Professional Documents
Culture Documents
บทที่ 3
3.1 หลักการทำางานของสวิตชิ่งเพาเวอร์ซัพพลาย
สวิตชิ่งเพาเวอร์ซัพพลายโดยทัว่ ไปมีองค์ประกอบพื้นฐานที่คล้ายคลึง
กัน และไม่ซับซ้อนมากนั ก ดังแสดงในร่ปที่ 1 หัวใจสำาคัญของสวิตชิ่งเพาเวอร์
ซัพพลายจะอย่่ท่ีคอนเวอร์เตอร์ เนื่ องจากทำาหน้ าที่ทัง้ ลดทอนแรงดันและคง
ค่าแรงดันเอาต์พุตด้วย องค์ประกอบต่างๆ ทำางานตามลำาดับดังนี้
รูปที่ 1 องค์ประกอบพื้นฐานของสวิตชิ่งเพาเวอร์ซัพพลาย
แรงดันไฟสลับค่าส่งจะผ่านเข้ามาทางวงจร RFI ฟิ ลเตอร์ เพื่อกรองสำญญาณ
รบกวนและแปลงเป็ นไฟตรงค่าส่งด้วยวงจรเรกติไฟเออร์ เพาเวอร์
ทรานซิสเตอร์จะทำางานเป็ นเพาเวอร์คอนเวอร์เตอร์โดยการตัดต่อแรงดันเป็ น
ช่วงๆ ที่ความถี่ประมาณ 20-200 KHz จากนั ้นจะผ่านไปยังหม้อแปลงสวิตชิ่ง
เพื่อลดแรงดันลง เอาต์พุตของหม้อแปลงจะต่อกับวงจรเรียงกระแส และกรอง
แรงดันให้เรียบ การคงค่าแรงดันจะทำาได้โดยการป้ อนกลับคาแรงดันที่เอาต์พุต
กลับมายังวงจรควบคุม เพื่อควบคุมให้เพาเวอร์ทรานซิสเตอร์นำากระแสมากขึ้น
หรือน้ อยลงตามการเปลี่ยนแปลงของแรงดันที่เอาต์พุต ซึ่งจะมีผลทำาให้แรงดัน
เอาต์พุตคงที่ได้ ร่ปที่ 2 แสดงวงจรซึ่งแบ่งส่วนตามองค์ประกอบหลักในร่ป 1
เพื่อเป็ นตัวอย่าง
3.2 คอนเวอร์เตอร์
คอนเวอร์เตอร์นับว่าเป็ นส่วนสำาคัญที่สุดในสวิตชิ่งเพาเวอร์ซัพพลาย มีหน่ าที่
ลดทอนแรงดันไฟตรงค่าส่งลงมาเป็ นแรงดันไฟตรงค่าตำ่า และสามารถคงค่าแรง
ดันได้ คอนเวอร์เตอร์มีหลายแบบขึ้นอย่่กับลักษณะการจัดวงจรภายใน โดย
คอนเวอร์เตอร์แต่ละแบบจะมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป การจะเลือกใช้
คอนเวอร์เตอร์แบบใดสำาหรับสวิตชิ่งเพาเวอร์ซัพพลายนั ้นมีข้อควรพิจารณาจาก
ลักษณะพื้นฐานของคอนเวอร์เตอร์แต่ละแบบดังนี้คือ
• ลักษณะการแยกกันทางไฟฟ้ าระหว่างอินพุตกับเอาต์พุตของคอนเวอร์
เตอร์
• ค่าแรงดันอินพุตที่จะนำ ามาใช้กับคอนเวอร์เตอร์
• ค่ากระแสส่งสุดที่ไหลผ่านเพาเวอร์ทรานซิสเตอร์ในคอนเวอร์เตอร์ขณะ
ทำางาน
• ค่าแรงดันส่งสุดที่ตกคร่อมเพาเวอร์ทรานซิสเคอร์ในคอนเวอร์เตอร์ขณะ
ทำางาน
• การรักษาระดับแรงดันในกรณี ท่ีคอนเวอร์เตอร์มีเอาต์พุตหลายค่าแรงดัน
