การบ้ านเคมี เรื- อง การจําแนกสาร

1. กําหนดสารต่อไปนี 2
ก. นํ 2า ข. ปรอท ค. อากาศ ง. แมกนีเซียมออกไซด์
จ. ไฮโดรเจน ฉ. คลอรี น ช. คอปเปอร์ (II) ไฮดรอกไซด์ในนํ 2า
ซ. แอลกอฮอล์ ฌ. นํ 2าโซดา ญ. นํ 2าแป้ง
จงตอบคําถามต่อไปนี 2
1.1 ธาตุ ได้ แก่ตวั อักษรใดบ้ าง _________________________________________________________
จวบ
กคช
1.2 สารประกอบ ได้ แก่ตวั อักษรใดบ้ าง __________________________________________________
ณ ซ
1.3 สารเนื 2อผสม ได้ แก่ตวั อักษรใดบ้ าง __________________________________________________
ฌ
1.4 สารละลาย ได้ แก่ตวั อักษรใดบ้ าง ___________________________________________________

2. สาร A, B, C, D และ E สามารถแทนได้ ด้วยสารใดต่อไปนี 2

แบเรี ยมซัลเฟต เพชร เอทานอล ไอโอดีน
ตะกัวa โซเดียมคลอไรด์ นํ 2าตาล กํามะถัน
ถ้ ากําหนดสมบัตขิ องสาร ดังนี 2
สถานะทีa การนําไฟฟ้าของสารเมืaอ
สาร การละลายนํ 2า
อุณหภูมิห้อง ละลายนํ 2า หลอมเหลว
A ของแข็ง ละลาย นํา นํา
B ของเหลว ละลาย ไม่นํา ไม่นํา
C ของแข็ง ไม่ละลาย - นํา
D ของแข็ง ไม่ละลาย - ไม่นํา
E ของแข็ง ละลาย ไม่นํา ไม่นํา (แยกสลาย)

โซเ ยมคลอ ไร
2.1 A คือ ______________________________________________________________________
2.2 B คือ ______________________________________________________________________
เตาล
2.3 C คือ ______________________________________________________________________
มะ น
2.4 D คือ ______________________________________________________________________
ตะ ว
ไอโอ น
2.5 E คือ ______________________________________________________________________

1
CHEMISTRY TO M.4
By…Kru P’PoP


3. กําหนดสมบัตบิ างประการของสาร X และ Y ดังนี 2

สาร จุดหลอมเหลว (oC) จุดเดือด (oC)
X 3 171
Y -1 60
นําสาร X และ Y ปริ มาณเท่ากัน มาผสมกันเป็ นสารละลาย A
จงตอบคําถามต่อไปนึ 2
3.1 สารละลาย A ควรมีสถานะ เป็ น ______________________________
ของเหลว
ดหลอมเหลว า
เพราะ ______________________________________________________
3.2 ถ้ านําสารละลาย A ไปทดลองหาอุณหภูมิขณะเดือด จนกระทังa Y แยกออกหมด จงเขียนกราฟ
แสดงความสัมพันธ์ระหว่างอุณหภูมิ และเวลาของการทดลองของสาร A

4. กําหนดตารางแสดงสมบัตขิ องสาร
ธาตุ จุดหลอมเหลว (oC) จุดเดือด (oC) การนําไฟฟ้ า
A -7 58 ไม่นํา
B -101 -35 ไม่นํา
C -38 357 นําได้ ดี
D 114 183 ไม่นํา
E 1083 2660 นําได้ ดี

จงเลือกธาตุ A ถึงธาตุ E จากตาราง เพืaอตอบคําถามด้ านล่าง

E
4.1 ธาตุทีaสามารถดึงเป็ นเส้ นแล้ วนําไฟฟ้าได้ คือ __________________________________________
4.2 ธาตุทีaเป็ นแก๊ สทีaอณ
ุ หภูมิห้อง คือ ___________________________________________________
B
4.3 ธาตุทีaเป็ นโลหะ และมีสถานะเป็ นของเหลวทีaอณ c
ุ หภูมิห้อง คือ ____________________________
4.4 ธาตุทีaเป็ นของแข็ง ประเภทอโลหะทีaอณ D
ุ หภูมิห้อง คือ ___________________________________

2
CHEMISTRY TO M.4
By…Kru P’PoP


กําหนดสาร A, B, C, D และ E มีองค์ประกอบดังต่อไปนี 2

A เป็ นสารบริ สทุ ธิq B เป็ นสารประกอบ
C เป็ นธาตุผสมกัน D เป็ นสารประกอบทีaผสมกัน
E เป็ นของผสมระหว่างธาตุ และสารประกอบ
5. สารทีaกําหนดให้ ตอ่ ไปนี 2มีองค์ประกอบตรงกับสารใด
5.1 ทองเหลือง __________________________________________________
C
D
5.2 นํ 2าตาลทราย ________________________________________________
5.3 อากาศ _____________________________________________________
E
5.4 นํ 2าส้ มสายชู _________________________________________________
5.5 เพชร _______________________________________________________
A
6. กําหนดสมบัตขิ องธาตุตา่ ง ๆ ณ อุณหภูมิ 25 oC ความดัน 1 atm ดังตาราง
ความแข็ง ความสามารถ
ลักษณะที-อุณหภูมิ จุดหลอมเหลว
ธาตุ หรื อความ ในการนํา o จุดเดือด (oC)
ปกติ ( C)
เหนียว ไฟฟ้ า
A ของแข็งสีนํ 2าตาล เปราะ นําไฟฟ้า 2150 2200
B ของแข็งสีเทาดํา เหนียว นําไฟฟ้า 1535 2750
C ของแข็งสีเหลือง เปราะ ไม่นําไฟฟ้า 113 445
D ก๊ าซไม่มีสี - ไม่นําไฟฟ้า -259 -253
E ของเหลว - ไม่นําไฟฟ้า -7.2 58.87
H ของแข็งสีเงินวาว เหนียว นําไฟฟ้า 98 892
I ของแข็งสีเงินวาว เหนียว นําไฟฟ้า 838 1490
J ของเหลวสีเงินวาว - นําไฟฟ้า -38.87 356.58
K ก๊ าซไม่มีสี - ไม่นําไฟฟ้า -218 -183

