Professional Documents
Culture Documents
บทที่ 1 บทนำ
่
ทีมำและควำมส ำคญ
ั ของโครงงำน
การเดินทางในแต่ละวันนั้น
่
ทุกคนย่อมจะอยากรู ้ว่าระยะทางทีจะต ่
้องเดินมีระยะเท่าใดก่อนทีจะเดิ
นทางจริง
่ นผ่านมาแล ้วมีระยะทางทังหมดเท่
หรือ ระยะทางทีเดิ ้ าไร
่
หากเป็ นสถานทียอดนิ ่ ผูค้ นนิ ยมไปจานวนมาก เช่น ภูกระดึง ภูสอยดาว
ยมทีมี
ฯลฯ ก็มก ่ อนข ้างจะถูกต ้องอยู่แล ้ว
ั จะมีข ้อมูลระยะทางทีค่
่
ซึงอาจจะเป็ ่ ารวจโดยหน่ วยงานทีร่ ับผิดชอบพืนที
นข ้อมูลทีส ้ นั่ ้นๆ
่
แต่หากเป็ นสถานทีแปลกๆ ่ ค่อยมีผูค้ นนิ ยมไปหรือ
ทีไม่
่ นอน
ยังไม่เคยได ้ร ับการสารวจระยะทางทีแน่
่
การทีเราจะทราบระยะทางที ่ นอนก็คอ
แน่ ่ อในก
่ นข ้างจะยากหากเราไม่มเี ครืองมื
้ ้
ารวัดระยะทาง แต่เราก็สามารถคานวณหรือคาดเดาระยะทางเหล่านี ได
ี ง่่ี ายทีสุ
1.การคาดคะเนจากการก ้าวเดิน เป็ นวิธท ่ ด
่
สามารถทาได ้โดยการนับก ้าวทีเราเดิ ่
นไป แล ้วนาจานวนก ้าวทีเราเดิ
น
่ านวณออกเป็ นระยะทาง
ไปคานวณกับระยะในแต่ละก ้าวของเรา เพือค
วิธน ้
ี ี หากใครเคยเรี
ยนลูกเสือ หรือรกั ษาดินแดน
้ งขึนอยู
และนอกจากนี ยั ้ ่กบ ้ ่ เพราะ
ั สภาพของพืนที
้ ต่
พืนที ่ างระดับกันระยะการก ้าวเท ้าก็จะไม่เท่ากันด ้วย
่ บก ้าวเพือวั
2.การใช ้เครืองนั ่ ดระยะทางการเดิน การใช ้เครืองนั
่ บก ้าวหรือ
วิธน ้
ี ี เราจะต ้องใช ้ประสบการณ์การเดินทางมาก
่ ประสบการณ์การเดินทางมากจะสามารถประมาณได ้ว่าทางราบเราจะเดิ
คนทีมี
่
เช่น ไปภูกระดึงแล ้วแบกของเองสามารถเดินใช ้เวลา 4 ชัวโมง
ได ้ระยะทางประมาณ 3-4กิโลเมตร
่ าการอุทยาน)
(ระยะทางจะมีข ้อมูลอยู่แล ้วในเอกสารของอุทยานหรือทีท
่ มี
หากคุณไปดอยอืนที ่ ความชันพอๆกันแลว้ เดินได ้โดยใช ้เวลาใกล ้เคียง
่ นไปได ้อย่างคร่าวๆ
คุณก็จะสามารถประมาณระยะทางทีเดิ
โดยวิธน ้
ี ี เราจะต ้องใช ้ประสบการณ์ของตัวเราเองเท่านั้นไม่สามารถใช ้ประสบกา
