You are on page 1of 6

องค์ประกอบของรัฐมีอะไรบ้าง

1. ประชากร (population) ฐ ก ฐ อง ประชากรอา ยอ จะ มากห อ อยไ ญ ขอใ

เ ยงพอ จะ กษาสถา น าง ๆ ใน งคม ฐ นไ ไ

2. นแดน (territory) หมาย ง อาณาเขต นแ นอน นคง งรวม ง น น น และ น

อากาศภายในขอบเขต หนด

3. นาจอ ปไตย (sovereignty) หมาย ง นาจ ง ดในการปกครองประเทศ ใ ฐ

สามารถ เ นการ งใน วน เ ยว บการปกครองภายในและภายนอกไ

4. ฐบาล (government) หมาย ง ห วยงาน นาจในการปกครองประเทศ วน จะแ งออก

เ นห วยงาน อยเ าไร นอ บ เ นในการแ งห วยงาน อยเห า น

ศาลปกครองมีอ นาจพิพากษาคดีใดบ้าง

ฐธรรม ญแ งราชอาณา กรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 223 ไ วางห กไ า ศาลปกครอง

นาจ จารณาค พาทระห างห วยงานราชการ ห วยงานของ ฐ ฐ สาห จ อง กรปกครอง อง

น ห ออง กรตาม ฐธรรม ญ ห อเ าห า ของ ฐและเอกชน ห อระ าง 2 ห วยราชการ ห วย

งานของ ฐ ฐ สาห จ อง กรปกครอง อง น ห ออง กรตาม ฐธรรม ญ ห อเ าห า ของ ฐ วย

น นเ องมาจากการใ นาจทางปกครองของกฎหมาย ห อเ องมาจากการ เ น จการทาง

ปกครองของห วยงานของราชการ ห วยงานของ ฐ ฐ สาห จ อง กรปกครอง อง น ห ออง กร

ตาม ฐธรรม ญ ห อเ าห า ของ ฐ ง ตาม กฎหมาย ญ รวม ง นาจ จารณา พากษา

เ อง ฐธรรม ญห อกฎหมาย หนดใ อ ใน นาจของศาลปกครอง

ส ป

ศาลปกครอง นาจ จารณา พากษาค ปกครอง ค จะเ นค ปกครองเ นค พาท

ระห างห วยงานของ ฐห อเ าห า ของ ฐ วย น ห อระห างห วยงานของ ฐห อเ า

ห า ของ ฐ บเอกชน นเ องมาจากการใ นาจทางปกครองของกฎหมาย ห อการ

เ น จการทางปกครองของห วยงานของ ฐ และตาม กฎหมาย ญ รวม ง นาจ

พากษาเ อง ฐธรรม ญห อกฎหมาย หนดใ อ ใน นาจของศาลปกครอง


ดิ
อำ
รั
อำ
ถิ่
กั
พี
ป็
รื่
อั
รั
ที่
รื
น่
รั
พิ
รั
ดำ
พิ
นื่
รั
ดำ
ที่
ธิ
รุ
น้
ค์
นิ
รั
ว่
ที่
นิ
นู
รั
วิ
ย่
นู
น่
กิ
นู
น่
ดี
รื่
รั
รื
พิ
ทั้
ท่
รื
รั
กิ