BHI
6.1 ธาตุโลหะ ได้ แก่ ______________________________________
6.2 ธาตุอโลหะ ได้ แก่ _____________________________________
ACj
6.3 ธาตุกงึa โลหะ ได้ แก่ ____________________________________
PEK

3
CHEMISTRY TO M.4
By…Kru P’PoP


7. กําหนดตารางแสดงสมบัตบิ างประการของสารเป็ นดังนี 2

สมบัติของสาร
สาร
สถานะ สี การละลายนํ 2า ความเป็ นกรด - เบสของสารละลาย
R ก๊ าซ เขียวอ่อน ละลายเล็กน้ อย กรด
T ของเหลว ไม่มีสี ละลาย กลาง
U ก๊ าซ ไม่มีสี ไม่ละลาย -
V ของแข็ง ขาว ละลาย กลาง
W ของเหลว ไม่มีสี ไม่ละลาย -
X ของแข็ง ละลาย ละลาย กรด
Y ของแข็ง ไม่ละลาย ไม่ละลาย -
Z ของแข็ง ไม่ละลาย ไม่ละลาย -

(หมายเหตุ : R, T, U, V, W, X, Y และ Z เป็ นสัญลักษณ์สมมติของธาตุ)

จงตอบคําถามต่อไปนี 2
7.1 ของเหลว T และ W ใส่ในขวดทีaไม่มีฉลากปิ ดไว้ นักเรี ยนจะทราบได้ อย่างไรว่าของเหลวใดเป็ น T
ไปละลาย แ วกรอง
และของเหลวใดเป็ น W ______________________________________________________________
7.2 ให้ นกั เรี ยนทดลองจัดสารเป็ นหมวดหมู่ โดยใช้ เกณฑ์ของนักเรี ยนเอง
ตอบ
RU TW VXYZ ดเ ยงตามสถานะ

4
CHEMISTRY TO M.4
By…Kru P’PoP


8. กําหนดแผนภาพ โดยใช้ ⚪ แทนอะตอมของออกซิเจน และ ⚫ แทนอะตอมของไฮโดรเจน

สารทีaกําหนดให้ ตอ่ ไปนี 2 แทนได้ ด้วยแผนภาพใด

8.1 ออกซิเจนอะตอม และไฮโดรเจนอะตอม ____________________________________
ก
8.2 ออกซิเจนโมเลกุล และไฮโดรเจนโมเลกุล ____________________________________
ง
8.3 โมเลกุลของนํ 2า _________________________________________________________
ข
8.4 ออกซิเจนโมเลกุล และโมเลกุลนํ 2า __________________________________________
ค

9. A และ B มีสถานะเป็ นของเหลว นํามาอย่างละ 20 cm3 ทําการทดลองให้ ความร้ อนทุก ๆ 30 วินาที

จนครบ 5 นาที บันทึกผลการทดลองดังตาราง
อุณหภูมิ (oC) ณ วินาที
สาร
0 30 60 90 120 150 180 210 240 270 300
A 32 43 61 75 90 94.5 95 95 95 95 95
B 30 36 44 56 63 70 75 78 80 82 85
จงตอบคําถามต่อไปนี 2
9.1 ของเหลวบริ สทุ ธิq คือ ______________________
A B
สารละลาย คือ ________________________
9.2 การเปลียa นแปลงของสารบริ สทุ ธิqแตกต่างจากสารละลายอย่างไร
ตอบ สารบ ท คง

5
CHEMISTRY TO M.4
By…Kru P’PoP


10. จงกาเครืa องหมาย ✓ ลงหน้ าข้ อทีaถกู และกาเครืa องหมาย ✕ ลงหน้ าข้ อทีaผิด
× 10.1 ธาตุ และสารประกอบ เป็ นสารเนื 2อเดียวเช่นเดียวกับสารละลาย
________
________ 10.2 สารประกอบ และสารละลายเป็ นของผสม เพราะต่างก็มีองค์ประกอบมากกว่า 1 ชนิด
________ 10.3 สารเนื 2อเดียวทุกชนิดเป็ นสารละลาย ถึงแม้ วา่ สารละลายจะเป็ นของผสมก็ตาม
________ 10.4 ดีบกุ พลวง ทองแดง จัดเป็ นโลหะ แต่กํามะถัน ฟอสฟอรัส จัดเป็ นอโลหะ
________ 10.5 สารประกอบทุกชนิด เป็ นสารเนื 2อเดียว แต่สารเนื 2อเดียวทุกชนิดไม่จําเป็ นต้ องเป็ นสารประกอบ
________ 10.6 โซเดียมอะมัลกัม เป็ นสารละลาย โดยมีโซเดียมเป็ นตัวถูกละลาย แต่ปรอทเป็ นตัวทําละลาย
k
________ 10.7 ธาตุเป็ นสารบริ สทุ ธิq เพราะเป็ นสารเนื 2อเดียว ส่วนสารประกอบเป็ นสารเนื 2อผสม เพราะมีธาตุ
องค์ประกอบมากกว่า 1 ชนิด
r 10.8 ก๊ าซหุงต้ ม นํ 2ามันปิ โตรเลียม เป็ นสารละลาย ส่วนดินปื น ซีเมนต์ เป็ นสารเนื 2อผสม
________

11. จงบอกข้ อแตกต่างของของเหลวทีaเป็ นสารคอลลอยด์ และสารละลายมา 2 ข้ อ

ตอบ
คอลลอยศ
จะเ ด นคอ ลเอฟแปก
จะ นก าสารละลาย

12. จงบอกวิธีทดสอบว่าของเหลว 2 ชนิด คือนํ 2านม และสารละลายด่างทับทิม

ตอบ
มากรอง านกระดาษเนอเปน

6
CHEMISTRY TO M.4
By…Kru P’PoP


13. ของเหลว A, B, C นําไปทดลองกรองผ่านกระดาษกรอง และกระดาษเซลโลเฟน ได้ ผลการทดลองดังนี 2

ผลการทดลองเมืaอใช้
สาร สี ลักษณะเนื 2อสาร
กระดาษกรอง แผ่นเซลโลเฟน
มีตะกอนดําบนกระดาษกรอง ของเหลวทีaผา่ นแผ่น
A ดํา เนื 2อผสม
และได้ ของเหลวใสไม่มีสี เซลโลเฟนใส
ไม่มีสารบนกระดาษกรอง และ ของเหลวทีaผา่ นแผ่น
B ขาว เนื 2อเดียว
ได้ ของเหลวสีขาวขุน่ เซลโลเฟนใส
ไม่มีสารติดบนกระดาษกรอง ของเหลวทีaผา่ นแผ่น
C ฟ่ า เนื 2อเดียว
และได้ ของเหลวสีฟา้ เซลโลเฟนสีฟา้ เหมือนเดิม

จงตอบคําถามต่อไปนี 2
13.1 จงเรี ยงลําดับขนาดอนุภาคในตัวกลางของสารจากใหญ่ไปเล็ก
ตอบ
B CIA
13.2 สารชนิดใดเกิดปรากฏการทินดอลล์ได้
ตอบ
B
13.3 สารชนิดใดเป็ นสารประเภทเดียวกับนํ 2าส้ มสายชู
ตอบ
C

7
CHEMISTRY TO M.4
By…Kru P’PoP


14. ทําการทดลองผ่านลําแสงเข้ าไปในสารตัวอย่าง 6 ชนิด ซึงa มีสถานะเป็ นของเหลว คือ สารละลายคอป

เปอร์ (II) ซัลเฟต, นมสด สาร A, B, C และ D ได้ ผลการทดลองดังนี 2
สารตัวอย่าง ผลการผ่านลําแสง
สารละลายคอปเปอร์ (II) ซัลเฟต มองไม่เห็นลําแสง
นํ 2านมสด มองเห็นลําแสง
A มองไม่เห็นลําแสง
B มองเห็นลําแสง
C มองไม่เห็นลําแสง
D มองเห็นลําแสง

จงตอบคําถามต่อไปนี 2
นมสด B D
14.1 สารทีaเป็ นคอลลอยด์ ได้ แก่ _____________________________________________
คอปเปอ I ลเฟต
สารทีaเป็ นสารละลาย ได้ แก่ _____________________________________________
C A สารละลาย
นมสด BD
14.2 สารทีaเกิดปรากฏการณ์ทินดอลล์ คือ ______________________________________
เ นคอลลอยศ
เพราะ ______________________________________________________________

15. ข้ อความต่อไปนี 2ข้ อใดถูกต้ อง

ก. เมืaอนําของเหลวใส 2 ชนิด ผสมกันจะได้ ของผสมเนื 2อเดียว
ข. สารละลายบางชนิดเป็ นสารเนื 2อเดียว
ค. ธาตุและสารประกอบทุกชนิดเป็ นสารบริ สทุ ธิq
ง. สารเนื 2อเดียวเมืaอนําไปต้ มจะมีอณ
ุ หภูมิขณะเดือดคงทีa
จ. สารละลายใด ๆ จะมีสมบัติคล้ ายกับสมบัติขงองค์ประกอบเดิม
1. ถูกทุกข้ อ 2. ข้ อ ก. ค และ จ ถูก
×
3. ข้ อ ค และ จ ถูก 4. ข้ อ ข, ง และ จ ถูก

