You are on page 1of 31

บทที่ 3

จริยธรรมตามพระคัมภีร์ใหม่
คำสอนของพระเยซูคริสต์
พระเยซูคริสต์ เสด็จมาเพือ่ มนุษย์ จะรู้ ว่าพระเจ้ าทรงรัก
และทรงห่ วงใยมนุษย์ ทสี่ ุ ด ทรงเกีย่ วข้ องกับสถานการณ์
โลก ทรงทุกข์ พระทัยในความทุกข์ ท้งั หมดของเรา พืน้ ฐาน
ของจริยธรรมคริสเตียนจึงตั้งอยู่บนความรัก ความห่ วงใย
ของพระเจ้ า (มัทธิว 25: 31-46; ลกู า. 16: 19-30; 10: 29-37)
เมือ่ พระเยซูคริสตรัสว่ าพระเจ้ าทรงรักมนุษย์ พระองค์ ทรงสอน
ให้ ผู้เชื่อในพระองค์ รักคนอืน่ แบบเดียวกันกับทีพ่ ระเจ้ าทรงรัก
พวกเขา พระบัญชาให้ รักกันมาจากมาระโก 12: 28-34 ความรัก
แบบนีไ้ ม่ ใช่ ความรักทีเ่ ลือกรักคนทีด่ ตี ่ อเรา หรือคนทีร่ ักเรา แต่
ตามแบบของพระเจ้ าทีท่ รงรักมนุษย์ แม้ ว่ามนุษย์ ไม่ น่ารัก และ
ทำตัวเป็ นศัตรู ของพระองค์ (โรม 5: 6-11; มัทธิว 5: 43-45)
ความรักของคริสเตียนทีม่ ตี ่ อผู้อนื่ ต้ องเป็ นความรักคนอืน่
ทั้งชีวติ คือ ทั้งกาย ใจ และวิญญาณของเขา คริสเตียนสอน
สิ่ งใหม่ ทีต่ รงข้ ามกับปรัชญากรีกโบราณ เช่ น เพลโตสอน
ว่ าร่ างกายเปรียบเสมือนคุกของจิตวิญญาณ เอพิคเททัส
บอกว่ าเขาเป็ นวิญญาณน่ าสงสาร ทีถ่ ูกมัดกับศพ แต่ พระ
เยซูคริสต์ เจ้ าทรงสนพระทัยความยากลำบากฝ่ ายร่ างกาย
ของบรรดาคนทีม่ าหาพระองค์
ทรงรักษาโรคคนป่ วยไข้ “พระเยซูเสด็จไป
ตามเมืองและหมู่บ้านต่ างๆ ทรงเทศนาใน
ธรรมศาลา ประกาศข่ าวประเสริฐเรื่อง
อาณาจักรของพระเจ้ า และรักษาโรคภัยไข้
เจ็บทั้งปวง” (มัทธิว 9:35)
ทรงรักษาโรคคนป่ วยไข้ “คน​ท​เี่ ป็ น​โรค​
ต่ างๆ​เบียด​เสี ยด​กนั ​เข้ า​มา​เพือ่ ​จบั ​ต้อง​
พระองค์ เพราะ​พระองค์ ​ได้ ​รักษา​คน​เป็ น​
จำนวน​มาก” (มารโก 3: 10)
ทรงเลีย้ งดูเมือ่ เขาหิวโหย
พระเยซูตรัสตอบว่ า “พวกเขาไม่ จำเป็ นต้ องไป
พวกท่ านจงเลีย้ งพวกเขาเถิด” (มัทธิว 14: 16)
ทรงขับผีออกจากคนทีแ่ พทย์ ปัจจุบันรียกว่ าโรคจิต
เมือ่ เขาเห็นพระเยซูแต่ ไกลก็วงิ่ มาคุกเข่ าต่ อหน้ าพระองค์   และ
ตะโกนสุ ดเสี ยงว่ า “พระเยซู พระบุตรของพระเจ้ าสู งสุ ด
พระองค์ ต้องการอะไรจากข้ าพระองค์ หรือ? ขอทรงสาบานต่ อ
