Professional Documents
Culture Documents
ฉบับเต็มภาพยนตร์เกาหลีกับการสร้างภาพลักษณ์ของญี่ปุ่นล่าสุด 04-11-62
ฉบับเต็มภาพยนตร์เกาหลีกับการสร้างภาพลักษณ์ของญี่ปุ่นล่าสุด 04-11-62
จัดทำโดย
นางสาวณัฐณิชา นวลละออง รหัสนิสิต 591011231
เสนอ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พรชัย นาคสีทอง
ที่ปรึกษา
อาจารย์เกษรา ศรีนาคา
งานวิจัยนี้เป็นส่วนหนึง่ ของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาศิลปศาสตรบัณฑิต
สาขาวิชาประวัติศาสตร์มหาวิทยาลัยทักษิณวิทยาเขตสงขลา
ปีการศึกษา 2562
กิตติกรรมประกาศ
งานวิจัยชิ้นนี้จะไม่สามารถสำเร็จลุล่วงไปได้หากขาดความช่วยเหลือ และคำแนะนำจาก
อาจารย์ เกษรา ศรีน าคา อาจารย์ ที่ปรึกษางานวิจั ย และผู้ช ่วยศาสตราจารย์ พรชัย นาคสีทอง
อาจารย์ประจำรายวิชาในครั้งนี้ด้วย โดยอาจารย์ได้ให้ข้อชี้แนะและคำแนะนำ เป็นอย่างดีตั้งแต่ผู้วิจยั
ริเริ่มคิดหาหัวข้อเรื่องจนกระทั่งสำเร็จเสร็จสิ้นออกมาเป็นรูปเล่มก็ได้ รับกำลังใจและความกรุณาจาก
อาจารย์มาโดยตลอด ผู้วิจัยจึงขอขอบพระคุณอาจารย์เกษรา ศรีนาคา และผู้ช่วยศาสตราจารย์ พรชัย
นาคสีทองเป็นอย่างสูง
ขอขอบพระคุณ บรรดาผู้กำกับ ผู้เขียนบท รัฐบาลประเทศเกาหลี เว็บไซต์ต่างๆที่เผยแผ่
ภาพยนตร์และผู้แปลภาษาในภาพยนตร์ ที่ได้สร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์ที่มีคุณค่าให้ผู้วิจัยได้นำมา
วิเคราะห์ออกมาเป็นงานวิจัยฉบับนี้ ซึ่งผู้วิจัยตระหนักอยู่เสมอตั้งแต่เริ่มทำงานวิจยั ชิ้นนี้ว่าภาพยนตร์
เหล่านี้มีคุณค่าและถ่ายทอดเรื่องราวได้อย่างน่าประทับใจมากผู้วิจยั ในฐานะผู้ที่ได้รับชมภาพยนตร์คน
หนึ่งรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ทำการศึกษาภาพยนตร์เหล่านี้
ขอขอบพระคุ ณ อาจารย์ ดร.อนิ น ทร์ พุ ฒ ิ โ ชติ สำหรั บ กำลั ง ใจและคำแนะนำ และ
ขอขอบพระคุณ รองศาสตราจารย์ ดร.อดิศร ศักดิ์สูง สำหรับคำแนะนำ ในการทำงานวิจัยชิ้นนี้เสมอ
มาตลอดจนคำชี้แนะ แนะนำเอกสาร ทรัพยากรด้านข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ที่ช่วยให้ผู้วิจยั เห็นแนวทาง
ในการทำงานวิจยั ต่อไปได้ จึงขอขอบพระคุณคณาจารย์ทุกท่านเป็นอย่างสูง
ขอขอบพระคุณ พ่อแม่และบุคคลในครอบครัวทุกคนที่เป็นกำลังสำคัญทางใจให้ผู้วิจัยมีความ
เชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น ตลอดจนขอขอบคุณเพื่อนๆ สาขาประวั ติศาสตร์ทุกคนที่คอยช่วยเหลือและ
ให้กำลังใจกันเสมอมา เพราะฉะนั้นผู้วิจัยจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่างานวิจัยชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ ที่
สนใจศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับ การสร้างภาพลักษณ์ของญี่ปุ่น ตั้งแต่ ค.ศ. 2009 – ปัจจุบัน (2019)ได้ไม่
มากก็นอ้ ย หากมีข้อผิดพลาดประการใดผู้วิจยั ต้องขออภัยมา ณ ทีนดี้ ว้ ย
สารบัญ
เรื่อง หน้า
บทที่ 1 บทนำ 1
1.1 ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา 1
1.2 วัตถุประสงค์ 4
1.3 ขอบเขตการศึกษา 4
1.4 วิธีการศึกษาค้นคว้า 5
1.5. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 5
1.6. นิยามศัพท์ 5
1.7. แหล่งที่มาของข้อมูล 6
1.8. เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 6
บทที่ 2 บริบททางประวัตศิ าสตร์เกาหลีสมัยใหม่ 11
2.1. สถานการณ์ภายในประเทศเกาหลี 13
2.2. เกาหลีกับการเปิดประเทศ 15
2.3. เกาหลีกับการแทรกแซงจากต่างชาติ 17
2.4. เกาหลีกับการอยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น 20
2.4.1. การผนวกเกาหลีเป็นส่วนหนึ่งของญี่ปุ่น 20
2.4.2. เกาหลีภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น 21
2.4.3. ปฏิกิริยาของชาวเกาหลี 23
2.5. การแบ่งแยกประเทศและสงครามเกาหลี 28
2.5.1. การแบ่งแยกเกาหลี 28
2.5.2. สงครามเกาหลี 30
2.6. เกาหลีกับการฟื้นตัวหลังสงคราม 31
2.6.1 เกาหลีเหนือกับลัทธิจูเช่ 31
2.6.2. เกาหลีใต้กับความมหัศจรรย์ในการพัฒนาประเทศ 33
บทที่ 3 การสร้างและผลิตซ้ำภาพลักษณ์ของญี่ปุ่น 42
ที่ปรากฏในภาพยนตร์เกาหลี
3.1 ว่าด้วยเรื่องของภาพยนตร์เกาหลี 42
3.2 การสร้างและผลิตซ้ำภาพลักษณ์ของญี่ปุ่นที่ปรากฏในภาพยนตร์เกาหลี 46
3.2.1 เนื้อเรื่องโดยย่อของภาพยนตร์เกาหลี 47
3.2.2 การสร้างและผลิตซ้ำภาพลักษณ์ของญี่ปุ่น 53
ที่ปรากฏในภาพยนตร์เกาหลี
บทที่ 4 สรุป 77
บรรณานุกรม 80
ประวัติย่อผู้วิจัย 86
1
บทที่ 1
บทนำ
1.1. ที่มาและความสำคัญของการศึกษา
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเกาหลีและญี่ปุ่นดำเนินไปในทิศทางที่ดี หลังจากที่ ทั้งสอง
ประเทศตั ด สิ น ใจเซ็ น สนธิ ส ั ญ ญายุ ต ิ ค วามขั ด แย้ ง และบาดหมางในปี 1965 1 อย่ า งไรก็ ต าม
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเกาหลีกับญี่ปุ่น กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง จากปัญหา 2 ประเด็น
โดยในช่วงปลายปี 2018 แรกเริ่มจากการจัดงานครบรอบ 73 ปี ของวันสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
โดยจักรพรรดิอากิฮิโ ตะ แห่งญี่ป ุ่น ได้กล่าวแสดงความเสียใจกับสิ่งที่ญี่ปุ่นทำลงไปในสงคราม
ขณะเดียวกัน มุน ฮี-ซัง ประธานรัฐสภาเกาหลี ได้กล่าวโจมตีจักรพรรดิอากิฮิโตะ และเรียกร้องให้
จักรพรรดิออกมากล่าวคำขอโทษอย่างเป็นทางการกับกรณีญี่ปุ่นเอาผู้หญิงเกาหลีมาเป็นทาสบำเรอ
กามในสงครามโลก ทำให้นายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีและโฆษกรัฐบาลรุมโจมตี มุ น ฮี-ซัง
อย่างรุนแรงที่วิจารณ์ล้ำเส้นถึงองค์จักรพรรดิ2
ขณะเดียวกันในช่วงปลายปี 2018 นี้ศาลฎีกาของเกาหลีได้สั่งให้บริษัท Nippon Steel &
Sumitomo Metal และบริษัท Mitsubishi Heavy Industries จ่ายเงินให้กับโจทย์ทั้งหมด 9 คน ที่
ถูกใช้แรงงานช่วงสงครามอีก ประมาณคนละ 100-150 ล้านวอน (ประมาณ 2.5-4 ล้านบาท) เพราะ
สนธิ ส ั ญ ญาในปี 1965 ไม่ ร วมสิ ท ธิ ข องบุ ค คลในการเรี ย กร้ อ งค่ า ชดเชยของตั ว เองส่ ง ผลไปสู่
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของทั้งสองประเทศที่เริ่มตึงเครียดกันมากขึ้น จากความขัดแย้งเรียกร้อง
ให้ชดเชยทางประวัติศาสตร์กลายมาสู่ความขัดแย้งทางเศรษฐกิจ3
ในปี 2019 ญี่ปุ่นได้ทำการถอดถอนเกาหลีออกจาก Whitelist ที่เรียกว่า ประเทศคู่ค้าสำคัญ
ที่ได้รับการยกเว้น หรือได้รับการผ่อนปรนสูงสุดในการนำเข้า-ส่งออกสินค้าและวัตถุดิบสำคัญกับญี่ปุ่น
ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาด IT ในประเทศเกาหลีใต้ที่จำเป็นต้องสั่งสินค้าจากญี่ ปุ่นเป็น
ประจำ4 ขณะเดียวกันทางฝั่งเกาหลี เริ่มมีความเคลื่อนไหวในโซเชียลมีเดียที่เรียกร้องให้ “บอยคอท”
สินค้าหลายประเภทจากญี่ปุ่น ตั้งแต่เบียร์ เสื้อผ้า ไปจนถึงปากกาและรถยนต์ โดยมีการติดแฮชแท็ก
https://workpointnews.com/2019/08/05/korea-japan/.
7 ธีรภัทร เจริญสุข. (ออนไลน์). ศาลเจ้ายาสุคุนิ การบูชาดวงวิญญาณ ความไม่ยอมรับผิด และการทำใจให้อภัย. สืบค้นเมื่อวันที่ 9
: https://www.bbc.com/thai/international-38461407.
9 จอห์น เค. แฟร์แบงค์, เอ็ดวิน โอ. ไรเชาเออร์, แอลเบิร์ต เอ็ม. เครก. (2550). เอเชียตะวันออกยุคใหม่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน.
สื่อบันเทิงของเกาหลีได้ผลิตภาพยนตร์ออกมาเป็นจำนวนมากตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา
มีภาพยนตร์หลากหลายแนวที่สะท้อนวัฒนธรรม ค่านิยมพื้นฐานของคนเกาหลี แต่สิ่งที่น่าสนใจของ
บรรดาภาพยนตร์ที่ถูกผลิตออกมานั้นจะมีเนื้ อหาชุดหนึ่งที่ถูกผลิตซ้ำพอ ๆ กับเนื้อหาด้านวัฒนธรรม
นั้นก็คือ เนื้อหาที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นยุคสามอาณาจักร (โครยอ แพกเจ ซิลลา) ยุคโช
ชอน รวมไปถึงยุคที่เกาหลีอ่อนแอที่สุดก็คือยุคอาณานิคม (1910-1945) โดยเนื้อหาของภาพยนตร์และ
ซีรีย์ในช่วงก่อนยุคอาณานิคม ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่เรื่องราวของการสร้างชาติของเกาหลี ที่เน้นบทบาท
การบริหารประเทศโดยชนชั้นนำ อาทิ พระมหากษัตริย์ และกลุ่มขุนนาง ที่สะท้อนเรื่องของการแย่งชิง
อำนาจ การแย่งชิงบัลลังก์ สภาพสังคม เศรษฐกิจ และความรักที่มีความแตกต่างทางชนชั้น ในขณะที่
เนื้อหาของภาพยนตร์และซีรีย์ในช่วงยุคอาณานิคม ส่วนใหญ่เนื้อหาจะเน้นไปที่ความโหดร้ายของญี่ปุ่น
ที่เข้ามาปกครองเกาหลี นับตั้งแต่การพยายามแทรกแซงและขยายอำนาจของญี่ปุ่นที่มีต่อเกาหลี ภาพ
ที่ชาวญี่ปุ่นเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ทางด้านการค้า ตลอดจนภาพลักษณ์ที่ชาวญี่ปุ่นกระทำต่อชาว
เกาหลีอย่างโหดร้าย โดยเฉพาะในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เช่น การกดขี่ การนำชาวเกาหลีไปใช้เป็น
แรงงาน การคุกคามทางเพศ ขบวนการเพื่ออิสรภาพ ฯลฯ
เรื่องราวเหล่านี้อาจเห็น ได้จากภาพยนตร์นับตั้งแต่ปี 1945 จนถึงปัจจุบัน(2019) ดังนี้
ภาพยนตร์ เ รื ่ อ ง “Viva Freedom”(1945), “Shadow Murder”(2009), “The Sword with No
Name”(2009), “Assassination”(2015), “The Last Princess”(2016), “Dongju: The Portrait
of a Poet”(2016), “The Spirits’ Homecoming”(2016), “Love, Lies”(2016), “Snowy
Road”(2017), “the battleship island”(2017), “A resistance”(2019)11
จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นว่าการสร้างภาพความโหดร้ายของญี่ปุ่นผ่านภาพยนตร์ได้มีการ
ผลิตซ้ำอย่างต่อเนื่อง เสมือนเป็นการตอกย้ำช่วงเวลาและภาพความทรงจำในอดีตแก่คนรุ่นหลัง
อย่างไรก็ตามเรามิอาจปฏิเสธได้ว ่าประวัติศาสตร์ของเกาหลีในช่ว งที่ญี่ ปุ่นเข้ามาปกครองและ
ภาพลักษณ์ของชาวญี่ปุ่นที่สะท้อนผ่านภาพยนตร์ส่วนใหญ่เกิดขึ้นมาจากมุมมองและทัศนคติของชาว
เกาหลีในปัจจุบันที่มีต่อญี่ปุ่นในอดีต ซึ่งเรามิอาจทราบได้อย่างชัดเจนว่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ใน
ช่วงเวลานั้นแท้จริงเป็นเช่นไร แต่อย่างไรก็ตามก็มิอาจปฏิเสธได้เช่นกันว่าภาพยนตร์ที่ออกมาอย่าง
ต่อเนื่องได้มีส่วนต่อการสร้างภาพลักษณ์ของชาวญี่ปุ่นอย่างเรื่อยมา ซึ่งเนื้อหาได้สะท้อนให้เห็นถึงการ
พยายามเรียกร้องอิสรภาพของชาวเกาหลี ความเป็นชาตินิยม ฯลฯ ภาพดังกล่าวได้ส่งผลต่ออารมณ์
ความรู้สึกนึกคิดของชาวเกาหลีที่มีต่อญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบัน
ดังนั้น ผู้วิจัยจึงมีความสนใจว่า ภาพยนตร์ที่ออกมาฉายได้สร้างสร้างหรือผลิตซ้ำภาพลักษณ์
ของญี่ปุ่นในช่วงเวลานั้นอย่างไรบ้าง เพื่อนำไปสู่การทำความเข้าใจปัญหาความสัมพันธ์ระหว่าง
ประเทศที่เกิดขึ้นระหว่างเกาหลีกับญี่ปุ่น ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการสร้างหรือผลิตซ้ำภาพลักษณ์ของญี่ปุ่น
อันส่งผลต่อความรู้สึกนึกคิด โดยเฉพาะความรู้สึกชาตินิยมของชาวเกาหลีที่มีต่อญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบัน
1.2. วัตถุประสงค์ของการศึกษา
เพื่อศึกษาการสร้างและผลิตซ้ำภาพลักษณ์ของญี่ปุ่นในช่วงปลายโชชอน(ปลายศตวรรษที่ 19)
จนถึงช่วงที่เกาหลีอยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น (1910-1945) ผ่านภาพยนตร์ของเกาหลีตั้งแต่
2009 - 2019
1.3. ขอบเขตของการศึกษา
การศึกษาวิจ ัย ครั้งนี้เป็น การศึกษาในประเด็นเรื่องการสร้างภาพลักษณ์ของญี่ปุ่นผ่าน
ภาพยนตร์เกาหลีที่มีเนื้อหาในช่วงปลายโชชอน(ปลายศตวรรษที่ 19) จนถึงช่วงที่เกาหลีอยู่ภายใต้การ
ปกครองของญี่ปุ่น (1910-1945)
ขอบเขตด้านเวลา ศึกษาภาพยนตร์ที่ออกอากาศตั้งแต่ปี 1982 จนถึงปัจจุบัน(2019) เพื่อ
