Professional Documents
Culture Documents
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้เกิดความเข้าใจต่อการเปลีย่ นแปลงข้อกาหนดมาตรฐาน Elemental impurities ใน
ตารายาสหรัฐอเมริกา
2. สามารถนาข้อกาหนดไปประยุกต์ใช้ในการควบคุมคุณภาพยา
บทนา
การควบคุ ม ปริม าณ elemental impurities ในผลิต ภัณ ฑ์ย า ปั จ จุบ ัน อยู่ใ นความสนใจของ
หน่ วยงานควบคุมมาตรฐานทัวโลก ่ เช่น องค์การอาหารและยา, หน่ วยงานจัดทาตารายา เป็ นต้น โดย
USP-NF เป็ นตารายาทีใ่ ช้อา้ งอิงอย่างแพร่หลาย ได้ยกเลิก <231> Heavy Metals ตัง้ แต่ USP 38- NF
33 และมีการเพิม่ <232> Elemental Impurities-Limits และ <233> Elemental Impurities-Procedures
มาจนถึง USP 42–NF 37 ซึ่งเป็ นฉบับปั จ จุบนั ดังนัน้ จึงควรศึกษาท าความเข้าใจรายละเอีย ดขอ ง
หลักเกณฑ์และข้อกาหนดทีเ่ ปลีย่ นแปลงนี้ ใน <232> เป็ นการกาหนดเกณฑ์ของ elemental impurities
ใน drug products และคาแนะนาการประเมินความเสีย่ ง (risk assessment) ส่วน <233> กาหนดถึงวิธ ี
มาตรฐานและเกณฑ์ทดสอบความใช้ได้ เป็ นต้น ในบทความนี้จะขอกล่าวถึง <232> เท่านัน้
• Cell metabolites
• DNA products
• Allergenic extracts
2
บทความวิ ชาการเพื่อการศึกษาต่อเนื่ องทางเภสัชศาสตร์
drug products ก ลุ่ ม นี้ ไ ด้ แ ก่ Thallium, Gold, Palladium, Iridium, Osmium, Rhodium,
Ruthenium, Selenium, Silver, Platinum
Class3: เป็ นกลุ่มที่มคี วามเป็ นพิษ ต่ าเมื่อให้ยาทางปาก (oral) โดยมี PDE >500 µg/dayไม่
ต้องประเมินความเสีย่ งยกเว้นเป็ นการจงใจเติม ส่วนการให้ยาทางการฉีด (parenteral) หรือ ทางการสูด
ดม (inhalation) หากมี elements ในกลุ่มนี้ อาจต้องประเมินความเสี่ยงโดยพิจารณาแนวโน้มของการ
ปนเปื้ อ น และหาก PDE >500 µg/day ไม่จาเป็ นต้อ งประเมินความเสี่ยง ได้แก่ Lithium, Antimony,
Barium, Molybdenum, Copper, Tin, Chromium
เกณฑ์ ท่ี ร ะบุ ใ นที่ น้ี จ ะไม่ ใ ช้ ร วมถึ ง excipients และ drug substances นอกจากระบุ ใ น
monograph แต่อย่างไรก็ตามผูผ้ ลิตยาจะต้องทราบข้อมูลปริมาณ elemental impurities ของ excipients
และ drug substances เพื่อ ที่จ ะผ่ า นเกณฑ์ข้อ ก าหนด ซึ่ง ข้อ มูล การทดสอบดัง กล่ า วรวมไปถึง การ
ประเมิน ความเสี่ ย งอาจมาจากผู้ ผ ลิต drug substances / excipients / drug product components
(ตาราง 2)
SPECIATION
elements ทีส่ ามารถแสดงสถานะใน oxidation state, organic complex หรือ combination ได้
โดย arsenic และ mercury ต้องมีการพิจารณาในจุดนี้ เนื่องจากความเป็ นพิษ จะแตกต่ างกันไปตาม
inorganic forms และ complexed organic forms โดย เกณฑ์ arsenic มาจาก inorganic form ทีม่ คี วาม
เป็ นพิษมากที่สุ ด ในขณะที่ mercury แม้ methyl mercury form จะความเป็ นพิษ มากที่สุ ด แต่ ในทาง
pharmaceuticals ตรวจพบได้น้อ ย ดังนัน้ เกณฑ์ค วบคุ ม คุ ณ ภาพของ mercury จึง มาจาก inorganic
form
Parenteral Products
Parenteral drug products ที่มปี ริมาณการใช้สูงสุดต่อวัน (maximum daily volume) จนถึง 2
L อาจใช้ ปริมาณการใช้สูงสุ ดต่ อ วัน (maximum daily volume) ค านวณ permissible concentrations
จาก PDEs. ส่วน products ทีม่ ปี ริมาณการใช้สงู สุดต่อวันระบุอยูบ่ นฉลากหรือ ตามแพทย์สงจ่
ั ่ าย ซึง่ อาจ
เกิ น 2 L (เช่ น saline, dextrose, และ solutions for irrigation) อาจน า 2-L มาค านวณ permissible
concentrations จาก PDEs
3
Continuing Pharmaceutical Education Articles
4
บทความวิ ชาการเพื่อการศึกษาต่อเนื่ องทางเภสัชศาสตร์
5
Continuing Pharmaceutical Education Articles
Daily Dose PDE ≥ measured value (µg/g) × maximum daily dose (g/day)
Impurity แต่ละชนิดทีว่ ดั ปริมาณได้ จะต้องไม่เกิน Daily Dose PDE นอกจากระบุไว้ใน
monograph
2. Summation option
เป็ นการคานวณปริมาณรวมของ elemental impurity แต่ละชนิด (µg/g) ในแต่ละ components
ของ drug product
6
บทความวิ ชาการเพื่อการศึกษาต่อเนื่ องทางเภสัชศาสตร์
บทสรุป
การควบคุมคุณภาพยาหัวข้อ <232> Elemental Impurities-Limits ในตารายา USP จะต้องใช้
ข้อมูลความเป็ นพิษ (PDE) และแนวโน้มของแหล่งที่มา (potential sources) เพื่อทาการประเมินความ
เสีย่ ง โดยผูผ้ ลิตยาจะต้องมีขอ้ มูลผลการวิเคราะห์ปริมาณ element แต่ละชนิด ทีไ่ ด้ดาเนินการเองหรือ
ได้ข้อมูลมาจากผู้ผลิต drug substances และ excipients เพื่อนาข้อมูล ทัง้ หมดมากาหนดเกณฑ์ก าร
ควบคุม elemental impurities ต่อไป
เอกสารอ้างอิ ง
1. ELEMENTAL IMPURITIS-LIMITS [Internet]. [cited 12 02 2019]. Available from:
http://onlineuspnf/document/GUID-D42B645F-6157-4D7-BOAC-DA2EB52BC7D6_1_en-US
2. European Medicines Agency. ICH guideline Q3D (R1) on elemental impurities. [Internet].
[cited 12 02 2019]. Available from: https://www.ema.europa.eu/en/documents/scientific-
guideline/international-conference-harmonisation-technical-requirements-registration-
pharmaceuticals-human-use_en-32.pdf