Professional Documents
Culture Documents
หน้า
บทคัดย่อ
ก
กิตติกรรมประกาศ
ข
สารบัญ
ค
สารบัญรู ป
จ
บทที่
ช
1. บทนา
1.1 หลักการและเหตุผล
1
1.2 วัตถุประสงค์ของโครงการวิจยั
1
1.3 ขอบเหตุของโครงการวิจยั
1
1.4 ระยะเวลาและแผนดาเนินโครงการวิจยั
2
1.5 วิธีการดาเนินการวิจยั
2
1.6 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
2
2. ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
2.1 การปรับปรุ งค่าตัวประกอบกาลังไฟฟ้า
3
2.1.1 ตัวประกอบกาลังไฟฟ้าคืออะไร
4
2.1.2 ถ้าทาให้ตวั ประกอบกาลังไฟฟ้าสู งจะทาให้มีผลดังนี้
5
2.1.3 ความต้านทานคายประจุ
8
2.2 อุปกรณ์
2.2.1 Capacitor
9
หน้า
3. การออกแบบ
3.1 การออกแบบ
-
3.2 เรี ยนรู ้เกี่ยวการปรับปรุ งตัวประกอบกาลังไฟฟ้า
-
3.4 วัดผลก่อนและหลังการปรับปรุ งตัวประกอบกาลังไฟฟ้า
-
4. การวัดผล
4.1 ก่อนแก้เพาเวอร์แฟคเตอร์
_
4.2 หลังแก้เพาเวอร์แฟคเตอร์
-
4.3 ค่าประกอบกาลังเพาเวอร์แฟคเตอร์
-
5. สรุ ป
5.1 สรุ ป
-
เอกสารอ้างอิง
-
สารบัญรู ป
หน้า
รู ปที่ 2.1 ตัวประกอบกาลังไฟฟ้า
-
รู ปที่ 2.3 การแก้เพาเวอร์แฟกเตอร์ดว้ ยคาปาซิเตอร์ -
สมรบัญตาราง
หน้า
ตารางที่ 1.1 ระยะแวลาในการวางแผน
2
บทที่ 1
บทนำ
1.2.2 เพื่อเป็นการศึกษาคุณลักษณะของการปรับปรุงตัวประกอบกําลัง
1.3 วิธีการดำเนินการวิจัย
1.3.1 ศึกษาการเรียนรู้การปรับปรุงตัวประกอบกำลังไฟฟ้า
1.3.2 จำลองการปรับปรุงค่าเพาเวอร์แฟกเตอร์
1.3.3 ปรับปรุงและแก้ไข
1.4 วิธีการวิจัย
1.4.1 เก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อนํามาวิเคราะห์
1.4.2 ดําเนินการคํานวณวิเคราะห์เพื่อหาค่ากําลังไฟฟ้ารีแอคทีฟที่ต้องการชดเชย
1.4.3 สรุปผลและวิเคราะห์การลดค่า PF Charge ของการไฟฟ้า
1.5 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.5.1 ศึกษาการเรียนรู้การปรับปรุงตัวประกอบกำลังไฟฟ้า
บทที่ 2
ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกีย่ วข้อง
2.1 บทที่ 2
สํ าหรั บรายละเอี ยดในบทนี้ จะแสดงถึ งทฤษฎี ท ี ่ ส ํ าคั ญและงานวิ จ ั ยที ่ เกี ่ ยวข้ องกั บการ
ปรั บปรุ งตั วประกอบกํ าลั งในระบบฟ้ า โดยจะกล่ า วถึ ง กํ า ลั ง ไฟฟ้ า ในวงจรไฟฟ้ า กระแสสลั บ
ตัวประกอบกําลังไฟฟ้า การปรับปรุงตัวปรับประกอบกําลังไฟฟ้า สามเหลี่ยมกำลังไฟฟ้า การติดตั้งตัวคาปาซิเตอร์
ข้อดีและข้อเสียของการใช้ตัวเก็บประจุไฟฟ้า ประโยชน์ของการปรั บ ปรุ ง ค่ า ตั ว ประกอบกํ า ลั ง ไฟฟ้ า
ให้ เ หมาะสมและที่ เ กี่ ย วข้ อ งเนื้ อ หาดั ง กล่ า วเป็ น พื้ น ฐานในการออกแบบ และสร้ า งโครงงานนี้
2.2 วรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง
บทความของบรรจง มะลิวัลย์ [1], “การปรับปรุงตัวประกอบกําลังของเครื่องใช้ไฟฟ้า ภายโรงงานอุตสาหกรรม”
การเพิ่มค่าของตัวประกอบกําลัง (Power factor) ของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในโรงงาน วัตถุประสงค์ของโครงงาน
คื อการศึ กษาแนวทางการลด ค่ าไฟด้ วยการลดการใช้ ก ํ าลั งปรากฏ (Apparent power) ของอุ ปกรณ์ ท ี ่ สนใจ
ในขณะที่ความต้องการใช้กําลังจริง (Real power) ของอุปกรณ์ดังกล่าวยังคงเดิม แนวทางหนึ่งที่เป็นไปได้คือ
การปรั บปรุ งตั วประกอบกํ าลั ง (Power factor correction) จากการศึ กษาจะพบว่ าตั วประกอบกํ าลั งไฟฟ้ า
ของโรงงานอุ ต สาหกรรม โดยมี ค ่ า อยู ่ ท ี ่ ป ระมาณ 0.50-0.80 ในโครงงานนี ้ จ ึ ง ได้ อ อกแบบ
เพื ่ อ เพิ ่ ม ค่ า ของตั ว ประกอบกํ า ลั ง ให้ ม ี ค ่ า ประมาณ 0.95 โดยต่ อ ขนานตั ว เก็ บ ประจุ เ ข้ า กั บ
อุปกรณ์ที่ต้องการชดเชยกําลังไฟฟ้าปรากฏ (Reactive power) ที่อุปกรณ์นั้นต้องการโดยได้ทําการทดลอง
วั ด ค่ า ต่ า ง ๆ ที ่ เ กี ่ ย วข้ อ งทั ้ ง ก่ อ น และหลั ง การปรั บ ปรุ ง แล้ ว นํ า มาเปรี ย บเที ย บกั น นอกจากนี้
ยั ง ได้ ส ร้ า งโปรแกรมขึ ้ น ใน Microsoft Office Excel เพื ่ อคํ านวณหาค่ าความจุ ไฟฟ้ าที ่ จะใช้ ในการ
