Professional Documents
Culture Documents
จัดทาโดย
นายรชตวิชญ์ สังข์ทอง รหัสนักเรียน 14855 ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5/3
นางสาวธันยชนก ทรงประสพ รหัสนักเรียน 16081 ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5/3
เสนอ
นาย ประเสริฐ เจริญสุข
การศึกษานี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาประวัติศาสตร์สากล
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566
การปฏิรูปการศึกษา
(Educational change)
จัดทำโดย
นายรชตวิชญ์ สังข์ทอง รหัสนักเรียน 14855
นางสาวธันยชนก ทรงประสพ รหัสนักเรียน 16081
เสนอ
นาย ประเสริฐ เจริญสุข
การศึกษานี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาประวัติศาสตร์สากล
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566
คำนำ
รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา ประวัติศาสตร์สากล โดยมีจุดประสงค์ เพื่อการศึกษา
ความรู้ เกี่ยวกับความหมายและความสำคัญของการปฏิรูปการศึกษาและกระบวนการขั้นตอนการปฏิรูป
การศึกษา ระเบียบการปฏิรูปการศึกษา การวิเคราะห์กรณี ตัวอย่างการปฏิรู ปการศึกษา ลักษณะของการ
ปฏิรูปการศึกษา ข้อดีและข้อเสียของการปฏิรูปการศึกษา
คณะผู้จัดทำจะต้องขอขอบคุณอาจารย์ ประเสริฐ เจริญสุข ผู้ให้ความรู้และแนวทางการศึกษา
เพื่อนๆ ทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานฉบับบนี้จะให้ความรู้
และเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกๆท่าน
คณะผู้จัดทำ
สารบัญ
หน้า
คำนำ ก
สารบัญ ข
บทที่ 1 ประวัติความเป็นมา
การปฏิรูปการศึกษา 1
การศึกษาของไทยสมัยโบราณ 1
การศึกษาในสมัยสุโขทัย 2
การศึกษาในสมัยกรุงศรีอยุธยา 2
การศึกษาในสมัยธนบุรีและรัตนโกสินทร์ตอนต้น 3
การศึกษาไทยสมัยปฏิรูปการศึกษา 4
การศึกษาในสมัยการปกครองระบบรัฐธรรมนูญ 4
วิวัฒนาการจัดการศึกษา 5
บทที่ 2 สาเหตุของการปฏิรูปการศึกษา
สาเหตุของการปฏิรูปการศึกษา 7
บทที่ 3 การปฏิรูปสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาโลกได้อย่างไร
วิวัฒนาการการศึกษาไทย 8
การศึกษาในอดีต 8
การปฏิรูปการศึกษาไทยในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 8
การปฏิรูปการศึกษาไทยหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 8
การปฏิรูปการศึกษาไทยสมัยพัฒนาการศึกษา พ.ศ. 2494 – 2534 9
การศึกษาสมัยปัจจุบัน 9
บทที่ 4 ปัจจัยที่ส่งเสริมการปฏิรูปการศึกษา
ความกดดันทางสังคมและความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป 10
ปัจจัยทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองที่ขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา 10
บุคคลหรือกลุ่มผู้มีอิทธิพลมีส่วนสนับสนุนการปฏิรูปการศึกษา 11
บทที่ 5 การปฏิรูปการศึกษาเกิดข้อดีข้อเสีย
ข้อดี 12
ข้อเสีย 12
สรุป 13
บรรณานุกรม ค
บทที่ 1
ประวัติความเป็นมา
มี พ ระราชกรณี ย กิ จ อั น เป็ น ประโยชน์ ต ่ อ การจั ด การการศึ ก ษาในสมั ย นั ้ น และมี อ ิ ท ธิ พ ลต่ อ มา กล่ า วคื อ
