outcome) ดังนี้
1) เพื่อให้บรรลุข้อกำหนดของลูกค้ำและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
2) เพื่อสำมำรถสร้ำงผลิตภัณฑ์และบริกำร และกระบวนกำรสนับสนุนต่ำงๆที่ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์และ
บริกำรเป็นไปตำมข้อกำหนด หรือต้องกำรผลลัพธ์ต่ำงๆ
3) เพื่อควบคุมควำมเสี่ยงและโอกำส ตำมผลกำรพิจำรณำควำมเสี่ยง
4) เพื่อควบคุมกำรดำเนินงำนตำมวัตถุประสงค์คุณภำพที่ประสบควำมสำเร็จ
นำกระบวนกำรในข้อ 1) ถึง 4) มำจัดทำเป็นกระบวนกำร ซึ่งอำจอยู่ในรูป กิจกรรมกำรดำเนินงำน ผังกำรไหล
กำรควบคุมกำรวัด กำรฝึกอบรมที่จำเป็น อุปกรณ์ วิธีกำร ข่ำวสำร วัตถุดิบ และทรัพยำกรอื่นๆ
2. พิจารณาข้อมูล และมอบหมายการจัดทาแผนคุณภาพ
ในกำรจัดทำแผนคุณภำพหรือผังกระบวนกำรในแต่ละขั้นตอน ควรพิจำรณำว่ำ ใครเป็นผู้รับผิดชอบ ทำอะไร ที่
ไหน เมื่อใด อย่ำงไร และ ควรสำมำรถอธิบำยเหตุผลด้วยว่ำ ทำไมจึงต้องดำเนินกำรเช่นนั้น หรือ สรุปย่อๆ ว่ำ 5
W 1 H (Who? What? Where? When? Why? and How?) และในแต่ละขั้นตอนมีควำมเกี่ยวข้องกับบุคคล
หน่วยงำน และเอกสำรอะไรบ้ำง
- กระบวนกำรจัดจำหน่ำย - กระบวนกำรออกแบบและพัฒนำ
- กระบวนกำรบำรุงรักษำ - กระบวนกำรจัดกำรข้อมูล
- กระบวนกำรบริหำรจัดกำร - กระบวนกำรสื่อสำรกับลูกค้ำ
- กระบวนกำรหลังกำรส่งมอบ
สรุปสาระสาคัญ
o วำงแผนและ จัดตั้งกระบวนกำรที่ใช้ในกำรผลิตผลิตภัณฑ์และบริกำร และกระบวนกำรสนับสนุนต่ำงๆ
ของทุกหน่วยงำน ให้สอดคล้องกับผังกระบวนกำรธุรกิจตำมขอบข่ำยระบบบริหำรงำนคุณภำพ
o นำควำมเสี่ยงและโอกำสที่กำหนดมำตรกำรมำวำงแผนกำรดำเนินงำนเพื่อเพิ่มโอกำส และลดผลกระทบ
o นำวัตถุประสงค์หน่วยงำนมำทำกำรวำงแผนกำรดำเนินงำนเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์
o กำรวำงแผนและกำรจัดทำกระบวนกำรดังกล่ำว อำจอยู่ในรูปแบบใดก็ได้ตำมควำมเหมำะสม เช่น แผน
คุณภำพ(Quality Plan) ผังกระบวนกำร แผนงำน สัญญำ กฎระเบียบ มำตรกำร เอกสำรสำรสนเทศ
อื่นๆ แผนงำน หรือสัญลักษณ์
8.2 กำรพิจำรณำข้อกำหนดสำหรับผลิตภัณฑ์และบริกำร
8.2.1 กำรสื่อสำรกับลูกค้ำ
กำรสื่อสำรกับลูกค้ำต้องรวมถึงที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และบริกำรข้อมูลเพิ่มเติม สัญญำหรือ คำสั่งซื้อ รวมถึงกำร
เปลี่ยนแปลงกำรรับข้อมูลป้อนกลับจำกลูกค้ำที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และบริกำร รวมถึงข้อร้องเรียน กำร
เคลื่อนย้ำยและกำรดูแลทรัพย์สนิ ลูกค้ำ ข้อกำหนดเฉพำะ สำหรับกระทำสิง่ ที่เกี่ยวข้องเมื่อเกิดสถำนกำรณ์ฉุกเฉิน
8.2.4 การเปลี่ยนแปลงข้อกาหนดของผลิตภัณฑ์และบริการ
องค์กรต้องมั่นใจว่ำเอกสำรสำรสนเทศที่เกี่ยวข้องได้รับกำรปรับแก้ และผู้ที่เกี่ยวข้องได้ตระหนัก
รับทรำบข้อกำหนดที่มีกำรเปลีย่ นแปลง เมื่อข้อกำหนดผลิตภัณฑ์และบริกำรมีกำรเปลี่ยนแปลง
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
จัดตั้งกระบวนกำรรับข้อมูลผลิตภัณฑ์และบริกำรจำกลูกค้ำ และกำรดำเนินกำรตำมข้อกำหนดที่จำเป็นให้
ลูกค้ำ และสร้ำงกระบวนกำรจัดกำรเมื่อมีกำรเปลี่ยนแปลงข้อมูลผลิตภัณฑ์
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. กำหนดช่องทำงกำรสื่อสำรกับลูกค้ำโดยกำหนดเกณฑ์กำรควบคุมคือ กำรให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์และบริกำร กำรรับ
ข้อมูล กำรยืนยัน กำรทำสัญญำ กำรเปลี่ยนแปลง กำรให้ข้อมูลเพิ่มเติม กำรรำยงำน กำรรับข้อเสนอแนะ
ข้อร้องเรียน และกำรสื่อสำรในกรณีไม่ปกติ กรณีฉุกเฉินที่กระทบกับลูกค้ำ
2. องค์กรต้องระบุข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับลูกค้ำ ดังนี้
- ทบทวนคุณสมบัติเฉพำะด้ำนของผลิตภัณฑ์และบริกำรในขอบข่ำยของระบบกำรบริหำรงำนคุณภำพ ที่ได้
กำหนดไว้แล้ว รวมทั้งคำนึงถึงข้อกำหนดของกฎหมำย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
- องค์กรต้องทบทวนและชี้บ่งข้อกำหนดของผู้ลูกค้ำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ที่ได้รับมำในรูปแบบต่ำงๆ เช่น คำสั่ง
ซือ้ ใบเสนอรำคำ Term of Reference(TOR) สัญญำจ้ำง
- คุณสมบัติเฉพำะด้ำนของสินค้ำ/บริกำรในขอบข่ำยของระบบกำรบริหำรงำนคุณภำพ ที่ต้องได้รับ เช่น
คุณภำพ เช่น รูปแบบ ขนำด สี ลวดลำย อำยุกำรใช้งำน คุณสมบัติอื่นๆ รำคำ ระยะเวลำส่งมอบอสถำนที่
จัดส่ง กำรบริกำรหลังกำรขำย
- ข้อกำหนดของกฎหมำย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น Certificate of Analysis (COA), Safety Data
Sheet (SDS), Manual (คู่มือกำรใช้งำน) ป้ำยชี้บ่งโดยเฉพำะ
- กำรติดตำมและรวบรวมข้อกำหนดที่ได้รับจำกลูกค้ำเพื่อให้ได้ข้อมูลที่สำมำรถนำไปใช้ในกำรดำเนินกำรได้
อย่ำงครบถ้วน
สรุปสาระสาคัญ
มีกำรระบุข้อกำหนดของสินค้ำ/บริกำร ซึ่งครอบคลุม
o กำหนดช่องทำงกำรสื่อสำรกับลูกค้ำให้ครอบคลุมทั้งเชิงรุก และเชิงรับ
o กำหนดกำรได้มำซึ่งข้อกำหนดของลูกค้ำ กำรยืนยันข้อกำหนด และจัดเก็บข้อมูลสำรสนเทศ
8.3 การออกแบบและการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ
8.3.1 ทั่วไป
องค์กรต้องจัดทำ นำไปปฏิบัติ และคงรักษำไว้ซึ่งกระบวนกำรออกแบบและพัฒนำ เพื่อให้มั่นใจถึงกำร
เป็นส่วนหนึ่งในกำรเตรียมควำมพร้อมของผลิตภัณฑ์และบริกำรอย่ำงเหมำะสม
8.3.2 การวางแผนการออกแบบและพัฒนา
ในกำรพิจำรณำขั้นตอนและกำรควบคุมของกำรออกแบบและพัฒนำ องค์กรต้องพิจำรณำสภำพกำร
ทำงำน ระยะเวลำ และควำมซับซ้อนของกิจกรรมกำรออกแบบและพัฒนำ
ข้อกำหนดในแต่ละขั้นตอน รวมถึงกำรทบทวนกำรออกแบบและพัฒนำที่เกี่ยวข้อง กิจกรรมที่ใช้สำหรับ
กำรทวนสอบและรับรองกำรออกแบบและพัฒนำ ควำมรับผิดชอบและอำนำจในกระบวนกำรออกแบบและ
พัฒนำ ทรัพยำกรภำยในและภำยนอกสำหรับกำรออกแบบและพัฒนำผลิตภัณฑ์และบริกำร ควำมจำเป็นใน
กำรควบคุมกำรประชุมระหว่ำงในหน่วยงำนกับผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนกำรออกแบบและพัฒนำ
ควำมจำเป็นในกำรมีส่วนร่วมของลูกค้ำและผู้ใช้ในกระบวนกำรออกแบบและพัฒนำ
ข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องในกำรจัดเตรียมผลิตภัณฑ์และบริกำร
ระดับกำรควบคุมตำมควำมคำดหวังของลูกค้ำและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ในกำรออกแบบและพัฒนำ
เอกสำรข้อมูลที่จำเป็นสำหรับแสดงควำมสอดคล้องกับข้อกำหนดในกำรออกแบบและพัฒนำ
8.3.3 ปัจจัยนาเข้าในการออกแบบและพัฒนา
องค์กรต้องพิจำรณำข้อกำหนดที่จำเป็นสำหรับรูปแบบเฉพำะในกำรออกแบบและพัฒนำผลิตภัณฑ์และ
บริกำร โดยต้องพิจำรณำดังนี้ ข้อกำหนดด้ำนกำรใช้งำนและสมรรถนะ ข้อมูลที่ได้จำกกิจกรรมกำรออกแบบและ
พัฒนำผลิตภัณฑ์และบริกำรในครั้งก่อน กฎหมำยและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง มำตรฐำนและข้อบังคับที่องค์กรตกลง
ไว้ในกำรดำเนินกำร ผลกระทบที่อำจเกิดขึ้นจำกธรรมชำติของสินค้ำและบริกำร
ปัจจัยนำเข้ำต้องมีควำมเพียงพอ ครบถ้วน และโปรงใส ตำมวัตถุประสงค์ของกำรออกแบบและพัฒนำ ข้อ
ขัดแย้งที่เกิดขึ้นควรได้รับกำรแก้ไข
องค์กรต้องจัดเก็บเอกสำรข้อมูลปัจจัยนำเข้ำในกำรออกแบบและพัฒนำ
8.3.4 การควบคุมการออกแบบและพัฒนา
องค์กรต้องควบคุมกระบวนกำรออกแบบและพัฒนำเพื่อให้มั่นใจว่ำผลที่ได้บรรลุตำมข้อกำหนดได้ถูกระบุไว้
มีกำรทบทวนเพื่อประเมินผลกำรออกแบบและพัฒนำถึงควำมสอดคล้องกับข้อกำหนด
มีกำรทวนสอบเพื่อให้มั่นใจว่ำปัจจัยนำออกสอดคล้องกับปัจจัยนำเข้ำในกำรออกแบบและพัฒนำ
มีกำรรับรองเพื่อให้มั่นใจว่ำสินค้ำและบริกำรไปเป็นตำมกำรใช้ที่ระบุไว้หรือข้อกำหนดกำรใช้งำน
มีกำรดำเนินกำรที่จำเป็นเมื่อพบปัญหำที่เกิดขึ้นในกิจกรรมกำรทบทวนหรือกำรทวนสอบและกำรรับรอง
มีกำรจัดเก็บเอกสำรข้อมูลของกิจกรรมเหล่ำนี้
8.3.5 ปัจจัยนาออกในการออกแบบและพัฒนา
องค์กรต้องมั่นใจว่ำปัจจัยนำออกที่ได้จำกกำรออกแบบและพัฒนำสอดคล้องกับข้อกำหนดปัจจัยนำเข้ำ
มีควำมพอเพียงสำหรับกระบวนที่เกี่ยวข้องในกำรเตรียมผลิตภัณฑ์และบริกำร ระบุหรืออ้ำงอิงข้อกำหนดในกำร
ติดตำมและตรวจวัดตำมควำมเหมำะสม และเกณฑ์กำรยอมรับ ระบุคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์และบริกำรที่จำเป็น
ต่อกำรใช้งำน และกำรมีเตรียมอย่ำงครอบคลุมและครบถ้วน
องค์กรต้องจัดเก็บเอกสำรข้อมูลของผลที่ได้จำกกำรออกแบบและพัฒนำ
8.3.6 การเปลี่ยนแปลงการออกแบบและพัฒนา
องค์กรต้องมีกำรชี้บ่ง ทบทวน และควบคุมกำรเปลี่ยนแปลงของปัจจัยนำเข้ำและปัจจัยนำออกในขณะกำร
ออกแบบและพัฒนำผลิตภัณฑ์และบริกำร หรือกระบวนกำรที่เกี่ยวเนื่องตำมขอบเขตที่จำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่ำไม่
เกิดผลกระทบต่อควำมสอดคล้องต่อข้อกำหนด
องค์กรต้องจัดเก็บเอกสำรข้อมูลกำรเปลี่ยนแปลงกำรออกแบบและพัฒนำ ผลกำรทบทวน ผู้มีอำนำจสำหรับ
กำรเปลี่ยนแปลง กำรดำเนินกำรเพื่อป้องกันผลกระทบในทำงลบ
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
1. มีกำรวำงแผน โดยกำหนดขั้นตอน ผู้รับผิดชอบ กำรประสำนงำน และกำรปรับปรุงแผน
2. จัดทำแผนงำนกำรออกแบบและพัฒนำผลิตภัณฑ์
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. กำหนดดำเนินกำร และคงรักษำไว้ซึ่งกระบวนกำรออกแบบและกำรพัฒนำที่จำเป็น เพื่อตอบสนองอย่ำงมี
ประสิทธิผลและประสิทธิภำพต่อควำมต้องกำรและควำมคำดหวังของลูกค้ำและผู้สนใจอื่นๆ ดังนี้
2. วำงแผนกำรออกแบบ
- กำรออกแบบและพัฒนำผลิตภัณฑ์หรือกระบวนกำรต้องกำหนดแผนงำน กิจกรรม ช่วงเวลำในแต่ละ
กิจกรรม ผู้รับผิดชอบ ผู้ทบทวนกำรออกแบบ ผู้ทวนสอบ และผู้อนุมัติ ในแผนกำรออกแบบ
- กำรออกแบบและพัฒนำผลิตภัณฑ์หรือกระบวนกำร องค์กรควรพิจำรณำสมรรถนะ ส่วนประกอบพื้นฐำน
ขององค์กร และองค์ประกอบทั้งหมดที่สนับสนุนให้บรรลุถึงสมรรถนะของผลิตภัณฑ์และกระบวนกำรที่
คำดหวังโดยลูกค้ำและผู้สนใจอื่นๆ ตัวอย่ำงเช่น องค์กรควรพิจำรณำวงจรชีวิต, ควำมปลอดภัยและ
สุขภำพ, ควำมสำมำรถในกำรทดสอบ, ควำมสำมำรถในกำรใช้, ควำมเป็นมิตรกับผู้ใช้, ควำมเชื่อถือได้,
ควำมทนทำน, กำรเคลื่อนไหวอิริยำบท, สิ่งแวดล้อม, กำรทำลำยผลิตภัณฑ์ และกำรชี้บ่งควำมเสี่ยง
- กำหนดกระบวนกำรชี้บ่ง ประเมินควำมเสี่ยงผลิตภัณฑ์ กระบวนกำร และดำเนินกำรบรรเทำควำมเสี่ยงที่
อำจเป็นได้ต่อผู้ใช้เนื่องจำกผลิตภัณฑ์และกระบวนกำรขององค์กร กำรประเมินควำมเสี่ยงควรดำเนินกำร
เพื่อประเมินควำมเป็นไปได้ และผลกระทบของควำมบกพร่องหรือควำมผิดพลำดในผลิตภัณฑ์หรือ
กระบวนกำร ผลของกำรประเมินควรจะใช้กำหนดและดำเนินกำรป้องกัน เพื่อบรรเทำควำมเสี่ยงที่ได้ชี้บ่ง
ไว้ ตัวอย่ำงของเครื่องมือสำหรับกำรประเมินควำมเสี่ยงของกำรออกแบบและพัฒนำ จะรวมถึงกำร
พิจำรณำ
กำรวิเครำะห์ควำมผิดพลำดของกำรออกแบบและผลกระทบ (Design FMEA)
กำรวิเครำะห์ต้นไม้แห่งควำมล้มเหลว (Fault tree analysis)
กำรพยำกรณ์ควำมเชื่อถือได้ (Reliability prediction)
ผังควำมสัมพันธ์ (Relationship diagram)
เทคนิคกำรจัดระดับ (Ranking techniques) และ
เทคนิคกำรจำลอง (Simulation techniques)
3. กำหนดช่วงเวลำในกำรติดตำมผลกำรดำเนินงำนตำมแผน และทำกำรติดตำมตำมช่วงเวลำที่กำหนด จัดทำ
บันทึกกำรติดตำมผล
4. ปรับแผนกำรพัฒนำและออกแบบหำกมีกำรเปลี่ยนแปลงหรือไม่ตรงตำมแผนที่กำหนดไว้
5. จัดทำบันทึกที่เกี่ยวข้องในทุกขั้นตอนของกำรออกแบบและกำรพัฒนำ และบันทึกกำรดำเนินกำรที่สืบเนื่อง
จำก กำรทบทวน กำรทวนสอบ กำรรับรอง และ กำรเปลี่ยนแปลงกำรออกแบบและกำรพัฒนำข้ำงต้น
สรุปสาระสาคัญ
o มีกำรวำงแผน โดยกำหนดขั้นตอน ผู้รับผิดชอบ กำรประสำนงำน และกำรปรับปรุงแผนกำรออกแบบและ
พัฒนำผลิตภัณฑ์และบริกำร
8.4 การควบคุมผู้ให้บริการภายนอกด้านกระบวนการผลิตภัณฑ์และการบริการ
8.4.1 ทั่วไป
องค์กรต้องมั่นใจว่ำสินค้ำและบริกำรที่ได้รับจำกผู้ให้บริกำรภำยนอก ในกระบวนกำรผลิตภัณฑ์และ
กำรบริกำร มีควำมสอดคล้องกับข้อกำหนด
องค์กรต้องระบุกำรควบคุมกับผู้ให้บริกำรภำยนอกในกระบวนกำรผลิตภัณฑ์และกำรบริกำรในกรณี
ดังนี้ผลิตภัณฑ์และบริกำรจำกผู้ให้บริกำรภำยนอกที่เป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์และบริกำรที่องค์กร
ดำเนินงำนผลิตภัณฑ์และบริกำรมีกำรส่งมอบให้ลูกค้ำโดยผู้บริกำรภำยนอกซึ่งกระทำในนำมองค์กร
ทั้งหมดหรือบำงส่วนของกระบวนกำรดำเนินกำรภำยผู้ให้บริกำรภำยนอกที่องค์กรได้ตัดสินใจ
องค์กรต้องจัดทำและประยุกต์ใช้เกณฑ์ในกำรประเมิน คัดเลือก เฝ้ำติดตำมสมรรถนะและประเมิน
ซ้ำของผู้ให้บริกำรภำยนอก โดยอยู่บนพื้นฐำนควำมสำมำรถของกำรส่งมอบกระบวนกำรหรือ ผลิตภัณฑ์
และบริกำรตำมข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง
องค์กรต้องจัดเก็บเอกสำรข้อมูลกิจกรรมเหล่ำนี้และกำรดำเนินกำรที่จำเป็นจำกผลกำรประเมินที่
8.4.2 ชนิดและขอบเขตของการควบคุม
องค์กรต้องมั่นใจได้ว่ำผู้ให้บริกำรภำยนอกด้ำนกระบวนกำรผลิตภัณฑ์และกำรบริกำร จะไม่ส่งผลต่อ
ควำมสำมำรถในกำรส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริกำรให้กับลูกค้ำ
องค์กรต้องมั่นใจว่ำกระบวนกำรของผู้ให้บริกำรภำยนอกอยู่ภำยใต้กำรควบคุมของระบบบริหำร
คุณภำพระบุทั้งกำรควบคุมที่ใช้กับผู้ให้บริกำรภำยนอกและใช้กับผลจำกกำรดำเนินกำรพิจำรณำถึง
แนวโน้มผลกระทบที่อำจจำกกระบวนกำรให้บริกำรภำยนอกต่อควำมสำมำรถที่จะให้กระบวนกำร
ผลิตภัณฑ์และบริกำร สอดคล้องกับข้อกำหนดลูกค้ำและข้อกำหนดกฎหมำยที่เกี่ยวข้องประสิทธิผลของ
กำรควบคุมที่ดำเนินกำรโดยผู้ให้บริกำรภำยนอก
พิจำรณำกำรทวนสอบ หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่จำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่ำผู้ให้บริกำรภำยนอกส่งมอบกระบวนกำร,
ผลิตภัณฑ์และบริกำรสอดคล้องกับข้อกำหนด
8.4.3 ข้อมูลสาหรับผู้ให้บริการภายนอก
องค์กรต้องมั่นใจว่ำข้อกำหนดก่อนหน้ำนี้ได้มีกำรสื่อสำรให้สำหรับผู้ให้บริกำรภำยนอกเพียงพอ
องค์กรต้องสื่อสำรข้อกำหนดให้กับผู้ให้บริกำรภำยนอกสำหรับกระบวนกำร ผลิตภัณฑ์และบริกำรที่จะ
ดำเนินกำรให้กำรอนุมัติสำหรับผลิตภัณฑ์และบริกำร วิธีกำร กระบวนกำร และอุปกรณ์ กำรตรวจปล่อย
ผลิตภัณฑ์และบริกำร ควำมสำมำรถ รวมทั้งคุณสมบัติที่จำเป็นของบุคลำกร กำรปฏิสัมพันธ์กับกำร
ดำเนินกำรขององค์กรของผู้ให้บริกำรภำยนอก กำรควบคุมและกำรเฝ้ำติดตำมสมรรถนะของผู้ให้บริกำร
ภำยนอก
กิจกรรมกำรทวนสอบหรือรับรอง ที่องค์กร หรือลูกค้ำ, ตั้งใจจะดำเนินกำรยังสถำนที่ของผู้ให้บริกำร
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
ภำยนอก
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. ระบุผู้ให้บริกำรภำยนอกที่เกี่ยวข้องผลิตภัณฑ์และบริกำรตำมขอบข่ำยที่กำหนดไว้ในผังกระบวนกำรธุรกิจ และ
กระบวนกำรที่กำหนดจำกกระบวนกำร (ข้อกำหนด 8.1)
2. กำหนดกระบวนกำรกำรคัดเลือกและกำรประเมินผู้สนับสนุนผลิตภัณฑ์และบริกำร โดยกำหนดเกณฑ์กำร
ปฏิบัติงำนครอบคลุมดังนี้ คุณสมบัติ หัวข้อกำรคัดเลือกและเกณฑ์กำรตัดสิน หัวข้อกำรประเมินและเกณฑ์กำร
ตัดสิน ระยะเวลำกำรประเมินซ้ำ
2.1 กำหนดเกณฑ์ในกำรพิจำรณำคัดเลือกผู้สนับสนุนผลิตภัณฑ์และบริกำร
กรณีผู้ขำย
- พิจำรณำจำกเอกสำรองค์กรของผู้ขำยอย่ำงน้อยตำมกฎหมำย เช่น ใบอนุญำตประกอบกิจกำร
ใบทะเบียนภำษีมูลค่ำเพิ่ม (ภ.พ.20) ใบอนุญำตตำมที่กฎหมำยกำหนด
- เป็นผู้แทนจำหน่ำย หรือผู้แทนจำหน่ำยช่วงที่มีหนังสือแต่งตั้งจำกผู้ผลิต
- เงินทุนจดทะเบียน
- จำนวนและคุณสมบัติของบุคลำกร
- ใบรับรองระบบระบบคุณภำพ ห้องปฏิบัติกำรทดสอบหรือสอบเทียบ
- ตัวอย่ำงที่ส่งมำให้ทดลองใช้งำน
- กำรตรวจสถำนที่ของผู้ขำย
- เป็นผู้ขำยที่ลูกค้ำขององค์กรกำหนดมำให้
2.2 กรณีผู้ให้บริกำร
- ประวัติกำรรับจ้ำงหรือให้บริกำรกับลูกค้ำสำคัญๆ
- หลักฐำนกำรจดทะเบียนนิติบุคคลที่ถูกต้อง
- เป็นผู้แทนผู้ให้บริกำร หรือผู้แทนผู้ให้บริกำรช่วงที่มีหนังสือแต่งตั้งจำกผู้ให้บริกำร
- เงินทุนจดทะเบียน
- จำนวนและคุณสมบัติของบุคลำกร
- กำรทดลองกำรปฏิบัติงำน
- ควำมพร้อมของเครื่องมือและอุปกรณ์
- เป็นผู้ให้บริกำรที่ลูกค้ำขององค์กรกำหนดมำให้
3. ดำเนินกำรประเมินผู้สนับสนุนผลิตภัณฑ์และบริกำรโดยใช้เกณฑ์ที่กำหนดไว้ และจัดทำทะเบียนผู้สนับสนุน
ผลิตภัณฑ์และบริกำร และต้องมีกำรปรับปรุงทะเบียนฯ
4. ดำเนินกำรประเมินสมรรถนะผู้สนับสนุนผลิตภัณฑ์และบริกำร
ดำเนินกำรประเมินสมรรถนะผู้สนับสนุนผลิตภัณฑ์และบริกำรเพื่อให้มั่นใจว่ำหลังจำกที่ได้ตกลงซื้อขำยหรือ