ปรั บ ปรุ งค่ าตั วประกอบกํ าลั งและช่ วยในการวิ เคราะห์ ห า แ น ว ท า ง ก า ร ป ร ะ ห ย ั ด ไ ฟ ต ่ อ ไ ป
2.3 กําลังไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ
ในระบบไฟฟ้ า กระแสสลั บ หรื อ ระบบไฟฟ้ า ที ่ ใ ช้ ก ั น ในอุ ต สาหกรรม หรื อ ที ่ อ ยู ่ อ าศั ย
มีการวัดกําลังไฟฟ้าหลายหน่วยดังต่อไปนี้
2.3.1. กํ าลั งไฟฟ้ าจริ ง (Active Power) มี หน่ วยเป็ น วั ตต์ (W) หรื อกิ โลวั ตต์ (kW) เป็ นกํ าลั งงานที ่ สามารถ
เปลี ่ ย นแปลงโดยอุ ป กรณ์ ไ ฟฟ้ าให้เ ป็ นพลัง งานรู ปแบบอื ่น ได้ เช่ น ความร้ อ น , แสงสว่าง
หรือกําลังงานกล
2.3.2. กําลังไฟฟ้ารีแอคทีฟ (Reactive Power) มีหน่วยเป็น วาร์ (VAR) หรือกิโลวาร์ (KVAR) เป็น
กําลังงานที่ไม่ส ามารถเปลี่ยนไปเป็นพลังงานรูปอื่นได้ แต่อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องทํางานโดย
อาศั ย สนามแม่เ หล็ก เช่ น หม้ อ แปลงไฟฟ้ า , มอเตอร์ ไ ฟฟ้ า ต้ อ งใช้ ก ํ าลัง งานรี แ อคทีฟ นี้ เพื ่ อสร้าง
สนามแม่เหล็ก
2.3.3. กําลังไฟฟ้าปรากฏ (Apparent Power) มีหน่วยเป็น โวลท์-แอมป์ (VA) หรือกิโล โวลท์แอมป์ (kVA)
เป็นกําลังไฟฟ้าที่แหล่งจ่ายไฟฟ้าจะจ่ายให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า กําลังไฟฟ้าปรากฏ เกิดจากผลรวม
ของกําลังไฟฟ้าจริงและกําลังไฟฟ้าปรากฏ ดังแสดงในภาพที่ 2.1 และภาพที่ 2.2
2.4 ระเภทของโหลดไฟฟ้า
โหลดทางไฟฟ้าจะมีอยู่ 3 ชนิด คือ
-โหลดที่เป็นความต้านทาน ( R ) Resistive
-โหลดที่เป็นตัวเหนี่ยวนำหรือขดลวด ( L ) Inductive
-โหลดที่เป็นตัวเก็บประจุไฟฟ้า ( C ) Capacitive
โหลด R, L และ C
โหลดที ่ เราใช้ ในระบบไฟฟ้ า ซึ ่ งโหลดแต่ ละประเภทก็ จะส่ งผลต่ อระบบไฟฟ้ าของเราแตกต่ างกั น
ซึ่งสามารถจำแนกโหลดพื ้น ฐานเป็น 3 กลุ่ม ด้ว ยกันดังนี้ คื อ Load ประเภท โหลดความต้าน (R),
ดังรูปที่ 2.3กระแสล้าหลังแรงดัน (L), ดังรูปที่ 2.4 และ กระแสนําหน้าแรงดัน (C), ดังรูปที่ 2.5
2.5 สามเหลี่ยมกำลังไฟฟ้า
กำลั ง ไฟฟ้ า จะมี อ ยู่ 3 ส่ ว น ปกติ จ ะคํ า นวณเฉพาะขนาด หากเอามาเขี ย นให้ อ ยู่ ใ น
รู ป ของสามเหลี่ ย มกำลั ง ไฟฟ้ า แล้ ว จะได้ ดังรูปที่ 2.6 และสูตร สามเหลี่ยมกำลังไฟฟ้า ดังรูปที่ 2.7
2.5.1 ตัวประกอบกําลังไฟฟ้า
ตัวประกอบกําลังไฟฟ้านั้น คือค่าตัวเลขอัตราส่วนของกําลังงานไฟฟ้าที่ใช้งานจริง ซึ่งมีหน่วย เป็นวัตต์
หารด้วยค่ากําลังงานที่ปรากฏ ซึ่งมีหน่วยเป็น วีเอหรือ โวลท์ - แอมป์ โดยสามารถอธิบายให้ เข้าใจง่ายได้ว่า
เพาเวอร์ แ ฟคเตอร์ คื อ ตั ว เลขที ่ บ อกถึ ง กํ า ลั ง งานไฟฟ้ า ที ่ ไ ด้ ใ ช้ ป ระโยชน์ ห รื อ เกิ ด การทํ า งานจริ ง
กับขนาดของกําลังงานทั้งหมดที่ต้องการจากระบบไฟฟ้าโดยส่วนที่เกินจากกําลังงานที่ใช้งานจริงจะเรียกว่า
กําลังงานรีแอคทีฟ ซึ่งมีหน่วยเป็น วาร์ ตัวประกอบกําลังไฟฟ้ามีความสําคัญใน ระบบไฟฟ้า เนื่องจากเป็นตัวที่ทําให้
ค่าใช้จ่ายต่างๆ เพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ ระบบไฟฟ้าที่มีตัวประกอบกําลังไฟฟ้าต่ําจะมีความสูญเสียในระบบมาก
อุปกรณ์ที่ใช้ต้องมีขนาดใหญ่มากขึ้นค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางต้องเสียมากขึ้น
ต้องเสียค่าไฟฟ้ามากขึ้นด้วย ดังนั้นการแก้ ตัวประกอบกําลังไฟฟ้าให้สูงขึ้นจึงมีความจําเป็น แต่ต้องพิจารณาถึงเงินลงทุน
กั บ ค่ า อุ ป กรณ์ ต ่ า งๆที ่ น ํ า มาแก้ ต ั ว ประกอบกํ า ลั ง ไฟฟ้ า เที ย บกั บ ค่ า ใช้ จ ่ า ยที ่ ป ระหยั ด ได้ จ ากการ
แก้ตัวประกอบกําลังไฟฟ้ากําลังงานรี แอคทีฟซึ่งไม่เกิดประโยชน์นี้ก็จะเป็นภาระให้กับเครื่องกําเนิดไฟฟ้า
หม้อแปลง สายส่งด้วย
2.5.2 สาเหตุที่ต้องปรับปรุงค่าตัวประกอบกําลังไฟฟ้าให้สูงขึ้น
อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีค่าตัวประกอบกําลังไฟฟ้าต่ํา มีผลทําให้ระบบการจ่ายไฟฟ้ามีคุณภาพต่ำไปด้วย
เนื่องจากประโยชน์ที่จะได้รับจากกําลังไฟฟ้าจริง ในระบบไฟฟ้าจะต่ํากว่า ซึ่งทําให้การไฟฟ้าจําเป็นต้อง
