Professional Documents
Culture Documents
การทดลองที่ 1 แรงเสียดทานในการไหล
(Fluid Friction)
วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาความเสียดทานและความดันลด ที่เกิดจากการเคลื่อนที่
ของของไหลภายในท่อที่มีการต่อข้อต่อและวาล์วแบบต่างๆ
2. เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างค่า Reynolds Number กับค่า
ความสูญเสียหลักและรอง ผ่านค่า Friction factor และ KL
ทฤษฎี
แรงเสียดทาน คือ แรงที่ต้านการเคลื่อนที่ ของพื้นผิวสองอย่างที่สัมผัสกัน
มักจะเกิดตรงข้ามกับแรงที่ทำให้วัตถุเคลื่อนที่เสมอ ผิวหน้าสัมผัส จึงช่วย
ลดแรงเสียดทานได้ โดยขนาดของแรงเสียดทานจะมากหรือน้อย ขึน
้ อยู่
กับ
แรงหรือน้ำหนักที่กดลงไปบนพื้นผิวสัมผัส ซึ่งแรงนีจ
้ ะตัง้ ฉากกับผิว
สัมผัส ถ้าแรงกดทับนีม
้ าก แรงเสียดทานก็จะมีค่ามากด้วย
ลักษณะของผิวสัมผัสนัน
้ ๆ ถ้าผิวสัมผัสนัน
้ เรียบลื่น แรงเสียดทานก็
จะมีค่าน้อย ถ้าผิวสัมผัสหยาบหรือขรุขระ แรงเสียดทานก็จะมีค่ามาก
แรงเสียดทานสามารถแบงไดเปนประเภทใหญๆ 3 ประเภทดังนี ้
1. Dry Friction แรงเสีย ดทานประเภทนีเ้ กิด ขึน
้ เมื่อ มีก ารสัม ผัส กัน
ของผิวของแข็งซึ่งไมเรียบ และ มีการเคลื่อนที่สัมพัทธกัน หรือมีแนว
โนมที่จะเคลื่อนที่สัมพัทธ์กัน ทิศทางของแรงเสียดทานจะตรงกัน ขา
มกับ ทิศการเคลื่อนที่ หรือ ทิศ ที่มีแนวโน มจะเคลื่อนที่ แรงเสียดทาน
ชนิดนีเ้ รียกอีกอยางหนึ่งวา Coulomb friction
2
เมื่อ
ρ
: ความหนาแน่นของของไหล
μ
: ความหนืดของของไหล (Viscosity)
υ
: Kinematic Viscosity
3
Dh
: Hydraulic Diameter
จากการทดลองพบว่าในสภาวะไหลในท่อ( Internal flow) แบบปกติทั่วๆ
ไป
เมื่อค่า RE < 2300 ลักษณะการไหลเป็ นแบบ laminar
2300< RE < 4,000 ลักษณะการไหลอยู่ในช่วง transition
RE > 4,000 ลักษณะการไหลเป็ นแบบ turbulent
ในกรณีท่อไม่กลม(non-circular pipe)กำหนดค่า hydraulic
diameter, Dh ด้วยความสัมพันธ์
Dh = 4Ac/p
Ac: พื้นที่ภาคตัดของของไหล
p: ความยาวเส้นรอบรูปส่วนที่เปี ยก (wetted perimeter)
4
การสูญเสียจากการไหลภายในทอ
การไหลในท่อมักเกิดการสูญเสียความดันขึน
้ เสมอตลอดระยะการ
ไหล การสูญเสียดังกล่าวเกิดขึน
้ จากหลายกรณี เช่น การเปลี่ยนแปลง
ความสูงของการไหล การเปลี่ยนแปลงหน้าตัดการไหล ความหนาแน่น
และความหนืดของของไหล ความฝื ดของผนังท่อซึ่งส่งผลให้การไหลปั่ น
ป่ วน เป็ นต้น การจะขับดันของไหลให้เคลื่อนตัวจากต้นทางไปยังตำแหน่ง
ปลายทางที่ต้องการนัน
้ วิศวกรต้องทราบการสูญเสียดังกล่าวทัง้ หมด
ตลอดเส้นทางการไหนนัน
้ เสียก่อน จึงจะสามารถออกแบบและเลือก
