Professional Documents
Culture Documents
กรอบคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา
นําเสนอโดย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ซอลีฮะห์ หะยีสะมะแอ
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี
20/8/2564
องค์ประกอบการจัดการศึกษา
E : Evaluation
A: Assessment L : Learning Experience
การวัดและประเมินผล การจัดประสบการณ์การเรียนรู ้
S1
Slide 4
S1 Solihah, 19/8/2564
ลักษณะของการวัดและประเมินผล
(จําแนกตามชว่ งเวลา)
่ งเวลา
ชว ล ักษณะของการประเมินผล
Evaluation
Assessment
Measurement
Testing
ประเมินจัดตําแหน่ง ประเมินย่อย ประเมินวินจ
ิ ฉั ย ประเมินรวม
(Placement) (Formative) (Diagnosis) (Summative)
ประเพณีนย
ิ ม ทางเลือก การสงั เกต ั ภาษณ์
การสม
(Traditional) (Alternative) (Observational) (Interview)
แบบ/ชนิด/ประเภท
(Types)
แนวคิด
เทคนิค/วิธก
ี าร
(Approach)
C (Techniques)
จุดประสงค์การเรียนรู ้
ความรู ้ ความสามารถ การว ัดผลและประเมินผลการเรียนรู ้ เกณฑ์ให ้คะแนน
A และคุณลักษณะ (Rubric Score)
(ทีวัดและประเมิน)
มาตรประมาณค่า
ระเบียบว่าด้วยการว ัดและประเมินผล (Rating Scale)
P ของสถานศก ึ ษา
ึ ษา พ.ศ. 2542
พ.ร.บ. การศก
รูปแบบ/กรอบอ้างอิง เครืองมือ
(instruments/tools)
(References)
แบบตรวจสอบรายการ
(checklists) คุณลักษณะเครืองมือวัดที
อิงเกณฑ์ อิงกลุม
่ อิงตน/อิงพัฒนาการ ดี
(CR) (NR) (Improvement-Reference) แบบสอบถาม แบบสํารวจ แบบทดสอบ
(Questionnair) (Inventory) (Test)
ทบทวนเกณฑ์การให้คะแนน
ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒกิ ารศึกษา
ให้เหมาะสมกับบริบทการเรียนการสอนออนไลน์
การประยุกต์แนวคิดของการประเมินตามสภาพจริง
่ ารวัดและประเมินผลการเรียนรู ้รายวิชา
สูก
การจ ัดการเรียนรู ้
(การจ ัดการเรียนการสอน)
(เน้นผูเ้ รียนเป็นสําค ัญ)
หมวดที 5 แผนการสอนและการประเมินผล (ต่ อ)
กิจกรรม การเรียนรู ้ ผลการเรี ยนรู ้ วิธี/กิจกรรม สัปดาห์ทีประเมิน สัดส่วนการประเมิน
ที ด้าน การประเมิน
1 คุณธรรม 1. []รัก ศรัทธาและภูมิใจในวิชาชีพครู มีจิตวิ ญญาณและอุดมการณ์
ความเป็ นครู และปฏิบตั ิตนตามจรรยาบรรณวิชาชีพครู ทีกําหนดโดยคุรุ
สังเกตพฤติกรรม ตลอดภาค 10
การตรงเวลา การศึ กษา
จริ ยธรรม สภาและหลักคําสอนศาสนาทีนับถื อ การเข้าร่วมกิจกรรม
2. []มีจิตวิญญาณแห่งความเมตตา จิตอาสา จิตสาธารณะ อดทน การแต่งกาย
มีความเสียสละ รับผิดชอบและซื อสัตย์ ต่องานทีได้รับมอบหมายทังด้าน
วิชาการและวิ ชาชีพ และสามารถพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื อง ประพฤติ
ตนเป็ นแบบอย่างทีดี
2.ความรู ้ 50 60 20
3.ทักษะปั ญญา 15 5 5
4.ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและ 10 5 5
ความรับผิ ดชอบ
5.ทักษะการวิเคราะห์เชิ งตัวเลข 10 5 5
การสื อสาร และการใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศ
6.ทักษะพิสยั - 20 60
จํานวนร้อยละ
(ตัวอย่ าง)
สัดส่ วนคะแนนระหว่ างภาคและปลายภาค
รายวิชา………………………………..