เพิ่มขนาดของอุปกรณ์จําหน่ายและอุปกรณ์ส่งไฟฟ้าให้สูงขึ้น เพื่อให้สามารถรองรับ ปริมาณพลังไฟฟ้า
ส่วนที่ไม่จําเป็นหรือค่ากําลังไฟฟ้ารีแอคทีฟ ที่เกิดขึ้นด้วย อันไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติโดยรวม
2.5.3 ปรับปรุงค่าตัวประกอบกําลังไฟฟ้าให้สูงขึ้นได้อย่างไร
เราสามารถทํ า ให้ ม ี ค ่ า ตั ว ประกอบกํ า ลั ง ไฟฟ้ า สู ง ขึ ้ น ได้ โ ดยการติ ด ตั ้ ง ตั ว เก็ บ ประจุ ไ ฟฟ้ า
ซึ่งทําหน้าที่ จ่ายกําลังไฟฟ้ารีแอคทีฟ แทนเครื่องกําเนิดไฟฟ้า ดังนั้นเมื่อต่อตัวเก็บประจุไฟฟ้าและ อุปกรณ์ไฟฟ้า
ที่มีการสร้างสนามแม่เหล็กที่ก่อให้เกิดกําลังไฟฟ้ารีแอคทีฟ เช่น มอเตอร์ เข้าด้ วยกัน กําลังไฟฟ้ารีแอคทีฟ
ที ่ จ ่ า ยจากแหล่ ง กํ า เนิ ด ไฟฟ้ า หรื อ การไฟฟ้ า จะลดลงหรื อ หมดไปขึ ้ น อยู ่ ก ั บ ปริ ม าณ กํ า ลั ง ไฟฟ้ า
ที่จ่ายโดยตัวเก็บประจุไฟฟ้านั้น
2.5.4 ผลประโยชน์ต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมเมื่อมีการปรับปรุงค่าตัวประกอบกําลังไฟฟ้า
การปรั บปรุ งค่ าตั วประกอบกํ าลั งไฟฟ้ า สามารถลดกํ าลั งไฟฟ้ าสู ญเสี ยและเพิ ่ มความสามารถ
ในการรั บโหลดของอุ ป กรณ์ ต ่ า งๆ ได้ เ พิ ่ ม ขึ ้ น ทั ้ ง ของผู ้ ใ ช้ ไ ฟฟ้ า ระบบจํ า หน่ า ย ระบบส่ ง ไฟฟ้ า
และ เครื่องกําเนิดไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นการประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้าและของประเทศชาติ โดยรวม
อั น จะก่ อ ให้ เ กิ ด การอนุ ร ั ก ษ์ พ ลั ง งานไฟฟ้ า ซึ ่ ง จะสามารถพิ จ ารณาความสามารถในการ
อนุรักษ์พลังงานไฟฟ้า โดยสรุปได้ดังนี้
2.5.5 ผลประโยชน์ที่มีต่อผู้ใช้ไฟฟ้า
1. สามารถประหยั ดค่ าพลั งไฟฟ้ ารี แอคที ฟ ซึ ่ งผู ้ ใช้ ไฟฟ้ าที ่ ม ี ค ่ าประกอกํ าลั งไฟฟ้ าที ่ ต่ ํ ากว่ า 0.85
จะต้ องเสี ยค่ าปรั บค่ า ตั ว ประกอบกํ า ลั ง ไฟฟ้ า ในอั ต รา 56.07 บาท/กิ โ ลวาร์ ซึ ่ ง เมื ่ อ ผู ้ ใ ช้ ไ ฟฟ้ า
ปรับค่าตัวประกอบกำลังฟ้าให้มีค่ามากกว่า 0.85 จะทำให้ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าในส่วนนี้ลงได้
2. ผู ้ ใ ช้ ไ ฟฟ้ า สามารถประหยั ด การลงทุ น ในการขยายระบบไฟฟ้ า ลงได้ เนื ่ อ งจาก
เมื ่ อ มี ก ารปรั บ ปรุ ง ตั ว ประกอบกํ า ลั ง ไฟฟ้ า แล้ ว จะเป็ น การเพิ ่ ม ความสามารถของสายไฟฟ้ า
และ หม้อแปลงไฟฟ้าในการรับโหลด ได้เพิ่มขึ้น
3. เมื่อมีการปรับปรุงค่าตัวประกอบกําลังไฟฟ้าแล้ว จะเป็นการลดกําลังไฟฟ้า สูญเสียในสายไฟฟ้าและหม้อแปลง
อีกทั้งแรงดันไฟฟ้าตกจะน้อยลงแรงดันไฟฟ้าดีขึ้น
2.5.6 ผลประโยชน์ที่มีต่อส่วนรวม
1. การปรับ ปรุงค่ าตัว ประกอบกํา ลัง ไฟฟ้ าให้ม ากกว่า 0.85 จะทําให้ระบบอุป กรณ์ ต่างๆ
ในระบบไฟฟ้าสามารถจ่ายพลังงานไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น จะเป็นการประหยัดการลงทุนในการขยาย ระบบไฟฟ้า
2. ผลที ่ เ กิ ด ขึ ้ น เมื ่ อ มี ก ารปรั บ ปรุ ง ค่ า ตั ว ประกอบกํ า ลั ง ไฟฟ้ า ต ่ อ ส่ ว นรวมนั ้ น ก ็ คื อ
สามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ โดยสามารลดการสูญเสีย พลังงานไฟฟ้าที่เกิดเนื่องจากการลดค่ากระแสไฟฟ้า
ในสายส่งและอุปกรณ์ในระบบจําหน่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้าฝ่ายผลิต
ซึ่งเป็นการประหยัดค่าพลังงานไฟฟ้าโดยรวมของประเทศได้
2.7 การปรับปรุงค่าตัวประกอบกําลังไฟฟ้า
2.8.1 หลักการทํางานพื้นฐานของคาปาซิเตอร์
คาปาซิ เ ตอร์ เ ป็ น อุ ป กรณ์ ท ี ่ ส ามารถช่ ว ยชดเชยกํ า ลั ง ไฟฟ้ า รี แ อคที ฟในระบบไฟฟ้ า
ในการติ ด ตั ้ งคาปาซิ เ ตอร์ น ั ้น ต้อ งต่อ ขนานเข้ าไปในระบบ คาปาซิ เ ตอร์ ท ี ่ต ่อ ขนานเข้ าไปในระบบ
จะทําหน้าที่ในการเปลี่ยนแปลงคุณลักษณะของอินดักทีฟโหลด โดยทําให้กระแสมีเฟสนําหน้าหักล้าง
กับองค์ประกอบที่เฟสล้าหลังของกระแสอินดักทีฟโหลดในจุดที่มีการติดตั้งคาปาซิเตอร์
2.8.2 ชนิดของคาปาซิเตอร์
คาปาซิ เ ตอร์ ท ี ่ น ํ า ไปติ ด ตั ้ ง เพื ่ อ ลดกํ า ลั ง ไฟฟ้ า สู ญ เสี ย ในระบบไฟฟ้ า กํ า ลั ง นั ้ น มี 2 ชนิ ด
