Professional Documents
Culture Documents
คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.2 เล่ม 2 (ปรับปรุงเดือนธ.ค.64)
คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.2 เล่ม 2 (ปรับปรุงเดือนธ.ค.64)
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เล่ม ๒ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี
๒
ตามมาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตัวชีว้ ดั
กลุม่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ เล่ม ๒
ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
จัดทาโดย
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
กระทรวงศึกษาธิการ
คาชี้แจง
สถาบันส่งเสริมการสอนวิท ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ได้จัดทาตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้
แกนกลาง กลุ่ม สาระการเรียนรู้วิท ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (ฉบับ ปรับ ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลัก สูตร
แกนกลางการศึก ษาขั้นพื้ นฐาน พุ ท ธศัก ราช ๒๕๕๑ โดยมี จุดเน้ นเพื่ อต้องการพัฒ นาผู้เรียนให้มี ค วามรู้
ความสามารถที่ ทั ด เที ย มกั บ นานาชาติ ได้ เรียนรู้วิท ยาศาสตร์ ที่ เ ชื่อ มโยงความรู้กั บ กระบวนการในการ
สืบเสาะหาความรู้และการแก้ปัญหาที่หลากหลาย มีการทากิจกรรมด้วยการลงมือปฏิบัติเพื่อให้ผู้เรียนได้ใช้
ทัก ษะกระบวนการทางวิท ยาศาสตร์และทั กษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ซึ่งในปีการศึก ษา ๒๕๖๑ เป็นต้นไปนี้
โรงเรียนจะต้องใช้ห ลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิท ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)
สสวท. จึงได้จัดทาหนังสือเรียนที่เป็นไปตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดของหลักสูตรเพื่อให้โรงเรียนได้ใช้
สาหรับจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียน
คู่มื อ ครูร ายวิช าพื้ น ฐานวิท ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ชั้ น ประถมศึ ก ษาปี ที่ ๒ เล่ม ๒ กลุ่ ม สาระ
การเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเล่มนี้ สสวท. ได้พัฒนาขึ้น เพื่อนาไปใช้ประกอบหนังสือเรียนรายวิชา
พื้ น ฐานวิท ยาศาสตร์แ ละเทคโนโลยี ชั้ น ประถมศึ ก ษา ปี ที่ ๒ เล่ ม ๒ โดยภายในคู่ มื อ ครู ป ระกอบด้ ว ย
ผังมโนทั ศน์ ตัวชี้วัด ข้อ แนะนาการใช้คู่ มื อครู ตารางแสดงความสอดคล้องระหว่ างเนื้อ หาและกิ จ กรรม
ในหนั ง สือ เรีย นกั บ มาตรฐานการเรีย นรู้แ ละตั วชี้ วัด กลุ่ ม สาระการเรีย นรู้วิ ท ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ตลอดจนแนว
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะรอบด้าน ทั้งการอ่าน การสารวจตรวจสอบ การฝึกปฏิบัติ
การปฏิบัติการทดลอง การสืบค้นข้อมูล และการอภิปราย โดยมีเป้าหมายให้นักเรียนพัฒ นาทั้งด้านความรู้
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ จิตวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้
ทั ก ษะการคิด การอ่ าน การสื่อ สาร การแก้ ปั ญ หา ตลอดจนการน าความรู้ไปใช้ในชีวิตประจ าวันอย่างมี
คุณธรรมและค่านิยมที่เหมาะสม สามารถดารงชีวิตอยู่ในสังคมแห่งการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ ๒๑ อย่างมี
ความสุข ในการจัดท าคู่มื อ ครูร ายวิชาพื้ นฐานวิท ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึก ษาปีที่ ๒ เล่ม ๒
กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเล่มนี้ ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากคณาจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิ
นักวิชาการ และครูผู้สอน จากสถาบันการศึกษาต่าง ๆ จึงขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้
สสวท. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒
เล่ม ๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์แก่ ครูและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
ที่จะช่วยให้การจัดการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล หากมีข้อเสนอแนะใดที่จะทาให้
คู่มือครูเล่มนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โปรดแจ้ง สสวท. ทราบด้วย จักขอบคุณยิ่ง
(ศาสตราจารย์ชูกิจ ลิมปิจานงค์)
ผู้อานวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สารบัญ
หนา
เปาหมายของการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร ........................................................................................ ก
คุณภาพของผูเรียนวิทยาศาสตร เมื่อจบชั้นประถมศึกษาปที่ 3........................................................................ ข
ทักษะที่สําคัญในการเรียนรูวิทยาศาสตร ค
ผังมโนทัศน (concept map) รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปที่ 2 เลม 2....... ช
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรูแกนกลาง วิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 ..................................................... ซ
ขอแนะนําการใชคูมือครู .................................................................................................................................. ญ
การจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตรในระดับประถมศึกษา ........................................................................... น
การจัดการเรียนการสอนที่เนนการสืบเสาะหาความรูทางวิทยาศาสตร ............................................................ น
การจัดการเรียนการสอนที่สอดคลองกับธรรมชาติของวิทยาศาสตร ................................................................ ป
และกระบวนการทางวิทยาศาสตร
การวัดผลและประเมินผลการเรียนรูวิทยาศาสตร ............................................................................................ ฝ
ตารางแสดงความสอดคลองระหวางเนื้อหาและกิจกรรม ระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 2 เลม 2.......................... ภ
กับตัวชี้วัด กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
รายการวัสดุอุปกรณวิทยาศาสตร ป.2 เลม 2 .................................................................................................. ย
หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชวี ิต 1
ภาพรวมการจัดการเรียนรูประจําหนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต 1
บทที่ 1 แสง 3
บทนี้เริ่มตนอยางไร 6
เรื่องที่ 1 แสงและการมองเห็น 11
กิจกรรมที่ 1.1 แสงเคลื่อนที่อยางไร 17
กิจกรรมที่ 1.2 มองเห็นวัตถุตาง ๆ ไดอยางไร 31
กิจกรรมทายบทที่ 1 แสง 53
แนวคําตอบในแบบฝกหัดทายบท 54
บทที่ 2 สิ่งมีชีวิต 57
บทนี้เริ่มตนอยางไร 60
เรื่องที่ 1 สิ่งมีชีวิตและสิ่งไมมีชีวิต 67
กิจกรรมที่ 1 สิ่งมีชีวิตและสิ่งไมมีชีวิตมีลักษณะแตกตางกันอยางไร 73
สารบัญ
หนา
เรื่องที่ 2 ชีวิตของพืช 85
กิจกรรมที่ 2.1 พืชตองการอะไรในการเจริญเติบโต 91
กิจกรรมที่ 2.2 วัฏจักรชีวิตของพืชดอกเปนอยางไร 110
กิจกรรมทายบทที่ 2 สิ่งมีชีวิต 131
แนวคําตอบในแบบฝกหัดทายบท 134
หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา 138
ภาพรวมการจัดการเรียนรูประจําหนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา 138
บทที่ 1 รูจักดิน 140
บทนี้เริ่มตนอยางไร 143
เรื่องที่ 1 ดินในทองถิ่น 148
กิจกรรมที่ 1.1 ดินมีสวนประกอบอะไรบาง 153
กิจกรรมที่ 1.2 ดินในทองถิ่นมีลักษณะและสมบัติอยางไร 167
เรื่องที่ 2 ประโยชนของดิน 190
กิจกรรมที่ 2 ดินมีประโยชนอยางไร 194
กิจกรรมทายบทที่ 1 รูจักดิน 205
แนวคําตอบในแบบฝกหัดทายบท 208
แนวคําตอบในแบบทดสอบทายเลม 210
บรรณานุกรม 216
คณะทํางาน 218
ก คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2
เปาหมายของการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 ข
คุณภาพของผูเรียนวิทยาศาสตร เมื่อจบชั้นประถมศึกษาปที่ 3
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
ค คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2
ทักษะที่สําคัญในการเรียนรูวิทยาศาสตร
ทักษะสําคัญที่ครูผูสอนจําเปนตองพัฒนาใหเกิดขึ้นกับผูเรียนเมื่อมีการจัดการเรียนรูวิทยาศาสตร
เชน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร ทักษะแหงศตวรรษที่ 21
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร (Science Process Skills)
การเรี ย นรู ท างวิ ท ยาศาสตร จํ า เป น ต อ งใช ทั ก ษะกระบวนการทางวิ ท ยาศาสตร เ พื่ อ นํ า ไปสู
การสืบเสาะคนหาผานการสังเกต ทดลอง สรางแบบจําลอง และวิธีการอื่น ๆ เพื่อนําขอมูล สารสนเทศและ
หลักฐานเชิงประจักษมาสรางคําอธิบายเกี่ยวกับแนวคิดหรือองคความรูทางวิทยาศาสตร ทักษะกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตร ประกอบดวย
ทักษะการสังเกต (Observing) เปนความสามารถในการใชประสาทสัมผัสอยางใดอยางหนึ่งหรือ
หลายอยางสํารวจวัตถุหรือปรากฏการณตาง ๆ ในธรรมชาติหรือจากการทดลอง โดยไมลงความคิดเห็นของ
ผูสังเกต ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ไดแก การดู การฟงเสียง การดมกลิ่น การชิมรส และการสัมผัส
ทักษะการวัด (Measuring) เปนความสามารถในการเลือกใชเครื่องมือในการวัดปริมาณตาง ๆ
ไดอยางเหมาะสม รวมถึงความสามารถในการหาปริมาณของสิ่งตาง ๆ จากเครื่องมือที่เลือกใชออกมาเปน
ตัวเลขไดถูกตองและรวดเร็ว พรอมระบุหนวยของการวัดไดอยางถูกตอง
ทั ก ษะการลงความเห็ น จากข อ มู ล (Inferring) เป น ความสามารถในการคาดการณ อ ย า งมี
หลักการเกี่ยวกับเหตุการณหรือปรากฏการณ โดยใชขอมูล (Data) หรือสารสนเทศ (Information) ที่เคยเก็บ
รวบรวมไวในอดีต
ทักษะการจําแนกประเภท (Classifying) เปนความสามารถในการแยกแยะ จัดพวกหรือจัดกลุม
สิ่งตาง ๆ ที่สนใจ เชน วัตถุ สิ่งมีชีวิต ดาว และเทหวัตถุตาง ๆ หรือปรากฏการณที่ตองการศึกษาออกเปน
หมวดหมู นอกจากนี้ยังหมายถึงความสามารถในการเลือกและระบุเกณฑหรือลักษณะรวมลักษณะใดลักษณะ
หนึ่งของสิ่งตาง ๆ ที่ตองการจําแนก
ทักษะการหาความสัมพันธของสเปซกับเวลา (Relationship of Space and Time) สเปซ
คือ พื้นที่ที่วัตถุครอบครอง ในที่นี้อาจเปนตําแหนง รูปราง รูปทรงของวัตถุ สิ่งเหลานี้อาจมีความสัมพันธกัน
ดังนี้
การหาความสัมพันธระหวางสเปซกับสเปซ เปนความสามารถในการหาความเกี่ยวของ
(Relationship between Space and Space) สั ม พั น ธ กั น ระหว า งพื้ น ที่ ที่ วั ต ถุ ต า ง ๆ
ครอบครอง
การหาความสัมพันธระหวางสเปซกับเวลา เปนความสามารถในการหาความเกี่ยวของ
(Relationship between Space and Time) สัมพันธกันระหว างพื้น ที่ที่วั ต ถุครอบครอง
เมื่อเวลาผานไป
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 ง
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
จ คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 ฉ
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
ช คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2
ประกอบดวย
ไดแก ไดแก
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 ซ
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรูแกนกลาง
ว 1.2 ป.2/1
ระบุวาพืชตองการแสงและน้ําเพื่อการเจริญเติบโต • พืชตองการน้ํา แสง เพื่อการเจริญเติบโต
โดยใชขอมูลจากหลักฐานเชิงประจักษ
ว 1.2 ป.2/2
ตระหนั กถึ งความจํ า เป น ที่ พืช ต องไดรั บน้ําและแสง
เพื่อการเจริญเติบโต โดยดูแลพืชใหไดรับสิ่งดังกล าว
อยางเหมาะสม
ว 1.2 ป.2/3
สรางแบบจําลองที่บรรยายวัฏจักรชีวิตของพืชดอก • พื ช ดอกเมื่ อเจริ ญ เติ บ โตและมี ดอก ดอกจะมี การสื บ พั น ธุ
เปลี่ยนแปลงไปเปนผล ภายในผลมีเมล็ด เมื่อเมล็ดงอก ตนออน
ที่ อยู ภายในเมล็ ดจะเจริ ญเติ บโตเป นพื ชต นใหม พื ชต นใหม
จะเจริญเติบโตออกดอกเพื่อสืบพันธุมีผลตอไปไดอีกหมุนเวียน
ตอเนื่องเปน วัฏจักรชีวิตของพืชดอก
ว 1.3 ป.2/1
เปรี ย บเที ย บลั กษณะของสิ่ งมี ชี วิ ตและสิ่ งไมมีชีวิต • สิ่ ง ที่ อ ยู ร อบตั ว เรามี ทั้ ง ที่ เ ป น สิ่ ง มี ชี วิ ต และสิ่ ง ไม มี ชี วิ ต
จากขอมูลที่รวบรวมได สิ่งมีชีวิตตองการอาหาร มีการหายใจ เจริญเติบโต ขับถาย
เคลื่อนไหว ตอบสนองตอสิ่งเรา และสืบพันธุไดลูกที่มีลักษณะ
คลายคลึงกับพอแม สวนสิ่งไมมีชีวิตจะไมมีลักษณะดังกลาว
ว 2.2 ป.2/2 • แสงเคลื่อนที่จ ากแหลงกําเนิดแสงทุกทิศทางเปน แนวตรง
ตระหนักในคุณคาของความรูของการมองเห็น โดย เมื่ อ มี แ สงจากวั ต ถุ ม าเข า ตาจะทํ า ให ม องเห็ น วั ต ถุ นั้ น
เสนอแนวทางการป องกั นอั นตรายจากการมองเห็ น การมองเห็นวัตถุที่เปนแหลงกําเนิดแสง แสงจากวัตถุนั้นจะ
วัตถุที่อยูในบริเวณที่มีแสงสวางไมเหมาะสม เขาสูตาโดยตรง สวนการมองเห็นวัตถุที่ไมใชแหลงกําเนิดแสง
ตองมีแสงจากแหล งกําเนิด แสงไปกระทบวัต ถุ แลว สะท อน
ว 2.3 ป.2/1 เขาตา ถามีแสงที่สวางมาก ๆ เขาสูตาอาจเกิดอันตรายตอตา
บรรยายการเคลื่อนที่ของแสงจากแหลงกําเนิดแสง ได จึงตองหลีกเลี่ยงการมองหรือใชแผนกรองแสงที่มีคุณภาพ
