แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุล(intermolecular force)

ความแข็งแรงของแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลส่งผลต่อ ______________________________

ประเภทของแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุล

1. Dispersion force, London force

1
ความแข็งแรงของแรงลอนดอน ขึน้ อยู่กับ _________________________________________________________________

2. ______________________________________

• คือแรงยึดเหนี่ยวระหว่างขั้วของโมเลกุลโคเวเลนต์ที่มีขวั้
• ________________________________________________________________
_________________________________________________________________________________________

• ความแข็งแรงขึน้ กับ

2
___________ __________

เปรียบเทียบจุดเดือดสารต่อไปนี ้

1.

2.

3.

4.

3
3. พันธะไฮโดรเจน

คือแรงดึงดูดระหว่างโมเลกุลที่เกิดจากอะตอมไฮโดรเจนกับอะตอมของธาตุที่มขี นาดเล็กและมีEN สูง คือ F, O, N

จงวาดภาพการเกิดพันธะไฮโดรเจน ใน __________________________________________ พร้อมอธิบายแนวโน้มจุดเดือด

______ _________ ________

4
2.

3.

4.

8
5.

จากกราฟด้านบน จงอธิบายแนวโน้มจุดเดือดของสารประกอบไฮไดรด์ของธาตุตอ่ ไปนี้

1. ______

2. _______

3. ______
สารประกอบที่มีแรงยึดเหนี่ยวเป็นแรงลอนดอน อาจมีจดุ เดือดสูงกว่าสารที่มีพนั ธะไฮโดรเจนได้ ถ้า_____________________
ตัวอย่าง สารที่มีเป็นแรงลอนดอนและจุดเดือดมากกว่า H2O คือ __________________________________

9
สารโคเวเลนต์โครงผลึกร่างตาข่าย
คือสารที่อะตอมสร้า พันธะโคเวเลนต์ยึดเหนี่ยวกันทั้ สามมิติเกิดเป็นโคร สร้า คล้ายตาข่าย ตัวอย่า
เพชร
• C แต่ละอะตอม ะสร้า
พันธะ โคเวเลนต์ นิด________
กับ C ตัวอืน่ ๆอีก 4 อะตอม
• __________
• ความยาวพันธะ ___________
• ______________________
• เพ รมีความแข็ มาก เพราะ
การ ัดอะตอมในผลึกเพ รคล้าย
ตาข่ายโย กัน 3 มิติ
• ุดหลอมเหลว 3550 C
แกรไฟต์
• C แต่ละอะตอม ะสร้า พันธะโคเวเลนต์
นิด___________________________________ กับ C ตัวอืน่ ๆ อีก 3
อะตอมเป็น ั้นๆ
• _________________________
และ ะนำได้ดีเ พาะภายใน นั้ เดียวกัน
• ความยาวพันธะระหว่า C-C ภายใน ั้น = 140 pm
่ึ เป็นความยาวพันธะก้ำกึ่ ระหว่า พันธะเดีย่ ว C-C (154 pm) และ
พันธะคู่ C=C (134 pm)
• _______________________________
• การที่แต่ละ ั้นในแกรไฟต์อยูห่ ่า กัน 340 pm ่ึ มีค่ามากกว่า
ความยาวขอ พันธะโคเวเลนต์ระหว่า คาร์บอนแสด ว่าระหว่า ั้นไม่ได้
สร้า พันธะโคเวเลนต์กัน และมีแร ยึดเหนี่ยวไม่แข็ แร เท่าภายใน ั้น
แกรไฟต์ ึ เลื่อนไถลไปตาม ั้นได้ ่าย ทำให้มสี มบัติในการหล่อลื่นได้ดี
ใ ้ทำไส้ดินสอดำและเป็นสารหล่อลื่น
• ุดหลอมเหลว 3773 C
2
ซิลิคอนไดออกไซด์(SiO2) หรือ __________________

• อะตอมขอ คาร์บอน ดั เรีย เหมือนในผลึกเพ ร

แต่มีออก ิเ นคั่นอยู่ระหว่า อะตอมขอ ลิ ิคอนในแต่ละคู่
• มี ุดหลอมเหลว 1730 C
• มีความแข็ สู ใ ้เป็นวัตถุดิบในการทำแก้ว

สารประกอบ นิดอื่นขอ ิลิคอนที่มีโคร สร้า เป็นโคร ผลึกร่า ตาข่าย ได้แก่ ____________________

______________ มี ุดหลอมเหลวสู ถึ 2700 C และมีความแข็ มากใ ้ทำเครื่อ บด เครื่อ โม่ หินลับมีด
เปรียบเทียบโมเลกุลโคเวเลนต์กบั สารโคเวเลนต์โครงผลึกร่างตาข่าย
ข้อเปรียบเทียบ โมเลกุลโคเวเลนต์ สารโคเวเลนต์โครงผลึกร่างตาข่าย

3
1.จงเปรียบเทียบจุดเดือดต่อไปนี้
1)______________________________________________________________________________

2) ________________________________________________________________________________

3) ________________________________________________________________________________

2. จงระบุ ____________________ของ ารต่อไปนี้

1. H2S ………………………..2._______ ………………………..3. C2H6 ……………………………. 4. _____ ………………………..

เรียงการเพิ่มขึ้นของจุดเดือดของ ารต่อไปนี้ ………………………………………………………………………………………………………..........

3. ข้อใดต่อไปนี้กล่าวถูกต้องเกี่ยวกับคุณ มบัติของเพชร
ก. คาร์บอนทุกอะตอมในเพชรยึดเ นี่ยวกันด้วยพันธะเดี่ยว
ข. คาร์บอนยึดเ นี่ยวของเพชรเป็นรูปทรง กเ ลี่ยมต่อเนื่องกันเป็นโครงร่างผลึกแบบตาข่าย จึงทำใ ้
เพชรมีความแข็งมาก
ค. พันธะที่เกิดในโครง ร้างของเพชรเป็นพันธะโคเวเลนต์
1. ก 2. ค 3. ก และ ค
4. ก และ ข 5. ข และ ค

4
4. ธาตุคาร์บอนมีหลายรูป เปรียบเทียบสมบัติรูปต่า ๆ ขอ คาร์บอนในหัวข้อต่อไปนี้

หัวข้อเปรียบเทียบ

5. จงอธิบายเ ตุผลการใช้งานต่างๆต่อไปนี้

5.1 _________________

5.2 ______________________________________

5.3 _______________________________________

5.4 _______________________________________