Professional Documents
Culture Documents
1. สารละลาย (solution)
นิยาม สารละลาย (solution) คือ การผสมสารตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไปผสมเป็นเนื้อเดียวกัน ประกอบด้วยตัวถูก
ละลาย ≥1 ชนิดและตัวทาละลาย ≥1 ชนิดเช่นกัน
ค่าการละลาย (solubility) คือ ความเข้มข้นของสารละลายขณะที่ส่วนที่ละลายของตัวถูกละลายอยู่
ในภาวะสมดุลกับตัวถูกละลายในสภาวะของแข็ง ซึ่งเป็นความเข้มข้นของตัวถูกละลายในสารละลายอิ่มตัว
การระบุความเข้มข้นและค่าการละลาย -> ควรระบุอุณหภูมิและความดันอากาศขณะทดสอบด้วย
1. g ตัวถูกละลาย/ml ตัวทาละลาย -> g/ml
2. เปอร์เซ็นต์ คือ ปริมาณหรือปริมาตรของตัวถูกละลายต่อสารละลาย 100 ส่วน เช่น % w/v % w/w
3. Molarity; M คือ จานวนโมลของตัวถูกละลายในสารละลาย 1 L
4. Molality; m คือ จานวนโมลของตัวถูกละลายในตัวทาละลาย 1000 g (1 kg)
5. Normality; N คือ จานวนกรัมสมมูลของตัวถูกละลายในสารละลาย 1 L (N ใช้กับพวกกรดด่าง
แก่/electrolyte)
6. Mole fraction; X คือ อัตราส่วนจานวนโมลของตัวถูกละลายแต่ละชนิดต่อจานวนโมลของสารละลาย
ทั้งหมด
7. Volume fraction คือ สัดส่วนโดยปริมาตรของตัวทาละลายในปริมาตรสารละลายทั้งหมด
8. Parts คือ จานวนส่วนของตัวทาละลายที่ต้องใช้เพื่อละลายตัวถูกละลาย 1 ส่วน เช่น A ละลายใน 20
ส่วนของน้า ที่ 20˚C หรืออาจแปลความหมายจากคานิยามตาม USP ดังนี้
1
Solution, syrup, elixir, tincture, etc. By Hilston 21 & Gift 83 & MintHG 64
(หัวกระดาษสามารถลบได้ค่ะ)
เทคนิคการเพิ่มค่าการละลาย
สาหรับตัวยาที่ละลายน้า ได้น้อย ทาให้ความเข้มข้นของตัวยาในยาเตรียมรูปแบบของเหลวไม่เป็นไป
ตามที่ต้องการ Solubilization เป็นวิธีการที่เพิ่มขีดการละลายของสารที่ละลายน้าได้น้อย ซึ่งจะรวมถึงการใช้
ตัวทาละลายร่วม, การทาให้เกิดเกลือ, การเตรียมเป็นบรรพเภสัช (prodrug), การทาเกิดสารเชิงซ้อน, การ
ปรับ pH, การลดขนาดอนุภาค และการใช้สารลดแรงตึงผิว (micellization) เป็นต้น (สานักยา, 2560)
ตารางแสดงการเปรียบเทียบการเพิ่มการละลายของตัวยา
วิธี ชีดการละลายที่เพิ่มขึ้นโดยประมาณ
การใช้ตัวทาละลายร่วม (Cosolvency) 1-1,000 เท่า
การทาให้เกิดเกลือ (Salt formation) 1-1,000 เท่า
การเตรียมเป็นบรรพเภสัช (Prodrug) 1-1,000 เท่า
การทาให้เกิดสารเชิงซ้อน (Complexation) 1-100 เท่า
การทาให้เกิด micelle (Micellization) 1-50 เท่า
a) การใช้ตัวทาละลายร่วม (Cosolvency)
การใช้ตัวทาละลายร่วมเป็นวิธีการที่ใช้มากที่สุดในการตั้งสูตรตารับยาน้า โดยเฉพาะยาใหม่ที่มี
โครงสร้างซับซ้อนมาก ซึ่งเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มขีดการละลายของยา
Cosolvent มักเป็นสารที่มีโมเลกุลที่ประกอบด้วยส่วนมีขั้วที่เข้ากับน้าได้และส่วนไม่มีขั้วที่เข้ากับ
ตัวถูกละลายที่ไม่มีขั้วได้ดี แต่ความสามารถในการเพิ่มการละลายจะมีความแตกต่างกันขึ้นกับตัว
ทาละลายร่วมที่เลือกใช้และคุณสมบัติของตัวถูกละลายดังนี้
o Polar solute: มีสภาพขั้วที่ใกล้เคียงกับน้าจึงละลายเข้ากันได้ดี ไม่ต้องอาศัย cosolvent
หากเติม cosolvent ลงไป อาจทาให้ค่าการละลายลดลง เนื่องจาก cosolvent โดยทั่วไปมี
สภาพขั้วต่ากว่าน้า
o Semi-polar solute: ค่าการละลายของ solute กลุ่มนี้จะมีค่าสูงสุด เมื่ออัตราส่วนของตัว
ทาละลายผสม (น้า+solvent) มีสภาพขั้วเท่ากับสภาพขั้วของ solute
o Non-polar solute: การเติม cosolvent ซึ่งมีสภาพขั้วอยู่ระหว่างน้าและ solute จะทาให้