อธิบายเรื่องราวหรือเหตุการณ์ในช่วงปลายโชชอน(ปลายศตวรรษที่ 19)จนถึงช่วงที่เกาหลีอยู่ภายใต้
การปกครองของญี่ปุ่น (1910-1945) แต่เนื่องด้วยภาพยนตร์บางเรื่องเก่าจนเกินไป ทำให้ไม่สามารถ
นำมาวิเคราะห์ได้ทั้งหมด ดังนั้นผู้วิจัยจึงเลือกภาพยนตร์ ตั้งแต่ปี 2009 จนถึงปัจจุบัน(2019) ที่
สามารถนำมาวิเคราะห์ให้เห็นภาพการสร้างและผลิตซ้ำภาพลักษณ์ของญี่ปุ่น
ขอบเขตด้านพื้นที่ ศึกษาผ่านภาพยนตร์ที่ออกอากาศตั้งแต่ปี 1982 จนถึงปัจจุบัน(2019) แต่
เนื่องด้วยภาพยนตร์บางเรื่องเก่าจนเกินไป ทำให้ไม่สามารถนำมาวิเคราะห์ได้ ผู้วิจัยจึงเลือกภาพยนตร์
ตั้งแต่ปี 2009 จนถึงปัจจุบัน(2019) ที่ยังสามารถหานำมาวิเคราะห์ได้จำนวน 8 เรื่อง ได้แก่
1. The Sword with No Name เข้าฉายในปี 2009
2. Assassination เข้าฉายในปี 2015
3. The Last Princess เข้าฉายในปี 2016
4. Dongju: The Portrait of a Poet เข้าฉายในปี 2016
5. The Spirits’ Homecoming เข้าฉายในปี 2016
6. Snowy Road เข้าฉายในปี 2017
7. The battleship island เข้าฉายในปี 2017
8. I Can Speak เข้าฉายในปี 2017
5
1.4. ระเบียบวิธีในการศึกษา
การศึกษาเรื่องการสร้างภาพลักษณ์ของญี่ปุ่นผ่านภาพยนตร์ เกาหลีที่ออกอากาศตั้งแต่ปี
1982 จนถึงปัจ จุบ ัน (2019) เป็น การศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพ โดยเน้นการศึกษาเรื่องการนำเสนอ
ภาพลักษณ์ของญี่ปุ่นในช่วงปลายโชชอนจนถึงช่วงอาณานิคม ผ่ านสื่อภาพยนตร์ ของเกาหลี ด้วย
ระเบียบวิธีทางประวัติศาสตร์ จากนั้นจึงนำเสนอข้อมูลเชิงวิเคราะห์ในรูปแบบการพรรณนา สำหรับ
กระบวนการศึกษาค้นคว้า มีดังนี้
1. ตั้งประเด็นหัวข้อที่จะศึกษา โดยประเด็นคือ ภาพยนตร์เกาหลีกับการสร้างภาพลักษณ์ของ
ญี่ปุ่น
2. รวบรวมและศึกษาข้อ มูลที่เกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ สังคม และความสัมพันธ์ระหว่าง
ประเทศของเกาหลี-ญี่ปุ่น ผ่านภาพยนตร์ ข่าว งานวิจัย และหนังสือที่เกี่ยวข้อง
3. วิเคราะห์และตีความข้อมูลทางประวัติศาสตร์ โดยการนำข้อมูลจากภาพยนตร์ ข่าว และ
เอกสารที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ สังคมและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเกาหลีกับญี่ปุ่น มา
เป็นหลักฐานในการศึกษาและตีความเพื่อนำไปสู่การค้นพบข้อสรุป
4. เรีย บเรีย งและนำเสนอข้อมูลในลักษณะที่เป็นข้อสรุปและเป็นความคิดใหม่ที่ได้จาก
การศึกษาค้นคว้าในรูปแบบรายงานวิจัย
1.5. ประโยชน์ที่ได้จากการศึกษา
ทำให้เข้าใจถึงปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเกาหลีกับญี่ปุ่นที่มีมาอย่างต่อเนื่อง
เพราะภาพยนตร์เป็นส่วนหนึ่งของการผลิตซ้ำภาพลักษณ์ของญี่ปุ่น
1.6. นิยามศัพท์
เกาหลี : ประเทศเกาหลีใต้
ญี่ปุ่น : รัฐบาลญี่ปุ่นรวมถึงทหารญี่ปุ่น
ภาพลักษณ์ : ภาพที่เกิดมาจากความนึกคิดหรือที่คิดว่าควรเป็นเช่นนั้น
การผลิตซ้ำ : การตอกย้ำความทรงจำชุดเดิมให้กับคนในสังคม
6
1.7. แหล่งข้อมูล
สำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยทักษิณ
โครงการเครือข่ายหอสมุดแห่งประเทศไทย ThaiLis
ฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ CUIR ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ TU E-Theses ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ CMU e-Theses ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เว็บไซต์ Kseries (https://www.kseries.tv)
เว็บไซต์ Youtube (https://www.youtube.com/)
แอพลิเคชั่น Viu
แอพลิเคชั่น Line TV
1.8. เอกสารและงานที่เกี่ยวข้อง
ที่ผ่านมามีงานวิจัยที่ศึกษาแง่มุมต่างๆที่เกี่ยวกับภาพยนตร์และซีรีย์เกาหลี ความสัมพันธ์
ระหว่างเกาหลีกับญี่ปุ่นเอาไว้พอสมควร บางส่วนได้ให้รายละเอียดที่สำคัญเกี่ยวกับซีรีย์เกาหลีกับการ
ส่งออกวัฒนธรรม การรับวัฒนธรรมเกาหลีผ่านซีรีย์ ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีกับญี่ปุ่น นโยบาย
ต่างประเทศของเกาหลี อย่างไรก็ดีงานเหล่านี้ไม่ได้ ศึกษาเกี่ยวกับการสร้างภาพลักษณ์ของญี่ปุ่นที่
ปรากฎในซีรีย์เกาหลี จะเห็นได้จากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ ภาพยนตร์และซีรีย์เกาหลี
รวมทั้งงานที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของเกาหลีกับญี่ปุ่น และงานที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์
สังคม วัฒนธรรม ค่านิยมของเกาหลีกับญี่ปุ่น ดังนี้
กลุ่มที่ 1 งานที่ศึกษาเกี่ยวกับภาพยนตร์และซีรีย์เกาหลี
กานต์พิชชา วงษ์ขาว. (2550). สื่อละครโทรทัศน์เกาหลีกับการเผยแพร่วัฒนธรรมเกาหลี
ในสังคมไทย. งานวิจัยชิ้นนี้เป็นงานวิจัยเชิงปริม าณเพื่อศึกษาลักษณะทางประชากรศาสตร์ที่ มีต่อ
ความคิดเห็น ต่อ ซีรี ย ์ เกาหลี พฤติกรรมการรั บชมซีรีย ์เ กาหลี และพฤติ กรรมการเลีย นแบบทาง
วัฒนธรรม พบว่าถ้าความคิดเห็นที่มีต่อการรับชมซีรีย์เกาหลีไปในทางบวก พฤติกรรมการเลียนแบบ
ทางวัฒนธรรมก็จะไปในทิศทางบวก12
13 ธีปนันท์ เพ็ชร์ศรี, อลงกรณ์ คล้ายสีแก้ว, โสภณา เชาว์วิวัฒน์กุล. (2545). Korean Romance 15 หนังรักประทับใจและความ
เป็นมาเป็นไปของหนังเกาหลี. กรุงเทพฯ : Blackberry Publishing.
14 ปิยะการณ์ ไกรนรา. (2552). นโยบายต่างประเทศเกาหลีใต้ ด้านเศรษฐกิจ การเมือง : กรณีศึกษาการส่งออกวัฒนธรรมผ่าน
ประเทศ ดังนั้นงานกลุ่มนี้จะทำให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของ
เกาหลีกับญี่ปุ่น
กลุ่มที่ 3 งานที่ศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ สังคม และวัฒนธรรมเกาหลีและญี่ปุ่น
แดเนียล ทิวดอร์. (2560). มหัศจรรย์เกาหลี จากเถ้าถ่านสู่มหาอำนาจทางเศรษฐกิจและ
วั ฒ นธรรม (แปลจาก KOREA The Impossible Country โดย ฐิ ต ิ พ งษ์ เหลื อ งอรุ ณ เลิ ศ ).
หนังสือเล่มนี้นำเสนอความเป็นมา รากฐานวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของเกาหลี ซึ่งผู้เขียนต้องการ
นำเสนอให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของประเทศเกาหลีที่ไม่ใช่แค่ทางเศรษฐกิจ แต่รวมถึงวัฒนธรรม
และการเมือง โดยมีเนื้อหาทั้งหมด 5 บท บทที่ 1 จะเป็นเรื่องของปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลต่อลักษณะ
นิสัยของคนเกาหลี เช่นความเชื่อของลัทธิขงจื๊อที่ผู้ชายเป็นใหญ่ บทที่ 2 จะเป็นเรื่องของวิถีวัฒนธรรม
เช่นนิสัยเห่อของใหม่ บทที่ 3 จะเป็นเรื่องของวิธีการดำเนินธุรกิจและการเมือง บทที่ 4 จะเป็นเรื่อง
ของภาพยนตร์ อาหาร และบทที่ 5 จะเป็นเนื้อหาที่ผู้เขียนต้องการนำเสนอให้เห็นมุมใหม่ๆของเกาหลี
เช่นการอนุรักษ์นิยมของเกาหลีที่เริ่มเปลี่ยนไป หรือการเปิดรับชาวต่ างชาติ หนังสือเล่มนี้จะทำให้ผู้
ศึกษาเข้าใจเรื่องราวพื้นฐานของเกาหลีและสามารถนำมาวิเคราะห์ อ้างอิงในงานวิจัยชิ้นนี้ได้19
อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์. (2555). Japanization. หนังสือเล่มนี้ได้นำเสนอเกี่ยวกับสังคม
วัฒ นธรรมของญี่ป ุ่น ที่มีล ักษณะเฉพาะที่ทำให้ประเทศที่ แพ้ส งครามกลับเติบโตได้ภ ายในเวลา
อันรวดเร็ว ขณะเดียวกันผู้เขียนต้องการให้ผู้อ่านนั้นเข้ าใจความเป็นญี่ปุ่นที่กำลังเข้ามาในสังคมไทย
เนื่องจากความนิยมในการเรียนภาษาญี่ปุ่นจะเพิ่มขึ้น แต่ภาษาไม่ได้ทำให้เข้าใจรูปแบบสังคมได้ลึกซึ้ง
ซึ่งผู้เขียนได้เลือกประเด็นดังนี้ ประเด็นที่หนึ่ง มรดกทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากประวัติศาสตร์ยังคงมี
อิทธิพลอยู่ในสังคม ประเด็นที่สอง เศรษฐกิจผู้เขียนได้นำเสนอพัฒนาทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นไว้ 3 ช่วง
คือ รากฐานของการพัฒนา ความเปลี่ยนแปลงของความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสมัยใหม่ และ
ภาวการณ์ชะงักงันทางเศรษฐกิจ ประเด็นที่สาม การเมืองของญี่ปุ่นที่มีความเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่เริ่ม
ยุคสมัยใหม่เป็นต้นมา ประเด็นที่สี่ สังคมที่เริ่ม จากการมีชนชั้นก่อนจะเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมแบบเสรี
ยกเลิกระบบชนชั้น การหายไปของชนชั้นซามูไร ประเด็นที่ห้า ศาสนา20
พรรณวิภา ชมภูงาม. (2553). การวิเคราะห์วิทยานิพนธ์ที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีศึกษาใน
ประเทศไทย ระหว่าง ค.ศ.1988-2009. วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มุ่งศึกษางานวิจัยที่เกี่ยวกับเกาหลีศึกษา
ในประเทศไทย โดยได้สรุปไว้ว่างานวิจัยที่เกี่ยวกับเกาหลีศึกษาในประเทศนั้นส่วนใหญ่นิยมศึกษาเรื่อง
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กฎหมาย และอิทธิพลของวัฒนธรรมเกาหลีต่อสังคมไทย ซึ่งเหตุผลใน
การศึกษาไม่ได้มาจากกระแสนิย มเกาหลี แต่มาจากสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี และพบว่า
ประเทศไทยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเกาหลีใต้มากกว่าเกาหลีเหนือ ผู้เขียนได้เสนอว่า ณ ช่วงเวลา
บทที่ 2
บริบททางประวัติศาสตร์เกาหลีสมัยใหม่
ประวัติศาสตร์เกาหลีสามารถแบ่งยุคสมัยออกมาได้หลายแบบ โดยหนังสือสวนใหญ่จะแบ่ง
โดยใช้อาณาจักรที่รวบรวมดินแดนบนคาบสมุทรเกาหลีให้เป็นปึกแผ่นเป็นเกณฑ์ได้แก่ ยุคก่อน
ประวัติศาสตร์ ยุคสามอาณาจักร ยุคโครยอ ยุคโชซอน ยุคภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น และยุค
แบ่งแยกเกาหลี23 ในขณะเดียวกันหนังสือบางเล่มได้ใช้ยุคสมัยทางประวัติศาสตร์เป็นเกณฑ์ จึงแบ่ง
ออกเป็น ยุคสมัยโบราณ ยุคสมัยกลาง และยุคสมัยใหม่24
เกาหลีเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี25 หากนับตั้งแต่มีการก่ อตั้ ง
อาณาจักรโกกูรยอ 26 แต่ก็มีเรื่องเล่า ตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาเกี่ยวกับการสถาปนารัฐแห่งแรกบน
คาบสมุทรเกาหลีที่ไม่ใช่อาณาจักรโกกรูยอ แต่เป็น รัฐโกโชซอน (Gojosoen) ที่สถาปนาขึ้นในปีที่
จักรพรรดิเหยาของจีนครองราชย์ครบ 50 ปี ตรงกับปี 2333 ก่อนคริสตรกาล ซึ่งต่อมารัฐโกโชซอนก็
ล้มสลายจากการบุกโจมตีของจีน 27 เรื่องราวของรัฐโกโชซอนนั้น แม้ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ที่ขาด
หลักฐานทางวัตถุ แต่ก็เป็นประวัติศาสตร์ทางจิตใจของชาวเกาหลีจนถึงขนาดที่มีการจัดการเฉลิม
ฉลองการก่อตั้งรัฐโกโชซอนในวันที่ 3 ตุลาคมของทุกปี28
ภายหลังการล้มสลายของรัฐโกโชซอน ประวัติศาสตร์เกาหลีก็เข้าสู่ยุคสามอาณาจั กรที่
ประกอบด้วย อาณาจักรโกกรูยอ (Goguryeo) อยู่ทางตอนเหนือ ก่อตั้งโดย องค์ชายจูมง ในปี 37 ปี
ก่อนคริสตรกาล อาณาจักรแพกเจ (Baekje) อยู่ทางตอนใต้ฝั่งตะวันตก ก่อตั้งโดย พระเจ้าอินโจ ใน
ปี 18 ปีก่อนคริสตรกาล และอาณาจักรชิลลา (Silla) อยู่ทางด้านตะวันออก ก่อตั้งโดยการรวมตัว
ของ 6 ตระกูลที่อพยพมาจากรัฐโกโชซอน ในปี 57 ปีก่อนก่อนคริสตรกาล ซึ่งต่อมาอาณาจักรโกกรูยอ
และแพกเจถูกอาณาจักรชิลลาเข้ายึดครองก่อตั้งเป็นราชอาณาจักรเอกภาพชิลลาหรือชิลลาใหม่29
23 อนุช อาภาภิรม. (2558). สงครามเย็นในแดนโสม : วิกฤตที่ยังไม่สิ้น. กรุงเทพฯ : มติชน. และ แดเนียล ทิวดอร์. (2560).
มหัศจรรย์เกาหลี จากเถ้าถ่านสู่มหาอำนาจทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม (แปลจาก KOREA The Impossible Country โดย ฐิติพงษ์
เหลืองอรุณเลิศ). กรุงเทพฯ : Openworld. และ นภดล ชาติประเสริฐ. (2560). เกาหลีปัจจุบัน Korea Today. ปทุมธานี : ศูนย์
เกาหลีศึกษา สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษาฯ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. และ รงรอง วงศ์โอบอ้อม. (2561). ประวัตศิ าสตร์เกาหลี.
