Professional Documents
Culture Documents
ระดับประถมศึกษา 1
2 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สารบัญ
คํานํา
ที่มาของการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตร 4
• ผลการประเมินการเรียนรู้คณิตศาสตร์ของผู้เรียนระดับชาติและนานาชาติ 5
• ผลการวิจัยและติดตามการใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 6
คู่มือการใช้หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
• ผลการวิเคราะห์และประเมินร่างหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 6
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับประถมศึกษานี้ จัดทำ�
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ขึ้ น เพื่ อ เป็ น แนวทางให้ กั บ สถานศึ ก ษาและผู้ ส อนคณิ ต ศาสตร์ สามารถจั ด การเรี ย นรู้ ใ ห้ พุทธศักราช 2551 โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาคณิตศาสตร์จากต่างประเทศ
สอดคล้ อ งกั บ มาตรฐาน ตั ว ชี้ วั ด และสาระการเรี ย นรู้ แ กนกลาง กลุ่ ม สาระการเรี ย นรู้ เป้าหมายหลักสูตร 7
คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน การเปลี่ยนแปลงของหลักสูตร 8
พุทธศักราช 2551 คู่มือการใช้หลักสูตรเล่มนี้ได้เสนอที่มาของการปรับหลักสูตร เป้าหมาย • การเปลี่ยนแปลงด้านการจัดสาระ 8
หลักสูตร การเปลี่ยนแปลงของหลักสูตร มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้ • การเปลี่ยนแปลงด้านเนื้อหา 8
เรียนรู้อะไรในคณิตศาสตร์ 11
แกนกลาง การวัดผลประเมินผลการเรียนรู้คณิตศาสตร์ รวมทั้งความรู้เพิ่มเติมสำ�หรับผู้สอน
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ 12
คณิตศาสตร์
ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 12
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ขอขอบคุณ ครู อาจารย์
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ในการเรียนคณิตศาสตร์ 13
ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์และคณิตศาสตร์ศึกษาจากสถาบันต่าง ๆ ที่ให้ คุณภาพผู้เรียน 14
ความเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ในการจัดทำ�คู่มือการใช้หลักสูตรเล่มนี้ สสวท. • เมื่อจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 14
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คู่มือการใช้หลักสูตรเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้สอน สถานศึกษา และ • เมื่อจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 14
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา ในการวางแผนและจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง 15
เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พัฒนาความรู้และทักษะที่จำ�เป็นสำ�หรับการใช้ชีวิตและการศึกษา ตารางสรุปสาระการเรียนรู้แกนกลาง 40
ผังสาระการเรียนรู้แกนกลาง 44
ในระดับที่สูงขึ้น ทั้งนี้ หากมีข้อเสนอแนะใดที่จะทำ�ให้คู่มือการใช้หลักสูตรเล่มนี้สมบูรณ์
การวัดผลประเมินผลการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 56
ยิ่งขึ้น โปรดแจ้งให้ สสวท. ทราบด้วย จักขอบคุณยิ่ง
• แนวทางการวัดผลประเมินผลการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 57
ความรู้สําหรับผู้สอนคณิตศาสตร์ 60
• การจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 60
• ยุทธวิธีการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ในระดับประถมศึกษา 62
• การใช้เทคโนโลยีในการสอนคณิตศาสตร์ระดับประถมศึกษา 71
• สถิติในระดับประถมศึกษา 73
(นางพรพรรณ ไวทยางกูร) • การใช้เส้นจำ�นวนในการสอนคณิตศาสตร์ระดับประถมศึกษา 75
ผู้อํานวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แนวการพัฒนาทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 84
ภาคผนวก 103
• แหล่งความรู้เพิ่มเติม 103
• บรรณานุกรม 109
• คณะผู้จัดทำ� 110
4 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 5
ผลการประเมินการเรียนรูค
้ ณิตศาสตร์ของผูเ้ รียนในโครงการ TIMSS ค.ศ. 2015
การพัฒนาต้นร่างหลักสูตรดังกล่าว โดยร่วมมือกับผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ
ที่ แ สดงให้ เ ห็ นว่ า ผู้ เ รี ยนชั้ นมัธ ยมศึกษาปีที่ 2 ของไทยยังคงมีคะแนนเฉลี่ย
อาจารย์และครู พร้อมทั้งได้ทำ�ประชาพิจารณ์เพื่อรวบรวมความคิดเห็นจาก
คณิตศาสตร์ทั้งในด้านเนื้อหาและพฤติกรรมการเรียนรู้อยู่ในระดับต่ำ� (Low
บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา และร่วมกับ CIE (Cambridge International
International Benchmark) นอกจากนี้ผลการประเมินการเรียนรู้คณิตศาสตร์
Examinations) ซึง่ เป็นหน่วยงานของสหราชอาณาจักรทีม
่ ค
ี วามเชีย
่ วชาญด้าน
ของผู้เรียนในโครงการ PISA (Programme for International Student
การประเมินระบบการศึกษาและการพัฒนาหลักสูตรเป็นที่ยอมรับในระดับ
Assessment) ซึง่ เป็นโครงการประเมินความสามารถในการใช้ความรูแ
้ ละทักษะ
นานาชาติ เพือ
่ ประเมินคุณภาพของร่างหลักสูตร โดย CIE ได้พจิ ารณาองค์ประกอบ
ของผู้เรียนที่มีอายุ 15 ปี ในด้านการอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ จัดโดย
หลักในการจัดการเรียนรูท
้ งั้ 3 ด้าน คือ หลักสูตร การจัดการเรียนรู้ และการวัดผล
OECD (Organisation for Economic Co-operation and Development)
ประเมินผล พบว่า หลักสูตรนีส
้ ะท้อนถึงวิธก
ี ารสอนทีท
่ น
ั สมัย ครอบคลุมเนือ
้ หา
ก็บง่ ชีเ้ ช่นกันว่า ผูเ้ รียนไทยทีม
่ อ
ี ายุ 15 ปี ซึง่ ส่วนใหญ่เรียนอยูใ่ นชัน
้ มัธยมศึกษา
ที่จำ�เป็น ทัดเทียมนานาชาติ มีการเชื่อมโยงเนื้อหากับชีวิตจริง เน้นการพัฒนา
ปีที่ 3 และ 4 มีคะแนนเฉลี่ยต่ำ�กว่าคะแนนเฉลี่ยของ OECD ทั้งใน ค.ศ. 2012
ทักษะต่าง ๆ ทั้งทักษะทางคณิตศาสตร์ และทักษะในศตวรรษที่ 21 มีการ
และ ค.ศ. 2015
ออกแบบหลักสูตรได้เหมาะสมกับระบบการศึกษาในโลกสมัยใหม่ โดยส่งเสริม
ให้มีการใช้เทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู้สามารถเตรียมความพร้อมให้กับ
ข้อมูลจากโครงการ PISA ใน ค.ศ. 2012 ยังมีข้อสังเกตว่า เวลาเรียน
ผู้เรียนเพื่อให้เป็นผู้ที่มีความรู้และทักษะทางคณิตศาสตร์ และเป็นผู้ที่มีความ
คณิตศาสตร์ในโรงเรียนมีความสัมพันธ์โดยตรงกับความสามารถทางคณิตศาสตร์
พร้อมในการทำ�งานหรือการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น (Cambridge, 2015;
และเมื่อพิจารณาเวลาเรียนคณิตศาสตร์ของผู้เรียนไทยกับผู้เรียนจากประเทศ
Cambridge, 2016)
อืน
่ ๆ ทีเ่ ข้าร่วมการประเมิน พบว่าผูเ้ รียนไทยอายุ 15 ปี มีเวลาเรียนคณิตศาสตร์
ต่อสัปดาห์น้อยกว่าเมื่อเทียบกับเวลาเรียนคณิตศาสตร์ของผู้เรียนประเทศอื่น ๆ
ทีม
่ ค
ี ะแนนเฉลีย
่ คณิตศาสตร์ในอันดับต้น ๆ เช่น สิงคโปร์ เวียดนาม เกาหลี และ
ญี่ปุ่น
2 เป้าหมายหลักสูตร
ผลการวิ จั ย และติ ด ตามการใช้ ห ลั ก สู ต รแกนกลางการศึ ก ษาขั้ น พื้ น ฐาน
หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
พุทธศักราช 2551
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มีเป้าหมายที่
ผลการวิจย
ั และติดตามการใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน
้ พืน
้ ฐาน
ต้องการให้เกิดกับผู้เรียนเมื่อจบหลักสูตร ดังนี้
พุทธศักราช 2551 รายงานว่ามาตรฐานการเรียนรูแ
้ ละตัวชีว้ ด
ั มีมากและมีความ
1. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิด หลักการ ทฤษฎี ในสาระคณิตศาสตร์
ซ้�ำ ซ้อนในกลุม
่ สาระ โดยกลุม
่ สาระการเรียนรูค
้ ณิตศาสตร์เป็นหนึง่ ในกลุม
่ สาระ
ที่จำ�เป็น พร้อมทั้งสามารถนำ�ไปประยุกต์ได้
ทีม
่ ข
ี อ
้ เสนอแนะให้ทบทวนตัวชีว้ ด
ั และสาระการเรียนรู้ (สำ�นักงานคณะกรรมการ
2. มีความสามารถในการแก้ปญ
ั หา สือ
่ สารและสือ
่ ความหมายทางคณิตศาสตร์
การศึกษาขั้นพื้นฐาน, 2557)
เชื่อมโยง ให้เหตุผล และมีความคิดสร้างสรรค์
3. มีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ เห็นคุณค่าและตระหนักถึงความสำ�คัญของ
ผลการวิเคราะห์และประเมินร่างหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
คณิตศาสตร์ สามารถนำ�ความรูท
้ างคณิตศาสตร์ไปเป็นเครือ
่ งมือในการเรียนรู้
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ในระดับการศึกษาที่สูงขึ้น ตลอดจนการประกอบอาชีพ
พุทธศักราช 2551 โดยผูเ้ ชีย
่ วชาญด้านการศึกษาคณิตศาสตร์จากต่างประเทศ
4. มีความสามารถในการเลือกใช้สื่อ อุปกรณ์ เทคโนโลยีและแหล่งข้อมูล
ในการพัฒนามาตรฐาน ตัวชีว้ ด
ั และสาระการเรียนรูแ
้ กนกลาง กลุม
่ สาระ
ที่เหมาะสมเพื่อเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำ�งาน และ
การเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการ
การแก้ปัญหาอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
ศึกษาขัน
้ พืน
้ ฐาน พุทธศักราช 2551 สสวท. ใช้ขอ
้ มูลทีก
่ ล่าวมาข้างต้นมาประกอบ
8 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 9
3 การเปลี่ยนแปลงของหลักสูตร
จากข้อมูลผลการวิจย
ั ข้างต้นและเป้าหมายของหลักสูตรกลุม
่ สาระการ
เรียนรูค
้ ณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา เนื้อหาที่ตัดออก จากหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ทำ�ให้หลักสูตรมีการเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ
ดังนี้ จำ�นวนและพีชคณิต การวัดและเรขาคณิต สถิติและความน่าจะเป็น
เนื้อหาที่เพิ่ม
5 สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ 1
1 2 3 4 5
จำ�นวนและพีชคณิต
การแก้ปัญหา การสื่อสารและ การเชื่อมโยง การให้เหตุผล การคิดสร้างสรรค์
มาตรฐาน ค 1.1 การสื่อความหมาย
เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำ�นวน ระบบจำ�นวน การดำ�เนินการของจำ�นวน ทางคณิตศาสตร์
ผลที่เกิดขึ้นจากการดำ�เนินการ สมบัติของการดำ�เนินการ และนำ�ไปใช้
การจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ควรมุ่งเน้นให้ผู้เรียนเกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ต่อไปนี้
6 ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
1. ทำ�ความเข้าใจหรือสร้างกรณีทวั่ ไปโดยใช้ความรูท
้ ไี่ ด้จากการศึกษากรณีตวั อย่างหลาย ๆ กรณี
2. มองเห็นว่าสามารถใช้คณิตศาสตร์แก้ปัญหาในชีวิตจริงได้
ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์เป็นความสามารถทีจ่ ะนำ�ความรู้
3. มีความมุมานะในการทำ�ความเข้าใจปัญหาและแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์
ไปประยุกต์ ใช้ ในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งความรู้ และประยุกต์ ใช้ ใน
4. สร้างเหตุผลเพื่อสนับสนุนแนวคิดของตนเองหรือโต้แย้งแนวคิดของผู้อื่นอย่างสมเหตุสมผล
ชีวิตประจำ�วันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
5. ค้นหาลักษณะที่เกิดขึ้นซ้ำ� ๆ และประยุกต์ใช้ลักษณะดังกล่าวเพื่อทำ�ความเข้าใจหรือ
ในที่นี้ เน้นที่ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ที่จำ�เป็น และต้องการ
แก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ
พัฒนาให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน ได้แก่ความสามารถต่อไปนี้
14 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 15
8 คุณภาพผู้เรียน 9 ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง
เมื่อจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 1
◆◆ อ่าน เขียนตัวเลข ตัวหนังสือแสดงจำ�นวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0 สาระที่ 1 จำ�นวนและพีชคณิต
มีความรู้สึกเชิงจำ�นวน มีทักษะการบวก การลบ การคูณ การหาร และ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำ�นวน
นำ�ไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ระบบจำ�นวน การดำ�เนินการของจำ�นวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำ�เนินการ
◆◆ มีความรูส
้ ก
ึ เชิงจำ�นวนเกีย
่ วกับเศษส่วนทีไ่ ม่เกิน 1 มีทก
ั ษะการบวก การลบ สมบัติของการดำ�เนินการ และนำ�ไปใช้
เศษส่วนที่ตัวส่วนเท่ากันและนำ�ไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
◆◆ คาดคะเนและวัดความยาว น้�ำ หนัก ปริมาตร ความจุ เลือกใช้เครือ
่ งมือและ
หน่วยทีเ่ หมาะสม บอกเวลา บอกจำ�นวนเงิน และนำ�ไปใช้ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ
◆◆ จำ�แนกและบอกลักษณะของรูปหลายเหลี่ยม วงกลม วงรี ทรงสี่เหลี่ยม- จำ�นวนนับ 1 ถึง 100 และ 0
มุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอกและกรวย เขียนรูปหลายเหลีย
่ ม วงกลมและ 1. บอกจำ�นวนของสิ่งต่าง ๆ แสดงสิ่งต่าง ๆ ◆◆ การนับทีละ 1 และทีละ 10
วงรี โ ดยใช้ แ บบของรู ป ระบุ รู ป เรขาคณิ ต ที่ มี แ กนสมมาตรและจำ � นวน ตามจำ�นวนที่กำ�หนด อ่านและเขียนตัวเลข ◆◆ การอ่านและการเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก
แกนสมมาตร และนำ�ไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ฮินดูอารบิก ตัวเลขไทยแสดงจำ�นวนนับ ตัวเลขไทยแสดงจำ�นวน
◆◆ อ่านและเขียนแผนภูมิรูปภาพ ตารางทางเดียว และนำ�ไปใช้ในสถานการณ์ ไม่เกิน 100 และ 0 ◆◆ การแสดงจำ�นวนนับไม่เกิน 20 ในรูปความ
ต่าง ๆ 2. เปรียบเทียบจำ�นวนนับไม่เกิน 100 และ 0 สัมพันธ์ของจำ�นวนแบบส่วนย่อย – ส่วนรวม
โดยใช้เครื่องหมาย = ≠ > < (part-whole relationship)
เมื่อจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3. เรียงลำ�ดับจำ�นวนนับไม่เกิน 100 และ 0 ◆◆ การบอกอันดับที่
ตั้งแต่ 3 ถึง 5 จำ�นวน ◆◆ หลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก และการ
◆◆ อ่าน เขียนตัวเลข ตัวหนังสือแสดงจำ�นวนนับ เศษส่วน ทศนิยมไม่เกิน เขียนตัวเลขแสดงจำ�นวนในรูปกระจาย
3 ตำ�แหน่ง อัตราส่วน และร้อยละ มีความรู้สึกเชิงจำ�นวน มีทักษะการบวก ◆◆ การเปรียบเทียบจำ�นวนและการใช้
การลบ การคูณ การหาร ประมาณผลลัพธ์ และนำ�ไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ เครื่องหมาย = ≠ > <
◆◆ อธิบายลักษณะและสมบัติของรูปเรขาคณิต หาความยาวรอบรูปและพื้นที่ ◆◆ การเรียงลำ�ดับจำ�นวน
ของรูปเรขาคณิต สร้างรูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยมและวงกลม หาปริมาตร
และความจุของทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก และนำ�ไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ
การบวก การลบ จำ�นวนนับ 1 ถึง 100 และ 0
◆◆ นำ�เสนอข้อมูลในรูปแผนภูมิแท่ง ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิแท่ง แผนภูมิรูป
4. หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ ◆◆ ความหมายของการบวก ความหมายของ
วงกลม ตารางสองทาง และกราฟเส้นในการอธิบายเหตุการณ์ต่าง ๆ และ
