Professional Documents
Culture Documents
การประเมินผล
ประเมินผลจากแบบประเมินตนเองก่อนอบรมและหลังอบรม
หัวข้ อวิชา 3.1 เทคนิคการชี้บ่งอันตรายเพือ่ ป้ องกันอุบัตเิ หตุจากการ
ทำงาน
ประกอบด้ วยเรื่อง
3.1.1 ความหมายและหลักการของการชี้ บ่งอันตรายและการประเมินความเสี่ ยง
3.1.2 เทคนิคการชี้บ่งอันตรายเพื่อป้ องกันอุบตั ิเหตุจากการทำงานแบบจับคู่ช้ ีบ่งอันตราย
แนวคิด
1. การประสบอันตรายจากการทำงานที่เกิดขึ้นในสถานประกอบกิจการเกิดจากความบกพร่ องของระบบการจัดการ
ด้านความปลอดภัยของสถานประกอบกิจการนั้นๆ กล่าวคือนายจ้างหรื อผูบ้ ริ หารระดับสูงมิได้ตระหนักถึงความ
สำคัญในงานความปลอดภัยอย่างถ่องแท้ จึงมักดำเนินงานด้านความปลอดภัยในเชิงรับมากกว่าเชิงรุ ก
2. การจัดการด้านความปลอดภัยเชิงรุ กที่สำคัญอย่างยิง่ ที่ถูกกำหนดให้สถานประกอบกิจการต้องดำเนินการในระบบ
การจัดการด้านความปลอดภัยก็คือการชี้บ่งอันตรายและการประเมินความเสี่ ยงของอันตรายที่จะเกิดขึ้น
3. การปฏิบตั ิงานในสถานประกอบกิจการแต่ละงานผูป้ ฏิบตั ิงานจะต้องสัมผัสกับ วัสดุ อุปกรณ์ เครื่ องมือ
เครื่ องจักร และ สภาพแวดล้อมในการทำงาน ที่อาจก่อให้เกิดอุบตั ิเหตุ การเจ็บป่ วยหรื อโรคจากการทำงาน ดังนั้นผู ้
ปฏิบตั ิงานจะต้องสามารถชี้ บ่งอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการปฏิบตั ิงานได้โดยใช้วธิ ีการที่เหมาะสมกับการชี้บ่ง
อันตรายแต่ละเรื่ อง
4. การชี้บ่งอันตรายเพื่อป้ องกันอุบตั ิเหตุจากการทำงานมีเทคนิคและวิธีการหลายวิธี ผูท้ ี่จะดำเนินการต้องพิจารณา
เลือกวิธีการที่เหมาะสมกับอันตรายและสภาพงานในสถานประกอบกิจการของตนเอง
วัตถุประสงค์
เมื่อเข้ารับการฝึ กอบรมในหัวข้อวิชานี้ แล้ว ผูเ้ ข้ารับการอบรมต้องสามารถ
1. อธิบายความหมายของการชี้บ่งอันตรายได้
2. อธิบายสิ่ งที่จะต้องคำนึงถึงในการชี้บ่งอันตราย
3. อธิบายเทคนิคการชี้บ่งอันตรายเพื่อป้ องกันอุบตั ิเหตุจากการทำงานได้
อย่างน้อย 1 วิธี
เรื่องที่ 3.1.1 ความหมายและหลักการของการชี้บ่งอันตราย
และการประเมินความเสี่ ยง
คำจำกัดความทีเ่ กีย่ วข้ อง
อันตราย(Hazard) หมายถึงสิ่ งหรื อเหตุการณ์ที่ถา้ เกิดขึ้นอาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บ
การเจ็บป่ วย โรคจากการทำงาน ความเสี ยหายต่อทรัพย์สิน สภาพแวดล้อมหรื อสิ่ งต่างๆเหล่านี้
รวมกัน
การชี้บ่งอันตราย(Hazard Identification)หมายถึงการแจกแจงอันตรายที่
มีและที่แอบแฝงอยูใ่ นทุกงาน ทุกจุดทำงาน ทุกกิจกรรม ทุกขั้นตอนงาน ตลอดจนวัสดุ
อุปกรณ์ เครื่ องมือ เครื่ องจักรและสิ่ งแวดล้อมการทำงานเป็ นต้น
ความเสี่ ยง (Risk ) หมายถึงความน่าจะเป็ น(Probability) ของการเจ็บป่ วย
บาดเจ็บหรื อสูญเสี ยอันเนื่องจากอุบตั ิเหตุจากการทำงานในสถานประกอบกิจการ
การประเมินความเสี่ ยง (Risk Assessment) หมายถึงกระบวนการ