กั
มี
ห่
ที่
จ้
อำ
บั
รั
ที่
รั
ช้
กำ
ส่
ก็
ถึ
ต่
อำ
ค์
น้
ทุ
ขึ้
นู
ที่
พิ
ว่
ถึ
ที่
รั
รั
นู
อั
ยู่
กำ
กี่
ต้
กั
รื
จั
รื
น่
รั
น่
นื่
สั
จำ
กั
รื
มี
จ้
จ้
น่
ถึ
ทั้
พิ
อั
ท้
ป็
น่
ห้
นี้
อำ
น้
น้
รั
ที่
น่
ถิ่
ยู่
ที่
นั้
ที่
มี
อำ
ที่
สู
อำ
กำ
ว้
รื
ดี
มั่
รั
รั
รั
ศั
สุ
ด้
บ่
ช้
รั
ด้
อำ
รั
น่
ค์
ยู่
น่
วิ
ซึ่
กั
ห้
บั
มี
ยู่
รื
ญั
กิ
ดี
รื
รั
ทั้
ที่
ติ
ย่
ที่
นื่
อำ
รื
พื้
รั
รื
ค์
ป็
ด้
ว่
ดิ
ทั้
รั
น้
ว่
นู
ล่
วิ
มี
ดี
พื้
อำ
ด้
นั้
น่
ลั
บั
ม่
น้
ส่
รื
ทำ
สำ
กิ
น่
ญั
ว้
ดำ
คั
จ้
ว่
พิ
ท้
ติ
ที่
ห้
รั
นิ
พื้
ป็
ค์
น้
ถิ่
บ่
ทั้
กิ
รั
ที่
รื
ดี
ห้
มี
พิ
ที่
รื
อำ
รื
พิ
รั
น่
จ้
ด้
ค์
มี
ท้
อธิบายลักษณะของประเทศที่เป็น “นิติรัฐ”

การ ประเทศใดประเทศห งจะเ น ฐ นจะ อง กษณะ ง อไป

1. กฎหมาย องอ เห อ ง นใด

การกระ าง ๆ ในทางปกครองโดยเฉพาะอ าง งการกระ ของ รวจจะ องเ นไปตาม

กฎหมายและชอบ วยกฎหมาย ห กประ น ท และเส ภาพของราษฎรอ กฎหมาย าเ า

พ กงานของ ฐมาก กลายโดยไ กฎหมายใ นาจ อมจะ ความ ดอาญา

2. ขอบเขต นาจของ ฐ อม หนดไ แ นอน

เ ม งแ การแ งแยก นาจออกเ นสาม นาน อ นาจ ญ นาจบ หาร และ

นาจ ลาการ และ ขอบเขตในการใ นาจ งสาม ดจาก นาจของ ฐ นาจของ

พ กงานของ ฐ เ น นาจ ลดห นลงมาเ น นาจ ดไ อเ น นาจ ขอบเขตเ น

เ ยว น และ อง การควบ มใ การใ นาจภายในขอบเขตเ า น

3. พากษาจะ อง สระในการ จารณา พากษาค

โดยจะ อง ห กประ น งก าว ไ ใน ฐธรรม ญ พากษา อง สระ ห บ จารณาค

แ งและอาญา ความ ญอ องใ ศาล ธรรมควบ ม ายปกครอง ก าว อใ ศาล

ธรรม จ ยการกระ ของเ าพ กงานไ า เ าพ กงานไ กระ ความ ดในทางอาญา

อราษฎรห อไ กระ การละเ ดในทางแ งห อไ หาก พากษา สระในการ จารณา

พากษาค แ ว เ นห กประ น นพอเ ยง อราษฎร

อธิบายหลักนิติธรรม (The Rule of Law)

