You are on page 1of 26

รายงาน

เรื่อง ประวัติวอลเลย์บอล

จัดทำโดย

ด.ญ.ประภาวดี พรมจันทร์

เลขที่ 30 ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3/8

เสนอ

คุณครู สมวาท โทแก้ว


โรงเรียนมัธยมตระการพืชผล

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29
ประวัติ
ต้นกำเนิดกีฬาวอลเลย์บอล
กีฬาวอลเลย์บอลถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1895 โดยนายวิล
เลียม จี. มอร์แกน ผู้อำนวยการฝ่ ายพลศึกษาของสมาคม วายเอ็ม
ซีเอ เมืองฮอลโยค รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศอเมริกา ซึ่งได้เกิด
ขึ้นเพียง 1 ปี ก่อนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิ กสมัยใหม่ ครั้งที่ 1 ณ
กรุงเอเธนส์ โดยเขามีความคิดที่ต้องการให้มีกีฬาสำหรับเล่นใน
ช่วงฤดูหนาวแทนกีฬากลางแจ้งเพื่อออกกำลังกายพักผ่อนหย่อน
ใจยามหิมะตก

เขาได้เกิดแนวความคิดที่จะนำลักษณะและวิธีการ เล่นของ
กีฬาเทนนิสมาดัดแปลงใช้เล่น จึงใช้ตาข่ายเทนนิสซึ่งระหว่างเสา
โรงยิมเนเซียม สูงจากพื้นประมาณ 6 ฟุต 6 นิ้ว และใช้ยางในของ
ลูกบาสเกตบอลสูบลมให้แน่น แล้วใช้มือและแขนตีโต้ข้ามตาข่าย
กันไปมา แต่เนื่องจากยางในของลูกบาสเกตบอลเบาเกินไป ทำให้
ลูกบอลเคลื่อนที่ช้าและทิศทางที่เคลื่อนไปไม่แน่นอน จึงเปลี่ยน
มาใช้ลูกบาสเกตบอล แต่ลูกบาสเกตบอลก็ใหญ่ หนักและแข็งเกิน
ไป ทำให้มือของผู้เล่นได้รับบาดเจ็บ

จนในที่สุดเขาจึงให้บริษัท Ant G. Spalding and Brother


Company ผลิตลูกบอลที่หุ้มด้วยหนังและบุด้วยยาง มีเส้นรอบ
วง 25-27 นิ้ว มีน้ำหนัก 8-12 ออนซ์ หลังจากทดลองเล่นแล้ว
เขาจึงตั้งชื่อเกมการเล่นนี้ว่า "มินโทเนตต์" (Mintonette)
ค.ศ.1896 ได้มีการประชุมสัมมนาผู้นำทางพลศึกษาที่วิทยา
ลัยสปริงฟี ลด์ (Spring-field College) นายวิลเลียม จี มอร์แกน
ได้สาธิตวิธีการเล่นต่อหน้าที่ประชุมหลังจากที่ประชุมได้ชมการ
สาธิต ศาสตราจารย์ อัลเฟรด ที เฮลสเตด (Alfred T.
Helstead) ได้เสนอแนะให้มอร์แกนเปลี่ยนจากมินโทเนต
ต์ (Mintonette) เป็ น "วอลเลย์บอล" (Volleyball) โดยให้ความ
เห็นว่าเป็ นวิธีการเล่นโต้ลูกบอลให้ลอยข้ามตาข่ายไปมาในอากาศ
โดยผู้เล่นพยายามไม่ให้ลูกบอลตกพื้น

ประวัติกีฬาวอลเลย์บอล และประวัติสหพันธ์
วอลเลย์บอลนานาชาติ

ปี ค.ศ. 1895

นายวิลเลียม จี มอร์แกน (William G.Morgan) ได้คิดค้นเกมการ


เล่นวอลเลย์บอลขึ้น ที่สมาคม Y.M.C.A. ในเมืองโฮลโยค รัฐแมส
ซาชูเซตส์ (Holyoke, Massachusetts) ประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยใช้ชื่อ มินโตเนต (Mintonette)
ปี ค.ศ. 1896

ศาสตราจารย์อัลเฟรด ที ฮอลสเตด (Prof.Alfred T.Halstead)


ได้เสนอให้เปลี่ยนชื่อจาก “มินโตเนต (Mintonette)” เป็ น
“วอลเลย์บอล (Volleyball)”

ปี ค.ศ. 1898

ประเทศแคนาดาได้พัฒนากีฬาวอลเลย์บอลเพื่อเป็ นกิจกรรม
นันทนาการ (Recreation Activity)

ปี ค.ศ. 1905

ศาสตราจารย์เจ ฮาวาร์ด โครเกอร์ (Prof J. Haward Crocher)


ได้นำกีฬาวอลเลย์บอลเข้าไปเผยแพร่ในประเทศจีน (China)

ปี ค.ศ. 1908

นายแฟรงกิน เอช บราวน์ (Franklin H.Brown) ได้นำกีฬา


วอลเลย์บอลเข้าไปเผยแพร่ในประเทศญี่ปุ่น (Japan)