• การกำาเนิ ดสัญญาณรบกวน RFI/EMI ของคอนเวอร์เตอร์
จากข้อพิจารณาดังกล่าว จะทำาให้ผ้่ออกแบบทราบขีดจำากัดของคอนเวอร์เตอร์
และตัดสินใจเลือกใช้คอนเวอร์เตอร์แบบใดได้ ปั จจุบันได้มีการพัฒนาคอนเวอร์
เตอร์ในร่ปแบบต่างๆ ขึ้นมามากมาย ในที่นี้จะกล่าวถึงเฉพาะคอนเวอร์เตอร์ท่ี
นิ ยมใช้เป็ นในอุตสาหกรรมของสวิตชิ่งเพาเวอร์ซัพพลาย คือ
3.2.1 ฟลายแบคคอนเวอร์เตอร์ (Flyback converter)
3.2.2 ฟอร์เวิร์ดคอนเวอร์เตอร์ (Forward converter)
3.2.3 พุช-พ่ลคอนเวอร์เตอร์ (Push-Pull converter)
3.2.4 ฮาล์ฟบริดจ์คอนเวอร์เตอร์ (Half-Bridge converter)
3.2.5 ฟ่ลบริดจ์คอนเวอร์เตอร์ (Full-Bridge converter)
คอนเวอร์เตอร์ทัง้ 5 แบบนี้ มีลก ั ษณะการทำางานที่ไม่แตกต่างกันจนเกินไปนั ก
และค่อนข้างง่ายต่อการทำาความเข้าใจและศึกษา คอนเวอร์เตอร์เหล่านี้ยัง
สามารถแบ่งย่อยได้อีกหลายประเภทโดยการเพิ่มเทคนิ คบางประการให้กบ ั คอน
เวอร์เตอร์ ในที่นี้จะกล่าวถึงแต่เพียงการทำางานพื้นฐานเท่านั ้น
3.2.1 ฟลายแบคคอนเวอร์เตอร์
รูปที่5 กราฟแสดงลักษณะกระแสและแรงดันในวงจรขณะทำางาน
สำาหรับฟอร์เวิร์ดคอนเวอร์เตอร์ เมื่อวงจรทำางานอย่่ในสภาวะคงที่ ค่าแรงดัน
เอาต์พุตที่ได้จากคอนเวอร์เตอร์จะเป็ นไปตามสมการ
ฟอร์เวิร์ดคอนเวอร์เตอร์ให้กำาลังงานได้ในช่วงเดียวกับฟลายแบคคอนเวอร์
เตอร์ (ในช่วง 100 - 200 วัตต์) แต่กระแสที่ได้จะมีการกระเพื่อมตำ่ากว่า
อย่างไรก็ตาม ตัวอุปกรณ์ท่ีเพิ่มเข้ามาจะให้มีราคาส่งกว่า
3.2.3 พุช-พูลคอนเวอร์เตอร์
พุช-พ่ลคอนเวอร์เตอร์เป็ นคอนเวอร์เตอร์ท่ีจ่ายกำาลังได้ส่ง ในช่วง 200
- 1000 วัตต์ แต่มีข้อเสียคือมักเกิดการไม่สมมาตรของฟลักศ์แม่เหล็กของ
แกนหม้อแปลง ซึ่งจะมีผลต่อการพังเสียหายของเพาเวอร์ทรานซิสเตอร์ได้ง่าย
ในปั จจุบันเทคนิ คการควบคุมแบบควบคุมกระแสช่วยลดปั ญหานี้ลงได้ ดังนั ้น
พุช-พ่ลคอนเวอร์เตอร์จึงเป็ นคอนเวอร์เตอร์ท่ีน่าสนใจสำาหรับสวิตชิ่งเพาเวอร์
ซัพพลายที่ต้องการกำาลังส่ง
การทำางานของพุช-พ่ลคอนเวอร์เตอร์ เปรียบเสมือนการนำ าฟอร์เวิร์ด
คอนเวอร์เตอร์สองชุดมาทำางานร่วมกัน โดยผลัดกันทำางานในแต่ละครึ่งคาบ
