Professional Documents
Culture Documents
รหัสนักศึกษา 66145336400022
วิชา MBA 636204 วิธีวิทยาการวิจัยธุรกิจ
คำชี้แจงข้อสอบ
ข้อสอบชุดนี้เป็ นแบบอัตนัย มีคะแนนเต็มทั้งหมด 40 คะแนน
ให้นักศึกษาทำข้อสอบโดยเขียนโครงร่างการวิจัยเรียงตามลำดับตามหัวข้อดังนี้
1) ชื่อเรื่องวิจัย (5 คะแนน)
ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจในการเลือกซื้อประกันภัยภาคสมัครใจประเภท 1 ในเขตกรุงเทพมหานครและ
ปริมณฑล
2) ปัญหาวิจัย (โดยให้ระบุปัญหาวิจัย สาเหตุของปัญหา ขนาดของปัญหา ความรุนแรง และผลกระทบที่
คาดว่าจะเกิดขึ้น) และคำถามวิจัย (5 คะแนน)
ปัญหาการวิจัย
- กำไรจากยอดขายประกันภัย ประเภทภาคสมัครใจประเภท 1 ลดลง 30%
- ลูกค้าในบริษัทประกันภัย ประเภทประกันภัยภาคสมัครใจประเภท 1 ขาดความพึง
พอใจต่อบริการของบริษัทฯ
สาเหตุของปัญหา การขาดความรู้เกี่ยวกับรายละเอียดของแพ็คเกจประกันภัยประเภท
ประกันภัยภาคสมัครใจประเภท 1 ที่ ให้บริการ และความไม่พอใจของลูกค้าในบริการหรือ
การเร่งรัดในกระบวนการจ่ายเงินสินไหม
ขนาดของปัญหา ขนาดของปัญหานี้มีขนาดใหญ่ โดยความขาดความพึงพอใจของลูกค้า
อาจส่งผลต่อระบบการเจรจาทางธุรกิจและรายได้ของบริษัทฯ
ความรุนแรง ความรุนแรงของปัญหานี้ขึ้นอยู่กับระดับความไม่พอใจของลูกค้า ถ้ามีการ
สูญเสียของลูกค้าหรือความไม่พอใจที่สูง ความรุนแรงของปัญหานี้จะสูงขึ้น
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
1. สูญเสียลูกค้า ความไม่พอใจของลูกค้าอาจส่งผลให้ลูกค้าสูญเสียความพึงพอใจและต้องการย้าย
ไปยังบริษัทประกันอื่น
2. การสูญเสียรายได้ ความไม่พอใจของลูกค้าอาจส่งผลให้บริษัทฯสูญเสียรายได้และมีค่าใช้จ่ายใน
การคืนเงินหรือการแก้ไขสินไหม
3. ความเสี่ยงของภาพลบของบริษัทฯ ความไม่พอใจของลูกค้าอาจส่งผลให้ภาพลบของบริษัทฯ
เสี่ยงต่อการสร้างความไว้วางใจกับลูกค้าและอันตรายต่อธุรกิจในอนาคต
3) วัตถุประสงค์การวิจัย (5 คะแนน)
1. เพื่อศึกษาปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ส่วนบุคคลที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อประกันภัยรถยนต์
ภาคสมัครใจประเภท 1 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
2. เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยด้านส่วนประสมทางกรตลาด (7P's) ที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ
ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจประเภท 1 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
4) ขอบเขตการวิจัย โดยให้ระบุ ขอบเชิงตัวแปรหรือเนื้อหา ขอบเขตเชิงประชากร ขอบเขตเชิงพื้นที่ และ
ขอบเขตเชิงเวลา (5 คะแนน)
การวิจัยเรื่อง ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ สำหรับรถยนต์ภาค
สมัครใจประเภท 1 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมุ่งศึกษาข้อมูลของการเลือกทำประกันภัรถยนต์
ภาคสมัครใจ และปัจจัยส่วนบุคคลของผู้บริโภค รวมถึงปัจจัยต่างๆในด้านส่วนประสมทางการตลาด ที่มีผล
หรือมีความสัมพันธ์ต่อการตัดสินใจเลือกซื้อของผู้บริโภค และเพื่อกำหนดขอบเขตการวิจัยที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ผู้
วิจัยจึงได้กำหนดขอบเขตการวิจัยไว้ดังนี้
ขอบเขตของประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากรในการทำวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ประชาชนที่ทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจภาคสมัครใจ
ประเภท 1 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
กลุ่มตัวอย่างในงานวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้ทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจภาคสมัครใจประเภท 1 ใน
เขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ใช้วิธีการกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างจากการใช้ สูตรคำนวณของ W.G.