ประวัติวอลเลย์บอล ปี ค.ศ. 1910

นายเอลวู๊ด เอส บราวน์ Elwood S.Brown ช่วยจัดตั้งสมาคม


วอลเลย์บอลในประเทศฟิ ลิปปิ นส์ (Philippines)

ปี ค.ศ. 1913
ได้มีการบรรจุกีฬาวอลเลย์บอลเข้าในการแข่งขันกีฬาภาคพื้น
ตะวันออกไกล (Far Eastern Games) ครั้งที่ 1 ณ กรุงมะนิลา
ประเทศฟิ ลิปปิ นส์ (Manila, Philippines)

ปี ค.ศ. 1918

ได้กำหนดให้ใช้ผู้เล่นข้างละ 6 คน

ปี ค.ศ. 1922

ได้กำหนดกติกาให้แต่ละทีมเล่นลูกได้ไม่เกิน 3 ครั้ง และได้มีการ


ก่อตั้งสมาคมวอลเลย์บอลและบาสเกตบอลขึ้นเป็ นครั้งแรกใน
ประเทศเชคโกสโลวาเกีย

ปี ค.ศ. 1928

มีการก่อตั้งสมาคมวอลเลย์บอลขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา มี
การจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลชิงชนะเลิศแห่งประเทศ
สหรัฐอเมริกา ครั้งที่ 1 ที่ Brooklyn Central Y.M.C.A. (USA
National Volleyball Championships)

ปี ค.ศ. 1933

ได้บรรจุกีฬาวอลเลย์บอลหญิงในการแข่งขันกีฬา Central
American และ Caribbean Game ในกรุงซาน ซิลวาดอร์ (San
Salvador) ประเทศเอลซัลวาดอร์ (El Salvador)
ปี ค.ศ. 1934

มีการจัดตั้งคณะกรรมการกีฬาวอลเลย์บอลนานาชาติเป็ นครั้ง
แรกภายใต้สหพันธ์แฮนด์บอล

ปี ค.ศ. 1946

ประเทศโปแลนด์ ฝรั่งเศส เชคโกสโลวาเกีย สหรัฐอเมริกา


สหภาพโซเวียตรัสเซียและโรมาเนีย ได้ร่วมกันก่อตั้งคณะ
กรรมการที่ดำเนินการด้วยตนเองขึ้นครั้งแรก

การจัดตั้งสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ

ปี ค.ศ. 1947

14 ประเทศ ได้ร่วมกันจัดตั้งสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (The


Federation International De Volleyball : FIVB) ขึ้นในกรุง
ปารีส ประเทศฝรั่งเศส และได้เลือกนายพอล ลิบอร์ด (Paul
Libaud) เป็ นประธานสหพันธ์คนแรก โดยมีประเทศที่ร่วมกันจัด
ตั้ง ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เชคโกสโลวาเกีย
โปแลนด์ อียิปต์ อิตาลี เนเธอแลนด์ เบลเยียม โปรตุเกส
โรมาเนีย ตุรกี บราซิล อุรุกวัย ยูโกสลาเวีย (อิสราเอลและ
เลบานอนได้เข้าร่วมเป็ นสมาชิกในปี ค.ศ. 1949)
ปี ค.ศ. 1948

การแข่งขันวอลเลย์บอลชิงชนะเลิศแห่งทวีปยุโรป ครั้งที่ 1
ประเภทชาย ที่กรุงโรม ระหว่างวันที่ 24-26 กันยายน

ปี ค.ศ. 1949

– จัดการแข่งขันวอลเลย์บอลชิงชนะเลิศของโลกเป็ นครั้งแรก ณ
กรุงปราก (Prague) ประเทศเชคโกสโลวาเกีย
(Czechoslovakia)

– คณะกรรมการโอลิมปิ กสากล (International Olympic


Committee-IOC) ได้ประกาศรับรองกีฬาชนิดนี้ แต่ยังอยู่ใน
ฐานะกีฬาที่ไม่ได้มีการแข่งขันในกีฬาโอลิมปิ ก (Non Olympic
Sport)

– การแข่งขันชิงแชมป์ โลก ประเภททีมชาย (Men’S World


Championships) ครั้งแรก ณ กรุงปราก (Prague)

– การแข่งขันชิงแชมป์ ยุโรป (European Champions) ประเภท


ทีมหญิงครั้งแรก ณ กรุงปราก (Prague)

– มีการใช้ระบบการรุก 3 คน และมีการล้ำแดนของตัวเซตที่อยู่
แดนหลัง

ปี ค.ศ. 1951
อนุญาตให้มือสามารถล้ำเหนือตาข่ายได้ ภายใต้เงื่อนไขคือการ
สกัดกั้น

ปี ค.ศ. 1952

การแข่งขันชิงแชมป์ โลก ประเภททีมหญิง (Women’S World


Championships) ครั้งแรก ณ กรุงมอสโคว์ ประเทศรัสเซีย
(Moscow, Russia)

ปี ค.ศ. 1955

– กีฬาวอลเลย์บอลได้ถูกบรรจุเข้าใน “แพนอเมริกันเกม ครั้งที่


2” (The 2nd Pan American Games) ณ เมืองเม็กซิโกซิตี้
(Mexico City)

