You are on page 1of 42

คลังโจทย์ 1

1. ให้จดุ 𝐴 มีพิกดั เป็ น (−25, 0) และจุด 𝐵 มีพิกดั เป็ น (25, 0)


ถ้ำ 𝑆 คือเซตของจุด 𝑃 ทัง้ หมดในระบบพิกดั ฉำกสองมิติ โดยที่ |𝑃𝐴 − 𝑃𝐵| = 10
𝑇 คือเซตของจุด 𝑄 ทัง้ หมดในระบบพิกด ั ฉำกสองมิติ โดยที่ 𝑄𝐴 + 𝑄𝐵 = 70
และรูปสี่เหลี่ยมรูปหนึ่งมีจุดยอดทัง้ หมดอยู่ในเซต 𝑆 ∩ 𝑇 แล้วเส้นรอบรู ปของรูปสี่เหลี่ยมรูปนีย้ ำวกี่หน่วย
[กสพท คณิต1 (มี.ค. 2565/16)]
1. 62 2. 70 3. 76 4. 124 5. 140

2. ให้พำรำโบลำรูปหนึ่งมีจดุ ยอดอยู่บนเส้นตรงซึ่งมีสมกำร 2𝑦 = 3𝑥 และมี 𝑦 = 3 เป็ นแกนสมมำตร ถ้ำพำรำโบลำ


ผ่ำนจุด (3, 5) แล้วสมกำรของพำรำโบลำรูปนี ้ ตรงกับข้อใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (ก.พ. 2563/18)]
1. 𝑦 2 − 4𝑥 − 6𝑦 + 17 = 0 2. 𝑦 2 − 4𝑥 + 6𝑦 − 43 = 0
3. 𝑦 2 + 4𝑥 − 6𝑦 − 7 = 0 4. 𝑦 2 + 6𝑥 − 4𝑦 − 23 = 0
5. 𝑦 2 − 6𝑥 + 4𝑦 − 27 = 0

.0123456789
2 คลังโจทย์

3. กำหนดให้ 𝐹1 และ 𝐹2 เป็ นโฟกัสของไฮเพอร์โบลำรูปหนึ่ง ซึ่งมีสมกำรเป็ น 5𝑥2 − 4𝑦 2 − 10𝑥 − 16𝑦 = 31


ถ้ำ 𝑎, 𝑏 และ 𝑐 เป็ นจำนวนจริง ที่ทำให้วงกลม 𝑥2 + 𝑦 2 + 𝑎𝑥 + 𝑏𝑦 + 𝑐 = 0 มี ̅̅̅̅̅̅
𝐹1 𝐹2 เป็ นเส้นผ่ำนศูนย์กลำง
แล้ว 𝑎2 + 𝑏2 + 𝑐 2 เท่ำกับเท่ำใด [PAT 1 (ก.พ. 2563/42)]

4. กำหนดให้ วงรี E และไฮเพอร์โบลำ H มีโฟกัสร่วมกัน คือ (0, 0) และ (6, 0)


และระยะทำงระหว่ำง จุดตัดใดๆ ของ E และ H กับจุดโฟกัสทัง้ สอง คือ 6 หน่วย และ 2 หน่วย
สมกำรของวงรี และสมกำรของไฮเพอร์โบลำ ตำมลำดับ คือข้อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต1 (มี.ค. 2563/15)]
(𝑥−3)2 𝑦2 (𝑥−3)2 𝑦2
1. 16
+ 7
= 1 และ 5
− 4
= 1
(𝑥−3)2 𝑦2 (𝑥−3)2 𝑦2
2. 16
+ 7
= 1 และ 4
− 5
= 1
(𝑥−3)2 𝑦2 (𝑥−3)2 𝑦2
3. 7
+
16
= 1 และ 4

5
= 1
(𝑥−3)2 𝑦2 (𝑥−3)2 𝑦2
4. 5
+ 4
= 1 และ 7
− 16 = 1
(𝑥−3)2 𝑦2 (𝑥−3)2 𝑦2
5. 4
+
5
= 1 และ 7

16
= 1

.0123456789
คลังโจทย์ 3

5. เทศบาลแห่งหนึง่ ออกแบบสะพานข้ามแม่นา้ ให้มีราวเหล็กโค้งเป็ นรูปพาราโบลา เชื่อมต่อระหว่างเสาของสะพาน


สองต้น ดังรูป
เสาของสะพาน เสาของสะพาน

12 เมตร 12 เมตร
6 เมตร
พืน้ ของสะพาน
50 เมตร
200 เมตร

ระยะห่างที่นอ้ ยที่สดุ ของราวเหล็กกับพืน้ ของสะพานเท่ากับกี่เมตร [PAT 1 (มี.ค. 2564/10)]


1. 1.5 2. 2 3. 2.4 4. 3 5. 4

6. กาหนดไฮเพอร์โบลา 16𝑥 2 − 9𝑦 2 + 128𝑥 + 18𝑦 + 103 = 0


ให้ 𝐹 เป็ นโฟกัสที่อยูใ่ นจตุภาคที่ 2 และให้ 𝐶 เป็ นจุดศูนย์กลางของไฮเพอร์โบลานี ้
สมการของพาราโบลาทีม่ ีจดุ ยอดอยูท่ ี่จดุ 𝐶 และโฟกัสอยูท่ ี่จดุ 𝐹 คือข้อใด [กสพท คณิต1 (เม.ย. 2564/14)]
1. (𝑥 + 4)2 = −12(𝑦 − 1) 2. (𝑥 + 4)2 = −20(𝑦 − 1)
3. (𝑦 − 1)2 = −12(𝑥 + 4) 4. (𝑦 − 1)2 = −16(𝑥 + 4)
5. (𝑦 − 1)2 = −20(𝑥 + 4)

.0123456789
4 คลังโจทย์

7. วงกลม (𝑥 − 1)2 + (𝑦 − 2)2 = 1 มีเส้นสัมผัสที่ผ่ำนจุดกำเนิด 2 เส้น คือแกน Y และเส้นตรง L


ควำมชันของเส้นตรง L เท่ำกับเท่ำใด [A-level 1 (มี.ค. 2566/29)]

8. ให้ P เป็ นพาราโบลารูปหนึ่ง มีโฟกัสอยู่บนเส้นตรง 𝑥 + 2𝑦 = 4 และสมการของแกนสมมาตรคือ 𝑦 = 3


ถ้า P มีเส้นไดเรกตริกซ์เป็ นเส้นตรงเดียวกันกับเส้นไดเรกตริกซ์ของพาราโบลา 𝑦 2 + 8𝑦 − 24𝑥 + 16 = 0
แล้วพาราโบลา P ผ่านจุดในข้อใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (มี.ค. 2560/16)]
1. (−7 , 1) 2. (−4 , 0) 3. (1 , −1)
4. (2 , −4) 5. (4 , −5)

.0123456789
คลังโจทย์ 5

9. กำหนดให้ 𝐴 = { (𝑥, 𝑦) ∈ ℝ2 | 𝑥, 𝑦 ≥ 0 และ |√𝑥 − √𝑦| ≤ √|𝑥 − 𝑦| } และ


𝐵 = { (𝑥, 𝑦) ∈ ℝ2 | 𝑥 2 + 𝑦 2 ≤ 2𝑥 + 2𝑦 − 1 } ข้ อใดต่อไปนี ้เป็ นพื ้นที่ของเซต 𝐴 ∩ 𝐵
[สมำคม (พ.ย. 2560/4)]
ก. 𝜋/4 ข. 𝜋/2 ค. 𝜋 ง. 2𝜋

(𝑥+2) 2
(𝑦−2) 2
10. ให้ 𝑟 และ 𝑠 เป็ นจำนวนจริงบวก ถ้ำ 𝑃(2, 2) เป็ นจุดบนวงรีที่มีสมกำรเป็ น 𝑟2 + 𝑠2 = 1
ซึง่ มีจดุ 𝐹1 และ 𝐹2 เป็ นโฟกัสของวงรี และ 𝑃𝐹1 + 𝑃𝐹2 = 12 แล้วระยะห่ำงระหว่ำง 𝐹1 และ 𝐹2 ตรงกับ
ข้อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต1 (มี.ค. 2561/14)]
1. 4 หน่วย 2. 5 หน่วย 3. 2√5 หน่วย
4. 5√2 หน่วย 5. 4√5 หน่วย

.0123456789
6 คลังโจทย์

11. ให้ 𝐸 เป็ นวงรีรูปหนึง่ มีจดุ ศูนย์กลำงอยูท่ ี่จดุ (1, −2) และโฟกัสทัง้ สองอยูบ่ นเส้นตรงที่ขนำนกับแกน 𝑥
ถ้ำ (4, 0) เป็ นจุดบน 𝐸 และผลบวกของระยะทำงจำกจุด (4, 0) ไปยังจุดโฟกัสทัง้ สองเท่ำกับ 8 หน่วย
แล้ววงรี 𝐸 ผ่ำนจุดในข้อใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (ก.พ. 2561/8)]
1. (4, 2) 2. (2, 4) 3. (2, −4) 4. (−2, −4) 5. (4, −2)

12. ให้ 𝐻 เป็ นไฮเพอร์โบลำที่มีแกนสังยุคอยูบ่ นเส้นตรง 𝑥 = 1 และมีจดุ ยอดจุดหนึง่ อยูท่ ี่ (0, 2) ถ้ำ 𝐻 ผ่ำนจุด
ศูนย์กลำงของวงรีซงึ่ มีสมกำรเป็ น 5𝑥 2 − 30𝑥 + 9𝑦 2 = 0 แล้วสมกำรของไฮเพอร์โบลำ 𝐻 ตรงกับข้อใดต่อไปนี ้
[PAT 1 (ก.พ. 2561/23)]
1. 4𝑥 2 − 3𝑦 2 − 8𝑥 + 12𝑦 − 12 = 0 2. 4𝑥 2 − 3𝑦 2 − 8𝑥 + 12𝑦 − 13 = 0
3. 4𝑥 2 − 3𝑦 2 − 8𝑥 − 6𝑦 − 12 = 0 4. 3𝑥 2 − 4𝑦 2 − 6𝑥 + 16𝑦 − 17 = 0
5. 3𝑥 2 − 4𝑦 2 − 6𝑥 + 8𝑦 − 17 = 0

.0123456789
คลังโจทย์ 7

13. ให้ 𝑃 เป็ นจุดบนวงรี ซึ่งมีโฟกัสอยู่ท่ี 𝐹1 (0, −2) และ 𝐹2 (0, 2)


ถ้ำ 𝑃𝐹1 = 7 และ 𝑃𝐹2 = 3 แล้ว สมกำรวงรีคือข้อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต1 (มี.ค. 2562/4)]
𝑥2 𝑦2 𝑥2 𝑦2 𝑥2 𝑦2
1. 21
+ 25 = 1 2. 25
+ 21 = 1 3. 13
+ 9
= 1
𝑥2 𝑦2 𝑥2 𝑦2
4. 5
+
9
= 1 5. 9
+
5
= 1

14. วงกลมวงหนึง่ มีสมกำรเป็ น 𝑥 2 + 𝑦 2 − 4𝑥 − 2𝑦 + 1 = 0 และสัมผัสกับแกน 𝑦 ที่จดุ P


ให้ L เป็ นเส้นตรงผ่ำนจุดศูนย์กลำงของวงกลมและขนำนกับเส้นตรง 2𝑥 − 2𝑦 = 1
ระยะระหว่ำงจุด P กับเส้นตรง L เท่ำกับข้อใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (ก.พ. 2562/14)]
√2 3√2
1. √5
5
2. 2
3. √2 4. 2
5. √5

.0123456789
8 คลังโจทย์

15. กำหนดให้ H เป็ นไฮเพอร์โบลำ ซึง่ มีสมกำรเป็ น 𝑥 2 − 3𝑦 2 − 3 = 0 และให้ F เป็ นโฟกัสของไฮเพอร์โบลำ H ที่
อยูท่ ำงขวำของจุด (0, 0) ให้ E เป็ นวงรีทมี่ ีจดุ ยอดอยูท่ ี่ (0, 0) และโฟกัสอยูท่ ี่ F โดยที่จดุ (0, 0) และจุด F อยู่
ทำงซ้ำยของจุดศูนย์กลำงของวงรี E ถ้ำผลต่ำงของควำมยำวแกนเอกและควำมยำวแกนโท เท่ำกับ 2 แล้วควำม
เยือ้ งศูนย์กลำงของวงรี E ตรงกับข้อใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (ก.พ. 2562/16)]
1. 0.2 2. 0.3 3. 0.4 4. 0.5 5. 0.6

16. กาหนดพาราโบลามีโฟกัสอยูท่ จี่ ดุ (8, 1) และ 𝑥 = 10 เป็ นเส้นไดเรกตริกซ์


ให้ 𝑃1 และ 𝑃2 เป็ นจุดตัดของพาราโบลากับแกน 𝑌
ถ้า 𝐸 เป็ นวงรีที่ผา่ นจุด (8, 1) และมีโฟกัสอยูท่ ี่จดุ 𝑃1 และ 𝑃2 แล้วความยาวแกนเอกของวงรี 𝐸 เท่ากับเท่าใด
[PAT 1 (มี.ค. 2564/9)]
1. 10 2. 12 3. 16 4. 20 5. 22
คลังโจทย์ 9

สถานการณ์ต่อไปนีใ้ ช้ในการตอบคาถาม 2 ข้อถัดจากนี ้


ให้ วงรี E มี F1 และ F2 เป็ นจุดโฟกัส D
S
R
วงกลม C มีจดุ ศูนย์กลางอยู่ที่จดุ F1 E
C
และ วงกลม D มีจดุ ศูนย์กลางอยู่บนวงรี E ที่จดุ R F1 F2
โดยที่วงกลม D สัมผัสกับวงกลม C ที่จดุ S และผ่านจุด F2 ดังรูป
โดยที่  ระยะห่างระหว่างจุด F1 และ F2 เท่ากับ 32 หน่วย
 ความยาวของเส้นผ่านศูนย์กลางของวงกลม C เท่ากับ 128 หน่วย

17. แกนโทของวงรี E ยาวกี่หน่วย [PAT 1 (มี.ค. 2565/30)]


1. 32√3 2. 16√3 3. 32√15 4. 16√15 5. 32

18. สร้างระบบพิ กดั ฉากสองมิติโดยให้จดุ ศูนย์กลางของวงกลม C อยู่ที่จดุ กาเนิด และโฟกัสทัง้ สองของวงรี E อยู่บน
แกน 𝑋 ถ้าจุด R อยู่ในจตุภาคที่ 1 และวงกลม D สัมผัสแกน 𝑋 ที่จดุ F2 โดยที่ RF2 = 24
แล้วสมการวงกลม D ตรงกับข้อใด [PAT 1 (มี.ค. 2565/31)]
1. (𝑥 − 24)2 + (𝑦 − 32)2 = 242 2. (𝑥 − 24)2 + (𝑦 − 40)2 = 242
3. (𝑥 − 32)2 + (𝑦 − 24)2 = 242 4. (𝑥 − 32)2 + (𝑦 − 32)2 = 242
5. (𝑥 − 40)2 + (𝑦 − 24)2 = 242

.0123456789
10 คลังโจทย์

19. วงกลม 𝑥2 − 70𝑥 + 𝑦 2 + 10𝑦 − 144 = 0 มีจดุ ตัดแกน 𝑋 จุดหนึ่งที่ 𝐴(𝑎, 0) ซึ่ง 𝑎 < 0 และมีจดุ ตัด
แกน 𝑌 จุดหนึ่งที่ 𝐵 (0, 𝑏) ซึ่ง 𝑏 > 0 ถ้ำ 𝐿 เป็ นเส้นตรงที่ผ่ำนจุดศูนย์กลำงของวงกลมนี ้ และขนำนกับเส้นตรงที่
ผ่ำนจุด 𝐴 และจุด 𝐵 แล้วเส้นตรง 𝐿 ตัดแกน 𝑋 ที่จดุ ใด [กสพท คณิต1 (มี.ค. 2565/15)]
1. (− 1454
, 0) 2. (− 135 4
, 0) 3. (55, 0) 4. (135 4
, 0) 5. (145 4
, 0)

𝑥2 𝑦 2 5
20. ให้จดุ (𝑎, 𝑏) เป็ นจุดบนวงรี 2 + 3 = 1 ถ้ำระยะห่ำงระหว่ำงจุด (𝑎, 𝑏) กับจุด (0, − 4) เท่ำกับระยะระหว่ำง
จุด (𝑎, 𝑏) กับเส้นตรง 𝑦 = − 34 แล้วค่ำของ 𝑏 เท่ำกับเท่ำใด [A-level 1 (มี.ค. 2566/17)]
1. −3 2. − 32 3. − 34 4. 32 5. 3
คลังโจทย์ 11

21. ให้พำรำโบลำรูปหนึง่ มีสมกำรเป็ น 𝑦 2 − 4𝑦 + 40𝑥 − 236 = 0 โดยมี 𝑉 และ 𝐹 เป็ นจุดยอด และโฟกัสของ
พำรำโบลำตำมลำดับ ถ้ำวงรีรูปหนึง่ ผ่ำนจุด (4, 6) และมีโฟกัสอยูท่ ี่ 𝑉 และ 𝐹 แล้วสมกำรของวงรีรูปนีต้ รงกับข้อ
ใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (ต.ค. 2558/11)]
1. 4𝑥 2 + 9𝑦 2 + 8𝑥 − 36𝑦 + 140 = 0 2. 4𝑥 2 + 9𝑦 2 + 8𝑥 + 36𝑦 − 140 = 0
3. 4𝑥 2 + 9𝑦 2 − 8𝑥 − 36𝑦 − 140 = 0 4. 9𝑥 2 + 4𝑦 2 − 36𝑥 − 8𝑦 − 180 = 0
5. 9𝑥 2 + 4𝑦 2 + 36𝑥 − 8𝑦 + 180 = 0

22. ไฮเพอร์โบลำรูปหนึ่งมีโฟกัสอยู่ท่ีจดุ (−7, 1) และ (5, 1) ถ้ำเส้นกำกับเส้นหนึ่งของไฮเพอร์โบลำนี ้ ขนำนกับ


เส้นตรง √2𝑥 − 𝑦 + 5 = 0 แล้วสมกำรของไฮเพอร์โบลำคือข้อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต1 (ธ.ค. 2559/14)]
(𝑥+1)2 (𝑦−1)2 (𝑥+1)2 (𝑦−1)2 (𝑥−1)2 (𝑦+1)2
1. 24
− 12
=1 2. 12
− 24
=1 3. 12
− 24
=1
(𝑦−1)2 (𝑦+1)2
4. (𝑥 + 1)2 −
2
=1 5. (𝑥 − 1)2 −
2
=1
12 คลังโจทย์

23. เส้ นตรงที่ผา่ นโฟกัสของพาราโบลา 𝑦 2 = 16𝑥 สัมผัสกับวงกลม (𝑥 − 6)2 + 𝑦 2 = 2 ที่จดุ ใด


[สมาคม (พ.ย. 2561/19)]

24. ถ้ ำพำรำโบลำรูปหนึง่ มีแกนสมมำตรทับกับแกน 𝑦 และผ่ำนจุดปลำยของส่วนของเส้ นตรง 2𝑥 + 3𝑦 − 6 = 0