1. คะแนนระหว่างภาค 80 %
1.1 แฟ้มสะสมผลงาน 10 %
1.2 โครงงาน/วิจ ัย 20 %
1.3 ทดสอบย่อย 10 %
1.4 กิจกรรมกลุม
่ เรียนรู ้ 15 %
ร่วมก ัน
1.5 สอบกลางภาค 20 %
2. สอบปลายภาค 20 %
กิจกรรม การเรี ยนรู ้ ผลการเรี ยนรู ้ วิธีการประเมิน สัปดาห์ที สัดส่วนการ
ที หมวดที 5 แผนการสอนและการประเมินผล (ต่ อ)
ด้าน ประเมิน ประเมิน
2 ความรู้ 1. []มีความรอบรู ใ้ นหลักการ แนวคิด ทฤษฎีเนื อหาสาระด้าน การทดสอบย่อย ตลอดภาค 60
วิชาชีพของครู อาทิ ค่านิ ยมของครู คุณธรรม จริ ยธรรม สอบปลายภาค การศึ กษา
จรรยาบรรณ จิตวิญญาณครู ปรัชญาความเป็ นครู ประเมินงานที
มอบหมาย
2. [] มีความรอบรู ใ้ นหลักการ แนวคิด ทฤษฎีเนื อหาวิชาทีสอน
สามารถวิเคราะห์ความรู ้ และเนื อหาวิ ชาทีสอนอย่างลึกซึง
สามารถติดตามความก้าวหน้าด้านวิทยาการและนําไป
ประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผูเ้ รี ยน โดยมีผลลัพธ์การเรี ยนรู แ้ ละ
เนื อหาสาระด้านมาตรฐานผลการเรี ยนรู ด้ า้ นความรู ข้ องแต่ละ
สาขาวิชา
3. [] มีความรู เ้ ข้าใจชีวิต เข้าใจชุมชน เข้าใจโลกและการอยู ่
ร่วมกันอย่างสันติบนพื นฐานความแตกต่างทางวัฒนธรรม
สามารถเผชิญและเท่าทันกับการเปลียนแปลงของสังคม
4. [] มีความรู แ้ ละความสามารถในการใช้ภาษาไทย
ภาษาอังกฤษ และ/หรื อภาษาในสาขาวิชาเฉพาะทางทีเกียวข้อง
เพื อการสื อสารตามมาตรฐาน
5. [] ตระหนักรู ้ เห็ นคุณค่าและความสําคัญของศาสตร์พระราชาเพื อ
การพัฒนาทียังยื นและนํามาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาตน พัฒนาผูเ้ รี ยน
พัฒนางานและพัฒนาชุมชนโดยบูรณการกับหลักคําสอนศาสนา และ
ไม่ใช้ขอ้ มูลบิดเบื อน หรื อการลอกเลียนผลงาน
การวางแผนการวัดและประเมินผลการเรียนรายวิชา
จุดประสงค์ จํานวน ั ว
สดส ่ น กิจกรรม เทคนิค/เครืองมือ
ที
รายวิชา ั
ชวโมง ความสําค ัญ การเรียนรู ้ ว ัดและประเมิน
สงั เกต
การพัฒนาหลักสูตร
1 2.5 ร่วมมือเรียนรู ้ แฟ้ มผลงานกลุม ่
สถานศกึ ษา
...... (ทักษะการแก ้ปั ญหา)
จํานวน ั ว
สดส ่ น ระหว่างภาค/ เทคนิค/เครืองมือ
ที จุดประสงค์รายวิชา
ั
ชวโมง ความสําค ัญ ปลายภาค ว ัดและประเมิน
สงั เกต
การพัฒนาหลักสูตร
1 2.5 5 4/1 แฟ้ มผลงานกลุม ่
สถานศกึ ษา
(ทักษะการแก ้ปั ญหา)
การนํ าหลักสูตร โครงงาน
2 2 4 3/1
ไปใช ้ ั
การนํ าเสนอหน ้าชน
เรียงความ
3 การประเมินหลักสูตร 2 4 4/1
แบบฝึ กหัด
.
. ...... ...... ...... ...... ......
.