– นายมาซาอิชิ นิชิกาว่า (Masaichi Nishikawa) นายกสมาคม


วอลเลย์บอลแห่งประเทศญี่ปุ่นได้จัดตั้งสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่ง
เอเชีย (Asian Volleyball Confederation : AVC) ขึ้น

ปี ค.ศ. 1956
จัดการแข่งขันวอลเลย์บอลชาย-หญิงชิงแชมป์ โลกในเวลาเดียวกัน
เป็ นครั้งแรก ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส (Paris, France) โดย
มีทีมชาย 24 ทีม และ หญิง 17 ทีม

ปี ค.ศ. 1957

คณะกรรมการโอลิมปิ กสากล (IOC) ได้มีการประชุมที่เมืองโซเฟี ย


ประเทศบัลแกเรีย (Sofia, Bulgaria) และยอมรับกีฬา
วอลเลย์บอลเข้าเป็ นกีฬาชนิดหนึ่งในกีฬาโอลิมปิ ก และประกาศ
ให้สหพันธ์วอลเลย์นานาชาติ (FIVB) เป็ นองค์กรกีฬาสากลมีผล
บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายนเป็ นต้นไป

ปี ค.ศ. 1961

คณะกรรมการโอลิมปิ กสากล (IOC) และคณะกรรมการจัดการ


แข่งขันโอลิมปิ ก (OCOG : Organising Committee of The
Olympic Game) แห่งประเทศญี่ปุ่น ได้บรรจุกีฬาวอลเลย์บอล
เข้าเป็ นกีฬาชนิดหนึ่งในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิ กที่จัดขึ้นที่กรุง
โตเกียวด้วย

ปี ค.ศ. 1963

สหพันธ์วอลเลย์บอลยุโรป (The European Volleyball


Confederation : CEV) ได้จัดตั้งคณะกรรมการในโซนของยุโรป
ปี ค.ศ. 1964

– กีฬาวอลเลย์บอลชาย-หญิงได้ถูกบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬา
โอลิมปิ กเป็ นครั้งแรกที่จัดขึ้นที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น (เหรียญ
ทองหญิง ได้แก่ ทีมญี่ปุ่นเหรียญทองชาย ได้แก่ ทีมสหภาพ
โซเวียตรัสเซีย)

– ได้มีการปรับปรุงกติกาการสกัดกั้นใหม่ (อนุญาตให้มือทั้งสอง
ลำ้เหนือตาข่ายและอนุญาตให้ถูกลูกขณะสกัดกั้นเกินกว่า 1 ครั้ง
ได้)

วิวัฒนาการวอลเลย์บอล (Volleyball) ปี ค.ศ 2000 –


ปั จจุบัน

ปี ค.ศ. 2000

– การแข่งขันกีฬาโอลิมปิ กเกมที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย


มีการแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด ประเภทชาย 24 คู่ หญิง 24
คู่ วอลเลย์บอลในร่มประเภทชาย 12 ทีม หญิง 12 ทีม และ
สาธารณรัฐคิรินาส (Kiribati) ได้เข้าร่วมเป็ นสมาชิกลำดับที่ 218
– ระบบการนับคะแนนแบบ Rally Point ถูกนำไปใช้กับการ
แข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด

– มีการยอมรับกติกาการเสิร์ฟบอลสามารถถูกตาข่ายได้

– การเฉลิมฉลองให้กับผู้เล่นที่ดีที่สุดแห่งศตวรรษ (Best Players


of Century) ได้แก่ Karch Kiraly จากสหรัฐอเมริกา Lorenzo
Bernardi จากอิตาลี และ Regla Torres จากเจ้าของแชมป์
โอลิมปิ ก 3 สมัยอย่างคิวบา

ปี ค.ศ. 2002

– มีการประชุมใหญ่สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ ครั้งที่ 28 ณ
กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา (Buenos, Aires,
Argentina) ได้มีการกำหนดความสูงของผู้เข้าแข่งขัน ชาย 185
เซนติเมตรขึ้นไป หญิง 175 เซนติเมตรขึ้นไป

– ประเทศเยอรมนี (Germany) เป็ นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน


วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์ โลก โดยมีทีมเข้าร่วม 24 ทีม แข่งขัน
ในเมื่อต่างๆ ถึง 8 เมือง

– ประเทศอาร์เจตินา (Argentina) เป็ นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน


วอลเลย์บอลชายชิงแชมป์ โลก โดยมีทีมเข้าร่วม 24 ทีม แข่งขัน
ในเมืองต่างๆ ถึง 6 เมือง

ปี ค.ศ. 2004
– การแข่งขันกีฬาโอลิมปิ กเกมที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ
(Athens, Greece) มีการแข่งขันวอลเลย์บอลในร่มประเภททีม
ชาย จำนวน 12 ทีม ประเภททีมหญิงจำนวน 12 ทีม และ
วอลเลย์บอลชายหาดจำนวน 24 ทีม หญิง จำนวน 24 ทีม

