Professional Documents
Culture Documents
Obsolete Pesticides
2 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
สารบัญ
บทที่ ๑. ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์ (Pesticides) ๕
๑.๑ ความหมายของสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์ ๕
๑.๒ การจำ�แนกประเภทของสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์ ๕
๑.๓ ฉลากและระดับความเป็นพิษของสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์ ๙
บทที่ ๒. สารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง (Obsolete Pesticides) ๑๔
๒.๑ ความหมายของสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง ๑๔
๒.๒ สาเหตุของการเกิดสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง ๑๕
๒.๓ การบ่งชี้ว่าเป็นสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง ๑๕
บทที่ ๓. อันตรายจากสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง ๑๗
๓.๑ ช่องทางการได้รับสัมผัสสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้างเข้าสู่ร่างกาย ๑๗
๓.๒ อันตรายจากสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง ๑๘
๓.๒.๑ ผลกระทบของสารเคมีต่อสุขภาพอนามัย ๑๙
๓.๒.๒ ผลกระทบของสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์ต่อสิ่งแวดล้อม ๒๐
บทที่ ๔. การป้องกันอันตรายจากสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง ๒๑
๔.๑ แนวทางปฏิบัติเมื่อต้องทำ�งานที่มีโอกาสสัมผัสสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์ ๒๑
คงค้าง
๔.๒ อุปกรณ์ปอ้ งกันอันตรายส่วนบุคคลในการทำ�งานกับสารเคมีปอ้ งกันกำ�จัดศัตรูพชื และสัตว์ ๒๑
คงค้าง
๔.๓ การปฐมพยาบาลเมื่อได้รับสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้างเข้าสู่ร่างกาย ๒๓
บทที่ ๕. เกณฑ์ปฏิบัติสำ�หรับสถานที่เก็บสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์ และสารเคมีป้องกัน ๒๕
กำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
๕.๑ สถานที่ตั้ง ๒๕
๕.๒ อาคารเก็บสารเคมี ๒๖
๕.๓ การจัดเก็บสารเคมี ๒๗
๕.๔ ระบบป้องกันอุบัติภัยจากสารเคมี ๒๙
เกณฑ์ปฏิบัติในการจัดเก็บสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์สำ�หรับเกษตรกร ๓๐
4 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
บทที่ ๑. ความรูท้ วั่ ไปเกีย่ วกับสารเคมีปอ้ งกันก�ำจัดศัตรูพชื และสัตว์
6 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
๒. สารก�ำจัดวัชพืช (Herbicide) เป็นสารเคมีที่ใช้ก�ำจัดท�ำลายหรือขัดขวางการเจริญเติบโตของวัชพืช
หรือพืชทีแ่ ย่งอาหารจากพืชทีเ่ พาะปลูก การจ�ำแนกประเภทของสารก�ำจัดวัชพืชสามารถจ�ำแนกได้หลายวิธี อาทิ
๒.๑ การจ�ำแนกตามลักษณะการใช้กับพืช แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท ได้แก่
๑) ประเภทใช้ทางใบ (foliar applied herbicides) สารก�ำจัดวัชพืชประเภทนี้จะเข้าสู่พืชทางใบ
หรือทางยอดโดยการฉีดพ่นไปที่ต้นวัชพืช สารก�ำจัดวัชพืชประเภทนี้ได้แก่ พาราควอท (paraquat) โพรพานิล
(propanil) 2,4-ดี (2,4-D) และไกลโฟเซต (glyphosate)
๒) ประเภทใช้ทางดิน (soil applied herbicides) สารก�ำจัดวัชพืชประเภทนี้จะเข้าทางรากหรือ
ยอดอ่อนขณะก�ำลังงอก สารก�ำจัดวัชพืชประเภทนี้ได้แก่ บิวตาคลอร์ (butachlor) อลาคลอร์ (alachlor)
ไดยูรอน (diuron) และไธโอเบนคาร์บ (thiobencarb)
๒.๒ การจ�ำแนกตามคุณสมบัติการออกฤทธิ์ แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท ได้แก่
๑) ออกฤทธิ์แบบเฉพาะเจาะจงหรือเลือกท�ำลาย (selective herbicides) เป็นสารก�ำจัดวัชพืช
ทีท่ ำ� ลายเฉพาะวัชพืช แต่ไม่เป็นอันตรายต่อพืชทีป่ ลูก สารก�ำจัดวัชพืชประเภทนีไ้ ด้แก่ 2,4-ดี (2,4-D) อลาคลอร์
(alachlor) อาทราซีน (atrazine) ไดยูรอน (diuron) และอามีทรีน (ametryne)
๒) ออกฤทธิ์ไม่เจาะจงหรือไม่เลือกท�ำลาย (non selective herbicides) เป็นสารก�ำจัดวัชพืชที่
ท�ำลายพืชทุกชนิด เมือ่ สัมผัสหรือเคลือ่ นย้ายเข้าสูพ่ ชื สารก�ำจัดวัชพืชประเภทนีไ้ ด้แก่ พาราควอท (paraquat)
ไกลโฟเซต (glyphosate) และอิมาซาเพอร์ (imazapyr)
๒.๓ การจ�ำแนกตามลักษณะการได้รับพิษ แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท ได้แก่
๑) ประเภทสัมผัส (contact action) สารกำ�จัดวัชพืชประเภทนีจ้ ะทำ�ลายพืชเฉพาะส่วนของพืชทีไ่ ด้
รับสัมผัสสารกำ�จัดวัชพืช สารกำ�จัดวัชพืชประเภทนีไ้ ด้แก่ พาราควอท (paraquat) และโพรพานิล (propanil)
๒) ประเภทดูดซึม (systemic action) สารกำ�จัดวัชพืชประเภทนี้จะถูกดูดซึมจากรากหรือส่วนของ
ลำ�ต้นเหนือดินที่สัมผัสกับสาร เข้าสู่ส่วนต่างๆ ของพืชทำ�ให้พืชถูกทำ�ลาย สารกำ�จัดวัชพืชประเภทนี้ได้แก่
2,4-ดี (2,4-D) ไกลโฟเซต (glyphosate) ดาลาพอน (dalapon) และอิมาซาเพอร์ (imazapyr)
๒.๔ การจ�ำแนกตามวิธีการใช้ แบ่งออกเป็น ๓ ประเภท ได้แก่
๑) สารที่ใช้ก่อนการปลูกพืช (pre-planting) เป็นสารที่ใช้ภายหลังการเตรียมดินก่อนการปลูกพืช
เพื่อควบคุมวัชพืชไม่ให้งอก
๒) สารทีใ่ ช้กำ� จัดวัชพืชก่อนพืชงอก (pre-emergence) แบ่งได้เป็น ๒ ประเภท กล่าวคือ สารทีม่ ฤี ทธิ์
ตกค้างไม่นาน จะใช้เป็นสารควบคุมไม่ให้วัชพืชงอก โดยใช้ภายหลังการหว่านเมล็ดพันธุ์ไปแล้วและวัชพืชยัง
ไม่งอก ส่วนอีกพวกมีฤทธิ์ตกค้างอยู่ได้นานกว่าจะใช้สารพร้อมกับการหว่านเมล็ดพันธุ์ ซึ่งสารพวกนีม้ ฤี ทธิฆ์ า่
วัชพืชทัง้ ทีย่ งั เป็นเมล็ดหรือก�ำลังงอก
๓) สารทีใ่ ช้กำ� จัดวัชพืชภายหลังพืชงอก (post-emergence) เป็นสารทีใ่ ช้ควบคุมวัชพืชภายหลังพืช
ที่เพาะปลูกงอกแล้ว
8 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
๑.๓ ฉลากและระดับความเป็นพิษของสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์
องค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) ได้มกี ารจ�ำแนกระดับความเป็นพิษของ
สารเคมีปอ้ งกันก�ำจัดศัตรูพชื และสัตว์ ตามค่าความเป็นพิษเฉียบพลัน (Median Lethal Dose: LD50) ออกเป็น
๕ ระดับ กล่าวคือ ระดับ Ia เป็นสารเคมีทางการเกษตรที่มีพิษร้ายแรงมาก (Extremely hazardous) ระดับ
Ib เป็นสารเคมีทางการเกษตรทีม ่ พี ษิ ร้ายแรง (Highly hazardous) ระดับ II เป็นสารเคมีทางการเกษตรทีม่ พี ษิ
ปานกลาง (Moderately hazardous) ระดับ III เป็นสารเคมีทางการเกษตรที่มีพิษน้อย (Slightly hazardous)
และสารเคมีทางการเกษตรที่ไม่มีพิษหรือมีพิษน้อยมาก (Unlikely to present acute hazard (U) ดังแสดง
ในตารางที่ ๑
ตารางที่ ๑ การจำ�แนกระดับความเป็นพิษของสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์
10 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
ฉลากของสารป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์ จะต้องมีเครื่องหมาย และข้อความอยู่ในแถบสี โดยแถบสี
ดังกล่าวจะปรากฏอยู่ด้านล่างตลอดความยาวของฉลาก และมีพื้นที่แถบสีไม่น้อยกว่า ๑๕% ของพื้นที่ฉลาก
ดังนี้
• สารป้องกันกำ�จัดศัตรูพชื และสัตว์ทมี่ รี ะดับความเป็นพิษอยูใ่ นระดับ ๑ เอ ให้มเี ครือ่ งหมายหัวกะโหลก
กับกระดูกไขว้ พร้อมด้วยข้อความว่า “พิษร้ายแรงมาก” และต้องมีภาพแสดงคำ�เตือนอยู่ในแถบสีแดง (ใช้สี
pantone red 199-c)
• สารป้องกันกำ�จัดศัตรูพชื และสัตว์ทมี่ รี ะดับความเป็นพิษอยูใ่ นชัน้ ๑ บี ให้มเี ครือ่ งหมายหัวกะโหลกกับ
กระดูกไขว้ พร้อมด้วยข้อความว่า “พิษร้ายแรง” และต้องมีภาพแสดงคำ�เตือนอยูใ่ นแถบสีแดง (ใช้สี pantone
red 199-c)
• สารป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์ที่มีระดับความเป็นพิษอยู่ในชั้น ๒ ให้มีเครื่องหมายกากบาท
พร้อมด้วยข้อความว่า “อันตราย” และต้องมีภาพแสดงคำ�เตือนอยูใ่ นแถบสีเหลือง (ใช้สี pantone yellow-c)
• สารป้องกันก�ำจัดศัตรูพชื และสัตว์ทมี่ รี ะดับความเป็นพิษอยูใ่ นชัน้ ๓ ให้มขี อ้ ความว่า “ระวัง” และต้อง
มีภาพแสดงค�ำเตือนอยู่ในแถบสีน�้ำเงิน (ใช้สี pantone blue 293-c)