Dicey ไ ส ป าห ก ธรรม นจะ องประกอบ วย กษณะ 3 ประการ ง

1. ายบ หารไ นาจตาม เภอใจ

คคล อง บ ดในทางอาญา อเ อกฎหมายไ ญ าเ นความ ดและ หนดโทษไ

คคลจะ ก ด ท เส ภาพโดยกฎหมายเ า น เ าพ กงานของ ฐจะใ นาจตาม เภอ

ใจไ ไ

2. คคล กคนอ ภายใ กฎหมายเ ยว นและศาลเ ยว น


ผู้
ฝ่
บุ
บุ
บุ
พิ
ม่
ที่
ริ
ต้
ทุ
ด้
อำ
ยุ
ต่
พิ
ริ่
ดี
อำ
ถู
พ่
ติ
ต้
นั
นั
รั
ตั้
จำ
ม่
กั
ต้
ผิ
มี
ยู่
ต้
กั
ตุ
ยู่
ทำ
ต่
อำ
ด้
วิ
มี
นิ
สิ
ดี
ต่
มี
รุ
นื
อิ
รื
รั
ฉั
รั
รั
ต้
ธิ
ล้
ต้
ว่
สิ่
ลั
ย่
บ่
ด้
ก็
รี
อื่
ก็
มี
ป็
ด้
ลั
นึ่
กำ
อำ
ป็
ล้ำ
มี
ทำ
สำ
อำ
นิ
กั
ต่
อำ
ติ
พิ
ทำ
คั
ดั
ลั
ป็
ดี
มื่
คุ
ว้
นิ
ที่
ล่
ยู่
ติ
นั้
กั
น่
ที่
รั
มิ
กั
จ้
ต้
ห้
พิ
นี้
นั้
มี
ลั
ม่
ลั่
อั
ป็
ต้
ว้
มี
นั
ท่
ห้
ช้
ต้
ด้
รั
อำ
นั้
ช้
กั
บั
พี
อำ
อำ
ดี
พ่
ดี
มี
ป็
ยุ
สิ
ด้
ญั
จ้
ลั
ติ
ว่
ย่
ต่
ติ
กั
อำ
ทั้
ธิ
รื
นู
ห้
ด้
ว่
นั
อำ
จ้
ยิ่
คื
ม่
ป็
ผู้
ลั
ดั
พิ
อำ
ที่
นั
นี้
รี
วั
ถั
ต่
คุ
ย่
ผู้
พิ
ด้
ฝ่
รั
ทำ
ผิ
นิ
คื
นี้
ด้
ติ
ต้
อำ
บั
มี
ป็
ท่
ช้
มี
ตำ
ญั
ทำ
กำ
อำ
มี
อิ
นั้
อำ
ติ
อิ
ผิ
ดั
อำ
ยู่
สำ
รั
ที่
นี้
ล่
ที่
ผิ
ต้
อำ
มี
รั
คื
อำ
ริ
พิ
ว้
ป็
พิ
ห้
ถ้
ช่
จ้
ดี
คคล กคน อง กกฎหมาย ง บโดยเ าเ ยม น ไ เ อกฐานะและ แห งห า และเ อ

อ พาทระห างเอกชน บเอกชน ห อ ฐ บเอกชน ศาล ธรรมเ า น จะ ห า

พากษาค เห า นไ และการ จารณา พากษาเ นไปโดย สระปราศจากแทรกแซงของ

ายใด ง น

3. ห ก วไปของกฎหมาย ฐธรรม ญเ นผลมาจากกฎหมายธรรมดาของประเทศ

ก าว อศาล นเองเ น จารณา พากษาค เ ยว วย ท เส ภาพของเอกชน ใ เ ดการ

ยอม บ ท เส ภาพ น

อธิบายการใช้อ นาจดุลพินิจ และจะตรวจสอบควบคุมอ นาจการใช้ดุลพินิจของเจ้า

หน้าที่ได้อย่างไร

อ นาจดุลพินิจ

นาจ กฎหมายมอบใ เ าห า ายปกครองเ อ ง บใ กฎหมายใ เ ดความเหมาะสม

และความเ นธรรมในกร เฉพาะราย แ เ าห า ายปกครองจะ อง ง งห กกฎหมาย

และขอบเขตการใ นาจ ล จ น วย การใ นาจ ล จ อ ในขอบเขตของกฎหมาย

ในการออก งทางปกครองแ ว อง กร ลาการ ไ อาจ าว วงมา จ ยแ ไข

เป ยนแปลงการใ นาจ ล จ นไ

การตรวจสอบอ นาจดุลพินิจ

1. ใ ใ ล จเ นขอบเขต กฎหมาย ญ ใ ไ (ultra vires)

