Professional Documents
Culture Documents
บทที่ 3
ระบบพิกัดเชิงขั้ว
นอกเหนือจากระบบพิกัดฉากที่ใชระบุตําแหนงของจุดในระนาบสองมิติ เรายังสามารถอาศัย
ระบบพิกัดเชิงขั้วในการระบุตําแหนงบนระนาบสองมิติไดเ ชนกัน ระบบพิกัดเชิงขั้วไมไดเปนเพียงอีก
ทางเลือกหนึ่งในการระบุตําแหนงของระนาบสองมิติ แตมีความเหมาะสมกับลักษณะเสนโคงบางรูปแบบ
กลาวคือ เสนโคงบางเสนมีรูปแบบสมการที่ยุงยากในระบบพิกัดฉาก แตกลับมีรูปแบบงายๆ ในระบบพิกัด
เชิงขั้ว ในบทนี้ เราจะไดศึกษาระบบพิกัดดังกลาว รวมถึงการรางกราฟในระบบพิกัดเชิงขั้วในรายละเอียด
การหาความชันของเสนโคง การหาความยาวเสนโคง และการหาพื้นที่ของบริเวณในระนาบสองมิติโดย
อาศัยระบบพิกัดเชิงขั้ว
3.1 ระบบพิกัดเชิงขั้วและเสนโคงในระบบพิกัดเชิงขั้ว
ระบบพิกัดระบุตําแหนงของจุดในระนาบสองมิติดวยคูลําดับของจํานวนซึ่งเรียกวาพิกัด โดยปกติ
เราจะใชระบบพิกัดฉากในการระบุตําแหนง ซึ่งระบบดังกลาวประกอบดวยแกนสองแกนที่ตั้งฉากกัน แตใน
ที่นี้เราจะศึกษาระบบพิกัดที่เรียกวา ระบบพิกัดเชิงขั้ว(polar coordinate system) ซึ่งมีความสะดวกใน
การใชงายในหลายๆ กรณี
P (r, θ)
r
θ แกนเชิงขั้ว
O x
รูป 3.1.1 ระบบพิกัดเชิงขั้ว
(r, θ)
r
θ+π
θ
O x
(−r, θ)
P′
5π π
4 O 4
3π x
−
4
เมื่อ n เปนจํานวนเต็มใดๆ
100 บทที่ 3 ระบบพิกัดเชิงขั้ว
y
P(r, θ) = P(x , y )
r
y
θ x
O x
π
แมเราจะไดสมการ (3.2) จากการพิจารณารูป 3.1.4 ซึ่งแสดงเฉพาะกรณีเมื่อ r>0 และ 0<θ<
2
แตสมการ (3.2) เปนจริงสําหรับทุกคาของ r และ θ สมการดังกลาวทําใหเราสามารถหาพิกัดฉากไดเมื่อ
ทราบพิกัดเชิงขั้ว ในทางกลับกัน เมื่อทราบพิกัดฉาก เราสามารถหาพิกัดเชิงขั้วไดจาก
y
r 2 = x 2 + y2 และ tan θ = (3.3)
x
y 3π
และ tan θ = = −1 แตเนื่องจากจุด (−1,1) อยูในจตุภาคที่สอง คา θ คาหนึ่งที่ใชไดคือ θ=
x 4
3π
ดังนั้น จุดดังกลาวจึงมีพิกัดเชิงขั้ว ( 2, )
4
3.1 ระบบพิกัดเชิงขั้วและเสนโคงในระบบพิกัดเชิงขั้ว 101
เสนโคงในระบบพิกัดเชิงขั้ว
กราฟของสมการเชิงขั้ว r = f (θ) หรือสมการเชิงขั้วในรูปทั่วไป F (r, θ) = 0 ประกอบดวยจุด
ทั้งหมดซึ่งมีพิกัดเชิงขั้ว (r, θ) สอดคลองกับสมการดังกลาว
r =2
O x
π
ตัวอยาง 3.1.3 จงหาเสนโคงที่แทนดวยสมการเชิงขั้ว θ=
6
π
วิธีทํา จุดทุกจุดที่มีพิกัดเชิงขั้วสอดคลองกับสมการ θ= ก็คือจุด (r, π ) เมื่อ r เปนจํานวนจริงใดๆ
6 6
π
ซึ่งจุดดังกลาวจะอยูหางจากขั้วเปนระยะ r และทํามุม กับแกน x ดานบวก กราฟของเสนโคงดังกลาวก็
6
π
คือเสนตรงที่ทาํ มุม กับแกน x ดานบวก
6
π
θ=
O 6
x
π
รูป 3.1.6 กราฟ θ=
6
102 บทที่ 3 ระบบพิกัดเชิงขั้ว
θ r = 2 cos θ
0 2 ( 2, π4 )
(1, π3 ) ( 3, π6 )
π/6 3
π/4 2 (2, 0)