ขนาดของเครื่องสูบที่เหมาะสมมาใช้งานได้ การวิเคราะห์การสูญความดัน
ในท่อเนื่องจากการไหล โดยพื้นฐานทั่วไปอาศัยสมการพลังงานของ
กลศาสตร์ของไหล ดังนี ้
การสูญเสียความดันสามารถแบงได 2 ประเภท คือ
1. Major Losses (hL,major) เกิดขึน
้ เนื่องจากแรงเสียดทานภายในทอ
• การไหลแบบราบเรียบ (Laminar Flow)
ในกรณีการไหลแบบราบเรียบ การสูญเสียเนื่องจากความดันเขียนไดดัง
สมการ
ค่า f หาได้จาก Moody Chart หรือ Colebrook Equation
Colebrook Equation:
Moody Chart:
6
2. Minor Losses (hL,minor) เกิดจากการที่ของไหลไหลผานสิ่งกีดขวาง
ตาง ๆ ตัวอยางเชน Gate Valve,
Elbow ทอที่มีพ้น
ื ที่หนาตัดไมคงที่และทางแยกตาง ๆ Minor Losses คํา
นวณไดจากสมการ
โดยที่ KL คือ loss coefficient
7
ตาราง ค่า KL ของตัวอย่างวาล์วและข้อต่อแบบต่างๆ
Type of Component or Fitting Minor Loss Coefficient
( KL)
Tee, Flanged, Dividing Line Flow 0.2
Tee, Threaded, Dividing Line Flow 0.9
Tee, Flanged, Dividing Branched 1.0
Flow
Tee, Threaded , Dividing Branch 2.0
Flow
Union, Threaded 0.08
Elbow, Flanged Regular 90o 0.3
Elbow, Threaded Regular 90o 1.5
Elbow, Threaded Regular 45o 0.4
Elbow, Flanged Long Radius 90o 0.2
Elbow, Threaded Long Radius 90o 0.7
Elbow, Flanged Long Radius 45o 0.2
8
9
เป็ นวาล์วที่ออกแบบมาเพื่อใช้ควบคุมอัตราการไหลของของไหล
ตัวอย่างการใช้งานวาล์วประเภทนีไ้ ด้แก่ก๊อกน้ำที่ใช้กันอยู่ในบ้าน
หรือในห้องน้ำทั่วไปที่เป็ นแบบหัวหมุนได้หลายรอบ (ไม่ใช่แบบที่มี
ก้านเปิ ด-ปิ ดที่บิดไปเพียง 90 องศา ซึ่งแบบนีเ้ ป็ น ball valve)
จากรูปจะเห็นได้ว่าของเหลวที่ไหลผ่านตัววาล์วจะมีการหักเลีย
้ วหลาย
ครัง้ แม้ว ่า วาล์ว จะเปิ ดเต็ม ที่ก ็ต าม ทำ ให้ค วามดัน ลดคร่อ มตัว globe
valve สูง กว่า ของ gate valve การปิ ด-เปิ ดวาล์ว จะอาศัย การปิ ด-เปิ ด
แผ่น disk (จะ disk หรือ disc มัน ก็ต ัวเดียวกัน ) หรือ plug ที่วางตัวอยู่
ในแนวเดียวกันกับทิศทางการไหล (ทิศทางการไหลในที่นค
ี ้ ือจากซ้ายไป
ขวา) กับช่องเปิ ดที่อยู่ในแนวเดียวกันกับทิศทางการไหลเช่นเดียวกัน โดย
11
เมื่อของไหลไหลเข้ามาในตัววาล์วนัน
้ ของไหลจะถูกบังคับให้ไหลลงล่าง
และหัก เลีย
้ วขึน
้ ข้า งบน ไหลผ่า นช่อ งว่า งที่อ ย ู่ร ะหว่า งช่อ งเปิ ดกับ
แผ่น disk/plug การปรับขนาดของช่องว่างทำได้โดยการเลื่อนแผ่น disk/
plug ขึน
้ -ลง ซึ่งเมื่อแผ่น disk/plug เลื่อนสูงขึน
้ ช่องว่างก็จะเปิ ดมากขึน
้
ของไหลก็จะไหลผ่านได้เร็วขึน
้
3. Needle valve
นัน
