Professional Documents
Culture Documents
ตัวหารรวมมากที่สุด (ห.ร.ม.)
ตัวหารของ 16 คือ 1, 2, 4, 8, 16
ตัวหารของ 20 คือ 1, 2, 4, 5, 10, 20
ตัวหารรวมของ 16 และ 20 คือ 1, 2, 4
ตัวหารรวมที่มีคามากที่สุดของ 16 และ 20 คือ 4
เราเรียกตัวหารรวมที่มีคามากที่สุดวา ตัวหารรวมมากที่สุด ใชตัวยอวา ห.ร.ม.
แบบฝกหัดที่ 32
จงหา ห.ร.ม. ของจํานวนตอไปนี้
(1) 10, 14 (2) 9, 12 (3) 14, 28
(4) 8, 27 (5) 16, 28 (6) 18, 24
(7) 6, 4, 22 (8) 10, 20, 30 (9) 18, 27, 63
การหา ห.ร.ม. โดยวิธีแยกตัวประกอบ
การหา ห.ร.ม. ของจํานวนตาง ๆ เราอาจใชการแยกตัวประกอบชวยหาได โดยนําตัวประกอบที่
เหมือนกันมาคูณกัน ตัวอยางเชน เราจะหา ห.ร.ม. ของ 18 และ 27 เมือ่ แยกตัวประกอบของ 18 และ 27
จะไดดงั นี้
18 = 2 × 3 × 3
27 = 3 × 3 × 3
จํานวนที่มีคามากที่สุดที่หาร 18 และ 27 ลงตัว คือจํานวนที่อยูในรูป 3 × 3 นั่นคือ ห.ร.ม. ของ 18
และ 27 คือ 3 × 3 = 9
ลองดูตัวอยางใหม เราจะหา ห.ร.ม. ของ 40 และ 30
40 = 2 × 2 × 2 × 5
30 = 2 × 3 × 5
จํานวนที่มีคามากที่สุดที่หาร 40 และ 30 ลงตัว คือ จํานวนที่อยูในรูป 2 × 5 นั่นคือ ห.ร.ม. ของ 40
และ 30 คือ 2 × 5 = 10
แบบฝกหัดที่ 33
จงหา ห.ร.ม. ของจํานวนตอไปนี้
(1) 16, 36 (2) 15, 25 (3) 26,34
(4) 12, 27 (5) 35, 21 (6) 42, 64
(7) 49, 56, 63 (8) 15, 30, 45 (9) 18, 27, 54
การหา ห.ร.ม. โดยวิธีการตั้งหาร
ในการหา ห.ร.ม. ของจํานวนหลาย ๆ จํานวน เราอาจใชวิธีตั้งหารทํานองเดียวกับการแยก
ตัวประกอบ โดยวิธีตั้งหารได ตัวอยางเชน เราจะหา ห.ร.ม. ของ 12, 18 และ 24 เราสามารถทําไดดังนี้
(1) หาจํานวนเฉพาะที่เปนตัวหารรวมของ 2 ) 12, 18, 24
12, 18 และ 24 เชน นํา 2 ไปหาร 12, 18 และ 24 6, 9, 12
ไดผลหารเปน 6, 9 และ 12 ตามลําดับ
(2) หาจํานวนเฉพาะที่เปนตัวหารรวมของ 2 ) 12, 18, 24
6, 9 และ12 ซึ่งเปนผลหารที่ได คือ นํา 3 ไปหาร 3) 6, 9, 12
6, 9 และ 12 ไดผลหารเปน 2, 3, 4 ตามลําดับ 2, 3, 4
(3) หาจํานวนเฉพาะที่เปนตัวหารรวมของ 2 ) 12, 18, 24
2, 3 และ 4 ซึ่งเปนผลหารที่ได แตไมมีจาํ นวนเฉพาะ 3) 6, 9, 12
ดังกลาว 2, 3, 4
ดังนั้น ตัวหารรวมมากที่สุด หรือ ห.ร.ม. ห.ร.ม. ของ 12, 18 และ 24
ของ 12, 18 และ 24 คือ ผลคูณของตัวหารรวมทุกตัว คือ 2 × 3 = 6
ซึ่งเทากับ 2 × 3 = 6 ตอบ 6
แบบฝกหัดที่ 34
จงหาตัวคูณรวมของจํานวนตอไปนี้
(1) 2, 3 (2) 4, 8 (3) 6, 9
(4) 10, 15 (5) 4, 6, 8 (6) 10, 15, 20
ตัวคูณรวมนอยที่สุด (ค.ร.น.)
จํานวนที่มี 6 เปนตัวประกอบ คือ 6, 12, 18, 24, 30, 36, 42, 48, 54, ....
จํานวนที่มี 8 เปนตัวประกอบ คือ 8, 16, 24, 32, 40, 48, 56, 64, 72, ....
ตัวคูณรวมของ 6 และ 8 คือ 24, 48, .....
ตัวคูณรวมที่มีคานอยที่สุดของ 6 และ 8 คือ 24
เราเรียกตัวคูณรวมที่มีคานอยที่สุดวา ตัวคูณรวมนอยที่สุด ใชตัวยอวา ค.ร.น.
ดังนั้น ตัวคูณรวมนอยที่สุด หรือ ค.ร.น. ของ 6 และ 8 คือ 24
ตัวอยาง จงหา ค.ร.น. ของ 4 และ 6
วิธีทํา จํานวนที่มี 4 เปนตัวประกอบ คือ 4, 8, 12, 16, 20, 24, 28, 32, 36, ......
จํานวนที่มี 6 เปนตัวประกอบ คือ 6, 12, 18, 24, 30, 36, 42, 48, 54,.......
ตัวคูณรวมของ 4 และ 6 คือ 12, 24, 36, ........