กรุงเทพฯ : พี.เอ.ลีฟวิ่ง.
24 รงรอง วงศ์โอบอ้อม. (2561). ประวัตศ ิ าสตร์เกาหลี. กรุงเทพฯ : พี.เอ.ลีฟวิ่ง.
25 นงลักษณ์ ลิ้มศิริ. (2556). สันติภาพและความรักชาติ : ความรูแ
้ ละมุมมองจากประวัติศาสตร์สงครามในพิพิธภัณฑ์ญี่ปุ่น จีน และ
เกาหลี. กรุงเทพฯ : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจยั (สกว.). 160.
26 อนุช อาภาภิรม. (2558). สงครามเย็นในแดนโสม : วิกฤตที่ยังไม่สิ้น. กรุงเทพฯ : มติชน. 24.
27 เรื่องเดียวกัน. 24.
28 เรื่องเดียวกัน. 30.
29 เรื่องเดียวกัน. 31-32.
12
ในยุคสมัยราชอาณาจักรเอกภาพชิลลาหรือชิลลาใหม่ได้มีการสถาปนาระบอบราชาธิปไตยขึ้น
และใช้ระบบโครงสร้างสังคมที่เรียกว่า “วรรณะกระดูก” (bone rank) จำแนกคนออกเป็นชนชั้น
ต่างๆ แต่ด้วยปัญหาทางชนชั้นที่ก่อ ให้เกิดความเหลื่อมล้ำทำให้อาณาจักรชิลลาเริ่มอ่อนแอลง และ
นำไปสู่การล้มสลายและเกิดขึ้นของอาณาจักรใหม่ คือ อาณาจักรโครยอ (Goryo) ในปี 91830 ถือ
เป็นจุดสิ้นสุดประวัติศาสตร์เกาหลียุคโบราณและเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์เกาหลียุคกลาง
ประวัติศาสตร์เกาหลีในยุคกลางจะเป็นยุคของอาณาจักรโครยอ ซึ่งจัดว่าเป็นอีกยุคหนึ่งที่
สามารถรวมดินแดนบนคาบสมุทรเกาหลีให้เป็นปึกแผ่นได้ภายใต้การปกครองของราชวงศ์โครยอ 31 มี
การรับวัฒนธรรมต่างๆของจีนมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดระบบราชการ ระเบียบของราชสำนัก 32 แต่
ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 12-13 อาณาจักรโครยอประสบปัญหาทั้งจากภายในและภายนอก เกิดการ
แย่งชิงอำนาจกันของขุนนาง การรัฐประหารของทหาร อีกทั้งยังมีการพยายามรุกรานของจีนราชวงศ์
หยวน และปัญหาโจรสลัดชาวญี่ปุ่น จนในที่สุดอาณาจักรโครยอก็ตกอยู่ภายในอำนาจของจีนราชวงศ์
หยวน33 และในช่วงศตวรรษที่ 14 ราชวงศ์โครยอได้มีการเปลี่ยนกษัตริย์หลายต่อหลายครั้ง ภายใต้
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. 8-10.
32 รงรอง วงศ์โอบอ้อม. (2561). ประวัตศิ าสตร์เกาหลี. กรุงเทพฯ : พี.เอ.ลีฟวิ่ง. 130-133.
33 นภดล ชาติประเสริฐ. (2560). เกาหลีปัจจุบัน Korea Today. ปทุมธานี : ศูนย์เกาหลีศึกษา สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษาฯ
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. 8-10.
13
ภาพที่ 3แผนที่อาณาจักรโครยอ (คริสตศตวรรษที่ 11) ที่มา : ภาพที่ 4 แผนที่โชซอน (คริสตวรรษที่ 15) ที่มา :
http://www.korea.net/AboutKorea/History/Goryeo http://www.korea.net/AboutKorea/History/Joseon
จากข้อมูลในหนังสือประวัติศาสตร์เกาหลีของรงรองได้ระบุให้ประวัติศาสตร์เกาหลีสมัยใหม่
เริ่มในช่วงปลายของราชวงศ์โชซอน(ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18) ที่เริ่มมีการเปิดประเทศ แต่เป็ นการ
เปิดประเทศภายใต้การกดดันจากต่างชาติ ไม่ว่าเป็นญี่ปุ่น อังกฤษ เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา36 ดังจะ
กล่าวต่อไปต่อข้างหน้า
2.1. สถานการณ์ภายในประเทศเกาหลี
เกาหลีในยุคสมัยของพระเจ้าโกจง ถือเป็นช่วงเวลาที่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมากมาย แต่
ก่อนที่พระเจ้าโกจงจะทรงขึ้นครองราชย์นั้น อำนาจภายในราชสำนักส่วนใหญ่จะอยู่ในมือของขุนนาง
สายตะกูล คิม (Kim) ซึ่งเป็นสายตระกูลของราชินีของพระเจ้าชอลจง กษัตริย์องค์ที่ 25 ของราชวงศ์โช
ซอน และจากการที่พระเจ้าชอลจงสิ้นพระชนม์ทั้งๆที่ยังไม่ทายาท เหล่าขุนนางจากสายตระกูล โจ
(Jo) ซึ่งเป็นสายตระกูล ของอดี ตราชินีของพระเจ้ายองโจ กษัตริย์องค์ที่ 21 ของราชวงศ์โ ชซอน
ตระกูลโจได้ฉวยโอกาสในการขึ้นมามีอำนาจโดยการร่วมมือกับองค์ชายอี ฮาอุง (Yi Ha-eung) หรือก็
34 รงรอง วงศ์โอบอ้อม. (2561). ประวัตศิ าสตร์เกาหลี. กรุงเทพฯ : พี.เอ.ลีฟวิ่ง. 159-160.
35 นภดล ชาติประเสริฐ. (2560). เกาหลีปัจจุบัน Korea Today. ปทุมธานี : ศูนย์เกาหลีศึกษา สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษาฯ
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. 8-10.
36 รงรอง วงศ์โอบอ้อม. (2561). ประวัตศ ิ าสตร์เกาหลี. กรุงเทพฯ : พี.เอ.ลีฟวิ่ง. 203.
14
ความขัดแย้งระหว่างแทวอนกุนและราชินีมินนั้นเห็นได้ชัดจากการที่ราชินีมินปฏิรูปราชสำนัก
เรื่องของการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ซึ่งต่างกันกับแทวอนกุนที่ไม่เห็นด้วย อีกทั้งแทวอนกุนเป็นพวกอนุรักษ์
นิยม ยึดถือแนวทางขงจื๊อ ดังนั้นการที่ราชินีมินเข้ามามีส่วนในการบริหารบ้านเมืองนั้นขัดกับแนวคิด
อนุรักษ์นิยม40
เกาหลีในช่วงเวลานั้นจึงอยู่ในความสับสนวุ่นวาย เนื่องจาเหล่าชนชั้นสูง เชื้อพระวง ศ์ต่าง
ยังคงยึดติดอยู่กับภาพเก่าๆ โดยไม่ได้คำนึงถึงภัยจากต่างชาติที่กำลังคืบคลานเข้ามา ขณะเดียวกันแท
วอนกุนก็ได้พยายามลิดรอนอำนาจของราชินีมินอยู่ตลอกเวลา จนกระทั้งเมื่อราชินีมินให้กำเนิด
พระโอรส แต่พระโอรสกลับมีชีวิตอยู่ได้เพียงไม่นานก็สิ้นพระชนม์ และราชินีมินก็ไม่สามารถให้กำเนิด
ทายาทได้อีก แทวอนกุนจึงพยายามหาพระสนมให้พระเจ้าโกจงเพื่อให้กำเนิดทายาท และเมื่อพระ
สนมยอง โบดัง (Yeong Bodang) ได้ให้กำเนิดพระโอรสคือ องค์ชาย วันฮวา (Wanhwa) แทวอนกุน
จึงรีบประกาศให้องค์ชายวันฮวาเป็นรัชทายาททันที อีกทั้งยังได้พยายามหาทางสถาปนาตำแหน่งให้
พระสนมยองให้เทียบเคียงราชินีมินเพื่อที่จะลดอำนาจของพระนาง ราชินีมินจึงหาทางกำจัดแทวอน
กุน โดยการอ้างว่าแทวอนกุนคิดที่จะล้มล้างบัลลังก์ของพระเจ้าโกจง ทำให้แทวอนกุนถูกเนรเทศออก
นอกวัง ส่วนพระสนมยองกับองค์ชายก็ถูกถอดออกจากตำแหน่ง ซึ่งสุดท้ายราชิ นีมินก็ดำเนินการ
สับเปลี่ยนขุนนางของตระกูลออกแล้วให้คนของตระกูลมินเข้าไปแทนที่ ทำให้พระนางมีอำนาจในการ
ดูแลกิจการ้านเมืองอย่างเต็มที41่
ตลอดระยะเวลาที่ราชินีมินมีพระชนม์ชีพนั้น ภายในราชสำนักก็มีแต่ความวุ่นวาย โดยเฉพาะ
การพยายามปฎิรูปประเทศให้ทันสมัยที่ก่อให้เ กิดความขัดแย้งขึ้นกับกลุ่มอนุรักษ์นิยมจนนำไปสู่การ
เกิดจลาจลภายในประเทศขึ้นหลายต่อหลายครั้ง รวมไปถึงการพยายามเข้ามาแทกแซงกิจการภายใน
ของต่างชาติที่ค่อยคืบคลานเข้ามา
2.2. เกาหลีกับการเปิดประเทศ
ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 เป็นช่วงที่เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุโรป ทำให้ชาวยุโรปเริ่ม
ให้ความสนใจในดินแดนโพ้นทะเลในฐานะของอาณานิคมเกิดการขยายตัวของลัทธิจักรวรรดินิยมขึ้น
ในปีค.ศ. 1832-1866 มีพ่อค้าชาวตะวันตกขอทำการค้ากับเกาหลีหรือก็ในสมัยรู้จักกันในชื่อ โชซอน
แต่ก็ถูกปฏิเสธ ขณะเดียวกันก็มีการเข้ามาของเรือรบฝรั่งเศสและรัสเซียที่สร้างความหวาดกลัวให้แก่
http://www.korea.net/AboutKorea/History/The-Fall-Joseon
48 อนุช อาภาภิรม. (2558). สงครามเย็นในแดนโสม : วิกฤตที่ยังไม่สิ้น. กรุงเทพฯ : มติชน. 84.
17
2.3. เกาหลีกับการแทรกแซงจากต่างชาติ
จากการเปิดประเทศของเกาหลีทำให้ความรู้ วิทยาการ แนวคิดแบบตะวันตกเข้ามามีอิทธิพล
ต่อความคิดของเหล่าปัญญาชนและกลุ่มหัวก้าวหน้า ส่งผลให้มีการปฏิรูปประเทศ เพื่อสร้างความเท่า
เทียมให้แก่ประชาชน แก้ปัญหาการทุจริต การพยายามปฏิรูประเทศของเกาหลีแสดงให้เห็นว่าชาว
เกาหลีมีความตื่นตัวต่อกระแสความทันสมัยที่เข้ามา แต่ดว้ ยชนชั้นปกครองรวมไปถึงพระเจ้าโคจงที่ยัง
มีแนวคิดแบบจารีต จึงทรงอยากที่จะรักษาพระราชอำนาจของพระองค์เอาไว้ ทำให้การปฏิรูปไม่
สามารถบรรลุผลสำเร็จได้ อีกทั้งการพยายามปฏิรูปประเทศนี้ได้เป็นการเปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามา
แทรกแซงเกาหลี ไม่ว่าจะเป็น จีน รัสเซีย หรือญีป่ ุ่น53
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. 21-22.
18
ขณะเดียวกันสถานการณ์ภายในของเกาหลีก็มีแต่ความขัดแย้ง แย้งชิงอำนาจกันของแทวอน
กุนกับราชินีมิน จึงทำให้ต่างชาติเล็งเห็นช่ องทางจากความขัดแย้งเหล่านี้ในการเข้ามาแทรกแซง
กิจการภายในประเทศของเกาหลี
ในปีค.ศ. 1882 จากการที่เกิดเหตุจลาจลของทหารเกาหลีที่มีแนวคิดแบบจารีตซึ่งไม่พอใจใน
การปฏิรูปทหารและการฝึกแบบญี่ปุ่น จึงก่อจลาจลโดยการสังหารครูฝึกทหารชาวญี่ปุ่นรวมทั้งเผาส
ถาทูตญี่ปุ่น ทำให้ญี่ปุ่นต้องส่งทหารเข้ามาในเกาหลีเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย ดังนั้นจีนจึงตัดสินใจที่
เป็นผู้ไกล่เกลี่ยปัญหานี้ โดยการยกทัพเข้ ามาเกาหลี จนในที่สุดทั้งเกาหลีและญี่ปุ่นก็ได้ลงนามใน
สนธิสัญญาเชมุลโพ (Treaty of Chemulpo) จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้จีนมีอิทธิพลในเกาหลีมาก
ขึ้น เพราะราชินีมินได้ขอร้องให้จีนช่วยเหลือเกาหลี จีนจึงเข้ามาช่วยในการปฏิรูปทหารและด้านอื่นๆ
ของเกาหลี54
ต่อมาในปีค.ศ. 1884 ก็ได้เกิดเหตุการณ์รัฐประหารในเกาหลีขึ้นรู้จักกันในชื่อ รัฐประหารคับ
ชิน (Kapsin) โดยเหตุการณ์เกิดมาจากความไม่พอใจในการที่จีนเข้ ามาแทรกแซงเกาหลีของกลุ่ม
ข้าราชการหัวก้าวหน้าด้วยการสนับสนุนอย่างลับๆของญี่ปุ่น แต่ก่อนที่จะมีการก่อรัฐประหาร จีนก็ได้
ส่งกองทัพเข้ามาปราบปราม ทำให้ทหารและพลเรือนชาวญี่ปุ่นจำนวนหนึ่งถูกสังหารในการปะทะกับ
จีน ญี่ปุ่นเรียกร้องค่าชดเชยจากเหตุการณ์ดังกล่าวจากเกาหลี แต่จากเหตุการณ์รัฐประหารคับชินทำ
ให้จีนกับญี่ปุ่นเกิดความไม่ลงรอยกัน จึงได้มีการทำข้อตกลงระหว่างญี่ปุ่นกับจีนที่เรียกว่า ข้อตกลง
เทียนจินในปีค.ศ. 1885 โดยทั้งสองประเทศจะต้องถอนกองทัพออกจากเกาหลี และถ้าฝ่ายใดจะส่ง
กองทัพเข้ามาในเกาหลีจะต้องแจ้งให้อีกฝ่ายทราบ55 แต่ราชินีมินนั้นมีความระแวงในพฤติกรรมของ
ญี่ปุ่น จึงติดต่อกลับไปหาทางจีนให้ยังคงมีทหารอยู่เกาหลี แต่ให้ปลอมอยู่ในฐานะของตำรวจหรือ
เจ้าหน้าที่ทางการค้าแทน เพื่อไม่ให้ญี่ปุ่นจับได้ นอกจากที่พระนางจะคบหากับจีนแล้ว พระนางยังคง
คบหากับสหรัฐอเมริกาในฐานะคู่ค้าเพื่อคานอำนาจของรัสเซียตามคำแนะนำของ หวง ซุนเสียน ทูต
ชาวจีน และยังทรงหันไปคบหากับอังกฤษอีกด้วย56
ในปีค.ศ. 1894 เกิดกบฏชาวนาที่เรียกว่า กบฏทงฮัก ในเกาหลี นำโดย ชอน บงจุน (Jeon
Bongiun) ก่อนที่เกิดการกบฏ “ทงฮัก” เป็นกลุ่มที่มีการนำแนวคิดจากลัทธิต่างๆมารวมกัน ไม่ว่าจะ
เป็นขงจื๊อ เต๋า พุทธ หรือแม้กระทั้งคริสต์ โดยมีจุดประสงค์คือต่อต้านอิทธิพลตะวันตกรวมทั้งญี่ป่นุ 57
จนนำไปสู่การก่อกบฏเพื่อเรียกร้องให้ยอมรับลัทธิทงฮัก การปลดปล่อยทาสและชนชั้นต่ำ การจัดสรร
ที่ดินใหม่ให้แก่ชาวนา การไม่เก็บภาษีตามใจชอบ การลงโทษขุนนาง ข้าราชการที่ทำความผิด และ
การใหญ่ผู้หญิงหม้ายแต่งงานใหม่ได้58 ซึ่งกบฏทงฮักได้สร้างความเสียหายให้แก่เกาหลีเป็นบริเวณ
กว้าง อีกทั้งราชสำนักเกาหลีไม่สามารถปราบกบฏกลุ่มนี้ได้จึงขอความช่วยเหลือจากจีน จีนจึงส่ง
กองทัพเข้ามาในเกาหลีโ ดยไม่ได้แจ้งให้ญี่ปุ่นทราบ ทำให้ญี่ปุ่ นส่งกองทัพเข้ามาในเกาหลีด้ ว ย
ก่อให้เกิดภาวะตึงเครียดระหว่างจีนกับญี่ปุ่น จนนำไปสู่การทำสงครามกันระหว่างจีนกับญี่ปุ่นในปีค.ศ.