ว่ำจ้ำงแล้วสมรรถนะกำรดำเนินต้องเป็นไปตำมกฎหมำย ข้อตกลง
5. กำหนดวิธีกำรสั่งซื้อ/สั่งจ้ำงให้มีรำยละเอียดชัดเจนเพียงพอ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ตำมข้อกำหนด ตรงเวลำ
6. กำหนดวิธีกำรทวนสอบ ณ แหล่งผลิต
7. กำหนดข้อมูลรำยละเอียดผลิตภัณฑ์และบริกำรเป็นข้อมูลสำรสนเทศส่งให้กับผู้สนับสนุนผลิตภัณฑ์และบริกำร
โดยต้องกำหนดรำยละเอียดให้ครบถ้วน ดังนี้
- กรณีสั่งซื้อ เช่น
มำตรฐำนสินค้ำที่ต้องกำร
จำนวน
วันที่ต้องกำร
สถำนที่จัดส่ง หรือวันที่จัดส่ง หรือเลขที่ shipment
เอกสำรที่ต้องกำร เช่น COA, Product Certificate, SDS, Manual, Production Report
ฯลฯ
- กรณีซื้อบริกำร/สั่งจ้ำง เช่น
ลักษณะงำนที่ต้องกำร
ช่วงเวลำปฏิบัติงำน และวันที่แล้วเสร็จ
สถำนที่ปฏิบัติงำน
คุณสมบัติผู้รับจ้ำง
หน้ำที่ควำมรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมำย
เงื่อนไขกำรปฏิบัติงำน
8. กำรระบุข้อกำหนดกำรจัดซื้อไว้อย่ำงเพียงพอก่อนแจ้งไปยังผู้ขำย โดยรำยละเอียดในกำรสั่งซื้อต้องเป็นเอกสำร
เช่น ใบสั่งซื้อ TOR (Term of Reference) เป็นต้น
9. กำหนดกระบวนกำรกำรตรวจรับผลิตภัณฑ์และบริกำรเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์และบริกำรตำมที่สั่งซื้อไปตำมแนวทำง
ดังนี้
- กำหนดผู้ที่มีหน้ำที่ในกำรตรวจรับผลิตภัณฑ์และบริกำร อำจจะเป็นหน่วยงำนควบคุมคุณภำพ คลังสินค้ำ
ผู้ใช้งำน คณะกรรมกำร เป็นต้น
- ควำมเข้มในกำรตรวจผลิตภัณฑ์และบริกำรแต่ละชนิดไม่เท่ำกัน ขึ้นอยู่กับว่ำ สินค้ำหรือบริกำรนั้นส่งผล
กระทบต่อผลิตภัณฑ์ กระบวนกำร ควำมรู้สึกของลูกค้ำ มำกน้อยขนำดไหน และควำมเข้มในกำร
ตรวจสอบขึ้นอยู่กับสมรรถนะของผู้สนับสนุนผลิตภัณฑ์ และบริกำร เช่นเดียวกัน
10. ผลิตภัณฑ์ที่ต้องทำกำรตรวจทวนสอบนั้นจะเป็นดังนี้
- วัตถุดิบ ส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์
- บรรจุภัณฑ์ part ของอุปกรณ์กำรผลิต
- กำรบริกำร : กำรบรรจุ กำรจัดเก็บ กำรขนส่ง กำรให้บริกำรลูกค้ำ
- โครงกำร : งำนก่อสร้ำง งำนติดตั้ง
- งำนบริกำรพิเศษ : อำจำรย์พิเศษ วิทยำกร ผู้เชี่ยวชำญ ห้องปฏิบัติกำร
11. กำหนดมำตรฐำนกำรทวนสอบ และวิธีกำรทวนสอบประกอบด้วย
- มำตรฐำนสินค้ำ ผลกำรดำเนินงำนจำกกำรบริกำร
- มำตรฐำนกำรชักตัวอย่ำง
- วิธีกำรตรวจรับ
- เอกสำรบันทึกผลกำรตรวจรับ
12. กำรทวนสอบ ณ แหล่งผลิต นั้นต้องกำหนดวิธีกำรแจ้งให้ผู้ผลิตรับทรำบ เช่น แจ้งลงในใบสั่งซื้อ สัญญำจ้ำง
เงื่อนไขกำรปฏิบัติงำน หนังสือแจ้งเฉพำะ
สรุปสาระสาคัญ
o กำหนดรำยกำรผู้สนับสนุนผลิตภัณฑ์และบริกำร
o จัดทำเกณฑ์กำรคัดเลือกและประเมินผู้สนับสนุนผลิตภัณฑ์และบริกำร
o กำหนดระดับควำมเข้มงวดในกำรควบคุมผู้สนับสนุนผลิตภัณฑ์และบริกำรโดยพิจำรณำจำกผลกระทบของ
ผลิตภัณฑ์และบริกำรที่จัดซื้อ ซึ่งมีผลต่อกระบวนกำร และคุณภำพผลิตภัณฑ์และบริกำรขององค์กร
o มีข้อมูลสำรสนเทศในกำรจัดซื้อจัดจ้ำงเพื่อให้มั่นใจว่ำผลิตภัณฑ์และบริกำรเป็นไปตำมข้อกำหนดขององค์กร
o มีข้อมูลสำรสนเทศในกำรทวนสอบผลิตภัณฑ์และบริกำรเป็นไปตำมข้อกำหนดขององค์กร
8.5 การผลิตและการบริการ
8.5.1 ควบคุมการผลิตและการบริการ
องค์กรต้องดำเนินกำรควบคุมกำรผลิตและบริกำรให้อยู่ในเงื่อนไขที่ควบคุมที่เหมำะสม รวมถึงควำม
เพียงพอของเอกสำรข้อมูลที่ระบุถึงคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่จะผลิตบริกำรที่ส่งมอบ หรือกิจกรรมที่
ดำเนินกำรผลที่จะบรรลุ ควำมเพียงพอและเหมำะสมทรัพยำกรตรวจติดตำมและตรวจวัด ดำเนิน
กิจกรรมกำรตรวจวัดและติดตำมในขั้นตอนที่เหมำะสม เพื่อทวนสอบว่ำข้อมูลกำรดำเนินกิจกรรม
เป็นไปตำมเกณฑ์กำรควบคุมกำรผลิต และเกณฑ์กำรยอมรับผลิตภัณฑ์และบริกำร
กำรใช้โครงสร้ำงพื้นฐำนและสภำพแวดล้อมที่เหมำะสมในกำรดำเนินกระบวนกำร ระบุควำมสำมำรถ
และคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องของบุคลำกร ดำเนินกิจกรรมกำรรับรอง และกำรรับรองซ้ำตำมช่วงเวลำ เพื่อ
พิจำรณำกำรบรรลุผลตำมแผนกำรผลิตและบริกำร เมื่อผลกำรตรวจสอบไม่สำมำรถทวนสอบได้ใน
ขั้นตอนย่อยของกำรผลิตหรือบริกำรได้ ดำเนินกิจกรรมเพื่อป้องกันข้อผิดพลำดจำกบุคลำกร
มีกำรดำเนินกิจกรรมกำรตรวจปล่อย กำรจัดส่งและกิจกรรมหลังกำรส่งมอบ
8.5.2 การชี้บ่งและการสอบกลับ
องค์กรต้องเลือกใช้เกณฑ์ที่เหมำะสมในกำรระบุผลลัพธ์จำกกระบวนกำร เมื่อองค์กรต้องกำรควำม
มั่นใจว่ำผลิตภัณฑ์และบริกำรเป็นไปตำมข้อกำหนด
องค์กรต้องระบุสถำนะของผลลัพธ์ภำยใต้ข้อกำหนดกำรตรวจวัดและตรวจติดตำมของกำรผลิต
และกำรบริกำร กรณีที่กำรตรวจสอบย้อนกลับเป็นข้อกำหนดในกำรดำเนินกำร
องค์กรต้องใช้วิธีกำรชี้บ่งแบบเฉพำะเจำะจงที่ผลลัพธ์ และต้องจัดทำเป็นเอกสำรข้อมูลสำหรับกำร
สอบกลับได้
8.5.3 ทรัพย์สินที่เป็นของลูกค้าหรือผู้ให้บริการภายนอก
องค์กรต้องดูแลทรัพย์สินที่เป็นของลูกค้ำหรือผู้ให้บริกำรภำยนอกในขณะที่อยู่ภำยใต้กำรจัดเก็บใน
องค์กรหรือมีกำรใช้งำน
องค์กรต้องระบุ ทวนสอบ ป้องกัน และดูแลรักษำทรัพย์สินของลูกค้ำหรือผู้ส่งมอบภำยนอกเพื่อใช้
ในกำรผลิตผลิตภัณฑ์และกำรบริกำร กรณีทรัพย์สินใดๆของลูกค้ำหรือผู้ส่งมอบภำยนอกเกิดกำรสูญหำย
เสียหำย หรือพบว่ำไม่เหมำะสมในกำรใช้งำน
องค์กรต้องดำเนินกำรแจ้งลูกค้ำหรือผู้ให้บริกำรภำยนอกให้ทรำบ และจัดทำเป็นเอกสำรข้อมูลไว้
8.5.4 การดูแลรักษา
องค์กรต้องดูแลรักษำผลจำกกระบวนกำรในขณะดำเนินกำรผลิตให้บริกำรตำมขอบเขตที่จำเป็น
เพื่อให้
8.5.5 กิจกรรมหลังการส่งมอบ
องค์กรต้องปฏิบัติให้สอดคล้องกับข้อกำหนดสำหรับกิจกรรมหลังกำรส่งมอบซึ่งสัมพันธ์กับผลิตภัณฑ์
และบริกำร กำรพิจำรณำขอบเขตของกิจกรรมหลังกำรส่งมอบที่เป็นข้อกำหนดไว้
องค์กรต้องพิจำรณำกฎหมำยและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง แนวโน้มผลกระทบที่เกิดขึ้นซึ่งสัมพันธ์กับ
ผลิตภัณฑ์และบริกำรธรรมชำติ กำรใช้และอำยุกำรใช้งำนของผลิตภัณฑ์และบริกำรข้อกำหนดของลูกค้ำ
ข้อมูลป้อนกลับจำกลูกค้ำ
8.5.6 ควบคุมการเปลี่ยนแปลง
องค์กรต้องทบทวนและควบคุมกำรเปลี่ยนแปลงสำหรับกำรผลิตและกำรให้บริกำร ตำมขอบเขตที่
จำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่ำยังมีควำมสอดคล้องกับข้อกำหนดอย่ำงต่อเนื่อง
องค์กรต้องจัดทำเอกสำรข้อมูลที่อธิบำยถึงผลกำรทบทวนกำรเปลี่ยนแปลง บุคคลที่มีอำนำจหน้ำที่
ในกำรเปลี่ยนแปลงและกิจกรรมที่ดำเนินกำรที่จำเป็นจำกผลกำรทบทวนเหล่ำนั้นมั่นใจว่ำยังมีควำม
สอดคล้องกับข้อกำหนด
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
ให้ดำเนินกำรผลิตภัณฑ์และบริกำรให้เป็นไปตำมแผนคุณภำพ (Quality Plan) ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ
กระบวนกำร โดยมีกำรใช้เครื่องมืออุปกรณ์ที่ถูกต้องเหมำะสม และมีบันทึกผลกำรปฏิบัติงำน
ขั้นตอนการปฏิบัติ
องค์กรต้องควบคุมกำรผลิตและบริกำรโดย
1. มีข้อมูลคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์ เกณฑ์กำรดำเนินงำน หมำยถึง
a. มีแผนกำรผลิตผลิตภัณฑ์และบริกำร (Quality plan)
b. มีคำสั่งกำรผลิตที่ระบุลักษณะผลิตภัณฑ์และบริกำร อำจจะเป็นมำตรฐำนผลิตภัณฑ์ รหัสผลิตภัณฑ์
ตัวอย่ำงผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
2. มีกำรรับรองควำมสำมำรถและคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องของบุคลำกร
ดำเนิ น กำรรั บ รองควำมสำมำรถบุ ค ลำกรตำมต ำแหน่ งงำนที่ ก ำหนดไว้ในควำมสำมำรถประจ ำต ำแหน่ ง
(ข้อกำหนด 7.2) ตำมกระบวนกำรที่กำหนดไว้ (ตำมข้อกำหนด 7.1.5) ในกิจกรรมที่ไม่สำมำรถทวนสอบได้
ด้วยกำรเฝ้ำติดตำม หรือ ตรวจวัด รวมถึงกระบวนกำรใด ๆ ที่จะพบข้อบกพร่องของผลิตภัณฑ์นั้นได้ เมื่อได้
น ำผลิ ต ภั ณ ฑ์ ไปใช้ หรื อ ได้ ใช้ บ ริ ก ำรไปแล้ ว โดยด ำเนิ น กำรและจั ด เก็ บ ข้ อ มู ล สำรสนเทศกำรรั บ รอง
ควำมสำมำรถและกำรรับรองซ้ำ
3. มีเอกสำรวิธีปฏิบัติงำน
3.1 กำรจัดทำข้อมูลสำรสนเทศวิธีปฏิบัติงำนให้พิจำรณำควำมจำเป็นที่ต้องจัดทำ เช่น กิจกรรมมีควำมซ้ำซ้อน
กิจกรรมที่ต้องใช้เทคนิคพิเศษ กิจกรรมที่กำหนดลำดับ กำรปฏิบัติ กิจกรรมที่มีผู้ปฏิบัติงำนจำนวนมำก
กิจกรรมที่มีจุดวิกฤต เป็นต้น
3.2 กำรเขียนเอกข้อมูลสำรสนเทศประเภทวิธีปฏิบัติงำนต้องระบุเกณฑ์กำรปฏิบัติงำน (Criteria) เพื่อควบคุม
ผู้ปฏิบัติงำนในกิจกรรมนั้นๆต้องปฏิบัติตำมที่เอกสำรกำหนด
4. ใช้เครื่องมืออุปกรณ์ที่เหมำะสม
หมำยถึงแผนคุณภำพระบุให้ใช้เครื่องมือ คุณสมบัติเครื่องมือ ผู้ปฏิบัติงำนต้องใช้เครื่องมือนั้นๆตำมที่กำหนด
ไว้ เครื่องมือต้องอยู่ในสภำพที่คงคุณภำพ รวมถึงเครื่องมือดังกล่ำวต้องอยู่ในบริเวณที่เหมำะสมและเอื้อต่อ
กำรนำมำใช้
5. จัดให้มีและใช้เครื่องมือเฝ้ำติดตำมและตรวจวัด
แผนคุณภำพระบุช่วงเวลำ วิธกี ำรตรวจวัด ค่ำกำรยอมรับไว้ ผู้ปฏิบัติงำนต้องทำกำรวัดตำมที่แผนกำหนดไว้
โดยใช้เครื่องมือที่มีค่ำควำมละเอียดในกำรอ่ำนค่ำได้อย่ำงถูกต้อง เครื่องมืออยู่ในสภำพที่ใช้งำนได้ หำกเป็น
เครื่องมือที่ตัดสินผลผลิตภัณฑ์ต้องมีกำรชี้บ่งกำรสอบเทียบด้วย
6. เฝ้ำติดตำมและตรวจวัด
- ในกำรวัดดังกล่ำวแบ่งได้เป็น 2 กรณีคือ วัดที่ตัวผลิตภัณฑ์ (product เช่น Raw material/Intermedia /
Work In Process :WIP เป็นต้น) หรือวัดที่กระบวนกำร (Process เช่น ควำมดัน เวลำ อุณหภูมิ เป็นต้น)
- แผนคุณภำพระบุช่วงเวลำ จุดที่วัด วิธีกำรตรวจวัด ค่ำกำรยอมรับไว้ผู้ปฏิบัติงำนที่ต้องทำกำรวัดตำมที่
แผนกำหนดไว้โดยต้องเป็นไปตำมช่วงเวลำที่กำหนด เครื่องมือวัด วิธีกำรวัดและบันทึกผลกำรวัดตำมที่
กำหนดไว้ในแผนคุณภำพ
ส่วนผสมหรือส่วนประกอบ ที่ส่งมอบเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์
ผลิตภัณฑ์ที่ส่งมอบเพื่อกำรซ่อม, บำรุงรักษำ หรือเพิ่มเกรด
วัตถุดิบ บรรจุภัณฑ์
เครื่องจักร เครื่องมือวัด โปรแกรมปฏิบัติกำร
อำคำร พื้นที่ คลังสินค้ำ
ทรัพย์สินทำงปัญญำของลูกค้ำ รวมถึงค่ำกำหนด, แบบวำด และเอกสำรสิทธิ์ในกำรเป็นเจ้ำของ
- กำรระบุสถำนะผลิตภัณฑ์ และทรัพย์สินของลูกค้ำผู้สนับสนุนผลิตภัณฑ์และบริกำร
- ดำเนินกำรระบุผลกำรเฝ้ำติดตำมโดยระบุสถำนะผลกำรเฝ้ำติดตำมและตรวจวัดผลิตภัณฑ์ และทรัพย์สิน
ของลูกค้ำ เช่น ผ่ำน ไม่ผ่ำน เกรดสินค้ำ
- ชี้บ่งทรัพย์สินว่ำเป็นของลูกค้ำเจ้ำใด และทำกำรจัดเก็บตำมกำรชี้บ่ง เช่น ชี้บ่งด้วยชื่อลูกค้ำ รหัส
สัญลักษณ์ ตรำบริษัทลูกค้ำ สี พื้นที่ที่จัดเก็บ หรือตำมสิ่งที่ลูกค้ำกำหนดมำ
- องค์กรต้องดูแล ป้องกัน และรักษำทรัพย์สินำตลอดเวลำที่อยู่ในควำมรับผิดชอบขององค์กร กรณีที่
ทรัพย์สินของลูกค้ำสูญหำย เสียหำยหรือพบว่ำไม่เหมำะกับกำรใช้งำน องค์กรต้องรำยงำนต่อลูกค้ำเป็น
ลำยลักษณ์อักษรและเก็บรักษำบันทึกไว้
8. กำรชี้บ่งผลิตภัณฑ์และบริกำรตลอดกระบวนกำร
- ดำเนินกำรรักษำผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ กำรชี้บ่ง กำรเคลื่อนย้ำย กำรบรรจุหีบห่อ กำรเก็บรักษำ และ กำร
ป้องกัน ให้เป็นไปตำมเกณฑ์ควบคุมกำรปฏิบัติที่กำหนด
- ทำกำรชี้บ่งตำมวิธีกำรที่กำหนดโดยกำรชี้บ่งเพื่อกำรสอบกลับนั้นต้องไม่ซ้ำกัน (unique) ถ้ำต้องกำรให้
สอบกลับได้และจัดเก็บบันทึก ดังนี้
8.1 กำรชี้บ่งผลิตภัณฑ์และบริกำร รวมถึงส่วนประกอบต่ำงๆ
กำรชี้บ่งรำยละเอียดวัสดุหรือผลิตภัณฑ์อำจจะชี้บ่งตัวผลิตภัณฑ์ ภำชนะบรรจุ พื้นที่ ซึ่งต้อง
รำยละเอียดกำรชี้บ่งที่ไม่ซ้ำกัน และทวนสอนกลับได้ อำจประกอบด้วย
- ชื่อ ชนิด วันเดือนปีผลิตและ/หรือหมดอำยุ เกรดสินค้ำ
- ทะเบียน หมำยเลข รหัสงำนบริกำร
- วิธีกำรจัดเก็บหรือเคลื่อนย้ำย เช่น ห้ำมซ้อนเกิน 3 ชั้น ห้ำมโยน
- ข้อควรระวัง หรือ ควำมเป็นอันตรำยของวัสดุหรือผลิตภัณฑ์
- บริษัทหรือสำยกำรผลิต หรือ ชี้บ่งด้วยสัญลักษณ์ เช่น
8.2 กำรชี้บ่งสถำนะของผลิตภัณฑ์และบริกำรที่เกี่ยวข้องกับกำรเฝ้ำติดตำมและวัด
วิธีกำรชี้บ่งผลกำรตรวจสอบและตรวจวัดตลอดกระบวนกำรผลิต/บริกำร ที่ตัวผลิตภัณฑ์ ภำชนะ
บรรจุ พื้นที่ เช่น
- ผ่ำน/ไม่ผ่ำน OK/NO Yes/No
- รอตรวจ รอกำรตัดสินใจ รอส่งคืน
10. กำหนดกระบวนกำรกำรดำเนินงำนกรณีที่ส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริกำรไปแล้วแต่มีกำรบริกำรอื่นๆตำม
ช่วงเวลำ เช่น กำรสอนกำรใช้งำน กำรตรวจสอบกำรทำงำน กำรบำรุงรักษำ กำรทำควำมสะอำด ฯลฯ องค์กร
ต้องดำเนินกำรตำมที่กำหนดไว้ในแผนคุณภำพ หรือใบสั่งจ้ำง/ผลิต สัญญำจ้ำง และจัดเก็บข้อมูลสำรสนเทศ
กำรดำเนินงำน
11. กำรควบคุมกำรเปลี่ยนแปลงในกระบวนกำรผลิตผลิตภัณฑ์และบริกำร
กำหนดกระบวนกำรควบคุมกำรเปลี่ยนแปลงในกระบวนกำรผลิตผลิตภัณฑ์และบริกำรเพื่อให้ผลิตภัณฑ์และ
บริกำรคงคุณภำพ โดยกำหนดเกณฑ์ในกระบวนกำร คือ เมื่อมีกำรเปลี่ยนแปลงภำยในปัจจัยต่ำงๆที่เกี่ยวข้อง
กับกระบวนกำร เช่น 4M(Man Machine Material Method) กระบวนกำร สภำพแวดล้อม รุ่นกำรผลิต เป็น
ต้น ต้องมีกำรทบทวนกำรเปลี่ยนแปลง เพื่อให้สำมำรถรักษำควำมมีประสิทธิผลของระบบได้อย่ำงต่อเนื่อง คือ
- เปลี่ยนบุคลำกร ต้องควบคุมให้ มีกำรอบรม ประเมินควำมสำมำรถ (Competence) ในกำรทำงำนนั้น
- กำรเปลี่ยนหรือปรับเปลี่ยนเครื่องจักร ต้องควบคุมให้มีกำรพิสูจน์ยืนยันควำมมีประสิทธิผลของ
เครื่องจักร เช่น กำรทดสอบประสิทธิภำพในกำรติดตั้ง (Installation Qualification) ประสิทธิภำพใน
กำรใช้งำน (Operation Qualification)
- กำรเปลี่ยนขั้นตอนวิธีกำรทำงำน เช่น กำรลดขั้นตอน ปรับปรุงกำรทำงำน ต้องควบคุมให้มก ี ำรทวนสอบ
คุณลักษณะผลิตภัณฑ์ จำนวน ระยะเวลำในกระบวนกำรตำมข้อกำหนดที่กำหนดไว้
- กำรเปลี่ยนแปลงวัตถุดิบ วัสดุ วัตถุดิบใหม่ ต้องควบคุมให้มีกำรพิสูจน์ยืนยันควำมใช้ได้ เช่น กำรทวนสอบ
วัตถุดิบ วัสดุ กำรประเมินผู้ขำยรำยใหม่ กำรควบคุมกระบวนกำรระหว่ำงกำรเปลี่ยนแปลง กำรพิสูจน์
ยืนยันควำมใช้ได้ (Validation) กระบวนกำร
- กำรเปลี่ยนแปลงสภำพแวดล้อมในกำรผลิต ต้องควบคุมให้มีกำรตรวจวัดสภำพแวดล้อม กำรทวนสอบผล
ที่ได้ (Output)คงตำมข้อกำหนด เช่น กำรเปลี่ยนแปลงพื้นที่กำรผลิต สถำนที่จัดเก็บ กำรเปลี่ยนแปลง
สภำวะอุณหภูมิ ควำมชื้น ในกำรผลิต กำรรักษำ เป็นต้น
สรุปสาระสาคัญ
o ดำเนินกำรผลิตผลิตภัณฑ์และบริกำรให้เป็นไปตำมสภำวะควบคุมที่กำหนดไว้ ซึ่งครอบคลุมถึง ข้อมูลด้ำน
คุณลักษณะของผลิตภัณฑ์และบริกำร วิธีปฏิบัติงำนที่จำเป็น อุปกรณ์ที่เหมำะสม เครื่องมือเฝ้ำระวังและ
เครื่องมือวัด กำรเฝ้ำระวังและตรวจวัด กำรตรวจปล่อย กำรจัดส่ง และกำรบริกำรหลังส่งมอบ
o ทำกำรรับรองควำมสำมรถตำมตำแหน่งที่กำหนด
o มีกำรชี้บ่งสินค้ำ/บริกำรด้วยวิธีกำรที่เหมำะสมตลอดกระบวนกำร
o มีกำรดูแลทรัพย์สินของลูกค้ำและผู้สนับสนุนผลิตภัณฑ์และบริกำรระหว่ำงอยู่ภำยใต้กำรควบคุมหรือใช้งำน
ขององค์กร โดยมีกำรชี้บ่ง ทวนสอบ ป้องกัน รักษำไว้
o กรณีที่ทรัพย์สินของลูกค้ำเสียหำย สูญหำยหรือไม่เหมำะแก่กำรนำไปใช้งำน ต้องแจ้งลูกค้ำทรำบและมี
ข้อมูลผลกำรปฏิบัติงำนไว้
o มีกำรรักษำสินค้ำและส่วนประกอบให้เป็นไปตำมข้อกำหนดทั้งในขณะที่อยู่ระหว่ำงกระบวนกำรภำยในของ
องค์กร และกำรส่งมอบ โดยครอบคลุมถึงกำรชี้บ่ง กำรเคลื่อนย้ำย กำรบรรจุ กำรจัดเก็บ และกำรป้องกัน
รักษำ
o กำหนดกระบวนกำรเพื
โครงการพั ่อควบคุมกำรเปลีLearning
ฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile ่ยนแปลงในกระบวนกำรผลิ ตผลิตภัณฑ์และบริกำร และจัหน้ดเก็
มาตรฐาน ISO 9001:2015 ำ 20บ จำก 32
#R.2 ข้อมูลสำรสนเทศ
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อกำหนดของมำตรฐำน ISO 9001:2015 และแนวทำงกำรจัดทำระบบ
8.6 การตรวจปล่อยผลิตภัณฑ์และบริการ
องค์กรต้องดำเนินตำมแผนงำนที่กำหนดไว้ ในขั้นตอนที่เหมำะสมเพื่อทวนสอบผลิตภัณฑ์และบริกำรมี
ควำมสอดคล้องกับข้อกำหนด
ไม่ทำกำรปล่อยผลิตภัณฑ์และบริกำรให้กับลูกค้ำจนกว่ำจะได้มีกำรตรวจตำมแผนที่วำงไว้ ยกเว้นกรณี
ได้รับกำรอนุมัติโดยผู้มีอำนำจที่เกี่ยวข้องและเท่ำที่ประยุกต์ใช้ได้โดยลูกค้ำ
องค์กรต้องดำเนินกำรจัดทำเอกสำรข้อมูลกำรตรวจปล่อยผลิตภัณฑ์และบริกำรเอกสำรข้อมูล
ประกอบด้วย หลักฐำนแสดงควำมสอดคล้องเทียบกับเกณฑ์กำรยอมรับ กำรทวนสอบไปยังผู้มีอำนำจในกำร
ตรวจปล่อย
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
กำหนดกำรตรวจปล่อยผลิตภัณฑ์และบริกำรที่เหมำะสม และได้รับกำรอนุญำตจำกผู้มีอำนำจที่เหมำะสม
