Professional Documents
Culture Documents
พบข้อคิดและเรื่องราวดีๆ ที่ Http://Smilebug4u.bloggang.com/
พบข้อคิดและเรื่องราวดีๆ ที่ Http://Smilebug4u.bloggang.com/
com/
Born to be สัตวแพทย์
กุมภาพันธ์ 2553
ISBN 978-616-90160-1-4
จำนวนหน้า 272 หน้า
ราคา 169 บาท
สุรัสวดี วงศ์จันทร์สุข
ความรักความสัมพันธ์ระหว่างคน และสัตว์เลี้ยงเป็นเรื่องที่สวยงาม
แต่ ในความสวยงามนั้นก็แฝงไปด้วยภาระและความรับผิดชอบ เช่น การดูแล
เรื่องอาหาร ความสะอาด การขับถ่าย และที่สำคัญที่สุดเมื่อถึงคราวเจ็บไข้ได้
ป่วยนั้น ก็ต้องพามันไปรักษา
ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยมันพึ่งจะเริ่มต้นตะหากล่ะ หนทางยังอีกยาวไกล
...สู้ต่อไปว่าที่ฮี โร่ทั้งหลาย
น.สพ.กิติกร เกียรติยิ่งอังศุลี
สารบัญ
สัตวแพทย อาชีพในฝัน ของคนรักสัตว ........16
หมออ๊อบ กับการเป็นสัตวแพทย์คลินิกสัตว์เล็ก ........17
หมอกต สพ.ญ.ธวัลรัตน์ เกียรติยิ่งอังศุล
กับการถวายงานผ่าน สุนัขทรงเลี้ยง ........26
สัตวแพทย์ผลิตมาจากไหน ........32
เว็บไซต์ที่เกี่ยวกับคณะสัตวแพทยศาสตร์ ........35
Born to be สัตวแพทย์
สัตวแพทยคลีนิกสัตวเล็ก
สั ต วแพทย์ในมุมมองของหมอ อย่ า งที่ ส องคื อ ชาวเผ่ า เราต้ อ ง
อ๊อบ เป็นยังไงคะ รั บ ผิ ด ชอบต่ อ ชี วิ ต ของสั ต ว์ ด้ ว ย
ในมุ ม มองของนายสั ต วแพทย์ ก็ได้ชื่อว่าเป็นสัตวแพทย์แล้ว ก็ต้อง
มือเริม่ เก่าอย่างผม ผมว่าชีวติ วัยเรียน เต็ ม ที่ กั น หน่ อ ย ทั้ ง ความรู้ แ ละ
เป็นช่วงที่สบายที่สุดแล้ว เพราะทันที ประสบการณ์ทงั้ หมด ถูกงัดขึน้ มาเพือ่
ที่เรียนจบ เปลี่ยนคำนำหน้าจาก นาย รักษาและช่วยชีวติ สัตว์อย่างสุดความ
เฉยๆ มาเป็น นายสัตวแพทย์ หรือ สามารถ
สั ต วแพทย์ ห ญิ ง มั น ทำให้ พ วกเรา อย่างที่สาม เรายังต้องรับผิดชอบ
กลายเป็นชาวเผ่าพิเศษ ทีม่ าพร้อมกับ ต่ อ ความคาดหวั ง ของเจ้ า ของ โดย
ความรับผิดชอบมากมาย เฉพาะสัตว์เลีย้ งทีเ่ จ้าของเลีย้ งเป็นลูก
อย่างแรกเลยคือ ชาวเผ่านี้ต้อง เป็ น เพื่ อ นรั ก เค้ า จะผู ก พั น กั น มาก
รับผิดชอบต่อวิชาชีพ มันเป็นเรือ่ งของ สัตวแพทย์อย่างเราก็เลยถูกคาดหวัง
จรรยาบรรณน่ะครับ ตามไปด้วย
234
และอย่าลืม รับผิดชอบต่อตัวเอง เทรนนิ่งแล้วจะได้เงินเดือนเท่าไหร่
ด้วยนะครับ เราควรจะมีความรูส้ กึ ทีด่ ี ก็คงคล้ายๆ กับทำงานบริษัททั่วไป
