Professional Documents
Culture Documents
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
การใช้ Vitamin D ในการรักษาโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง
(Vitamin D for the management of multiple sclerosis)
ผู้เขียนบทความ
ภญ.ธาริณี เที่ยงสกุล, อ.ภญ.สิรนันท์ กลั่นบุศย์*
สาขาวิชาเภสัชกรรมคลินิก คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ อ.องครักษ์ จ.นครนายก
*ติดต่อผู้เขียน: siranan@g.swu.ac.th
รหัสการศึกษาต่อเนื่อง 1008-1-000-001-12-2563
จำนวนหน่วยกิต 3.0 หน่วยกิตการศึกษาต่อเนือ่ ง
วันที่รับรอง วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2563
วันที่หมดอายุ วันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2564
วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม
1. เพื่อทราบข้อมูลเบือ้ งต้นของการรักษาโรคปลอกประสาทเสือ่ มแข็ง (Multiple sclerosis)
2. เพื่อทราบประสิทธิภาพของ Vitamin D ต่อการรักษาโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple sclerosis)
บทคัดย่อ
โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็งหรือ Multiple sclerosis (MS) เป็นโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อปัจจัยภายนอกผิดปกติ
ทำให้มีการทำลายปลอกหุม้ ใยเส้นประสาทในระบบประสาทส่วนกลาง ส่งผลให้เกิดอาการทางระบบประสาทตรงบริเวณรอยโรค ผู้ป่วย
โรค MS ส่วนมากจะมีอาการกำเริบสลับกับทุเลา เรียกว่า Relapsing–Remitting MS (RRMS) ซึ่งแนวทางสำหรับรักษาจะแนะนำให้ใช้
ยากลุ่ม disease modifying therapy เช่น Interferon beta-1a หรือ 1b ในแง่ของการป้องกันการกำเริบของโรค vitamin D อาจมี
ประโยชน์ในการรักษาผู้ปว่ ยโรค MS โดยใช้เป็นยาเสริม (add-on therapy) เนื่องจากมีคุณสมบัติเป็น immunomodulator ที่มีผลช่วย
ลดกระบวนการอักเสบและการทำลาย myelin sheath ทั้งนี้ในปัจจุบนั แนวทางการรักษา RRMS ยังไม่มีคำแนะนำให้ใช้ vitamin D3
เป็น add-on therapy เนื่องจากข้อมูลด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่ยังไม่เพียงพอ การศึกษาแบบ Meta-analysis ในปี ค.ศ.
2018 พบว่า การให้ vitamin D ในขนาดสูงอาจทำให้การกลับเป็นซ้ำของ MS ในเวลา 1 ปีแย่ลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับ placebo
ขณะที่การศึกษาแบบ Randomized controlled trial (RCT) ชื่อ SOLAR trial พบว่า vitamin D3 ในขนาดสูง คือ 14,000 IU/day
ไม่ได้เพิ่มประโยชน์ด้านผลลัพธ์หลักคือ การรุดหน้าของโรคไม่ได้ดีขึ้น แต่ในส่วนผลลัพธ์รองยังคงได้ประโยชน์ คือ มี combined unique
active (CUA) lesion ลดลง และผลการศึกษาจาก CHOLINE trial พบว่า vitamin D3 ในขนาดที่สูงมาก คือ 100,000 IU/day พบ
ประโยชน์ด้านผลลัพธ์หลัก คือ มีการกลับมาเป็นซ้ำ ของโรคภายใน 1 ปี น้อยกว่า อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับ placebo จะเห็นได้ว่า
ข้อมูลของ vitamin D3 ด้านประสิทธิภาพยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดในการรักษา RRMS จึงควรติดตามผลการศึกษาทางคลินิกเพิ่มเติม
ต่อไป
การเกิดperipheral arterial occlusive disease และการเกิด vitamin D3 เป็ น add-on therapy ร่ ว มกั บ ยา Interferon
