Professional Documents
Culture Documents
เสนอ
อาจารย์วินิรณี ทัศนะเทพ
จัดทำโดย
นายนันทพล พลวัน
สาขาวิชาคณิตศาสตร์ คณะครุศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์
คำนำ
รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาจิตวิทยาการแนะแนว รหัสวิชา 1053201 โดยมีจุดประสงค์
จัดทำขึ้นมาเพื่อให้นักศึกษาได้นำความรู้ที่ได้จากการเรียนการสอน จิตวิทยาการแนะแนว โดยสามารถนำไปใช้
ประโยชน์ได้จริงใช้ชีวิตประจำวันโดยทำการศึกษารายกรณี คือ เด็กชายพิสิษพงษ์ อังโกรัมย์ นักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบัวหลวงวิทยาคม ตำบลบ้านบัว อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
นายนันทพล พลวัน
ผู้จัดทำ
สารบัญ
เรื่อง หน้า
คำนำ ก
สารบัญ ข
ประวัตผู้สังเกต 1
ประวัติผู้รับการศึกษา 2
ศึกษารายกรณี 3
รายงานการศึกษานักเรียนเป็นรายกรณี 4
แบบบันทึกการสังเกต 13
แบบสัมภาษณ์ 15
แบบสอบถาม 18
อัตชีวประวัติ 22
ระเบียนพฤติการณ์ 24
ระเบียนสะสม 27
ภาพกิจกรรม 32
ประวัติผู้ที่ศึกษา
ประโยชน์ของการศึกษารายกรณี
ในวิธีการศึกษารายกรณี ที่นำมาใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นรายบุคคลเพื่อให้กรแนะแนวนั้น
จัดเป็นกลวิธีที่มีประโยชน์ต่อผู้ที่นำมาใช้และบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมากซึ่งจำแนกออกได้ ดังนี้
ประโยชน์ต่อครูหรือผู้แนะแนวที่เป็นผู้ศึกษาโดยตรง
1. ช่วยให้ครูหรือผู้แนะแนวได้ทราบรายละเอียด เกี่ยวกับตัวนักเรียนอย่างกว้างขวาง
ทำให้รู้จักและเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์อย่างแท้จริง
2. ช่วยให้ครูและผู้แนะแนวเข้าใจถึงสาเหตุและเงื่อนไขต่างๆ ที่ก่อให้เกิดพฤติกรรมที่เป็น
ปัญหา ทำให้มองเห็นลู่ทางที่จะช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้กับนักเรียนได้อย่างเหมาะสม
3. ช่วยให้ครูและผู้แนะแนวมีความรู้และมีทักษะในการใช้เครื่องมือและกลวิธีต่างๆ ใน
การเก็บข้อมูลเกี่ยวกับตัวนักเรียน และยังช่วยให้เป็นคนที่มีเหตุผล รู้จักเก็บข้อมูลอย่างมีระบบ รู้จักแก้ปัญหา
โดยใช้ข้อมูลที่ได้รวบรวมไว้มาประกอบในการพิจารณาตัดสินใจ
ประโยชน์ต่อนักเรียนที่เป็นผู้ไดรับการศึกษา
1. ช่วยให้นักเรียนได้เกิดความเข้าใจตนเอง ยอมรับความเป็นจริงเกี่ยวกับตัวเองมีการ
ปรับปรุงตนเอง หรือแก้ไขปัญหาของตน เพื่อช่วยให้มีสภาพชีวิตที่ดีขึ้น
2. ช่วยให้นักเรียนมีกำลังใจและมีความเต็มใจที่จะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างมีความหวัง
ประโยชน์ต่อคณะครูและโรงเรียน
1. ช่วยให้ครูรู้จักและเข้าใจนักเรียนของตนดีขึ้น ยินดีให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือ
แก้ไขปัญหาให้นักเรียน
2. ช่วยให้โรงเรียนได้ทราบความเท็จจริงต่างๆ เกี่ยวกับปัญหาและความต้องการของตัว
เด็ก ทำให้สามารถนำข้อเท็จจริงเหล่านั้นมาใช้ในการปรับปรุงการเรียนการสอน การจัดกิจกรรมและการใช้
บริการด้านต่างๆ แก่นักเรียนได้อย่างเหมาะสม
ประโยชน์ต่อผู้ปกครองของนักเรียนที่ได้รับการศึกษา
1. ช่วยให้ผู้ปกครองเข้าใจเด็กของตนดีขึ้น ทำให้สามารถปฏิบัติต่อบุตรได้อย่างเหมาะสม
2. ช่วยให้ผู้ปกครองเกิดความสบายใจ เพราะตระหนักได้ว่า โรงเรียนมีความตั้งใจและ
จริงใจในการป้องกัน ช่วยเหลือ แก้ไขและส่งเสริมพัฒนานักเรียน
การเลือกนักเรียนเพื่อทำการศึกษารายกรณี
ในการศึกษารายกรณีนั้น ครูสามารถเลือกนักเรียนได้หลายประเภท ไม่จำเป็นจะต้องเลือก
เฉพาะนักเรียนที่มีปัญหาเท่านั้น ขึ้นอยู่กับจุดมุ่งหมายในการศึกษาของครูว่า ต้องการทราบเรื่องอะไร ครูควร
เลือกนักเรียนเพื่อทำการศึกษารายกรณี สามารถจำแนกได้ดังนี้
1) นักเรียนที่ประสบผลสำเร็จในด้านการเรียนดีเยี่ยม
2) นักเรียนที่มีความสามารถพิเศษบางอย่าง เช่น ศิลปะ ดนตรี ฯลฯ
3) นักเรียนที่มีปัญหามาก
4) นักเรียนที่มีความทะเยอทะยานมีกำลังใจเข้มแข็งที่จะเอาชนะอุปสรรค
5) นักเรียนที่เรียนอ่อนไม่สมารถที่จะทำงานในระดับที่เรียนอยู่ได้
6) นักเรียนที่มีพฤติกรรมดีเด่นสมควรเอาเป็นตัวอย่าง
7) นักเรียนที่มีพฤติกรรมปรกติธรรมดาทั่วๆไป
ลำดับขั้นของการทำการศึกษารายกรณี
ลำดับขั้นของการทำการศึกษารายกรณี (นิรันดร์ จุลทรัพย์, 2539: 210) มีดังนี้
(1) คัดเลือกนักเรียนที่จะทำการศึกษาโดยทำความเข้าใจถึงพฤติกรรมของนักเรียน
แต่ละคนว่าใครประสบปัญหาด้านใดบ้าง เช่น ปัญหาการเรียน ปัญหาด้านความประพฤติ ปัญหาด้านอารมณ์
และสังคม เป็นต้น หรือเป็นนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษเป็นที่สนใจของคนส่วนใหญ่ในโรงเรียน ผลการ
เรียนดีเป็นเยี่ยมเป็นนักกีฬายอดเยี่ยม มีความสามารถสูงทางศิลปะ เป็นต้น
(2) รวบรวมข้อมูลเป็นการค้นหารายละเอียดข้อเท็จจริงต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวผู้ถูก
ศึกษาโดยพยายามรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อนำไปวิเคราะห์และวินิจฉัยต่อไป ข้อมูลที่
รวบรวมนั้นควรได้มาจากตัวนักเรียนเองหรือผู้เกี่ยวข้องกับนักเรียน เช่น บิดามารดา หรือผู้ปกครอง ญาติพี่
น้อง เพื่อนสนิท ครูประจำชั้น ครูประจำวิชา เป็นต้น โดยใช้เครื่องมือ เทคนิคหรือวิธีการต่าง ๆ เช่น การสังเกต
การสัมภาษณ์ การใช้แบบสอบถาม การเยี่ยมบ้าน สังคมมิติและแบบทดสอบชนิดต่าง ๆ เป็นต้น
(3) วิเคราะห์ข้อมูล (Analysis) เป็นการแยกแยะให้เห็นรายละเอียดของข้อมูลและ