ตัวคูณรวมนอยที่สุดหรือ ค.ร.น. ของ 4 และ 6 คือ 12
ตอบ 12
แบบฝกหัดที่ 35
จงหา ค.ร.น. ของจํานวนตอไปนี้
(1) 5, 6 (2) 2, 4 (3) 6, 9
(4) 10, 15 (5) 4, 6, 8 (6) 8, 10, 20
แบบฝกหัดที่ 36
จงหา ค.ร.น. ของจํานวนตอไปนี้
(1) 6, 10 (2) 30, 50 (3) 6, 9, 15
(4) 15, 20, 30 (5) 12, 20 (6) 15, 45
(7) 8, 14, 16 (8) 12, 48, 60
แบบฝกหัดที่ 37
จงหา ค.ร.น. ของจํานวนตอไปนี้
(1) 16, 24 (2) 15, 45 (3) 9, 36, 24 (4) 4, 12, 24, 32
(5) 20, 28 (6) 16, 30, 48 (7) 14, 28, 49 (8) 44, 66, 99
1
1.1.2 จานวนคู่และจานวนคี่
1.2 จานวนเฉพาะ
จำนวนเฉพำะ คือ ……………………………………………………………………………………………….
การหารด้ วย 2 ลงตัว
จำนวนนับที่มีหลักหน่วยเป็ น 0 , 2 , 4 , 6 หรื อ 8 จะหำรด้วย 2 ลงตัว
การหารด้ วย 3 ลงตัว
จำนวนนับใดๆจะหำรด้วย 3 ลงตัว ก็ต่อเมื่อ ผลบวกของเลขโดดทุกหลักของจำนวนนับนั้นหำรด้วย 3 ลงตัว
เช่น 159 หำรด้วย 3 ลงตัว เพรำะ 1+5+9 = 15 ซึ่ง 15 หำรด้วย 3 ลงตัว
2,358 หำรด้วย 3 ลงตัว เพรำะ 2+3+5+8 = 18 ซึ่ง 18 หำรด้วย 3 ลงตัว
1,234,321 หำรด้วย 3 ไม่ลงตัว เพรำะ 1+2+3+4+3+2+1 = 16 ซึ่ง 16 หำรด้วย 3 ไม่ลงตัว
การหารด้ วย 4 ลงตัว
จำนวนนับที่หำรด้วย 4 ลงตัว ก็ต่อเมื่อ จำนวนที่ประกอบด้วยเลขโดด 2 สุดท้วยต้องหำรด้วย 4 ลงตัว
เช่น 1,248 หำรด้วย 4 ลงตัว เพรำะ 48 หำรด้วย 4 ลงตัว
125,521 หำรด้วย 4 ไม่ลงตัว เพรำะ 21 หำรด้วย 4 ไม่ลงตัว
การหารด้ วย 5 ลงตัว
จำนวนที่หำรด้วย 5 ลงตัว ก็ต่อเมื่อ เลขโดดตัวสุดท้ำยต้องเป็ น 0 หรื อ 5
เช่น 30 , 25 , 2,450 หรื อ 12,945 หำรด้วย 5 ลงตัว เพรำะเลขโดดของทุกจำนวนต่ำงลงท้ำยด้วย 0 หรื อ 5
แบบฝึ กทักษะที่ 1
กำหนดจำนวนดังต่อไปนี้ 25 32 124 779 3,456 2,432 7,240 7,392 34,563
1.3 การแยกตัวประกอบ
กำรแยกตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ คือ กำรเขียนจำนวนนับนั้น ในรู ปกำรคูณกัน
ของตัวประกอบเฉพำะ
3
วิธีที่ 2 โดยวิธีหารสั้ น
ตัวอย่ างที่ 2 จงแยกตัวประกอบของ 360 จงแยกตัวประกอบของ 132
แบบฝึ กทักษะที่ 2
จงแยกตัวประกอบของจำนวนในแต่ละข้อต่อไปนี้
1) 36 = …………………………………………………………………………………………………………………
2) 48 = …………………………………………………………………………………………………………………
3) 200 = ………………………………………………………………………………………………………………
4) 180 = ……………………………………………………………………………………………………………..
5) 832 = …………………………………………………………………………………………………………….
4
นั่นคือ ถ้ำ a และ b เป็ นจำนวนนับแล้ว ห.ร.ม. ของ a และ b ก็คือ จำนวนนับทีม่ ำกที่สุดที่นำไปหำร
a และ b ลงตัว นัน่ เอง
2) โดยวิธีแยกตัวประกอบ
ตัวอย่ างที่ 4 จงหำ ห.ร.ม. ของ 12 , 18 และ 24
18 = …………………………………………………………………………………..
24 = …………………………………………………………………………………..