แ ล ะ อ ธิ บ า ย ก า รม อ ง เ ห็ น วั ตถุ จ าก หลั ก ฐ าน เมื่อจําเปน และตองจัดความสวางใหเหมาะสมกับ การทํ า
เชิงประจักษ กิจกรรมตาง ๆ เชน การอานหนังสือ การดูจอโทรทัศน การ
ใชโทรศัพทเคลื่อนที่และแท็บเล็ต
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
ฌ คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2
ตัวชี้วัด สาระการเรียนรูแกนกลาง
ว 3.2 ป.2/1 • ดินประกอบดวยเศษหิน ซากพืช ซากสัตวผสมอยูในเนื้อดิน
ระบุสวนประกอบของดิน และจําแนกชนิดของดิน มีอากาศและน้ําแทรกอยูตามชองวางในเนื้อดิน ดินจําแนก
โดยใชลักษณะเนื้อดินและการจับตัวเปนเกณฑ เปนดินรวน ดินเหนียว และดินทราย ตามลักษณะเนื้อดินและ
การจับตัวของดินซึ่งมีผลตอการอุมน้ําที่แตกตางกัน
• ดินแตละชนิดนําไปใชประโยชนไดแตกตางกันตามลักษณะ
ว 3.2 ป.2/2 และสมบัติของดิน
อธิบายการใชประโยชนจากดิน จากขอมูลที่รวบรวม
ได
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 ญ
ขอแนะนําการใชคูมือครู
คูมือครูเลมนี้จัดทําขึ้ นเพื่อใชเปน แนวทางการจัดกิจ กรรมสําหรับ ครู ในแตละหนวยการเรี ย นรู
นักเรียนจะไดฝกทักษะจากการทํากิจกรรมตาง ๆ ทั้งการสังเกต การสํารวจ การทดลอง การสืบคนขอมูล
การอภิปราย การทํางานรวมกัน ซึ่งเปนการฝกใหนักเรียนชางสังเกต รูจักตั้งคําถาม รูจักคิดหาเหตุผล เพื่อตอบ
ปญหาตาง ๆ ไดดวยตนเอง ทั้งนี้โดยมีเปาหมายเพื่อใหนักเรียนไดเรียนรูและคนพบดวยตนเองมากที่สุด ดังนั้น
ในการจัดการเรียนรู ครูจึงเปนผูชวยเหลือ สงเสริม และสนับสนุนนักเรียนใหรูจักสืบเสาะหาความรูจากสื่อและ
แหลงเรียนรูตาง ๆ และเพิ่มเติมขอมูลที่ถูกตองแกนักเรียน เพื่อใหนักเรียนมีทักษะจากการศึกษาหาความรูดวย
ตนเอง
เพื่อใหเกิดประโยชนจากคูมือครูเลมนี้มากที่สุด ครูควรทําความเขาใจในรายละเอียดของแตละ
หัวขอ และขอเสนอแนะเพิ่มเติม ดังนี้
1. สาระการเรียนรูแกนกลาง
สาระการเรี ยนรู แกนกลางเป นสาระการเรี ยนรู เฉพาะกลุ มสาระการเรี ยนรู วิ ทยาศาสตร และ
เทคโนโลยีที่ปรากฏในมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัด ฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสู ตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กระทรวงศึกษาธิการ ไดกําหนดไวเฉพาะสวนที่จําเปน
สําหรับเปนพื้นฐานเกี่ยวของกับชีวิตประจําวัน และเปนพื้นฐานในการศึ กษาต อในระดั บที่สู งขึ้น โดย
สอดคล องกั บสาระและความสามารถ ความถนั ดและความสนใจของนั กเรี ยน ในทุ กกิ จกรรมจะมี
สาระสําคัญ ซึ่งเปนเนื้อหาสาระที่ปรากฏอยูตามสาระการเรียนรูโดยสถานศึกษาสามารถพัฒนาเพิ่มเติม
ไดตามความเหมาะสม
สาระการเรียนรูวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ตามมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัด ฯ (ฉบับปรับปรุง
พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ไดเพิ่มสาระเทคโนโลยี ซึ่ง
ประกอบด วยการออกแบบและเทคโนโลยี และวิ ทยาการคํ านวณ ทั้ งนี้ เพื่ อเอื้ อต อการจั ดการเรี ยนรู
บูรณาการสาระทางคณิตศาสตร วิทยาศาสตร และเทคโนโลยี กับกระบวนการออกแบบเชิงวิ ศวกรรม
ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา
2. ภาพรวมการจัดการเรียนรูป ระจําหนวย
ภาพรวมการจัดการเรียนรูประจําหนวยมีไวเพื่อเชื่อมโยงเนื้อหาสาระกับมาตรฐานการเรียนรูและ
ตัวชี้วัดที่จะไดเรียนในแตละกิจกรรมของหนวยนั้น ๆ และเปนแนวทางใหครูผูสอนนําไปปรับปรุงและ
เพิ่มเติมตามความเหมาะสม
3. จุดประสงคการเรียนรู
แตละหนวยการเรียนรูนักเรียนจะไดทํากิจกรรมอยางหลากหลาย ในแตละสวนของหนังสือเรียนทั้ง
สวนนําบท นําเรื่อง และกิจกรรมมีจุดประสงคการเรียนรูที่สอดคลองกับตัวชี้วัดชั้นปเพื่อใหนักเรียนเกิด
การเรียนรู โดยยึดหลักใหนักเรียนไดลงมือปฏิบัติ สืบเสาะหาความรูดวยกระบวนการทางวิทยาศาสตร
กระบวนการแกปญหา การสื่อสาร และความสามารถในการตัดสินใจ การนําความรูไปใชในชีวิตและ
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
ฎ คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 ฏ
วีดิทัศนตัวอยางปฏิบัติการวิทยาศาสตรสําหรับครูเพื่อฝกฝนทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรตาง ๆ
มีดังนี้
รายการ ทักษะกระบวนการทาง
Short link QR code
วิทยาศาสตร
วีดิทัศน การสังเกตและการ การสังเกตและการลงความเห็น http://ipst.me/8115
ลงความเห็นจากขอมูล จากขอมูล
ทําไดอยางไร
วีดิทัศน การวัดทําไดอยางไร การวัด http://ipst.me/8116
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
ฐ คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2
รายการ ทักษะกระบวนการทาง
Short link QR code
วิทยาศาสตร
วีดิทัศน ทําการทดลองได การทดลอง http://ipst.me/8123
อยางไร
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 ฑ
7. แนวคิดคลาดเคลื่อน
ความเชื่ อ ความรู หรื อ ความเข า ใจที่ ผิ ด หรื อ คลาดเคลื่ อ นซึ่ ง เกิ ด ขึ้ น กั บ นั ก เรี ย น เนื่ อ งจาก
ประสบการณในการเรียนรูที่รับมาผิดหรือนําความรูที่ไดรับมาสรุปตามความเขาใจของตนเองผิด แลว
ไมสามารถอธิบายความเขาใจนั้นได ดังนั้นเมื่อเรียนจบบทนี้แลวครูควรแกไขแนวคิดคลาดเคลื่อนของ
นักเรียนใหเปนแนวคิดที่ถูกตอง
8. บทนี้เริ่มตนอยางไร
แนวทางสําหรับครูในการจัดการเรียนรูวิทยาศาสตรเพื่อสงเสริมใหนักเรียนรูจักคิดดวยตนเอง
รูจักคนควาหาเหตุผล ครูควรกระตุนใหนักเรียนเกิดความสนใจในบทเรียนนั้น ๆ โดยใหนักเรียนตอบ
คําถามสํารวจความรูกอนเรียน จากนั้นครูสังเกตการตอบคําถามของนักเรียนและยังไมเฉลยคําตอบที่
ถูกตอง เพื่อใหนักเรียนไปหาคําตอบจากเรื่องและกิจกรรมตาง ๆ ในบทนั้น
9. เวลาที่ใช
การเสนอแนะเวลาที่ ใช ในการจัด การเรี ย นการสอนวา ควรใชป ระมาณกี่ชั่ว โมง เพื่อชว ยให
ครูผูสอนไดจัดทําแผนการจัดการเรียนรูไดอยางเหมาะสม อยางไรก็ตามครูอาจปรับเปลี่ยนเวลาไดตาม
สถานการณและความสามารถของนักเรียน
10. วัสดุอุปกรณ
รายการวัสดุอุปกรณทั้งหมดสําหรับการจัดกิจกรรม โดยอาจมีทั้งวัสดุสิ้นเปลือง อุปกรณสําเร็จรูป
อุปกรณพื้นฐาน หรืออื่น ๆ
11. การเตรียมตัวลวงหนาสําหรับครูเพื่อจัดการเรียนรูในครั้งถัดไป
การเตรียมตัวลวงหนาสําหรับการจัดการเรี ยนรูในครั้งถัด ไป เพื่อครูจะไดเตรียมสื่อ อุปกรณ
เครื่องมือตาง ๆ ที่ตองใชในกิจกรรมใหอยูในสภาพที่ใชการไดดีและมีจํานวนเพียงพอกับนักเรียน โดย
อาจมีบางกิจกรรมตองทําลวงหนาหลายวัน เชน การเลี้ยงปลา
ขอเสนอแนะเพิ่มเติม
นักเรียนในระดับชัน้ ประถมศึกษา มีกระบวนการคิดที่เปนรูปธรรม ครูจึงควรจัดการเรียนการสอนที่
มุงเนนใหนักเรียนไดปฏิบัติหรือทําการทดลองดวยตนเอง ซึ่งเปนวิธีหนึ่งที่นักเรียนจะไดมีประสบการณต รง
ดังนั้นครูผูสอนจึงตองเตรียมตัวเองในเรื่องตอไปนี้
11.1 บทบาทของครู ครูจะตองเปลี่ยนบทบาทจากการเปนผูชี้นําหรือผูถายทอดความรู เปน
ผูชวยเหลือ โดยสงเสริมและสนับสนุนนักเรียนในการแสวงหาความรูจากสื่อและแหลง
เรียนรูตาง ๆ และใหขอมูลที่ถูกตองแกนักเรียน เพื่อใหนักเรียนไดนําขอมูลเหลานั้นไปใช
สรางสรรคความรูของตนเอง
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
ฒ คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2
11.2 การเตรี ย มตั ว ของครู แ ละนั ก เรี ย น ครู ค วรเตรี ย มนั ก เรี ย นให มี ค วามพร อ มในการทํ า
กิจกรรมตาง ๆ แตบางครั้งนักเรียนไมเขาใจและอาจจะทํากิจกรรมไมถูกตอง ดังนั้นครูจึง
ตองเตรียมตัวเอง โดยทําความเขาใจในเรื่องตอไปนี้
การสืบคนข อมูล หรื อการคน ควาดว ยวิธี การตาง ๆ เชน สอบถามจากผูรูในท อ งถิ่น
ดูจากรูปภาพแผนภูมิ อานหนังสือหรือเอกสารเทาที่หาได นั่นคือการใหนักเรียนเปนผูหา
ความรูและพบความรูหรือขอมูลดวยตนเอง ซึ่งเปนการเรียนรูดวยวิธีสืบเสาะหาความรู
การนํ า เสนอ มี ห ลายวิ ธี เช น ให นั ก เรี ย นหรื อ ตั ว แทนกลุ ม ออกมาเล า เรื่ อ งที่ ไ ดรับ
มอบหมายใหไปสํารวจ สังเกต หรือทดลอง หรืออาจใหเขียนเปนคําหรือเปนประโยคลงใน
แบบบันทึกกิจกรรมหรือสมุดอื่นตามความเหมาะสม นอกจากนี้อาจใหวาดรูป หรือตัด
ขอความจากหนังสือพิมพ แลวนํามาติดไวในหอง เปนตน
การสํารวจ ทดลอง สืบคนขอมูล สรางแบบจําลองหรืออื่น ๆ เพื่อสรางองคความรูเปน
สิ่งสําคัญอยางยิ่งตอการเรียนรูวิทยาศาสตร ครูผูสอนสามารถใหนักเรียนทํากิจกรรมไดทั้ง
ในหองเรียน นอกหองเรียนหรือที่บาน โดยไมจําเปนตองใชอุปกรณวิทยาศาสตรราคาแพง
อาจใชอุปกรณที่ดัดแปลงจากสิ่งของเหลือใช หรือใชวัสดุธรรมชาติ ขอสําคัญ คือ ครูผูสอน
ตองใหนักเรียนทราบวา ทําไมจึงตองทํากิจกรรมนั้น และจะตองทําอะไร อยางไร ผลจาก
การทํากิจกรรมจะสรุ ปผลอย างไร ซึ่งจะทําใหนักเรียนไดความรู ความคิด และทักษะ
กระบวนการทางวิทยาศาสตรพรอมกับเกิดคานิยม คุณธรรม เจตคติ ทางวิทยาศาสตร
ดวย
12. แนวการจัดการเรียนรู
แนวทางสําหรับครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรูวิทยาศาสตรที่มุงสงเสริมใหนักเรียนรูจักคิดดวย
ตนเอง รูจักคนควาหาเหตุผลและสามารถแกปญหาไดดวยการนําเอาวิธีการตาง ๆ ของกระบวนการทาง
วิทยาศาสตรไปใช วิธีการจัดการเรียนรูที่ สสวท. เห็นวาเหมาะสมที่จะนํานักเรียนไปสูเปาหมายที่กําหนด
ไวก็คือ วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู ซึ่งมีองคประกอบที่สําคัญ คือ การมองเห็นปญหา การสํารวจ
ตรวจสอบ และอภิปรายซักถามระหวางครูกับนักเรียนเพื่อนําไปสูขอสรุป
ขอเสนอแนะเพิ่มเติม
นอกจากครู จ ะจั ด กิ จ กรรมต า ง ๆ ตามคูมือครูนี้ ครูส ามารถจัด กิจ กรรมการเรีย นรูต ามความ
เหมาะสมเพื่อใหบรรลุจุดมุงหมาย โดยจะคํานึงถึงเรื่องตาง ๆ ดังตอไปนี้
12.1 นักเรียนมีสวนรวมในกิจกรรมการเรียนรู ครูควรใหนักเรียนทุกคนมีสวนรวมในกิจกรรม
การเรียนรูตลอดเวลาดวยการกระตุนใหนักเรียนลงมือทํากิจกรรมและอภิปรายผล โดยครู
อาจใชเทคนิคตาง ๆ เชน การใชคําถาม การเสริมแรงมาใชใหเปนประโยชน เพื่อใหการ
เรียนการสอนนาสนใจและมีชีวิตชีวา
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 ณ
ขอแนะนําเพิ่มเติม
1. การสอนอาน
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ใหความหมายของคําวา “อาน” หมายถึง วาตาม
ตัวหนังสือ ถาออกเสียงดวย เรียกวา อานออกเสียง ถาไมตองออกเสียง เรียกวา อานในใจ หรืออีกความหมาย
ของคําวา “อาน” หมายถึง สังเกตหรือพิจารณาดูเพื่อใหเขาใจ เชน อานสีหนา อานริมฝปาก อานใจ ตีความ
เชน อานรหัส อานลายแทง
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
ด คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 ต
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
ถ คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2
7. ครูและนักเรียนอภิปรายรวมกัน โดยครูวิเคราะหวานักเรียนแตละคนสามารถใชการคาดคะเนดวย
ตนเองอยางไรบาง
8. ทําซ้ําขั้นตอนเดิมในการอานเนื้อเรื่องสวนอื่น ๆ เมื่อจบทั้งเรื่องแลว ครูปดเรื่องโดยการทบทวน
เนื้อหาและอภิปรายถึงวิธีการคาดคะเนของนักเรียนที่ควรใชสําหรับการอานเรื่องอื่น ๆ
เทคนิคการสอนแบบ KWL (Know – Want to know – Learned)
การสอนอานที่มุงเนนใหนักเรียนไดเชื่อมโยงประสบการณเดิมกับประสบการณใหมอยางเปนรูปธรรม
และเปนระบบ โดยผานตาราง 3 ชอง คือ K-W-L (นักเรียนรูอะไรบางเกี่ยวกับเรื่องที่จะอาน นักเรียนตองการรู
อะไรเกี่ยวกับเรื่องที่จะอาน นักเรียนไดเรียนรูอะไรบางจากเรื่องที่อาน) โดยมีขั้นตอนการจัดการเรียนการสอน
ดังนี้
1. นําเขาสูบทเรียนดวยการกระตุนความสนใจของนักเรียน โดยการใชคําถาม การนําดวยรูปภาพหรือ
วีดิทัศนที่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง เพื่อเชื่อมโยงเขาสูเรื่องที่จะอาน
2. ครูทําตารางแสดง K-W-L และอธิบายขั้นตอนการทํากิจกรรมโดยใชเทคนิค K-W-L วามีขั้นตอน
ดังนี้
ขั้นที่ 1 กิจกรรมกอนการอาน เรียกวา ขั้น K มาจาก know (What we know) เปนขั้นตอนที่ให
นักเรียนระดมสมองแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่จะอาน แลวบันทึกสิ่งที่ตนเองรูลงใน
ตารางชอง K ขั้นตอนนี้ชวยใหนักเรียนรูวาตนเองรูอะไรแลวตองอานอะไร โดยครูพยายาม
ตั้งคําถามกระตุนใหนักเรียนไดแสดงความคิดเห็น
ขั้นที่ 2 กิจกรรมระหวางการอาน เรียกวา ขั้น W มาจาก want to know (What we want to know)
เปนขั้นตอนที่ใหนักเรียนตั้งคําถามเกี่ยวกับสิ่งที่ตองการรูเกี่ยวกับเรื่องที่กําลังจะอาน โดยครู
และนักเรียนรวมกันกําหนดคําถาม แลวบันทึกสิ่งที่ตองการรูลงในตารางชอง W
ขั้นที่ 3 กิจกรรมหลังการอาน เรียกวา ขั้น L มาจาก learned (What we have learned) เปน
ขั้นตอนที่สํารวจวาตนเองไดเรียนรูอะไรบางจากการอาน โดยหลังจากอานเนื้อเรื่อง นักเรียน
หาขอความมาตอบคําถามที่กําหนดไวในตารางชอง W จากนั้นนําขอมูลที่ไดจากการอานมา
จัดลําดับความสําคัญของขอมูลและสรุปเนื้อหาสําคัญลงในตารางชอง L
3. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปเนื้อหา โดยการอภิปรายหรือตรวจสอบคําตอบในตาราง K-W-L
4. ครูและนักเรียนอาจรวมกันอภิปรายเกี่ยวกับการใชตาราง K-W-L มาชวยในการเรียนการสอนการอาน
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 ท
2. การใชงานสื่อ QR Code
QR Code เปนรหัสหรือภาษาที่ตองใชโปรแกรมอานหรือสแกนขอมูลออกมา ซึ่งตองใชงานผาน
โทรศัพทเคลื่อนที่หรืออุปกรณอิเล็กทรอนิกสที่ติดตั้งกลองไว แลวอาน QR Code ผานโปรแกรมตาง ๆ เชน
LINE (สําหรับโทรศัพทเคลื่อนที่) Code Two QR Code Reader (สําหรับคอมพิวเตอร) Camera (สําหรับ
ผลิตภัณฑของ Apple Inc.)