ให้ เ ลื อ กไปใช้ ง านตามความเหมาะสม คื อ คาปาซิ เ ตอร์ แ บบคงที ่ แ ละคาปาซิ เ ตอร์ แ บบปรั บ ค่ า ได้
สามารถอธิบายลักษณะของคาปาซิเตอร์ทั้ง 2 ชนิดได้ดังนี้
1. คาปาซิเตอร์แบบคงที่
คาปาซิเตอร์แบบคงที่เป็นคาปาซิเตอร์ที่เมื่อติดตั้งเข้าไปในระบบแล้วจะจ่ายค่ากําลังไฟฟ้ารีแอคทีฟ
เข้าสู่ระบบตลอดเวลาโดยไม่สามารถทําการควบคุมการจ่ายกําลังไฟฟ้ารีแอคทีฟได้
2. คาปาซิเตอร์แบบปรับค่าได้
คาปาซิเตอร์แบบปรับค่าเป็นคาปาซิเตอร์ที่เมื่อติดตั้งเข้าไปในระบบแล้วสามารถปรับค่าการจ่ายกําลังไฟฟ้า
รีแอคทีฟ ได้โดยการควบคุมการจ่ายกําลังไฟฟ้ารีแอคทีฟนั้นมีหลายวิธีเลือกเช่น การควบคุมด้วยกระแส
หรือแรงดันที่จุดติดตั้ง การควบคุมด้วยเวลาเป็นต้นเนื่องจากคาปาซิ เตอร์แบบคงที่มีการจ่ายกําลังไฟฟ้ารีแอคทีฟ
เข้ า สู ่ ร ะบบตลอดเวลาดั ง นั ้ น เวลาพิ จ ารณาเลื อ กการใช้ เ กิ ด ที ่ จ ุ ด ติ ด ตั ้ ง ได้ ว ิ ธ ี แ ก้ ไ ขคื อ พิ จ าณาการ
ติดตั้งคาปาซิเตอร์แบบปรับค่า
2.8.3 หน้าที่หลักของคาปาซิเตอร์แบงค์
1. ปรับ ปรุงเพาเวอร์แฟคเตอร์โ ดยการจ่ายกําลังไฟฟ้ารีแอคที ฟให้กับ อุปกรณ์ ไฟฟ้าต่าง ๆ
เช่น มอเตอร์ เครื่องทําความร้อน เครื่องเชื่อมไฟฟ้า เป็นต้น
2. แก้ป ัญหาฮาร์โ มนิกส์โดยการติดตั้งคาปาซิเตอร์อนุกรมกับรีแอคเตอร์ซึ่งเรียกรวมกันว่า
ฟิลเตอร์แบงค์
3. แก้ป ัญหาไฟกระเพื่อมโดดการใช้คาปาซิเตอร์ทำให้สามารถจ่ายกำลังไฟฟ้ารีแอคทีฟได้อย่างรวดเร็ว
4. แก้ปัญหาไฟกระพริบไฟกระเพื่อมโดยการใช้ไทริสเตอร์ในการตัดต่อคาปาซิเตอร์ทําให้สามารถ
จ่ายกําลังไฟฟ้ารีแอคทีฟได้อย่างรวดเร็ว
2.9 การติดตั้งแบบปรับเปลี่ยนตามโหลดทันทีทันใด
เนื่องจากโหลดบางชนิด เช่น ลิฟต์ เครน เครื่องเชื่อม เครื่องม้วนเหล็ก กระดาษ พลาสติก
ทํางานไม่ต่อเนื่อง เปิดปิด เร็วมากๆ บางครั้งน้อยกว่า 1 นาที การใช้คอนแทกเตอร์ตัดต่อคาปาซิเตอร์ ไม่สามารถ
ปรั บเปลี ่ ยนได้ เร็ วตามโหลด ต้ อ งรอเวลา ในการคลายประจุ ไ ฟฟ้ า ของคาปาซิ เ ตอร์ นอกจากนั้ น
การตั ดต่ อ คาปาซิ เตอร์ บ ่ อยครั ้ งเกิ นไปจะทํ าให้ คอนแทกเตอร์ และคาปาซิ เตอร์ มี อายุ ใช้ งานลดลงอย่ างมาก
ในกรณีที่โหลดปรับเปลี่ยนเร็วต้องใช้ไทริสเตอร์เป็นตัว ตัดต่อแทนคอนแทกเตอร์
ขอดี
-ติดต่อคาปาซิเตอร์ได้ทันทีทันใด
-ลดค่าปรับเพาเวอร์แฟกเตอร์ – ลดค่าปรับดีมานด์
-ลดความสูญเสีย และแรงดันไฟฟ้าตก
ข้อเสีย
-ลงทุนค่าอุปกรณ์สูงโดยทั่วไปไทริสเตอร์แพงกว่า คอนแทกเตอร์ประมาณ 5-10เท่า
2.10 ข้อดีและข้อเสียของตัวเจ็บประจุไฟฟ้า
ขอดี
-เพิ่มประสิทธิภาพ โดยมีความสูญเสียน้อยกว่า 0.33%
-เงินลงทุนต่ําสามารถนํามาใช้ในระบบที่มีขนาดเล็กได้
-มีความยืดหยุ่นมาก เพราะสามารถเปลี่ยนแปลงการทํางานของตัวเก็บประจุไฟฟ้าให้สอดคล้อง
กับโหลดที่เปลี่ยนแปลงได้
-ไม่มีส่วนที่เคลื่อนที่ได้ ไม่มีเสียงดังในการทํางานการเสื่อมสภาพการทํางานต่ำและไม่ต้องมีการบํารุงรักษา
-สามารถติดตั้งในบริเวณใดก็ได้ ใช้เนื้อที่ในการติดตั้งน้อย
-ปลดออกและต่อเข้ากับโหลดได้รวดเร็วและง่าย สามารถเปลี่ยนจากโหลดตัวหนึ่งไปยังอีกตัวหนึ่งได้
ข้อเสีย
-การเกิดแรงดันเกิน เมื่อปลดโหลดออก ดังนั้น จึงควรติดตั้งระบบควบคุมการชดเชยตัวประกอบกําลังไฟฟ้าอัตโนมัติ
-การเกิดเรโซแนนซ์ เมื่อใช้กับโหลดที่มีฮาร์มอนิกทําให้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆที่ต่ออยู่ในระบบ
เกิดความเสียหายทํางานผิดพลาดหรือมีอายุการใช้งานสั้น
2.11 ประโยชน์ของการปรับปรุงค่าเพาเวอร์แฟคเตอร์ให้เหมาะสม
2.11.1. ช่วยลดค่าปรับจากการไฟฟ้าเนื่องจากค่าเพาเวอร์แฟคเตอร์ ต่ํากว่า 0.85
กรณีที่ระบบไฟฟ้ากําลังของผู้ใช้มีค่า P.F. การไฟฟ้าจะต้องรับภาระในการจ่ายกําลังไฟฟ้ารีแอคที ฟ
เป็นจํานวนมากต้ อ งใช้ เ ครื่ อ งกํ า เนิ ด ไฟฟ้ า ที่ มี ข นาดใหญ่ ขึ้ น รวมทั้ ง ทรั พ ยากรที่ ม ากขึ้ น เพื่อที่จะ
สามารถผลิ ตกํ าลั งไฟฟ้ าในส่ วนกํ าลั งไฟฟ้ าจริ งและกํ าลั งไฟฟ้ ารี แอคที ฟตามความต้ องการของผู ้ ใช้