3) โดยการหารสั้ น
ตัวอย่ างที่ 5 จงหำ ห.ร.ม. ของ 54 , 60 และ 90
วิธีทา
แบบฝึ กทักษะที่ 3
1.จงหำ ห.ร.ม ของจำนวนต่อไปนี้ โดยวิธีแยกตัวประกอบ
1) 18 และ 42 2) 56 และ 98
9, 271
ตัวอย่ างที่ 10 จงทำ ให้เป็ นเศษส่ วนอย่ำงต่ำ
19, 783
8
2) ใช้ ในการแบ่ งสิ่ งของซึ่งไม่ เท่ากัน ให้ เป็ นส่ วนๆ ทีย่ าวเท่ ากัน และยาวที่สุด
ตัวอย่ างที่ 11 มีเชือกอยู่ 3 เส้น วัดได้ยำว 35 , 49 และ 63 เซนติเมตร ตำมลำดับ ถ้ำจะแบ่งเชือกให้เป็ นเส้นสั้นๆ
แต่ให้ยำวเท่ำกันทุกเส้น จะได้เชือกยำวที่สุดเท่ำไร และได้เชือกกี่เส้น
ตัวอย่ างที่ 12 รั้วบ้ำนมีควำมยำว 45 เมตร และกว้ำง 35 เมตร หำกปั กเสำเพือ่ ขึงรั้วลวดหนำมโดยรอบ โดยที่เสำแต่ละ
ต้นห่ำงเท่ำๆกัน จะต้องปั กเสำห่ำงกันเท่ำไรจึงจะประหยัดเสำที่สุด และใช้เสำกี่ตน้
ตัวอย่ างที่ 13 ที่ดินหนึ่งเป็ นรู ปสี่ เหลี่ยมผืนผ้ำขนำด 56 105 ตำรำงเมตร หำกต้องกำรแบ่งเป็ นรู ปสี่เหลี่ยมจัตุรัส
ให้แต่ละแปลงมีพ้นื ที่มำกที่สุดและมีขนำดเท่ำกัน จะแบ่งได้ท้งั หมดกี่แปลง และแต่ละแปลงมีขนำดเท่ำไร
ตัวอย่ างที่ 14 ถ้ำ 6 เป็ น ห.ร.ม. ของ 72 และ 210 แล้ว จงหำตัวประกอบร่ วมของ 72 และ 210
9
ข้ อสั งเกต
ตัวประกอบร่ วมของจำนวนนับตั้งแต่สองจำนวนขึ้นไป คือ จำนวนนับที่หำร ห.ร.ม. ของจำนวนนับนั้นลงตัว
ตัวอย่ างที่ 15 ถ้ำ 72 เป็ น ห.ร.ม. ของ 720 และ 1,512 แล้ว จงหำตัวประกอบร่ วมของ 720 และ 1,512
ตัวอย่ างที่ 16 ถ้ำ A , B และ C เป็ นจำนวนนับ ซึ่ งมี ห.ร.ม. เป็ น 6 แล้ว จงหำผลคูณของตัวประกอบร่ วมทั้งหมด
ของ A , B และ C
แบบฝึ กทักษะที่ 4
1) จงหำจำนวนนับที่มำกที่สุดที่หำร 220 และ 540 ได้ลงตัว
2) จงหำจำนวนนับที่มำกที่สุดที่หำร 288 และ 654 แล้วเหลือเศษ 2 และ 6 ตำมลำดับ
3) จงหำจำนวนนับที่มำกที่สุดซึ่งหำร 380 , 768 และ 960 ได้ลงตัว
4) มีเชือกอยูส่ ำมเส้นยำว 42 , 48 และ 54 เซนติเมตร ถ้ำจะตัดเชือกทั้งสำมเส้นให้เป็ นท่อนๆให้เท่ำกันและยำวที่สุด
เท่ำที่จะทำได้ จะได้เชือกยำวท่อนละกี่เซนติเมตร และได้เชือกทั้งหมดกี่ทอ่ น
5) มีกระดำษกว้ำง 0.80 เมตร ยำว 1.30 เมตร ถ้ำต้องกำรตัดเป็ นรู ปสี่เหลี่ยมจัตุรัสให้มีขนำดใหญ่ที่สุดโดยไม่เหลือเศษ
จะตัดได้ท้งั หมดกี่แผ่น
6) โรงเรี ยนแห่ งหนึ่งมีนกั เรี ยนชั้นมัธยมศึกษำปี ที่ 1 , 2 และ 3 จำนวน 210 คน 240 คน และ 270 คน ตำมลำดับ
ถ้ำทำงโรงเรี ยนต้องกำรแบ่งนักเรี ยนออกเป็ นกลุ่ม กลุ่มละเท่ำๆกัน โดยให้นกั เรี ยนในแต่ละกลุ่มเป็ นนักเรี ยนใน
ชั้นเดียวกัน จะแบ่งนักเรี ยนได้อย่ำงมำกที่สุดกลุ่มละกี่คน และแบ่งได้ท้งั หมดกี่กลุ่ม
125
7) จงทำ ให้เป็ นเศษส่วนอย่ำงต่ำโดยใช้หลักกำรของ ห.ร.ม.
225
11
ตัวอย่ างที่ 3 จงหำ ค.ร.น. ของ 25 , 30 และ 40 ตัวอย่ างที่ 4 จงหำ ค.ร.น. ของ 8 , 32 และ 56
2. โดยวิธีหารสั้ น
ตัวอย่ างที่ 5 จงหำ ค.ร.น. ของ 18 และ 30 ตัวอย่ างที่ 6 จงหำ ค.ร.น. ของ 30 และ 40
12
ตัวอย่ างที่ 7 จงหำ ค.ร.น. ของ 12 , 16 และ 20 ตัวอย่ างที่ 8 จงหำ ค.ร.น. ของ 14 , 28 และ 63
5 3 1 5 1 4
ตัวอย่ างที่ 11 จงหำผลลัพธ์ของ ตัวอย่ างที่ 12 จงหำผลสำเร็จของ
7 4 6 6 4 9
13
2. ใช้ กับการทางานหลายๆ งานที่มีจุดเริ่มต้ นพร้ อมกัน แต่ ใช้ ช่วงเวลาต่ างกัน เพือ่ หำจุดที่พบกัน หรื อเริ่ มงำนใหม่พร้อม
กันอีกครั้งหนึ่ง
ตัวอย่ างที่ 13 นำรี นุกูลและนิวฒั น์ วิง่ รอบสนำมกีฬำแห่งหนึ่ง แต่ละคนใช้เวลำวิง่ รอบสนำม 1 รอบ ในเวลำต่ำงๆกัน
คือ 10 , 15 และ 20 นำที ตำมลำดับ หำกกำรวิง่ ของคนทั้งสำมคนเป็ นกำรวิง่ ออกกำลังกำยยำมเช้ำคนละหลำยๆ
รอบ เมื่อใดทั้งสำมคนจะวิง่ ผ่ำนจุดเริ่ มต้นพร้อมกันอีกครั้งหนึ่ง