้ ทางผู้ผ ลิต จึง ออกแบบให้ต ัว plug ของ needle valve นัน
้ ไม่
สัมผัส กับ seat ของตัว body ของวาล์ว แต่จะมีช ่อ งว่า งอยู่เ ล็ก น้อ ย
จึงทำให้เมื่อเราหมุน plug ของ needle valve ลงจนสุดแล้ว วาล์วก็
ยังปิ ดไม่สนิท (ซึ่งแตกต่างจาก globe valve ที่สามารถปิ ดได้สนิท) ดัง
นัน
้ การติดตัง้ needle valve ที่ถูกต้องจึงต้องมีการใช้ block valve (
ซึง่ มักเป็ น gate valve หรือ ball valve) ร่วมด้วยดังแสดงในรูปด้าน
บน
4. ball valve
เป็ นวาล์วตัวหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากขึน
้ ในปั จจุบัน ที่เห็นได้ช ัดคือ
ต า ม อ า ค า ร บ ้า น เ ร ือ น ต ่า ง ๆ ท ี่ใ ช ้ก ๊อ ก น ้ำ แ บ บ ท ี่เ ป็ น ก ้า น ห ม ุน
เพียง 90 องศาก็สามารถเปิ ดวาล์วได้เต็มที่หรือปิ ดวาล์วได้สนิท ตัวอย่าง
โครงสร้างของ ball valve แสดงไว้ในรูปด้านล่าง
ส่วนที่ทำ หน้าที่ปิด-เปิ ดของ ball valve คือตัวลูกบอลที่มีรูเจาะทะลุ
(สีแดงในรูปที่ 5 ด้านขวา) อยู่ตรงกลาง โดยการหมุนให้รูเจาะทะลุอยู่ใน
แนวท่อก็จะเป็ นการเปิ ดวาล์วเต็มที่ และการหมุนให้รูเจาะทะลุอยู่ในแนว
ตัง้ ฉากกับท่อก็จะเป็ นการปิ ดวาล์ว การปรับอัตราการไหลทำได้โดยการ
บิดให้ลูกบอลทำมุมระหว่างตำแหน่งเปิ ดเต็มที่และตำแหน่งปิ ด
5. Plug valve
13
ไดอะแฟรมวาล์วทำงานได้ดีกับของเหลวที่มีของแข็งแขวนลอยปะปน
อยู่ เพราะแม้ว่าจะมีของแข็งตกค้างอยู่บริเวณ seat ในขณะที่ทำ การปิ ด
วาล์ว แต่ด ้วยความยืด หยุ่น ของแผ่น ไดอะแฟรมเองก็ทำ ให้ส ามารถปิ ด
วาล์วได้สนิทได้ แต่การใช้แผ่นไดอะแฟรมทำให้วาล์วชนิดนีไ้ ม่สามารถใช้
งานได้ที่อุณหภูมิและความดันที่สูง
มาโนมิเตอร์แบบหลอดเดี่ยว (well-type manometer)
เป็ นมาโนมิเตอร์ (manometer) ชนิดที่นิยมใช้ ดัดแปลงมาจากมาโน
มิเ ตอร์รูป ตัว ยู (u-type manometer) เพื่อ ให้ง ่า ยต่อ การอ่า นค่า และ
สะดวกในการติดตัง้ ภายในบริเวณที่มีพ้น
ื ที่จำกัด
โครงสร้างของมาโนมิเตอร์แบบหลอดเดี่ยวประกอบด้วยหลอดยาวสูง
หนึ่ง หลอดและพื้น ที่ห น้า ตัด ที่ม ีข นาดใหญ่ ภายในบรรจุข องเหลวที่ใ ช้
สำหรับวัดความดัน ความถูกต้อง (accuracy) ของการวัดด้วยอุปกรณ์วัด
นีข
้ น
ึ ้ อยู่กับค่าอัตราส่วนระหว่างพื้นที่หน้าตัดของหลอดและพื้นที่หน้าตัด
ขนาดใหญ่ (a/A) โดยค่าความถูกต้องของค่าความดันที่วัดได้แปรผกผัน
กับ ค่า อัต ราส่ว นดัง กล่า ว สามารถ คำ นวณหาค่า ความดัน แตกต่า ง
(differential pressure, ΔP) ได้จากสมการ
ΔP=ρgh (1+(a/A)
โดย a คือ พื้นที่หน้าตัดของหลอดขนาดเล็ก
A คือ พื้นที่หน้าตัดของหลอดขนาดใหญ่
16
เกจความดันชนิดบูร์ดอง (bourdon gauge)