π/3 1 (0, )π
2
π /2 0
2π / 3 –1 (−1, 23π ) (− 3, 56π )
(−1, )
3π
4
3π / 4 − 2
5π / 6 − 3
π –2 รูป 3.1.7 กราฟ r = 2 cos θ
P
r
θ x
O 2 Q
θ
π π 3π 2π
2 2
π
θ=
2 2 π
0≤θ≤
เมื่อ π ≤ θ ≤ π เมื่อ
2
2
r มีคาเพิ่มขึ้นจาก 1 ถึง
r มีคาลดลงจาก 2 ถึง 1
1
θ=0
θ=π
-1 1 θ = 2π
3π
θ=
2
3π π
เมื่อ π≤θ≤ เมื่อ ≤θ≤π
2 2
r มีคาลดลงจาก 1 ถึง 0 r มีคาเพิ่มขึ้นจาก 0 ถึง 1
θ
π π 3π π 5π 3π 7π 2π
4 2 4 4 2 4
2 3 6 7
-1
π
θ=
2 π
3π θ=
θ= 4
4 7 6
4 1
θ=π θ=0
5 8
2 3
5π 7π
θ= θ=
4 4
3π
θ=
2
ในทํานองเดียวกันเสนโคงในตัวอยางขางตน เราสามารถแสดงไดไมยากวา
โดยที่ n เปนจํานวนเต็มบวก
3.1 ระบบพิกัดเชิงขั้วและเสนโคงในระบบพิกัดเชิงขั้ว 105
สมมาตรของกราฟในระบบพิกัดเชิงขั้ว
ในการรางกราฟของเสนโคง F (r, θ) = 0 ในระบบพิกัดเชิงขั้ว ถาเราพิจารณาสมมาตรตางๆ
ของกราฟดวย จะชวยใหสามารถรางกราฟไดงายขึ้น ซึ่งสมมาตรที่สําคัญตอการพิจารณามีดังนี้
π
รูป 3.1.12 เสนโคง r = 1 + 4 sin 3θ สมมาตรเทียบกับเสนตรง θ=
2
แบบฝกหัด 3.1
1. จงรางเสนโคงเชิงขั้วตอไปนี้
1.1 r = 1 + 2 cos 2θ
1.2 r = 1 + 2 sin θ
2
1.3 r = 2 sin θ + cos θ
θ θ
1.4 r = cos + cos
2 3
2. จงแสดงวา r (a sin θ + b sin θ ) = 1เมื่อ ab ≠ 0 มีกราฟเปนเสนตรง และจงหาความชัน
3. จงแสดงวา r = a sin θ + b sin θ เมื่อ ab ≠ 0 มีกราฟเปนวงกลม และจงหาจุดศูนยกลางและรัศมี
4. จงหาสมการเชิงขั้วของวงกลมรัศมี 2 หนวยในจตุภาคที่ 1 ที่สัมผัสกับแกน x และแกน y
5. จงรางเสนโคง (x 2 + y 2 )3 = 4x 2y 2
3.2 ความชัน ความยาวเสนโคง และพื้นที่ในระบบพิกัดเชิงขั้ว 107
เราจึงสามารถหาความชันของเสนสัมผัสเสนโคงไดดังนี้
dr
sin θ + r cos θ
dy dy / d θ
= = θ
d (3.5)
dx dx / d θ dr
cos θ − r sin θ
dθ
π
ตัวอยาง 3.2.1 จงหาความชันของเสนสัมผัสเสนโคงคารดิออยด r = 1 + sin θ ที่จุดซึ่ง θ=
3
π
เมื่อแทน θ= จะไดความชันเสนสัมผัสเสนโคงที่ตองการเปน
3
π 2π 1 3
cos + sin +
dy 3 3 = 2 2 = −1
=
dx π 2π π 1 3
θ=
3 cos − sin − −
3 3 2 2
π
θ=
3
ความชัน = –1
108 บทที่ 3 ระบบพิกัดเชิงขั้ว
ความยาวเสนโคงในระบบพิกัดเชิงขั้ว
ความยาวเสนโคงเชิงขั้ว r = f (θ) เมื่อ α≤θ≤β สามารถหาไดจากสูตรความยาวเสนโคง
ในระบบพิกัดฉาก นั่นคือ
2 2
β ⎛dx ⎞⎟ ⎛dy ⎞
L= ∫ ⎜ ⎟ + ⎜⎜ ⎟⎟ d θ (3.6)
α ⎜⎝d θ ⎠⎟ ⎝d θ ⎠⎟
แตเราทราบวา
dx dr
= cos θ − r sin θ
dθ dθ
(3.7)
dy dr
= sin θ + r cos θ
dθ dθ
ซึ่งจะได
2 2 2 2 2
⎛dx ⎞⎟ ⎛dy ⎞ ⎛ dr ⎞ ⎛ dr ⎞ ⎛ dr ⎞
⎜⎜ ⎟ + ⎜⎜ ⎟⎟ = ⎜⎜ cos θ − r sin θ ⎟⎟ + ⎜⎜ sin θ + r cos θ ⎟⎟ = ⎜⎜ ⎟⎟ + r 2 (3.8)
⎝d θ ⎠⎟ ⎝d θ ⎠⎟ ⎝d θ ⎠⎟ ⎝d θ ⎠⎟ ⎝d θ ⎠⎟
ดังนั้น
2
β ⎛dr ⎞
L= ∫ r 2 + ⎜⎜ ⎟⎟⎟ d θ (3.9)