เวลาในลักษณะกลับเฟส ทำาให้จ่ายกำาลังได้ส่ง เพาเวอร์ทรานซิสเตอร์ในวงจร
ยังคงมีแรงดันตกคร่อมในขณะหยุดนำ ากระแสค่อนข้างส่งเช่นเดียวกับฟลาย
แบคและฟอร์เวิร์ดคอนเวอร์เตอร์ รวมทัง้ ปั ญหาการเกิดฟลักซ์ไม่สมมาตรใน
แกนเฟอร์ไรต็ของวงจรทำาให้เพาเวอร์ทรานซิสเตอร์พังเสียหายง่าย พุช-พ่ลคอน
เวอร์เตอร์เป็ นพื้นฐานของ Î าล์ฟบริดจ์ และฟ่ลบริดจ์คอนเวอร์เตอร์ซ่ ึงมีการ
ทำางานคล้ายกัน แต่มีข้อบกพร่องน้ อยกว่า
3.5 การเลือกใช้ IC
เมื่อสวิทชิ่งเร็คก่เตอร์เกิดมีปัญหาขึ้นมา วิธีตรวจสอบให้ขัน
้ แรกคือด่ว่า
อินพุทเพาเวอร์และเอ้าท์พุท เกิดการช้อตหรือไม่, สายหลุด, คอนเน็คเตอร์ไม่
ปกติ จุดบัดกรีเกิดความเสียหายขึ้น หน้ าขัว้ สัมผัสทองแดง เสียหรือไม่ อุปกรณ์
มีการไหม้หรือเปล่า ฮลฮ ซึ่งบ่อยครัง้ เมื่อเราตรวจด่ด้วยสายตาแล้ว เราสามารถ
หาจุดเสีย ได้ง่าย ๆ อย่างน่ าประหลาดใจ
ตารางที่ 1 สรุปการเลือกใช้ ไอซีสวิทชิ่งเร็คก่เลเตอร์
Output(
Mode Single or Pack I Refer
IC Family Manufactures Supply out Comments
VorI PushPull age Max ence
)
8 (or
CS,ERIC,IPS, LT,MOT,SGS,
3842-7 I S 8 Pin 16) - 1A 5V See Article.
SIG,TI,UNI
25V
Micropower for
battery
2.4 - 150
4191-3 MAX, RAY V S 8 Pin 1.31 V applications,
30V mA
200uA quiescent
supply current.
Inverting,
micropower for
4 to 100 battery
4391 MAX, RAY V S 8 Pin 1.25 V
30V mA applications,
250uA supply at
4V.
16 10.5 - 40 Full-featured.
5560 5562 V S Pin 18V 10 mA 3.72 V Flexible. Lower
CS, IPS, SIG 20 - 16V , 100 3.80 V cost, fewer
5561 V S Pin 8 10.5 - mA , 3.75 V housekeeping
Pin 18V 20 mA functions.
16 Pin
493/4/5 CS, EXAR, GS, IPS, MOT, NAT, TI, 200
V P-P or 18 7 - 40V 5V
593/4/5 UNI mA
Pin
2.5 - Universal
uA78S40 MOT, NAT V S 16 Pin 1.5 V 1.24 V
40V subsystem IC.
100
125/7 IPS, SIL V P-P 16 Pin 8 - 35V 5.1 V
mA
33060/
500
34060/ IPS, MOT V S 14 Pin 7 - 40V 5V
mA
35060
20 mA
into 5V
1060 IPS, PLES V S 16 Pin shunt 40 mA 3.7 V
regulato
r