เป็ นเกจวัดความดันชนิดอาศัยการเปลี่ยนแปลงทางกลด้วยหลักการยืด
ตัว/โก่งตัวของวัสดุที่มีสมบัติยืดหยุ่นหรือเรียกว่า “เครื่องมือวัดความดัน
แบบอิล าสติก ” ทำ งานโดยอาศัย การแปลงความดัน (pressure) ท
อุปกรณ์ได้รับให้อยู่ในรูปของการเคลื่อนที่
17
หลอดบูร์ดองเป็ นหลอดที่มีพ้น
ื ที่ห น้า ตัด เป็ นวงรีแ ละงอเป็ นส่ว นโค้ง
ของวงกลม โดยปลายด้านหนึ่งของหลอดเป็ นปลายปิ ดต่อเข้ากับเข็มตรวจ
วัดตำแหน่งและระยะการเคลื่อนที่ ปลายอีกด้านหนึง่ เป็ นปลายเปิ ดต่อเข้า
กับสิ่งที่ต้องการวัดความดัน เมื่อหลอดได้รับความดันหรือความดันภายใน
หลอดมากกว่าความดันภายนอก หลอดจะเกิดความเครียด (strain) ขึน
้
และพยายามยืด ตัว ออกให้ต รงทำให้ป ลายข้า งที่ปิ ดเคลื่อ นที่ โดยการ
เคลื่อนที่นเี ้ ปลี่ยนแปลงตามความดันที่ได้รับ และเมื่อความดันลดลงหลอด
จะเคลื่อนที่กลับเข้าสู่ตำ แหน่งเดิม ลักษณะการทำงานของบูร์ดองมีหลัก
การเดียวกับของเด็กเล่นที่มีลักษณะเป็ นขดกระดาษม้วน โดยเมื่อเป่ าลม
เข้า ขดกระดาษม้วนจะคลายตัวออก และเมื่อปล่อยลมออก ขดกระดาษ
จะม้วนตัวกลับเข้าสู่สภาพเดิม
ลักษณะของหลอดบูร์ดอง
บูร์ดองเป็ นอุปกรณ์วัดความดันที่นิยมใช้ในงานอุตสาหกรรมเนื่องจากมี
ย่า นการวัด (range) ที่ก ว้า ง ตัง้ แต่ 1 บาร์ ถึง 6800 บาร์ ซึ่ง ขึน
้ อยู่ก ับ
ชนิดของบูร์ดอง แบ่งประเภทของบูร์ดองตามลักษณะโครงสร้างได้ ดังนี ้
บูร์ดองรูปตัว c (c-type bourdon)
บูร์ดองแบบก้นหอย (spiral bourdon)
บูร์ดองแบบขดซ้อน (helix bourdon)
โดยทั่ว ไปแล้ว บูร ์ด องเหมาะสำ หรับ การใช้ง านในย่า นความดัน สูง
สามารถวัดความดันได้ทงั ้ ความดันเกจ (gauge pressure) และความดัน
สุญญากาศ (vacuum) ได้อย่างมีประสิทธิภาพและ มีความน่าเชื่อถือสูง
แข็งแรงทนทาน ราคาถูกเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพการใช้งาน ตัวอย่าง
การใช้งาน ได้แก่ การวัดความดัน (pressure measurement) ในถังเก็บ
18
เครื่องมือและอุปกรณ์การทดลอง
1. ชุดเครื่องมือทดลอง ท่อน้ำพร้อมข้อต่อต่างๆ
2. U- tube Manometer
3. Rotameter
4. ตลับเมตร
5. เวอเนียร์
6. เทอร์มอมิเตอร์
19
หมายเลขต่างๆในแผนผัง
2. ท่อขรุขระ เส้นผ่านศูนย์กลางภายใน 17 mm
3. ท่อขรุขระ เส้นผ่านศูนย์กลางภายใน 23 mm
4. ท่อ methacrylate เส้นผ่านศูนย์กลางภายใน 6.5 mm
5. ท่อเรียบ เส้นผ่านศูนย์กลางภายใน 16.5 mm
6. ท่อเรียบ เส้นผ่านศูนย์กลางภายใน 26.5 mm
7. Angle seat valve
8. Gate valve
9. In-line strainer
10. Diaphragm valve
11. Sudden widening 25-40 mm
12. Pitot tube
13. Venture tube