วิเคราะห์ถึงปัจจัยต่างๆที่อาจเป็ นเหตุทำให้อนั ตรายที่มีและที่แอบแฝงอยูก่ ่อให้เกิดอุบตั ิเหตุ การ
เจ็บป่ วย โรคจากการทำงาน หรื ออุบตั ิภยั ร้ายแรงโดยพิจารณาถึงโอกาสที่จะเกิดและความรุ นแรง
ของอันตรายเหล่านั้น
เรื่องที่ 3.1.1 ความหมายและหลักการของการชี้บ่งอันตราย
และการประเมินความเสี่ ยง (ต่ อ)
วิธีการชี้บ่งอันตราย
ผูใ้ ช้ตอ้ งเลือกวิธีการชี้ บ่งอันตรายให้ถูกต้องและเหมาะสมกับลักษณะอันตรายในกิจกรรมที่จะดำเนินการ หรื อลักษณะความ
เสี่ ยงจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการประกอบกิจการด้วย เทคนิคการชี้บ่งอันตรายที่รู้จกั กันทัว่ ไป มีดงั นี้
– การวิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัย (JOB SAFETY ANALYSIS)
– การชี้บ่งอันตรายตาม มอก. 18001
– CHECK LIST
– WHAT IF
– HAZARD AND OPERABILITY STUDY (HAZOP)
– FAILURE MODES AND EFFECTS ANALYSIS (FMEA)
– FAULT TREE ANALYSIS(FTA)
– EVENT TREE ANALYSIS(ETA)
นอกจากวิธีการชี้บ่งอันตรายดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยังมีวิธีการอื่นๆ อีกหลายวิธีซ่ ึงหากสถานประกอบกิจการสามารถเลือกวิธี
การชี้บ่งอันตราย ที่เหมาะสมกับลักษณะการประกอบกิจการ จะทำให้มองเห็นอันตรายได้ชดั เจนยิง่ ขึ้น ในบรรดาวิธีการชี้
บ่งอันตรายดังกล่าวล้วนแต่มีเทคนิคการชี้บ่งเฉพาะตัวและต้องใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยเฉพาะการชี้ บ่ง
อันตรายเกี่ยวกับ อุปกรณ์ เครื่ องมือ เครื่ องจักร ถัง ท่อ ความดันหรื อระบบ ผูท้ ี่จะทำการชี้บ่งอันตรายจำเป็ นต้องได้รับการ
อบรมเป็ นการเฉพาะและต้องมีผเู ้ ชี่ยวชาญในเรื่ องที่จะชี้บ่งร่ วมด้วย ส่ วนมากถ้าจะทำอาจต้องจ้างที่ปรึ กษาดำเนินการให้ ดัง
นั้นในคู่มือเล่มนี้จะกล่าวถึงพอสังเขปเท่านั้น
เรื่องที่ 3.1.1 ความหมายและหลักการของการชี้บ่งอันตราย
และการประเมินความเสี่ ยง (ต่ อ)
1. การชี้บ่งอันตรายโดยการวิเคราะห์ งานเพือ่ ความปลอดภัย(Job Safety Analysis)
หรือวิเคราะห์ งานเพือ่ ค้ นหาอันตราย ใช้ตารางชี้บ่งอันตรายและมาตรการป้ องกัน ซึ่งมี 2 รู ป
แบบ ได้แก่
1.1 แบบตาราง 3 ช่ อง โดยผูทำ ้ การวิเคราะห์ตอ้ งแจกแจงขั้นตอนการทำงาน วิเคราะห์
อันตรายในแต่ละขั้นตอน แล้วพิจารณามาตรการป้ องกันอันตรายในแต่ละขั้นตอน
ตารางที่ 1 ตารางชี้บ่งอันตรายและมาตรการป้ องกัน แบบ 3 ช่ อง
ข้ อสั งเกต ช่องกลาง คือ อันตรายพร้อมสาเหตุ หมายถึง ต้องบ่งชี้ แหล่งอันตราย ใคร/อะไร ได้รับอันตราย ลักษณะอันตราย
และสาเหตุที่อาจเกิดขึ้น แล้วกรอกรวมอยูใ่ นช่องเดียวกัน
เรื่องที่ 3.1.1 ความหมายและหลักการของการชี้บ่งอันตราย
และการประเมินความเสี่ ยง (ต่ อ)
1.2 แบบตาราง 6 ช่ อง หรื ออาจมีชื่อเรี ยกต่างไปจากนี้ บางตารางก็ลดหรื อเพิ่มช่อง บางตา