แสดงการบวกและประโยคสัญลักษณ์แสดง การลบ การหาผลบวก การหาผลลบ และ
ตัดสินใจ
การลบของจำ�นวนนับไม่เกิน 100 และ 0 ความสัมพันธ์ของการบวกและการลบ
5. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาการบวก ◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาการบวก โจทย์ปัญหา
และโจทย์ปัญหาการลบของจำ�นวนนับไม่เกิน การลบ และการสร้างโจทย์ปัญหาพร้อมทั้ง
100 และ 0 หาคำ�ตอบ
16 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 17
มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจและวิเคราะห์แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน ลำ�ดับและอนุกรม และนำ�ไปใช้ มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต
ความสัมพันธ์ระหว่างรูปเรขาคณิต และทฤษฎีบททางเรขาคณิต และนำ�ไปใช้
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
แบบรูป
1. ระบุจำ�นวนที่หายไปในแบบรูปของจำ�นวน ◆◆ แบบรูปของจำ�นวนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง รูปเรขาคณิตสองมิติและรูปเรขาคณิตสามมิติ
ที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงทีละ 1 และทีละ 10 ทีละ 1 และทีละ 10 1. จำ�แนกรูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม ◆◆ ลักษณะของทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ทรงกลม
และระบุรูปที่หายไปในแบบรูปซ้ำ�ของ ◆◆ แบบรูปซ้ำ�ของจำ�นวน รูปเรขาคณิตและ วงกลม วงรี ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ทรงกระบอก กรวย
รูปเรขาคณิตและรูปอื่น ๆ ที่สมาชิก รูปอื่น ๆ ทรงกลม ทรงกระบอก และกรวย ◆◆ ลักษณะของรูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม
ในแต่ละชุดที่ซ้ำ�มี 2 รูป วงกลม และวงรี
สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณิต
มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการวัด และนำ�ไปใช้ สาระที่ 3 สถิติและความน่าจะเป็น
มาตรฐาน ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรู้ทางสถิติในการแก้ปัญหา
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ความยาว
1. วัดและเปรียบเทียบความยาวเป็นเซนติเมตร ◆◆ การวัดความยาวโดยใช้หน่วยที่ไม่ใช่หน่วย การนำ�เสนอข้อมูล
เป็นเมตร มาตรฐาน 1. ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพในการหาคำ�ตอบ ◆◆ การอ่านแผนภูมิรูปภาพ
◆◆ การวัดความยาวเป็นเซนติเมตร เป็นเมตร ของโจทย์ปัญหา เมื่อกำ�หนดรูป 1 รูป
◆◆ การเปรียบเทียบความยาวเป็นเซนติเมตร แทน 1 หน่วย
เป็นเมตร
◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบเกี่ยวกับ
ความยาวที่มีหน่วยเป็นเซนติเมตร เป็นเมตร
น้ำ�หนัก
2. วัดและเปรียบเทียบน้ำ�หนักเป็นกิโลกรัม ◆◆ การวัดน้ำ�หนักโดยใช้หน่วยที่ไม่ใช่หน่วย
เป็นขีด มาตรฐาน
◆◆ การวัดน้ำ�หนักเป็นกิโลกรัม เป็นขีด
◆◆ การเปรียบเทียบน้ำ�หนักเป็นกิโลกรัม เป็นขีด
◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบเกี่ยวกับ
น้ำ�หนักที่มีหน่วยเป็นกิโลกรัม เป็นขีด
18 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 19
ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 2
สาระที่ 1 จำ�นวนและพีชคณิต มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจและวิเคราะห์แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน ลำ�ดับและอนุกรม และนำ�ไปใช้
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำ�นวน
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ระบบจำ�นวน การดำ�เนินการของจำ�นวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำ�เนินการ
สมบัติของการดำ�เนินการ และนำ�ไปใช้
แบบรูป
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง (มีการจัดการเรียน การสอน ◆◆ แบบรูปของจำ�นวนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง
เพื่อเป็นพื้นฐาน แต่ไม่วัดผล) ทีละ 2 ทีละ 5 และทีละ 100
จำ�นวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0 ◆◆ แบบรูปซ้ำ�
1. บอกจำ�นวนของสิ่งต่าง ๆ แสดงสิ่งต่าง ๆ ◆◆ การนับทีละ 2 ทีละ 5 ทีละ 10 และทีละ 100
ตามจำ�นวนที่กำ�หนด อ่านและเขียนตัวเลข ◆◆ การอ่านและการเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก
ฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย ตัวหนังสือแสดง ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจำ�นวน
จำ�นวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0 ◆◆ จำ�นวนคู่ จำ�นวนคี่ สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณิต
2. เปรียบเทียบจำ�นวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0 ◆◆ หลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก และการ มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการวัด และนำ�ไปใช้
โดยใช้เครื่องหมาย = ≠ > < เขียนตัวเลขแสดงจำ�นวนในรูปกระจาย
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
3. เรียงลำ�ดับจำ�นวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0 ◆◆ การเปรียบเทียบและเรียงลำ�ดับจำ�นวน
ตั้งแต่ 3 ถึง 5 จำ�นวนจากสถานการณ์ต่าง ๆ
เวลา
การบวก การลบ การคูณ การหารจำ�นวนนับ 1. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับ ◆◆ การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที
ไม่เกิน 1,000 และ 0 เวลาที่มีหน่วยเดี่ยวและเป็นหน่วยเดียวกัน (ช่วง 5 นาที)
4. หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ ◆◆ การบวกและการลบ ◆◆ การบอกระยะเวลาเป็นชั่วโมง เป็นนาที
แสดงการบวกและประโยคสัญลักษณ์แสดง ◆◆ ความหมายของการคูณ ความหมายของ ◆◆ การเปรียบเทียบระยะเวลาเป็นชั่วโมง
การลบของจำ�นวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0 การหาร การหาผลคูณ การหาผลหารและ เป็นนาที
5. หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ เศษ และความสัมพันธ์ของการคูณและ ◆◆ การอ่านปฏิทิน
แสดงการคูณของจำ�นวน 1 หลักกับจำ�นวน การหาร ◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเวลา
ไม่เกิน 2 หลัก ◆◆ การบวก ลบ คูณ หารระคน
6. หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ ◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาและการสร้างโจทย์ปัญหา
แสดงการหารที่ตัวตั้งไม่เกิน 2 หลัก ตัวหาร พร้อมทั้งหาคำ�ตอบ ความยาว
1 หลัก โดยที่ผลหารมี 1 หลักทั้งหารลงตัว 2. วัดและเปรียบเทียบความยาวเป็นเมตรและ ◆◆ การวัดความยาวเป็นเมตรและเซนติเมตร
และหารไม่ลงตัว เซนติเมตร ◆◆ การคาดคะเนความยาวเป็นเมตร
7. หาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนของ
จำ�นวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0
8. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอน
ของจำ�นวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0
20 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 21
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
3. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาการบวก ◆◆ การเปรียบเทียบความยาวโดยใช้ความ
การลบเกี่ยวกับความยาวที่มีหน่วยเป็นเมตร สัมพันธ์ระหว่างเมตรกับเซนติเมตร
และเซนติเมตร ◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาวที่มี รูปเรขาคณิตสองมิติ
หน่วยเป็นเมตรและเซนติเมตร 1. จำ�แนกและบอกลักษณะของรูปหลายเหลี่ยม ◆◆ ลักษณะของรูปหลายเหลี่ยม วงกลม และวงรี
และวงกลม และการเขียนรูปเรขาคณิตสองมิติโดยใช้แบบ
ของรูป
น้ำ�หนัก
4. วัดและเปรียบเทียบน้ำ�หนักเป็นกิโลกรัมและ ◆◆ การวัดน้ำ�หนักเป็นกิโลกรัมและกรัม
กรัม กิโลกรัมและขีด กิโลกรัมและขีด
5. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาการบวก ◆◆ การคาดคะเนน้ำ�หนักเป็นกิโลกรัม สาระที่ 3 สถิติและความน่าจะเป็น
การลบเกี่ยวกับน้ำ�หนักที่มีหน่วยเป็นกิโลกรัม ◆◆ การเปรียบเทียบน้ำ�หนักโดยใช้ความสัมพันธ์ มาตรฐาน ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรู้ทางสถิติในการแก้ปัญหา
และกรัม กิโลกรัมและขีด ระหว่างกิโลกรัมกับกรัม กิโลกรัมกับขีด
◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับน้ำ�หนักที่มีหน่วย ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
เป็นกิโลกรัมและกรัม กิโลกรัมและขีด
การนำ�เสนอข้อมูล
1. ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพในการหาคำ�ตอบ ◆◆ การอ่านแผนภูมิรูปภาพ
ปริมาตรและความจุ ของโจทย์ปัญหาเมื่อกำ�หนดรูป 1 รูป แทน
6. วัดและเปรียบเทียบปริมาตรและความจุเป็น ◆◆ การวัดปริมาตรและความจุโดยใช้หน่วยที่ 2 หน่วย 5 หน่วย หรือ 10 หน่วย
ลิตร ไม่ใช่หน่วยมาตรฐาน
◆◆ การวัดปริมาตรและความจุเป็นช้อนชา
ช้อนโต๊ะ ถ้วยตวง ลิตร
◆◆ การเปรียบเทียบปริมาตรและความจุเป็น
ช้อนชา ช้อนโต๊ะ ถ้วยตวง ลิตร
◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรและ
ความจุที่มีหน่วยเป็นช้อนชา ช้อนโต๊ะ
ถ้วยตวง ลิตร
22 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 23
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 3
สาระที่ 1 จำ�นวนและพีชคณิต การบวก การลบ การคูณ การหารจำ�นวนนับ
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำ�นวน ไม่เกิน 100,000 และ 0
ระบบจำ�นวน การดำ�เนินการของจำ�นวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำ�เนินการ 5. หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ ◆◆ การบวกและการลบ
สมบัติของการดำ�เนินการ และนำ�ไปใช้ แสดงการบวกและประโยคสัญลักษณ์แสดง ◆◆ การคูณ การหารยาว และการหารสั้น
การลบของจำ�นวนนับไม่เกิน 100,000 ◆◆ การบวก ลบ คูณ หารระคน
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
และ 0 ◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาและการสร้างโจทย์ปัญหา
6. หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ พร้อมทั้งหาคำ�ตอบ
จำ�นวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0 แสดงการคูณของจำ�นวน 1 หลักกับจำ�นวน
1. อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย ◆◆ การอ่าน การเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ไม่เกิน 4 หลัก และจำ�นวน 2 หลักกับจำ�นวน
และตัวหนังสือแสดงจำ�นวนนับไม่เกิน ตัวเลขไทยและตัวหนังสือแสดงจำ�นวน 2 หลัก
100,000 และ 0 ◆◆ หลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก และ 7. หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์
2. เปรียบเทียบและเรียงลำ�ดับจำ�นวนนับไม่เกิน การเขียนตัวเลขแสดงจำ�นวนในรูปกระจาย แสดงการหารที่ตัวตั้งไม่เกิน 4 หลัก ตัวหาร
100,000 จากสถานการณ์ต่าง ๆ ◆◆ การเปรียบเทียบและเรียงลำ�ดับจำ�นวน 1 หลัก
8. หาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนของ
จำ�นวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0
เศษส่วน 9. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอน
3. บอก อ่านและเขียนเศษส่วนแสดงปริมาณ ◆◆ เศษส่วนที่ตัวเศษน้อยกว่าหรือเท่ากับตัวส่วน ของจำ�นวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0
สิ่งต่าง ๆ และแสดงสิ่งต่าง ๆ ตามเศษส่วน ◆◆ การเปรียบเทียบและเรียงลำ�ดับเศษส่วน
ที่กำ�หนด
4. เปรียบเทียบเศษส่วนที่ตัวเศษเท่ากัน การบวก การลบเศษส่วน
โดยที่ตัวเศษน้อยกว่าหรือเท่ากับตัวส่วน 10. หาผลบวกของเศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากันและ ◆◆ การบวกและการลบเศษส่วน
ผลบวกไม่เกิน 1 และหาผลลบของเศษส่วน ◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหา
ที่มีตัวส่วนเท่ากัน การลบเศษส่วน
11. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาการบวก
เศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากันและผลบวกไม่เกิน
1 และโจทย์ปัญหาการลบเศษส่วนที่มีตัวส่วน
เท่ากัน
24 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 25
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจและวิเคราะห์แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน ลำ�ดับและอนุกรม และนำ�ไปใช้
ความยาว
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง 3. เลือกใช้เครื่องวัดความยาวที่เหมาะสม ◆◆ การวัดความยาวเป็นเซนติเมตรและมิลลิเมตร
วัดและบอกความยาวของสิ่งต่าง ๆ เป็น เมตรและเซนติเมตร กิโลเมตรและเมตร
แบบรูป เซนติเมตรและมิลลิเมตร เมตรและเซนติเมตร ◆◆ การเลือกเครื่องวัดความยาวที่เหมาะสม
1. ระบุจำ�นวนที่หายไปในแบบรูปของจำ�นวน ◆◆ แบบรูปของจำ�นวนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงทีละ 4. คาดคะเนความยาวเป็นเมตรและเป็นเซนติเมตร ◆◆ การคาดคะเนความยาวเป็นเมตรและเป็น
ที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงทีละเท่า ๆ กัน เท่า ๆ กัน 5. เปรียบเทียบความยาวระหว่างเซนติเมตรกับ เซนติเมตร
มิลลิเมตร เมตรกับเซนติเมตร กิโลเมตรกับ ◆◆ การเปรียบเทียบความยาวโดยใช้ความ
เมตรจากสถานการณ์ต่าง ๆ สัมพันธ์ระหว่างหน่วยความยาว
6. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับ ◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาว
สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณิต
ความยาวที่มีหน่วยเป็นเซนติเมตรและ
มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการวัด และนำ�ไปใช้
มิลลิเมตร เมตรและเซนติเมตร กิโลเมตร
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง และเมตร
น้ำ�หนัก
เงิน
7. เลือกใช้เครื่องชั่งที่เหมาะสม วัดและบอก ◆◆ การเลือกเครื่องชั่งที่เหมาะสม
1. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับ ◆◆ การบอกจำ�นวนเงินและเขียนแสดงจำ�นวน
น้ำ�หนักเป็นกิโลกรัมและขีด กิโลกรัมและกรัม ◆◆ การคาดคะเนน้ำ�หนักเป็นกิโลกรัมและเป็นขีด
เงิน เงินแบบใช้จุด
8. คาดคะเนน้ำ�หนักเป็นกิโลกรัมและเป็นขีด ◆◆ การเปรียบเทียบน้ำ�หนักโดยใช้ความสัมพันธ์
◆◆ การเปรียบเทียบจำ�นวนเงินและการแลกเงิน
9. เปรียบเทียบน้ำ�หนักระหว่างกิโลกรัมกับกรัม ระหว่างกิโลกรัมกับกรัม เมตริกตันกับกิโลกรัม
◆◆ การอ่านและเขียนบันทึกรายรับ รายจ่าย
เมตริกตันกับกิโลกรัม จากสถานการณ์ต่าง ๆ ◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับน้ำ�หนัก
◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเงิน
10. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับ
น้ำ�หนักที่มีหน่วยเป็นกิโลกรัมกับกรัม
เวลา เมตริกตันกับกิโลกรัม
2. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับ ◆◆ การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที
ปริมาตรและความจุ
เวลา และระยะเวลา ◆◆ การเขียนบอกเวลาโดยใช้มหัพภาค (.)