สภาพของข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
(4) วินิจฉัยข้อมูล (Diagnosis) เป็นการนำผลจากการวิเคราะห์ข้อมูลมาพิจารณาหา
สาเหตุของพฤติกรรมที่เป็นปัญหาหรือพฤติกรรมในทางบวกโดยใช้หลักทฤษฎีทางจิตวิทยามาเป็นพื้นฐาน
ประกอบการพิจารณา การสรุปผลจากการวินิจฉัยในขั้นนี้อาจจะยังไม่ได้ข้อยุติ แต่ก็เป็นแนวทางที่จะนำไป
ประกอบการสังเคราะห์ข้อเท็จจริงในขั้นต่อไป
(5) การสังเคราะห์ (Synthesis) เป็นการศึกษาหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมด้วยวิธีการต่าง
ๆ เพื่อนำข้อมูลที่ได้มารวมกับข้อมูลเดิมที่มีอยู่แล้ว ซึ่งจะช่วยให้ผู้ศึกษาเกิดความมั่นใจในการวิเคราะห์ และ
วินิจฉัยได้ตรงประเด็นมากยิ่งขึ้น
(6) การให้ความช่วยเหลือ (Treatment) เป็นการคิดหาวิธีการต่าง ๆ ที่จะนำมาใช้
ให้ความช่วยเหลือและแนะแนวทางในการแก้ปัญหา ตลอดจนช่วยให้นักเรียนสามารถเข้าใจตนเองได้อย่าง
ถูกต้องและปรับตัวให้เข้ากับสภาพการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม สามารถตัดสินใจได้อย่างฉลาดโดยแบ่ง
วิธีการให้ความช่วยเหลือเป็น 3 วิธีการ คือ
(6.1) การแก้ไข (Curative) ผู้ศึกษาสามารถใช้วิธีการแก้ ไขเพื่อให้ความช่วยเหลือ
ได้ดังนี้
(6.1.1) ให้คำปรึกษา (Counseling) เพื่อให้คลายความกังวลใจโดยให้ผู้รับ
คำปรึกษา (Counselor) ได้เข้าใจในปัญหาจนกระทั่งสามารถหาทางแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง
(6.1.2) ส่งให้ผู้มีประสบการณ์หรือผู้เชี่ยวชาญในปัญหานั้น ๆ โดยตรงใน
กรณีที่ผู้ศึกษาพบว่า ปัญหาต่าง ๆ ที่พบนั้นมีผู้ที่มีความสามารถช่วยเหลือได้อยู่ตรงประเด็นหรือในกรณีที่ผู้
ศึกษาขาดความมั่นใจในการให้ความช่วยเหลือในปัญหานั้น ๆ
(6.2) การป้องกัน (Prevention) โดยการหาทางป้องกันหรือสกัดกั้นเพื่อไม่ให้เกิด
ปัญหาต่าง ๆ ขึ้นในอนาคตโดยการให้ข้อมูลที่ถูกต้องเหมาะสมแก่ผู้รับการศึกษาเพื่อแนวทางในการปฏิบัติ
(6.3) การส่ ง เสริ ม (Promotion) เป็ น การช่ ว ยส่ ง เสริ ม ให้ ผ ู ้ ร ั บ การศึ ก ษามี
ความสามารถที่จะปรับตัวได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมกับสภาพการณ์ต่าง ๆ เป็นแรงเสริมให้เกิดกำลังใจในการ
สร้างเสริมสิ่งต่าง ๆ รอบตัวให้ดีขึ้น
(7) การติ ด ตามผล (Follow-Up) เป็ น การศึ ก ษาถึ ง วิ ธ ี ก ารต่ า ง ๆ ที ่ ไ ด้ ใ ห้ ค วาม
ช่วยเหลือแล้วนั้นว่าได้ผลประการใด มีความเหมาะสมมากน้อยเพียงใดมีสิ่งที่ควรต้องปรับปรุงแก้ไขหรือ
เพิ่มเติมอะไรบ้าง
รายงานการศึกษานักเรียนเป็นรายกรณี
1.ชื่อนักเรียนที่ศึกษา/ชั้นที่ศึกษา
2.ผู้ที่ศึกษา
3.ระยะเวลาในการศึกษา
4.สาเหตุของการศึกษา
มีผลการเรียนติด ร และติดเกม