รางก็สลับช่องบ้าง แต่หลักการเหมือนกันคือเป็ นตารางที่ใช้ช้ ีบ่งอันตรายรวมทุกเรื่ อง โดยงาน
เดียวกัน ขั้นตอนเดียวกัน กรอกอยูด่ ว้ ยกัน ดังตารางต่อไปนี้
ตารางที่ 2 ตารางชี้บ่งอันตรายและมาตรการป้ องกัน แบบ 6 ช่ อง
ขั้นตอนการ แหล่งอันตราย ใคร/อะไร ได้รับ ลักษณะ สาเหตุที่อาจเกิด มาตรการ
ทำงาน อันตราย อันตราย ขึ้ น ป้ องกัน
เรื่องที่ 3.1.1 ความหมายและหลักการของการชี้บ่งอันตราย
และการประเมินความเสี่ ยง (ต่ อ)
2. วิธีการชี้บ่งอันตรายโดยวิธี มอก.18001 ใช้การจำแนกประเภทกิจกรรมของ
งาน ระบุแหล่งกำเนิดของอันตราย ระบุวา่ ใครหรื ออะไรจะได้รับอันตราย และ
อันตรายจะเกิดขึ้นอย่างไร กรอกข้อมูลลงในตารางชี้บ่งอันตรายซึ่งรู ปแบบของ
ตารางเป็ นการใช้ตารางชี้บ่งอันตรายและประเมินความเสี่ ยงอยูด่ ว้ ยกัน แต่ไม่มี
ช่องมาตรการป้ องกัน โดยแยกการป้ องกันออกไปอยูอ่ ีกตารางต่างหาก เรี ยกว่า
ตารางจัดการความเสี่ ยง(ดูรายละเอียดในตัวอย่างการประเมินความเสี่ ยง)
เรื่องที่ 3.1.1 ความหมายและหลักการของการชี้บ่งอันตราย
และการประเมินความเสี่ ยง (ต่ อ)
3. การชี้บ่งอันตรายโดยวิธี Checklist
เป็ นวิธีที่ใช้ในการชี้บ่งอันตรายโดยการนำแบบตรวจไปใช้ในการตรวจสอบการดำเนินงานในสถานประกอบกิจการเพื่อ
ค้นหาอันตราย แบบตรวจประกอบด้วยหัวข้อ คำถามที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานต่างๆ เพื่อตรวจสอบว่าได้ปฏิบตั ิตาม
มาตรฐานการออกแบบ มาตรฐานการปฏิบตั ิงาน หรื อกฎหมายหรื อไม่ เพื่อนำผลจากการตรวจสอบมาทำการชี้บ่งอันตราย
ตารางที่ 3 แบบฟอร์ มการชี้บ่งอันตรายโดยวิธี Checklist
พื้นที่ / เครื่ องจักร / กระบวนการผลิต /ขั้นตอนการปฏิบตั ิงาน / กิจกรรม _______________________
ระดับ รายละเอียด
1 มีโอกาสในการเกิดยาก เช่น ไม่เคยเกิดเลยในช่วงเวลา
ตั้งแต่ 10 ปี ขึ้นไป
2 มีโอกาสในการเกิดน้อย เช่น ความถี่ในการเกิด เกิดขึ้น
1 ครั้ง ในช่วง 5 – 10 ปี
3 มีโอกาสในการเกิดปานกลาง เช่น ความถี่ในการเกิด เกิด
ขึ้น 1 ครั้ง ในช่วง 1 – 5 ปี
4 มีโอกาสในการเกิดสูง เช่น ความถี่ในการเกิด เกิด
มากกว่า 1 ครั้งใน 1 ปี
การประเมินความเสี่ ยง (Risk Assessment) (ต่ อ)
• เมื่อวิเคราะห์โอกาสของการเกิดอันตรายและระดับความรุ นแรงของอันตรายของ
เหตุการณ์ใดๆ แล้วนำมาจัดทำเป็ นตาราง Matrix เพื่อการประเมินความเสี่ ยง
ตามระเบียบกรมโรงงานอุตสาหกรรมว่าด้วยหลักเกณฑ์การชี้บ่งอันตราย การ
ประเมินความเสี่ ยงและการจัดทำแผนงานบริ หารจัดการความเสี่ ยง ซึ่งแบ่งระดับ
ความเสี่ ยงออกเป็ น 4 ระดับ เช่นกัน คือ ความเสี่ ยงเล็กน้อย ความเสี่ ยงที่ยอมรับได้
ความเสี่ ยงสูง และความเสี่ ยงที่ยอมรับไม่ได้ ดังตารางที่ 11
ตารางที่ 11 แสดงระดับความเสี่ ยงตามระเบียบกรมโรงงานอุตสาหกรรม
เกิดได้ปาน
เกิดได้ยาก เกิดได้น้อย เกิดได้สูง
กลาง
โอกาส (1) (2) (4)
(3)
ความรุนแรง