ต่อตัวเอง ต่อเพื่อนร่วมงาน และต่อ ที่มีทดลองงานนั่นแหละครับ ที่เด็ก
วิชาชีพ ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด และ ใหม่จะต้องผ่านด่านการเทรนนิง่ ไปให้
ขอให้ภมู ใิ จกับความเสียสละ คิดซะว่า ได้ซะก่อน ถึงจะได้ชอื่ ว่าเป็นพนักงาน
“เวลาทีเ่ ราสุขสบาย มันเทียบไม่ได้กบั มีงานทำแบบเต็มตัว สมัยผมทำงาน
เวลาที่ ย อมสละเพื่ อ ช่ ว ยชี วิ ต สั ต ว์ ที่ ใหม่ๆ พอผ่านช่วงเทรนนิ่งใบอนุญาต
เจ็บป่วย หรือกำลังจะตาย” ยังไงก็ ก็ส่งมาถึงพอดี เหมือนรู้ว่าต้องเอาไป
เต็มที่กับสิ่งที่ทำ ดีที่สุดครับ ใช้แปะข้างฝาคลีนิคแล้ว
ตอนได้ เ ป็ น สั ต วแพทย์
เต็มตัว รู้สึกยังไงคะ
ก็เหมือนกับผมได้เรียนปี 6
อีกครั้ง เพราะช่วงเดือนแรกๆ
ที่เริ่มทำงาน ปกติก็จะเป็นช่วง
เทรนนิ่งไม่ว่าที่ไหนก็ประมาณ
นี้ แต่ ฝึ ก งานคราวนี้ ก ดดั น
คนละอย่ า ง เพราะผมต้ อ ง
รั บ ผิ ด ชอบเคสจริ ง ๆ แล้ ว คลิ นิ ก จะ
ประเมินผลงาน และก็สอนงานให้ดว้ ย
มี ค ลิ นิ ก หรื อ โรงพยาบาล
Born to be สัตวแพทย์
234
สัตวแพทยผลิตมาจากไหน
ในปีการศึกษา 2552 คณะสัตวแพทย์มีการเปิดการเรียนการสอนอยู่ 9
สถาบัน ได้แก่
• จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
• มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
• มหาวิทยาลัยมหิดล
• มหาวิทยาเชียงใหม่
• มหาวิทยาลัยขอนแก่น
• มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร
• มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
• มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
• มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น
โดยแต่ละแห่งอาจจะวางหลักสูตรแตกต่างกันไปบ้างตรงทีล่ ำดับการเรียน
แต่ละวิชา แต่เนื้อหาหลักก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก
และในแต่ละปี คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ของแต่ละสถาบัน มักจะจัดกิจกรรม
ให้น้องๆ นักเรียนมัธยมปลาย หรือผู้ที่สนใจเข้าเยี่ยมชมคณะ ได้สัมผัสการ
เรียนและการทำงานจริงในฐานะสัตวแพทย์ เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจ
เลือกวิชาชีพที่น้องๆ สนใจ โดยสามารถติดตามข่าวกิจกรรมเหล่านี้ได้จาก
เว็บไซต์ของคณะสัตวแพทย์ของแต่ละสถาบัน สำหรับของมหาวิทยาลัยผม จะมี