3
่
รณ์ของคนอืนได ้ เพราะความเร็วในการเดินของแต่ละคนไม่เท่ากัน
บางคนอาจจะเคยได ้ยินว่าในหนึ่ งชัวโมง
่
แต่วธิ ก ้ ไม่ถก
ี ารใช ้ประสบการณ์นีก็ ู ต ้องแม่นยามากนัก
้ั ้นทางมีทงขึ
เพราะบางครงเส ้ั นและลง
้ ่
จนยากทีจะประมาณได ้
มีอต ่
ั ราส่วนทีละเอี
ยดพอและต ้องเดินทางโดยใช ้เข็มทิศ
่ นในแผนที่ เมือได
แล ้วลากเส ้นทางทีเราเดิ ่ ้เส ้นทางเดิน
เราก็จะสามารถวัดระยะทางได ้
่
ซึงหากเส ่
้นทางทีเราทาการลากถูกก็จะสามารถวัดระยะทางได ้โดยง่าย
่
หลักพันจนถึงหลายหมืนบาท
่ กเดินทางส่วนใหญ่ในบ ้านเรามักจะไม่คอ
ซึงนั ่
่ ยมีเครืองพวกนี ้ น
กั
เพราะการเดินทางของเรามักจะใช ้คนนาทางเป็ นหลัก
แต่หากเป็ นในต่างประเทศส่วนใหญ่จะไม่มค
ี นนาทาง
้
หากต ้องการเดินเส ้นทางไหนก็ไปซือแผนที
อั่ ตราส่วน 1:50,000
่ GPS เดินกันเองเลย
มาและใช ้เครือง
่
การสารวจแผนทีทะเลอย่ างถูกหลักวิชาการในน่ านน้าไทยเกิดขึนในสมั
้
่ าหร ับเรือของเราคลาดเคลือนไม่
และได ้บันทึกไว ้ว่าแผนทีส ่ ตรงกับความจริง
5
่
ทาให ้เราพลาดจากร่องกลางทีตรงกั ้ ่าลงไปทางข ้างทิศใต ้
บสันดอน โดยเยืองต
่
เมือครง้ั ครอฟอร ์ด
ได ้มาเยือนประเทศไทยคราวก่อนก็พลาดกลางร่องไปทางข ้างทิศตะวันออก
่ ้น
แต่แผนทีนั
่ ถู
กระทรวงทหารเรืออังกฤษได ้ถือว่าเป็ นแผนทีที ่ กต ้องสามารถนามาใช ้ได ้ดี
่
และอาจจะเป็ นเพราะความคลาดเคลือนของแผนที ่
จากเหตุผลดังกล่าวนั้น
ทาใหค้ ณะผูจ้ ด ่ ดระยะทาง
ั ทาสนใจในการประดิษฐ ์เครืองวั
และคิดว่าควรจะมีการดัดแปลง
โดยมีจด ้ อน
ุ ประสงค ์สร ้างขึนเพื ่ าเครืองวั
่ ดระยะทางไปใช ้ได ้จริงและมีราคาทีไม่
่ สู
ง มีคณ ่ นยา
ุ ภาพในการวัดระยะทางทีแม่
ว ัตถุประสงค ์
่
1. ศึกษาว่าจะมีวธิ ใี ดบ ้างทีสามารถวั
ดระยะทางไกลๆได ้และสะดวก
ง่ายต่อการนาใช ้งาน
6
่ อทีสามารถวั
2. ประดิษฐ ์เครืองมื ่ ดระยะทางไกลๆได ้
่ อนั้นมาใช ้ได ้ใน
โดยสามารถนาเครืองมื
3.