2. ากฎหมาย หนดใ ใ ล จแ เ าห า ไ ใ ดเห อน น เ น ใ ง งความสงบ

เ ยบ อยของ านเ อง แ เ าห า ไ ง งแ วออก งไปเลย ง ไ ชอบ วย

กฎหมาย

3. ใ ล จโดย ดเ อน เพราะตนเอง ผลประโยช เ ยว องห อ วนไ วนเ ยห อ

อค (abuse of power)
บุ
มี
พิ
ฝ่
มิ
ถ้
รี
ช้
ล่
ข้
ลั
ดุ
ห้
ติ
พิ
ทั่
รั
ร้
คื
พิ
ช้
ทุ
ทั้
สิ
ดุ
อำ
นิ

ลี่
สิ้
พิ
ธิ
ดี
กำ
นิ
ต้
นั่
บ้
รี
ที่
ว่
ล่
บิ
กิ
ถู
นั้
ป็

มื
คำ
บื
ขึ้
ป็
ห้
ด้
สั่

รั
ผู้
ช้
พิ
ต่
กั
ช้
ดุ
ช้
อำ
อำ
ที่
จ้
พิ
บั
นิ
ห้
นู
น้
คั
พิ
ณี
จ้
ดุ
พิ
ดุ
ต่
ที่
ป็
พิ
จ้
มี
พิ
ม่
รื
น้
บั
นิ
ล้
คำ
นิ
รั
ท่
พิ
ที่
น้
นั้
นึ
นั้
ญั
ฝ่
กั
ติ
ที่
ที
ถึ
ด้
ดี
ค์
ด้
ม่
ห้
กี่
ต่
ล้
กั
ตุ
จ้
ว้
ช้
น์
ป็
ก็
ด้
ที่
ผิ
ม่
น้
กี่
ช้
สิ
คำ
ลื
พื่
ที่
อำ
ก็
ยุ
มื
ฝ่
ข้
ธิ
สั่
ติ
บั
ม่
อิ
คั
รี
กั
ดุ
รื

ก้
มี
พิ
ช้
ท่
ช่
ส่
นิ
ดั
ตำ
ล่
นั้
ที่
นี้
ห้
ที่
ก็
ต้
ด้
คำ
ยู่
ส่
ม่
น่
วิ
นึ
ทำ
คำ
นิ
ห้
ทำ
ถึ
น้
สี
นึ
ฉั
กิ
น้
ด้
ที่
ถึ
ห้
ที่
รื
ก้
กิ
มี
ลั
มื่
อธิบายทฤษฎีการก เนิดของรัฐของอริสโตเติลและองค์ประกอบของรัฐในทาง