α ⎝d θ ⎠
=8
พื้นที่ในระบบพิกัดเชิงขั้ว
กําหนดบริเวณในระบบพิกัดเชิงขั้วซึ่งปดลอมดวยเสนโคง r = f (θ) และโดยรังสี θ = α และ
θ = β ดังรูป 3.2.1 โดยที่ f เปนฟงกชันคาบวกที่ตอเนื่องในชวง α ≤ θ ≤ β เราจะแบงชวง [α, β ]
ออกเปนชวงยอยๆ ดวยจุด α = θ0 , θ1, θ2 , …, θn−1, θn = β โดยแตละชวงมีความกวาง Δθ เทากัน ทํา
ใหแบงบริเวณดังกลาวออกเปน n บริเวณยอยๆ
y
f (θi* ) θ = θi
θ = θi −1
r = f (θ )
θ=β
θ=α
พิจารณาเซกเตอรของวงกลมรัศมี r ที่รองรับมุม θ
r
จะพบวาพื้นที่ของเซกเตอรดังกลาวคือ
1 2
θ A= r θ
2
ในลิมิตที่ n → ∞ เราจะได
β 1 2 β 1 2
A= ∫ α 2
( f (θ)) d θ = ∫ α 2
r dθ (3.10)
110 บทที่ 3 ระบบพิกัดเชิงขั้ว
3π
ดังนั้น บริเวณที่ปดลอมดวยเสนโคงคารดิออยด r = 1 + sin θ มีพื้นที่ ตารางหนวย
2
π π
1 1 π
ดังนั้น A= ∫−
4
π
4
2
cos2 2θ d θ = ∫ 4π (1 + cos 4θ ) d θ =
4 −4 8
y
r = f (θ )
θ=β
r = g (θ)
θ=α
x
เราสามารถหาจุดตัดระหวางเสนโคงทั้งสองไดโดยการแกสมการ
3 sin θ = 1 + sin θ
1 π 5π
ซึ่งจะได sin θ = ซึ่งเมื่อพิจารณาจากรูป จะได θ= และ θ=
2 6 6
r = 3 sin θ
5π π
θ= θ=
6 6
r = 1 + sin θ
6
=π
112 บทที่ 3 ระบบพิกัดเชิงขั้ว
แบบฝกหัด 3.2
1. จงหาความชันของเสนสัมผัสเสนโคง ณ จุดที่กําหนดให ในแตละขอตอไปนี้
1.1 r = 2 sin θ, θ = π
6
π
1.2 r = 2 − sin θ, θ =
3
1
1.3 r= , θ=π
θ
1.4 r = ln θ, θ = e
2. จงหาความยาวของเสนโคงในแตละขอตอไปนี้
2.1 r = 3 sin θ, 0 ≤ θ ≤ π
3
2θ
2.2 r = e , 0 ≤ θ ≤ 2π
2.3 r = θ, 0 ≤ θ ≤ 2π
2.4 r = θ 2 , 0 ≤ θ ≤ 2π
3. จงหาพื้นที่ของบริเวณที่ปดลอมดวยเสนโคงที่กําหนดใหในแตละขอตอไปนี้
3.1 r = θ , 0 ≤ θ ≤ π
4
θ
3.2 r = e , π ≤ θ ≤ 2π
π 2π
3.3 r = sin θ, ≤θ≤
3 3
3.4 r = sin θ , 0 ≤ θ ≤ π
4. จงแสดงวาเสนโคง r = a sin θ และเสนโคง r = a cos θ ตัดกันเปนมุมฉาก
5. จงหาพื้นที่ของกลีบหนึ่งของรูปกลีบกุหลาบ r = sin 4θ
1
6. จงหาพื้นที่ของบริเวณที่อยูภายในวงใหญแตอยูนอกวงเล็กของเสนโคงลีมาซอง r=+ cos θ
2
7. จงหาพื้นที่ของบริเวณที่อยูภายในวงใหญแตอยูนอกวงเล็กของเสนโคง r = 1 + 2 cos 3θ
8. พิจารณาเสนโคง x 3 + y 3 = 3xy
8.1 จงแสดงวาสมการเชิงขั้วของเสนโคงนี้คือ r = 3 sec θ tan
3
θ
1 + tan θ
8.2 จงรางกราฟของเสนโคงนี้ และจงหาพื้นที่ภายในวงของเสนโคงนี้
9. กําหนด P เปนจุดบนเสนโคง r = f (θ) และ P ไมใชจดุ กําเนิด O ถา ψ เปนมุมระหวางเสนสัมผัส
เสนโคงที่จุด P กับเสน OP จงแสดงวา tan ψ = r
dr / d θ
1
10. จงแสดงวาสมการเชิงขั้วในรูป r = −1
มีกราฟเปนรูปวงรีเมื่อ 0 <e <1 มีกราฟเปนรูป
e + sin θ
พาราโบลาเมื่อ e = 1 และมีกราฟเปนรูปไฮเพอรโบลาเมื่อ e > 1