11. เลือกใช้เครื่องตวงที่เหมาะสม วัดและ ◆◆ การวัดปริมาตรและความจุเป็นลิตรและ
หรือทวิภาค (:) และการอ่าน
เปรียบเทียบปริมาตร ความจุเป็นลิตร มิลลิลิตร
◆◆ การบอกระยะเวลาเป็นชั่วโมงและนาที
และมิลลิลิตร ◆◆ การเลือกเครื่องตวงที่เหมาะสม
◆◆ การเปรียบเทียบระยะเวลาโดยใช้ความ
12. คาดคะเนปริมาตรและความจุเป็นลิตร ◆◆ การคาดคะเนปริมาตรและความจุเป็นลิตร
สัมพันธ์ระหว่างชั่วโมงกับนาที
13. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับ ◆◆ การเปรียบเทียบปริมาตรและความจุโดยใช้
◆◆ การอ่านและการเขียนบันทึกกิจกรรมที่ระบุ
ปริมาตรและความจุที่มีหน่วยเป็นลิตรและ ความสัมพันธ์ระหว่างลิตรกับมิลลิลิตร
เวลา
มิลลิลิตร ช้อนชา ช้อนโต๊ะ ถ้วยตวงกับมิลลิลิตร
◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเวลาและระยะเวลา
◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรและ
ความจุที่มีหน่วยเป็นลิตรและมิลลิลิตร
26 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 27
ชั้นประถมศึกษา
มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต ปีที่ 4
สาระที่ 1 จำ�นวนและพีชคณิต
ความสัมพันธ์ระหว่างรูปเรขาคณิต และทฤษฎีบททางเรขาคณิต และนำ�ไปใช้
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำ�นวน
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ระบบจำ�นวน การดำ�เนินการของจำ�นวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำ�เนินการ
สมบัติของการดำ�เนินการ และนำ�ไปใช้
รูปเรขาคณิตสองมิติ
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
1. ระบุรูปเรขาคณิตสองมิติที่มีแกนสมมาตร ◆◆ รูปที่มีแกนสมมาตร
และจำ�นวนแกนสมมาตร
จำ�นวนนับที่มากกว่า 100,000 และ 0
1. อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย ◆◆ การอ่าน การเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก
และตัวหนังสือแสดงจำ�นวนนับที่มากกว่า ตัวเลขไทยและตัวหนังสือแสดงจำ�นวน
100,000 ◆◆ หลัก ค่าประจำ�หลักและค่าของเลขโดดใน
สาระที่ 3 สถิติและความน่าจะเป็น
2. เปรียบเทียบและเรียงลำ�ดับจำ�นวนนับที่ แต่ละหลัก และการเขียนตัวเลขแสดงจำ�นวน
มาตรฐาน ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรู้ทางสถิติในการแก้ปัญหา
มากกว่า 100,000 จากสถานการณ์ต่าง ๆ ในรูปกระจาย
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ◆◆ การเปรียบเทียบและเรียงลำ�ดับจำ�นวน
◆◆ ค่าประมาณของจำ�นวนนับและการใช้
เครื่องหมาย ≈
การเก็บรวบรวมข้อมูลและการนำ�เสนอข้อมูล
1. เขียนแผนภูมิรูปภาพ และใช้ข้อมูลจาก ◆◆ การเก็บรวบรวมข้อมูลและจำ�แนกข้อมูล
แผนภูมิรูปภาพในการหาคำ�ตอบของโจทย์ ◆◆ การอ่านและการเขียนแผนภูมิรูปภาพ
เศษส่วน
ปัญหา ◆◆ การอ่านและการเขียนตารางทางเดียว
3. บอก อ่านและเขียนเศษส่วน จำ�นวนคละ ◆◆ เศษส่วนแท้ เศษเกิน
2. เขียนตารางทางเดียวจากข้อมูลที่เป็น (One-Way Table)
แสดงปริมาณสิ่งต่าง ๆ และแสดงสิ่งต่าง ๆ ◆◆ จำ�นวนคละ
จำ�นวนนับ และใช้ข้อมูลจากตารางทางเดียว
ตามเศษส่วน จำ�นวนคละที่กำ�หนด ◆◆ ความสัมพันธ์ระหว่างจำ�นวนคละและ
ในการหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหา
4. เปรียบเทียบ เรียงลำ�ดับเศษส่วนและ เศษเกิน
จำ�นวนคละที่ตัวส่วนตัวหนึ่งเป็นพหุคูณ ◆◆ เศษส่วนที่เท่ากัน เศษส่วนอย่างต่ำ�
ของอีกตัวหนึ่ง และเศษส่วนที่เท่ากับจำ�นวนนับ
◆◆ การเปรียบเทียบ เรียงลำ�ดับเศษส่วน
และจำ�นวนคละ
28 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 29
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ทศนิยม
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
5. อ่านและเขียนทศนิยมไม่เกิน 3 ตำ�แหน่ง ◆◆ การอ่านและการเขียนทศนิยมไม่เกิน
แสดงปริมาณของสิ่งต่าง ๆ และแสดงสิ่งต่าง ๆ 3 ตำ�แหน่งตามปริมาณที่กำ�หนด
ตามทศนิยมที่กำ�หนด ◆◆ หลัก ค่าประจำ�หลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละ การบวก การลบเศษส่วน
6. เปรียบเทียบและเรียงลำ�ดับทศนิยมไม่เกิน หลักของทศนิยม และการเขียนตัวเลขแสดง 13. หาผลบวก ผลลบของเศษส่วนและจำ�นวน ◆◆ การบวก การลบเศษส่วนและจำ�นวนคละ
3 ตำ�แหน่งจากสถานการณ์ต่างๆ ทศนิยมในรูปกระจาย คละที่ตัวส่วนตัวหนึ่งเป็นพหุคูณของอีกตัว ◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหา
◆◆ ทศนิยมที่เท่ากัน หนึ่ง การลบเศษส่วนและจำ�นวนคละ
◆◆ การเปรียบเทียบและเรียงลำ�ดับทศนิยม 14. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาการบวก
และโจทย์ปัญหาการลบเศษส่วนและจำ�นวน
คละที่ตัวส่วนตัวหนึ่งเป็นพหุคูณของอีกตัว
การบวก การลบ การคูณ การหารจำ�นวนนับ หนึ่ง
ที่มากกว่า 100,000 และ 0
7. ประมาณผลลัพธ์ของการบวก การลบ ◆◆ การประมาณผลลัพธ์ของการบวก
การคูณ การหารจากสถานการณ์ต่าง ๆ การลบ การคูณ การหาร การบวก การลบทศนิยม
อย่างสมเหตุสมผล ◆◆ การบวกและการลบ 15. หาผลบวก ผลลบของทศนิยมไม่เกิน ◆◆ การบวก การลบทศนิยม
8. หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ ◆◆ การคูณและการหาร 3 ตำ�แหน่ง ◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบทศนิยม
แสดงการบวกและประโยคสัญลักษณ์แสดง ◆◆ การบวก ลบ คูณ หารระคน 16. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาการบวก ไม่เกิน 2 ขั้นตอน
การลบของจำ�นวนนับที่มากกว่า 100,000 ◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาและการสร้างโจทย์ปัญหา การลบ 2 ขั้นตอน ของทศนิยมไม่เกิน
และ 0 พร้อมทั้งหาคำ�ตอบ 3 ตำ�แหน่ง
9. หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์
แสดงการคูณของจำ�นวนหลายหลัก 2 จำ�นวน
ที่มีผลคูณไม่เกิน 6 หลัก และประโยค มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจและวิเคราะห์แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน ลำ�ดับและอนุกรม และนำ�ไปใช้
สัญลักษณ์แสดงการหารที่ตัวตั้งไม่เกิน 6 หลัก
ตัวหารไม่เกิน 2 หลัก ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
10. หาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนของ
จำ�นวนนับ และ 0 แบบรูป
11. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอน (มีการจัดการเรียน การสอน ◆◆ แบบรูปของจำ�นวนที่เกิดจากการคูณ การหาร
ของจำ�นวนนับที่มากกว่า 100,000 และ 0 เพื่อเป็นพื้นฐาน แต่ไม่วัดผล) ด้วยจำ�นวนเดียวกัน
12. สร้างโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอนของจำ�นวนนับ
และ 0 พร้อมทั้งหาคำ�ตอบ
30 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 31
เวลา รูปเรขาคณิต
1. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับ ◆◆ การบอกระยะเวลาเป็นวินาที นาที ชั่วโมง 1. จำ�แนกชนิดของมุม บอกชื่อมุม ส่วนประกอบ ◆◆ ระนาบ จุด เส้นตรง รังสี ส่วนของเส้นตรง
เวลา วัน สัปดาห์ เดือน ปี ของมุมและเขียนสัญลักษณ์แสดงมุม และสัญลักษณ์แสดงเส้นตรง รังสี ส่วนของ
◆◆ การเปรียบเทียบระยะเวลาโดยใช้ 2. สร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากเมื่อกำ�หนดความยาว เส้นตรง
ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยเวลา ของด้าน ◆◆ มุม
◆◆ การอ่านตารางเวลา • ส่วนประกอบของมุม
◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเวลา • การเรียกชื่อมุม
• สัญลักษณ์แสดงมุม
• ชนิดของมุม
การวัดและสร้างมุม ◆◆ ชนิดและสมบัติของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก
2. วัดและสร้างมุมโดยใช้โพรแทรกเตอร์ ◆◆ การวัดขนาดของมุมโดยใช้โพรแทรกเตอร์ ◆◆ การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก
◆◆ การสร้างมุมเมื่อกำ�หนดขนาดของมุม
ความยาวรอบรูปและพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยม ◆◆ พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
มุมฉาก ◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาวรอบรูป
และพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก
การนำ�เสนอข้อมูล
1. ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิแท่ง ตารางสองทาง ◆◆ การอ่านและการเขียนแผนภูมิแท่ง
ในการหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหา (ไม่รวมการย่นระยะ)
◆◆ การอ่านตารางสองทาง (Two-Way Table)
32 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 33
ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 5
สาระที่ 1 จำ�นวนและพีชคณิต ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำ�นวน
ระบบจำ�นวน การดำ�เนินการของจำ�นวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำ�เนินการ การคูณ การหารทศนิยม
สมบัติของการดำ�เนินการ และนำ�ไปใช้ 6. หาผลคูณของทศนิยมที่ผลคูณเป็นทศนิยม ◆◆ การประมาณผลลัพธ์ของการบวก การลบ
ไม่เกิน 3 ตำ�แหน่ง การคูณ การหารทศนิยม
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
7. หาผลหารที่ตัวตั้งเป็นจำ�นวนนับหรือทศนิยม ◆◆ การคูณทศนิยม
ไม่เกิน 3 ตำ�แหน่ง และตัวหารเป็นจำ�นวนนับ ◆◆ การหารทศนิยม
ทศนิยม ผลหารเป็นทศนิยมไม่เกิน 3 ตำ�แหน่ง ◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับทศนิยม
1. เขียนเศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็นตัวประกอบของ ◆◆ ความสัมพันธ์ระหว่างเศษส่วนและทศนิยม 8. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาการบวก
10 หรือ 100 หรือ 1,000 ในรูปทศนิยม ◆◆ ค่าประมาณของทศนิยมไม่เกิน 3 ตำ�แหน่ง การลบ การคูณ การหารทศนิยม 2 ขั้นตอน
ที่เป็นจำ�นวนเต็ม ทศนิยม 1 ตำ�แหน่ง
และ 2 ตำ�แหน่ง การใช้เครื่องหมาย ≈
ร้อยละหรือเปอร์เซ็นต์
9. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาร้อยละ ◆◆ การอ่านและการเขียนร้อยละหรือเปอร์เซ็นต์
จำ�นวนนับและ 0 การบวก การลบ การคูณ
ไม่เกิน 2 ขั้นตอน ◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละ
และการหาร
2. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาโดยใช้ ◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาโดยใช้บัญญัติไตรยางศ์
บัญญัติไตรยางศ์
สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณิต
มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการวัด และนำ�ไปใช้
เศษส่วน และการบวก การลบ การคูณ การหาร
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
เศษส่วน
3. หาผลบวก ผลลบของเศษส่วนและ ◆◆ การเปรียบเทียบเศษส่วนและจำ�นวนคละ
จำ�นวนคละ ◆◆ การบวก การลบของเศษส่วนและจำ�นวนคละ ความยาว
4. หาผลคูณ ผลหารของเศษส่วนและ ◆◆ การคูณ การหารของเศษส่วนและจำ�นวนคละ 1. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับ ◆◆ ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยความยาว
จำ�นวนคละ ◆◆ การบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วนและ ความยาวที่มีการเปลี่ยนหน่วยและเขียนใน เซนติเมตรกับมิลลิเมตร เมตรกับเซนติเมตร
5. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาการบวก จำ�นวนคละ รูปทศนิยม กิโลเมตรกับเมตร โดยใช้ความรู้เรื่องทศนิยม
การลบ การคูณ การหารเศษส่วน 2 ขั้นตอน ◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาเศษส่วนและจำ�นวนคละ ◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาวโดยใช้
ความรู้เรื่องการเปลี่ยนหน่วยและทศนิยม
34 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 35
น้ำ�หนัก รูปเรขาคณิต
2. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับ ◆◆ ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยน้ำ�หนัก กิโลกรัม 1. สร้างเส้นตรงหรือส่วนของเส้นตรงให้ขนาน ◆◆ เส้นตั้งฉากและสัญลักษณ์แสดงการตั้งฉาก
น้ำ�หนักที่มีการเปลี่ยนหน่วยและเขียนใน กับกรัม โดยใช้ความรู้เรื่องทศนิยม กับเส้นตรงหรือส่วนของเส้นตรงที่กำ�หนดให้ ◆◆ เส้นขนานและสัญลักษณ์แสดงการขนาน
รูปทศนิยม ◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับน้ำ�หนัก โดยใช้ ◆◆ การสร้างเส้นขนาน
ความรู้เรื่องการเปลี่ยนหน่วยและทศนิยม ◆◆ มุมแย้ง มุมภายในและมุมภายนอกที่อยู่บน
ข้างเดียวกันของเส้นตัดขวาง (Transversal)
ปริมาตรและความจุ
รูปเรขาคณิตสองมิติ
3. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับ ◆◆ ปริมาตรของทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากและความจุ
2. จำ�แนกรูปสี่เหลี่ยมโดยพิจารณาจากสมบัติ ◆◆ ชนิดและสมบัติของรูปสี่เหลี่ยม
ปริมาตรของทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากและความจุ ของภาชนะทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก
ของรูป ◆◆ การสร้างรูปสี่เหลี่ยม
ของภาชนะทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ◆◆ ความสัมพันธ์ระหว่างมิลลิลิตร ลิตร
3. สร้างรูปสี่เหลี่ยมชนิดต่าง ๆ เมื่อกำ�หนด
ลูกบาศก์เซนติเมตร และลูกบาศก์เมตร
ความยาวของด้านและขนาดของมุมหรือ
◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรของ
เมื่อกำ�หนดความยาวของเส้นทแยงมุม
ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากและความจุของภาชนะ
ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก
รูปเรขาคณิตสามมิติ
4. บอกลักษณะของปริซึม ◆◆ ลักษณะและส่วนต่าง ๆ ของปริซึม
รูปเรขาคณิตสองมิติ
4. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับ ◆◆ ความยาวรอบรูปของรูปสี่เหลี่ยม
ความยาวรอบรูปของรูปสี่เหลี่ยมและพื้นที่ ◆◆ พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมด้านขนานและ สาระที่ 3 สถิติและความน่าจะเป็น
ของรูปสี่เหลี่ยมด้านขนานและรูปสี่เหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน มาตรฐาน ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรู้ทางสถิติในการแก้ปัญหา
ขนมเปียกปูน ◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาวรอบรูป
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ของรูปสี่เหลี่ยมและพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยม
ด้านขนานและรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน
การนำ�เสนอข้อมูล
1. ใช้ข้อมูลจากกราฟเส้นในการหาคำ�ตอบของ ◆◆ การอ่านและการเขียนแผนภูมิแท่ง
โจทย์ปัญหา ◆◆ การอ่านกราฟเส้น
2. เขียนแผนภูมิแท่งจากข้อมูลที่เป็นจำ�นวนนับ
36 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 37
เศษส่วน
1. เปรียบเทียบ เรียงลำ�ดับเศษส่วนและ ◆◆ การเปรียบเทียบและเรียงลำ�ดับเศษส่วนและ
ทศนิยม และการบวก การลบ การคูณ การหาร
จำ�นวนคละ จากสถานการณ์ต่าง ๆ จำ�นวนคละโดยใช้ความรู้เรื่อง ค.ร.น.
