You are on page 1of 9

ณัฏฐ์พงศ์ หลำกสุขถม(เอก)

สรุปคลิป 3 มหำวิทยำลัยมหิดล

- lmpeller เป็ น component ที่สำคัญลำดับต้นๆเพรำะหน้ำที่คือสร้ำงแรงเหวี่ยงที่ทำให้ของเหลวมีควำม


ดันและflowเพิ่มมำกขึน้ เมื่อผ่ำนตัวpump สำมำรถแบ่งได้ประเภทได้2แบบดังนี ้
Impellerแบ่งง่ำยๆได้ 3 แบบตำมทิศทำงของflow
1. Radial Flow ของเหลวที่ออกจำก impeller จะออกในแนวradial เมื่อของเหลวเข้ำในimpeller eye
ขำออกจออกตัง้ ฉำกกับimpeller( โรงแยกก๊ำซใช้ตวั นีเ้ ป็ นส่วนมำก )

2. Axial Flow ของเหลวจะออกในแนวแกนจะไหลออกในแนวเดียวกับที่เข้ำมำ

3. Mixed Flow ของเหลวจะออกเฉียงๆเหมือนเป็ นส่วนผสมระหว่ำง radial กับ axial

Impellerแบ่งตำมรูปร่ำงมี4ลักษณะ

Open Impeller : มีimpeller vane รีดของเหลวให้เกิด centrifugal forceให้ของเหลววิ่งออก ข้อดีคือ


รำคำถูกเพรำะผลิตง่ำยไม่ซบั ซ้อน เหมำะกับกำรใช้กบั ของเหลวที่กดั กร่อนหรือไม่สะอำดแต่ประสิทธิภำพจะไม่
สูงมำก
Semi Enclosed Impeller : จะต่ำงจำกแบบแรกตรงปิ ดด้ำนหลัง ข้อดีคือรำคำถูกและได้Headเพิ่ม
มำกกว่ำ Open Impeller

Enclosed Impeller : ควำมแตกต่ำงคือปิ ดทัง้ ข้ำงหลังและข้ำงหน้ำ ข้อดีคือประสิทธิภำพสูงมำก กำร


recirculationน้อยมำกเพรำะว่ำสำมำรถกำหนดกำรไหลของของเหลวให้วิ่งไปในทำงที่กำหนด และสำมำรถ
สร้ำงflowได้สงู ขึน้ แต่รำคำจะสูง เหมำะกับกำรใช้กบั ของเหลวสะอำดจะได้ไม่ไ ปติดด้ำนใน

Enclose Double Suction Impeller : เหมือนกับ enclosed Impeller เอำมำประกบกัน ข้อดีคือได้flow


เป็ นสองเท่ำของ enclosed Impeller มีประสิทธิภำพที่มำก และช่วยในกำร balance force ในแนว axial
เนื่องจำก axial force และตัว axial shaft ชนกันจนเกือบเป็ นศูนย์พอดีจะเห็นได้ใน between bearing เท่ำนัน้
จะต้องใช้กบั ของเหลวที่สะอำด

2
- Balance Hole & Pump out Vane : ปัญหำที่เกิดทำให้ตอ้ ง design balance hole & pump out vane
ประเด็นที่1 จำกกำรไหลของของเหลวจะไหลเข้ำทำง suction กระทบกับImpellerโดยจะมีแรง thrust forceเข้ำ
มำด้วยทำให้ กระแทกเข้ำมำตัวshaftกับbearingจะทำให้ได้รบั แรงเต็มๆถ้ำ load flow แรงดันไม่เยอะจะไม่
เสียหำยมำกแต่ถำ้ เยอะ bearing จะมี life time ที่สนั้ ประเด็นที่2 จำกกำรทำงำนจริงของเหลวจะเกิดกำร
recirculation มำทำงด้ำนหลังของImpellerทำให้แรงดันตรงด้ำนหลังImpellerสูงขึน้ จะทำให้เกิด axial force
มำทำให้ shaft กับ bearing มี life time สัน้ ลง ดังนั้นจึง design balance hole & pump out vane มำเพื่อ
แก้ปัญหำพวกนีเ้ พื่อที่จะช่วยลด axial force ที่กระทำกับ Impeller shaft และ bearing
หลักกำรของ balance hole( เจำะรูเอำไว้ ) จะช่วยเพิ่มแรงดันทำงด้ำนหลังของ Impeller ส่วนใหญ่จะ
เป็ น API ที่ใช้ไว้เพือ่ balance force

หลักกำรของ pump out vane จะเปลี่ยนแรงดันของด้ำนหลัง Impeller เป็ นควำมเร็ว ทำให้แรงดัน


ด้ำนหลัง Impeller ลดลงนิยมใช้กบั semi-open Impeller

- Wearing Ring : วิธี design จะลด clearance ให้ได้เยอะๆเพื่อลด recirculation และมีหน้ำที่ไว้เพื่อป้องกัน


กำรเสียดสี และรักษำ clearance ระหว่ำง Impeller กับ casing และช่วยประหยัดค่ำใช้จ่ำยเนื่องจำกถ้ำเสียด
สีมำก Impeller หรือ casing ก็จะพัง(ซ่อมแซมรำคำสูง)

3
ณัฏฐ์พงศ์ หลำกสุขถม(เอก)
สรุปคลิป 4 มหำวิทยำลัยมหิดล

- Shaft & Coupling

หน้ำที่ของ Shaft คือส่งแรงให้ Impeller ของปั้มเพื่อทำให้ Impeller รีดของเหลวด้ำน suction ออกไป


ทำงด้ำน discharge ให้มี flowกับแรงดันตำมที่ออกแบบไว้ Shaft ต้องออกแบบให้ แข็งแรงเพื่อให้รบั นำ้ หนักได้
ต้องไม่โก่งงอ และต้องเลือกวัสดุให้เหมำะสมกับของเหลวที่จะใช้งำนเพื่อไม่ให้เกิดกำรกัดกร่อน

ส่วนประกอบสำคัญอีกอย่ำงของ Shaft คือShaft Sleeve จะเป็ นปลอกไว้ใส่ Shaft ช่วยให้ไม่มีสิ่ง


สกปรกมำเกำะถ้ำเกิดมีสิ่งสกปรกมำเกำะจะส่งผลให้เกิดควำมเสียหำย และช่วยให้เปลี่ยนรวมถึงซ่อมแซม
Shaft ได้ง่ำย

หน้ำที่ของ Coupling คือส่งผ่ำนแรงระหว่ำงตัว drive machine(มอเตอร์) กับตัว diven machine(ปั้ม)


Coupling แบ่งเป็ น 2 ประเภทใหญ่ๆคือ

1.rigid coupling(แข็งเกร็ง) ข้อดีคือรำคำถูกทำง่ำยแต่ขอ้ เสียคือalignmentต้องเปะมำกๆไม่งนั้ จะmiss


alignment

2. flexible coupling(ยืดหยุ่นจะอยู่ตรงแผ่น diaphragm)ข้อดีคือรับ miss alignment ได้ดีกว่ำ rigid coupling

4
- Bearing : หน้ำที่หลักๆไว้ support pump shaftในตอนที่เกิดกำรหมุนสำมำรถแบ่งประเภทของ Bearing ใน
แง่ของกำรรับแรงได้2แบบดังนี ้

1.Line/Radial Bearing : resist the radial load เกิดจำกcentifugal forceและตัวbeaingเอง

2.Thrust/Axial Bearing : resist the axial load เกิดจำกของเหลวมำกระทำ

ประเภทของ Bearing ที่พบเจอหลักๆที่ใช้กบั pumpมี 4 แบบ ดังนี ้

1. Deep goove ball bearing : จุดเด่นคือรับแรงแนว radial ได้ดีและรับแรง axial ได้ดว้ ยแต่ไม่มำก
เท่ำradial หำอุปกรณ์ง่ำย และข้อเสียคือข้อจำกัดในกำรรับแรง
2. Angular contract ball bearing : จุดเด่นคือรับแรง axial ได้ดีและรับแรง radial ได้ดว้ ยแต่ไม่มำก
เท่ำ axial ปกติจะใช้เป็ นคู่
3. Cylinder roller bearing : จุดเด่นคือรับแรงแนวradialและข้อเสียคือไม่สำมำรถรับแรง axial ได้เลย
จะเจอในกลุ่มที่ใช้ radial โหลดเยอะๆกับพวก overhung
4. Needle roller bearing : จุดเด่นคือรับแรงแนวradialและข้อเสียคือไม่สำมำรถรับแรง axial ได้เลย

5
Hydrodynamic bearing : ใช้เมื่อโหลดเกินค่ำที่ออกแบบไว้จะแบ่งออกได้2แบบคือ radial bearing
กับ axial bearing แยกกันอย่งชัดเจนตัวไหนรับ radial ก็ radialเลยตัวไหน axial ก็ axialเลย ข้อดีคือรับโหลด
ได้มำกกว่ำแบบ deep goove ball bearing เยอะ และมีควำมทนทำนมำก

6
ณัฏฐ์พงศ์ หลำกสุขถม(เอก)
สรุปคลิป 5 มหำวิทยำลัยมหิดล

ปั้มที่ใช้จริงโรงแยกก๊ำซที่ 3

- เป็ น bearing ประเภท roller bearing เป็ น radial ฝั่ งที่เป็ น axial จะใช้ angular contract ball
bearing
- จะเติม loop oil ให้อยู่ภำยในห้อง ปกติจะเติมให้อยูก่ ึ่งกลำงของเม็ดบอล
- ถ้ำเติม loop oil น้อยเกินไปจะไม่เพียงพอไปหล่อลื่น bearing ถ้ำเติม loop oil จนท่วมควำมร้อนจะ
สะสมในนำ้ มันทำให้ bearing เสียหำย
- เป็ น close impeller แบบdouble suction(flowเยอะกว่ำ single suction)

7
Model 3620-Sleeve /Ball

- เป็ นปั้มประเภท between bearing


- เป็ น close impeller แบบdouble suction (flowเยอะกว่ำ single suction)
- เป็ น Hydrodynamic bearing ไว้รบั แรงแนวradial
- เป็ น Hydrodynamic bearing ไว้รบั แรงฝั่ง radial เนื่องจำกรับแรงเยอะ(รับแรง 2 ฝั่ง) และฝั่งที่เป็ น
axialจะใช้ angular contract ball bearing

ปั้มที่ใช้จริงโรงแยกก๊ำซที่ 1

- เป็ นปั้มประเภท between bearing แบบ double suction


- ทัง้ ฝั้ง radial bearing และ axial bearing ใช้ Hydrodynamic bearing เพรำะ thrust force เยอะกว่ำ
ตัว Model 3620-Sleeve /Ball

8
ปั้ม tank farm

- เป็ น vetical pumpเนื่องจำก impellerอยู่ดำ้ นล่ำงปั้ มวำงตัวแนวตัง้


- มี bearing รองรับในแนว axial กับ radial รับไว้เหมือนกับ horizontal pump

You might also like