ตัวอย่ างที่ 15 แดนตั้งนำฬิกำปลุก 4 เรื อน เรื อนที่หนึ่งปลุกทุกๆ 2 นำที เรื อนที่สองปลุกทุกๆ 4 นำที เรื อนที่สำมปลุกทุกๆ
5 นำที เรื อนที่สี่ปลุกทุกๆ 6 นำที ถ้ำให้นำฬิกำทุกเรื อนปลุกพร้อมกัน เมื่อเวลำ 06.00 น. จงหำว่ำนำฬิกำทั้งสี่
เรื อนจะปลุกพร้อมกันเป็ นครั้งที่สี่เมื่อเวลำเท่ำใด
14
ตัวอย่ างที่ 17 จงหำจำนวนนับที่นอ้ ยที่สุด ซึ่ งเมื่ อหำรด้วย 4 , 8 และ 10 จะเหลือเศษ 2 เท่ำกัน
ตัวอย่ างที่ 21 ผลคูณของ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของเลขสองจำนวนเป็ น 33,600 ถ้ำจำนวนหนึ่งเป็ น 120 อีกจำนวน
หนึ่งมีค่ำเท่ำใด
16
2) ข้อควำมใดไม่ถูกต้อง
ก. จำนวนนับที่หำรจำนวนนับ a ลงตัว เรี ยกว่ำตัวประกอบของ a
ข. ถ้ำ a และ b เป็ นจำนวนนับ a จะเป็ นตัวประกอบของ a b
ค. ถ้า a และ b เป็ นจํานวนนับ a_ จะเป็ นตัวประกอบของ a
b
ง. จำนวนนับ a หำรจำนวนนับ b ลงตัว ก็ต่อเมื่อ มีจำนวนนับ c ซึ่ง b ac
6) ผลบวกของ ค.ร.น. ของ 72 และ 120 กับ ค.ร.น. ของ 225 และ 135 เท่ำกับข้อใดต่อไปน้ี
ก. 345 ข. 485 ค. 585 ง. 1,035
7) มีเชือก 3 เส้น ยาว 90 , 210 และ 330 เมตร ถ้าจะแบ่งเป็ นเส้นส้ันๆ ให้เท่ำๆกัน และยาวที่สุด
จะได้เชือกท้ังหมดกี่เส้น
ก. 20 เส้น ข. 21 เส้น ค. 30 เส้น ง. 31 เส้น
9) ถ้าจำนวนนับ 2 จำนวน มีผลคูณเท่ำกับ 170 และมี ห.ร.ม. เท่ำกับ 5 แล้ว ค.ร.น. ของจำนวนนับท้ังสองน้ี
เท่ำกับข้อใด
ก. 33 ข. 34 ค. 35 ง. 36
17
เพิ่มเติม
ขั้นตอนวิธีการหาร ( Division Algorithm)
ถ้ำ a และ b เป็ นจำนวนเต็ม โดยที่ b 0 แล้ว จะมีจำนวนเต็ม q และ r เพียงชุดเดียว
ซึ่ง a bq r โดย 0 r | b | เรี ยก q ว่ำ ผลหาร (quotient) และ r ว่ำ เศษเหลือ (remainder)
3. -52 , 11 4. 130 , 15
5. 100 , 17 6. 243 , 20
ตัวอย่ างที่ 7 ถ้ำ n เป็ นจำนวนเต็มบวกที่มำกที่สุดซึ่งหำร 90 เหลือเศษ 6 และหำร 150 เหลือเศษ 3 แล้ว n หำร 41
เหลือเศษเท่ำใด
ก. 5
ข. 6
ค. 18
ง. 20
1
สมบัตขิ องจํานวนนับ
จํานวนนับและการหารลง
จํานวนนับ คือ จํานวนเต็มทีมากกว่าศูนย์ได้ แก่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11, …
การหารลงตัว คือ การหารทีมีเศษเหลือเป็ นศูนย์หรือเรียกว่าไม่มีเศษ เช่น
24 8 = 3 ไม่มีเศษ กล่าวได้ วา่ 8 หาร 24 ลงตัวเขียนแทนด้ วยสัญลักษณ์ 824
30 4 = 7 เศษ 2 กล่าวได้ วา่ 4 หาร 35 ไม่ลงตัวเขียนแทนด้ วยสัญลักษณ์ 4 | 30
ตัวอย่ าง 1 จงตอบคําถามต่อไปนี
1) จงหาจํานวนนับเรียงต่อกันทีหารด้ วย 3 ลงตัวมา 5 จํานวน
………………………………………………………………………………….
2) จงหาจํานวนนับเรียงต่อกันทีหารด้ วย 4 ลงตัวมา 5 จํานวน
………………………………………………………………………………….
3) จงหาจํานวนนับเรียงต่อกันทีหารด้ วย 6 ลงตัวมา 5 จํานวน
………………………………………………………………………………….
4) จงหาจํานวนนับเรียงต่อกันทีหารด้ วย 2 และ 3 ลงตัวมา 5 จํานวน
………………………………………………………………………………….
5) จงหาจํานวนนับเรียงต่อกันทีหารด้ วย 2 และ 3 ลงตัวแต่หารด้ วย 4 ไม่ลงตัวมา 5จํานวน
………………………………………………………………………………….
ตัวประกอบของจํานวนนับ
ตัวประกอบ คือ จํานวนนับทีสามารถหารจํานวนนันได้ ลงตัว เราเรียกว่าเป็ นตัวประกอบของ
จํานวนนัน เช่น 2 เป็ นตัวประกอบของ 4 และจํานวนคูท่ กุ จํานวนมี 2 เป็ นตัวประกอบ , 5 เป็ นตัว
ประกอบของ 65 เป็ นต้น
ตัวอย่ าง 3 จงหาตัวประกอบทังหมดของจํานวนนับต่อไปนี
(1) ตัวประกอบของ 10 ได้ แก่ ………………………………………………..
(2) ตัวประกอบของ 24 ได้ แก่ ……………..…………………………………
(3) ตัวประกอบของ 21 ได้ แก่ …………….…………….……………………
(4) ตัวประกอบของ 13 ได้ แก่ …………….…………….……………………
(5) ตัวประกอบของ 36 ได้ แก่ ………………….………..……………………
(6) ตัวประกอบของ 48 ได้ แก่ ………………….……………………………..