่ อทีประดิ
เครืองมื ่ ้
ษฐ ์ขึนสามารถวั ่
ดระยะทางได ้เทียงตรงซึ ่ คณ
งมี ุ ภาพเทียบเท่ากั
่ อวัดระยะทีมี
บเครืองมื ่ ราคาแพง
ขอบเขตของกำรศึกษำค้นคว้ำ
สมมติฐำนของกำรศึกษำค้นคว้ำ
ี่
ประโยชน์ทคำดว่
ำจะได้ร ับ
่ อทีประดิ
1. เครืองมื ่ ้
ษฐ ์ขึนสามารถวั ่
ดระยะทางได ้เทียงตรง
่ สามารถวัดระยะทางไกลๆได ้
ซึงไม่
่ อนี สามารถน
3. เครืองมื ้ าไปใช ้ในชีวต
ิ ประจาวันของทุกๆคนได ้
้ ้ในราคาทีถู
และสามารถหาซือได ่ ก
7
ตำรำงกำรปฏิบต ่
ั งิ ำน โครงงำน New Product เรือง
ล้อวัดระยะทำง
วัน/เดือน/ปี
่ บต การปฏิบต
ั งิ าน
ทีปฏิ ั งิ าน
่
ศึกษาหาข ้อมูลเกียวกับหัวข ้อของโครงงาน
21
พฤษภาคม จากอินเทอร ์เน็ ตและเสนอหัวข ้อของโครงงาน
2556 กับคุณครู เนาวลักษณ์ สกุลจริยาพร
ถึง 17
มิถน
ุ ายน
2556
่ ลอ้ วัดระยะทาง
เสนอหัวข ้อโครงงาน เรือง
18
มิถน
ุ ายน กับคุณครู เนาวลักษณ์ สกุลจริยาพร
2556
่
ศึกษาข ้อมูลเกียวกั ่ ม
บโครงงานเพิมเติ
่
และขอคาปรึกษาเกียวกั บวิธก
ี ารดาเนิ นการ
19
มิถน
ุ ายน กับคุณครูชช ั วาล จันทรโชติ และ
คุณครูสุธธี ร ร ังสิมาหริวงศ ์
2556
สมาชิกในกลุ่มปรึกษาหารือกันเกียวกั่ บ
วัสดุอป ่ี ้องใช ้ในการดาเนิ นงาน
ุ กรณ์ทต
20
มิถน
ุ ายน กับคุณครูชช ั วาล จันทรโชติ และ
มอบหมายงานให ้กับแต่ละคนในสมาชิก
2556
8
่
สมาชิกในกลุ่มจดรายชือของอุ ปกรณ์ทาง
21 ่ ้องใช ้ในการปฏิบต ให ้คาแนะ
อิเล็กทรอนิ กส ์ทีต ั งิ าน
มิถน
ุ ายน
2556
เดินทางไปซืออุ้ ปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิ กส ์
22 ้ อพีวซ
ในย่านบ ้านหม้อ , ซือท่ ี ี และ
มิถน
ุ ายน ดาเนิ นการปฏิบต ั งิ านจริง คือ
2556 ทดสอบกระแสไฟฟ้ าของอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิ กส ์
วัน/เดือน/ปี
่ บต การปฏิบต
ั งิ าน
ทีปฏิ ั งิ าน
วางแผนการต่อวงจร , ทดสอบกระแสไฟฟ้ า
24 ของตัวต ้านทาน , ตัดท่อพีวซ
ี ใี นขนาด
มิถน
ุ ายน ่ ้องการ และทารูปเล่มของโครงงาน
ทีต
2556
วางแผนการต่อวงจร , ทดสอบการต่อไฟฟ้ า
กระแสตรงระหว่างวงจรกับ 7 Segments ,
25 ่ี องสาหร ับใส่ 7 Segment ปุ่ มสวิตซ ์
เจาะรูทกล่
มิถน
ุ ายน ปุ่ มรีเซต , ทาบัญชีรายจ่ายของโครงงาน
2556 และทารูปเล่มของโครงงาน
9
ทดสอบการต่อกระแสไฟฟ้ าของเซนเซอร ์
27 ่ อวงจรโดยการบัดกรี ,
แบบตัด , เริมต่
มิถน
ุ ายน ทารูปเล่มของโครงงาน และมีการ
2556 ประชุมกันภายในสมาชิกของกลุ่ม
วัน/เดือน/ปี
่ บต
ทีปฏิ ั งิ าน การปฏิบต
ั งิ าน หมายเหตุ