เมื่อ 𝑥 สอดคล้ องกับสมกำร |√𝑥 2 − 𝑥| + |3 − 𝑥 − |𝑥 − 3|| = 0 แล้ วควำมยำวของเลตัสเรกตัม
ของพำรำโบลำเท่ำกับข้ อใดต่อไ่ ปนี ้ [PAT 1 (มี.ค. 2559/16)]
1. 89 2. 49 3. 29
4. 9 5. 18

.0123456789
คลังโจทย์ 13

25. ให้วงกลม 𝐶 มีสมกำรเป็ น 𝑥 2 + 𝑦 2 + 𝑎𝑥 − 6𝑦 − 12 = 0 เมื่อ 𝑎 > 0 โดยระยะทำงจำกจุดศูนย์กลำงของ


วงกลม 𝐶 ไปยังเส้นตรง 4𝑥 + 3𝑦 = 71 เท่ำกับ 14 หน่วย ถ้ำพำรำโบลำรูปหนึง่ มีโฟกัสอยูท่ ี่จดุ ศูนย์กลำงของ
วงกลม 𝐶 และ มี 𝑦 = 7 เป็ นไดเรกตริกซ์ แล้วสมกำรของพำรำโบลำรูปนีต้ รงกับข้อใดต่อไปนี ้
[PAT 1 (ต.ค. 2558/10)]
1. 𝑥 2 − 4𝑥 + 4𝑦 − 16 = 0 2. 𝑥 2 + 4𝑥 + 4𝑦 − 16 = 0
3. 𝑥 2 + 4𝑥 − 4𝑦 + 20 = 0 4. 𝑥 2 + 4𝑥 + 8𝑦 + 44 = 0
5. 𝑥 2 + 4𝑥 + 8𝑦 − 36 = 0

26. ถ้ำ 𝐴𝑥 2 + 𝐵𝑦 2 + 𝐷𝑥 + 𝐸𝑦 = 21 เป็ นสมกำรของไฮเพอร์โบลำรูปหนึง่ มีแกนตำมขวำงขนำนแกน 𝑥


มีเส้นตรง 2𝑥 − 𝑦 + 1 = 0 เป็ นเส้นกำกับ (asymtote) เส้นหนึง่ และมีจดุ (1 + 2√5, 3) เป็ นโฟกัสจุดหนึง่
แล้วค่ำของ 𝐴2 + 𝐵2 + 𝐷2 + 𝐸2 เท่ำกับเท่ำใด [PAT 1 (ต.ค. 2558/40)]

.0123456789
14 คลังโจทย์

27. กาหนดให้ 𝐴 เป็ นจุดยอดทางด้ านหนึง่ ของไฮเพอร์ โบลา 𝑥 2 − 𝑦 2 = 3 และ 𝐵 และ 𝐶 เป็ นจุดสองจุดบนอีกด้ าน
หนึง่ ของไฮเพอร์ โบลาที่ทาให้ 𝐴𝐵𝐶 เป็ นสามเหลีย่ มด้ านเท่า จงหาพื ้นที่ของสามเหลีย่ ม 𝐴𝐵𝐶
[สมาคม (พ.ย. 2559/18)]

28. ให้ P เป็ นพำรำโบลำซึง่ มีสมกำรเป็ น 𝑥 2 + 8𝑥 + 4𝑦 + 12 = 0 ถ้ำ H เป็ นไฮเพอร์โบลำที่มีแกนตำมขวำงขนำน


กับแกน 𝑦 มีจดุ ศูนย์กลำงอยูท่ จี่ ดุ ยอดของ P ระยะทำงระหว่ำงโฟกัสทัง้ สองของ H เท่ำกับ 4√13 หน่วย และเส้น
กำกับเส้นหนึง่ ของ H ขนำนกับเส้นตรง 2𝑥 − 3𝑦 − 2 = 0 แล้ว สมกำรของไฮเพอร์โบลำ H รูปนีต้ รงกับข้อใด
ต่อไปนี ้ [PAT 1 (ต.ค. 2559/17)]
1. 9𝑦 2 − 4𝑥 2 − 32𝑥 − 18𝑦 − 109 = 0 2. 9𝑦 2 − 4𝑥 2 + 32𝑥 − 18𝑦 − 109 = 0
3. 9𝑦 2 − 4𝑥 2 − 32𝑥 + 18𝑦 − 109 = 0 4. 9𝑦 2 − 4𝑥 2 − 32𝑥 − 18𝑦 − 199 = 0
5. 9𝑦 2 − 4𝑥 2 − 32𝑥 + 18𝑦 + 199 = 0

.0123456789
คลังโจทย์ 15

29. ให้ C เป็ นจุดศูนย์กลางของวงกลม 𝑥2 + 𝑦 2 − 2𝑘𝑦 = 0 เมื่อ 𝑘 > 0 ให้ T เป็ นเส้นตรงที่ผ่านจุด A(−5, 4)
และสัมผัสวงกลมที่จดุ B โดยระยะทางระหว่างจุด A และจุด B เท่ากับ 1 หน่วย ถ้า H เป็ นไฮเพอร์โบลา
มีจดุ ศูนย์กลางอยู่ท่ีจดุ C แกนสังยุคยาว 2𝑘 หน่วย และขนานกับแกน 𝑥 และเส้นกากับเส้นหนึ่งผ่านจุด A และ
จุด C แล้วสมการของไฮเพอร์โบลา H ตรงกับข้อใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (มี.ค. 2560/10)]
1. 𝑥2 − 25𝑦 2 + 250𝑦 − 600 = 0 2. 𝑥2 − 25𝑦 2 − 250𝑦 + 624 = 0
3. 𝑥2 − 25𝑦 2 − 250𝑦 + 650 = 0 4. 25𝑥2 − 𝑦 2 + 10𝑦 + 50 = 0
5. 25𝑥2 − 𝑦 2 + 10𝑦 − 50 = 0

1 2 16 2
30. กำหนดให้วงรี 4 (𝑥 − ) +
4 3
𝑦 = 1

แนบในสำมเหลีย่ ม 𝐴𝐵𝐶 โดยที่ จุดยอด 𝐴, 𝐵 และ 𝐶 อยูบ่ นวงกลมหนึง่ หน่วย 𝑥 2 + 𝑦 2 = 1


ถ้ำจุดยอด 𝐴 มีพิกดั เป็ น (1, 0) แล้ว วงรีนสี ้ มั ผัสสำมเหลีย่ ม 𝐴𝐵𝐶 ที่จดุ ใดบ้ำง [สมำคม (พ.ย. 2562/3)]
16 คลังโจทย์

. กำหนดให้ 𝑃 เป็ นพำรำโบลำรูปหนึง่ มีสมกำรเป็ น 𝑥 2 + 4𝑥 + 3𝑦 − 5 = 0 และพำรำโบลำ 𝑃 ตัดแกน 𝑥 ที่จดุ 𝐴


31.
และจุด 𝐵 ถ้ ำ 𝐸 เป็ นวงรี ทมี่ ีจดุ ยอดอยูท่ ี่จดุ 𝐴 และจุด 𝐵 และผลบวกของระยะทำงจำกจุดยอดของพำรำโบลำ 𝑃
ไปยังโฟกัสทังสองของวงรี
้ 𝐸 เท่ำกับ 2√13 หน่วย แล้ วสมกำรวงรี 𝐸 ตรงกับข้ อใดต่อไปนี ้
[PAT 1 (มี.ค. 2559/13)]
1. 𝑥 2 + 4𝑥 + 9𝑦 2 = 5 2. 3𝑥 2 + 12𝑥 + 5𝑦 2 = 15
3. 5𝑥 2 + 20𝑥 + 9𝑦 2 = 25 4. 6𝑥 2 + 24𝑥 + 25𝑦 2 = 30
5. 9𝑥 2 + 36𝑥 + 16𝑦 2 = 45

32. ให้ ℝ แทนเซตของจำนวนจริง ให้ 𝑟1 = { (𝑥, 𝑦) ∈ ℝ × ℝ | 𝑦 ≥ 0 และ 𝑥 2 − 𝑦 2 − 2𝑥 + 4𝑦 ≤ 3 }


และ 𝑟2 = { (𝑥, 𝑦) ∈ ℝ × ℝ | 𝑦 ≥ 0 และ 𝑥 2 + 𝑦 2 − 2𝑥 ≤ 33 }
ถ้ ำโดเมนของเซต 𝑟1 ∩ 𝑟2 คือช่วงปิ ด [𝑎, 𝑏] เมื่อ 𝑎 และ 𝑏 เป็ นจำนวนจริ ง โดยที่ 𝑎 < 𝑏
แล้ วค่ำของ 𝑎2 + 𝑏2 เท่ำกับเท่ำใด [PAT 1 (มี.ค. 2559/41)]

.0123456789
คลังโจทย์ 17

33. ให้ 𝐶 เป็ นวงกลมมีจดุ ศูนย์กลำงอยูท่ ี่จดุ 𝐴 เส้ นตรง 3𝑥 + 4𝑦 = 35 สัมผัสวงกลมที่จดุ (5, 5) ถ้ ำไฮเพอร์ โบลำ
รูปหนึง่ มีแกนตำมขวำงขนำนกับแกน 𝑦 มีจดุ ศูนย์กลำงอยูท่ ี่จดุ 𝐴 ระยะระหว่ำงจุดศูนย์กลำงกับโฟกัสจุดหนึง่ เป็ น
สองเท่ำของรัศมีของวงกลม 𝐶 และเส้ นตรง 3𝑥 − 4𝑦 = 2 เป็ นเส้ นกำกับเส้ นหนึง่ แล้ วสมกำรไฮเพอร์ โบลำรูปนี ้
ตรงกับข้ อใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (มี.ค. 2559/11)]
1. 9𝑥 2 − 16𝑦 2 + 32𝑥 + 36𝑦 + 596 = 0 2. 9𝑥 2 − 16𝑦 2 − 32𝑥 − 36𝑦 + 596 = 0
3. 9𝑥 2 − 16𝑦 2 + 32𝑥 + 36𝑦 − 596 = 0 4. 9𝑥 2 − 16𝑦 2 − 36𝑥 − 32𝑦 + 596 = 0
5. 9𝑥 2 − 16𝑦 2 − 36𝑥 + 32𝑦 + 596 = 0

34. กำหนดให้ P เป็ นพำรำโบลำมีสมกำรเป็ น 𝑦 = 𝑎𝑥 2 + 𝑏𝑥 + 5 เมื่อ 𝑎 > 0 และ 𝑏 < 0 ถ้ำระยะทำงระหว่ำง


โฟกัสกับจุดยอดของ P เท่ำกับ 12 หน่วย และเส้นตรง 2𝑥 − 𝑦 − 3 = 0 สัมผัสกับ P ที่จดุ C แล้ว ระยะทำง
ระหว่ำงจุดยอดของ P และจุด C ตรงกับข้อใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (ต.ค. 2559/19)]
1. √2 2. √5 3. √6 4. √8 5. √13

.0123456789
คลังโจทย์ 1

1. ให้จดุ 𝐴 มีพิกดั เป็ น (−25, 0) และจุด 𝐵 มีพิกดั เป็ น (25, 0)


ถ้ำ 𝑆 คือเซตของจุด 𝑃 ทัง้ หมดในระบบพิกดั ฉำกสองมิติ โดยที่ |𝑃𝐴 − 𝑃𝐵| = 10
𝑇 คือเซตของจุด 𝑄 ทัง้ หมดในระบบพิกด ั ฉำกสองมิติ โดยที่ 𝑄𝐴 + 𝑄𝐵 = 70
และรูปสี่เหลี่ยมรูปหนึ่งมีจุดยอดทัง้ หมดอยู่ในเซต 𝑆 ∩ 𝑇 แล้วเส้นรอบรู ปของรูปสี่เหลี่ยมรูปนีย้ ำวกี่หน่วย
[กสพท คณิต1 (มี.ค. 2565/16)]
1. 62 2. 70 3. 76 4. 124 5. 140
ตอบ 4
𝑆 สอดคล้องกับสมบัติของไฮเพอร์โบลำ ที่มีโฟกัสที่ 𝐴(−25, 0) และ 𝐵(25, 0) และแกนตำมขวำงยำว 10
จะได้ระยะโฟกัส 𝑐 = 25 และ 𝑎 = 102 = 5 และจะได้ 𝑏2 = 𝑐 2 − 𝑎2 = 252 − 52 = 600
โฟกัสเรียงในแนวนอน จึงเป็ นไฮเพอร์โบลำแนวนอน จุดศูนย์กลำง จะอยู่ตรงกลำงระหว่ำงโฟกัส → คือ (0, 0)
(𝑥−ℎ)2 (𝑦−𝑘)2 𝑥2 𝑦2
แทนในสมกำรไฮเพอร์โบลำแนวนอน 𝑎2

𝑏2
= 1 จะได้ 5 2 − 600
= 1 …(1)

T สอดคล้องกับสมบัติของวงรี ที่มีโฟกัสที่ 𝐴(−25, 0) และ 𝐵(25, 0) และแกนเอกยำว 70


70
จะได้ระยะโฟกัส 𝑐 = 25 และ 𝑎 = 2 = 35 และจะได้ 𝑏2 = 𝑎2 − 𝑐 2 = 352 − 252 = 600
โฟกัสเรียงในแนวนอน จึงเป็ นวงรีแนวนอน จุดศูนย์กลำง จะอยู่ตรงกลำงระหว่ำงโฟกัส → คือ (0, 0)
(𝑥−ℎ)2 (𝑦−𝑘)2 𝑥2 𝑦2
แทนในสมกำรวงรีแนวนอน 𝑎2
+
𝑏2
= 1 จะได้ 352
+
600
= 1 …(2)
𝑥2 𝑥2
(1) + (2) : + = 2
52 352 49 𝑦2
49𝑥 2 + 𝑥 2 แทนใน (1) : 52
− = 1 คูณ 600 ตลอด
352
= 2 600
2
352
1176 − 𝑦 = 600
𝑥2 = 2 ∙ 50
= 49 576 = 𝑦2
𝑥 = ±7 ±24 = 𝑦
สี่เหลี่ยมที่เกิดจำก (±7 , ±24) จะยำว 14 (จำก −7 ถึง 7) และกว้ำง 48 (จำก −24 ถึง 24)
จะมีเส้นรอบรูปยำว 2(14 + 48) = 124

2. ให้พำรำโบลำรูปหนึ่งมีจดุ ยอดอยู่บนเส้นตรงซึ่งมีสมกำร 2𝑦 = 3𝑥 และมี 𝑦 = 3 เป็ นแกนสมมำตร ถ้ำพำรำโบลำ


ผ่ำนจุด (3, 5) แล้วสมกำรของพำรำโบลำรูปนี ้ ตรงกับข้อใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (ก.พ. 2563/18)]
1. 𝑦 2 − 4𝑥 − 6𝑦 + 17 = 0 2. 𝑦 2 − 4𝑥 + 6𝑦 − 43 = 0
3. 𝑦 2 + 4𝑥 − 6𝑦 − 7 = 0 4. 𝑦 2 + 6𝑥 − 4𝑦 − 23 = 0
5. 𝑦 2 − 6𝑥 + 4𝑦 − 27 = 0
ตอบ 1
จุดยอดอยู่บนเส้นตรง 2𝑦 = 3𝑥 แสดงว่ำจุดยอดต้องทำให้สมกำร 2𝑦 = 3𝑥 เป็ นจริง
แกนสมมำตร 𝑦 = 3 จะผ่ำนจุดยอดเสมอ → จุดยอดจะมีพิกดั 𝑦 คือ 3 → แทนใน 2𝑦 = 3𝑥
2(3) = 3𝑥
2 = 𝑥
→ จะได้พิกดั (ℎ, 𝑘) ของจุดยอดคือ (2, 3)
แกนสมมำตร 𝑦=3 เป็ นเส้นตรงในแนวนอน ดังนัน้ พำรำโบลำจะอยู่ในรูป (𝑦 − 𝑘)2 = 4𝑐 (𝑥 − ℎ )
(𝑦 − 3)2 = 4𝑐 (𝑥 − 2)
กรำฟผ่ำนจุด (3, 5) (5 − 3)2 = 4𝑐 (3 − 2)
4 = 4𝑐
1 = 𝑐
แทน ℎ, 𝑘, 𝑐 ในสมกำรพำรำโบลำ จะได้ (𝑦 − 3)2 = 4(1)(𝑥 − 2)
2
𝑦 − 6𝑦 + 9 = 4𝑥 − 8
2
𝑦 − 4𝑥 − 6𝑦 + 17 = 0
.0123456789
แกนสมมำตร 𝑦=3 เป็ นเส้นตรงในแนวนอน ดังนัน้ พำรำโบลำจะอยู่ในรูป (𝑦 − 𝑘)2 = 4𝑐 (𝑥 − ℎ )
(𝑦 − 3)2 = 4𝑐 (𝑥 − 2)
กรำฟผ่ำนจุด (3, 5) (5 − 3)2 = 4𝑐 (3 − 2)
2 คลังโจทย์ 4 = 4𝑐
1 = 𝑐
แทน ℎ, 𝑘, 𝑐 ในสมกำรพำรำโบลำ จะได้ (𝑦 − 3)2 = 4(1)(𝑥 − 2)
2
𝑦 − 6𝑦 + 9 = 4𝑥 − 8
𝑦 2 − 4𝑥 − 6𝑦 + 17 = 0

3. กำหนดให้ 𝐹1 และ 𝐹2 เป็ นโฟกัสของไฮเพอร์โบลำรูปหนึ่ง ซึ่งมีสมกำรเป็ น 5𝑥2 − 4𝑦 2 − 10𝑥 − 16𝑦 = 31


ถ้ำ 𝑎, 𝑏 และ 𝑐 เป็ นจำนวนจริง ที่ทำให้วงกลม 𝑥2 + 𝑦 2 + 𝑎𝑥 + 𝑏𝑦 + 𝑐 = 0 มี ̅̅̅̅̅̅
𝐹1 𝐹2 เป็ นเส้นผ่ำนศูนย์กลำง
แล้ว 𝑎2 + 𝑏2 + 𝑐 2 เท่ำกับเท่ำใด [PAT 1 (ก.พ. 2563/42)]
ตอบ 36
จัดรูปไฮเพอร์โบลำ : 5𝑥 2 − 4𝑦 2 − 10𝑥 − 16𝑦 = 31
5(𝑥 2 − 2𝑥 ) − 4(𝑦 2 + 4𝑦) = 31
5(𝑥 2 − 2𝑥 + 1) − 4(𝑦 2 + 4𝑦 + 4) = 31 + 5(1) − 4(4)
5(𝑥 − 1)2 − 4(𝑦 + 2)2 = 20
(𝑥−1)2 (𝑦+2)2
4
− 5
= 1
(𝑥−ℎ)2 (𝑦−𝑘)2
เทียบกับรูปสมกำร 𝑎2 − 𝑏2 = 1 จะเป็ นไฮเพอร์โบลำแนวนอน
วงกลมที่มี ̅̅̅̅̅̅
𝐹1 𝐹2 เป็ นเส้นผ่ำนศูนย์กลำง จะมีจด
ุ ศูนย์กลำงร่วมกับไฮเพอร์โบลำ 𝐹1 𝐹2
และมีรศั มียำวเท่ำกับระยะโฟกัสของไฮเพอร์โบลำ ดังรูป 𝑐
โฮเพอร์โบลำ มีจดุ ศูนย์กลำง (ℎ, 𝑘) = (1, −2) และระยะโฟกัส 𝑐 = √𝑎2 + 𝑏2 = √4 + 5 = 3
วงกลมที่มีจุดศูนย์กลำง (1, −2) และรัศมี 3 จะมีสมกำรคือ (𝑥 − 1)2 + (𝑦 + 2)2 = 32
𝑥 2 − 2𝑥 + 1 + 𝑦 2 + 4𝑦 + 4 = 9
𝑥 2 + 𝑦 2 − 2𝑥 + 4𝑦 − 4 = 0
เทียบกับรูป 𝑥2 + 𝑦 2 + 𝑎𝑥 + 𝑏𝑦 + 𝑐 = 0 จำกโจทย์ จะได้ 𝑎 = −2 , 𝑏 = 4 และ 𝑐 = −4
ดังนัน้ 𝑎2 + 𝑏2 + 𝑐 2 = (−2)2 + 42 + (−4)2 = 36