1894-1895 สงครามจบลงด้วยชัยชนะของญี่ปุ่นและมีการลงนามทำสนธิสัญญาที่เรียกว่า สนธิสัญญา
ชิโมโนเซกิ ที่มีใจความหลักให้เกาหลีเป็นประเทศอิสระไม่อยู่ในระบบบรรณาการของจีนอีกต่อไป เป็น
ผลทำให้จีนหมดบทบาทและอิทธิพลในเกาหลี59
ภายหลังสงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่นจบลง ญี่ปุ่นได้พยายามลดบทบาทของราชินีมินลง โดย
การพยายามยุยงให้พระเจ้าโกจงรวบอำนาจการปกครองไว้เพียงผู้เดียว แต่ไม่สำเร็จ จึงหันไปหาแท
วอนกุนที่ถูกเนรเทศไปที่จีน และเมื่อกลับมาเกาหลีแล้ว แทวอนกุ นก็ยังคงพยายามที่จะสร้างอำนาจ
ขึ้นมาใหม่ ดังนั้นการที่ญี่ปุ่นหันไปเข้าหาแทวอนกุนอย่างถูกจังหวะ จึงสามารถทำข้อตกลงกันได้ โดย
การที่ญี่ปุ่นจะอยู่เบื้องหลัง และแทวอนกุนคือผู้อยู่ฉากหน้าในการเข้ายึดอำนาจ แต่ในขณะเดียวกัน
ญี่ปุ่นก็ได้วางแผนลับนั้นก็คือ การลอบปลงพระชนม์ราชินีมิน60 ขณะที่ราชินีมินเห็นว่าญี่ปุ่นกำลังเป็น
ภัยคุกคามเกาหลีจึงหันไปขอความช่วยเหลือจากรัสเซียในการคานอำนาจของญี่ปุ่น61
แผนการณ์การลอบปลงพระชนม์ราชินีมินเกิดขึ้นในปีค.ศ. 1895 โดยจากหลักฐานและ
คำให้การต่างๆ ชี้ชัดไปที่ญี่ปุ่น แต่ด้วยในช่วงเวลานั้นพยานหลักฐานถูกทำลายไปจึงไม่สามารถสืบได้
ว่าใครเป็นผู้สั่งการ ซึ่งจากการปะติปะต่อเรื่องราวจากหลักฐานและคำให้การที่ปรากฎในยุคสมัยหลัง
นั้นพบว่า ญี่ปุ่นได้ว่ามีการวางแผนที่จะจัดการกับราชินีมินมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 1895
เนื่องจากการที่ราชินีมินแอบให้สิทธิทางการทหารแก่จีน แต่กลับกีดกันญี่ปุ่น ซึ่งเหตุการณ์การลอบ
ปลงพระชนม์ราชินีมินก็เกิดขึ้นในเดือนตุลาคม ปีค.ศ. 1895 และจากคำให้การของ อเล็กเซย์ เซเรดิน
เซบาติน เจ้าหน้าที่ของรัสเซียได้เล่าถึงเหตุการณ์ในวันเกิดไว้อย่ างละเอียดว่าในวันนั้นมีทหารญี่ปุ่น
และทหารเกาหลีร่ ว มมือกัน ปิดล้อ มพระราชวัง อีกทั้งเขายังเห็นกลุ่มซามู ไรญี่ ปุ่นที่เดินเข้ า มา
พระราชวังเข้าไปในตำหนักของกษัตริย์และราชินี มีการรื้อค้นและทำร้ายร่างกายเหล่านางกำนัล แต่
เขาไม่สามารถทนอยู่ในเหตุการณ์นั้นได้จึงพยายามของทหารญี่ปุ่นออกไปจากพระราชวัง หลักฐานชิ้น
ต่อมาคือเอกสารรายงานการสืบสวนกรณีการปลงพระชนม์ ซึ่งในเอกสารได้ระบุข้อมูลว่ากลุ่มนักฆ่าที่
ทำการสังหารราชินีมินเป็นนักฆ่าญี่ปุ่น และยังระบุอีกว่าหลังจากที่สังหารราชินีแล้ว พวกเขาได้นำศพ
ของพระนางไปเผาทิ้งที่ภูเขาเทียมภายในพระราชวัง62
2.4. เกาหลีกับการอยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น
2.4.1. การผนวกเกาหลีเป็นส่วนหนึ่งของญี่ปุ่น
ในปี 1905 ภายหลังจากที่ญี่ปุ่นได้รับชัยชะในการทำสงครามกับรัสเซียแล้วก็ได้มีการทำ
สนธิสัญญากับรัสเซียในเดือนกันยายนเรียกว่า สนธิสัญญาสงบศึกพอร์ตสมัธ มีใจความสำคัญ คือ การ
ที่รัสเซียจะต้องยอมรับว่าญี่ปุ่นมีผลประโยชน์สูงสุดทางการเมือง การทหาร และเศรษฐกิจในเกาหลี
แต่ก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นได้เดินหน้าทำข้อตกลงและสนธิสัญญากับชาติตะวันตก โดยมีประเด็นหลักคือการ
ยอมรับการมีอำนาจเหนือเกาหลีของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นสนธิส ัญญาพันธมิตรกับอังกฤษในเดื อน
สิงหาคม และข้อตกลงทัฟต์ -คะสึระกับสหรัฐอเมริกา และที่สำคัญที่สุดคือการที่ญี่ปุ่นบีบบังคับให้
เกาหลีลงนามในสนธิสัญญาการเป็นรัฐในอารักขาในเดือนพฤศจิกายนของปี 1905 โดยสนธิสัญญา
ต่างๆที่ญี่ปุ่นทำกับเหล่าชาติตะวันตกล้วนมีใจความสำคัญคือญี่ปุ่นจะควบคุมและกำหนดนโยบาย
ต่างประเทศของเกาหลี มีการแต่งตั้งข้าหลวงใหญ่จากญี่ปุ่นซึ่งมีอำนาจอย่างกว้างขวาง67
การผนวกดินแดนอย่างเป็นทางการเริ่มขึ้นในปี 1910 จากสนธิสัญญาผนวกดินแดนญี่ปุ่น -
เกาหลี อันมีสาระดังนี้
“แม้ว่าจะมีการทำงานหนักอย่างเอาจริงเอาจังของฝ่ายบริหารของเกาหลี ซึ่งทั้งรัฐบาลญี่ปุ่น
และเกาหลีได้เข้าร่วมเป็นเวลานานกว่า 4 ปี นับแต่การทำข้อตกลงปี 1905 ได้พบว่ารัฐบาลปัจจุบันใน
เกาหลีไม่ได้พิสูจน์ตนเองว่าจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความสงบและความเป็นระเบียบของ
ประเทศได้ ยิ่งไปกว่านั้น ได้เกิดความรู้ส ึกหวาดระแวงและความแคลงใจปกคลุมทั้งคาบสมุทร
เพื่อที่จะรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในเกาหลี ส่งเสริมความไพบูลย์และความอยู่ดีของประชาชน
เกาหลี ขณะเดียวกันก็ประกันความปลอดภัยและการนอนใจของชาวต่างชาติที่อาศัยในเกาหลี ทำให้
ประจักษ์ชัดว่าการเปลี่ยนแปลงระบอบรัฐบาลขณะนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด รัฐบาลญี่ปุ่นและ
รัฐบาลเกาหลีได้เห็นถึงความจำเป็นอันเร่งด่วนในการดำเนินการปฏิรูปที่สอดคล้องกับสถานการณ์และ
สร้างการประกันอนาคตอย่างพอเพียง จึงได้ลงนามโดยตัวแทนผู้มีอำนาจเต็มตามการยินยอมของ
พระจักรพรรดิ แห่ ง ญี่ ป ุ่ น และกษั ตริ ย์ แห่ งจั กรวรรดิเ กาหลี ให้ ผ นวกดินแดนทั ้งหมดของเกาหลี
เข้ากับญี่ปุ่น”68
จากเนื้อหาของสนธิสัญญาฉบับ นี้เป็นการสะท้อนให้ เห็นถึงจุดสิ้นสุดของการเป็นประเทศ
อิสระของเกาหลี และนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการอยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น โดยในตัวเนื้อหา
สนธิสัญญาฉบับนี้ได้ระบุถึงความยินยอมของเกาหลีในการผนวกดินแดนเป็นส่วนหนึ่งของญี่ปุ่น แต่
ความเป็นจริงทางประวัติศาสตร์ ของเกาหลีได้ใช้คำว่า “ถูกบีบบังคับ” เพราะภายหลังจากที่รัสเซีย
พ่ายแพ้จากสงคราม ทำให้พระเจ้าโกจงไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัสเซีย จึงถูกบีบบังคับให้ยอมทำ
สนธิสัญญาผนวกดินแดนในครั้งนี้69
2.4.2. เกาหลีภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น
นับตั้งแต่เกาหลีถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของญี่ปุ่นในปี 1910 จนกระทั่งสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่
2 ในปี 1945 มีการเข้ามาพัฒนาเกาหลีให้เข้าสู่ความทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นถนน ไฟฟ้า ทางรถไฟ
ท่าเรือ หรือระบบการสื่อสารต่างๆ อีกทั้งญี่ปุ่นได้ดำเนินนโยบายในการปฏิรูปเกาหลีในหลายด้าน โดย
นโยบายที่สำคัญมีดังนี้
1.) ด้านการปกครอง ญี่ปุ่นได้มีการจัดระเบียบทางการปกครองเกาหลีใหม่
โดยการจัดตั้งสำนักงานผู้สำเร็จราชการแทนหรือก็คือข้าหลวงใหญ่ขึ้นที่กรุงโซล เพื่อเป็นองค์กรหลัก
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. 33.
72 เรื่องเดียวกัน. 34.
73 วิเชียร อินทะสี. (2551). นโยบายต่างประเทศของญี่ปุ่นต่อเกาหลี ในช่วงการยึดครองและช่วงหลังการได้รับเอกราชจากญี่ปุ่น.
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. 34.
75 วิเชียร อินทะสี. (2551). นโยบายต่างประเทศของญี่ปุ่นต่อเกาหลี ในช่วงการยึดครองและช่วงหลังการได้รับเอกราชจากญี่ปุ่น.
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. 35.
77 เรื่องเดียวกัน. 33.
78 นงลักษณ์ ลิ้มศิริ. (2556). สันติภาพและความรักชาติ : ความรูแ
้ ละมุมมองจากประวัติศาสตร์สงครามในพิพิธภัณฑ์ญี่ปุ่น จีน และ
เกาหลี. กรุงเทพฯ : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจยั (สกว.). 223.
23
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. 36.
81 เรื่องเดียวกัน. 36.
24
1.) ขบวนการชาตินิยมเกาหลี
ขบวนการชาตินิยมเกาหลีเกิดจากปัญญาชนชาวเกาหลีหัวก้าวหน้าที่มีความรักชาติและ
ต้องการต่อสู้กับญี่ปุ่นเพื่อกอบกู้เอกราชของชาติกลับคืนมา แต่การดำเนินการภายในเกาหลี เป็นไปได้
ยาก อันเนื่องมาจากรัฐบาลอาณานิคมปกครองเกาหลีอย่างเข้มงวด ดังนั้น พวกเขาจึงหลบหนีออกไป
อยู่ในดินแดนต่างๆ ที่มีชาวเกาหลีอาศัยอยู่และจัดตั้งขบวนการชาตินิยมเพื่อต่อสู้และเรียกร้องเอกราช
เกาหลีในดินแดนนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็น บริเวณทางตะวันออกเฉียงใต้ของแมนจูเรีย มีนักเคลื่อนไหว
ชาติ น ิ ย มที ่ น ำโดย อี ช ยอง (Yi Si-yong) อี ด งนยอง (Yi Dong-nyong) และ อี ซ ั ง รยอง (Yi Sang
Ryong) ซึ่งได้จัดตั้งโรงเรียนฝึกกองกำลังที่จะกู้ชาติเกาหลีในปี 1911 และในปี 1914 อีซังซอล (Yi
Sang-Sol) และอีดงฮวี (Yi Danawl) ก็ได้ก่อตั้งกองทัพกู้ชาติขึ้น82
นอกจากที่แมนจูเรีย แล้ว สถานที่ที่เหล่านักชาตินิยมมักจะหลบหนีไปก็คือ เซี่ ยงไฮ้ ใน
ประเทศจีน โดยในปี 1912 ชินคยูชิก (Sin Kyu-Sik) ผู้นำคนสำคัญได้ก่อตั้งสมาคมช่วยเหลือซึ่งกัน
และกัน ในปี 1909 ที่สหรัฐอเมริกา อีซึงมัน (Yi Seung-man) ได้ก่อตั้งสมาคมแห่งชาติเกาหลีขึ้นที่
ฮาวาย นอกจากนนี้ยังมีกลุ่มนักชาตินิยมเกาหลีที่ก่อตั้ งกลุ่มของตนเองขึ้นอีกหลายกลุ่ม โดยกลุ่ม
ชาตินิยมกลุ่มต่างๆ มีกิจกรรมการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงออกถึงความรักชาติและความ
ปรารถนาที่จะกอบกู้เอกราชของชาติเกาหลีกลับคืนมา แต่พวกเขาต่างก็ทำกิจกรรมของพวกตน ไม่ ได้
มีการติดต่อประสานงานซึ่งกันและกัน จึงทำให้ไม่สามารถที่จะกดดันญี่ปุ่นได้83
2.) การเคลื่อนไหวเพื่อเอกราชในวันที่ 1 มีนาคม 1919
การเกิ ด ขึ ้ น ของกลุ ่ ม ขบวนการชาติ น ิ ย มในหลายประเทศอาจจะเกิ ด ขึ ้ น มาจากการที่
ประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสัน ของสหรัฐอเมริกาได้ประการหลัก 14 ประการ ซึ่งมีหลักการสำคัญ
ประการหนึ่งคือการให้สิทธิประชาชนเจ้าของดินแดนต่างๆได้มีสิทธิ ปกครองตนเอง ดังนั้นหลัก 14
ประการนี้จึงเป็นเสมือนความหวังของเหล่านักต่อสู้เพื่ออิสรภาพชาวเกาหลี84 จึงไปสู่การเกิดเหตุการณ์
การเคลื่อนไหวเพื่อเอกราช หรือ การเคลื่อนไหวในวันที่ 1 มีนาคม 1919 ที่เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อเอก
ราชและต่อต้านการปกครองของญี่ปุ่นครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลี
นภดล ชาติประเสริฐ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ในวันที่ 1 มีนาคม 1919 ไว้ในหนังสือ “เกาหลี
ปัจจุบัน Korea Today” ว่า
“การเคลื่อนไหวเพื่อเอกราชเริ่มในตอนเช้าวันที่ 1 มีนาคม ปี 1919 เมื่อมีประกาศติตตาม
ถนนสายใหญ่ในกรุงโซลเรียกร้องให้ประชาชนเกาหลีแสดงประชามติร่วมกันเดินขบวนเพื่อประกาศ
เอกราชเกาหลี ณ สวนสาธารณะพาโกดะ (Pagoda) ประชาชนเกาหลีทยอยกันมาชุมนุมตั้งแต่เที่ยง
82 นภดล ชาติประเสริฐ. (2560). เกาหลีปัจจุบัน Korea Today. ปทุมธานี : ศูนย์เกาหลีศึกษา สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษาฯ
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. 37.
83 เรื่องเดียวกัน. 37-38.
84 เรื่องเดียวกัน. 38-39.