– ทีมชนะเลิศวอลเลย์บอลประเภทชาย ได้แก่ บราซิล และ


ประเภทหญิง ได้แก่ ประเทศจีน

ปี ค.ศ. 2006

การแข่งขัน FIVB Volleyball World Championship ทีมชนะ


เลิศประเภทชาย ได้แก่ บราซิล และประเภทหญิง ได้แก่ รัสเซีย

ปี ค.ศ. 2007

การแข่งขัน FIVB World Cup ทีมชนะเลิศประเภทชาย ได้แก่


บราซิล และ ประเภทหญิง ได้แก่ อิตาลี

ปี ค.ศ. 2008

การแข่งขันโอลิมปิ กที่ประเทศจีน ทีมชนะเลิศประเภทชาย ได้แก่


สหรัฐอเมริกา และประเภทหญิง ได้แก่ บราซิล

ปี ค.ศ. 2009
– การแข่งขันรายการ FIVB Club World Championship
ประเภททีมชายได้นำกลับมาลงในปฏิทินการแข่งขันระดับ
นานาชาติอีกครั้ง หลังจากที่มีการแข่งขันล่าสุดในปี 1992

ปี ค.ศ. 2010

– กีฬาวอลเลย์บอลประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ กับการเริ่ม
ฤดูกาลแข่งขันกีฬาโอลิมปิ กเยาวชน ณ ประเทศสิงคโปร์

– การแข่งขันรายการ FIVB Club World Championship


ประเภททีมหญิงได้นำกลับมาลงในปฏิทินการแข่งขันอีกครั้ง หลัง
จากที่มีการแข่งขันครั้งแรกในปี 1994 หลังจากที่ประเภททีมชาย
ประสบความสำเร็จในการแข่งขันเมื่อปี ก่อนหน้านี้

– การแข่งขันเพื่อชิงถ้วยรางวัล Continental Cup ถูกกำหนด


ขึ้นครั้งแรกในการแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด ที่จะจัดขึ้นในการ
แข่งขันกีฬาโอลิมปิ ก 2012 ณ กรุงลอนดอน (London,
England)

ปี ค.ศ. 2011

– ระบบการนับแต้มแบบใหม่ได้มีการนำไปใช้กันอย่างแพร่หลาย
ในการแข่งขัน โดยได้รับการยืนยันโดยผู้บริหารของ FIVB ในการ
แข่งขันที่มีการชนะที่ 3 ต่อ 0 หรือ 3 ต่อ 1 โดยผู้ชนะจะได้ 3
แต้ม และผู้แพ้จะได้ 0 เช่นกันกับการชนะแต้ม 3 ต่อ 2 ซึ่งจะ
หมายถึง ผู้ชนะได้ 2 แต้ม และผู้แพ้ได้ 1 แต้ม ในกรณีที่แต้ม
เสมอกันจะนับคะแนนเป็ นแบบ Set Ratio ซึ่งจะต่างจากการนับ
คะแนนแบบ Point Ratio ในอดีตที่ผ่านมา

ปี ค.ศ. 2012

– มีการปรับปรุงแก้ไขเรื่องเครื่องแบบของผู้เล่นฝ่ ายหญิงโดยมี
ทางเลือกให้ 3 ทาง คือ ผู้เล่นสามารถสวมปลอกหุ้มหัวเข่าความ
ยาวอย่างมากที่สุด 3 เซนติเมตร ไว้เหนือเข่าหรือใส่แบบครึ่งตัว
หรือใส่แบบเต็มตัว โดยให้ขึ้นอยู่กับการเคารพในกฎและหรือ
ความเชื่อของแต่ละศาสนา

การเข้ามาในประเทศไทย

วอลเลย์บอลได้แพร่เข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงไหนนั้นยัง
ไม่มีหลักฐานแน่ชัด แต่ชาวไทยบางกลุ่มเริ่มเล่นและแข่งขัน
วอลเลย์บอลในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ปี 2477 กรมพลศึกษา
ได้จัดพิมพ์กติกาเผยแพร่โดยอาจารย์นพคุณ พงษ์สุวรรณซึ่งจัดให้
มีการแข่งขันกีฬาประจำปี และบรรจุกีฬาวอลเลย์บอลหญิงเข้าไว้
ในรายการแข่งขันเป็ นครั้งแรกโดยใช้กติกาการเล่นระบบ 9 คน
และตั้งแต่นั้นมากีฬาวอลเลย์บอลก็พัฒนาขึ้นมาโดยตลอด ต่อมา
เมื่อปี 2500 ได้มีการประชุมหารือพิจารณาจัดตั้งสมาคมขึ้นมารับ
ผิดชอบ จนกระทั่งมีการจัดตั้งสมาคมวอลเลย์บอลสมัครเล่นแห่ง
ประเทศไทย (Amateur Volleyball Association of
Thailand) อย่างเป็ นทางการขึ้นเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ.
2502 และเปลี่ยนระบบการแข่งขันเป็ น 6 คน และต่อมาได้บรรจุ
เข้าในหลักสูตรชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นเมื่อปี 2521 หลักสูตรชั้น
มัธยมศึกษาตอนปลายเมื่อปี 2524