14. Diaphragm
15. Reduction 40-25 mm
16. ระบบท่อขนาน
17. 90◦C elbows
20
18. T junction
19. Ball valve
20. 45◦elbow
21. 45◦T
22. 90◦ elbow
23. Regulation valve
24. Bourdon manometer
25. Water manometer
V1-V7 Ball valve
วิธีการทดลอง
21
ข้อมูลการทดลอง
ตอนที่ 1 Fluid Friction ที่เกิดจากชนิดของท่อและท่อขนาด
ต่างๆ (Major Loss)
o
อุณหภูมิน้ำ 32.2 C
1. Small Rough Pipe หมายเลข 2
เส้นผ่านศูนย์กลาง (D) = 0.018 m
ความยาวท่อ (L) = 99.8 cm
Flow rate ความดัน (bar)
(L/min)
Inlet /outlet Inlet/Outlet
2600 0.46/0.30 0.46/0.30
23
o
อุณหภูมิน้ำ 32.2 C
2.1 Gate Valve หมายเลข 8
เส้นผ่านศูนย์กลาง (D)= 0.0268 m
ความยาวท่อ (L)= 19.30 cm
Flow rate= 2000 L/min
Valve open ความดัน
Inlet /outlet Inlet /outlet
Inlet /outlet Inlet /outlet
Inlet /outlet Inlet /outlet
Inlet /outlet Inlet /outlet
Inlet /outlet Inlet /outlet
Inlet /outlet Inlet /outlet
Down side
ผลการทดลอง
อัตราการไหล อัตรา
ชนิดท่อ
(L/h) ΔPavg(b การ ΔPavg(P hL( V Tw(N/ F
3
f 2
Re
ar) ไหล(m / a) m) (m/s) m) (N)
s)
2(rough 0.00072 1.63 0.07 72.14 4.0 66276
2600 0.16 16000 2.837
pipe) 2 9 2 4 73 .86
0.00061 1.07 0.06 47.34 2.6 56080
2200 0.105 10500 2.401
1 5 6 5 73 .42
0.00050 0.76 0.07 33.81 1.9 45883
1800 0.075 7500 1.964
0 8 0 8 09 .98
1400 0.035 0.00038 3500 0.35 1.528 0.05 15.78 0.8 35687
31
9 8 4 2 91 .54
0.00072 0.56 0.18 36.88 3.1 44514
2600 0.055 5500 1.280
2 3 1 7 04 .31
0.00061 0.30 0.13 20.12 1.6 37665
2200 0.03 3000 1.083
3(rough 1 7 8 0 93 .96
pipe) 0.00050 0.20 0.13 13.41 1.1 30817
1800 0.02 2000 0.886
0 5 7 3 29 .6
0.00038 0.10 0.11 0.5 23969
1400 0.01 1000 0.689 6.707
9 2 4 64 .25
0.00027 6.65 0.01 102.8 2.0 72831
1000 0.65 65000 8.907
8 8 0 89 27 .72
4(metacrylat 0.00022 4.76 0.01 73.60 1.4 58265
800 0.465 46500 7.126
e Pipe) 2 3 2 6 50 .38
0.00016 2.61 0.01 40.36 0.7 43699
600 0.255 25500 5.344
7 2 1 4 95 .03
5(smooth 2600 0.075 0.00072 7500 0.76 3.636 0.01 29.87 1.4 75030
32
2 8 8 2 90 .41
0.00061 0.51 0.01 19.91 0.9 63487
2200 0.05 5000 3.077
1 2 7 5 93 .27
pipe) 0.00050 0.35 0.01 13.94 0.6 51944
1800 0.035 3500 2.517
0 8 8 0 95 .13
0.00038 0.20 0.01 0.3 40400
1400 0.02 2000 1.958 7.966
9 5 7 97 .99
0.00072 0.20 0.03 0.6 44514
2600 0.02 2000 1.280 7.966
2 5 9 70 .31