แ ต่ ที ่ จ ริ ง แ ล้ ว กํ า ลั ง ไ ฟ ฟ้ า รี แ อ ค ที นั ้ น ผู ้ ใ ช้ ส ามารถสร้ า งขึ ้ นเองได้ โ ดยใช้ อ ุ ปกรณ์ คาปาซิ เตอร์
ด ั ง น ั ้ น ก า ร ไ ฟ ฟ ้ า จ ึ ง อ อ ก ก ฎ เ พ ื ่ อ ค ว บค ุ ม ค่ า P.F. ข อ ง โ ร ง ง า น ต ่ าง ๆ โ ด ย ก ํ า ห นดว่ า
“ หาก โรงงานใดมีค่า P.F. ที่ต่ํากว่า 8.5 จะต้องเสียค่าปรับเพาเวอร์แฟคเตอร์”
2.11.2. ช่วยลดโหลดของหม้อแปลง
เมื่อผู้ใช้ไ ฟฟ้า มี เ พิ่ มปริม าณโหลดขึ้ นเรื่ อย ๆ กับหม้อแปลงตัว เดิม จะส่งผลให้ห ม้ อ แปลง
ต้องจ่ายกระแสเกินพิกัด ทางแก้ไขวิธีหนึ่งคือ ติดตั้งหม้อแปลงเพิ่มขึ้น แต่การติดตั้งคาปาซิเตอร์แบงค์
ก็สามารถช่วยลดโหลดของหม้อแปลงนั้นได้ คือ จากเดิมหม้อแปลงต้องรับภาระจ่ายค่ากําลังไฟฟ้ารีแอคทีฟเองทั้งหมด
ถ้ามีการติดตั้งคาปาซิเตอร์แบงค์ก็จะช่วยรับภาระในส่วนนี้แทน ทําให้หม้อแปลงตัวนั้น มีกําลังเหลือเฟือ
เพื่อที่จะจ่ายให้กับโหลดส่วนอื่น ๆ เพิ่มเติมได้
2.11.3. ช่วยลดค่าไฟฟ้าที่สูญเสียไปในรูปของความร้อนในสายไฟและหม้อแปลง
การติดตั้งคาปาซิเตอร์แบงค์จะช่วยลดกําลัง สูญเสียในสายไฟและหม้อแปลงไฟฟ้า จึงเป็น การ
ประหยัดพลังงานอีกทั้ง ยังลดความร้อนที่เกิดขึ้นในอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้ แต่ทว่าในประเทศไทยนิยม
ติดตั้งตู้ติดกับตู้สวิทช์ บอร์ดหรือก็คือใกล้กับหม้อแปลงมาก จึงทําให้ไม่สามารถทําหน้าที่ในการช่วยลด
ประมาณกระแสไฟฟ้าที่ไหลในระบบไฟฟ้าได้อย่างชัดเจน
2.5 บิลค่าไฟฟ้า
ข้อกำหนดเกี่ยวกับอัตราค่าไฟฟ้า หากเดือนใดมีค่าเพาเวอร์แฟกเตอร์แลค (Lag) ที่มีความต้องการ
พลั งงานฟ้ ารี แอคตี ฟเฉลี ่ ยใน 15 นาที ที ่ ส ู งสุ ดในช่ วงเวลาใดเวลาหนึ ่ ง (กิ โลวาร์ ) เกิ นร้ อยละ 61.97
ของความต้องการพลังงานไฟฟ้ารีแอคตีฟเฉลี่ยใน 15 นาที ที่สูงสุดในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง (กิโลวัตต์)
โดยส่วนที่เกินจะต้องเสียค่าเพาเวอร์แฟกเตอร์ ในอัตรากิโลวาร์ (KVAR) ละ 56.07 (เศษของกิโลวาร์
ถ้าไม่ถึง 0.5 กิโลวาร์ตัดทิ้งตั้งแต่ 0.5 กิโลวาร์ ขึ้นไปคิดเป็น 1 กิโลวาร์)
- ค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บใน แต่ละเดือนประกอบด้วยค่าไฟฟ้าตามอัตราข้างต้น และค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับ
-อัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (Ft) และภาษีมูลค่าเพิ่ม
-อัตราค่าไฟฟ้าข้างต้น ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
ความหมายกำหนดในบิล
1. ค่ า พลั ง งานไฟฟ้ า คื อ ต้ น ทุ น และค่ า ใช้ จ ่ า ยในการก่ อ สร้ า งโรงไฟฟ้ า ระบบสายส่ ง
สายจำหน่าย และค่าการผลิตไฟฟ้า
2.ค่าบริการรายเดื อ น คือค่าใช้จ่ายในการจดหน่ว ยไฟฟ้า ค่าจัดทำและจัดส่งบิล ค่า ไฟฟ้ า
การรับชำระค่าไฟฟ้าและงานบริการลูกค้า ค่าบริการดังกล่าวได้เรียกเก็บมาตั้งแต่ค่าไฟฟ้าเดือนนกรกฎา
คม 2561 และค่า Ft คือค่าเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า (น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา ก๊าซธรรมชาติลิกไนต์)
ค่าซื้อไฟฟ้าจากเอกชน และค่าใช้จ่ายตามนโยบายของรัฐ ที่เปลี่ยนแปลงไปจากค่าไฟฐานโดยค่า Ft
จะมีการปรับทุก 4 เดือนโดยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เป็นผู้ดูแล
3.ค่าเพาเวอร์แฟกเตอร์ (Power Factor ,PF) หรือค่าประกอบกำลังไฟฟ้า คืออัตราส่วนของ
กำลั งไฟฟ้ าที ่ ใช้ งานจริ ง (P) หารด้ วยกำลั งไฟฟ้ าปรากฏ (S) Power Factor นั ้ นเป็ นตั วที ่ ทำให้ ค ่ าใช้ จ ่ ายต่ างๆ
เพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ ถ้าค่าตัวประกอบกำลังไฟฟ้าต่ำกระแสในระบบมาก แต่ใช้ทำงานได้น้อยหม้อแปลง
ตัวใหญ่จ่ายโหลดได้น้อยแรงดันตกในสายมาก การสูญเสียในสายไฟและหม้อแปลงจะมาก
4. ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เรียกเก็บตามที่กฎหมายกำหนด
5. “P,OP,H” ค่าไฟฟ้าต่อหน่วย คิดจากการแบ่งเวลาในแต่ละวันของสัปดาห์ออกเป็น 3 ช่วง
-ตามอัตรา TOU คือช่วง P (PEAK) วันจันทร์ถึงวันศุกร์ที่ไม่ใช่วันหยุดราชการ