25
แสดงออกถึงความต้องการเอกราชอิสรภาพและสันติภาพอันพึงมีในมนุษยชาติ การเคลื่อนไหวเพื่อเอก
ราช 1 มีนาคม ได้พัฒนาขึ้นเป็นการเคลื่อนไหวระดับประเทศด้วยการเข้าร่วมของประชาชนเกาหลี
กว่า 20 ล้านคน ซึ่งเป็นเสมือนแรงขับเคลื่อนขบวนการเรียกร้องเอกราชของเกาหลี และยังเป็นแรง
บันดาลใจให้กับการเรียกร้องอิสรภาพของผู้ที่ถูกกดขี่ทั่ วโลก จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวเพื่อเอก
ราช 1 มีนาคมได้สืบทอดไปจนถึงวันที่เกาหลีได้รับเอกราช 15 สิงหาคม ค.ศ. 1945 หลังการต่อสู้อย่าง
กล้าหาญมากมาย จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวเพื่อเอกราช 1 มีนาคมนำพาเราไปสู่การพัฒนาอัน
ชอบธรรม และกลายเป็นสมบัติอันประเมินค่ามิได้สําหรับ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแห่งชาติ”86
นักต่อสู้เพื่อเอกราชที่ได้รับการกล่าวถึงเป็นพิเศษในเหตุการณ์นี้ คือ ยู กวานซุน นักศึกษา
หญิงจากสถาบันอีฮวา (มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา) สาเหตุที่เธอได้รับการยกย่องเป็นพิเศษ เนื่องมาจาก
ความกล้าหาญในการเผชิญหน้ากับทหารญี่ปุ่น การนำคำประกาศเอกราชกลับไปเผยแพร่ที่ชอนอัน
บ้านเกิดของเธอ และยืนหยัดต่อสู้จนเสียชีวิตในคุกด้วยวัยเพียง 17 ปี 87 ในปัจจุบันวันที่ 1 มีนาคม
ของทุกปีได้ถูกกำหนดให้เป็น “วันการเคลื่อนไหวเพื่อเอกราช” หรือในภาษาเกาหลีจะเรียกว่า ซัมอิล
จอล (삼일절)88 และในปี 2019 เป็นการครบรอบ 100 ปี วันซัมอิลจอล ประธานาธิบดีมุน แช-อิน ได้
เดินทางไปเยือนอาคารที่ทำการรัฐบาลเฉพาะกาลที่ฉงชิ่งเพื่อรำลึกประวัติศาสตร์ จัดกิจกรรมรำลึกใน
รูปแบบต่างๆ เช่น การจัดประกวดสุนทรพจน์ การจัดนิทรรศการออนไลน์และออฟไลน์89
86 Independence Hall of Korea. The March First Independence Movement (อาคาร4), (Cheonan-si : Independence
Hall of Korea, 2008), p.5. ใน นงลักษณ์ ลิ้มศิริ. (2556). สันติภาพและความรักชาติ : ความรู้และมุมมองจากประวัติศาสตร์สงคราม
ในพิพิธภัณฑ์ญี่ปุ่น จีน และเกาหลี. กรุงเทพฯ : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.). 165.
87 เสกสรร อานันทศิริเกียรติ. (2562). รำลึก 100 ปี ขบวนการเรียกร้องเอกราชเกาหลี. สืบค้นเมื่อ 3 กันยายน 2562 จาก :
https://themomentum.co/100th-year-of-korea-declaring-independence-from-japan/.
88 เอกณัฏฐ์ สวัสดิห์ ิรัญ. (มปป). ยู-กวานซุน : ฉันคืออิสรภาพ. สืบค้นเมื่อ 3 กันยายน 2562 จาก :
http://www.tpapress.com/knowledge_detail.php?k=106.
89 เสกสรร อานันทศิริเกียรติ. (2562). รำลึก 100 ปี ขบวนการเรียกร้องเอกราชเกาหลี. สืบค้นเมื่อ 3 กันยายน 2562 จาก :
https://themomentum.co/100th-year-of-korea-declaring-independence-from-japan/.
27
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. 41-42.
28
สงครามโลกครั้งที่_2.
95 อนุช อาภาภิรม. (2558). สงครามเย็นในแดนโสม : วิกฤตที่ยังไม่สิ้น. กรุงเทพฯ : มติชน. 103.
29
ภาพที่ 11 อี ซึง มัน ประธานาธิบดีคนแรกของเกาหลีใต้ ที่มา : ภาพที่ 12 คิม อิล ซอง ประธานาธิบดีคนแรกของเกาหลีเหนือ
https://sites.google.com/site/ ที่มา : https://www.matichonweekly.com/
pratheskeahliti/bukhkhl-sakhay column/article_27194
2.5.2. สงครามเกาหลี
สงครามเกาหลีเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 1950 เมื่อกองทัพของเกาหลีเหนือบุกโจมตี
เกาหลีใต้และสามารถยึดกรุงโซลที่เป็นเมืองหลวงได้ด้วยเวลาเพียงแค่ 3 วัน และเริ่มยึดเมื่องต่างๆทาง
ตอนใต้ของคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งสหรัฐอเมริกาก็ได้โต้ตอบโดยการส่งกองทัพมาช่วยพร้อมทั้งเสนอเรื่อง
ต่อสหประชาชาติและมีมติให้นำกองกำลังจากประเทศสมาชิกเข้าร่วมรบในสงครามครั้งนี้ภายใต้การ
นำของสหรัฐอเมริกา ในการรบระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ จนกระทั่งใน
ที่สุดทั้ง 2 ฝ่ายก็เห็นควรเจรจายุติสงคราม แต่การเจรจาก็ใช้เวลานานถึง 2 ปี จึงมีการลงนามใน
สัญญาสงบศึกวันที่ 27 กรกฎาคม 1953 และได้กำหนดให้บริเวณเส้นขนานที่ 38 เป็นเขตปลอด
ทหาร99
จากบทความในเว็บไซต์ของ PPTV โดย กรุณา บัวคำศรี ที่ได้สัมภาษณ์บุคคลที่อยู่ในช่วงของ
สงครามเกาหลีคือ “คิม วอน” ซึ่งตอนนั้นอายุเพียง 10 ขวบ บ้านของคิมอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่
บริเวณเส้นขนานที่ 38 บนเส้นทางเดินทัพ จึงต้องเผชิญกับกระสุนปืนอยู่ทุกวัน ในปัจจุบันจากเส้น
แบ่งเขตแดนขึ้นไปทางเหนือ 2 กม. ลงมาทางใต้อีก 2 กม. รวมเป็นความกว้าง 4 กม. และความยาว
100 กรุณา บัวคำศรี. (2561). สันติภาพบนเส้นขนานที่ 38. สืบค้นเมื่อ 3 กันยายน 2562 จาก : https://story.pptvhd
36.com/@kbuakamsri/5ae2b10887156
101 นภดล ชาติประเสริฐ. (2560). เกาหลีปัจจุบัน Korea Today. ปทุมธานี : ศูนย์เกาหลีศึกษา สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษาฯ
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. 52-54.
102 อนุช อาภาภิรม. (2558). สงครามเย็นในแดนโสม : วิกฤตที่ยังไม่สิ้น. กรุงเทพฯ : มติชน. 131-132.
103 เรื่องเดียวกัน. 134.
32
104 Voice online. (2013). 'ลัทธิจูเช่' แก่นการเมืองเกาหลีเหนือ. สืบค้นเมื่อ 5 กันยายน 2562 จาก :
https://www.voicetv.co.th/read/67173.
105 จิตติภัทร พูนขำ. (2561). ย้อนมอง “วิกฤตนิวเคลียร์เกาหลี” ผ่านบทเรียนประวัติศาสตร์ “วิกฤตขีปนาวุธคิวบา”. สืบค้นเมื่อ 5
https://voicetv.co.th/read/SyWZd81tf
107 Voice online. (2018). ทรัมป์ยอมรับการประชุมกับคิมจองอึนอาจต้องเลื่อน. สืบค้นเมื่อ 30 ตุลาคม 2562 จาก :
https://voicetv.co.th/read/HJ9LYXz1Q
33
หลังจากการประชุมครั้งแรกสิ้นสุดลงไปนั้น ความตึงเครียดระหว่างทั้งสองประเทศก็เริ่มดีขึ้น
อีกทั้งยังมีการประชุมครั้งที่สอง โดยจะจัดขึ้นที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี
ค.ศ. 2019 แต่การประชุมครั ้งนี้ก ็เป็นสิ้นสุดด้ว ยการเดิน ออกจากห้ องประชุม ของผู้นำทั้ ง สอง
เนื่องจากข้อเรียกร้องของเกาหลี เหนือที่ต้องการให้สหรัฐอเมริกายกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลี
เหนือทั้งหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่สหรัฐอเมริกาทำไม่ได้จึงต้องมีการยุติการประชุมในครั้งนี้ 108 และในเดือน
ตุลาคม ปีค.ศ. 2019 ก็มีการจัดการประชุมครั้งที่ 3 ขึ้นที่ประเทศสวีเดน โดยหลังจากจบการประชุม
ทางเกาหลีเหนือได้ออกมาแถลงว่าการประชุมจบลงด้วยความล้มเหลว แต่ทางสหรัฐอเมริกากลับบอก
ว่าจบลงด้วยดี ซึ่งในการประชุมครั้งนี้เป็นการพูดคุยอย่างเป็นทางการระหว่างทั้งสองประเทศนับตั้งแต่
ผู้นำสหรัฐอเมริกากับเกาหลีเหนือ พบปะกันเป็นเวลาสั้นๆ ที่เขตปลอดอาวุธระหว่างเกาหลีเหนือและ
เกาหลีใต้เมื่อเดือนมิถุนายน109 ดังนั้นหลังจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและเกาหลีเหนือ
จะอย่างไรก็มิอาจทราบได้
2.6.2. เกาหลีใต้กับความมหัศจรรย์ในการพัฒนาประเทศ
ภายหลังสิ้นสุดสงคราม สหรัฐอเมริกาได้มีการตั้งฐานทัพในเกาหลีใต้เพื่อคุ้มครอง สนับสนุน
การพัฒนา รวมถึงการใช้เป็นปราการต่อต้านระบบคอมมิวนิสต์ และจากรัฐธรรมนูญของเกาหลีใต้ที่
ประกาศใช้ในปี 1948 ได้ร ะบุถึงวิธ ีการได้มาซึ่งประธานาธิบดี โดยที่ส มัชชาแห งชาติ( National
108 Voice online. (2019). เกาหลีเหนือยืนยันข้อเรียกร้องเดิม หากมีประชุมครั้งที่ 3. สืบค้นเมื่อ 30 ตุลาคม 2562 จาก :
https://voicetv.co.th/read/HDVOfSA79
109 ไทยรัฐออนไลน์. (2019). สหรัฐฯ ยันหารือด้วยดีกับเกาหลีเหนือ หลังเปียงยางบอกคุยล้มเหลว. สืบค้นเมื่อ 30 ตุลาคม 2562 จาก
: https://www.thairath.co.th/news/foreign/1676375
34
117 นภดล ชาติประเสริฐ. (2560). เกาหลีปัจจุบัน Korea Today. ปทุมธานี : ศูนย์เกาหลีศึกษา สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษาฯ
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. 63-64.
118 เรื่องเดียวกัน. 64-65.
37
ในด้านเศรษฐกิจรัฐบาลประธานาธิบดีชอนดูฮวานได้ปรับทิศทางนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจ
โดยเนนความสำคัญของการมีเสถียรภาพการผอนคลายกฎระเบียบเกี่ยวกับการคุ้มครองอุตสาหกรรม
ภายในโดยเปิดโอกาสใหสินคาจากภายนอกประเทศเขามาแขงขันมากขึ้น ในขณะเดียวก็กันได
พยายามสร้างความเป็นธรรมในการดำเนินธุรกิจด้วยการออกกฎหมายปองกันการผูกขาดและสร้าง
ความเป็นธรรมทางการคาด้วยการสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดยอม(SMEs) แทนกลุ่ม
ธุรกิจขนาดใหญ่อย่างแชโบล119
4.) เกาหลีใต้กับวิกฤติเศรษฐกิจปี 1997
ในปี 1997 เกาหลีใตได้เผชิญภาวะวิกฤติการเงิ นเมื่อภาคธุรกิจประสบกับปญหาหนี้เงินกู
ต่างประเทศระยะสั้น โดยเฉพาะการลงทุนที่มากเกินไปของกลุ่มแชโบล ประกอบกับปญหาการ
คอร์รัปชั่นทั้งในภาคธุรกิจและการเมืองจนนำไปสู่ภาวะการขาดสภาพคลองทางการเงินอันมีผลให้กลุ่ม
แชโบลและธนาคารบางแห่งประสบภาวะลมละลาย ในที่สุดรั ฐบาลเกาหลีใตตองขอความช่วยเหลือ
จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund-IMF) ให้เขามาช่วยฟนฟูฐานะ
ทางเศรษฐกิจของประเทศ120
อย่างที่ทราบกันดีว่าชาวเกาหลีส่วนใหญ่มักจะมีความคิดแบบชาตินิยม ดังนั้นการเข้ามา
ช่วยเหลือทางการเงินของ IMF ทำให้ชาวเกาหลีรู้สึกเหมือนถูกโจมตีทางการเงิน ขณะเดียวกันกลุ่มแช
โบลออกมาโต้ตอบด้วยถ้อยคำแบบชาตินิยมว่า “ถูกโจมตี” หรือ “IMFและอเมริกาจ้องจะทำลายแช
โบล” อีกทั้งโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์เกาหลีล้วนนำเสนอถ้อยคำที่แสดงความไม่พอใจของชาวเกาหลี
ในการที่ IMF เข้ามาก้าวก่ายกิจการภายใน121
ภายหลังจากการเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในปี 1997-1998 รัฐบาล สหภาพแรงงาน และกลุ่ม
บริษัทยักษ์ใหญ่ได้มี การจัดตั้ง “สุดยอดคณะกรรมการ” เพื่อเตรียมการปฎิรูปกลุ่มแชโบล และ
นโยบายแรงงานครั้งใหญ่ ทำให้กลุ่มแชโบลต้องปิดบริษัทในเครือที่ไร้ประสิทธิ ภาพหลายแห่ง122 และ
ในปี 1998 นี้เองที่รัฐบาลเกาหลีได้เริ่มหันมาดำเนินนโยบายส่งเสริม “อุตสาหกรรมทางวัฒนธรรม”
อย่างจริงจัง ไม่ ว่าจะเป็น ดนตรี ภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ และสื่อบันเทิงต่างๆ แทนการฟื้นฟู
อุตสาหกรรมหนักเนื่องจากอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสามารถทำรายได้เข้าประเทศได้โดยที่ใช้ต้นทุนไม่
มาก123
https://ttmemedia.wordpress.com/2012/05/22/ ?s=Korea+โมเดล+สินค้าออกของเกาหลีใต้
38
จุดเริ่มต้นของการส่งออกอุตสาหกรรมทางวัฒนธรรม คาดว่าเริ่มมาจากกระแสความโด่งดัง
ของวงดนตรีสัญชาติอังกฤษอย่าง “The Beatles” ประมาณทศวรรษ 1960-1980 จุดเริ่มต้นของการ
ส่งออกอุตสาหกรรมวัฒนธรรมผ่านเสียงเพลงได้กำเนิดขึ้นโดยวงดนตรีร็อกแอนด์ โรลอย่าง “The
Beatles” ที่โด่งดังจนทำให้คนแทบจะทั่วโลกเริ่มรู้จักภาษาอังกฤษ และเริ่มร้องเพลงภาษาอังกฤษ
ดังนั้นอาจจะถือได้ว่าประเทศอังกฤษนั้นเป็นผู้นำในการส่งออกอุตสาหกรรมวัฒนธรรม ขณะเดียวกัน
สหรัฐอเมริกาก็ได้เริ่มการส่ งออกอุตสาหกรรมวัฒ นธรรมประมาณทศวรรษ 1980 และก็ประสบ
ความสำเร็จเป็น อย่างมาก โดยเฉพาะภาพยนตร์ Hollywood ที่โด่งดังจนสามารถเข้าฉายในโรง
ภาพยนตร์ได้ในหลายประเทศ และประเทศต่อมาที่เริ่มมีการส่งออกอุตสาหกรรมวัฒนธรรมก็คือญี่ปุ่น
หลังจากที่พยายามฟื้นฟูประเทศ ญี่ปุ่นอีกหนึ่งประเทศที่ได้รับอิทธิพลของวัฒนธรรมอเมริกัน จึงได้มี
การหัน มาส่ง ออกวัฒ นธรรมประมาณทศวรรษ 1980-1990 โดยสื่อบันเทิ ง อย่ างเครื ่อ งเล่ น เกม
การ์ตูนอนิเมชั่น เพลง และซีรีส์ ตามด้วยวัฒนธรรมอาหาร สินค้าแฟชั่น รวมถึงแบรนด์รถยนต์ และ
เครื่องใช้ไฟฟ้า124
หากย้อนกลับไปในปีค.ศ. 1961 รัฐบาลเกาหลีได้ใช้นโยบายทางวั ฒนธรรมเพื่อจุดมุ่งหมาย
ทางการเมืองและสร้างพลเมืองที่พึงประสงค์ แต่หลังจากที่เผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจในปี 1997 รัฐบาล
เกาหลีก็ เริ่มเปลี ่ย นแนวทางการพัฒ นาเศรษฐกิ จจากเดิ มเป็ น อุตสาหกรรมการผลิ ต กลายเป็ น
อุตสาหกรรมวัฒนธรรมที่ผ่านการควบคุมโดยรัฐบาล เช่น การจัดตั้งหน่วยงาน Korea Culture and
Content Agency (KOCCA) เพื่อสนับสนุนทุกอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมเกาหลี การเน้น
พัฒนากลยุทธ์การถ่ายทอด “เนื้อหาความเป็นเกาหลี” (Korea Content) ออกสู่เวทีสากล125
ในปี 1999 รัฐบาลเกาหลีได้ผ่านพระราชบัญญัติส่งเสริมอุตสาหกรรมทางวัฒนธรรม ส่งผลให้
เกิดองค์การมหาชน ศูนย์วิจัยทางวัฒนธรรม และสถาบันการศึกษาเทคโนโลยีทางวัฒนธรรมขึ้น หนึ่ง
ในองค์กรเหล่านั้นก็คือ Korean Film Council หรือ สมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งเกาหลี เป็นหน่วยงาน
ย่อมาจากกระทรวงวัฒนธรรม 126 มีหน้าที่เพื่อสนับสนุนและประชาสัมพันธ์อุตสาหกรรมภาพยนตร์
เกาหลีทั้งในประเทศและต่างประเทศ 127 ส่งผลให้เรื่องของ “วัฒนธรรม” กลายเป็น “รูปธรรม
สิน ค้า ” ที่มีมูล ค่ามหาศาล 128 นำไปสู่ก ารแพร่กระจายของวัฒนธรรมเกาหลีที่เรียกว่า “Korea
Wave” หรือ “กระแสนิยมวัฒนธรรมเกาหลี”
https://www.chula.ac.th/cuinside/6930/.
126 หนังโปรดของข้าพเจ้า. (2560). ช่วยวิกฤติหนังไทยอย่างไรดี ลองดูเกาหลีเป็นตัวอย่าง. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2562 จาก :
https://themomentum.co/momentum-feature-learning-korea-films-for-treat-thai-film-crisis/
127 เรื่องเดียวกัน
128 พลอย มัลลิกะมาส. (มปป.). อัน ยอง ฮา เซ โย “โคเรีย เวฟ” (Korea Wave) ตอนที่ 1 : ปรากฏการณ์วัฒนธรรมนำเศรษฐกิจ.
129 สุภีม ทองศรี. (2561). คลื่นบันเทิงเกาหลีซัดแรง ทะยานบุกโลกระลอก 3. สืบค้นเมื่อ 5 กันยายน 2562 จาก :
https://www.posttoday.com/world/554742.
130 เรื่องเดียวกัน.
40
ขณะที ่ “Korea Wave รอบที ่ ส าม” ได้ เ ริ ่ ม ก่ อ ตั ว ขึ ้ น ช่ ว งครึ ่ ง หลั ง ของปี 2018 ด้ ว ย
ความสำเร็จของวง “BTS” เป็นการทำให้อุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีสามารถไปสู่ระดับโลก ขณะที่
ทางด้านของกระแสของซีรี่ย์เกาหลีก็มาแรงไม่แพ้กัน โดยในปี 2018 ซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง “Something in
the rain” หรือชื่อภาษาไทยคือ “สื่อในสายฝน” กำลังได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในเกาหลีใต้ ทั้ง
ยังมีให้รับชมทั่วโลกผ่านทาง Netflix (เน็ตฟลิกซ์) อีกด้วย131
จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าเกาหลีในช่วงสมัยใหม่นั้นมีแต่ความสับสน วุ่นวายของการ
เปลี่ยนแปลงประเทศให้ทันสมัย และประวัติศาสตร์เกาหลีในช่วงสมัยใหม่ก็เป็นเสมือนประวัติศาสตร์
บาดแผล ซึ่งหากสังเกตจะพบว่าเกาหลีเป็นประเทศถูกต่างชาติจับตามองมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น
ก่อนหรือหลังจากที่ญี่ปุ่นเข้ายึดครองก็ตาม การตกอยู่ในสภาวะของสงคราม ทำให้เกาหลีเป็นประเทศ
บอบช้ำมาเป็นเวลานาน แต่ถึงอย่างนั้นรัฐบาลก็ยังคงพยายามสนับสนุนการผลิตสื่อ ที่จะค่อยย้ำเตือน
เรื่องราวในประวัติศาสตร์อย่างภาพยนตร์หรือซีรีย์ออกมาอยู่ตลอดเวลา
บทที่ 3
การสร้างและผลิตซ้ำภาพลักษณ์ของญี่ปุ่นที่ปรากฏในภาพยนตร์เกาหลี
3.1 ว่าด้วยเรื่องของภาพยนตร์เกาหลี
ภาพยนตร์ของเกาหลี ใต้ ถื อเป็น อี กหนึ่ ง อุตสาหกรรมทางวัฒ นธรรมสมัย ใหม่ ที่ ป ระสบ
ความสำเร็จสูงสุดของประเทศ ทำให้ภาพยนตร์ของเกาหลีเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่สามารถแข่งกับ
ภาพยนตร์ฮอลลีวูดได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความคิดสร้างสรรค์ และการทำรายได้ โดยชาวตะวันตกจะ
คุ้นเคยกับภาพยนตร์เรื่อง Oldboy (2003) ที่โด่งดังมาจากความรุนแรงและฉากจบอันน่าตกตะลึง134
จุดเริ่มต้นของการเข้ามาของเครื่องฉายภาพยนตร์ในเกาหลีนั้นไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัด แต่
นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าน่าจะเข้ามาในช่วงปีค.ศ. 1897-1902 ซึ่งภาพยนตร์ในช่วงแรกที่นำมาฉายจะ
เป็นลักษณะของสารคดีข่าวสั้นๆ หรือบันทึกภาพการณ์สำคัญจากฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกา เช่น
Dance of the Beauty, Niagara แต่ในปีค.ศ. 1905 ที่ญี่ปุ่นบังคับให้เกาหลีลงนามสนธิสัญญาผนวก
: https://www.the101.world/101-one-on-one-ep-30-jakkrit/
134 แดเนียล ทิวดอร์. (2560). มหัศจรรย์เกาหลี จากเถ้าถ่านสู่มหาอำนาจทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม (แปลจาก KOREA The
135 ธีปนันท์ เพ็ชร์ศรี, อลงกรณ์ คล้ายสีแก้ว, โสภณา เชาว์วิวัฒน์กุล. (2545). Korean Romance 15 หนังรักประทับใจและความ
เป็นมาเป็นไปของหนังเกาหลี. กรุงเทพฯ : Blackberry Publishing. 74-75.
136 เรือ
่ งเดียวกัน. 76.
137 หนังโปรดของข้าพเจ้า. (2560). ช่วยวิกฤติหนังไทยอย่างไรดี ลองดูเกาหลีเป็นตัวอย่าง. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2562 จาก :
https://themomentum.co/momentum-feature-learning-korea-films-for-treat-thai-film-crisis/
138 ธีปนันท์ เพ็ชร์ศรี, อลงกรณ์ คล้ายสีแก้ว, โสภณา เชาว์วิวัฒน์กุล. (2545). Korean Romance 15 หนังรักประทับใจและความ
https://themomentum.co/momentum-feature-learning-korea-films-for-treat-thai-film-crisis/
44
https://themomentum.co/momentum-feature-learning-korea-films-for-treat-thai-film-crisis/
144 ธีปนันท์ เพ็ชร์ศรี, อลงกรณ์ คล้ายสีแก้ว, โสภณา เชาว์วิวัฒน์กุล. (2545). Korean Romance 15 หนังรักประทับใจและความ
https://themomentum.co/momentum-feature-learning-korea-films-for-treat-thai-film-crisis/
45
สนับ สนุน เงิน ทุน ในการสร้างภาพยนตร์ เกาหลีจำนวน 4 เรื่อง แต่ปรากฏว่า กลุ่ม ผู้จัดจำหน่า ย
ภาพยนตร์ต่างประเทศก็ให้เงินสนับสนุนเพียงเล็กน้อยในการสร้างภาพยนตร์เกาหลีขึ้นมา 4 เรื่อง ที่
คุณภาพแย่ เพื่อที่สุดท้ายคนเกาหลีก็จะหันไปดูภาพยนตร์ต่างประเทศของพวกเขา ทำให้ในที่สุด
รัฐบาลเกาหลีก็ได้บังคับใช้ screen quota ซึ่งก็คือการออกประกาศกำหนดสัดส่วนระหว่างภาพยนตร์
เกาหลีและภาพยนตร์ต่างประเทศที่จะนำออกฉายในโรงภาพยนตร์ โดยในปี ค.ศ. 1993 โดยบังคับให้
โรงภาพยนตร์ต้องฉายภาพยนตร์เกาหลีจำนวนขั้นต่ำ 146 วันต่อปี แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้รายได้ภาพยนตร์
เกาหลีเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด เพราะคนเกาหลีก็ยังคงนิยมดูภาพยนตร์ต่างประเทศเช่นเดิม146
นับตั้งแต่ที่ปาร์ค จุงฮีเป็นประธานาธิบดีมาจนถึงโน แทวู เป็นระยะเวลายาวนานกว่า 32 ปีที่
เกาหลีถูกปกครองโดยรัฐบาลทหาร ในที่สุดเกาหลีก็เข้าสู่ยุครัฐบาลของประชาชน เมื่อ คิม ยองชิม
ได้ร ับ เลือกให้เป็น ประธานาธิ บ ดี ในปี ค.ศ. 1993 จึงมีการพิ จารณาถึง การควบคุ ม อุตสาหกรรม
ภาพยนตร์ของรัฐบาลในการเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ซึ่งขัดต่อเรื่องสิทธิเสรีของประชาชน ทำให้ Korean
Motion Picture Promotion Corporation (KMPPC) ถูกลดบทบาทไปจนแทบจะไม่มีบทบาทอะไร
ต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ พร้อมทั้ง เปลี่ยนมาใช้ระบบการจัดเรตติ้งที่จะกำหนดอายุของคนที่จะเข้า
ชมภาพยนตร์ในแต่ละเรื่องแทน147
ในปีค.ศ. 1997-1998 เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในเอเชีย ซึ่งส่งผลต่อภาพยนตร์เกาหลี เป็นอย่าง
มาก ในช่วงก่อนที่จะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ กลุ่มแชโบล ถือเป็นนายทุนใหญ่ที่อัดฉีดเงินให้กับ วงการ
ภาพยนตร์เกาหลี ซึ่งได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างภาพยนตร์ และมีสิทธิ์ขาดในการเลือกนักแสดง
เป็นเหตุให้คุณภาพของภาพยนตร์ตกต่ำลงโดยอัตโนมัติ แต่เมื่อถึงปีค.ศ. 1997 เหล่าแชโบล ก็เริ่มไม่
สนใจอุตสาหกรรมนี้ รวมไปถึงการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจบีบบังคับให้พวกเขาหันกลับไปสนใจทำธุรกิจ
หลักที่มีอยู่ และเริ่มถอนเงินทุนออกจากธุรกิจภาพยนตร์ 148 นั่นทำให้กลุ่มนายทุนหน้าใหม่เข้ามา
แทนที่ คือ CJ Group, Orion Corporation, และ Lotte Corporation ที่ปัจจุบันได้กลายเป็นผู้เล่น
รายใหญ่ของสนามอุตสาหกรรมภาพยนตร์เกาหลีโดยถือครองส่วนแบ่งรวมกันถึง 80%149 โดย CJ
Group เป็นหนึ่งในกลุ่มแชโบล ซึ่งมีบริษัทย่อยที่ดูแลธุรกิจสื่อบันเทิงคือ CJ Entertainment &
Media หรื อ CJ E&M150 และหนึ ่ ง ธุ ร กิ จ สื่ อ บั น เทิ ง ของ CJ E&M คื อ การผลิ ต ภาพยนตร์ แ ละจัด
จำหน่ า ยภาพยนตร์ 151 เช่ น ภาพยนตร์ เ รื่ อ ง The battleship island (2017) ในขณะที่ Orion
https://themomentum.co/momentum-feature-learning-korea-films-for-treat-thai-film-crisis/
150 Positioning. (2561). CJ E&M ผู้ผลักดัน Korean Wave สู่ตลาดโลก. สืบค้นเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2562 จาก :
https://positioningmag.com/1192601
151 ทินวุฒิ ลิวานัค. (ม.ป.ป.). ส่อง CJ E&M บริษัทด้านสื่อบันเทิงชั้นนำของเกาหลีใต้ และการขยายธุรกิจในไทย. สืบค้นเมื่อวันที่ 31
Corporation เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายขนมที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีและมีบริษัทย่อยที่
ผลิตภาพยนตร์และจัดจำหน่ายภาพยนตร์ในชื่อ Showbox152 เช่นภาพยนตร์เรื่อง The Sword with
No Name (2009) ในขณะเดียวกัน Lotte Corporation ก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่มีบริษทั ย่อยที่ผลิต
และจั ด จำหน่ า ยภาพยนตร์ ท ั ้ ง ในและต่ า งประเทศนั ้ น คื อ Lotte Cinema และ Lotte
Entertainment153 ภาพยนตร์เรื่อง The Last Princess
ต่อมาในปีค.ศ. 1999 ได้มีการปฏิรูป Korean Motion Picture Promotion Corporation
(KMPPC) โดยการตั้งชื่อใหม่ว่า Korean Film Commission (KOFIC)154 ในปัจจุบันใช้ชื่อว่า Korean
Film Council หรือ สมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งเกาหลี ที่เป็นหน่วยงานย่อมาจากกระทรวงวัฒนธรรม
155เพื่อสนับสนุนและประชาสัมพันธ์อุตสาหกรรมภาพยนตร์เกาหลีทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดย
3.2 การสร้างและผลิตซ้ำภาพลักษณ์ของญี่ปุ่นที่ปรากฏในภาพยนตร์เกาหลี
จากการที่รัฐบาลจัดตั้งองค์กร Korean Film Council หรือ สมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งเกาหลี
เพื่อสนับสนุนและประชาสัมพันธ์อุตสาหกรรมภาพยนตร์เกาหลีทั้งในประเทศและต่างประเทศนั้น จึง
วิเคราะห์ได้ไม่ยากว่าบรรดาภาพยนตร์ที่ถูกสร้างและฉายออกมาจะต้องผ่านตรวจสอบจากรัฐบาล ซึ่ง
ในบรรดาภาพยนตร์ที่ถูกสร้างออกมาในเกาหลีนั้นมักจะมีภาพยนตร์ที่มีเนื้อเรื่องอยู่ในช่วงที่เกาหลีอยู่
Corporation
154 ธีปนันท์ เพ็ชร์ศรี, อลงกรณ์ คล้ายสีแก้ว, โสภณา เชาว์วิวัฒน์กุล. (2545). Korean Romance 15 หนังรักประทับใจและความ
https://themomentum.co/momentum-feature-learning-korea-films-for-treat-thai-film-crisis/
156 เรื่องเดียวกัน.
47
ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่นไปจนถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกสร้างและผลิตออกมาซ้ำๆกันเกื อบ
ทุกปี ดั่งจะกล่าวต่อไปนี้
3.2.1 เนื้อเรื่องโดยย่อของภาพยนตร์เกาหลี
1.) The Sword with No Name เข้าฉายในปี 2009
ผลงานการกำกับของ คิม ยองจุน เข้าฉายในวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ.2009 ซึ่งภาพยนตร์เรื่อง
The Sword with No Name เหตุ ก ารณ์ ใ นเรื่ อ งเกิด ขึ ้ น ในช่ ว งทศวรรษ 1980 ความรั ก ระหว่าง
มู มยอง (โช ซังวู) ชายหนุ่มกำพร้าคนรับจ้างแจวเรือที่รับ งานเป็นนักล่าค่าหัวเงินรางวัล กับ แจยอง
(ซู-เอ) หญิงสาวผู้สูงศักดิ์ที่กำลังจะกลายเป็นราชินีแห่งเกาหลี ซึ่งแน่นอนว่ารักนี้ย่อมมีอุปสรรค แต่มู
มยอง ยอมทำทุกอย่างเพื่อได้อยู่ใกล้ๆ แจยอง รวมถึงการหาทางเข้ามาเป็นองค์รักษ์หลวงด้วย ในขณะ
ที่ผู้ที่เป็นราชินีย่อมมีภาระหน้าที่รับผิดชอบอันใหญ่หลวง จนอาจต้องยอมละทิ้งความปรารถนาแห่ง
หัวใจของตนไป ยิ่งในยามที่สถานการณ์บ้านเมืองครุกรุ่นเช่นนี้ ที่แม้แต่ชีวิตของพระราชินียังแขวนอยู่
บนเส้นด้าย เขาอาจจะเป็นเพียงคนเดียวที่ยืนหยัดอยู่ข้างเธอจนถึงที่สุด157
2.) Assassination เข้าฉายในปี 2015
ผลงานการกำกับของ ชเว ดงฮุน เข้าฉายในวันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ.2015 ซึ่งภาพยนตร์เรื่อง
Assassination เหตุการณ์ในเรื่องเกิดขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 1900 ซึ่งเป็นช่วงเกาหลีตกอยู่ภายใต้การ
ปกครองของประเทศญี่ปุ่น นักเคลื่อนไหว หรือผู้ต่อต้านชาวเกาหลีมากมาย ต้องลี้ภัยไปซ่อนตัวที่เซี่ยง
ไฮ้ ประเทศจีน จากการจับกุมของทางการญี่ปุ่น และในปี 1933 มีคำสั่งให้ลอบสังหารผู้บัญชาการ
กองทัพญี่ปุ่นเพื่อให้ได้มาซึ่งอิสรภาพของประเทศจึงส่ง “ยอมซอกจิน” (รับบทโดย ลีจองแจ) ตัวแทน
จากรัฐบาลเกาหลีไปปล่อยตัว “อันอ๊คยุน” (รับบทโดย จอนจีฮยอน) นักแม่นปืนสไนเปอร์และสหาย
ของเธอออกจากคุก และให้ “อันอ๊คยุน” เป็นหัวหน้าทีมสังหารในภารกิจลับนี้ ขณะที่แผนสังหารผู้
บัญชาการกองทัพญี่ปุ่นนี้กลับรู้ไปถึงฝั่งญี่ปุ่น ญี่ปุ่นจึงใช้ แผนซ้อนแผนโดยได้จ้างมือปืนรับจ้างอย่าง
“ฮาวาย พิสตัน-Hawaii-Pistol” (รับบทโดย ฮาจองวู) มาเพื่อฆ่า “อันอ๊คยุน” และทีมสังหาร158
157 Nanatakara. (2553). The Sword with No Name (2009): องครักษ์พิทักษ์เธอ. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2562 จาก :
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nanatakara&month=04-2010&date=23&group=11&gblog=29
158 SEON IN-JOO. (2558). The Assassination. สืบค้นเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2562 จาก : https://asiancastle.net/?p=1747
48
ภาพที่ 19 โปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง The Last Princess ภาพที่ 20 โปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง Dongju: The Portrait of a
ที่มา : Poet ที่มา :
https://en.wikipedia.org/wiki/The_Last_Princess_(fi https://en.wikipedia.org/wiki/Dongju:_The_Portrait_of_a_P
lm) oet
http://koreandramath.blogspot.com/2018/03/spirits-homecoming.html
164 Koreandrama. (2561). Snowy Road (ภาพยนตร์). สืบค้นเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2562 จาก :
http://koreandramath.blogspot.com/2018/01/snowy-road.html
51
165 ณัฐนันท์ เฉลิมพนัส. (2560). เปิดตำนานเกาะฮาชิมะ ‘คุกนรก’ ที่ซงจุงกิถูกส่งตัวเข้าไป. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2562 จาก
: https://thestandard.co/culture-film-the-battleship-island/
166 Warumanu. (2560). [Kormovies] The Battleship Island (2017). สืบค้นเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2562 จาก :
https://www.korseries.com/kormovies-the-battleship-island-2017-2/
52
ภาพที่ 23 โปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง Snowy Road ที่มา : ภาพที่ 24 โปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง I Can Speak ที่มา :
https://www.korseries.com/kormovies-the-battleship- https://www.korseries.com/kormovies-i-can-speak-
island-2017-2/ 2017/
จากที่กล่าวไปข้างต้นหากดูจากเนื้อเรื่องโดยย่อของภาพยนตร์ทั้ง 8 เรื่องจะสังเกตเห็นว่าเนื้อ
เรื่องของภาพยนตร์ส่วนใหญ่จะต้องมีตัวเอกที่เป็นนักเคลื่อนไหวเพื่ออิสรภาพหรือบุคคลสำคัญทาง
ประวัติศาสตร์ อย่างเช่นในภาพยนตร์เรื่อง The Sword with No Name ที่มีตัวเอกคือราชินีมิน หรือ
เรื่อง Dongju: The Portrait of a Poet ที่ตัวเอกคือยุน ดงจู กวีชาวเกาหลี นอกจากนี้ก็จะเป็นตัวเอก
ที่ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในยุคนั้น และแน่นอนว่าตัวร้ายตามธรรมเนียมก็มักจะเป็นทหารหรือ
167 Wikipedia. (ม.ป.ป.). I Can Speak. สืบค้นเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2562 จาก : https://en.wikipedia.org/wiki/I_Can_Speak
53
ข้าราชการของญี่ปุ่น ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่าภาพยนตร์เกาหลีนั้นได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลผ่าน
Korean Film Council จึงทำให้เห็ นว่าการที่มีภาพยนตร์เหล่านี้ถูกผลิตออกมาเกือบทุกปีและใน
บางครั้งก็มักจะเข้าฉายตรงกับวันสำคัญหรือเหตุการณ์สำคัญในช่วงเวลานั้น เช่น วันซัมอิลจอล หรือ
เหตุการณ์ที่มีการเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่หญิงบำเรอ อาจจะเป็นการยืนยันได้ว่ารัฐบาลต้องการ
จะย้ำเตือนถึงสิ่งที่ เกาหลีเคยถูกญี่ปุ่นกระทำในอดีต แต่หากสังเกตรูปแบบของเค้าโครงเรื่องของ
ภาพยนตร์ทั้ง 8 เรื่องจะมีความเลี่ยนแปลงไป โดยในช่วงปีค.ศ. 2009-2016 จะมีเค้าโครงเรื่องที่
เกี่ยวกับบุคคลสำคัญหรือเหล่านักสู้เพื่ออิสรภาพ แต่พอมาในช่วงปีค.ศ. 2017-ปัจจุบัน(2019)จะมีเค้า
โครงเรื่องที่มีจากเรื่องของเหล่าหญิงบำเรอในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
3.2.2 การสร้างและผลิตซ้ำภาพลักษณ์ของญี่ปุ่นที่ปรากฏในภาพยนตร์เกาหลี
จากข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่คนทั่วไปทราบกันดีก็จะทราบว่าประวัติศาสตร์ของเกาหลีได้
สะท้อนให้เห็นถึงความเกลียดชัง ความไม่ลงรอยกันระหว่างเกาหลีกับญี่ปุ่นมาตั้งแต่ที่ญี่ปุ่นพยายาม
แทรกแซงเกาหลี จนในที่สุดเกาหลีก็ตกอยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่นอย่างสมบูรณ์ ซึ่งภายใต้การ
ปกครองของญี่ปุ่นนี้เองที่สร้างบาดแผลให้แก่เกาหลีอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น การสร้างความเป็นญี่ปุ่น
ให้แก่ชาวเกาหลี เพื่อให้เกาหลีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับญี่ปุ่น โดยขจัดวัฒนธรรมที่ชาวเกาหลีมีหรือ
ปฏิบัติแตกต่างจากญี่ปุ่น การใช้นามสกุลแบบญี่ปุ่น ใช้ภาษาญี่ปุ่นในการเรียนการสอนโดยให้คนญี่ปุ่น
เข้าไปเป็นครูในโรงเรียนและกำหนดให้หนังสือประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเกาหลีเป็นสิ่งต้องห้าม อีก
ทั้งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นได้เกณฑ์ชาวเกาหลีไปทำงานในเหมืองแร่ ก่อสร้างและโรงงานใน
ญี่ปุ่น เพื่อผลิตสินค้ายุทธปัจจัยที่จำเป็นสำหรับกองทัพ มีการเกณฑ์คนเกาหลีไปประจำการในกองทัพ
ญี่ปุ่น และมีการเกณฑ์ผู้หญิงเกาหลีเพื่อให้บริการทางเพศแก่ทหารญี่ปุ่น168
ดังนั้นหากมองจากมุมมองทางประวัติศาสตร์จะเห็นว่าภาพลักษณ์ของเกาหลีนั้นจะเป็น
ผู้ถูกกระทำ ถูกกดขี้ ข่มเหงราวกับไม่ใช่มนุษย์อยู่ตลอดเวลา แต่ก็แฝงไปด้วยความกล้าหาญ และรัก
ชาติ ในขณะที่ภาพลักษณ์ของญี่ปุ่ นที่วางให้เป็นคู่แค้นของเกาหลีก็จะมีภาพลักษณ์เป็นตัวร้าย เป็น
ผู้กระทำที่โหดเหี้ยม ทารุณอยู่ตลอดเวลา ซึ่งภาพลักษณ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในภาพยนตร์
เกาหลีเกือบทุกเรื่องที่มีฉากอยู่ในยุคสมัยนั้น โดยจากภาพยนตร์ทั้ง 7 เรื่องได้สะท้อนประเด็นทาง
ประวัติศาสตร์และภาพลักษณ์ของญี่ปุ่นในช่วงที่ ปกครองเกาหลีแตกต่างกันออกไป สามารถแบ่ง
ออกมาได้ 5 ประเด็น ดังนี้
1.) หญิงบำเรอ หรือ Comfort Women
ภายหลังจากการที่เกาหลีลงนามในสนธิสัญญาผนวกดินแดน ทำให้เกาหลีตกอยู่ภายในการ
ปกครองของญี่ปุ่นตั้งแต่ปีค.ศ. 1905-1945 ซึ่งเกิดการเปลี่ยนแปลงและเหตุการณ์ต่างๆมากมาย ซึ่ง
หนึ่งในนั้นคือการเกณฑ์และจับผู้หญิงและเด็กผู้หญิงไปเป็นหญิงบำเรอในค่ายทหารญี่ปุ่นตามสถานที่
ต่างๆ อีกทั้งยังเกิดกระแสเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นออกมาขอโทษอย่างจริงใจตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1990
โดยเริ่มจากการก่อตั้งองค์กรเพื่อเหล่าหญิงบำเรอ The Korean Council for the Women Drafted
168
วิเชียร อินทะสี. (2551). นโยบายต่างประเทศของญี่ปุ่นต่อเกาหลี ในช่วงการยึดครองและช่วงหลังการได้รับเอกราชจากญี่ปุ่น.
มหาวิทยาลัยนเรศวร. 16(3), 224.
54
for Military Sexual Slavery by Japan หรือเรียกสั้นๆว่า The Korean Council ขึน้ 169 ซึ่งประเด็น
เรื่องของหญิงบำเรอได้สะท้อนให้เห็นผ่านภาพยนตร์ดังต่อไปนี้
ภาพยนตร์เรื่อง The Spirits’ Homecoming (2016) ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ภาพที่ชัดเจน
ว่ามีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงที่ต้องไปเป็น หญิงบำเรอในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ดั่งจะเห็นได้จาก
คำพูดของตัวละครต่อไปนี้
“...ฉันถูกจับตัวไปตั้งแต่อายุ 17 ตอนนั้นฉันพูดอะไรมากไม่ได้หรอกค่ะ ทำอะไรไม่ได้ มันเป็น
แค่ช่วงเวลาสั้นๆ ต้องทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส เพราะพวกทหาร มันเยอะจนฉันจะพูดยังไงให้หมด
มันไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้หรอกค่ะ พวกผู้หญิงต้องมีประจำเดือน แต่พวกเขาก็ยังทำได้โดย
ไม่คิดอะไร พวกเขาไม่สนใจอะไรเราหรอกค่ะ พวกเขากระชากเราเหมือนของชิ้นหนึ่ง ทำเรายังไงก็ได้
ตามใจอยาก พอได้ทำอย่างสมใจอยากแล้ว เขาจะกำจัดเรา หรือไม่ก็ฆ่าเราทิ้ง มันเป็นเหตุการณ์ที่ ฉัน
จะเล่ายังไงดีนะ?...”170
จากข้างต้นเป็นคำพูดของคุณยายท่านหนึ่งที่กำลังถูกสัมภาษณ์ออกสื่อโทรทัศน์จากฉากเปิด
เรื่องของภาพยนตร์เรื่อง The Spirits’ Homecoming โดยจากคำพูดดังกล่าวได้แสดงให้เห็นถึงการ
กระทำของทหารญี่ปุ่นที่กระทำต่อเหล่าหญิงบำเรอชาวเกหาลี
Spirits’ Homecoming
55
อีกหนึ่งฉากที่ควรกล่าวถึงคือ ฉากการพยายามฆ่าตัวตายของยองเอที่เป็นเสมือนตัวแทนของ
เด็กสาวหลายๆคนที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่หลังจากที่ถูกหลอกหรือถูกลักพาตัวมาเพื่อเป็นหญิงบำเรอให้แก่
ทหารญี่ปุ่น แต่หลายครั้งที่เด็กสาวเหล่านั้นทำไม่สำเร็จ
173 Wikipedia. (ม.ป.ป.). I Can Speak. สืบค้นเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2562 จาก : https://en.wikipedia.org/wiki/I_Can_Speak
174 คำพูดของคุณยาย นา อ๊คบุนในศาล ทีม่ า : ภาพยนตร์เรื่อง I Can Speak
60
177ประชาชาติธุรกิจ ออนไลน์. (2560). “The Battleship Island” ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่นา่ จับตามอง. สืบค้นเมื่อ 1 พฤศจิกายน
2562 จาก : https://www.prachachat.net/spinoff/entertainment/news-17245
64
จากภาพยนตร์ทั้ง 3 เรื่องที่มีการกล่าวถึงประเด็นเรื่องของการเกณฑ์ชายเกาหลีไปเป็นทหาร
ในกองทัพญี่ปุ่นเพื่อเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งภาพยนตร์ทั้ง 3 เรื่องได้สื่อให้เห็นถึงการพยายาม
หลีกเหลี่ยงการเกณฑ์ทหารของเหล่านักศึกษาเกาหลี รวมไปถึงสถานะของทหารชาวเกาหลีที่อยู่ใน
กองทัพญี่ปุ่นที่ถูกทำร้ายร่างราวกับเป็นศัตรูมากกว่าทหารในกองทัพเดียวกัน
4.) การปลูกฝังวัฒนธรรมญี่ปุ่น
ในช่ ว งที ่ เ กาหลี อ ยู ่ ภ ายใต้ ก ารปกครองของญี ่ ป ุ ่ น นั ้ น ญี ่ ป ุ ่ น ได้ ด ำเนิ น นโยบายในการ
เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของชาวเกาหลีให้เป็นแบบญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย การใช้ชื่อนามสกุล
แบบญี่ปุ่น ใช้ภาษาญี่ปุ่นในการเรียนการสอนโดยให้คนญี่ปุ่นเข้าไปเป็นครูในโรงเรียนและสั่งห้ามการ
ใช้ภาษาเกาหลี รวมไปถึงการปลูกฝังการเป็นประชาชนผู้ภักดีต่อจักรพรรดิ ซึ่ง ปรากฏให้เห็นใน
ภาพยนตร์ถึง 5 เรื่องด้ว ยกัน คือ ภาพยนตร์เ รื่อง The Last Princess (2016), Dongju: The
Portrait of a Poet (2016), The Spirits’ Homecoming (2016), Snowy Road (2017) และ
The battleship island (2017) โดยแบ่งประเด็นย่อยออกได้เป็น 4 ประเด็น ดังนี้
ประเด็นในเรื่องของการแต่งกาย ปรากฏให้เห็นในภาพยนตร์เรื่อง The Last Princess
(2016) และThe battleship island (2017) โดยสำหรับเรื่อง The Last Princess (2016) ปรากฏ
ในฉากที่ที่ปรึกษาราชวงศ์ ฮัน แทคซู ส่งชุดกิโมโน ชุดประจำชาติของญี่ปุ่นมาให้เจ้าหญิงท๊อก-ฮเยใส่
ในงานที่คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นมาร่วมงาน เพื่อโปรโมตความเป็นญี่ปุ่นในเกาหลี
66
ต่อมาคือประเด็นของการเปลี่ยนชื่อจากชื่อเกาหลีไปใช้ชื่อญี่ปุ่น ในช่วงที่เกาหลีอยู่ภายใต้การ
ปกครองของญี่ปุ่น มีคนเกาหลีจำนวนไม่น้อยที่เปลี่ยนชื่อจากชื่อเกาหลีไปเป็นชื่อญี่ปุ่น บางส่วน
เปลี่ยนเพื่อความอยู่รอด แต่บางส่วนเปลี่ยนเพราะทำงานให้รัฐบาลญี่ปุ่น โดยในประเด็นการเปลี่ยนชื่อ
ได้ปรากฎให้เห็นในภาพยนตร์เรื่อง Dongju: The Portrait of a Poet (2016) และ The Spirits’
Homecoming (2016)
ภาพยนตร์เรื่อง Dongju: The Portrait of a Poet (2016) ได้สะท้อนให้เห็นถึงคนเกาหลีที่
ต้องเปลี่ยนชื่อเป็นชื่อญี่ปุ่นเพื่อความอยู่รอดในสังคมที่ญี่ปุ่นต้องการให้เห็น ซึ่งสะท้อนผ่านตัวของยุน
ดงจู และซง มงกยู ที่ต้องการไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อจาก ยุน ดงจู เป็น ฮิรานุมะ
โดจู ส่วนซง มงกยู เปลี่ยนเป็น โซมูระ มุเกอิ ในขณะเดียวกันที่มหาวิทยาลัยยอนฮี ก็ได้มีการประกาศ
ให้นักศึกษาเปลี่ยนชื่อ
ต่อมาคือประเด็นในเรื่องของการใช้ภาษาญี่ปุ่นและสั่งห้ามการใช้ภาษาเกาหลี หลังจากที่
ญี่ปุ่นได้ดำเนินนโยบายในการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของชาวเกาหลีให้เป็นแบบญี่ปุ่น ก็มีการสั่งห้าม
ใช้ภาษาเกาหลีและให้ใช้ภาษาญี่ปุ่นแทน ซึ่งปรากฏให้เห็นในภาพยนตร์เรื่อง Dongju: The Portrait
of a Poet (2016) และ Snowy Road (2017)
69
ประเด็นสุดท้ายคือเรื่องของการปลูกฝังการเป็นประชาชนผู้ภักดีต่อจักรพรรดิและจักรวรรดิ
ปรากฏให้เห็นในภาพยนตร์ถึง 2 เรื่องด้วยกันคือ ภาพยนตร์เรื่อง Assassination (2015), Snowy
Road (2017) และ The battleship island (2017)
สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Snowy Road (2017) จะมีฉากที่ครูชาวญี่ปุ่นให้เด็กชาวเกาหลี
ท่องจำคำปฏิญาณตนที่จะเป็นประชาชนของจักรวรรดิญี่ปุ่น ตลอดจนการปลูกฝังในการเป็นพลเมืองที่
ดี และการรับใช้ชาติด้วยการเป็นทหาร
“ปีนี้เป็นปีที่สำคัญในการตัดสินชัยชนะของสงคราม เหล่าวัยรุ่นทุกคนจะต้องเข้าร่ว มกองทัพ
และช่วยประเทศให้ชนะสงคราม จงจำไว้ว่าพวกเธอคือทหารญี่ปุ่น”179
ในขณะเดีย วกัน ภาพยนตร์เรื่อง The battleship island (2017) มีฉากที่โ ซฮี ตะโกนว่า
“จักรพรรดิ จงเจริญ” แสดงให้เห็นว่าแม้แต่เด็กก็ยังถูกปลูกฝังวิธีการแสดงความภักดีต่อจักรพรรดิ
ด้วยการตะโกนสรรเสริญ และในภาพยนตร์เรื่อง Assassination (2015) มีฉากที่สถานีรถไฟ ซึ่งเป็น
เวลาที่ต้องเคารพธงชาติก่อนจะประกาศให้ทุกคนที่อยู่ในสถานีรถไฟหยุดยืนตรงเคารพธงชาติ
180
นภดล ชาติประเสริฐ. (2560). เกาหลีปัจจุบัน Korea Today. ปทุมธานี : ศูนย์เกาหลีศึกษา สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษาฯ
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. 33.