ต่อวงจรโดยการบัดกรี , ทดสอบการทางาน
ของวงจร , ตรวจสอบความเรียบร ้อยวงจร ,
28 ตัดท่อพีวซ ่ ้องการ , ทารูปเล่ม
ี ใี นขนาดทีต -
มิถน
ุ ายน ของโครงงาน , แจกแบบสอบถาม และมีการ
2556 ประชุมกันภายในสมาชิกของกลุ่ม
ทดสอบการทางานของวงจร , ตรวจสอบ
ความเรียบร ้อยวงจร ,
29 ่ แผ่นปรินท
นากล่องทีใส่ ้ ์ไข่ปลาไปผูกติดกับด ้ามจับของเครือง
่ -
มิถน
ุ ายน วัดระยะทาง ,ทดลองการใช ้งานจริงและ
2556 บันทึกผล , ทารูปเล่มของโครงงาน และ
มีการประชุมกันภายในสมาชิกของกลุ่ม
10
่ วงล้อวัดระยะทำง
ตำรำงบัญชีรำยจ่ำยโครงงำน New Product เรือง
ตัวต ้านทานเกือกมา้ 1 6
(trimmer)
P.DC ติดแท่น 1 15
P.DC 1 8
กล่อง PB 12 1 18
แผ่นปรินท ้ ์ไข่ปลา 1 20
Adabter 1 30
ท่อ P.V.C 1 28
ข ้อต่อท่อ P.V.C 1 10
รวม 428
บทที่ 2
ี่ ยวข้
เอกสำรและทฤษฎีทเกี ่ อง
ทฤษฎีของวงกลม
2. ส่วนประกอบของวงกลม
12
่ r = ร ัศมี
สูตร เส ้นรอบวงกลม = 2πr เมือ
้ วงกลม
พืนที ่ = πr 2
้ วงแหวน𝜋𝑅
พืนที ่ 2 ่ R = ร ัศมีวงกลมใหญ่
- 𝜋𝑟 2 = π (𝑅 2 - 𝑟 2 ) เมือ
r = ร ัศมีวงกลมเล็ก
180(n – 2)
6. สูตรขนาดของมุมภายในแต่ละมุม = องศา
𝑛
ข้อมู ลอุปกรณ์ทำงอิเล็กทรอนิ กส ์
่ แสง เช่น
เข ้มของแสงระหว่างผิวทีมี
้ วของตัวตรวจจับกับพืนผิ
ระหว่างพืนผิ ้ วของวัตถุทก
่ี าลังสะท ้อนแสงซึงแบ่
่ งได ้ 3 ชนิ ด
13
แสดงตาแหน่ งส่วนแสดงผล A- G
กำรดูสญ
ั ลักษณ์กำรต่อภำยใน 7 Segment
้
รูปดังกล่าวต่อไปนี จะแสดงการต่ อ LED ไวภ ่
้ ายใน ซึงจะมี ้ั
ทงคอมมอน A
และ K และแบบรวม โดยทีสั ่ ญลักษณ์ จะแสดงตาแหน่ งของขา LED ไว ้ให ้ด ้วย
่ 3 กับ 8
แสดง 1 หลัก คอมมอน K ทีขา
่ 10(ตัวที1)
แสดง 2 หลัก คอมมอน K ทีขา ่ กับ 5(ตัวที่ 2)
17
่ 10(ตัวที1)
แสดง 2 หลัก คอมมอน A ทีขา ่ กับ 5(ตัวที่ 2)
่ 3(ตัวที1)
แสดง 4 หลัก คอมมอน K ทีขา ่ กับ 5(ตัวที่ 2) กับ 8(ตัวที3)
่ กับ
10(ตัวที่ 4)
กำรเลือกซือ้ 7 Segment
้ องบอกผู ข
มำใช้งำนนันต้ ้ ำยหรือคำนึ งถึงส่วนต่ำงๆด ังนี ้
่ ก นั่นก็คอ
1. จะใช ้แบบกีหลั ่ วต่อกัน
ื จะใช ้กีตั
่ ้องการใช ้กีขา
2. ขาทีต ่ เพราะ 7 Segment
้ั
จะมีทงแบบรวมขาและแยกขาตามที ่ ้กล่าวมาแล ้ว
ได
3. สีทต่ี ้องการ โดยเลือกได ้ตามใจชอบ
4. ต ้องการคอมมอนอะไร ซึงมี ่ ความสาคัญมาก
เพราะในการออกแบบต ้องระบุไปก่อนว่าจะออกแบบโดยใช ้ 7 Segment
แบบคอมมอนอะไร
5. ความสูงหรือขนาดนั่นเอง โดยปกติแล ้ว ตัว 7 Segment
จะบอกความสูงของตัวเลขเป็ นนิ ว้ เช่น 0.4" หรือ 0.56" เป็ นต ้น