ภาพจาก : สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา
ภาพจาก : สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา
ภาพจาก : สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา
ภาพจาก : สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา
ตารางที 1 Bloom’s Taxonomy
และคําสําคัญทีช่วยในการสร้างข้อคําถาม
ระดับของ กระบวนการ ทาง ทักษะทีแสดงออก (ตัวอย่าง) คําสําคัญทีใช้ในการสร้างคําถาม
ปั ญญา
ความรู ้ - สังเกตแล้วจําข้อมูล จัดทํารายการ (list)
- ความรู ข้ อ้ มูล วันที เหตุการณ์ สถานที แสดง (show)
- ความรู เ้ กียวกับแนวคิดสําคัญ ระบุ (define)
- ความรู ใ้ นเนื อหาวิ ชา ติดป้ายบอก (label)
บอก (tell)
รวบรวม (collect)
พรรณนา (describe)
ตรวจ (examine)
ระบุ (identify)
จัดทําตาราง (tabulate)
ระบุคาํ พูด จดบันทึ ก (record)
บอกชื อ เลื อก (select)
การใช้คาํ ถามประเภท ใคร อะไร ทีไหน เมื อไร
ตารางที 1 Bloom’s Taxonomy
และคําสําคัญทีช่วยในการสร้างข้อคําถาม
ระดับของ กระบวนการ ทักษะทีแสดงออก (ตัวอย่าง) คําสําคัญทีใช้ในการสร้างคําถาม
ทางปั ญญา
ความเข้าใจ - เข้าใจข้อมูล สรุ ป (summarize)
- จับความได้ พรรณนา (describe)
- ถ่ายโอนความรู เ้ ป็ นบริ บทใหม่ อภิ ปราย (discuss)
- ตีความ เปรี ยบเทียบความ เหมื อนความ ตีความ (interpret)
แตกต่าง อธิ บาย (explain)
- ทํานายผลพวงทีตามมา บอกความแตกต่าง (contrast)
เชื อมโยง (associate)
จําแนก (distinguish)
ประมาณ (estimate)
ทํานาย พยากรณ์ (predict)
ตารางที 1 Bloom’s Taxonomy
และคําสําคัญทีช่วยในการสร้างข้อคําถาม
ระดับของ กระบวนการ ทาง ทักษะทีแสดงออก (ตัวอย่าง) คําสําคัญทีใช้ในการสร้างคําถาม
ปั ญญา
การนําไปใช้ - ใช้ขอ้ มูลสารสนเทศ ใช้(apply)
- ใช้วิธีการ กรอบความคิด ทฤษฎีใน เชื อมโยง (relate)
สถานการณ์ใหม่ สาธิ ต (demonstrate)
- แก้ปัญหาโดยใช้ทกั ษะหรื อ ความรู ท้ ีจําเป็ น เปลียนแปลง (change)
นัน ๆ คํานวณ (calculate)
จัดประเภท (classify)
ทดลอง (experiment)
ค้นหา (discover) แสดงให้ดู (show)
ติดตัง (establish) แก้ปัญหา (solve)
ถ่ายโอน (transfer) ตรวจสอบ (examine)
สร้าง (construct) ปรับ (modify)
บริ หารจัดการ (administer)
ทําให้สมบูรณ์ (complete)
ขยายความประกอบ (illustrate)
ตารางที 1 Bloom’s Taxonomy
และคําสําคัญทีช่วยในการสร้างข้อคําถาม
ระดับของ กระบวนการ ทาง ทักษะทีแสดงออก (ตัวอย่าง) คําสําคัญทีใช้ในการสร้างคําถาม