0.00061 0.10 0.02 0.3 37665
2200 0.01 1000 1.083 3.983
6(smooth 1 2 7 35 .96
pipe) 0.00050 0.10 0.04 0.3 30817
1800 0.01 1000 0.886 3.983
0 2 1 35 .6
0.00038 0.05 0.03 0.1 23969
1400 0.005 500 0.689 1.991
9 1 4 67 .25
33
(ข้อต่อ)
(วาล์ว)
delta
Pin avg Pout avg delta hL KL %erro
ชนิด valve P KL
(bar) (bar) P (m) theory r
(Pa) Re f
Fully 0.051 0.210 321.6 5100
0.05
open 0.16 0.155 0.005 500 2 8 3 3 0.021
Ball 1/2 0.081 0.337 5100
- -
valve open 0.17 0.162 0.008 800 9 3 3 0.033
1/4 0.102 0.421 5100
- -
open 0.17 0.16 0.01 1000 4 6 3 0.042
Diaphr Fully 0.512 2.108 5100
2.3 8.34
agm open 0.25 0.2 0.05 5000 1 2 3 0.223
valve 1/2 2400 2.458 10.11 135.3 5100
4.3
open 0.42 0.18 0.24 0 3 92 3 3 1.071
1/4 0.28 0.18 0.1 1000 1.024 4.216 21 79.92 5100 0.446
35
open 0 3 3 3
Fully 0.102 2.072 935.9 3425
0.2
open 0.17 0.16 0.01 1000 4 0 9 6 0.288
Gate 1/2 0.307 6.215 196.0 3425
2.1
valve open 0.2 0.17 0.03 3000 3 9 0 6 0.863
1/4 4900 5.019 101.5 497.2 3425 14.09
17
open 0.66 0.17 0.49 0 0 266 2 6 8
Fully 0.819 2.053 5773
5 58.93
open 0.27 0.19 0.08 8000 4 6 9 0.167
Angle
1/2 0.819 2.053 5773
seat - -
open 0.28 0.2 0.08 8000 4 6 9 0.167
valve
1/4 1000 1.024 2.567 5773
- -
open 0.3 0.2 0.1 0 3 0 9 0.209
36
Upper Down
วิจารณ์ผลการทดลอง
การทดลองนีเ้ ป็ นการทดลองเพื่อศึกษาความเสียดทานที่เกิดจากผิว
ท่อชนิดและขนาดต่างๆ ได้แก่ ท่อขรุขระขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ท่อ
เรียบขนาดเล็กและขนาดใหญ่ และท่อเรียบ Methacrylate ทำการ
ทดลองโดยเปลี่ยนแปลงอัตราการไหลของน้ำ ดังนีค
้ ือ 2600, 2200,
1800 และ 1400 L/hr ยกเว้นสำหรับท่อเรียบ Methacrylate ใช้อัตรา
การไหลเท่ากับ 1000, 800 และ 600 L/hr จากนัน
้ วัดค่าความดันของ
น้ำที่ขาเข้าและขาออก เพื่อนำไปคำนวณหาค่า Friction factor และ ค่า
ความขรุขระ ε ต่อไป
ข้างในท่อนัน
้ ของไหลจึงต้องสูญเสียพลังงานไปจำนวนหนึ่งที่ใช้ต้านแรง
เสียดทานนีทำ
้ ให้เกิดความดันลดของของไหลระหว่างจุด 2 จุดภายในท่อ
เช่นเดียวกัน Fluid friction ที่เกิดจากการที่ของไหลไหลไปได้ไม่ราบรื่น
ภายในวาล์วหรือข้อต่อ ก็มีผลต่อแรงเสียดทานให้กับของไหลด้วยเช่นกัน
นอกจากนีก
้ ารเกิดแรงเสียดทานในวาล์วและข้อต่อ แต่ละชนิดจะ
มีค่าเฉพาะซึง่ เรียกว่า Loss Coefficient (KL) ทีทำ
่ ให้เกิดการสูญเสีย
V2 ∆ P
ตามความสัมพันธ์ h L =K L × =