9. หาผลหารของทศนิยมที่ตัวหารและผลหาร ◆◆ ความสัมพันธ์ระหว่างเศษส่วนและทศนิยม
เป็นทศนิยมไม่เกิน 3 ตำ�แหน่ง ◆◆ การหารทศนิยม
2 ปริมาณ จากข้อความหรือสถานการณ์
โดยที่ปริมาณแต่ละปริมาณเป็นจำ�นวนนับ
อัตราส่วนและร้อยละ
3. หาอัตราส่วนที่เท่ากับอัตราส่วนที่กำ�หนดให้
11. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาอัตราส่วน ◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาอัตราส่วนและมาตราส่วน
12. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาร้อยละ ◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละ
แบบรูป
1. แสดงวิธีคิดและหาคำ�ตอบของปัญหาเกี่ยวกับ ◆◆ การแก้ปัญหาเกี่ยวกับแบบรูป
แบบรูป
38 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 39
ปริมาตรและความจุ รูปเรขาคณิตสองมิติ
1. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับ ◆◆ ปริมาตรของรูปเรขาคณิตสามมิติที่ 1. จำ�แนกรูปสามเหลี่ยมโดยพิจารณาจาก ◆◆ ชนิดและสมบัติของรูปสามเหลี่ยม
ปริมาตรของรูปเรขาคณิตสามมิติที่ประกอบ ประกอบด้วยทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก สมบัติของรูป ◆◆ การสร้างรูปสามเหลี่ยม
ด้วยทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตร 2. สร้างรูปสามเหลี่ยมเมื่อกำ�หนดความยาว ◆◆ ส่วนต่าง ๆ ของวงกลม
ของรูปเรขาคณิตสามมิติที่ประกอบด้วย ของด้านและขนาดของมุม ◆◆ การสร้างวงกลม
ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก
รูปเรขาคณิตสามมิติ
รูปเรขาคณิตสองมิติ 3. บอกลักษณะของรูปเรขาคณิตสามมิติ ◆◆ ทรงกลม ทรงกระบอก กรวย พีระมิด
2. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับ ◆◆ ความยาวรอบรูปและพื้นที่ของรูปสามเหลี่ยม ชนิดต่าง ๆ ◆◆ รูปคลี่ของทรงกระบอก กรวย ปริซึม พีระมิด
ความยาวรอบรูปและพื้นที่ของรูปหลายเหลี่ยม ◆◆ มุมภายในของรูปหลายเหลี่ยม 4. ระบุรูปเรขาคณิตสามมิติที่ประกอบจาก
3. แสดงวิธีหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับ ◆◆ ความยาวรอบรูปและพื้นที่ของรูปหลายเหลี่ยม รูปคลี่และระบุรูปคลี่ของรูปเรขาคณิตสามมิติ
ความยาวรอบรูปและพื้นที่ของวงกลม ◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาวรอบรูป
และพื้นที่ของรูปหลายเหลี่ยม
◆◆ ความยาวรอบรูปและพื้นที่ของวงกลม
◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาวรอบรูป สาระที่ 3 สถิติและความน่าจะเป็น
และพื้นที่ของวงกลม มาตรฐาน ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรู้ทางสถิติในการแก้ปัญหา
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
การนำ�เสนอข้อมูล
1. ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปวงกลมในการหา ◆◆ การอ่านแผนภูมิรูปวงกลม
คำ�ตอบของโจทย์ปัญหา
40 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 41
10 ตารางสรุปสาระการเรียนรู้แกนกลาง
มีรายละเอียดดังนี้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6
จำ�นวนและพีชคณิต 5. ทศนิยม
1. จำ�นวนนับและศูนย์ • ความหมายและการใช้สัญลักษณ์แสดงทศนิยม ■ ■ ■
• จำ�นวนและตัวเลขแสดงจำ�นวน ■ ■ ■ ■ • หลักและค่าประจำ�หลักของทศนิยม ■
• หลัก ค่าประจำ�หลัก และการเขียนตัวเลขแสดง • ค่าประมาณ ■
■ ■ ■ ■
จำ�นวนในรูปกระจาย • การเปรียบเทียบและเรียงลำ�ดับ ■
• ค่าประมาณ ■ 6. การบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม
• การเปรียบเทียบและเรียงลำ�ดับ ■ ■ ■ ■ • การบวก การลบ และโจทย์ปัญหา ■ ■
2. การบวก การลบ การคูณ การหาร • การคูณ การหาร และโจทย์ปัญหา ■ ■
• การบวก การลบ และโจทย์ปัญหา ■ ■ ■ ■ 7. อัตราส่วนและร้อยละ
• การคูณ การหาร และโจทย์ปัญหา ■ ■ ■ • ความหมายและการใช้สัญลักษณ์แสดงร้อยละ ■
• ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ■ หรือเปอร์เซ็นต์
• การแก้โจทย์ปัญหาโดยใช้บัญญัติไตรยางค์ ■ • ความหมายและการใช้สัญลักษณ์แสดงอัตราส่วน ■
3. เศษส่วน • โจทย์ปัญหา ■ ■
• ความหมายและการใช้สัญลักษณ์แสดงเศษส่วน ■ ■ 8. แบบรูป
• การเปรียบเทียบและเรียงลำ�ดับ ■ ■ ■ ■ • แบบรูปของจำ�นวนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง ■ ■ ■
4. การบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน ทีละเท่าๆ กัน
• การบวก การลบ และโจทย์ปัญหา ■ ■ ■ ■ • แบบรูปของจำ�นวนที่เกิดจากการคูณ การหารด้วย ■
• การคูณ การหาร และโจทย์ปัญหา ■ ■ จำ�นวนเดียวกัน
• แบบรูปซ้ำ�ของจำ�นวน รูปเรขาคณิตและรูปอื่นๆ ■ ■
• การแก้ปัญหาเกี่ยวกับแบบรูป ■
42 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 43
สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6
การวัดและเรขาคณิต • การหาปริมาตรและความจุ ■ ■
1. เงิน • การคาดคะเน ■
• การบอกจำ�นวนเงินและการเขียนจำ�นวนเงิน ■ • การเปรียบเทียบปริมาตรและความจุ ■ ■
แบบใช้จุด • ความสัมพันธ์ของหน่วยปริมาตรและความจุ ■ ■
• การเปรียบเทียบจำ�นวนเงินและการแลกเงิน ■ • โจทย์ปัญหา/การนำ�ไปใช้ ■ ■ ■ ■
• โจทย์ปัญหา/การนำ�ไปใช้ ■ 6. เรขาคณิต
• การบอกเวลาและการบอกระยะเวลา ■ ■ ■ • มุม ■
• การเปรียบเทียบระยะเวลา ■ ■ ■ • เส้นขนาน ■
• ความสัมพันธ์ของหน่วยเวลา ■ ■ 7. รูปเรขาคณิตสองมิติ
• โจทย์ปัญหา/การนำ�ไปใช้ ■ ■ ■ • ลักษณะและสมบัติของรูปเรขาคณิตสองมิติ ■ ■ ■ ■ ■ ■
3. ความยาว • การสร้างรูปเรขาคณิตสองมิติ ■ ■ ■ ■
• การวัดความยาว ■ ■ ■ • การหาความยาวรอบรูปและพื้นที่ ■ ■ ■
• การคาดคะเน ■ ■ • โจทย์ปัญหา ■ ■ ■
• การเปรียบเทียบความยาว ■ ■ ■ 8. รูปเรขาคณิตสามมิติ
• ความสัมพันธ์ของหน่วยความยาว ■ ■ ■ • ลักษณะของรูปเรขาคณิตสามมิติ ■ ■ ■
• โจทย์ปัญหา/การนำ�ไปใช้ ■ ■ ■ ■ • รูปคลี่ ■
4. น้ำ�หนัก สถิติและความน่าจะเป็น
• การวัดน้ำ�หนัก ■ ■ ■ 1. ข้อมูลและการนำ�เสนอข้อมูล
• การคาดคะเน ■ ■ • การเก็บรวบรวมข้อมูลและการจำ�แนกข้อมูล ■
• การเปรียบเทียบน้ำ�หนัก ■ ■ ■ • แผนภูมิรูปภาพ ■ ■ ■
• ความสัมพันธ์ของหน่วยน้ำ�หนัก ■ ■ ■ • แผนภูมิแท่ง ■ ■
• โจทย์ปัญหา/การนำ�ไปใช้ ■ ■ ■ ■ • ตาราง ■ ■
5. ปริมาตรและความจุ • กราฟเส้น ■
• การวัดปริมาตรและความจุ ■ ■ • แผนภูมิรูปวงกลม ■
44 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 45
จำ�นวนนับ 1 ถึง 100 และ 0 การบวก การลบ จำ�นวนนับ ความยาว น้ำ�หนัก การนำ�เสนอข้อมูล
1 ถึง 100 และ 0
11
◆◆ การนับทีละ 1 และ ◆◆ ความหมายของการบวก ◆◆ การวัดความยาวโดยใช้ ◆◆ การวัดน้ำ�หนักโดยใช้หน่วย ◆◆ การอ่านแผนภูมิรูปภาพ
ทีละ 10 ความหมายของการลบ หน่วยที่ไม่ใช่หน่วย ที่ไม่ใช่หน่วยมาตรฐาน
◆◆ การอ่านและการเขียน การหาผลบวก มาตรฐาน ◆◆ การวัดน้ำ�หนักเป็นกิโลกรัม
ตัวเลขฮินดูอารบิก การหาผลลบ ◆◆ การวัดความยาวเป็น เป็นขีด
ตัวเลขไทยแสดงจำ�นวน และความสัมพันธ์ของ เซนติเมตร เป็นเมตร ◆◆ การเปรียบเทียบน้ำ�หนัก
◆◆ การแสดงจำ�นวนนับ การบวกและการลบ ◆◆ การเปรียบเทียบความยาว เป็นกิโลกรัม เป็นขีด
ไม่เกิน 20 ในรูปความ ◆◆ การแก้โจทย์ปัญหา เป็นเซนติเมตร เป็นเมตร ◆◆ การแก้โจทย์ปัญหา
ผังสาระ สัมพันธ์ของจำ�นวนแบบ การบวก โจทย์ปัญหา ◆◆ การแก้โจทย์ปัญหาการบวก การบวก การลบที่เกี่ยวกับ
การเรียนรู้ ส่วนย่อย – ส่วนรวม การลบ และการสร้าง
โจทย์ปัญหาพร้อมทั้ง
การลบเกี่ยวกับความยาว น้ำ�หนักที่มีหน่วยเป็น
กิโลกรัม เป็นขีด
(part-whole relationship) ที่มีหน่วยเป็นเซนติเมตร
แกนกลาง ◆◆ การบอกอันดับที่ หาคำ�ตอบ เป็นเมตร
◆◆ หลักค่าประจำ�หลัก
ค่าของเลขโดดใน
สาระการเรียนรู้ แต่ละหลัก และการเขียน
ตัวเลขแสดงจำ�นวน
ตามหลักสูตรกลุ่มสาระ
ในรูปกระจาย
การเรียนรู้คณิตศาสตร์ ◆◆ การเปรียบเทียบจำ�นวน
และการใช้เครื่องหมาย แบบรูป รูปเรขาคณิตสองมิติและ
(ฉบับปรับปรุง
=≠>< รูปเรขาคณิตสามมิติ
พ.ศ. 2560) ◆◆ การเรียงลำ�ดับจำ�นวน
ตามหลักสูตรแกนกลาง
◆◆ แบบรูปของจำ�นวนที่ ◆◆ ลักษณะของทรงสี่เหลี่ยม
การศึกษาขั้นพื้นฐาน เพิ่มขึ้นหรือลดลง มุมฉาก ทรงกลม
ทีละ 1 และทีละ 10 ทรงกระบอก กรวย
พุทธศักราช 2551
◆◆ แบบรูปซ้ำ�ของจำ�นวน ◆◆ ลักษณะของรูปสามเหลี่ยม
ระดับประถมศึกษา รูปเรขาคณิตและ รูปสี่เหลี่ยม วงกลม
รูปอื่น ๆ และวงรี
แสดงเป็นผังเพื่อให้เห็น
ภาพรวมของเนื้อหา
ในแต่ละชั้นได้ชัดเจน
และเป็นรูปธรรม ดังนี้
46 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 47
การเก็บรวบรวมข้อมูล
จำ�นวนนับที่มากกว่า การบวก การลบ การคูณ เวลา รูปเรขาคณิต รูปเรขาคณิตสองมิติ
และการนำ�เสนอข้อมูล
100,000 และ 0 การหารจำ�นวนนับ
ที่มากกว่า 100,000 และ 0
เศษส่วน และการบวก
การลบ การคูณ ร้อยละหรือเปอร์เซ็นต์ รูปเรขาคณิต รูปเรขาคณิตสองมิติ รูปเรขาคณิตสามมิติ
การหารเศษส่วน
◆◆ การบวก การลบ
เศษส่วนและจำ�นวนคละ
โดยใช้ความรู้เรื่อง
ค.ร.น.
◆◆ การบวก ลบ คูณ หาร
ระคนของเศษส่วนและ
จำ�นวนคละ
◆◆ การแก้โจทย์ปัญหา
เศษส่วนและจำ�นวนคละ
56 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 57
12 การวัดผลประเมินผลการเรียนรู้คณิตศาสตร์
แนวทางการวัดผลประเมินผลการเรียนรู้คณิตศาสตร์
การวัดผลประเมินผลการเรียนรู้คณิตศาสตร์มีแนวทางที่สำ�คัญดังนี้
การวัดผลประเมินผลการเรียนรู้ทางคณิตศาสตร์ในปัจจุบันนี้มุ่งเน้น 1. การวัดผลประเมินผลต้องกระทำ�อย่างต่อเนือ
่ ง โดยใช้ค�ำ ถามเพือ
่ ตรวจสอบ
การวัดและการประเมินการปฏิบัติงานในสภาพที่เกิดขึ้นจริงหรือที่ใกล้เคียงกับ และส่ ง เสริ ม ความรู้ ค วามเข้ า ใจด้ า นเนื้ อ หา ส่ ง เสริ ม ให้ เ กิ ด ทั ก ษะและ
สภาพจริง รวมทั้งการประเมินเกี่ยวกับสมรรถภาพของผู้เรียนเพิ่มเติมจากความรู้ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ดังตัวอย่างคำ�ถามต่อไปนี้ “นักเรียนแก้ปญ
ั หา
ทีไ่ ด้จากการท่องจำ� โดยใช้วธิ ก
ี ารประเมินทีห
่ ลากหลายจากการทีผ
่ เู้ รียนได้ลงมือ นีไ้ ด้อย่างไร” “ใครมีวธิ ก
ี ารนอกเหนือไปจากนีบ
้ า้ ง” “นักเรียนคิดอย่างไรกับ
ปฏิ บั ติ จ ริ ง ได้ เ ผชิ ญ กั บ ปั ญ หาจากสถานการณ์ จ ริ ง หรื อ สถานการณ์ จำ � ลอง วิธีการที่เพื่อนเสนอ” การกระตุ้นด้วยคำ�ถามที่เน้นการคิดจะทำ�ให้เกิด
ได้แก้ปัญหา สืบค้นข้อมูล และนำ�ความรู้ไปใช้ รวมทั้งแสดงออกทางการคิด ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนด้วยกันเองและระหว่างผู้เรียนกับผู้สอน ผู้เรียน
การวัดผลประเมินผลดังกล่าวมีจุดประสงค์สำ�คัญดังต่อไปนี้ มีโอกาสแสดงความคิดเห็น นอกจากนี้ผู้สอนยังสามารถใช้คำ�ตอบของ
ผู้เรียนเป็นข้อมูลเพื่อตรวจสอบความรู้ความเข้าใจ และพัฒนาการด้าน
1. เพื่ อ ตรวจสอบผลสั ม ฤทธิ์ ท างการเรี ย นและตั ด สิ น ผลการเรี ย นรู้ ต าม ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ของผู้เรียนได้อีกด้วย การวัดผล
สาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชีว้ ด
ั เพือ่ นำ�ผลทีไ่ ด้จากการตรวจสอบ ประเมิ น ผลต้ อ งสอดคล้ อ งกั บ ความรู้ ค วามสามารถของผู้ เ รี ย นที่ ร ะบุ ไ ว้
ไปปรับปรุงพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่ดียิ่งขึ้น ตามตั ว ชี้ วั ด ซึ่ ง กำ � หนดไว้ ใ นหลั ก สู ต รที่ ส ถานศึ ก ษาใช้ เ ป็ น แนวทาง
2. เพือ
่ วินจ
ิ ฉัยความรูท
้ างคณิตศาสตร์และทักษะทีผ
่ เู้ รียนจำ�เป็นต้องใช้ในชีวต
ิ ในการจัดการเรียนการสอน ทัง้ นีผ
้ ส
ู้ อนจะต้องกำ�หนดวิธก
ี ารวัดผลประเมินผล
ประจำ�วัน เช่น ความสามารถในการแก้ปัญหา การสืบค้น การให้เหตุผล เพือ
่ ใช้ตรวจสอบว่าผูเ้ รียนได้บรรลุผลการเรียนรูต
้ ามมาตรฐานทีก
่ �ำ หนดไว้
การสือ
่ สาร การสือ
่ ความหมาย การนำ�ความรูไ้ ปใช้ การคิดวิเคราะห์ การคิด และต้ อ งแจ้ ง ผลประเมิ น ในแต่ ล ะเรื่ อ งให้ ผู้ เ รี ย นทราบโดยทางตรงหรื อ
สร้างสรรค์ การควบคุมกระบวนการคิด และนำ�ผลที่ได้จากการวินิจฉัย ทางอ้อมเพื่อให้ผู้เรียนได้ปรับปรุงตนเอง
ผู้เรียนไปใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสม 2. การวัดผลประเมินผลต้องครอบคลุมด้านความรู้ ทักษะและกระบวนการ
3. เพือ
่ รวบรวมข้อมูลและจัดทำ�สารสนเทศด้านการจัดการเรียนรู้ โดยใช้ขอ
้ มูล ทางคณิตศาสตร์ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยเน้นการเรียนรู้ด้วย
จากการประเมินผลที่ได้ในการสรุปผลการเรียนของผู้เรียนและเป็นข้อมูล การทำ�งานหรือทำ�กิจกรรมที่ส่งเสริมให้เกิดสมรรถภาพทั้งสามด้าน ซึ่งงาน