เล็กน้อย (1) เล็กน้อย (1) เล็กน้อย (2) ยอมรับได้ (3) ยอมรับได้ (4)
ปานกลาง (2) เล็กน้อย (2) ยอมรับได้ (4) ยอมรับได้ (6) สูง (8)
ยอมรับไม่ได้
สูง (3) ยอมรับได้ (3) ยอมรับได้ (6) สูง (9)
(12)
ยอมรับไม่ได้ ยอมรับไม่ได้
สูงมากบความเสี
การกำหนดระดั (4) ่ ยง ยอมรับได้ (4) สูง (8)
(12) (16)
1 – 2 จัดเป็ นระดับความเสี่ ยง เล็กน้ อย
3 – 6 จัดเป็ นระดับความเสี่ ยง ยอมรับได้
8 – 9 จัดเป็ นระดับความเสี่ ยง สู ง
12 – 16 จัดเป็ นระดับความเสี่ ยง ยอมรับไม่ ได้
จากตารางข้างต้นจะเห็นได้วา่ เมื่อวิเคราะห์เหตุการณ์ใดๆ พบว่ามีโอกาสเกิดขึ้นในระดับใด และมีระดับความรุ นแรง
อยูใ่ นระดับใด ก็จะนำมาเปรี ยบเทียบกับตารางเพื่อประเมินความเสี่ ยง ตัวอย่างเช่น ถ้าเหตุการณ์หนึ่งมีโอกาสเกิดขึ้น
ปานกลาง (3) และมีระดับความรุ นแรงสูงมาก (4) ก็พบว่าจะมีระดับความเสี่ ยงที่ยอมรับไม่ ได้ เป็ นต้น
การประเมินความเสี่ ยงตามวิธี มอก.18001
การประเมินความเสี่ ยงตามวิธี มอก. 18001 เป็ นการค้นหาอันตรายจาก
สภาพแวดล้อมในการทำงานในสถานที่ต่างๆ เทคนิคนี้ทำให้สามารถระบุลำดับ
ความเสี่ ยงของอันตรายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ กิจกรรมของงานที่ครอบคลุมสถาน
ที่ เครื่ องจักร อุปกรณ์ บุคลากร และขั้นตอนการทำงานที่อาจก่อให้เกิดการบาด
เจ็บหรื อเจ็บป่ วย ความเสี ยหายต่อทรัพย์สิน ความเสี ยหายต่อสิ่ งแวดล้อม หรื อสิ่ ง
ต่าง ๆ เพื่อให้ทราบถึงอันตรายที่มีอยูท่ ้ งั หมดในองค์กร เพื่อให้องค์กรสามารถ
พิจารณามาตรการควบคุมความเสี่ ยงที่มีอยูห่ รื อที่กำหนดเป็ นแผนงาน
การประเมินความเสี่ ยงตามวิธี มอก.18001 (ต่ อ)
ระดั ความ
รายละเอียด
บ รุนแรง
โรงงานหยุดการผลิต ความเสียหายน้อย
ทรัพย์สินเสียหายมูลค่าน้อย
1 น้อย คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ผิวหนังชั้นบนได้รับ
บาดเจ็บ ระคายเคือง
อึดอัดไม่สบาย
โรงงานหยุดการผลิต ความเสียหายไม่มาก
ทรัพย์สินเสียหายมูลค่า
2 ปานกลาง ไม่มาก คนได้รับบาดเจ็บ เป็ นบาดแผลลึก
อาการป่ วยที่อาจทำให้พิการ
เล็กน้อย กระดูกหักหรือแตกเล็กน้อย
โรงงานหยุดการผลิต ความเสียหายมาก
การประเมินความเสี่ ยงตามวิธี มอก.18001 (ต่ อ)
จากตารางข้างต้นความเสี ยหายจากการหยุดการผลิต และทรัพย์สินเสี ยหาย
มากน้อยเท่าไรขึ้นอยูก่ บั ขนาดของสถานประกอบกิจการ โดยอาจจะคิดเปรี ยบเทียบ
จากเงินลงทุน มูลค่าหรื อทรัพย์สินของสถานประกอบกิจการ ซึ่งการประเมินโดย
วิธีน้ ีจะแบ่งความรุ นแรงออกเป็ น 3 ระดับเท่านั้น ส่ วนระดับของโอกาสที่จะเกิด
อันตราย วิธีการประเมินของ มอก. 18001 แบ่งระดับของโอกาสออกเป็ น 3
ระดับเช่นกันตามตารางที่ 13 ซึ่งการแบ่งระดับนี้จะเห็นว่า แบ่งระดับ แตกต่างกับ
วิธีการประเมินความเสี่ ยงตามระเบียบกรมโรงงานอุตสาหกรรม
ตารางที่ 13 แสดงระดับของโอกาสทีจ่ ะเกิดอันตรายตามวิธี มอก.