สภาพขั้วของตัวทาละลายผสมลดลงจนสามารถละลายเข้ากับ solute ได้
Ethanol เป็นตัวทาละลายร่วมที่ใช้มากที่สุดในตารับยาน้ารับประทาน เนื่องจากมีคุณสมบัติเป็น
ตัวทาละลายที่ดีสาหรับตัวยาที่ไม่มีขั้วและมีกลิ่นรสดี สามารถใช้สาหรั บยาน้าที่ใช้สาหรับเด็กแต่
ต้องใช้ ethanol ในความเข้มข้นต่า ตัวทาละลายอื่นๆที่ใช้คือ sorbitol, glycerin, propylene
glycol และสาร polyethylene glycol อื่นๆ
ข้อจากัด คือ ความเป็นพิษของตัวทาละลายที่เข้ากันไม่ได้กับน้า แต่มีคุณสมบัติเพิ่มขีดการละลาย
ที่ดมี าก ความเป็นพิษดังกล่าวได้แก่ ความเป็นพิษทั่วไป ความเป็นพิษต่ออวัยวะที่ยาออกฤทธิ์และ
ความเป็นพิษต่อเนื้อเยื่อ
2
Solution, syrup, elixir, tincture, etc. By Hilston 21 & Gift 83 & MintHG 64
(หัวกระดาษสามารถลบได้ค่ะ)
c) การเตรียมเป็นบรรพเภสัช (prodrug)
Prodrug จะเปลี่ยนแปลงเป็นสารที่ออกฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาได้หลังจากเข้าสู่ร่างกาย แม้ว่าการเกิด
เกลือและการเตรียมเป็น prodrug สามารถเพิ่มขีดการละลายของตัวยาได้ สิ่งที่ต้องทาต่อไป คือ
การสังเคราะห์ตัวยาใหม่ และการศึกษาในสัตว์เพื่อยืนยันประสิทธิภาพและความปลอดภัยของยา
d) การทาให้เกิดสารเชิงซ้อน (Complexation)
การเกิดสารประกอบเชิงซ้อน คือ การรวมกันของโมเลกุลของสาร 2 ชนิดหรือมากกว่า (เช่น ยา
และตัวเพิ่มขีดการละลาย) ด้วยแรงอ่อนๆ โดยโมเลกุลทั้งสองสามารถให้หรือรับ electron ได้
เช่น การเกิดสารประกอบเชิงซ้อนของ cyclodextrin (CD) ซึ่ง cyclodextrin มีโครงสร้างที่มี
ช่องว่างภายในที่ไม่ชอบน้า ในขณะที่ด้านที่ชอบน้าอยู่ภายนอก ทาให้ตัวถูกละลายที่ไม่ชอบน้า
3
Solution, syrup, elixir, tincture, etc. By Hilston 21 & Gift 83 & MintHG 64
(หัวกระดาษสามารถลบได้ค่ะ)
4
Solution, syrup, elixir, tincture, etc. By Hilston 21 & Gift 83 & MintHG 64
(หัวกระดาษสามารถลบได้ค่ะ)
เป็นกรดด่างได้โดยที่ pH ไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนักเมื่อเติมกรดแก่หรือด่างแก่ลงไปในปริมาณ
เล็กน้อย เรียกว่า buffer มี 2 ชนิด คือ
o Buffer กรด : สารละลายของกรดอ่อนกับเกลือของกรดอ่อน (คู่กรด) เช่น
CH3COOH/CH3COO-
o Buffer ด่าง : สารละลายของด่างอ่อนกับเกลือของด่างอ่อน (คู่กรด) เช่น NH3/NH4+
การเลือก buffer ที่จะใช้ในตารับ จะต้องมี pKa ใกล้เคียงกับ pH ของสารละลายในตารับ จากนั้น
ใช้สมการ Henderson-Hasselbalch เพื่อคานวณสัดส่วนของสารละลาย buffer ดังนี้
HA H+ + A-
Buffer กรด; pH = pKa - log
Buffer ด่าง; pH = pKa - log
เมื่อ pKa = ค่าคงที่การแตกตัว (dissociation constant) <ในกรณีที่ยาเป็น
amphoteric หรือ zwitterion molecules จะมีค่า pKa มากกว่า 1 ค่า>
[HA] = ความเข้มข้นของกรดในรูปไม่แตกตัว (mol/L)
[A-] = ความเข้มข้นของกรดในรูปแตกตัว (mol/L)
[BH+] = ความเข้มข้นของด่างในรูปแตกตัว (mol/L)
[B] = ความเข้มข้นของด่างในรูปไม่แตกตัว (mol/L)
ตัวอย่างระบบ buffer ที่นิยมใช้ เช่น
o Acetate buffer CH3COOH/CH3COONa (pH 3.7–5.6)
o Borate buffer H3BO3/Na2B4O7 (pH 8.0–10.0)
o Citrate buffer NaC6H7O7/C6H8O7 (pH 3.0–6.2)
o Phosphate buffer NaH2PO4/Na2HPO4 (pH 5.8–8.0)
Weak acidic APIs: การเพิ่ม pH เพิ่ม solubility
Weak basic APIs: การลด pH เพิ่ม solubility
5
Solution, syrup, elixir, tincture, etc. By Hilston 21 & Gift 83 & MintHG 64
(หัวกระดาษสามารถลบได้ค่ะ)
การแบ่งประเภทสารละลาย
แบ่งตาม ตัวอย่างประเภท
Pharmacopoeia Syrup, elixir, spirit, aromatic water, tincture, fluid extract
การใช้ Oral, topical, ophthalmic, nasal, parenteral
ขนาดอนุภาคตัวถูกละลาย True solution ตัวถูกละลาย <1 nm,
Colloidal หรือ Micellar solution ตัวถูกละลาย 1-500 nm,
Macromolecular solution ตัวถูกละลายมี MW สูงและพองตัวได้ 1-500 nm
คุณสมบัติทางเคมีฟิสิกส์ Electrolyte ตัวถูกละลายแตกตัวเป็นไอออนเมื่อละลายและนาไฟฟ้าได้ เช่น
ของตัวถูกละลาย สารละลาย NaCl,
Non electrolyte ตัวถูกละลายไม่แตกตัวเป็นไอออน เช่น สารละลายน้าตาล
ปริมาณของตัวถูกละลาย สารละลายเจือจาง, เข้มข้น, อิ่มตัว, อิ่มตัวยิ่งยวด
Nature of formulation Simple, complex
ระบบตัวทาละลาย Aqueous, hydroalcoholic, non-aqueous
6
Solution, syrup, elixir, tincture, etc. By Hilston 21 & Gift 83 & MintHG 64
(หัวกระดาษสามารถลบได้ค่ะ)
ส่วนประกอบในตารับสารละลาย
หน้าที/่ ส่วนประกอบ ตัวอย่างสาร ความเข้มข้น (%)
1. ตัวยาสาคัญ (API) - -
2. Solubilizing agent Tween 80, polyethylene glycol (PEG) -
3. Cosolvent Alcohol, glycerin, propylene glycol, PEG400 -
4. Viscosity-inducing agent Methyl cellulose, -
Carboxymethyl cellulose (compatible กับ alc)
5. Buffer หรือ pH adjusting Acetic acid and salt pH 3.5-5.7 1-2
agent Citric acid and salt pH 2.5-6.0 1-3
เพื่อปรับ pH, buffer capacity, Glutamic acid pH 8.2-10.2 1-2
เพิ่มการละลาย/ความคงตัว Phosphoric acid salts pH 6.0-8.2 0.8-2
6. Tonicity adjusting agent Sodium chloride -
7. Chelating agent EDTA 0.01-0.075
form complex กับโลหะหนัก
(โลหะหนักเร่งก.เกิด oxidation ได้)
8. Antioxidant Na metabisulfite 0.02-1.0
เกิด oxidation แทนยา Na bisulfite 0.1
Na sulfite 0.01-1.0
9. Preservative Benzoic acid 0.1-0.3
Na benzoate 0.1-0.2
Methyl paraben 0.05-0.25
Propyl paraben 0.02-0.04
Alcohol 15-20 (self-preserving)
10. Flavoring agent กลิ่น+รส
10.1 Sweetening agent - Sugars, liquid glucose, corn syrup, polyols
(glycerin, PG, sorbitol), artificial sweetening agent
10.2 Souring agent - Citric acid 0.1-0.5
10.3 Flavoring agent กลิ่น - Vanillin, raspberry, strawberry essence,
orange, lemon oil 0.01-0.05
11. Coloring agent FD&C no. ที่ FDA อนุญาตให้ใช้ ละลายน้า คงตัวดีและเป็น 0.0005-0.001
สีที่เหมาะกับกลิ่นของยา
วิธีการเตรียม
1. วิธีการละลายอย่างง่าย (simple solution)
2. วิธีปฏิกิริยาเคมี (chemical reaction)
3. วิธีการสกัด (extraction)
7
Solution, syrup, elixir, tincture, etc. By Hilston 21 & Gift 83 & MintHG 64
(หัวกระดาษสามารถลบได้ค่ะ)
Tips การเตรียม
1. ของแข็งละลายน้าได้ ละลายในน้า/solvent ก่อน
2. API ละลายน้าได้แต่คงตัวไม่ดี ควรละลายในน้าหลังปรับ pH ด้วย buffer, ใส่ antioxidant, chelating
agent แล้ว
3. เติมของเหลวหนืดน้อยก่อน ของเหลวหนืดมากเติมทีหลัง
4. สารที่ระเหยได้ควรเติมหลังสุด อย่าคนนานและไม่เติมตอนสารละลายร้อน
5. เติมเกลือ ให้แบ่งน้าปริมาตรน้อยๆ มาละลายเกลือก่อนแล้วเติมในรูปแบบสารละลายเกลือ ระวัง
salting-out = เกลือแย่งน้าจากยา ถ้าเกลือเยอะ น้าน้อย ยาอาจตกตะกอนได้
6. ถ้าตารับมีน้าและ alc ให้ค่อยๆเติมน้าลง alcohol
7. ถ้ายาไม่ใส กรองได้โดยใช้ filter aid = talc 15 g/ solution 1 L แต่ต้องไม่กรอง API ออกไปนะ!
ตัวอย่างสูตรตารับ
Rx Choral Hydrate Oral Solution HF 2549
ส่วนประกอบ Official Approx.vol. หน้าที่ในตารับ
Formula (ml)
Choral hydrate 10 g 5.0 API: hypnotics, anxiolytics
Citric acid monohydrate 0.75 g 0.375 Buffer, souring agent
Paraben concentrate 1 ml 1 Preservative
Glycerin 10 ml 10 Cosolvent (ตัวทาละลายร่วม),
sweetening agent
Purified water 20 ml 20 Solvent (ตัวทาละลายหลัก)
Color q.s. q.s. Coloring agent
Flavor q.s. q.s. Flavoring agent
Simple syrup q.s. to 100 ml 100-36.375= 63.625 Vehicle (น้ากระสายยา-ปริมาณ
¾ = 47.72 ประมาณ 48 มากสุดใช้ปรับปริมาตร),
¼ ประมาณ 16 sweetening agent
วิธีเตรียม
1. แยกชั่ง choral hydrate 10 g, citric acid monohydrate 0.75 g บนกระดาษชั่งยาด้วยเครื่องชั่งที่
คาลิเบรตและปรับสมดุลแล้ว
2. ละลาย citric acid monohydrate 0.75 g ที่ชั่งมาด้วย purified water 20 ml ในบีกเกอร์ขนาด 100
ml
3. ละลาย choral hydrate 10 g ในสารละลายข้อ 2 จนหมดจากนั้นจึงเติม glycerin 10 ml ลงไปผสม
คนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว
8
Solution, syrup, elixir, tincture, etc. By Hilston 21 & Gift 83 & MintHG 64
(หัวกระดาษสามารถลบได้ค่ะ)
Rx Antiseptic Solution NF
ส่วนประกอบ Official Formula หน้าที่ในตารับ
Boric acid 25 g
(ค่าการละลายในน้า 5g/100ml ที่ 25˚C, API
37g/100ml ที่ 100˚C)
Thymol 0.5 g
Chlorothymol 0.5 g
Menthol 0.5 g
Flavoring agent
Eucalyptol oil ละลายได้ใน alc 0.1 g
Methyl salicylate 0.2 ml
Thyme oil 0.01 ml
Alcohol 300 ml Cosolvent, self-preservative
Purified water q.s. to 1000 ml Vehicle
วิธีเตรียม (แบบย่อ)
Preparation Chilling Filtration
1. บีกเกอร์ 1 เติมทุก oil+alcohol
2. บีกเกอร์ 2 ตวง ¾ purified water แล้วนาไปต้มให้พอร้อน ละลาย boric acid ในน้าร้อนแล้วรอให้เย็น
(ถ้าร้อนเดี๋ยวผสมแล้ว alc ระเหยหมด)
3. ค่อยๆเทบีกเกอร์ 2 (น้า) ลงในบีกเกอร์ 1 (alc) แล้วปรับปริมาตรด้วย purified water
4. เติม filter aid -> talc 5 g/ solution 1 L ลงในสารละลาย เขย่าให้กระจายทั่วแล้วปิดด้วย parafilm
นาไปแช่ตู้เย็น/ใส่ใน ice bath -> ให้สารละลายอิ่มตัวที่ 0˚C (talc ช่วย adsorb oil กระจาย oil ให้เล็ก
oil ก็จะละลายดีขึ้น, เป็นตัวช่วยในการกรองเนื่องจากสามารถอุดรูกระดาษกรองทาให้กรองได้ ละเอียด
ขึน้ )
5. กรองด้วยกระดาษกรอง จะได้สารละลายใส บรรจุลงในภาชนะและปิดฉลากให้เรียบร้อย
9
Solution, syrup, elixir, tincture, etc. By Hilston 21 & Gift 83 & MintHG 64
(หัวกระดาษสามารถลบได้ค่ะ)
2. ยาน้าเชื่อม (syrups)
นิย าม เป็ น สารละลายในน้ าของน้ าตาลหรื อสารที่ ใ ช้แ ทนน้ าตาล มี ลั ก ษณะทั่ ว ไปคือ ข้ น หนื ด รสหวาน
ปราศจาก alcohol หรือมีปริมาณเล็กน้อย อาจมีหรือไม่มีสารแต่งกลิ่นรส และตัวยา
ความข้นหนืดสูงช่วย
1. เคลือบตุ่มรับรส (taste buds) เพื่อกลบรสชาติร่วมกับรสหวาน
2. ลดการระคายเคืองของเนื้อเยื่อบริเวณลาคอ (throat) ได้
ดังนั้นยาน้าเชื่อมจึงนิยมใช้กับยาที่ขม (eg. paracetamol) หรือยาแก้ไอ
ประเภทของยาน้าเชื่อม
1. น้าเชื่อมแต่งกลิ่นรส (flavored syrup) -> ใช้เป็นกระสายยา
2. น้าเชื่อมที่เป็นยา (medicated syrup) -> มีส่วนประกอบของยา
สูตรตารับโดยทั่วไปของยาน้าเชื่อม
API (water-soluble) x%
Sucrose 45-85%
Sugar substitute q.s.
Preservative q.s.
Flavor q.s.
Color q.s.
Purified water q.s. ad 100%
10
Solution, syrup, elixir, tincture, etc. By Hilston 21 & Gift 83 & MintHG 64
(หัวกระดาษสามารถลบได้ค่ะ)
ส่วนประกอบของยาน้าเชื่อม
1. ตัวยาสาคัญ (Medication agent) ควรละลายน้าได้ดี เช่น ใช้รูปเกลือ หากไม่ละลายน้าใช้ตัวทาละลาย
ร่วมช่วย
2. สารแต่งรสหวาน (Sweetening agent) ได้แก่
2.1. น้าตาล – แบ่งออกเป็น sugars, liquid glucose และ polyols
Sugars (sucrose, dextrose, fructose และ stevia)
Sucrose
- Very soluble ในน้าและ alcohol, คงตัวใน pH = 4-8,
- หากให้ความร้อน >130๐C หรือเติมกรด HCl เพื่อเร่งปฏิกิริยา hydrolysis จะทาให้ sucrose
กลายเป็น inverted sugar (glucose+fructose) ซึ่งหนืดและหวานมากขึ้น
- หากให้ความร้อน >160๐C จะเกิด caramelization ทาให้ syrup กลายเป็นสีคาราเมล
- มีคุณสมบัติ self-preservative หากใช้มากกว่า 65% w/w หรือ 85% w/v เนื่องจากทาให้ระบบมี
ความดันออสโมติกสูง ป้องกันการเจริญของเชื้อได้
Dextrose - เป็น D-form ของ glucose นิยมใช้กรณีสูตรตารับเป็นกรดค่อนข้างสูง
Fructose - เหมาะกับตารับที่มี alcohol เพราะละลายได้ดี
Stevia - ได้จากใบของต้นหญ้าหวาน (honey leaf, yerba dulce)
Liquid glucose (แบะแซ) - มีองค์ประกอบหลักเป็น dextrose และมี dextrin กับ maltose ในปริมาณ
เล็กน้อย เตรียมได้จากการ hydrolysis แป้งด้วยกรด ต้องอุ่นก่อนใช้งานเพราะเหนียว
Polyols (glycerin, propylene glycol, sorbiltol, mannitol และ xylitol)
Glycerin และ propylene glycol - ใช้เป็นตัวทาละลายร่วมเพื่อช่วยเพิ่มค่าการละลายของตัวยาได้
Sorbitol, mannitol และ xylitol - เกิดจากการเปลี่ยนหมู่ aldehyde ของ sucrose, mannose และ
xylose เป็นหมู่ alcohol มีจุดเด่นคือให้ความรู้สึกเย็น นอกจากนี้ xylitol ป้องกันฟันผุได้
2.2. สารที่ใช้แทนน้าตาล - เหมาะสาหรับผู้ป่วยเบาหวาน
Saccharin - ให้รสชาติขมตามหลังรสหวาน, เป็นสารก่อมะเร็ง และห้ามใช้ในผู้ที่แพ้ซัลฟา
Aspartame - ห้ามใช้ในผู้ป่วย Phenylketouria เพราะมี phenylalanine
Acesulfame potassium
Sucralose - ให้ความหวานมากกว่า sucrose 600 เท่า ปัจจุบันนิยมใช้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะทนความร้อน
และทน pH ได้ในช่วงกว้าง
11
Solution, syrup, elixir, tincture, etc. By Hilston 21 & Gift 83 & MintHG 64
(หัวกระดาษสามารถลบได้ค่ะ)
3. สารกันเสีย
ในยาน้าเชื่อม การใช้สารกันเสียต้องคานึงถึง ปริมาณน้าในตารับ (free water), ดูว่าเป็น self-
preservative ไหม, ดูความสามารถของ Preservative ว่าป้องกันเชื้อได้มากแค่ไหน มักใช้
- Benzoic acid 0.1-0.2 % หรือ sodium benzoate 0.1-0.2 % (ได้ผลดีในสารละลาย pH ต่า)
- Paraben concentrate 1.0 % (= 10% methyl paraben+ 2% propyl paraben ใน PG)
- Alcohol 15-20%
4. สารแต่งกลิ่นและสารแต่งรส อาจะเป็นสารสังเคราะห์หรือได้จากธรรมชาติก็ได้ ใช้ 0.01-0.05% w/v
และเติม alcohol เล็กน้อยเพื่อช่วยให้สารแต่งกลิ่นรสละลายในยาน้าเชื่อมได้ดึขึ้น
5. สารแต่งสี (ควรเลือกให้สอดคล้องกับสารแต่งกลิ่น มีความคงตัว)
6. Purified water (ได้จากการกลั่นหรือ reverse osmosis มี pH 5-7)
7. อื่นๆ เช่น cosolvent, solubilizing agents, viscosity-inducing agents (Na alginate 2.5 %, Na
CMC 1.5%), stabilizers (antioxidant, chelating agent, buffer)
*viscosity inducing agents นิยมใช้ในตารับยาน้าเชื่อมที่มี artificial sweeteners 0.1-0.2% เพราะว่า
ตารับมีน้าตาลในปริมาณที่น้อย เลยไม่ข้นหนืดมากพอ
การคานวณหา free water และการพิจารณาใส่สารกันเสีย
Simple syrup USP 34
Sucrose 85 g
Purified water q.s. to 100 ml
*กาหนดให้ specific gravity ของสารละลายนี้คือ 1.313 g /ml และการละลายของ sucrose ในน้า
คือ 1 g: 0.5 ml
- น้าที่ใช้ในการละลาย sucrose เท่ากับ 85 g x 0.5 ml = 42.5 ml
- ดังนั้นจะมีน้าอิสระ (free water) อยู่เท่ากับ 131.3 g – (85+42.5) g = 3.8 g
- จะเห็นว่าปริมาณน้าที่เหลือน้อยเพียง 3.8 g จะทาให้ syrup USP มีคุณสมบัติ self-preservative
- เมื่อเปรียบเทียบกับ syrup BP พบว่า syrup BP มี free water น้อยกว่า syrup USP ดังนั้น
โอกาสทีน่ ้าตาลตกผลึก หรือเกิด cap-locking จะมากกว่า
- ยาน้าเชื่อมส่วนใหญ่มีปริมาณน้าตาล sucrose 60-80% w/v ดังนั้นต้องใส่สารกันเสียเสมอ
- ยิ่งมีน้าอิสระมาก ปริมาณสารกันเสียที่ใช้ก็ต้องมากตาม
- อาจเติมสารกันเสียไว้มากเกินพอเล็กน้อย เพราะเมื่อตั้งยาน้าเชื่อมทิ้งไว้นานๆ น้าอาจระเหยมาอยู่
บนผิวหน้าของยาน้าเชื่อม ทาให้เกิดเชื้อราบนผิวหน้าได้
วิธีเตรียม มี 4 วิธี
1. การละลายโดยใช้ความร้อน
เตรียมโดยเติม sucrose ในน้า ให้ความร้อนระยะหนึ่งจน sucrose ละลายหมด เติมตัวยาหรือสารที่
ไม่สลายตัวด้วยความร้อนลงใน syrup ที่เตรียมได้ คนผสมจนละลายหมด นิยมใช้เตรียม flavored syrup
- ถ้ามีสารที่สลายตัวหรือระเหยเมื่อโดนความร้อน ให้เติมตอน syrup มีอุณหภูมิเท่าอุณหภูมิห้องแล้ว
12
Solution, syrup, elixir, tincture, etc. By Hilston 21 & Gift 83 & MintHG 64
(หัวกระดาษสามารถลบได้ค่ะ)
13
Solution, syrup, elixir, tincture, etc. By Hilston 21 & Gift 83 & MintHG 64
(หัวกระดาษสามารถลบได้ค่ะ)
วิธีการเตรียม
ใช้การละลายโดยการเขย่าและไม่ใช้ความร้อนเนื่องจากตัวยาละลายน้าได้ดี (เพราะเป็นรูปเกลือ)
1. บีกเกอร์ 1: น้าปริมาตร ¾ + sodium benzoate (บดก่อน) + CPM maleate (บดก่อน) จากนั้นค่อยๆ
ใส่ sorbitol solution + glycerin + syrup โดยผสมตามความหนืดจากน้อย->มาก เพื่อให้ง่ายต่อการ
คนผสม
2. บีกเกอร์ 2: alcohol + สีและกลิ่น (หากทา stock solution ใน alcohol)
3. เทบีกเกอร์ 2 ลง บีกเกอร์ 1 (ตามหลัก order of mixing แล้วควรเทน้าลง alcohol แต่เนื่องจากไม่มีตัว
ยาสาคัญใน alcohol จึงไม่กังวลเรื่องการตกตะกอน ส่วนสีและกลิ่นปริมาณน้อยสามารถเข้ากันได้กับน้า
ที่มี cosolvent) เนื่องจากบีกเกอร์ 1 มีความหนืดสูง เทได้ยากกว่า คนผสมให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว
4. ปรับปริมาตรในกระบอกตวง เทลงภาชนะบรรจุและปิดฉลากให้เรียบร้อย
วิธีการเตรียม
ใช้การละลายโดยการเขย่าและไม่ใช้ความร้อนเนื่องจากตัวยาละลายน้าได้ดี (เพราะเป็นรูปเกลือ)
1. บีกเกอร์: น้าปริมาตร ¾ + citric acid + ferrous sulfate + peppermint spirit (ค่อยๆใส่ระวังการ
ตกตะกอน) + ¼ sucrose (ใส่เพื่อป้องกัน oxidation ของ ferrous) คนผสมให้เข้ากันดี
2. นาสารละลายที่ได้ไปกรองเอาตะกอนออกก่อนด้วยกระดาษกรองเบอร์ 1 เพราะ ferrous sulfate อาจ
เกิด oxidation เป็น ferric และตกตะกอนออกมาได้ และอาจเกิดตะกอนจาก peppermint spirit ที่ถูก
เจือจาง
3. นา filtrate ที่ได้จากการกรองมาเติม ¾ sucrose คนผสมให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวและปรับปริมาตรใน
กระบอกตวง
14
Solution, syrup, elixir, tincture, etc. By Hilston 21 & Gift 83 & MintHG 64
(หัวกระดาษสามารถลบได้ค่ะ)
15
Solution, syrup, elixir, tincture, etc. By Hilston 21 & Gift 83 & MintHG 64
(หัวกระดาษสามารถลบได้ค่ะ)
3. ยาอิลิกเซอร์ (elixirs)
นิยาม ยาเตรียมประเภทของเหลวสาหรับรับประทาน เป็นสารละลายใส รสหวาน ตัวทาละลายที่ใช้จะเป็นน้า
ผสมกับ alcohol
ส่วนประกอบในยาอิลิกเซอร์
1. ตัวยาสาคัญ มักละลายได้น้อยในน้า ละลายได้ดีใน alc หรือ hydroalcoholic solution แต่ตัวยาที่
ละลายน้าได้ดีก็สามารถเตรียมเป็น elixir ได้เช่นกัน
2. ตัวทาละลาย มักเป็นน้า+alc (Hydroalcoholic solution) ความแรงของ alc จะมากหรือน้อย
ขึ้นกับความสามารถในการละลายน้าหรือ alcohol ของตัวยาหรือสารอื่นในตารับ
- ปริมาณ alcohol สาหรับเด็กน้อยกว่า 6 ปี คือ 0.5%, 6-12 ปี คือ 5% และมากกว่า 12 ปี คือ 10%
ดังนั้น pediatric preparation ไม่ควรมี alcohol มากกว่า 5% (อ้างอิงจาก WHO)
- Alcohol ในปริมาณ 10-12% มีคุณสมบัติ self-preservative
- อาจใช้ cosolvent อื่นร่วมด้วย เช่น PEG 400, propylene glycol, glycerin โดย propylene
glycol/ glycerin ในปริมาณมากกว่า 20% มีคุณสมบัติ self-preservative
3. สารแต่งรสหวาน ที่นิยมใช้มากที่สุด คือ Sucrose หากในตารับมีน้ามาก (มี alc ประมาณ 10%), ส่วน
saccharin ประมาณ 0.1% ใช้กับตารับที่มีน้าน้อยๆ (มี alc ประมาณ 80%)
4. สารกันเสีย
5. สารแต่งกลิ่น
6. สารแต่งสี
วิธีเตรียม ทาได้ 2 วิธี คือ
1. การละลายธรรมดา (Simple solution)
เตรียมโดยนาตัวยามาละลายในน้ากระสายยาหรือตัวทาละลายหรือตัวทาละลายร่วมจนได้
สารละลายใส แล้วจึงเติมสารอื่นในตารับ ผสมให้เข้ากัน ปรับปริมาตร วิธีนี้เตรียมง่ายและรวดเร็ว
2. การผสมสารละลายของตัวยา / สาร ตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไปเข้าด้วยกัน
(The Admixture of two or more liquid ingredient)
โดยตัวยา/สารในสูตรตารับมีคุณสมบัติการละลายต่างกัน ให้นาสารละลายในน้าค่อยๆ เทลง
ในสารละลายใน alcohol อย่างช้าๆ คนตลอดเวลา (เพื่อเป็นการรักษาความแรงของ alcohol ให้สูง
16
Solution, syrup, elixir, tincture, etc. By Hilston 21 & Gift 83 & MintHG 64
(หัวกระดาษสามารถลบได้ค่ะ)
17
Solution, syrup, elixir, tincture, etc. By Hilston 21 & Gift 83 & MintHG 64
(หัวกระดาษสามารถลบได้ค่ะ)
วิธีการเตรียม
ใช้หลัก simple solution แยกละลายเป็น 2 บีกเกอร์ บีกเกอร์เฟสน้าและบีกเกอร์เฟส alcohol
1. บีกเกอร์เฟสน้า: น้าปริมาตร ¾ + citric acid
2. บีกเกอร์เฟส alcohol: alcohol + theophylline
3. ค่อยๆเทบีกเกอร์เฟสน้าลงบีกเกอร์เฟส alcohol พร้อมคนตลอดเวลาขณะที่เทด้วยแท่งแก้ว
4. เติมสารให้ความหวานต่างๆ ลงไปตามความหนืดจากน้อย->มาก (sorbitol solution->glycerin-
>syrup) 5. แต่งรสชาติด้วย flavoring agent และปรับปริมาตรในกระบอกตวง
ความเข้ากันไม่ได้
- การผสมยาอิลิกเซอร์ที่มีความแรงของ alcohol ต่าเข้ากับยาทิงเจอร์และยาสกัดเหลวที่มีปริมาณ alcohol
สูงจะทาให้เกิดการตกตะกอน
- สารเพิ่มความหนืดบางชนิดไม่ทน alcohol (เกิดการตกตะกอน) เช่น tragacanth และ acacia รวมถึงสาร
ก่อเจล
18
Solution, syrup, elixir, tincture, etc. By Hilston 21 & Gift 83 & MintHG 64
(หัวกระดาษสามารถลบได้ค่ะ)
4. ยาเตรียมรูปแบบของเหลวใสชนิดอื่นๆ (เพิ่มเติมแต่ไม่น่าออกสอบ)
ชนิดของยาเตรียมรูปแบบของเหลวใส แบ่งตาม solute และ solvent
รูปแบบ Solute Solvent
Solution ของแข็ง/ของเหลวที่ไม่ระเหย น้า/สารละลายผสมที่ไม่ใช่น้า
Aromatic water ของแข็ง/ของเหลวหอมระเหย น้า
Spirit ของแข็ง/ของเหลวหอมระเหย น้า/สารละลายผสมที่ไม่ใช่น้า
Syrup น้าตาล/สารรสหวาน น้า
Elixir น้าตาล น้า/สารละลายผสมที่ไม่ใช่น้า
Tincture สารสกัด น้า/สารละลายผสมที่ไม่ใช่น้า
ส่วนประกอบ
1. ตัวยาสาคัญ ได้แก่ volatile oil, aromatic or volatile substance
2. น้ากระสายยา คือ purified water
ประโยชน์ โดยทั่วไปน้าปรุงหอมจะใช้ประโยชน์เป็นสารแต่งกลิ่นและรสหรือใช้เป็นน้ากระสายยาที่มีกลิ่นหอม
ตัวอย่างสูตรตารับ
Rx Peppermint Water NF
Peppermint Oil 2 ml
Purified Water to 100 ml
Talc. 15 g
เตรียมโดยวิธีการละลายธรรมดา (solution method)
1. บดผสม peppermint oil กับ talc. 15 g ให้เข้ากันจนน้ามันกระจายตัวทั่ว talc.
2. เติมน้าบริสุทธิ์ 1000 ml เขย่าให้เข้ากันดีประมาณ 10 นาที กรองส่วนผสมผ่านกระดาษกรองที่ทาให้ชื้น
ด้วยน้าบริสุทธิ์จนได้สารละลายใส ถ้าไม่ใสให้กรองซ้าแล้วปรับปริมาตรให้ครบผ่านกระดาษกรองอันเดิม
หมายเหตุ Talc. ทาหน้าที่เป็นสารช่วยกระจาย (distribution agent) โดยเร่งการละลายของน้ามันหอม
ระเหยในน้าให้เร็วขึ้น เพราะช่วยดูดซับน้ามันหอมระเหยและกระจายออกเป็นอนุภาคเล็กๆไว้ที่ผิวของอนุภาค
ทาให้พื้นผิวในการสัมผัสกับน้ามีมากขึ้น จึงได้สารละลายอิ่มตัวในเวลารวดเร็วขึ้น และทาหน้ าที่เป็นสารช่วย
กรอง (filter aid) ทาให้กรองได้สารละลายใสได้ง่ายขึ้น
20
Solution, syrup, elixir, tincture, etc. By Hilston 21 & Gift 83 & MintHG 64
(หัวกระดาษสามารถลบได้ค่ะ)
ส่วนประกอบ
1. ตัวยาสาคัญ คือ volatile หรือ aromatic substance ชนิดเดียวหรือหลายชนิดร่วมกัน
2. Vehicle คือ Alcohol หรือ Alcohol ผสมน้า โดยทั่วไปแล้วในตารับเหล้ายาจะมีปริมาณ alcohol
ที่สูงทาให้สารหอมระเหยในเหล้ายาละลายได้ดี จึงมีความเข้มข้นของตัวยาสูงกว่าในน้าปรุงหอม
3. สารอื่นๆ ที่เหมาะสม
21