ปั ญญา
การวิเคราะห์ - การเห็ นรู ปแบบ วิเคราะห์ (analyze)
- การจัดส่วนย่อยต่างๆ เข้าด้วยกัน จัดประเภท (classify)
- การเข้าใจนัยของความหมายแฝง แยก (separate)
- การระบุสว่ นประกอบต่าง ๆ จัดเรี ยง (arrange)
จัดลําดับ (order)
แบ่ง (divide)
อธิ บาย (explain)
เปรี ยบเทียบ (compare)
เชื อมโยง (connect)
เลื อก (select)
พาดพิง (infer)
ตารางที 1 Bloom’s Taxonomy
และคําสําคัญทีช่วยในการสร้างข้อคําถาม
ระดับของ กระบวนการ ทาง ทักษะทีแสดงออก (ตัวอย่าง) คําสําคัญทีใช้ในการสร้างคําถาม
ปั ญญา
การประเมินค่า - เปรี ยบเทียบแล้วจําแนกระหว่าง ผล ประเมิ น (assess) วิจารณ์ (criticize)
ความคิดต่าง ๆ ตัดสิ นใจ (decide) ชักจูง (convince)
- ประเมินคุณค่าของทฤษฎี การนําเสนอ จัดอันดับ (rank) ปกป้อง (defend)
- เลื อกโดยใช้เหตุผลทีโต้แย้งกันแล้ว ให้ระดับ (grade) ตัดสิ น (judge)
- พิสูจน์คุณค่าของหลักฐาน ทดสอบ (test) อธิ บาย (explain)
วัด (measure) แบ่งแยก (discriminate)
สรุ ป (summarize) เปรี ยบเทียบ (compare)
ตารางที 1 Bloom’s Taxonomy
และคําสําคัญทีช่วยในการสร้างข้อคําถาม
ระดับของ กระบวนการ ทาง ทักษะทีแสดงออก (ตัวอย่าง) คําสําคัญทีใช้ในการสร้างคําถาม
ปั ญญา
สร้างสรรค์ -ใช้ความคิดในการสร้างสรรค์สิง ใหม่ ผนวก (combine) แต่ง เขียน (write)
- สรุ ปกฎจากข้อเท็ จจริ งทีให้ บูรณาการ (integrate) สร้างสูตร (formulate)
- เชื อมโยงความรู จ้ ากสาขาวิชาต่างๆ ต่อรอง (negotiate) แนะนํา (devise)
- พยากรณ์ ลงสรุ ป จัดเรี ยงใหม่ (rearrange) สรุ ปเป็ นกฎ
(generalize) แทนที (substitute)
แก้ไขเขียนใหม่ (rewrite) วางแผน (plan)
ออกแบบ (design) ประดิ ษฐ์ (invent)
สร้างสรรค์ (create)
ตารางที 2 การวัดพุทธิพสิ ัยของ Bloom จําแนกตามพฤติกรรม นิยาม คําบ่งชี และ
ลักษณะคําถาม
ระดับ พฤติกรรม นิ ยาม ตัวอย่างคําบ่งชี ตัวอย่าง
ความรู ้ ความจํา ความสามารถระลึ กจดจําคําศัพท์ นับ บอก ระบุ ชี บอกชื อ ขีดเส้นใต้ -ข้อใดหมายถึงความหมายของการ ประเมิน
ข้อเท็ จจริ ง กระบวนการ ความสัมพันธ์ มโน บรรยาย ให้นิยาม จับคู ่ ท่อง เลื อก -จงบอกรายชื อตัวละครหลักของเรื อง
ทัศน์ตา่ งๆ กําหนด เขียน วาด ลอก
ความเข้าใจ ความเข้าใจในสิ งทีเรี ยนรู ้ สามารถแปลความ อธิ บาย แปล ถ่ายโคลงกลอน เป็ น -“สมฤดีเก่งคณิ ตศาสตร์” ตรงกับ ลักษณะใด
ตีความ ขยายความด้วยภาษาตนเอง คําพูด ปรับแก้ ใช้ ตีความหมาย ขยาย -อะไรเป็ นใจความสําคัญของเรื องนี ?
ความ ยกตัวอย่าง เปรี ยบเทียบ
อภิ ปราย เขียนใหม่
การนําไปใช้ ความสามารถใช้สิงทีเรี ยนรู แ้ ล้ว มาใช้ในการ สาธิ ต จัดกระทํา แก้ไข ใช้ ผลิต -เมื อท่านต้องการทราบพัฒนาการของ ผูเ้ รี ยนท่านจะ
แก้ปัญหา หรื อสร้าง แนวทางเลื อกใหม่ คํานวณ ปฏิบตั ิ ดําเนิ นการ เปลียน เลื อกใช้เครื องมื อวัดผล ในข้อใด
สร้าง ทํานาย แก้ปัญหา -จงใช้โครงสร้างจากเรื องทีอ่านเขียน เรื องใหม่เกียวกับ
ตัวผูเ้ รี ยน
ตารางที 2 การวัดพุทธิพสิ ัยของ Bloom
จําแนกตามพฤติกรรม นิยาม คําบ่งชี และลักษณะคําถาม
ระดับ พฤติกรรม นิ ยาม ตัวอย่างคําบ่งชี ตัวอย่าง
การวิเคราะห์ ความเข้าใจในองค์ประกอบย่อย ของ ต่างๆ แบ่งแยก บอกความแตกต่าง จัด -การวัดและการประเมิ นสัมพันธ์กนั อย่างไร
สิ งต่างๆ และสามารถจัด ประเภท ประเภท แยกย่อย แตกประเด็นออก -จงแบ่งเรื องทีอ่านออกเป็ นตอนๆ พร้อมบอกความสัมพันธ์ของแต่ละตอน
แบ่งแยกสิ ง จําแนก แผนผัง
การประเมินค่า สามารถตัดสิ นคุณค่า หรื อความ ประเมิน ตัดสิ น โต้แย้ง วิ พากษ์วิจารณ์ -ท่านคิดอย่างไร หากผูส้ อนใช้ขอ้ สอบ เลื อกตอบเป็ นเครื องมื อวัดผล
เหมาะสมของสิ งใดสิ งหนึ ง โดยใช้ ให้ระดับ คุณภาพ เสนอแนะ อย่างเดียว
เกณฑ์เหมาะสมมีเหตุผล -ในความคิดเห็ นของท่าน เรื องที กําหนดให้อา่ นเป็ นเรื องทีดีหรื อไม่ และ
ทําไมท่านจึงคิ ดเช่นนัน
-การจัดลําดับหลักมากอซีรชารี อะห์(Maghosir Shariah)มี
ความสําคัญอย่างไร จงอธิบายพร้อมให้เหตุผลประกอบ
คิดสร้างสรรค์ ความสามารถของสติปัญญาในการ ออกแบบ สร้าง -การออกแบบแผนการจัดการเงินในยุคโควิดควรเป็ นอย่างไร
สร้างสิ งใหม่จากสิ งทีเคยเรี ยนรู ห้ รื อ เสนอสิ งใหม่ ประดิ ษฐ์ -การสร้างแบบแผนการจัดการธุรกิจในอิสลามทีแตกต่างจากแผนธุ รกิจ
พบเห็ นในบริ บทต่างๆทีสามารถใน วางแผน สร้าง ทัวไปควรเป็ นอย่างไร
การสร้างสรรค์งาน วางแผนงาน เสนอ จัดตัง --หากต้องการสร้างแบบวัดผลสัมฤทธิ ทีมีคุณภาพต้องดําเนิ นการอย่างไร
และดําเนิ นงานตามกระบวนการจน ริ เริ ม ทํานาย -จาก 2 เรื องทีกําหนดให้ จงทํานาย ประชากรของปลาวาฬในอนาคต
ได้รับความสําเร็ จ แต่ง
แบบทดสอบ (Test)
แบบทดสอบ (Test) แบบทดสอบ หมายถึง ชุดของคําถาม (items) ทีสร้างขึนเพื อให้ผูส้ อบ
แสดงพฤติกรรมอย่างใดอย่างหนึ งออกมาให้ผูส้ อนสังเกตและวัดได้
แบบทดสอบเป็ นเครื องมื อวัดพฤติกรรม ด้านพุทธิ พิสยั ซึงถื อว่าเป็ นสติปัญญาของมนุ ษย์ทีซ่อนแฝง
อยูใ่ นตัวบุคคลว่ามีความรู ห้ รื อไม่เพียงใดทังในด้านพฤติกรรมความรู ค้ วามจํา ความเข้าใจ การ
นําไปใช้และอื น ๆ
หากแบ่งประเภทแบบทดสอบวัด ผลสัมฤทธิ ทางการเรี ยนโดยใช้เกณฑ์ลกั ษณะการตอบแล้ว สามารถ
แบ่งออกได้เป็ น 2 ประเภท ดังน
แบบทดสอบอัตนัยหรือแบบความเรียง
แบบทดสอบอัตนัยหรือแบบความเรียง มีลักษณะเด่นดังนี
ให้อิสระแก่ผตู้ อบ ผูต้ อบจะต้องหาหรือสร้างคําตอบเองแทนทีจะมีคาํ ตอบให้เลือก
เหมือนกับข้อสอบแบบกําหนดคําตอบให้
ข้อสอบแบบนีจะใช้ในการวัดผลการเรียนรูท้ ไม่
ี สามารถวัดโดยใช้ขอ้ สอบแบบกําหนด
คําตอบได้ เช่น วัด ความสามารถในการจัดการ ความสามารถในการบูรณาการ
ความสามารถในการสังเคราะห์ความรู ้ ความสามารถในการแก้ปัญหา ตลอดจน
ความสามารถในการประเมิน เป็ นต้น
เหมาะทีจะนํามาใช้เมือ ต้องการวัดความสามารถในการใช้เหตุผล การวางแผน การ
แสดงความคิดเห็น สร้างสรรค์หรือจินตนาการ ผูต้ อบจะต้องรูล้ กึ ในเรืองทีจะตอบจึงจะ
เขียนตอบได้ดี
แบบทดสอบ (Test)
1. แบบทดสอบอัตนัยหรือแบบความเรียง
2. แบบทดสอบปรนัย
แบบทดสอบอัตนัยหรือแบบความเรียง
1.แบบถูก-ผิ ด
แบบทดสอบ 2.แบบจับคู่
(true-
ปรนัยทีนิ ยม (matching)
false)
ใช้กนั คือ
3.แบบเลือกตอบ
(multiple
choices)
1.ข้อสอบแบบถูกผิด
เป็ นข้อคําถามทีกําหนดข้อความให้ผูเ้ รี ยนพิจารณาเลื อกตอบสอง
ทางเลื อก เช่น ถูก-ผิด ใช่-ไม่ใช่ จริ ง-ไม่จริ ง เหมื อนกัน-ต่างกัน ฯลฯ
โดยใช้ความรู ้ ตามหลักวิชา เป็ นเกณฑ์พิจารณา ตัวคําถามของข้อสอบ
มักจะเขียนในรู ปประโยคบอกเล่าธรรมดา หรื ออาจจะ เป็ นประโยค
คําถาม โดยมีขอ้ ความถูกบ้างผิดบ้างคละเคล้ากันไป
หลักการเขียนข้อสอบแบบถูกผิด
1) ข้อความจะต้องมีความหมายชัดเจน ไม่กาํ กวม และไม่ควรใช้คาํ ทีแสดงคุณภาพ เช่น มาก น้อย บ่อย ๆ บางครัง ส่วนมาก
ส่วนน้อย ไม่คอ่ ยจะ เป็ นต้น
ควรเลื อกคําทีแสดงปริ มาณจะมีความหมายชัดเจนกว่า เช่น
ไม่ดี – พม่ายกกองทัพมาตีไทยบ่อยครังในสมัยกรุ งธนบุรี
ดีขึน – พม่ายกกองทัพมาตีไทย 4 ครังในสมัยกรุ งธนบุรี
2) ข้อความทีกําหนดให้ตอ้ งตัดสิ นได้วา่ ถูกจริ งหรื อผิดจริ งและเป็ นสากล เช่น
ไม่ดี – น้าเดื อดทีอุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส
ดีขึน – ณ ระดับน้าทะเล น้าจะเดื อดทีอุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส
3) แต่ละข้อคําถาม ควรถามจุดสําคัญเพียงเรื องเดียว เช่น
ไม่ดี – อําเภอเบตงอยูใ่ นจังหวัดยะลา และอยูใ่ ต้สุดของประเทศไทย
ดีขึน – อําเภอเบตงอยูใ่ นจังหวัดยะลา
ดีขึน – อําเภอเบตงอยูใ่ ต้สุดของประเทศไทย
4) ไม่ควรสร้างข้อคําถามเชิงปฏิเสธหรื อปฏิเสธซ้อน เพราะจะทําให้ผูส้ อบเข้าใจผิ ด
ไม่ดี – ถ้าผูเ้ รี ยนไม่ออกไปตากน้าค้าง ผูเ้ รี ยนจะไม่เป็ นหวัด
ดีขึน – การออกไปตากน้าค้างทําให้ผูเ้ รี ยนเป็ นหวัด
หลักการเขียนข้อสอบแบบถูกผิด (ต่อ)