นิ่วในไต เป็นต้น โดยอาการที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็น beta-1a ในการรักษา RRMS ซึ่งการศึกษาแบบ meta-analysis
สาเหตุจาก vitamin D3 หรือไม่ แสดงดังตารางที่ 3 ปี ค.ศ. 2018 แสดงให้เห็นว่า การให้ vitamin D3 ในขนาดสู ง
การศึกษานี้สรุปได้ว่า การให้ vitamin D3 ในขนาดสูง คือ อาจทำให้การกลับเป็นซ้ำของโรค MS แย่ลงได้ แสดงจากค่าการ
100,000 IU/day เป็น add-on therapy ในผู้ป่วยโรค MS ทีอ่ ยู่ กลับมาเป็นซ้ำของโรคภายใน 1 ปี (annualized relapse rate,
ในระยะ RRMS และมี ค่ า serum 25(OH)D levels ต่ ำและที่ ARR) ที่แย่ลง เมื่อเทียบกับ placebo แต่ผลลัพธ์ด้านอื่นๆ นั้น
กำลั ง ได้ ร ั บ ยา Interferon beta-1a ในการรั ก ษา ถึ ง แม้ ว่า ไม่ได้แย่ลง ทำให้ในเวลาต่อมามีการศึกษาแบบ RCT เกี่ยวกั บ
ผลลัพธ์หลักในการศึกษาจะไม่แตกต่างจากการได้ placebo แต่ การใช้ vitamin D ในขนาดสูงสำหรับรักษาในระยะ RRMS ชื่อ
ผลลั พ ธ์ รองในการศึ กษาพบว่ า อาจได้ ประโยชน์ จากการให้ ว่าการศึกษา “SOLAR trial” ปี ค.ศ. 2019 การศึกษานี้พบว่า
vitamin D3 ในแง่ของการช่วยลดการกลับเป็นซ้ำของโรคในช่วง vitamin D3 ไม่ได้เพิ่มประโยชน์ในด้านลดการรุดหน้า ของโรค
1 ปี การลดลงของ new T1 lesions การลดลงของน้ ำใน RRMS แต่ ส ามารถป้ อ งกั น การเกิ ด new MRI lesion ได้
hypointense T1-weighted MRI lesions และการลดลงของ ขณะเดียวกันการศึกษาแบบ RCT ชื่อ “CHOLINE trial” ปี ค.ศ.
EDSS ร่ ว มกั บผลด้ านความปลอดภั ยที่ ดี ในการศึ กษานี ้จึง 2019 พบว่าการให้ vitamin D3 ในขนาดที่สูงมาก คือ 100,000
สนั บ สนุ นให้ใ ช้ vitamin D3 เป็น add-on therapy ในผู ้ ป่ วย IU/day มีการกลับมาเป็นซ้ำ ของโรคภายใน 1 ปีน้อยกว่ากลุ่มที่
ระยะ RRMS ได้ ร ั บ placebo อย่างมี นัย สำคั ญทางสถิ ติ (95% CI 0.186–
0.012, P=0.01) และพบประโยชน์ในด้านอื่น คือ พบ การลดลง
บทสรุป
ของ new T1 lesions การลดลงของน้ำใน hypointense T1-
Vitamin D3 อาจเป็ น ทางเลื อกหนึ ่ ง ในการใช้เ ป็ น add-on
weighted MRI lesions และคะแนน EDSS ร่วมกับผลในด้าน
therapy สำหรับผู้ป่วยโรค MS ที่กำลังอยู่ในระยะ RRMS แต่
ความปลอดภัยที่ไม่แตกต่างจากการให้ placebo จากหลักฐาน
ปัจจุบันผลการศึกษาของ vitamin D3 สำหรับรักษา RRMS นัน้
เชิ ง ประจัก ษ์ ของการศึ กษาทั ้ ง 3 การศึ กษา อาจกล่าวได้ ว่า
ยั ง มี อ ยู ่ จ ำนวนวนน้ อ ย ทำให้ ย ั ง ไม่ ส ามารถสรุ ป ผลด้ าน
vitamin D3 มีประโยชน์ในการเป็น add-on therapy สำหรับ
ประสิทธิภาพและขนาดยาที่เหมาะสมได้ บทความนี้ได้รวบรวม
การรั ก ษา RRMS แต่ ข นาดการใช้ vitamin D3 ที ่ เ หมาะสม
การศึ ก ษาแบบ meta-analysis จำนวน 1 การศึ ก ษา และ
สำหรับข้อบ่งใช้รกั ษา RRMS นั้นยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัด ทัง้ นี้
การศึ ก ษาแบบ RCT จำนวน 2 การศึ ก ษาเกี ่ ย วกั บการให้
การใช้ vitamin D3 ในขนาดสูงเกินกว่า 10,000 IU/day ต้องชั่ง
น้ำหนักระหว่างประโยชน์ที่จะได้รับเพิ่มขึ้นกับโอกาสเกิดอาการ 9. สำนักงานอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข. alfacalcidol