-ช่วง OP (OFF PEAK) วันจันทร์ถึงวันศุกร์ที่ไม่ใช่วันหยุดราชการ
-ช่วง H (HOLIDAYS) วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการตามปกติ
การดำเนินการครั้งนี้มีลักษณะเป็นเซิงการศึกษาการปรับปรุงค่าตัวประกอบกำลังไฟฟ้าที่มีผล
ต่อบิลค่าไฟฟ้า โดยผู้จัดทำดำเนินการดังนี้
3.1
3.2
3.3
3.4
3.5
3.6
3.1 ศึกษาเกี่ยวกับการปรับปรุงค่าตัวประกอบกำลังไฟฟ้า
การแก้ไขหรือการปรับ ปรุงเพาเวอร์แฟกเตอร์ให้เกิดการประหยัดพลังงานไฟฟ้า หมายถึง
การควบคุ ม ค่ า เพาเวอร์ แ ฟกเตอร์ (Power Factor Correction) ให้ อ ยู ่ ใ นช่ ว งที ่ ก ารไฟฟ้ า กํ า หนด
คือ มีค่า มากกว่า 0.85 เพราะจะทําให้กําลังไฟฟ้าที่การไฟฟ้าจ่ายมาให้นั้นถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพ
และ เกิดการสูญเสียน้อยที่สุดซึ่งจะทําให้ระบบของการไฟฟ้าสามารถจ่ายโหลดให้แก่ผู้ใช้รายอื่นได้มากขึ้น
แต่โดยส่วนมากแล้วค่าเพาเวอร์แฟกเตอร์จะมีค่าต่ ำกว่าที่กําหนดไว้ ซึ่งเป็นการสูญเสียพลังงานไฟฟ้า
ไปโดยเปล่าประโยชน์ในรูป ของความร้อนของกระแสไฟฟ้าที่ต้องการใช้ส ูงกว่าปกติทําให้สิ้นเปลื อง
ค่าใช้จ ่ายที่จ ะต้องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าในส่ว นของการป้องกัน กล่าวคือจะต้องใช้ขนาดของหม้อแปลง
เครื่องกําเนิดไฟฟ้า สวิตช์เกียร์ สายส่งและสายป้อนใหญ่ขึ้น ดังภาพที่ 3.1
ภาพที่ 3.1 การติดตั้งคาปาซิเตอร์เพื่อแก้เพาเวอร์แฟกเตอร์
3.2 การแก้ไขเพาเวอร์แฟกเตอร์
ขั้น ตอนที่ 1 Power Factor Controller เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ ในการประมวลผลว่าค่า Power Factor
ว่าเป็นไปตามที่กำหนดไว้หรือไม่
ภาพที่ 3.18 Power Quality Analyzer แสดงค่า PF. 0.7 จะเพิ่มขึ้นเรื่อยไปจนถึง 0.99
ขั้นตอนที่ 11 ก่อนขนาน-หลังขนานคาปาซิเตอร์เข้าสู่ระบบ
ตารางบันทึกค่าเพาเวอร์แฟเตอร์ก่อนและหลังปรับปรุงค่าตัวประกอบกำลังไฟฟ้า
3.1.3 ประโยชน์การติดตั้งคาปาซิเตอร์
นอกเหนือจากการทําให้กระแสไฟฟ้าในระบบลดลงในขณะที่อุปกรณ์ต่างๆ ยังมีกําลังไฟฟ้า
ใช้ตามปกติการติดตั้งคาปาซิเตอร์สามารถ ได้ดังนี้
-ลดกําลังสูญสียในสายไฟและหม้อแปลงไฟฟ้า จึงเป็นการประหยัดพลังงานไฟฟ้า และลด ความร้อน
ทีเ่ กิดขึ้นในอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ
-ลดค่าไฟฟ้าที่เกิดจากการสูญเสีย
-ลดค่าปรับ เนื่องจากเพาเวอร์แฟกเตอร์ต่ํา
-ทําให้หม้อแปลงไฟฟ้า สายไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้ารับโหลดได้มากขึ้น
-ช่วยประหยัดทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้ผลิตไฟฟ้า
-ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่อาจสูญเสียจากการขยายกําลังการผลิตไฟฟ้า
การที่คาปาซิเตอร์สามารถทําประโยชน์ได้มากมาย เพราะคาปาซิเตอร์เป็นโหลดชนิดพิเศษ
ในระบบไฟฟ้าที่กินกําลังไฟฟ้าจริงเพียงเล็กน้อย แต่สามารถจ่ายกําลังไฟฟ้ารีแอคทีฟได้ปริมาณมาก
อุ ป กรณ์ ไ ฟฟ้ า ทั ่ ว ไปในระบบไฟฟ้ า จึ ง สามารถใช้ ก ํ า ลั ง ไฟฟ้ า รี แ อคที ฟ ที ่ ค าปาซิ เ ตอร์ ส ร้ า งขึ ้ น มา
โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องกําเนิดไฟฟ้า หรือแหล่งจ่ายไฟ
บทที่ 4
ผลการดําเนินงานวิจัย
4.1 บทนํา
บทนี้จะกล่าวถึงส่วนของการชดเชยค่ากำลังไฟฟ้ารีแอคทีฟเพื่อควบคุมตัวประกอบกําลัง ซึ่ง
ประกอบด้วย การหาค่าพารามิเตอร์ ก่อนการขนานคาปาซิเตอร์เข้าสู่ระบบไฟฟ้าและหลังการขนานคาปา
ซิเตอร์เข้าสู่ระบบไฟฟ้า
วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาค่าพารามิเตอร์
2. เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของพารามิเตอร์ก่อน - หลังการขนานคาปาซิเตอร์
เข้าสู่ระบบ
3. เพื่อเพิ่มค่าตัวประกอบกําลัง ให้เกิน 0.85 ขึ้นไป
4.2.1 การทดลองขนานคาปาซิเตอร์เข้าระบบ
ตารางบันทึกค่าจากมิเตอร์ก่อน-หลังการปรุงปรุงค่าเพาเวอร์แฟคเตอร์
L1 L2 L3 total
ก่อน หลัง ก่อน หลัง ก่อน หลัง ก่อน หลัง
V 231 231 233 233 231 231 50HZ 50HZ