2 g ρg โดยในการทดลองจะสามารถวัดค่า
สรุปผลการทดลอง
ทำให้เกิดแรงเสียดทานที่ต่างกันเนื่องจากมีความขรุขระต่างกัน หรืออาจ
เกิดจาก viscosity และ density ของของไหลได้ด้วย
จากการทดลองนีทำ
้ ให้สามารถเลือกใช้อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบ
การเดินท่อได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับงานที่จะใช้ สามารถออกแบบ
การวางอุปกรณ์ในระบบท่อต่างๆเรียงลำดับได้อย่างเหมาะสม และจาก
การคำนวณค่าความดันลดเนื่องจากแรงเสียดทาน ก็เป็ นประโยชน์ในกรณี
ขณะใช้งานจริงจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ที่ของไหลไหลไปไม่ถึงจุดหมายที่
ต้องการ และจะได้ไม่ต้องให้งานแก่ pump มากจนเกินไป
44
ภาคผนวก
45
ตัวอย่างการคำนวณ
Major losses
การคำนวณจากการทดลอง
ตัวอย่างจากตอนที่ 1.1
10000 Pa
∆ P=0.46−0.3 ×
¯
1 ¿ =16000 Pa ¿
¯
L v2 ∆ P
จากสมการ f =
D 2 g ρg
=hL
46
∆ P(D)(2) (16000)(0.0180)(2)
Friction factor (f) ¿
ρL v 2
=
( 995.2 ) ( 0.998 ) 2.837 2
=0.072
1 ε 2. 51
=−2 log[ + ]
3 . 7 D
จากสมการ Colebrook √Equation:
f Re √ f
1 ε 2.51
√ 0.072
=−2 log
[
3.7(0.0180)
+
66276.9× √ 0.072 ]
แก้สมการ ε =0.0009 m
ตัวอย่างจากตอนที่ 1.4
Small
0.00019
smooth(D5 0.998 0.0159 2600
99
)
2
π D2 π ( 0.01590 )
Cross-sectional Area (Ac) ¿
4
=
4
=0.000199 m2
1 ε 2. 51
=−2 log[ + ]
√f 3 . 7 D Re √ f
จากสมการ Colebrook Equation:
เนื่องจากท่อเรียบ ดังนัน
้ ε =0
1 0 2.51
√f
=−2 log
[ +
3.7(0.01590) 75030.4 × √ f ]
แก้สมการจะได้ Friction factor: f Theory = 0.018
การหา %error
ตัวอย่างการคำนวณ
2.1 :วาล์ว
V̇
ชนิดของ Valve D L P (bar)
48
Velocity
10−3
2000×
V̇ = 3600
3
= 0.000556m /s
V̇
V = A
0. 000556
= 0. 00056
= 0.99286 m/s
Pressure Drop
ΔP = Inlet - Outlet
= 0.17 – 0.16
= 0.01 bar
And in Pascal unit
= 0.01 x 100000
= 1000 Pa
49
Loss Coefficient
2 g×H Minor
KL = V2
2×9 . 81×0 .102
= 0 .99286 2
= 2.07
% Error
|K L, Theory −K L , Experiment|
% Error= ×100
K L ,Theory
= 935.99 %
50
2.2 :ข้อต่อ
ชนิดของ D V̇ L P (bar)
วาล์ว (m) (L/hr) (m) Inlet Outlet
0.018 2000 0.114 0.175 0.165
o
90 Elbow
Velocity
−3
10
2000×
V̇ = 3600
3
= 0.000556m /s
V̇
V = A
51
0. 000556
= 0. 000254
= 2.183 m/s
Pressure Drop
ΔP = Inlet - Outlet
= 0.175 – 0.165
= 0.01 bar
And in Pascal unit
= 0.01 x 100000
= 1000 Pa
MinorHead Loss
ΔP
HL = ρg
1000 Pa
= kg m
(995.2 3 ) ×(9.81 2 )
m s
= 0.1023 m