(7) ตัวประกอบของ 64 ได้ แก่ ………………………..…….…………………
(8) ตัวประกอบของ 81 ได้ แก่ …………………..……….…...………………
(9) ตัวประกอบของ 97 ได้ แก่ ………………….……..………………………
(10) ตัวประกอบของ 100 ได้ แก่ …….……………………..……………………
3
ตัวอย่ าง 4 จงหาจํานวนนับจากเงือนไขต่อไปนี
(1) จํานวนนับทีน้ อยทีสุด ซึงมี 1, 2, 4 เป็ นตัวประกอบ คือ……………………………
(2) จํานวนนับทีน้ อยทีสุด ซึงมี 1, 2, 3 เป็ นตัวประกอบ คือ……………………………
(3) จํานวนนับทีน้ อยทีสุด ซึงมี 1, 3, 4 เป็ นตัวประกอบ คือ………..………………….
(4) จํานวนนับทีน้ อยทีสุด ซึงมี 2, 3, 5 เป็ นตัวประกอบ คือ……………………………
(5) จํานวนนับทีน้ อยทีสุด ซึงมี 1, 3, 4, 6, 8 เป็ นตัวประกอบ คือ ….………………….
(6) จํานวนนับทีน้ อยทีสุด ซึงมีเป็ นตัวประกอบต่างกัน 2 ตัว คือ…...…………………….
(7) จํานวนนับทีน้ อยทีสุด ซึงมีเป็ นตัวประกอบต่างกัน 3 ตัว คือ…...……….……………
(8) จํานวนนับทีน้ อยทีสุด ซึงมีเป็ นตัวประกอบต่างกัน 4 ตัว คือ…...……………………
(9) จํานวนนับทีน้ อยทีสุด ซึงมีเป็ นตัวประกอบต่างกัน 5 ตัว คือ…...……………………
(10) จํานวนนับทีน้ อยทีสุด ซึงมีเป็ นตัวประกอบต่างกัน 6 ตัว คือ…..………..………….
จํานวนเฉพาะและจํานวนประกอบ
จํานวนประกอบ คือ จํานวนทีมีตวั ประกอบมากกว่า 2 ตัว
เช่น 25 เป็ นจํานวนประกอบเพราะว่า 25 มีตวั ประกอบมากกว่า 2 ตัวได้ แก่ 1, 5, 25
8 เป็ นจํานวนประกอบเพราะว่า 8 มีตวั ประกอบมากกว่า 2 ตัวได้ แก่ 1, 2, 4, 8
จํานวนเฉพาะ คือ จํานวนทีมีตวั ประกอบเพียงสองตัวคือ1 และตัวมันเอง
เช่น 2 เป็ นจํานวนเฉพาะ เพราะว่า 2 มีตวั ประกอบ 2 ตัวได้ แก่ 1 และ 2
11 เป็ นจํานวนเฉพาะ เพราะว่า 11 มีตวั ประกอบ 2 ตัวได้ แก่ 1 และ 11
การหาจํานวนเฉพาะและตัวประกอบเฉพาะ
การหาจํานวนเฉพาะ นัน วิธีหนึงเราสามารถใช้ วิธีของ เอราโตสเตเนส (Eratoshenes) ซึง
วิธีดงั กล่าวเรียกว่า ตระแกรงเอราโตสเตเนส (The Sieve of Eratosthenes) ดังนี
ตัวอย่ าง 6 จงหาจํานวนเฉพาะทุกจํานวนระหว่าง 1 ถึง 100
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27 28 29 30
31 32 33 34 35 36 37 38 39 40
41 42 43 44 45 46 47 48 49 50
51 52 53 54 55 56 57 58 59 60
61 62 63 64 65 66 67 68 69 70
71 72 73 74 75 76 77 78 79 80
81 82 83 84 85 86 87 88 89 90
91 92 93 94 95 96 97 98 99 100
จากวิธีการหาจํานวนเฉพาะในตัวอย่าง 5 จงหาตอบคําถามต่อไปนี
(1) ดังนันจํานวนเฉพาะระหว่าง 1 ถึง 100 ได้ แก่ ……………………………………
………………………………………………………………………………….
(2) จํานวนเฉพาะตังแต่ 1 ถึง 100 มีทงหมด
ั ………………………….……….. จํานวน
(3) จํานวนเฉพาะทีน้ อยทีสุดคือ ……………………………...………….……………
(4) จํานวนเฉพาะตังแต่ 1 ถึง 100 ทีมีคา่ มากทีสุดคือ …………………………………..
(5) จํานวนเฉาะทีเป็ นเลขคูค่ ือ ………………………………………………….……..
(6) จํานวนเฉพาะตังแต่ 1 ถึง 100 ทีลงท้ ายด้ วย 1 ได้ แก่ ……………………………….
(7) จํานวนเฉพาะสองหลักทีน้ อยทีสุดคือ ………………………………………………
(8) จํานวนเฉพาะทีลงท้ ายด้ วย 5 มี ……….. จํานวน ได้ แก่ …………………………..
(9) อาจจะมีจํานวนคูท่ ีมากกว่า 100 ซึงเป็ นจํานวนเฉพาะได้หรือไม่ ……………………..
(10) จงหาจํานวนเฉพาะสามหลักทีมีคา่ น้ อยทีสุด ……………………………………….
(11) จํานวนเฉพาะสองจํานวนทีมีผลบวกเป็ นจํานวนเฉพาะ เช่น ………………………….
(12) จํานวนเฉพาะสองจํานวนทีมีผลต่างเป็ นจํานวนเฉพาะ เช่น ………………………….
(13) จํานวนเฉพาะสองจํานวนทีมีผลคูณเป็ นจํานวนเฉพาะ เช่น …………….…………….
(14) จํานวนเฉพาะทีมีคา่ มากทีสุดและทีมีคา่ น้ อยทีสุดต่างกันเท่ากับ ……………………...