ค.ศ. 1928 ดร.จอร์จ เจ ฟิ เชอร์ (Dr. George J. Fisher) ได้


ปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงกติกาการเล่นวอลเลย์บอล เพื่อใช้ใน
การแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลในระดับชาติ และได้เผยแพร่กีฬา
วอลเลย์บอลจนได้รับสมญานามว่า บิดาแห่งกีฬาวอลเลย์บอล

องค์กรบริหารกีฬาวอลเลย์บอล
สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย (อังกฤษ:
Thailand Volleyball Association) เป็ นองค์กรกีฬาระดับชาติ
สำหรับบริหารกิตติกีฬาวอลเลย์บอลของไทย ทำหน้าที่จัดการ
แข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลอย่างเป็ นทางการ ทั้งวอลเลย์บอลในร่ม
และวอลเลย์บอลชายหาด และให้การสนับสนุนวอลเลย์บอลทีม
ชาติของไทย สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย เป็ น
สมาชิกของสมาพันธ์วอลเลย์บอลเอเชีย และสหพันธ์วอลเลย์บอล
ระหว่างประเทศ ซึ่งส่งผลให้กีฬาวอลเลย์บอลของไทยเป็ นที่
ยอมรับทั้งระดับทวีปและระดับโลก สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่การ
กีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก กรุงเทพมหานคร
สมาพันธ์วอลเลย์บอลเอเชีย (อังกฤษ: Asian Volleyball
Confederation (AVC)) หรือที่เรียกกันโดยย่อว่า เอวีซี เป็ น
องค์กรกีฬาระดับทวีป สำหรับบริหารกีฬาวอลเลย์บอลในทวีป
เอเชียและเขตโอเชียเนีย ทั้งวอลเลย์บอลในร่มและวอลเลย์บอล
ชายหาด สมาพันธ์วอลเลย์บอลเอเชียเป็ นสมาชิกของสหพันธ์
วอลเลย์บอลระหว่างประเทศ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่
กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

สหพันธ์วอลเลย์บอลระหว่างประเทศ (ฝรั่งเศส: Fédération


Internationale de Volleyball (FIVB)) หรือที่เรียกกันโดยย่อ
ว่า เอฟไอวีบี เป็ นองค์กรกีฬาระดับโลก เป็ นองค์กรสูงสุดสำหรับ
บริหารกีฬาวอลเลย์บอล ทั้งวอลเลย์บอลในร่มและวอลเลย์บอล
ชายหาด สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่โลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

สนาม

*ขนาดสนาม ยาว 18 เมตร กว้าง 9 เมตร ถูกแบ่งออกเป็ น 2 ฝั่ ง


แดนด้วยตาข่าย ทำให้เกิดพื้นที่แดนละ 9×9 เมตร

*พื้นที่โล่ง พื้นที่โล่งเหนือสนามควรสูงอย่างน้อย 7 เมตร แต่


แนะนำที่สูง 8 เมตร ส่วนพื้นที่โล่งรอบสนามควรกว้างอย่างน้อย
3 เมตรขึ้นไป ในการแข่งขันระดับโลกหรือที่เป็ นทางการมัก
กำหนดพื้นที่โล่งเหนือสนามที่ 12.5 เมตร ด้านข้าง 5 เมตร ด้าน
หลัง 6.5 เมตร

*สีพื้นสนาม สีพื้นสนามต้องเป็ นสีอ่อนและสีแตกต่างกับพื้นที่โล่ง


รอบสนาม

*ตาข่าย กว้าง 1 เมตร ขึงเหนือเส้นกลางสนาม แถบบนของ


ตาข่ายกว้าง 7 ซม.

-ประเภทชาย ส่วนบนของตาข่ายจะสูงจากพื้นสนาม 2.43


เมตร (8 ฟุต)

-ประเภทหญิง ส่วนบนของตาข่ายจะสูงจากพื้นสนาม 2.24


เมตร (7 ฟุต 4 นิ้ว)

*เส้นขอบสนาม เป็ นเส้นสีขาวรอบพื้นที่สนาม กว้าง 2 นิ้ว (5


ซม.) ประกอบด้วยเส้นข้างและเส้นหลัง ถือเป็ นเส้นแสดงขอบเขต
และเป็ นส่วนหนึ่งของพื้นที่สนาม

*เส้น 3 เมตร เป็ นเส้นที่ขนานกับตาข่าย โดยห่างจากตาข่าย 3


เมตรทั้งสองแดน เส้นนี้จะแบ่งแดนแต่ละฝั่ งออกเป็ นแดนหน้ากับ
แดนหลัง เป็ นเส้นกำหนดขอบเขตการโจมตีของผู้เล่นแดนหลัง
*เส้นจำกัดขอบเขตผู้ฝึ กสอน เป็ นเส้นประที่วาดต่อจากเส้นรุก
ออกไปด้านข้างยาว 1.75 เมตร แล้วจึงลากตั้งฉากโดยขนานไป
กับเส้นข้างจนสุดเส้นหลังของสนาม