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. กำหนดกระบวนกำรตรวจปล่อยผลิตภัณฑ์และบริกำร โดยกำหนดเกณฑ์กำรดำเนินงำนเป็นแผนควบคุม
คุณภำพผลิตภัณฑ์และบริกำร
2. เกณฑ์ที่ต้องกำหนดในกำรตรวจสอบหรือตรวจวัดผลิตภัณฑ์และบริกำร คือรำยกำรตรวจวัด และช่วงเวลำ
ตรวจวัด ซึ่งควำมเพียงพอของเกณฑ์ในกำรควบคุมกำรตรวจสอบตรวจวัดขึ้นอยู่กับวิธีกำรหรือเทคโนโลยีหรือ
ลักษณะผลิตภัณฑ์และบริกำร และต้องสำมำรถตรวจสอบให้สมบูรณ์ทุกรำยกำรก่อนส่งมอบผลิตภัณฑ์และ
บริกำรให้ลูกค้ำ
3. แผนคุณภำพกำหนดเกณฑ์กำรดำเนินงำน ดังนี้ ระบุช่วงเวลำ ขนำดตัวอย่ำง พำรำมิเตอร์ เครื่องมือวัด วิธีกำร
ตรวจวัด ค่ำกำรยอมรับ กำรตัดสินผล และกำรจัดกำรกรณีพบผลิตภัณฑ์และบริกำรที่ไม่เป็นไปตำมข้อกำหนด
4. ผู้ปฏิบัติงำนต้องทำกำรตรวจวัดตำมที่แผนกำหนดไว้ และจัดทำข้อมูลผลกำรตรวจปล่อย
5. ข้อมูลผลกำรตรวจปล่อยต้องทวนสอบกลับได้ และรวมถึงกำรระบุสภำวะ ช่วงเวลำที่ตรวจ เครื่องมือวัดที่ใช้ ชี้
บ่งผล และผู้อนุมัติผลกำรตรวจปล่อย
6. สรุปผลกำรตรวจปล่อยเป็นข้อมูลประสิทธิผลผลิตภัณฑ์และบริกำร เพื่อนำเข้ำสู่กำรทบทวนโดยฝ่ำยบริหำร
สรุปสาระสาคัญ
o กำหนดกระบวนกำรตรวจปล่อยผลิตภัณฑ์และบริกำร
o จัดทำแผนกำรตรวจปล่อยกำรตรวจปล่อยผลิตภัณฑ์และบริกำร และเกณฑ์กำรยอมรับ
o ตรวจผลิตภัณฑ์และบริกำรตำมแผนคุณภำพ กำรชี้บ่งผลกำรตรวจ
o จัดเก็บข้อมูลกำรตรวจปล่อยผลิตภัณฑ์และบริกำร
o กำรดูแลทรัพย์สินของลูกค้ำระหว่ำงอยู่ภำยใต้กำรควบคุมหรือใช้งำนขององค์กรโดยมีกำรชี้บ่ง ทวนสอบ
ป้องกัน รักษำไว้
o มีกำรรักษำผลิตภัณฑ์และส่วนประกอบให้เป็นไปตำมข้อกำหนดทั้งในที่อยู่ระหว่ำงกระบวนกำรภำยในของ
องค์กร และกำรส่งมอบโดยครอบคลุมถึงกำรชี้บ่ง กำรเคลื่อนย้ำย กำรบรรจุ กำรจัดเก็บ และกำรถนอมรักษำ
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015 หน้ำ 21 จำก 32
#R.2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อกำหนดของมำตรฐำน ISO 9001:2015 และแนวทำงกำรจัดทำระบบ
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
1. มีกำรจัดตั้งกระบวนกำรที่มีประสิทธิผลและประสิทธิภำพเพื่อจัดหำ ทบทวนและขจัดสิ่งที่ไม่เป็นไปตำม
ข้อกำหนดที่ได้ชี้บ่ง
2. มีวิธีกำรจัดกำรจัดกำรหำกพบว่ำมีผลิตภัณฑ์และบริกำรที่บกพร่องถูกปล่อยออกปล่อยออกจำกองค์กร
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. กำหนดกระบวนกำรควบคุมผลิตภัณฑ์ที่บกพร่อง
กำหนดกระบวนกำรควบคุมผลิตภัณฑ์และบริกำรที่บกพร่องซึง่ เกณฑ์กำรปฏิบัติงำน ประกอบด้วย
- กำรมอบอำนำจแก่ตำแหน่งงำนในองค์กรให้มีอำนำจหน้ำที่และควำมรับผิดชอบในกำรรำยงำนสิ่งที่ไม่
เป็นไปตำมข้อกำหนด ณ ขั้นตอนใดๆของกระบวนกำร
- กำรชี้บ่งผลิตภัณฑ์และบริกำรที่บกพร่องให้เกิดควำมเข้ำใจว่ำเป็นผลิตภัณฑ์และบริกำรที่บกพร่องที่
บกพร่อง เพื่อไม่นำผลิตภัณฑ์และบริกำรนั้นไปดำเนินกำรใดๆจนกว่ำจะมีกำรสั่งโดยผู้มีอำนำจ
- ทำกำรคัดแยกผลิตภัณฑ์และบริกำรที่บกพร่องที่บกพร่อง
- กำรควบคุม และ ควำมรับผิดชอบและอำนำจหน้ำที่ที่เกี่ยวข้องกับกำรดำเนินกำรกับผลิตภัณฑ์และ
บริกำรที่บกพร่องที่บกพร่องเพื่อป้องกันกำรนำไปใช้ในทำงที่ผิด
- กำหนดวิธีกำรจัดกำรกับผลิตภัณฑ์และบริกำรที่บกพร่อง
- มีวิธีกำรจัดกำรจัดกำรหำกพบว่ำมีผลิตภัณฑ์และบริกำรที่บกพร่องปล่อยออกจำกองค์กร
- กำหนดกระบวนกำรเรียกคืนผลิตภัณฑ์และบริกำรกรณีที่พบข้อบกพร่องหลังกำรตรวจปล่อย
- กำหนดกระบวนกำรพิจำรณำ และรับผลิตภัณฑ์และบริกำรที่บกพร่องคืนจำกลูกค้ำ
2. มีกำรกำหนดวิธีกำรที่มีประสิทธิผลและประสิทธิภำพเพื่อจัดหำ ทบทวนและขจัดสิ่งที่ไม่เป็นไปตำมข้อกำหนด
ที่ได้ชี้บ่ง
2.1 ผลิตภัณฑ์และบริกำรที่บกพร่องเกิดขึ้นได้ตลอดขอบข่ำยระบบบริหำรงำนคุณภำพ ดังนี้
กำรผู้สนับสนุนผลิตภัณฑ์และบริกำร กำรเคลื่อนย้ำย กำรจัดเก็บ กำรทำให้เกิดผลิตภัณฑ์และบริกำร
กำรบรรจุ กำรขนส่ง กำรส่งมอบ กำรจัดเก็บของลูกค้ำ กำรใช้งำนของลูกค้ำ กำรใช้ของผู้บิโภคอุปโภค
เป็นต้น
2.2 กำรมอบอำนำจแก่ตำแหน่งงำนในองค์กรให้มีอำนำจหน้ำที่และควำมรับผิดชอบในกำรรำยงำนสิ่งที่ไม่
เป็นไปตำมข้อกำหนด ณ ขั้นตอนใดๆของกระบวนกำร เช่น ผู้ผลิต ผู้ควบคุมคุณภำพ
2.3 กำรชี้บ่งผลิตภัณฑ์และบริกำรที่บกพร่อง
- ทำกำรคัดแยกผลิตภัณฑ์และบริกำรที่บกพร่องที่เกิดควำมพร่องออก ณ ขั้นตอนใดๆตลอด
กระบวนกำร
- ให้เกิดควำมเข้ำใจว่ำเป็นผลิตภัณฑ์และบริกำรที่บกพร่องเพื่อไม่นำไปดำเนินกำรใดๆจนกว่ำจะมี
กำรสั่งโดยผู้มีอำนำจ
2.4 แยกผลิตภัณฑ์และบริกำรที่บกพร่องออก ระบุปริมำณ แหล่งที่เกิด ข้อบกพร่อง ทำกำรแจ้งให้มีกำร
แก้ไขข้อบกพร่องเป็นลำยลักษณ์อักษรในรูปแบบต่ำงๆ เช่น
- รำยงำนผลิตภัณฑ์บกพร่อง (NCR)
- ใบขอให้มีกำรปฏิบัติกำรแก้ไขและป้องกัน (CAR/PAR)
- Production Report
- ระบบทำงอิเลคทรอนิค (E-mail)
- หำกเปนกำรแจงดวยวำจำ ต้องจัดทำเป็นข้อมูลดวย
2.5 ระบุลักษณะที่บกพร่องของผลิตภัณฑ์และบริกำรนั้นๆไว้ในแบบรำยงำนตำมที่กำหนด เช่น
- อำกำรทำงกำยภำพที่พบ เช่น สี รูปร่ำง ควำมสะอำด
- อำกำรที่เกิดจำกกำรตรวจวัด เช่น ควำมแข็ง มิติ
- อำกำรที่เกิดจำกกำรควบคุมกระบวนกำรไม่ได้ตำมมำตรฐำนที่กำหนด เช่น เวลำ รำยกำรที่ยัง
บริกำรไม่ครบหรือไม่เป็นไปตำมแผนกำรบริกำร
- กำรส่งมอบไม่ตรงเวลำ
- เกิดกำรเสียหำยระหว่ำงกำรส่งมอบ หรืออุบัติเหตุ
- ผลกำรดำเนินงำนไม่เป็นไปตำมแผน หรือผลงำนไม่เป็นไปตำมค่ำที่กำหนด
- กำรใช้งำนไม่เป็นตำมฟังก์ชั่น
- อื่นๆ
สรุปสาระสาคัญ
o มีกำรชี้บ่งและควบคุมผลิตภัณฑ์และบริกำรที่บกพร่องเพื่อป้องกันกำรนำไปใช้หรือส่งมอบโดยไม่ตั้งใจ
o กำหนดกระบวนกำรซึง่ มีเกณฑ์กำรปฏิบัติงำนระบุถึงวิธีกำรควบคุม และ ผู้มีอำนำจหน้ำที่ควำมรับผิดชอบ
ในกำรดำเนินกำรกับสินค้ำ/บริกำรที่บกพร่อง กำรตรวจใหม่หลังกำรแก้ไข
o กำรดำเนินกำรกับผลิตภัณฑ์และบริกำรที่บกพร่อง อำจใช้วิธี กำรแก้ไข กำรทำใหม่ กำรซ่อมแซม กำรลด
ชั้นคุณภำพ กำรยอมรับตำมสภำพที่เป็นโดยควำมยินยอมของผู้มีอำนำจหรือลูกค้ำ(ถ้ำเกี่ยวข้อง) หรือทิ้งไป
o จัดเก็บข้อมูลสำรสนเทศลักษณะข้อบกพร่องของผลิตภัณฑ์และบริกำรรวมทั้งกำรดำเนินกำรใดๆที่เกี่ยวข้อง
o มีวิธีกำรรองรับที่เหมำะสม กรณีพบข้อบกพร่องของสินค้ำ/บริกำร หลังกำรส่งมอบ หรือ นำไปใช้งำนแล้ว
ตัวอย่างการวางแผนและการควบคุมการดาเนินงาน
จากผังกระบวนการธุรกิจนาแต่ละกกระบวนการมาวางแผนการดาเนินงานของแต่ละหน่วยงาน)
ตัวอย่างการวางแผนการผลิตผลิตภัณฑ์และบริการ
กระบวนการ/ขัน
้ ตอนการท่างาน เกณฑ์ที่ใช้ควบคุม ค่าควบคุม แนวทางแก้ไข เอกสารที่เกี่ยวข้อง บันทึก ผูร้ บ
ั ผิดชอบ
A
C
VOLTAGE (52A),(52B) 22 KV , 3.3 KV
ตรวจเช็คระบบไฟฟ้าภายใน แจ้งศูนย์ น.2 055-320104, WI-ระบบไฟฟ้าภายในโรงไฟฟ้า แบบฟอร์มบันทึกประสานงานศูนย์ น.2พนักงาน TURBINE-GENERATOR
FREQUENCY (52A) , (52B) 50 Hz
OPERATION
1.WI-ควบคุมคุณภาพไฟฟ้า
พนักงาน
TURBINE-GENERATOR
A ควบคุมคุณภาพไฟฟ้าส่งออก แบบฟอร์มบันทึก 52A , REPORT ศูนย์ น.2
NORMAL Report รายงานการขายไฟฟ้า
ประจ่าชัว่ โมง
2.สัญญาซือ
้ ขายไฟฟ้าระหว่างบริษท
ั กับทางการไฟฟ้าส่วน
ภูมิภาค
เพิ่ มค่า VOLTAGE GEN. , ปรับ TAP หม้อแปลง
POWER FACTOR (52A) ไม่ตา่ กว่า 0.90
แจ้งศูนย์ น.2 ลด ปรับแรงดันภายนอก
ตัวอย่างการวางแผนเพื่อกิจกรรมหลังการส่งมอบ
ตัวอย่างการวางแผนการควบคุมการเปลี่ยนแปลง แบบที่ 1
ตรวจอนุมัติ
1 DRAWING MOLD/JIG/FIXTURE DRAWING
ให้คำปรึกษำในกำรจัดทำ
2 DRAWING
MOLD/JIG/FIXTURE
DRAWING
4 สังเกตุกำรณ์และตรวจสอบ WI, REPORT
IN, OUT SPEC REPORT
6 กระบวนกำรตรวจสอบ FM-QC-16,FM-QC-25,FM-QC-26
7 NG NG Slip In Process
BOI
OK
8 ส่งมอบชิ้นงำน ERP System
10 จองสำยเรือ E-MAIL
12 จบกำรทำงำน
ตัวอย่างการวางแผนการควบคุมการเปลี่ยนแปลง แบบที่2
การบริหารการเปลีย
่ นแปลง (Management of Change Form:MOC)
คาอธิบายของการปรับเปลีย
่ น รวมพืน
้ ฐานทางเทคนิคสาหรับการเปลีย
่ นแปลง แนบแผนภาพ spcifications ออกแบบและขั้นตอนตามความจาเป็น
ผูบ
้ งั คับบัญชา/วันที่ ผูจ
้ ด
ั การ/วันที่
ความจาเป็น
ตรวจสอบแต่ละรายการทีต
่ อ
้ งดาเนินการ Yes No ผูร้ ับผิดชอบ วันทีแ
่ ล้วเสร็จ ลงนามรับทราบ หายเหตุ
กระบวนการปรับปรุงข้อมูลความปลอดภัย
ส่วนที่ 3 ดาเนินการโดยคณะกรรมการ
กระบวนการและฝึกอบรม
กิจกรรมอืน่ ๆ
คณะกรรมการ
ทบทวน
ทวนสอบโดย : ผูจ
้ ด
ั การซ่อมบารุง / วันที่ ผูจ
้ ด
ั การสิง่ แวดช้ อม อาชี วอนามัย และคาม ผูจ
้ ด
ั การr/วันที่
ปลอดภัย/วันที่
อนุมัตโดย :
ผูจ
้ ด
ั การทัว
่ ไป วันที่
Completion of required action items and meet the requirements of Pre startup and Safety review
รายการตรวจสอบ ( เสร็จสิน
้ ) Yes No ผูร้ ับผิดชอบ วันทีเ่ สร็จสมบูรณ์ ลงนาม หมายเหตุ
การเปลีย
่ นแปลงแล้วเสร็จ
การอนุมัติ (หลังการเปลีย่ นแปลง)
ดาเนินการแล้วเสร็จสมบูรณ์ องค์กรตรวจสอบแล้วเสร็จสมบูรณ์
ส่วนที่ 4 การตรวจสอบเสร็จสิน้
ตัวแทนฝ่ายปฏิบต
ั ก
ิ าร / วันที่ ตัวแทนฝ่ายซ่อมบารุง ./วันที่ ตัวแทนฝ่ายสิง่ แวดช้ อม อาชี วอนามัย และ
หัวหน้า MOC/วันที่
คามปลอดภัย/วันที่
ทวนสอบโดย :
ผูจ
้ ด
ั การฝ่ายปฏิบต
ั ก
ิ าร / วันที่ ผูจ
้ ด
ั การฝ่ายซ่อมบารุง /วันที่ ผูจ
้ ด
ั การฝ่ายสิง่ แวดช้ อม อาชี วอนามัย และ
คามปลอดภัย/วันที่
อนุมัตโิ ดย :
ผูจ
้ ด
ั การทัว
่ ไป วันที่
ส่วนที่ 5 ปิด
งาน
ตัวอย่างการวางแผนในการออกแบบ และพัฒนาผลิตภัณฑ์
ตัวอย่างการวางแผนเพื่อการควบคุมการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการจากภายนอก
ข้อสอบ
ข้อกำหนด 8 กำรปฏิบัติกำร
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อสอบ_ข้อกาหนด 8 การปฏิบัติการ
1. วัตถุประสงค์การวางแผนและการควบคุมการปฏิบัติงานคือข้อใด ?
ก. เพื่อให้มีแนวทางในการเฝ้าติดตามกระบวนการผลิต
ข. เพื่อประกันว่าคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกระบวนการผลิตทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุม
ค. เพื่อแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ของกิจกรรมในกระบวนการตามผังกระบวนการธุรกิจ
ง. เพื่ออธิบายรายละเอียดของการควบคุมคุณภาพของกระบวนการผลิต
2. ต้องจัดตั้งกระบวนการเพื่อวางแผนควบคุมการปฏิบัติงานในกรณีใด?
ก. ตามชนิดผลิตภัณฑ์และบริการ
ข. กระบวนการที่อยู่ภายใต้ขอบข่ายระบบบริหารงานคุณภาพ
ค. มาตรการจัดการความเสี่ยงและโอกาส
ง. ถูกทุกข้อ
3. หากท่านเป็นเจ้าของธุรกิจดังข้อมูลด้านล่างนี้ ท่านต้องจัดทาวางแผนและการควบคุมการปฏิบัติงานกี่เรื่อง?
“ ดาเนินธุรกิจเกี่ยวกับ 1. ผลิตและจาหน่ายน้ามันหล่อลื่น (เชื้อเพลิงทดแทน) 2.รับกาจัดกากอุตสาหกรรม และ 3.
ให้บริการวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการเกี่ยวกับน้ามันและตัวทาละลายที่ใช้แล้ว โดยการขนส่งมีทั้งที่บริษัทไปรับเอง
ที่บริษัทลูกค้า และจ้างบริษัทรถขนส่งดาเนินการแทน”
ก. 1
ข. 2
ค. 3
ง. 4
4. เรียงลาดับการวางแผนการจัดทาแผนคุณภาพได้อย่างถูกต้องคือข้อใด
1) นากิจกรรมในผังกระบวนการภารกิจมาแบ่งเป็นขั้นตอนการทางานย่อย ๆ
2) กาหนดผู้รับผิดชอบและอานาจหน้าที่
3) ระบุความถี่ในการตรวจสอบ
4) พิจารณาว่าแต่ละขั้นตอนมีผลกระทบต่อคุณภาพอย่างไร มีเกณฑ์ควบคุมอะไรบ้าง เพื่อจะผลิตให้ได้
ตามที่ลูกค้าต้องการ
5) เอกสาร / มาตรฐานที่นามาใช้ / อ้างอิงถึง
ก. 1 2 3 4 5
ข. 1 2 4 3 5
ค. 2 4 1 3 5
ง. 1 2 4 5 3
6. กิจกรรมใดคือการดาเนินงานตามข้อกาหนดที่ 8.2.1
ก. การพิจารณาข้อกาหนดที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และการบริการ
ข. การทบทวนข้อกาหนดที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และการบริการ
ค. การสื่อสารกับลูกค้า
ง. การสารวจความพึงพอใจลูกค้า
9. ข้อกาหนดที่ลูกค้าไม่ได้ระบุแต่เป็นที่รู้กันว่าจาเป็นในการใช้งาน หมายถึงข้อใด?
ก. วิธีการประกอบส่วนประกอบ (Instruction) สินค้าประเภท knock-down
ข. คู่มือการใช้งาน (Manual)
ค. ข้อมูลความปลดภัยสารเคมี (Safety Data Sheet :SDS)
ง. ถูกทุกข้อ
16. ข้อใดไม่ใช่ผลการดาเนินงานตามวัตถุประสงค์ของข้อกาหนดการควบคุมผู้ให้บริการภายนอก ?
ก. เกณฑ์การคัดเลือก และประเมิน
ข. บันทึกการจัดซื้อและจัดจ้าง
ค. เอกสารขัน้ ตอนการจัดซื้อและจัดจ้าง
ง. ผลการคัดเลือกและประเมินผู้ขายและผู้ให้บริการ
17. เมื่อใดหรือช่วงเวลาใดที่ต้องทาการประเมินและคัดเลือกผู้ให้บริการภายนอก ?
ก. ก่อนทาการซื้อสินค้าและบริการ
ข. เมื่อครบกาหนดระยะเวลาตามที่องค์กรกาหนด
ค. เมื่อมีการดาเนินการซื้อ/รับบริการแล้ว
ง. ถูกข้อ ก และ ข
18. ใครต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการควบคุมกระบวนการทาการประเมินและคัดเลือกผู้ให้บริการภายนอก ?
ก. ผู้ที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบในการสั่งซื้อและและหรือสั่งจ้าง
ข. ผู้ที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบในอนุมัติการสั่งซื้อและ/หรือสั่งจ้าง
ค. ผู้ที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบในการจัดซื้อและ/หรือสั่งจ้าง
ง. ผู้ที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบในตรวจรับผลิตภัณฑ์และบริการที่สั่งซื้อและ/หรือสั่งจ้าง
19. เกณฑ์ที่สาคัญในดาเนินงานเพื่อควบคุมกระบวนการประเมินและคัดเลือกผู้ให้บริการภายนอกคือเรื่อง ?
ก. เกณฑ์ในการคัดเลือก และเกณฑ์ในการตัดสิน
ข. ช่วงเวลาในการประเมิน
ค. ข้อมูลผู้ให้บริการภายนอก
ง. ถูกทุกข้อ
25. เหตุการณ์ดังต่อไปนี้ต้องนาข้อกาหนดใดในระบบบริหารงานคุณภาพมาใช้ในการดาเนินงาน ?
“จัดทาเอกสารวิธีปฏิบัติงาน(Work Instruction) สาหรับควบคุมกระบวนการประกอบชิ้นส่วนผลิตภัณฑ์ใน
กระบวนการผลิตเพื่อป้องกันการประกอบผิดพลาด เนื่องจากชิ้นส่วนผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการประกอบมีจานวนมาก”
ก. 7.5.1
ข. 8.1
ค. 8.5.1
ง. 8.7
26. เหตุการณ์ดังต่อไปนี้ต้องนาข้อกาหนดใดในระบบบริหารงานคุณภาพมาใช้ในการดาเนินงาน ?
“วิธีปฏิบัติงานสาหรับการประกอบ Motherboard ที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ (Desktop computer) ได้
กาหนดให้ผู้ปฏิบัติงานทุกคนใช้สายรัดข้อมือ (Wrist-Straps) เพื่อให้ตนเองมีสภาวะเป็นกลางทางไฟฟ้าเพื่อป้องกัน
ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตมีกระแสไฟตกค้างแล้วเป็นของเสีย”
ก. 7.5.1
ข. 8.1
ค. 8.5.1
ง. 8.7
31. ข้อใดคือกระบวนการดูแลทรัพย์สินที่เป็นของลูกค้าหรือผู้ให้บริการภายนอก?
ก. ทวนสอบ และดูแลรักษา
ข. ชี้บ่ง ทวนสอบ ป้องกันและดูแลรักษา
ค. ชี้บ่ง ทวนสอบ ป้องกัน และดูแลรักษา รายงานให้ทราบก รณีเสียหาย
ง. ชี้บ่ง ทวนสอบ ป้องกัน และ ดูแลรักษา รายงานให้ลูกค้ารับทราบเป็นระยะ
33. ทรัพย์สินที่เป็นของลูกค้าหรือผู้ให้บริการภายนอกคือข้อใด ?
ก. สมบัติและทรัพย์สินอื่นๆ ของลูกค้าหรือผู้ให้บริการภายนอก
ข. ทรัพย์สินทางปัญญา
ค. ข้อมูลส่วนบุคคล
ง. ถูกทุกข้อ
35. ข้อใดคือกระบวนการการรักษาผลิตภัณฑ์ ?
ก. ชี้บ่ง ทวนสอบ ป้องกันและดูแลรักษา
ข. มีการชี้บ่ง การเคลื่อนย้าย การบรรจุ การจัดเก็บ และ การป้องกันรักษา
ค. ชี้บ่ง ทวนสอบ ป้องกัน และดูแลรักษา รายงานกรณีเสียหาย
ง. ชี้บ่ง การเคลื่อนย้าย การบรรจุ ป้องกันรักษา
37. เมื่อใดที่ต้องทาการการรักษาผลิตภัณฑ์ ?
ก. ระหว่างการผลิต
ข. เมื่อนามาใช้งานในกระบวนการ
ค. ตลอดเวลาที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์กร
ง. ตั้งแต่วัตถุดิบ สินค้าระหว่างผลิต สินค้าสาเร็จรูป ส่วนที่เหลือเมื่อจบกระบวนการ
42. จงเรียงลาดับขั้นตอนก่อน-หลังของการตรวจปล่อยผลิตภัณฑ์และบริการ ?
1. การวางแผนการวัดผลิตภัณฑ์และบริการ
2. จัดตั้งข้อกาหนดผลิตภัณฑ์และบริการ
3. เก็บข้อมูลผลของการวัดผลิตภัณฑ์และบริการ
ก. 1 2 3
ข. 2 1 3
ค. 2 3 1
ง. 3 2 1
48. ข้อใดไม่ใช่วัตถุประสงค์การชี้บ่งผลิตภัณฑ์ที่บกพร่อง ?
ก. คัดแยกผลิตภัณฑ์ที่เกิดความพร่องออกจากผลิตภัณฑ์ที่ดี
ข. เพื่อตรวจสอบได้ง่าย
ค. ป้องกันการนาผลิตภัณฑ์นั้นไปดาเนินการใดๆ
ง. ให้เกิดความเข้าใจว่าเป็นผลิตภัณฑ์และบริการที่บกพร่อง
50 เมื่อใดจึงจะทาการควบคุมผลิตภัณฑ์และบริการที่บกพร่อง ?