4. กำหนดให้ วงรี E และไฮเพอร์โบลำ H มีโฟกัสร่วมกัน คือ (0, 0) และ (6, 0)


และระยะทำงระหว่ำง จุดตัดใดๆ ของ E และ H กับจุดโฟกัสทัง้ สอง คือ 6 หน่วย และ 2 หน่วย
สมกำรของวงรี และสมกำรของไฮเพอร์โบลำ ตำมลำดับ คือข้อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต1 (มี.ค. 2563/15)]
(𝑥−3)2 𝑦2 (𝑥−3)2 𝑦2
1. 16
+ 7
= 1 และ 5
− 4
= 1
(𝑥−3)2 𝑦2 (𝑥−3)2 𝑦2
2. 16
+ 7
= 1 และ 4
− 5
= 1
(𝑥−3)2 𝑦2 (𝑥−3)2 𝑦2
3. 7
+
16
= 1 และ 4

5
= 1
(𝑥−3)2 𝑦2 (𝑥−3)2 𝑦2
4. 5
+ 4
= 1 และ 7
− 16 = 1
(𝑥−3)2 𝑦2 (𝑥−3)2 𝑦2
5. 4
+
5
= 1 และ 7

16
= 1

ตอบ 2
จุดศูนย์กลำงของทัง้ 2 กรำฟ จะอยู่ก่งึ กลำงระหว่ำงจุดโฟกัส 2
6
จะได้จดุ ศูนย์กลำง (ℎ, 𝑘) = (0+6
2
, 0) = (3, 0) (0, 0) (6, 0)
และจะได้ระยะโฟกัสจำก (3, 0) ไป (0, 0) คือ 𝑐 = 3 − 0 = 3
โจทย์กำหนดให้ระยะทำงจำกจุดตัด ไปยังจุดโฟกัส 6 หน่วย และ 2 หน่วย
→ จำกสมบัติของวงรี จะได้ควำมยำวแกนเอก = 6 + 2 = 8
ดังนัน้ 𝑎 = 82 = 4 จะได้ 𝑏 = √𝑎2 − 𝑐 2 = √42 − 32 = √7
(𝑥−ℎ)2 (𝑦−𝑘)2 (𝑥−3)2 𝑦2
แทนในสมกำรวงรีแนวนอน 𝑎2
+ 𝑏2
= 1 จะได้สมกำรคือ 16
+ 7
= 1
→ จำกสมบัติของไฮเพอร์โบลำ จะได้ควำมยำวแกนตำมขวำง = 6−2 = 4
.0123456789 4 2 2 2 2
ตอบ 2
จุดศูนย์กลำงของทัง้ 2 กรำฟ จะอยู่ก่งึ กลำงระหว่ำงจุดโฟกัส 2
6
จะได้จดุ ศูนย์กลำง (ℎ, 𝑘) = (0+6
2
, 0) = (3, 0) (0, 0) (6, 0) คลังโจทย์ 3
และจะได้ระยะโฟกัสจำก (3, 0) ไป (0, 0) คือ 𝑐 = 3 − 0 = 3
โจทย์กำหนดให้ระยะทำงจำกจุดตัด ไปยังจุดโฟกัส 6 หน่วย และ 2 หน่วย
→ จำกสมบัติของวงรี จะได้ควำมยำวแกนเอก = 6 + 2 = 8
ดังนัน้ 𝑎 = 82 = 4 จะได้ 𝑏 = √𝑎2 − 𝑐 2 = √42 − 32 = √7
(𝑥−ℎ)2 (𝑦−𝑘)2 (𝑥−3)2 𝑦2
แทนในสมกำรวงรีแนวนอน 𝑎2
+ 𝑏2
= 1 จะได้สมกำรคือ 16
+ 7
= 1
→ จำกสมบัติของไฮเพอร์โบลำ จะได้ควำมยำวแกนตำมขวำง = 6 − 2 = 4
ดังนัน้ 𝑎 = 42 = 2 จะได้ 𝑏 = √𝑐 2 − 𝑎2 = √32 − 22 = √5
(𝑥−ℎ)2 (𝑦−𝑘)2 (𝑥−3)2 𝑦2
แทนในสมกำรไฮเพอร์โบลำแนวนอน 𝑎2
− 𝑏2
= 1 จะได้สมกำรคือ 4
− 5
= 1

5. เทศบาลแห่งหนึง่ ออกแบบสะพานข้ามแม่นา้ ให้มีราวเหล็กโค้งเป็ นรูปพาราโบลา เชื่อมต่อระหว่างเสาของสะพาน


สองต้น ดังรูป
เสาของสะพาน เสาของสะพาน

12 เมตร 12 เมตร
6 เมตร
พืน้ ของสะพาน
50 เมตร
200 เมตร

ระยะห่างที่นอ้ ยที่สดุ ของราวเหล็กกับพืน้ ของสะพานเท่ากับกี่เมตร [PAT 1 (มี.ค. 2564/10)]


1. 1.5 2. 2 3. 2.4 4. 3 5. 4
ตอบ 5
𝑌
(−100, 12) (100, 12)
วางแกน 𝑋 𝑌 ตรงกลางพืน้ สะพาน จะได้พิกดั ต่างๆ ดังรูป
(50, 6)
เนื่องจากจุดยอดอยูบ่ นแกน 𝑌 จะมีพิกดั 𝑥 เป็ น 0 เสมอ
(ℎ, 𝑘)
𝑋 ดังนัน้ จะได้ ℎ = 0
ราวเหล็กเป็ นพาราโบลาหงาย จะมีรูปสมการคือ (𝑥 − ℎ)2 = 4𝑐(𝑦 − 𝑘) ℎ=0
𝑥2 = 4𝑐(𝑦 − 𝑘)
กราฟผ่าน (50, 6) → แทนในสมการจะได้ 502 = 4𝑐(6 − 𝑘) …(1)
กราฟผ่าน (100, 12) → แทนในสมการจะได้ 1002 = 4𝑐(12 − 𝑘) …(2)
1002 4𝑐(12−𝑘)
(2) ÷ (1) : 502
= 4𝑐(6−𝑘)
12−𝑘
4 = 6−𝑘
24 − 4𝑘 = 12 − 𝑘
12 = 3𝑘
4 = 𝑘
จะได้ระยะที่ราวเหล็กอยูใ่ กล้พนื ้ สะพานมากที่สดุ = 𝑘 = 4

.0123456789
4 คลังโจทย์

6. กาหนดไฮเพอร์โบลา 16𝑥 2 − 9𝑦 2 + 128𝑥 + 18𝑦 + 103 = 0


ให้ 𝐹 เป็ นโฟกัสที่อยูใ่ นจตุภาคที่ 2 และให้ 𝐶 เป็ นจุดศูนย์กลางของไฮเพอร์โบลานี ้
สมการของพาราโบลาทีม่ ีจดุ ยอดอยูท่ ี่จดุ 𝐶 และโฟกัสอยูท่ ี่จดุ 𝐹 คือข้อใด [กสพท คณิต1 (เม.ย. 2564/14)]
1. (𝑥 + 4)2 = −12(𝑦 − 1) 2. (𝑥 + 4)2 = −20(𝑦 − 1)
3. (𝑦 − 1)2 = −12(𝑥 + 4) 4. (𝑦 − 1)2 = −16(𝑥 + 4)
5. (𝑦 − 1)2 = −20(𝑥 + 4)
ตอบ 5
16𝑥 2 − 9𝑦 2 + 128𝑥 + 18𝑦 + 103 = 0
(16𝑥 2 + 128𝑥) + (−9𝑦 2 + 18𝑦) = −103
16(𝑥 2 + 8𝑥) − 9(𝑦 2 − 2𝑦) = −103
16(𝑥 2 + 8𝑥 + 16) − 9(𝑦 2 − 2𝑦 + 1) = −103 + 16(16) − 9(1)
16(𝑥 + 4)2 − 9(𝑦 − 1)2 = 144
(𝑥+4)2 (𝑦−1)2
9
− 16
= 1
เป็ นไฮเพอร์โบลาแนวนอน ที่มจี ดุ ศูนย์กลาง 𝐶(−4, 1) และระยะโฟกัส 𝑐 = √9 + 16 = 5
ดังนัน้ จุดโฟกัสคือ (−4 ± 5, 1) = (1, 1) และ (−9, 1) → โฟกัสใน 𝑄2 คือ 𝐹(−9, 1)
นั่นคือ โจทย์ถามพาราโบลาที่มีจดุ ยอด (ℎ, 𝑘) = (−4, 1) และ โฟกัส (−9, 1)
จุดยอดกับโฟกัสมีพิกดั 𝑌 เท่ากัน และโฟกัสมีพิกดั 𝑋 น้อยกว่า → เป็ นพาราโบลาเปิ ดซ้าย 𝑐 = −4 − (−9) = 5
แทนในรูปสมการพาราเปิ ดซ้าย (𝑦 − 𝑘)2 = −4𝑐(𝑥 − ℎ)
(𝑦 − 1)2 = −4(5)(𝑥 − (−4))
(𝑦 − 1)2 = −20(𝑥 + 4)

7. วงกลม (𝑥 − 1)2 + (𝑦 − 2)2 = 1 มีเส้นสัมผัสที่ผ่ำนจุดกำเนิด 2 เส้น คือแกน Y และเส้นตรง L


ควำมชันของเส้นตรง L เท่ำกับเท่ำใด [A-level 1 (มี.ค. 2566/29)]
ตอบ 0.75
เมื่อเทียบกับรูปสมกำรวงกลม (𝑥 − ℎ)2 + (𝑦 − 𝑘)2 = 𝑟 2
C(1, 2)
จะได้จดุ ศูนย์กลำง (ℎ, 𝑘) = (1, 2) และรัศมี 𝑟 = 1 ดังรูป L
1
เส้นตรง L มีระยะตัดแกน Y ที่ 𝑐 = 0 และสมมติให้เส้นตรง L มีควำมชัน = 𝑚
แทนในรูปสมกำร 𝑦 = 𝑚𝑥 + 𝑐 จะได้สมกำรเส้นตรง L คือ 𝑦 = 𝑚𝑥
0 = 𝑚𝑥 − 𝑦
ระยะจำก C(1, 2) ไปยังเส้นตรง L : 𝑚𝑥 − 𝑦 = 0 จะต้องเท่ำกับรัศมีวงกลม (= 1)
|𝑚(1)+(−1)(2)+0|
ดังนัน้ √𝑚 2+(−1)2
= 1
ระยะจำกจุด (𝑎, 𝑏) ไปยัง
|𝑚 − 2| = √𝑚 2 + 1 เส้นตรง 𝐴𝑥 + 𝐵𝑦 + 𝐶 = 0
ยกกำลังสอง เอำค่ำสัมบูรณ์ออกได้ (
𝑚 − 2)2 = 𝑚2 + 1 |𝐴𝑎+𝐵𝑏+𝐶|
𝑚 2 − 4𝑚 + 4 = 𝑚2 + 1 จะเท่ำกับ √𝐴2 +𝐵 2
3 = 4𝑚
3
0.75 = 4
= 𝑚

.0123456789
คลังโจทย์ 5

8. ให้ P เป็ นพาราโบลารูปหนึ่ง มีโฟกัสอยู่บนเส้นตรง 𝑥 + 2𝑦 = 4 และสมการของแกนสมมาตรคือ 𝑦 = 3


ถ้า P มีเส้นไดเรกตริกซ์เป็ นเส้นตรงเดียวกันกับเส้นไดเรกตริกซ์ของพาราโบลา 𝑦 2 + 8𝑦 − 24𝑥 + 16 = 0
แล้วพาราโบลา P ผ่านจุดในข้อใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (มี.ค. 2560/16)]
1. (−7 , 1) 2. (−4 , 0) 3. (1 , −1)
4. (2 , −4) 5. (4 , −5)
ตอบ 5
จุด F อยู่บนเส้นตรง 𝑥 + 2𝑦 = 4 → จุด F ต้องแทนใน 𝑥 + 2𝑦 = 4 แล้วเป็ นจริง
แต่ F จะอยู่บนแกนสมมาตร 𝑦 = 3 ด้วย ดังนัน้ F จะมีค่า 𝑦 เท่ากับ 3 → แทนในเส้นตรงจะได้ 𝑥 + 2(3) = 4
𝑥 = −2
จะได้พิกดั F คือ (−2, 3)
ถัดมา หาไดเรกตริกซ์ → จัดรูปพาราโบลา 𝑦 2 + 8𝑦 − 24𝑥 + 16 = 0
𝑦 2 + 8𝑦 + 16 = 24𝑥
(𝑦 + 4)2 = 4(6)𝑥
ตรงกับรูป (𝑦 − 𝑘)2 = 4𝑐 (𝑥 − ℎ) → เป็ นพาราโบลาเปิ ดขวา (ℎ, 𝑘) = (0,−4) และ 𝑐=6
จะได้ เส้นไดเรกตริกซ์คือ 𝑥 = ℎ − 𝑐
= 0 − 6 = −6 → เส้นไดเรกตริกซ์ของ P คือ 𝑥 = −6

จาก F(−2, 3) และ ไดเรกตริกซ์ 𝑥 = −6 จะวาด P ได้ดงั รูป


จุดยอด V จะอยู่ตรงกลางระหว่าง F และ ไดเรกตริกซ์ ไดเรกตริกซ์ 𝑥 = −6
(−6)+(−2)
→ 2
= −4 ดังนัน
้ พิกดั V(ℎ, 𝑘) คือ (−4, 3)
V F(−2, 3)
และ 𝑐 = ระยะระหว่าง V กับ F = (−2) − (−4) = 2 แกนสมมาตร 𝑦 = 3
P เป็ นพาราโบลาเปิ ดขวา → (𝑦 − 𝑘)2 = 4𝑐 (𝑥 − ℎ )
(𝑦 − 3)2 = 4(2)(𝑥 − (−4)) −6 −2
(𝑦 − 3)2 = 8(𝑥 + 4)
ลองแทนจุดในแต่ละตัวเลือก แล้วดูว่าข้อไหนทาให้สมการ (𝑦 − 3)2 = 8(𝑥 + 4) เป็ นจริง
1. (1 − 3)2 = 8(−7 + 4) 2. (0 − 3)2 = 8(−4 + 4) 3. (−1 − 3)2 = 8(1 + 4)
4 = −24  9 = 0  16 = 40 
4. (−4 − 3)2 = 8(2+ 4) 5. (−5 − 3)2 = 8(4 + 4)
49 = 48  64 = 64 

.0123456789
6 คลังโจทย์

9. กำหนดให้ 𝐴 = { (𝑥, 𝑦) ∈ ℝ2 | 𝑥, 𝑦 ≥ 0 และ |√𝑥 − √𝑦| ≤ √|𝑥 − 𝑦| } และ


𝐵 = { (𝑥, 𝑦) ∈ ℝ2 | 𝑥 2 + 𝑦 2 ≤ 2𝑥 + 2𝑦 − 1 } ข้ อใดต่อไปนี ้เป็ นพื ้นที่ของเซต 𝐴 ∩ 𝐵
[สมำคม (พ.ย. 2560/4)]
ก. 𝜋/4 ข. 𝜋/2 ค. 𝜋 ง. 2𝜋

ตอบ ค
หำ 𝐴 : |√𝑥 − √𝑦| ≤ √|𝑥 − 𝑦|
ยกกำลังสอง เพื่อกำจัดรูท
4 4 รวมเป็ น กำลังสี่
(√𝑥 − √𝑦) ≤ √|𝑥 − 𝑦| ยกกำลังสอง เพื่อกำจัดค่ำสัมบูรณ์
4
(√𝑥 − √𝑦) ≤ (𝑥 − 𝑦)2
4 2 2 2
(√𝑥 − √𝑦) ≤ (√𝑥 − √𝑦 )
4 2 ผลต่ำงกำลังสอง
(√𝑥 − √𝑦) ≤ ((√𝑥 − √𝑦)(√𝑥 + √𝑦))
2 2 4
0 ≤ (√𝑥 − √𝑦) (√𝑥 + √𝑦) − (√𝑥 − √𝑦)
2 2 2
0 ≤ (√𝑥 − √𝑦) ((√𝑥 + √𝑦) − (√𝑥 − √𝑦) )
2 ผลต่ำงกำลังสอง
0 ≤ (√𝑥 − √𝑦) (2√𝑦) (2√𝑥)

จะเห็นว่ำทุกตัวทำงขวำมำกกว่ำหรื อเท่ำกับ 0 ทุกตัว → อสมกำรเป็ นจริ งเสมอเมื่อ 𝑥, 𝑦 ≥ 0


→ จะได้ 𝐴 คือบริ เวณทังหมดในจตุ
้ ภำคที่ 1
หำ 𝐵 : 𝑥2 + 𝑦2 ≤ 2𝑥 + 2𝑦 − 1
𝑥 2 − 2𝑥 + 𝑦 2 − 2𝑦 ≤ −1
2 2
𝑥 − 2𝑥 + 1 + 𝑦 − 2𝑦 + 1 ≤ −1 + 1 + 1 1
(𝑥 − 1)2 + (𝑦 − 1)2 ≤ 1 1
เป็ นพื ้นที่ในวงกลมที่มี ศก = (1, 1) และ รัศมี = 1 ดังรูป
เนื่องจำกวงกลม 𝐵 อยูใ่ นจตุภำคที่ 1 ทังวง
้ จะได้ 𝐴 ∩ 𝐵 = วงกลม 𝐵 ทังวง ้
ดังนัน้ 𝐴 ∩ 𝐵 จะเป็ นวงกลม รัศมี 1 หน่วย → จะได้ พื ้นที่ = 𝜋(12 ) = 𝜋
(𝑥+2) (𝑦−2) 2 2
10. ให้ 𝑟 และ 𝑠 เป็ นจำนวนจริงบวก ถ้ำ 𝑃(2, 2) เป็ นจุดบนวงรีที่มีสมกำรเป็ น 𝑟2 + 𝑠2 = 1
ซึง่ มีจดุ 𝐹1 และ 𝐹2 เป็ นโฟกัสของวงรี และ 𝑃𝐹1 + 𝑃𝐹2 = 12 แล้วระยะห่ำงระหว่ำง 𝐹1 และ 𝐹2 ตรงกับ
ข้อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต1 (มี.ค. 2561/14)]
1. 4 หน่วย 2. 5 หน่วย 3. 2√5 หน่วย
4. 5√2 หน่วย 5. 4√5 หน่วย
ตอบ 5
(2+2)2 (2−2)2
𝑃(2, 2) อยูบ
่ นวงรี → ต้องแทนในสมกำรวงรีแล้วเป็ นจริง + = 1
𝑟2 𝑠2
42
𝑟2
+ 0 = 1
4 = 𝑟
จำก 𝑃𝐹1 + 𝑃𝐹2 = 12 → จะได้ควำมยำวแกนเอก = 12
ถ้ำเป็ นวงรีแนวนอน จะได้ควำมยำวแกนเอก = 2𝑟 = 2(4) = 8 ≠ 12 → ขัดแย้ง
ดังนัน้ ต้องเป็ นวงรีแนวตัง้ ซึง่ จะได้ควำมยำวแกนเอก = 2𝑠 และจะสรุปได้วำ่ 2𝑠 = 12
𝑠 = 6
จะได้ระยะโฟกัส 𝑐 = √𝑠 2 − 𝑟 2 = √62 − 42 = √20 = 2√5
จะได้ระยะระหว่ำง 𝐹1 และ 𝐹2 = 2𝑐 = 2(2√5) = 4√5