ขั้นตอนการใชงาน
1. เปดโปรแกรมสําหรับอาน QR Code
2. เลื่อนอุปกรณอิเล็กทรอนิกส เชน โทรศัพทเคลื่อนที่ แท็บเล็ต เพื่อสองรูป QR Code ไดทั้งรูป
3. เปดไฟลหรือลิงกที่ขึ้นมาหลังจากโปรแกรมไดอาน QR Code
**หมายเหตุ อุปกรณที่ใชอาน QR Code ตองเปด Internet ไวเพื่อดึงขอมูล
ขั้นตอนการติดตั้งโปรแกรม
1. เขาไปที่ Play Store ( ) หรือ App Store ( )
2. คนหาคําวา “AR สสวท. วิทยประถม”
3. กดเขาไปที่โปรแกรมประยุกตที่ สสวท. พัฒนา
4. กด “ติดตั้ง” และรอจนติดตั้งเรียบรอย
5. เขาสูโปรแกรมจะปรากฏหนาแรก จากนั้นกด “วิธีการใชงาน” เพื่อศึกษาการใชงานโปรแกรม
เบื้องตนดวยตนเอง
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
ธ คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 น
การจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตรในระดับประถมศึกษา
การจัดการเรียนการสอนที่เนนการสืบเสาะหาความรูทางวิทยาศาสตร
การสืบเสาะหาความรูทางวิทยาศาสตร หมายถึงวิธีการที่นักวิทยาศาสตรใชเพื่อศึกษาสิ่งตาง ๆ รอบตัว
อยางเปนระบบ และเสนอคําอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่ศึกษาดวยขอมูลที่ไดจากการทํางานทางวิทยาศาสตร มีวิธีการอยู
หลากหลาย เชน การสํารวจ การสืบคน การทดลอง การสรางแบบจําลอง
นักเรียนทุกระดับชั้นควรไดรับโอกาสในการสืบเสาะหาความรูทางวิทยาศาสตรและพัฒนาความสามารถ
ในการคิดและแสดงออกดวยวิธีการที่เชื่อมโยงกับการสืบเสาะหาความรูซึ่งรวมทั้งการตั้งคําถาม การวางแผนและ
ดํ าเนิ นการสื บเสาะหาความรู การใช เครื่ องมื อและเทคโนโลยี ที่ เหมาะสมในการรวบรวมข อมู ล การคิ ดอย างมี
วิ จารณญาณและมี เหตุ ผลเกี่ ยวกั บความสั มพั นธระหวางพยานหลั กฐานและการอธิ บาย การสร างและวิ เคราะห
คําอธิบายที่หลากหลาย และการสื่อสารขอโตแยงทางวิทยาศาสตร
การจัดการเรียนการสอนที่เนนการสืบเสาะหาความรู ควรมีหลายรูปแบบ แตละรูปแบบมีความตอเนื่องกัน
จากที่เนนครูเปนสําคัญไปจนถึงเนนนักเรียนเปนสําคัญ โดยแบงไดดังนี้
• การสืบเสาะหาความรูแบบครูเปนผูกําหนดแนวทาง (Structured Inquiry) ครูเปนผูตั้งคําถามและบอก
วิธีการใหนักเรียนคนหาคําตอบ ครูชี้แนะนักเรียนทุกขั้นตอนโดยใชกระบวนการทางวิทยาศาสตร
• การสืบเสาะหาความรูแบบทั้งครูและนักเรียนเปนผูกําหนดแนวทาง (Guided Inquiry) ครูเปนผูตั้งคําถาม
และจัดหาวัสดุอุปกรณที่ใชในการสํารวจตรวจสอบใหกับนักเรียน นักเรียนจะเปนผูออกแบบการทดลอง
ดวยตัวเอง
• การสืบเสาะหาความรูแบบนักเรียนเปนผูกําหนดแนวทาง (Open Inquiry) นักเรียนทํากิจกรรมตามที่ครู
กําหนด นักเรียนพัฒนาวิธี ดําเนินการสํารวจ ตรวจสอบจากคําถามที่ครูตั้งขึ้น นักเรียนตั้งคําถามในหัวขอที่
ครูเลือก พรอมทั้งออกแบบการสํารวจตรวจสอบดวยตนเอง
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
บ คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2
การสืบเสาะหาความรูทางวิทยาศาสตรในหองเรียน
เราสามารถจัดการเรียนรูวิทยาศาสตรในหองเรียนโดยจัดโอกาสใหนักเรียนไดสืบเสาะหาความรู
ทางวิทยาศาสตรตามที่หลักสูตรกําหนด ดวยกระบวนการแบบเดียวกันกับที่นักวิทยาศาสตรสืบเสาะ แตอาจมี
รูปแบบที่หลากหลายตามบริบทและความพรอมของครูและนักเรียน เชน การสืบเสาะหาความรูแบบปลายเปด
(Open Inquiry) ที่ นั กเรี ย นเป น ผูควบคุ มการสืบ เสาะหาความรูของตนเองตั้งแตการสรางประเด็นคําถาม
การสํารวจตรวจสอบ (Investigation) และอธิบายสิ่งที่ศึกษาโดยใชขอมูล (Data) หรือหลักฐาน (Evidence)
ที่ไดจากการสํารวจตรวจสอบ การประเมินและเชื่อมโยงความรูที่เกี่ยวของหรือคําอธิบายอื่นเพื่อปรับปรุง
คําอธิบายของตนและนําเสนอตอผูอื่น นอกจากนี้ ครูอาจใชการสืบเสาะหาความรูที่ตนเองเปนผูกําหนดแนวใน
การทํากิจกรรม (Structured Inquiry) โดยครูสามารถแนะนํานักเรียนไดตามความเหมาะสม
การจัดการเรียนรูแบบสืบเสาะหาความรูทางวิทยาศาสตร ครูสามารถออกแบบการสอนใหมีลักษณะ
สําคัญของการสืบเสาะ ดังนี้
ภาพ วัฏจักรการสืบเสาะหาความรูทางวิทยาศาสตรในหองเรียน
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 ป
การจัดการเรียนการสอนที่สอดคลองกับธรรมชาติของวิทยาศาสตร
และกระบวนการทางวิทยาศาสตร
ธรรมชาติของวิทยาศาสตร เปนลักษณะเฉพาะตัวของวิทยาศาสตรที่มีความแตกตางจากศาสตรอื่น ๆ
เป น ค า นิ ย ม ข อ สรุ ป แนวคิ ด หรื อ คํ า อธิ บ ายที่ บ อกว า วิ ท ยาศาสตร คื อ อะไร มี ก ารทํ า งานอย า งไร
นักวิทยาศาสตรคือใคร ทํางานอยางไร และงานดานวิทยาศาสตรมีความสัมพันธอยางไรกับสังคม คานิยม
ขอสรุป แนวคิด หรือคําอธิบายเหลานี้จะผสมกลมกลืนอยูในตัววิทยาศาสตร ความรูทางวิทยาศาสตร และการ
พัฒนาความรูทางวิทยาศาสตร สําหรับนักเรียนในระดับประถมศึกษาตอนตน ความเขาใจเกี่ยวกับธรรมชาติ
ของวิทยาศาสตรและกระบวนการทางวิทยาศาสตรขึ้นอยูกับระดับพัฒนาการทางสติปญญาของนักเรียนและ
ประสบการณที่ครูจัดใหแกนักเรียน ความสามารถในการสังเกตและการสื่อความหมายของนักเรียนในระดับนี้
คอย ๆ พัฒนาขึ้น ครูควรอํานวยความสะดวกในการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรและแนวคิด
ทางวิทยาศาสตรของนักเรียน นักเรียนในระดับนี้เริ่มที่จะเขาใจวาวิทยาศาสตรคืออะไร วิทยาศาสตรทํางาน
อยางไร และนักวิทยาศาสตรทํางานกันอยางไรโดยผานการทํากิจกรรมในหองเรียน จากเรื่องราวเกี่ยวกับ
นักวิทยาศาสตร และจากการอภิปรายในหองเรียน
นั กเรี ย นในระดั บ ประถมศึ ก ษาตอนปลายซึ่ งกํ าลัง พัฒ นาฐานความรูโ ดยใชการสังเกตมากขึ้ น
สามารถนําความรูมาใชเพื่อกอใหเกิดความคาดหวังเกี่ยวกับสิ่งตาง ๆ รอบตัว โอกาสการเรียนรูสําหรับนักเรียน
ในระดั บนี้ ควรเน น ไปที่ ทักษะการตั้ งคํ า ถามเชิ งวิ ท ยาศาสตร การสรา งคํา อธิบายที่มีเหตุผ ลโดยอาศั ย
พยานหลักฐานที่ปรากฏ และการสื่อความหมายเกี่ยวกับความคิดและการสํารวจตรวจสอบของตนเองและของ
นักเรียนคนอื่น ๆ นอกจากนี้เรื่องราวทางประวัติศาสตรสามารถเพิ่มความตระหนักถึงความหลากหลายของคน
ในชุ มชนวิ ทยาศาสตร นั กเรี ย นในระดั บ นี้ ควรมีสว นรว มในกิจ กรรมที่ชว ยใหเขาคิด อยา งมีวิจ ารณญาณ
เกี่ยวกับพยานหลักฐานและความสัมพันธระหวางพยานหลักฐานกับการอธิบาย
การเรียนรูวิทยาศาสตรของนักเรียนแตละระดับชั้นมีพัฒนาการเปนลําดับดังนี้
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
ผ คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2
• ทํางานในกลุมแบบรวมมือเพื่อสํารวจ การสื่อความหมาย
ตรวจสอบ • ลงมือปฏิบัติการทดลองและการอภิปราย
• คนหาแหลงขอมูลที่เชื่อถือไดและบูรณาการ
• คนหาขอมูลและการสื่อความหมายคําตอบ
ขอมูลเหลานั้นกับการสังเกตของตนเอง
• สรางคําบรรยายและคําอธิบายจากสิ่งที่
• ศึกษาประวัติการทํางานของนักวิทยาศาสตร
สังเกต
• นําเสนอประวัติการทํางานของ
นักวิทยาศาสตร
http://ipst.me/8922
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 ฝ
การวัดผลและประเมินผลการเรียนรูวิทยาศาสตร
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
พ คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2
การประเมินเพื่อปรับปรุงการเรียนการสอน เปนการประเมินในระหวางชวงที่มีการเรียนการสอน
การประเมินแบบนี้จ ะชวยบงชี้ร ะดับ ที่นักเรีย นกําลั งเรีย นอยูในเรื่ องที่ ไดส อนไปแลว หรือบงชี้ความรู ข อง
นักเรียนตามจุดประสงคการเรียนรูที่ไดวางแผนไว เปนการประเมินที่ใหขอมูลยอนกลับกับนักเรียนและกับครู
วาเปนไปตามแผนการที่วางไวหรือไม ขอมูลที่ไดจากการประเมินแบบนี้ไมใชเพื่อเปาประสงคในการใหระดับ
คะแนน แตเพื่อชวยครูในการปรับปรุงการสอน และเพื่อวางแผนประสบการณตาง ๆ ที่จะใหกับนักเรียนตอไป
การประเมินเพื่อตัดสินผลการเรียนการสอน เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการเรียนการสอนแลว สวนมากเปน
“การสอบ” เพื่อใหระดับคะแนนแกนักเรียน หรือเพื่อใหตําแหนงความสามารถของนักเรียน หรือเพื่อเปนการบงชี้
ความกาวหนาในการเรี ยน การประเมินแบบนี้ถือว ามีความสําคัญ ในความคิดของผูป กครอง นักเรียน ครู
ผูบริหาร อาจารยแนะแนว ฯลฯ แตก็ไมใชเปนการประเมินภาพรวมทั้งหมดของความสามารถของนักเรียน ครู
ตองระมัดระวังเมื่อประเมินผลรวมเพื่ อตั ดสินผลการเรีย นของนักเรียน ทั้งนี้เพื่อใหเกิด ความสมดุ ล ความ
ยุติธรรม และเกิดความเที่ยงตรง
การตัดสินผลการเรียนของนักเรียนมักจะมี การเปรียบเที ยบกั บสิ่งอางอิง สวนมากการประเมิน
มักจะอางอิงกลุม (norm reference) คือเปนการเปรียบเทียบความสามารถของนักเรียนโดยเปรียบเทียบกับกลุม
หรือคะแนนของนักเรียนคนอื่น ๆ การประเมินแบบกลุมนี้จะมี “ผูชนะ” และ “ผูแพ” อยางไรก็ตามการประเมิน
แบบอิงกลุมนี้จะมีนักเรียนครึ่งหนึ่งที่อยูตํ่ากวาระดับคะแนนเฉลี่ยของกลุม นอกจากนี้ยังมีการประเมินแบบอิง
เกณฑ (criterion reference) ซึ่ งเป นการเปรียบเทียบความสามารถของนักเรียนกับเกณฑที่ตั้ งเอาไวโดยไม
คํานึงถึงคะแนนของนักเรียนคนอื่น ๆ ฉะนั้นจุดมุงหมายในการเรียนการสอนจะตองชัดเจนและมีเกณฑที่บอกให
ทราบวาความสามารถระดับใดจึงจะเรียกวาบรรลุถึงระดับ “รอบรู” โดยที่นักเรียนแตละคน หรือชั้นเรียนแตละ
ชั้น หรือโรงเรียนแตละโรงจะไดรับการตัดสินวาประสบผลสําเร็จก็ตอเมื่อ นักเรียนแตละคน หรือชั้นเรียนแตละชั้น
หรือโรงเรียนแตละโรงไดสาธิตผลสําเร็จ หรือสาธิตความรอบรูตามจุดประสงคการเรียนรูหรือตามเกณฑที่ตั้งไว
ข อมู ลที่ ใช สําหรั บการประเมิ นเพื่ อวิ นิ จฉั ย หรื อเพื่ อปรั บปรุงการเรี ยนการสอน หรือเพื่อตั ดสิ นผลการเรี ยน
การสอนสามารถใชการประเมิ นแบบอิงกลุมหรื ออิ งเกณฑ เทาที่ ผานมาการประเมิ นเพื่ อตั ดสิ นผลการเรี ยน
การสอนจะใชการประเมินแบบอิงกลุม
แนวทางการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู
การเรียนรูจะบรรลุตามเปาหมายของการจัดกิจกรรมการเรียนรูที่วางไว ควรมีแนวทางดังตอไปนี้
1. วัดและประเมินผลทั้งความรูความคิด ความสามารถ ทักษะกระบวนการ เจตคติ คุณธรรม จริยธรรม
คานิยมดานวิทยาศาสตร รวมทั้งโอกาสในการเรียนรูของนักเรียน
2. วิธีการวัดและประเมินผลตองสอดคลองกับมาตรฐานการเรียนรูที่กําหนดไว
3. เก็บขอมูลจากการวัดและประเมินผลอยางตรงไปตรงมา และตองประเมินผลภายใตขอมูลที่มีอยู
4. ผลของการวัดและประเมินผลการเรียนรูของนักเรียนตองนําไปสูการแปลผลและลงขอสรุปที่สมเหตุสมผล
5. การวัดและประเมินผลตองมีความเที่ยงตรงและเปนธรรม ทั้งในดานของวิธีการวัดและโอกาสของการ
ประเมิน
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 ฟ
วิธีการและแหลงขอมูลที่ใชในการวัดผลและประเมินผล
เพื่อใหการวัดผลและประเมินผลไดสะทอนความสามารถที่แทจริงของนักเรียน ผลการประเมินอาจ
ไดมาจากแหลงขอมูลและวิธีการตาง ๆ ดังตอไปนี้
1. สังเกตการแสดงออกเปนรายบุคคลหรือรายกลุม
2. ชิ้นงาน ผลงาน รายงาน
3. การสัมภาษณทั้งแบบเปนทางการและไมเปนทางการ
4. บันทึกของนักเรียน
5. การประชุมปรึกษาหารือรวมกันระหวางนักเรียนและครู
6. การวัดและประเมินผลภาคปฏิบัติ
7. การวัดและประเมินผลดานความสามารถ
8. การวัดและประเมินผลการเรียนรูโดยใชแฟมผลงาน
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
ภ คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2
หนวยการ เวลา
ชื่อกิจกรรม ตัวชี้วัด
เรียนรู (ชั่วโมง)