กิจกรรมที่วิทยาเขตกำแพงแสน และในงานเกษตรแฟร์ก็สามารถเข้าชมได้
Born to be สัตวแพทย์
เช่นกันครับ
234
Born to be สัตวแพทย์
สำหรับของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สามารถติดตามข่าวได้ที่ http://
www.vetclub.nisit.ku.ac.th โดยปีทผี่ า่ นๆ มา จะจัดกิจกรรมในเดือนสิงหาคม
ส่วนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปีทผี่ า่ นมาจะจัดในเดือน ตุลาคม สำหรับมหาวิทยา
ลัยอื่น สามารถติดตามข่าวสารได้ที่เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยนั้นๆ นะครับ
ผมรวบรวมไว้ให้แล้ว
ถ้าตกลงปลงใจแล้วว่าจะเป็นสัตวแพทย์ แน่นอนก่อนทีจ่ ะก้าวเข้าไปเรียน
จำเป็นจะต้องผ่านการสอบคัดเลือกของคณะให้ได้ซะก่อน ซึง่ ในสมัยของผมก็คอื
การสอบเอ็นทรานซ์ ซึ่งคุณสมบัติของคนที่จะสอบเข้าคณะนี้ได้นั้น จะต้องจบ
มาจากสายวิทย์ โดยมีวิชาที่ใช้สอบ 6 วิชา คือ เลข, ฟิสิกส์, เคมี, ชีวะ, สามัญ
(ภาษาไทย + สังคม) และภาษาอังกฤษ
เมื่อก่อนอาจจะเคยได้ยินคนพูดกันบ่อยๆ ว่า
“ใครเก่งชีววิทยาก็ให้ไปเอ็นฯ เป็นหมอ เป็นสัตวแพทย์”
“ใครเก่งเคมีก็ไปเอ็นฯ เภสัช”
“ใครเก่งเลขเก่งฟิสิกส์ก็ให้ไปเอ็นฯ วิศวะหรือสถาปัตย์”
แต่เอาเข้าจริงๆ ในการเรียนสัตวแพทย์นั้น การเก่งชีวะเพียงวิชาเดียว
ไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะกว่าวิชาชีวะจะช่วยท่านได้ จะต้องสอบผ่านวิชา
พื้นฐานทั้ง เคมี ฟิสิกส์ เลข ให้ได้ซะก่อน ซึ่งถ้าไม่ผ่านก็จะไม่สามารถลงเรียน
ในวิชาต่อเนื่องตัวอื่นๆ ต่อไปได้เลย
234
ในส่วนของสถาบันที่ผมจบมานั้น หลักสูตรของคณะสัตวแพทยศาสตร์
(หลักสูตร 6 ปี) จะแบ่งเป็น 3 ระยะ (1:2:3) คือ
ปีที่ 1 ศึกษากลุ่มวิชาพื้นฐานทั่วไป ได้แก่ เคมี ฟิสิกส์ เลข (สถิติ) ชีวะ
(สัตววิทยาทั่วไป) และภาษาอังกฤษ
ปีที่ 2-3 เป็นการเรียนกลุ่มวิชาพรีคลินิก ได้แก่ กายวิภาคศาสตร์ จุลกาย
วิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา จุลชีววิทยาและวิทยาภูมคิ มุ้ กัน เภสัชวิทยา พยาธิวทิ ยา
และปรสิตวิทยา
ปีที่ 4-5-6 จะเป็นการเรียนในวิชาคลินิก อายุรศาสตร์ ศัลยศาสตร์และ
รังสีวทิ ยา สูตศิ าสตร์ สัตวแพทย์สาธารณสุขศาสตร์์ เธนุเวทวิทยาและวิทยาการ
สืบพันธุ์ รวมถึงการทำปัญหาพิเศษ โดยในชัน้ ปีที่ 6 จะมีการฝึกงานในโรงพยาบาล
สัตว์ตลอดปี