*เสาอากาศ เป็ นเสาที่ติดอยู่ข้างตาข่ายทั้ง 2 ด้านและอยู่เหนือ


เส้นข้างของสนาม เสาสูง 1.8 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 10 มม.
เสาอากาศมักมีแถบสีแดงสลับขาว เสาอากาศจะยื่นขึ้นไปด้านบน
นับจากด้านบนตาข่าย 80 ซม. เพื่อแสดงสมมติฐานแนวเพดาน
ของเส้นข้าง บอลจะข้ามตาข่ายอย่างถูกต้องก็ต่อเมื่อบอลผ่าน
ระหว่างเสาอากาศทั้ง 2 ด้านและไม่สัมผัสโดนเสาอากาศ

*อุณหภูมิ อุณหภูมิภายในสนามไม่ควรต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส


ส่วนการแข่งขันระดับโลกหรือที่เป็ นทางการมักกำหนดอุณหภูมิ
อยู่ในช่วง 16–25 องศาเซลเซียส

*แสง การแข่งขันระดับโลกหรือที่เป็ นทางการมักกำหนดที่


1,000–1,500 ลักซ์โดยวัดที่ระดับจากพื้นสนามขึ้นมา 1 เมตร

บอล

สหพันธ์วอลเลย์บอลระหว่างประเทศ กำหนดว่าบอลต้องมี
ลักษณะทรงกลม ทำจากหนังหรือหนังสังเคราะห์ มีเส้นรอบวง
65–67 ซม. หนัก 260–280 กรัม และแรงดันภายใน 0.30–
0.325 กก./ตร.ซม. โดยอาจเป็ นสีเดียวหรือหลากสีประกอบกัน
ถ้าจำเป็ น

ผู้เล่น

ผู้เล่นในสนามมี 2 ทีม ทีมละ 6 คน แดนหลังประกอบด้วยผู้เล่น


ในตำแหน่งที่ 5, 6 และ 1 ส่วนแดนหน้าประกอบด้วยผู้เล่นใน
ตำแหน่งที่ 4, 3 และ 2 โดยนับจากซ้าย(ดังรูป) ตำแหน่งที่ 1 คือ
ตำแหน่งผู้เล่นเสิร์ฟ

*ตัวตั้ง หรือ ตัวเซ็ต (Setter) มักต่อบอลในบอลที่สองโดยการ


ตั้งบอลไปยังตัวรุกเพื่อทำคะแนน ตัวเซ็ตต้องมีลักษณะที่ปราด
เปรียวว่องไว ไหวพริบดี มียุทธวิธีในการเลือกตัวรุกเพื่อทำ
คะแนน

*ตัวบล็อกกลาง หรือ ตัวตีกลาง (Middle blocker / Middle


hitter) คือผู้เล่นที่สามารถรุกได้อย่างรวดเร็วโดยมักอยู่ใกล้ตัว
เซ็ต รวมทั้งมีการบล็อกที่ดี นอกจากนี้ยังต้องสามารถขึ้นบล็อกคู่
ด้านข้างของสนามได้เป็ นอย่างดี แต่ละทีมมักจะมีผู้เล่นตำแหน่งนี้
2 คน

*ตัวตีด้านนอก หรือ ตัวตีด้านซ้าย (Outside hitter / Left


side hitter) บางครั้งเรียกว่า ตัวตีหัวเสา ทำหน้าที่บุกจากเสา
อากาศด้านซ้าย มักจะเป็ นตัวตบที่คงเส้นคงวาที่สุดของทีมและ
มักจะได้บอลจากตัวเซ็ตมากที่สุด กรณีรับบอลแรกไม่เข้าจุด ตัว
เซ็ตจำเป็ นต้องเซ็ตลูกโด่ง ท้ายที่สุดมักจะเซ็ตบอลมาให้ตำแหน่ง
นี้ แต่ละทีมมักจะมีผู้เล่นตำแหน่งนี้ 2 คน

*ตัวตีตรงข้าม หรือ ตัวตีด้านขวา (Opposite hitter / Right


side hitter) รับหน้าที่เป็ นแนวหน้าปกป้ องเกมรุกของคู่แข่งเป็ น
หลัก อยู่บริเวณเสาอากาศด้านขวา โดยคอยบล็อกตัวตีด้านซ้าย
ของคู่แข่ง และยังเป็ นดั่งตัวเซ็ตสำรองด้วย

*ตัวรับอิสระ หรือ ลิเบโร (Libero) คือผู้เล่นที่ชำนาญเกมรับ


เป็ นพิเศษและไม่จำเป็ นต้องตัวสูง ถือเป็ นตัวที่ต่อบอลได้ดีที่สุด
ของทีม และจะต้องสวมชุดที่ต่างจากผู้เล่นคนอื่นในทีม ลิเบโร
ไม่มีสิทธิ์บล็อกหรือตีบอลขณะบอลอยู่เหนือตาข่ายได้ เมื่อเกม
หยุด ลิเบโรสามารถเปลี่ยนตัวกับผู้เล่นแดนหลังได้โดยไม่ต้องแจ้ง
ผู้ตัดสินและจะไม่นับรวมว่าเป็ นการเปลี่ยนตัวของทีม ลิเบโรสา
มารถเซ็ตบอลเหนือศีรษะคล้ายตัวเซ็ตได้ก็ต่อเมื่อยืนอยู่หลังเส้น
รุกเท่านั้น นอกจากนี้ลิเบโรไม่มีสิทธิ์เสิร์ฟบอล (ยกเว้นในบาง
องค์กร เช่น NCAA อนุญาตให้เสิร์ฟได้)