ก. เมื่อพบผลิตภัณฑ์และบริการไม่เป็นตามมาตรฐานจาการรับวัตถุดิบ
ข. เมื่อพบผลิตภัณฑ์และบริการไม่เป็นตามมาตรฐานในระหว่างกระบวนการ
ค. เมื่อพบผลิตภัณฑ์และบริการไม่เป็นตามมาตรฐานที่ส่งกลับมาจากลูกค้า
ง. ถูกทุกข้อ
เฉลยข้อสอบ
ข้อกำหนด 8 กำรปฏิบัติกำร
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
เฉลยข้อสอบ_ข้อกาหนด 8 การปฏิบัติการ
1. วัตถุประสงค์การวางแผนและการควบคุมการปฏิบัติงานคือข้อใด ?
ก. เพื่อให้มีแนวทางในการเฝ้าติดตามกระบวนการผลิต
ข. เพื่อประกันว่าคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกระบวนการผลิตทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุม
ค. เพื่อแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ของกิจกรรมในกระบวนการตามผังกระบวนการธุรกิจ
ง. เพื่ออธิบายรายละเอียดของการควบคุมคุณภาพของกระบวนการผลิต
2. ต้องจัดตั้งกระบวนการเพื่อวางแผนควบคุมการปฏิบัติงานในกรณีใด?
ก. ตามชนิดผลิตภัณฑ์และบริการ
ข. กระบวนการที่อยู่ภายใต้ขอบข่ายระบบบริหารงานคุณภาพ
ค. มาตรการจัดการความเสี่ยงและโอกาส
ง. ถูกทุกข้อ
3. หากท่านเป็นเจ้าของธุรกิจดังข้อมูลด้านล่างนี้ ท่านต้องจัดทาวางแผนและการควบคุมการปฏิบัติงานกี่เรื่อง?
“ ดาเนินธุรกิจเกี่ยวกับ 1. ผลิตและจาหน่ายน้ามันหล่อลื่น (เชื้อเพลิงทดแทน) 2.รับกาจัดกากอุตสาหกรรม และ 3.
ให้บริการวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการเกี่ยวกับน้ามันและตัวทาละลายที่ใช้แล้ว โดยการขนส่งมีทั้งที่บริษัทไปรับเอง
ที่บริษัทลูกค้า และจ้างบริษัทรถขนส่งดาเนินการแทน”
ก. 1
ข. 2
ค. 3
ง. 4
4. เรียงลาดับการวางแผนการจัดทาแผนคุณภาพได้อย่างถูกต้องคือข้อใด
1) นากิจกรรมในผังกระบวนการภารกิจมาแบ่งเป็นขั้นตอนการทางานย่อย ๆ
2) กาหนดผู้รับผิดชอบและอานาจหน้าที่
3) ระบุความถี่ในการตรวจสอบ
4) พิจารณาว่าแต่ละขั้นตอนมีผลกระทบต่อคุณภาพอย่างไร มีเกณฑ์ควบคุมอะไรบ้าง เพื่อจะผลิตให้ได้
ตามที่ลูกค้าต้องการ
5) เอกสาร / มาตรฐานที่นามาใช้ / อ้างอิงถึง
ก. 1 2 3 4 5
ข. 1 2 4 3 5
ค. 2 4 1 3 5
ง. 1 2 4 5 3
6. กิจกรรมใดคือการดาเนินงานตามข้อกาหนดที่ 8.2.1
ก. การพิจารณาข้อกาหนดที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และการบริการ
ข. การทบทวนข้อกาหนดที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และการบริการ
ค. การสื่อสารกับลูกค้า
ง. การสารวจความพึงพอใจลูกค้า
9. ข้อกาหนดที่ลูกค้าไม่ได้ระบุแต่เป็นที่รู้กันว่าจาเป็นในการใช้งาน หมายถึงข้อใด?
ก. วิธีการประกอบส่วนประกอบ (Instruction) สินค้าประเภท knock-down
ข. คู่มือการใช้งาน (Manual)
ค. ข้อมูลความปลดภัยสารเคมี (Safety Data Sheet :SDS)
ง. ถูกทุกข้อ
16. ข้อใดไม่ใช่ผลการดาเนินงานตามวัตถุประสงค์ของข้อกาหนดการควบคุมผู้ให้บริการภายนอก ?
ก. เกณฑ์การคัดเลือก และประเมิน
ข. บันทึกการจัดซื้อและจัดจ้าง
ค. เอกสารขัน้ ตอนการจัดซื้อและจัดจ้าง
ง. ผลการคัดเลือกและประเมินผู้ขายและผู้ให้บริการ
17. เมื่อใดหรือช่วงเวลาใดที่ต้องทาการประเมินและคัดเลือกผู้ให้บริการภายนอก ?
ก. ก่อนทาการซื้อสินค้าและบริการ
ข. เมื่อครบกาหนดระยะเวลาตามที่องค์กรกาหนด
ค. เมื่อมีการดาเนินการซื้อ/รับบริการแล้ว
ง. ถูกข้อ ก และ ข
18. ใครต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการควบคุมกระบวนการทาการประเมินและคัดเลือกผู้ให้บริการภายนอก ?
ก. ผู้ที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบในการสั่งซื้อและและหรือสั่งจ้าง
ข. ผู้ที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบในอนุมัติการสั่งซื้อและ/หรือสั่งจ้าง
ค. ผู้ที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบในการจัดซื้อและ/หรือสั่งจ้าง
ง. ผู้ที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบในตรวจรับผลิตภัณฑ์และบริการที่สั่งซื้อและ/หรือสั่งจ้าง
19. เกณฑ์ที่สาคัญในดาเนินงานเพื่อควบคุมกระบวนการประเมินและคัดเลือกผู้ให้บริการภายนอกคือเรื่อง ?
ก. เกณฑ์ในการคัดเลือก และเกณฑ์ในการตัดสิน
ข. ช่วงเวลาในการประเมิน
ค. ข้อมูลผู้ให้บริการภายนอก
ง. ถูกทุกข้อ
26. เหตุการณ์ดังต่อไปนี้ต้องนาข้อกาหนดใดในระบบบริหารงานคุณภาพมาใช้ในการดาเนินงาน ?
“วิธีปฏิบัติงานสาหรับการประกอบ Motherboard ที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ (Desktop computer) ได้
กาหนดให้ผู้ปฏิบัติงานทุกคนใช้สายรัดข้อมือ (Wrist-Straps) เพือ่ ให้ตนเองมีสภาวะเป็นกลางทางไฟฟ้าเพื่อป้องกัน
ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตมีกระแสไฟตกค้างแล้วเป็นของเสีย”
ก. 7.5.1
ข. 8.1
ค. 8.5.1
ง. 8.7
31. ข้อใดคือกระบวนการดูแลทรัพย์สินที่เป็นของลูกค้าหรือผู้ให้บริการภายนอก?
ก. ทวนสอบ และดูแลรักษา
ข. ชี้บ่ง ทวนสอบ ป้องกันและดูแลรักษา
ค. ชี้บ่ง ทวนสอบ ป้องกัน และดูแลรักษา รายงานให้ทราบก รณีเสียหาย
ง. ชี้บ่ง ทวนสอบ ป้องกัน และ ดูแลรักษา รายงานให้ลูกค้ารับทราบเป็นระยะ
33. ทรัพย์สินที่เป็นของลูกค้าหรือผู้ให้บริการภายนอกคือข้อใด ?
ก. สมบัติและทรัพย์สินอื่นๆ ของลูกค้าหรือผู้ให้บริการภายนอก
ข. ทรัพย์สินทางปัญญา
ค. ข้อมูลส่วนบุคคล
ง. ถูกทุกข้อ
35. ข้อใดคือกระบวนการการรักษาผลิตภัณฑ์ ?
ก. ชี้บ่ง ทวนสอบ ป้องกันและดูแลรักษา
ข. มีการชี้บ่ง การเคลื่อนย้าย การบรรจุ การจัดเก็บ และ การป้องกันรักษา
ค. ชี้บ่ง ทวนสอบ ป้องกัน และดูแลรักษา รายงานกรณีเสียหาย
ง. ชี้บ่ง การเคลื่อนย้าย การบรรจุ ป้องกันรักษา
37. เมื่อใดที่ต้องทาการการรักษาผลิตภัณฑ์ ?
ก. ระหว่างการผลิต
ข. เมื่อนามาใช้งานในกระบวนการ
ค. ตลอดเวลาที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์กร
ง. ตั้งแต่วัตถุดิบ สินค้าระหว่างผลิต สินค้าสาเร็จรูป ส่วนที่เหลือเมื่อจบกระบวนการ
42. จงเรียงลาดับขั้นตอนก่อน-หลังของการตรวจปล่อยผลิตภัณฑ์และบริการ ?
1. การวางแผนการวัดผลิตภัณฑ์และบริการ
2. จัดตั้งข้อกาหนดผลิตภัณฑ์และบริการ
3. เก็บข้อมูลผลของการวัดผลิตภัณฑ์และบริการ
ก. 1 2 3
ข. 2 1 3
ค. 2 3 1
ง. 3 2 1
48. ข้อใดไม่ใช่วัตถุประสงค์การชี้บ่งผลิตภัณฑ์ที่บกพร่อง ?
ก. คัดแยกผลิตภัณฑ์ที่เกิดความพร่องออกจากผลิตภัณฑ์ที่ดี
ข. เพื่อตรวจสอบได้ง่าย
ค. ป้องกันการนาผลิตภัณฑ์นั้นไปดาเนินการใดๆ
ง. ให้เกิดความเข้าใจว่าเป็นผลิตภัณฑ์และบริการที่บกพร่อง
50 เมื่อใดจึงจะทาการควบคุมผลิตภัณฑ์และบริการที่บกพร่อง ?
ก. เมื่อพบผลิตภัณฑ์และบริการไม่เป็นตามมาตรฐานจาการรับวัตถุดิบ
ข. เมื่อพบผลิตภัณฑ์และบริการไม่เป็นตามมาตรฐานในระหว่างกระบวนการ
ค. เมื่อพบผลิตภัณฑ์และบริการไม่เป็นตามมาตรฐานที่ส่งกลับมาจากลูกค้า
ง. ถูกทุกข้อ
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
วำงแผนกำรตรวจติดตำม กำรวัด กำรวิเครำะห์ และกำรประเมินผล โดยกำรกำหนดสิ่งที่จำเป็นต้องติดตำม
ตรวจและกำรวัด วิธีกำรในกำรดำเนินกำร เวลำ และผลลัพธ์ที่ได้ต้องถูกนำไปวิเครำะห์และประเมินผล รวมทั้งมี
กำรนำวิธีกำรทำงสถิติที่จำเป็นมำใช้
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. กำหนดรำยกำรที่ต้องทำกำรเฝ้ำวัด เฝ้ำระวัง ดังนี้
- สอดคล้องผลิตภัณฑ์และบริกำร
- ระดับควำมพึงพอใจลูกค้ำ
- สมรรถนะ และประสิทธิผล QMS
- ประสิทธิผลแผนงำน
- ประสิทธิผลกำรจัดกำรกับควำมเสี่ยง และโอกำส
- สมรรถนะผู้จัดหำภำยนอก
- ควำมจำเป็นในกำรปรับปรุงระบบ
2. จัดทำแผนกำรกำรเฝ้ำวัด เฝ้ำระวังในแต่ละรำยกำร ซึ่งประกอบด้วย
- วิธีกำรเฝ้ำระวัง ; กำรเก็บข้อมูลของรำยกำรี่ต้องกำรติดตำมผล
- กำรวัด ; กำหนดกระบวนที่ให้ได้มำซึ่งรำยกำรที่ต้องกำรวัด เป็นหน่วยวัดผล
- กำรวิเครำะห์ : พิจำรณำสมรรถนะกำรดำเนินงำน และผลกำรดำเนินงำนต่ำงๆของรำยกำรวัด
- กำรประเมิน : กำรติดตำมควำมก้ำวหน้ำของภำรกิจและหรือประเมินว่ำภำรกิจสำเร็จตำม
วัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้หรือไม่
3. กำหนดกระบวนกำรวัดให้ได้ข้อมูลย้อนกลับจำกลูกค้ำ กำรจัดกำรกับคำร้องเรียน และกำรเก็บรวมรวมข้อมูล
4. ดำเนินกำรเฝ้ำติดตำมควำมพึงพอใจของลูกค้ำ เช่น กำรสำรวจ กำรตอบกลับของลูกค้ำหลังกำรส่งมอบสินค้ำ
และ บริกำรกำรประชุมกับลูกค้ำ กำรวิเครำะห์ส่วนแบ่งทำงกำรตลำด ของสัมมนำคุณ คืนสินค้ำในช่วงกำร
รับประกัน และรำยงำนจำกผู้จำหน่ำย
5. กำหนดช่วงเวลำที่ดำเนินกำรวิเครำะห์ กำรประเมินผลลัพธ์ เช่น
ตัวอย่ำงกำรกำรติดตำม ตรวจวัด วิเครำะห์ และประเมินสมรรถนะหลักในกำรปฏิบัติ (KPI)
(1) วิธีกำรเฝ้ำระวัง : กำรนำผลผลิตผลิตภัณฑ์เทียบกับแผนกำรผลิตผลิตภัณฑ์
(2) กำรวัด : กำหนดให้ทำกำรเก็บข้อมูลกำรดำเนินงำนทุกวัน คำนวณออกว่ำเป็น %ผลกำรผลิต
(3) กำรวิเครำะห์ : พิจำรณำสมรรถนะกำรดำเนินงำน และผลกำรดำเนินงำนต่ำงๆของ KPI
(4) กำรประเมิน : นำสมรรถนะกำรดำเนินงำนเทียบกับ KPI ที่ตั้งไว้ สรุปเป็นบรรลุวัตถุประสงค์ หรือไม่
บรรลุวัตถุประสงค์
6. นำผลกำรดำเนินงำนขององค์กรที่ผ่ำนกำรวิเครำะห์มำประเมินผลเพื่อพิจำรณำปรับปรุงกำรดำเนินงำนของ
องค์กร และกำหนดเป็นกำรพัฒนำ โดยมีแนวทำงกำรพิจำรณำ ดังนี้
- กำรทำให้ผลิตภัณฑ์และบริกำรเป็นไปตำมข้อกำหนด เช่น ควำมต้องกำรของลูกค้ำ กฎหมำย
กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
- กำรทำให้แล้วเสร็จภำยในเวลำที่กำหนด เช่น กำรส่งมอบสินค้ำให้ตรงเวลำตำมที่นัดหมำยกับลูกค้ำ
กำรให้บริกำรที่รวดเร็ว
- กำรหำช่องทำงในกำรพัฒนำปรับปรุง เช่น กำรเพิ่มผลผลิต กำรเพิ่มยอดขำย
- กำรแสวงหำตลำดใหม่ๆ เช่น กำรออกสินค้ำใหม่ กำรให้บริกำรใหม่ๆ กำรออกสินค้ำสำหรับลูกค้ำ
เฉพำะกลุ่ม (niche market)
7. นำแนวทำงกำรแก้ไขและพัฒนำเข้ำสู่กำรควบคุมกำรเปลี่ยนแปลง (ตำมข้อ 6.3) หรือกำรควบคุมกำร
เปลี่ยนแปลงในกระบวนกำรผลิตผลิตภัณฑ์และบริกำร (ตำมข้อกำหนด 8.5.6) ต่อไป
สรุปสาระสาคัญ
o กำหนดรำยกำร กำรวัดผลกำรดำเนินงำน และกำรวัดควำมพึงพอใจและควำมคำดหวังลูกค้ำ
o จัดทำแผนกำรติดตำม ตรวจวัด วิเครำะห์ และประเมิน
o วัดสมรรถนะกำรดำเนินงำน ควำมสี่ยง ควำมพึงพอใจลูกค้ำ และควำมคำดหวังลูกค้ำ
o วิเครำะห์สมรรถนะกำรดำเนินงำน ควำมสี่ยง ควำมพึงพอใจลูกค้ำ และควำมคำดหวังลูกค้ำตำมแผน
o ประเมินผล และกำหนดแนวทำงกำรแก้ไข หรือพัฒนำ
9.2 การตรวจประเมินภายใน
9.2.1 องค์กรต้องดำเนินกำรตรวจประเมินภำยใน ตำมช่วงเวลำที่วำงแผนไว้ เพื่อให้มีข้อมูลของระบบ
บริหำรคุณภำพมีควำมสอดคล้องต่อข้อกำหนดองค์กรสำหรับระบบบริหำรคุณภำพ ข้อกำหนด
มำตรฐำนสำกลฉบับนี้กำรปฏิบัติและคงรักษำไว้อย่ำงมีประสิทธิผล
9.2.2 องค์กรต้อง
วำงแผน จัดทำ นำไปปฏิบัติ และคงรักษำไว้ ตำรำงกำรตรวจประเมิน รวมถึงควำมถี่ วิธีกำร
ผู้รับผิดชอบ ข้อกำหนดในกำรวำงแผน และกำรรำยงำน ซึ่งจะพิจำรณำจำกวัตถุประสงค์คุณภำพ,
ควำมสำคัญของกระบวนกำรที่เกี่ยวข้อง กำรเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลต่อองค์กร และผลกำรตรวจ
ประเมินครั้งที่ผ่ำนมำ
กำหนดเกณฑ์และขอบเขตกำรตรวจติดประเมิน
กำรเลือกผู้ตรวจประเมิน และกำรตรวจประเมินทำให้มั่นใจว่ำตรงตำมวัตถุประสงค์และมีควำมเป็น
กลำงในขณะตรวจประเมิน
ทำให้มั่นใจว่ำผลกำรตรวจประเมินได้ถูกรำยงำนไปยังผู้บริหำรหน่วยงำนที่เกี่ยวข้อง
ดำเนินกำรแก้ไขและปฏิบัติกำรแก้ไขโดยมิให้ล่ำช้ำ
จัดเก็บเอกสำรข้อมูลกำรตรวจประเมินไว้เป็นหลักฐำน เพื่อแสดงกำรดำเนินกำรตรวจประเมินและ
แสดงถึงผลกำรตรวจประเมิน
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
วางแผน และดาเนินการตรวจประเมินภายใน เพื่อให้มั่นใจว่ามีการปฏิบัติสอดคล้องกับข้อกาหนดขององค์กรตาม
ระบบบริหารคุณภาพ และข้อกาหนดที่เกี่ยวข้อง โดยต้องมีการจัดทาแผนการตรวจ โปรแกรมการตรวจประเมิน ความถี่
วิธีการ ผู้รับผิดชอบ รายงานผลการตรวจประเมินภายใน และจัดเก็บข้อมูลการตรวจประเมิน
ขั้นตอนการปฏิบัติ
กระบวนกำรตรวจประเมินภำยในระบบบริหำรงำนคุณภำพภำยในอยู่ภำยใต้ควำมรับผิดชอบของผู้บริหำร
ซึ่งมีขั้นตอน ดังนี้
1. กำรจัดเตรียมผู้ตรวจประเมินภำยใน โดยกำรคัดเลือกผู้ที่จะทำหน้ำที่เป็นผู้ตรวจประเมินภำยใน ต้องมี
ควำมสำมำรถในกำรตรวจประเมิน และคุณสมบัติ ดังนี้
- ควำมรู้ข้อกำหนดมำตรฐำน ISO 9001
- ควำมรู้กระบวนกำรตรวจประเมิน
- ควำมรู้ในระบบบริหำรงำนคุณภำพขององค์กร
2. กำรวำงโปรมแกรมกำรตรวจประเมินภำยใน ควรพิจำรณำสิ่งต่ำง ๆ ดังนี้
- ตรวจครบทุกหน่วยงำนตำมขอบข่ำยระบบบริหำรงำนคุณภำพ
9. กำรตรวจติดตำมผลกำรแก้ไขและป้องกันภำยหลังจำกที่แต่ละหน่วยงำนได้รับกำรร้องขอให้ดำเนินกำรแก้ไข
แล้วต้องระบุรำยละเอียดแนวทำงในกำรแก้ไขและป้องกันข้อบกพร่อง พร้อมทั้งกำหนดวันแล้วเสร็จ ส่งกลับ
มำให้กับผู้ตรวจประเมินภำยในภำยในเวลำที่กำหนด
10. หัวหน้ำคณะผู้ตรวจประเมินภำยในจัดทำรำยงำนกำรติดตำมกำรแก้ไขและป้องกัน (Follow up report) ส่ง
ให้ผู้บริหำรหน่วยงำนที่รับกำรตรวจประเมินภำยในและผู้บริหำร
11. สรุปผลเพื่อนำเข้ำทบทวนโดยฝ่ำยบริหำรโดยกำรสรุปรำยงำนกำรตรวจประเมินภำยในเพื่อพิจำรณำทบทวน
ระบบบริหำรงำนคุณภำพขององค์กรและกำหนดแนวทำงกำรดำเนินกำรที่เหมำะสมต่อไป
สรุปสาระสาคัญ
o จัดทำแผนกำรตรวจประเมิน ซึ่งครอบคลุม ข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง ควำมเสี่ยง และกระบวนกำร
o กำหนดคุณสมบัติ ควำมสำมำรถของผู้ตรวจประเมิน และทำกำรแต่งตั้งผู้ตรวจประเมิน
o ดำเนินกำรตรวจประเมินภำยในตำมช่วงเวลำที่กำหนด และจัดทำรำยงำนกำรตรวจประเมิน
o สรุปรำยงำนกำรตรวจประเมินต่อผู้บริหำรตำมช่องทำงที่กำหนด
o ทบทวนประสิทธิผลกำรตรวจประเมิน เพื่อนำข้อมูลไปวำงแผนกำรตรวจประเมินครั้งถัดไป
9.3 การทบทวนโดยฝ่ายบริหาร
9.3.1 ทั่วไป
ผู้บริหำรสูงสุดต้องทำกำรทบทวนระบบบริหำรคุณภำพขององค์กรตำมช่วงเวลำที่วำงแผนไว้ เพื่อให้มั่นใจ
ว่ำมีควำมเหมำะสมอย่ำงต่อเนื่อง มีควำมพอเพียงมีประสิทธิผล และมีควำมสอดคล้องกับทิศทำงกลยุทธ์ของ
องค์กร
9.3.2 ปัจจัยนาเข้าการทบทวนโดยฝ่ายบริหาร
กำรทบทวนโดยฝ่ำยบริหำร ต้องได้รับกำรวำงแผนและดำเนินกำร โดยคำนึงถึงสถำนะของกำรดำเนินกำร
จำกกำรทบทวนในครั้งทีผ่ ่ำนมำประเด็นกำรเปลี่ยนแปลงภำยในและภำยนอกที่เกี่ยวข้องกับระบบบริหำรคุณภำพ
ข้อมูลสมรรถนะและประสิทธิผลระบบบริหำรคุณภำพ รวมถึงแนวโน้มข้อมูลจำกควำมพึงพอใจของลูกค้ำ
และข้อมูลตอบกลับจำก ผู้มีส่วนได้สว่ นเสียที่เกี่ยวข้อง
ขอบเขตที่ ได้ตรงตำมวัตถุประสงค์ที่ด้ำนคุณภำพ
สมรรถนะของกระบวนกำร และควำมสอดคล้องของผลิตภัณฑ์และบริกำร
ควำมไม่สอดคล้องตำมข้อกำหนด และ กำรปฏิบัติกำรแก้ไข
ผลจำกกำรเฝ้ำติดตำมและตรวจวัด
ผลกำรตรวจประเมิน
สมรรถนะของของผู้ให้บริกำรภำยนอก
ควำมเพียงพอของทรัพยำกร
ประสิทธิผลกำรดำเนินกำรเพื่อระบุควำมเสี่ยงและโอกำส (ดูข้อ 6.1)
ข้อเสนอแนะในกำรปรับปรุง
9.3.3 ผลจากการทบทวนโดยฝ่ายบริหาร
ผลจำกกำรทบทวนโดยฝ่ำยบริหำรต้องรวมถึงกำรตัดสินใจและกำรดำเนินกำรเกี่ยวกับ
โอกำสในกำรปรับปรุง ควำมจำเป็นในกำรปรับเปลี่ยนระบบบริหำรคุณภำพ ทรัพยำกรที่จำเป็น
องค์กรต้องคงไว้ซึ่งเอกสำรข้อมูลที่แสดงถึงหลักฐำนของผลลัพธ์จำกกำรทบทวนฝ่ำยบริหำร
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
ทำกำรทบทวนระบบบริหำรคุณภำพตำมช่วงเวลำที่กำหนดเพื่อให้มั่นใจว่ำยังมีควำมเหมำะสม เพียงพอ
และสอดคล้องกับทิศทำงกลยุทธ์ขององค์กร จัดเก็บข้อมูลสำรสนเทศผลกำรทบทวนโดยฝ่ำยบริหำร
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. องค์กรต้องกำหนดแผนกำรทบทวนกำรบริหำรงำน และตำแหน่งงำนระดับบริหำรที่จะต้องร่วม
พิจำรณำทบทวนกับผู้บริหำรระดับสูง
2. กำหนดองค์ประชุมของกำรทบทวนกำรบริหำรงำน โดยผู้บริหำรสูงสุดทำหน้ำที่ประธำน
วัตถุประสงค์คณ
ุ ภาพ : คะแนนประเมินความพึงพอใจจากลูกค้า เป้าหมาย : 80%
ฝ่าย / แผนก : การตลาด ระยะเวลาวัดผล : ทุกเดือน วันที่ : ปี 2559
ส่วนที่ 1 : ผลการดาเนินงาน
รายการ มกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม เมษายน พฤษภาคม มิถุนายน กรกฎาคม สิงหาคม กันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม เฉลีย่
จน.IPQC. Defect #DIV/0!
จน.ผลิต #DIV/0!