กฎหมายมหาชน

ทฤษฎีการก เนิดของรัฐของอริสโตเติล

อ สโตเ ลเ ยก ฐ า Polis นหมาย งระเ ยบอง การ น ง ดของประชาคมและอ บาย า

ฐเ ดจาก ฒนาการในทางการเ องของม ษ โดยเ มจากการอ เ นห เ ก ๆ แ วขยาย

วให นจนเ น งคมเ า น และใน ด กลายเ นนครหลายนคร เ น กรวรร ฐ ง

เ ดจากม ษ นเอง

อง ประกอบของรัฐ

1. ประชากร (population) ฐ ก ฐ อง ประชากรอา ยอ จะ มากห อ อยไ ญ ขอใ

เ ยงพอ จะ กษาสถา น าง ๆ ใน งคม ฐ นไ ไ

2. นแดน (territory) หมาย ง อาณาเขต นแ นอน นคง งรวม ง น น น และ น

อากาศภายในขอบเขต หนด

3. นาจอ ปไตย (sovereignty) หมาย ง นาจ ง ดในการปกครองประเทศ ใ ฐสามารถ

เ นการ งใน วน เ ยว บการปกครองภายในและภายนอกไ

4. ฐบาล (government) หมาย ง ห วยงาน นาจในการปกครองประเทศ วน จะแ งออก

เ นห วยงาน อยเ าไร นอ บ เ นในการแ งห วยงาน อยเห า น

กฎหมายมหาชน คืออะไร

กฎหมายหมาชน อ กฎหมาย หนดความ ม น ระห าง ฐห อห วยงานของ ฐ บ

ราษฎร ในฐานะ ฐเ น ายปกครองราษฎร

ความสัมพัน ระห างรัฐกับราษฎร หมายถึง

ความ ม น ในทางกฎหมายระห าง กร สอง าย ายห ง อ ฐห อห วยงานของ ฐ ก

ายห ง อราษฎรห อเอกชนเ นราย ๆ ไป เ น ฐมนต าการกระทรวงห งอาจออก

กฎหมายห อ ง กระทบ อ งผลประโยช ของราษฎรไ เ น น


ดิ
อำ
ดำ
รั
พี
ป็
นิ
น่
รั
ตั
ฝ่
กิ
ที่
ธิ
ริ
ค์
ทั้
กิ
รั
สั
ญ่
นึ่
ย่
ติ
ขึ้
ที่
คื
พั
ส่
นุ
รั
วิ
รื
รี
ท่
วั

ธ์
ธ์
ย์
ป็
ที่
คำ
นั่
ป็
บั
ที่

กี่
รั
สั่
ฝ่
รั
กำ
ว่
คื
ก็
ถึ
สั
ต่
ว่
ที่
ทุ
ขึ้
กั
รื
ถึ
รั
ยู่
ผ่
ต้
กั
น่
พั
ต่
สั
อั
จำ
มี
ถึ
ที่
ธ์ุ
ป็
ถึ
อั
ป็
กำ
อำ
ว่
รั
มื
ที่
น่
นั้
มี
ถึ
คู่
อำ
ที่
สู
ว้
สุ
มั่
ณี
ศั
สุ
บี
ด้
บ่
นุ
ก็
น์
ช่
สั
ย์
ยู่
น่
ฝ่
ซึ่
พั
รั
ค์
ธ์
มี
ป็
ฝ่
ริ่
ทั้
ชั้
รี
ย่
ว่
ว่
ด้
พื้
ด้
นึ่
สู
รื
รั
ดิ
ป็
สุ
คื
น้
ล่
ต้
รั
รื
พื้
นั้
ยู่
ม่
น้
ส่
รื
น่
ป็
ทำ
สำ
ป็
คั
ที่
น่
ห้ั
มู่
นึ่
จั
พื้
ล็
บ่
ห้
รั
ดิ
ล้
กั
ธิ
รั
รั
จึ
อี
ว่
ในฐานะที่รัฐเ น ายปกครองราษฎร