I 0.26 0.24 0.24 0.23 0.23 0.22 0.73 0.69
W 60.25 56.70 55.97 53.62 55.09 52.43 161.2 162.8
VAR 6.76 6.82 7.30 7.37 6.72 6.84 20.77 21.02
PF 0.95 0.99 0.48 0.99 0.44 0.99 0.71 0.99
VA 57.13 57.15 53.45 54.15 52.03 52.91 162.8 164.3
4.3 สรุปผลการทดลอง
จากที่ได้ ศึก ษาการชดเชยค่ า กําลั ง ไฟฟ้ารี แ อคที ฟ เพื่ อควบคุม ตัว ประกอบกําลัง ผลที่ได้ คื อ
ก่อนการขนาน คาปาซิเตอร์เข้าระบบเห็นได้ว ่าค่ากระแสนั้นสูง ค่า cosθ ต่ำลง แต่หลังจากที่ขนานคาปาซิเตอร์
เข้าระบบ ค่ากระแสลดลง ค่า cosθ สูงขึ้น ทําให้ค่าใช้จ่ายลดลงและไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม จากการที่ค่า
เพาเวอร์แ ฟคเตอร์ ต่ ำ กว่ า 0.85 อีกด้ว ย จากที่ ศึก ษาจะเห็นว่า คาปาซิเตอร์ จ ะทํา งานแค่ ตัว เดี ย ว
เนื่องจากจะรอคำสั่งจาก PFC เพื่อสั่งให้ทำงานแต่ละ Step เพื่อรักษาอายุการใช้งานของคาปาซิเตอร์ไม่ให้
ทำงานหนั กเกิ นจนเกิ นไปและจะทํ าให้ อ ุ ปกรณ์ ชดเชยค่ ากํ าลั งไฟฟ้ ารี แอคที ฟทํ างานไม่ เต็ มประสิ ทธิ ภาพ
บทที่ 5
การสรุปผลงานวิจัยปัญหาและข้อเสนอแนะ
5.1 บทนํา
ในการจัดทําอุปกรณ์ชดเชยค่ากําลังไฟฟ้ารีแอคทีฟเพื่อควบคุมตัวประกอบกําลัง สามารถ
สรุปผลการดําเนินงานได้ดังนี้
5.2 การสรุปผลการวิจัย
5.3 สรุปผลการวิจัย
5.4 ปัญหาการจัดสร้างโครงงาน
5.5 ข้อเสนอแนะ
5.2 การสรุปผลการวิจัย
ในการจั ด สร้ า งโครงงานนั ้ น เริ ่ ม จากการรวบรวมข้ อ มู ล เกี ่ ย วกั บ ค่ า เพาเวอร์ แ ฟคเตอร์
ถ้ า ค่ า เพาเวอร์ แ ฟคเตอร์ ใ นระบบไฟฟ้ า ต่ ำ จะส่ ง ผลทํ า ให้ ร ะบบการจ่ า ยไฟฟ้ า มี ค ุ ณ ภาพต่ ำ ไปด้ ว ย
และถ้าค่าเพาเวอร์แฟคเตอร์ต่ำกว่าเกณฑ์ที่การไฟฟ้ากําหนดก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
5.3 สรุปผล
จากผลการทดลอง การเปรียบเทียบระหว่างค่าพารามิเตอร์ช่วงที่ตัดและช่วงต่อคาปาซิเตอร์
จะเห็นได้ว่าช่วงที่ทําการจ่ายค่ารีแอคทีฟเพาเวอร์ให้กับระบบไฟฟ้า ค่ากระแสไฟฟ้า ค่ากําลังไฟฟ้า
ค่ารีแอคทีฟเพาเวอร์ จะมีค่าสูงเนื่องจากรีแอคทีฟต่ ำกว่าที่กําหนด และทําให้ค่าcosθ มีค่าต่ำลงไปด้วย
เมื ่ อได้ ขนานคาปาซิเตอร์ การชดเชยค่ากํ าลังไฟฟ้ ารี แอคที ฟเพื ่อควบคุ มตัวประกอบกําลังเข้ าไปในระบบไฟฟ้า
ค่ากระแสไฟฟ้า ค่ากําลังไฟฟ้า ค่ากําลังไฟฟ้ารีแอคทีฟเพาเวอร์ จะลดลงและค่า cosθ จะเพิ่ม สูงขึ้น
เพื่อให้เป็นไปตามที่การไฟฟ้ากําหนดซึ่งต้องมีค่าไม่ต่ำกว่า0.85
การให้ระบบชดเชยค่ารีแอคทีฟของระบบคอนโทรลเลอร์คาปาซิเตอร์ทํางาน ผลการทดลองที่ได้
คือระบบคอนโทรลเลอร์คาปาซิเตอร์จะคํานวณหาค่ารีแอคที ฟเพาเวอร์ ที่ มี อยู่ในระบบไฟฟ้าที่ ต้องการใช้งาน
เมื่อระบบคอนโทรลเลอร์คํานวณค่ารีแอคทีฟเพาเวอร์ได้แล้วจะทําการชดเชย ค่ารีแอคทีฟที่มีค่าเหมาะสม
กับค่ารีแอคทีฟที่ต้องการใช้ในระบบไฟฟ้าถ้าคาปาซิเตอร์สเต็ปที่ 1 อยู่ ตําแหน่งปิดหรือไม่พร้อมใช้ งาน
ระบบควบคุมคอนโทรลเลอร์คาปาซิเตอร์ก็จะเรียกสเต็ปการทํางานลําดับที่ 2, 3, 4, 5และ 6 ตามลําดับ
ถ้ าสเต็ ปของคาปาซิ เตอร์ ป ิ ดทั ้ งหมด 6 สเต็ ประบบคอนโทรลเลอร์ คาปาซิ เตอร์ จะเรี ยกค่ ารี แอคที ฟอยู ่ เรื ่ อยๆ
ตามเวลาที่ตั้งไว้จนกว่าจะมีสเต็ปของคาปาซิเตอร์พร้อมใช้งานเพื่อให้ได้ค่ารีแอคทีฟที่เพียงพอต่อในระบบไฟฟ้า
5.5 ข้อเสนอแนะ
ในการออกแบบชุดอุป กรณ์ชดเชยค่ากําลังไฟฟ้ารีแอคทีฟเพื่อควบคุมตัวประกอบกําลั งนั้น
ควรคํานวณหาค่ารีแอคทีฟตามความต้องการในระบบไฟฟ้าเพื่อที่เราจะนําอุปกรณ์ชดเชยค่ากําลังไฟฟ้ารีแอคทีฟ
เพื ่ อควบคุ มตั วประกอบกํ าลั งไปต่อเข้ าระบบเสี ยก่ อนเพื ่ อจะได้ จ ั ดซื ้ ออุ ปกรณ์ ได้ ตามความต้องการของระบบ
บรรณานุกรม
การปรับปรุงตัวประกอบกําลังไฟฟ้าและวิธีการควบคุมความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุด
(ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์). [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 15 มีนาคม 2558. เข้าถึงได้จาก
: http://www.ee.eng.cmu.ac.th/~kasin/Courses/252282/TouTod.pdf