(15) ผลบวกของจํานวนเฉพาะตังแต่ 1 ถึง 50 เท่ากับ ……………………………………
5
วิธีตรวจสอบการเป็ นจํานวนเฉพาะของจํานวนนับ
วิธีการตรวจสอบใช้ หลักการดังนี
ถ้ าเราต้ องการตรวจสอบว่า จํานวนนับ n เป็ นจํานวนเฉพาะหรือไม่ เรามีวิธีการดังนี
1) รวบรวมจํานวนเฉพาะ p ซึง p p < n
2) นําจํานวนเฉพาะทีรวบรวมได้ ไปหาร n
ถ้ าไม่มีจํานวนเฉพาะตัวใดหาร n ลงตัว แล้ ว n จะเป็ นจํานวนเฉพาะ
ถ้ ามีจํานวนเฉพาะตัวใดตัวหนึงหาร n ลงตัว แล้ ว n จะเป็ นจํานวนไม่ใช่เฉพาะ
การแยกตัวประกอบของจํานวนนับ
การแยกตัวประกอบ หมายถึง การเขียนจํานวนนันอยูใ่ นรูปผลคูณของตัวประกอบเฉพาะ
ตัวอย่ าง 9 จงแยกตัวประกอบของจํานวนนับต่อไปนี
12 = …………………………………………………………………..………..…
18 = ……………………………………….………………………………………
24 = ……………………………………….………………………………………
39 = …………………………………………..…………………………………..
30 = ………………………………………..……………………………………..
120 = ……………………………………..………………………………………..
108 = ……………………………….……..……………………………………….
1,000 = …………..………………………...…..…………………………………….
1,800 = ……….……….………………...…………………………………………..
ตัวอย่ าง 10 จงหาตัวหารร่วมมากของจํานวนต่อไปนี
(1) จงหาตัวหารร่วมมากของ 36 และ 48
ตัวหารหรือตัวประกอบของ 36 ได้ แก่ ……………………………….……………..
ตัวหารหรือตัวประกอบของ 48 ได้ แก่ ……………………………….……………..
ตัวหารร่วมของ 36 และ 48 ได้ แก่ ………………………………………………..
ตัวหารร่วมมากของ 45 และ 40 ได้ แก่ …………………………..………………..
(2) จงหาตัวหารร่วมมากของ 20 และ 21
ตัวหารหรือตัวประกอบของ 20 ได้ แก่ ……………………………………………..
ตัวหารหรือตัวประกอบของ 21 ได้ แก่ ……………………………………………..
ตัวหารร่วมของ 20 และ 21 ได้ แก่ ………………………………………………..
ตัวหารร่วมมากของ 20 และ 21 ได้ แก่ ……………………………………………
7
ดังนัน ห.ร.ม.ของ 170 และ 385 คือ …...… ดังนัน ห.ร.ม. 156 และ 288 คือ ….…
9
วิธีการหาตัวคูณร่ วมน้ อย
(1) ด้ วยวิธีการแยกตัวประกอบ
ตัวอย่ าง 15 จงหา ค.ร.น.ของจํานวนต่อไปนี
(1) 6 และ 8 (2) 18 และ 20
6 = …………………………………. 18 = ………………………...…….
8 = …………………………………. 20 = ………………………...…….
ค.ร.น. = ……………………………. ค.ร.น. = ……………………………
ตอบ …………………………………………………………………………….
(2) นักเรียน ป.6/1 , ป. 6/2 และ ป.6/3 มี 35 คน 49 คน และ 42 คน ตามลําดับ ถ้ า
ต้ องการแบ่งเป็ นนักเรียนเป็ นกลุม่ ๆให้ แต่ละกลุม่ เท่าๆกันและอยู่ในห้ องเดียวกัน จะแบ่ง
ได้ มากทีสุดกลุ่มละกีคน และได้ กีกลุ่ม
ตอบ …………………………………………………………………………….
(3) มีดินสอ 56 แท่ง ยางลบ 28 ก้ อน และปากกา 84 แท่ง แบ่งใส่ถงุ ๆละเท่าๆกันไม่ให้
เหลือและไม่ปนกันเลย จะแบ่งได้ มากทีสุดถุงละเท่าไรและได้ อย่างละกีถุง
ตอบ …………………………………………………………………………….
(4) กระดาษขนาด 30 36 ตารางเซนติเมตร ตัดเป็ นรูปสีเหลียมจัตรุ ัสเล็กๆให้ ได้ ขนาด
ใหญ่ ทสุี ดและไม่เหลือกระดาษทิงเลย จะได้ กีกระดาษรูปสีเหลียมจัตรุ ัสเล็กๆกีรูปและ
มีพืนทีเท่าไร
ตอบ …………………………………………………………………………….
(5) ต้ องการล้ อมรัวบริเวณบ้ านเป็ นรูปสีเหลียมผืนผ้ าขนาดกว้าง 90 เมตร และยาว 98 เมตร
ต้ องปั กเสาให้ ห่างกันต้นละเท่าไรจึงจะประหยัด และใช้ เสาทังหมดกีต้ น
ตอบ …………………………………………………………………………….
(6) ถ้ าต้ องการแบ่งแท่งไม้ ทรงสีเหลียมมุมฉากขนาด 24 12 30 ลูกบาศก์เซนติเมตร
ให้ เป็ นแท่งไม่ทรงลูกบาศก์ให้ ได้ ขนาดใหญ่ ทสุี ดโดยไม่มีเศษไม้ เหลืออยูเ่ ลย
จะแบ่งได้ กีลูก และมีขนาดกีลูกบาศก์เซนติเมตร
ตอบ …………………………………………………………………………….
(7) จงหาจํานวนทีมากทีสุดทีหาร 44, 50 และ 62 แล้ วเหลือเศษ 2 เท่ากัน
ตอบ …………………………………………………………………………….
13
ตอบ …………………………………………………………………………….
(9)* จงหาจํานวนทีมากทีสุดทีหาร 74, 98 และ 114 แล้ วจะเหลือเศษเท่ากันและจงหา
เศษทีเหลือเท่ากันนัน
ตอบ …………………………………………………………………………….
(10) ชายคนหนึงเลียงไก่ 38 ตัว เลียงเป็ ด 86 ตัว และเลียงห่าน 122 ตัว เขาต้ องการแบ่ง
ไก่ เป็ ด และห่าน เป็ นกลุม่ เล็กๆ แต่ละกลุม่ มีจํานวนตัวเท่าๆกัน และมีจํานวนตัวมาก
ทีสุดเท่าทีจะทําได้ โดยทีเมือแบ่งแล้ วให้ มีสตั ว์สํารองชนิดละ 2 ตัว เขาจะแบ่งสัตว์ได้
ทังหมดกีกลุม่ กลุม่ ละกีตัว
ตอบ …………………………………………………………………………….