การเล่น
*กรรมการผู้ตัดสินจะเสี่ยงเหรียญเพื่อหาทีมที่จะได้เลือกระหว่าง
เสิร์ฟ/รับเสิร์ฟ หรือเลือกแดน โดยจะทำการเสี่ยงเหรียญในเซ็ต
แรกและเซ็ตตัดสิน

*ผู้เสิร์ฟ จะต้องเสิร์ฟจากด้านหลังของสนามโดยยืนไม่เลยแนว
เส้นข้างและห้ามเหยียบเส้นหลัง โยนบอลและตีกลางอากาศให้
บอลข้ามตาข่ายไปยังแดนของคู่แข่งภายใน 8 วินาทีหลัง
กรรมการให้สัญญาณ

*ขณะที่มีการเสิร์ฟโดยถูกกติกา แต่มีผู้เล่นยืนผิดตำแหน่งในขณะ
นั้น ทีมที่ยืนผิดตำแหน่งจะเสียคะแนน แต่หากคนเสิร์ฟทำผิดกติ
กาแม้จะมีการยืนผิดตำแหน่งในขณะนั้นก็จะถือว่าทีมที่เสิร์ฟเป็ น
ฝ่ ายเสียคะแนน

*ห้ามผู้เล่นทีมรับเสิร์ฟทำการบล็อกหรือตบบอลที่ถูกเสิร์ฟมา

*บอลสามารถสัมผัสตาข่ายได้ทั้งในการเสิร์ฟและระหว่างเล่น แต่
ผู้เล่นไม่มีสิทธิ์สัมผัสตาข่ายในขณะที่บอลยังถูกเล่นอยู่ตามกติกา

*เมื่อเสิร์ฟบอลข้ามตาข่าย แล้วบอลลงในแดนคู่แข่งทันที หรือคู่


แข่งพยายามรับบอลจนบอลออกนอกสนามไป เรียกว่า เอซ
(Ace) ทีมที่เสิร์ฟจะได้คะแนนนั้น

*ผู้เล่นทีมรับเสิร์ฟ จะต้องพยายามรับบอลแรกโดยไม่ปล่อยให้
บอลตกลงพื้นในแดนของตน และต่อบอลไปยังผู้เล่นที่เรียกว่าตัว
เซ็ต เพื่อตั้งบอลให้กับผู้เล่นที่จะตีบอลรุกไปยังแดนตรงข้ามเพื่อ
ทำคะแนน เมื่อบอลตกลงพื้นหรือเกิดความผิดพลาดต่างๆ จะ
ถือว่าการเล่นคะแนนนั้นได้สิ้นสุดลง

*ผู้เล่นแต่ละทีม มีสิทธิ์ต่อบอลได้ไม่เกิน 3 ครั้งก่อนตีไปยังแดนคู่


แข่ง (ไม่นับรวมการบล็อก) โดยผู้เล่นแต่ละคนไม่มีสิทธิ์ต่อบอล
ติดต่อกัน 2 ครั้ง ยกเว้นมีผู้เล่นคนอื่นมาต่อบอลคั่นก่อน 1 ครั้งจึง
จะต่อบอลได้อีก

*ผู้เล่นตำแหน่งแดนหลังและลิเบโร ไม่มีสิทธิ์กระโดดตีบอลหรือ
บล็อกบอลได้ ยกเว้นผู้เล่นแดนหลังกระโดดมาจากหลังเส้น 3
เมตรเพื่อตีบอล

*ผู้เล่นไม่มีสิทธิ์ใช้ผู้เล่นคนอื่นในการส่งตัวเองเพื่อให้เข้าถึงบอล

*ผู้เล่นไม่มีสิทธิ์เล่นบอลหากบอลยังอยู่ในแดนของคู่แข่ง

*เมื่อบอลสัมผัสพื้นสนามหรือมีความผิดพลาดในการเล่น ฝ่ ายที่
ไม่ได้ทำผิดพลาดจะได้คะแนนนั้นไป และทีมที่ได้คะแนนจะต้อง
เป็ นฝ่ ายเสิร์ฟในคะแนนต่อไป

*เมื่อทีมที่เสิร์ฟสามารถทำคะแนนได้ ผู้ที่เสิร์ฟในคะแนนถัดไป
ต้องเป็ นผู้เล่นในตำแหน่งเดิม แต่สามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นมาเสิร์ฟ
ได้
*เมื่อทีมที่เสิร์ฟเสียคะแนนนั้น ผู้เล่นอีกฝ่ ายจะได้สิทธิ์เสิร์ฟ
คะแนนถัดไปแทน แต่ต้องหมุนตำแหน่งไปตามเข็มนาฬิกาเพื่อ
เปลี่ยนคนไปเสิร์ฟ กล่าวคือ ผู้เล่นตำแหน่งที่ 2 ต้องหมุนลงมา
ตำแหน่งที่ 1 เพื่อเสิร์ฟ และตำแหน่งอื่นๆต้องหมุนตามมาเช่นกัน
คือ 2>1>6>5>4>3>2 (ดังรูป)