.0123456789
คลังโจทย์ 7

11. ให้ 𝐸 เป็ นวงรีรูปหนึง่ มีจดุ ศูนย์กลำงอยูท่ ี่จดุ (1, −2) และโฟกัสทัง้ สองอยูบ่ นเส้นตรงที่ขนำนกับแกน 𝑥
ถ้ำ (4, 0) เป็ นจุดบน 𝐸 และผลบวกของระยะทำงจำกจุด (4, 0) ไปยังจุดโฟกัสทัง้ สองเท่ำกับ 8 หน่วย
แล้ววงรี 𝐸 ผ่ำนจุดในข้อใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (ก.พ. 2561/8)]
1. (4, 2) 2. (2, 4) 3. (2, −4) 4. (−2, −4) 5. (4, −2)
ตอบ 4
2 2
โฟกัสอยูบ่ นเส้นตรงที่ขนำนแกน 𝑥 → เป็ นวงรีแนวนอน จะได้รูปสมกำรคือ (𝑥−ℎ)
𝑎2
(𝑦−𝑘)
+ 𝑏2 = 1 …(1)
ผลบวกระยะจำกจุดบนวงรีไปยังโฟกัสทัง้ สอง จะเท่ำกับควำมยำวแกนเอก (2𝑎) → ดังนัน้ 2𝑎 = 8
𝑎 = 4
2
(𝑥−1)2
จุดศูนย์กลำง (ℎ, 𝑘) = (1, −2) → แทน ℎ, 𝑘 และ 𝑎 ใน (1) จะได้ 42
+
(𝑦−(−2))
𝑏2
= 1
(𝑥−1)2 (𝑦+2)2
16
+ 𝑏2
= 1 …(2)
(4−1)2 (0+2)2
ผ่ำนจุด (4, 0) แสดงว่ำ 𝑥=4, 𝑦=0 ต้องทำให้สมกำรวงรีเป็ นจริง →
42
+
𝑏2
= 1
9 4
16
+ 𝑏2
= 1
4 7
𝑏2
= 16
64
7
= 𝑏2
(𝑥−1)2 (𝑦+2)2
แทน 𝑏2 ใน (2) จะได้สมกำรวงรีคอื 16
+ 64 = 1
7
(𝑥−1)2 7(𝑦+2)2
16
+ 64
= 1
ไล่แทนค่ำในแต่ละตัวเลือก แล้วดูวำ่ ตัวเลือกไหนทำให้สมกำรวงรีเป็ นจริง
2 7(2+2)2 (2−1)2 (2−1)2 7(−4+2)2
7(4+2)2
1. (4−1)
16
+ 64
= 1 2. 16
+
64
= 1 3. 16
+ 64
= 1
9 7 1 63 1 7
16
+ 4
= 1  + = 1  16
+ 16 = 1 
16 16
4. (−2−1)2
+
7(−4+2)2
= 1 5. (4−1)2
+
7(−2+2)2
= 1
16 64 16 64
9 7 9
16
+ 16
= 1  16
+ 0 = 1 

12. ให้ 𝐻 เป็ นไฮเพอร์โบลำที่มีแกนสังยุคอยูบ่ นเส้นตรง 𝑥 = 1 และมีจดุ ยอดจุดหนึง่ อยูท่ ี่ (0, 2) ถ้ำ 𝐻 ผ่ำนจุด
ศูนย์กลำงของวงรีซงึ่ มีสมกำรเป็ น 5𝑥 2 − 30𝑥 + 9𝑦 2 = 0 แล้วสมกำรของไฮเพอร์โบลำ 𝐻 ตรงกับข้อใดต่อไปนี ้
[PAT 1 (ก.พ. 2561/23)]
1. 4𝑥 2 − 3𝑦 2 − 8𝑥 + 12𝑦 − 12 = 0 2. 4𝑥 2 − 3𝑦 2 − 8𝑥 + 12𝑦 − 13 = 0
3. 4𝑥 2 − 3𝑦 2 − 8𝑥 − 6𝑦 − 12 = 0 4. 3𝑥 2 − 4𝑦 2 − 6𝑥 + 16𝑦 − 17 = 0
5. 3𝑥 2 − 4𝑦 2 − 6𝑥 + 8𝑦 − 17 = 0
ตอบ 1
𝑥=1
จำกข้อมูลแกนสังยุค กับจุดยอด จะวำดได้ดงั รูป
ซึง่ เป็ นไฮเพอร์โบลำแนวนอน โดยมี จุดศูนย์กลำง (ℎ, 𝑘) = (1, 2) V1(0, 2)

𝑎 = ระยะจำกจุดศูนย์กลำง (1, 2) ไป V1(0, 2) → 𝑎 = 1


(𝑥−ℎ)2 (𝑦−𝑘)2 (𝑥−1)2 (𝑦−2)2
แทน ℎ, 𝑘, 𝑎 ในรูปสมกำรไฮเพอร์โบลำแนวนอน 𝑎2

𝑏2
= 1 จะได้ 12

𝑏2
= 1 …(∗)
โจทย์ให้ 𝐻 ผ่ำนจุดศูนย์กลำง ของ 5𝑥 2 − 30𝑥 + 9𝑦 2 = 0
5(𝑥 2 − 6𝑥) + 9𝑦 2 = 0
5(𝑥 2 − 6𝑥 + 9) + 9𝑦 2 = 5(9)
5(𝑥 − 3)2 + 9𝑦 2 = 45
(𝑥−3)2 (𝑦−0)2
.0123456789 9
+ 5
= 1 → จุดศูนย์กลำง คือ (3, 0)
จำกข้อมูลแกนสังยุค กับจุดยอด จะวำดได้ดงั รูป
ซึง่ เป็ นไฮเพอร์โบลำแนวนอน โดยมี จุดศูนย์กลำง (ℎ, 𝑘) = (1, 2) V1(0, 2)

𝑎 = ระยะจำกจุดศูนย์กลำง (1, 2) ไป V1(0, 2) → 𝑎 = 1


8 คลังโจทย์
(𝑥−ℎ)2 (𝑦−𝑘)2 (𝑥−1)2 (𝑦−2)2
แทน ℎ, 𝑘, 𝑎 ในรูปสมกำรไฮเพอร์โบลำแนวนอน 𝑎2

𝑏2
= 1 จะได้ 12

𝑏2
= 1 …(∗)
โจทย์ให้ 𝐻 ผ่ำนจุดศูนย์กลำง ของ 5𝑥 2 − 30𝑥 + 9𝑦 2 = 0
5(𝑥 2 − 6𝑥) + 9𝑦 2 = 0
5(𝑥 2 − 6𝑥 + 9) + 9𝑦 2 = 5(9)
5(𝑥 − 3)2 + 9𝑦 2 = 45
(𝑥−3)2 (𝑦−0)2
9
+ 5
= 1 → จุดศูนย์กลำง คือ (3, 0)
(3−1)2 (0−2)2
ดังนัน้ (3, 0) ต้องแทนใน (∗) แล้วเป็ นจริง : 12
− 𝑏2
= 1
4
4 − = 1
𝑏2
4
3 = 𝑏2
4
𝑏2 = 3
(𝑥−1)2 (𝑦−2)2
แทน 𝑏2 ใน (∗) จะได้สมกำรของ 𝐻 คือ 12
− 4/3
= 1
𝑥 2 −2𝑥+1 3(𝑦 2 −4𝑦+4)
1
− 4
= 1
4(𝑥 2 − 2𝑥 + 1) − 3(𝑦 2 − 4𝑦 + 4) = 4
4𝑥 2 − 3𝑦 2 − 8𝑥 + 12𝑦 − 12 = 0

13. ให้ 𝑃 เป็ นจุดบนวงรี ซึ่งมีโฟกัสอยู่ท่ี 𝐹1 (0, −2) และ 𝐹2 (0, 2)


ถ้ำ 𝑃𝐹1 = 7 และ 𝑃𝐹2 = 3 แล้ว สมกำรวงรีคือข้อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต1 (มี.ค. 2562/4)]
𝑥2 𝑦2 𝑥2 𝑦2 𝑥2 𝑦2
1. 21
+ 25 = 1 2. 25
+ 21 = 1 3. 13
+ 9
= 1
𝑥2 𝑦2 𝑥2 𝑦2
4. 5
+
9
= 1 5. 9
+
5
= 1

ตอบ 1
จำกสมบัติของวงรี ผลบวกระยะจำกจุดบนวงรีไปยังโฟกัสทัง้ สอง = ควำมยำวแกนเอก = 2𝑎
𝑃𝐹1 + 𝑃𝐹2 = 2𝑎
7 + 3 = 2𝑎
5 = 𝑎
จุดโฟกัส 𝐹1 (0, −2) และ 𝐹2 (0, 2) เรียวตัวในแนวตัง้ → เป็ นวงรีแนวตั้ง
จุดศูนย์กลำง จะอยู่ตรงกลำงระหว่ำงจุดโฟกัส
5
จะได้จดุ ศูนย์กลำง (ℎ, 𝑘) คือ ( 0+0
2
−2+2
, 2 ) = (0, 0) ซึ่งจะวำดได้ดงั รูป
2
จะได้ระยะโฟกัส 𝑐 = 2 → แทนในสูตร 𝑐 = √𝑎2 − 𝑏2
2 = √52 − 𝑏2
4 = 25 − 𝑏2
𝑏2 = 21
(𝑥−ℎ)2 (𝑦−𝑘)2 (𝑥−0)2 (𝑦−0)2
แทนในสมกำรวงรีแนวตัง้ 𝑏2
+ 𝑎2
= 1 จะได้สมกำรวงรีคือ 21
+ 52
= 1
𝑥2 𝑦2
21
+ 25
= 1

.0123456789
คลังโจทย์ 9

14. วงกลมวงหนึง่ มีสมกำรเป็ น 𝑥 2 + 𝑦 2 − 4𝑥 − 2𝑦 + 1 = 0 และสัมผัสกับแกน 𝑦 ที่จดุ P


ให้ L เป็ นเส้นตรงผ่ำนจุดศูนย์กลำงของวงกลมและขนำนกับเส้นตรง 2𝑥 − 2𝑦 = 1
ระยะระหว่ำงจุด P กับเส้นตรง L เท่ำกับข้อใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (ก.พ. 2562/14)]
√2 3√2
1. √5
5
2. 2
3. √2 4. 2
5. √5

ตอบ 3
จัดรูปวงกลม : 𝑥 2 + 𝑦 2 − 4𝑥 − 2𝑦 + 1 = 0
𝑥 2 − 4𝑥 + 𝑦 2 − 2𝑦 = −1
𝑥 2 − 4𝑥 + 4 + 𝑦 2 − 2𝑦 + 1 = −1 + 4 + 1
(𝑥 − 2)2 + (𝑦 − 1)2 = 4
เทียบกับรูป (𝑥 − ℎ)2 + (𝑦 − 𝑘)2 = 𝑟 2
จะได้จดุ ศูนย์กลำง (ℎ, 𝑘) = (2, 1) และรัศมี 𝑟 = 2 → วำดได้ดงั รูป
(2,1)
จะเห็นว่ำวงกลม สัมผัสแกน 𝑦 ที่ P(0, 1) P(0,1)

เส้นตรง L ขนำนกับเส้นตรง 2𝑥 − 2𝑦 = 1
2𝑥 − 1 = 2𝑦
1
𝑥−2 = 𝑦
เทียบกับรูป 𝑦 = 𝑚𝑥 + 𝑐 จะได้ควำมชัน 𝑚 = 1

ดังนัน้ L จะมีควำมชัน = 1 ด้วย
𝑦−1
L ผ่ำนจุดศูนย์กลำงวงกลม (2 ,1) และมีควำมชัน = 1 → จะได้สมกำร L คือ 𝑥−2 = 1
𝑦−1 = 𝑥−2
0 = 𝑥−𝑦−1

จะได้ระยะจำกจุด P(0, 1) ไปยังเส้นตรง L: 𝑥−𝑦−1=0 ระยะจำกจุด (𝑎, 𝑏) ไปยังเส้นตรง


คือ |(1)(0)+(−1)(1)
2
√1 +(−1) 2
−1| 2
= 2 = √2

𝐴𝑥 + 𝐵𝑦 + 𝐶 = 0 คือ
|𝐴𝑎+𝐵𝑏+𝐶|
√𝐴2 +𝐵2

15. กำหนดให้ H เป็ นไฮเพอร์โบลำ ซึง่ มีสมกำรเป็ น 𝑥 2 − 3𝑦 2 − 3 = 0 และให้ F เป็ นโฟกัสของไฮเพอร์โบลำ H ที่
อยูท่ ำงขวำของจุด (0, 0) ให้ E เป็ นวงรีทมี่ ีจดุ ยอดอยูท่ ี่ (0, 0) และโฟกัสอยูท่ ี่ F โดยที่จดุ (0, 0) และจุด F อยู่
ทำงซ้ำยของจุดศูนย์กลำงของวงรี E ถ้ำผลต่ำงของควำมยำวแกนเอกและควำมยำวแกนโท เท่ำกับ 2 แล้วควำม
เยือ้ งศูนย์กลำงของวงรี E ตรงกับข้อใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (ก.พ. 2562/16)]
1. 0.2 2. 0.3 3. 0.4 4. 0.5 5. 0.6
ตอบ 5
จัดรูป H หำโฟกัส : 𝑥 2 − 3𝑦 2 − 3 = 0
𝑥 2 − 3𝑦 2 = 3
𝑥2 𝑦2
− = 1
3 1

จะได้ระยะโฟกัส 𝑐 = √3 + 1 = 2 → จะได้จดุ โฟกัส คือ (±2, 0)


→ จุดที่อยูท่ ำงขวำของ (0, 0) คือ F(2, 0)
ดังนัน้ วงรี E มีจดุ ยอด V(0, 0) และจุดโฟกัส F(2, 0) อยูท่ ำงซ้ำยจุดศูนย์กลำง 𝑎
V และ F อยูห ่ ำ่ งกัน 2 หน่วย → จะได้ 𝑎 − 𝑐 = 2 ดังรูป
𝑎 − 2 = 𝑐 …(1) V(0,0) 𝑐
F(2,0)
โจทย์ให้แกนเอกกับแกนโทยำวต่ำงกัน 2 → จะได้ 2𝑎 − 2𝑏 = 2
𝑎−𝑏 = 1
𝑎 − 1 = 𝑏 …(2)
จำกสูตรระยะโฟกัสวงรี : 𝑐2 = 𝑎2 − 𝑏 2
จำก (1) และ (2)
.0123456789 2 2 2
ตอบ 5
จัดรูป H หำโฟกัส : 𝑥 2 − 3𝑦 2 − 3 = 0
10 คลังโจทย์ 𝑥 2 − 3𝑦 2 = 3
𝑥2 𝑦2
− = 1
3 1

จะได้ระยะโฟกัส 𝑐 = √3 + 1 = 2 → จะได้จดุ โฟกัส คือ (±2, 0)


→ จุดที่อยูท่ ำงขวำของ (0, 0) คือ F(2, 0)
ดังนัน้ วงรี E มีจดุ ยอด V(0, 0) และจุดโฟกัส F(2, 0) อยูท่ ำงซ้ำยจุดศูนย์กลำง 𝑎
V และ F อยูห ่ ำ่ งกัน 2 หน่วย → จะได้ 𝑎 − 𝑐 = 2 ดังรูป
𝑎 − 2 = 𝑐 …(1) V(0,0) 𝑐
F(2,0)
โจทย์ให้แกนเอกกับแกนโทยำวต่ำงกัน 2 → จะได้ 2𝑎 − 2𝑏 = 2
𝑎−𝑏 = 1
𝑎 − 1 = 𝑏 …(2)
จำกสูตรระยะโฟกัสวงรี : 𝑐2 = 𝑎2 − 𝑏 2
จำก (1) และ (2)
(𝑎 − 2)2 = 𝑎2 − (𝑎 − 1)2
𝑎2 − 4𝑎 + 4 = 2 2
𝑎 − (𝑎 − 2𝑎 + 1)
𝑎2 − 6𝑎 + 5 = 0
(𝑎 − 1)(𝑎 − 5) = 0
𝑎 = 1, 5
แต่ 𝑎 = 1 แทนใน (1) จะได้ 𝑐 ติดลบ จึงใช้ไม่ได้ → เหลือ 𝑎 = 5 ค่ำเดียว
แทน 𝑎 = 5 ใน (1) จะได้ 𝑐 = 5 − 2 = 3 → จะได้ควำมเยือ้ ง = 𝑎𝑐 = 3
5
= 0.6

16. กาหนดพาราโบลามีโฟกัสอยูท่ จี่ ดุ (8, 1) และ 𝑥 = 10 เป็ นเส้นไดเรกตริกซ์


ให้ 𝑃1 และ 𝑃2 เป็ นจุดตัดของพาราโบลากับแกน 𝑌
ถ้า 𝐸 เป็ นวงรีที่ผา่ นจุด (8, 1) และมีโฟกัสอยูท่ ี่จดุ 𝑃1 และ 𝑃2 แล้วความยาวแกนเอกของวงรี 𝐸 เท่ากับเท่าใด
[PAT 1 (มี.ค. 2564/9)]
1. 10 2. 12 3. 16 4. 20 5. 22
ตอบ 4
จากโจทย์ จะวาดพาราโบลาได้ดงั รูป
จุดโฟกัส (8, 1) อยุห่ า่ งจากเส้นไดเรคตริกซ์ 𝑥 = 10 อยู่ 10 − 8 = 2 หน่วย
(8,1)
ดังนัน้ จุดศูนย์กลางจะอยูถ่ ดั จากจุด (8, 1) ไปทางขวา 1 หน่วย
(เนื่องจากจุดศูนย์กลาง จะอยูต่ รงกลางระหว่างจุดโฟกัส กับเส้นไดเรคตริกซ์)
𝑥 = 10
จะได้จดุ ศูนย์กลางพาราโบลาคือ (ℎ, 𝑘) = (9, 1) และระยะโฟกัส 𝑐 = 1
แทนในสมการพาราโบลาตะแคงซ้าย (𝑦 − 𝑘)2 = −4𝑐(𝑥 − ℎ) จะได้ (𝑦 − 1)2 = −4(1)(𝑥 − 9)
หา 𝑃1 และ 𝑃2 จากจุดที่พาราโบลาตัดกับแกน 𝑌 → แทน 𝑥 = 0 (𝑦 − 1)2 = −4(1)(0 − 9)
(𝑦 − 1)2 = 36
𝑦−1 = +6 , −6
𝑦 = +7 , −5
จะได้ 𝑃1 และ 𝑃2 คือ (0, 7) และ (0, −5)
จุดศูนย์กลางวงรี จะอยูต่ รงกลางจุดโฟกัส 𝑃1 และ 𝑃2 → จะได้จดุ ศูนย์กลางวงรี = (0, 7+(−5)
2
) = (0, 1)
วาดจุดศูนย์กลาง , 𝑃1 , 𝑃2 และจุดผ่าน (8, 1) จะได้วงรีดงั รูป
จะเห็นว่า จุดผ่าน (8, 1) บังเอิญอยูแ่ นวเดียวกับจุดศูนย์กลางพอดี 7
8
ดังนัน้ จะได้ความยาวแกนโท 𝑏 = 8 1 (8, 1)