ไม่พึงประสงค์ ได้แก่ การเกิด hypercalcemia hyperuricemia [Internet]. 2020. [cited 2020 Oct 21]. Available from:
http://ndi.fda.moph.go.th/drug_info/index?name=alfac
รวมถึงอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงจนต้องได้รับการรั ก ษาใน
alcidol&brand=&rctype=&drugno=
โรงพยาบาล ทั้ งนี ้การให้ vitamin D3 ในทุ กขนาดเพื่ อรั กษา 10. สำนักงานอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข. Calcitriol
RRMS ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชดิ [Internet]. 2020. [cited 2020 Oct 21]. Available from:
http://ndi.fda.moph.go.th/drug_info/index?name=calcit
เอกสารอ้างอิง riol&brand=&rctype=&drugno=
1. GBD 2016 Multiple Sclerosis Collaborators. Global, 11. Saini V, Nadeem M, Kolb C, et al. Vitamin D: Role in
regional, and national burden of multiple sclerosis Pathogenesis of Multiple Sclerosis. A Mechanistic View.
1990–2016: a systematic analysis for the Global 2015;(1):127-152.
Burden of Disease Study 2016. Lancet Neurol. 2019; 12. Hupperts R, Smolders J, Vieth R, et al. Randomized
18: 269–85. trial of daily high-dose vitamin D3 in patients with
2. สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์. แนวทางการดูแลผู้ป่วย RRMS receiving subcutaneous interferon β-1a.
กลุ่มโรคปลอกประสาทของระบบประสาทส่วนกลาง สำหรับ Neurology. 2019;93(20):1906-1916.
แพทย์. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร: บริษัท ธนาเพรส จำกัด; 13. Camu W, Lehert P, Pierrot-Deseilligny C, et al.
2561 Cholecalciferol in relapsing-remitting MS: A
3. Charalambidou E, Pantzaris M, Patrikios I. Multiple randomized clinical trial (CHOLINE). Neurol
Sclerosis in Cyprus: A Fourteen Year (2000-2014) Neuroimmunol Neuroinflamm. 2019;6(5):597.
Epidemiological Study. American Journal of
Epidemiology and Infectious Disease. 2016;4:1-9.
4. Sospedra M, Martin R. Immunology of multiple
sclerosis. In: Raine CS, McFarland H, Hohlfeld R, eds.
Multiple Sclerosis: A Comprehensive Test. 1st ed.
Philadelphia, PA: Saunders Elsevier; 2008:192-213.
5. ฑิดาภา สามสีทอง. Common CNS Autoimmune and
Treatment Recomendation. ใน ธนรัตน์ สรวลเสน่ห์, บุษบา
จินดาวิจักษณ์ บรรณาธิการ. Pharmacotherapy of
neurological disorders. กรุงเทพฯ: โรงพิมพN บริษัท
ประชาชน จำกัด; 2559. หน้า 185-200.
6. สมาคมต่อมไร้ท่อแห่งประเทศไทย. ข้อแนะนำเกี่ยวกับภาวะขาด
วิตามินดีในคนไทย [Internet]. 2020. [cited 2020 Oct 21].
Available from: http://www.thaiendocrine.org/th/wp-
content/uploads/2017/10/Vit-D-Booklet-
20page_update-9 Sep17-2.pdf.
7. Sintzel MB, Rametta M, Reder AT. Vitamin D and
Multiple Sclerosis: A Comprehensive Review. Neurol
Ther. 2018;7(1):59-85.
8. McLaughlin L, Clarke L, Khalilidehkordi E, et al. Vitamin
D for the treatment of multiple sclerosis: a meta-
analysis. J Neurol. 2018;265(12):2893-2905.