(11)* ถ้ า 35 เป็ น ห.ร.ม. ของ 175 และ 385 แล้ ว จงหาตัวประกอบร่วมทังหมดของ 175
และ 385 [หลักการ : ตัวประกอบร่วมของจํานวนนับ คือ ตัวประกอบของ ห.ร.ม. ของ
จํานวนนับเหล่านัน]
ตอบ …………………………………………………………………………….
(12)* ถ้ า 24 เป็ น ห.ร.ม. ของ A , B และ C แล้ ว จงหาผลบวกของตัวประกอบร่วมทังหมด
ของ A, B และ C
ตอบ …………………………………………………………………………….
(13)* ถ้ า A = 2 2 3 a
B=b335
C=2c57
และ ห.ร.ม. ของ A, B และ C เท่ากับ 30 จงหาจํานวน A, B และ C
ตอบ …………………………………………………………………………….
14
(14)* ถ้ า ห.ร.ม. ของ A และ B เท่ากับ 72 และ ห.ร.ม. ของ B และ C เท่ากับ 60 จงหา ห.ร.
ม. ของ A, B และ C [หลักการ : ห.ร.ม. A, B, C = ห.ร.ม. ของ ห.ร.ม. A, B และ
ห.ร.ม. B, C ]
ตอบ …………………………………………………………………………….
(15) จงหา ห.ร.ม. ของแต่ละข้ อต่อไปนี
(15.1) ห.ร.ม. ของ 1 ถึง 100 = ……………………………………………….
(15.2) ห.ร.ม. ของจํานวน 2, 4, 6, 8, … , 2548 = …………………………...
(15.3) ห.ร.ม. ของจํานวน 3, 5, 7, 9, . . . , 2005 = …………………………
ตอบ …………………………………………………………………………….
(17) ฉันตังนาฬิกาปลุก 4 เรือน เรือนทีหนึงปลุกทุกๆ 3 นาที เรือนทีสองปลุกทุกๆ 4 นาที
เรือนทีสามปลุกทุกๆ 5 นาที และ เรือนทีสีปลุกทุกๆ 6 นาที ถ้ าให้ นาฬิกาทุกเรือนปลุก
ครังแรกพร้ อมกัน เมือเวลา 12.25 น. จงหาว่านาฬิกาทังสีเรือนจะปลุกพร้ อมกันเป็ น
ครังทีสามเมือเวลาใด
ตอบ …………………………………………………………………………….
(18) จากการทดสอบความสินเปลืองนํามันของรถยนต์สามคัน พบว่า คันทีหนึงนํามัน 1 ลิตร
วิงได้ ระยะทาง 6 กิโลเมตร คันทีสองนํามัน 1 ลิตร วิงได้ ระยะทาง 8 กิโลเมตร คันที
สามนํามัน 1 ลิตร วิงได้ ระยะทาง 9 กิโลเมตร จงหาระยะทางทีน้ อยทีสุดซึงรถยนต์ทกุ
คัน ต้ องใช้ นํามันเชือเพลิงเป็ นจํานวนเต็มลิตรพอดีและรถยนต์ แต่ละคันใช้ นํามันกีลิตร
ตอบ …………………………………………………………………………….
(19) แจกดินสอ ยางลบ และไม้ บรรทัดให้ เพือนๆ ในห้ อง ได้ คนละ 5 แท่ง 12 ก้ อน และ 10
อัน ตามลําดับโดยไม่มีของเหลือเลย นักเรียนในห้ องจะมีอย่ างน้ อยกีคน
ตอบ …………………………………………………………………………….
15
ตอบ …………………………………………………………………………….
(21)* จงหาจํานวนทีน้ อยทีสุดที 6, 8 และ 15 หารจํานวนนันแล้ วเหลือเศษ 4, 6 และ 13
ตามลําดับ [ หลักการ : หา ค.ร.น. ของ 6, 8, 15 แล้ วลบกับจํานวนทีต้ องเพิมให้ เศษ
4, 6, 13 เท่ากับ 6, 8, 15 ตามลําดับ]
ตอบ …………………………………………………………………………….
(22) ถ้ าเริมตีระฆัง 3 ใบพร้ อมกัน โดยทีใบทีหนึง ใบทีสอง และใบทีสาม ตีทกุ ๆ 10 นาที 8
นาที และ 16 นาที ตามลําดับ จงหาว่าเมือทัง 3 ใบตีพร้ อมกันเป็ นครังแรกแล้ วใบที
หนึง ใบทีสอง และใบทีสามตีไปใบละกีครังแล้ ว
ตอบ …………………………………………………………………………….
(23) ถ้ าจํานวนสองจํานวนมี ห.ร.ม. เป็ น 15 มี ค.ร.น.เป็ น 105 ถ้ าจํานวนหนึงเป็ น 15
อีกจํานวนหนึงเป็ นเท่าใด
ตอบ …………………………………………………………………………….
(24) ถ้ าจํานวนสองจํานวนมีผลคูณเป็ น 2,112 และมี ค.ร.น. เป็ น 264 จงหา ห.ร.ม.
ตอบ …………………………………………………………………………….
(25)* ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของจํานวนสองจํานวนเป็ น 14 และ 490 จงหาจํานวนทังสอง
ตอบ …………………………………………………………………………….
16
แบบทดสอบ
สมบัติของจํานวนนับ
21. ห.ร.ม. ของ 20, 80, 125 เป็ นกีเท่าของ ห.ร.ม. ของ 27, 64, 121
ก. 5 เท่า ข. 10 เท่า ค. 12 เท่า ง. 15 เท่า
22. 12 เป็ น ค.ร.น. ของ 4 กับ 6 หมายความว่าอย่างไร
ก. 12 เป็ นจํานวนทีมากทีสุดที 4 และ 6 หารลงตัว
ข. 12 เป็ นจํานวนทีน้ อยทีสุดที 4 และ 6 หารลงตัว
ค. 12 เป็ นจํานวนที 4 และ 6 หารลงตัว
ง. 12 เป็ นผลคูณของ 4 และ 6
23. ค.ร.น. ของ 14, 20, 25 คือจํานวนใด
ก. 100 ข. 125 ค. 280 ง. 700
24. ค.ร.น. ของ 23 32 5 และ 22 33 72 คือจํานวนใด
ก. 23 32 ข. 22 32 ค. 22 32 5 7 ง. 23 33 5 7
25. จํานวน 48 และ 60 มี ค.ร.น. เป็ นกีเท่าของ ห.ร.ม.