8
CHEMISTRY TO M.4
By…Kru P’PoP


16. สาร X มีชว่ งอุณหภูมิของการหลอมเหลว 10.2 -11.6 oC และมีจดุ เดือด 70 oC ข้ อใดคือสมบัตขิ องสาร X
1. สาร X มีสถานะเป็ นของแข็งทีaอณ ุ หภูมิปกติ
2. สาร X เป็ นสารบริ สทุ ธิqซงึa อาจเป็ นธาตุหรื อสารประกอบก็ได้
3. สาร X เป็ นสารเนื 2อเดียวประเภทสารละลาย
4. สาร X อาจเป็ นสารเนื 2อเดียวหรื อสารเนื 2อผสมก็ได้
17. จากสารทีaกําหนดให้ ตอ่ ไปนี 2สารใดเป็ นสารทีaตา่ งประเภทจากสารอืaน
1. ทองเหลือง 2. นํ 2าตาลทราย
3. เอทานอล 4. เกลือแกง
18. ถ้ าทําการทดลองให้ ความร้ อนแก่นํ 2าเกลือ แล้ ววัดอุณหภูมิขณะทีaนํ 2าเกลือกําลังเดือดด้ วยเทอร์ โมมิเตอร์ 2
อัน อันทีa 1 วัดอุณหภูมิของไอ อันทีa 2 วัดอุณหภูมิของนํ 2าเกลือ เมืaออ่านอุณหภูมิจะเท่ากันหรื อไม่
1. เท่ากัน และ เท่ากับ 100 oC 2. เท่ากัน และสูงกว่า 100 oC
3. ไม่เท่ากัน อันทีa 1 สูงกว่าอันทีa 2 4. ไม่เท่ากันอันทีa 2 สูงกว่าอันทีa 1
X
19. สารในข้ อใดเป็ นสารบริ สทุ ธิq
1. ทองสัมฤทธิq นาก ทองแดง 2. นํ 2าโซดา โบรมีน กํามะถัน
3. เกลือแกง หินปูน ทองเหลือง 4. กรดนํ 2าส้ ม ทองคํา แอมโมเนีย
20. เมืaอฉายลําแสงผ่านเลนส์รวมแสงไปยังมีบีกเกอร์ ทีaบรรจุนํ 2าเกลืออยูเ่ มืaอมองจากด้ านบนของบีกเกอร์
ปรากฏว่าเห็นลําแสงในนํ 2าเกลือ ข้ อความต่อไปนี 2ข้ อใดถูกต้ อง
1. นํ 2าเกลือเป็ นคอลลอยด์ จึงปรากฏการณ์ทินดอลล์ได้
2. นํ 2าเกลือเป็ นสารละลาย แต่ทีaเห็นลําแสงอาจเนืaองมากจากในนํ 2าเกลือมีฝนุ่ ละอองเจือปนอยู่
x3. ในนํ 2าเกลือยังมีเกลือทีaละลายไม่หมดจึงทําให้ เกิดปรากฏการณ์ทินดอลล์
4. นํ 2าเกลือประกอบด้ วย Na+ และ CI- เมืaอถูกแสงจะเกิดสารประกอบเชิงซ้ อน เป็ นผลให้ เกิด
ปรากฎการณ์ทินดอลล์
21. การจัดสารออกเป็ น 4 กลุม่ จะพิจารณาว่าข้ อใดจัดกลุม่ สารโดยใช้ สมบัตสิ ารบริ สทุ ธิq
1. เกลือแกง กรดเกลือ ก๊ าซไฮโดรเจน ทองแดง
2. สารละลายคอปเปอร์ (II) ซัลเฟต สารละลายกรดดินประสิว นํ 2าเชืaอม นํ 2าหอม
3. นํ 2านม นํ 2าเต้ าหู นํ 2ากะทิ นํ 2าบ่อ
4. วุ้น เยลลีa แป้งเปื ยก กาวลาแทกซ์

9
CHEMISTRY TO M.4
By…Kru P’PoP


22. A B และ C เป็ นของเหลวไม่มีสี เมืaอนําของเหลว A ผสมกับของเหลว B หรื อผสมของเหลว B กับของเหลว

C สังเกตไม่เห็นการเปลียa นแปลง แต่เมืaอนําของเหลว A ผสมกับของเหลว C จะสังเกตเห็นฟองก๊ าซเกิดขึ 2น
ข้ อสรุปใดถูกต้ อง
1. A, B และ C เป็ นสารต่างชนิดกัน
2. A, B และ C เป็ นสารชนิดเดียวกัน
3. A และ C เป็ นสารต่างชนิดกัน แต่ B และ C เป็ นสารชนิดเดียวกัน
4. A และ C เป็ นสารต่างชนิดกัน แต่ A และ B เป็ นสารชนิดเดียวกันหรื อต่างชนิดกันก็ได้
23. นมสดบรรจุถงุ โดยมีฉลากปิ ดไว้ วา่ เป็ นนมโฮโมจีไนซ์ ซึงa หมายถึง
1. เป็ นนมสดผสมนํ 2า
2. เป็ นนมทีaมีสารอิมลั ซิไฟเออร์ บางชนิดใส่ลงไปเพืaอให้ นํ 2านมสดละลายนํ 2า
3. การทําให้ ไขมันในนํ 2านมแตกตัวออกเป็ นอนุภาคเล็ก ๆ ได้ คอลลอยด์อยูต่ วั
4. เป็ นนมสดทีaผา่ นกรรมวิธีฆา่ เชื 2อแบคทีเรี ยด้ วยความดันสูงและใช้ อณ ุ หภูมิตํaา
24. ข้ อใดต่อไปนี 2ไม่ใช่สมบัตขิ องสารประกอบ
1. ประกอบด้ วยาตุอย่างน้ อยสองชนิด 2. เป็ นสารเนื 2อเดียวประเภทสารบริ สทุ ธิq
3. มีสมบัตผิ ิดไปจากธาตุทีaเป็ นองค์ประกอบ 4. ไม่อาจแยกสลายได้ ด้วยพลังงานความร้ อน
25. กราฟรูปร่างเช่นนี 2เป็ นการทดลองตามข้ อใด
1. การให้ ความร้ อนแก่เกล็ดไอโอดีน
2. การลดอุณหภูมิของนํ 2าร้ อน
3. การลดอุณหภูมิของนํ 2าแข็ง
4. การลดอุณหภูมิของนํ 2าเกลือ
26. สมบัตใิ นข้ อใดทีaเป็ นสมบัตขิ องทังสารประกอบและของผสม
2
1. อัตราส่วนขององค์ประกอบต่าง ๆ คงทีa
2. สมบัติทางกายภาพเหมือนกันสมบัติขององค์ประกอบ
3. มวลมีคา่ เท่ากับผลบวกของมวลขององค์ประกอบ
4. องค์ประกอบแยกออกจากกันได้ ด้วยวิธีทางฟิ สกิ ส์
27. ถ้ าต้ องการจัดให้ นํ 2าเกลือ เงิน นํ 2าส้ มสายชู และแกรไฟต์เป็ นพวกเดียวกันต้ องใช้ สมบัตขิ ้ อใด
1. จุดเดือด 2. ความเป็ นกรด-เบส
3. การนําไฟฟ้า 4. ความหนาแน่น

10
CHEMISTRY TO M.4
By…Kru P’PoP


28. ข้ อความต่อไปนี 2ข้ อใดถูกต้ อง

1. จุดเดือดกับจุดหลอมเหลวของอโลหะมักจะต่างกันไม่มาก
2. ธาตุทีaเป็ นโลหะจะมีจดุ หลอมเหลวสูงกว่าธาตุทีaเป็ นอโลหะเสมอ
3. ธาตุทีaนําไฟฟ้าได้ คือ โลหะอย่างเดียว
4. ธาตุทีaเป็ นโลหะจะมีความหนาแน่นมากกว่าธาตุทีaเป็ นอโลหะเสมอ
29. สารบริ สทุ ธิqทีaยงั สามารถแยกสลายให้ สารอืaนได้ เรี ยกว่า
1. ธาตุ 2. สารประกอบ 3. ของผสม 4. สารเนื 2อเดียว
30. ข้ อความใดต่อไปนี 2ทีaไม่ถกู ต้ อง
1. สารละลายทุกชนิดเป็ นสารเนื 2อเดียว 2. สารเนื 2อเดียวบางชนิดเป็ นธาตุ
3. สารบริ สทุ ธิqบางชนิดเป็ นสารประกอบ 4. สารประกอบบางชนิดเป็ นสารเนื 2อเดียว
31. ของเหลวสองชนิดมีลกั ษณะใสไม่มีสีเหมือนกัน เมืaอนํามากลันa ได้ ของเหลวใสไม่มีสเี หมือนกัน สารทีaเหลือ
จากการกลันa มีลกั ษณะใสไม่มีสเี หมือนกัน และขณะกลันa อุณหภูมิคงทีaเท่ากัน ผลสรุปข้ อใดถูกต้ องทึสa ดุ
1. ของเหลวทีaกลันa ได้ เป็ นสารชนิดเดียวกัน
2. ของเหลวทังสองชนิ
2 ดเป็ นสารชนิดเดียวกัน
3. ของเหลวทีaเหลือเป็ นสารชนิดเดียวกัน
4. ของเหลวทีaเหลือและของเหลวทีaกลันa ได้ เป็ นสารชนิดเดียวกัน
32. เมืaอนําของเหลว â ชนิดมาต้ ม เขียนกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างอุณหภูมิและเวลาได้ ดงั รูปของเหลว
ใดควรเป็ นสารบริ สทุ ธิq

1. ของเหลว A
2. ของเหลว B
3. ของเหลว C
4. ของเหลว D

11
CHEMISTRY TO M.4
By…Kru P’PoP


33. สมบัตใิ นข้ อใดทีaอาจใช้ บอกได้ วา่ เป็ นธาตุหรื อสารประกอบ

1. ลักษณะเนื 2อสาร 2. อุณหภูมิขณะเดือด
3. ช่วงอุณหภูมิขณะหลอมเหลว 4. การเปลียa นแปลงเมืaอนําไปเผา
34. ข้ อใดเป็ นโลหะทุกชนิด
1. B Na K และ Fe 2. Cu Sn Si และ Zn
3. Li Ca Al และ Rb 4. Na P Al และ Zn
35. สัญลักษณ์ของธาตุใดมาจากภาษาละติน
1. คลอรี น เหล็ก และโพแทสเซียม 2. โพแทสเซียม ทองแดง และปรอท
3. ซิลกิ อน ดีบกุ และทองคํา 4. เงิน ทองคํา และแพลตตินมั
คําชี 2แจง ใช้ ข้อมูลต่อไปนี 2ตอบคําถามข้ อ 36 - 37

36. ธาตุในข้ อใดเป็ นโลหะทุกชนิด

1. B D และ E 2. A C E และ F 3. B C D และ E 4. B และ D
37. ธาตุใดเป็ นกึงa โลหะ
1. B 2. E 3. C 4. D

12
CHEMISTRY TO M.4
By…Kru P’PoP


38. เมืaอนําของเหลว A จํานวน 200 cm3 มาต้ มจนเดือดกลายเป็ นไอหมด ความสัมพันธ์ระหว่างอุณหภูมิกบั

เวลา เมืaอเขียนกราฟได้ ดงั นี 2

ถ้ านําของเหลว A จํานวน 300 cm3 มาต้ มจนเดือดกลายเป็ นไอหมด กราฟทีaแสดงความสัมพันธ์

ระหว่างอุณหภูมิกบั เวลาเป็ นดังข้ อใด

คําชี 2แจง จงเลือกใช้ สารตัวอย่างต่อไปนี 2ตอบคําถามข้ อ 39

1. ควัน 2. ฟองสบู่ 3. เบียร์ 4. นํ 2าซาวข้ าว
5. นํ 2ามันเบนซิน 6. เลือด 7. นํ 2าเชืaอม
39. สารในข้ อใดไม่ใช่คอลลอยด์ทงคู ั2 ่
1. 5 และ 7 2. 4 และ 5 3. 2 และ 7 4. 3 และ 4
40. สารในข้ อใดสามารถเกิดปรากฏการณ์ทินดอลล์ทกุ ชนิด
1. นํ 2านม นํ 2าเกลือและกาว 2. หมอก นํ 2าอัดลมและนํ 2าโคลน
3. ควันบุหรีa หมอกและนํ 2าสลัด 4. หมอก นํ 2าสบูแ่ ละนํ 2าเชืaอม

13
CHEMISTRY TO M.4
By…Kru P’PoP


41. ข้ อความในข้ อใดถูกต้ องทีaสดุ เกีaยวกับคอลลอยด์

1. อนุภาคคอลลอยด์มีขนาดเส้ นผ่านศูนย์กลางระหว่าง 0.01 ไมโครเมตร ถึง 1 ไมโครเมตร
2. อนุภาคคอลลอยด์สามารถลอดผ่านกระดาษกรองและกระดาษเซลโลเฟนได้
3. คอลลอยด์ทกุ ประเภทบางชนิดมีอิมลั ซิฟายเออร์ แต่บางชนิดไม่มีอิมลั ซิฟายเออร์
4. คอลลอยด์บางชนิดไม่ตกตะกอนเพราะอนุภาคคอลลอยด์มีประจุเหมือนกัน จึงเกิดแรงผลักซึงa กัน
และกัน
42. ข้ อใดเป็ นการเปรี ยบเทียบสมบัตขิ องสารละลายทีaแท้ จริ งกับคอลลอยด์ได้ ถกู ต้ อง
1. อนุภาคในสารละลายมองไม่เห็นแต่อนุภาคคอลลอยด์มองเห็น
2. สารละลายไม่ต้องมีอิมลั ซิฟายเออร์ แต่คอลลอยด์ทกุ ชนิดต้ องมีอิมลั ซิฟายเออร์
X
3. เมืaอแสงผ่านสารละลายจะไม่เห็นลําแสง แต่ถ้าแสงผ่านคอลลอยด์จะเห็นลําแสง
4. สารละลายมีทงั 2 3 สถานะ แต่คอลลอยด์มีเฉพาะของเหลวเท่านัน2
คําชี 2แจง จงใช้ ข้อมูลต่อไปนี 2ตอบคําถามข้ อ 43 - 44
ในการทดสอบสมบัตกิ ารละลายของ Ba(OH)2 ทีaภาวะต่าง ๆ ได้ ผลการทดลองดังนี 2

51. Ba (OH)2 ในนํ 2าตอนใดมีสมบัตเิ ป็ นทังสารแขวนลอย

2 คอลลอยด์ และสารละลาย
1. 1 2. 3 3. 4 และ 5 4. 1 และ 2
52. Ba (OH)2 ในนํ 2าตอนใดเริa มจะมีสมบัตเิ ป็ นสารละลายเพียงอย่างเดียว
1. 1 2. 3 3. 4 4. 5
x

14
CHEMISTRY TO M.4
By…Kru P’PoP


53. X เป็ นสารบริ สทุ ธิqชนิดหนึงa เมืaอเปลียa นอุณหภูมิเพืaอให้ X เปลียa นสถานะแล้ วเขียนกราฟระหว่างอุณหภูมิ
กับเวลาทีaใช้ ในการทดลอง จะได้ กราฟดังต่อไปนี 2 ช่วง D - E สาร X อยูใ่ นสถานะใด

1. ของเหลวปนก๊ าซ
2. ของเหลวปนของแข็ง
3. ของเหลว
4. ของแข็ง
54. เมืaอแม่ครัวทําทอดมันปลากรายเสร็จ นํากระทะไปล้ างให้ สะอาดด้ วยนํ 2ายาล้ างจาน จะเห็นว่านํ 2าทีaล้างมี
ลักษณะขุน่ ขาว เรี ยกของเหลวลักษณะนี 2ว่า
1. สารละลาย 2. คอลลอยด์
3. สารแขวนลอย 4. อิมลั ชัน
55. ใส่สารละลายโพแทสเซียมเปอร์ แมงกาเนส และนํ 2านม อย่างละ 50 ลูกบาศก์เซนติเมตร ในบีกเกอร์ ขนาด
100 ลูกบาศก์เซนติเมตร 2 ใบ ใบละชนิด ฉายแสงทีaผา่ นเลนซ์รวมแสงแล้ วไปยังบีกเกอร์ ทีaใส่สาร สังเกตแสงทีa
ผ่านของเหลวโดยมองจากด้ านบนของบีกเกอร์ พบว่าบีกเกอร์ ทีaใส่นํ 2านมมองเห็นลําแสง ส่วนบีกเกอร์ ทีaใส่
โพแทสเซียมเปอร์ แมงกาเนตมองไม่เห็นลําแสงทีaเป็ นดังนี 2 เนืaองจาก
1. อนุภาคของนํ 2านมมีขนาดเส้ นผ่านศูนย์กลาง 10-4 - 10-7 เซนติเมตร
2. อนุภาคของโพแทสเซียมเปอร์ แมงกาเนตมีขนาดเส้ นผ่านศูนย์กลาง 10-4 - 10-7 เซนติเมตร
3. อนุภาคนํ 2านมผ่านเซลโลเฟนได้
4. อนุภาคของโพแทสเซียมเปอร์ แมงกาเนตผ่านเซลโลเฟนไม่ได้

15
CHEMISTRY TO M.4
By…Kru P’PoP


56. สาร 3 ชนิด คือ A B และ C มีสมบัตบิ างประการ ดังนี 2

สาร A, B และ C ควรเป็ นสารประเภทใด ตามลําดับ

1. สารละลาย สารประกอบ ธาตุ
2. ธาตุ สารเนื 2อเดียว สารละลาย
3. สารบริ สทุ ธิq สารประกอบ สารละลาย
4. สารประกอบ สารเนื 2อผสม สารละลาย
คําชี 2แจง ข้ อมูลต่อไปนี 2สําหรับตอบคําถามข้ อ 57 - 58
เมืaอนําสารตัวอย่างชนิดมาละลายนํ 2า หลังจากนันกรอง 2 ปรากฏว่าได้ ของแข็ง A และของเหลว B ซึงa ใส
และไม่มีสี เมืaอนํา B มากลันa ทีa 1 บรรยากาศ ปรากฏมีจดุ เดือด 100 oC และเมืaอกลันa ต่อไป ปรากกฏว่าอุณหภูมิ
ของจุดเดือดไม่เปลียa นแปลง จนกระทังa ของเหลวในขวดกลันa หมดและไม่มีสารใดเหลืออยูใ่ นขวดกลันa สําหรับ
สาร A เมืaอนําส่วนหนึงa มาเผาไฟ ปรากฏว่าติดไฟง่ายและมีเขม่า เมืaอนํา A มาหาจุดหลอมเหลว ปรากฏว่า
ส่วนหนึงa ได้ จดุ หลอมเหลว 60 oC อีกส่วนหนึงa ได้ 55 oC
57. ข้ อสรุปต่อไปนี 2ข้ อใดถูกต้ อง
1. สารตัวอย่างเป็ นสารบริ สทุ ธิq 2. สารตัวอย่างไม่ละลายนํ 2า
3. สารตัวอย่างเป็ นสารอนินทรี ย์ 4. ถูกต้ องทัง2 1 2 และ 3
58. ข้ อสรุปต่อไปนี 2 ข้ อใดถูกต้ อง
1. B คือนํ 2า 2. A เป็ นสารไม่บริ สทุ ธิq
3. A มีสารอนินทรี ย์เป็ นองค์ประกอบ 4. ถูกต้ องทัง2 1 2 และ 3
59. สารข้ อใดทีaเป็ นสารละลายทุกสาร
1. ทิงเจอร์ ไอโอดีน, นํ 2ามันหล่อลืนa , ก๊ าซปิ โตรเลียม, เหล็กกล้ าไร้ สนิม
2. อากาศ, นาก, ด่างคลี, โซดาซักผ้ า
3. ดีเกลือ, นํ 2าเชืaอม, ดินปื น, จุนสี
4. ทองขาว, ทองแดง, ทองเหลือง, ทองสัมฤทธิq

16
CHEMISTRY TO M.4
By…Kru P’PoP


60. เมืaอนําของแข็งสีเขียวไปละลายนํ 2าแล้ วใส่ถงุ เซลโลเฟนผูกถุงให้ แน่นและนําไปแช่นํ 2าพบว่าเปลียa นเป็ นสี

เขียว
ก. เมืaอของแข็งสีเขียวละลายนํ 2าจะได้ คอลอยด์
ข. เมืaอของแข็งสีเขียวละลายนํ 2าได้ สารละลาย
ค. เมืaอผ่านลําแสงไปยังนํ 2าทีaมีของแข็งสีเขียวละลายอยู่ จะเกิดปรากฏการณ์ทินดอลล์
ง. เมืaอผ่านลําแสงไปยังนํ 2าทีaมีของแข็งสีเขียวละลายอยู่ จะไม่เกิดปรากฏการณ์ทินดอลล์
ข้ อใดบ้ างถูกต้ อง
1. ก และ ค 2. ข และ ง
3. ข และ ค 4. อาจถูกทัง2 4 ข้ อ เพราะข้ อมูลน้ อยเกินไป
คําชี 2แจง ใช้ ข้อมูลต่อไปนี 2ตอบคําถามข้ อ 61 - 62

61. ธาตุใดควรเป็ นธาตุทีaนําไฟฟ้าได้ ดี

1. B C และ D 2. A B D และ E 3. A D และ E 4. B และ C
62. ธาตุใดควรเป็ นธาตุทีaมีจดุ เดือดใกล้ เคียงกับจุดหลอมเหลว
1. C 2. B 3. B และ C 4. D และ E
คําชี 2แจง ใช้ ข้อมูลต่อไปนี 2ตอบคําถามข้ อ 63 - 64
สาร X และสาร Y เป็ นของแข็งสีขาว สาร X มีจดุ หลอมเหลวและจุดเดือดตํaากว่าสาร Y มาก

A, B, C, D, E, F, G, H, I, J, K และ L คือพลังงานทีaใช้ หรื อคายออกมาเมืaอสาร X และสาร Y มีการ

เปลียa นสถานะ

17
CHEMISTRY TO M.4
By…Kru P’PoP


63. พลังงานใดบ้ างทีaระบบดูดจากสิงa แวดล้ อม

1. A C I และ K 2. A E H และ J 3. K C B และ H 4. B D J และ H
64. ข้ อใดกล่าวได้ ถกู ต้ อง
1. A คือความร้ อนแฝงของการหลอมเหลวและมีคา่ มากกว่า G
2. A มีคา่ มากกว่า C และ L มีคา่ มากกว่า H
3. C มีคา่ มากกว่า A มาก และ G มีคา่ มากกว่า A
4. A มีคา่ เท่ากับ G และ K มีคา่ เท่ากับ L
คําชี 2แจง ข้ อมูลต่อไปนี 2ใช้ ประกอบการตอบคําถาม 65 - 66

ุ หภูมิ 25 oC ของเหลวชนิดใดมีความดันไอสูงสุด
65. ทีaอณ
1. นํ 2า 2. เอทิลแอลกอฮอล์ 3. คลอโรฟอร์ ม 4. เอทิลอีเทอร์
66. ของเหลวใดมีคา่ ความร้ อนแฝงของการเกิดไอสูงทีaสดุ
1. นํ 2า 2. เอทิลแอลกอฮอล์ 3. คลอโรฟอร์ ม 4. เอทิลอีเทอร์
67. ข้ อใดถูกต้ อง
1. ของแข็งเป็ นไอเป็ นการเปลียa นแปลงประเภทคายความร้ อน
2. การเปลียa นสถานะจากของแข็งเป็ นของเหลวใช้ พลังงานน้ อยกว่าการเปลียa นสถานะจากของเหลว
เป็ นไอ
3. ในขณะของเหลวกําลังเดือดอยูอ่ ณ ุ หภูมิจะคงทีaเสมอ
4. สารทีaมีจดุ เดือดสูงกว่าจะมีคา่ ความร้ อนแฝงของการกลายเป็ นไอสูงกว่าเสมอ

18
CHEMISTRY TO M.4
By…Kru P’PoP


68. เมืaอนําของเหลว 2 ชนิด A และ B ไปกลันa แล้ วหาความสัมพันธ์ระหว่างอุณหภูมิกบั เวลา จะได้ กราฟดังรูป
ข้ อสรุปข้ อใดต่อไปนี 2ถูกต้ องทีaสดุ

1. ของเหลว A เป็ นสารผลมเนื 2อเดียว

2. ของเหลว B เป็ นสารละลายเนื 2อเดียว
3. ของเหลว A ประกอบด้ วยสารบริ สทุ ธิqอย่างน้ อย 2 ชนิด
4. ของเหลว B ปฺระกอบด้ วยสารบริ สทุ ธิqอย่างน้ อย 2 ชนิด
69. ข้ อใดต่อไปนี 2จัดเป็ นสารละลายทังชุ 2 ด
1. นํ 2าเกลือ นํ 2ามันเตา ก๊ าซคลอรี น
2. ก๊ าซธรรมชาติ นํ 2ามันโซลา ทองสัมฤทธิq
3. นํ 2ามันพืช นํ 2าอัดลม ซูโครส
4. สารหนู นํ 2ามันเบนซิน นํ 2ามันโซลา
70. เมืaอนําของเหลวสีแดงชนิดหนึงa มากลันa พบว่าของเหลวนี 2เดือดทีa 89 oC ของเหลวทีaกลันa ได้ ไม่มีสี เมืaอกลันa
ต่อไปจนเกือบหมดของเหลวทีaเหลืองยังคงมีสแี ดงเราอาจสรุปได้ วา่ อย่างไร
1. สารละลายนี 2เป็ นสารละลายของสารสีแดงในนํ 2า
2. สารละลายนี 2เป็ นสารละลายของสารสีแดงในของเหลวไม่มีสที ีaไม่ใช่นํ 2า
3. สารละลายนี 2เป็ นสารละลายของสารไม่มีสใี นของเหลวสีแดง
4. สารละลายนี 2เป็ นสารละลายของสารสีแดงในของเหลวสีแดง

19
CHEMISTRY TO M.4
By…Kru P’PoP


ตารางต่อไปนี 2 ใช้ ประกอบการตอบคําถาม 71- 72

71. ถ้ า A เป็ นธาตุทีaเป็ นตัวนําทังในสถานะของแข็

2 งและของเหลว ตัวอย่างทีaถกู ต้ องของสาร A คือข้ อใด
1. ตะกัวa 2. ฟอสฟอร้ ส 3. กํามะถัน 4. ซิลคิ อน
72. ถ้ า B เป็ นธาตุทีaเป็ นฉนวนทังในสถานะของแข็
2 งและของเหลว ตัวอย่างทีaถกู ต้ องของสาร B คือข้ อใด
1. ตะกัวa 2. ดีบกุ 3. กํามะถัน 4. ทองแดง
73. สารกลุม่ ใดทีaจดั เป็ นพวกคอลลอยด์ได้ ไม่หมดทุกชนิด
1. แยม ไอศกรี ม นํ 2าเต้ าหู้ นํ 2ากะทิ 2. ควัน หมอก สีทาบ้ าน นํ 2าทะเล
3. กาว แป้งเปี ยก สลัดครี ม นํ 2าซาวข้ าว 4. วุ้น นม นํ 2าโซดา นํ 2ายางพารา
74. แม่บ้านท่านหนึงa ปรุงเยลลีสa แี ดงจากผงเยลลีสa าํ เร็จรูปผสมกับนํ 2าด้ วยอัตราส่วนพอเหมาะนําของผสมไป
เคีaยวให้ ผงเยลลีลa ะลายหมด แล้ วทําให้ เย็น พบว่าได้ เยลลีทa ีaมีสมบัตเิ หนียว นุม่ มีความยืดหยุน่ ดี
น่ารับประทาน ข้ อมูลต่อไปนี 2ข้ อใดสามารถอธิบายสมบัติดงั กล่าวของเยลลีไa ด้ ดีทีaสดุ
1. เยลลีเa ป็ นสารประเภทคอลลอยด์
2. เยลลีขa ้ นมากจนเกือบมีลกั ษณะเป็ นของแข็ง
3. อนุภาคของเยลลีถa กู นํ 2าดึงดูดไว้ อย่างแข็งแรง
4. อนุภาคของเยลลีมa ีแรงผลักกับนํ 2าอย่างรุนแรง
75. ถ้ าจะทดสอบว่าของผสมอย่างหนึงa เป็ นคอลลอยด์หรื อไม่ วิธีทดสอบทีaดีทีaสดุ คือข้ อใด
1. ดูด้วยตาเปล่าว่าขุน่ หรื อไม่
2. เติมกรดแอซิตกิ แล้ วดูวา่ มีตะกอนหรื อไม่
3. ฉายลําแสงผ่านดูวา่ มีการกระเจิงแสงหรื อไม่
4. ใส่ถงุ เซลโลเฟนแล้ วดูวา่ มีสารผ่านออกมาหรื อไม่

20
CHEMISTRY TO M.4
By…Kru P’PoP


76. มีของเหลว ó ชนิดคือ A, B และ C นักศึกษาผู้หนึงa ต้ องการทําการทดลองเพืaอจําแนกว่าของเหลวใด

จัดเป็ นสารละลาย, คอลลอยด์, สารแขวนลอย โดยนํามากรองผ่านกระดาษกรอง 2 ชนิด ผลการทดลองเป็ น
ดังตาราง

ข้ อสรุปใดผิด
1. ขนาดช่องว่างของกระะคาษกรองชนิดทีa 2 ใกล้ เคียงกับขนาดช่องว่างของกระดาษเซลโลเฟน
2. ของเหลว B อาจเป็ นนํ 2าสบู่
3. ของเหลว C จะไม่เกิดปรากฎการณ์ทินดอลล์
4. การจําแนกของเหลว A และ C จําเป็ นต้ องใช้ กระดาษกรองชนิดทีa ò
x

21
CHEMISTRY TO M.4
By…Kru P’PoP