หนวยที่ 3 แสง บทที่ 1 แสง 1 • บรรยายการเคลื่อนที่ของแสง
และสิ่งมีชีวิต เรื่องที่ 1 แสงและการมองเห็น 1 จากแหล ง กํ า เนิ ด แสง และ
กิจกรรมที่ 1.1 แสงเคลื่อนที่อยางไร 3 อธิ บ ายการมองเห็น วัต ถุจ าก
กิจกรรมที่ 1.2 มองเห็นวัตถุตาง ๆ ไดอยางไร 3 หลักฐานเชิงประจักษ
กิจกรรมทายบทที่ 1 แสงและการมองเห็น 2 • ตระหนักในคุณคาของความรู
ของการมองเห็ น โดยเสนอ
แนวทางการปองกัน อั น ตราย
จากการมองเห็ น วั ต ถุ ที่ อ ยู ใ น
บ ริ เ ว ณ ที่ มี แ ส ง ส ว า ง ไ ม
เหมาะสม
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 ม
หนวยการ เวลา
ชื่อกิจกรรม ตัวชี้วัด
เรียนรู (ชั่วโมง)
หนวยที่ 4 ดิน บทที่ 1 รูจักดิน 1 • ระบุสวนประกอบของดิน และ
รอบตัวเรา เรื่องที่ 1 ดินในทองถิ่น 1 จํ า แนกชนิ ด ของดิ น โดยใช
กิจกรรมที่ 1.1 ดินมีสวนประกอบอะไรบาง 2 ลักษณะเนื้อดินและการจับตัว
กิจกรรมที่ 1.2 ดินในทองถิ่นมีลักษณะและ 4 เปนเกณฑ
สมบัติอยางไร • อธิ บ ายการใช ป ระโยชน จ าก
เรื่องที่ 2 ประโยชนของดิน 1 ดิน จากขอมูลที่รวบรวมได
กิจกรรมที่ 2 ดินมีประโยชนอยางไร 2
กิจกรรมทายบทที่ 2 รูจักดิน 2
แบบทดสอบทายเลม 1
รวมจํานวนชั่วโมง 39
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
ย คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 ร
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชวี ิต
ภาพรวมการจัดการเรียนรูประจําหนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
รวมคิด รวมทํา
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 1
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
2 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
บทที่ 1 แสง
จุดประสงคการเรียนรูประจําบท
เมื่อเรียนจบบทนี้ นักเรียนสามารถ
1. บรรยายลักษณะการเคลื่อนที่ของแสงจากแหลงกําเนิดแสง
2. อธิบายการมองเห็นวัตถุ
3. เสนอแนะแนวทางการปองกันอันตรายจากการมองวัตถุ
ในบริเวณที่มีแสงสวางไมเหมาะสม
เวลา 10 ชั่วโมง
แนวคิดสําคัญ
แสงมี ลั ก ษณะการเคลื่ อ นที่ เ ป น แนวตรงจาก
แหล ง กํ า เนิ ด แสงทุ ก ทิ ศ ทาง แสงช ว ยในการมองเห็ น
สิ่งตาง ๆ การมองวัตถุในบริเวณที่มีแสงสวางไมเหมาะสม
จะเป น อั น ตรายต อ ตา ดั ง นั้ น การทํ า กิ จ กรรมต า ง ๆ
ในชีวิตประจําวันตองทําในบริเวณที่มีแสงสวางเหมาะสมกับ
กิจกรรมนั้น ๆ
สื่อการเรียนรูและแหลงเรียนรู บทนี้มีอะไร
1. หนังสือเรียน ป.2 เลม 2 หนา 1-15 เรื่องที่ 1 แสงและการมองเห็น
2. แบบบันทึกกิจกรรม ป.2 เลม 2 หนา 1-20
กิจกรรมที่ 1.1 แสงเคลื่อนที่อยางไร
กิจกรรมที่ 1.2 มองเห็นวัตถุตาง ๆ ไดอยางไร
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 3
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรและทักษะแหงศตวรรษที่ 21
กิจกรรมที่
รหัส ทักษะ
1.1 1.2
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร
S1 การสังเกต
S2 การวัด
S3 การใชจํานวน
S4 การจําแนกประเภท
S5 การหาความสัมพันธระหวาง
สเปซกับสเปซ
สเปซกับเวลา
S6 การจัดกระทําและสื่อความหมายขอมูล
S7 การพยากรณ
S8 การลงความเห็นจากขอมูล
S9 การตั้งสมมติฐาน
S10 การกําหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ
S11 การกําหนดและควบคุมตัวแปร
S12 การทดลอง
S13 การตีความหมายขอมูลและลงขอสรุป
S14 การสรางแบบจําลอง
ทักษะแหงศตวรรษที่ 21
C1 การสรางสรรค
C2 การคิดอยางมีวิจารณญาณ
C3 การแกปญหา
C4 การสื่อสาร
C5 ความรวมมือ
C6 การใชเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
4 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
แนวคิดคลาดเคลื่อน
ครูบันทึกแนวคิดที่ไดจากการฟงการสนทนาและการอภิปราย เพื่อนําไปใชในการจัดการเรียนรูใหสามารถแกไขแนวคิด
คลาดเคลื่อนและตอยอดแนวคิดที่ถูกตอง
แนวคิดคลาดเคลื่อน แนวคิดที่ถูกตอง
ตาของมนุ ษ ย ส ามารถผลิ ต แสงได ดั ง นั้ น เราจึ ง สามารถ ตาของมนุษยไมสามารถผลิตแสงได แตเรามองเห็นสิ่งตาง ๆ ได
มองเห็ น สิ่ ง ต า ง ๆ ได (Sampson & Schleigh, 2013; เพราะมีแสงจากแหลงกําเนิดแสงเขาสูตาของเราโดยตรง หรือมี
Shallcross, 2017) แสงจากแหลงกําเนิดแสงมากระทบวัตถุแลวสะทอนเขาสูตาของ
เรา ( Shallcross, 2017)
แสงเคลื่ อนที่ จ ากตาไปยั งวัตถุ ตาง ๆ (Balzak, Cgafiqi, & แสงไมไดเคลื่อนที่จากตาไปยังวัตถุตาง ๆ แตการที่เรามองเห็น
Kendil, 2009; Shallcross, 2017) วัตถุตาง ๆ ได เพราะมีแสงจากแหลงกําเนิดแสงเขาสูตาของเรา
โดยตรง หรือมีแสงจากแหลง กํ าเนิ ดแสงมากระทบวัต ถุ แ ล ว
สะท อ นเข า สู ต าของเรา (Chew, Foong & Tiong, 2013;
Shallcross, 2017 )
ถาครูพบวามีแนวคิดคาดเคลื่อนใดที่ยังไมไดแกไขจากการทํากิจกรรมการเรียนรู ครูควรจัดการเรียนรูเพิ่มเติมเพื่อแกไข
ตอไป
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 5
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
6 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 7
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
7. ครูสังเกตการตอบคําถามของนักเรียนเพื่อตรวจสอบวานักเรียนมีแนวคิด
เกี่ยวกับเรื่องแสงอย างไร หรืออาจสุมให นั กเรี ยน 2 – 3 คน นําเสนอ
คําตอบของตนเอง ครูยังไมตองเฉลยคําตอบ แตจะใหนักเรียนยอนกลับ การเตรียมตัวลวงหนาสําหรับครู
มาตรวจสอบอีกครั้งหลังจากเรียนจบบทนี้แลว ทั้งนี้ครูอาจบันทึกแนวคิด เพื่อจัดการเรียนรูในครัง้ ถัดไป
คลาดเคลื่ อนหรื อแนวคิ ดที่ น า สนใจของนั กเรี ย น แลว นํามาออกแบบ
การจัดการเรียนการสอนเพื่อแกไขแนวคิดคลาดเคลื่อนใหถูกตอง และ ในครั้งถัดไป นักเรียนจะไดเรียน
ตอยอดแนวคิดที่นาสนใจของนักเรียน เรื่ อ งที่ 1 แสงและการมองเห็ น ซึ่ ง เป น
สถานการณเกี่ยวกับการทัศนศึกษาในถ้ํา
เพื่อใหนักเรีย นศึ ก ษาเรื่ องการมองเห็ น
ดั ง นั้ น ครู อ าจจะเตรี ย มห อ งมื ด เพื่ อ ให
นั ก เรี ย นเข า ใจว า เมื่ อ ต อ งอยู ใ นที่ มื ด
การมองเห็นจะเปนอยางไร
8 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
แนวคําตอบในแบบบันทึกกิจกรรม
การสํารวจความรูกอนเรียน นักเรียนอาจตอบคําถามถูกหรือผิดก็ไดขึ้นอยูกับความรูเดิมของนักเรียน
แตเมื่อเรียนจบบทเรียนแลว ใหนักเรียนกลับมาตรวจสอบคําตอบอีกครั้งและแกไขใหถูกตอง ดังตัวอยาง
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 9
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
ดวงตาและแหลงกําเนิดแสง
10 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
เรื่องที่ 1 แสงและการมองเห็น
จุดประสงคการเรียนรู
1. สังเกต เขียนแผนภาพ และบรรยายลักษณะการเคลื่อนที่ของแสง
จากแหลงกําเนิดแสง
2. สังเกตและอธิบายการมองเห็นวัตถุที่เปนแหลงกําเนิดแสง
3. สังเกตและอธิบายการมองเห็นวัตถุที่ไมเปนแหลงกําเนิดแสง
4. รวบรวมขอมูลและเสนอแนะแนวทางการปองกันอันตรายจาก
การมองวัตถุในบริเวณที่มีแสงสวางไมเหมาะสม
เวลา 7 ชั่วโมง
วัสดุ อุปกรณสําหรับทํากิจกรรม
ชุดสาธิตการเคลื่อนที่ของแสง ธูป ไมขีดไฟ ลูกบอล เทียนไข
กลองกระดาษ เทปใส ดินน้ํามัน ฝาขวดน้ํา
สื่อการเรียนรูและแหลงเรียนรู
1. หนังสือเรียน ป.2 เลม 2 หนา 4-13
2. แบบบันทึกกิจกรรม ป.2 เลม 2 หนา 4-16
3. แบบพับชุดสาธิตการเคลื่อนที่ของแสง http://ipst.me/10507
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 11
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
12 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 13
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
ขั้นตอนการประกอบชุดสาธิตการเคลื่อนที่ของแสง
ครู ส ามารถเตรี ย มทํ า ชุ ด สาธิ ต การเคลื่ อ นที่ ข องแสงล ว งหน า 2
3 4
สําหรับใชในกิจกรรมซึ่งมีขั้นตอน ดังนี้
1. เตรียมกลองกระดาษซึ่งอาจเปนกลองเคกแลวนํามาพนสเปรยสีดํา
ด า นในกล อ งเพื่ อ ใช เ ป น ชุ ด สาธิ ต การเคลื่ อ นที่ ข องแสง หรื อ
1
ดาวน โ หลดแผ น พั บ สํ า เร็ จ รู ป จาก QR code แล ว นํ า มาติ ด บน
กระดาษแข็งสีดํา http://ipst.me/10507
3. พับกระดาษใหเปนรูปกลอง จากนั้นติดแผนใสที่มีขนาดใหญกวา
ชองสี่เหลี่ยมที่อยูบนกลองเพื่อเปนชองสําหรับสังเกต
ติดแผนใส
14 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
8. นําสายไฟฟาจากขั้วหลอดไฟฟาที่ใสตัวครอบหลอดเรียบรอยแลว
สอดออกมาดานนอกของกลองแลวตอเขากับฐานใสถานไฟฉาย
ขนาด AA 1.5 V 2 กอน
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 15
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
แนวคําตอบในแบบบันทึกกิจกรรม
วัตถุที่ทําใหเกิดแสงได
ไฟฉายและดวงอาทิตย
แหลงกําเนิดแสง
แหลงกําเนิดแสง
16 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
เวลา 3 ชั่วโมง
จุดประสงคการเรียนรู
สังเกต เขียนแผนภาพ และบรรยายลักษณะการเคลื่อนที่ของแสง
จากแหลงกําเนิดแสง
วัสดุ อุปกรณสําหรับทํากิจกรรม
สิ่งที่ครูตองเตรียม/หอง
1. ธูป 1 หอ
2. ไมขีดไฟ 1 กลัก
สิ่งที่ครูตองเตรียม/กลุม
ชุดสาธิตการเคลื่อนที่ของแสง 1 ชุด
สื่อการเรียนรูและแหลงเรียนรู
1. หนังสือเรียน ป.2 เลม 2 หนา 5-7
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร 2. แบบบันทึกกิจกรรม ป.2 เลม 2 หนา 5-9
S1 การสังเกต 3. วีดิทัศนตวั อยางปฏิบัติการทางวิทยาศาสตรสําหรับ
S8 การลงความเห็นจากขอมูล ครู เรื่องแสงเคลื่อนที่ออกจากแหลงกําเนิดแสง
S13 การตีความหมายขอมูลและลงขอสรุป อยางไร
S14 การสรางแบบจําลอง http://ipst.me/9866
ทักษะแหงศตวรรษที่ 21
C4 การสื่อสาร
C5 ความรวมมือ
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 17
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
แนวการจัดการเรียนรู
1. ครูชวนนักเรียนดูวีดิทัศนหรือภาพตาง ๆ ที่มีแสงจากแหลงกําเนิด
แสงที่หลากหลาย เชน แสงจากหลอดไฟฟา แสงจากดวงอาทิตย
ในการตรวจสอบความรู เ ดิ ม
แสงจากไฟฉาย จากนั้นถามนักเรียนวาแสงจากแหลงกําเนิดแสง
ครูเพีย งรับ ฟงเหตุผ ลของนัก เรี ย น
ตาง ๆ เคลื่อนที่อยางไร (นักเรียนตอบตามความเขาใจของตนเอง)
และยั ง ไม เ ฉลยคํ า ตอบใด ๆ แต
2. นักเรียนอานชื่อกิจกรรม และทําเปนคิดเปน โดยรวมกันอภิปราย
ชักชวนใหนักเรียนไปหาคําตอบดวย
เพื่อตรวจสอบความเขาใจจุดประสงคในการทํากิจกรรม ตามแนว
ตนเองจากการทํากิจกรรม
คําถาม ดังนี้
2.1 กิ จ กรรมนี้ นั ก เรี ย นจะได เ รี ย นเรื่ อ งอะไร (ลั ก ษณะการ
เคลื่อนที่ของแสงจากแหลงกําเนิดแสง)
2.2 นักเรียนจะไดเรียนรูเรื่องนี้ดวยวิธีใด (การสังเกต)
2.3 เมื่ อเรี ย นแล ว นั กเรี ย นจะทํ า อะไรได (เขี ย นแผนภาพและ
บรรยายลักษณะการเคลื่อนที่ของแสงจากแหลงกําเนิดแสง)
3. นักเรียนบันทึกจุดประสงคลงในแบบบันทึกกิจกรรม หนา 5 และ
อานสิ่งที่ตองใชในการทํากิจกรรม ชุดสาธิตการเคลื่อนที่ของแสง
4. นักเรียนอานทําอยางไร จากนั้นรวมกันอภิปรายเพื่อสรุปลําดับ
ขั้ น ตอนการทํ า กิ จ กรรมตามความเข า ใจ โดยใช แ นวคํ า ถาม
ดังตอไปนี้
4.1 นักเรียนตองสังเกตสิ่งใดเปนอันดับแรก (สังเกตสวนประกอบ
ของชุดสาธิตการเคลื่อนที่ของแสง)
4.2 เมื่อสังเกตชุดสาธิตการเคลื่อนที่ของแสงแลว นักเรียนตองทํา
อะไรตอ (เปดไฟของชุดสาธิต แลวสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่
เกิดขึ้น และระบุแหลงกําเนิดแสง)
4.3 นักเรียนจะบันทึกผลการสังเกตโดยวิธีการใด (การวาดรูป)