ก าว อในฐานะ ฐ ฐานะเห อราษฎร หมาย งความ ม น ระห าง กร ง ายห ง

ฐานะ งก า ก ายห ง ง ง บเอาไ ห อใ นาจไ มากก า ก ายห ง

อธิบายอ นาจผูกพันและอ นาจดุลพินิจ

ห กการใ นาจปกครองของ ายปกครอง อ นาจ กฎหมายมอบใ ายปกครอง

การ กฎหมายมอบหมายใ ายปกครอง 2 แบบ อ นาจ ก น บ นาจ ล จ

การใ อ นาจแบบผูกพัน

นาจ ก น (mandatory power) อ นาจ กฎหมายมอบลงมาแ ว ายปกครอง ก

ก นจะ องป ตาม นโดยเค งค ดเ ดขาด ไ สามารถ ด นใจเ นอ าง นไ

กฎหมาย กจะใ า “ อง” ห อ “ใ ” เ น กฎหมายใ นาจแ ายปกครอง บจด

ทะเ ยน งบ ท โดย หนดเ อนไขไ หลายประการ าเอกชนรายใด นขอจดทะเ ยนโดย

ป ตามเ อนไข กฎหมาย ญ ไ ครบ วน ายปกครอง อง บจดทะเ ยนจะ างเห

กฎหมายไ ไ ญ ไ เ อไ บจดทะเ ยนไ ไ เ น น

การใ อ นาจแบบดุลพินิจ

นาจ ล จ เ นเ องตรง าม บ นาจ ก น อ กฎหมายมอบ นาจใ บ ายปกครอง

จะเ อก เ นการไ กฎหมาย กใ า“ นาจ” “ ท ” “อาจจะ” “ควรจะ” ห อ

“สามารถ” นาจ ล จ งเ นเส ภาพของ ายปกครอง กฎหมาย ดวางไ เ อใ ด น

ใจเ อกกระ การห อละเ นกระ การ ห อเ อกผลในทางกฎหมายอ างใดอ างห งใน

หลายอ าง เ อบรร เ าหมายห อ ต ประสง ของกฎหมาย

อธิบายอ นาจยามฉุกเฉินขององค์กรบริหาร

นาจและห า ในยาม กเ นขององ กรบ หารเ น นาจ งกฎหมายของ ก ๆ ประเทศจะ

ใ ไ บอง กรบ หาร เพราะอง กรบ หารเ นอง กรเ ยวในอง กร าง ๆ ใ นาจอ ปไตย ง

การใ นาจ ใก ด บประชาชนมาก ดและทราบ อ ลเห การ าง ๆ เ ด นในประเทศ


มี
ห้
ที่
ว้
กั
ช้
อำ
ผู
อำ
ที่
อำ
อำ
ล่
ลั
ฏิ
พั


บั
บี
ลื
ค์
ลื
ช้
ช้
ติ
สู
คื
ผู
ดุ
ย่


ที่
ตั้
ต้
มั
ดำ
ว่
ริ
พั
ช้
พิ
ม่
อำ
อำ
นิ
ทำ
งื่
อี
ป็
ล้
น้
ริ
พื่
ด้
นิ
ชิ
ษั
บั
ฏิ
ฝ่
ฝ่
ที่
ป็
ช้
บั
ที่
กั
คำ
ติ
ดุ
ญั
รั
ที่
ห้
ลุ
รื่
ติ
รื
ว่
ฝ่
นึ่
มี
ด้
พิ
ติ
กำ
ป้
นิ

นั้
ค์
ฉุ
จึ
ว้
ต้
จึ
ว้
พื่
บั
ข้
ฉิ
ป็
บั
คั
ริ
นื
งื่
ม่
ฝ่
กั
รั
รื
มั
รื
ทำ
ญั
มี
ร่
ที่
รี
ติ
อำ
วั
สุ
คื
ป็
ช้
ด้
ว้
รั
ค์
ห้
ว้
ถุ
คำ
อำ
ด็
ว่
รื
บี
รื
ค์
ผู
ช่
ถ้
คื
ริ
ฝ่
คื
พั
ช้
ลื
มี
ที่
ค์
ถึ
อำ
ดี
ม่
อำ
อำ
ฝ่
อำ
ข้
คื
ด้
ป็
ม่
มู
ป็
อำ
ถ้
ผู
ด้
สั
ที่
ต้
ห้
ตุ
มี
ค์
พั
ที่
อำ
พั
สิ
ซึ่
ตั
ต้
กั
ต่
ธ์
ธิ
ณ์
ว่
สิ
อำ
ต่
รั
อี
ก่
อำ
ว่
ฝ่
ฝ่
ที่
ล้
จั
ป็
ย่
ยื่
คู่
ดุ
ที่
ช้
ฝ่
ห้
อำ
ฝ่
กิ
นึ่
บี
พิ
ย่
ณี
ห้
นิ
ทุ
ว้
กั
ขึ้
ซึ่
พื่
ย่
อื่
ฝ่
ฝ่
รั
อ้
ธิ
บี
ด้
ห้
ถู
นึ่
ตั
รื
นึ่
วิ
ตุ
สิ
มี
ธี
ที่
ซึ่
มาก ด และเ นอง กร ห า โดยตรงในการ กษาความสงบ ขของประชาชนและปก อง นาจ