ป้ อ นกลั บ แก่ ผู้ เ รี ย นหรื อ ผู้ เ กี่ ย วข้ อ งตามความเหมาะสม รวมทั้ ง นำ � หรือกิจกรรมดังกล่าวควรมีลักษณะดังนี้
สารสนเทศไปใช้วางแผนบริหารการจัดการศึกษาของสถานศึกษา • สาระในงานหรือกิจกรรมต้องเน้นให้ผู้เรียนได้ใช้การเชื่อมโยงความรู้
หลายเรื่อง
การกำ�หนดจุดประสงค์ของการวัดผลประเมินผลอย่างชัดเจน จะช่วย • วิธีหรือทางเลือกในการดำ�เนินงานหรือการแก้ปัญหามีหลากหลาย
ให้เลือกใช้วิธีการและเครื่องมือวัดผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถวัดได้ใน • เงื่อนไขหรือสถานการณ์ของปัญหามีลักษณะปลายเปิด เพื่อให้ผู้เรียน
สิ่งที่ต้องการวัดและนำ�ผลที่ได้ไปใช้งานได้จริง ได้มีโอกาสแสดงความสามารถตามศักยภาพของตน
• งานหรือกิจกรรมต้องเอื้ออำ�นวยให้ผู้เรียนได้ใช้การสื่อสาร การสื่อ
ความหมายทางคณิตศาสตร์และการนำ�เสนอในรูปแบบต่าง ๆ
เช่น การพูด การเขียน การวาดภาพ
• งานหรือกิจกรรมควรมีความใกล้เคียงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง
เพื่อช่วยให้ผู้เรียนได้เห็นการเชื่อมโยงระหว่างคณิตศาสตร์กับชีวิตจริง
ซึ่งจะก่อให้เกิดความตระหนักในคุณค่าของคณิตศาสตร์
58 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 59
ประเมิน เป็นการประเมินความรู้พื้นฐานและทักษะจำ�เป็นที่ผู้เรียนควรมี
ก่อนเรียน ก่อนการเรียนรายวิชา บทเรียนหรือหน่วยการเรียนใหม่ ข้อมูล
ที่ได้จากการวัดผลประเมินผลจะช่วยให้ผู้สอนนำ�ไปใช้ประโยชน์
3. การวัดผลประเมินผลการเรียนรูค
้ ณิตศาสตร์ตอ
้ งใช้วธิ ก
ี ารทีห
่ ลากหลายและ
ในการจัดการเรียนรู้ดังนี้
เหมาะสม และใช้เครื่องมือที่มีคุณภาพเพื่อให้ได้ข้อมูลและสนเทศเกี่ยวกับ
(1) จัดกลุ่มผู้เรียนและจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ตรงตาม
ผูเ้ รียน เช่น เมือ
่ ต้องการวัดผลประเมินผลเพือ
่ ตัดสินผลการเรียนอาจใช้การ
ความถนัด ความสนใจ และความสามารถของผู้เรียน และ
ทดสอบ การตอบคำ�ถาม การทำ�แบบฝึกหัด การทำ�ใบกิจกรรม หรือการ
(2) วางแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยผูส
้ อนพิจารณา
ทดสอบย่อย เมื่อต้องการตรวจสอบพัฒนาการการเรียนรู้ของผู้เรียนด้าน
เลือกตัวชี้วัด เนื้อหาสาระ กิจกรรม แบบฝึกหัด อุปกรณ์ และ
ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ อาจใช้การสังเกตพฤติกรรมการ
สื่อการเรียนรู้ต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับความรู้พื้นฐานและทักษะของ
เรียนรู้ การสัมภาษณ์ การจัดทำ�แฟ้มสะสมงาน หรือการทำ�โครงงาน การ
ผู้เรียน และสอดคล้องกับการเรียนรู้ที่กำ�หนดไว้
เลือกใช้วธิ ก
ี ารวัดทีเ่ หมาะสมและเครือ
่ งมือทีม
่ ค
ี ณ
ุ ภาพ จะทำ�ให้สามารถวัด
ในสิ่งที่ต้องการวัดได้ ซึ่งจะทำ�ให้ผู้สอนได้ข้อมูลและสนเทศเกี่ยวกับผู้เรียน
อย่างครบถ้วนและตรงตามวัตถุประสงค์ของการวัดผลประเมินผล อย่างไร
ก็ตาม ผู้สอนควรตระหนักว่าเครื่องมือวัดผลประเมินผลการเรียนรู้ที่ใช้ใน
ประเมิน เป็นการประเมินเพือ
่ วินจ
ิ ฉัยผูเ้ รียนในระหว่างการเรียน ข้อมูลทีไ่ ด้
การประเมินตามวัตถุประสงค์หนึ่ง ไม่ควรนำ�มาใช้กับอีกวัตถุประสงค์หนึ่ง
ระหว่างเรียน จะช่วยให้ผู้สอนสามารถดำ�เนินการในเรื่องต่อไปนี้
เช่น แบบทดสอบที่ใช้ในการแข่งขันหรือการคัดเลือกไม่เหมาะสมที่จะนำ�
(1) ศึ ก ษาพั ฒ นาการเรี ย นรู้ ข องผู้ เ รี ย นเป็ น ระยะ ๆ
มาใช้ตัดสินผลการเรียนรู้
ว่ า ผู้ เ รี ย นมี พั ฒ นาการเพิ่ ม ขึ้ น เพี ย งใด ถ้ า พบว่ า ผู้ เ รี ย นไม่ มี
พัฒนาการเพิ่มขึ้นผู้สอนจะได้หาทางแก้ไขได้ทันท่วงที
4. การวัดผลประเมินผลเป็นกระบวนการทีใ่ ช้สะท้อนความรูค
้ วามสามารถของ
(2) ปรับปรุงกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน ถ้าพบว่า
ผู้ เ รี ย น ช่ ว ยให้ ผู้ เ รี ย นมี ข้ อ มู ล ในการปรั บ ปรุ ง และพั ฒ นาความรู้ ค วาม
ผู้เรียนไม่เข้าใจบทเรียนใดจะได้จัดให้เรียนซ้ำ� หรือผู้เรียนเรียนรู้
สามารถของตนเองให้ดีขึ้น ในขณะที่ผู้สอนสามารถนำ�ผลการประเมินมา
บทใดได้เร็วกว่าทีก
่ �ำ หนดไว้จะได้ปรับวิธก
ี ารเรียนการสอน นอกจากนี้
ใช้ในการวางแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อปรับปรุงกระบวนการเรียนรู้ของ
ยังช่วยให้ทราบจุดเด่นและจุดด้อยของผู้เรียนแต่ละคน
ผู้เรียน รวมทั้งปรับปรุงการสอนของผู้สอนให้มีประสิทธิภาพ จึงต้องวัดผล
ประเมิ น ผลอย่ า งสม่ำ � เสมอและนำ � ผลที่ ไ ด้ ม าใช้ ใ นการพั ฒ นาการเรี ย น
การสอน ซึ่งจะแบ่งการประเมินผลเป็น 3 ระยะดังนี้
ประเมิน
เป็นการประเมินเพื่อนำ�ผลที่ได้ไปใช้สรุปผลการเรียนรู้หรือเป็น
หลังเรียน
การวั ด ผลประเมิ น ผลแบบสรุ ป รวบยอดหลั ง จากสิ้ น สุ ด ภาค
การศึกษาหรือปีการศึกษาของผู้เรียน รวมทั้งผู้สอนสามารถนำ�
ผลการประเมินที่ได้ไปใช้ในการวางแผนและพัฒนาการจัดการ
เรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
60 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 61
13 ความรู้สำ�หรับผู้สอนคณิตศาสตร์
ยุทธวิธีการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ในระดับประถมศึกษา
ยุทธวิธีการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้เรียน 2
ประสบความสำ�เร็จในการแก้ปัญหา ผู้สอนต้องจัดประสบการณ์การแก้ปัญหา การหาแบบรูป (Find a Pattern)
ที่หลากหลายและเพียงพอให้กับผู้เรียน โดยยุทธวิธีที่เลือกใช้ในการแก้ปัญหา การหาแบบรูป เป็นการวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหา โดยค้นหาความสัมพันธ์ของ
ต่าง ๆ นั้น จะต้องมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับพัฒนาการของผู้เรียน ข้อมูลทีเ่ ป็นระบบ หรือทีเ่ ป็นแบบรูป แล้วนำ�ความสัมพันธ์หรือแบบรูปทีไ่ ด้นน
ั้ ไปใช้ในการหา
ยุทธวิธีการแก้ปัญหาที่ผู้เรียนในระดับประถมศึกษาควรได้รับการพัฒนาและ คำ�ตอบของสถานการณ์ปัญหา
ฝึกฝน เช่น การวาดภาพ การหาแบบรูป การคิดย้อนกลับ การเดาและตรวจสอบ
การทำ�ปัญหาให้ง่ายหรือแบ่งเป็นปัญหาย่อย การแจกแจงรายการหรือสร้าง ตัวอย่าง ในงานเลี้ยงแห่งหนึ่งเจ้าภาพจัดโต๊ะ ( ) และเก้าอี้ ( ) ตามแบบรูปดังนี้
ตาราง การตัดออก และการเปลี่ยนมุมมอง 1 2
1
การวาดภาพ (Draw a Picture)
การวาดภาพ เป็นการอธิบายสถานการณ์ปัญหาด้วยการวาดภาพจำ�ลอง หรือเขียน
แผนภาพ เพื่อทำ�ให้เข้าใจปัญหาได้ง่ายขึ้น และเห็นแนวทางการแก้ปัญหานั้น ๆ ในบางครั้ง
อาจได้คำ�ตอบจากการวาดภาพนั้น 4 3
2
ตัวอย่าง โต้งมีเงินอยู่จำ�นวนหนึ่ง วันเสาร์ใช้ไป 300 บาท และวันอาทิตย์ใช้ไป
5
ของเงินที่เหลือ ทำ�ให้เงินที่เหลือคิดเป็นครึ่งหนึ่งของเงินที่มีอยู่เดิม
จงหาว่าเดิมโต้งมีเงินอยู่กี่บาท
ถ้าจัดโต๊ะ และเก้าอี้ ตามแบบรูปนี้จนมีโต๊ะ 10 ตัว จะต้องใช้เก้าอี้ทั้งหมดกี่ตัว
วันเสาร์ใช้เงิน เงินที่เหลือจากวันเสาร์
แนวคิด
1. เลือกยุทธวิธีที่จะนำ�มาใช้แก้ปัญหา ได้แก่ วิธีการหาแบบรูป
300 2. พิจารณารูปที่ 1 รูปที่ 2 รูปที่ 3 และรูปที่ 4 แล้วเขียนจำ�นวนโต๊ะและจำ�นวนเก้าอี้
ของแต่ละรูป
เงินที่มีอยู่เดิม
1 2
4 3
วิธีที่ 2
F
7 ซม. G 10 ซม. E
จากรูปสามารถหาพื้นที่
ของรูปสามเหลี่ยม
ที่ต้องการได้จากพื้นที่
7 ซม.
รูปสามเหลี่ยม ACE
3 ซม.
ลบด้วยผลรวมของพื้นที่
6 ซม. รูปสามเหลี่ยม ABH H D
รูปสามเหลี่ยม HDE และ
3 ซม.
แนวคิด ถ้าคิดโดยการหาพื้นที่รูปสามเหลี่ยมจากสูตร รูปสี่เหลี่ยม BCDH
1 A C
× ความยาวของฐาน × ความสูง 6 ซม.
2 B
ซึง่ พบว่ามีความยุง่ ยากมากแต่ถา้ เปลีย
่ นมุมมองจะสามารถแก้ปญ
ั หาได้งา่ ยกว่า
ดังนี้
วิธีที่ 1 พื้นที่รูปสามเหลี่ยม ACE เท่ากับ (16 × 10) ÷ 2 = 80 ตารางเซนติเมตร
10 ซม.
พื้นที่รูปสามเหลี่ยม ABH เท่ากับ (10 × 3) ÷ 2 = 15 ตารางเซนติเมตร
แล้วลบออกจากพื้นที่ D
ทั้งหมดก็จะได้พื้นที่
ของรูปสามเหลีย่ มที่
B C 3 ซม.
ต้องการได้
6 ซม.
68 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 69
6 7
8 การใช้เทคโนโลยีในการสอนคณิตศาสตร์ระดับประถมศึกษา
การเปลี่ยนมุมมอง ในศตวรรษที่ 21 ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
การเปลี่ยนมุมมอง เป็นการแก้สถานการณ์ปัญหาที่มีความซับซ้อนไม่สามารถใช้ เปลีย
่ นแปลงขึน
้ อย่างรวดเร็ว ทำ�ให้การติดต่อสือ
่ สารและเผยแพร่ขอ
้ มูลผ่านทาง
ยุทธวิธีอื่นในการหาคำ�ตอบได้ จึงต้องเปลี่ยนวิธีคิด หรือแนวทางการแก้ปัญหาให้แตกต่างไป ช่องทางต่าง ๆ สามารถทำ�ได้อย่างสะดวก ง่ายและรวดเร็ว โดยใช้สื่ออุปกรณ์ที่
จากที่คุ้นเคยเพื่อให้แก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น ทันสมัย การจัดกิจกรรมการเรียนรูค
้ ณิตศาสตร์กเ็ ช่นกัน ต้องมีการปรับปรุงและ
ปรับตัวให้เข้ากับบริบททางสังคมและเทคโนโลยีทเี่ ปลีย
่ นแปลงไป ซึง่ จำ�เป็นต้อง
ตัวอย่าง จากรูป เมือ
่ แบ่งเส้นผ่านศูนย์กลางของวงกลมออกเป็น 3 ส่วนเท่า ๆ กัน จงหาพืน
้ ที่
อาศัยสื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ มาประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้
ส่วนที่แรเงา
น่าสนใจ สามารถนำ�เสนอเนื้อหาได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
ในการเรียนรู้และช่วยลดภาระงานบางอย่างทั้งผู้เรียนและผู้สอนได้ เช่น การใช้
เครื อ ข่ า ยสั ง คม (Social network : line, facebook, twitter)
1 2 3 ในการสัง่ การบ้าน ติดตามภาระงานทีม
่ อบหมายหรือใช้ตด
ิ ต่อสือ
่ สารกันระหว่าง
ผู้เรียน ผู้สอนและผู้ปกครองได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ทุกที่ทุกเวลา ทั้งนี้ผู้สอน
และผู้ ที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ การจั ด การศึ ก ษาควรบู ร ณาการและประยุ ก ต์ ใ ช้ สื่ อ
เทคโนโลยีสารสนเทศในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อช่วยให้ผู้เรียนเกิดการ
แนวคิด พลิกครึ่งวงกลมส่วนล่างจะได้พื้นที่ส่วนที่ไม่แรเงาเป็นวงกลมที่ 1 ส่วนที่แรเงาเป็น
เรียนรู้ มีความสามารถในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อการปฏิบัติงานอย่างมี
วงกลมที่ 2 ดังรูป
ประสิทธิภาพและหลากหลาย ตลอดจนพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวจ
ิ ารณญาณ
สถานศึกษามีบทบาทอย่างยิง่ ในการจัดสิง่ อำ�นวยความสะดวก ตลอดจน
ส่งเสริมให้ผู้สอนและผู้เรียนได้มีโอกาสในการใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศใน
1 2 3
การเรียนการสอนคณิตศาสตร์ให้มากที่สุด เพื่อจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำ�นวย
ต่อการใช้สอ
ื่ เทคโนโลยีสารสนเทศให้มากทีส
่ ด
ุ สถานศึกษาควรดำ�เนินการ ดังนี้
สถิติในระดับประถมศึกษา
ในปัจจุบัน เรามักได้ยินหรือได้เห็นคำ�ว่า “สถิติ” อยู่บ่อยครั้ง ทั้งจาก
ผู้สอนในฐานะที่เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้เรียน จำ�เป็นต้องศึกษา
โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ หรืออินเตอร์เน็ต ซึ่งมักจะมีข้อมูลหรือตัวเลขเกี่ยวข้อง
และนำ�สือ
่ เทคโนโลยีสารสนเทศ มาประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรูใ้ ห้
อยู่ด้วยเสมอ เช่น สถิติจำ�นวนนักเรียนในโรงเรียน สถิติการมาโรงเรียนของ
สอดคล้อง เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม และความพร้อมของโรงเรียน ผูส
้ อนควร
นักเรียน สถิติการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาลต่าง ๆ สถิติการเกิด
มีบทบาท ดังนี้
การตาย สถิตผ
ิ ป
ู้ ว่ ยโรคเอดส์ เป็นต้น จนทำ�ให้หลายคนเข้าใจว่า สถิติ คือข้อมูล
หรือตัวเลข แต่ในความเป็นจริง สถิตย
ิ งั รวมไปถึงวิธก
ี ารทีว่ า่ ด้วยการเก็บรวบรวม
1. ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับสื่อ เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อนำ�มาประยุกต์ใช้ในการ
ข้อมูล การนำ�เสนอข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล และการตีความหมายข้อมูลด้วย
จัดกิจกรรมการเรียนรู้
ซึง่ ผูท
้ ี่มค
ี วามรูค
้ วามเข้าใจเกีย
่ วกับสถิตจ
ิ ะสามารถนำ�สถิตไิ ปช่วยในการตัดสินใจ
2. จัดหาสื่อ อุปกรณ์ โปรแกรม แอปพลิเคชันต่าง ๆ ทางคณิตศาสตร์ที่เหมาะสม
การวางแผนดำ�เนินงาน และการแก้ปญ
ั หาในด้านต่าง ๆ ทัง้ ด้านการดำ�เนินชีวต
ิ
เพื่อนำ�เสนอเนื้อหาให้ผู้เรียนสนใจและเข้าใจมากยิ่งขึ้น