4.4 หลังจากบันทึกผลการสังเกตแลว นักเรียนตองทําอะไรตอ
(จุ ด ธู ป แล ว สอดเข า ไปในช อ งที่ เ จาะไว ด า นข า งชุ ด สาธิ ต
เพื่ อ ให ค วั น ธู ป อยู ใ นกล อ ง แล ว สั ง เกตการเปลี่ ย นแปลง
อีกครั้ง จากนั้นบันทึกผลโดยการวาดรูป)
ในระหว า งการทํ า กิ จ กรรมในขั้ น ตอนนี้ ค รู อ าจลองเปลี่ ย น
หลอดไฟฟ า ให เ ป น ลั ก ษณะต า ง ๆ หรื อ อาจเปลี่ ย นตั ว ครอบ
หลอดไฟฟ า จากลู ก ป ง ปองซึ่ ง เป น ทรงกลมเป น ตั ว ครอบที่ มี
18 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 19
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
6.8 เพราะเหตุใดจึงตองใชควันธูปในชุดสาธิตการเคลื่อนที่ของ
แสง (ชวยใหสังเกตเห็นแนวลําแสงไดชัดเจน)
ความรูเพิ่มเติมสําหรับครู
7. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายและลงขอสรุปวาแสงเคลื่อนที่จาก การใช ค วั น ธู ป ในชุ ด สาธิ ต การ
แหลงกําเนิดแสงทุกทิศทางเปนแนวตรง (S13) เคลื่ อ นที่ ข องแสงช ว ยให เ ราสามารถ
8. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายวิ ธี ก ารเขี ย นแผนภาพแสดง สั ง เกตเห็ น ลํ า แสงได ชั ด เจนเนื่ อ งจาก
ลักษณะการเคลื่อนที่ของแสงจากแหลงกําเนิดแสงและลงขอสรุป เมื่อแสงกระทบควันธูปแลวจะสะทอนมา
วาสามารถเขียนแผนภาพแสดงแนวการเคลื่อนที่ของแสงดวยการ เขาตาเรา นอกจากควัน ธูป แลว ควั น ไฟ
ใชลูกศรโดยหัวลูกศรพุงออกจากแหลงกําเนิดแสงในทุกทิศทาง หรื อ ฝุ น ละอองต า ง ๆ ก็ ช ว ยให เ รา
(S13) สังเกตเห็นลําแสงไดเชนกัน
9. นักเรียนรวมกันอภิปรายเพื่อตอบคําถามในฉันรูอะไร โดยครูอาจ
ใชคําถามเพิ่มเติมในการอภิปรายเพื่อใหไดแนวคําตอบที่ถูกตอง
10. นักเรียนรวมกันสรุปสิ่งที่ไดเรียนรูในกิจกรรมนี้ จากนั้นนักเรียน
อานสิ่งที่ไดเรียนรู และเปรียบเทียบกับขอสรุปของตนเอง
11. ครูสามารถแนะนําใหนักเรียนใชแอปพลิเคชันสําหรับการสังเกต
ภาพเสมือนจริง (AR) เรื่องการเคลื่อนที่ของแสงจากแหลงกําเนิ ด
แสงในหนังสือเรียนหนา 7
12. ครูใหความรูเพิ่มเติมแกนั กเรียนวาแหลงกําเนิ ดแสงบางอยาง
อ า จ ดู เ ห มื อ น มี แ ส ง อ อ ก จ า ก แ ห ล ง กํ า เ นิ ด แ ส ง นั้ น ๆ
ในบางทิศทาง ทั้งนี้เพราะแสงถู กบังคับ ใหเ คลื่ อนที่ออกมาได
ในบางทิ ศทางเท า นั้ น เช น แสงจากกระบอกไฟฉายถูกบังคับ
ใหแสงพุงออกไปทางดานหนาของไฟฉาย ดังรูป
แสงจากไฟฉาย
13. ครู ก ระตุ น ให นั ก เรี ย นฝ ก ตั้ ง คํ า ถามเกี่ ย วกั บ เรื่ อ งที่ ส งสั ย หรื อ
อยากรูเพิ่มเติมใน อยากรูอีกวา จากนั้นครูอาจสุมนักเรียน 2-3
คน นํ าเสนอคํ า ถามของตนเองหน า ชั้ น เรี ย น และใหนักเรีย น
รวมกันอภิปรายเกี่ยวกับคําถามที่นําเสนอ
20 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
การเตรียมตัวลวงหนาสําหรับครู
ความรูเพิ่มเติมสําหรับครู
เพื่อจัดการเรียนรูในครั้งถัดไป
แนวลําแสงแตละเสนที่ลากจาก ในครั้ ง ถั ด ไป นั ก เรี ย นจะได ทํ า
แหล งกํ า เนิ ดแสง เรี ย กว า รั งสี ของแสง กิ จ กรรมที่ 1.2 มองเห็ น วั ต ถุ ต า ง ๆ ได
เขี ย นแทนได ด ว ยลู ก ศร โดยหั ว ลู ก ศร อยางไร โดยการสังเกตการมองเห็นวั ตถุ
แสดงทิศทางที่แสงเคลื่อนที่ไป ที่เปนแหลงกําเนิดแสงและวัตถุที่ไมเปน
แหล ง กํ า เนิ ด แสง โดยการมองวั ต ถุ
ในกล อง ดั งนั้ น ครูควรเตรีย มสถานที่ให
เหมาะกับ การทํากิจ กรรม โดยอาจตอง
ปดประตูหนาตางเพื่อใหหองเรียนมืดลง
กวาเดิม
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 21
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
แนวคําตอบในแบบบันทึกกิจกรรม
หลอดไฟฟา
22 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 23
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
หลอดไฟฟา
แตกตางกัน
ไมเห็น
เห็น
แนวการเคลื่อนที่ของแสงจากแหลงกําเนิดแสง
ทุกทิศทาง
24 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
แนวตรง
แหลงกําเนิดแสง
ทุกทิศทาง
แนวตรง
หัวลูกศร
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 25
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
ทุกทิศทาง
แนวตรง
คําถามของนักเรียนที่ตั้งตามความอยากรูของตนเอง
26 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
แนวการประเมินการเรียนรู
การประเมินการเรียนรูของนักเรียนทําได ดังนี้
1. ประเมินความรูเดิมจากการอภิปรายในชั้นเรียน
2. ประเมินการเรียนรูจากคําตอบของนักเรียนระหวางการจัดการเรียนรูและจากแบบบันทึกกิจกรรม
3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรและทักษะแหงศตวรรษที่ 21 จากการทํากิจกรรมของนักเรียน
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 27
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
ตาราง แสดงการวิเคราะหทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรตามระดับความสามารถของนักเรียน
โดยอาจใชเกณฑการประเมิน ดังนี้
ทักษะกระบวนการ ระดับความสามารถ
รายการประเมิน
ทางวิทยาศาสตร ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรุง (1)
S1 การสังเกต การบรรยาย สามารถใชประสาทสัมผัส สามารถใชประสาทสัมผัส สามารถใชประสาท
รายละเอียดของสิ่ง เก็บรายละเอียดขอมูลและ เก็บรายละเอียดขอมูล สัมผัสเก็บ
ที่สังเกต คือ ลําแสง บรรยายสิ่งที่สังเกตไดดวย และบรรยายสิ่งที่สังเกตได รายละเอียดขอมูลได
ที่ออกจาก ตนเอง โดยไมเพิ่มความ โดยไมเพิ่มความคิดเห็น บางสวนและ
แหลงกําเนิดแสง คิดเห็น จากการชี้แนะของครูหรือ บรรยายสิ่งที่สังเกต
เปนแนวตรง และ ผูอื่น ได แตมีการเพิ่มเติม
ออกจาก ความคิดเห็นสวนตัว
แหลงกําเนิดแสง
ทุกทิศทาง
S8 การลง การลงความเห็น สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็น
ความเห็นจาก จากขอมูลวาแสง ขอมูลไดถูกตองดวยตนเอง ขอมูลไดถูกตองจากการ จากขอมูลไดแตไม
ขอมูล เคลื่อนที่ออกจาก วาแสงเคลื่อนที่ออกจาก ชี้แนะจากครูหรือผูอื่นวา ครบถวน แมวาจะได
แหลงกําเนิดแสง แหลงกําเนิดแสงเปนแนว แสงเคลื่อนที่ออกจาก รับคําชี้แนะจากครู
เปนแนวตรง ตรงทุกทิศทาง แหลงกําเนิดแสงเปนแนว หรือผูอื่น
ทุกทิศทาง ตรง ทุกทิศทาง
S13 การ การตีความหมาย สามารถตีความหมาย สามารถตีความหมาย สามารถ
ตีความหมายขอมูล ขอมูลจากการ ขอมูลจากการสังเกตและ ขอมูลจากการสังเกตและ ตีความหมายขอมูล
และลงขอสรุป สังเกตและลง ลงขอสรุปไดถูกตอง ลงขอสรุปไดถูกตองจาก จากการสังเกตและ
ขอสรุปไดวาแสง ครบถวนดวยตนเองวาแสง การชี้แนะจากครูหรือ ลงขอสรุปไดเพียง
เคลื่อนที่ออกจาก เคลื่อนที่ออกจาก ผูอื่นวาแสงเคลื่อนที่ บางสวน แมวาจะได
แหลงกําเนิดแสง แหลงกําเนิดแสง ออกจากแหลงกําเนิดแสง รับคําชี้แนะจากครู
ทุกทิศทางเปนแนว ทุกทิศทางเปนแนวตรง ทุกทิศทางเปนแนวตรง หรือผูอื่นวาแสง
ตรง เคลื่อนที่ออกจาก
แหลงกําเนิดแสงทุก
ทิศทางเปนแนวตรง
28 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
ทักษะกระบวนการ ระดับความสามารถ
รายการประเมิน
ทางวิทยาศาสตร ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรุง (1)
S14 ก า ร ส ร า ง การอธิบายลักษณะ สามารถอธิบายลักษณะ สามารถอธิบายลักษณะ สามารถอธิบาย
แบบจําลอง การเคลือ่ นที่ของ การเคลื่อนที่ของแสงจาก การเคลื่อนที่ของแสงจาก ลักษณะการเคลื่อนที่
แสงจาก แหลงกําเนิดแสง โดยการ แหลงกําเนิดแสง โดยการ ของแสงจาก
แหลงกําเนิดแสง เขียนแผนภาพไดถูกตอง เขียนแผนภาพไดถูกตอง แหลงกําเนิดแสง โดย
โดยการเขียน ดวยตนเอง จากการชี้แนะจากครูหรือ การเขียนแผนภาพได
แผนภาพ ผูอื่น แตนําเสนอขอมูลได
ไมสมบูรณ ครบถวน
แมวาจะไดรับการ
ชี้แนะจากครูหรือผูอื่น
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 29
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
30 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 31
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
แนวการจัดการเรียนรู
1. ครูตรวจสอบความรูเดิมของนักเรียนเพื่อเชื่อมโยงไปสูกิจกรรมที่
1.2 โดยใชคําถามดังนี้
1.1 ถาหลับตาแลวเดินหาสิ่งของในหอง นักเรียนจะสามารถหา
ใ น ก า ร ต ร ว จ ส อ บ ค ว า ม รู
สิ่งของนั้นไดหรือไม เพราะเหตุใด (นักเรียนตอบตามความ
ครูเพีย งรับ ฟงเหตุผ ลของนัก เรี ย น
เขาใจของตนเอง)
และยั ง ไม เ ฉลยคํ า ตอบใด ๆ แต
ครูอาจใหนักเรียนลองหลับตาแลวเดินหาสิ่งของในหอง เพื่อให
ชักชวนใหนักเรียนไปหาคําตอบดวย
ทุกคนตระหนั กว าตามี ความสํ า คั ญ ต อการมองเห็น จากนั้น ครู
ตนเองจากการทํากิจกรรม
อาจถามนักเรียนตอ โดยใชคําถามดังนี้
1.2 นอกจากตาแล ว นั ก เรี ย นยั ง ต อ งอาศั ย สิ่ ง ใดอี ก ที่ ช ว ยให
มองเห็ น สิ่ งต า ง ๆ รอบตั ว (นั กเรี ย นตอบตามความเขา ใจ
ของตนเอง)
2. นักเรียนอานชื่อกิจกรรม และทําเปนคิดเปน โดยรวมกันอภิปราย
เพื่อตรวจสอบความเขาใจจุดประสงคในการทํากิจกรรม ตามแนว
คําถามดังนี้
2.1 กิจกรรมนี้นักเรียนจะไดเรียนเรื่องอะไร (การมองเห็นวัตถุ
ทั้งที่เปนแหลงกําเนิดแสงและไมเปนแหลงกําเนิดแสง รวมทั้ง
แนวทางการปองกันอันตรายที่อาจเกิดกับตาเนื่องจากการ
มองวัตถุในบริเวณที่มีแสงสวางไมเหมาะสม)
2.2 นั กเรี ย นจะได เ รีย นรูเ รื่องนี้ ดว ยวิธี ใด (การสังเกตและการ
รวบรวมขอมูล)
2.3 เมื่อเรียนแลวนักเรียนจะทําอะไรได (อธิบายการมองเห็นวัตถุ
ที่ เ ป น แหล งกํ า เนิ ดแสงและวั ตถุ ที่ไม เ ป น แหลงกําเนิ ด แสง
และเสนอแนะแนวทางการปองกันอันตรายที่อาจเกิดกับตา
เนื่องจากการมองวัตถุในบริเวณที่มีแสงสวางไมเหมาะสม)
3. นักเรียนบันทึกจุดประสงคลงในแบบบันทึกกิจกรรม หนา 10 และ
อานสิ่งที่ตองใชในการทํากิจกรรม
4. นักเรียนอานทําอยางไร ตอนที่ 1 แลวรวมกันอภิปรายเพื่อสรุป
ลําดับขั้นตอนตามความเขาใจ โดยครูใชคําถามดังตอไปนี้
4.1 เมื่อไดรับอุปกรณแลว นักเรียนตองจัดอุปกรณอยางไรบาง
(เจาะรู ที่ ด า นข า งกล อ งกระดาษ 1 รู ให มี ข นาดเท า กั บ
แทงดินสอ นําดินน้ํามันบรรจุลงในฝาขวดน้ํา แลวใชเทปกาว
32 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 33
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
34 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
สวนการเขียนแผนภาพแสดงการมองเห็นวัตถุที่ไมเปนแหลงกํ าเนิ ด
แสงจะเขียนลูกศรแสดงแนวการเคลื่อนที่ของแสงโดยใหหัวลูกศรพุง
จากแหล งกํ า เนิ ด แสงมากระทบวั ตถุ แล ว สะท อนเข าสูตา ครูเขีย น
ตัว อยางแผนภาพแนวการเคลื่ อนที่ ข องแสงจากแหล งกํ าเนิ ด แสง
กระทบแอปเปลซึ่งเปนวัตถุที่ไมเปนแหลงกําเนิดแสงแลวสะทอนเขาสู
ตาไวบนกระดาน ดังรูป
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 35
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
36 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
10.1 นั ก เรี ย นต อ งทํ า อะไรเป น ขั้ น ตอนแรก (ร ว มกั น อภิ ป ราย
เกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดกับตาเมื่อทํากิจกรรมในบริเวณที่
มีแสงสวางไมเหมาะสม)
10.2 หลั ง จากอภิ ป รายแล ว นั ก เรี ย นจะทํ า อะไรต อ ไป (อ า น
ใบความรูเรื่องอัน ตรายจากการมองวัต ถุ ในบริเวณที่ มี แสง
สวางไมเหมาะสม สืบคนขอมูลจากแหลงเรียนรูตาง ๆ และ
บันทึกผลการรวบรวมขอมูล)
10.3 เมื่ อ นั ก เรี ย นได ข อ มู ล เกี่ ย วกั บ อั น ตรายจากการมอง
ในบริเวณที่มีแสงสวางไมเหมาะสมแลว นักเรียนตองทําอะไร
ต อ (ร ว มกั น อภิ ป รายและนํ า เสนอแนวทางการป อ งกั น
อันตรายในรูปแบบที่นาสนใจ)
10.4 การนําเสนอขอมูลในรูปแบบที่นาสนใจ ทําไดอยางไรบาง
(นักเรียนตอบตามความเขาใจของตนเอง เชน ทําโปสเตอร
วาดรูป)
11. เมื่อนั กเรี ย นเข า ใจวิ ธี การทํ า กิ จ กรรมในทํ า อย า งไรแล ว ครู ให
นักเรียนเริ่มปฏิบัติกิจกรรมตามขั้นตอนของกิจกรรม
12. หลั ง จากทํ า กิ จ กรรมแล ว ครู นํ า อภิ ป รายผลการทํ า กิ จ กรรม
โดยใชคําถามดังนี้
12.1 บริเวณที่มีแสงสวางไมเหมาะสมมีลักษณะอยางไร (บริเวณ
ที่มีแสงสวางไมเหมาะสม ไดแก บริเวณที่มืด มีแสงสวาง
ไมเพียงพอ หรือมีแสงจามากเกินไป)
12.2 การจองมองจอโทรศัพทเคลื่อนที่เปนเวลานาน ๆ อาจจะ
เกิดผลเสียอยางไรบาง (อาจทําใหเกิดอาการตาพรามัว)
12.3 วิธีการปองกันอัน ตรายที่ อาจเกิด กับ ตาจากการมองวั ต ถุ
ในบริ เ วณที่ มี แ สงสว า งไม เ หมาะสม ทํ า ได อ ย า งไรบ า ง
ถ า นั ก เรี ย นไม ส ามารถตอบ
(ไม จ องมองจอโทรศั พ ท ห รื อ คอมพิ ว เตอรเ ปน เวลานาน
คํ า ถามหรื อ อภิ ป รายได ต ามแนว
ไมมองจอโทรทัศนในหองที่ปดไฟมืด ไมใชตาในบริเวณที่มี
คํ า ตอบ ครู ค วรให เ วลานั ก เรี ย น
แสงสวางไมเพียงพอ ไมจองมองวัตถุที่มีแสงจาเกินไป และ
คิ ด อย า งเหมาะสม รอคอยอย า ง
ตองจัดแสงสวางใหเหมาะสมกับลักษณะการทํางาน)
อดทน และรับฟงแนวความคิดของ
12.4 อาชีพใดที่ตองทํางานกับแสงจา และจะมีวิธีการปองกันได
นักเรียน
อยางไร (ชางเชื่อมเหล็ก มีวิธีปองกัน คือ ตองสวมหนากาก
ปองกันแสงจาจากประกายไฟในขณะทํางานเพื่อปองกัน
อันตรายที่อาจเกิดกับตา)
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 37
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
38 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 39
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
แนวคําตอบในแบบบันทึกกิจกรรม
สังเกตและอธิบายการมองเห็นวัตถุที่เปนแหลงกําเนิดแสง
สังเกตและอธิบายการมองเห็นวัตถุที่ไมเปนแหลงกําเนิดแสง
นักเรียนพยากรณตาม
ความคิดเห็นของตนเอง
40 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
นักเรียนพยากรณตาม
ความคิดเห็นของตนเอง
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 41
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
รวบรวมขอมูลและเสนอแนะแนวทางการปองกันอันตรายที่อาจเกิด
กับตาจากการมองวัตถุในบริเวณที่มีแสงสวางไมเหมาะสม
บริเวณที่มีแสงสวางไมเพียงพอ หรือบริเวณที่มีแสงจามากเกินไป
42 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
แตกตาง
มองไมเห็น
มองเห็น
เปลวเทียนไข
ตา
แสงจากแหลงกําเนิดแสง
แสงจากแหลงกําเนิดแสง ตา
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 43
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
วัตถุที่เปนแหลงกําเนิดแสง
วัตถุที่ไมเปนแหลงกําเนิดแสง ตา
แหลงกําเนิดแสง
แสง
แสง
กระทบ
มาก นอย
44 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
บริเวณที่มีแสงสวางไมเพียงพอหรือมากเกินไป
มาก นอย
แสง ตา
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 45
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
คําถามของนักเรียนที่ตั้งตามความอยากรูของตนเอง
46 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
วาดรูปหรือเขียนขอความสรุปสิ่งที่ไดเรียนรูจากบทเรียนนี้
ตามความเขาใจของนักเรียน
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 47
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
แนวการประเมินการเรียนรู
การประเมินการเรียนรูของนักเรียนทําได ดังนี้
1. ประเมินความรูเดิมจากการอภิปรายในชั้นเรียน
2. ประเมินการเรียนรูจากคําตอบของนักเรียนระหวางการจัดการเรียนรูและจากแบบบันทึกกิจกรรม
3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรและทักษะแหงศตวรรษที่ 21 จากการทํากิจกรรมของนักเรียน
48 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
ตาราง แสดงการวิเคราะหทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรตามระดับความสามารถของนักเรียน
โดยอาจใชเกณฑการประเมิน ดังนี้
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 49
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
50 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 51
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
52 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 53
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
แนวคําตอบในแบบฝกหัดทายบท
54 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
กองไฟมีแสงในตัวเอง เราสามารถมองเห็นไฟในกองไฟไดโดยตรง
ไมตองใชแสงจากแหลงกําเนิดแสงอื่นชวยในการมองเห็น
การจองมองจอโทรศัพทที่มีแสงจาในหองมืดจะทําใหเราเกิดอาการตาพราได
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 55
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
56 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
บทที่ 2 สิ่งมีชีวิต
จุดประสงคการเรียนรูประจําบท
เมื่อเรียนจบบทนี้ นักเรียนสามารถ
1. เปรียบเทียบลักษณะของสิ่งมีชีวิตและสิ่งไมมีชีวิต
2. ระบุวาพืชตองการแสง น้ํา และสิ่งจําเปนอื่น ๆ
ในการเจริญเติบโต
3. ดูแลพืชใหไดรับน้ําและแสงที่เหมาะสมเพื่อใหพืช
เจริญเติบโต
4. สรางแบบจําลองและบรรยายวัฏจักรชีวิตของ
พืชดอก
เวลา 15 ชั่วโมง
แนวคิดสําคัญ
รอบตั ว เรามี ทั้ ง สิ่ ง มี ชี วิ ต และสิ่ ง ไม มี ชี วิ ต ซึ่ ง มี
ลักษณะแตกตางกัน พืชดอกเปนสิ่งมีชีวิตประเภทหนึ่ ง
ที่ ต อ งการแสง น้ํ า อากาศ และธาตุ อ าหารในการ
เจริ ญ เติ บ โต ขณะที่ พื ช ดอกเจริ ญ เติ บ โตจะมี ก าร บทนี้มีอะไร
เปลี่ ย นแปลงรู ป ร า งลั ก ษณะที่ เ ป น แบบรู ป หมุ น เวี ย น เรื่องที่ 1 สิ่งมีชีวิตและสิ่งไมมีชีวิต
ตอเนื่องกันเปนวัฏจักร กิจกรรมที่ 1 สิ่ ง มี ชี วิ ต และสิ่ ง ไม มี ชี วิ ต
สื่อการเรียนรูและแหลงเรียนรู มีลักษณะแตกตางกันอยางไร
1. หนังสือเรียน ป. 2 เลม 2 หนา 16-39 เรื่องที่ 2 ชีวิตของพืช
2. แบบบันทึกกิจกรรม ป. 2 เลม 2 หนา 23-57 กิจกรรมที่ 2.1 พื ช ต อ งการอะไรในการ
เจริญเติบโต
กิจกรรมที่ 2.2 วัฏจักรชีวิตของพืชดอกเปน
อยางไร
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 57
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรและทักษะแหงศตวรรษที่ 21
กิจกรรมที่
รหัส ทักษะ
1 2.1 2.2
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร
S1 การสังเกต
S2 การวัด
S3 การใชจํานวน
S4 การจําแนกประเภท
S5 การหาความสัมพันธระหวาง
สเปซกับสเปซ
สเปซกับเวลา
S6 การจัดกระทําและสื่อความหมายขอมูล
S7 การพยากรณ
S8 การลงความเห็นจากขอมูล
S9 การตั้งสมมติฐาน
S10 การกําหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ
S11 การกําหนดและควบคุมตัวแปร
S12 การทดลอง
S13 การตีความหมายขอมูลและลงขอสรุป
S14 การสรางแบบจําลอง
ทักษะแหงศตวรรษที่ 21
C1 การสรางสรรค
C2 การคิดอยางมีวิจารณญาณ
C3 การแกปญหา
C4 การสื่อสาร
C5 ความรวมมือ
C6 การใชเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
หมายเหตุ : รหัสทักษะที่ปรากฏนี้ ใชเฉพาะหนังสือคูมือครูเลมนี้
58 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
แนวคิดคลาดเคลื่อน
แนวคิดคลาดเคลื่อนที่อาจพบและแนวคิดที่ถูกตองในบทที่ 2 สิ่งมีชีวิต มีดังตอไปนี้
แนวคิดคลาดเคลื่อน แนวคิดที่ถูกตอง
พืชเปนสิ่งไมมีชีวิต (Allen, 2014) พื ช เป น สิ่ ง มี ชี วิ ต เพราะมี ก ารสื บ พั น ธุ เจริ ญ เติ บ โต หายใจ
กินอาหาร ขับถาย เคลื่อนไหวไดดวยตนเอง และตอบสนองตอ
สิ่งเราได (Allen, 2014)
แสงจากดวงอาทิตยมีประโยชนแตไมมีความสําคัญตอการ แสงจากดวงอาทิตยมีความจําเปนสําหรับการสังเคราะหดวยแสง
ดํารงชีวิตของพืช (Fries-Gaither, 2009) หรือการสรางอาหารของพืช (Darko, Heydarizadeh, Schoefs,
& Sabzalian, 2014)
แสงจากดวงอาทิตยชวยใหพืชเจริญเติบโตได โดยพืชมีการ สารสี เ ขี ย วในพื ช (คลอโรฟ ล ล ) จะตรึ ง พลั ง งานแสงจาก
เก็บ ความร อนไว (Barman, Stein, McNair & Barman, ดวงอาทิ ต ย สํ า หรั บ ใช ใ นกระบวนการสั ง เคราะห ด ว ยแสง
2006) (Barman, Stein, McNair & Barman, 2006)
พืชหายใจเขาโดยใชแกสคารบอนไดออกไซดและหายใจ พืชรับทั้งแกสคารบอนไดออกไซดและแกสออกซิเจนผานทางใบ
ออกโดยปล อยแก ส ออกซิ เ จนออกมา (Barman, Stein, เพื่อนําไปใชในกระบวนการที่แตกตางกั น คือใชแกสออกซิ เ จน
McNair & Barman, 2006; Keles & Kefeli, 2010) ในการหายใจ และใชแกส คารบ อนไดออกไซดในกระบวนการ
สังเคราะหดวยแสง สําหรับแกสออกซิเจนที่พืชปลอยออกมานั้น
มาจากกระบวนการสังเคราะหดวยแสงของพืช (Keles & Kefeli,
2010)
เมล็ดพืชเปนสิ่งไมมีชีวิต (BSCS, 2006) เมล็ดพืชเปนสิ่งมีชีวิต ในเมล็ดมีตนออน (เอ็มบริโอ) ที่สามารถ
เจริญเติบโตเปนตนพืชได (BSCS, 2006)
พืชดอกสรางผลกอนแลวจึงสรางเมล็ด หลั ง จากปฏิ ส นธิ เมล็ ด และผลของพื ช มี ก ารพั ฒ นาและ
(BSCS, 2006) เจริญเติบโตไปพรอมกัน (BSCS, 2006)
วัฏ จักรชี วิ ต ของสิ่ งมี ชี วิ ต มี จุ ดเริ่ ม ต น จากไข (egg) หรื อ วั ฏ จั ก รชี วิ ต เป น การเปลี่ ย นแปลงของสิ่ ง มี ชี วิ ต ที่ เ ป น แบบรู ป
เมล็ด (seed) (Ho, Yusoff & Nanda, 2004) หมุนเวียนตอเนื่องไป ไมมีจุดเริ่มตนที่แนนอน จะเริ่มจากระยะใด
ระยะหนึ่ ง ก็ ไ ด แต มี ก ารเปลี่ ย นแปลงต อ เนื่ อ งหมุ น เวี ย นเป น
วัฏจักรที่มีแบบรูปคงที่ ซึ่งระยะที่สิ่งมีชีวิตเปนเซลลไขหรือเมล็ด
จะเปนชวงหนึ่งของวัฏจักรชีวิต (Ho, Yusoff & Nanda, 2004)
ถาครูพบวามีแนวคิดคลาดเคลื่อนใดที่ยังไมไดแกไขจากการทํากิจกรรมการเรียนรู ครูควรจัดการเรียนรูเพิ่มเติมเพื่อแกไข
ตอไปได
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 59
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
บทนี้เริ่มตนอยางไร (1 ชั่วโมง)
1. ครูทบทวนความรูพื้นฐานเกี่ยวกับสวนตาง ๆ ของพืชและสัตว โดยนํา
ภาพสัตวและพืชที่นักเรียนคุนเคยในแหลงที่อยูหนึ่ง ๆ มาใหนักเรียน
สังเกต เชน ภาพแมวหรือสุนัขกําลังกินน้ําในอางหรือสระน้ําที่มีตนไม ใ น ก า ร ท บ ท ว น ค ว า ม รู
เจริญเติบโตอยู โดยใชคําถามดังนี้ พื้นฐาน ครูควรใหเวลานักเรียน
1.1 ในภาพมีสิ่งใดบาง (นักเรียนตอบตามสิ่งที่ปรากฏในภาพ เชน คิดอยางเหมาะสม รอคอยอยาง
แมวหรือสุนัข พืช อางน้ํา น้ํา) อดทน นักเรียนตองตอบคําถาม
1.2 ร า งกายของสั ต ว (แมวหรื อ สุ นั ข ) ในภาพประกอบด ว ยส ว น เหลานี้ไดถูกตอง หากตอบไมได
ใดบาง (นักเรียนตอบตามความเปนจริง เชน มีศีรษะ ตา จมูก หรื อ ลื ม ครู ต อ งให ค ว ามรู ท่ี
ปาก ขา หาง)
ถูกตองทันที
1.3 ในภาพมีพืชชนิดใดบาง (นักเรียนตอบตามสิ่งที่ปรากฏในภาพ
ครูอาจชวยบอกชื่อพืช ในกรณีที่นักเรียนไมรูจักชื่อพืชชนิดนั้น ๆ)
1.4 พื ช ในภาพมี ส ว นประกอบอะไรบ า ง (นั กเรีย นตอบตามความ
เปนจริง เชน มีใบ ลําตน อาจมีดอก หรือผล)
2. ครูตรวจสอบความรูเดิมของนักเรียนเกี่ยวกับลักษณะของสิ่งมี ชี วิ ต ในการตรวจสอบความรูเดิม
โดยใชคําถาม ดังนี้ ครูรับฟงเหตุผลของนักเรียนเปน