18001
ระดั
โอกาส รายละเอียด
บ
จำนวนคนที่ต้องสัมผัสน้อย ความถี่และระยะเวลาที่สัมผัส
น้อย การสัมผัสแล้วเป็ น
1 น้อย อันตรายเฉพาะเครื่องมือ มีข้ ันตอนการปฏิบัติงานและ
เป็ นลายลักษณ์อักษร มีมาตรการ
ควบคุมการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง
จำนวนคนที่ต้องสัมผัสไม่มาก ความถี่และระยะเวลาที่
สัมผัสไม่มาก การสัมผัสแล้วเป็ น
ปาน
2 อันตรายเรื้ อรัง มีข้ ันตอนการปฏิบัติงานแต่ไม่เหมาะกับ
กลาง
ความเสี่ยง (ไม่มีเป็ นลายลักษณ์
อักษร) มีมาตรการควบคุมการปฏิบัติงานแต่ไม่ต่อเนื่อง
จำนวนคนที่ต้องสัมผัสมาก ความถี่และระยะเวลาที่สัมผัส
มาก การสัมผัสแล้วเป็ นอันตราย
3 มาก
การพิจารณาโอกาสทีจ่ ะเกิดอันตราย
หัวข้อพิจารณา น้ำ เกณฑ์การประเมินโอกาสที่เกิดอันตราย
ห 3 (มาก) 2(ปานกลาง) 1(เล็กน้อย)
น
ั
ก
คะแ
น
น
น้อยกว่า 50 น้อย
50-70 ปานกลาง
มากกว่า 70 มาก
ตารางที่ 14 ระดับความเสี่ ยงตามวิธี มอก. 18001
ความรุนแรง
ของ
อันตราย
ที่จะเกิด
อันตราย
ไม่อาจยอมรับ
มาก สูง ปานกลาง
ได้
(3) (6) (3)
(9)
การประเมินความเสี่ ยง (Risk Assessment)
ตามมาตรฐานของ มอก.18001 ให้นำตารางที่ 12 และ 13 มาจัดเข้าเป็ น
ตาราง Matrix ตามตารางที่ 14 โดยแบ่งระดับความเสี่ ยง ออกเป็ น 5
ระดับ ดังนี้
1 จัดเป็ นระดับความเสี่ ยง เล็กน้ อย
2 จัดเป็ นระดับความเสี่ ยง ยอมรับได้
3 - 4 จัดเป็ นระดับความเสี่ ยง ปานกลาง
6 จัดเป็ นระดับความเสี่ ยง สู ง
9 จัดเป็ นระดับความเสี่ ยง ไม่ อาจยอมรับได้
ตารางที่ 15 เป็ นตารางการชี้บ่งอันตรายและการประเมินความเสี่ ยงกรอกอยูใ่ น
ตารางเดียวกันดังรายละเอียดต่อไปนี้
ตารางที่ 15 ตารางการชี้บ่งอันตราย และประเมินความเสี่ ยงตาม มอก.18001
การจัดทำแผนงานจัดการความเสี่ ยง (Risk Treatment
Plan)
การแบ่งระดับความเสี่ ยงดังกล่าวข้างต้น ใช้เป็ นพื้นฐานในการตัดสิ นใจว่า
ต้องมีการจัดการความเสี่ ยง หรื อ การกำหนดมาตรการควบคุมป้ องกันคือ การกำจัด
โอกาสที่จะเกิด หรื อลดโอกาสที่จะเกิด หรื อลดความรุ นแรง หรื อลดทั้ง 2 องค์
ประกอบ รวมถึงการพิจารณากำหนดเวลาที่ใช้ในการปฏิบตั ิการควบคุมป้ องกัน ซึ่ง
จะสัมพันธ์โดยตรงกับความเสี่ ยงดังตารางที่ 16
ตารางที่ 16 แสดงระดับความเสี่ ยงและการควบคุมป้ องกัน
ระดับความ การปฏิบัติและเวลาที่ใช้
เสี่ยง
ที่ไม่อาจ งานจะเริ่มหรือทำต่อไปไม่ได้จนกว่าจะลดความเสี่ยงลง ถ้าไม่
ยอมรับได้ สามารถลดความเสี่ยงลงได้ ถึงแม้จะใช้
ความพยายามอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม จะต้องหยุดการทำงานนั้น