ก. 4 เท่า ข. 5 เท่า ค. 18 เท่า ง. 20 เท่า
26. ผลบวกของ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของ 15, 25, 40 คือข้ อใด
ก. 45 ข. 605 ค. 90 ง. 615
27. ผลต่างของ ค.ร.น. กับ ห.ร.ม. ของ 36, 81 และ 99 คือข้ อใด
ก. 3,555 ข. 3,556 ค. 3,564 ง. ไม่มีคําตอบทีถูกต้ อง
28. จงหา ห.ร.ม. ของ 4,515 และ 2,838 คือจํานวนใด
ก. 1 ข. 4 ค. 129 ง. 516
จงใช้ วิธีตงหารต่
ั อไปนีตอบคําถามข้ อ 29 และ 30
29. ห.ร.ม.ของ 12, 18, 24 คือข้ อใด
2 12, 18, 24 ก. 6 ข. 12
3 6, 9, 12 ค. 4 ง. 9
2 2, 3, 4 30. ค.ร.น.ของ 12, 18, 24 คือข้ อใด
1, 3, 2 ก. 12 ข. 36
ค. 72 ง. 24
a M, N, O 31. ข้ อใดถูกต้ อง
b P, Q, R
ก. ห.ร.ม. เท่ากับ a b c
ข. ค.ร.น. เท่ากับ a b c
c S, T, U
ค. ห.ร.ม. เท่ากับ a b
X, T, Y
ง. ค.ร.น. เทากับ a b c X Y
………………………..……………………………… ……………………………………
19
43. มีสมุดวาดเขียน 231 เล่ม สมุดปกแข็ง 308 เล่ม และสมุดปกอ่อน 396 เล่ม จัดเป็ นกอง
กองละเท่าๆกัน โดยไม่ให้ ปนกัน จะได้ กีกอง กองละกีเล่ม
ก. 85 กอง กองละ 11 เล่ม ข. 85 กอง กองละ 13 เล่ม
ค. 86 กอง กองละ 11 เล่ม ง. 86 กอง กองละ 13 เล่ม
44. มีเหรียญ 10 บาท 25 เหรียญ เหรียญ 5 บาท 10 เหรียญ เหรียญ 1 บาท 20 เหรียญ
ต้ องการหยอดกระปุกออมสินอย่างละเท่าๆกันและไม่ปนกัน ในกระปุกออมสินชนิดเหรียญ
5 บาท จะคิดเป็ นเงินกีบาท
ก. 10 บาท ข. 15 บาท ค. 20 บาท ง. 25 บาท
45. ก้ อยมีเงิน 28 บาท สมศรีมีเงิน 35 บาท และอํานาจมีเงิน 105 บาท ทัง 3 คนต้ องการใช้
เงินวันละเท่ากัน ข้ อใดต่อไปนีถูกต้ อง
ก. ทังสามคนใช้ เงินหมดพร้ อมกันพอดี
ข. วันทีทังสามคนใช้ เงินรวมกันมากทีสุดใช้ วนั ละ 24 บาท
ค. ทังสามคนใช้ เงินวันละ 4 บาท 5 บาท และ 15 บาท ตามลําดับ
ง. จํานวนวันทีใช้ เงินจนหมดของแต่ละคนรวมกันเป็ น 24 วัน
46. A เป็ นจํานวนมากทีสุดทีหาร 49, 73 และ 85 แล้ วเหลือเศษ 1 ทุกจํานวน แล้ วข้ อใด
ต่อไปนีถูกต้ อง
ก. A + 5 = 17 ข. A A = 36 ค. A + A = 12 ง. A 5 = 35
47. จํานวนนับทีน้ อยสุดทีหารด้ วย 12, 18 และ 48 แล้ วเหลือเศษ 11 เท่ากัน จํานวนนันคือข้ อใด
ก. 144 ข. 155 ค. 166 ง. 177
48. กาวนําขวดละ 30 บาท เทปกาวม้ วนละ 45 บาท ต้ องซืออย่างน้ อยอย่างละกีชินจึงจะ
จ่ายเงินซืออย่างละเท่าๆกัน
ก. กาวนํา 2 ขวด เทปกาว 2 ม้ วน ข. กาวนํา 2 ขวด เทปกาว 3 ม้ วน
ค. กาวนํา 3 ขวด เทปกาว 2 ม้ วน ง. กาวนํา 3 ขวด เทปกาว 3 ม้ วน
49. วันหนึงชาวสวนผลไม้ เก็บเงาะได้จํานวนหนึง เมือจัดใส่เข่งๆละ 144 กิโลกรัม ได้ หมดพอดี
และถ้ าจัดใส่เข่งๆละ 252 กิโลกรัมได้ หมดพอดีเช่นเดียวกัน จงหาว่าชาวสวนเก็บเงาะในวันนัน
ได้ อย่างน้ อยกีกิโลกรัม
ก. 1,000 ข. 1,008 ค. 1,116 ง. 1,258
50. นักกีฬา 3 คน ออกตัวเริมวิงรอบสนามแห่งหนึงพร้ อมกัน แต่ละคนวิงรอบสนามใช้ เวลา 16
นาที 24 นาที และ 40 นาที ตามลําดับ นักกีฬา 3 คน จะวิงมาทันกันเป็ นครังแรกทีจุดออก
ตัวอีกครัง ต้ องใช้ เวลาเท่าใด
ก. 3 ชัวโมง ข. 4 ชัวโมง ค. 6 ชัวโมง ง. 8 ชัวโมง