Cochran เพื่อประมาณค่าสัดส่วนประชากร โดยกำหนดระดับความเชื่อมั่นที่ 95% ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน
400 คน ซึ่งจะใช้วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างตามความสะดวกหรือความสมัครใจ (Convenient or Volunteer)
เพื่อทำการเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถาม ซึ่งมีระยะเวลาในการดำเนินการสำรวจในช่วงเดือนธันวาคม
พ.ศ.2566 – จนถึงเดือน มกราคม 2567
ขอบเขตของตัวแปรที่ศึกษา
1. ตัวแปรอิสระ (Accidental sampling) ได้แก่
- ปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ ประกอบด้วย เพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้และอายุการใช้งาน
รถยนต์
- ปัจจัยด้านส่วนประสมทางการตลาด (7P's) ประกอบด้วยด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านช่องทางการจัด
จำหน่าย ด้านการส่งเสริมการตลาด ด้านพนักงาน ด้านกระบวนการ และด้านลักษณะทางกายภาพ
2. ตัวแปรตาม (Dependent Variables) คือ การตัดสินใจซื้อประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจสำหรับรถยนต์
ประเภท 1 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ผู้วิจัยทดสอบเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาโดยใช้แบบสอบถามที่รวบรวมได้ ในการตรวจ
สอบความถูกต้อง (Validity) ผู้วิจัยได้นำแบบสอบถามไปให้ผู้เชี่ยวชาญหรือผู้เชี่ยวชาญใน
เรื่องที่ผู้วิจัยได้ศึกษาเพื่อช่วยกำหนดความเหมาะสมของเนื้อหาและความครอบคลุมของ
คำถาม m (ContentValidity) สำหรับคำแนะนำในการปรับปรุง แบบสอบถามที่ถูกต้องและ
เหมาะสม
ผู้วิจัยทำการทดสอบ (Tryout) โดยแจกจ่ายแบบสอบถามจำนวน 30 ชุดที่ได้รับการแก้ไข
แล้วจากนั้นใช้เพื่อค้นหาอัลฟ่ า (Reliability Analysis) ของครอนบาคเพื่อทดสอบความเชื่อ
มั่นของแบบสอบถามโดยมีรายละเอียดดังนี้
4) มีขั้นตอนการเก็บข้อมูลภาคสนามอย่างไร
กระบวนการและขั้นตอนการรวบรวมข้อมูลมีดังนี้
ผู้วิจัยได้สุ่มตัวอย่างตัวอย่างจากผู้ใช้บริการประกันภัยภาคสมัครใจของ บริษัทประกันภัย
ต่าง ๆ ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ผู้วิจัยได้ระบุวัตถุประสงค์ของการวิจัยรวมถึงเกณฑ์การตอบแบบสอบถามเพื่อให้ผู้ตอบ
เข้าใจคำถาม และจะต้องมีแบบสอบถามเพื่อให้แม่นยำมาก
ผู้วิจัยแจกแบบสอบถามออนไลน์ให้กับผู้ใช้บริการประกันภัยภาคสมัครใจของ บริษัท
ประกันภัยต่าง ๆ ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล
ผู้วิจัยใช้แบบสอบถามที่ได้รับจากแบบสอบถามออนไลน์ของผู้ใช้บริการประกันสุขภาพ
ของ บริษัท ประกันต่าง ๆ ในเขตกรุงเทพและปริมณฑลเพื่อตรวจสอบความครบถ้วนและ
วิเคราะห์ทางสถิติ
8) ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ (2 คะแนน)
1. ทำให้ลูกค้าประกันภัยเพิ่มขึ้น บริษัทประกันภัยมีกำไรมากขึ้น
2. บริษัทประกันภัยสามารถรับรู้ถึงความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภคได้ และนำผลที่ได้จากการวิจัยนี้ไป
ปรับปรุง หรือแก้ไขรูปแบบกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 ให้มีความคุ้มครองที่เหมาะสมและตรง
กับความต้องการของผู้บริโภค สำหรับการแข่งขันกับคู่แข่งทางการตลาด