การชดเชยตัวประกอบกําลังไฟฟ้า (ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์). [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 18 มีนาคม
2558. เข้าถึงได้จาก : http://eng.rtu.ac.th/ESD/ch12.pdf
การบํารุงรักษาเชิงป้องกันPowerFactor CorrectionCapacitorsด้วยเครื่องมือThermal
InfraredDetector.
(ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์). [ออนไลน์]. สืบค้น 19 มีนาคม 2558, เข้าถึงได้จาก :
http://www.thailandindustry.com/guru/view.php?id=
14610§ion=9การ
การปรับปรุงค่าPowerFactorในระบบไฟฟ้าด้วยCapacitorBank. (ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์)
[ออนไลน์]. สืบค้น 15 มีนาคม 2558, เข้าถึงได้จาก : http://tescontrol
.igetweb.com/index.php?lite=article&qid=42176996
การปรับปรุงตัวประกอบกําลังของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน. (2552). [ออนไลน์] สืบค้นเมื่อ 20
มีนาคม 2558, เข้าถึงได้จาก : http://www.ecpe.nu.ac.th/niphat/ ProjectStudents-
Year2552.htm
ข้อดีของการปรับปรุงค่า PowerFactor&Capacitor การปรับปรุง PowerFactor.
(ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์). [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 20 มีนาคม 2558, เข้าถึงได้จาก :
http://www.pitigroup.com/trick/pdf/01_01.pdf
ค่าตัวประกอบกําลังไฟฟ้า(Power Factor : PF)และวิธีการปรับปรุงค่าตัวประกอบกําลังไฟฟ้า ให้ดี
ขึ้น
(ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์). [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 18 มีนาคม 2558 เข้าถึงได้จาก
:http://www.mea.or.th/profile/index.php?l=th&tid=3&mid=269&pid=110
คาปาซิเตอร์& ฮาโมนิคส. (2550). [ออนไลน์] สืบค้นเมื่อ 20 มีนาคม 2558, เข้าถึงได้จาก :
http://www.itm.co.th/Literature/Capacitor_and_Harmonics_Part3.pdf คู่มือ
ผู้รับผิดชอบด้านพลังงาน(อาคาร) (2553). ระบบไฟฟ้ากําลัง, สืบค้นเมื่อ 20 มีนาคม 2558
เข้าถึงได้จาก https://cdn.fbsbx.com/hphotos-xpa1/v/t59.2708-
21/11153960_904949462898829_350790885_n.pdf
ชัด อินทะสี, 2554. การส่งและจ่ายกําลังไฟฟ้า, กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชั่น
ธวัช สิรสิ ังกาส. 2550. การหาตําแหน่งติดตั้งและขนาดคาปาซิเตอร์แบงค์ที่เหมาะสมเพื่อกําลัง
สูญเสียในระบบจําหน่ายไฟฟ้าพร้อมทั้งคํานึงถึงความไม่เป็นเชิงเส้นของโหลดโดยใช้วิธี
กลุ่มอนุภาค, วิยานิพนธ์สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนคร เหนือ.
บุญเย็น อุ่นจิตร์, 2549. การสร้างและทดสอบประสิทธิภาพชุดฝึกอบรม เรื่อง การปรับปรุงค่า
เพาเวอร์แฟคเตอร์, วิยานิพนธ์สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระ นคร
เหนือ.
ปัญหาคุณภาพทางกําลังไฟฟ้า (ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์). [ออนไลน์] สืบค้นเมื่อ 20 มีนาคม
2558, เข้าถึงได้จาก : http://www.wp-capacitor.com/index.php?page=articles
ระบบกําลังไฟฟ้า (ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์). [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 15 มีนาคม 2558
เข้าถึงได้จาก : http://www2.dede.go.th /bhrd/old/Download/
file_handbook/Pre_Fac/Fac_6.pdf
ระบบจ่ายกําลังไฟฟ้า(Power Distribution). (ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์). [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 15 มีนาคม
2558. เข้าถึงได้ จาก : http://www2.dede.go.th/bhrd/old/web_display
/websemple/Industrial(PDF)
Power Factor (PF). (ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์). [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 15 มีนาคม
2558 เข้าถึงได้จาก : https://cdn.fbsbx.com/hphotos-xap1/v/t59.2708-21/11168249
904949366232172 953944400 n.docx