แผ่นวงจรพิมพ ์ (Printed Circuit Board)
การประกอบวงจรทางอิเล็กทรอนิ กส ์
่ ยกกันทัวไปคื
ส่วนใหญ่จะประกอบบนแผ่นวงจรพิมพ ์ หรือ ทีเรี ่ ้ ์
อแผ่นปรินท
หรือ แผ่น PCB (Printed Circuit Board)
่ ้านหนึ่ งทีใส่
ซึงด ่ อปุ กรณ์จะเป็ นฉนวน และ อีกด ้านจะเป็ นแผ่นทองแดงบางๆ
่
จุดเด่นของการต่อเชือมวงจรด ้วยแผ่นวงจรพิมพ ์แทนการใช ้สายต่อ คือ
18
้ ่
อุปกรณ์จะถูกวางอย่างเป็ นระเบียบ และประหยัดพืนที
ลดความวุ่นวายจากการโยงสายทีซั ่ บซ ้อน
่
และสามารถทีจะผลิ
ตเป็ นอุตสาหกรรมได ้ด ้วย แผ่นวงจรพิมพ ์จะแบ่งออกเป็ น 2
ประเภทใหญ่ ๆ คือ แผ่นวงจรพิมพ ์แบบอเนกประสงค ์ และ แผ่นวงจรพิมพ ์เปล่า
เคำวน์เตอร ์ (Counter)
้ บจาก 0000,0001,...,1111
ตารางความจริง(truth table) วงจรนี จะนั
่ ้นใหม่ท่ี 0000
แล ้วกลับมาเริมต
่
เงือนไขการเปลี ่
ยนสถานะของฟลิ
ปฟลอป คือ JK มีคา่ ลอจิกเป็ น 1
(Toggle state) และ Clk มีขอบ ขาลง ถ ้ายังไม่มี Clk ขอบขาลง
สถานะของ FF นั้นยังคงเดิม
่
FF-Q0 มีคา่ ลอจิกเป็ น 1 (Toggle state) จะเปลียนสถานะทุ ้ั ่ Clk
กครงที
มีขาลง
่ Q0 เป็ น 1 และมี Clk ขอบขาลงเกิดขึน้
FF-Q1 มีคา่ ลอจิกเป็ น 1 เมือ
่
Q1 จะเปลียนสถานะทั นที
FF-Q2 มีคา่ ลอจิกเป็ น 1 เมือ่ Q0 และ Q1 เป็ น 1 และมี Clk
ขอบขาลงเกิดขึน้ Q2 จะเปลียนสถานะทั
่ นที
FF-Q3 มีคา่ ลอจิกเป็ น 1 เมือ ่ Q0, Q1และ Q2 เป็ น 1 และมี Clk
ขอบขาลงเกิดขึน้ Q3 จะเปลียนสถานะทั
่ นที
ออปแอมป์ (Op - Amp )
Op - Amp (Operational Amplifier IC) คือ อุปกรณ์ทมี ่ี อน
ิ พุท
่ อต
เป็ นการขยายแบบดิฟเฟอเรนเซียลและมีเอาท ์พุทเดียว ซึงมี ั ราการขยายสูง
มีการนาไปใช ้ในวงจรต่าง ๆ ดังนี ้
1. Amplifier
2. Integrator
3. Differentiator
4. Voltage follower
5. Oscillator
OP - AMP
่
แต่ละเบอร ์ทีโรงงานผลิ ้
ตขึนมาจะมี
คณุ สมบัตบ
ิ างอย่างเฉพาะตัวตามคูม
่ อ
ื ของโ
รงงานผูผ้ ลิต เช่น High voltage gain , High current gain ,
Short - circuit protection , Low power consumption ,
Temparature stability
23
ต ัวต้ำนทำน (Resistor)
่ี ้ในการต ้านทานการไหลของกระแสไฟฟ้ า
เป็ นอุปกรณ์ทใช
เพือท่ าให ้กระแสและแรงดันภายในวงจรได ้ขนาดตามทีต ่ ้องการ
เนื่ องจากอุปกรณ์ทางด ้านอิเล็ กทรอนิ กส ์แต่ละตัวถูกออกแบบให ้ใช ้แรงดันและ
่
กระแสทีแตกต่ างกัน
ดังนั้นตัวต ้านทานจึงเป็ นอุปกรณ์ทมี
่ี บทบาทและใช ้กันมากในงานด ้านไฟฟ้ าอิเ