73
ภาพที่ 54 ตัวละคร “ผู้ทรยศ” ในภาพยนตร์เรื่องนี้คือ เหล่าขุนนางชั้นสูง ที่มา : ภาพยนตร์เรื่อง The Last Princess
ภาพที่ 55 ตัวละคร “ผู้ทรยศ” ในภาพยนตร์เรื่องนี้คือ ที่ปรึกษาฮัน แทคซู ที่มา : ภาพยนตร์เรื่อง The Last Princess
ภาพยนตร์ อ ี ก เรื ่ อ งที ่ ส ะท้ อ นเรื ่ อ งของตั ว ละคร “ผู ้ ท รยศ” คื อ ภาพยนตร์ เ รื ่ อ ง The
battleship island (2017) ซึง่ ถูกสะท้อนผ่านคำพูดของโอ มัล-นยอน หญิงสาวที่ถูกคนเกาหลีด้วย
กันเองหลอกให้มาขายตัวให้ทหารญี่ปุ่น
“...คนที่ส่งไปกองทัพจีนหรือญี่ปุ่นเป็นคนเกาหลี ตอนที่ ญี่ปุ่นถอยทัพฉันหนีรอดมาได้ คนที่
จับฉันส่งกลับมาก็เป็นพวกเกาหลีอีกนั้นแหละ แล้วจะให้ฉันไปอ้อนวอนพวกเกาหลีอีกรึไง...”182
บทที่ 4
สรุป
หญิงบำเรอ ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงดังกล่าวว่าไม่ได้คำนึงถึงความต้องการของอดีตหญิง
บำเรอ ภาคประชาสังคมเกาหลีใต้จัดทำรูปปั้นหญิงบำเรอขึ้นมาอีกตัวหนึ่งและนำไปตั้งที่หน้าสถาน
กงสุลญี่ปุ่นในปูซาน หลังจากที่มีการตั้งรูปปั้นครั้งแรกในปีค.ศ. 2011 ที่หน้าสถานทูตญี่ปุ่นในกรุงโซล
ขณะเดียวกันก็เกิดปรากฏการณ์ตั้งรูปปั้นหญิงบำเรอในอีกหลายประเทศ และเมื่อวั นที่ 14 สิงหาคม
2019 ก็ได้มีการตั้งรูปปั้นหญิงบำเรอที่นัมซันเพิ่มขึ้นมา183 ซึง่ ส่งผลให้มีการสร้างและผลิตภาพยนตร์ที่
เกี่ยวข้องกับประเด็นของหญิงบำเรอขึ้นมาแทบทุกปี ไม่ว่าจะเป็น ภาพยนตร์เรื่อง The Spirits’
Homecoming ที่เข้าฉายในปีค.ศ. 2016, Snowy Road เวอร์ชั่นละครโทรทัศน์ ออกอากาศในปีค.ศ.
2015 และเวอร์ชั่นภาพยนตร์เข้าฉายในปีค.ศ. 2017 , The battleship island เข้าฉายในปี 2017 , I
Can Speak เข้าฉายในปีค.ศ. 2017 และเรื่องล่าสุดคือ HERSTORY เข้าฉายในปีค.ศ. 2018 เพื่อเป็น
เครื่องมือในการกดดันญี่ปุ่นทางอ้อม
ในขณะเดียวกันช่วงปีค.ศ. 2015-2017 จากการที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ยื่นเรื่องต่อยูเนสโกในการขึ้น
ทะเบียนเกาะฮาชิมะให้เป็นมรดกโลก ซึ่งเกาะฮาชิมะเป็นเกาะที่อยู่ใกล้แหล่งถ่านหิน จึงเริ่มมีการ
เกณฑ์คนจำนวนมากเข้าไปเป็นแรงงานเพื่อขุดเจาะถ่านหิน ซึ่งแรงงานส่วนใหญ่จะเป็นคนเกาหลี
และในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แรงงานทุกคนก็ยังต้องทำงานหนักขึ้น ทำให้ช่วงเวลานั้นมีแรงงานชาว
เกาหลีเสียชีวิตไป 122 คน184 จึงสร้างความไม่พอใจให้แก่คนเกาหลี คณะกรรมการยูเนสโกจึงกำหนด
เงื่อนไขในการขึ้นทะเบียนเกาะฮาชิมะ โดยการที่ญี่ปุ่นต้องยอมรับในการกระทำที่เคยกั บแรงงานใน
อดี ต และเกาหลี ก ็ ไ ด้ ม ี ก ารผลิ ต ภาพยนตร์ เรื ่ อ ง The Battleship Island (2017) ขึ ้ น มา โดย
ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าถึงประวัติศาสตร์ช่วงที่ญี่ปุ่นเอาแรงงานเกาหลีไปใช้แรงงานที่เกาะฮาชิมะ ซึ่งเป็น
เกาะที่มีถ่านหิน ซึ่งญี่ปุ่นได้ใช้ถ่านหินเหล่านี้พัฒนาประเทศช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อเป็น
เครื่องมือในการกดดันญี่ปุ่นทางอ้อมเช่นเดียวกันกับประเด็นของหญิงบำเรอ
นอกจากการสร้างและผลิตภาพยนตร์ตามสถานการณ์ของประเทศแล้วยังมีการสร้างและผลิต
ภาพยนตร์เนื่องในโอกาสวันสำคัญของประเทศอีกด้วย เห็นได้จากมีภาพยนตร์ 3 เรื่องที่เข้าฉายในช่วง
วันซัมอิลจอล(삼일절) หรือ วันการเคลื่อนไหวเพื่อเอกราช นั้นคือ ภาพยนตร์เรื่อง The Spirits’
Homecoming เข้าฉายวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2016 , Snowy Road เข้าฉายในวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ.
2017 และ A resistance ซึ่งเข้าฉายในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2019
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าจากภาพยนตร์ทั้ง 8 เรื่องมีการสร้างภาพลักษณ์ของญี่ปุ่นออกมาทั้งด้านดี
และไม่ดี ขณะเดียวกันก็ยังมีการผลิตซ้ำภาพลักษณ์เหล่านั้นออกมาเรื่อยๆ แต่ส่วนของเนื้อเรื่องของ
ภาพยนตร์ที่แม้จะอยู่ในช่วงเวลาเดียวกันทุกเรื่องแต่ก็จะมีบางเรื่องที่สร้างภาพลักษณ์ของ ญี่ปุ่นให้
https://thestandard.co/culture-film-the-battleship-island/
79
ออกมาแตกต่างจากภาพยนตร์บางเรื่อง รวมไปถึงบริบทและสถานการณ์ระหว่างเกาหลีและญี่ปุ่นที่ทำ
หน้าที่เป็นเสมือนตัวกำหนดการสร้างและผลิตซ้ำภาพลักษณ์ของญี่ปุ่นในช่วงเวลานั้นๆ
80
บรรณานุกรม
กานต์พิชชา วงษ์ขาว. (2550). สื่อละครโทรทัศน์เ กาหลีกับการเผยแพร่วัฒนธรรมเกาหลีใ น
สังคมไทย. วิทยานิพนธ์วาสารศาสตร์มหาบัณฑิต (สือสารมวลชน) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
เกษตรศาสตร์ เดชกุล. (2557). ชาตินิยมเกาหลีใต้ : กรณีศึกษา ข้อพิพาทเกาะด๊อกโด พ.ศ.2539-
2556. วิ ท ยานิ พ นธ์ ศ ิ ล ปศาสตร์ บ ั ณ ฑิ ต สาขาประวั ต ิ ศ าสตร์ ศิ ล ปศาสตร์ บ ั ณ ฑิ ต
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
จอห์น เค. แฟร์แบงค์, เอ็ดวิน โอ. ไรเชาเออร์, แอลเบิร์ต เอ็ม. เครก. (2550). เอเชียตะวันออกยุค
ใหม่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน. กรุงเทพฯ : มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย.
แดเนีย ล ทิ ว ดอร์. (2560). มหั ศ จรรย์ เ กาหลี จากเถ้า ถ่ า นสู ่ม หาอำนาจทางเศรษฐกิจและ
วัฒนธรรม (แปลจาก KOREA The Impossible Country โดย ฐิติพงษ์ เหลืองอรุณเลิศ).
กรุงเทพฯ : Openworld.
ธีปนันท์ เพ็ชร์ศรี, อลงกรณ์ คล้ายสีแก้ว, โสภณา เชาว์วิวัฒน์กุล. (2545). Korean Romance 15
หนั ง รั ก ประทั บ ใจและความเป็ น มาเป็ น ไปของหนั ง เกาหลี . กรุ ง เทพฯ : Blackberry
Publishing.
นงลักษณ์ ลิ้มศิริ. (2556). สันติภาพและความรักชาติ : ความรู้และมุมมองจากประวัติศาสตร์
สงครามในพิพิธภัณฑ์ญี่ปุ่น จีน และเกาหลี. กรุงเทพฯ : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย
(สกว.).
นภดล ชาติประเสริฐ. (2560). เกาหลีปัจจุบัน Korea Today. ปทุมธานี : ศูนย์เกาหลีศึกษา
สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษาฯ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
นภดล ชาติประเสริฐ. (2557). ประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างสาธารณรัฐเกาหลีกับญี่ปุ่น ค.ศ.
1965-2009. International Journal of East Asia Studies, 22(1), 94-120.
ปิยะการณ์ ไกรนรา. (2552). นโยบายต่างประเทศเกาหลีใต้ ด้านเศรษฐกิจ การเมือง : กรณีศึกษา
การส่งออกวัฒนธรรมผ่า นอุตสาหกรรมภาพยนตร์. วิทยานิพนธ์รัฐศาสตร์มหาบัณฑิต
มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
พรรณวิภา ชมภูงาม. (2553). การวิเคราะห์วิทยานิพนธ์ที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีศึกษาในประเทศ
ไทยระหว่ า ง ค.ศ.1988-2009. วิ ท ยานิ พ นธ์ ศ ิ ล ปศาสตร์ บ ั ณ ฑิ ต สาขาเกาหลี ศ ึ ก ษา
(สหสาขาวิชา) บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
81
เอกสารจากเว็บไซต์
กรุณา บัวคำศรี. (2561). สันติภาพบนเส้นขนานที่ 38. สืบค้นเมื่อ 3 กันยายน 2562 จาก :
https://story.pptvhd36.com/@kbuakamsri/5ae2b10887156
เกรียงไกร กาญจนะโภคิน. (2560). ส่งออกวัฒนธรรม. สืบค้นเมื่อ 30 ตุลาคม 2562 จาก :
https://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/642915
จิตติภัทร พูนขำ. (2561). ย้อนมอง “วิกฤตนิวเคลียร์เกาหลี” ผ่านบทเรียนประวัติศาสตร์ “วิกฤต
ขีปนาวุธคิวบา”. สืบค้นเมื่อ 5 กันยายน 2562 จาก : https://www.the101.world/nu
clear-crisis-from-cuba-to-north-korea/.
82
ประวัติย่อของผู้วิจัย
ชื่อ นางสาวณัฐณิชา นวลละออง
วัน เดือน ปีเกิด 15 มิถุนายน 2540
สถานที่เกิด จังหวัดสงขลา
สถานทีอ่ ยู่ปัจจุบัน 49 ถนนหยงสตาร์ ตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90250
ประวัติการศึกษา
พ.ศ.2552 ระดับประถมศึกษาโรงเรียนกิตติวิทย์บ้านพรุ
พ.ศ.2555 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัยสมบูรณ์กุลกันยา
พ.ศ.2558 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัยสมบูรณ์กุลกันยา
พ.ศ.2562 ระดับปริญญาตรี สาขาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา