You are on page 1of 3

อนันตริยกรรม

อนันตรยกรรม คือ กรรมที่มีผลมาก มีทั้งฝ่ายดีและฝ่ายชัว่ ในฝ่ายดีก็คือ สามารถเจริญจิตจนได้


มรรคผล นิพพาน ทางฝ่ายชั่ว ได้แก่ กรรม ๕ อย่าง ดังนี้ :-

๑. มาตุฆาต, ๒. ปิตุฆาต ได้แก่ การฆ่ามารดา, บิดา ในที่นี้หมายเอาเฉพาะบิดามารดา


บังเกิดเกล้าเท่านั้น เราจะทราบว่าท่านเป็นมารดา หรือบิดาผู้ให้กำาเนิดหรือไม่กต็ าม จะมีเจตนาฆ่า
หรือไม่มีเจตนาฆ่าท่านให้ถึงแก่กรรมก็ตาม กรรมนี้ย่อมให้ผลก่อนเพราะเป็นกรรมหนัก เพราะผู้
กระทำากรรมอันเป็นบาปหยาบช้าแก่ผู้มีพระคุณ
ยิ่ง การที่คนเราได้กายมนุษย์ หรือ มนุษย์
สมบัติ นั้นเป็นการยากมาก มารดาบิดาทั้งสอง
ท่านนี่แหละที่ทะนุถนอม กล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูมา
ด้วยความยากลำาบากทั้งกายและใจ
สลด!! ลูกทรพีฆ่าพ่อ-แม่ หวังมรดก 10 ล้าน (ข่าวไทยรัฐ)

หากไม่ได้พระคุณแห่งบิดามารดาทั้งสองนี้แล้ว ความสุขอย่างมนุษย์หนึ่งครั้ง เธอจะไม่ได้พบ แม้วา่


ท่านทั้งสองจะได้เลี้ยงดู หรือไม่ได้เลี้ยงดูเราก็ตาม หากพลาดพลั้งกระทำาอนันตริยกรรม ต่อท่านทั้ง
สองแล้วไซร้ ก็ย่อมหมดโอกาสที่จะบำาเพ็ญกิจภาวนาให้ได้ มรรค ผล พระนิพพาน ในชาตินี้อย่าง
เด็ดขาด และอนันตริยกรรมนี้ย่อมแต่งสัตว์ให้ไปปฏิสนธิเกิดเป็นสัตว์นรกอยู่ในอเวจีมหานรก ให้ได้
รับทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส อยู่เป็นเวลานานนับกัปป์ พุทธศาสนิกชน
ทั้งหลายควรสังวรระวังให้มากหากพลาดพลั้งไปจะเป็นบาปใหญ่หลวง

๓. อรหันตฆาต ได้แก่การฆ่าพระอรหันต์ ซึ่งเป็น


พระอริยบุคคลชั้นสูงสุด ในบวรพระ พุทธศานา เป็นผู้ทรง
คุณอันพระเสริฐ ควรแก่การบูชาแห่งเทวดาและมนุษย์ทั้ง
หลาย เพราะเรายังไม่มีญาณทราบได้ว่า พระภิกษุองค์ใด
เป็นพระอริยเจ้าอรหันตร์ จึงจำาเป็นต้องระวัง กาย วาจา
และใจของเรามิให้ไปเบียดเบียนท่าน หากพลาดพลั้งไปจะ
เป็นบาปใหญ่หลวง โทษถึงอนัตรยกรรม
๔. โลหิตุบาท ได้แก่การทำาร้ายองค์พระสัมสัมพุทธเจ้า โดยการยังพระโลหิตให้ห้อใน พระ
วรกายแห่งพระองค์ ด้วยใจบาป หยาบช้าเหลือหลาย แล้วลงมือ
กระทำา ร้าย ยังพระโลหิตห้อให้บังเอิญเกิดขึ้นในพระวรกายแห่ง
พระพุทธองค์ ซึ่งยังทรงพระชนชีพอยู่ ดังเช่น พระเทวทัตกระทำา
แก่อ งค์ พ ระศาสดา บรมครู เจ้ า แห่ ง เราทั้ ง หลาย ในพุ ท ธสมั ย
บุ ค คลนั้ น ได้ ก ระทำา กรรมหนั ก ชื่ อ ว่ า กระทำา โลหิ ตุ บ าท ต้ อ ง
อนันตรยกรรม

สมัยนี้ล่วงมาแล้วประมาณ ๒๔๒๗ ปี นับแต่วันปรินิพพานแห่ง


พระองค์ ท่ า น ถึ ง กระนั้ น ก็ ต าม ผู้ ใ ดมี ทิ ฐิ เห็ น ผิ ด คิ ด ดู ห มิ่ น
เหยียดหยามพระพุทธองค์ ทางกาย วาจา และใจ ก็ตาม ถึงแม้
ไม่ถึงขั้นต้องโทษ อนันตริยกรรมก็ตาม แต่ก็ถือได้ว่า ได้กระทำากรรมอันบาป หยาบช้าแก่พระพุทธ
องค์ เช่นกัน ดังนั้น พุทธศาสนิกชนทั้งหลายไม่ควรประมาทในทิฐิแห่งตน

๕. สังฆเภท ได้แก่การที่ พระภิกษุยุยง ทำาลายให้สงฆ์แตกกัน ภิกษุใดมีใจลามกประกอบ


ด้วยดวงจิตอันสกปรก ยุยงให้สงฆ์แตกแยกกัน ภิกษุนั้นย่อมได้ชื่อว่า กระทำาสังฆเภท ต้องอนันตริ
ยกรรม หมายเอาแต่พระภิกษุกระทำาจำาพวกเดียว
แต่หากเหตุนั้น เป็นฆราวาสเป็นผู้กระทำา ถึงแม้จะไม่ถึง
บาปขั้นอนันตริยกรรมก็ตามแต่เป็นบาปมหันต์มาก ซึ่งผู้กระทำาจะ
ต้องได้รับผลกรรมอย่างแสนสาหัส ดังนั้นพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย
ควร ระวังกาย วาจา และใจเพื่อมิให้เกิดกรรมในสงฆ์นี้เลย

อนันตริยกรรมนั้นให้โทษมหันต์ เมื่อผู้ใดกระทำากรรมเหล่า
นี้ลงไปแล้ว กรรมนั้นย่อมปฏิสนธิให้เขาก่อนกรรมอื่น โดยฉุด
กระชากลากเขาผู้มีใจบาปหนานั้น ให้ไปบังเกิดเป็นสัตว์นรกอยู่ ณ
อเวจีนรก เสวยทุกขเวทนา ถูกไฟอเวจีนรกเผาไหม้ ติดต่อกันไม่มี
วันหยุดอยู่เป็นเวลาช้านาน เพราะโทษแห่งอนันตริยกรรมนี้

หากผู้ใดกระทำากรรมอันคล้ายคลึงกันนี้ แต่ไม่ถึงเป็นโทษแห่งอนันตริยกรรมก็มีโทษลดหลั่น
กันลงไปตามฐานะแห่งกรรม

พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย สมัยนี้เป็นสมัยที่วิวัฒนาการทางโลกเจริญขึ้นมาก แล้วสิ่งต่าง ๆ


เหล่านั้นได้มีอิทธิพลต่อชีวิตความเป็นอยู่ ตลอดจนจิตใจของเราท่านทั้งหลายเป็นอันมาก จนทำาให้
การงานสับสนวุ่นวาย และเพลิดเพลินอยูก่ ับสิ่งแปลกใหม่ จึงไม่ค่อยได้มีโอกาสได้ศกึ ษาสดับตรับฟัง
ธรรมะแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ฉะนั้นสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องจดจำา เรื่องของอนันตริยกรรมนี้
ไว้ เพื่อป้องกันบาปใหญ่อันอาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต

ท่านผู้มีปัญญาทั้งหลาย เมื่อเรายังไม่สามารถพิสจู น์สิ่งใดได้อย่างแจ่มแจ้งแล้ว ดังนั้นเราไม่


ควรปฏิเสธคำากล่าวเกี่ยวกับพระธรรมขององค์พระศาสดา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านเลย ในเมื่อเรา
ยังยินดีอยู่ในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสอยู่ และยังไม่ได้บำาเพ็ญภาวนาเจริญจิตให้เกิดญาณหยั่งรูต้ าม
ความเป็นจริงแล้ว ยิ่งต้องสังวรระวังภัยให้แก่ตัวเราให้มาก เพราะทุกข์ทั้งหลาย มักจะเกิดจากความ
ประมาทด้วย กาย วาจา และใจของเรานี่เอง

ดังนั้น หากเรายังไม่มีบุญวาสนาที่จะบำาเพ็ญตนให้พ้นทุกข์ในชาตินี้ ก็สมควรอย่างยิ่งที่เรา


ทุก ๆ คนควรระมัดระวังไม่ให้เผลอพลาดกระทำากรรมใหญ่ เช่น อนันตริยกรรม นี้เลย...

จากหนังสือ “พระพุทธปฏิภาณ และ จิตคือพุทธะและมรรคปฏิปทา”

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พิมพ์พระราชทาน
ในงานพระราชทานเพลิงศพ
พระราชวุฒาจารย์ (ดูลย์ อตุโล)
ณ เมรุวัดบูรพาราม อำาเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์
วันจันทร์ ที่ ๘ กรกฏาคม พุทธศักราช ๒๕๒๘

ประโยคทิ้งท้าย :

“นาทีมณะบนโลกมนุษย์ ทุกคนจะรูว้ ่าความตายเป็นแค่ประสบการณ์วูบเดียวที่จะผ่านหาย


และถูกลืม แต่สิ่งทีร่ ออยู่หลังความตายต่างหาก จะเป็นประสบการณ์ยืดเยื้อยาวนานที่แท้จริง

เมื่อตกลงไปอยู่ในนรก จะไม่มีใครรู้สึกเลยว่ามีทางรอด สภาพแบบที่คุมขังเพื่อลงทัณฑ์ ถูก


กรรมออกแบบให้เห็นแล้วนึกไปว่า นี่คือการจองจำาชั่วนิรันดร์”

“ดังตฤณ”

“อุบาสิกา...ณชเล”

You might also like