่
ล็กทรอนิ กส ์ เช่น วิทยุ , โทรทัศน์ , คอมพิวเตอร ์ , เครืองขยายเสี ยง
ตลอดจนเครืองมื่ อเครืองใช
่ ้ทางด ้านไฟฟ้ าอิเล็กทรอนิ กส ์ ฯลฯ เป็ นต ้น
สัญลักษณ์ของตัวต ้านทาน
่ ้ในการเขียนวงจรมีอยู่หลายแบบดังแสดงในรูปที่ 2.1
ทีใช
่
3. ตัวต ้านทานแบบเปลียนค่
าได ้ (Variable Resistor
่
ค่าความคลาดเคลือนบวกลบ 1 % ถึง บวกลบ 5 % (จากหนังสือ Farnell II-
Semi Conductor and Passines หน้า 294-310 )
ต ัวต้ำนทำนแบบปร ับค่ำได้
28
่
ต ัวต้ำนทำนแบบเปลียนค่
ำได้
่
ตัวต ้านทานแบบเปลียนค่ าได ้นี ้ สามารถแบ่งออกเป็ น 2
ชนิ ดด ้วยกันคือโพเทนชิโอมิเตอร ์(Potentiometer) และเซนเซอร ์รีซสิ เตอร ์
(Sensor Resistor)
หน่ วยของควำมต้ำนทำน
กำรอ่ำนค่ำควำมต้ำนทำน
การอ่านค่ารหัสแถบสี
่ ้นศึกษาอาจจะมีปัญหาเรืองของแถบสี
สาหร ับผูเ้ ริมต ่ ท่ี 1 และแถบสีท่ี 4
ว่าแถบสีใดคือแถบสีเริมต ่ ้น ให ้ใช ้หลักในการพิจารณาแถบสีท่ี 1 , 2 และ 3
จะมีระยะห่างของช่องไฟเท่ากัน ส่วนแถบสีท่ี 4
จะมีระยะห่างของช่องไฟมากกว่าเล็กน้อย
กำรต่อวงจรตวั ต้ำนทำน
ทรำนซิสเตอร ์ (Transistor)
เช่น
วงจรขยายในเครืองร ่ บั วิทยุและเครีองร
่ ับโทรทัศน์หรือนาไปใช ้ในวงจรอิเล็กทรอ
่ าหน้าทีเป็
นิ กส ์ทีท ่ นสวิทซ ์ (Switching) เช่น เปิ ด-ปิ ด รีเลย ์ (Relay)
่
เพือควบคุ ่ ๆ เป็ นต ้น
มอุปกรณ์ไฟฟ้ าอืน
โครงสร ้ำงของทรำนซิสเตอร ์
ไดโอด (Diode)
ไดโอด เป็ นอุปกรณ์ทท ่ี าจากสารกึงตั
่ วนา p-n
สามารถควบคุมใหก้ ระแสไฟฟ้ าจากภายนอกไหลผ่านตัวมันได ้ทิศทางเดียว ไ
ดโอดประกอบด ้วยขัว้ 2 ขัว้ คือ แอโนด (Anode ; A)
่ ออยู่กบ
ซึงต่ ่ วนาชนิ ด p และ แคโทด (Cathode ; K)
ั สารกึงตั
่ ออยู่กบ
ซึงต่ ่ วนาชนิ ด n ดังรูป
ั สารกึงตั
35
ไดโอดในอุดมคติมล
ี ก ่
ั ษณะเหมือนสวิทช ์ทีสามารถนากระแสไหลผ่านได ้
ในทิศทางเดียว
้
จากภาพถ ้าต่อขัวแบตเตอรี ใหเ้ ป็ นแบบไบอัสตรงไดโอดจะเปรียบเป็ นเสมื
อนกับสวิทช ์ทีปิ่ ด (Close Switch) หรือไดโอดลัดวงจร (Short Circuit) Id
้
ไหลผ่านไดโอดได ้ แต่ถ ้าต่อขัวแบตเตอรี แบบไบอัสกลับ
ไดโอดจะเปรียบเป็ นเสมือนสวิทช ์เปิ ด (Open Switch) หรือเปิ ดวงจร (Open
Circuit) ทาให ้ Id เท่ากับศูนย ์
อิเล็กโทรลูมน
ิ ิ เซนต ์ (Electroluminescence) ปัจจุบน ั นิ ยมใช ้ LED
แสดงผลในเครืองมื ่ ออิเล็กทรอนิ กส ์ เช่น เครืองคิ
่ ดเลข,นาฬก ิ า เป็ นต ้น
บทที่ 3
วิธก
ี ำรดำเนิ นกำรศึกษำ
ว ัสดุอป
ุ กรณ์
4. สว่าน