*เปลี่ยนแดนเมื่อจบแต่ละเซ็ต ส่วนเซ็ตที่ 5 หรือเซ็ตตัดสินจะ


เปลี่ยนแดนเมื่อทีมใดทีมหนึ่งถึงคะแนนที่ 8 ก่อน

การนับคะแนนในเกม

กำหนดจำนวนเซ็ต (Set) เพื่อตัดสินทีมที่ชนะการแข่งขัน


โดยมักกำหนดไว้ที่ชนะ 3 ใน 5 เซ็ต ยกเว้นในบางการแข่งขันที่
กำหนดเองเฉพาะกิจ

*เซ็ตที่ 1 ถึงเซ็ตที่ 4 ทีมใดทำได้ 25 คะแนนก่อนจะเป็ นฝ่ าย


ชนะในเซ็ตนั้น แต่ถ้าคะแนนเสมอกันที่ 24-24 จะต้องเล่นต่อไป
เรียกว่า ดิวซ์ (Deuce) จนฝ่ ายใดฝ่ ายหนึ่งทำคะแนนได้มากกว่า
อีกฝ่ าย 2 คะแนน จึงจะจบเซ็ต

*เซ็ตที่ 5 ซึ่งเป็ นเซ็ตตัดสินผู้ชนะการแข่งขัน ทีมที่ทำได้ 15


คะแนนก่อน จะเป็ นฝ่ ายชนะในเซ็ตนั้น แต่ถ้าคะแนนเสมอกันที่
14-14 จะต้องเล่นดิวซ์ จนฝ่ ายใดฝ่ ายหนึ่งทำคะแนนได้มากกว่า
อีกฝ่ าย 2 คะแนน จึงจะจบการแข่งขัน

การให้คะแนนจากนัดที่แข่งขัน

ในรายการแข่งขันวอลเลย์บอลระดับลีก (League) หรือ


ทัวร์นาเมนต์ต่างๆ เช่นการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่ม จะมีการคิด
คะแนนจากผลการแข่งขันในแต่ละนัดที่แข่งขัน (Match) เพื่อ
ตัดสินทีมที่อันดับดีที่สุด ในที่นี้จะขอกล่าวถึงการคิดคะแนนที่ใช้
กันแพร่หลายในปั จจุบัน ดังนี้

*ได้ 3 คะแนนต่อนัด เมื่อ ชนะ 3–0 เซ็ต หรือ 3–1 เซ็ต

*ได้ 2 คะแนนต่อนัด เมื่อ ชนะ 3–2 เซ็ต

*ได้ 1 คะแนนต่อนัด เมื่อ แพ้ 2–3 เซ็ต

*ไม่ได้คะแนน เมื่อ แพ้ 0–3 เซ็ต หรือ 1–3 เซ็ต

อนึ่ง ในบางรายการจะตัดสินทีมที่อันดับดีกว่าโดยดูจาก
จำนวนนัดที่ชนะก่อนจะดูจากคะแนนที่ได้ และหากหลายทีมมี
คะแนนเท่ากัน ก็จะใช้ค่าเพิ่มเติมมาตัดสินอันดับ คือ

*อัตราส่วนเซ็ตที่ได้ต่อเซ็ตที่เสียจากทุกนัด

*อัตราส่วนคะแนนที่ได้ในเกมต่อคะแนนที่เสียในเกมจากทุกนัด
กติกาวอลเลย์บอล

สนามแข่งขัน

- จะต้องเป็ นพื้นไม้หรือพื้นปูนที่มีลักษณะเรียบ ไม่มีสิ่งกีดขวาง

- เป็ นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 9 เมตร ยาว 18 เมตร ความสูง


จากพื้นประมาณ 7 เมตร มีบริเวณโดยรอบห่างจากสนาม
ประมาณ 3 เมตร

- แต่หากเป็ นสนามมาตรฐานในระดับนานาชาติ กำหนดให้รอบ


สนามห่างจากสนามประมาณ 5 เมตร ด้านหลังห่าง 8 เมตร และ
มีความสูง 12.5 เมตร

- เส้นรอบสนาม (Boundary lines) ทุกเส้นจะต้องกว้าง 5


เซนติเมตร เป็ นสีอ่อนตัดกับพื้นสนาม มองเห็นได้ชัดเจน

- เส้นแบ่งเขตแดน (Center line) ที่อยู่ตรงกลางสนาม จะต้อง


อยู่ใต้ตาข่าย หรือตรงกับเสาตาข่ายพอดี

ตาข่าย

- จะต้องมีความสูงจากพื้น 2.43 เมตร กว้าง 1 เมตร ยาว 9.5 -


10 เมตร

- ตารางในตาข่ายกว้าง 10 เซนติเมตร ผู้ติดไว้กับเสากลางสนาม

- ตาข่ายสำหรับทีมหญิงสูง 2.24 เมตร

You might also like