จากรูป จะได้ระยะโฟกัส 𝑐 = 7 − 1 = 6
−5
ดังนัน้ 𝑎 = √𝑏2 + 𝑐 2 = √82 + 62 = √100 = 10
จะได้ความยาวแกนเอก = 2𝑎 = 2(10) = 20

.0123456789
คลังโจทย์ 11

สถานการณ์ต่อไปนีใ้ ช้ในการตอบคาถาม 2 ข้อถัดจากนี ้


ให้ วงรี E มี F1 และ F2 เป็ นจุดโฟกัส D
S
R
วงกลม C มีจดุ ศูนย์กลางอยู่ที่จดุ F1 E
C
และ วงกลม D มีจดุ ศูนย์กลางอยู่บนวงรี E ที่จดุ R F1 F2
โดยที่วงกลม D สัมผัสกับวงกลม C ที่จดุ S และผ่านจุด F2 ดังรูป
โดยที่  ระยะห่างระหว่างจุด F1 และ F2 เท่ากับ 32 หน่วย
 ความยาวของเส้นผ่านศูนย์กลางของวงกลม C เท่ากับ 128 หน่วย

17. แกนโทของวงรี E ยาวกี่หน่วย [PAT 1 (มี.ค. 2565/30)]


1. 32√3 2. 16√3 3. 32√15 4. 16√15 5. 32

ตอบ 1
เมื่อวงกลมสัมผัสกัน จุดสัมผัส และจุดศูนย์กลางของวงลมทุกวง จะอยู่บนแนวเส้นตรงเดี ยวกันเสมอ (เพราะรัศมีจะตัง้
ฉากกับเส้นสัมผัสที่สดุ สัมผัส) ดังนัน้ จะสรุปได้ว่า F1 , R และ S อยู่บนเส้นตรงเดี ยวกัน
ดังนัน้ F1R + RS = รัศมีของ C = 128 2 R เป็ นจุดศูนย์กลางของ D ดังนั้ น RS = RF2
F1R + RF2 = 64
จากสมบัติของวงรี
แกนเอกชอง E = 64
จะได้วงรี E มีครึ่งแกนเอก 𝑎 = 64
2
= 32
32
และจาก F1F2 = 32 จะได้ ระยะโฟกัส 𝑐 = 2
= 16 แทนในสูตร 𝑐 2 = 𝑎2 − 𝑏2
162 = 322 − 𝑏2
𝑏 = √322 − 162
= 16√22 − 12 = 16√3
จะได้ความยาวแกนโท = 2𝑏 = 32√3

18. สร้างระบบพิ กดั ฉากสองมิติโดยให้จดุ ศูนย์กลางของวงกลม C อยู่ที่จดุ กาเนิด และโฟกัสทัง้ สองของวงรี E อยู่บน
แกน 𝑋 ถ้าจุด R อยู่ในจตุภาคที่ 1 และวงกลม D สัมผัสแกน 𝑋 ที่จดุ F2 โดยที่ RF2 = 24
แล้วสมการวงกลม D ตรงกับข้อใด [PAT 1 (มี.ค. 2565/31)]
1. (𝑥 − 24)2 + (𝑦 − 32)2 = 242 2. (𝑥 − 24)2 + (𝑦 − 40)2 = 242
3. (𝑥 − 32)2 + (𝑦 − 24)2 = 242 4. (𝑥 − 32)2 + (𝑦 − 32)2 = 242
5. (𝑥 − 40)2 + (𝑦 − 24)2 = 242
ตอบ 3 C
รัศมีจะตัง้ ฉากกับเส้นสัมผัสที่จดุ สัมผัสเสมอ ดังนัน้ ̅̅̅̅̅
RF2 ตัง้ ฉากกับแกน 𝑋 ดังรูป D
S
จาก F1F2 = 32 และ RF2 = 24 จะได้พิกดั R(32, 24) R
E
ดังนัน้ วงกลม D มีจดุ ศูนย์กลางคื อ (32, 24) และรัศมี 24
F1 F2
จะได้สมการของ D คื อ (𝑥 − 32)2 + (𝑦 − 24)2 = 242

.0123456789
12 คลังโจทย์

19. วงกลม 𝑥2 − 70𝑥 + 𝑦 2 + 10𝑦 − 144 = 0 มีจดุ ตัดแกน 𝑋 จุดหนึ่งที่ 𝐴(𝑎, 0) ซึ่ง 𝑎 < 0 และมีจดุ ตัด
แกน 𝑌 จุดหนึ่งที่ 𝐵 (0, 𝑏) ซึ่ง 𝑏 > 0 ถ้ำ 𝐿 เป็ นเส้นตรงที่ผ่ำนจุดศูนย์กลำงของวงกลมนี ้ และขนำนกับเส้นตรงที่
ผ่ำนจุด 𝐴 และจุด 𝐵 แล้วเส้นตรง 𝐿 ตัดแกน 𝑋 ที่จดุ ใด [กสพท คณิต1 (มี.ค. 2565/15)]
1. (− 1454
, 0) 2. (− 135 4
, 0) 3. (55, 0) 4. (135 4
, 0) 5. (145 4
, 0)

ตอบ 5
จุดตัดแกน 𝑋 แทน 𝑦 = 0 : จุดตัดแกน 𝑌 แทน 𝑥 = 0 :
2 2
𝑥 − 70𝑥 + 0 + 10(0) − 144 = 0 02 − 70(0) + 𝑦 2 + 10𝑦 − 144 = 0
(𝑥 − 72)(𝑥 + 2) = 0 (𝑦 − 8)(𝑦 + 18) = 0
𝑥 = 72 , −2 𝑦 = 8 , −18
โจทย์ให้ 𝑎 < 0 จะได้ 𝑎 = −2 โจทย์ให้ 𝑏 > 0 จะได้ 𝑏 = 8
∆𝑦 8−0
ดังนัน้ เส้นตรงที่ผ่ำน 𝐴(−2, 0) และ 𝐵(0, 8) จะมีควำมชัน ∆𝑥
= 0−(−2)
= 4 …(∗)
หำจุดศูนย์กลำง → จัดรูป 𝑥2 − 70𝑥 + 𝑦 2 + 10𝑦 = 144
𝑥 2 − 2(35)𝑥 + 352 + 𝑦 2 + 2(5)𝑦 + 52 = 144 + 352 + 52
(𝑥 − 35)2 + (𝑦 + 5)2 = 144 + 352 + 52
จะได้จดุ ศูนย์กลำงคือ (35, −5)
∆𝑦 0−(−5) 5
ดังนัน้ 𝐿 ผ่ำน (35, −5) ถ้ำให้ 𝐿 ตัดแกน 𝑋 ที่จดุ (𝑘, 0) จะได้ควำมชันของ 𝐿 คือ ∆𝑥
= 𝑘−35
= 𝑘−35
5
แต่ 𝐿 ขนำนกับเส้นตรงที่ผ่ำน 𝐴 และ 𝐵 ดังนัน้ ควำมชัน 𝑘−35 = 4 (จำก (∗))
5 = 4𝑘 − 140
145 145
4
= 𝑘 → ตัดแกน 𝑋 ที่ ( 4
, 0)

𝑥 𝑦 2 2 5
20. ให้จดุ (𝑎, 𝑏) เป็ นจุดบนวงรี 2 + 3 = 1 ถ้ำระยะห่ำงระหว่ำงจุด (𝑎, 𝑏) กับจุด (0, − 4) เท่ำกับระยะระหว่ำง
จุด (𝑎, 𝑏) กับเส้นตรง 𝑦 = − 34 แล้วค่ำของ 𝑏 เท่ำกับเท่ำใด [A-level 1 (มี.ค. 2566/17)]
1. −3 2. − 32 3. − 34 4. 32 5. 3
ตอบ 2
𝑥2 𝑦2 𝑎2 𝑏2
(𝑎, 𝑏) เป็ นจุดบนวงรี 2
+ 3
=1 ต้องแทนในสมกำรวงรีแล้วเป็ นจริง ดังนัน้ 2
+ 3
=1
2𝑏 2
𝑎2 =2− 3
…(∗)

2 2
จำกสูตร จะได้ระยะจำก (𝑎, 𝑏) ถึง (0, − 54) คือ √(𝑎 − 0)2 + (𝑏 − (− 5)) = √𝑎2 + (𝑏 + 5)
4 4
…(1)
3
𝑦 =−4 เป็ นเส้นตรงแนวนอน ดังนัน้ ระยะจำกจุดใดๆ ไปยัง 𝑦 = − 34 หำได้จำกผลต่ำงของพิกดั Y กับ − 34 ได้เลย
จะได้ระยะจำก (𝑎, 𝑏) ไปยัง 𝑦 = − 34 คือ |𝑏 − (− 34)| = |𝑏 + 34| …(2)
2
โจทย์ให้ (1) = (2) : √𝑎2 + (𝑏 + 5) = |𝑏 + |
3
4 4
5 2 3 2
เมื่อถูกยกกำลังสอง จะเอำค่ำสัมบูรณ์ออกได้
𝑎2 + (𝑏 + ) = (𝑏 + )
จำก (∗) 4 4
2𝑏 2 5𝑏 25 3𝑏 9
2− 3
+ 𝑏2 + 2
+ 16 = 𝑏2 + 2
+ 16
2𝑏 2
− +𝑏 +3 = 0
3 คูณ −3 ตลอด
2𝑏2 − 3𝑏 − 9 = 0
(2𝑏 + 3)(𝑏 − 3) = 0
3
𝑏=− , 3 = 0
2
𝑥2 𝑦2
แต่วงรี 2 + 3 = 1 เป็ นวงรีแนวตัง้ ที่มีจดุ ยอดคือ (0, ±√3)
3
ดังนัน้ 𝑏 จะมีค่ำได้ตงั้ แต่ −√3 ถึง √3 (ประมำณ −1.732 ถึง 1.732) จึงเหลือ 𝑏 = −2 เท่ำนัน้
.0123456789
2𝑏 2
− +𝑏 +3 = 0
3 คูณ −3 ตลอด
2𝑏2 − 3𝑏 − 9 = 0
(2𝑏 + 3)(𝑏 − 3) = 0 คลังโจทย์ 13
3
𝑏=− , 3 = 0
2
2 2
แต่วงรี 𝑥2 + 𝑦3 = 1 เป็ นวงรีแนวตัง้ ที่มีจดุ ยอดคือ (0, ±√3)
3
ดังนัน้ 𝑏 จะมีค่ำได้ตงั้ แต่ −√3 ถึง √3 (ประมำณ −1.732 ถึง 1.732) จึงเหลือ 𝑏=−
2
เท่ำนัน้

21. ให้พำรำโบลำรูปหนึง่ มีสมกำรเป็ น 𝑦 2 − 4𝑦 + 40𝑥 − 236 = 0 โดยมี 𝑉 และ 𝐹 เป็ นจุดยอด และโฟกัสของ
พำรำโบลำตำมลำดับ ถ้ำวงรีรูปหนึง่ ผ่ำนจุด (4, 6) และมีโฟกัสอยูท่ ี่ 𝑉 และ 𝐹 แล้วสมกำรของวงรีรูปนีต้ รงกับข้อ
ใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (ต.ค. 2558/11)]
1. 4𝑥 2 + 9𝑦 2 + 8𝑥 − 36𝑦 + 140 = 0 2. 4𝑥 2 + 9𝑦 2 + 8𝑥 + 36𝑦 − 140 = 0
3. 4𝑥 2 + 9𝑦 2 − 8𝑥 − 36𝑦 − 140 = 0 4. 9𝑥 2 + 4𝑦 2 − 36𝑥 − 8𝑦 − 180 = 0
5. 9𝑥 2 + 4𝑦 2 + 36𝑥 − 8𝑦 + 180 = 0
ตอบ 3
จัดรูปพำรำโบลำ ได้ 𝑦 2 − 4𝑦 = −40𝑥 + 236
𝑦 2 − 4𝑦 + 4 = −40𝑥 + 236 + 4
(𝑦 − 2)2 = −40𝑥 + 240
(𝑦 − 2)2 = −40(𝑥 − 6)
(𝑦 − 2)2 = −4(10)(𝑥 − 6) 10
V(6, 2)
F
เทียบกับ รูปสมกำร (𝑦 − 𝑘)2 = −4𝑐(𝑥 − ℎ)
จะได้พำรำโบลำเปิ ดซ้ำย มีจดุ ยอด V(ℎ, 𝑘) = (6, 2)
จุดโฟกัสจะอยูห่ ำ่ งจำกจุดยอดไปทำงซ้ำย = 𝑐 = 10 → จะได้พกิ ดั จุดโฟกัสคือ F(6 – 10, 2) = F(−4, 2)
ดังนัน้ วงรีมีจดุ โฟกัสอยูท่ ี่ F1(6, 2) และ F2 (−4, 2)
จะเห็นว่ำ โฟกัสเรียงตัวในแนวนอน → เป็ นวงรีแนวนอน
(−4, 2) (1, 2) (6, 2)
F2 F1
เนื่องจำกจุดศูนย์กลำงวงรี จะอยูต่ รงกลำงระหว่ำงจุดโฟกัสทัง้ สอง
จะได้ จุดศูนย์กลำงวงรี (ℎ, 𝑘) = ( 6+(−4) 2
, 2 ) = (1, 2)
𝑐=5 และจะได้ ระยะโฟกัส 𝑐 = 6 − 1 = 5 ดังรูป
จำกสมบัติของวงรี ถ้ำ A เป็ นจุดบนวงรี จะได้ AF1 + AF2 = ควำมยำวแกนเอก
เนื่องจำกวงรี ผ่ำนจุด A(4, 6) ใช้สตู รระยะระหว่ำงจุด ระหว่ำง A กับ F1(6, 2) และ F2 (−4, 2) จะได้
AF1 + AF2 = √(4 − 6)2 + (6 − 2)2 + √(4 − (−4))2 + (6 − 2)2
= √ 4 + 16 +√ 64 + 16
= √20 + √80
= 2√5 + 4√5 = 6√5
6√5
ดังนัน้ ควำมยำวแกนเอก = 6√5 → จะได้ 𝑎= 2
= 3√5 → และจะหำ 𝑏 ได้จำก 𝑎2 = 𝑏2 + 𝑐 2
2
(3√5) = 𝑏 2 + 52
45 = 𝑏 2 + 25
20 = 𝑏2
(𝑥−ℎ)2 (𝑦−𝑘)2
แทนในสมกำรวงรีแนวนอน 𝑎2
+
𝑏2
= 1
(𝑥−1)2 (𝑦−2)2
2 + 20
= 1
(3√5)
𝑥 2 −2𝑥+1 𝑦 2 −4𝑦+4
45
+ 20
= 1
4(𝑥 2 −2𝑥+1)+9(𝑦 2 −4𝑦+4)
= 1
180
2 2
4𝑥 − 8𝑥 + 4 + 9𝑦 − 36𝑦 + 36 = 180
4𝑥 2 + 9𝑦 2 − 8𝑥 − 36𝑦 − 140 = 0

.0123456789
14 คลังโจทย์

22. ไฮเพอร์โบลำรูปหนึ่งมีโฟกัสอยู่ท่ีจดุ (−7, 1) และ (5, 1) ถ้ำเส้นกำกับเส้นหนึ่งของไฮเพอร์โบลำนี ้ ขนำนกับ


เส้นตรง √2𝑥 − 𝑦 + 5 = 0 แล้วสมกำรของไฮเพอร์โบลำคือข้อใดต่อไปนี ้ [กสพท คณิต1 (ธ.ค. 2559/14)]
(𝑥+1)2 (𝑦−1)2 (𝑥+1)2 (𝑦−1)2 (𝑥−1)2 (𝑦+1)2
1. 24
− 12
=1 2. 12
− 24
=1 3. 12
− 24
=1
(𝑦−1)2 (𝑦+1)2
4. (𝑥 + 1)2 −
2
=1 5. (𝑥 − 1)2 −
2
=1

ตอบ 2
จุดโฟกัสเรียงตัวในแนวนอน → เป็ นไฮเพอร์โบลำแนวนอน ดังรูป
(𝑥−ℎ)2 (𝑦−𝑘)2
จะได้รูปสมกำรคือ 𝑎2 − 𝑏2
=1 𝐹1 (−7, 1) 𝐹2(5, 1)

จะได้ระยะโฟกัส 𝑐 = 5−(−7)
2
= 6 แทนในสูตร 𝑐 2 = 𝑎2 + 𝑏2
62 = 𝑎2 + 𝑏2 …(1)
(𝑥−ℎ)2 (𝑦−𝑘)2
โจทย์ให้เส้นกำกับเส้นหนึ่งของไฮเพอร์โบลำ 𝑎2
− 𝑏2
= 1 ขนำนกับเส้นตรง √2𝑥 − 𝑦 + 5 = 0
(𝑥−ℎ)2 (𝑦−𝑘)2 √2𝑥 +5 = 𝑦
จะได้เส้นกำกับคือ 𝑎2
− 𝑏2
= 0
(𝑥−ℎ)2 (𝑦−𝑘)2 ควำมชัน = √2
𝑎2
= 𝑏2
𝑏2
(𝑥 − ℎ )2 = (𝑦 − 𝑘)2
𝑎2
𝑏
± (𝑥 − ℎ ) = 𝑦−𝑘
𝑎
𝑏
ควำมชัน = 𝑏𝑎 , − 𝑏𝑎 → ขนำนกัน ควำมชันจะเท่ำกัน → 𝑎
= √2
𝑏2
𝑎2
= 2
𝑏 = 2𝑎 2 …(2)
2

แทน (2) ใน (1) จะได้ 62 = 𝑎2 + 2𝑎2


36 = 3𝑎2
12 = 𝑎2 → แทนใน (2) จะได้ 𝑏2 = 2(12) = 24
−7+5 1+1
และ จุดศูนย์กลำงต้องอยู่ตรงกลำงระหว่ำงจุดโฟกัสทัง้ สอง จะได้จุดศูนย์กลำง (ℎ, 𝑘) = ( 2
,
2
) = (−1, 1)
(𝑥−ℎ)2 (𝑦−𝑘)2 (𝑥+1) 2 (𝑦−1)2
แทน 𝑎2 , 𝑏2 , ℎ , 𝑘 ใน 𝑎2

𝑏2
=1 จะได้สมกำรไฮเพอร์โบลำคือ 12

24
= 1

23. เส้ นตรงที่ผา่ นโฟกัสของพาราโบลา 𝑦 2 = 16𝑥 สัมผัสกับวงกลม (𝑥 − 6)2 + 𝑦 2 = 2 ที่จดุ ใด


[สมาคม (พ.ย. 2561/19)]

ตอบ (5, 1), (5, −1)


จัดรูปพาราโบลา จะได้ 𝑦 2 = 4(4)𝑥 → เป็ นแบบตะแคงขวา 𝑐 = 4 → จะได้ จดุ โฟกัสคือ F(4, 0)
วงกลม (𝑥 − 6)2 + 𝑦 2 = 2 มีจดุ ศุนย์กลาง C(6, 0) และมีรัศมี = √2 Y
P
วาดรุป จะเห็นว่าเส้ นสัมผัสจาก F ไปยังวงกลมจะมี 2 เส้ นดังรูป √2
ให้ P เป็ นจุดสัมผัสด้ านบน จากสมบัติเส้ นสัมผัส จะได้ FP̂C = 90° F(4,0) C(6,0)
X

พีทากอรัส จะได้ FP = √FC − PC 2 2

2
P
= √(6 − 4)2 − √2 = √4 − 2 = √2
√2 √2
จะเห็นว่า FP = PC = √2 ดังนัน้ ∆FPC เป็ น ∆ หน้ าจัว่ ℎ

ส่วนสูง ℎ จะแบ่งครึ่งฐาน FC เป็ นฝั่งละ 6−4


2
= 1 ดังรู ป F(4,0) 1 1 C(6,0)
2
พีทากอรัส จะได้ ℎ = √√2 − 12 = 1 → จะได้ พิกดั จุด P คือ (5, 1)
จุดสัมผัสด้ านล่างจะสมมาตรกับ P รอบแกน X → จะได้ จดุ สัมผัสด้ านล่างคือ (5, −1)

.0123456789
ตอบ (5, 1), (5, −1) คลังโจทย์ 15
จัดรูปพาราโบลา จะได้ 𝑦 = 4(4)𝑥 → เป็ นแบบตะแคงขวา 𝑐 = 4 → จะได้ จดุ โฟกัสคือ F(4, 0)
2

วงกลม (𝑥 − 6)2 + 𝑦 2 = 2 มีจดุ ศุนย์กลาง C(6, 0) และมีรัศมี = √2 Y


P
วาดรุป จะเห็นว่าเส้ นสัมผัสจาก F ไปยังวงกลมจะมี 2 เส้ นดังรูป √2
ให้ P เป็ นจุดสัมผัสด้ านบน จากสมบัติเส้ นสัมผัส จะได้ FP̂C = 90° F(4,0) C(6,0)
X

พีทากอรัส จะได้ FP = √FC − PC 2 2

2
P
= √(6 − 4)2 − √2 = √4 − 2 = √2
√2 √2
จะเห็นว่า FP = PC = √2 ดังนัน้ ∆FPC เป็ น ∆ หน้ าจัว่ ℎ

ส่วนสูง ℎ จะแบ่งครึ่งฐาน FC เป็ นฝั่งละ 6−4


2
= 1 ดังรู ป F(4,0) 1 1 C(6,0)
2
พีทากอรัส จะได้ ℎ = √√2 − 12 = 1 → จะได้ พิกดั จุด P คือ (5, 1)
จุดสัมผัสด้ านล่างจะสมมาตรกับ P รอบแกน X → จะได้ จดุ สัมผัสด้ านล่างคือ (5, −1)

24. ถ้ ำพำรำโบลำรูปหนึง่ มีแกนสมมำตรทับกับแกน 𝑦 และผ่ำนจุดปลำยของส่วนของเส้ นตรง 2𝑥 + 3𝑦 − 6 = 0


เมื่อ 𝑥 สอดคล้ องกับสมกำร |√𝑥 2 − 𝑥| + |3 − 𝑥 − |𝑥 − 3|| = 0 แล้ วควำมยำวของเลตัสเรกตัม
ของพำรำโบลำเท่ำกับข้ อใดต่อไ่ ปนี ้ [PAT 1 (มี.ค. 2559/16)]
1. 89 2. 49 3. 29
4. 9 5. 18
ตอบ 3
โจทย์ให้ แกนสมมำตรทับแกน 𝑦 ดังนัน้ จะเป็ นพำรำโบลำคว่ำหงำย มีรูปสมกำรคือ (𝑥 − ℎ)2 = 4𝑐(𝑦 − 𝑘)
เนื่องจำกแกนสมมำตรจะผ่ำนจุดยอดเสมอ ดังนัน้ จุดยอดจะอยูบ่ นแกน 𝑦 ด้ วย
และเนื่องจำกจุดบนแกน 𝑦 จะมีพกิ ดั 𝑥 เป็ น 0 เสมอ ดังนัน้ จุดยอด 𝑉(ℎ, 𝑘) จะมี ℎ = 0
→ แทนในสมกำรจะได้ 𝑥 2 = 4𝑐(𝑦 − 𝑘) …(∗)
ถัดมำ แก้ สมกำร |√𝑥 2 − 𝑥| + |3 − 𝑥 − |𝑥 − 3|| = 0
จะเห็นว่ำ ทัง้ |√𝑥 2 − 𝑥| และ |3 − 𝑥 − |𝑥 − 3|| เป็ นค่ำสัมบูรณ์ ซึง่ จะ ≥ 0
ดังนัน้ ถ้ ำ |√𝑥 2 − 𝑥| กับ |3 − 𝑥 − |𝑥 − 3|| บวกกันได้ 0 แสดงว่ำ ทังคู้ ต่ ้ องเป็ น 0 พร้ อมๆกัน เท่ำนัน้
√𝑥 2 − 𝑥 = 0 และ 3 − 𝑥 − |𝑥 − 3| = 0
√𝑥 2 = 𝑥 − |𝑥 − 3| = 𝑥 − 3
|𝑥| = 𝑥 |𝑥 − 3| = −(𝑥 − 3)
เป็ นจริ งเมื่อ 𝑥≥0 เป็ นจริ งเมื่อ 𝑥−3 ≤ 0 จะได้ 0 ≤ 𝑥 ≤ 3
𝑥 ≤ 3
ถัดมำ หำจุดปลำยของ 2𝑥 + 3𝑦 − 6 = 0 → เนื่องจำก 0≤𝑥 ≤3 ดังนัน้ จุดปลำยจะเกิดที่ 𝑥=0 และ 𝑥=3
𝑥 = 0 : 2(0) + 3𝑦 − 6 = 0 𝑥 = 3 : 2(3) + 3𝑦 − 6 = 0
𝑦 = 2 𝑦 = 0

ดังนัน้ พำรำโบลำผ่ำนจุด (0, 2) และ (3, 0) → สองจุดนี ้ต้ องแทนในสมกำรพำรำโบลำ (∗) แล้ วเป็ นจริง
𝑥 2 = 4𝑐(𝑦 − 𝑘) 𝑥 2 = 4𝑐(𝑦 − 𝑘)
02 = 4𝑐(2 − 𝑘) 32 = 4𝑐(0 − 𝑘)
9 = 4𝑐(0 − 2)
แต่ 𝑐 ≠ 0 (เพรำะ 𝑐 คือระยะโฟกัส) 9
−8 = 𝑐 → 𝑐 เป็ นลบ แสดงว่ำเป็ นพำรำโบลำควำ่
ดังนัน้ จะสรุปได้ วำ่ 𝑘 = 2
ดังนัน้ ควำมยำวลำตัสเรคตัม = |4𝑐|
9 9
= |4 (− 8)| = 2

.0123456789
16 คลังโจทย์

25. ให้วงกลม 𝐶 มีสมกำรเป็ น 𝑥 2 + 𝑦 2 + 𝑎𝑥 − 6𝑦 − 12 = 0 เมื่อ 𝑎 > 0 โดยระยะทำงจำกจุดศูนย์กลำงของ


วงกลม 𝐶 ไปยังเส้นตรง 4𝑥 + 3𝑦 = 71 เท่ำกับ 14 หน่วย ถ้ำพำรำโบลำรูปหนึง่ มีโฟกัสอยูท่ ี่จดุ ศูนย์กลำงของ
วงกลม 𝐶 และ มี 𝑦 = 7 เป็ นไดเรกตริกซ์ แล้วสมกำรของพำรำโบลำรูปนีต้ รงกับข้อใดต่อไปนี ้
[PAT 1 (ต.ค. 2558/10)]
1. 𝑥 2 − 4𝑥 + 4𝑦 − 16 = 0 2. 𝑥 2 + 4𝑥 + 4𝑦 − 16 = 0
3. 𝑥 2 + 4𝑥 − 4𝑦 + 20 = 0 4. 𝑥 2 + 4𝑥 + 8𝑦 + 44 = 0
5. 𝑥 2 + 4𝑥 + 8𝑦 − 36 = 0
ตอบ 5
จัดรูปวงกลม 𝑥 2 + 𝑦 2 + 𝑎𝑥 − 6𝑦 − 12 = 0
(𝑥 2 + 𝑎𝑥) + (𝑦 2 − 6𝑦) = 12 เติม ล2 เพื่อเข้ำสูตรกำลังสองสมบูรณ์
𝑎 2 𝑎 2 น2 + 2นล + ล2 = (น + ล)2
(𝑥 2 + 𝑎𝑥 + (2 ) ) + (𝑦 2 − 6𝑥𝑦 + 32 ) = 12 + (2 ) + 32
𝑎 2 𝑎2
(𝑥 + ) + (𝑦 − 3)2 = 21 +
2 4

𝑎
จะได้วงกลมมีจดุ ศูนย์กลำงคือ (− 2 , 3) …(∗) ระยะจำก (𝑎, 𝑏) ไปยังเส้นตรง 𝐴𝑥 + 𝐵𝑦 + 𝐶 = 0
|𝐴𝑎+𝐵𝑏+𝐶|
หำได้จำกสูตร √𝐴2 +𝐵2

𝑎
𝑎 |4(− )+3(3)−71| |−2𝑎−62|
จะได้ระยะจำก (− , 3)
2
ไปยังเส้นตรง 4𝑥 + 3𝑦 = 71 เท่ำกับ 2
√4 2 +32
=
5
4𝑥 + 3𝑦 − 71 = 0
แต่โจทย์ให้ระยะจำกจุดศูนย์กลำงไปยังเส้นตรง = 14 ดังนัน้ |−2𝑎−62|
5
= 14
|−2𝑎 − 62| = 70
−2𝑎 − 62 = 70 , −70
−2𝑎 = 132 , −8
𝑎 = −66 , 4
4
แต่โจทย์ให้ 𝑎 > 0 ดังนัน้ จะได้ 𝑎 = 4 แทนใน (*) จะได้จดุ ศูนย์กลำงวงกลมคือ (− 2 , 3) = (−2, 3)
ดังนัน้ พำรำโบลำ มี F(−2, 3) และมีเส้นไดเรคตริกซ์ คือ 𝑦 = 7 จะวำดได้ดงั รูป
จุดยอด V จะอยูต่ รงกลำง ระหว่ำง F และ เส้นไดเรคตริกซ์ ดังนัน้ จะได้พิกดั 𝑦=7
ของจุดยอดคือ V(−2, 3+7 2
) = V(−2, 5) → จะได้ ℎ = −2 และ 𝑘 = 5 V( ℎ , 𝑘 )
𝑐
และจะได้ระยะโฟกัส 𝑐 = 5 − 3 = 2 F(−2, 3)
แทนในรูปสมกำรของพำรำโบลำคว่ำ (𝑥 − ℎ)2 = −4𝑐(𝑦 − 𝑘)
2
(𝑥 − (−2)) = −4(2)(𝑦 − 5)
(𝑥 + 2)2 = −8(𝑦 − 5)
2
𝑥 + 4𝑥 + 4 = −8𝑦 + 40
𝑥 2 + 4𝑥 + 8𝑦 − 36 = 0

.0123456789
คลังโจทย์ 17

26. ถ้ำ 𝐴𝑥 2 + 𝐵𝑦 2 + 𝐷𝑥 + 𝐸𝑦 = 21 เป็ นสมกำรของไฮเพอร์โบลำรูปหนึง่ มีแกนตำมขวำงขนำนแกน 𝑥


มีเส้นตรง 2𝑥 − 𝑦 + 1 = 0 เป็ นเส้นกำกับ (asymtote) เส้นหนึง่ และมีจดุ (1 + 2√5, 3) เป็ นโฟกัสจุดหนึง่
แล้วค่ำของ 𝐴2 + 𝐵2 + 𝐷2 + 𝐸2 เท่ำกับเท่ำใด [PAT 1 (ต.ค. 2558/40)]
ตอบ 117
จำก แกนตำมขวำงขนำนแกน 𝑥 จะได้เป็ นไฮเพอร์โบลำแนวนอน

→ ดังนัน ้ จุดโฟกัส และจุดศูนย์กลำง จะอยูใ่ นแนวนอนแนวเดียวกัน
→ ดังนัน ้ จุดโฟกัส และจุดศูนย์กลำง จะมีพิกดั 𝑦 เท่ำกัน
โจทย์ให้ F1(1 + 2√5 , 3) ดังนัน้ พิกดั จุดศูนย์กลำง ต้องอยูใ่ นรูป (ℎ, 3)
และเนื่องจำกเส้นกำกับไฮเพอร์โบลำ จะผ่ำนจุดศูนย์กลำงไฮเพอร์โบลำเสมอ
ดังนัน้ (ℎ, 3) ต้องสอดคล้องกับสมกำรเส้นกำกับ 2𝑥 − 𝑦 + 1 = 0
2ℎ − 3 + 1 = 0
2ℎ = 2
ℎ = 1
จะได้จดุ ศูนย์กลำง (1, 3)
และจำกพิกดั F1(1 + 2√5, 3) จะเห็นว่ำ F1 อยูถ่ ด
ั ไปทำงขวำของจุดศูนย์กลำง = 2√5
จะได้ระยะโฟกัส 𝑐 = 2√5
2
จำกสูตร 𝑐 2 = 𝑎2 + 𝑏 2 จะได้ 𝑎2 + 𝑏 2 = (2√5)
𝑎2 + 𝑏 2 = 20 …(∗)

อีกสมกำรของ 𝑎 กับ 𝑏 จะใช้ “ควำมชัน” ของเส้นกำกับมำช่วย 𝑏


ควำมชัน =
จำกรูปจะเห็นว่ำ เส้นกำกับจะมีควำมชัน 𝑏𝑎 กับ − 𝑏𝑎 𝑏 𝑏
𝑎

ซึง่ โจทย์กำหนดให้เส้นกำกับเส้นหนึง่ คือ 2𝑥 − 𝑦 + 1 = 0 𝑎


𝑏
2𝑥 +1 = 𝑦 ควำมชัน = − 𝑎𝑏
เทียบกับรูป 𝑦 = 𝑚𝑥 + 𝑐 จะได้ควำมชัน = 2
เนื่องจำก 2 เป็ นบวก จึงสรุปได้วำ่ 𝑏𝑎 = 2 → ย้ำยข้ำงได้ 𝑏 = 2𝑎 → แทนใน (∗) จะได้ 𝑎2 + (2𝑎)2 = 20
𝑎2 + 4𝑎2 = 20
5𝑎2 = 20
แทน 𝑎 = 2 กลับไป จะได้ 𝑏 = 2(2) 𝑎2 = 4
= 4 𝑎 = 2

(𝑥−ℎ)2 (𝑦−𝑘)2
แทนค่ำ ℎ, 𝑘, 𝑎, 𝑏 ในรู ปสมกำรของไฮเพอร์โบลำแนวนอน
𝑎2
− 𝑏2
= 1
(𝑥−1)2 (𝑦−3)2
22
− 42
= 1
𝑥 2 −2𝑥+1 𝑦 2 −6𝑦+9
− = 1
4 16
4(𝑥 2 −2𝑥+1) − (𝑦 2 −6𝑦+9)
16
= 1
4𝑥 2 − 8𝑥 + 4 − 𝑦 2 + 6𝑦 − 9 = 16
4𝑥 2 − 𝑦 2 − 8𝑥 + 6𝑦 = 21

เทียบกับ 𝐴𝑥 2 + 𝐵𝑦 2 + 𝐷𝑥 + 𝐸𝑦 = 21 จะได้ 𝐴 = 4 , 𝐵 = −1 , 𝐷 = −8 , 𝐸 = 6
ดังนัน้ 𝐴2 + 𝐵2 + 𝐷2 + 𝐸2 = 42 + (−1)2 + (−8)2 + 62
= 16 + 1 + 64 + 36 = 117

.0123456789
18 คลังโจทย์

27. กาหนดให้ 𝐴 เป็ นจุดยอดทางด้ านหนึง่ ของไฮเพอร์ โบลา 𝑥 2 − 𝑦 2 = 3 และ 𝐵 และ 𝐶 เป็ นจุดสองจุดบนอีกด้ าน
หนึง่ ของไฮเพอร์ โบลาที่ทาให้ 𝐴𝐵𝐶 เป็ นสามเหลีย่ มด้ านเท่า จงหาพื ้นที่ของสามเหลีย่ ม 𝐴𝐵𝐶
[สมาคม (พ.ย. 2559/18)]
ตอบ 9√3
2 2 𝐵(𝑎, 𝑏)
จัดรูป ได้ 𝑥3 − 𝑦3 = 1 → จะได้ จดุ ยอดคือ (±√3 , 0)
จากความสมมาตร ถ้ า พิกดั 𝐵 คือ (𝑎, 𝑏) จะได้ พิกดั 𝐶 คือ (𝑎, −𝑏) ดังรูป
𝐴(−√3 , 0)
∆ 𝐴𝐵𝐶 เป็ น ∆ ด้ านเท่า → 𝐴𝐵 = 𝐵𝐶
𝐶(𝑎, −𝑏)
√(𝑎 − (−√3) )2 + (𝑏 − 0)2 = 𝑏 − (−𝑏)
และเนื่องจาก (𝑎, 𝑏) อยูบ่ นไฮเพอร์ โบลา
√(𝑎 + √3)2 + 𝑏2 = 2𝑏 จึงต้ องสอดคล้ องกับสมการไฮเพอร์ โบลา
(𝑎 + √3)2 + 𝑏2 = 4𝑏 2 𝑎2 − 𝑏 2 = 3
2
𝑎 + 2√3𝑎 + 3 = 3𝑏 2 𝑎2 − 3 = 𝑏 2 …(∗)

𝑎2 + 2√3𝑎 + 3 = 3(𝑎2 − 3)
𝑎2 + 2√3𝑎 + 3 = 3𝑎2 − 9
0 = 2𝑎2 − 2√3𝑎 − 12
0 = 𝑎2 − √3𝑎 − 6
0 = (𝑎 + √3)(𝑎 − 2√3)
𝑎 = −√3 , 2√3 → (𝑎, 𝑏) อยูใ่ น 𝑄1 ดังนัน้ 𝑎, 𝑏 ต้ องเป็ นบวก
2
แทน 𝑎 = 2√3 ใน (∗) เพื่อหา 𝑏 จะได้ (2√3) − 3 = 𝑏 2
9 = 𝑏2
3 = 𝑏 (𝑏 ต้ องเป็ นบวก)
จะได้ 𝐵𝐶 = 𝑏 − (−𝑏) = 3 − (−3) = 6 ดังนัน้ พื ้นที่ ∆ 𝐴𝐵𝐶 = √43 × ด้ าน2 =
√3
4
(62 ) = 9√3

28. ให้ P เป็ นพำรำโบลำซึง่ มีสมกำรเป็ น 𝑥 2 + 8𝑥 + 4𝑦 + 12 = 0 ถ้ำ H เป็ นไฮเพอร์โบลำที่มีแกนตำมขวำงขนำน


กับแกน 𝑦 มีจดุ ศูนย์กลำงอยูท่ จี่ ดุ ยอดของ P ระยะทำงระหว่ำงโฟกัสทัง้ สองของ H เท่ำกับ 4√13 หน่วย และเส้น
กำกับเส้นหนึง่ ของ H ขนำนกับเส้นตรง 2𝑥 − 3𝑦 − 2 = 0 แล้ว สมกำรของไฮเพอร์โบลำ H รูปนีต้ รงกับข้อใด
ต่อไปนี ้ [PAT 1 (ต.ค. 2559/17)]
1. 9𝑦 2 − 4𝑥 2 − 32𝑥 − 18𝑦 − 109 = 0 2. 9𝑦 2 − 4𝑥 2 + 32𝑥 − 18𝑦 − 109 = 0
3. 9𝑦 2 − 4𝑥 2 − 32𝑥 + 18𝑦 − 109 = 0 4. 9𝑦 2 − 4𝑥 2 − 32𝑥 − 18𝑦 − 199 = 0
5. 9𝑦 2 − 4𝑥 2 − 32𝑥 + 18𝑦 + 199 = 0
ตอบ 4
จะเห็นว่ำต้องใช้จดุ ยอดของ P มำเป็ น ศก ของ H → จัดรูป P จะได้ 𝑥 2 + 8𝑥 = −4𝑦 − 12
2
𝑥 + 8𝑥 + 16 = −4𝑦 − 12 + 16
(𝑥 + 4)2 = −4𝑦 + 4
(𝑥 + 4)2 = −4(𝑦 − 1)
→ จุดยอด (−4 , 1) = ศก ของ H
(𝑦−1)2 (𝑥+4)2
โจทย์ให้ H มีแกนตำมขวำงขนำนแกน Y → เป็ นไฮเพอร์แนวตัง้ จะได้สมกำรคือ 𝑎2
− 𝑏2
= 1
4√13
ระยะระหว่ำงโฟกัส = 4√13 จะได้ระยะโฟกัส 𝑐 =
2
= 2√13
2
จำกสูตร 𝑎2 + 𝑏 2 = 𝑐 2 จะได้ 𝑎2 + 𝑏 2 = (2√13)
𝑎2 + 𝑏 2 = 52 …(∗)

โจทย์ให้เส้นกำกับเส้นหนึง่ ขนำนกับเส้นตรง 2𝑥 − 3𝑦 − 2 = 0 → ขนำนกัน ควำมชันเท่ำกัน


2𝑥 − 2 = 3𝑦
.0123456789
จะเห็นว่ำต้องใช้จดุ ยอดของ P มำเป็ น ศก ของ H → จัดรูป P จะได้ 𝑥 2 + 8𝑥 = −4𝑦 − 12
2
𝑥 + 8𝑥 + 16 = −4𝑦 − 12 + 16
(𝑥 + 4)2 = −4𝑦 + 4
(𝑥 + 4)2 = −4(𝑦 −คลั1)
งโจทย์ 19
→ จุดยอด (−4 , 1) = ศก ของ H
(𝑦−1)2 (𝑥+4)2
โจทย์ให้ H มีแกนตำมขวำงขนำนแกน Y → เป็ นไฮเพอร์แนวตัง้ จะได้สมกำรคือ 𝑎2
− 𝑏2
= 1
4√13
ระยะระหว่ำงโฟกัส = 4√13 จะได้ระยะโฟกัส 𝑐 =
2
= 2√13
2
จำกสูตร 𝑎2 + 𝑏 2 = 𝑐 2 จะได้ 𝑎2 + 𝑏 2 = (2√13)
𝑎2 + 𝑏 2 = 52 …(∗)

โจทย์ให้เส้นกำกับเส้นหนึง่ ขนำนกับเส้นตรง 2𝑥 − 3𝑦 − 2 = 0 → ขนำนกัน ควำมชันเท่ำกัน


2𝑥 − 2 = 3𝑦
2 2
3
𝑥 −3 = 𝑦 → ควำมชันเส้นตรง = 23
2 (𝑥+4)2
จำกสมกำรไฮเพอร์โบลำ (𝑦−1)
𝑎2
− 𝑏2
= 1 จะได้เส้นกำกับคือ 𝑦−1
𝑎

𝑥+4
𝑏
𝑎
𝑦−1 = ± 𝑏 (𝑥 + 4) → ควำมชัน = ± 𝑎𝑏
𝑎 2 2 2 2
ขนำนกัน ควำมชันต้องเท่ำกัน ดังนัน้ 𝑏
=
3
จะได้ 𝑎= 𝑏 →
3
แทนใน (∗) จะได้ (3 𝑏) + 𝑏 2 = 52
4 2
9
𝑏 + 𝑏2 = 52
13 2
2 𝑏 = 52
𝑎 = (6) 9
2
3 𝑏 = 36
𝑎= 4
𝑏 = 6
(𝑦−1)2 (𝑥+4)2
จะได้สมกำรไฮเพอร์โบลำคือ 42

62
= 1
32 (𝑦 2 −2𝑦+1) − 22 (𝑥 2 +8𝑥+16)
122
= 1
2 2
9𝑦 − 18𝑦 + 9 − 4𝑥 − 32𝑥 − 64 = 144
9𝑦 2 − 4𝑥 2 − 18𝑦 − 32𝑥 − 199 = 0

29. ให้ C เป็ นจุดศูนย์กลางของวงกลม 𝑥2 + 𝑦 2 − 2𝑘𝑦 = 0 เมื่อ 𝑘 > 0 ให้ T เป็ นเส้นตรงที่ผ่านจุด A(−5, 4)
และสัมผัสวงกลมที่จดุ B โดยระยะทางระหว่างจุด A และจุด B เท่ากับ 1 หน่วย ถ้า H เป็ นไฮเพอร์โบลา
มีจดุ ศูนย์กลางอยู่ท่ีจดุ C แกนสังยุคยาว 2𝑘 หน่วย และขนานกับแกน 𝑥 และเส้นกากับเส้นหนึ่งผ่านจุด A และ
จุด C แล้วสมการของไฮเพอร์โบลา H ตรงกับข้อใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (มี.ค. 2560/10)]
1. 𝑥2 − 25𝑦 2 + 250𝑦 − 600 = 0 2. 𝑥2 − 25𝑦 2 − 250𝑦 + 624 = 0
3. 𝑥2 − 25𝑦 2 − 250𝑦 + 650 = 0 4. 25𝑥2 − 𝑦 2 + 10𝑦 + 50 = 0
5. 25𝑥2 − 𝑦 2 + 10𝑦 − 50 = 0
ตอบ 1
จัดรูปสมการวงกลม 𝑥 2 + 𝑦 2 − 2𝑘𝑦 = 0 𝑘
𝑥 + 𝑦 − 2𝑘𝑦 + 𝑘 = 𝑘 2
2 2 2

𝑥2 + (𝑦 − 𝑘)2 = 𝑘 2 C(0, 𝑘)
จะได้จดุ ศก. คือ C(0, 𝑘) และ รัศมี = 𝑘 → วาดได้ดงั รูป
ใส่จดุ A(−5, 4) และจุดสัมผัส B ตามโจทย์
จากสมบัติวงกลม จะได้ เส้นสัมผัส ⊥ รัศมี → ∆ABC เป็ น ∆ มุมฉาก ดังรูป B
𝑘
พีทากอรัส จะได้ AB2 + BC2 = AC2 1 C
2
12 + 𝑘 2 = √(0 − 5)2 + (𝑘 − 4)2 A(−5, 4) (0, 𝑘)
1 + 𝑘2 = 25 + 𝑘 2 − 8𝑘 + 16
8𝑘 = 40
𝑘 = 5

แทนค่า 𝑘 จะได้ H มี ศ.ก. อยู่ท่ี C(0, 5) แกนสังยุคยาว 2(5) = 10 หน่วย และแกนสังยุคขนานแกน 𝑥 → แนวตัง้
(𝑦−5)2 (𝑥−0) 2 𝑦−5 𝑥−0
จะได้สมการของ H อยู่ในรูป 𝑎2 − 𝑏2
= 1 และสมการเส้นกากับคือ 𝑎
=± 𝑏
.0123456789 แกนสังยุคยาว 10 หน่วย → จะได้ 2𝑏 = 10 ดังนัน้ 𝑏=5
𝑘
พีทากอรัส จะได้ AB2 + BC2 = AC2 1 C
2
12 + 𝑘 2 = √(0 − 5)2 + (𝑘 − 4)2 A(−5, 4) (0, 𝑘)
1 + 𝑘2 = 25 + 𝑘 2 − 8𝑘 + 16
20 คลังโจทย์ 8𝑘 = 40
𝑘 = 5

แทนค่า 𝑘 จะได้ H มี ศ.ก. อยู่ท่ี C(0, 5) แกนสังยุคยาว 2(5) = 10 หน่วย และแกนสังยุคขนานแกน 𝑥 → แนวตัง้
(𝑦−5)2 (𝑥−0) 2 𝑦−5 𝑥−0
จะได้สมการของ H อยู่ในรูป 𝑎2 − 𝑏2 = 1 และสมการเส้นกากับคือ 𝑎 = ± 𝑏
แกนสังยุคยาว 10 หน่วย → จะได้ 2𝑏 = 10 ดังนัน้ 𝑏 = 5
4−5 −5−0
เส้นกากับผ่านจุด A(−5, 4) → แทน 𝑥 = −5 , 𝑦 = 4 และ 𝑏 = 5 ในสมการเส้นกากับ จะได้ 𝑎

5
±1 = 𝑎
(𝑦−5)2 (𝑥−0)2
แต่ 𝑎 ต้องเป็ นบวก ดังนัน้ 𝑎 = 1 → จะได้สมการ H คือ 12

52
= 1
𝑦 2 −10𝑦+25 𝑥2
1
− 25 = 1
25𝑦 − 250𝑦 + 625 − 𝑥 2 = 25
2

−𝑥 2 + 25𝑦 2 − 250𝑦 + 600 = 0


𝑥 2 − 25𝑦 2 + 250𝑦 − 600 = 0

1 2 16 2
30. กำหนดให้วงรี 4 (𝑥 − ) +
4 3
𝑦 = 1

แนบในสำมเหลีย่ ม 𝐴𝐵𝐶 โดยที่ จุดยอด 𝐴, 𝐵 และ 𝐶 อยูบ่ นวงกลมหนึง่ หน่วย 𝑥 2 + 𝑦 2 = 1


ถ้ำจุดยอด 𝐴 มีพิกดั เป็ น (1, 0) แล้ว วงรีนสี ้ มั ผัสสำมเหลีย่ ม 𝐴𝐵𝐶 ที่จดุ ใดบ้ำง [สมำคม (พ.ย. 2562/3)]
1 7
ตอบ ( − 4 , 0 ) , ( 12 , ±
√15
12
)
1 2 16 𝐵
จัดรูปวงรี จะได้ 4 (𝑥 − 4) + 3
𝑦2 = 1
1 2 𝐹
(𝑥 − ) 𝑦2
4
+ 2 = 1 𝐷
1 2 √3
( )
2 ( ) 𝐴(1, 0)
4
𝐸
นำวงรีไปวำดร่วมกับวงกลมหนึง่ หน่วย
กำหนดให้วงรีสมั ผัสสำมเหลีย่ ม 𝐴𝐵𝐶 ที่จดุ 𝐷, 𝐸, 𝐹 จะวำดได้ดงั รูป 𝐶

จุด 𝐷 คือจุดยอดวงรีฝ่ ังซ้ำย → จะมีพิกดั คือ 𝐷( 14 − 12 , 0 ) = 𝐷( − 14 , 0 )


ั 𝑥 เท่ำกัน → จะได้พิกดั 𝑥 ของจุด 𝐵 = − 14 ด้วย
𝐵 กับ 𝐷 อยูใ่ นแนวตัง้ เดียวกัน จะมีพกิ ด
่ นวงกลมหนึง่ หน่วย → แทน 𝑥 = − 14 ในสมกำรวงกลมหนึง่ หน่วย เพื่อหำพิกดั 𝑦 :
𝐵 อยูบ 𝑥2 + 𝑦2 = 1
1 2
(− 4) + 𝑦 2 = 1
√15
𝑦 =± 4

แต่ 𝐵 อยูใ่ น 𝑄2 → จะได้พิกดั 𝐵 คือ ( − 14 , √15


4
)
√15
−0
จุด 𝐹(𝑎, 𝑏) อยูบ่ นแนวเส้นตรง 𝐴(1, 0) และ 𝐵( − 14 , √15
4
) ดังนัน
้ 𝑏−0
𝑎−1
= 4
1
− −1
4
√15
𝑏 = − (𝑎 − 1) …(∗)
5
1 2
และ 𝐹(𝑎, 𝑏) อยูบ่ นวงรี 4 (𝑥 − 4) +
16 2
3
𝑦 = 1
1 2 16
4 (𝑎 − 4
) + 3 𝑏2 = 1
2
1 2 16 √15
4 (𝑎 − 4
) + 3 (− 5 (𝑎 − 1)) = 1

𝑎 1 16
4 (𝑎2 − 2 + 16) + (𝑎2 − 2𝑎 + 1) = 1
2
5
2
คูณ 20 ตลอด
80𝑎 − 40𝑎 + 5 + 64𝑎 − 128𝑎 + 64 = 20
144𝑎2 − 168𝑎 + 49 = 0
(12𝑎 − 7)2 = 0
7
𝑎 = 12

.0123456789 √15 7 √15 7 √15


และ 𝐹(𝑎, 𝑏) อยูบ่ นวงรี 4 (𝑥 − 4) +
1 16 2
3
𝑦 = 1
1 2 16
4 (𝑎 − ) + 𝑏2 = 1
4 3
1 2 16 √15
2
คลังโจทย์ 21
4 (𝑎 − ) + (− (𝑎 − 1)) = 1
4 3 5

𝑎 1 16
4 (𝑎2 − 2 + 16) + (𝑎2 − 2𝑎 + 1) = 1
2
5
2
คูณ 20 ตลอด
80𝑎 − 40𝑎 + 5 + 64𝑎 − 128𝑎 + 64 = 20
144𝑎2 − 168𝑎 + 49 = 0
(12𝑎 − 7)2 = 0
7
𝑎 = 12
√15 7 7 √15
แทนใน (∗) จะได้ 𝑏 = − 5
(12 − 1) =
√15
12
→ จะได้พิกดั 𝐹 คือ ( 12 , 12 )
7
และจำกควำมสมมำตร จะได้พิกดั 𝐸 คือ √15
( 12 , − 12 )

. กำหนดให้ 𝑃 เป็ นพำรำโบลำรูปหนึง่ มีสมกำรเป็ น 𝑥 2 + 4𝑥 + 3𝑦 − 5 = 0 และพำรำโบลำ 𝑃 ตัดแกน 𝑥 ที่จดุ 𝐴


31.
และจุด 𝐵 ถ้ ำ 𝐸 เป็ นวงรี ทมี่ ีจดุ ยอดอยูท่ ี่จดุ 𝐴 และจุด 𝐵 และผลบวกของระยะทำงจำกจุดยอดของพำรำโบลำ 𝑃
ไปยังโฟกัสทังสองของวงรี
้ 𝐸 เท่ำกับ 2√13 หน่วย แล้ วสมกำรวงรี 𝐸 ตรงกับข้ อใดต่อไปนี ้
[PAT 1 (มี.ค. 2559/13)]
1. 𝑥 2 + 4𝑥 + 9𝑦 2 = 5 2. 3𝑥 2 + 12𝑥 + 5𝑦 2 = 15
3. 5𝑥 2 + 20𝑥 + 9𝑦 2 = 25 4. 6𝑥 2 + 24𝑥 + 25𝑦 2 = 30
5. 9𝑥 2 + 36𝑥 + 16𝑦 2 = 45
ตอบ 3
โจทย์ให้ จุดยอดของวงรี อยูท่ ี่ จุดตัดแกน 𝑥 ของพำรำโบลำ
หำจุดที่พำรำโบลำตัดแกน 𝑥 → แทน 𝑦 = 0 ในสมกำรพำรำโบลำ : 𝑥 2 + 4𝑥 + 3(0) − 5 = 0
𝑥 2 + 4𝑥 − 5 = 0
(𝑥 + 5)(𝑥 − 1) = 0
𝑥 = −5 , 1
ดังนัน้ จุดยอดของวงรี คือ (−5, 0) และ (1, 0) → เป็ นวงรี แนวนอน
จุดศูนย์กลำงวงรี จะอยูต่ รงกลำงระหว่ำงจุดยอด → ได้ จดุ ศูนย์กลำง (ℎ, 𝑘) = ( −5+1
2
, 0) = (−2, 0)
และถ้ ำให้ ระยะโฟกัสของวงรี = 𝑐 จะได้ จดุ โฟกัสทังสองคื
้ อ (−2 + 𝑐 , 0) และ (−2 − 𝑐 , 0)
โจทย์ให้ ผลบวกของระยะจำกจุดยอดพำรำโบลำ ไปยังโฟกัสทังสองของวงรี
้ = 2√13
หำจุดยอดพำรำโบลำ → จัดรูป 𝑥 2 + 4𝑥 + 3𝑦 − 5 = 0
𝑥 2 + 4𝑥 + 4 = −3𝑦 + 5 + 4
(𝑥 + 2)2 = −3(𝑦 − 3) → จะได้ จดุ ยอด คือ (−2, 3)
ดังนัน้ ระยะจำก (−2, 3) ไปยัง (−2 + 𝑐 , 0) บวก ระยะจำก (−2, 3) ไปยัง (−2 − 𝑐 , 0) เท่ำกับ 2√13
2 2
√((−2) − (−2 + 𝑐)) + (3 − 0)2 + √((−2) − (−2 − 𝑐)) + (3 − 0)2 = 2√13
√( −2 + 2 − 𝑐 )2 + 32 + √( −2 + 2 + 𝑐 )2 + 32 = 2√13
√ 𝑐2 + 9 +√ 𝑐2 + 9 = 2√13
2√𝑐 2 + 9 = 2√13
𝑐2 + 9 = 13
𝑐 = 2
โจทย์ถำมสมกำรวงรี → ต้ องหำ 𝑎, 𝑏
6
จำกจุดยอดวงรี (−5, 0) และ (1, 0) จะได้ แกนเอกยำว 1 − (−5) = 6 ดังนัน้ 𝑎 = 2
= 3
และจำก 𝑎2 − 𝑏2 = 𝑐 2
32 − 𝑏 2 = 22
5 = 𝑏2
(𝑥−ℎ)2 (𝑦−𝑘)2
แทน (ℎ, 𝑘) = (−2, 0) และ 𝑎 = 3 , 𝑏2 = 5 ในสมกำรวงรี แนวนอน 𝑎2
+ 𝑏2
= 1
(𝑥+2)2 (𝑦−0)2
32
+ 5
= 1
𝑥 2 +4𝑥+4 𝑦2
.0123456789 + = 1
โจทย์ถำมสมกำรวงรี → ต้ องหำ 𝑎, 𝑏
6
จำกจุดยอดวงรี (−5, 0) และ (1, 0) จะได้ แกนเอกยำว 1 − (−5) = 6 ดังนัน้ 𝑎 = 2
= 3
และจำก
22 คลั
2 2
งโจทย์ 𝑎2 − 𝑏2 = 𝑐 2
2

3 −𝑏 = 2
5 = 𝑏2
(𝑥−ℎ)2 (𝑦−𝑘)2
แทน (ℎ, 𝑘) = (−2, 0) และ 𝑎 = 3 , 𝑏2 = 5 ในสมกำรวงรี แนวนอน 𝑎2
+ 𝑏2
= 1
(𝑥+2)2 (𝑦−0)2
32
+ 5
= 1
𝑥 2 +4𝑥+4 𝑦2
+ = 1
9 5
2 2
5𝑥 + 20𝑥 + 20 + 9𝑦 = 45
5𝑥 2 + 20𝑥 + 9𝑦 2 = 25

32. ให้ ℝ แทนเซตของจำนวนจริง ให้ 𝑟1 = { (𝑥, 𝑦) ∈ ℝ × ℝ | 𝑦 ≥ 0 และ 𝑥 2 − 𝑦 2 − 2𝑥 + 4𝑦 ≤ 3 }


และ 𝑟2 = { (𝑥, 𝑦) ∈ ℝ × ℝ | 𝑦 ≥ 0 และ 𝑥 2 + 𝑦 2 − 2𝑥 ≤ 33 }
ถ้ ำโดเมนของเซต 𝑟1 ∩ 𝑟2 คือช่วงปิ ด [𝑎, 𝑏] เมื่อ 𝑎 และ 𝑏 เป็ นจำนวนจริ ง โดยที่ 𝑎 < 𝑏
แล้ วค่ำของ 𝑎2 + 𝑏2 เท่ำกับเท่ำใด [PAT 1 (มี.ค. 2559/41)]
ตอบ 20
จะวำดกรำฟ 𝑟1 กับ 𝑟2 แล้ วดูสว่ นซ้ อนทับเพื่อหำ 𝑟1 ∩ 𝑟2
วำดกรำฟอสมกำร ต้ องวำดกรำฟสมกำร (เปลีย่ นเครื่ องหมำยเป็ น เท่ำกับ) ก่อน แล้ วค่อยสุม่ จุด - แรเงำพื ้นที่
𝑥 2 − 𝑦 2 − 2𝑥 + 4𝑦 = 3 𝑥 2 + 𝑦 2 − 2𝑥 = 33
(𝑥 2 − 2𝑥) − (𝑦 2 − 4𝑦) = 3 (𝑥 2 − 2𝑥) + 𝑦 2 = 33
(𝑥 2 − 2𝑥 + 1) − (𝑦 2 − 4𝑦 + 4) = 3+1−4 (𝑥 2 − 2𝑥 + 1) + 𝑦 2 = 33 + 1
(𝑥 − 1)2 − (𝑦 − 2)2 = 0 (𝑥 − 1)2 + 𝑦 2 = 34
เป็ นสมกำรเส้ นกำกับ ของไฮเพอร์ โบลำ เป็ นสมกำรวงกลม ซึง่ จะวำดได้ ดงั รูป
2
(𝑥 − 1) − (𝑦 − 2) = 1 2

ซึง่ จะวำดได้ ดงั รูป (F)

(E)
(A)

(D) (B) (1, 0)


(1, 2)

(C)

สุม่ จุด - แรเงำพื ้นที่ → กรำฟแบ่งระนำบออกเป็ น 4 ส่วน → กรำฟแบ่งระนำบออกเป็ น 2 ส่วน


บริเวณ สุม่ จุด 𝑥 2 − 𝑦 2 − 2𝑥 + 4𝑦 ≤ 3 บริเวณ สุม่ จุด 𝑥 2 + 𝑦 2 − 2𝑥 ≤ 33
(A) (1, 3) 1 − 9 − 2 + 12 ≤ 3 (E) (0, 0) 0 + 0 − 0 ≤ 33
2 ≤ 3  0 ≤ 33 
(B) (2, 2) 4 − 4 − 4 + 8 ≤ 3 (F) (0, 10) 0 + 100 − 0 ≤ 33
4 ≤ 3 × 100 ≤ 33 ×
(C) (0, 0) 0 − 0 − 0 + 0 ≤ 3
0 ≤ 3  บริ เวณ (E) เท่ำนัน้ ที่ทำให้ อสมกำรเป็ นจริ ง
(D) (0, 2) 0 − 4 − 0 + 8 ≤ 3 ดังนัน้ จะได้ กรำฟ 𝑟2 เป็ นส่วนที่แรเงำดังรูป
4 ≤ 3 ×
(𝑟2 มี 𝑦 ≥ 0 ด้ วย → เหลือเฉพำะส่วนที่อยูเ่ หนือ
บริ เวณ (A) กับ (C) เท่ำนัน้ ที่ทำให้ อสมกำรเป็ นจริ ง
แกน Y)
ดังนัน้ จะได้ กรำฟ 𝑟1 เป็ นส่วนที่แรเงำดังรูป
(𝑟1 มี 𝑦 ≥ 0 ด้ วย → เหลือเฉพำะส่วนที่อยูเ่ หนือแกน Y)

(1, 0)
(1, 2)

.0123456789
(A)

(D) (B) (1, 0)


(1, 2)

(C)
คลังโจทย์ 23

สุม่ จุด - แรเงำพื ้นที่ → กรำฟแบ่งระนำบออกเป็ น 4 ส่วน → กรำฟแบ่งระนำบออกเป็ น 2 ส่วน


บริเวณ สุม่ จุด 𝑥 2 − 𝑦 2 − 2𝑥 + 4𝑦 ≤ 3 บริเวณ สุม่ จุด 𝑥 2 + 𝑦 2 − 2𝑥 ≤ 33
(A) (1, 3) 1 − 9 − 2 + 12 ≤ 3 (E) (0, 0) 0 + 0 − 0 ≤ 33
2 ≤ 3  0 ≤ 33 
(B) (2, 2) 4 − 4 − 4 + 8 ≤ 3 (F) (0, 10) 0 + 100 − 0 ≤ 33
4 ≤ 3 × 100 ≤ 33 ×
(C) (0, 0) 0 − 0 − 0 + 0 ≤ 3
0 ≤ 3  บริ เวณ (E) เท่ำนัน้ ที่ทำให้ อสมกำรเป็ นจริ ง
(D) (0, 2) 0 − 4 − 0 + 8 ≤ 3 ดังนัน้ จะได้ กรำฟ 𝑟2 เป็ นส่วนที่แรเงำดังรูป
4 ≤ 3 ×
(𝑟2 มี 𝑦 ≥ 0 ด้ วย → เหลือเฉพำะส่วนที่อยูเ่ หนือ
บริ เวณ (A) กับ (C) เท่ำนัน้ ที่ทำให้ อสมกำรเป็ นจริ ง
แกน Y)
ดังนัน้ จะได้ กรำฟ 𝑟1 เป็ นส่วนที่แรเงำดังรูป
(𝑟1 มี 𝑦 ≥ 0 ด้ วย → เหลือเฉพำะส่วนที่อยูเ่ หนือแกน Y)

(1, 0)
(1, 2)

ดังนัน้ จะได้ 𝑟1 ∩ 𝑟2 ดังรูป K L

หำโดเมน ต้ องหำพิกดั 𝑥 ของ K, L, M, N M N


(ถ้ ำวำดรูปได้ สดั ส่วน จะเห็นว่ำหำแค่ K กับ L ก็พอ)

หำ M, N → หำจุดตัดแกน X ของสมกำรกรำฟ 𝑟1 : 𝑥 2 − 𝑦 2 − 2𝑥 + 4𝑦 = 3
(แทน 𝑦 = 0) 𝑥 2 − 0 − 2𝑥 + 0 = 3
𝑥 2 − 2𝑥 − 3 = 0
(𝑥 + 1)(𝑥 − 3) = 0
𝑥 = −1 , 3
หำ K, L → หำจุดตัดของสมกำรกรำฟ 𝑟1 กับ 𝑟2 : 𝑥 2 − 𝑦 2 − 2𝑥 + 4𝑦 = 3 …(1)
𝑥 2 + 𝑦 2 − 2𝑥 = 33 …(2)
(2) − (1) : 2𝑦 2 − 4𝑦 = 30
2
𝑦 − 2𝑦 = 15
𝑦 2 − 2𝑦 − 15 = 0
(𝑦 + 3)(𝑦 − 5) = 0
𝑦 = −3 , 5 (𝑟2 ต้ องมี 𝑦 ≥ 0)
แทน 𝑦 = 5 ใน (2) : 𝑥 2 + 52 − 2𝑥 = 33
𝑥 2 − 2𝑥 − 8 = 0
(𝑥 + 2)(𝑥 − 4) = 0
𝑥 = −2, 4
K L จำกพิกดั 𝑥 ของ K, L, M, N จะวำดได้ ดงั รูป
ซึง่ จะเห็นว่ำส่วนที่แรเงำ คลุมค่ำทำงแกน X ตังแต่
้ −2 ถึง 4
ดังนัน้ โดเมน ของ 𝑟1 ∩ 𝑟2 = [−2, 4]
M N จะได้ 𝑎2 + 𝑏2 = (−2)2 + 42 = 20
−2 −1 3 4

.0123456789
24 คลังโจทย์

33. ให้ 𝐶 เป็ นวงกลมมีจดุ ศูนย์กลำงอยูท่ ี่จดุ 𝐴 เส้ นตรง 3𝑥 + 4𝑦 = 35 สัมผัสวงกลมที่จดุ (5, 5) ถ้ ำไฮเพอร์ โบลำ
รูปหนึง่ มีแกนตำมขวำงขนำนกับแกน 𝑦 มีจดุ ศูนย์กลำงอยูท่ ี่จดุ 𝐴 ระยะระหว่ำงจุดศูนย์กลำงกับโฟกัสจุดหนึง่ เป็ น
สองเท่ำของรัศมีของวงกลม 𝐶 และเส้ นตรง 3𝑥 − 4𝑦 = 2 เป็ นเส้ นกำกับเส้ นหนึง่ แล้ วสมกำรไฮเพอร์ โบลำรูปนี ้
ตรงกับข้ อใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (มี.ค. 2559/11)]
1. 9𝑥 2 − 16𝑦 2 + 32𝑥 + 36𝑦 + 596 = 0 2. 9𝑥 2 − 16𝑦 2 − 32𝑥 − 36𝑦 + 596 = 0
3. 9𝑥 2 − 16𝑦 2 + 32𝑥 + 36𝑦 − 596 = 0 4. 9𝑥 2 − 16𝑦 2 − 36𝑥 − 32𝑦 + 596 = 0
5. 9𝑥 2 − 16𝑦 2 − 36𝑥 + 32𝑦 + 596 = 0
ตอบ 5
ให้ วงกลมมีจดุ ศูนย์กลำงที่ 𝐴(ℎ, 𝑘) จะวำดได้ ดงั รูป
จัดรูปเส้ นตรง 3𝑥 + 4𝑦 = 35
(ℎ, 𝑘) 3 35 3
𝑦 = − 4 𝑥 + 4 → ควำมชัน = − 4
จำก รัศมี ⊥ เส้ นสัมผัส จะได้ ควำมชันรัศมี × ควำมชันเส้ นสัมผัส = −1
(5, 5) 𝑘−5 3
× − = −1
ℎ−5 4
3𝑥 + 4𝑦 = 35 3𝑘 − 15 = 4ℎ − 20
5 = 4ℎ − 3𝑘
4ℎ − 3𝑘 = 5 …(1)
โจทย์ให้ 𝐴(ℎ, 𝑘) เป็ นจุดศูนย์กลำงของไฮเพอร์ โบลำด้ วย และโจทย์ให้ เส้ นกำกับเส้ นหนึง่ คือ 3𝑥 − 4𝑦 = 2
เนื่องจำกเส้ นกำกับจะผ่ำนจุดศูนย์กลำงเสมอ ดังนัน้ 𝐴(ℎ, 𝑘) ต้ องแทนใน 3𝑥 − 4𝑦 = 2 แล้ วเป็ นจริ ง
3ℎ − 4𝑘 = 2 …(2)
3(1) − 4(2) : 7𝑘 = 7
𝑘 = 1
(5, 5)
แปลว่ำรูปต้ องเป็ นแบบนี ้ แทนใน (2) : 3ℎ − 4(1) = 2
ℎ = 2
(แต่ก็ยงั ทำแบบเดิมได้ อยู)่ (2, 1)

ดังนัน้ วงกลม มีจดุ ศูนย์กลำง 𝐴(2, 1) และรัศมี = ระยะจำก (2, 1) ไป (5, 5)


= √(5 − 2)2 + (5 − 1)2 = √32 + 42 = 5
จะได้ ไฮเพอร์ โบลำ มีจดุ ศูนย์กลำง (ℎ, 𝑘) = (2, 1) และระยะโฟกัส 𝑐 = สองเท่ำรัศมี = 2(5) = 10
(𝑦−𝑘)2 (𝑥−ℎ)2
โจทย์ให้ แกนตำมขวำงขนำนแกน 𝑦 → เป็ นไฮเพอร์ โบลำแนวตัง้ มีรูปสมกำรคือ 𝑎2

𝑏2
= 1
เนื่องจำกเส้ นกำกับ 3𝑥 − 4𝑦 = 2 มีควำมชัน = 34 → จะได้ 𝑎𝑏 = 34 ดังรูป
3 1 3𝑏
4
𝑥 −2 =𝑦 𝑎 = ควำมชัน = 𝑎𝑏
4 𝑎
𝑏
และจำก 𝑎2 + 𝑏 2 = 𝑐 2 = 102
3𝑏 2
( 4 ) + 𝑏2 = 102
25𝑏2
16
= 102
5𝑏
4
= 10
3(8)
𝑏 = 8 → จะได้ 𝑎 = 4
= 6
(𝑦−1)2 (𝑥−2)2
แทนค่ำ ℎ, 𝑘, 𝑎, 𝑏 จะได้ สมกำรไฮเพอร์ โบลำคือ − = 1
62 82
𝑦 2 −2𝑦+1 𝑥 2 −4𝑥+4
− = 1
62 82
42 (𝑦 2 − 2𝑦 + 1) − 3 2 (𝑥 2
− 4𝑥 + 4) = 242
16𝑦 2 − 32𝑦 + 16 − 9𝑥 2 + 36𝑥 − 36 = 576
−9𝑥 2 + 16𝑦 2 + 36𝑥 − 32𝑦 − 596 = 0
9𝑥 2 − 16𝑦 2 − 36𝑥 + 32𝑦 + 596 = 0
.0123456789
4
25𝑏2
16
= 102
5𝑏
4
= 10 คลังโจทย์ 25
3(8)
𝑏 = 8 → จะได้ 𝑎 = 4 = 6
(𝑦−1)2 (𝑥−2)2
แทนค่ำ ℎ, 𝑘, 𝑎, 𝑏 จะได้ สมกำรไฮเพอร์ โบลำคือ − = 1
62 82
𝑦 2 −2𝑦+1 𝑥 2 −4𝑥+4
− = 1
62 82
2 (𝑦 2 2 (𝑥 2
4 − 2𝑦 + 1) − 3 − 4𝑥 + 4) = 242
16𝑦 2 − 32𝑦 + 16 − 9𝑥 2 + 36𝑥 − 36 = 576
−9𝑥 2 + 16𝑦 2 + 36𝑥 − 32𝑦 − 596 = 0
9𝑥 2 − 16𝑦 2 − 36𝑥 + 32𝑦 + 596 = 0

34. กำหนดให้ P เป็ นพำรำโบลำมีสมกำรเป็ น 𝑦 = 𝑎𝑥 2 + 𝑏𝑥 + 5 เมื่อ 𝑎 > 0 และ 𝑏 < 0 ถ้ำระยะทำงระหว่ำง


โฟกัสกับจุดยอดของ P เท่ำกับ 12 หน่วย และเส้นตรง 2𝑥 − 𝑦 − 3 = 0 สัมผัสกับ P ที่จดุ C แล้ว ระยะทำง
ระหว่ำงจุดยอดของ P และจุด C ตรงกับข้อใดต่อไปนี ้ [PAT 1 (ต.ค. 2559/19)]
1. √2 2. √5 3. √6 4. √8 5. √13
ตอบ 4
จำกรูปสมกำร 𝑦 = 𝑎𝑥 2 + 𝑏𝑥 + 5 และ 𝑎 > 0 จะได้วำ่ P เป็ นพำรำโบลำหงำย
ดังนัน้ จะได้สมกำรของ P ในรูป (𝑥 − ℎ)2 = 4𝑐(𝑦 − 𝑘) เมื่อ 𝑐 > 0
1
(𝑥 − ℎ)2 = 4 ( ) (𝑦 − 𝑘) โจทย์ให้ระยะโฟกัส = 12
2
(𝑥 − ℎ)2 = 2 (𝑦 − 𝑘)
และจำก 𝑦 = 𝑎𝑥 2 + 𝑏𝑥 + 5 จะเห็นว่ำ เมื่อ 𝑥 = 0 จะได้ 𝑦 = 𝑎(02 ) + 𝑏(0) + 5 = 5
ดังนัน้ (0, 5) จะต้องสอดคล้องกับสมกำรของ P ในรูป (𝑥 − ℎ)2 = 2(𝑦 − 𝑘) ด้วย
(0 − ℎ)2 = 2(5 − 𝑘)
ℎ2 = 10 − 2𝑘 …(∗)
เนื่องจำก P สัมผัสกับเส้นตรง 2𝑥 − 𝑦 − 3 = 0 ที่ C แสดงว่ำถ้ำแก้ระบบสมกำร P กับเส้นตรง จะต้องได้คำตอบเดียว
2𝑥 −3=𝑦
(𝑥 − ℎ)2 = 2( 𝑦 − 𝑘)
แทนในสมกำรของ P (𝑥 − ℎ)2 = 2(2𝑥 − 3 − 𝑘)
𝑥 − 2𝑥ℎ + ℎ2
2
= 4𝑥 − 6 − 2𝑘
จำก (∗) 𝑥 2 − 2𝑥ℎ + 10 − 2𝑘 = 4𝑥 − 6 − 2𝑘
𝑥 2 − 2𝑥ℎ − 4𝑥 + 16 = 0
𝑥 2 − (2ℎ + 4)𝑥 + 16 = 0 …(∗∗)

สมกำร 𝑎𝑥 2 + 𝑏𝑥 + 𝑐 = 0 ซึง่ จะมีคำตอบเดียว เมื่อ 2


(−(2ℎ + 4)) − 4(1)(16) = 0
(2ℎ + 4)2 = 64
จะมีคำตอบเดียวเมื่อ 𝑏 2 − 4𝑎𝑐 = 0
2ℎ + 4 = 8 , −8
ℎ = 2 , −6
𝑏 4𝑎𝑐−𝑏 𝑏2
แต่จำกสูตรจุดยอดของพำรำโบลำ 𝑦 = 𝑎𝑥 2 + 𝑏𝑥 + 𝑐 คือ (− 2𝑎 , 4𝑎 ) ดังนัน ้ ℎ = − 2𝑎
แต่โจทย์ให้ 𝑎 เป็ นบวก และ 𝑏 เป็ นลบ ดังนัน้ ℎ = − 2(ลบ
บวก)
= บวก ดังนัน้ ℎ = 2 , −6
แทน ℎ = 2 ใน (∗∗) เพื่อหำจุดสัมผัส C ต่อ จะได้
แทน 𝑥 = 4 ในสมกำรเส้นตรง
𝑥 2 − (2(2) + 4)𝑥 + 16 = 0
𝑥2 − 8 𝑥 + 16 = 0 2𝑥 − 𝑦 − 3 = 0
(𝑥 − 4)2 = 0 2(4) − 𝑦 − 3 = 0
𝑥 = 4 5 = 𝑦 จะได้จดุ สัมผัสคือ C(4, 5)

แทน ℎ=2 ใน (∗) เพื่อหำ 𝑘 จะได้ 22 = 10 − 2𝑘


2𝑘 = 6
𝑘 = 3 จะได้จดุ ยอดของ P คือ (2, 3)
ดังนัน้ ระยะระหว่ำงจุดยอด (2, 3) และจุด C(4, 5) = √(4 − 2)2 + (5 − 3)2 = √4 + 4 = √8

.0123456789

You might also like