อ ปไตยของประเทศชา

ระบบควบคุมฝ่ายปกครองมีระบบอะไรบ้าง และแต่ละระบบมีการควบคุมอย่างไร

การควบ มการกระ ขององ กรของ ฐ ายบ หารในฐานะ ายปกครอง (Control actions

of the organization as an administrative state) ในการ ด การบ การาสาธารณะ น แนว ด

การควบ ม การตรวจสอบห อเ ยก า "การควบ มความชอบ วยกฎหมาย"

การใ อ นาจของ ายปกครองแ งก าง ๆ เ น 2 วน คือ

1. การควบ มแบบ อง นห อการควบ ม อน เ นการ

2. การควบ มแบบแ ไขห อการควบ มห ง เ นการ

การควบคุมการกระท ทางปกครองตามกฎหมายที่ส คัญ เ น

1. พระราช ญ ป ราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539

2. พระราช ญ ความ บ ดทางละเ ดของเ าห า พ.ศ. 2539 ง

อธิบายความแตกต่างระหว่างรัฐธรรมนูญและกฎหมายรัฐธรรมนูญ

รัฐธรรมนูญ

ฐธรรม ญ อ กฎหมาย วางระเ ยบห อกฎเกณ เ ยว บ ฐ ก าว อ า วย นแดน

ประชากร นาจอ ปไตย และ ฐบาล ตลอดจนความ ม น ระห างอง กร าง ๆ หนด

นเ อ ห า แ งแยก นออกไป โดยปก แ ว ฐธรรม ญ องตรา นเ นลาย กษ กษร

กฎหมายรัฐธรรมนูญ

กฎหมาย ฐธรรม ญ อ กฎหมาย า วยสถา นการเ อง าง ๆ ใน ฐ งรวม ง

ฐธรรม ญ กฎมลเ ยรบาล จา ตประเพ ทางการเ องและกฎหมาย น ๆ วยเห

กฎหมาย ฐธรรม ญอาจจะไ เ นลาย กษ กษร ไ


ธิ
ที่
สุ
รั
ขึ้
รั
บั
บั
คุ
คุ
คุ
พื่
ญั
ญั
ช้
ติ
ติ
ทำ
ป็
วิ

นู
นู
คุ
ป้
ธี
รั
รั
อำ
ก้
น้
ฏิ
คื
ค์
กั
รั
บั
ที่
ติ
ติ
รื
ผิ
นู
นู
ที่
บ่
ฝ่
รื
ธิ
มี
ฑี
ทำ
รื

คื
น้
รี
กั
ที่
ที่
มิ
คุ
ว่
ม่
คุ
ค์
รั
ป็
รี
ลั
ก่
บ่
บี
ที่
ดำ
จ้
ว่
ดำ
ว้
รั
ลั
นิ
ด้
น้
รื
ฝ่
นิ
ณี
คุ
รั
ที่
ณ์
ติ
ป็
อั
ริ
ล้
บั
รั
ส่
ฑ์
ก็
จั
มื
ที่

สั
ด้
ทำ
กี่
ด้
มื
พั
ดั
นู
สุ
ช่
นี้
กั
ธ์
ต่
ฝ่
ต้
รั
ริ
ว่
ล่
ขึ้
อื่
รั
คื
ค์
ป็
ซึ่
ว่
ด้
ต่
ด้
นั้
ทั้
ลั
ดิ
ป้
ตุ
มี
ที่
นี้
กำ
ณ์
อำ
อั
คิ

You might also like