นอกจากนี้นิสิตคณะสัตวแพทย์จะต้องมีชั่วโมงการฝึกงานเพิ่มเติมอีก
ไม่ต่ำกว่า 200 ชั่วโมง อีกด้วย
จากประสบการณ์ทผี่ มเจอมาไม่วา่ กับตัวเองหรือกับเพือ่ นๆ การทีจ่ ะต้อง
เรียนซ้ำชั้นหรือตกรุ่นนั้น สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการตกวิชาพื้นฐานปี 1 กัน
เกือบทุกคน เพราะถ้าผ่านวิชาพืน้ ฐานไปไม่ได้ ก็แทบจะลงเรียนวิชาต่อๆ ไปใน
คณะไม่ได้เลย จะมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ไปพลาดวิชาในคณะจนต้องซ้ำชั้น
เพราะฉะนั้นการเรียนในปี 1 นั้นสำคัญอย่างยิ่งสำหรับสาขาวิชานี้
Born to be สัตวแพทย์
234
ป‚ 2 เรียนหนัก
Born to be สัตวแพทย์
จนหัวบาน
หลังจากผ่านการเรียนวิชาพื้นฐานของปีหนึ่งจนหมด (หรือเกือบหมด)
ก็ได้เวลาเข้าไปเรียนในคณะ เริม่ เรียนวิชาในกลุม่ พรีคลินกิ ซะที รายชือ่ วิชาต่างๆ
ก็จะเริ่มมีคำว่า Veterinary ซึ่งแปลว่า สัตวแพทยศาสตร์ ให้ความรู้สึกว่าเรา
กำลังเรียนอยู่ในคณะสัตวแพทย์จริงๆ แล้วนะ
234
เทอมไหนเรียนอะไร…
เทอมหนึ่งเรียน : Veterinary Gross Anatomy I, Veterinary Embryo
logy, Veterinary Biochemistry, Introduction of Veterinary Medicine,
Principles of Genetics, Foundation English III, และวิชาเลือกกลุ่ม
วิชามนุษยศาสตร์ และกลุ่มวิชาสังคมศาสตร์ตัวสุดท้าย
เทอมสองเรียน : Veterinary Gross Anatomy II, Veterinary Histology,
Veterinary Neuroanatomy, Veterinary Bacteriology, Veterinary
Physiology I, Animal Behavior Restraint & Hygiene และ General
Aquaculture
Born to be สัตวแพทย์
234
Born to be สัตวแพทย์
Veterinary Gross Anatomy I และ II
วิชากายวิภาคศาสตร์ทางสัตวแพทย์ หรือเรียกสั้นๆ ว่า Gross เนื้อหา
เริ่มตั้งแต่การเรียนรู้คำศัพท์เทคนิคทางกายวิภาคศาสตร์ ไปจนถึงการเรียนรู้
เรื่องระบบโครงสร้างทุกส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น กระดูก กล้ามเนื้อ
ผิวหนัง ข้อต่อ อวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย โดยวิชานี้ก็จะแบ่งออกเป็นสองส่วน
คือ เลกเชอร์กับการทำแล็บ
234
ในการเรียนแล็บกายวิภาคนั้น จะเน้นที่สุนัขเป็นส่วนใหญ่ โดยใช้สุนัข
เป็ น ต้ น แบบและเปรี ย บเที ย บกั บ สั ต ว์ ช นิ ด อื่ น ๆ ได้ แ ก่ โค สุ ก ร ม้ า แพะ
แกะ ไก่ และช้าง (แม้จะเน้นสุนัขเป็นหลักแต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เนื้อหา
ในส่วนของสัตว์ชนิดอืน่ ๆ จะน้อยลงไปนะครับ ยังคงเข้มข้นเช่นกัน) โดยทางคณะ
จะเป็นฝ่ายจัดเตรียมสุนัขไว้ให้ และอาจารย์จะเป็นคนฉีดยาให้สุนัขสลบ
หลังจากนั้นจึงเป็นหน้าที่ของนิสิตที่จะต้องเตรียมซากสุนัข
หลังจากสุนขั สลบแล้ว ก็จะมีการเอาเลือดออกจากร่างกายสุนขั โดยกรีด
เปิดเส้นเลือดใหญ่ทคี่ อ แล้วฉีดอัดฟอร์มาลีนและสีเข้าไปทางเส้นเลือดเส้นเดิม
เพือ่ รักษาสภาพสุนขั ไม่ให้เน่า และสีทผี่ สมกับฟอร์มาลีนก็จะแข็งอยูใ่ นเส้นเลือด
ทำให้เมื่อถึงเวลาเรียนเรื่องระบบเลือดก็จะมองเห็นเส้นเลือดได้อย่างชัดเจน
เมื่อจัดเตรียมซากเสร็จแล้วก็นำซากสุนัขไปแช่ในถังเก็บ
ในการเรียนแล็บ อาจารย์จะให้จับกลุ่มกัน 6 คนต่อซากสุนัขหนึ่งตัว และ
ต้องใช้ซากสุนัขตัวนั้นไปจนจบเทอม สมาชิกในกลุ่มจะต้องคอยดูแลซากสุนัข
ให้ดี โดยเฉพาะช่วงก่อนสอบ เนือ่ งจากทุกๆ ปีมกั จะมีนสิ ติ บางคนมาขโมยซาก
สุนัขของคนอื่นไปท่อง (มักจะแอบเข้ามาในคณะตอนดึกๆ เวลาที่ปลอดผู้คน)
พวกนี้มักจะผ่าหรือชำแหละซากจนเสียหาย บางครั้งแอบตัดขาหายไปทั้งข้าง
ทำให้กลุม่ ทีโ่ ดนขโมยซากไปไม่มซี ากทีจ่ ะใช้เรียนต่อ หรือซากเสียหายจนใช้งาน
ต่อไม่ได้เลยก็มี
อุปสรรคในการเรียนแล็บกายวิภาคคือ กลิ่น ทั้งกลิ่นของฟอร์มาลีนที่ฉุน
แสบจมูก และกลิน่ คาวของซากสุนขั ใน(ช่วงแรกของ)การเรียนนัน้ นิสติ แทบทุก
คนจะใส่เครือ่ งแบบสำหรับการเรียนแล็บอย่างเต็มยศเลยทีเดียว คือมีเสือ้ กาวด์
Born to be สัตวแพทย์
234
¡ÒâÖé¹·ÐàºÕ¹໚¹ÊÑμÇá¾·ÂàμçÁμÑÇ
Born to be ÊÑμÇá¾·Â
อยางที่บอก วานิสิตปสุดทายตองทำการยื่นคำขอสมัครเปนสมาชิก และ
ขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตเปนผูประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย ซึ่งเปนขอ
บังคับสำหรับสัตวแพทยทุกคน โดยจะตองมีเลขที่ใบอนุญาต หากไมมีก็จะ
อยูในฐานะหมอเถื่อน
ในการขอใบอนุญาตนัน้ ในรุน ผมจำเปนทีจ่ ะตองรีบขอใหเร็วทีส่ ดุ เพราะ
ขั้นตอนดำเนินการออกใบอนุญาตนั้น ใชเวลานานพอสมควร ขนาดขอกัน
ตั้งแตกอนเรียนจบ กวาใบอนุญาตจะออก จบแลวยังตองรอกันตออีกสอง
ถึงสามเดือนเลยทีเดียว หากมัวแตชักชาไปขอทีหลังก็จะยิ่งไดชาไปอีก จะเริ่ม
ทำงานก็ไมได เดี๋ยวคนอื่นจะหาวาเปนหมอเถื่อนไมมีใบอนุญาต
ปจจุบัน การขอใบอนุญาตนั้นสะดวกกวารุนผมมากมาย เนื่องจาก
สามารถดาวนโหลดใบคำขอสมัครเปนสมาชิก และขอขึน้ ทะเบียนรับใบอนุญาต
เปนผูป ระกอบวิชาชีพการสัตวแพทยไดทเี่ ว็บไซตของสัตวแพทยสภาโดยตรงที่
www.vetcouncil.or.th ตรงหัวขอดาวนโหลดเอกสาร หลังจากกรอกเอกสาร
และจัดสงเรียบรอยแลว ก็จัดการชำระคาธรรมเนียมการออกใบอนุญาต แลว
ก็นอนรอใบอนุญาตสงตรงมาใหที่บานไดเลย
234
μÑÇÍ‹ҧ ºÑμûÃШÓμÑÇÊÁÒªÔ¡ÊÑμÇá¾·ÂÊÀÒ (¢¹Ò´à·‹ÒºÑμûÃЪҪ¹ àÍÒäÇŒ¾¡μÔ´μÑÇ)
มีขนาดเทากระดาษ A4 ปกติจะใสกรอบแขวนไวที่โรงพยาบาลหรือ
คลินิกที่ทำงาน เพื่อไวเปนหลักฐานยืนยันวา นายสัตวแพทยหรือสัตวแพทย
Born to be ÊÑμÇá¾·Â
หญิงที่ทำงานอยูนั้น เปนผูไดรับอนุญาตประกอบวิชาชีพอยางถูกตองตาม
กฎระเบียบของการตั้งสถานพยาบาลสัตวอีกทีหนึ่ง เนื่องจากปจจุบันมีคลินิก
เถื่อนเยอะมาก โดยเฉพาะตามตางจังหวัด
234
¢ŒÍ¤Ô´àÇÅÒËÒ§Ò¹
Born to be ÊÑμÇá¾·Â
หลายๆ คนอาจจะคิดวา เรียนจบสัตวแพทยแลวก็ออกมารักษาสัตว
ตามโรงพยาบาลสัตว หรือไมก็เปดคลินิกรักษาสัตว (ซึ่งก็คงไมมีใครหาญ
กลาจบปุบเปดคลินิกปบอยางแนนอน เพราะยังขาดประสบการณทั้งทาง
ดานการรักษา การบริหารงาน และการบริหารธุรกิจ) แตจริงๆ แลวงานดาน
สัตวแพทยก็มีหลากหลายสาขา เชน ดานการรักษาสัตวเล็ก สัตวเศรษฐกิจ
การเปนพนักงานบริษทั ยา และผลิตภัณฑตา งๆ เกีย่ วกับสัตว (ตำแหนงฝายขาย
หรือไมก็ฝายวิชาการ) งานดานสัตวทดลองและงานวิจัย งานดานสัตวปา
งานดานสาธารณสุข การรับราชการ ไปจนถึงงานบริการสังคมและมูลนิธิ
การเลือกสมัครงานหรือทำงานที่ไหนนั้น ทั่วๆ ไปก็จะดูกันเรื่องเงินเดือน
การกินอยู ที่พัก ความสะดวกในการเดินทาง (กรณีที่ไมมีที่พักให) สวัสดิการ
ค า รั ก ษาพยาบาลต า งๆ แต ก็ มี ห ลายคนเหมื อ นกั น ที่ ไ ม ส นใจเรื่ อ งพวกนี้
ขอแคใหไดงานทำก็พอ แบบวากลัวตกงานมากกวา พอมีประสบการณแลว
ก็คอยวากันอีกที
ÍÂÒ¡¨Ðá¹Ð¹Óà´ç¡ÃØ‹¹ËÅѧæ äÇŒÊÑ¡¹Ô´
นอกจากการดูคาตอบแทนที่เราควรจะไดรับแลว อยากใหดูเพิ่มในเรื่อง
เครื่องไมเครื่องมือในการตรวจวินิจฉัย และรักษาของโรงพยาบาล วาสามารถ
สนับสนุนใหเราพัฒนาศักยภาพของเราไดมากนอยแคไหน มีการสนับสนุน
ใหมีการฝกอบรมเพิ่มเติมความรูใหกับบุคลากรในโรงพยาบาลหรือไม เพราะ
การเปนสัตวแพทยที่ดี จะตองไมนิ่งอยูกับที่ หากแตตองมีการศึกษาหาความ
รูใหมๆ และพัฒนาตัวเองอยูตลอดเวลา
234