้
5. คีมปากจิงจก
6. กรรไกร
7. คัตเตอร ์
8. น้ายาประสาน
9. กาว
10. เทปกาวสีดา
11. ท่อ P.V.C
อุปกรณ์ทำงอิเล็กทรอนิ กส ์
4. Sensor แบบตัดผ่าน
5. LM 339
6. IC พร ้อม Socket (14 ขา)
7. 2N222A
9. L7805
10. L7809
11. L7812
18. ้ ์ไข่ปลา
แผ่นปรินท
19. Adabter
วิธก
ี ำรประดิษฐ ์
6. ประกอบล ้อกับขาตะเกียบเหล็ก
7. ่ ขนาดพอเหมาะมาต่อเป็ นด ้ามจับ
นาท่อ PVC ทีมี
8. นากล่องวงจรมาติดกับด ้ามจับ
วิธก
ี ำรใช้งำน
่
1. เปิ ดสวิตซ ์เครืองเพื ่ มการใช
อเริ ่ ้งาน
่ มวั
2. เข็นล ้อไปตามทางเพือเริ ่ ดระยะทาง(ทางตรง)
่ ้องการเลียวหรื
3. เมือต ้ ่
อเปลียนมุ มสนามให ้กดปุ่ ม รีเซ็ต
่
เพือยกเลิ
กค่าอันก่อน โดยจาตัวเลขเดิมไว ้ด ้วย (สาเหตุ เพราะ
39
่
เพือให ่
้ได ้ระยะทางทีสมจริ ่ ดและไม่คลาดเคลือนจึ
งทีสุ ่ ้
งไม่แนะนาให ้เลียวทั ้
่ งไม่ได ้รีเซ็ตค่าเก่า)
งๆทียั
่
4. เมือครบระยะที
ต ่ ้องการวัดแล ้วใหห้ ยุดการเข็นล ้อเอาไว ้ และนาตัวเลข
ครง้ั ค่าทีได
่ ้จะมี 5 ค่า ก็ใหน้ าค่าตังแต่
้ 1-5
่ ้องการหน่ วยทีได
มาบวกกันจะได ้ความยาวตามทีต ่ ้เป็ นเมตร
กำรทดลอง
่
ทดลองเพือหาความแตกต่ ่ ้ในการวัดระยะทางโดยใช ้วงล ้
างของเวลาทีใช
จุดประสงค ์ในกำรทดลอง
่ กษาความแตกต่างของเวลาทีใช
เพือศึ ่ ้ในการวัดระยะโดยใช ้
ต ัวแปรต้น
่ อทีใช
ชนิ ดของเครืองมื ่ ้ในการวัดระยะทาง
ต ัวแปรตำม
40
่
เวลาทีแตกต่
างกัน
ต ัวแปรควบคุม
ระยะทาง ้ ่
สภาพพืนที ผูท
้ าการวัด
ิ าจับเวลา
นาฬก วงล ้อวัดระยะทาง ตลับเมตรขนาด 5
เมตรและ 10 เมตร
วิธท
ี ดลอง
2. ใช ้ตลับเมตรขนาด 5 เมตรวัด
้ เริมต
โดยจับเวลาตังแต่ ่ ้นวัดระยะทางและสินสุ
้ ดการวัดระยะทางและบัน
ทึกผล
3. ่
เปลียนระยะทางเริ
มต่ ้นเป็ น 10 และ 50 เมตร ตามลาดับ
4. ่
เปลียนจากตลั
บเมตร ขนาด 5 เมตรเป็ น 10 เมตร
แล ้วทดลองเช่นเดิมเหมือนข ้อที่ 2 และบันทึกผล
5. ่
เปลียนจากตลั
บเมตร ขนาด 10 เมตรเป็ นวงล ้อวัดระยะทาง
แล ้วทดลองเช่นเดิมเหมือนข ้อที่ และบันทึกผล
41
บทที่ 4
ผลกำรทดลอง
ตำรำงบันทึกผลกำรทดลอง
่ ้ในการวัดระยะทาง (วินาที)
เวลาทีใช
ระยะทาง (เมตร)
ตลับเมตร ตลับเมตร วงล ้อวัดระยะทาง
ขนาด 5 เมตร ขนาด 10 เมตร
บทที่ 5
อภิปรำยและสรุปผลกำรทดลอง
จำกกำรทดลอง
่
ทดลองเพือหาความแตกต่ ่ ้ในการวัดระยะทางโดยใช ้
างของเวลาทีใช
ได้ผลกำรทดลองด ังนี ้
สรุปผลกำรทดลอง
43
ข้อเสนอแนะ
่ กต ้องจะต ้องหมุนในแนวแรงทีไม่
การหมุนวงล ้อถ ้าจะให ้ได ้ระยะทางทีถู ่ เอี