ธุรกิจ ตลอดจนถึงการพัฒนาประเทศ เช่น ถ้ารัฐบาลต้องการเพิ่มรายได้ของ
3. ใช้สื่อ เทคโนโลยีประกอบการสอน เช่น ใช้โปรแกรม Power point ในการ
ประชากร จะต้องวางแผนโดยอาศัยข้อมูลสถิติประชากร สถิติการศึกษา สถิติ
นำ�เสนอเนือ
้ หา ใช้ Line และ Facebook ในการติดต่อสือ
่ สารกับผูเ้ รียนและ
แรงงาน สถิติการเกษตร และสถิติอุตสาหกรรม เป็นต้น
ผู้ปกครอง
ดังนั้นสถิติจึงเป็นเรื่องสำ�คัญและมีความจำ�เป็นที่ต้องจัดการเรียนการ
4. ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ใช้สื่อเทคโนโลยีมาใช้ในการเรียน เช่น เครื่องคิดเลข
สอนให้ผู้เรียนเกิดความรู้ความเข้าใจ และสามารถนำ�สถิติไปใช้ในชีวิตจริงได้
โปรแกรม The Geometer’s Sketchpad (GSP), GeoGebra เป็นต้น
ในหลั ก สู ต รกลุ่ ม สาระการเรี ย นรู้ ค ณิ ต ศาสตร์ (ฉบั บ ปรั บ ปรุ ง พ.ศ. 2560)
5. ปลูกจิตสำ�นึกให้ผเู้ รียนรูจ
้ ก
ั ใช้สอ
ื่ เทคโนโลยีอย่างถูกต้อง เหมาะสมกับเวลา
ตามหลั ก สู ต รแกนกลางการศึ ก ษาขั้ น พื้ น ฐาน พุ ท ธศั ก ราช 2551 จึ ง จั ด ให้
และสถานที่ การใช้ ง านอย่ า งประหยั ด เพื่ อ ให้ เ กิ ด ประโยชน์ สู ง สุ ด
ผูเ้ รียนได้เรียนรูเ้ กีย
่ วกับวิธก
ี ารเก็บรวบรวมข้อมูลและการนำ�เสนอข้อมูล ซึง่ เป็น
ความรูพ
้ น
ื้ ฐานสำ�หรับการเรียนสถิตใิ นระดับทีส
่ งู ขึน
้ โดยในการเรียนการสอนควร
เพื่อส่งเสริมการนำ�สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในการ
เน้นให้ผเู้ รียนใช้ขอ
้ มูลประกอบการตัดสินใจและแก้ปญ
ั หาได้อย่างเหมาะสมด้วย
จัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ในระดับชั้นประถมศึกษา เพื่อให้ผู้เรียนมี
ความรู้ มีทักษะ บรรลุผลตามจุดประสงค์ของหลักสูตร และสามารถนำ�ความรู้
การเก็บรวบรวมข้อมูล (Collecting Data)
ทีไ่ ด้ไปประยุกต์ใช้ทงั้ ในการเรียนและใช้ในชีวต
ิ จริง ผูส
้ อนควรจัดหาและศึกษา
ในการศึกษาหรือตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ จำ�เป็นต้องอาศัยข้อมูลประกอบ
เกีย
่ วกับสือ
่ อุปกรณ์และเครือ
่ งมือทีค
่ วรมีไว้ใช้ในห้องเรียน เพือ
่ นำ�เสนอบทเรียน
การตัดสินใจทัง้ สิน
้ จึงจำ�เป็นทีต
่ อ
้ งมีการเก็บรวบรวมข้อมูล ซึง่ มีวธิ ก
ี ารทีห
่ ลากหลาย
ให้น่าสนใจ สร้างเสริมความเข้าใจของผู้เรียน ทำ�ให้การสอนมีประสิทธิภาพ
เช่น การสำ�รวจ การสังเกต การสอบถาม การสัมภาษณ์ หรือการทดลอง ทั้งนี้
ยิ่งขึ้น
การเลือกวิธีเก็บรวบรวมข้อมูลจะขึ้นอยู่กับสิ่งที่ต้องการศึกษา
ตารางทางเดียวเป็นตารางที่มี ประถมศึกษาปีที่ 1 65
การจำ�แนกรายการตามหัวเรื่อง ประถมศึกษาปีที่ 2 70
เพียงลักษณะเดียว เช่น ประถมศึกษาปีที่ 3 69
ในระดับประถมศึกษา ผู้สอนสามารถใช้เส้นจำ�นวนเป็นสื่อในการจัดการเรียนการ
จำ�นวนนักเรียนของโรงเรียน ประถมศึกษาปีที่ 4 62
สอนเกี่ยวกับจำ�นวน และการดำ�เนินการของจำ�นวน เช่น การแสดงจำ�นวนบนเส้นจำ�นวน
แห่งหนึ่งจำ�แนกตามชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5 72
การนับเพิ่ม การนับลด การเปรียบเทียบและเรียงลำ�ดับจำ�นวน การหาค่าประมาณ และ
ประถมศึกษาปีที่ 6 60
การดำ�เนินการของจำ�นวน
รวม 398
1
1. การแสดงจำ�นวนบนเส้นจำ�นวน สามารถแสดงได้ทั้งจำ�นวนนับ เศษส่วน
และทศนิยม ดังนี้
ตาราง ■ การแสดงจำ�นวนนับบนเส้นจำ�นวน เช่น
สองทาง
(Two - Way จำ�นวนนักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่ง
เส้นจำ�นวนแสดง 3 เริ่มต้นจาก 0 ถึง 3
Table)
เพศ
ชั้น รวม (คน)
ชาย (คน) หญิง (คน)
ตารางสองทางเป็นตารางที่มี 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
การจำ�แนกรายการตามหัวเรื่อง ประถมศึกษาปีที่ 1 38 27 65
2 ลักษณะ เช่น จำ�นวน ประถมศึกษาปีที่ 2 33 37 70
นักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ประถมศึกษาปีที่ 3 32 37 69 เส้นจำ�นวนแสดง 38 เริ่มจาก 0 ถึง 38
จำ�แนกตามชั้นและเพศ ประถมศึกษาปีที่ 4 28 34 62
ประถมศึกษาปีที่ 5 32 40 72
ประถมศึกษาปีที่ 6 25 35 60 0 10 20 30 40 50 60 70 80 90
38
รวม 188 210 398
76 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 77
2
■ การแสดงเศษส่วนบนเส้นจำ�นวน 2. การนับเพิ่มและการนับลด
1 7
ในหนึ่งหน่วยแบ่งเป็นสิบส่วนเท่าๆ กัน แต่ละส่วนแสดง เส้นจำ�นวนนี้แสดง ■ การนับเพิ่มทีละ 1
10 10
เส้นจำ�นวนแสดงการนับเพิ่มทีละ 1 เริ่มต้นจาก 0 นับเป็น หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก
เจ็ด แปด เก้า สิบ ตามลำ�ดับ
0 1
0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
10 10 10 10 10 10 10 10 10 10 10
1 3
ในหนึ่งหน่วยแบ่งเป็นสองส่วนเท่าๆ กัน แต่ละส่วนแสดง เส้นจำ�นวนนี้แสดง
2 2 ■ การนับเพิ่มทีละ 2
เส้นจำ�นวนแสดงการนับเพิ่มทีละ 2 เริ่มต้นจาก 0 นับเป็น สอง สี่ หก แปด สิบ
ตามลำ�ดับ
0 1 2 3
0 1 2 3 4 5 6 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
2 2 2 2 2 2 2
■ การแสดงทศนิยมบนเส้นจำ�นวน
■ การนับลดทีละ 1
เส้นจำ�นวนนี้แสดงทศนิยม 1 ตำ�แหน่ง เริ่มตั้งแต่ 2 ถึง 3
เส้นจำ�นวนแสดงการนับลดทีละ 1 เริ่มต้นจาก 10 นับเป็น เก้า แปด เจ็ด หก ห้า สี่
สาม สอง หนึ่ง ตามลำ�ดับ
2 2.1 2.2 2.3 2.4 2.5 2.6 2.7 2.8 2.9 3
เส้นจำ�นวนนี้แสดงทศนิยม 2 ตำ�แหน่ง 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
เริ่มตั้งแต่ 2.3 ถึง 2.4
2.3 2.31 2.32 2.33 2.34 2.35 2.36 2.37 2.38 2.39 2.4 ■ การนับลดทีละ 2
เส้นจำ�นวนแสดงการนับลดทีละ 2 เริ่มต้นจาก 10 นับเป็น แปด หก สี่ สอง ตามลำ�ดับ
เส้นจำ�นวนนีแ
้ สดงทศนิยม 3 ตำ�แหน่ง เริม
่ ตัง้ แต่ 2.32 ถึง 2.33
0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
2.32 2.321 2.322 2.323 2.324 2.325 2.326 2.327 2.328 2.329 2.33
การนับลดทีละ 5 ทีละ 10 หรืออื่นๆ ใช้หลักการเดียวกัน
78 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 79
3 3. การเปรียบเทียบและเรียงลำ�ดับจำ�นวน
4
■ การเปรียบเทียบและเรียงลำ�ดับจำ�นวนนับ
4. การหาค่าประมาณ
ในการแข่งขันตอบปัญหาคณิตศาสตร์ มีผู้เข้าแข่งขัน 5 คน ได้คะแนนดังนี้
การใช้เส้นจำ�นวนแสดงการหาค่าประมาณเป็นจำ�นวนเต็มสิบ
รายชื่อผู้เข้าแข่งขัน คะแนนที่ได้
ด.ญ.รินทร์ (ร) 4
10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
ด.ญ.อิงอร (อ) 5
ด.ช.ณภัทร์ (ณ) 9
ด.ช.พจน์ (พ) 2
จากเส้นจำ�นวน 11 12 13 และ 14 อยู่ใกล้ 10 มากกว่าใกล้ 20
ด.ช.กานต์ (ก) 8
ดังนั้น ค่าประมาณเป็นจำ�นวนเต็มสิบของ 11 12 13 และ 14 คือ 10
เขียนเส้นจำ�นวน โดยนำ�คะแนนและอักษรย่อของแต่ละคนแสดงบนเส้นจำ�นวน 16 17 18 และ 19 อยู่ใกล้ 20 มากกว่าใกล้ 10 ดังนั้น ค่าประมาณ
เป็นจำ�นวนเต็มสิบของ 16 17 18 และ 19 คือ 20
พ ร อ ก ณ
15 อยูก
่ งึ่ กลางระหว่าง 10 และ 20 ถือเป็นข้อตกลงว่าให้ประมาณเป็น
0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 จำ�นวนเต็มสิบที่มากกว่า ดังนั้น ค่าประมาณเป็นจำ�นวนเต็มสิบของ 15 คือ 20
หรือคะแนนของอิงอรอยูท
่ างขวาคะแนนของพจน์ หรือคะแนนของกานต์อยูท
่ างขวาคะแนนของรินทร์
คะแนนของอิงอร (5) มากกว่าคะแนนของพจน์ (2) คะแนนของกานต์ (8) มากกว่าคะแนนของรินทร์ (4)
จากเส้นจำ�นวน
เขียนแทนด้วย 5 > 2 เขียนแทนด้วย 8 > 4
538 อยู่ระหว่าง 530 กับ 540
ดังนัน
้ 2 < 5 หรือ 5 > 2 ดังนัน
้ 4 < 8 หรือ 8 > 4
538 อยู่ใกล้ 540 มากกว่า 530
เมื่ออ่านจำ�นวนบนเส้นจำ�นวนจากทางซ้ายไปขวา จะได้ 2, 4, 5, 8, 9 ดังนั้น ค่าประมาณเป็นจำ�นวนเต็มสิบของ 538 คือ 540
ซึ่งเป็นการเรียงลำ�ดับจากน้อยไปมาก และเมื่ออ่านจำ�นวนบนเส้นจำ�นวนจาก การหาค่าประมาณเป็นจำ�นวนเต็มร้อย เต็มพัน เต็มหมืน
่ เต็มแสน และ
ทางขวาไปซ้าย จะได้ 9, 8, 5, 4, 2 ซึ่งเป็นการเรียงลำ�ดับจากมากไปน้อย ดังนั้น เต็มล้าน ใช้หลักการทำ�นองเดียวกับการหาค่าประมาณเป็นจำ�นวนเต็มสิบ
ในการแข่งขันตอบปัญหาคณิตศาสตร์ของนักเรียน 5 คน เมื่อนำ�คะแนนของ
นักเรียนแต่ละคนมาเรียงลำ�ดับจากน้อยไปมาก จะได้ดังนี้
ด.ช.พจน์ ได้ 2 คะแนน
ด.ญ.รินทร์ได้ 4 คะแนน
ด.ญ.อิงอรได้ 5 คะแนน
ด.ช.กานต์ได้ 8 คะแนน
ด.ช.ณภัทรได้ 9 คะแนน
80 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 81
5. การดำ�เนินการของจำ�นวน
■ การบวกจำ�นวนสองจำ�นวน ■ การลบจำ�นวนสองจำ�นวน
เส้นจำ�นวนแสดงการบวกของ 3 + 2 = โดยวิธีการนับต่อ เส้นจำ�นวนแสดงการลบของ 6 – 2 = โดยวิธีการนับถอยหลัง
0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
ดังนั้น 3 + 2 = 5
ดังนั้น 6 – 2 = 4
เส้นจำ�นวนแสดงการบวกของ 15 + 9 = โดยวิธก
ี ารนับครบสิบ และการนับต่อ
เส้นจำ�นวนแสดงการลบของ 13 – 6 = โดยวิธีการนับถอยหลังไปที่
จำ�นวนเต็มสิบ (Bridging through a decade)
15 + 5 + 4 = 24
13 - 3 - 3 = 7
0 5 10 15 20 25 30
24 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
ดังนั้น 13 – 6 = 7
ดังนั้น 15 + 9 = 24
82 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 83
■ การคูณจำ�นวนนับ ■ การหารจำ�นวนนับ
เส้นจำ�นวนแสดงการคูณของ 3 × 5 = โดยวิธีการนับเพิ่มครั้งละเท่าๆ กัน เส้นจำ�นวนแสดงการหารของ 10 ÷ 2 = โดยวิธีการนับลดครั้งละเท่าๆ กัน
จาก 3 × 5 เขียนในรูปการบวกได้ 5 + 5 + 5 แสดงด้วยเส้นจำ�นวนได้ เส้นจำ�นวนแสดงการนับลดครั้งละ 2 เริ่มจาก 10 จนถึง 0 จะได้ 5 ครั้ง ดังนี้
0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22
0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12
ดังนั้น 3 × 5 = 15
ดังนั้น 10 ÷ 2 = 5
■ การคูณเศษส่วนด้วยจำ�นวนนับ
3
เส้นจำ�นวนแสดงการคูณของ 2 × = โดยวิธีการนับเพิ่มครั้งละเท่าๆ กัน
10
3 3 + แสดงด้
จาก 2 × เขียนในรูปการบวกได้ 3 วยเส้นจำ�นวนได้ดังนี้
10 10 10
0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
10 10 10 10 10 10 10 10 10 10 10
3 6
ดังนั้น 2 × =
10 10
84 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 85
14 แนวการพัฒนาทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
ในการจัดการเรียนรู้ ผูส
้ อนจะต้องจัดกิจกรรม กำ�หนดสถานการณ์หรือ 1
ปัญหาเพื่อพัฒนาทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ให้กับผู้เรียน โดยมี
ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ที่จำ�เป็น 5 ทักษะดังนี้
การพัฒนาทักษะและกระบวนการแก้ปัญหา
การแก้ปญ
ั หาเป็นกระบวนการทีผ
่ เู้ รียนควรจะเรียนรู้ ฝึกฝน และพัฒนา
1 ให้เกิดทักษะขึ้นในตนเองเพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ เพื่อให้ผู้เรียนมีแนวทางใน
การแก้ปัญหา
การคิดทีห
่ ลากหลาย รูจ
้ ก
ั ประยุกต์และปรับเปลีย
่ นวิธก
ี ารแก้ปญ
ั หาให้เหมาะสม
รู้จักตรวจสอบและสะท้อนกระบวนการแก้ปัญหา มีนิสัยกระตือรือร้น ไม่ย่อท้อ
รวมถึงมีความมัน
่ ใจในการแก้ปญ
ั หาทีเ่ ผชิญอยูท
่ งั้ ภายในและภายนอกห้องเรียน
2 นอกจากนี้ การแก้ ปั ญ หายั ง เป็ น ทั ก ษะพื้ น ฐานที่ ผู้ เ รี ย นสามารถนำ � ไปใช้ ใ น
การสือ
่ สารและการสือ
่ ความหมายทางคณิตศาสตร์
ชี วิ ต จริ ง ได้ การส่ ง เสริ ม ให้ ผู้ เ รี ย นได้ เ รี ย นรู้ เ กี่ ย วกั บ การแก้ ปั ญ หาอย่ า งมี
ประสิทธิผล ควรใช้สถานการณ์หรือปัญหาทางคณิตศาสตร์ทก
ี่ ระตุน
้ ดึงดูดความ
สนใจ ส่งเสริมให้มีการประยุกต์ความรู้ทางคณิตศาสตร์ ขั้นตอน/กระบวนการ
3
แก้ปัญหา และยุทธวิธีแก้ปัญหาที่หลากหลาย
การเชื่อมโยง
การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะและกระบวนการแก้ปัญหา
ผู้สอนต้องให้โอกาสผู้เรียนได้ฝึกคิดด้วยตนเองให้มาก โดยจัดสถานการณ์หรือ
ปัญหาหรือเกมที่น่าสนใจ ท้าทายให้อยากคิด เริ่มด้วยปัญหาที่เหมาะสมกับ
4
ศักยภาพของผู้เรียนแต่ละคนหรือผู้เรียนแต่ละกลุ่มโดยอาจเริ่มด้วยปัญหาที่
การให้เหตุผล
ผู้ เ รี ย นสามารถใช้ ค วามรู้ ที่ เ รี ย นมาแล้ ว มาประยุ ก ต์ ก่ อ นต่ อ จากนั้ น จึ ง เพิ่ ม
สถานการณ์ ห รื อ ปั ญ หาที่ แ ตกต่ า งจากที่ เ คยพบมา สำ � หรั บ ผู้ เ รี ย นที่ มี ค วาม
สามารถสูงผู้สอนควรเพิ่มปัญหาที่ยากซึ่งต้องใช้ความรู้ที่ซับซ้อน หรือมากกว่า
5
ที่กำ�หนดไว้ในหลักสูตรให้ผู้เรียนได้ฝึกคิดด้วย
การคิดสร้างสรรค์
ในการเริ่มพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะและกระบวนการแก้ปัญหา ผู้สอน
จะต้องสร้างพืน
้ ฐานให้ผเู้ รียนเกิดความคุน
้ เคยกับกระบวนการแก้ปญ
ั หาซึง่ มีอยู่
4 ขั้นตอนแล้วจึงฝึกทักษะในการแก้ปัญหา
86 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 87
การสอนการแก้ปัญหาควรมุ่งเน้นกระบวนการคิด ให้ผู้เรียนสามารถ
คิดเป็น แก้ปัญหาได้ตามขั้นตอนของการแก้ปัญหา ไม่ใช่มุ่งเน้นเฉพาะผลลัพธ์
หรื อ คำ � ตอบของปั ญ หา ผู้ ส อนสามารถจั ด กิ จ กรรมให้ ผู้ เ รี ย นเรี ย นรู้ อ ย่ า ง
ค่อยเป็นค่อยไป โดยกำ�หนดประเด็นหรือคำ�ถามนำ�ให้คิดและหาคำ�ตอบเป็น
ลำ�ดับเรื่อยไปจนผู้เรียนสามารถหาคำ�ตอบได้ หลังจากนั้นในปัญหาต่อ ๆ ไป
ผู้สอนจึงค่อย ๆ ลดประเด็นคำ�ถามลงมา จนสุดท้ายเมื่อเห็นว่าผู้เรียนมีทักษะ
ในการแก้ปัญหาเพียงพอแล้ว ก็ไม่จำ�เป็นต้องให้ประเด็นคำ�ถามชี้นำ�ก็ได้ ทั้งนี้
ผู้สอนควรเสริมแรงเมื่อผู้เรียนแก้ปัญหาได้ เพื่อช่วยให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อ
การเรียนคณิตศาสตร์ซึ่งจะช่วยพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาที่ยุ่งยาก
ซับซ้อนต่อไปในอนาคต
88 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 89
ในการจัดให้มก
ี ารเรียนรูก
้ ระบวนการแก้ปญ
ั หาตามลำ�ดับขัน
้ ตอนนัน
้ เมือ
่ ผูเ้ รียน วิธีที่ 2 ใช้ตารางช่วยในการวิเคราะห์
ความสำ�คัญและยากสำ�หรับผู้เรียน ตามที่กำ�หนด
การจัดการเรียนรู้เพื่อให้เกิดทักษะการสื่อสารและการสื่อความหมาย
ทางคณิตศาสตร์ในวิชาพีชคณิต เป็นการฝึกทักษะให้ผู้เรียนรู้จักคิดวิเคราะห์
ปัญหา สามารถเขียนปัญหาในรูปแบบของตาราง กราฟ หรือข้อความ เพือ
่ สือ
่ สาร
2 ความสัมพันธ์ของจำ�นวนเหล่านัน
้ ขัน
้ ตอนในการดำ�เนินการเริม
่ จากการกำ�หนด
โจทย์ปัญหาให้ผู้เรียนวิเคราะห์ กำ�หนดตัวแปร เขียนความสัมพันธ์ของตัวแปร
ทางคณิตศาสตร์ ปัญหาโดยใช้วิธีการทางพีชคณิต
การสือ
่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ เป็นกระบวนการสือ
่ สารทีน
่ อกจาก 2. ให้ผเู้ รียนได้ลงมือปฏิบต
ั ิ และแสดงความคิดเห็นด้วยตนเอง โดยผูส
้ อนชีแ
้ นะ
ถูกต้องชัดเจนและมีประสิทธิภาพ การที่ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการอภิปรายหรือ
92 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 93
ตัวอย่างการสื่อสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ จากนัน
้ ผูเ้ รียนช่วยกันหาคำ�ตอบและสร้างตารางใหม่เพือ
่ แสดงจำ�นวน
กำ�หนดสถานการณ์ดังนี้ เงินที่นายจ้างต้องจ่ายจากการทำ�งานทั้ง 3 อย่าง ดังตารางที่ 2
3
การพัฒนาทักษะและกระบวนการเชื่อมโยง
การเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยการคิด
ในการแก้ ปั ญ หานี้ ผู้ เ รี ย นจะวิ เ คราะห์ ปั ญ หาและใช้ ต ารางช่ ว ยใน วิเคราะห์ และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ในการนำ�ความรู้ เนื้อหา และหลักการ
การสื่อสาร การสื่อความหมายข้อมูลที่กำ�หนดให้ ดังตารางที่ 1 ทางคณิตศาสตร์ มาสร้างความสัมพันธ์อย่างเป็นเหตุเป็นผลระหว่างความรูแ
้ ละ
ทักษะและกระบวนการทีม
่ ใี นเนือ
้ หาคณิตศาสตร์กบ
ั งานทีเ่ กีย
่ วข้อง เพือ
่ นำ�ไปสู่
จำ�นวนชั่วโมงการทำ�งาน การแก้ปัญหาและการเรียนรู้แนวคิดใหม่ที่ซับซ้อนหรือสมบูรณ์ขึ้น
งาน
แดง น้อย จิต การทีผ
่ เู้ รียนเห็นการเชือ
่ มโยงทางคณิตศาสตร์ จะส่งเสริมให้ผเู้ รียนเห็น
a 7.5 6 6.5 ความสัมพันธ์ของเนือ
้ หาต่าง ๆ ในคณิตศาสตร์ และความสัมพันธ์ระหว่างแนวคิด
b 8 8.5 7 ทางคณิตศาสตร์กับศาสตร์อื่น ๆ ทำ�ให้ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหาทางคณิตศาสตร์ได้
c 4.5 5 3.5 ลึกซึง้ และมีความคงทนในการเรียนรู้ ตลอดจนช่วยให้ผเู้ รียนเห็นว่าคณิตศาสตร์
มีคุณค่า น่าสนใจ และสามารถนำ�ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริงได้
ตารางที่ 1 แสดงชั่วโมงการทำ�งาน ในการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ที่ต้องการให้ผู้เรียนมีความรู้และมี
พืน
้ ฐานในการทีจ
่ ะนำ�ไปศึกษาต่อนัน
้ จำ�เป็นต้องบูรณาการเนือ
้ หาต่างๆ ในวิชา
คณิตศาสตร์เข้าด้วยกัน เช่น การใช้ความรู้ในเรื่องเซตในการให้คำ�จำ�กัดความ
หรือบทนิยามในเรื่องต่าง ๆ เช่น บทนิยามของฟังก์ชันในรูปของเซต บทนิยาม
ของลำ�ดับในรูปของฟังก์ชัน
94 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 95
ตัวอย่างการเชื่อมโยง
นอกจากการเชือ
่ มโยงระหว่างเนือ
้ หาต่าง ๆ ในคณิตศาสตร์ดว้ ยกันแล้ว
กำ�หนดสถานการณ์ปัญหาดังนี้
ยังมีการเชื่อมโยงคณิตศาสตร์กับศาสตร์อื่น ๆ โดยใช้คณิตศาสตร์เป็นเครื่องมือ
ในการเรียนรู้ และแก้ปัญหา เช่น เรื่องการเงิน การคิดดอกเบี้ยทบต้น ก็อาศัย
ตัวอย่างการ
ความรูใ้ นเรือ
่ งเลขยกกำ�ลังและผลบวกของอนุกรม ในงานศิลปะและการออกแบบ
เชื่อมโยง บริษัทก่อสร้างดำ�รงต้องการเช่าที่ดินขนาด 2 ไร่ จำ�นวน 1 แปลง สำ�หรับเก็บ
บางชนิดก็ใช้ความรู้เกี่ยวกับรูปเรขาคณิต
วัสดุก่อสร้างทางในราคาประหยัด และมีผู้นำ�ที่ดินมาเสนอให้เช่า 2 ราย ดังนี้
นอกจากนั้ น แล้ ว ยั ง มี ก ารนำ� ความรู้ ท างคณิ ต ศาสตร์ ไ ปประยุ ก ต์ ใ น
วิชาชีพบางอย่างโดยตรง เช่น การตัดเย็บเสื้อผ้า งานคหกรรมเกี่ยวกับอาหาร นายบุญ เสนอทีด
่ น
ิ 2 ไร่ 1 งาน คิดราคาค่าเช่าทีด
่ น
ิ ทัง้ แปลงเดือนละ 7,000 บาท
งานเกษตร งานออกแบบสร้างหีบห่อ บรรจุภณ
ั ฑ์ตา่ งๆ รวมถึงการนำ�คณิตศาสตร์ นางล้วน เสนอที่ดิน 5 ไร่ 3 งาน แบ่งที่ดินให้เช่าได้โดยคิดค่าเช่าตารางวาละ
ไปเชือ
่ มโยงกับชีวต
ิ ความเป็นอยูป
่ ระจำ�วัน เช่น การซือ
้ ขาย การชัง่ ตวง วัด การ 100 บาทต่อปี
คำ�นวณระยะทางและเวลาที่ใช้ในการเดินทาง การวางแผนในการออมเงินไว้ใช้ ถ้าผู้เรียนเป็นเจ้าของบริษัทก่อสร้างดำ�รง ผู้เรียนจะตกลงเช่าที่ดินของใคร
ในช่วงบั้นปลายของชีวิต เพราะเหตุใด
องค์ประกอบหลักทีส
่ ง่ เสริมการพัฒนาการเรียนรูท
้ ก
ั ษะและกระบวนการ
เชือ
่ มโยงความรูต
้ า่ ง ๆ ทางคณิตศาสตร์และเชือ
่ มโยงคณิตศาสตร์กบ
ั ศาสตร์อน
ื่ ๆ
มีดังนี้
1. มีความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์อย่างเด่นชัดในเรื่องนั้น
2. มีความรู้ในเนื้อหาที่จะนำ�ไปเชื่อมโยงกับสถานการณ์หรืองานอื่น ๆ
ที่ต้องการเป็นอย่างดี
จากสถานการณ์ปัญหาข้างต้น จะเห็นว่าผู้เรียนต้องใช้ความรู้ทางคณิตศาสตร์
3. มีทักษะในการมองเห็นความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงระหว่างความรู้และทักษะ
ในการคำ�นวณค่าเช่าทีด
่ น
ิ ต้องคำ�นึงถึงราคาทีต
่ อ
้ งการประหยัด ต้องใช้เหตุผล
และกระบวนการที่มีในเนื้อหานั้นกับงานที่เกี่ยวข้อง
ประกอบการตัดสินใจ การนำ�เสนอเฉพาะคำ�ตอบของผูเ้ รียนไม่ใช่สงิ่ สำ�คัญทีส
่ ด
ุ
4. มีทักษะในการสร้างแบบจำ�ลองทางคณิตศาสตร์เพื่อสร้างความสัมพันธ์
ผูส
้ อนจะต้องให้ความสำ�คัญต่อแนวคิดและเหตุผลของผูเ้ รียนแต่ละคนประกอบ
และเชื่อมโยงคณิตศาสตร์กับศาสตร์อื่น ๆ หรือคณิตศาสตร์กับ
ด้วย
สถานการณ์ที่ต้องเกี่ยวข้อง
ตัวอย่างคำ�ตอบและเหตุผลของผู้เรียนอาจเป็นดังนี้
5. มีความเข้าใจในการแปลความหมายของคำ�ตอบที่หาได้จากแบบจำ�ลอง
ด.ช.ก่อ ตอบว่า ควรเช่าที่ดินของนายบุญ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายปีละ 84,000
ทางคณิตศาสตร์ว่ามีความเป็นไปได้หรือสอดคล้องกับสถานการณ์นั้น ๆ
บาท (7,000 × 12 = 84,000) และได้ที่ดินมากกว่าที่กำ�หนดไว้อีก 1 งาน
อย่างสมเหตุสมผล
ด.ญ.นิตยา ตอบว่า ควรเช่าที่ดินของนางล้วน ซึ่งคิดค่าเช่า 2 ไร่หรือ
ในการจัดการเรียนรูใ้ ห้ผเู้ รียนได้พฒ
ั นาทักษะและกระบวนการเชือ
่ มโยง
800 ตารางวา เป็นเงิน 80,000 บาทต่อปี ซึง่ เป็นราคาเช่าทีถ
่ ก
ู กว่าเช่าทีด
่ น
ิ ของ
ความรู้ ท างคณิ ต ศาสตร์ นั้ น ผู้ ส อนอาจจั ด กิ จ กรรมหรื อ สถานการณ์ ปั ญ หา
นายบุญ
สอดแทรกในการเรียนรู้อยู่เสมอ เพื่อให้ผู้เรียนได้เห็นการนำ�ความรู้ เนื้อหาสาระ
ด.ญ.นุช ตอบว่า ควรเช่าที่ดินของนายบุญ ซึ่งเมื่อคิดค่าเช่าเป็นตารางวา
และกระบวนการทางคณิตศาสตร์มาใช้ในการเรียนรู้เนื้อหาใหม่ หรือนำ�ความรู้
ต่อปีแล้วจะจ่ายเพียงตารางวาละ 93 บาท 7000 × 12 ≈ 93
และกระบวนการทางคณิตศาสตร์มาแก้ปญ
ั หาในสถานการณ์ทผ
ี่ ส
ู้ อนกำ�หนดขึน
้ 900
ซึ่งถูกกว่าค่าเช่าที่ดินของนางล้วน
เพือ
่ ให้ผเู้ รียนเห็นความเชือ
่ มโยงของคณิตศาสตร์กบ
ั ศาสตร์อน
ื่ ๆ หรือเห็นการนำ�
ผูส
้ อนอาจเปิดประเด็นให้ผเู้ รียนได้มก
ี ารอภิปรายต่อในเรือ
่ งนีไ้ ด้อก
ี ใน
คณิตศาสตร์ไปประยุกต์ในชีวิตประจำ�วันเพื่อให้ผู้เรียนได้มีการปฏิบัติจริงและ
ประเด็ น ที่ ว่ า ในชี วิ ต จริ ง แล้ ว ก่ อ นตั ด สิ น ใจลงทุ น ทำ � กิ จ การใดผู้ ล งทุ น จะไม่
มี ทั ก ษะและกระบวนการเชื่ อ มโยงความรู้ นี้ ผู้ ส อนอาจมอบหมายงานหรื อ
พิจารณาเฉพาะค่าเช่าเพียงอย่างเดียวต้องพิจารณาองค์ประกอบอืน
่ ๆ ด้วย เช่น
กิจกรรมให้ผเู้ รียนได้ไปศึกษาค้นคว้าหาความรูท
้ เี่ กีย
่ วข้องกับกิจกรรมนัน
้ ๆ แล้ว
สภาพแวดล้อม ความสะดวกในการเข้าหรือออก ทีด
่ น
ิ อยูใ่ กล้หรือไกลจากบริษท
ั
นำ�เสนองานต่อผู้สอนและผู้เรียน ให้มีการอภิปรายและหาข้อสรุปร่วมกัน
96 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 97
เพียงใด ประเด็นเหล่านี้จะช่วยทำ�ให้ผู้เรียนมีความคิดพิจารณาในวงกว้างขึ้น
สามารถนำ�ความคิดเช่นนี้ไปประยุกต์ในชีวิตจริงได้ เป็นการส่งเสริมทักษะและ
กระบวนการการให้เหตุผล ความคิดสร้างสรรค์ ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และ
ค่านิยมในด้านความคิดอย่างถี่ถ้วนรอบคอบ กล้าแสดงความคิดเห็น และคิด
อย่ า งมี วิ จ ารณญาณอี ก ด้ ว ย ในการจั ด การเรี ย นรู้ ที่ ต้ อ งการให้ ผู้ เ รี ย นมี ก าร
พัฒนาการเรียนรู้ ผู้สอนควรจัดกิจกรรมหรือให้ปัญหาที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียน
ได้คด
ิ สามารถบอกแนวคิดและแสดงเหตุผลได้ ผูส
้ อนไม่ควรดูเฉพาะคำ�ตอบทีห
่ า
ได้จากการคำ�นวณเท่านัน
้ คำ�ตอบของปัญหาอาจมีมากกว่า 1 คำ�ตอบ ขึน
้ อยูก
่ บ
ั
การให้เหตุผลประกอบที่สมเหตุสมผลด้วย
4
การพัฒนาทักษะและกระบวนการให้เหตุผล องค์ประกอบหลักที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถคิดอย่างมีเหตุมีผลและ
รู้จักให้เหตุผลมีดังนี้
การให้เหตุผล เป็นกระบวนการคิดทางคณิตศาสตร์ทต
ี่ อ
้ งอาศัยการคิด 1. ควรให้ผเู้ รียนได้พบกับโจทย์ หรือปัญหาทีผ
่ เู้ รียนสนใจ เป็นปัญหาทีไ่ ม่ยาก
วิเคราะห์และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ในการรวบรวมข้อเท็จจริง ข้อความ เกินความสามารถของผู้เรียนที่จะคิด และให้เหตุผลในการหาคำ�ตอบได้
แนวคิด สถานการณ์ทางคณิตศาสตร์ต่าง ๆ แจกแจงความสัมพันธ์ หรือ 2. ให้ผเู้ รียนมีโอกาสและเป็นอิสระทีจ
่ ะแสดงออกถึงความคิดเห็นในการใช้และ
การเชื่อมโยง เพื่อให้เกิดข้อเท็จจริงหรือสถานการณ์ใหม่ ให้เหตุผลของตนเอง
การให้เหตุผลเป็นทักษะและกระบวนการที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักคิด 3. ผู้สอนช่วยสรุปและชี้แจงให้ผู้เรียนเข้าใจว่า เหตุผลของผู้เรียนถูกต้องตาม
อย่างมีเหตุผล คิดอย่างเป็นระบบ สามารถคิดวิเคราะห์ปัญหาและสถานการณ์ หลักเกณฑ์หรือไม่ ขาดตกบกพร่องอย่างไร
ได้อย่างถี่ถ้วนรอบคอบ สามารถคาดการณ์ วางแผน ตัดสินใจ และแก้ปัญหาได้
อย่างถูกต้องและเหมาะสม การคิดอย่างมีเหตุผลเป็นเครื่องมือสำ�คัญที่ผู้เรียน การเริม
่ ต้นทีจ
่ ะส่งเสริมให้ผเู้ รียนเรียนรู้ และเกิดทักษะในการให้เหตุผล
จะนำ�ไปใช้พฒ
ั นาตนเองในการเรียนรูส
้ งิ่ ใหม่ เพือ
่ นำ�ไปประยุกต์ใช้ในการทำ�งาน ผู้สอนควรจัดสถานการณ์หรือปัญหาที่น่าสนใจให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ ผู้สอน
และการดำ�รงชีวิต สังเกตพฤติกรรมของผูเ้ รียนและคอยช่วยเหลือโดยกระตุน
้ หรือชีแ
้ นะอย่างกว้างๆ
การจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนรู้จักคิดและให้เหตุผลเป็นสิ่งสำ�คัญ โดย โดยใช้ค�ำ ถามกระตุน
้ ด้วยคำ�ว่า “ทำ�ไม” “อย่างไร” “เพราะเหตุใด” เป็นต้น พร้อม
ทั่วไปเข้าใจกันว่าการฝึกให้รู้จักให้เหตุผลที่ง่ายที่สุด คือ การฝึกจากการเรียน ทั้งให้ข้อคิดเพิ่มเติมอีก เช่น “ถ้า ………………… แล้ว ผู้เรียนคิดว่า ………..… จะ
เรขาคณิตตามแบบยุคลิด เพราะมีโจทย์เกีย
่ วกับการให้เหตุผลมากมาย มีทงั้ การ เป็นอย่างไร” ผู้เรียนที่ให้เหตุผลได้ไม่สมบูรณ์ ผู้สอนต้องไม่ตัดสินด้วยคำ�ว่า
ให้เหตุผลอย่างง่าย ปานกลาง และยาก แต่แท้ทจ
ี่ ริงแล้วการฝึกให้ผเู้ รียนรูจ
้ ก
ั คิด ไม่ถูกต้อง แต่อาจใช้คำ�พูดเสริมแรงและให้กำ�ลังใจว่า คำ�ตอบที่ผู้เรียนตอบมามี
และให้เหตุผลอย่างสมเหตุสมผลนัน
้ สามารถสอดแทรกได้ในการเรียนรูท
้ ก
ุ เนือ
้ หา บางส่วนถูกต้อง ผูเ้ รียนคนใดจะให้ค�ำ อธิบายหรือให้เหตุผลเพิม
่ เติมของเพือ
่ นได้
ของวิชาคณิตศาสตร์ และวิชาอื่น ๆ ด้วย อีกบ้าง เพื่อให้ผู้เรียนมีการเรียนรู้ร่วมกันมากยิ่งขึ้น
ในการจั ด การเรี ย นรู้ ผู้ ส อนควรเปิ ด โอกาสให้ ผู้ เ รี ย นได้ คิ ด อย่ า ง
หลากหลาย โจทย์ปัญหาหรือสถานการณ์ที่กำ�หนดให้ควรเป็นปัญหาปลายเปิด
(open – ended problem) ที่ผู้เรียนสามารถแสดงความคิดเห็น หรือให้เหตุผล
ที่แตกต่างกันได้
98 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 99
ตัวอย่างการให้เหตุผล
กำ�หนดโจทย์ปัญหา ดังนี้ ในการฝึกให้ผเู้ รียนให้เหตุผลอย่างสมเหตุสมผล คำ�ตอบของ ด.ญ.ศรีเพ็ญ
ถือว่าเป็นคำ�ตอบที่ถูกต้องสมเหตุสมผลคำ�ตอบหนึ่ง
อาจมีผู้เรียนบางคนแสดงความคิดเห็นว่า วิธีทำ�ของ ด.ช. ก่อ ยังไม่ถูก
ตัวอย่างการ
ต้องเพราะเหตุวา่ ตำ�แหน่งทีไ่ ม้ปก
ั อยูอ
่ าจปักอยูใ่ นบริเวณทีต
่ น
ื้ หรือลึกกว่า 1.30
ให้เหตุผล
เมตร เพราะฉะนัน
้ ความยาวของไม้สว่ นทีป
่ ก
ั อยูใ่ นดินอาจน้อยกว่า หรือมากกว่า
ไม้ไผ่ลำ�หนึ่งยาว 2.85 เมตร ปักอยู่ในบึงแห่งหนึ่ง ซึ่งมีน้ำ�ลึกโดยเฉลี่ย 1.30 0.6 เมตร ก็ได้ ถ้าผูเ้ รียนแสดงความคิดเห็นเช่นนี้ ผูส
้ อนควรใช้ค�ำ ถามให้ผเู้ รียน
เมตร ถ้าส่วนที่อยู่เหนือน้ำ�คิดเป็น 1
3 ของความยาวของไม้ไผ่ลำ�นี้ ไม้ไผ่ส่วน คิดต่อว่าผูเ้ รียนจะแก้ไขวิธท
ี �ำ ของ ด.ช. ก่อ อย่างไรจึงจะได้ค�ำ ตอบทีถ
่ ก
ู ต้องและ
ที่ปักอยู่ในดินยาวกี่เมตร สมเหตุสมผล
ผูเ้ รียนอาจจะให้เหตุผลเพิม
่ เติมโดยใช้ค�ำ ว่า “ถ้า” ในบรรทัดทีส
่ อง ดังนี ้
ถ้า ไม้ส่วนที่ปักอยู่ในน้ำ�ยาว 1.30 เมตร ไม้ส่วนที่ปักอยู่ในดินก็จะ
ยาว 0.6 เมตร
หรือสรุปตรงคำ�ตอบว่า ไม้สว่ นทีป
่ ก
ั อยูใ่ นดินยาวประมาณ 0.6 เมตรก็ได้
ตัวอย่างการให้เหตุผลในกระบวนการแก้ปญ
ั หาทีใ่ ช้คำ�ถามประกอบการหา
สมมติว่า ด.ช. ก่อ แสดงวิธีทำ�ตามแนวคิด ดังนี้ คำ�ตอบ
ความยาวของไม้ไผ่ส่วนที่อยู่เหนือน้ำ�คิดเป็น 1 ของ 2.85 = 0.95 เมตร ผู้สอนกำ�หนดโจทย์ จงทำ� (x-3 y-2z0)-2 เมื่อ x , y , z ไม่เท่ากับ 0
3
ความยาวของไม้ไผ่ส่วนที่ปักอยู่ในน้ำ�เท่ากับ 1.30 เมตร ให้อยู่ในรูปอย่างง่าย
ดังนั้นไม้ไผ่ส่วนที่อยู่ในดินยาว 2.85 – (0.95 + 1.30) = 0.6 เมตร
ตอบ 0.6 เมตร
คำ�ถามของผู้สอน ขั้นตอนแสดงวิธีทำ� การให้เหตุผลของผู้เรียน
ตัวอย่าง ตัวอย่างปัญหาที่มีคำ�ตอบได้หลายคำ�ตอบ
การคิ ด สร้ า งสรรค์ เป็ น กระบวนการคิ ด ที่ อ าศั ย ความรู้ พื้ น ฐาน
ปัญหา
จิ น ตนาการและวิ จ ารณญาณ ในการพั ฒ นาหรื อ คิ ด ค้ น องค์ ค วามรู้ หรื อ สิ่ ง
ปลายเปิด “จงหาความยาวด้านที่เป็นจำ�นวนเต็มของรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว ที่มี
ประดิษฐ์ใหม่ ๆ ที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม ความคิด
สร้างสรรค์มห
ี ลายระดับ ตัง้ แต่ระดับพืน
้ ฐานทีส
่ งู กว่าความคิดพืน
้ ๆ เพียงเล็กน้อย ความยาวรอบรูปเท่ากับ 15 หน่วย”
ไปจนกระทั่งเป็นความคิดที่อยู่ในระดับสูงมาก
การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์จะช่วยให้ผู้เรียนมีแนวทางการคิดที่
หลากหลาย มีกระบวนการคิด จินตนาการในการประยุกต์ ทีจ
่ ะนำ�ไปสูก
่ ารคิดค้น ผู้เรียนอาจแก้ปัญหานี้โดยการสมมติความยาวของด้านต่าง ๆ ของ
ตลอดจนส่งเสริมให้ผเู้ รียนมีนส
ิ ย
ั กระตือรือร้น ไม่ยอ
่ ท้อ อยากรูอ
้ ยากเห็น อยาก ด้านสองด้านของรูปสามเหลี่ยมย่อมยาวกว่าด้านที่สาม”
ค้นคว้าและทดลองสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ
บรรยากาศทีช
่ ว่ ยส่งเสริมความคิดริเริม
่ สร้างสรรค์ ได้แก่การเปิดโอกาส กรณีที่ ด้านที่ 1 ด้านที่ 2 ด้านที่ 3 หมายเหตุ
ให้ผเู้ รียนคิด และนำ�เสนอแนวคิดของตนเองอย่างอิสระภายใต้การให้ค�ำ ปรึกษา 1 7 7 1
แนะนำ�ของผู้สอน การจัดกิจกรรม การเรียนรู้สามารถเริ่มต้นจากการนำ�เสนอ 2 6 6 3
ปัญหาที่ท้าทาย น่าสนใจ เหมาะกับวัยของผู้เรียนและเป็นปัญหาที่ผู้เรียน 3 5 5 5
สามารถนำ�ความรู้พ้น
ื ฐานทางคณิตศาสตร์ท่ม
ี ีอยู่มาใช้แก้ปัญหาได้ การแก้ปัญหา 4 4 4 7
ควรจัดเป็นกิจกรรมในลักษณะร่วมกันแก้ปัญหา ให้ผู้เรียนได้อภิปรายร่วมกัน 5 3 3 9 3 + 3 < 9 ไม่ใช่รูปสามเหลี่ยม
การเปิดโอกาสให้ผเู้ รียนได้เสนอแนวคิดหลาย ๆ แนวคิด เป็นการช่วยเสริมเติมเต็ม
6 2 2 11 2 + 2 < 11 ไม่ใช่รูปสามเหลี่ยม
ทำ�ให้ได้แนวคิดในการแก้ปัญหาที่สมบูรณ์และหลากหลาย
ปัญหาปลายเปิดซึ่งเป็นปัญหาที่มีคำ�ตอบหลายคำ�ตอบ หรือมีแนวคิด
หรือวิธีการในการหาคำ�ตอบได้หลายอย่าง เป็นปัญหาที่ช่วยส่งเสริมความคิด จากตารางข้างต้น จะมีคำ�ตอบเพียง 4 คำ�ตอบเท่านั้น คือกรณีที่ 1 – 4
ริเริ่มสร้างสรรค์ของผู้เรียน สำ�หรับปัญหาที่มีหลายคำ�ตอบ เมื่อผู้เรียนคนหนึ่ง
หาคำ�ตอบหนึ่งได้แล้ว ก็ยังมีสิ่งท้าทายให้ผู้เรียนคนอื่น ๆ คิดหาคำ�ตอบอื่น ๆ ที่ นอกจากนี้ผู้เรียนที่มีความรู้พ้ืนฐานเกี่ยวกับการสมมติตัวแปร อาจใช้
เหลืออยู่ สำ�หรับปัญหาที่มีแนวคิด หรือวิธีการในการหาคำ�ตอบได้หลายอย่าง การสมมติตัวแปรสร้างสมการ และหาคำ�ตอบของสมการ ดังนี้
แม้ว่าผู้เรียนจะหาคำ�ตอบได้ ผู้สอนต้องแสดงให้ผู้เรียนตระหนักถึงการให้ความ ให้ด้านที่ยาวเท่ากันของรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่วยาวด้านละ x หน่วย
สำ�คัญกับแนวคิด หรือวิธีการในการหาคำ�ตอบนั้นด้วยการส่งเสริมและยอมรับ ด้านที่สามยาว y หน่วย
แนวคิด หรือวิธีการที่หลากหลายของผู้เรียน ในการให้ผู้เรียนได้มีประสบการณ์ จะได้สมการ 2x + y = 15
ในการเรียนรู้แนวคิดหรือวิธีการหลาย ๆ อย่างในการแก้ปัญหาปัญหาหนึ่งเป็น จากนั้นใช้การสมมติค่า x แล้วหาค่า y ซึ่งต้องอยู่ในเงื่อนไข “ผลบวก
สิ่งที่มีคุณค่ามากกว่าการให้ผู้เรียนมีประสบการณ์ในการแก้ปัญหาหลาย ๆ ของความยาวของด้านสองด้านของรูปสามเหลี่ยมย่อมยาวกว่าด้านที่สาม”
ปัญหาโดยใช้แนวคิดหรือวิธีการเพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้การให้ผู้เรียนได้มีโอกาสสร้างปัญหาขึ้นเองให้มีโครงสร้าง
ของปั ญ หาคล้ า ยกั บ ปั ญ หาเดิ ม ที่ ผู้ เ รี ย นมี ป ระสบการณ์ ใ นการแก้ ม าแล้ ว
จะเป็นการช่วยให้ผเู้ รียนมีความเข้าใจปัญหาเดิมอย่างแท้จริง และเป็นการช่วย
ส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของผู้เรียนอีกด้วย
102 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 103
ตัวอย่างปัญหาที่สามารถแสดงแนวคิดหรือวิธีการในการแก้ปัญหาได้
แหล่งความรู้เพิ่มเติม
ภาคผนวก
หลายอย่าง
ซอฟต์แวร์ประยุกต์ที่ช่วยในการสอนคณิตศาสตร์
แนวคิด 2
อายุของคนกลางคือ สมหวัง เป็นค่าเฉลี่ยของอายุของทั้งสามคน
หาค่าเฉลี่ยของอายุได้ 75 ÷ 3 = 25 เป็นอายุของสมหวัง
ภาพหน้าจอของโปรแกรม
ดังนั้น สมใจมีอายุ 25 – 2 = 23 ปี และ
สมจิตรมีอายุ 25 + 2 = 27 ปี
The Geometer’s Sketchpad หรือ GSP เป็นซอฟต์แวร์ทางคณิตศาสตร์
The
Geometer’s เชิงเรขาคณิตพลวัต นิยมใช้ในการสร้าง สำ�รวจ และวิเคราะห์สิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ
แนวคิด 3
Sketchpad เนื้อหาวิชาคณิตศาสตร์ ทั้งยังใช้สร้างตัวแบบเชิงคณิตศาสตร์ (mathematical
สมมติอายุของน้องสุดท้องคือ สมใจ มีอายุ x ปี จะได้สมหวัง และ (GSP)
model) รวมทั้งวาดภาพที่มีความซับซ้อน และสามารถเคลื่อนไหวได้ อีกทั้งจะ
สมจิตร มีอายุ x + 2 และ x + 4 ปี ตามลำ�ดับ
ช่ ว ยเสริ ม ความรู้ ท างคณิ ต ศาสตร์ เ กี่ ย วกั บ เรขาคณิ ต พี ช คณิ ต ตรี โ กณมิ ติ
x + (x + 2) + (x + 4) = 75
แคลคูลส
ั และเรือ
่ งอืน
่ ๆ เอือ
้ ต่อการอธิบายหลักการคณิตศาสตร์ การตอบปัญหา
3x + 6 = 75
และกระตุ้นให้ผู้เรียนสร้างข้อคาดการณ์ หรือใช้ตรวจสอบสมบัติของการสร้าง
3x = 69
x = 23
ดังนั้นสมใจ สมหวัง และสมจิตร มีอายุ 23, 25 และ 27 ปี ตามลำ�ดับ
นอกจากจะฝึกความคิดสร้างสรรค์กับโจทย์ปัญหาแล้ว ผู้สอนสามารถ
พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในการเรียนรู้กิจกรรมอื่น ๆ ได้อีก เช่น กิจกรรม
เกี่ยวกับการออกแบบ การต่อรูป การประดิษฐ์จากเงื่อนไขที่กำ�หนดให้
ภาพหน้าจอของโปรแกรม
104 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คู่มือการใช้หลักสูตร ระดับประถมศึกษา 105
คณะผู้จัดทำ�
คณะที่ปรึกษา
ดร.พรพรรณ ไวทยางกูร ผู้อำ�นวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดร.สุธารส นิลรอด สาขาคณิตศาสตร์มัธยมศึกษา สสวท.
รศ.ดร.สัญญา มิตรเอม รองผูอ
้ �ำ นวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดร.อลงกต ใหม่ด้วง สาขาคณิตศาสตร์มัธยมศึกษา สสวท.
ดร.สุพัตรา ผาติวิสันติ์ รองผูอ
้ �ำ นวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นางสาวอัมริสา จันทนะศิริ สาขาคณิตศาสตร์มัธยมศึกษา สสวท.
ดร.พุดเตย ตาฬวัฒน์ สาขาวิจัยและประเมินมาตรฐาน สสวท.
คณะทำ�งานยกร่าง
รศ.มัณฑนี กุฎาคาร ข้าราชการบำ�นาญ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะผู้ร่วมพิจารณาร่างคู่มือการใช้หลักสูตร
ประสานมิตร (ฝ่ายมัธยม) รศ.ดร.นพพร แหยมแสง มหาวิทยาลัยรามคำ�แหง
นางอำ�ภา บุญคำ�มา ข้าราชการบำ�นาญ โรงเรียนพิบูลย์อุปถัมภ์ รศ.ดร.จิราภรณ์ ศิริทวี ข้าราชการบำ�นาญ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
นางเนาวรัตน์ ตันติเวทย์ ข้าราชการบำ�นาญ โรงเรียนอนุบาลวัดนางนอง นางสาวจิราพร พรายมณี ข้าราชการบำ�นาญ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
นางนงลักษณ์ ศรีสุวรรณ ผู้เชี่ยวชาญ สสวท. รศ.มัณฑนี กุฎาคาร ข้าราชการบำ�นาญ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
นายสมเกียรติ เพ็ญทอง ผู้อำ�นวยการสาขาคณิตศาสตร์ประถมศึกษา สสวท. ประสานมิตร (ฝ่ายมัธยม)
นางณัตตยา มังคลาสิริ สาขาคณิตศาสตร์ประถมศึกษา สสวท. นายนิรันดร์ ตัณฑัยย์ ข้าราชการบำ�นาญ โรงเรียนวัดหงส์รัตนาราม
นางนวลจันทร์ ฤทธิ์ขำ� สาขาคณิตศาสตร์ประถมศึกษา สสวท. นางสาวจินดา พ่อค้าชำ�นาญ ข้าราชการบำ�นาญ โรงเรียนศึกษานารีวิทยา
นางสาวเบญจมาศ เหล่าขวัญสถิตย์ สาขาคณิตศาสตร์ประถมศึกษา สสวท. นางอำ�ภา บุญคำ�มา ข้าราชการบำ�นาญ โรงเรียนพิบูลย์อุปถัมภ์
ดร.ภัทรวดี หาดแก้ว สาขาคณิตศาสตร์ประถมศึกษา สสวท. นางเนาวรัตน์ ตันติเวทย์ ข้าราชการบำ�นาญ โรงเรียนอนุบาลวัดนางนอง
นายภีมวัจน์ ธรรมใจ สาขาคณิตศาสตร์ประถมศึกษา สสวท. นายประสาท สอ้านวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สสวท.
นางเหมือนฝัน เยาว์วิวัฒน์ สาขาคณิตศาสตร์ประถมศึกษา สสวท. รศ.ดร.สิริพร ทิพย์คง ผู้เชี่ยวชาญ สสวท.
นางสาวอุษณีย์ วงศ์อามาตย์ สาขาคณิตศาสตร์ประถมศึกษา สสวท. นางเชอรี่ อยู่ดี ผู้เชี่ยวชาญ สสวท.
ดร.อลงกรณ์ ตั้งสงวนธรรม รักษาการผู้อำ�นวยการสาขาคณิตศาสตร์มัธยมศึกษา สสวท. นางนงลักษณ์ ศรีสุวรรณ ผู้เชี่ยวชาญ สสวท.
นางสาวจันทร์นภา อุตตะมะ สาขาคณิตศาสตร์มัธยมศึกษา สสวท. นางสาวจินตนา อารยะรังสฤษฏ์ ผู้ชำ�นาญ สสวท.
นางสาวดนิตา ชื่นอารมณ์ สาขาคณิตศาสตร์มัธยมศึกษา สสวท. นายสุเทพ กิตติพิทักษ์ ผู้ชำ�นาญ สสวท.
นางสาวปฐมาภรณ์ อวชัย สาขาคณิตศาสตร์มัธยมศึกษา สสวท.
นายพัฒนชัย รวิวรรณ สาขาคณิตศาสตร์มัธยมศึกษา สสวท. คณะบรรณาธิการ
นางสาวพิลาลักษณ์ ทองทิพย์ สาขาคณิตศาสตร์มัธยมศึกษา สสวท. รศ.ดร.นพพร แหยมแสง มหาวิทยาลัยรามคำ�แหง
นางสาวภิญญดา กลับแก้ว สาขาคณิตศาสตร์มัธยมศึกษา สสวท. รศ.ดร.จิราภรณ์ ศิริทวี ข้าราชการบำ�นาญ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ดร.รณชัย ปานะโปย สาขาคณิตศาสตร์มัธยมศึกษา สสวท. นางสาวจิราพร พรายมณี ข้าราชการบำ�นาญ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
นางสาววรนารถ อยู่สุข สาขาคณิตศาสตร์มัธยมศึกษา สสวท. นายนิรันดร์ ตัณฑัยย์ ข้าราชการบำ�นาญ โรงเรียนวัดหงส์รัตนาราม
ดร.ศศิวรรณ เมลืองนนท์ สาขาคณิตศาสตร์มัธยมศึกษา สสวท. นางเชอรี่ อยู่ดี ผู้เชี่ยวชาญ สสวท.
นางสาวสิริวรรณ จันทร์กูล สาขาคณิตศาสตร์มัธยมศึกษา สสวท.
112 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี