Professional Documents
Culture Documents
RC Floor
Solid slab
Joist Floor or
Ribbed slab
Flat slab
Page 2
Solid Slab
Page 3
Solid Slab
m = LS
โดยที่
ั ้ ของพืน
S = ความยาวด ้านสน ้ รูปสเี่ หลีย
่ ม
L = ความยาวด ้านยาวของพืน ้ รูปสเี่ หลีย
่ ม
Page 5
Solid Slab Design
One-way slab VS. Two-way slab
ข ้อกาหนดในการเสริมเหล็กของพืน ้
1. เหล็กเสริมต ้องใชเหล็ ้ กไม่เล็กว่า 6 mm
2. ระยะเรียงเหล็กไม่เกิน 3 เท่าของความหนาของพืน ้
3. ถ ้าเป็ นเหล็กกลมพืน ้ ทีเ่ หล็กเสริมต ้องไม่น ้อยกว่า 0.25% ของหน ้าตัดแผ่นพืน ้
4. ถ ้าเป็ นเหล็กข ้ออ ้อยพืน้ ทีเ่ หล็กเสริมต ้องไม่น ้อยกว่า 0.20% ของหน ้าตัดแผ่นพืน ้
5. การคานวณให ้คิดเสมือนออกแบบคานทีม ี น ้าตัดสเี่ หลีย
่ ห ่ มกว ้าง 1.00 m โดยมี
ระยะลึกตามความหนาของแผ่นพืน ้
Page 6
Moment in Solid Slab
การเกิดโมเมนต์ดด ั ในแผ่นพืน ้
เมือ ่ แผ่นพืน ้ รับน้ าหนักจะเกิดการแอ่นตัวลงมาเป็ นระยะ h
ทาให ้แผ่นพืน ้ หมุนตัวลงมาด ้วยมุม
โดยด ้านสน ั ้ จะมีมม ุ 1 และด ้านยาว 2 ซงึ่ 1 > 2
ดังนัน ้ ด ้านสน ั ้ จะเกิดโมเมนต์ดด ั MS และด ้านยาวเกิดโมเมนต์ดด ั ML
แต่ในสภาพจริงแผ่นพืน ้ รับแรงกระจายไม่ใชแ ่ รง P ดังรูป จะทาให ้เกิดโมเมนต์ดด ั
ทีข
่ อบแผ่นพืน ้ เป็ นลบและกลางแผ่นพืน ้ เป็ นบวก และตาแหน่งทีม ่ แ
ี รงเฉือนสูงสุด
จะอยูท ่ รี่ ะยะ S/5 และ L/5 จากขอบ
เนือ่ งจาก MS > ML ดังนัน ้ เหล็กเสริมด ้านสนั ้ จึงเป็ นเหล็กเสริมเอกจึงต ้องวางให ้มี
ความลึกประสท ิ ธิผลมากทีส ่ ด
ุ และเหล็กทางยากเป็ นเหล็กเสริมรองวางซอนถั ้ ด
เข ้าไปอยูช ่ น ั ้ บน
Page 7
RC Slab Design
โมเมนต์ทเี่ กิดขึน
้ ในคานกว ้าง 1.00 m
M = CwS 2
C = สมั ประสท
ิ ธิข
์ องโมเมนต์ของแผ่นพืน ้
w= น้ าหนักบรรทุกทีก่ ระทาต่อพืน ้ (kg/m2)
S = ความยาวของด ้านสน ั ้ (m)
โดยที่ M<M1 และถ ้า M>M1 ให ้เพิม ่ ความหนาของแผ่นพืน
้ โดยที่ 𝑡 ≥ 𝑆+𝐿
90
M
AS = fsjd
พืน
้ ที่ As ทีไ่ ด ้เป็ นพืน
้ ทีต
่ อ
่ ความกว ้าง 1.00 m ของพืน
้
Page 8
RC Slab Design
Page 9
RC Slab Design
TABLE OF MOMENT COEFICIENT.
CASE 1 CASE 2 CASE 3 CASE 4 CASE 5
-M -M -M -M -M -M -M -M -M -M
m +M m +M m +M m +M m +M
cont disc cont disc cont disc cont disc cont disc
Short Span
0.5 0.083 0.062 0.5 0.085 0.042 0.064 0.5 0.09 0.045 0.068 0.5 0.098 0.049 0.074 0.5 0 0.055 0.083
0.6 0.063 0.047 0.6 0.069 0.035 0.052 0.6 0.078 0.039 0.059 0.6 0.09 0.045 0.068 0.6 0 0.053 0.080
0.7 0.055 0.041 0.7 0.062 0.031 0.047 0.7 0.071 0.036 0.054 0.7 0.082 0.041 0.062 0.7 0 0.047 0.072
0.8 0.048 0.036 0.8 0.055 0.027 0.041 0.8 0.064 0.032 0.048 0.8 0.074 0.037 0.056 0.8 0 0.043 0.064
0.9 0.04 0.03 0.9 0.048 0.024 0.036 0.9 0.057 0.028 0.043 0.9 0.066 0.033 0.05 0.0 0 0.038 0.057
1.0 0.033 0.025 1.0 0.041 0.021 0.031 1.0 0.049 0.025 0.037 1.0 0.058 0.029 0.044 1.0 0 0.033 0.050
Long Span
1.0 0.033 0.025 1.0 0.041 0.021 0.031 1.0 0.049 0.025 0.037 1.0 0.058 0.029 0.044 1.0 0 0.033 0.050
Page 10
Example 4 RC Slab Design
พื้นชั้นดาดฟ้าของ Assignment 1 ตึกแถว 3 คูหา
กาหนดให้อัตราส่วนโมดูลัส n = 10, f’c = 250 ksc, fy = 2400 ksc
จากมาตรฐาน วสท.
fc = 0.45f’c = 0.45*250 = 112.5 ksc
4.00
S2 S1
fs = 0.50fy = 0.50*2400 = 1200 ksc
คานวณโมเมนต์บนแผ่นพืน ้
M = CwS 2
4.00
S2 S1
-Mcont = 0.049*(288+100)*42 = 304.2 kg.m
-Mdist = 0.025*(288+100)*42 = 155.2 kg.m
4.00
Page 11
Example 4 RC Slab Design
พื้นชั้นดาดฟ้าของ Assignment 1 ตึกแถว 3 คูหา จงออกแบบพื้น S2
กาหนดให้อัตราส่วนโมดูลัส n = 10, f’c = 250 ksc, fy = 2400 ksc
คานวณปริมาณเหล็กเสริมด ้านสน ั ้ d=12-2.5=9.5 cm
1) -Mcont = 304.2 kg.m
4.00
S2 S1
M 304.2
AS = fsjd =1200∗0.8387∗0.095 =3.18 cm2/m
4.00
S2 S1
3) +M = 229.7 kg.m
M 229.7
AS = fsjd =1200∗0.8387∗0.095=2.40 cm2/m
4.00 2.00
S2 S1
M 304.2
AS = fsjd =1200∗0.8387∗0.085=3.56 cm2/m
4.00
S2 S1
3) +M = 229.7 kg.m
M 229.7
AS = fsjd =1200∗0.8387∗0.085=2.68 cm2/m
4.00 2.00
Page 14
ขนาดและมาตรฐานของเหล็กเสริม
Diameter Number of reinforced steel (bar)
Ø weight o 1 2 3 4 5 6 7 8 9
Type
(kg/m) (cm)
mm In As (cm2)
6 1/4 0.222 1.885 0.283 0.565 0.848 1.131 1.414 1.696 1.978 2.262 2.544
9 3/8 0.499 2.828 0.636 1.272 1.909 2.545 3.182 3.820 4.455 5.090 5.726
12 1/2 0.888 3.770 1.131 2.262 3.393 4.526 5.650 6.785 7.915 9.045 10.180
15 5/8 เหล็ก 1.390 4.710 1.767 3.534 5.295 7.065 8.830 10.600 12.360 14.140 15.900
กลม
19 3/4 RB 2.230 5.965 2.835 5.670 8.500 11.340 14.170 17.020 19.850 22.680 25.500
22 7/8 2.980 6.905 3.801 7.602 11.400 15.200 19.000 22.800 26.600 30.400 34.200
25 1 3.850 7.850 4.909 9.818 14.730 19.640 24.530 29.450 34.380 39.280 44.200
28 1 1/8 4.830 8.790 6.158 12.320 18.480 24.630 30.800 36.960 43.120 49.280 55.420
12 1/2 0.888 3.771 1.130 2.260 3.390 4.520 5.650 6.780 7.910 9.040 10.170
16 5/8 1.580 5.029 2.010 4.020 6.030 8.040 10.050 12.060 14.070 16.080 18.090
19 3/4 2.230 5.971 2.840 5.680 8.520 11.360 14.200 17.040 19.880 22.720 23.560
20 3/4 ข้อ 2.470 6.290 3.140 6.280 9.420 12.560 15.700 18.840 21.980 25.120 28.260
อ้อย
22 7/8 DB 2.980 6.910 3.800 7.600 11.400 15.200 19.000 22.800 26.600 30.400 34.200
25 1 3.850 7.857 4.910 9.820 14.700 19.600 24.500 29.400 34.400 39.300 44.200
28 1 1/8 4.830 8.800 6.160 12.320 18.480 24.640 30.800 36.960 43.120 49.280 55.440
32 1 1/4 6.310 10.060 8.040 16.080 24.120 32.160 40.200 48.240 56.280 64.320 72.360
Page 15
Joist Slab
Page 16
Joist Slab
ข ้อกาหนดทั่วไป
พืน ้ ต ้องมีความหนา (t) > 0.05 m
ระยะระหว่างตง ≥ 0.90 m
ความกว ้างของ > 0.08 m
เหล็กเสริมตามยาวของตงต ้องไม่เล็กกว่า 1-RB12
Page 17
Grand Slab
B B
่ นา้ อ ัดแน่น
ทรายชุม
ปั จจุบน ้
ั จึงนิยมแก ้ปั ญหาด ้วยการใชทรายถมรายน ่ แล ้วบดอัดให ้แน่น แล ้วปู
้ าให ้ชุม
พลาสติกทาเป็ นแบบเพือ ่ เทพืน้ คอนกรีต
B B
่ นา้ อ ัดแน่น
ทรายชุม
Page 18
Grand Slab
B B
่ นา้ อ ัดแน่น
ทรายชุม
ข ้อกาหนดทั่วไป
ความหนาของแผ่นพืน ้ (t) > 0.10 m
เหล็กเสริมขนาด #RB6 @ 0.20 m หรือ #RB6 @ 0.25 หรือ #RB9 @ 0.25
จัดเหล็กให ้อยูก
่ งึ่ กลางของความหนาของแผ่นพืน ้ หรืออยูช ิ ผิวบน
่ ด
บริเวณขอบแผ่นพืน ้ ควรทาให ้หน ้าเพิม ่ ขึน
้ อีก 0.05 m
การออกแบบเหล็กเสริมเพือ ่ ให ้รับน้ าหนักมากกว่านีใ้ ห ้ออกแบบตามหลักการของ
Pavement Design ของ Highway Engineering
Page 19
Flat Slab
แผนพืน ้ แบบนีเ้ ป็ นแผ่นพืน ้ คอนกรีตเสริมเหล็กอย่างน ้อยสองทางทีต ่ งั ้ ฉากกัน
โดยปกติจะไม่มค ี านรองรับน้ าหนัก โดยน้ าหนักจากพืน ้ จะถูกถ่ายไปยังเสา
โดยตรง
ในกรณีทต ี่ ้องรับน้ าหนักบรรทุกทีห ่ วั เสามาก จาเป็ นต ้องขยายพืน ้ ทีร่ ับน้ าหนักที่
หัวเสา เพือ ่ ใชต้ ้านทางแรงเฉือนทะลุรอบหัวเสา
ปั จจุบน
ั แผ่นพืน ้ แบบนีน ้ ย ้
ิ มก่อสร ้างโดยใชเทคโนโลยี คอนกรีตอัดแรง
(Prestressed Concrete) ซงึ่ อาจจะเป็ น Pretensioned หรือ Posttensioned
Technique
Page 20
Flat Slab
ข ้อกาหนดทั่วไป
แผ่นพืน ้ ไรคานต ้องมีอย่างน ้อยสามชว่ งติดต่อกันในแต่ละทิศทาง
ชว่ งแผ่นพืน ้ อาจจะเป็ นสเี่ หลีย่ มจัตรุ ัสหรือเป็ นสเี่ หลีย
่ มผืนผ ้า และมีอต ั ราสว่ น
ระหว่างความยาวต่อความกว ้างของชว่ งไม่เกิน 1.33
ความยาวชว่ งเสาทีต ่ ด
ิ ต่อกันในแต่ละทิศทาง จะต่างกันได ้ไม่เกินร ้อยละ 20 ของ
ระยะชว่ งยาว
โครงสร ้างสูงได ้ไม่เกิน 40 m และความสูงของแต่ละชน ั ้ ต ้องไม่เกิน 4.00 m
แผ่นพืน ้ ไร ้คานชว่ งหนึง่ ๆให ้ประกอบด ้วยแถบกลางและแถบเสาในแต่ละทิศทาง
แถบกลางมีความกว ้างเท่ากับครึง่ หนึง่ ของชว่ งพืน ้ และเหมือนกันทัง้ สองข ้าง
ของเสนแบ่ ้ งศูนย์กลางของชว่ งพืน ้ นัน
้
แถบเสามีสองแถบ แต่ละแถบอยูต ่ ด ้
ิ กับเสนแบ่ งศูนย์กลางของเสา และกว ้าง
หนึง่ ในสข ี่ องชว่ งพืน
้
Page 21
Flat Slab
Page 22
Flat Slab
Page 23
Flat Slab
Page 24
Flat Slab
Page 25
Flat Slab
Page 26
Flat Slab
Page 27
Flat Slab
Page 28
Flat Slab
Page 29
Flat Slab
Page 30
การเปิดช่องของแผ่นพื้น
ข ้อกาหนดทั่วไป
ปริมาณเหล็กเสริมขนานขอบและทแยงมุม >
ปริมาณเหล็กเสริมทีห ่ ายไปจากการเปิ ดชอ ่ ง
ต ้องคานึงถึงระยะฝั งเหล็กให ้เพียงพอและเหล็ก
เสริมพิเศษไม่ควรตา่ กว่า RB12
โดยปกติในการก่อสร ้างมักจะนิยมยกพืน ้ ตรงกลาง
S S
ให ้สูงขึน
้ ถึง เพือ
่ เวลาถอดไม ้แบบแล ้วพืน
้
250 300
จะแอ่นตัวลงไปพอดีทาให ้พืน ้ เรียบ แต่สาหรับ
พืน
้ ทีม่ ก ่ ง การแอ่นตัวของพืน
ี ารเปิ ดชอ ้ จะมีมากขึน
้
S S
ดังนัน
้ จึงควรจะเผือ ่ การยกพืน
้ ประมาณ ถึง
150 100
Page 31