2.1 จากภาพสิ่งใดบางเปนสิ่งมีชีวิต (นักเรียนตอบตามความเขาใจ สําคัญ ครูยังไมเฉลยคําตอบใด ๆ
ของตนเอง คือ แมวหรือสุนัข พืช) แตชักชวนใหหาคําตอบที่ถูกต อง
2.2 เพราะเหตุ ใ ดสิ่ ง ที่ นั ก เรี ย นตอบในข อ 2.1 จึ ง เป น สิ่ ง มี ชี วิ ต จากกิจกรรมตาง ๆ ในบทเรียนนี้
(นักเรียนตอบตามความเขาใจของตนเอง)
2.3 จากภาพสิ่งใดบางเปนสิ่งไมมีชีวิต (นักเรียนตอบตามความเขาใจ
ของตนเอง เชน อางน้ํา น้ํา)
2.4 เพราะเหตุ ใ ดสิ่ ง ที่ นั ก เรี ย นตอบในข อ 2.3 จึ ง เป น สิ่ ง ไม มี ชี วิ ต
(นักเรียนตอบตามความเขาใจ)
3. ครูใหนักเรียนอาน ชื่อบท และจุดประสงคการเรียนรูประจําบท ใน
หนังสือเรียนหนา 17 จากนั้นครูใชคําถามเพื่อตรวจสอบความเขาใจ
ดังนี้
3.1 บทนี้จะไดเรียนเรื่องอะไร (เรื่องสิ่งมีชีวิต)
3.2 จากจุดประสงคการเรียนรูเมื่อเรียนจบบทนี้นักเรียนสามารถทํา
อะไรได บ า ง (สามารถเปรี ย บเที ย บลั ก ษณะของสิ่ ง มี ชี วิ ต และ
สิ่งไมมีชีวิต ระบุสิ่งที่พืชใชในการเจริญเติบโต รวมถึงสามารถดูแล
60 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 61
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
5.10 สิ่ ง มี ชี วิ ต และสิ่ ง ไม มี ชี วิ ต เหมื อ นหรื อ แตกต า งกั น อย า งไร
(นักเรียนตอบตามความเขาใจของตนเอง) การเตรียมตัวลวงหนาสําหรับครู
6. ครู ชั กชวนนั กเรี ย นตอบคํ า ถามเกี่ ย วกั บ สิ่ งมี ชีวิตในสํ า รวจความรู เพื่อจัดการเรียนรูในครัง้ ถัดไป
กอนเรียน ในครั้งถัดไป นักเรียนจะไดเรียน
7. นักเรียนทําสํารวจความรูกอนเรียน ในแบบบันทึกกิจกรรม หนา 24 เรื่องที่ 1 สิ่งมีชีวิตกับสิ่งไมมีชีวิต ครูควร
โดยนั ก เรี ย นอ า นคํ า ถามแต ล ะข อ ครู ต รวจสอบความเข า ใจของ
เตรียมสื่อการสอน อาจเตรียมภาพสุนัข
นักเรียน จนแนใจวานักเรียนสามารถทําไดดวยตนเอง จึงใหนักเรียน
ตอบคําถาม คําตอบของแตละคนอาจแตกตางกัน และคําตอบอาจถูก กบ และกะลา หรื อ นํ า กะลาจริ ง มาให
หรือผิดก็ได นักเรียนสังเกตประกอบการอานเนื้อเรื่อง
8. ครูสังเกตการตอบคําถามของนักเรียนเพื่อตรวจสอบวานักเรี ย นมี
แนวคิ ด เกี่ ย วกั บ สิ่ ง มี ชี วิ ต อย า งไรโดยอาจสุ ม ให นั ก เรี ย น 2-3 คน
นํ า เสนอคํ า ตอบของตนเอง ครู ยั ง ไม ต อ งเฉลยคํ า ตอบ แต จ ะให
นักเรียนยอนกลับมาตรวจสอบอีกครั้งหลังจากเรียนจบบทนี้แลว ทั้งนี้
ครูควรบันทึกแนวคิดคลาดเคลื่อนหรือแนวคิดที่นาสนใจของนักเรียน
แล ว นํ า มาใช ใ นการออกแบบการจั ด การเรี ย นรู เ พื่ อ แก ไ ขแนวคิ ด
คลาดเคลื่อนใหถูกตอง และตอยอดแนวคิดที่นาสนใจของนักเรีย น
ตอไป
62 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
แนวคําตอบในแบบบันทึกกิจกรรม
การสํารวจความรูกอนเรียน นักเรียนอาจตอบคําถามถูกหรือผิดก็ไดขึ้นอยูกับความรูเดิมของนักเรียน
แตเมื่อเรียนจบบทเรียนแลว ใหนักเรียนกลับมาตรวจสอบคําตอบอีกครั้งและแกไขใหถูกตอง ดังตัวอยาง
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 63
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
64 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
1
ไดรับน้ําและแสง ที่จําเปนตอการเจริญเติบโตและดํารงชีวิตของพืช
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 65
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
ข ก
66 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
เรื่องที่ 1 สิ่งมีชีวิตและสิ่งไมมีชีวิต
ในเรื่ อ งนี้ นั ก เรี ย นจะได เ รี ย นรู เ กี่ ย วกั บ สิ่ ง ที่ อ ยู
รอบตั ว เรา ซึ่ ง มี ทั้ ง สิ่ ง มี ชี วิ ต และสิ่ ง ไม มี ชี วิ ต สิ่ ง มี ชี วิ ต
ตองการอาหาร หายใจ เจริญเติบโต ขับถาย เคลื่อนไหว
ไดดวยตนเอง ตอบสนองตอสิ่งเรา และสืบพันธุได สวน
สิ่งไมมีชีวิตไมมีลักษณะดังกลาว
จุดประสงคการเรียนรู
รวบรวมขอมูลและเปรียบเทียบลักษณะของ
สิ่งมีชีวิตและสิ่งไมมีชีวิต
เวลา 4 ชั่วโมง
วัสดุ อุปกรณสําหรับทํากิจกรรม
-
สื่อการเรียนรูและแหลงเรียนรู
1. หนังสือเรียน ป.2 เลม 2 หนา 21-25
2. แบบบันทึกกิจกรรม ป.2 เลม 2 หนา 28-33
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 67
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
1. ครูตรวจสอบความรูเดิมเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตและสิ่งไมมีชีวิต โดยครูให
นั ก เรี ย นสั ง เกตสิ่ ง ต า ง ๆ รอบตั ว ทั้ ง ภายในโรงเรี ย นและที่ บ า น
จากนั้นนําอภิปรายโดยใชคําถาม ดังนี้
1.1 สิ่งที่อยูรอบ ๆ ตัวนักเรียนทั้งที่โรงเรียนและที่บานมีอะไรบ าง ในการตรวจสอบความรู เ ดิ ม
(นักเรียนตอบตามความเขาใจของตนเอง เชน พอแม ครู เพื่อน ครูเพีย งรับ ฟงเหตุผ ลของนัก เรี ย น
สุนัข ตนไม บาน หนังสือ กระเปานักเรียน ประตู หนาตาง) และยั ง ไม เ ฉลยคํ า ตอบใด ๆ แต
1.2 จากคํ า ตอบในข อ 1.1 นั ก เรี ย นคิ ด ว า สิ่ ง ใดเป น สิ่ ง มี ชี วิ ต ชักชวนใหนักเรียนไปหาคําตอบดวย
(นักเรียนตอบตามความเขาใจของตนเอง เชน พอแม ครู เพื่อน ตนเองจากการอานเนื้อเรื่อง
สุนัข ตนไม ดอกไม)
1.3 นั กเรี ย นคิ ด ว า สิ่ งใดเป น สิ่งไม มีชี วิต (นั กเรีย นตอบตามความ
เขาใจของตนเอง เชน บาน หนังสือ กระเปานั กเรี ยน ประตู
หนาตาง)
1.4 นักเรียนคิดวาสิ่งมีชีวิต สามารถทําอะไรไดบาง (นักเรียนตอบ
ตามความเข า ใจของตนเอง เช น เคลื่ อ นไหวได ด ว ยตนเอง
หายใจ กินอาหาร เจริญเติบโต)
2. ครู เ ชื่ อมโยงความรู เ ดิ มของนั กเรี ย นสู การเรี ย นเรื่องสิ่งมีชีวิต และ
สิ่งไม มีชี วิ ต โดยใช คํา ถามว า สิ่ งมี ชี วิ ตมี ลั ก ษณะอยา งไรบ า ง และ
แตกตางจากสิ่งไมมีชีวิตอยางไร
3. นักเรียนอานชื่อเรื่องและคําถามในคิดกอนอาน ในหนังสือเรียนหนา
21 แลวรวมกันอภิปรายในกลุมเพื่อหาแนวคําตอบตามความเขาใจ
ของนั ก เรี ย น ครู บั น ทึ ก คํ า ตอบของนั ก เรี ย นบนกระดานเพื่ อ ใช
เปรียบเทียบคําตอบหลังจากอานเนื้อเรื่อง
4. นักเรียนอานคําสําคัญ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (หากนักเรียน
อานไมได ครูควรสอนอานใหถูกตอง) จากนั้นครูชักชวนใหนักเรียน
อธิบายความหมายของคําสําคัญจากเนื้อเรื่องที่จะอาน
68 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 69
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
5.7 นั กเรี ย นคิ ดว า รอบ ๆ ตั ว เรายั งมี อะไรอี กบางที่เปน สิ่งมี ชี วิ ต
เพราะเหตุ ใด (นักเรียนตอบตามความเข า ใจของตนเอง เชน
ตัวเอง เพื่อน สัตวเลี้ยง พืชตาง ๆ เพราะหายใจได กินอาหารได
เคลื่ อนไหวด ว ยตนเองได ขั บ ถ า ยได ตอบสนองต อสิ่ งเร า ได
เจริญเติบโตได สืบพันธุได)
5.8 ครู ส ามารถให ความรู เพิ่ มเติ มกั บ นั กเรี ย นไดวา สิ่งมีชีวิตจะมี
ลักษณะของสิ่งมีชีวิตทั้ง 7 ลักษณะนี้ แตบางชวงเวลาที่สังเกต
อาจพบลักษณะไมครบทั้ง 7 ลักษณะ
6. นักเรียนสังเกตลักษณะของสิ่งมีชีวิต โดยใชแอปพลิเคชันสําหรับการ
สังเกตภาพเสมือนจริงสามมิติ (AR) เรื่องสิ่งมีชีวิตและสิ่งไมมีชีวิต ใน
หนังสือเรียน หนา 22 เปนสื่อประกอบเพิ่มเติม
การเตรียมตัวลวงหนาสําหรับครู
ขั้นสรุปจากการอาน (10 นาที)
เพื่อจัดการเรียนรูในครัง้ ถัดไป
7. นักเรียนรวมกันสรุปเรื่องที่อานซึ่งควรสรุปไดวา สิ่งมีชีวิตสามารถ
หายใจ กินอาหาร เคลื่อนไหวไดดวยตนเอง เจริญเติบโต สืบพันธุ ในครั้ ง ถั ด ไป นั ก เรี ย นจะได ทํ า
ขับถาย และตอบสนองตอสิ่งเราได กิจ กรรมที่ 1 สิ่งมีชีวิตและสิ่งไมมีชีวิต
8. นักเรียนตอบคําถามในรูหรือยัง ในแบบบันทึกกิจกรรม หนา 28 มี ลั ก ษณะแตกต า งกั น อย า งไร โดยครู
9. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายเพื่อเปรียบเทียบคําตอบของนักเรียน อาจจัดเตรีย มอุป กรณห รื อเตรีย มการ
ในรู ห รื อ ยั ง กั บ คํ า ตอบที่ เ คยตอบและบั น ทึ ก ไว ใ นคิ ด ก อ นอ า น จัดการเรียนการสอน ดังนี้
จากนั้นใหนักเรียนฝกเขียนคําวา หายใจ เจริญเติบโต สืบพันธุ ขับถาย 1. รู ป สั ต ว ห รื อ วี ดิ ทั ศ น เ กี่ ย ว กั บ
ตอบสนอง และสิ่งเรา ในเขียนเปนในแบบบันทึกกิจกรรมหนา 29 สั ต ว ต า ง ๆ รวมทั้ ง ของเล น ต า ง ๆ
10. นักเรียนตอบคําถามทายเรื่องที่อาน ดังนี้ เช น หุ น ยนต รถของเล น เพื่ อ ใช
10.1 กบและกะลามะพราวเปนสิ่งมีชีวิตหรือไม สําหรับนําเขาสูกิจกรรมที่ 1
10.2 สิ่งมีชีวิตมีลักษณะแตกตางจากสิ่งไมมีชีวิตอยางไร 2. ครู อ าจนํ า ตู ป ลาที่ มี ป ลา สาหร า ย
ครู บั น ทึ กคํ า ตอบของนั กเรี ย นบนกระดาน โดยยังไมเฉลยคําตอบ มาวางไว ใ นห อ งเรี ย น เพื่ อ เป น
แตชักชวนใหนักเรียนหาคําตอบจากการทํากิจกรรม ตัวอยางสิ่งมีชีวิต
70 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
แนวคําตอบในแบบบันทึกกิจกรรม
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 71
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
หายใจ
หายใจ
เจริญเติบโต
เจริญเติบโต
สืบพันธุ
สืบพันธุ
ขับถาย
ขับถาย
ตอบสนอง
ตอบสนอง
สิ่งเรา
สิ่งเรา
72 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
กิจกรรมที่ 1 สิ่งมีชีวิตและสิ่งไมมีชีวิตมีลักษณะแตกตางกันอยางไร
กิจกรรมนี้นักเรียนจะไดสังเกตสิ่งตาง ๆ ที่อยูรอบตัว
และสืบคนขอมูลเกี่ยวกับสิ่งตาง ๆ วามีลักษณะของสิ่งมีชีวิต
หรือไม รวมทั้งจัดกลุมสิ่งตาง ๆ ออกเปนกลุมสิ่งมีชีวิตและ
กลุมสิ่งไมมีชี วิต จากขอมูล ที่รวบรวมได เพื่อเปรียบเทีย บ
ลักษณะของสิ่งมีชีวิตและสิ่งไมมีชีวิต
เวลา 3 ชั่วโมง
จุดประสงคการเรียนรู
รวบรวมข อ มู ล และเปรี ย บเที ย บลั ก ษณะของ
สิ่งมีชีวิตและสิ่งไมมีชีวิต
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร
S1 การสังเกต
S4 การจําแนกประเภท
S8 การลงความเห็นจากขอมูล
S13 การตีความหมายขอมูลและลงขอสรุป
ทักษะแหงศตวรรษที่ 21 สื่อการเรียนรูและแหลงเรียนรู
C4 การสื่อสาร 1. หนังสือเรียน ป.2 เลม 2 หนา 23-24
C5 ความรวมมือ 2. แบบบันทึกกิจกรรม ป.2 เลม 2 หนา 30-33
C6 การใชเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 73
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
แนวการจัดการเรียนรู
1. ครูทบทวนความรูพื้นฐานเกี่ยวกับลักษณะของสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม มีชีวิต
โดยนํารูปสัตวหรือวีดิทัศนเกี่ยวกับสัตวชนิดตาง ๆ และสิ่งของตาง ๆ เชน
รถของเลน หุนยนต มาใหนักเรียนดู จากนั้นใหนักเรียนรวมกันอภิปราย
โดยใชคําถามดังตอไปนี้ ในการทบทวนความรูพื้นฐาน
1.1 สัตวในรูปเปนสิ่งมีชีวิตหรือไม เพราะอะไร (สัตวในรูปเปนสิ่งมีชีวิต ครู ค วรให เ วลานั ก เรี ย นคิ ด อย า ง
เพราะสามารถเคลื่ อ นไหวได ด ว ยตนเอง กิ น อาหาร หายใจ เหมาะสม รอคอยอย า งอดทน
เจริญเติบโต สืบพันธุ ขับถาย และตอบสนองตอสิ่งเราได) นักเรียนตองตอบคําถามเหลานี้ ได
1.2 สิ่งของตาง ๆ ที่ครูนํามาใหนักเรียนสังเกต เชน รถของเลน รถยนต ถู ก ต อ ง หากตอบไม ไ ด ห รื อ ลื ม
เปนสิ่งมีชีวิตหรือไม เพราะอะไร (นักเรียนตอบตามความเขาใจของ ครูตองใหความรูที่ถูกตองทันที
ตนเอง เช น สิ่ งของเหล า นี้ เ ป น สิ่ งไม มีชี วิ ต เพราะไมส ามารถกิ น
อาหาร หายใจ เจริ ญ เติ บ โต สื บ พั น ธุ ขั บ ถ าย เคลื่ อนไหวได ดวย
ตนเอง และตอบสนองตอสิ่งเราได)
2. ครูเชื่อมโยงความรูพื้นฐานของนักเรียนเขาสูกิจกรรมที่ 1 โดยใชคําถาม
วา สิ่งมีชีวิตมีลักษณะแตกตางจากสิ่งไมมีชีวิตหรือไม อยางไร