IPQC. Defect Rate #DIV/0! #DIV/0! #DIV/0! #DIV/0! #DIV/0! #DIV/0! #DIV/0! #DIV/0! #DIV/0! #DIV/0! #DIV/0! #DIV/0! 0.813
ส่วนที่ 2 : กราฟสรุปผล
Customer Satisfaction
100.00%
80.00%
60.00%
IPQC. Defect Rate
40.00%
20.00%
0.00%
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12
ตัวอย่างการตรวจประเมินภายใน
ตัวอย่างประกาศแต่งตั้งผู้ตรวจประเมิน
ประกาศ
ที่ 1/010/2561
เรื่อง แต่งตั้งคณะผู้ตรวจประเมินระบบxxx
โดยให้คณะผู้ตรวจประเมินระบบบริหำรงำนคุณภำพภำยในองค์กรมีหน้ำที่ควำมรับผิดชอบ ดังต่อไปนี้
1. เตรียมแผนกำรตรวจประเมิน
2. ประสำนงำนกับผู้บริหำร และผูร้ บั กำรตรวจประเมิน
3. ศึกษำข้อกำหนด มำตรฐำน ควำมเสี่ยงและเอกสำรที่เกีย่ วข้อง
4. จัดเตรียมเครื่องมือกำรตรวจประเมิน เช่น Checklist ฯลฯ
5. ตรวจประเมินให้บรรลุตำมวัตถุประสงค์อย่ำงมีประสิทธิภำพ และประสิทธิผล
6. ออกรำยงำนกำรแก้ไขกรณีพบข้อบกพร่องจำกกำรตรวจประเมิน
7. ตรวจประเมินประสิทธิภำพของกำรแก้ไขข้อบกพร่อง
8. รำยงำนผลกำรตรวจประเมินต่อผูบ้ ริหำร
ตัวอย่างการจัดทาตารางข้อกาหนดเชื่อมโยงกับหน่วยงานเพื่อวางแผนการตรวจประเมิน
ตัวอย่างแผนการตรวจประเมิน
แผนการตรวจประเมิน (AUDIT PLAN) ประจาปี 2561 ครั้งที่ 1
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015 หน้ำ 2 จำก 16
#R.2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อกำหนดของมำตรฐำน ISO 9001:2015 และแนวทำงกำรจัดทำระบบ
PAGE 1 of 1
Rev. 0
วัตถุประสงค์การตรวจประเมิน : เพื่อตรวจประเมินการนาข้อกาหนดมาประยุกต์ใช้ และประสิทธิผลการดาเนินงานตามระบบที่จดั ตั้งขึ้นทั้งองค์กร
หน่วยงานที่ถูกตรวจ
วัน/เดือน/ปี หัวข้อที่ตรวจประเมิน หัวหน้าผู้ตรวจประเมิน ผู้ตรวจประเมิน
เวลาที่ตรวจประเมิน ประเมิน
ที่ตรวจประเมิน (Document Information / Requirement) (Lead Auditor) (Auditors)
(Auditee)
/07/2016 09.00-12.00 น. BM/MG ตำมตำรำงข้อกำหนดเชื่อมโยงกับหน่วยงำน พิทยำ สุทธิดำ
/07/2016 09.00-12.00 น. AMG ตำมตำรำงข้อกำหนดเชื่อมโยงกับหน่วยงำน ชำยแดน วันวิสำ
/07/2016 13.00-17.00 น. SA ตำมตำรำงข้อกำหนดเชื่อมโยงกับหน่วยงำน พักตร์พริ้ม สังคณำ
/07/2016 13.00-17.00 น. SC ตำมตำรำงข้อกำหนดเชื่อมโยงกับหน่วยงำน นพเกล้ำ จุฑำมำศ
/07/2016 09.00-12.00 น. WH ตำมตำรำงข้อกำหนดเชื่อมโยงกับหน่วยงำน กัญญำวีร์ ศิริกำญจน์
/07/2016 09.00-12.00 น. SF ตำมตำรำงข้อกำหนดเชื่อมโยงกับหน่วยงำน สุชำติ วรนันท์
/07/2016 13.00-17.00 น. AD ตำมตำรำงข้อกำหนดเชื่อมโยงกับหน่วยงำน กัญญำวีร์ วรนันท์
/07/2016 13.00-17.00 น. MES ตำมตำรำงข้อกำหนดเชื่อมโยงกับหน่วยงำน จำรุวรรณ ชื่นขวัญ
/07/2016 13.00-17.00 น. AC ตำมตำรำงข้อกำหนดเชื่อมโยงกับหน่วยงำน อรวรรณ ชำยแดน
ตัวอย่างแผนการทบทวนโดยฝ่ายบริหาร
วำระกำรทบทวน หน่วยงำนที่ วิธีการ ควำมถี่ 20xx
รับผิดชอบรำยงำน Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Oct Nov Dec
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015 หน้ำ 3 จำก 16
#R.2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อกำหนดของมำตรฐำน ISO 9001:2015 และแนวทำงกำรจัดทำระบบ
ข้อสอบ
ข้อกำหนด 9 กำรประเมินสมรรถนะ
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อสอบ_ข้อกาหนด 9 การประเมินสมรรถนะ
7. ข้อใดคือประสิทธิผลการดาเนินงานเรื่อง การวัดความพึงพอใจของลูกค้า ?
ก. มีข้อมูลความพึงพอใจลูกค้าที่สามารถนามาวิเคราะห์ได้
ข. มีแบบวัดความพึงพอใจลูกค้า
ค. มีเอกสารขั้นตอนดาเนินงานการรับข้องร้องเรียน และวัดความพึงพอใจ
ง. มีระบบวัดความพึงพอใจลูกค้า
8. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการ “การวัดความพึงพอใจของลูกค้า” ?
ก. เป็นข้อมูลเกี่ยวกับความพึงพอใจของลูกค้า
ข. เป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับความพึงพอใจ ข้อร้องเรียน และคาแนะนาอื่นๆ
ค. เป็นข้อมูลย้อนกลับจากลูกค้าที่แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะองค์กร
ง. เป็นข้อมูลทางธุรกิจที่แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะองค์กร
12. จงเรียงลาดับขั้นตอนก่อน-หลังของกระบวนการการตรวจประเมินภายใน ?
1) การวางแผนและเตรียมการ
2) การจัดเตรียมผู้ตรวจประเมินภายใน
3) การตรวจประเมินภายใน
4) รายงานผลการตรวจประเมิน
5) สรุปผลเพื่อนาเข้าทบทวนโดยฝ่ายบริหาร
6) การตรวจติดตามผลการแก้ไข
ก. 1 2 3 4 5 6
ข. 2 1 3 4 5 6
ค. 2 1 3 4 6 5
ง. 1 2 3 6 4 5
14. ประสิทธิผลการดาเนินงานการตรวจประเมินภายในสามารถวัดได้จากข้อได้อะไร?
ก. มีแผนการตรวจประเมินและเอกสารแต่งตั้งผู้ตรวจประเมิน
ข. มีหลักฐานการตรวจประเมินครบถ้วน
ค. มีผลการตรวจประเมินครบทุกหน่วยงาน และครบทุกข้อกาหนด
ง. ผลการตรวจประเมินไม่พบใบขอให้ปฏิบัติการแก้ไข (CAR)
16. สามารถกาหนดแหล่งข้อมูลความพึงพอใจของลูกค้าเพื่อนามาวิเคราะห์จากแหล่งใดบ้าง ?
ก. การทาแบบสอบถาม
ข. ข้อร้องเรียนจากลูกค้า
ค. สถิติของเสีย ของส่งคืนจากลูกค้า
ง. ถูกทุกข้อ
18. ข้อใดกล่าวถูกต้องในเรื่องความถี่การทบทวนโดยฝ่ายบริหาร”?
ก. ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและแนวทางการบริหารงานของผู้บริหารสูงของ
ข. ต้องทบทวนระบบบริหารงานคุณภาพตามช่วงระยะเวลาที่วางแผน
ค. ในช่วงที่เริ่มนาระบบมาใช้ควรจัดให้มีการประชุมบ่อยครั้ง
ง. ถูกทุกข้อ
เฉลยข้อสอบ
ข้อกำหนด 9 กำรประเมินสมรรถนะ
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
เฉลยข้อสอบ_ข้อกาหนด 9 การประเมินสมรรถนะ
7. ข้อใดคือประสิทธิผลการดาเนินงานเรื่อง การวัดความพึงพอใจของลูกค้า ?
ก. มีข้อมูลความพึงพอใจลูกค้าที่สามารถนามาวิเคราะห์ได้
ข. มีแบบวัดความพึงพอใจลูกค้า
ค. มีเอกสารขั้นตอนดาเนินงานการรับข้องร้องเรียน และวัดความพึงพอใจ
ง. มีระบบวัดความพึงพอใจลูกค้า
8. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการ “การวัดความพึงพอใจของลูกค้า” ?
ก. เป็นข้อมูลเกี่ยวกับความพึงพอใจของลูกค้า
ข. เป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับความพึงพอใจ ข้อร้องเรียน และคาแนะนาอื่นๆ
ค. เป็นข้อมูลย้อนกลับจากลูกค้าที่แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะองค์กร
ง. เป็นข้อมูลทางธุรกิจที่แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะองค์กร
12. จงเรียงลาดับขั้นตอนก่อน-หลังของกระบวนการการตรวจประเมินภายใน ?
1) การวางแผนและเตรียมการ
2) การจัดเตรียมผู้ตรวจประเมินภายใน
3) การตรวจประเมินภายใน
4) รายงานผลการตรวจประเมิน
5) สรุปผลเพื่อนาเข้าทบทวนโดยฝ่ายบริหาร
6) การตรวจติดตามผลการแก้ไข
ก. 1 2 3 4 5 6
ข. 2 1 3 4 5 6
ค. 2 1 3 4 6 5
ง. 1 2 3 6 4 5
14. ประสิทธิผลการดาเนินงานการตรวจประเมินภายในสามารถวัดได้จากข้อได้อะไร?
ก. มีแผนการตรวจประเมินและเอกสารแต่งตั้งผู้ตรวจประเมิน
ข. มีหลักฐานการตรวจประเมินครบถ้วน
ค. มีผลการตรวจประเมินครบทุกหน่วยงาน และครบทุกข้อกาหนด
ง. ผลการตรวจประเมินไม่พบใบขอให้ปฏิบัติการแก้ไข (CAR)
16. สามารถกาหนดแหล่งข้อมูลความพึงพอใจของลูกค้าเพื่อนามาวิเคราะห์จากแหล่งใดบ้าง ?
ก. การทาแบบสอบถาม
ข. ข้อร้องเรียนจากลูกค้า
ค. สถิติของเสีย ของส่งคืนจากลูกค้า
ง. ถูกทุกข้อ
18. ข้อใดกล่าวถูกต้องในเรื่องความถี่การทบทวนโดยฝ่ายบริหาร”?
ก. ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและแนวทางการบริหารงานของผู้บริหารสูงของ
ข. ต้องทบทวนระบบบริหารงานคุณภาพตามช่วงระยะเวลาที่วางแผน
ค. ในช่วงที่เริ่มนาระบบมาใช้ควรจัดให้มีการประชุมบ่อยครั้ง
ง. ถูกทุกข้อ
10.1 ทั่วไป
องค์กรต้องพิจำรณำและเลือกโอกำสในกำรปรับปรุง และดำเนินกิจกรรมที่จำเป็นเพื่อให้เป็นไปตำม
ข้อกำหนดลูกค้ำและยกระดับควำมพึงพอใจลูกค้ำ ต้องประกอบด้วยกำรปรับปรุงผลิตภัณฑ์ และกำร
บริกำร เพื่อให้สอดคล้องกับควำมต้องกำรที่จะเกิดขึนในอนำคต และควำมคำดหวัง กำรแก้ไข ป้องกัน
หรือ ลดผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ กำรปรับปรุงสมรรถนะและประสิทธิผลของระบบบริหำรคุณภำพ
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
กำหนดและเลือกโอกำสสำหรับกำรปรับปรุงระบบ และนำไปปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตำมข้อกำหนด และสร้ำงควำม
พึงพอใจของลูกค้ำ
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. พิจำรณำสมรรถนะกำรดำเนินงำน และสมรรถนะระบบกำรบริหำร (จำกข้อกำหนดที่ 9) มำกำหนดแนวทำง
แต่ละหัวข้อกำรวัดว่ำดำเนินกำรต่อโดยกำรคงรักษำ หรือ ปรับรูปแบบกำรวัด หรือ เพิ่มสมรรถนะของ
สมรรถนะกำรดำเนินงำน สมรรถนะระบบ ควำมควำมพึงพอใจลูกค้ำ หรือเป็นโอกำสที่สำมำรถดำเนินกำรได้
2. พิจำรณำแนวทำงเพื่อกำหนดแนวทำงว่ำจะ
- ดำเนินกำรแก้ไขเพื่อป้องกันกำรเกิดซำ
- กำรปรับปรุง
- กำรพัฒนำต่อไป
- เป็นโอกำสที่องค์กรสำมำรถดำเนินกำรได้
3. เพื่อกำหนด จัดสรร และหรือเพิ่มทรัพยำกรที่จำเป็นอย่ำงเพียงพอ ครอบคลุมถึง ทรัพยำกรมนุษย์ และทักษะ
เฉพำะทำง โครงสร้ำงพืนฐำน เทคโนโลยี และกำรเงิน ในกำรกำรปฏิบัติ รักษำไว้ และกำรปรับปรุงระบบให้มี
ประสิทธิผล และเพิ่มควำมพึงพอใจของลูกค้ำ
สรุปสาระสาคัญ
o ต้องนำสมรรถนะกำรดำเนินงำน ผลกำรตรวจประเมิน ผลกำรทบทวนโดยฝ่ำยบริหำร ผลกำรปฏิบัติกำรแก้ไข
มำใช้ปรับปรุงประสิทธิผลของระบบอย่ำงต่อเนื่อง
10.2 สิ่งที่ไม่เป็นไปตามข้อกาหนดและการปฏิบัติการแก้ไข
10.2.1 เมื่อพบสิ่งที่ไม่เป็นไปตำมข้อกำหนด รวมถึงที่เกิดจำกข้อร้องเรียน องค์กรต้องตอบสนองต่อสิ่งที่ไม่
เป็นไปตำมข้อกำหนด ตำมควำมเหมำะสมดังนี
ทำกำรควบคุมและแก้ไข
ดำเนินกำรจัดกำรกับผลกระทบที่ตำมมำ
ประเมินควำมจำเป็นในกำรปฏิบัติกำรสำหรับกำจัดสำเหตุของสิ่งที่ไม่เป็นไปตำมข้อกำหนด เพื่อ
ป้องกันไม่ให้เกิดขึนซำ หรือเกิดขึนในบริเวณอื่นๆ โดย
ทบทวนและวิเครำะห์สิ่งที่ไม่เป็นไปตำมข้อกำหนดที่พบ
พิจำรณำสำเหตุของสิ่งที่ไม่เป็นไปตำมข้อกำหนดที่พบ
พิจำรณำสิ่งที่ไม่เป็นไปตำมข้อกำหนดที่ใกล้เคียงกัน หรือมีโอกำสเกิดขึน
ดำเนินกำรปฏิบัติกำรตำมควำมจำเป็น
ทบทวนประสิทธิผลของกำรปฏิบัติกำรแก้ไข
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
ดำเนินกำรจัดกำร แก้ไข ทบทวน หำสำเหตุสิ่งที่ไม่เป็นไปตำมข้อกำหนด กำหนดกำรปฏิบัติกำรแก้ไขมีวัตถุประสงค์
เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดขึนเพื่อป้องกันไม่ให้ข้อบกพร่องเกิดขึนซำ และทบทวนประสิทธิผลของกำรแก้ไขที่ได้
ดำเนินกำร และอำจจำเป็นต้องทำกำรปรับปรุงระบบบริหำรคุณภำพที่มีอยู่
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. กำหนดกระบวนกำรแก้ไขที่ประกอบด้วย กำรชีบ่งข้อบกพร่อง กำรดำเนินกำรแก้ไข กำรวิเครำะห์สำเหตุ
กำรแก้ไขเพื่อป้องกันกำรเกิดซำ กำรจัดกำรผลกระทบที่เกิดจำกกำรแก้ไขฯ กำรดำเนินกำรแก้ไขฯตำมที่
กำหนด และกำรติดตำมประสิทธิผล
8. กำรทบทวนและปรับปรุงสิ่งที่เกี่ยวข้อง โดยกำรนำผลจำกกำรดำเนินกำรป้องกันข้อบกพร่องซำและกำร
จัดกำรผลกระทบมำพิจำรณำทบทวนและปรับปรุงระบบกำรบริหำร เช่น เอกสำรที่เกี่ยวข้อง ทรัพยำกร
แผนงำน ขันตอนกำรดำเนินงำน วิธีกำรปฏิบัติงำน หน้ำที่ควำมรับผิดชอบ
9. นำผลกำรทบทวนและกำรปรับปรุงมำพิจำรณำควำมเสี่ยงเพื่อดำเนินกำรต่อ (ข้อกำหนด 6.1)
10. จัดเก็บข้อมูลสำรสนเทศของสมรรถนะกำรแก้ไขเพื่อป้องกันกำรเกิดซำเพื่อรำยงำนให้กับผู้เกี่ยวข้องรับทรำบ
เพื่อนำไปพิจำรณำในกำรประชุมทบทวนกำรบริหำรงำนต่อไป
สรุปสาระสาคัญ
o กำหนดกระบวนกำรแก้ไขเพื่อป้องกันกำรเกิดซำ
o ดำเนินกำรขจัดสำเหตุของข้อบกพร่องที่เกิดขึนเพื่อป้องกันกำรมิให้เกิดซำ จัดกำรกับผลกระทบทีเ่ กิดจำกกำร
แก้ไขเพื่อป้องกันกำรเกิดซำ พิจำรณำและดำเนินกำรตำมมำตรกำรที่จำเป็น
o พิจำรณำควำมเสี่ยงที่เกิดขึนจำกกำรแก้ไขเพื่อป้องกันกำรเกิดซำ
o ทบทวนสิ่งที่ได้ดำเนินกำรไปแล้ว และเก็บเป็นข้อมูลสำรสนเทศ
10.3 การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
องค์กรต้องดำเนินกำรปรับปรุงอย่ำงต่อเนื่องอย่ำงเหมำะสม เพียงพอ และมีประสิทธิผลต่อระบบบริหำร
คุณภำพ
องค์กรต้องพิจำรณำผลลัพธ์จำกกำรวิเครำะห์และกำรประเมิน และผลจำกกำรทบทวนโดยฝ่ำยบริหำร เพื่อ
พิจำรณำ ควำมจำเป็นหรือโอกำส ที่ใช้ระบุเป็นส่วนหนึ่งของกำรปรับปรุงอย่ำงต่อเนื่อง
วัตถุประสงค์ข้อกาหนด
เพื่อพิจำรณำสมรรถนะ ควำมเสี่ยงและโอกำสเป็นนำมำเป็นข้อมูลสำรสนเทศในกำรเพิ่มควำมพึงพอใจลูกค้ำ และ
ปรับปรุงอย่ำงต่อเนื่อง
ขั้นตอนการปฏิบัติ
1. ผู้บริหำรพิจำรณำปัจจัยภำยในและภำยนอกองค์กร สมรรถนะกำรดำเนินงำน สมรรถนะระบบ และควำมเสี่ยง
และโอกำสเพื่อที่กำหนดแนวทำงกำรพัฒนำขององค์กร
2. พิจำรณำสถำนกำรณ์หรือปัจจัยใดๆที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อกำรรักษำหรือควำมสมบูรณ์ของระบบกำร
บริหำรงำนคุณภำพ ดังนี
- ปัจจัยภำยใน ภำยนอกที่กระทบองค์กร (ตำมข้อกำหนด 4.1)
ปัจจัยภำยใน เช่น กระบวนกำรผลิตภัณฑ์หรือบริกำรใหม่ กำรเปลี่ยนกระบวนกำรผลิตภัณฑ์หรือ
บริกำร กำรยกเลิกกระบวนกำรผลิตผลิตภัณฑ์หรือบริกำร ประสิทธิภำพทรัพยำกร วัฒนธรรม ควำม
ต้องกำรและควำมคำดหวังของลูกค้ำเปลี่ยนแปลงไป
สรุปสาระสาคัญ
o พิจำรณำสมรรถนะกำรดำเนินงำน ปัจจัยภำยในภำยนอก
o กำหนดวัตถุประสงค์กำรพัฒนำ และนำไปดำเนินกำรวำงแผนกำรพัฒนำ
ตัวอย่างรายงานการปฏิบัติการแก้ไขเพื่อป้องกันการเกิดซ้า
ใบคาขอให้ปฏิบัติการแก้ไขเพื่อป้องกันการเกิดซ้า (CA : Corrective Action Request)
ISO 9001 ISO 14001 ISO 45001 ISO 50001 ISO 223001 อื่นๆ(ระบุ) หมายเลข CAR:
ข้อกาหนด / หัวข้อ : เลขที่ CAR เดิม : .
เรียน : ผลการตรวจประเมินภายใน ครั้งที่
ตาแหน่ง : ข้อร้องเรียนเลขที่ ข้อเสนอแนะเลขที่
หน่วยงาน : ผลการตรวจประเมินจากภายนอก อื่นๆ (ระบุ)
ส่วนที่ 1. บันทึกความไม่สอดคล้องกับข้อกาหนด Major (รุนแรง) Minor (เล็กน้อย) Observation (ข้อสังเกต)
ความไม่เป็นไปตามข้อกาหนดทีถ่ ูกตรวจพบ (Non Conformity:NC) :
ผู้ตรวจประเมิน : .
บันทึกปิด CAR การดาเนินการได้ผล ปิดประเด็น CAR การดาเนินการไม่ได้ผล ต้องแก้ไขครั้งที่ 2
กรณีการแก้ไขไม่มีประสิทธิภาพ ผลการแก้ไขครั้งที่ 2 : ความเห็นผู้บริหาร:
กาหนดวันที่จะตรวจครั้งที่ 2 ลงนามรับจะแก้ไขครั้งที่ 2
ตัวอย่างการพัฒนาองค์กรตามที่วางแผนไว้
ข้อสอบ
ข้อกำหนด 10 กำรปรับปรุง
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อสอบ_ข้อกาหนด 10 การปรับปรุง
2. สามารถกาหนดแหล่งข้อมูลเพื่อนามาวิเคราะห์จากแหล่งใดบ้าง ?
ก. สมรรถนะการดาเนินงาน
ข. ผลการตรวจประเมิน
ค. สถิติการแก้ไขเพื่อป้องกันการเกิดซา
ง. ถูกทุกข้อ
3. จงลาดับขันตอนการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการปรับปรุง ?
1. ผลการวิเคราะห์
2. การรวบรวมข้อมูล
3. การวิเคราะห์ข้อมูล
ก. 1 2 3
ข. 1 3 2
ค. 2 3 1
ง. 3 2 1
5. ขันตอนการดาเนินงานการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเป็นตามข้อใด ?
1. ที่มาของหัวข้อเพื่อการพัฒนา
2. การรวบรวมข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์
3. วางแผนการปรับปรุงและพัฒนา
ก. 1 2 3
ข. 2 1 3
ค. 2 3 1
ง. 3 2 1
6. “การปฏิบัติการแก้ไข” มีความหมายตามข้อใด ?
ก. ผลการดาเนินงานที่ไม่สอดคล้องกับข้อกาหนดของระบบหรือสมรรถนะด้านคุณภาพที่ต้องการ
ข. การแก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดขึนเพื่อป้องกันไม่ให้ข้อบกพร่องเกิดขึนซา
ค. ผลการดาเนินงานที่มีแนวโน้มไม่สอดคล้องกับข้อกาหนดของระบบหรือสมรรถนะด้านคุณภาพที่ต้องการ
ง. การดาเนินการก่อนที่จะเกิดข้อบกพร่องหรือปัญหา
7. ข้อใดคือลักษณะของ “ข้อบกพร่อง”?
ก. ผลการปฏิบัติแต่มีแนวโน้มไม่มีประสิทธิผล
ข. การทบทวนความต้องการและความคาดหวังของลูกค้า
ค. การวิเคราะห์ตลาด
ง. ผลการดาเนินงานไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์คุณภาพ
8. หน่วยงานที่พบข้อบกพร่องสามารถรายงานข้อบกพร่องได้หลายรูปแบบ
ก. การออก CAR
ข. Complaint Report
ค. Deviation Report
ง. ถูกทุกข้อ
9. การดาเนินการเบืองต้นกับข้อบกพร่องผู้รับผิดชอบดาเนินการตามลาดับในข้อใด ?
1) ระบุลักษณะการเกิดข้อบกพร่อง
2) ประเมินลักษณะของข้อบกพร่อง
3) ควบคุมข้อบกพร่อง และเยียวยาผลกระทบ
4) พิจารณาวิธีดาเนินการ/จัดการ และควบคุมข้อบกพร่อง
ก. 1 2 3 4
ข. 1 3 2 4
ค. 2 1 4 3
ง. 3 1 2 4
10. การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเชื่อมโยงกับข้อกาหนดใด ?
(1) วัตถุประสงค์คุณภาพและแผนงาน
(2) การพิจารณาความเสี่ยงและโอกาส
(3) การวางแผนควบคุมการเปลี่ยนแปลง
(4) ความพึงพอใจของลูกค้า
ก. 1 2 3 4
ข. 2 3 4
ค. 1 2 3
ง. 1 2 4
เฉลยข้อสอบ
ข้อกำหนด 10 กำรปรับปรุง
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
เฉลยข้อสอบ_ข้อกาหนด 10 การปรับปรุง
2. สามารถกาหนดแหล่งข้อมูลเพื่อนามาวิเคราะห์จากแหล่งใดบ้าง ?
ก. สมรรถนะการดาเนินงาน
ข. ผลการตรวจประเมิน
ค. สถิติการแก้ไขเพื่อป้องกันการเกิดซา
ง. ถูกทุกข้อ
3. จงลาดับขันตอนการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการปรับปรุง ?
1. ผลการวิเคราะห์
2. การรวบรวมข้อมูล
3. การวิเคราะห์ข้อมูล
ก. 1 2 3
ข. 1 3 2
ค. 2 3 1
ง. 3 2 1
5. ขันตอนการดาเนินงานการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเป็นตามข้อใด ?
1. ที่มาของหัวข้อเพื่อการพัฒนา
2. การรวบรวมข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์
3. วางแผนการปรับปรุงและพัฒนา
ก. 1 2 3
ข. 2 1 3
ค. 2 3 1
ง. 3 2 1
6. “การปฏิบัติการแก้ไข” มีความหมายตามข้อใด ?
ก. ผลการดาเนินงานที่ไม่สอดคล้องกับข้อกาหนดของระบบหรือสมรรถนะด้านคุณภาพที่ต้องการ
ข. การแก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดขึนเพื่อป้องกันไม่ให้ข้อบกพร่องเกิดขึนซา
ค. ผลการดาเนินงานที่มีแนวโน้มไม่สอดคล้องกับข้อกาหนดของระบบหรือสมรรถนะด้านคุณภาพที่ต้องการ
ง. การดาเนินการก่อนที่จะเกิดข้อบกพร่องหรือปัญหา
7. ข้อใดคือลักษณะของ “ข้อบกพร่อง”?
ก. ผลการปฏิบัติแต่มีแนวโน้มไม่มีประสิทธิผล
ข. การทบทวนความต้องการและความคาดหวังของลูกค้า
ค. การวิเคราะห์ตลาด
ง. ผลการดาเนินงานไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์คุณภาพ
8. หน่วยงานที่พบข้อบกพร่องสามารถรายงานข้อบกพร่องได้หลายรูปแบบ ?
ก. การออก CAR
ข. Complaint Report
ค. Deviation Report
ง. ถูกทุกข้อ
9. การดาเนินการเบืองต้นกับข้อบกพร่องผู้รับผิดชอบดาเนินการตามลาดับในข้อใด ?
1) ระบุลักษณะการเกิดข้อบกพร่อง
2) ประเมินลักษณะของข้อบกพร่อง
3) ควบคุมข้อบกพร่อง และเยียวยาผลกระทบ
4) พิจารณาวิธีดาเนินการ/จัดการ และควบคุมข้อบกพร่อง
ก. 1 2 3 4
ข. 1 3 2 4
ค. 2 1 4 3
ง. 3 1 2 4
10. การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเชื่อมโยงกับข้อกาหนดใด ?
(1) วัตถุประสงค์คุณภาพและแผนงาน
(2) การพิจารณาความเสี่ยงและโอกาส
(3) การวางแผนควบคุมการเปลี่ยนแปลง
(4) ความพึงพอใจของลูกค้า
ก. 1 2 3 4
ข. 2 3 4
ค. 1 2 3
ง. 1 2 4
ขอบข่ายการปรับเปลี่ยนมาตรฐาน
• เริ่มจาก ISO 9001:2015 และเน้นกับข้อกาหนดใหม่ๆ หรือ มีการปรับเปลี่ยน
• ทาการอบรมให้มั่นใจว่าทีมบริหารและทีมผู้ตรวจมีความเข้าใจข้อกาหนดใหม่
• ทาแผนการปรับเปลี่ยน เริ่มจาก(เบื้อง)บนลงล่าง
2. แนวทางการจัดระบบ
ขั้นตอนในการจัด ระบบการบริหารงานคุณภาพ โดยทั่วไปมีดังต่อไปนี้
1. ฝ่ายบริหารแสดงความมุ่งมั่นในการจัดทาระบบ
ผู้บริหารระดับสูงเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทาระบบโดยมีหน้าที่รับผิดชอบต่อประสิทธิผลของ
ระบบ
- การสร้างบรรยากาศในการทางานที่บุคลากรสามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้อย่างเต็มที่ในระบบ
การบริหารงานคุณภาพ
- การสร้างกระบวนการให้ความสาคัญกับความต้องการ ความคาดหวังของลูกค้า และผู้ที่
เกี่ยวข้องกับองค์กร
- นาแนวทางการพิจารณาความเสี่ยงเข้ามาใช้ในองค์กร เพื่อให้การดาเนินงานเป็นไปอย่างมี
ประสิทธิผล
- การมอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบในการจัดทาระบบ
- ควรนาหลักการของการบริหารงานคุณภาพ โดยเฉพาะบทบาทของความเป็นผู้นาและการ
กระทาของตัวผู้บริหารระดับสูงเอง มาใช้เป็นพื้นฐานในการแสดงบทบาทของผู้บริหารระดับสูง
ดังนี้
บทบาทหน้าที่ผู้บริหารระดับสูง
1. มีภาระรับผิดชอบต่อประสิทธิผลของระบบ
2. นโยบายและวัตถุประสงค์สอดคล้องกับกลยุทธ์ และบริบทองค์กร
3. บูรณาการระบบเข้ากับกระบวนการทางธุรกิจ
4. การจัดสรรทรัพยากรอย่างเพียงพอ
5. สื่อสารประสิทธิผลของระบบและการสอดคล้อง
6. มั่นใจระบบการบริหารบรรลุผลสัมฤทธิ์ตามที่คาดหวังไว้
7. กากับ และสนับสนุนบุคลากรเข้ามามีส่วนร่วมให้ระบบเกิดประสิทธิผล
8. ส่งเสริมให้มีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
9. สนับสนุนบทบาทหน้าที่ให้ผู้บริหารได้แสดงความเป็นผู้นา และความมุ่งมั่นในการประยุกต์ใช้
มาตรฐาน
2 แต่งตั้งคณะดาเนินการระบบ
เนื่องจากระบบการบริหารงานคุณภาพครอบคลุม ทุกกิจกรรม ทุกหน่วยงานและทุกคนในองค์กร
แต่ ล ะหน่ ว ยงานจ าเป็ น ต้อ งศึกษาทาความเข้าใจและจัดกระบวนการในการดาเนิน งานให้ เป็น ไปตาม
ข้อกาหนดของมาตรฐาน พร้อมทั้งนาไปปฏิบัติให้สอดคล้อง ซึ่งการดาเนินงานดังกล่าวอาจเป็นสิ่งใหม่ที่
หน่ ว ยงานยั ง ไม่ เคยมี ม าก่ อ น หรื อ อาจจะมี อ ยู่ แ ล้ ว แต่ ยั ง ไม่ ค รบถ้ ว น ดั งนั้ น ผู้ บ ริ ห ารระดั บ สู ง จึ ง
จาเป็ น ต้องแต่งตั้งทีม งานจั ดระบบการบริห ารงานคุณ ภาพซึ่งมาจากทุ กหน่ วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่ อให้
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015 หน้า 3 จาก 18
#R2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ขั้นตอนการจัดทาระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001:2015
3. การพิจารณาบริบท เพื่อกาหนดขอบข่ายระบบการบริหารงานคุณภาพ
การระบุขอบเขต(Boundaries) และขอบข่าย(Scope) ในการจัดทาระบบการบริหารงานคุณภาพ
ขององค์กร โดยจะพิจารณาจากผลิตภัณฑ์และบริการขององค์กร ปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ข้อกาหนด
ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง
1. การพิจารณาขอบข่ายในการนาระบบไปประยุกต์ใช้นี้ ต้องมาจากผลการพิจารณาจาก
- ปัจจัยภายนอกและภายใน ทีไ่ ด้พิจารณาระหว่างการวิเคราะห์บริบทองค์กร
- ข้อกาหนดที่ได้พิจารณาระหว่างการวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
- สถานะความพร้อมและลักษณะของผลิตภัณฑ์และบริการขององค์กร
2. สรุปผลการพิจารณาวัตถุประสงค์องค์กร ผลิตภัณฑ์และบริการขององค์กร ปัจจัยภายในและ
ปัจจัยภายนอกและข้อกาหนดของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องแล้ว นามากาหนดขอบข่าย
(Scope) และขอบเขต(Boundaries) ในการจัดทาระบบการบริหารงานคุณภาพ
3. จัดทาขอบข่ายระบบบริหารคุณภาพเป็นข้อมูลสารสนเทศ โดยต้องครอบคลุม 4 ประเด็น ดังนี้
- ขอบข่าย(Scope) หมายถึงการดาเนินกิจการที่จะดาเนินการตามระบบการบริหารงานคุณภาพ
- ขอบเขต(Boundaries) หมายถึงสถานที่ตั้ง และหรือสถานที่ดาเนินกิจการ
- ผลิตภัณฑ์ และบริการ (Product and Service) หมายถึงผลผลิตขององค์กร
- กิจกรรมขององค์กร หมายถึงกิจกรรมตามขอบข่ายในการดาเนินกิจการตั้งแต่กิจกรรมของการ
นา “ปัจจัยนาเข้า” ไปจนถึง “ผลผลิต”ตามข้อกาหนดผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
4. กาหนดนโยบายคุณภาพและวัตถุประสงค์
4.1 นโยบายคุณภาพ
- นโยบายคุณภาพ คือ ถ้อยแถลงอย่างเป็นทางการของผู้บริห ารสูงสุด ที่แสดงเจตนารมณ์ และ
ทิศทางในด้านที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพขององค์กร
- นโยบายคุณภาพต้องแสดงให้เห็นมีทิศทางในการเติบโตขององค์กร แสดงถึงความมุ่งมั่นในการ
ปรับปรุงระบบการบริหารงานคุณภาพขององค์กรอย่างต่อเนื่อง และสอดคล้องกับความต้องการ
และความคาดหวังของลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
- ผู้บริหารสูงสุดจะกาหนดนโยบายในการบริหารงานด้านต่างๆ ขององค์กรไว้ เช่น นโยบายด้ าน
การตลาด/การขาย นโยบายด้านการเงิน นโยบายด้านการบุคคล ดังนั้น การกาหนดนโยบาย
คุณภาพ ควรให้สอดคล้องกับนโยบายด้านต่างๆ และวัตถุประสงค์ขององค์กร รวมทั้งสอดคล้อง
กับ ความต้องการและความคาดหวังของลู กค้า และผู้มีส่ วนได้ส่ วนเสี ยกับ การดาเนินงานของ
องค์กรด้วย และควรให้ความหมายที่ชัดเจนของคาว่า “คุณภาพ” ที่ใช้ในธุรกิจขององค์กร เพื่อให้
มีความเข้าใจร่วมกันกับลูกค้าว่าองค์กรมีความผูกพันในด้านคุณภาพอย่างไร
- เมื่อผู้บ ริห ารสู งสุดได้ป ระกาศนโยบายคุณ ภาพแล้ว ต้องทาให้ บุคลากรทุกคนทุกระดับภายใน
องค์กรได้รับทราบ และเข้าใจบทบาทและหน้าที่ของตนเองในการปฏิบัติงานเพื่อให้สามารถบรรลุ
ตามนโยบายคุณภาพและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ด้านคุณภาพที่องค์กรกาหนดไว้
- การทาให้บุคลากรทุกคนทุกระดับมีความเข้าใจและปฏิบัติตามนโยบายคุณภาพได้จาเป็นอย่างยิ่ง
ที่ผู้บริหารสูงสุดต้องมีความเป็นผู้นาในการปฏิบัติตนให้เป็นตัวอย่ างที่ดีแก่บุคลากร มีการแถลง
นโยบายคุณภาพอย่างเป็นทางการ อาจมีการติดประกาศในที่ต่างๆ ให้บุคลากรได้อ่านตลอดเวลา
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015 หน้า 5 จาก 18
#R2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ขั้นตอนการจัดทาระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001:2015
4.2 วัตถุประสงค์คุณภาพ
- จากนโยบายคุณภาพที่ผู้บริหารสูงสุดขององค์กรได้ประกาศไว้แล้ว ผู้บริหารสูงสุดต้องทาให้มีการ
กาหนดวัตถุประสงค์ด้านคุณภาพที่องค์กรต้องการให้บรรลุ โดยต้องมีวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้อง
กับ
1) วัตถุประสงค์ขององค์กร
2) คุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการขององค์กร
3) ความพึงพอใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และลูกค้า
4) การพัฒนา
- การกาหนดเป้าหมายด้านคุณภาพนี้ อาจมอบหมายให้ผู้บริหารระดับต่างๆ ช่วยกันกาหนดขึ้นก็ได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้กาหนดแล้วถือเป็นความรับผิดชอบของผู้บริหารสูงสุดที่จะต้องทาให้บรรลุ
เป้าหมาย
- องค์กรควรนาผลการดาเนินงานขององค์กรในอดีตที่ผ่านมา รวมทั้งข้อมูลจากลูกค้า มาวิเคราะห์
เพื่อพิจารณาปรับปรุงการดาเนินงานขององค์กร และกาหนดเป็น เป้าหมายด้านคุณภาพ โดยมี
แนวทางการพิจารณา ดังนี้
การทาให้ สินค้า/บริการ เป็นไปตามข้อกาหนด เช่น ความต้องการของลูกค้า กฎหมาย
กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
การทาให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กาหนด เช่น การส่งมอบสินค้าให้ตรงเวลาตามที่นัดหมายกับ
ลูกค้า การให้บริการที่รวดเร็ว
การหาช่องทางในการพัฒนาปรับปรุง เช่น การเพิ่มผลผลิต การเพิ่มยอดขาย
การแสวงหาตลาดใหม่ๆ เช่น การออกสินค้าใหม่ การให้บริการใหม่ๆ การออกสินค้าสาหรับ
ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม (niche market)
- นาวัตถุประสงค์ด้านคุณภาพระดับองค์กรมากาหนดวัตถุประสงค์คุณภาพระดับหน่วยงาน
- การกาหนดวัตถุประสงค์หน่วยงานต้องคานึงถึงความเกี่ยวข้องกับการดาเนินงาน มีความชัดเจน มี
ความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ และมีกาหนดเวลาที่จะดาเนินการให้บรรลุผลด้วย
- ทาการถ่ายทอดสู่หน่วยงานที่รับผิดชอบในระดับต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนาไปใช้เป็นแนวทางใน
การกาหนดวัตถุประสงค์ในการดาเนินงานของหน่วยงานให้สอดรับกับวัตถุประสงค์ด้านคุณภาพ
ในระดับองค์กร
5. ทบทวนระบบงานเดิมที่มีอยู่
ทีมงานจัดระบบการบริหารงานคุณภาพควรทบทวนสถานะปัจจุบันของระบบการบริหารงานคุณภาพ
ขององค์กรที่มีอยู่ ดังนี้
1. สารวจภาพรวมการดาเนินงานในกิจกรรมต่างๆ และระบบการบริหารจัดการด้านต่าง ๆ ที่มี
ผลกระทบต่อสินค้า/บริการทั้งหมดขององค์กร วิธีการที่ใช้ในการสารวจและเก็บข้อมูล อาจทา
ได้หลายวิธี เช่น
- การสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้อง
- การตรวจสอบการปฏิบัติงานจริง
- การทาแบบรายการตรวจสอบ (checklist)
- แบบสอบถาม
2. เปรียบเทียบข้อมูลจากการสารวจระบบการดาเนินงานขององค์กรว่าสอดคล้องกับข้อกาหนดของ
ระบบการบริหารงานคุณภาพ ISO 9001 หรือไม่ อย่างไร ซึ่งจะทาให้ทราบถึงความแตกต่างของ
สภาพปั จ จุ บั น ที่ เป็ น อยู่ กั บ ระบบที่ ต้อ งการ รวมทั้ งหาข้ อสรุป ว่าจุด แข็งจุด อ่ อนขององค์ ก รมี
อะไรบ้าง ความพร้อมขององค์กรในการจัด ระบบการบริหารงานคุณภาพ มีเพียงใด
3. น าเสนอผลการทบทวนสถานะปั จ จุ บั น ต่ อ ผู้ บ ริห ารขององค์ ก รรวมทั้ งข้ อ เสนอแนะเพื่ อ การ
ตัดสินใจกาหนดขอบข่ายของระบบการบริหารงานคุณภาพและจัดทาแผนการจัดระบบ
6. วางแผนการดาเนินการจัดทาระบบและกาหนดระบบงานใหม่ให้สอดคล้องกับมาตรฐาน
6.1 การจัดทาแผนการดาเนินงาน
การจัดระบบการบริหารงานคุณภาพ ก็เหมือนกับการดาเนินโครงการต่างๆ จึงควรจัดแผนการ
ดาเนินงานซึ่งอาจนาแนวทางการบริหารโครงการ(Project Management) มาใช้ได้ ดังนี้
1. กาหนดขั้นตอนการจัดระบบ พร้อมกาหนดเวลาแล้วเสร็จ
2. จัดสรรทรัพยากร งบประมาณ และมอบหมายผู้รับผิดชอบ
3. ติดตามการดาเนินงานเป็นระยะและนาผลการดาเนินงานในแต่ละขั้นตอนมาพิจารณา
ทบทวนและดาเนินการแก้ไข เพื่อให้เป็นไปตามแผน ในกรณีที่ไม่สามารถดาเนินการได้ตาม
แผน อาจพิจารณาปรับปรุงแผนและกรอบเวลาตามความเหมาะสม
6.2 ดาเนินการจัดระบบ
เมื่อได้มีการตั้งทีมงาน จัดทาแผนการดาเนินงาน ศึกษาทาความเข้าใจหลักการของการ
บริหารงานคุณภาพ และ ข้อกาหนดของ ISO 9001:2015 พิจารณาสถานะปัจจุบันของระบบการ
บริหารงานในองค์กรแล้ว ก็สามารถเริ่มดาเนินการจัดระบบตามที่ได้วางแผนการดาเนินงานไว้
ในการจัด ระบบการบริหารงานคุณภาพ นั้น มีขั้นตอนการดาเนินการดังต่อไปนี้
6.2.1 พิจารณาปัจจัยภายในภายนอก
พิจารณาตอบขอบข่ายในการจัดทาระบบที่กาหนดไว้ในข้อ 3 ของบทนี้ ทั้งปัจจัยภายใน
ปัจจัยภายนอก และสภาพแวดล้อมว่าปัจจัยใดที่จะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อวัตถุประสงค์ และสมรรถนะ
ขององค์กร เพื่อจะนาเข้าสู่การพิจารณาความเสี่ยงต่อไป
6.2.2 กลุ่มลูกค้าและความต้องการ/ความคาดหวัง
ลูกค้าขององค์กรอาจแบ่งออกได้เป็นหลายประเภทแล้วแต่ลักษณะของธุรกิจ เช่น ผู้ค้าส่ง
ผู้ค้าปลีก ผู้ใช้สินค้า/บริการ ซึ่งแต่ละประเภทก็มีความต้องการที่แตกต่างกัน เมื่อองค์กรทราบ
กลุ่มลูกค้าอย่างชัดเจนแล้ว ก็ต้องหาความต้องการ/ความคาดหวังของลูกค้า ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
1. รวบรวมข้อมูลจากอดีตที่เกี่ยวข้องกับความพึงพอใจของลูกค้าต่อสินค้า/บริการ ของ
องค์กร ซึ่งองค์กรอาจมีอยู่แล้ว
2. ทบทวนคุณ สมบัติ เฉพาะด้ านของผลิ ตภั ณ ฑ์ และบริการในขอบข่ายของระบบการ
บริ ห ารงานคุ ณ ภาพ ที่ ได้ ก าหนดไว้ แ ล้ ว รวมทั้ งค านึ งถึ งข้ อ ก าหนดของกฎหมาย
กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
3. ส ารวจความต้ อ งการและความคาดหวั ง ของลู ก ค้ า ในประเด็ น ที่ เกี่ ย วข้ อ งกั บ
คุณสมบัติเฉพาะด้านของผลิตภัณฑ์และบริการ
4. นาข้อมูลที่ได้จากการสอบถามและข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวม ทบทวน มาสรุป
เป็นความต้องการและความคาดหวังของลูกค้า และความคาดหวังของลูกค้าเพื่อนามา
กาหนดเป็นนโยบายคุณภาพและวัตถุประสงค์ด้านคุณภาพ และกระบวนการต่างๆ ที่
จาเป็นสาหรับการทาให้บรรลุตามความต้องการและความคาดหวังของลูกค้า ซึ่งจะ
นามาสู่ความพึงพอใจของลูกค้า
6.2.3 กาหนดขอบข่ายในการจัดระบบ
ในการจั ด ระบบการบริ ห ารงานคุ ณ ภาพ ผู้ บ ริ ห ารระดั บ สู ง จ าต้ อ งก าหนด
ขอบข่ ายของระบบการบริห ารงานคุ ณ ภาพ ให้ ชั ด เจนว่าครอบคลุ ม สิ น ค้ า /บริก าร สถาน
ประกอบการใด (ได้แก่ โรงงาน สานักงานใหญ่ สานักงานสาขา เป็นต้น ) ซึ่งอาจครอบคลุมทุก
กิจ กรรมหรือไม่ ก็ได้ เช่น ครอบคลุ ม การออกแบบ การผลิ ต และ การจาหน่ าย กระเบื้ อ ง
ซีเมนต์ใยหินแผ่นเรียบ หรือ การผลิตผลไม้กระป๋อง หรือ การรับ-ส่งสินค้าภายในประเทศ
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015 หน้า 8 จาก 18
#R2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ขั้นตอนการจัดทาระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001:2015
8. จัดทาเอกสารระบบคุณภาพ
ในการจัดทาระบบการบริหารงานคุณภาพ จาเป็นต้องมีข้อมูลสารสนเทศต่างๆ ตามความจาเป็น
เพื่อให้อ้างอิงในการปฏิบัติงาน เอกสารมีประโยชน์ในการสื่อให้บุคลากรเข้าใจการทางานในแต่ละเรื่องเพื่อให้
สามารถบรรลุเป้าหมาย ที่องค์กรต้องการได้ เช่น
- ทาให้บรรลุความต้องการและความคาดหวังของลูกค้า
- ใช้ในการฝึกอบรมและสอนงานบุคลากร
- ช่วยให้การทางานมีความคงเส้นคงวา และ ตรวจสอบได้
- ใช้เป็นหลักฐานแสดงผลการทางาน
- ใช้ประเมินประสิทธิผลของระบบและนาไปสู่การปรับปรุงระบบการบริหารงานคุณภาพ
9. การฝึกอบรม
9.1 ดาเนินการสร้างความสามารถ
ดาเนินการให้บุคคลขององค์กรหรือทางานในนามขององค์กรที่มีผลต่อระบบการบริหารงาน
คุณภาพ หรือคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการ กาหนดความสามารถประจาตาแหน่ง ดาเนินการให้มี
ความสามารถ และคุณสมบัติที่เหมาะสมกับหน้าที่ความรับผิดชอบ และมีการจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศที่
เกีย่ วข้อง
9.2 การฝึกอบรมระบบการบริหารงานคุณภาพ
ดาเนินการอบรมทาความเข้าใจให้แก่ผู้ปฏิบัติงานและผู้ที่เกี่ยวข้องตามกระบวนการและ/หรือ
เอกสารสารสนเทศต่าง ๆ ในระบบการบริหารงานคุณภาพที่ได้จัดทาขึ้น โดยการอบรมสามารถทาได้ทั้งใน
องค์กรและนอกองค์กร
- ลักษณะการประชุมซักซ้อมความเข้าใจในการปฏิบัติงานระหว่างผู้ปฏิบัติงาน
- การอบรมในห้องเรียน (classroom training)
- การฝึกภาคปฏิบัติหน้างาน (on-the-job training-OJT)
- การดูงาน
- มอบหมายให้ผู้ปฏิบัติงานนาเอกสารต่าง ๆ ไปศึกษาทาความเข้าใจเอง
การอบรมทาความเข้าใจกับผู้ปฏิบัติงานจะต้องให้ความสาคัญกับการทาให้ผู้ ปฏิบัติงานเข้าใจ
แนวคิดและเหตุผลที่ต้องดาเนินการตามเอกสารต่าง ๆ ในระบบการบริหารงานคุณภาพ รวมทั้งได้ทราบถึง
ผลกระทบต่อระบบการบริหารงานคุณภาพ หากผู้ปฏิบัติงานไม่ทาตามขั้นตอนที่ได้กาหนดไว้
10. ปฏิบัติตามขั้นตอนการดาเนินงาน/วิธีการปฏิบัติงาน
10.1 ปฏิบัติตามขั้นตอนการดาเนินงาน/วิธีการปฏิบัติงาน
เมื่อได้อบรมทาความเข้าใจแล้ว ก็ให้นาไปปฏิบัติจริง โดยใช้หลักการที่ว่า “ทาตามสิ่งที่เขียน”
รวมทั้งต้องมีการบันทึกผลการปฏิบัติงานไว้ด้วย แต่ในบางกรณีอาจต้องให้มีการทดลองปฏิบัติ เนื่องจาก
- เป็นสิ่งที่ผู้ปฏิบัติงานยังไม่เคยปฏิบัติมาก่อน หรือ ไม่คุ้นเคยกับการที่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่
กาหนดไว้ในเอกสารระบบการบริหารงานคุณภาพ
- ต้องการติดตามผลกระทบที่อาจมีต่อกระบวนการ/หน่วยงานอื่น ที่เกี่ยวข้องในระบบการ
บริหารงานคุณภาพ
การทดลองปฏิบัติอาจเลือกทดลองเฉพาะบางหน่วยงาน หรือทั้งหมดก็ได้ ซึ่งผลจากการ
ทดลองปฏิบัตินั้น จะทาให้ทราบปัญหาและข้อคิดเห็นต่าง ๆ สาหรับนาไปปรับปรุงแก้ไขต่อไป เพื่อให้
มั่นใจว่าเอกสารต่าง ๆ สามารถนาไปปฏิบัติได้จริง
10.2 การรายงานผล
หลังจากได้นาเอกสารสารสนเทศในระบบการบริหารงานคุณภาพไปปฏิบัติแล้ว ผู้ปฏิบั ติงาน
ต้อ งรายงานผลการปฏิ บั ติ ต่ อผู้ บั งคั บ บั ญ ชา ทั้ งในแง่ของประสิ ท ธิผ ลและประสิ ท ธิภ าพ รวมทั้ ง
ข้อเสนอแนะ ไม่ว่าเอกสารฉบับนั้นจะมีความสมบูรณ์อยู่แล้วหรือไม่ก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หาก
พบว่าเอกสารที่เขียนไว้ยังมีความบกพร่องไม่ชัดเจน ปฏิบัติไม่ได้ ยังมีวิธีปฏิบัติอื่ นที่ดีกว่า หรือพบว่า
ยั งมี ส่ ว นที่ ไม่ ส อดคล้ อ งกั บ ข้ อ ก าหนดของ ISO 9001 ผู้ บั งคับ บั ญ ชาของหน่ ว ยงาน และที ม งาน
จัดระบบการบริหารงานคุณภาพ ก็ควรที่จะร่วมเฝ้าติดตามการปฏิบัติด้วยนอกเหนือจากการรับทราบ
รายงานจากผู้ปฏิบัติเพียงทางเดียว
10.3 การแก้ไขปรับปรุงเอกสารในระบบการบริหารงานคุณภาพ
หากรายงานผลจากผู้ปฏิบัติ และผลการเฝ้าติดตามการปฏิบัติตามเอกสารในระบบการ
บริหารงานคุณภาพ พบว่ามีความจาเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงเอกสารในระบบการบริหารงานคุณภาพ ก็
ให้ดาเนินการตามขั้นตอนดาเนินงานในการควบคุมเอกสาร จนกว่าจะเกิดประสิทธิผลในการปฏิบัติ
จริง ซึ่งโดยทั่วไป ในระยะแรกของการจัดระบบการบริห ารงานคุณ ภาพ อาจมีการแก้ไขปรับปรุง
เอกสารประมาณ 1 - 2 ครั้ง ก่อนที่จะมีการปฏิบัติตามระบบอย่างสมบูรณ์
11. การตรวจประเมิน
หลังจากที่องค์กรได้จัดระบบการบริหารงานคุณภาพและนาไปปฏิบัติระยะเวลาหนึ่งแล้ว โดยทั่วไป
ประมาณ 2-3 เดือน ควรจัดให้มีการตรวจประเมินภายใน เพื่อให้ทราบถึงความครบถ้วนสมบูรณ์ของระบบการ
บริหารงานคุณภาพเมื่อเปรียบเทียบกับข้อกาหนดของ ISO 9001 ความเอาใจใส่ของบุคลากรในแต่ละ
หน่วยงานในการดาเนินงานให้สอดคล้องกับระบบ และประสิทธิผลในการดาเนินงานตามระบบ นโยบาย และ
เป้าหมายด้านคุณภาพที่กาหนดไว้ ผลจากการตรวจประเมินภายในช่วยให้องค์กรมีข้อมูล ซึ่งสามารถใช้
วิเคราะห์และนาผลไปใช้เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงระบบการบริหารงานคุณภาพให้มีประสิทธิผลและเกิด
ประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขั้นตอนหลักในการดาเนินการตรวจประเมินภายใน
ผู้บริหารแต่ละหน่วยงานเป็นผู้ดูแลงานด้านการตรวจประเมินภายในขององค์กร ดังนั้นจึงควรศึกษา
ข้อแนะนาและแนวทางในการดาเนินการต่างๆที่ให้ไว้ในมาตรฐาน ISO 19011 รวมทั้งควรได้รับการฝึกอบรม
หลักสูตรการตรวจประเมินภายในด้วย เพื่อนาความรู้ที่ได้มาใช้ในการดูแลงานด้านการตรวจประเมินภายในให้
เกิดประสิทธิผล อย่างเต็มที่ และมีสิ่งที่ผู้แทนฝ่ายบริหารควรดาเนินการ ได้แก่
การเตรียมผู้ประเมิน (auditor)
การจัดทาแผนการตรวจประเมินภายในประจาปี
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015 หน้า 13 จาก 18
#R2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ขั้นตอนการจัดทาระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001:2015
เตรียมการก่อนการตรวจประเมิน
การตรวจประเมิน (audit)
ขั้นตอนในการตรวจประเมินมีดังนี้
- การประชุมก่อนการตรวจประเมิน (opening meeting)
- รวบรวมหลักฐาน (collect evidence)
- ออกใบขอให้มีการปฏิบัติการแก้ไข (corrective action request - CAR)
- การประชุมหลังการตรวจประเมิน (closing meeting)
- รายงานการตรวจประเมินคุณภาพภายใน (internal quality audit report - IQA report)
- ติดตามผลการแก้ไขและผลกระทบจากการแก้ไข (follow up)
- สรุปผลเพื่อนาเข้าทบทวนโดยฝ่ายบริหาร
12. แก้ไขข้อบกพร่อง
การปฏิบัติการแก้ไขมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นและจัดการไม่ให้ข้อบกพร่อง
เกิดขึ้นซ้า รวมทั้งกิจกรรมที่มีลักษณะคล้ายกัน และผลกระทบจากการแก้ไข(Correction) และการแก้ไขเพื่อ
ป้องกันการเกิดซ้า(Corrective Action)ว่าจะเกิดขึ้นรายละเอียดการปฏิบัติ
1) แจ้งให้มีการแก้ไขและป้องกันข้อบกพร่อง
2) การดาเนินการเบื้องต้นกับข้อบกพร่อง และเยียวยาสิ่งที่ได้รับผลกระทบ
3) ค้นหาสาเหตุที่แท้จริง
4) ดาเนินการป้องกันการเกิดข้อบกพร่องซ้า และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
5) ทบทวนและปรับปรุงสิ่งที่เกี่ยวข้อง
6) บันทึกและรายงาน
7) การประเมินความเสี่ยงจากกระบวนการแก้ไขเพื่อป้องกันการเกิดซ้า
13. ทบทวนการจัดการ
ผู้บริหารระดับสูงทาการทบทวนระบบการบริหารงานคุณภาพตามระยะเวลาที่องค์กรกาหนดไว้
เพื่อให้มั่นใจว่าระบบดังกล่าวมีความเหมาะสม เพียงพอ และมีประสิทธิผล อย่างต่อเนื่อง
1) กาหนดองค์ประชุมของการทบทวนการบริหารงาน
2) กาหนดความถี่
3) เตรียมการทบทวน กาหนดหัวข้อการทบทวน
4) จัดเตรียมข้อมูลเพื่อส่งให้ผู้บริหารทบทวนประสิทธิผล
5) ดาเนินการทบทวน
ผลการทบทวนมอบหมายผู้รับผิดชอบดาเนินการเรื่องต่าง ๆ ตามผลการพิจารณา ซึ่งควร
มีการกาหนดเวลาแล้วเสร็จ และวิธีการในการติดตามผล ในกรณีที่มีการแก้ไขต้องมีการพิจารณา
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015 หน้า 14 จาก 18
#R2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ขั้นตอนการจัดทาระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001:2015
ประสิทธิผลของการดาเนินการด้วย เพื่อให้การดาเนินงานตามระบบการบริหารงานคุณภาพมีการ
ปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
1) เก็บข้อมูลสารสนเทศผลการประชุม และส่งให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบและดาเนินการ
ตามมาตรการที่ระบุในการทบทวน
2) ติดตามประสิทธิผลการดาเนินการตามที่มอบหมาย
ทั้งนี้ เพื่อให้การนาระบบการบริหารงานคุณภาพไปใช้ให้เกิดประโยชน์ที่แท้จริงต่อการปรับปรุง
สมรรถนะขององค์ ก รๆไม่ จ าเป็ น ที่ จ ะต้ อ งจั ด การทบทวนส าหรั บ การทบทวนโดยฝ่ า ยบริ ห ารตาม
ISO 9001 โดยเฉพาะ เนื่องจากโดยทั่วไปแล้ว แต่ละองค์กรก็มีการทบทวน/ประชุมคณะผู้บริหารเป็น
ประจ าอยู่ แล้ ว เช่ น การประชุม ทบทวนผลการดาเนิ น งานประจ าเดือ น องค์ก รน าการประชุ มคณะ
ผู้บริหารที่ดาเนินการเป็นประจา ซึ่งมักจะครอบคลุมเรื่องต่างๆ ที่มีอยู่ในข้อกาหนดของ ISO 9001 เป็น
ส่วนใหญ่อยู่แล้ว เช่น ผลการดาเนินงานของแต่ละหน่วยงาน ข้อคิดเห็นจากลูกค้า อย่างไรก็ตาม อาจมี
หัวข้อบางเรื่องที่เดิมองค์กรอาจไม่เคยมีการดาเนินงาน เช่น การตรวจประเมินภายใน การปฏิบัติการ
แก้ไขและป้ องกัน ซึ่งองค์กรอาจพิจารณานาเรื่องดังกล่าวเพิ่มเติมเข้าไปในการทบทวน/ประชุมคณะ
ผู้บริหารด้วย ทั้งนี้เพื่อลดความซ้าซ้อนต่างๆ และเป็นการนาระบบการบริหารงานคุณภาพมาใช้ในการ
บริหารจัดการที่แท้จริง ไม่ใช่เป็นเพียงจัดให้มีการประชุมเพียงเพื่อให้เป็นไปตามข้อกาหนดเท่านั้น
ภายหลังการทบทวนโดยฝ่ายบริหารแล้ว ควรมีการรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ทั้งผลการตรวจติดตาม
คุณภาพภายใน ผลการทบทวนโดยฝ่ายบริห าร ผลการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ มาใช้ เพื่อการปรับปรุง
ประสิทธิผลของระบบการบริหารงานคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อกาหนดเป้าหมาย และโอกาสในการ
ปรับปรุงประสิทธิผลของระบบการบริหารงานคุณภาพต่อไป
14. ติดต่อขอรับการตรวจประเมินจากผู้ให้การรับรอง
14.1 จาเป็นต้องขอรับการรับรองหรือไม่
การนาระบบการบริหารงานคุณภาพไปใช้อย่างเกิดประสิทธิผลย่อมเกิดประโยชน์ต่อองค์กร และ
ลูกค้าที่จะทาให้ทั้งสองฝ่ายเกิดความมั่นใจในสินค้าและบริการที่ได้ติดต่อค้าขายกัน
ประเด็นของการขอรับการรับรองไม่ใช่ข้อบังคับที่องค์กรจะต้องไปขอรับการรับรอง กล่าวคือ
องค์กรจะขอหรือไม่ขอรับการรับรองก็ได้ ทั้งนี้เหตุผลและความจาเป็นที่ต้องขอรับการรับรองจะขึ้นอยู่กับ
องค์กรและลูกค้า เช่น หากลูกค้าระบุว่าต้องการซื้อจากองค์กรที่ได้รับการรับรองก่อนแล้วเท่านั้น
การขอรับการรับรองนอกจากจะเป็นหลักประกันให้ลูกค้าได้เห็นถึงความสามารถว่าองค์กรจะ
สามารถผลิตสินค้าและให้บริการได้เป็นไปตามความต้องการของลูกค้าทุกครั้ง และสามารถลดค่าใช้จ่ายที่
อาจจะเกิดขึ้นจากการที่ลูกค้าแต่ละรายต้องมาตรวจสอบองค์กรเองก่อนที่จะมีการทาข้อตกลงค้าขายกันอีก
14.2 การขอรับการรับรอง
ก่อนที่องค์กรจะขอรับการรับรอง องค์กรต้องจัดทาระบบการบริหารงานคุณภาพอย่างครบถ้วน
และมีการนาไปปฏิบัติมาระยะเวลาหนึ่ง รวมทั้งมีการปรับปรุงประสิทธิผลของระบบและมีความมั่นใจว่า
ระบบดังกล่าวมี ประสิทธิผลแล้ว โดยสามารถแสดงได้จากบันทึกหลักฐานเอกสารต่างๆ ของการที่ได้นา
ระบบไปปฏิบัติ
การคัดเลือกหน่วยรับรอง (Certification body, CB)
การตัดสินใจเลือกหน่วยรับรองเป็นสิ่งที่มีความสาคัญ ทั้งนี้เพื่อให้ผลของการรับรองที่ได้รับจาก
หน่วยรับรองนั้นๆ มีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับของคู่ค้าขององค์กร แนวทางที่ควรนามาใช้ในการ
พิจารณา คือ
หน่วยรับรองที่ได้รับการรับรองระบบงาน (Accreditation)
ความน่าเชื่อถือและการที่จะมั่นใจในความสามารถของหน่วยรับรองเป็นเรื่องสาคัญ กล่าวคือ
หน่วยรับรองที่มีอยู่ในประเทศจะมีความแตกต่างกัน ดังนั้นองค์กรควรเลือกหน่วยรับรองที่ได้รับ
การรับรองระบบงานจากคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการรับรองระบบงาน (NAC : National
Accreditation Council) แล้วเท่านั้น นอกจากนี้องค์กรต้องตรวจสอบด้วยว่าหน่วยรับรองนั้นๆ
มีความสามารถในการตรวจประเมินระบบการบริหารงานคุณภาพขององค์กรได้จริง โดย
ตรวจสอบจากขอบข่ายที่ได้รับการรับรองระบบงานจาก NAC ซึ่งจะแสดงด้วยรหัส ISIC
(International Standard Industrial Classification) ซึ่งจะอ้างอิงจากมาตรฐาน มอก. 2000
เช่นหากองค์กรทาธุรกิจการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม ต้องตรวจสอบว่าหน่วยรับรองได้รับการ
รับรองระบบงานในรหัส ISIC 15 หรือไม่
ค่าใช้จ่าย
ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการขอรับการรับรอง ประกอบด้วย ค่าธรรมเนียมจากการยื่นคาขอ การ
ประเมินเอกสาร การประเมินที่สถานประกอบการ ใบรับรอง และการประเมินเพื่อติดตามผล
หลังจากได้รับการรับรอง โดยหน่วยรับรองแต่ละแห่งมีอัตราและวิธีการคานวณที่แตกต่างกัน
ระยะเวลาในการรอการตรวจประเมิน
เพื่อให้เป็นไปตามแผนการดาเนินงานที่กาหนดไว้ว่าต้องได้รับการรับรองในระยะเวลาที่กาหนด
องค์กรควรคัดเลือกหน่วยรับรองที่มีความพร้อมในการให้บริการซึ่งหมายถึงการมีผู้ตรวจประเมินที่
มีความสามารถอย่างเพียงพอ
15. รับการตรวจประเมินเพื่อขอการรับรอง
กระบวนการรับรอง (Certification Process)
กระบวนการในการรับรองระบบการบริหารงานคุณภาพขององค์กร โดยทั่วไปประกอบด้วยขั้นตอนต่อไปนี้
ยื่นใบสมัครขอรับการรับรอง พร้อมแนบเอกสารข้อมูลต่างๆ ตามข้อกาหนดของหน่วยรับรอง ซึ่ง
โดยทั่ ว ไปจะประกอบด้ว ย บริบทองค์ กรหรือ คู่มือคุ ณ ภาพ(ถ้ ามี) ผลการพิ จารณาความเสี่ ย ง
ขั้นตอนการปฏิบัติงาน รวมทั้งข้อมูลที่อธิบายถึงลักษณะธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ /สินค้าและการบริการ
ขององค์กร หลังจากนั้นหน่วยรับรองจะทบทวนเอกสารและข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับ เพื่อพิจารณาถึง
ความพร้อมขององค์กร และนาไปกาหนดแผนในการตรวจประเมิน ซึ่งจะครอบคลุมถึงประมาณ
การว่าจะใช้ผู้ประเมินกี่คน และเวลาในการตรวจประเมินกี่วันต่อไป
หากองค์กรมีความต้องการให้ หน่วยรับรองมาตรวจประเมินถึงความพร้อมก่อนที่จะมีการตรวจ
ประเมินให้การรับรอง (Assessment) อาจร้องขอให้หน่วยรับรองมาตรวจประเมินเบื้องต้น (Pre-
assessment) ให้ก็ได้ โดยหน่วยรับรองจะตรวจประเมินการปฏิบัติงาน ณ สถานที่จริง รวมทั้ง
ทบทวนคู่ มื อคุ ณ ภาพ ขั้ น ตอนการปฏิ บั ติ งาน และเอกสารต่ างๆ ที่ เกี่ ย วข้ องขององค์ ก ร กั บ
ข้อกาหนดของมาตรฐาน และหากพบข้อบกพร่องจะมีการรายงานให้ องค์กรทราบเพื่อน าไป
ปรับปรุงแก้ไขระบบให้เกิดความสมบูรณ์และมีประสิทธิผลก่อน อันจะเป็นการประหยัดเวลาและ
ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการตรวจประเมินเพื่อให้การรับรองต่อไป
ตรวจประเมินเพื่อให้การรับรอง (Assessment) หน่วยรับรองจะประเมินประสิทธิผลของระบบ
โดยตรวจประเมินจากเอกสาร หลักฐาน บันทึกต่างๆ สัมภาษณ์สอบถามผู้ปฏิบัติงาน ดูสภาพ
ของสถานที่ ป ระกอบการ (Site Tour) ตลอดจนสั งเกตการปฏิ บั ติ ง าน โดยเปรี ย บเที ย บกั บ
ข้อกาหนดของมาตรฐาน ISO 9001
กรณีที่พบข้อบกพร่อง โดยทั่วไปหน่วยรับรองจะมีการกาหนดไว้ในหลักเกณฑ์และเงื่อนไขสาหรับ
ลั ก ษณะของข้ อ บกพร่ อ งว่ า มี ก ารแบ่ ง แยกลั ก ษณะของข้ อ บกพร่ อ งส าคั ญ (Major) และ
ข้อบกพร่องย่อย (Minor) อย่างไร หากสรุปว่า
- พบข้ อ บกพร่ อ งส าคั ญ ซึ่ ง ตามเงื่ อ นไขของหน่ ว ยรั บ รองจะยั ง ไม่ ให้ ก ารรั บ รองจนกว่ า
ข้ อ บกพร่ อ งนั้ น ได้ รั บ การแก้ ไขก่ อ น ดั งนั้ น องค์ ก รต้ อ งแจ้ งแนวทางการแก้ ไข และต้ อ ง
ปฏิบัติการแก้ไข พร้อมทั้งนัดหมายให้ผู้ตรวจประเมินมาตรวจประเมินผลการแก้ไข (Follow
Up) ต่อไป
- พบข้อบกพร่องย่อย ซึ่งตามเงื่อนไขของหน่วยรับรองจะให้การรับรองแก่องค์กร โดยองค์กรได้
มีการเสนอแนวทางการแก้ไข ทาการปฏิบัติการแก้ไขและแจ้งผลให้หน่วยรับรองพิจารณา
และหน่วยรับรองจะมีการมาติดตามผลภายหลังจากที่ได้รับการรับรองแล้ว
หน่ ว ยรับ รองออกใบรั บ รองให้ กับ องค์ กร เพื่ อใช้ในการแสดงถึงความสามารถของระบบการ
บริหารงานคุณภาพขององค์กร ซึ่งโดยทั่วไปแล้วใบรับรองจะมีอายุ 3 ปี
การตรวจติดตามผลเป็นระยะ ๆ (Surveillance)
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015 หน้า 17 จาก 18
#R2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ขั้นตอนการจัดทาระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001:2015
- หลั ง จากได้ รั บ การรั บ รองแล้ ว หน่ ว ยรั บ รองจะมี ก ารตรวจประเมิ น ประสิ ท ธิ ผ ลและ
ความสามารถในการรักษาและปรับปรุง ระบบการบริหารงานคุณภาพขององค์กร สาหรับ
ความถี่ในการตรวจติดตามผลขึ้ นกับข้อกาหนดของแต่ละหน่วยรับรอง โดยทั่วไปแล้วจะไม่
น้อยกว่า 1 ครั้งต่อปี ซึ่งอาจไม่นัดหมายล่วงหน้า ในการตรวจติดตามผลแต่ละครั้งอาจเลือก
ตรวจประเมินเฉพาะบางหน่วยงานหรือบางกระบวนการ หรือตรวจทั้งองค์กรก็ได้
การตรวจประเมินใหม่ (Re-Assessment)
ก่อนที่จะครบกาหนดอายุใบรับรอง หากองค์กรมีความประสงค์ที่จะรับการรับรองต่อเนื่อง
องค์กรต้องแจ้งต่อหน่วยรับรองเพื่อนัดหมายให้มาตรวจประเมินใหม่ ซึ่งจะเป็นการตรวจทั้ง
ระบบเหมือนการตรวจเพื่อให้การรับรองในครั้งแรก
ข้อสอบ
ขั้นตอนการจัดทาระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001 : 2015
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
ข้อสอบ_ ขั้นตอนการจัดทาระบบระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001V2015
1. ขั้นตอนการดาเนินการจัดทาระบบการบริหารงานคุณภาพมีกี่ขั้นตอน?
ก. 12
ข. 13
ค. 14
ง. 15
2. ความมุ่งมั่นในการจัดทาระบบของผู้บริหารระดับสูง แสดงออกได้โดยวิธีใด ?
ก. ให้ความสาคัญกับการจัดตั้งระบบ
ข. มอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบ
ค. นาการบริหารความเสี่ยงมาใช้ในองค์กร
ง. ถูกทุกข้อ
3. หน้าที่ของผู้บริหารแต่ละหน่วยงานขององค์กรในการจัดทาระบบบริหารงานคุณภาพคือข้อใด ?
ก. กาหนดนโยบายและวัตถุประสงค์องค์กร
ข. นาการบริหารความเสี่ยงมาใช้ในองค์กร
ค. บริหารทรัพยากรที่จาเป็นให้พอเพียง
ง. ทบทวนระบบการบริหารงานคุณภาพเป็นระยะๆ
4. ในการจัดทาระบบบริหารงานคุณภาพเป็นหน้าที่ของตาแหน่งใดในองค์กร ?
ก. ผู้บริหารระดับสูง
ข. ผู้บริหารหัวหน้างานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ค. พนักงาน
ง. ถูกทุกข้อ
5. การพิจารณาบริบท มีวัตถุประสงค์เพื่อการใด ?
ก. กาหนดขอบข่ายระบบบริหารงานคุณภาพ
ข. สามารถจัดสรรเวลาในการกากับดูแลระบบการบริหารงานคุณภาพ
ค. มีความเป็นผู้นา
ง. ถูกทุกข้อ
6. ข้อใดไม่ใช่วัตถุประสงค์ของ “การพิจารณาบริบท” ?
ก. การพิจารณาปัจจัยที่มีผลกระทบต่อวัตถุประสงค์องค์กร
ข. กาหนดขอบข่ายระบบบริหารงานคุณภาพ
ค. การทา SWOT
ง. การนาปัจจัยไปพิจารณาความเสี่ยง
7. “บริบท” ที่ต้องนามาพิจารณาตามข้อกาหนดคือหัวข้อใด ?
ก. ปัจจัยภายใน ปัจจัยภายนอก
ข. ข้อกาหนดผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ค. ลักษณะผลิตภัณฑ์และบริการ
ง. ถูกทุกข้อ
8. ข้อใดไม่ใช่แนวทางการจัดทา “นโยบายคุณภาพ”?
ก. ถ้อยแถลงอย่างเป็นทางการของผู้บริหารสูงสุด
ข. แสดงเจตนารมณ์และทิศทางด้านคุณภาพขององค์กร
ค. แสดงความเห็นชอบจากบุคลากรขององค์กร
ง. สอดคล้องต้องการและความคาดหวังของลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
14. จงลาดับการดาเนินการจัดระบบ ?
1. พิจารณากลุ่มลูกค้าและความต้องการ/ความคาดหวัง
2. กาหนดขอบข่ายในการจัดระบบ
3. จัดทา Flowcharts process
4. จัดทา Business Process Map
ก. 1 2 3 4
ข. 2 1 4 3
ค. 2 1 3 4
ง. 4 1 2 3
เฉลยข้อสอบ
ขั้นตอนการจัดทาระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001 : 2015
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
เฉลยข้อสอบ_ ขั้นตอนการจัดทาระบบระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001V2015
1. ขั้นตอนการดาเนินการจัดทาระบบการบริหารงานคุณภาพมีกี่ขั้นตอน?
ก. 12
ข. 13
ค. 14
ง. 15
2. ความมุ่งมั่นในการจัดทาระบบของผู้บริหารระดับสูง แสดงออกได้โดยวิธีใด ?
ก. ให้ความสาคัญกับการจัดตั้งระบบ
ข. มอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบ
ค. นาการบริหารความเสี่ยงมาใช้ในองค์กร
ง. ถูกทุกข้อ
3. หน้าที่ของผู้บริหารแต่ละหน่วยงานขององค์กรในการจัดทาระบบบริหารงานคุณภาพคือข้อใด ?
ก. กาหนดนโยบายและวัตถุประสงค์องค์กร
ข. นาการบริหารความเสี่ยงมาใช้ในองค์กร
ค. บริหารทรัพยากรที่จาเป็นให้พอเพียง
ง. ทบทวนระบบการบริหารงานคุณภาพเป็นระยะๆ
4. ในการจัดทาระบบบริหารงานคุณภาพเป็นหน้าที่ของตาแหน่งใดในองค์กร ?
ก. ผู้บริหารระดับสูง
ข. ผู้บริหารหัวหน้างานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ค. พนักงาน
ง. ถูกทุกข้อ
5. การพิจารณาบริบท มีวัตถุประสงค์เพื่อการใด ?
ก. กาหนดขอบข่ายระบบบริหารงานคุณภาพ
ข. สามารถจัดสรรเวลาในการกากับดูแลระบบการบริหารงานคุณภาพ
ค. มีความเป็นผู้นา
ง. ถูกทุกข้อ
6. ข้อใดไม่ใช่วัตถุประสงค์ของ “การพิจารณาบริบท” ?
ก. การพิจารณาปัจจัยที่มีผลกระทบต่อวัตถุประสงค์องค์กร
ข. กาหนดขอบข่ายระบบบริหารงานคุณภาพ
ค. การทา SWOT
ง. การนาปัจจัยไปพิจารณาความเสี่ยง
7. “บริบท” ที่ต้องนามาพิจารณาตามข้อกาหนดคือหัวข้อใด ?
ก. ปัจจัยภายใน ปัจจัยภายนอก
ข. ข้อกาหนดผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ค. ลักษณะผลิตภัณฑ์และบริการ
ง. ถูกทุกข้อ
8. ข้อใดไม่ใช่แนวทางการจัดทา “นโยบายคุณภาพ”?
ก. ถ้อยแถลงอย่างเป็นทางการของผู้บริหารสูงสุด
ข. แสดงเจตนารมณ์และทิศทางด้านคุณภาพขององค์กร
ค. แสดงความเห็นชอบจากบุคลากรขององค์กร
ง. สอดคล้องต้องการและความคาดหวังของลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
14. จงลาดับการดาเนินการจัดระบบ ?