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช และพระมหาธรรมราชาที่1 (พระเจ้าลิไท) ซึ่งพระราชกรณียกิจที่สำคัญ คือ การประดิษฐ์
อักษรไทยขึ้นครั้งแรกโดยดัดแปลงมาจากตัวหนังสือ ของขอมและมอญ อันเป็นรากฐานด้านอักษรศาสตร์จนนำมาสู่
การพัฒนาปรับปรุงเป็นอักษรไทยในปัจจุบัน คือศิลาจารึกหลักที่ 1 จึงเป็นศิลาจารึกที่จารึกเป็นอักษรไทยให้ความรู้
เกี่ยวกับประวัติความเป็นมมาของสุโขทัยด้านประวัติศาสตร์ ส่วนการบำรุงพุทธศาสนาในรัชกาลพระมหาธรรมราชา
ที่ 1( พระเจ้าลิไท )ทำให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรื่องมากในสมัยนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่า พระองค์ทรงสละราชย์สมบัติ
ออกบวช เป็นพระภิกษุชั่วระยะหนึ่ ง ซึ่งจะนับเป็นแบบอย่างในการบวชเรียน ในสมัยต่อมานั้นการที่พระองค์
ทรงจัดระเบียบการปกครองคณะสงฆ์ โดยกำหนดให้การปกครองสงฆ์ออกเป็นสองคณะกล่าวคือคณะอรัญวาสี และ
คณะคามวาสี และการที่พระองค์ทรงพระนิพนธ์หนังสือไตรภูมิพระร่วง ซึ่ง จะเป็นหนังสือเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา
ที่มุ่งเน้นการสอนศีลธรรมให้ราษฎรประพฤติ แต่สิ่งที่ดีงามละเว้นในความชั่ว ประพฤติดีจะได้ขึ้นสวรรค์ผู้ประพฤติชั่ว
จะต้องตกนรก ซึ่งพระองค์ทรงบรรยายไว้ อันน่าสะพรึงกลังนับเป็น วรณคดีร้อยแก้วที่มีความสำคัญที่สุดในสมัย
สุโขทัย โดยกล่าวถึงโลกมนุษย์ สวรรค์และนรกเป็นวรรณคดีที่ได้รับการกล่าวอ้างถึงในวรรณกรรมต่างๆ และเป็น
วรรณคดีที่มีความสำคัญต่อคำสอนในพุทธศาสนามาจนถึงปัจจุบันนี้
1.4.1 การศึกษาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
1. ปัจจัยของไทยที่มีอิทธิพลต่อการจัดการศึกษา
(1) นโยบายการจัดการศึกษาของคณะราษฎร์ ประเทศไทยได้เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบ
สมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 คณะราษฎร์ซึ่งเป็นกลุ่ ม
บุคคลที่รวมตัวกันเปลี่ยนแปลงการปกครอง ได้วางเป้าหมายสำคัญหรืออุดมการณ์ของคณะราษฎร์ มีปรากฏอยู่ใน
หลัก 6 ประการ ข้อที่ 6 จะต้องให้การศึกษาอย่างเต็มที่แก่ราษฎร์ เพราะคณะราษฎร์มีความเห็นว่าการที่จะให้
ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเรื่องการปกครองระบอบประชาธิปไตย จำเป็นต้องจัดการศึกษาให้กับประชาชนอย่าง
5
2. วิวัฒนาการจัดการศึกษา มีดังนี้
(1) มีการประกาศใช้แผนการศึกษาชาติ หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยแล้ว
โดยจัดตั้งคณะกรรมการการศึกษาและทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้ตั้งสภาการศึกษา พ.ศ. 2475 ประกาศใช้
แผนการศึกษาชาติ ต่อมามีการปรับปรุงการจัดการศึกษาภาคบังคับจาก 6 ปี เหลือ 4ปี และประกาศใช้แผนการ
ศึกษาชาติ พ.ศ. 2479
(2) การมอบให้ ท ้ อ งถิ ่ น จั ด การจั ด การศึ ก ษา พ.ศ. 2476 และยกฐานะท้ อ งถิ่ น ขึ ้ น เป็ น เทศบาลตรา
พระราชบัญญัติเทศบาลขึ้น และเทศบาลได้จัดการศึกษาอย่างแท้จริงใน พ.ศ. 2478
สาเหตุของการปฏิรูปการศึกษา
สาเหตุของการปฏิรูปการศึกษา
ในราชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว การปฏิรูปการศึกษาเป็นพระบรมราโชบายที่สำคัญที่
สยามเริ่มตระหนักว่าการปฏิรูปประเทศตามอย่างตะวันตกจำเป็นที่จะต้องสร้างประชากรที่มีความรู้ความสามารถ
เพื่อที่จะทำงานในระบบราชกาลสมัยใหม่ได้ รัฐบาลจึงได้ก่อตั้งโรงเรียนขึ้นเป็นสถานที่ให้การศึกษาอย่างเป็นระบบ
แทนการเรียนที่วัดตามแบบการศึกษาดั้งเดิม พร้อมกันนี้ ยังมีการเปิดโรงเรียนกฎหมาย โรงเรียนทหาร และโรงเรียน
ข้าราชกาลพลเรือน เพื่อผลิตคนสำคัญสำหรับระบบราชกาลรูปแบบใหม่เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
เจ้ า อยู ่ ห ั ว เสด็ จ ขึ ้ น ครองราชย์ ต ่ อ จากสมเด็ จ พระบรมชนกนาถ พระราโชบายด้ า นการศึ ก ษายั ง คงเป็ น
พระบรมราโชบายสำคัญที่พระองค์ทรงมุ่งหวังให้ประชาชนมีความรู้อย่างทั่วถึง ด้วยเหตุนี้จึงทรงพระกรุณาโปรด
เกล้าฯ ให้ออกประกาศและกฎหมายที่เกี่ยวกับการศึกษา
ต้องการสร้างคนที่มีความรู้เพื่อเข้ารับราชการช่วยบริหารประเทศให้พัฒนามากขึ้น มีการตั้งโรงเรียนหลวง
แห่งแรกคือ โรงเรียนนายทหารมหาดเล็ก เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2414 ทรงพระราชทานเสื้อผ้า อาหารกลางวัน
ทุกวัน ครูก็ได้ค่าจ้าง ต่อมาพระราชทานพระตำหนักเดิมที่สวนกุหลาบ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของพระบรมมหาราชวัง
ให้ชื่อว่า โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ โดยมีพระยาสุนทรโวหาร ( น้อยอาจารยางกูร ) หรือหลังสารประเสริฐ
เป็นอาจารย์ใหญ่ ให้ตั้งโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษในวัง มีฟรานซิส ยี แปตเตอร์สัน เป็นครู
นอกจากนี ้ ความต้ อ งการคนที ่ ไ ด้ ร ั บ การฝึ ก อบรมวิ ช าความรู ้ ส มั ย ใหม่ ข องตะวั น ตกมี เ พิ ่ ม ขึ้ น
ทำให้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขึ้น อย่างไรก็ตามแม้ว่ารัฐสมัยใหม่
จะต้องการคนที่มีความรู้ตามแบบแผนตะวันตกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ในทางกลับกัน จำนวนช่างไทยทางด้านจิตรกรรม
ประติมากรรม และสถาปัตยกรรมไทย กลับลดลงมาก เนื่องจากความนิยมศิลปะแบบตะวันตกเข้ามาแทนที่
บทที่ 3
การปฏิรูปสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาโลกได้อย่างไร
วิวัฒนาการการศึกษาไทย
การศึกษาในอดีต ปัจจุบัน อนาคต ต่างมีวิวัฒนาการเพื่อปรับให้เข้ากับยุคและสมัยของผู้ตนในแต่ละยุค
ปัจจัยที่ทำให้การศึกษามีวิวัฒนาการและมีการเปลี่ยนแปลงนั้นมีทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกประเทศ
อย่างเช่น ปัจจัยภายในเกิดจากความต้องการพัฒนาสังคม ให้มีความเจริญและทันสมัย ปัจจัยภายนอกเกิดจาก
กระแสความเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกในด้านต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งประเทศเองก็มีวิวัฒนาการทางการศึกษาด้วย
เช่นกัน
การศึกษาในอดีต
นับตั้งแต่สุโขทัยจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นการศึกษาได้ถูกจัดแบ่งตามเพศ โดยการศึกษาสำหรับผู้ชาย
จะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ การศึกษาของฝ่ายอาณาจักร และพุทธจักร การศึกษาของฝ่ายอาณาจักรเป็นการศึกษา
สำหรับผู้ชายที่เป็นทหาร โดยจะเล่าเรียนเกี่ยวกับมวย กระบี่กระบอง อาวุธ ตำราพิชัยยุทธ์ต่าง ๆ ส่วยการศึกษาของ
พุทธจักรเป็นการศึกษาสำหรับพลเรือนชาย เป็นการเล่าเรียนเกี่ยวกับคัมภีร์ ไตรเวท โหราศาสตร์เวชกรรม และ
การศึกษาสำหรับเพศหญิงจะเป็นการศึกษาเกี่ยวกับงานบ้านงานเรือน กิริยามารยาท การทำอาหาร เป็นต้น
การปฏิรูปการศึกษาไทยในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เป็นการปฏิรูปการศึกษาไทยครั้งแรก โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรด
เกล้า ฯ ให้มีการจัดตั้งสถานศึกษาขึ้นตามวัด ในมณฑลต่าง ๆ และให้โรงเรียนต่าง ๆ ขึ้นกับกรมศึกษาธิการทั้งหมด
ต่อมาก็ได้มีการยกฐานะกรมศึกษาธิการเป็นกระทรวงธรรมาการ หรือกระทรวงศึกษาธิการในปัจจุบัน
การศึกษาสมัยปัจจุบัน
การศึกษาในปัจจุบัน ใช้แผนการศึกษาสมัย พ.ศ. 2535 ซึ่งมีลักษณะที่กำหนดหลายประการ ดังนี้
1. กำหนดหลักการที่สำคัญ 4 หลักการ
2. กำหนดจุดมุ่งหมาย ที่ครอบคลุมทั้งด้านร่างกาย ปัญญา ด้านจิตใจ ด้านร่างกายและสังคม
3. วางระบบการศึกษา
4. กำหนดนโยบายการศึกษา 19 ประการ
5. กำหนดแนวทางการจัดการศึกษา
6. กำหนดหน่วยงานที่รับผิดชอบ ในการจัดทำแผนพัฒนาการศึกษา
ความพยายามในการปฏิรูปที่ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องอาศัยปัจจัยหลายประการร่วมกันเพื่อขับเคลื่อน
การเปลี่ยนแปลงเชิงบวกและการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ประการแรก ธุรกิจขนาดใหญ่และผู้ที่มีสถานะทางสังคม
และเศรษฐกิจที่ดีจะต้องยอมสละผลประโยชน์บางอย่างเพื่อสร้างความเป็นธรรมในสังคมให้มากขึ้น ประการที่สอง
การปฏิรูปที่วางแผนไว้ในช่วงที่เกิดความขัดแย้งควรได้รับการไกล่เกลี่ยโดยพรรคที่เป็นกลางซึ่งสามารถเสนอแนวทางที่
เป็นอิสระได้ การเสียสละนี้อาจรวมถึงการจ่ายภาษีจากกำไรจากการซื้อขายหุ้น ภาษีมรดก หรือภาษีที่ดินในอัตราที่
ก้าวหน้า ประการที่สาม ความพยายามในการปฏิรูปจะต้องถูกมองว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศโดยรวม มากกว่าการ
ปกป้องผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจหรือแสวงหาอำนาจ
การปฏิรูปสามารถเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการสร้างการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาทางสังคมและทางเศรษฐกิจ
การปฏิรูปมักจะมีผลกระทบทั้งในมิติองค์กรราชการและในระดับกว้างขวางของสังคม เราสามารถดูถึงประโยชน์และ
ผลกระทบต่าง ๆ ที่การปฏิรูปสามารถนำเสนอได้:
บทที่ 4
ปัจจัยที่ส่งเสริมการปฏิรูปการศึกษา
ความกดดันทางสังคมและความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป
การปฏิรูปการศึกษาได้รับอิทธิพลจากแรงกดดันทางสังคมในอดีต โครงสร้างทางสังคมที่ก่อให้เกิดความกดดัน
และความขั ด แย้ ง ต่ อ การศึ ก ษาแพร่ ห ลาย ส่ ง ผลให้ ม ี ค วามต้ อ งการระบบการศึ ก ษาและแนวปฏิ บ ั ติ ท ี ่ ด ีข ึ้นสู ง