พระเจ้ าว่ าจะไม่ ทรมานข้ าพระองค์ !” 8 เพราะพระเยซูได้ ตรัสกับ
มันว่ า “เจ้ าวิญญาณชั่ว จงออกมาจากชายคนนี้!”(มารโก 5: 1-20)
ยิง่ กว่ านั้น ทรงสิ้นพระชนม์ บนไม้ กางเขน เพือ่ ไถ่ บาปจิต
วิญญาณของคนบาป พระเยซูตรัสว่ า“นี่คอื โลหิตของเรา
อันเป็ นโลหิตแห่ งพันธสั ญญา ซึ่งหลัง่ รินเพือ่ อภัยโทษ
[b]

บาปแก่ คนเป็ นอันมาก” (มัทธิว26: 28) คริสเตียนจึง


ต้ องตามอย่ างพระคริสต์ ทจี่ ะรักผู้อนื่ ทั้งสามด้ านนี้
ความรักเพือ่ นบ้ านยังต้ องเป็ นรักทีม่ าจากความปราถนาดี
ต่ อเขาไม่ ว่าเขาจะเป็ นอย่ างไรไม่ ขนึ้ กับ ความ รู้ สึก แต่ เป็ น
ความตั้งใจ ดังนั้นจึงเป็ นความรักทีม่ ตี ่ อผู้ทเี่ ราไม่ ชอบได้
เพราะว่ า แม้ เราจะไม่ ชอบเขา เรายังสามารถมีความแน่ ว
แน่ ตั้งใจปราถนาดี และทำสิ่ งทีด่ สี ำหรับเขา
จริยธรรมคริสเตียนจึงไม่ ใช่ เรื่องการห้ ามทำสิ่ งต่ าง ๆ แต่
เป็ นท่ าทีของเราต่ อเพือ่ นมนุษย์ ทปี่ ราถนาสิ่ งดีเท่ านั้น
สำหรับเขา เช่ นเดียวกับพระเจ้ าผู้ทรงห่ วงใยมนุษย์ ถ้ าเรา
ให้ ความรักของพระเจ้ าไหลผ่ านชีวติ เรา และมองผู้อนื่ ด้ วย
ท่ าทีแบบนี้ ความประพฤติตามมาตราฐานจริยธรรม
คริสเตียนต่ อเพือ่ นบ้ านจะเป็ นผลทีเ่ กิดขึน้ ตามธรรมชาติ
สรุปแล้ว
คำสอนหลักของพระคริสต์ คือความรักห่ วงใยในพระทัย
ของพระเจ้ า ทีเ่ ป็ นเหตุให้ พระบุตรองค์ เดียวของพระองค์
ทรงเสด็จมาในโลกนี้ เป็ นความรักห่ วงใยทีย่ งิ่ ใหญ่ ไพศาล
ทีไ่ ด้ ทรงสำแดงโดยพระชนม์ ชีพ และฤทธิ์อำนาจของพระ
เยซูคริสต์ เจ้ า
คำสอนของเปาโล
อาจารย์ เปาโลอธิบายคำสอนของพระเยซูคริสต์ เจ้ าให้
กับคริสเตียนให้ กบั คริสเตียนในคริสตจักรต่ างๆ ทีเ่ ขา
เขียนจดหมายฝากไปถึง ดังต่ อไปนี้
1.จริยธรรมคริสเตียนเป็ นจริยธรรมของชุมชน
ความรัก การรับใช้ การให้ อภัย มีไว้ สำหรับชุมชน
ดังนั้น หลักสำคัญของอาจารย์ เปาโล คือ การมีส่วน
ร่ วมกับชุมชน ไม่ ใช่ การแยกตัวออกจากคนอืน่
2.จริยธรรมริสเตียน คือจริยธรรมทีแ่ ตกต่ าง
อาจารย์ เปาโลเรียกคริสเตียนว่ า “ธรรมิกชน” (โรม 1: 7) มาจากภาษากรีก (Holy)
คำนีม้ คี วามหมายต่ อเนื่องจากคำว่ า “บริสุทธิ์” ในพระคัมภีร์เดิม ทีม่ คี วามหมายว่ า “แ
ตกต่ าง” เปาโลสอนว่ าคริสเตียนต้ องแตกต่ างจากคนทีไ่ ม่ เป็ นคริสเตียน ไม่ ทำตาม
มาตราฐานของโลก รับการเปลีย่ นแปลงเป็ นบุตรของพระเจ้ าทีป่ ราศจากตำหนิ และ
ปรากฏในหมู่คนดุจดวงดาวสว่ างต่ าง ๆ ในโลก (โรม 12: 2; ฟิ ลิปปี 2: 15) ส่ วนคนไม่
เชื่อทีก่ ลับใจมาเป็ นคริสเตียนต้ องทิง้ ความประพฤติของชีวติ เดิม ต้ องสำแดงชีวติ ที่
เปลีย่ นแปลงโดยฤทธิ์เดชของพระเจ้ า (เอเฟซัส 4: 17-24)
3.จริยธรรมคริสเตียนเป็ นจริยธรรมของความรับผิดชอบ
ก. คริสเตียนมีความรับผิดชอบต่ อสั งคม เปาโลให้ ภาพ
ตัวอย่ างของร่ างกายใน โรม 12: 3-8 คริสเตียนไม่ มชี ีวติ อยู่
เพือ่ ตนเองฝ่ ายเดียว แต่ เพือ่ องค์ พระผู้เป็ นเจ้ าและเพือ่ คน
อืน่ (โรม 14: 7-8)
3.จริยธรรมคริสเตียนเป็ นจริยธรรมของความรับผิดชอบ
ข.คริสเตียนมีความรับผิดชอบต่ อคริสเตียนทีอ่ ่ อนแอกว่ า คนที่
แข็งแรงกว่ าต้ องอดทนต่ อผู้ทอี่ ่อนแอ เพราะเขาไม่ ได้ อยู่ในโลกนี้
เพือ่ ความสุ ขส่ วนตัว แต่ เพือ่ เสริมสร้ างบ้ านเของเขา (โรม 14: 1,
13-21; 15: 1,2)
3.จริยธรรมคริสเตียนเป็ นจริยธรรมของความรับผิดชอบ
ข. ดังนั้น แม้ แต่ เรื่องอาหารทีด่ ูเหมือนเป็ นเรื่องเล็กน้ อย แต่ ถ้า
การกินเนือ้ สั ตว์ ถวายแก่รูปเคารพแล้วเป็ นเหตุให้ พีน่ ้ องคริสเตียน
หลงผิดไป อาจารย์ เปาโลบอกว่ าท่ านจะไม่ กนิ เพราะเกรงใจว่ าท่ าน
จะทำให้ พนี่ ้ องคริสเตียนหลงผิดไป (1 โครินธ์ 8: 13)
3.จริยธรรมคริสเตียนเป็ นจริยธรรมของความรับผิดชอบ
ค. คริสเตียนมีความรับผิดชอบต่ อรัฐ เราจะกล่ าวถึงเรื่อง
นีต้ ่ อไปในบททีก่ ล่ าวถึงความสั มพันธ์ ของ
คริสเตียนกับรัฐ
3.จริยธรรมคริสเตียนเป็ นจริยธรรมของความรับผิดชอบ
ง.คริสเตียนมีหน้ าทีต่ ้ อนรับเลีย้ งดูกนั และกัน สั งคมปัจจุบัน
เป็ นสั งคมทีเ่ น้ นความสุ ขส่ วนตัว แต่ พระคัมภีร์ใหม่ สอนให้ เรา
เลีย้ งดู ต้ อนรับแขกในบ้ านเรา (ฮบ. 13: 2; 1 ปต.4: 9; รม. 12: 13)
แม้ ว่าปัจจุบันจะมีโรงแรม รีสอร์ ท แต่ จะหาโรงแรมทีป่ ราศจาก
อบายมุขและการทดลองได้ ดเี ท่ ากับบ้ านพักทีม่ คี วามรักอบอุ่นแบบ
ครอบครัวคริสเตียนได้ หรือ
4.จริยธรรมคริสเตียน คือจริยธรรมของทั้งร่ างกาย จิตใจ และจิต
วิญญาณ
ร่ างกายเป็ นสิ่ งสำคัญ สามารถถวายเป็ นเครื่องบูชาทีม่ ชี ีวติ อยู่
แด่ พระเจ้ าได้ (โรม 12: 1) เป็ นทีป่ ระทับของพระวิญญาณบริสุทธิ์
(1 คร. 3: 16; 6: 19) จึงไม่ ใช่ สิ่งทีเ่ ลวร้ ายแบบทีป่ รัชญากรีกยึดถือ
ดังนั้นจึงไม่ มปี ระโยชน์ ในการทรมานร่ างกาย (คส. 2: 20-23; 1
ทธ. 4: 1-5) แต่ ไม่ ใช่ การปล่อยตัวไปตามราคะตัณหาของมนุษย์
(กท. 5: 20-21)
(โรม 12: 1  พีน่ ้ องทั้งหลาย ด้ วยเหตุนีโ้ ดยเห็นแก่ความเมตตา
กรุ ณาของพระเจ้ า ข้ าพเจ้ าจึงวิงวอนท่ านทั้งหลายให้ ถวายตัวของ
ท่ านแด่ พระองค์ เพือ่ เป็ นเครื่องบูชาทีม่ ชี ีวติ อันบริสุทธิ์ และเป็ นที่
พอพระทัยพระเจ้ า ซึ่งเป็ นการปรนนิบัตอิ นั สมควรของท่ านทั้ง
หลาย 2 อย่ า ประพฤติตามอย่ างชาวโลกนี้ แต่ จงรับการ
เปลีย่ นแปลงจิตใจเสี ยใหม่ เพือ่ ท่ านจะได้ ทราบพระประสงค์ ของ
พระเจ้ าว่ าอะไรดี อะไรเป็ นทีช่ อบพระทัย และอะไรดียอดเยีย่ ม
4.จริยธรรมคริสเตียน คือจริยธรรมของทั้งร่ างกาย จิตใจ และจิต
วิญญาณ
ในด้ านจิตวิญญาณ คริสเตียนมุ่งสู่ โลกหน้ า ทีม่ กี ารเป็ นขึน้ จากความ
ตาย (กจ. 13: 30-37; 17: 18-31) เวลานั้นทุกชีวติ จะอยู่ต่อพระพักตร์
พระเจ้ า ทุกชีวติ จะต้ องเข้ าสู่ การพิพากษา ต่ อหน้ าบัลลังก์ ของพระเจ้ าและ
พระเยซู (รม. 14: 10-12; 2 คร. 5: 10) คนทีอ่ ยู่ฝ่ายเนือ้ หนัง จะไม่ มสี ่ วนใน
แผ่ นดินของพระเจ้ า (กท. 5: 21) ใครหว่ านอะไรไว้ กจ็ ะเกีย่ วเก็บสิ่ งนั้น
(กท. 6: 7) คนทีไ่ ม่ เชื่อฟัง คนทีใ่ ช้ ชีวติ ในการล่วงประเวณี และบาปมลทิน
ต่ าง ๆ ก็จะพินาศเพราะพระพิโรธของพระเจ้ า (อฟ. 5: 6; คส. 3: 6)
5.จริยธรรมคริสเตียนคือจริยธรรมของการเลียนแบบ
คริสเตียนรับพระบัญชาให้ การเรียนแบบพระเจ้ าให้ สมกับเป็ น
บุตรทีร่ ัก ให้ เรียนแบบพระคริสต์ (อฟ. 5: 1; 4: 20; 1 คร. 11:1)
เลียนแบบอัครสาวก และตามตัวอย่ างของผู้นำแห่ งความเชื่อใน
อดีตและปัจจุบัน (ฮบ. 13: 7; 6: 12; 1 ธส. 2: 14; 1 คร. 4: 16; ฟป.
3: 17; 1 ธส. 1: 6; 2 ธส. 3: 7,9) นอกจากนีค้ ริสเตียนเองได้ รับคำ
สั่ งให้ เป็ นแบบอย่ างเพือ่ ให้ คนอืน่ ตามด้ วย (1 ธส. 4: 12; คส. 4: 5;
1 ปต. 2:12; 3:1,16)
6.จริยธรรมคริสเตียนเป็ นจริยธรรมของความรัก
ความรักทีอ่ าจารย์ เปาโลกล่าวถึงเหมือนกับทีพ่ ระเยซู คริสต์
ทรงสอน คือ ไม่ ใช่ ความรักร้ อนแรงของหนุ่มสาว ทีข่ นึ้ ๆ ลง ๆ แต่
เป็ นความตั้งใจแน่ วแน่ ทจี่ ะรักมนุษย์ เหมือนทีพ่ ระเยซูคริสต์ เจ้ า
ทรงรัก ความจริงนีจ้ ะส่ งผลต่ อการกระทำของคริสเตียนดังนี้
6.จริยธรรมคริสเตียนเป็ นจริยธรรมของความรัก
ก.กำหนดท่ าทีการตอบสนองต่ อการเหยียดหยาม และการทำร้ ายไม่ มี
การแก้แค้ น แต่ มอบเรื่องนั้นไว้ กบั พระเจ้ า (รม. 12: 19-21; 1 ธส. 5: 15)
และทำดีตอบแทนเขา (สภษ. 25: 21-22) การให้ อภัยของพระเจ้ าเป็ นแบบ
อย่ างในการให้ อภัยต่ อผู้อนื่ (อฟ. 4: 32; คส. 3: 13)
6.จริยธรรมคริสเตียนเป็ นจริยธรรมของความรัก
ข.เกิดความอดทนในความสั มพันธ์ ต่อผู้อนื่ คริสเตียนจะมีท่าที
อดกลั้น ด้ วยความรัก ความเข้ าใจ และเห็นอกเห็นใจคนอืน่ (อฟ.
4: 2; ฟป. 4: 5; รม. 14: 5, 6)
6.จริยธรรมคริสเตียนเป็ นจริยธรรมของความรัก
ค.กำหนดเสรีภาพของคริสเตียน แม้ ว่าคริสเตียนมีเสรีภาพใน
พระคริสต์ แต่ เขาไม่ สามารถใช้ เสรีภาพเพือ่ ปล่อยตัวไปตาม
ธรรมชาติบาป เพราะเขารักเพือ่ นบ้ านและจะไม่ ทำอะไรทีจ่ ะก่ อให้
เกิดอันตรายต่ อเพือ่ น (กท. 5: 1, 13-14) แม้ คำสอนของอาจารย์
เปาโลจะมีอายุเกือบสองพันปี แต่ หลักการทั้งหมดก็ยงั เป็ นจริง
เสมอสำหรับคนทุกยุค
สรุ ป
จริยธรรมคริสเตียนตั้งอยู่บนรากฐาน คือ มีพระเจ้ าผู้ทรงสร้ าง
มนุษย์ ทรงสำแดงพระองค์ ผู้ทรงรักมนุษย์ ทสี่ ุ ด ในฐานะองค์
ผู้ทรงสร้ างมนุษย์ พระองค์ ทรงทราบว่ ามาตราฐานชีวติ แบบใด
เป็ นสิ่ งทีด่ ที สี่ ุ ดสำหรับมนุษย์ ดังนั้นจึงกล่าวได้ ว่ าจริยธรรม
คริสเตียน คือ จริยศาสตร์ ขององค์ พระผู้ทรงสร้ าง (Creation
ethics) ทีด่ ที สี่ ุ ดสำหรับมนุษย์

You might also like