1. พิจารณากลุ่มลูกค้าและความต้องการ/ความคาดหวัง
2. กาหนดขอบข่ายในการจัดระบบ
3. จัดทา Flowcharts process
4. จัดทา Business Process Map
ก. 1 2 3 4
ข. 2 1 4 3
ค. 2 1 3 4
ง. 4 1 2 3
8 การประเมินตนเองก่อนขอการรับรองการจัดการ
ด้านระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001 : 2015
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
การประเมินตนเองก่อนขอการรับรองการจัดการด้านระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001:2015
ชื่อองค์กร วันที่ตรวจ
ขอบเขต ขอบข่าย
เกณฑ์การพิจารณาให้คะแนนคือ
1. เมื่อการจัดทาร่างเอกสารสารสนเทศแล้ว หรืออยู่ในระหว่างการปรับปรุง/แก้ไขเอกสารสารสนเทศ
ให้คะแนน 1 ส่วน ใน 3 ส่วน
2. เมื่อมีการอนุมัติเอกสารสารสนเทศแล้ว อยู่ระหว่างการประกาศใช้หรืออยู่ระหว่างการนาไปปฏิบัติ
ให้คะแนน 2 ส่วน ใน 3 ส่วน
3. เมื่อมีการประกาศใช้เอกสารสารสนเทศอย่างเป็นทางการ และมีข้อมูลสารสนเทศหรือผลการ
ปฏิบัติงานครบถ้วนแล้ว ให้คะแนน 3 ส่วน ใน 3 ส่วน
หลักฐานที่ใช้อ้างอิง สถานการ
ลาดับ รายการที่ประเมิน (Process/Maintain Document Information ดาเนินงาน
/Retain Document Information) 1 2 3
4 บริบทองค์กร
4.1 ความเข้าใจองค์กรและบริบทขององค์กร
1. กาหนดประเด็นภายนอกและภายใน (External
and Internal Issues) ที่เกี่ยวข้องกับ
วัตถุประสงค์ขององค์กร เพื่อบรรลุความพึงพอใจ
ของลูกค้า และทิศทางกลยุทธ์ขององค์กร
2. มีการทบทวนประเด็นภายในภายนอก และผลการ
ทบทวน
4.2 ความเข้าใจถึงความต้องการและความคาดหวังของผู้
มีส่วนได้เสียองค์กร
1. กาหนดกลุ่มผู้มสี ่วนได้ส่วนเสียที่มผี ลกระทบกับ
บริหารคุณภาพ
2. มีความต้องการและความคาดหวังของผู้มีส่วนได้
ส่วนเสีย (Interested parties) ทั้งภายในและ
ภายนอกองค์กรที่เกี่ยวข้องกับระบบบริหาร
คุณภาพ
3. มีการติดตามและทบทวนข้อกาหนดผู้มสี ่วนได้
ส่วนเสียและผลการทบทวน
หลักฐานที่ใช้อ้างอิง สถานการ
ลาดับ รายการที่ประเมิน (Process/Maintain Document Information ดาเนินงาน
/Retain Document Information) 1 2 3
4.3 การกาหนดขอบข่ายระบบ
1 กาหนดขอบข่ายการจัดทาระบบบริหารงาน
คุณภาพทีค่ รอบคลุมผลิตภัณฑ์ พื้นที่และ
หน่วยงานที่อยู่ในขอบข่ายการดาเนินการของ
องค์กร รวมถึงครอบคลุม 4.1 และ 4.2
2. ระบุการยกเว้นข้อกาหนดที่ไม่นามาประยุกต์ใช้
บ้างพร้อมเหตุผลเป็นเอกสารสารสนเทศ
4.4 ระบบการบริหารและกระบวนการ
1. มีการกาหนดกระบวนการที่จาเป็นและลาดับ
ความสัมพันธ์ระหว่างกระบวนการ รวมถึง
กระบวนการ/กิจกรรมใดที่ให้ผู้รับเหมาไป
ดาเนินการ เป็นเอกสารสารสนเทศ
2. กาหนดเกณฑ์ วิธีการ (รวมถึงการตรวจติดตาม
ตรวจวัด และตัวชี้วัดสมรรถนะของกระบวนการ)
ที่จาเป็น การมอบหมายผูร้ ับผิดชอบ เพื่อให้มั่นใจ
ว่าการควบคุม กระบวนการเกิดประสิทธิผล
5 การเป็นผู้นา
5.1 ความเป็นผู้นาและพันธสัญญา
5.1.1 ทั่วไป
ผู้บริหารระดับสูงแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบ ใน
ประสิทธิผลของระบบ QMS
1. นาวิธีการบริหารความเสี่ยงมาใช้ในองค์กร
2. จัดสรรทรัพยากรอย่างเพียงพอ เหมาะสม
3. มี วิ ธี ก ารก าหนดและหาความต้ อ งการ และ
ความคาดหวังของลูกค้า ข้อกาหนดจากผู้มีส่วน
ได้ส่วนเสีย
4. มีวิธีการสื่อสาร
5. มีระดับความพึงพอใจของลูกค้าและวิธีการเพิ่ม
ความพึงพอใจ
6. กาหนดเกณฑ์และวิธีการควบคุมกระบวนการ
5.1.2 การให้ความสาคัญกับลูกค้า
มี ก ระบวนการให้ ข้ อ มู ล รั บ ข้ อ มู ล และข้ อ มู ล
ย้ อ นกลั บ จากลู ก ค้ า และมอบหมายหน้ า ที่ ค วาม
รับผิดชอบ
หลักฐานที่ใช้อ้างอิง สถานการ
ลาดับ รายการที่ประเมิน (Process/Maintain Document Information ดาเนินงาน
/Retain Document Information) 1 2 3
5.2 นโยบาย
1. จัดทานโยบาย และวัตถุประสงค์คณ ุ ภาพ ที่
สอดคล้องกับทิศทางกลยุทธ์ขององค์กรเป็น
เอกสารสารสนเทศ
2. กาหนดวัตถุประสงค์คณ ุ ภาพระดับองค์กรที่
สอดคล้องรับกับนโยบายคุณภาพเป็นเอกสาร
สารสนเทศ
3. มีการสื่อนโยบายคุณภาพทั้งภายในองค์กร ผู้มี
ส่วนได้ส่วนเสีย
5.3 บทบาทหน้าที่ ความรับผิดชอบ และอานาจหน้าที่ใน
องค์กร
1. กาหนดบทบาทความรับผิดชอบและอานาจหน้าที่
ของผู้บริหารแต่ละหน่วยงาน
2. กาหนดอานาจหน้าที่ความรับผิดชอบของบุคลากร
ไว้
3. ชี้แจงหน้าที่ความรับผิดชอบให้ผู้ดารงตาแหน่ง
เข้าใจ
6 การวางแผนสาหรับระบบ
6.1 การดาเนินการแสดงความเสี่ยงและโอกาส
6.1.1 การวางแผนสาหรับความเสี่ยง และโอกาส
1. มีวิธีการพิจารณาความเสี่ยงและโอกาส
2.มีผลการพิจารณาความเสี่ยงและโอกาสเป็นเอกสาร
สารสนเทศที่ครอบคลุมประเด็นภายนอกและภายใน
ข้อกาหนดของผู้มีส่วนได้เสีย
6.1.2 การปฏิบัติการเพื่อดาเนินการกับความเสี่ยงและโอกาส
หลักฐานการจัดการกับความเสี่ยงและโอกาส และการ
ประเมินสมรรถนะวิธีการดังกล่าว
6.2 วัตถุประสงค์ และแผนงานเพื่อทาให้บรรลุ
วัตถุประสงค์
6.2.1 1. องค์กรจัดทาวัตถุประสงค์ตามระดับ กระบวนการ
ที่เกี่ยวข้อง และเก็บรักษาเอกสารสารสนเทศ
2. คุณลักษณะวัตถุประสงค์สอดคล้องกับนโยบาย
สามารถวัดผลได้ พิจารณาถึงข้อกาหนดทีต่ ้อง
ประยุกต์ใช้ เกี่ยวข้องกับความสอดคล้องของ
หลักฐานที่ใช้อ้างอิง สถานการ
ลาดับ รายการที่ประเมิน (Process/Maintain Document Information ดาเนินงาน
/Retain Document Information) 1 2 3
ผลิตภัณฑ์และบริการ และการสร้างความพึงพอใจ
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กาหนดช่วงการเฝ้าติดตาม
3. มีการสื่อสาร
6.2.2 การวางแผนเพื่อให้บรรลุ
1. การวางแผนเพื่อให้บรรลุวตั ถุประสงค์คุณภาพ
เป็นเอกสารสารสนเทศ
2. แผนที่วางประกอบด้วย กิจกรรม ทรัพยากรที่
จาเป็น ผู้รบั ผิดชอบ กาหนดระยะเวลาแล้วเสร็จ
และวิธีการประเมินผล
6.3 การวางแผนการเปลีย่ นแปลง
จัดทาแผนเป็นเอกสารสารสนเทศเพื่อควบคุม
เปลี่ยนแปลง
7 การสนับสนุน
7.1 ทรัพยากร
7.1.1 ทั่วไป
มีการพิจารณาและจัดเตรียมทรัพยากรที่จาเป็น
สาหรับการจัดทา การนาไปปฏิบตั ิการรักษาไว้ และ
การปรับปรุงระบบ อย่างต่อเนื่ององค์กร เช่น คน
โครงสร้างพื้นฐาน สภาพแวดล้อมในการดาเนินการ
ทรัพยากรในการวัด และแหล่งความรู้
7.1.2 บุคลากร
มีกระบวนการพิจารณาและให้กาลังคนที่จาเป็น
สาหรับการนาระบบไปปฏิบัติอย่างมีประสิทธิผล
7.1.3 สิ่งอานวยความสะดวก/สาธารณูปการ
มีกระบวนการพิจารณากาหนด จัดหา และรักษาไว้
โครงสร้างพื้นฐานที่จาเป็นสาหรับการดาเนินงานและ
เพื่อให้ผลิตภัณฑ์และบริการเป็นไปตามข้อกาหนด
7.1.4 สภาวะแวดล้อมสาหรับการปฏิบัตใิ นกระบวนการ
ต่างๆกาหนด จัดหา และคงรักษาไว้ซึ่งสภาวะ
แวดล้อมที่จาเป็นสาหรับการปฏิบตั ิการ และเพื่อให้
บรรลุถึงความสอดคล้องของสินค้าและบริการ
7.1.5 ทรัพยากรในการตรวจติดตามตรวจวัด
1. กาหนดและจัดเตรียมทรัพยากรในการเฝ้าติดตาม
หรือการวัดได้ถูกใช้เป็นหลักฐานทวนสอบความ
สอดคล้องของผลิตภัณฑ์และบริการ
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015 หน้า 5 จาก 12
#R2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
การประเมินตนเองก่อนขอการรับรองการจัดการด้านระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001:2015
หลักฐานที่ใช้อ้างอิง สถานการ
ลาดับ รายการที่ประเมิน (Process/Maintain Document Information ดาเนินงาน
/Retain Document Information) 1 2 3
2. มีวิธีการรักษาให้เหมาะสมต่อการใช้งาน
3. จัดเก็บเอกสารสารสนเทศของทรัพยากรที่ใช้เฝ้า
ติดตามและการวัด
4. การสอบย้อนกลับได้ของการวัด
- มีกระบวนการทวนสอบหรือสอบเทียบ และ
กาหนดช่วงเวลา หรือก่อนการใช้งาน
- ผลการสอบเทียบหรือทวนสอบสามารถสอบ
ย้อนกลับไปยังมาตรฐานการตรวจวัด
ระดับประเทศหรือระหว่างประเทศได้และ
จัดเก็บเป็นเอกสารสารสนเทศ
- มีการชี้บ่งเพื่อกาหนดสถานการณ์สอบเทียบ
อย่างไร
- มีมาตรการป้องกันการปรับแต่ง การเสียหาย
หรือความเสื่อมที่อาจจะทาให้สถานภาพการ
สอบเทียบและผลการวัด กระบวนการการ
พิจารณาความถูกต้องผลการวัด
- มีวิธีการจัดการเครื่องมือวัดมีความไม่
เหมาะสมต่อการใช้งานตามวัตถุประสงค์
- มีวิธีการเฝ้าติดตามและตรวจวัดทีก่ ารยืนยัน
ก่อนการใช้งาน และยืนยันซ้าSoftware
7.1.6 ความรู้ขององค์กร
1. กาหนดความรู้ที่จาเป็นสาหรับการดาเนินงานของ
กระบวนการและเพื่อให้บรรลุความสอดคล้องของ
ผลิตภัณฑ์และบริการ และพิจารณาวิธีการทาให้
ได้มาหรือเข้าถึงความรู้เพิ่มเติมที่จาเป็นและ
ทันสมัย
2. จัดตั้งแหล่งความรู้
7.2 ทักษะความสามารถ
1. กาหนดความรู้ที่จาเป็นของบุคลากร สาหรับการ
ปฏิบัติการในแต่ละกระบวนการ
2. กาหนดความสามารถที่จาเป็นของบุคลากรที่
ปฏิบัติงานที่มีผลต่อการดาเนินงาน ประกอบด้วย
การศึกษา การฝึกอบรม และประสบการณ์
3. มีกระบวนการทาให้ได้มาซึ่งความสามารถที่
จาเป็นและการประเมินประสิทธิผล
4. จัดเก็บเอกสารสารสนเทศ
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015 หน้า 6 จาก 12
#R2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
การประเมินตนเองก่อนขอการรับรองการจัดการด้านระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001:2015
หลักฐานที่ใช้อ้างอิง สถานการ
ลาดับ รายการที่ประเมิน (Process/Maintain Document Information ดาเนินงาน
/Retain Document Information) 1 2 3
7.3 ความตระหนัก
มีวิธีการทาให้บุคลากรตระหนักในงานที่รับผิดชอบ
นโยบายวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้อง การมีส่วนร่วม
ประโยชน์ของการปรับปรุง และผลกระทบของการไม่
สอดคล้องกับข้อกาหนด
7.4 การสื่อสาร
กาหนดการสื่อสารทั้งภายในและภายนอกที่เกี่ยวข้อง
กับระบบไว้ โดยครอบคลุมสื่อสารเรื่องอะไร เมื่อไร ถึง
ใคร อย่างไร และใครเป็นผูส้ ื่อสาร
7.5 ข้อมูลที่เป็นเอกสาร
1. กระบวนการจัดทาและทาการปรับปรุงข้อมูล
เอกสารที่ครอบคลุม การควบคุม
2. การควบคุมเอกสารสารสนเทศที่มาจากแหล่ง
ภายนอกอย่างไร ทาการชี้บ่ง และควบคุม
อย่างไร
3. การควบคุมเอกสารสารสนเทศที่จดั เก็บเพื่อเป็น
หลักฐานการสอดคล้องต่อข้อกาหนด
8 การปฏิบัติการ
8.1 การวางแผน และการควบคุมการปฏิบัติการ
มีการวางแผน นาไปปฏิบตั ิ และควบคุมกระบวนการ
ตามโครงสร้างองค์กร และกระบวนการทางธุรกิจ
8.2 การพิจารณาข้อกาหนดต่างๆสาหรับสินค้าและ
บริการ
1. กาหนดช่องทางและวิธีการสื่อสารกับลูกค้า โดย
ครอบคลุมเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน การ
นาเสนอ การรับข้อกาหนดสาหรับผลิตภัณฑ์
และบริการ
2. วิธีการทบทวนก่อนการตกลงในการส่งมอบ
ผลิตภัณฑ์และบริการต่อลูกค้า
3. วิธีการเปลีย่ นข้อกาหนดสาหรับผลิตภัณฑ์และ
บริการ และผู้ที่เกีย่ วข้องรับทราบข้อกาหนดที่มี
การเปลีย่ นแปลง
4. เอกสารสารสนเทศที่เกีย่ วข้องได้รบั การปรับแก้
อะไรบ้าง
หลักฐานที่ใช้อ้างอิง สถานการ
ลาดับ รายการที่ประเมิน (Process/Maintain Document Information ดาเนินงาน
/Retain Document Information) 1 2 3
8.3 การออกแบบและพัฒนาสินค้าและบริการ
1. มีกระบวนการในการออกแบบและพัฒนา
ผลิตภัณฑ์และบริการ
2. ขั้นตอนและควบคุมสาหรับการออกแบบและ
พัฒนาประกอบด้วย ปัจจัยเข้าในการออกแบบ
และพัฒนา การควบคุมกระบวนการ การ
ดาเนินการเพื่อให้ได้ผลลัพธ์การออกแบบและ
พัฒนา การควบคุมการชี้บ่ง ทบทวน และ
ควบคุมการเปลี่ยนแปลงการออกแบบและ
พัฒนา
3. จัดเก็บเอกสารสารสนเทศ
8.4 การควบคุมการจัดหาสินค้าและบริการจากภายนอก
1. กระบวนการการควบคุมผลิตภัณฑ์และบริการ
จากผู้จัดหาภายนอกที่ใช้สาหรับประกอบเข้ากับ
ผลิตภัณฑ์และบริการขององค์กร
2. กระบวนการควบคุมประกอบด้วย เกณฑ์สาหรับ
การประเมินคัดเลือก เกณฑ์สาหรับการประเมิน
สมรรถนะ และการประเมินซ้า
3. จัดเก็บเอกสารสารสนเทศผลการประเมิน
4. กระบวนการควบคุมผลิตภัณฑ์และบริการที่ถูก
ส่งมอบจากภายนอก
5. กระบวนการให้ข้อมูลสารสนเทศสาหรับผูจ้ ัดหา
ภายนอก
8.5 การควบคุมการผลิตและการบริการ
8.5.1 การควบคุมการผลิตและการส่งมอบบริการ
1. มีการดาเนินการผลิตและส่งมอบบริการ ภายใต้
สภาวะที่ถูกควบคุม
2. กระบวนการระบุการควบคุมที่เกีย่ วข้องคือ
วิธีการปฏิบัติงาน การเฝ้าติดตามและการวัด
เกณฑ์สาหรับการตรวจวัด และเกณฑ์การ
ยอมรับผลิตภัณฑ์และบริการ กิจกรรมหรือ
กระบวนการในการป้องกันความผิดพลาดของ
คน กิจกรรมการตรวจปล่อย กิจกรรมการส่ง
มอบ และกิจกรรมหลังการส่งมอบ
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015 หน้า 8 จาก 12
#R2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
การประเมินตนเองก่อนขอการรับรองการจัดการด้านระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001:2015
หลักฐานที่ใช้อ้างอิง สถานการ
ลาดับ รายการที่ประเมิน (Process/Maintain Document Information ดาเนินงาน
/Retain Document Information) 1 2 3
3. แต่งตั้งบุคคลที่มีความสามารถ รวมถึงคุณสมบัติ
ที่ต้องการในงานที่ไม่ต้องการความสามารถ
พิเศษ หรือตามที่กฎหมายกาหนด มีการรับรอง
ผล และการรับรองผลซ้าตามระยะ
8.5.2 การชี้บ่ง และการสอบย้อนกลับ
1. มีการชี้บ่งและสอบกลับได้ของผลิตภัณฑ์/บริการ
2. มีวิธีการชี้บ่งสถานะของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ
การเฝ้าติดตามและการวัด
8.5.3 ทรัพย์สินที่เป็นของลูกค้า หรือผู้จดั หา/ผู้ส่งมอบ
ภายนอก
1. วิธีการชี้บ่ง ทวนสอบ ดูแลรักษาและป้องกัน
ทรัพย์สินของลูกค้า การแจ้งลูกค้ากรณีสูญหาย
เสียหาย ไม่เหมาะสมกับการใช้งาน
2. จัดเก็บเอกสารสารสนเทศไว้หรือไม่
3. วิธีการกาหนดวิธีการชี้บ่ง ทวนสอบ ดูแลรักษา
และป้องกันทรัพย์สินของผูจ้ ัดหาภายนอก แจ้งผู้
จัดหากรณีสญ ู หาย เสียหาย ไม่เหมาะสมกับการ
ใช้งาน
4. จัดเก็บเอกสารสารสนเทศ
8.5.4 การถนอมรักษา
1. มีกระบวนการรักษาผลิตภัณฑ์ มีการชี้บ่ง เก็บ
รักษาป้องกันความเสียหาย ที่ครอบคลุมการ
ดูแล ควบคุม การเคลื่อนย้าย การบรรจุหีบห่อ
อายุผลิตภัณฑ์
2. มีการควบคุมตลอดกระบวนการคือก่อนการผลิต
ระหว่างการผลิต การจัดเก็บ การจัดส่ง การ
ขนส่ง การเรียกคืน
8.5.5 กิจกรรมหลังการส่งมอบ
1. กรณีมผี ลิตภัณฑ์และบริการที่ต้องมีกิจกรรม
ดาเนินการหลังการส่งมอบ
2. มีกระบวนการสาหรับกิจกรรมหลังการส่งมอบที่
เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และบริการ
8.5.6 การควบคุมการเปลี่ยนแปลง
1. มีกระบวนการควบคุมการเปลี่ยนแปลงสาหรับ
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015 หน้า 9 จาก 12
#R2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
การประเมินตนเองก่อนขอการรับรองการจัดการด้านระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001:2015
หลักฐานที่ใช้อ้างอิง สถานการ
ลาดับ รายการที่ประเมิน (Process/Maintain Document Information ดาเนินงาน
/Retain Document Information) 1 2 3
การผลิตหรือบริการ และการทบทวนเพื่อให้การ
ผลิตหรือบริการมีความสอดคล้องกับข้อกาหนด
บุคคลที่มีอานาจหน้าที่ต่อการเปลีย่ นแปลง และ
การดาเนินการใดที่เกิดขึ้นจากการทบทวน
2. จัดเก็บเอกสารสารสนเทศ
8.6 การปล่อยสินค้า
1. มีแผนการและวิธีการและขั้นตอน เพื่อพิสูจน์ว่า
ข้อกาหนดของผลิตภัณฑ์และบริการได้บรรลุ
ข้อกาหนด
2. มีขั้นตอนครอบคลุมดังนี้ แผนการปล่อย
ผลิตภัณฑ์บริการ การจัดการกรณีที่ไม่เป็นไป
ตามแผนหรือผลิตภัณฑ์และบริการไม่เป็นไปตาม
ข้อกาหนด การอนุมัติให้ใช้หรือตรวจปล่อยโดยผู้
มีอานาจหรือลูกค้า
3. จัดเก็บเอกสารสารสนเทศสาหรับการปล่อย
ผลิตภัณฑ์และบริการ
8.7 การควบคุมผลลัพธ์ของกระบวนการ สินค้า และ
บริการที่ไม่เป็นไปตามข้อกาหนด
1. มีการกาหนดวิธีการจัดการกับผลิตภัณฑ์ ตามวิธี
ดังต่อไปนี้ การป้องกันการนาไปใช้ แก้ไข คัด
แยก จากัดพื้นที่ ส่งคืน หรือระงับการใช้
ผลิตภัณฑ์และบริการ แจ้งลูกค้า ขออนุญาตจาก
ผู้มีอานาจเพื่อการยอมรับภายใต้ความยินยอม
การแก้ไขข้อบกพร่องมีการทวนสอบซ้า
2. จัดเก็บเอกสารสารสนเทศ
9 การประเมินสมรรถนะ
9.1 การตรวจติดตาม ตรวจวัด วิเคราะห์ และการ
ประเมิน
9.1.1 ทั่วไป
1. มีการวางแผนการเฝ้าติดตาม การวัด การ
วิเคราะห์และการประเมินเพื่อให้มนั่ ใจถึงความ
ถูกต้องของผลลัพธ์สอดคล้องกับระบบฯ
2. กาหนดแผนทีป่ ระกอบด้วย สิ่งที่ตอ้ งเฝ้าติดตาม
และวัด วิธีการในการเฝ้าติดตาม การวัด การ
วิเคราะห์ และการประเมิน
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015 หน้า 10 จาก 12
#R2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
การประเมินตนเองก่อนขอการรับรองการจัดการด้านระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001:2015
หลักฐานที่ใช้อ้างอิง สถานการ
ลาดับ รายการที่ประเมิน (Process/Maintain Document Information ดาเนินงาน
/Retain Document Information) 1 2 3
3. มีการจัดเก็บเอกสารสารสนเทศทีแ่ สดงถึงผล
การเฝ้าระวัง การวัด การวิเคราะห์ และผลการ
ประเมิน
9.1.2 ความพึงพอใจลูกค้า
1. มีการเฝ้าติดตามการรับรู้ของลูกค้าต่อระดับ
ความต้องการและความคาดหวัง
2. นาผลทีไ่ ด้ไปพิจารณาดาเนินการ
9.1.3 การวิเคราะห์ และการประเมินผล
มีกระบวนการวิเคราะห์และประเมินข้อมูลและ
สารสนเทศที่เกิดขึ้นจากการเฝ้าติดตามและการวัด
และการวิเคราะห์ในเรื่อง 1) ความสอดคล้องของ
ผลิตภัณฑ์และบริการ 2) ระดับความพึงพอใจ 3)
สมรรถนะและประสิทธิผลของระบบบริหาร 4)
ประสิทธิผลแผน 5) ประสิทธิผลของกิจกรรมที่ได้
กระทาต่อความเสีย่ งและโอกาส 6) สมรรถนะของผู้
จัดหาภายนอก และ 7)ความจาเป็นสาหรับการ
ปรับปรุงระบบ
9.2 การตรวจประเมินภายใน
1. มีกระบวนการตรวจประเมินระบบบริหารภายใน
องค์กรโดยครอบคลุมการวางแผน หน่วยงาน
ตามขอบข่ายระบบบริหารงานคุณภาพ
ข้อกาหนดและมาตรฐานที่องค์กรต้องใช้
2. กระบวนการตรวจประเมินครอบคลุมการ
คัดเลือกผู้ตรวจประเมิน การแก้ไขโดยไม่ลา่ ช้า
การติดตามผล ทวนสอบ และรายงานผล
3. จัดเก็บเอกสารสารสนเทศไว้เป็นหลักฐาน
9.3 การทบทวนโดยฝ่ายบริหาร -
1. กระบวนการทบทวนของฝ่ า ยบริ ห ารตาม
ช่วงเวลา
2. การทบทวนของฝ่ายบริหารครอบคลุมประเด็น
1)สถานะของการดาเนินการทบทวนก่อนหน้ า
2)การเปลี่ยนแปลงในประเด็นทั้งภายนอกและ
ภายในที่เกี่ยวกับระบบบริหาร 3)สารสนเทศใน
เรื่องสมรรถนะและประสิทธิผลของระบบบริหาร
รวม ถึ ง แน วโน้ ม ใน 4)ค วาม เพี ย งพ อของ
ทรั พ ยากร 5) ประสิ ท ธิ ผ ลของกิ จ กรรมที่ ไ ด้
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015 หน้า 11 จาก 12
#R2
โครงการพัฒนาหลักสูตร E-Learning/Mobile Learning มาตรฐาน ISO 9001:2015
การประเมินตนเองก่อนขอการรับรองการจัดการด้านระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001:2015
หลักฐานที่ใช้อ้างอิง สถานการ
ลาดับ รายการที่ประเมิน (Process/Maintain Document Information ดาเนินงาน
/Retain Document Information) 1 2 3
กระท าในการด าเนิ น การกั บ ความเสี่ ย งและ
โอกาสต่าง ๆ 6) โอกาสสาหรับการปรับปรุง
3. ผลของการทบทวนประกอบด้วย 1)การตัดสินใจ
หรือปฏิบั ติการเกี่ยวกับโอกาสในการปรับปรุง
อ ย่ างต่ อ เนื่ อ ง 2) ค วาม ต้ อ งก าร ใน ก า ร
เปลี่ยนแปลงระบบรวมถึงทรัพยากรที่ต้องการ
4. จัดเก็บเอกสารสารสนเทศไว้เป็นหลักฐานของผล
การทบทวนการบริหารงาน
10 การพัฒนา
10.1 ทั่วไป -
มีการกาหนดและพิจารณาผลการจัดการความเสีย่ ง
และโอกาส ผลิตภัณฑ์และบริการ สมรรถนะ และ
ประสิทธิผลระบบ และนาไปปฏิบตั ิ เพื่อให้เป็นไป
ตามข้อกาหนดของลูกค้า
10.2 สิ่งที่ไม่เป็นไปตามข้อกาหนดและการปฏิบัติแก้ไข -
1. มีกระบวนการปฏิบัติการแก้ไขทีค่ รอบคลุมและ
ปฏิบัติที่ไม่สอดคล้องตามข้อกาหนด รวมถึงข้อ
ร้องเรียนจากลูกค้า โดยกระบวนการครอบคลุม
การทบทวนความไม่เป็นไปตามข้อกาหนด
ดาเนินการควบคุมและแก้ไข ดาเนินการกับ
ผลกระทบที่ตามมา
2. การปฏิบัติการเพื่อกาจัดสาเหตุประกอบด้วย
การพิจารณาสาเหตุของสิ่งทีไ่ ม่เป็นไปตาม
ข้อกาหนด และสิ่งที่ไม่เป็นไปตามข้อกาหนดที่
คล้ายคลึงกัน การพิจารณาดาเนินการเพื่อไม่ให้
เกิดซ้า ดาเนินการที่จาเป็น การทบทวน
ประสิทธิผลของการดาเนินการปฏิบัติการแก้ไข
การปรับปรุงความเสี่ยงและโอกาสตามความ
จาเป็น การเปลี่ยนแปลงระบบถ้าจาเป็น
3. จัดเก็บเอกสารสารสนเทศไว้เป็นหลักฐาน
10.3 การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
1. ดาเนินการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจว่า
ระบบที่มีอยู่มเี พียงพอ และมีประสิทธิผล
2. วางแผนการปรับปรุง และบริหารความเสีย่ งไว้