ยงซ ้ายเอียงขวา
่ น้าหนักเบา
และควรเลือกใช ้วัสดุในการประดิษฐ ์วงล ้อวัดระยะทางทีมี
่
เพือให ้ง่ายและสะดวกต่อการพกพา
กรำฟแบบประเมินควำมพอใจในกำรทำงำนของ
“วงล้อว ัดระยะทำง”
44
90
80
70
60
50
40
ปรับปรุง
30
น้อย
20
ปานกลาง
10
ดี
0
แบบประเมินควำมพอใจในกำรทำงำนของ
“วงล้อว ัดระยะทำง”
45
1. สมรรถภาพในการทางาน
2.
่
ความเทียงตรงในการวั ดระยะทาง
3. ความสะดวกในการใช ้งาน
4. สามารถนาไปใช ้งานได ้จริง
5. ความน่ าใช ้งาน
6. ความน่ าสนใจ
7. รูปลักษณ์ภายนอก
8. ความคิดสร ้างสรรค ์
รวม
ข้อเสนอแนะ
..................................................................................................................................
...................................
..................................................................................................................................
.....................................
46
..................................................................................................................................
.....................................
บรรณำนุ กรม
http://www.semi-
shop.com/knowledge/boardqur_ans.php?tq_id=23
http://kpp.ac.th/elearning/elearning3/book-13.html
http://th.wikipedia.org/wiki/Counter
http://www.lcct.ac.th/office/WebEL/linear/lesson1.doc
http://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/4347/optical-
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=170407
http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet7/trans.htm
http://www.cpe.ku.ac.th/~yuen/204471/device/diode_transistor
/diode.htm
http://eng.swu.ac.th/ie/teacher_word_2.htm
47
ภำคผนวก
รูปที่ 1 : แผนทีแสดงที
่ ตั่ งของย่
้ านบ ้านหมอ้
48
รูปที่ 3 : ลวดทองแดงอาบน้ายา
รูปที่ 4 : แผ่นปรินท
้ ์ไข่ปลา
49
รูปที่ 5 : 7 segment
รูปที่ 6 : น้ายาประสาน
รูปที่ 7 : ตะกัวบั
่ ดกรี
50
2
3
=
รูปที่ 12 : 2N222A
รูปที่ 13 : CD 4026
52
รูปที่ 23 : เลือย
่
56
รูปที่ 24 : ตลับเมตร
รูปที่ 25 : สก็อตเทปสีดา
รูปที่ 26 : สก็อตเทปสีเหลือง
57
รูปที่ 27 : สว่าน
รูปที่ 28 : คีมปากจิงจก
้
แบบวงจร Decade
counter
60
แบบวงจร Display
แบบวงจรของ Sensor
แบบสะท ้อน
61
้
แบบวงจรขยายใช ้ (Op-amp) แบบไฟเลียงเดี ่
ยวเบอร ์
LM339