Loss Coefficient
2 g×H Minor
KL = V2
2×9 . 81×0 .1023
= 2 .183 2
52
= 0.4213
% Error
|K L, Theory −K L , Experiment|
% Error= ×100
K L ,Theory
= 63.616 %
ั ันธ์ระหว่างhLoss ก ับ Re
กราฟแสดงความสมพ
6.000
5.000
4.000
2(rough pipe)
3(rough pipe)
hL (m)
1.000
0.000
20000 30000 40000 50000 60000 70000 80000
Re
53
ั ันธ์ระหว่างhLoss ก ับ Re
กราฟแสดงความสมพ
0.600
0.500
0.400
3(rough pipe)
hL (m)
0.200
0.100
0.000
30000 32000 34000 36000 38000 40000 42000 44000 46000
Re
ั ันธ์ระหว่างhLoss ก ับ Re
กราฟแสดงความสมพ
1.800
1.600
1.400
1.200
1.000 2(rough pipe)
hL (m)
0.600
0.400
0.200
0.000
25000 30000 35000 40000 45000 50000 55000 60000 65000 70000
Re
54
ั ันธ์ระหว่างhLoss ก ับ Re
กราฟแสดงความสมพ
7.000
6.000
5.000
5(smooth pipe)
3.000 6(smooth pipe)
2.000
1.000
0.000
20000 30000 40000 50000 60000 70000 80000
Re
100.0000
80.0000
ball
Diaphragm
KL
60.0000
Gate
Angle
40.0000
20.0000
0.0000
1 2 3
รูปแบบการเปิ ดvalve
55
บรรณานุกรม
Loss coefficient. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้
จาก http://www.engineeringtoolbox.com/minor-loss-
coefficients-pipes-d_626.html. วันที่สืบค้น 9 มีนาคม 2559.
การไหลในท่อ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้
จาก http://www.me.psu.ac.th/~juntakan/215-241fluid/
Chapter6/Chapter6.pdf. วันที่สืบค้น 9 มีนาคม 2559.
การสูญเสียความดันในท่อ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้
จาก http://eng.sut.ac.th/me/2014/laboratory/
PressureLoseinPipe.php. วันที่สืบค้น 9 มีนาคม 2559.
56
ประเภทของวาล์ว. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้
จาก http://tamagozzilla.blogspot.com/2009/08/mo-
memoir-1_23.html. วันที่สืบค้น 9 มีนาคม 2559.
มาโนมิเตอร์แบบเดี่ยว. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้
จาก http://www.foodnetworksolution.com/wiki/
word/4324/well-type-manometer-มาโนมิเตอร์แบบหลอด
เดี่ยว. วันที่สืบค้น 9 มีนาคม 2559.
แรงเสียดทาน. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้
จาก https://th.wikipedia.org/wiki/แรงเสียดทาน. วันที่สืบค้น 9
มีนาคม 2559.
แรงเสียดทาน. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้
จาก http://pioneer.netserv.chula.ac.th/~rchanat/2103213
%20MechI/ch6/document/statics%20ch6.pdf. วันที่สืบค้น
9 มีนาคม 2559.