สูง ต้องลดความเสี่ยงลงก่อนจึงจะเริ่มทำงานได้ ต้องจัดสรรทรัพยากร
และมาตรการให้เพียงพอเพื่อลดความ
เสี่ยงนั้น เมื่อมีความเสี่ยงเกี่ยวข้องกับงานที่กำลังทำอยู่ จะต้องหา
ทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน
ปานกลาง จะต้องใช้ความพยายามที่จะลดความเสี่ยง แต่ค่าใช้จ่ายของการ
ป้ องกันควรจะมีการพิจารณาอย่าง
รอบคอบและมีการจำกัดงบประมาณ จะต้องมีมาตรการลดความเสี่ยง
ภายในเวลาที่กำหนด เมื่อความ
เสี่ยงระดับปานกลางมีความสัมพันธ์กับการเกิดความเสียหายร้ายแรง
ควรทำการประเมินเพิ่มเติม เพื่อหา
ค่าของความน่าจะเป็ นของความเสียหายที่แม่นยำขึ้น เพื่อเป็ นหลัก
พจารณาแหล
ิ ่ง
ันตราย(้
อ ืนท
พ ่ /
ี
สรุปขั้นตอนการชี้บ่งอันตราย 1
เคร่
ืองจ ักร /
กระบวนการผล ิต / การ
และประเมินความเสี่ ยง ปฏิบ
ัติงาน /ส
้
ี
ช
ิจกรรม
ก ่
บ งอ
ั
่งแวดล
ิ
นตรายโดย
้อม /
ิธ
ว ีการต ่างๆ
เช่น
2
- JSA
CHECK LIST
WHAT IF
HAZOP
FMEA
FTA, ETA
มอก. 18004
3
โอกาสการ ประเม ินความ ความร
ุ นแรง
เก
ิดอ
ันตราย เส่ยง
ี
ระด
ับ
ความ
เส
่ยง
ี
ทำให้ตัวเหตุ วิธีการ
1. ไม่เคลื่อนเข้าหาอวัยวะ 1. ยึดไว้ หน่วงไว้ ล็อคสวิทซ์
2. เคลื่อนเข้าหาแต่ไม่ตรงอวัยวะ 2.ใช้อุปกรณ์บังคับเปลี่ยนทิศทาง
3. เคลื่อนเข้าหาแต่ไม่ถึงอวัยวะ 3. ใช้วัสดุปิดกั้น
4. ถูกหุ้มด้วยวัสดุป้องกัน 4. วัสดุอ่อนนุ่ม / ฉนวน หุ้ม
5. ย้ายตำแหน่งให้ไม่ตรงอวัยวะ 5. เปลี่ยนตำแหน่งที่อยู่
6. เลิกใช้หรือเปลี่ยน 6. เปลี่ยนไปใช้ชนิดที่ปลอดภัย
กว่า
2 หลักการควบคุมป้ องกันทีอ่ วัยวะ มี 6 วิธี ดังนี้
ทำให้
อวัยวะ วิธีการ
ก.ไม่เคลื่อนไหวเข้าหาตัวเหตุ ก.กำหนดการกระทำใช้อุปกรณ์ยึดส่วน
ของร่างกาย
ข. เคลื่อนไหวมีทิศทางไม่ตรงกับตัวเหตุ ข.เปลี่ยนทิศทางการกระทำ ใช้อุปกรณ์
บังคับทิศทาง
ค. เคลื่อนไหวไปไม่ถึงตัวเหตุ ค.ใช้อุปกรณ์แทน วัสดุปิดกั้น กำหนด
ระยะของอวัยวะ
ง. สวมอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วน ง. เลือกอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วน
บุคคล บุคคล
จ. อยู่ในตำแหน่งที่ตัวเหตุจะไม่สัมผัส จ. เปลี่ยนตำแหน่งที่อยู่ของอวัยวะ
ฉ. ยกเลิกหรือเปลี่ยนการกระทำใหม่ ฉ. ทำแบบอื่นที่ปลอดภัยกว่า
เรื่องที่ 3.1.2 เทคนิคการชี้บ่งอันตรายเพือ่ ป้ องกันอุบัตเิ หตุจากการ
ทำงานแบบจับคู่ชี้บ่งอันตราย (ต่ อ)
เพื่อให้เกิดความเข้าใจ
และชัดเจนยิง่ ขึ้น ให้
ศึกษาตัวอย่างที่ 3 โดย
การกรอกข้อมูลลงใน
แบบฟอร์มที่ 2