แถบสี เครื่องหมาย และข้อความบนฉลาก
(รูปตัวอย่างภาชนะบรรจุสารเคมี แสดงส่วนประกอบสำ�คัญของฉลาก)
12 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
บริษัท สหภัณฑ์ส่งเสริมการเษตร จ�ำกัด เมื่อใช้หมดให้กลั้วล้างด้วยน�้ำ 3 ครั้ง และรวมน�้ำไปใช้ผสมฉีดพ่น 9. ห้ามเทสารที่เหลือ
54/1 หมู่ที่ 14 นิคมอุตสาหกรรมบางชัน ถนนเสรีไทย แขวงมีนบุรี
54/1 หมูท่ ี่ 14 นิคมอุตสาหกรรมบางชัน ถนนเสรีไทย หรือล้างภาชนะบรรจุ อุปกรณ์ เครื่องพ่นสารลงในแม่น�้ำ ล�ำคลอง และบริเวณใกล้เคียง
เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ 10510 โทร. 0-22919-9191 แฟ็กช์ 0-2517-9470
แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ 10510 หรือล้างภาชนะบรรจุ อุปกรณ์ เครื่องพ่นสารลงในแม่น�้ำ ล�ำคลอง และบริเวณใกล้เคียง
สถานที่ผลิต 2/8 หมู่ 3 ต.ล�ำไทร อ.ล�ำลูกกา จ.ปทุมธานี 12150
โทร. 0-22919-9191 แฟ็กช์ 0-2517-9470 10. ก�ำจัดภาชนะบรรจุโดยท�ำลาย แล้วฝังดินหรือรวมทิ้ง ให้ปลอดภัย ห้ามใช้ไฟเผา
ปริมาณสุทธิ 4 ลิตร หรือน�ำกลับไปใช้อกี 11.ห้ามใช้เครือ่ งพ่นสารก�ำจัดวัชพืชนี้ พ่นสารก�ำจัดศัตรูพชื ชนิดอืน่
แถบสีและรูปภาพแสดงคำ�เตือนในการใช้และข้อความอันตรายของวัตถุอันตราย
รูปตัวอย่างฉลากและระดับความเป็นพิษของสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์
รูปภาพสัญลักษณ์ต่างๆ ที่ปรากฏในแถบสีบนฉลากสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์ จะแสดง
ค�ำเตือนในการใช้และการระมัดระวังอันตรายของสารเคมี ซึง่ จะช่วยให้ผใู้ ช้เข้าใจข้อความบนฉลากได้งา่ ยยิง่ ขึน้
ความหมายของรูปภาพสัญลักษณ์ต่างๆ มีดังนี้
ภาพแสดงค�ำเตือนในการใช้และการระมัดระวังอันตรายของสารเคมีปอ้ งกันก�ำจัดศัตรูพชื และสัตว์
หมายความว่า ให้เก็บมิดชิดพ้นมือเด็ก
หมายความว่า ให้ชำ� ระล้างหลังจากการใช้
หมายความว่า เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยง
ภาพแสดงค�ำแนะน�ำอุปกรณ์ป้องกันอันตรายที่ควรจะสวมใส่ขณะผสม หรือใช้สารเคมี
หมายความว่า สวมอุปกรณ์ป้องกันตา
หมายความว่า สวมชุดป้องกัน
ตลอดตัวผู้ใช้ขณะฉีดพ่นหรือใช้
หมายความว่า สวมหน้ากากป้องกัน
ไอพิษ หมายความว่า สวมรองเท้า
ป้องกันเท้า
หมายความว่า สวมถุงมือป้องกันการ
สัมผัสถูกมือ
14 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
๒.๒ สาเหตุของการเกิดสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
สารเคมีปอ้ งกันกำ�จัดศัตรูพชื และสัตว์คงค้างสามารถเกิดขึน้ ได้จากหลายสาเหตุ สาเหตุสว่ นหนึง่ เกิดจาก:
๑. ผลิตภัณฑ์ถูกห้ามใช้ หรือจำ�กัดการใช้อย่างเข้มงวด เนื่องจากเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย
ต่อสุขภาพอนามัยและสิง่ แวดล้อม เช่น การประกาศให้เป็นวัตถุอนั ตรายประเภทที่ ๔ ห้ามผลิต นำ�เข้า ส่งออก
หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อขาย เพื่อขนส่ง เพื่อใช้ หรือเพื่อประกอบการอื่นใด ภายใต้พระราชบัญญัติ
วัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๓๕
๒. ผลิตภัณฑ์ถูกทำ�ลาย เนื่องจากมีการจัดเก็บที่ไม่เหมาะสม หรือเก็บไว้เป็นเวลานาน จนไม่สามารถ
นำ�มาใช้งานได้ และไม่สามารถนำ�มาผสมปรุงแต่งใหม่เพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้
๓. ผลิตภัณฑ์ไม่เหมาะสมที่จะนำ�มาใช้ตามวัตถุประสงค์ที่กำ�หนดไว้ และไม่สามารถนำ�มาใช้สำ�หรับ
วัตถุประสงค์อื่นได้ รวมทั้งไม่สามารถนำ�มาปรับปรุง หรือเปลี่ยนรูปเพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้
๔. ขาดความเชี่ยวชาญในการประเมินการระบาดของศัตรูพืชและสัตว์ รวมถึงการประเมินปริมาณ
ความต้องการใช้สารเคมีไม่สอดคล้องกับปริมาณการใช้สารเคมีที่เกิดขึ้นจริง ทำ�ให้มีการสั่งซื้อสารเคมีป้องกัน
กำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์มากเกินความจำ�เป็น
๕. มีสถานที่จัดเก็บสารเคมีไม่เพียงพอ หรืออยู่ในสภาพที่ไม่เหมาะสมสำ�หรับจัดเก็บสารเคมี ทำ�ให้
สารเคมีเกิดการเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว ประกอบกับขาดการบริการจัดการสถานทีจ่ ดั เก็บสารเคมีทเ่ี หมาะสม
และไม่มีการจัดทำ�บัญชีรายการสารเคมีที่มีการจัดเก็บในสถานที่เก็บสารเคมี ทำ�ให้มีการปล่อยทิ้งสารเคมีไว้
ในสถานที่เก็บสารเคมีโดยไม่มีการนำ�ไปใช้
๖. ขาดการสือ่ สารระหว่างนักวิจยั ในหน่วยงานด้านการศึกษาวิจยั ทำ�ให้มกี ารปล่อยทิง้ สารเคมีปอ้ งกัน
กำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์ไว้หลังจากงานวิจัยเสร็จสิ้นแล้ว โดยไม่มีการนำ�ไปใช้งานต่อไป
๗. เกษตรกรเปลีย่ นชนิดพืชทีเ่ พาะปลูก ทำ�ให้ตอ้ งเปลีย่ นชนิดของสารเคมีปอ้ งกันกำ�จัดศัตรูพชื และสัตว์
ที่ใช้ในการป้องกันกำ�จัดศัตรูพืช และมีสารเคมีฯ ชนิดเดิมคงค้าง
๘. เกษตรกรซื้อสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์ราคาถูกที่ไม่ได้มาตรฐานมาใช้ ทำ�ให้ต้องซื้อ
สารเคมีชนิดใหม่มาใช้แทนสารเคมีเดิมที่ใช้ไม่ได้ผล
๙. นโยบายส่งเสริมการขายของบริษัทจำ�หน่ายสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์ เป็นสิ่งจูงใจ
ให้มีการซื้อสารเคมีฯ จำ�นวนมาก
๒.๓ การบ่งชี้ว่าเป็นสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
สารเคมีปอ้ งกันกำ�จัดศัตรูพชื และสัตว์คงค้าง จะหมายรวมถึง สารเคมีปอ้ งกันกำ�จัดศัตรูพชื และสัตว์ทงั้ ที่
เสื่อมสภาพ และที่ยังไม่เสื่อมสภาพและสามารถนำ�ไปใช้ประโยชน์ได้แต่เจ้าของไม่มีความจำ�เป็นหรือไม่มี
ความต้องการใช้สารเคมีดงั กล่าวในขณะนัน้ ซึง่ สารเคมีนน้ั อาจจะนำ�ไปใช้ในพืน้ ทีอ่ น่ื ทีย่ งั มีความต้องการใช้สารเคมี
ดังกล่าว หรืออาจจะเก็บไว้ใช้เมือ่ ถึงเวลาจำ�เป็น หรืออาจจะนำ�ไปผสมปรุงแต่งใหม่เพือ่ ให้ใช้ประโยชน์ได้ ดังนัน้
เพื่อเป็นการลดการเกิดสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง จึงควรมีการพิจารณาเพื่อบ่งชี้ว่าสารเคมี
ป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์ชนิดใดเป็นสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง โดยมีรายละเอียด
การบ่งชี้สารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้างตามแผนภาพดังต่อไปนี้
สามารถจำ�แนกชนิดสารเคมี ส่งวิเคราะห์
ได้หรือไม่
ได้
จำ�แนกชนิดของสารเคมีป้องกัน
กำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์
16 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
ใช่ ขอคำ�แนะนำ�จากบริษัทผู้ผลิต การเรียกคืนสารเคมีฯ เพื่อ ไม่
หากจำ�เป็นอาจต้องเปลี่ยนบรรจุ นำ�ไปกำ�จัดหรือผลิตใหม่
ไม่มั่นใจในคุณภาพ ภัณฑ์ใหม่เพื่อให้สามารถขนส่งได้ หรือไม่
ดัดแปลง/ผสมปรุงแต่งใหม่
บรรจุภัณฑ์ยังคงมีสภาพดี ไม่ มี
สามารถเคลื่อนย้ายได้ ใช่หรือไม่ หากจำ�เป็นอาจต้อง
ใช่ ขายหรือส่งให้กับผู้ที่มี มีการบรรจุใหม่และ
นำ�มาบรรจุใหม่และติดฉลากใหม่
ความต้องการใช้สารเคมี ติดฉลากใหม่ เพื่อให้
นำ�ไปใช้หรือเก็บไว้ใช้ในอนาคต สามารถขนส่งได้
ส่งไปยังบริษัทผู้ผลิต เตรียมการกำ�จัด
บทที่ ๓. อันตรายจากสารเคมีปอ้ งกันก�ำจัดศัตรูพชื และสัตว์คงค้าง
๓.๑ ช่องทางการได้รบั สัมผัสสารเคมีปอ้ งกันก�ำจัดศัตรูพชื และสัตว์คงค้างเข้าสูร่ า่ งกาย
ผูไ้ ด้รบั สัมผัสสารเคมีปอ้ งกันก�ำจัดศัตรูพชื และสัตว์คงค้างอาจได้รบั อันตรายจากสารเคมีเข้าสูร่ า่ งกายได้
๓ ทางหลัก คือ
๓.๒ อันตรายจากสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
อันตรายจากสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้างอาจเกิดขึ้นได้ในลักษณะเดียวกับสารเคมี
ป้องกันกำ�จัดศัตรูพชื และสัตว์ หรืออาจจะมีความเป็นอันตรายมากกว่าหรือน้อยกว่าสารเคมีปอ้ งกันกำ�จัดศัตรู
พืชและสัตว์ เนือ่ งจากสารเคมีปอ้ งกันกำ�จัดศัตรูพชื และสัตว์ทเี่ สือ่ มสภาพหรือสลายตัวในระหว่างการเก็บรักษา
หรือสลายตัวเนือ่ งจากถูกแสงหรือความร้อน หรือสลายตัวโดยจุลนิ ทรียใ์ นดิน จะทำ�ให้เกิดสารเมตาโบไลท์หรือ
อนุพันธ์ชนิดใหม่เพิ่มขึ้นตั้งแต่หนึ่งชนิดจนถึงหลายชนิด บางชนิดมีความเป็นพิษมากกว่าเดิม ในขณะที่บาง
ชนิดมีความเป็นพิษน้อยลงหรือหมดไป ซึ่งอันตรายที่เกิดขึ้นจากสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
จึงไม่สามารถคาดการณ์ได้ แต่อย่างไรก็ตามสารเคมีปอ้ งกันกำ�จัดศัตรูพชื และสัตว์คงค้างก็ยงั คงถูกพิจารณาให้
เป็นของเสียอันตราย ดังนั้น หากมนุษย์หรือสัตว์ได้รับสัมผัสสารเคมีนั้นโดยตรง หรือได้รับจากการสูดดม หรือ
การรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนสารเคมีก็จะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัย และหากแพร่กระจายสู่
สิ่งแวดล้อม ก็จะทำ�ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
18 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
๓.๒.๑ ผลกระทบของสารเคมีต่อสุขภาพอนามัย (Effects on human health)
ผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยจากการได้รบั สัมผัสสารเคมีปอ้ งกันก�ำจัดศัตรูพชื และสัตว์เข้าสูร่ า่ งกายจะ
แสดงอาการตามระดับของความรุนแรงและความเป็นพิษ ดังนี้
◆ พิ ษ เฉี ย บพลั น (acute toxic effect) ส่ ว นใหญ่ เ กิ ด จากการได้ รั บ สารเคมี เ พี ย งครั้ ง เดี ย วในปริ ม าณ
จะไม่แสดงอาการในทันทีแต่จะสะสมในร่างกายจนถึงระดับหนึ่งแล้วจึงค่อยแสดงอาการออกมาทีหลัง ท�ำให้
เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายของสิ่งมีชีวิต ลักษณะของพิษที่เกิดขึ้น ได้แก่ พิษต่อระบบประสาท
พิษต่อระบบสืบพันธุ์ ขัดขวางการท�ำงานของต่อมไร้ท่อ ผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันโรค ก่อให้เกิดมะเร็ง
ก่อเกิดการกลายพันธุ์ การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม ความผิดปกติในทารกในครรภ์ และเป็นพิษต่ออวัยวะ
ส�ำคัญของร่างกาย
ระดับความรุนแรงของอาการจากการได้รับสัมผัสสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์
อาการเล็กน้อย : แสบจมูก ตาแดง แสบตา/คันตา เหงื่อออกมาก อ่อนเพลีย น�้ำตาไหล น�้ำมูกไหล
น�้ำลายไหล เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ มึนงง คอแห้ง เจ็บคอ ไอ หายใจขัด ใจสั่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง ชาที่แขน
ผิวหนังเป็นผื่นคัน คันผิวหนัง
อาการปานกลาง : หนังตากระตุก ตาพร่า/มัว อาเจียน เจ็บ/แน่นหน้าอก คลื่นไส้ ปวดเกร็งท้อง
ปวดท้อง ท้องเสีย มือสัน่ กล้ามเนือ้ เป็นตะคริว เดินโซเซ หายใจถี่ เกิดอาการทางประสาท ม่านตาไม่ขยาย และ
เหงื่อออกมาก
อาการรุนแรง : มีอาการชัก หัวใจล้มเหลว หมดสติ ช็อก ชีพจรเต้นช้า และตายในที่สุด
20 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
บทที่ ๔. การป้องกันอันตรายจากสารเคมีปอ้ งกันก�ำจัดศัตรูพชื
และสัตว์คงค้าง
๔.๑ แนวทางปฏิบัติเมื่อต้องทำ�งานที่มีโอกาสสัมผัสสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืช
และสัตว์คงค้าง
® สวมชุดอุปกรณ์ปอ้ งกันอันตรายส่วนบุคคล เช่น ชุดป้องกันสารเคมี ถุงมือ หน้ากากป้องกันฝุน่ ละออง
และไอระเหยสารเคมี แว่นตา รองเท้าบูท๊ ทนต่อสารเคมี ทุกครัง้ เมือ่ สัมผัสกับสารเคมีปอ้ งกันกำ�จัดศัตรูพชื และสัตว์
คงค้าง
® ต้องชำ�ระล้างร่างกายให้สะอาดทุกครั้งหลังเลิกงาน
้ งกันก�ำจัดศัตรูพชื และสัตว์คงค้างเข้าตา หรือหกรดผิวหนัง ให้ลา้ งด้วยน�ำ้ สะอาดจ�ำนวนมาก
® ถ้าสารเคมีปอ
ประมาณ ๑๐-๑๕ นาที
® ในกรณีร่างกายได้รับพิษจากสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง ให้ทำ�การปฐมพยาบาล
ผู้ป่วยโดยทันที โดยศึกษาคำ�แนะนำ�เกีย่ วกับวิธกี ารปฐมพยาบาลในฉลากทีต่ ดิ ข้างภาชนะบรรจุ และเมือ่ นำ�ผูป้ ว่ ย
ส่งแพทย์ ควรนำ�ภาชนะบรรจุหรือฉลากไปให้แพทย์ด้วย
๔.๒ อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลในการทำ�งานกับสารเคมีป้องกันกำ�จัด
ศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
เมือ่ จำ�เป็นต้องทำ�งานทีม่ โี อกาสสัมผัสสารเคมีปอ้ งกันกำ�จัดศัตรูพชื และสัตว์คงค้าง ควรสวมใส่อปุ กรณ์
ป้องกันทุกครัง้ เพือ่ ป้องกันอันตรายทีอ่ าจเกิดขึน้ ทัง้ นีอ้ ปุ กรณ์ตา่ งๆ ต้องอยูใ่ นสภาพทีใ่ ช้การได้ดี และมีขนาดพอดี
กับผูส้ วมใส่ ภายหลังการใช้อปุ กรณ์ตอ้ งล้างหรือทำ�ความสะอาดทุกครัง้ และล้างมือให้สะอาดหลังจากเสร็จงาน
อุปกรณ์ป้องกันอันตรายที่จำ�เป็น ได้แก่
๑. ชุดป้องกันสารเคมี
ใช้สวมใส่เพื่อป้องกันสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คง
ค้างกระเด็นถูกผิวหนัง ชุดป้องกันสารเคมีควรเป็นชุดห่อหุ้มทั้งร่างกายมิดชิด
(สามารถปกปิดร่างกายได้รอ้ ยละ ๘๕) ซึง่ มีอยูห่ ลายชนิด ทัง้ ชนิดชิน้ เดียว หรือ
สองชิ้น (เป็นเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว) ทำ�ด้วยวัสดุกันสารเคมีซึม
การบำ�รุงรักษาหลังการใช้งาน ซักแล้วตากให้แห้ง เสื้อผ้าที่สวมใส่
ต้องแยกซักจากเสื้อผ้าปกติ ตากแดดให้แห้ง และเก็บแยกจากเสื้อผ้าปกติ
๔. หน้ากากป้องกันสารเคมี
ใช้สวมใส่เพื่อป้องกันสารเคมีเข้าทางการหายใจ ทำ�ด้วยวัสดุกันสาร
เคมีซมึ เป็นหน้ากากมีตลับกรองหรือไส้กรองทีเ่ หมาะกับชนิดของสารเคมี
การบ�ำรุงรักษาหลังการใช้งาน ล้างหน้ากากด้วยน�้ำสบู่และน�้ำแล้ว
ผึ่งให้แห้ง ตัวตลับกรองต้องเปลี่ยนเมื่อหมดอายุ
๕. ถุงมือ
ใช้ ส วมใส่ เ พื่ อ ป้ อ งกั น สารเคมี ถู ก ผิ ว หนั ง บริ เวณมื อ ทำ�ด้ ว ยยาง
สังเคราะห์หรือวัสดุที่สามารถกันสารเคมีซึมผ่าน สวมใส่แล้วไม่เกิดการ
ระคายเคือง
การบ�ำรุงรักษาหลังการใช้งาน ล้างด้วยน�้ำสบู่และน�้ำแล้วผึ่งให้แห้ง
๖. รองเท้า
ใช้สวมใส่เพื่อป้องกันสารเคมีถูกผิวหนังบริเวณเท้าและขา เป็น
รองเท้าบู๊ทท�ำด้วยยางสังเคราะห์หรือวัสดุกันซึมสูงขึ้นมาถึงเข่า
การบ�ำรุงรักษาหลังการใช้งาน ล้างด้วยน�ำ้ สบู่และน�ำ้ แล้วผึ่งให้แห้ง
22 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
๔.๓ การปฐมพยาบาลเมื่ อ ได้ รั บ สารเคมี ป้ อ งกั นกำ�จั ด ศั ต รู พื ช และสั ต ว์ ค งค้ า ง
เข้าสู่ร่างกาย
การปฐมพยาบาลจ�ำเป็นต้องใช้ความรวดเร็วและวิจารณญาณในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อช่วย
เหลือผู้ป่วยให้ดีที่สุด และสิ่งที่ต้องค�ำนึงถึงก็คือผู้เข้าไปช่วยต้องมีความปลอดภัยและไม่ได้รับพิษจากสารเคมี
ด้วย ฉะนั้นควรอ่านฉลากและปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด และด�ำเนินการตามขั้นตอนดังนี้
๑) สังเกตว่าเกิดอะไรขึ้น โดยดูจากสภาวะแวดล้อมและตัวผู้ป่วยว่ามีสติหรือไม่ หรือว่าเสียชีวิตแล้ว
๒) หากผู้ป่วยยังมีสติ ให้สอบถามอาการว่าเป็นอย่างไร หรือกินอะไรมากน้อยแค่ไหน นานเท่าไร
การปฐมพยาบาลผู้ป่วยที่ได้รับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายทางปาก
ถ้าผู้ป่วยได้รับอันตรายจากสารเคมีทางปากให้รีบน�ำผู้ป่วยพร้อมภาชนะบรรจุสารเคมีและฉลาก
ไปพบแพทย์ และในระหว่างไปพบแพทย์ควรปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้แก่ผู้ป่วย ดังนี้
๑) ท�ำให้ผู้ป่วยอาเจียนโดยการล้วงคอหรือให้ดื่มน�ำ้ เกลืออุ่นๆ ๑ แก้ว
๒) รับประทานไข่ขาวดิบ เพื่อช่วยลดการดูดซึมของสารเคมี
๓) รักษาร่างกายให้อบอุ่น
๔) น�ำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุดเพื่อให้แพทย์ล้างท้อง
ค�ำเตือน
ห้ามใช้วิธีเหล่านี้กับผู้ป่วยที่มีอาการชักหรือหมดสติ หรือผู้ป่วยที่กลืนสารที่มีฤทธิ์กัดกร่อน พวกกรด
ด่าง หรือน�ำ้ มันก๊าด น�้ำมันเบนซิน น�้ำมันเครื่อง
การปฐมพยาบาลผู้ป่วยที่ได้รับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายทางการหายใจหรือสูดดม
ถ้าผู้ป่วยได้รับอันตรายจากสารเคมีทางการหายใจหรือสูดดม ควรปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้แก่ผู้ป่วย ดังนี้
๑) ให้รีบน�ำผู้ป่วยออกจากบริเวณที่มีสารเคมีฟุ้งกระจายอยู่ไปยังบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
๒) คลายเสื้อผ้าให้หลวมเพื่อให้ผู้ป่วยหายใจสะดวก
๓) ถ้าผู้ป่วยตัวเย็นกว่าปกติให้ห่มผ้าเพื่อรักษาความอบอุ่นของร่างกาย หรือถ้าผู้ป่วยร้อนก็ให้เช็ดตัว
ด้วยน�้ำเย็น
๔) ถ้าผู้ป่วยหยุดการหายใจหรือหายใจช้ามาก ให้พยายามช่วยหายใจโดยเอาเศษอาหาร ฟันปลอมที่
อาจอุดทางเดินหายใจออกให้หมด แล้วให้ผู้ป่วยนอนหงาย ยกคางขึ้นสูงและเป่าลมเข้าทางจมูกหรือปากใน
อัตราประมาณ ๒๐ ครั้งต่อนาที
๕) น�ำผู้ป่วยพร้อมภาชนะบรรจุสารเคมีและฉลากไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
24 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
บทที่ ๕. เกณฑ์ปฏิบัติส�ำหรับสถานที่เก็บสารเคมีป้องกันก�ำจัด
ศัตรูพชื และสัตว์ และสารเคมีปอ้ งกันก�ำจัดศัตรูพชื และสัตว์คงค้าง
สารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์นอกจากจะก่อให้เกิดอันตรายในระหว่างการใช้แล้ว ยังก่อให้เกิด
อันตรายในระหว่างการจัดเก็บ ดังนัน้ หากมีวธิ ปี ฏิบตั ทิ ดี่ ใี นการจัดเก็บสารเคมีกจ็ ะช่วยลดความเสีย่ งต่อสุขภาพ
ของเจ้าของสถานที่เก็บสารเคมี ผู้ดูแลสถานที่เก็บสารเคมี และผู้ที่อยู่บริเวณโดยรอบสถานที่เก็บสารเคมี
รวมทั้งช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยป้องกันการเกิดสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
ซึ่งวิธีปฏิบัติที่ดีในการจัดเก็บสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์มีดังนี้ คือ
๕.๑ สถานที่ตั้ง
สถานที่เก็บสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์ต้องตั้งอยู่ในท�ำเลที่เหมาะสมมีการคมนาคมที่
สะดวกแก่การขนส่ง และเข้าถึงได้อย่างรวดเร็วเมือ่ เกิดเหตุฉกุ เฉิน ไม่กอ่ เหตุรำ� คาญ มลพิษ หรือผลกระทบใดๆ
ต่อแม่น�้ำ ล�ำคลอง แหล่งน�้ำสาธารณะ หรือแหล่งอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และต้องไม่อยู่ในบริเวณ
ดังต่อไปนี้
(๑) ภายในระยะ ๕๐๐ เมตร จากเขตพระราชฐาน
(๒) ภายในเขตบ้านจัดสรรหรือทีด่ นิ จัดสรรเพือ่ การพักอาศัย ตึกแถวหรือบ้านแถวเพือ่ การพักอาศัย
หรืออาคารชุดพักอาศัย หรือในเขตศูนย์การค้า
(๓) ภายในระยะ ๑๐๐ เมตร จากเขตสาธารณสถาน เช่น โรงเรียนหรือสถานศึกษา วัดหรือ
ศาสนสถาน สถานพยาบาล โบราณสถาน หรือสถานที่ทำ� งานของหน่วยงานของรัฐ
(๔) ภายในระยะ ๑๐๐ เมตร จากแหล่งน�ำ้ อุปโภคบริโภค เช่น บ่อน�ำ ้ แม่นำ �้ ล�ำคลอง แหล่งน�ำ้ สาธารณะ
(๕) ในบริเวณที่น�้ำท่วมถึง
26 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
๕.๓ การจัดเก็บสารเคมี
(๑) จัดท�ำบัญชีรายการสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์และสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืช
และสัตว์คงค้างที่หมดสภาพการใช้งานทุกชนิดที่เก็บไว้ในสถานที่เก็บสารเคมี และจัดท�ำแผนผังแสดงสารเคมี
ที่เก็บ ดังนี้
• ก�ำหนดหมายเลขของแต่ละพื้นที่
• แสดงต�ำแหน่งของสารเคมีที่จัดเก็บ รวมทั้งปริมาณสารเคมีที่จัดเก็บ
• แสดงต�ำแหน่งติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันเหตุฉุกเฉิน อุปกรณ์ดับเพลิง ทางออกฉุกเฉิน รวมทั้งเส้น
ทางหนีไฟ
• แผนผังนี้ต้องท�ำการปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยตลอดเวลา
• บัญชีรายการสารเคมี และต�ำแหน่งที่เก็บสารเคมี ต้องท�ำการปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ
(๒) จัดเก็บสารเคมีให้เป็นระเบียบโดยแยกเก็บสารเคมีตา่ งประเภทออกจากกัน เพือ่ ลดความเสีย่ ง
ในการเกิดเพลิงไหม้ และการปนเปื้อนของสารเคมีที่เข้ากันไม่ได้ ซึ่งอาจเกิดปฏิกิริยารุนแรงและท�ำความเสีย
หายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ รวมทั้งเพื่อมิให้เกิดความยุ่งยากหากจะต้องก�ำจัดด้วยวิธีต่างกัน ส่วนภาชนะที่
รองรับต้องมีสภาพแข็งแรงและปิดมิดชิดเพื่อมิให้มีการรั่วไหล
(๓) ไม่ควรจัดเก็บสารเคมีปอ้ งกันก�ำจัดศัตรูพชื และสัตว์รวมกับสารเคมีปอ้ งกันก�ำจัดศัตรูพชื และ
สัตว์คงค้าง ปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ และวัสดุการเกษตรอื่นๆ
(๔) ต้องจัดให้มีบริเวณพื้นที่ว่างโดยรอบพื้นที่จัดวางสารเคมี โดยห่างจากผนังอาคารอย่างน้อย
๕๐ เซนติเมตร
(๕) สารเคมีทบี่ รรจุในถังขนาดใหญ่หรือกระสอบการจัดวางบนฐานรอง (pallet) และไม่ควรสูงเกิน
๓ เมตร ส�ำหรับสารเคมีบรรจุในภาชนะขนาดเล็กควรจัดวางบนชั้นวางสารเคมีและชั้นวางสารเคมีไม่ควร
สูงเกิน ๒ เมตร
(๖) ติดเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์เกี่ยวกับความปลอดภัยภายในสถานที่เก็บสารเคมี โดยให้
สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
28 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
๕.๔ ระบบป้องกันอุบัติภัยจากสารเคมี
๕.๔.๑ ระบบป้องกันอัคคีภัย
(๑) ต้องติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับเพลิงไหม้ เช่น อุปกรณ์ตรวจจับควัน หรืออุปกรณ์
ตรวจจับความร้อนพร้อมสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้อัตโนมัติ ๑ เครื่องต่อพื้นที่ ๕๐ ตารางเมตร
(๒) ต้องติดตั้งเครื่องมือดับเพลิงและสารดับเพลิงที่เหมาะสมกับสารเคมีที่จัดเก็บไว้ใน
สถานที่เก็บสารเคมีไม่น้อยกว่า ๑ ถังต่อพื้นที่ ๑๐๐ ตารางเมตร
(๓) ต้องดูแลรักษาเครือ่ งมือและอุปกรณ์ปอ้ งกันการเกิดอัคคีภยั ดังกล่าวให้อยูใ่ นสภาพ
พร้อมที่จะใช้งานได้ตลอดเวลา
(๔) ต้องมีอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลให้ผู้ปฏิบัติงานสวมใส่ เช่น ชุดป้องกัน
สารเคมี หมวก แว่นตา หน้ากากป้องกันสารเคมี ถุงมือ รองเท้า และอื่นๆ ให้เหมาะสมและเพียงพอต่อการ
ปฏิบัติงานนั้นๆ
(๕) จัดให้มีอุปกรณ์ปฐมพยาบาลที่จ�ำเป็นพร้อมทั้งค�ำแนะน�ำวิธีปฐมพยาบาลที่เหมาะ
สมกับประเภทของสารเคมีที่ทำ� การเก็บ
(๖) ต้องมีการอบรมชีแ้ จงผูท้ ปี่ ฏิบตั งิ านในสถานทีเ่ ก็บสารเคมีได้เข้าใจถึงอันตรายทีอ่ าจ
เกิดขึ้นจากสารเคมีเมื่อเกิดอัคคีภัย
(๗) จั ด ให้ ห มายเลขโทรศั พ ท์ ข องสถานี ดั บ เพลิ ง สถานี ต� ำ รวจ โรงพยาบาลและ
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ในที่ที่เห็นได้ง่ายและชัดเจน
(๘) ให้มกี ารจัดท�ำแผนปฏิบตั กิ ารฉุกเฉินป้องกันและระงับอัคคีภยั เป็นลายลักษณ์อกั ษร
และก�ำหนดหน้าที่ผู้รับผิดชอบให้ชัดเจน รวมทั้งให้มีการฝึกซ้อมแผนระงับอัคคีภัยอย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง
๕.๔.๒ ระบบป้องกันการหกรั่วไหลของสารเคมี
(๑) จัดท�ำเขื่อน ก�ำแพง ท�ำนบ ผนังหรือสิ่งอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายกันเพื่อป้องกัน
มิให้สารเคมีรั่วไหลออกมาภายนอก และมีรางระบายสารเคมีที่รั่วไหลไปยังที่ปลอดภัยเพื่อไม่ให้มีการสะสม
ตกค้าง โดยรางระบายต้องแยกจากระบบระบายน�้ำ
(๒) จัดให้มีอุปกรณ์ที่จ�ำเป็นส�ำหรับจัดการสารเคมีที่หกรั่วไหล รวมทั้งจัดเตรียมวัสดุ
ที่มีคุณสมบัติดูดซับสารเคมีที่หกรั่วไหล เช่น ทราย ขี้เลื่อย เป็นต้น
(๓) กรณีสารเคมีหกหล่นหรือรัว่ ไหล ให้แยกกัน้ บริเวณทีม่ กี ารหกหล่นหรือรัว่ ไหลทันที
ส่วนระยะทีค่ วรแยกกัน้ นัน้ ขึน้ อยูก่ บั ชนิดสารเคมี โดยทัว่ ไปก�ำหนดให้มกี ารแยกกัน้ บริเวณทีม่ กี ารหกหรือรัว่ ไหล
อย่างน้อย ๒๕-๕๐ เมตรโดยรอบ ค้นหาสารเคมีที่หกหล่นหรือรั่วไหลนั้นว่าเป็นสารชนิดใด โดยอาจดูได้จาก
บัญชีรายการสารเคมีที่เก็บไว้ในสถานที่เก็บสารเคมี และด�ำเนินการเก็บกู้สารเคมีที่หกหล่นหรือรั่วไหลข้อมูล
ความปลอดภัยของสารเคมี พร้อมทั้งน�ำสารเคมีที่ถูกเก็บกู้และวัสดุดูดซับที่ปนเปื้อนสารเคมีไปก�ำจัดหรือ
ท�ำลายตามที่ก�ำหนดไว้ในฉลากหรือก�ำจัดอย่างถูกหลักวิชาการต่อไป
(๔) ให้มกี ารจัดท�ำแผนปฏิบตั กิ ารฉุกเฉินส�ำหรับกรณีการหกรัว่ ไหลของสารเคมีเป็นลาย
ลักษณ์อักษร และก�ำหนดหน้าที่ผู้รับผิดชอบให้ชัดเจน
(๕) จัดให้มีที่อาบน�ำ้ ฉุกเฉิน ที่ล้างตาฉุกเฉินตามความจ�ำเป็น
30 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
บทที่ ๖. การจัดท�ำท�ำเนียบสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและ
สัตว์คงค้าง (Inventories of obsolete pesticide stockpiles)
การจัดทำ�ทำ�เนียบหรือจัดทำ�บัญชีรายการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง เป็นการจำ�แนก
และจดบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง และวัสดุอุปกรณ์อื่นๆ ที่ปนเปื้อน
สารเคมีที่มีการจัดเก็บในสถานที่เก็บสารเคมี ซึ่งข้อมูลที่ได้รับจากการจัดทำ�ทำ�เนียบสารเคมีป้องกันกำ�จัด
ศัตรูพชื และสัตว์คงค้างจะเป็นข้อมูลพืน้ ฐานทีใ่ ช้ในการประเมินความเสีย่ งและจัดลำ�ดับความเสีย่ งของสถานทีเ่ ก็บ
สารเคมี เพือ่ วางแผนการดำ�เนินงานในการลดความเสีย่ งจากสารเคมีปอ้ งกันกำ�จัดศัตรูพชื และสัตว์คงค้าง รวมทัง้
ใช้เป็นข้อมูลสำ�หรับการพัฒนาแนวทางการจัดการสารเคมีปอ้ งกันกำ�จัดศัตรูพชื และสัตว์คงค้างอย่างยัง่ ยืน อาทิ
การป้องกันอันตรายจากสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง การกำ�จัดสารเคมีป้องกันกำ�จัด
ศัตรูพชื และสัตว์คงค้าง การฟืน้ ฟูพน้ื ทีป่ นเปือ้ นสารเคมี และการป้องกันการเกิดป้องกันกำ�จัดศัตรูพชื และสัตว์คงค้าง
ในอนาคต ตลอดจนการประสานความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัด
ศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
การจัดทำ�ทำ�เนียบสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้างถือเป็นขั้นตอนแรกในการดำ�เนินการ
เกี่ยวกับการจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง ข้อมูลที่ได้จากการจัดทำ�ทำ�เนียบสารเคมีจะ
ทำ�ให้ทราบถึง
- ชนิดของสารเคมีปอ้ งกันกำ�จัดศัตรูพชื และสัตว์ สารเคมีปอ้ งกันกำ�จัดศัตรูพชื และสัตว์คงค้าง และวัสดุ
อุปกรณ์อื่นๆ ที่ปนเปื้อนสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์
- สถานะของสารเคมีแต่ละชนิดที่มีการจัดเก็บในสถานที่เก็บสารเคมีว่ายังสามารถนำ�มาใช้ได้หรือไม่
- ชือ่ เจ้าของและทีต่ ง้ั ของสถานทีเ่ ก็บสารเคมี รวมทัง้ ปริมาณของสารเคมีแต่ละชนิดและวัสดุอปุ กรณ์อน่ื ๆ
ที่ปนเปื้อนสารเคมีที่มีการจัดเก็บในสถานที่เก็บสารเคมี
- ข้อมูลทีเ่ กีย่ วข้องอืน่ ๆ อาทิ ข้อมูลเกีย่ วกับสภาพของสถานทีเ่ ก็บสารเคมี ข้อมูลพืน้ ทีอ่ อ่ นไหวทีอ่ ยูใ่ กล้เคียง
เช่น ที่พักอาศัย โรงเรียนหรือสถานศึกษา โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล สถานรับเลี้ยงเด็กและคนชรา
วัดหรือศาสนสถาน แหล่งน�ำ้ อุปโภคบริโภค เป็นต้น และข้อมูลระบบโครงสร้างพืน้ ฐานภายในสถานทีเ่ ก็บสารเคมี
เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบน�้ำใช้ภายในสถานที่เก็บสารเคมี และสภาพถนนบริเวณโดยรอบสถานที่เก็บสารเคมี
เป็นต้น ตลอดจนข้อมูลบริษัทผู้ผลิตและผู้จำ� หน่ายสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์
32 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
๖.๒ การจัดทำ�ทำ�เนียบสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์สำ�หรับสถานที่
จัดเก็บสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์ขนาดใหญ่
องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the
United Nations: FAO) ได้มีการจัดท�ำเกณฑ์การจ�ำแนกปริมาณการจัดเก็บสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืช
และสัตว์ โดยจ�ำแนกตามระดับความเป็นพิษของสารเคมีฯ (WHO Classification of pesticides by hazard)
ขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) ดังนี้
34 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
๖.๓ การจัดทำ�ทำ�เนียบสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์สำ�หรับสถานที่จัด
เก็บสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์ขนาดเล็ก
ส�ำหรับสถานที่จัดเก็บสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์ขนาดเล็ก โดยเฉพาะการจัดเก็บ
สารเคมีปอ้ งกันก�ำจัดศัตรูพชื และสัตว์ของเกษตรกรทีม่ กี ารจัดเก็บสารเคมีในปริมาณน้อย อาจไม่จำ� เป็นต้องมี
ระบบการจัดเก็บข้อมูลที่ยุ่งยากซับซ้อน แต่อย่างน้อยควรมีการปฏิบัติ ดังนี้
• เขียนวันที่ซื้อหรือวันที่ได้รับสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์ลงบนภาชนะบรรจุสารเคมี
ป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์ทุกภาชนะบรรจุที่มีการเก็บไว้ในที่เก็บสารเคมี
• ต้องมั่นใจว่าภาชนะบรรจุสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์ทุกภาชนะต้องมีฉลากติดอยู่
และฉลากนั้นสามารถอ่านได้ง่าย และหากฉลากฉีกขาดหรือลบเลือนให้เปลี่ยนฉลากใหม่
• ควรจดชื่อบริษัทผู้ผลิตหรือผู้จ�ำหน่ายสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์ พร้อมที่อยู่และ
เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ เพื่อใช้ประโยชน์ในกรณีขอค�ำปรึกษาเกี่ยวกับสารเคมี และการจัดการสารเคมีในกรณี
เกิดเหตุฉุกเฉิน โดยให้เก็บแยกไว้จากสถานที่เก็บสารเคมี
๗.๑ ทางไปสู่สิ่งแวดล้อมของสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์/สารเคมี
ป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
การแพร่กระจายของสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์ที่มีการจัดเก็บในสถานที่เก็บสารเคมี
สู่สิ่งแวดล้อมจะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อม และก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัย
ของประชาชน ซึ่งทางที่สารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์สามารถแพร่กระจายไปสู่สิ่งแวดล้อม ได้แก่
• การรั่วไหลของสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์ลงสู่ดิน และมีการแพร่กระจายในดิน
• การชะล้างสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์ในดิน ลงสู่นำ�้ ใต้ดิน
• การปนเปื้อนน�้ำผิวดินจากน�้ำที่ไหลบ่ามาตามผิวดิน การแพร่กระจายโดยลม หรือจากสัตว์
• การแพร่กระจายของสารเคมีปอ้ งกันก�ำจัดศัตรูพชื และสัตว์ทางอากาศ จากการระเหย และการ
แพร่กระจายโดยลม
• การปนเปื้อนในพืชโดยการดูดซึมสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์จากในดิน และการ
ปนเปือ้ นบนพืน้ ผิวของพืช ซึง่ พืชทีป่ นเปือ้ นสารเคมีปอ้ งกันก�ำจัดศัตรูพชื และสัตว์อาจเป็นแหล่งอาหารส�ำหรับ
มนุษย์ สัตว์เลี้ยง หรือสัตว์ป่า
• มีความเป็นพิษทั้งโดยทางตรงและทางอ้อมต่อมนุษย์ สัตว์เลี้ยง หรือสัตว์ป่า จากการได้รับ
สัมผัสสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์ที่มีการปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อม ซึ่งสารเคมีสารเคมีป้องกันก�ำจัด
ศัตรูพืชและสัตว์ดังกล่าวสามารถสะสมในห่วงโซ่อาหารและสิ่งมีชีวิต ซึ่งก่อให้เกิความเป็นพิษในระยะสั้น
(พิษเฉียบพลัน) หรือในระยะยาว (พิษเรื้อรัง)
36 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
ในบางกรณี การด�ำเนินการขจัดการปนเปื้อนของสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์อาจ
ก่อให้เกิดการแพร่กระจายของสารเคมีสู่สิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น อาทิ
• การถ่ายเทสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์จากภาชนะบรรจุเดิมไปยังภาชนะบรรจุใหม่
สามารถท�ำให้เกิดการรั่วไหลของสารเคมีเพิ่มมากขึ้น และเพิ่มพื้นที่ปนเปื้อนสารเคมีมากขึ้น
• การเคลื่อนย้ายสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์สามารถท�ำให้เพิ่มพื้นที่ปนเปื้อนสารเคมี
มากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุให้สารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์ซึมผ่านจากพื้นที่ปนเปื้อนลงสู่น�้ำใต้ดิน
• การเคลื่อนย้ายสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์สามารถท�ำให้มีการปลดปล่อยสารเคมี
สู่อากาศ น�้ำ และดินมากขึ้น ซึ่งเป็นผลให้เกิดการปนเปื้อนของสารเคมีในสิ่งแวดล้อม และในสิ่งมีชีวิต
• การปล่อยทิ้งสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์ในระหว่างที่มีฝนตกสามารถเพิ่มการปน
เปื้อนสารเคมีในน�้ำใต้ดินและน�้ำผิวดิน
• การปล่อยทิ้งสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์ในช่วงที่มีแสงแดดจัด มีอุณหภูมิสูง หรือมี
ลมแรง เป็นสาเหตุให้การปนเปื้อนของสารเคมีเพิ่มมากขึ้น
๗.๒ ปัจจัยทีม่ ผ
ี ลต่อระดับความเป็นอันตรายของสารเคมีปอ้ งกันกำ�จัดศัตรูพชื
และสัตว์/สารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง ประกอบด้วย
• ปริมาณของสารเคมี สภาพของภาชนะบรรจุ และปริมาณการหกรดหรือรั่วไหล
• ระดับความเป็นพิษของผลิตภัณฑ์
• คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ในสิ่งแวดล้อม อาทิ การตกค้างยาวนานในสิ่งแวดล้อม ความสามารถ
ในการละลายน�ำ ้ ความสามารถในการแพร่กระจายในดิน ความสามารถในการระเหยกลายเป็นไอ
• การจัดเก็บและสถานที่จัดเก็บ อาทิ เก็บในหรือนอกอาคารเก็บสารเคมี และวัสดุที่ใช้ท�ำพื้น
อาคารเก็บสารเคมี (ความสามารถในการดูดซับสารเคมี)
• ระยะห่างระหว่างสถานที่เก็บสารเคมีกับบริเวณที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น
• ระดับน�้ำใต้ดิน และระยะห่างระหว่างอาคารเก็บสารเคมีกับแหล่งน�ำ้ อุปโภคบริโภค เช่น บ่อน�ำ
้
แม่น�้ำ ล�ำคลอง แหล่งน�้ำสาธารณะ
38 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
๗.๓.๔ การจัดการกรณีการหกหรือรั่วไหลของสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชและสัตว์
การควบคุมการหกหรือรั่วไหลที่ได้ผลจะต้องอาศัยความรู้หรือข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติ
เฉพาะของสารเคมีนั้นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมี (Safety Data Sheet: SDS)
เป็นหลักในการปฏิบตั ิ เพราะสารเคมีแต่ละชนิดมีคณ ุ สมบัตแิ ละวิธปี ฏิบตั ใิ นการควบคุมทีแ่ ตกต่างกัน แต่ขนั้ ตอน
ในการปฏิบัติจะคล้ายคลึงกัน คือ
• อพยพบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากบริเวณที่มีการหกหรือรั่วไหลของสารเคมี ไปยัง
บริเวณที่ปลอดภัย และท�ำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นถ้าจ�ำเป็น
• เจ้าหน้าทีท่ เี่ ข้าระงับการหกหรือรัว่ ไหลของสารเคมีควรสวมใส่อปุ กรณ์ปอ้ งกันอันตราย
ส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการได้รับสัมผัสสารเคมี และควรท�ำงานเป็นทีมอย่างน้อย ๒ คน
• ให้แยกกั้นบริเวณที่มีการหกหรือรั่วไหลทันที ส่วนระยะที่ควรแยกกั้นนั้นขึ้นอยู่กับ
ชนิดสารเคมี โดยทั่วไปก�ำหนดให้มีการแยกกั้นบริเวณที่มีการหกหรือรั่วไหลอย่างน้อย ๒๕-๕๐ เมตรโดยรอบ
ค้นหาสารเคมีที่หกหรือรั่วไหลนั้นว่าเป็นสารชนิดใด โดยอาจดูได้จากบัญชีรายการสารเคมีที่เก็บไว้ในสถานที่
เก็บสารเคมี
• ควรระบายอากาศก่อนเข้าไปปฏิบัติงานในบริเวณที่หกรั่วไหล
• พยายามควบคุมแหล่งหรือบริเวณทีม่ กี ารหกหรือรัว่ ไหลด้วยวัสดุดดู ซับ เช่น ทราย ดิน
ขี้เลื่อย หรือวัสดุอื่นตามที่ก�ำหนดในฉลากสารเคมีหรือตามข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมี และถ้าเป็นไปได้
ให้ปิด หรือหยุดการรั่วไหล เช่น ปิดฝาภาชนะบรรจุสารเคมีที่มีการรั่วไหล อุดรอยรั่ว เป็นต้น
• ในกรณีที่สารเคมีเป็นของเหลวให้จัดท�ำเขื่อน ก�ำแพง ท�ำนบ ผนังหรือสิ่งอื่นใดที่มี
ลักษณะคล้ายกันเพื่อป้องกันมิให้สารเคมีรั่วไหลออกมาภายนอก และมีรางระบายสารเคมีที่รั่วไหลไปยัง
ที่ปลอดภัยเพื่อไม่ให้มีการสะสมตกค้าง โดยรางระบายต้องแยกจากระบบระบายน�้ำ หรือสูบใส่ภาชนะบรรจุ
ที่เหมาะสมเพื่อรอน�ำไปก�ำจัด
• ส�ำหรับสารเคมีเป็นของแข็ง ให้กวาดสารเคมีด้วยความระมัดระวังและใช้พลั่วตักใส่
ภาชนะบรรจุที่เหมาะสมเพื่อรอน�ำไปก�ำจัด
• อย่าสูบบุหรี่ใกล้สารเคมีที่หกหรือรั่วไหล
• อย่าฉีดน�้ำใส่บริเวณที่มีการหกหรือรั่วไหลของสารเคมีเนื่องจากจะท�ำให้การปนเปื้อน
กระจายไปยังพื้นที่อื่น และจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้เกิดการปนเปื้อนแหล่งน�ำ้ ผิวดินและน�้ำใต้ดินมากขึ้น
• ประเมินสถานการณ์ว่ามีความรุนแรงเพียงใด เกินความสามารถของบุคคลภายในที่
จะควบคุมได้หรือไม่ ถ้าจ�ำเป็นอาจต้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภายนอก เช่น สถานีดับเพลิง สถานี
ต�ำรวจ โรงพยาบาล หรือหน่วยงานอื่นๆ
• น�ำสารเคมีที่หกหรือรั่วไหล วัสดุดูดซับที่ปนเปื้อนสารเคมี ภาชนะบรรจุสารเคมีที่มี
รอยรั่ว และวัสดุอื่นๆ ที่ปนเปื้อนสารเคมีไปก�ำจัดหรือท�ำลายตามที่ก�ำหนดไว้ในฉลากหรือก�ำจัดอย่างถูกหลัก
วิชาการต่อไป
40 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
บทที่ ๘. การป้องกันการเกิดสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืช
และสัตว์คงค้าง
42 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
๘.๒ การดำ�เนินการของหน่วยงานภาคเอกชน
• ผลิตหรือจำ�หน่ายผลิตภัณฑ์สารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์ที่ได้มาตรฐาน รวมทั้งใช้
ภาชนะบรรจุสารเคมีที่ได้มาตรฐาน และติดฉลากสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์ท่ีมีรายละเอียด
ครบถ้วนสมบูรณ์ตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรือ่ ง ฉลากและระดับความเป็นพิษของวัตถุอนั ตราย
ที่กรมวิชาการเกษตรเป็นผู้รับผิดชอบ พ.ศ. ๒๕๓๘
• จัดทำ�ข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมี (Safety Data Sheet: SDS) ที่ผลิตหรือจำ�หน่าย
โดยแนบไปพร้อมกับผลิตภัณฑ์
• มี ร ะบบการจั ด ส่ ง และการกระจายผลิ ต ภั ณ ฑ์ ส ารเคมี ป้ อ งกั น กำ�จั ด ศั ต รู พื ช และสั ต ว์ ที่ มี
ประสิทธิภาพ
• ไม่มนี โยบายส่งเสริมการขายทีก่ ำ�หนดให้เกษตรกรหรือผูใ้ ช้สารเคมีปอ้ งกันกำ�จัดศัตรูพชื และสัตว์
ต้องซื้อสารเคมีในปริมาณมาก อาทิ การลด แลก แจก แถมในกรณีที่มีการซื้อสารเคมีในปริมาณมาก
• สถานทีเ่ ก็บสารเคมีปอ้ งกันกำ�จัดศัตรูพชื และสัตว์มขี นาดทีเ่ หมาะสมและเพียงพอกับปริมาณสาร
เคมีที่จัดเก็บและมีคุณสมบัติตามเกณฑ์มาตรฐานที่ภาครัฐกำ�หนด และมีวิธีปฏิบัติที่ดีในการจัดเก็บสารเคมี
ป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์ รวมทั้งมีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติดังกล่าว
• มีการจัดทำ�ทำ�เนียบสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์ที่มีการจัดเก็บในสถานที่เก็บสารเคมี
ภายในหน่วยงานและไม่มีการนำ�มาใช้ประโยชน์ เพื่อให้มีการบริหารจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและ
สัตว์อย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันการเกิดสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง/เสื่อมสภาพ
• มีการพัฒนาศักยภาพของห้องปฏิบตั กิ ารให้สามารถตรวจวิเคราะห์คณ ุ สมบัตขิ องสารเคมีปอ้ งกัน
กำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์ทุกชนิดที่มีการจัดเก็บ และวางจำ�หน่าย
• มีการเก็บตัวอย่างสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์ที่มีการจำ�หน่ายและมีอายุการผลิต
เกิน ๒ ปี เพื่อตรวจวิเคราะห์ปริมาณสารออกฤทธิ์ก่อนที่จะมีการวางจำ�หน่ายต่อไป
• มีระบบการเรียกเก็บคืนสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง/เสื่อมสภาพและภาชนะ
บรรจุที่ใช้แล้ว
• มีการให้ความรู้กับเกี่ยวกับสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์ ความเป็นอันตรายของ
สารเคมี การป้องกันตนเองจากการได้รบั พิษ การเลือกซือ้ การใช้ การจัดเก็บ การขนส่ง และการกำ�จัดสารเคมี
รวมทั้งการจัดการภาชนะบรรจุที่ใช้แล้ว และการป้องกันการเกิดสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
ให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและประชาชนทุกระดับ โดยการจัดฝึกอบรม และการเผยแพร่ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์
ต่างๆ อาทิ วิทยุ โทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์
44 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
๗) อย่ารับประทานอาหารใกล้กับสารเคมี ๘) อย่าให้เด็กเล่นหรือสัมผัสกับสารเคมี
๑๑) ห้ามฝังหรือเผาสารเคมี และภาชนะบรรจุสารเคมี ๑๒) ห้ า มล้ า งภาชนะบรรจุ ส ารเคมี ใ กล้ บ ่ อ น�้ ำ แม่ น�้ ำ
ล�ำคลอง และแหล่งน�้ำอื่นๆ
46 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
Health and Safety Executive. ๒๐๐๖. Guidance on storing pesticides for farmers and other
professional users. Agriculture Information Sheet No. ๑๖. United Kingdom.
URL: http://www.hse.gov.uk/pubns/ais๑๖.pdf
Javier Martinez. ๒๐๐๔. Practical guideline on environmentally sound management of
obsolete pesticides in the Latin America and Caribbean Countries. Montevideo.
Uruguay.
L.G. Skoglund and S.K. McDonald. ๒๐๐๖. Proper Pesticide Storage. Colorado Environmental
Pesticide Education Program.
URL: http://wsprod.colostate.edu/cwis๗๙/FactSheets/Sheets/๑๑๕ProperStorage.pdf
Thomas W. Dean and Ray A. Bucklin. ๑๙๙๗. Building Plans and Management Practices for
a Permanently-Sited Pesticide Storage Facility in Florida. Florida. USA.
United Stage Environmental Protection Agency. ๑๙๙๙. Recognition and Management of
Pesticide Poisonings. Fifth Edition. Washington. D.C.
World Health Organization. ๒๐๐๖. WHO-UNEP Sound Management of Pesticides and
Diagnosis and Treatment of Pesticide Poisoning. Geneva.
World Health Organization. ๒๐๑๐. The WHO Recommended Classification of Pesticides
by Hazard and Guidelines to Classification: ๒๐๐๙. Geneva.
48 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
รายชื่อวัตถุอันตรายที่ห้ามใช้ทางการเกษตรในประเทศไทย
ลำ�ดับที่ วัตถุอันตราย CAS No.
๑ ๒,๔,๕-ที (๒,๔,๕-T) ([๒,๔,๕-trichlorophenoxyl] acetic acid) ๙๓-๗๖-๕
๒ ๒,๔,๕-ทีซีพี (๒,๔,๕-TCP) (๒,๔,๕-trichlorophenol) ๙๕-๙๕-๔
๓ ๒,๔,๕,-ทีพี (๒,๔,๕-TP) ((+)-๒-[๒,๔,๕-trichlorophenoxy] -
propionic acid)
๔ ๔-อะมิโนไตฟีนิล (๔-aminodiphenyl) ๙๒-๖๗-๑
๕ ๔-ไนโตรไดเฟนิล (๔-nitrodiphenyl) ๙๒-๙๓-๓
๖ ออลดริน (aldrin) ๓๐๙-๐๐-๒
๗ อะมิโนคาร์บ (aminocarb) ๒๐๓๒-๕๙-๙
๘ อะมิโทรล (amitrole) ๖๑-๘๒-๕
๙ อะราไมท์ (aramite) ๑๔๐-๕๗-๘
๑๐ แอสเบสตอส อะโมไซท์ (asbestos – amosite) ๑๒๑๗๒-๗๓-๕
๑๑ อะซินฟอส เอทธิล (azinphos – ethyl) ๒๖๔๒-๗๑-๙
๑๒ อะซินฟอส เมทธิล (azinphos – methyl) ๘๖-๕๐-๐
๑๓ เบนซิดิน (benzidine) ๙๒-๘๗-๕
๑๔ เบต้า เอชชีเอช (beta – HCH) (๑,๓,๕/๒,๔,๖ – hexachloro – cyclhexane) ๓๑๙-๘๕-๗
๑๕ บี เอชชี หรือ เอชชีเอช (BHC หรือ HCH) (๑,๒,๓,๔,๕,๖ – hexachloro- ๖๐๘-๗๓-๑
cyclohexane)
๑๖ ไบนาพาคริล (binapacryl) ๔๘๕-๓๑-๔
๑๗ บีส คลอร์โรเมทธิลอีเธอร์ (bis (chloromethylether) ๕๔๒-๘๘-๑
๑๘ โบรโมฟอส (bromophos) ๒๑๐๔-๙๖-๓
๑๙ โบรโมฟอส เอทธิล (bromophos – ethyl) ๔๘๒๔-๗๘-๖
๒๐ แดดเมียม และสารประกอบแคดเมียม (cadmium and cadmium compounds) -
๒๑ แคลเซียมอาร์ซีเนท (calcium arsenate) ๗๗๗๘-๔๔-๑
๒๒ แคปตาโฟล (captafol) ๒๔๒๕-๐๖-๑
๒๓ คาร์บอนเตตระคลอไรด์ (carbon tetrachloride) ๕๖-๒๓-๕
50 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
ลำ�ดับที่ วัตถุอันตราย CAS No.
๕๒ เฟนทิน (fentin) ๖๖๘-๓๔-๘
๕๓ ฟลูออโรอะเซทตาไมด์ (fluoroacetamide) ๖๔๐-๑๙-๗
๕๔ ฟลูออโรอะซีเตทโซเดียม (fluoroacetate sodium) ๖๒-๗๔-๘
๕๕ โฟโนฟอส (fonofos) (Racemate) ๖๖๗๖๗-๓๙-๓
๕๖ โฟโนฟอส (fonofos) (unstated stereochemistry) ๙๔๔-๒๒-๙
๕๗ โฟโนฟอส (fonofos) ((R)-isomer) ๖๒๗๐๕-๗๑-๙
๕๘ โฟโนฟอส (fonofos) ((S)-isomer) ๖๒๖๘๐-๐๓-๙
๕๙ เฮปตาคลอร์ (heptachlor) ๗๖-๔๔-๘
๖๐ เฮกซะโบโมไบฟีนิล (hexabromobiphenyl) ๓๖๓๕๕-๐๑-๘
๖๑ เฮกซะคลอร์โรเบนซีน (hexachlorobenzene) ๑๑๘-๗๔-๑
๖๒ ตะกั่ว อาร์ซีเนท (lead arsenate) ๗๗๘๔-๔๐-๙
๖๓ เลปโตฟอส (leptophos) ๒๑๖๐๙-๙๐-๕
๖๔ ลินเดน (lindane (>๙๙% gamma-HCH หรือ gamma- BHC) ๕๘-๘๙-๙
๖๕ เอ็มซีพีบี (MCPB) [๔-(๔-chhloro-o-tolyloxy) butyric acid] ๙๔-๘๑-๕
๖๖ มิโคครอป (mecoprop) (Racemate) ๗๐๘๕-๑๙-๐
๖๗ มิโคครอป (mecoprop) (unstated stereochemistry) ๙๓-๖๕-๒
๖๘ มีฟอสโฟลาน (mephosfolan) ๙๕๐-๑๐-๗
๖๙ สารประกอบของปรอท (mercury compounds) -
๗๐ เมธามิโดฟอส (methamidophos) ๑๐๒๖๕-๙๒-๖
๗๑ เมวินฟอส (mevinphos) ๒๖๗๑๘-๖๕-๐
๗๒ เอ็มจีเค รีเพลเลนท์ ๑๑ (MGK repellent – ๑๑) ๑๒๖-๑๕-๘
๗๓ ไมเร็กซ์ (mirex) ๒๓๘๕-๘๕-๕
๗๔ โมโนโครโตฟอส (monocrotophos) ๒๑๕๗-๙๘-๔
๗๕ แนฟธิลอะมีน (napthylamine) ๑๓๔-๓๒-๗
๗๖ ไนโทรเฟน (nitrofen) ๑๘๓๖-๗๕-๕
๗๗ ไดคลอร์โรเบนซิน (o-dichlorobenzene) ๙๕-๕๐-๑
๗๘ อ๊อกตะโบโมไบฟีนิล (octabromobiphenyl) ๒๗๘๕๘-๐๗-๗
๗๙ พาราไทออน (parathion) ๕๖-๓๘-๒
๘๐ พาราไธออน เมทิล (parathion methyl) ๒๙๘-๐๐-๐
52 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
ภาคผนวก ๒
แบบฟอร์มการเก็บรวบรวมข้อมูลสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์
คงค้างขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ
LABEL INFORMATION
3. Labels on containers Yes No 4. Labels are legible Yes No
5. Commercial name 8. Formulation type
6. Manufacturer’s name EC ULV DP
& address
Other
7. Formulator’s name
& address
10. AI concentration
Unit g/l g/kg g/l g/kg g/l g/kg
% w/v % w/w % w/v % w/w % w/v % w/w
(Circle 1 or 2 to indicate primary and secondary hazards or write the hazards as a comment on the reverse)
Not shown on label
15. How supplied Central Government purchase Donation (indicate donor Extension service
in comments on reverse)
Farmer purchase Unknown Other (specify)
16. Name of supplier
PICTURES
27. Picture of label: Filename Description
28. Picture of container: Filename Description
29. Photo of contamination: Filename Description
FA O P E S T I C I D E D I S P O S A L S E R I E S
34 E N V I R O N M E N TA L M A N A G E M E N T T O O L K I T F O R O B S O L E T E P E S T I C I D E S – Volume 1
58 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
reverse side
ANNEXES 35
1 Store Name
Sample number if
6 Active Ingredient name unknown appropriate
Sample only if
7 AI Concentration % W/W W/V V/V unknown
> 1 Tonne
INFORMATION FROM THE LABEL
Manufacturer's name
8
and address
UN Chemical Hazards
Classification
13
(warning diamonds on
the containers) use 1 & 2 to indicate primary and secondary hazards or write the hazards as a comment
not shown on label
Central Government Extension service Name of supplier
purchase Farmer purchase
How supplied / Name
14
of Supplier
Donation (indicate Unknown
donor in comments Other (specify)
section)
injectable pour on tablets
15 Formulation Type liquid powder wetable powder
paste spray Other (specify)
17 Condition of product appears to be usable appears NOT to be usable
granules powder (flowable) sludge
19 Physical form liquid (pumpable) powder (caked) solidified
liquid (separated)
Aerosol combination pack FIBC Tube
Bag (specify) IBC Vial
20 Container type
Bottle Drum (open head) Jerry can Woven sack
Box Drum (closed head) Syringe none
OBSERVATIONS and QUANTITY
FA O P E S T I C I D E D I S P O S A L S E R I E S
36 60 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
E N V I R O N M E N TA L M A N A G E M E N T T O O L K I T F O R O B S O L E T E P E S T I C I D E S – Volume 1
reverse side
Question Detailed Comment
Number
ANNEXES 37
(obsolete Pesticides Management) 61
front side
1 Store Name
Sample number if
6 Active Ingredient name unknown appropriate
don’t sample if AI is
7 AI Concentration % W/W W/V V/V unknown
INFORMATION FROM THE LABEL
known
Manufacturer's name
8
and address
UN Chemical Hazards
Classification
13
(warning diamonds on
the containers) use 1 & 2 to indicate primary and secondary hazards or write the hazards as a comment
not shown on label
Central Government Extension service Name of supplier
purchase Farmer purchase
How supplied / Name
14
of Supplier
Donation (indicate Unknown
donor in comments Other (specify)
section)
clean other (specify)
18 Level of contamination
residues
Bag combination pack FIBC Woven sack
Bottle (specify) IBC
20 Container type
Box Drum (open head) Jerry can
Drum (closed head)
OBSERVATIONS and QUANTITY
62 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
FA O P E S T I C I D E D I S P O S A L S E R I E S
38 E N V I R O N M E N TA L M A N A G E M E N T T O O L K I T F O R O B S O L E T E P E S T I C I D E S – Volume 1
reverse side
Question Detailed Comment
Number
ANNEXES 37
1 Store Name
5 Commercial Name if the name of the pesticide that contaminated the soil is known
6 Active Ingredient name if the AI of the pesticide that contaminated the soil is known
Manufacturer's name
8 if the name of the manufacturer of the pesticide that contaminated the soil is known
PESTICIDE CONTAMINANT
and address
UN Chemical Hazards
Classification
13
(warning diamonds on
the containers) use 1 & 2 to indicate primary and secondary hazards or write the hazards as a comment
not shown on label
Central Government Extension service Name of supplier
purchase Farmer purchase
How supplied / Name
14
of Supplier
Donation (indicate Unknown
donor in comments Other (specify)
section)
dry stain strong odour weak odour
18 Level of contamination
saturated visible contamination
dry clay soil wet clay soil “Loam” is equal mixtures of sand clay
19 Type of soil dry loam wet loam and organic mater, it is typical
dry sandy soil wet sandy soil agricultural soil
in situ (unexcavated) or excavated and Drum (open head)
How stored or type of
20
container
in a pile repacked into: FIBC
IBC
OBSERVATION AND QUANTITY
Aluminium Steel
21 Container material Plastic Wood
23 Container size enter the size of container as a number of the units in box 24
Cubic Metre Kilogram other (specify)
Unit of measure for the Gallon (Imp.) Litre
24
Container size Gallon (US) Pound (lbs)
25 Amount in container 100% 75% 50% 25% 0%
completely broken - contents dispersed Surface damage no leaking
26 Container Condition
Leakage Undamaged
Either 27a Number of Or 27b
Length (m)
When Containers when the soil is in-situ or excavated
Quantity containers in a pile - estimate the dimensions
(only complete one of are intact Width (m)
27
27a or 27b)
and can be
counted Height/depth (m)
FA O P E S T I C I D E D I S P O S A L S E R I E S
40 E N V I R O N M E N TA L M A N A G E M E N T T O O L K I T F O R O B S O L E T E P E S T I C I D E S – Volume 1
64 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
reverse side
Question Detailed Comment
Number
ANNEXES 37
1 Store Name
5 Commercial Name if the name of the pesticide that contaminated the equipment is known
6 Active Ingredient name if the AI of the pesticide that contaminated the equipment is known
Manufacturer's name if the name of the manufacturer of the pesticide that contaminated the equipment is
8
PESTICIDE CONTAMINANT
UN Chemical Hazards
Classification
13
(warning diamonds on
the containers) use 1 & 2 to indicate primary and secondary hazards or write the hazards as a comment
not shown on label
Central Government Extension service Name of supplier
purchase Farmer purchase
How supplied / Name
14
of Supplier
Donation (indicate Unknown
donor in comments Other (specify)
section)
surface saturated
18 Level of contamination
impregnated other (specify)
sprayer (portable) Tools
OBSERVATIONS and QUANTITY
19 Physical form
sprayer (vehicular) other (specify)
23 Size of equipment enter the size of the equipment as a number of units in number 24
Metre other (specify)
Unit of Measure of the Cubic Metre
24
size of equipment Square Metre
Either 27a Number of Or 27b
When Length (m)
pieces of When equipment cannot be counted -
Quantity equipment equipment estimate the dimensions of the pile
(only complete one of can be Width (m)
27 counted
27a or 27b)
Height (m)
FA O P E S T I C I D E D I S P O S A L S E R I E S
42 66 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
E N V I R O N M E N TA L M A N A G E M E N T T O O L K I T F O R O B S O L E T E P E S T I C I D E S – Volume 1
reverse side
Question Detailed Comment
Number
ANNEXES 37
1 Store Name
6 Active Ingredient name if the AI of the pesticide that contaminated the material is known
Manufacturer's name
PESTICIDE CONTAMINANT
8
and address
if the name of the manufacturer of the pesticide that contaminated the material is known
UN Chemical Hazards
Classification
13
(warning diamonds on
the containers) use 1 & 2 to indicate primary and secondary hazards or write the hazards as a comment
not shown on label
Central Government Extension service Name of supplier
purchase Farmer purchase
How supplied / Name
14
of Supplier
Donation (indicate Unknown
donor in comments Other (specify)
section)
surface saturated
18 Level of contamination
impregnated other (specify)
fertiliser other (specify)
19 Physical form
seeds
Bag combination pack FIBC Woven sack
Bottle (specify) IBC none
20 Container type
Box Drum (open head) Jerry can
Drum (closed head)
OBSERVATIONS and QUANTITY
FA O P E S T I C I D E D I S P O S A L S E R I E S
44 68 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
E N V I R O N M E N TA L M A N A G E M E N T T O O L K I T F O R O B S O L E T E P E S T I C I D E S – Volume 1
reverse side
Question Detailed Comment
Number
ANNEXES 37
1 Store Name
5 Commercial Name if the name of the pesticide that contaminated the material is known
6 Active Ingredient name if the AI of the pesticide that contaminated the material is known
Manufacturer's name
8 if the name of the manufacturer of the pesticide that contaminated the material is known
PESTICIDE CONTAMINANT
and address
UN Chemical Hazards
Classification
13
(warning diamonds on
the containers) use 1 & 2 to indicate primary and secondary hazards or write the hazards as a comment
not shown on label
Central Government Extension service Name of supplier
purchase Farmer purchase
How supplied / Name
14
of Supplier
Donation (indicate Unknown
donor in comments Other (specify)
section)
surface saturated
18 Level of contamination
impregnated other (specify)
OBSERVATION AND QUANTITY
Photo of building
30 File name Description
material
Photo of
31 File name Description
Contamination
Photo of
32 File name Description
Contamination
sample bottle number Description
FA O P E S T I C I D E D I S P O S A L S E R I E S
46 70 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง
E N V I R O N M E N TA L M A N A G E M E N T T O O L K I T F O R O B S O L E T E P E S T I C I D E S – Volume 1
reverse side
Question Detailed Comment
Number
ANNEXES 37
ที่ปรึกษา
นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ
นายวรศาสน์ อภัยพงษ์ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ
นางสุณี ปิยะพันธุ์พงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ
นางสาวอาระยา นันทโพธิเดช รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ
นายอนุพันธ์ อิฐรัตน์ ผู้อำ�นวยการสำ�นักจัดการกากของเสียและสารอันตราย
นางสาวธีราพร วิริวุฒิกร ผู้อำ�นวยการส่วนสารอันตราย
ผู้เรียบเรียง
นางสาวประไพศรี อาสนรัตนจินดา นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำ�นาญการ
นายมโนรัตน์ ฤทธิ์เต็ม นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำ�นาญการ
นายณัฐภัทร พงษ์ธรรม นักวิชาการสิ่งแวดล้อม
จัดทำ�โดย
ส่วนสารอันตราย สำ�นักจัดการกากของเสียและสารอันตราย
กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
72 การจัดการสารเคมีป้องกันกำ�จัดศัตรูพืชและสัตว์คงค้าง