5.เครื่องมือและเทคนิคที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล
5.1 การสังเกต
5.2 การสัมภาษณ์
5.3 แบบสอบถามข้อมูลส่วนตัวบุคคล
5.4 อัตชีวประวัติแบบกำหนดโครงสร้างหรือกำหนดหัวข้อ
5.5 ระเบียนพฤติการณ์
5.6 ระเบียนสะสม
5.7 การเยี่ยมบ้าน
6.ข้อมูลที่ได้จากการสังเคราะห์ข้อมูล
6.1 ข้อมูลส่วนตัว
6.2 ข้อมูลครอบครัว
6.3 ข้อมูลสุขภาพ
6.4 ข้อมูลทางการเรียน
6.5 ข้อมูลทางสังคม
6.7 เป้าหมายและความคาดหวังในอนาคต
อยากเป็น เกมเมอร์
7.การวิเคราะห์และวินิจฉัย
8.1 ผู้ศึกษาให้คำปรึกษาแนะแนวทางเพื่อสร้างแรงจูงใจในการเรียนบอกถึงประโยชน์ของการรีบยื่น
คำร้องขอแก้ ร เพื่อจะเป็นผลดีในการจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ต่อไป หรืออาชีพที่สนใจในอนาคต
เพื่อเป็นแนวทางให้นักเรียนได้ดูแลสุขภาพตัวเอง และเลือกสิ่งที่ชอบตามความสนใจ ความสามารถ และความ
เหมาะสมในตัวผู้เรียน
8.2 พูดคุยกับตัวนักเรียนเรื่องพฤติกรรมดี หรือความสามารถในด้านต่างๆ ที่ตัวนักเรียนมีอยู่และ
กำลังใจ ชื่นชม และบอกแนวทางต่างๆ ให้เก็บแต่สิ่งที่ดเี อาไว้และพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งๆขึ้นไป
9.การติดตามผล
9.1 จากการไปสัมภาษณ์ครูประจำชั้นของนักเรียน พบว่านักเรียนมีพฤติกรรมที่ดีอยู่ มีความ
รับผิดชอบต่อตนเอง แต่จะมีข้อเสียในการเรียนตอนช่วงที่เล่นเกม แล้วก็บอกแนวทางที่จะพัฒนาให้ดียิ่งๆขึ้นไป
อีก
9.1 จากการไปสัมภาษณ์ผู้ปกครองของนักเรียน พบว่านักเรียนมีพฤติกรรมที่ดีอยู่ แต่จะอยู่กับเกม
มากเกินไป ไม่ชอบอ่านหนังสือ แต่ก็มีความรับผิดชอบที่บ้านดี แล้วก็บอกแนวทางที่จะพัฒนาให้ดียิ่งๆขึ้นไป
อีก
9.3 จากการสัมภาษณ์ พบว่า ให้ความร่วมมือดีในการตอบคำถาม และนำวิธีต่างๆไปใช้แก้ปัญหาใน
การเรียน
10. ข้อเสนอแนะ
การบันทึกการสังเกต ครั้งที่ 1
ผู้ถูกสังเกต นายนันทพล พลวัน ชั้น ม.2/4
วันพุธ ที่ 17 เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2565 เวลา 13.00 น.
สถานที่ ในห้องเรียน
พฤติกรรม
ขณะที่เริ่มเรียนในรายวิชาวิทยาศาตร์ พิสิษพงษ์ ก็ตั้งใจฟังคุณครูพูดอธิบายเกี่ยวกับการทดลองอย่างตั้งใจ
และทำตามที่คุณครูบอกและตอบคำถามของครูได้ ในขณะเดียวกันก็มีเพื่อนร่วมห้องที่ยังไม่เข้าใจและพิสิษพงษ์ก็
ช่วยอธิบายให้
เพื่อนฟังแนะนำเพื่อนอย่างเต็มใจและมีน้ำใจช่วยเพื่อน
ผลการประเมิน
พิสิษพงษ์ ตั้งใจปฏิบัติตามที่คุณครูบอก และมีน้ำใจในการช่วยเหลือเพื่อน
ข้อเสนอแนะ
อยากให้มีเวลาเรียนมกกว่านี้
( นายนันทพล พลวัน )
การบันทึกการสังเกต ครั้งที่ 2
ผู้ถูกสังเกต นายนันทพล พลวัน ชั้น ม.2/4
วัน ที่ 24 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2565 เวลา 13.00 น.
สถานที่ ในห้องเรียน
พฤติกรรม
ขณะที่เริ่มเรียนในรายวิชาดนตรี พิสิษพงษ์ ก็ตั้งใจฟังคุณครูพูดอธิบายเกี่ยวกับตัวเลขสมการอย่าง
ตั้งใจ และทำตามที่คุณครูบอกในการแก้ บางครั้งก็แอบเล่นโทรศัพท์ในห้องเรียน
ผลการประเมิน
พิสิษพงษ์ตั้งใจปฏิบัติตามที่คุณครูบอก
ข้อเสนอแนะ
อยากให้หยุดเล่นโทรศัพท์ในเวลาเรียนลดลง
( นายนันทพล พลวัน )
การบันทึกการสังเกต ครั้งที่ 3
ผู้ถูกสังเกต นายนันทพล พลวัน ชั้น ม.2/4
วันพุธ ที่ 31 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2565 เวลา 13.00 น.
สถานที่ ในห้องเรียน
พฤติกรรม
ขณะทีเ่ ริ่มเรียนในรายวิชาดนตรี พิสิษพงษ์ ก็ตั้งใจฟังคุณครูพูดอธิบายเกี่ยวกับการฟังเสียงจังหวะ
เครื่องดนตรีอย่างตั้งใจ และทำตามที่คุณครูบอกในการท่องโน้ต ในขณะเดียวกันก็มีเพื่อนร่วมห้องที่ยังไม่
เข้าใจ ก็ได้ช่วยเพื่อน แนะนำเพื่อนอย่างเต็มใจและมีน้ำใจช่วยเพื่อน
ผลการประเมิน
พิสิษพงษ์ ตั้งใจปฏิบัติตามที่คุณครูบอก และมีน้ำใจในการช่วยเหลือเพื่อน
ข้อเสนอแนะ
อยากให้มีเวลาฝึกซ้อมการฟังเสียงตัวโน้ตมากขึ้นกว่านี้
( นายนันทพล พลวัน )
นักเรียนมีพี่น้องร่วมบิดามารดา 1 คน (รวมทั้งนักเรียนด้วย)
คน เพศ อายุ ประกอบอาชีพ การศึกษา หมายเหตุ
2 หญิง 8 นักเรียน ชั้น ป.3
3.2 ประวัติการศึกษาและผลการศึกษา
ปีการศึกษา ระดับ โรงเรียน เกรด
2564 ม.1/4 โรงเรียนบัวหลวงวิทยาคม 2.81
3.3 ประวัติสุขภาพ
อายุ 14 น้ำหนัก 46 ส่วนสูง 160 กรุ๊ปเลือด บี
3.4 สภาพครอบครัวและฐานะทางเศรษฐกิจ
ปกติ
3.5 ทัศนคติของบุคคลรอบข้างที่มีต่อนักเรียน
-บิดา , มารดา
เป็นเด็กดี ช่วยทำงานบ้าน ชอบช่วยเหลือผู้อื่น
3.6 ความคิดเห็นของรูที่ปรึกษาที่มีต่อนักเรียน
- ด้านการเรียน
เป็นผู้ที่มีความตั้งใจเรียนและรับผิดชอบสูง ติดตามสอบถามในสิ่งที่ตนไม่เข้าใจอยู่เสมอ
- ด้านพฤติกรรมละลักษณะนิสัย
เป็นผู้มีจิตอาสาต่อคนรอบข้างและมีความถึงในงานที่ได้รับมอบหมายเป็นอย่างดี อีกทำเป็นผู้มีความ
รับผิดชอบสูง
- ด้านสุขภาพร่างกาย
เป็นผู้มีสุขภาพแข็งแรง และชอบเล่นกีฬา
- ด้านสังคมและการอยู่ร่วมกับเพื่อนในชั้นเรียน
มีจิตอาสาช่วยงานเพื่อนอยู่เสมอ
- สิ่งที่อยากให้ปรับปรุง
อยากให้ลดการเล่นเกมน้อยลง
3.7 บุคลิกภาพทั่วไปของนักเรียน
- ลักษณะทางร่างกาย ( รูปร่าง หน้าตา การแต่งกาย กิริยา วาจา)
มีรูปร่างที่สมส่วน มีผิวขาว การแต่งกายเรียนร้อย มีกริยาที่อ่อนน้อม วางตัวดี พูดจาไพเราะและมี
หางเสียง
- ครู
เป็นเด็กน่ารัก เรียบร้อย มีความรับผิดชอบ มีวินัยในตัวเอง มีสัมมาคารวะ
- บิดามารดาและญาติพี่น้อง
เป็นเด็กดี ชอบช่วยเหลือพี่น้อง
ประวัติส่วนตัวและครอบครัว
1. ชื่อ เด็กชายพิสิษพงษ์ นามสกุล อังโกรัมย์ ชื่อเล่น คิว
เลขบัตรประชาชน -
2. เกิดวัน เสาร์ ที่ 29 เดือน กันยายน พ.ศ. 2551 อายุ 14 ปี
3. ที่อยู่ปัจจุบันบ้านเลขที่ 85 บ้าน บ้านบัว หมู่ที่ 2 ตำบล บ้านบัว อำเภอ เมือง
จังหวัด บุรีรัมย์ รหัสไปรษณีย์ 11009 โทรศัพท์ 0915588214
5. มารดาชื่อ นางสาวบัวฑิทรัพดี อังโกรัมย์ อายุ 38 ปี การศึกษา -
อาชีพ ค้าขาย
6. ผู้ปกครอง (ในกรณีที่ไม่ใช่บิดา/มารดา) ชื่อ นางสาวบัวฑิทรัพดี อังโกรัมย์ อายุ 38 ปี
การศึกษา - อาชีพ ค้าขาย เกี่ยวข้องเป็น มารดา
สถานที่ที่ติดต่อโดยง่าย บ้าน โทรศัพท์ 0915588214
7. สภาพบิดามารดา ( ) อยู่ด้วยกัน ( ) แยกกันอยู่ ( ) หย่าร้างกัน
( ) บิดาถึงแก่กรรม ( ) บิดาสมรสใหม่ ( ) มารดาสมรสใหม่ ( ) มารดาถึงแก่กรรม
พี่น้องที่ทำงานแล้ว
ชื่อ-นามสกุล อายุ เพศ อาชีพ สถานที่ทำงาน
1.
2.
3.
ข้อมูลเกี่ยวกับการเรียน
1. ผลการเรียนของนักเรียนปีที่ผ่านมาได้เกรดเฉลี่ย
2. วิชาที่นักเรียนชอบมากที่สุดได้แก่ ภาษาอังกฤษ
วิชาที่นักเรียนชอบน้อยที่สุด ได้แก่ คณิตศาสตร์
วิชาที่นักเรียนคิดว่ายากที่สุด ได้แก่ คณิตศาสตร์
3. นักเรียนคิดว่าตนเอง ( ) ไม่มีปัญหาด้านการเรียน ( ) มีปัญหาด้านการเรียน
ถ้ามีปัญหา โปรดบอกสภาพปัญหาการเรียนในปัจจุบันของนักเรียน
( ) เรียนไม่เข้าใจ ( ) เบื่อเรียนบางวิชา
( ) เรียนไม่ทันเพื่อน ( ) อยากเลิกเรียน
( ) ต้องการครูที่เข้าใจและปรึกษาได้ ( ) อื่น ๆ (ระบุ)…………………………..
สาเหตุที่ทำให้นักเรียนประสบปัญหาด้านการเรียน (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
( ) พื้นฐานการเรียนเดิมไม่ดี ( ) ครูสอนไม่ดี
( ) สุขภาพไม่ดี ( ) สติปัญญาไม่เหมาะที่จะเรียนทางนี้
( ) ไม่มีเวลาดูหนังสือ ( ) ขาดเรียนบ่อย
( ) ขี้ลืม ( ) ไม่มีสมาธิ
( ) บทเรียนไม่น่าสนใจ ( ) ไม่รู้จักวิธีเรียน
( ) อุปกรณ์การเรียนไม่พอ ( ) สิ่งแวดล้อมในการเรียนไม่ดี
( ) ครูดุ ( ) เวลาสอบมักกลัวจนคิดไม่ออก
ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพนักเรียน
1. สุขภาพของนักเรียนในขณะนี้ ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ไม่ดีเลย
2. นักเรียนเคยเป็นลมวิงเวียนศีรษะบ่อย ( ) เป็นเสมอ ( ) เป็นบ้าง ( ) ไม่เคยเป็น
3. นักเรียนมีปัญหาเกี่ยวกับโรคประสาท ( ) มีปัญหา ( ) ไม่มีปัญหา
4. นักเรียนต้องใช้แว่นสายตาในขณะนี้ ( ) ใช้เป็นประจำ ( )ใช้บ้าง ( )ไม่ต้องใช้
5. ในการพูดนักเรียนรู้สึก ( ) พูดคล่อง ( ) พูดไม่คล่องหรือพูดช้า ( ) พูดติดอ่าง
6. นักเรียนได้ยินชัดเจน ( ) ชัดเจนดี ( ) ไม่ค่อยชัดเจน
7. ตามปกตินักเรียนนอนหลับวันละ ( ) 4-6 ชม. ( ) 8-9 ชม. ( ) 8-10 ชม.
8. โรคประจำตัวที่นักเรียนเป็นอยู่เสมอ -
ได้รับการป้องกันและรักษาโดย -
9. ในบางครั้งนักเรียนวิตกกังวลเกี่ยวกันสุขภาพ ( ) วิตกกังวล ( ) ไม่วิตกกังวล
10. สิ่งที่ทำให้นักเรียนวิตกกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสุขภาพขณะนี้
คือ -
11. นักเรียนเคยออกกำลังกาย ( ) เป็นประจำ ( ) เป็นบางครั้ง ( ) ไม่เคยเลย
ถ้าเคยออกกำลังกายโดยวิธีใด เล่นฟุตบอล
12. นักเรียนชอบเล่นกีฬาหรือไม่ ( ) ชอบ ( ) ไม่ชอบ
ถ้าชอบชนิดกีฬาที่นักเรียนเล่นคือ ฟุตบอล
ข้อมูลเกี่ยวทางบ้าน
1. บ้านที่นักเรียนพักอาศัยอยู่มีลักษณะ ( ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ )
( ) บ้านเช่า ( ) บ้านญาติ ( ) บ้านห้องแถว ( ) บ้านบิดามารดา
2. สภาพแวดล้อมในบริเวณที่พักอาศัยมีลักษณะอย่างไร ( ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
( ) เขตชุมชนแออัด ( ) เขตสถานเริงรมย์ ( ) เขตโรงเรียน
( ) เขตบ้านพักราชการ ( ) เขตวัด ( ) ……………
3. นักเรียนมีห้องส่วนตัวอยู่หรือไม่ ( ) มี ( ) ไม่มี
4. ความสัมพันธ์ของสมาชิกภายในบ้าน ( ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
( ) ทุกคนรักใคร่กันดี ( ) มีพี่น้องรักใคร่กันดี ( ) บิดา-มารดา มีปากเสียงกันบ่อย
( ) บิดา-มารดารักลูกลำเอียง ( ) พี่น้องไม่ค่อยถูกกันทะเลาะกัน
5. เมื่ออยู่บ้านนักเรียนได้รับความเอาใจใส่จากผู้ปกครอง
( ) มากที่สุด ( ) มาก ( ) น้อย ( ) น้อยที่สุด
6. สิงที่นักเรียนอยากให้ครอบครัวของนักเรียนปรับปรุงคือ
6.1 - 6.2 -
อัตชีวประวัติ
คำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนประวัติตนเอง โดยเติมข้อความให้สมบูรณ์ตามความเป็นจริงมากที่สุด ข้อความ
เหล่านี้จะเป็นประโยชน์แก่นักเรียนโดยตรง และทางโรงเรียนจะเก็บเป็นความลับ
2. ข้าพเจ้าเติบโตมาพร้อมๆกับ -
5. แผนในอนาคตและความหวัง
• เมื่อข้าพเจ้าโตขึ้นอยากประกอบอาชีพ เกมเมอร์
• ถ้าข้าพเจ้าสามารถขอสิ่งใดได้ตามใจนึก ข้าพเจ้าจะขอ
1. สามารถสร้างคุณประโยชน์ต่อสังคม
2. ตนเองดำรงตนอยู่อย่างพอเพียง
3. เป็นแบบอย่างที่ดี
6. เป้าหมายในชีวิตข้าพเจ้าคือ การตั้งใจเรียนหารายได้ให้ตนเอง
8. ถ้าให้เลือกสิ่งต่อไปนี้ ข้าพเจ้าจะเลือกเป็นข้อแรกคือ
( ) การทำประโยชน์เพื่อส่วนร่วม ( ) อื่นๆ
9. สิ่งที่ข้าพเจ้าอยากทำมากที่สุดในตอนนี้คือ -
10. สิ่งที่ทำให้ข้าพเจ้าไม่สบายใจคือ -
แบบบันทึกระเบียนพฤติการณ์ ครั้งที่ 1
พฤติกรรมที่แสดงออก การหมอบลงบนโต้ะ
ความหมายของพฤติกรรม มีอาการง่วง
ตาแหน่ง นักศึกษา
ระเบียนพฤติการณ์
แบบบันทึกระเบียนพฤติการณ์ ครั้งที่ 2
ตาแหน่ง นักศึกษา
ระเบียนพฤติการณ์
แบบบันทึกระเบียนพฤติการณ์ ครั้งที่ 3
ตาแหน่ง นักศึกษา
ระเบียนสะสม
3. ด้านเศรษฐกิจ
ข้าพเจ้ามีเงินใช้ จ่ายในการมาโรงเรียนประมาณวันละ 50 บาท
ข้าพเจ้ามีงานพิเศษทำคือ - รายได้เฉลี่ยวันละ -
ข้าพเจ้าคิดว่าค่าใช้จ่ายของข้าเจ้า มากเกินไป พอดี
ไม่พอใช้บางครั้ง น้อยเกินไป
4. ด้านเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน และทางบ้าน
สิ่งที่ข้าพเจ้าอยากให้ครอบครัวของข้าพเจ้าปรับปรุง คือ
1. - 2. -
5. ด้านเกี่ยวกับการเรียน
สาเหตุของปัญหาทางการเรียน เพราะ..................................................................................................................
ม. 1 ม. 2 ม. 3
ปีการศึกษา 2564 ปีการศึกษา................... ปีการศึกษา............
เกรดเฉลี่ย 2.81 เกรดเฉลี่ย..................... เกรดเฉลี่ย............
ม. 4 ม. 5 ม. 6
ปีการศึกษา.................. ปีการศึกษา.................. ปีการศึกษา..................
ภาคเรียนที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ภาคเรียนที่ 2
ผลการเรียนเฉลี่ย..............................................................
6.ด้านเกี่ยวกับมนุษย์สัมพันธ์ และบุคลิกภาพ
ผู้นำบางโอกาสผู้
เมื่ออยู่ในกลุ่มเพื่อข้าพเจ้ามักเป็น ผู้นำ ผู้ตาม ตามบางโอกาส
7. ด้านเกี่ยวกับสุขภาพจิตและค่านิยม
1 เรื่องครอบครัว 6 เรื่องการวางตัวในสังคม
2 เรื่องการเรียน 7 เรื่องการใช้เวลาว่าง
3 เรื่องสุขภาพ 8 เรื่องการเลือกอาชีพ
4 เรื่องเศรษฐกิจ 9 เรื่องการเลือกศึกษาต่อ
5 เรื่องการคบเพื่อน 10 เรื่องการปรับตัวเข้ากับ
ครู-อาจารย์ในโรงเรียน