ตัวอย่ างที่ 3 แสดงวิธีการกรอกข้อมูลเพื่อระบุสิ่งแวดล้อมการทำงานที่
อาจจะเป็ นสิ่ งคุกคามสุ ขภาพอนามัยในการทำงาน
เรื่องที่ 3.2.1 องค์ ประกอบและความสำคัญของสิ่ งแวดล้ อมการทำงาน
(ต่ อ)
2. การคัดกรอง เพื่อป้ องกันโรคจากการทำงาน โดยมีลำดับขั้นตอนดังต่อ
ไปนี้
2.1 ทำการตรวจวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมการทำงาน เพื่อใช้สำหรับพิจารณา
ว่าเป็ นสิ่ งคุกคามสุ ขภาพอนามัยหรื อไม่ โดยให้กรอกข้อมูลลงในแบบ
ฟอร์มที่ 3 ดังในแสดงในตารางที่ 3
ตารางที่ 3 แสดงข้อมูลเกี่ยวกับผลการตรวจวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมการ
ทำงาน
เรื่องที่ 3.2.1 องค์ ประกอบและความสำคัญของสิ่ งแวดล้ อมการทำงาน
(ต่ อ)
วิธีการกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มที่ 3 ให้ศึกษาจากตัวอย่างที่4 โดยให้พิจารณาว่า ถ้า
เป็ นสิ่ งแวดล้อมการทำงานด้านกายภาพ ให้เปรี ยบเทียบผลที่ตรวจวิเคราะห์ที่ได้กบั เกณฑ์
มาตรฐานทางกฎหมาย ถ้าได้ผลลัพท์ ตั้งแต่ร้อยละ 90 ขึ้นไปของเกณฑ์มาตรฐาน ให้ถือเป็ นสิ่ ง
คุกคามสุ ขภาพอนามัย สำหรับสิ่ งแวดล้อมการทำงานด้านเคมีที่ตรวจวิเคราะห์ได้ต้ งั แต่ร้อยละ 2
0 ขึ้นไปของเกณฑ์มาตรฐาน ให้จดั เป็ นสิ่ งคุกคามสุ ขภาพอนามัย ทั้งนี้เกณฑ์มาตรฐานความ
ปลอดภัยมีท้ งั ของประเทศไทยและต่างประเทศ ถ้าค่ามาตรฐานมีความแตกต่างกันให้เปรี ยบเทียบ
ร้อยละกับเกณฑ์ที่มีค่าน้อยกว่า เช่น สาร A ประเทศไทย กำหนดค่ามาตรฐานความปลอดภัย
เท่ากับ 10 ส่ วนในล้านส่ วน แต่ประเทศสหรัฐอเมริ กากำหนดค่ามาตรฐานความปลอดภัย
เท่ากับ 1 ส่ วนในล้านส่ วน ให้ทำการเปรี ยบเทียบร้อยละกับ 1 ส่ วนในล้านส่ วน ดังนั้นหาก
ตรวจวิเคราะห์สาร A จากบรรยากาศการทำงานได้มากกว่า 0.2 ส่ วนในล้านส่ วน ก็จะเข้าข่าย
ว่าเป็ นสิ่ งคุกคามสุ ขภาพอนามัยได้ ดังแสดงในตัวอย่างที่ 4
ตัวอย่ างที่ 4 แสดงวิธีการกรอกข้อมูลเกี่ยวกับผลการตรวจวิเคราะห์สิ่ง
แวดล้อมการทำงานลงในแบบฟอร์มที่ 3
เรื่องที่ 3.2.1 องค์ ประกอบและความสำคัญของสิ่ งแวดล้ อมการทำงาน
(ต่ อ)
2.2 จัดให้มีการตรวจสุ ขภาพของผูท้ ี่ปฏิบตั ิงานตามที่กำหนดไว้ในข้อ 2.1
กล่าวคือ สิ่ งแวดล้อมทางเคมีที่ตรวจวิเคราะห์ได้มากกว่ าร้ อยละ 20 ของค่า
มาตรฐาน และสิ่ งแวดล้อมทางกายภาพที่ตรวจได้มีค่ามากกว่ าร้ อยละ 90 ของค่า
มาตรฐาน ถือว่าเป็ นสิ่ งคุกคามสุ ขภาพอนามัย จะต้องจัดให้คนที่ทำงานในบริ เวณ
ดังกล่าว ไปตรวจสุ ขภาพให้สอดคล้องกับสิ่ งคุกคามนั้น แล้วนำข้อมูลมากรอกใน
แบบฟอร์มที่ 4 ดังแสดงในตารางที่ 4
ตารางที่ 4 แสดงข้อมูลเกี่ยวกับผลการตรวจสุ ขภาพที่สอดคล้องกับสิ่ งคุกคาม
สุ ขภาพโดยการจำแนกเป็ นรายบุคคล
เรื่องที่ 3.2.1 องค์ ประกอบและความสำคัญของสิ่ งแวดล้ อมการทำงา
น (ต่ อ)
การประเมินสิ่ งคุกคามด้านสิ่ งแวดล้อมการทำงานว่าอยูใ่ นระดับสูงหรื อต่ำให้เทียบกับเกณฑ์
มาตรฐานตามที่ได้อธิบายไว้แล้วในข้อ 2.1 ส่ วนการประเมินผลการตรวจสุ ขภาพของผู้
ที่สมั ผัสสิ่ งแวดล้อมด้านกายภาพว่าอยูใ่ นระดับสูงหรื อต่ำ ให้ใช้หลักเกณฑ์วา่ หากพบความ
ผิดปกติจะมากหรื อน้อยก็ตาม ให้จดั ว่าอยูใ่ นระดับสูง เช่น ทดสอบสมรรถภาพการได้ยนิ
พบว่ามีการสูญเสี ยการได้ยนิ จะมากหรื อน้อยก็ตามถือว่าอยูใ่ นระดับสูง แต่ถา้ พบว่าการ
ได้ยนิ เป็ นปกติจดั ว่าอยูใ่ นระดับต่ำ สำหรับการประเมินผลการตรวจสุ ขภาพของผูป้ ฏิบตั ิ
งานที่สมั ผัสสารเคมีวา่ อยูใ่ นระดับสูงหรื อต่ำ ให้เทียบกับค่ามาตรฐานทางชีวภาพ (Biolo
gical exposure indices BEI) โดยถ้าตรวจพบว่ามีค่าร้ อยละ 80 ขึ้นไป
ของค่ามาตรฐานฯจะจัดอยูใ่ นระดับสูง ดังแสดงในตัวอย่างที่ 5
ตัวอย่ างที่ 5 ผลการตรวจสุ ขภาพที่สอดคล้องกับสิ่ งคุกคามสุ ขภาพ
อนามัยโดยการจำแนกเป็ นรายบุคคล
เรื่องที่ 3.2.1 องค์ ประกอบและความสำคัญของสิ่ งแวดล้ อมการทำงาน
(ต่ อ)
หมายเหตุ การตรวจสุ ขภาพผูท้ ี่สมั ผัสกับสารอะซิโตน คือการตรวจสารอะซิโตนจากปัสสาวะเมื่อสิ้ นสุ ดเวลาการทำงาน โดย
เกณฑ์มาตรฐานเท่ากับ 50 มิลลิกรัมต่อลิตร ดังนั้นถ้าใช้เกณฑ์มาตรฐานทาวชีวภาพของสารอะซิโตนร้อยละ 80 จะเท่ากับ
40 มิลลิกรัมต่อลิตร โดยผลจากการตรวจปัสสาวะพบอะซีโตน 42 และ45 มิลลิกรัมต่อลิตร จึงเข้าข่ายว่าอยูใ่ นระดับสู ง
2.3 ทำการคัดกรองโดยพิจารณาความสัมพันธ์ของผลการตรวจสิ่ งคุกคามด้านสิ่ งแวดล้อมการทำงาน และผลการตรวจสุ ขภาพ
หากผลการตรวจสุ ขภาพ เกินเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยฯหรื อเกินร้อยละ 80 ของค่ามาตรฐานฯ จะเข้าข่าย “สูง” แต่ถา้ ไม่
เกินเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยฯหรื อไม่เกินร้อยละ 80 ของค่ามาตรฐานฯ จะเข้าข่าย “ต่ำ” แล้วมาพิจารณาหาความสัมพันธ์
ดังนี้
ความสัมพันธ์ : 1. ผลการตรวจสิ่ งแวดล้อมสูง ผลการตรวจสุ ขภาพสูง เสี่ ยงมาก
2. ผลการตรวจสิ่ งแวดล้อมสูง ผลการตรวจสุ ขภาพต่ำ เสี่ ยง
3. ผลการตรวจสิ่ งแวดล้อมต่ำ ผลการตรวจสุ ขภาพสูง เสี่ ยง
4. ผลการตรวจสิ่ งแวดล้อมต่ำ ผลการตรวจสุ ขภาพต่ำ เป็ นความ-
เสี่ ยงที่ยอมรับได้ ในระยะเวลา 1 ปี ปี ต่ อไปต้ องตรวจสุ ขภาพซ้ำอีก