ในสถานการณ์ตึงเครียดที่ก่อให้เกิดแรงกดดันได้ง่าย เช่น การจลาจลทางการเมือง ความร้อน ความหนาวเย็น เสียงดัง
จากโรงงานอุตสาหกรรม และระดับกลิ่นเหม็น ความเครียด และความวิตกกังวลก็เพิ่มสูงขึ้น นักเรียนต้องอยู่กับ
ความเครียด ความกดดัน และความคาดหวังสูงเป็นเวลา 5 ถึง 6 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งมักนำไปสู่อาการเครียดสะสม
ปัญหาสุขภาพจิตอย่างหนึ่งที่หลายคนประสบแต่ไม่รู้ตัวคือผลจากแรงกดดันเหล่านี้ การรับรู้ปัญหาเหล่านี้สามารถช่วย
บรรเทาได้ แรงกดดันทางสังคมเหล่านี้มีอิทธิพลต่อวิธีการจัดการศึกษาด้วย เวลา สถานที่ และบริบททางสังคมสามารถ
ส่งผลต่อความเชื่อ ค่านิยม และบรรทัดฐานของสถาบันการศึกษาได้ ดังนั้นการปฏิรูปการศึกษาจึงมีความจำเป็นอย่าง
ยิ่งในการจัดทำแนวทางที่มีประสิทธิภาพและมุ่งเป้าไปที่เป้าหมาย มีการศึกษาปัจจัยความเครียดและการควบคุม
ตนเองที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปการศึกษา โดยเฉพาะในบริ บทของความผิดที่เด็กและเยาวชนกระทำ จากการวิจัย
ปัจจัยความเครียดและปัจจัยการควบคุมตนเอง พบว่าปัจจัยความเครียดบางประการสามารถนำไปสู่ความขุ่นเคืองใน
เด็กและเยาวชนได้
บุคคลหรือกลุ่มผู้มีอิทธิพลมีส่วนสนับสนุนการปฏิรูปการศึกษา
การศึกษาเป็นองค์กรที่มีการพัฒนามาโดยตลอดซึ่งปรับให้เข้ากับยุคสมัยและความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป
ในแต่ละยุคสมัย ปัจจัยทั้งภายในและภายนอกมีส่วนทำให้การศึกษามีวิวัฒนาการและมีการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม
ปัญหาด้านการศึกษาบางประเด็นฝังลึกมากจนไม่สามารถแก้ไขได้โดยใช้วิธีการแบบเดิม ๆ และจำเป็นต้องมีการยก
เครื่องระบบใหม่ทั้งหมด ควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงกรอบความคิดของผู้นำทางการศึกษาและผู้ปฏิบัติงาน ใน
ประเทศไทย ระบบการศึกษามีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างจากอดีตสู่อนาคต โดยให้ความสำคัญกับการพิจารณาผู้เรียน
เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของระบบ บุคคลผู้มีอิทธิพลในประเทศไทยที่มีส่วนร่วมในการส่งเสริมการปฏิรูปการศึกษา ได้แก่
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารย์ยางกุล) ซึ่งทั้งสองเป็นผู้นำที่
ชาญฉลาดที่ตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาในการพัฒนาประเทศ นางสาวชุติมาน เหลืองทองคา วิเคราะห์
แนวทางของครูไทยในการปฏิรูปการศึกษายุคนี้ ในทำนองเดียวกัน ในเกาหลี ความจำเป็นในการปฏิรูปการศึกษาได้รับ
แรงผลักดันจากการกระจายโอกาสทางการศึกษาภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึง
ประเพณีวัฒนธรรมและการศึกษาที่เป็ นเอกลักษณ์ของเกาหลีด้วย ในขณะเดียวกัน ในซีกโลกตะวันตก ลัทธิเสรีนิยม
ใหม่ได้ครอบงำการศึกษาสาธารณะผ่านวาทกรรมการศึกษาที่อิงมาตรฐาน โดยมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนการเติบโตทาง
เศรษฐกิจผ่านทางการศึกษา โดยสรุป บุคคลและกลุ่มผู้มีอิทธิพลมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการปฏิรู ปการศึกษา
โดยตระหนักถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงและดำเนินการเพื่อนำมาซึ่งการปรับโครงสร้างระบบการศึกษา
บทที่ 5
การปฏิรูปการศึกษาเกิดข้อดีข้อเสีย
ข้อดี
แม้ว่ามหาวิทยาลัยเอกชนในประเทศไทยจะมีความก้าวหน้าในการปรับปรุงคุณภาพการศึกษา แต่ก็ยังมี
ช่องทางให้ปรับปรุงผ่านการปฏิรูปการศึกษา ประโยชน์ที่เป็นไปได้ของการปฏิรูปดังกล่าวมีมากมาย ตัวอย่างเช่น
เทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถนำมาใช้เพื่อช่วยให้นักเรียนเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น ส่งผลให้
อัตราความสำเร็จของนักเรียนดีขึ้น นอกจากนี้ การปฏิรูปการศึกษาสามารถปรับปรุงความสำเร็จของนักเรียนโดยการ
ผลิตผลิตภัณฑ์ทางการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในชีวิตจริงมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเตรียมนักเรียนให้พร้อมสำหรับ
การทำงานได้ดีขึ้น การใช้ศักยภาพของครูและการดำเนินโครงการพัฒนาวิชาชีพสามารถมีส่วนช่วยในการพัฒนาและ
ความสำเร็จของนักเรียนได้ นอกจากนี้ การปฏิรูปการศึกษายังสามารถสร้างโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมกัน และ
ลดช่องว่างระหว่างผู้ที่มีฐานะดีและผู้ที่มีฐานะยากจนจนถึงชนชั้นกลาง ซึ่งสามารถทำได้โดยการพัฒนาหลักสูตรที่เน้น
ความสามารถและนำแนวทางใหม่ที่เรียกว่า "ลูกของคุณคือลูกของเรา" ประโยชน์ที่เป็นไปได้อื่นๆ ได้แก่ การปรับปรุง
การเข้าถึงการพัฒนาสำหรับนักเรียน การติดตามและประเมินคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานการศึกษา และการ
จัดการโครงสร้างเวลาเรียน นอกจากนี้ การแบ่งเวลาจัดกิจกรรม/โครงการพัฒนานักเรียนนอกเวลาเรียนปกติยังเป็น
ประโยชน์ในการส่งเสริมความสำเร็จของนักเรียนอีกด้วย ประโยชน์ที่เป็นไปได้ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าการปฏิรูป
การศึกษาสามารถนำไปสู่ความสำเร็จของนักเรียนที่ดีขึ้นและขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในประเทศไทย
อย่างจริงจังได้อย่างไร
ข้อเสีย
แม้ว่าความคิดริเริ่มในการปฏิรูปการศึกษามีศักยภาพในการปรับปรุงความสำเร็จของนักเรียน แต่ก็มีข้อเสีย
และความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นเช่นกันที่ต้องพิจารณา ประเด็นหนึ่งคือคุณภาพการศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
โดยเฉพาะในเรื่องค่าเล่าเรียน แม้ว่าการปรับปรุงด้านการศึกษาอาจดึงดูดนักศึกษาต่างชาติจากประเทศต่างๆ เช่น
อาเซียน เมียนมาร์ เวียดนาม กัมพูชา ลาว และจีน ค่าใช้จ่ายสูงที่เกี่ยวข้องกับสถาบันเอกชนอาจทำให้นักเรียนที่มีภูมิ
หลังด้อยโอกาสไม่สามารถเข้าถึงโอกาสเหล่านี้ได้ นอกจากนี้ มีรายงานว่ากองทุนจีนเข้าซื้อมหาวิทยาลัยเอกชน ของ
ไทยหลายแห่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพหรือทิศทางการศึกษาในสถาบันเหล่านี้ สิ่งนี้ทำให้
เกิดความกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลของการลงทุนจากต่างประเทศต่อการตัดสินใจและผลลัพธ์ทางการศึกษา ในทาง
กลับกัน การลงทุนกับนักศึกษาจีนเพื่อศึกษาต่อต่างประเทศอาจง่ายกว่าการพยายามจัดตั้งมหาวิทยาลัยแห่งใหม่ใน
ประเทศจีน ซึ่งอาจมีราคาแพงและใช้เวลานานกว่า ความท้าทายเหล่านี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการพิจารณาและ
13
สรุป
ระบบการศึกษาในปัจจุบันจำเป็นต้องมีการปฏิรูปที่สำคัญเพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์การศึกษา การปฏิรูปมีสี่
ประเด็นหลัก ได้แก่ หลักสูตร วิธีการสอน ครู และวิธีการประเมินผล การปฏิรูปนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงระบบ
การศึกษาซึ่งปัจจุบันไม่สามารถตอบสนองความต้องการของทั้งการเรียนรู้และตลาดแรงงานที่เปลี่ยนแปลงไป แม้ว่า
การปฏิรูปการศึกษาจะเป็นประเด็นที่มีการกล่าวถึงมากที่สุดในบรรดานโยบายสำคัญๆ ของประเทศไทย แต่ก็ได้รับ
ความสนใจน้อยที่สุดแม้จะมีความสำคัญต่อสังคมไทยก็ตาม เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ความคืบหน้า ความท้าทาย
และแนวโน้มในอนาคตของการปฏิรูปเหล่านี้ จำเป็นต้องได้รับการประเมินและติดตามอย่างรอบคอบ กำลังดำเนินการ
ปฏิรูปหลักสูตรเพื่อสอนให้เด็กๆ มีความเชี่ยวชาญในการใช้งานในชีวิตจริง และวิธีการสอนได้เปลี่ยนจากครูเป็น
ศูนย์กลางไปสู่เด็กเป็นศูนย์กลาง เพื่อเน้นการคิดเชิงวิเคราะห์และความคิดสร้างสรรค์ แทนการท่องจำและการเรียนรู้ที่
เน้ น ครู เ ป็ น ศู น ย์ ก ลาง กำลั ง ปฏิ ร ู ป ครู ใ ห้ ม ี ค วามรู ้ ความสามารถ และทำหน้ า ที ่ เ ป็ น พ่ อ แม่ ค นที ่ ส องของลู ก
ในขณะเดียวกัน วิธีการประเมินกำลังได้รับการปฏิรูปเพื่อลดความสำคัญของการสอบและหลีกเลี่ยงการระงับความคิด
สร้างสรรค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนปัจจุบันชี้ให้เห็นว่าการปฏิรูปการศึกษาเป็นนโยบายที่ท้าทาย
ภายใต้กระแสการเปลี่ยนแปลง มีพรรคการเมืองเพียงไม่กี่พรรคที่เสนอนโยบายสำหรับการปฏิรูปการศึกษาแต่ละ
ประเภท คิดเป็นสัดส่วนเพียง 9% ของจำนวนนโยบายทั้งหมด อย่างไรก็ตาม 'หลักสูตรที่เน้นความสามารถ' ได้รับการ
ผลักดันในอุตสาหกรรมการศึกษาให้เปลี่ยนการศึกษาไทย หมวดหมู่งบประมาณประกอบด้วยนโยบายการกระจาย
อำนาจของโรงเรียน โรงเรียนที่ปราศจากเผด็จการ การเรียนรู้สมัยใหม่ โรงเรียนหลายภาษา ลดเวลาเรียน การเลือก
สถานที่เรียน และสื่อการสอนที่ทันสมัย ด้วยการติดตามและประเมินผลการปฏิรูปเหล่านี้อย่างรอบคอบ หวังว่าจะ
นำไปสู่ระบบการศึกษาที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน
บรรณานุกรม
นางเจริญศรี บุญสกุล. (2560). กฎหมายการศึกษา : กฏหมายเบื้องต้น. ปทุมธานี : โรงเรียนนครรังสิต รัตนโกสินทร์
พิมพันธ์ เดชะคุปต์. (2548). การวิจัยและพัฒนารูปแบบการ ปฏิรูปการเรียนรู้ทั้งโรงเรียน. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์และ
ทำปกเจริญผล
ดวงเดือน อ่อน. (2543). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2). กรุงเทพฯ : บริษัท
พริกหวาน กราฟฟิค จำกัด.