3. นักเรียนอานชื่อกิจกรรม และทําเปนคิดเปน จากนั้นรวมกันอภิปราย
เพื่อตรวจสอบความเขาใจเกี่ยวกับจุดประสงคในการทํากิจกรรม โดยใช
คําถาม ดังนี้
3.1 กิจกรรมนี้นักเรียนจะไดเรียนเรื่องอะไร (ลักษณะของสิ่งมีชีวิตและ
สิ่งไมมีชีวิต)
3.2 นักเรียนจะไดเรียนรูเรื่องนี้ดวยวิธีใด (การสังเกตและสืบคนขอมูล)
3.3 เมื่ อ เรี ย นแล ว นั ก เรี ย นจะทํ า อะไรได (เปรี ย บเที ย บลั ก ษณะของ
สิ่งมีชีวิตและสิ่งไมมีชีวิตได)
4. นักเรียนบันทึกจุดประสงคลงในแบบบันทึกกิจกรรม หนา 30
5. นั ก เรี ย นอ า นทํ า อย า งไรที ล ะข อ โดยครู ใ ช วิ ธี ฝ ก ทั ก ษะการอ า น
ที่เหมาะสมกั บ ความสามารถของนั กเรี ยน จากนั้น ครูต รวจสอบความ
เขาใจเกี่ยวกับวิธีการทํากิจกรรม จนนักเรียนเขาใจลําดับการทํากิจกรรม
โดยใชคําถามดังนี้
5.1 นักเรียนตองทําอะไรเปนอันดับแรก (เลือกสิ่งตาง ๆ รอบตัวอยางนอย
2 ชนิด ที่ไมซ้ํากับเพื่อนในกลุม)
74 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 75
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
76 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
แนวคําตอบในแบบบันทึกกิจกรรม
รวบรวมขอมูลและเปรียบเทียบลักษณะของสิ่งมีชีวิต
และสิ่งไมมีชีวิต
นักเรียนตอบตามผลการทํากิจกรรม เชน
หนังสือ - - - - - - -
แมว √ √ √ √ √ √ √
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 77
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
นักเรียนตอบตามผลการทํากิจกรรม เชน
นักเรียนตอบตามผลการทํากิจกรรม เชน
78 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
สิ่งมีชีวิตมีลักษณะแตกตางจากสิ่งไมมีชีวิต โดยสิ่งมีชีวิตสามารถหายใจ
กินอาหาร เคลื่อนไหวไดดวยตนเอง เจริญเติบโต สืบพันธุ ขับถาย
และตอบสนองตอสิ่งเราได
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 79
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
คําถามของนักเรียนที่ตั้งตามความอยากรูของตนเอง
80 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
แนวการประเมินการเรียนรู
การประเมินการเรียนรูของนักเรียนทําได ดังนี้
1. ประเมินความรูเดิมจากการอภิปรายในชั้นเรียน
2. ประเมินการเรียนรูจากคําตอบของนักเรียนระหวางการจัดการเรียนรูและจากแบบบันทึกกิจกรรม
3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรและทักษะแหงศตวรรษที่ 21 จากการทํากิจกรรมของนักเรียน
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 81
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
ตาราง แสดงการวิเคราะหทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรตามระดับความสามารถของนักเรียน
โดยอาจใชเกณฑการประเมิน ดังนี้
ทักษะกระบวนการ ระดับความสามารถ
รายการประเมิน
ทางวิทยาศาสตร ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรุง (1)
S1 การสังเกต การบรรยายรายละเอียด สามารถใชประสาท สามารถใชประสาทสัมผัส สามารถใชประสาท
เกี่ยวกับลักษณะของ สัมผัสเก็บรายละเอียด เก็บรายละเอียดขอมูล สัมผัสเก็บรายละเอียด
สิ่งที่เลือก 2 ชนิด ขอมูลเกี่ยวกับลักษณะ เกี่ยวกับลักษณะของสิ่งที่ ขอมูลเกี่ยวกับลักษณะ
ของสิ่งที่เลือกทั้งสองชนิด เลือกทั้งสองชนิดได จาก ของสิ่งที่เลือกทั้งสอง
ไดดวยตนเอง โดยไม การชี้แนะของครูหรือผูอื่น ชนิดไดเพียงบางลักษณะ
เพิ่มเติมความคิดเห็น แมวาจะไดรับคําชี้แนะ
จากครูหรือผูอื่น
S4 การจําแนก การจัดกลุมสิ่งตาง ๆ สามารถจัดกลุมสิ่งตาง ๆ สามารถจัดกลุมสิ่งตาง ๆ สามารถจัดกลุม
ประเภท รอบตัวเปนกลุม รอบตัวเปนกลุมสิ่งมีชีวิต รอบตัวเปนกลุมสิ่งมีชีวิต สิ่งตาง ๆ รอบตัวเปน
สิ่งมีชีวิตและกลุม และกลุมสิ่งไมมีชีวิตได และกลุมสิ่งไมมีชีวิตได กลุมสิ่งมีชีวิตและกลุม
สิ่งไมมีชีวิต ดวยตนเอง จากการชี้แนะของครูหรือ สิ่งไมมีชีวิตไดเพียง
ผูอื่น บางสวน แมวาจะได
รับคําชี้แนะจากครูหรือ
ผูอื่น
S8 การลง การลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็น
ความเห็นจาก ขอมูลที่ไดจากการ ขอมูลที่ไดจากการสังเกต ขอมูลที่ไดจากการสังเกต จากขอมูลที่ไดจากการ
ขอมูล สังเกตและสืบคน และการสืบคนขอมูลวา และการสืบคนขอมูลวา สังเกตและการสืบคน
ขอมูลวา สิ่งที่เลือกมี สิ่งที่เลือกมีลักษณะของ สิ่งที่เลือกมีลักษณะของ ขอมูลวา สิ่งที่เลือกมี
ลักษณะของสิ่งมีชีวิต สิ่งมีชีวิตหรือสิ่งไมมีชีวิต สิ่งมีชีวิตหรือสิ่งไมมีชีวิตได ลักษณะของสิ่งมีชีวิต
หรือสิ่งไมมีชีวิต ไดอยางถูกตอง ดวย อยางถูกตอง จากการ หรือสิ่งไมมีชีวิตไดเพียง
ตนเอง ชี้แนะของครูหรือผูอื่น บางสวน แมวาจะได
รับคําชี้แนะจากครูหรือ
ผูอื่น
82 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
ทักษะกระบวนการ ระดับความสามารถ
รายการประเมิน
ทางวิทยาศาสตร ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรุง (1)
S13 การ การตีความหมาย สามารถตีความหมาย สามารถตีความหมาย สามารถตีความหมาย
ตีความหมายขอมูล ขอมูลจากการสังเกต ขอมูลจากการสังเกตและ ขอมูลจากการสังเกตและ ขอมูลจากการสังเกต
และลงขอสรุป และสืบคนขอมูล และ สืบคนขอมูล และลง สืบคนขอมูล และลง และสืบคนขอมูล และ
ลงขอสรุปไดวา ขอสรุปไดวาสิ่งมีชีวิต ขอสรุปไดวาสิ่งมีชีวิตมี ลงขอสรุปวาสิ่งมีชีวิต
สิ่งมีชีวิตมีลักษณะ มีลักษณะแตกตางจาก ลักษณะแตกตางจาก มีลักษณะแตกตางจาก
แตกตางจาก สิ่งไมมีชีวิต โดยสิ่งมีชีวิต สิ่งไมมีชีวิต โดยสิ่งมีชีวิต สิ่งไมมีชีวิต โดย
สิ่งไมมีชีวิต โดย สามารถหายใจ กิน สามารถหายใจ กินอาหาร สิ่งมีชีวิตสามารถหายใจ
สิ่งมีชีวิตสามารถ อาหาร เคลื่อนไหวได เคลื่อนไหวไดดวยตนเอง กินอาหาร เคลื่อนไหว
หายใจ กินอาหาร ดวยตนเอง เจริญเติบโต เจริญเติบโต สืบพันธุ ไดดวยตนเอง
เคลื่อนไหวไดดวย สืบพันธุ ขับถาย และ ขับถาย และตอบสนอง เจริญเติบโต สืบพันธุ
ตนเอง เจริญเติบโต ตอบสนองตอสิ่งเราได ตอสิ่งเราได แตสิ่งไมมีชีวิต ขับถาย และตอบสนอง
สืบพันธุ ขับถาย และ แตสิ่งไมมีชีวิตไมสามารถ ไมสามารถทําสิ่งตาง ๆ ตอสิ่งเราได แต
ตอบสนองตอสิ่งเราได ทําสิ่งตาง ๆ ที่กลาว ที่กลาวมาแลวได จากการ สิ่งไมมีชีวิตไมสามารถ
แตสิ่งไมมีชีวิต มาแลวได ดวยตนเอง ชี้แนะจากครูและผูอื่น ทําสิ่งตาง ๆ ที่กลาว
ไมสามารถทําสิ่งตาง ๆ มาแลวไดเพียงบางสวน
ที่กลาวมาแลวได แมวาจะไดรับคําชี้แนะ
จากครูหรือผูอื่น
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 83
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
ทักษะแหง ระดับความสามารถ
รายการประเมิน
ศตวรรษที่ 21 ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรุง (1)
คําพูดเพื่อใหผูอื่น ดวยคําพูดเพื่อใหผูอื่น โดยอาศัยการชี้แนะจากครู เขาใจได เพียงบางสวน
เขาใจ เขาใจไดดวยตนเอง หรือผูอื่น แมวาจะไดรับคําชี้แนะ
จากครูหรือผูอื่น
C5 ความ การทํางานรวมกับ สามารถทํางานรวมกับ สามารถทํางานรวมกับผูอื่น สามารถทํางานรวมกับ
รวมมือ ผูอื่นในการอภิปราย ผูอื่นในการอภิปรายและ ในการอภิปรายและแสดง ผูอื่นในการอภิปรายและ
และแสดงความ แสดงความคิดเห็นเพื่อ ความคิดเห็นเพื่อจัดกลุม แสดงความคิดเห็นเพื่อ
คิดเห็นเพื่อจัดกลุม จัดกลุมสิ่งตาง ๆ สิ่งตาง ๆ ออกเปนกลุม จัดกลุมสิ่งตาง ๆ
สิ่งตาง ๆ ออกเปน ออกเปนกลุมสิ่งมีชีวิต สิ่งมีชีวิตและกลุมสิ่งไมมีชีวิต ออกเปนกลุมสิ่งมีชีวิต
กลุมสิ่งมีชีวิตและ และกลุมสิ่งไมมีชีวิตและ และเปรียบเทียบลักษณะของ และกลุมสิ่งไมมีชีวิตและ
กลุมสิ่งไมมีชีวิตและ เปรียบเทียบลักษณะ สิ่งที่เลือกกับเพื่อนในกลุม เปรียบเทียบลักษณะ
เปรียบเทียบลักษณะ ของสิ่งที่เลือกกับเพื่อน และลงความเห็นวาสิ่งใดเปน ของสิ่งที่เลือกกับเพื่อน
ของสิ่งที่เลือกกับ ในกลุม และลง สิ่งมีชีวิตและสิ่งใดเปน ในกลุมไดเปนบาง
เพื่อนในกลุม รวมทั้ง ความเห็นวาสิ่งใดเปน สิ่งไมมีชีวิต รวมทั้งยอมรับ ชวงเวลา รวมทั้ง
ยอมรับความคิดเห็น สิ่งมีชีวิตและ ความคิดเห็นของผูอื่นใน ยอมรับความคิดเห็นของ
ของผูอื่น สิ่งใดเปนสิ่งไมมีชีวิต บางชวงเวลาที่ทํากิจกรรม ผูอื่นบาง ทั้งนี้ตองอาศัย
รวมทั้งยอมรับความ การกระตุนจากครูหรือ
คิดเห็นของผูอื่นตั้งแต ผูอื่น
เริ่มตนจนสําเร็จ
C6 การใช การใชเทคโนโลยี สามารถใชเทคโนโลยี สามารถใชเทคโนโลยี สามารถใชเทคโนโลยี
เทคโนโลยี สารสนเทศเพื่อ สารสนเทศเพื่อสืบคน สารสนเทศเพื่อสืบคนขอมูล สารสนเทศเพื่อสืบคน
สารสนเทศและ สืบคนขอมูลวา สิ่งที่ ขอมูลวา สิ่งที่เลือกทั้ง วา สิ่งที่เลือกทั้งสองชนิดมี ขอมูลวา สิ่งที่เลือกทั้ง
การสื่อสาร เลือกทั้งสองชนิดมี สองชนิด มีลักษณะของ ลักษณะของสิ่งมีชีวิตหรือไม สองชนิด มีลักษณะของ
ลักษณะของสิ่งมีชีวิต สิ่งมีชีวิตหรือไม ไดดวย จากการชี้แนะของครูหรือ สิ่งมีชีวิตหรือไม ไดเพียง
หรือไม ตนเอง ผูอื่น บางสวน แมวาจะได
รับคําชี้แนะจากครูหรือ
ผูอื่น
84 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
เรื่องที่ 2 ชีวิตของพืช
ในเรื่องนี้นักเรียนจะไดเรียนรูเกี่ยวกับสิ่งที่จําเปน
ตอการเจริญเติบโตของพืช และวัฏจักรชีวิตของพืชดอก
จุดประสงคการเรียนรู
1. สั ง เกต และอธิ บ ายผลของน้ํ า และแสงต อ การ
เจริญเติบโตของพืช
2. รวบรวมขอมูลเกี่ยวกับสิ่งที่จําเปนตอการเจริญเติบโต
ของพืช
3. ปลู ก และดู แ ลพื ช ให ไ ด รั บ น้ํ า และแสงที่ เ หมาะสม
เพื่อใหพืชเจริญเติบโต
4. สรางแบบจําลองเพื่อบรรยายวัฏจักรชีวิตของพืชดอก
เวลา 8 ชั่วโมง
วัสดุ อุปกรณสําหรับทํากิจกรรม
เมล็ดพืช กลองกระดาษทึบ ภาชนะใสน้ํา ไมบรรทัด
กระถาง ดิ น ชอน เมล็ ดทานตะวั น เมล็ ดพริ ก ภาชนะ สื่อการเรียนรูแ ละแหลงเรียนรู
สํ า หรั บ ปลู ก พื ช บั ต รภาพการเปลี่ ย นแปลงขณะ 1. หนังสือเรียน ป.2 เลม 2 หนา 26-36
เจริญเติบโตของพืช 2. แบบบันทึกกิจกรรม ป.2 เลม 2 หนา 34-52
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 85
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
1. ครูตรวจสอบความรูเดิมเกี่ยวกับชีวิตของพืชโดยนําภาพหรือเมล็ ด พืช
ของจริงและเมล็ดพืชขณะงอกมาใหนักเรียนสังเกต เชน เมล็ดถั่วเขียว
กับถั่วงอก โดยใหสังเกตเมล็ดถั่วเขียวกอน จากนั้นนําอภิปรายโดยใช
ในการตรวจสอบความรู เ ดิ ม
คําถามดังนี้
ครูเพีย งรับ ฟงเหตุผ ลของนัก เรี ย น
1.1 นั ก เรี ย นรู จั ก สิ่ ง ที่ อ ยู ใ นภาพนี้ ห รื อ ไม (นั ก เรี ย นตอบตาม
และยั ง ไม เ ฉลยคํ า ตอบใด ๆ แต
ประสบการณเดิม ซึ่งถานักเรียนยังตอบไมไดวาสิ่งที่อยูในภาพ
ชักชวนใหนักเรียนไปหาคําตอบดวย
คือเมล็ดถั่วเขียว ใหครูเฉลย)
ตนเองจากการอานเนื้อเรื่อง
1.2 เมล็ดถั่วเขียวเปนสิ่งมีชีวิตหรือไม (นักเรียนตอบตามความเขาใจ
ของตนเอง)
1.3 สิ่ ง มี ชี วิ ต ต อ งมี ลั ก ษณะอย า งไร (สิ่ ง มี ชี วิ ต สามารถสื บ พั น ธุ
เจริญเติบโต หายใจ กินอาหาร ขับถาย เคลื่อนไหวไดดวยตนเอง
และตอบสนองตอสิ่งเราได)
1.4 เมล็ดถั่วเขียวมีลักษณะของสิ่งมีชีวิตหรือไม (นักเรียนตอบตาม
ความเขาใจ ครูยังไมเฉลยคําตอบแตจะเฉลยหลังจากอานเรื่อง
ชีวิตของพืชแลว)
2. ครูใหนักเรียนสังเกตภาพถั่วงอก จากนั้นครูนําอภิปรายโดยใชคําถาม
ดังนี้
2.1 นั ก เรี ย นรู จั ก สิ่ ง ที่ อ ยู ใ นภาพนี้ ห รื อ ไม (นั ก เรี ย นตอบตาม
ประสบการณเดิม ซึ่งถานักเรียนยังตอบไมไดใหครูเฉลยวาเปน
ถั่วงอก)
2.2 ถั่ ว งอกในภาพนี้ เกิ ด มาจากส ว นใดของพื ช และเกิ ด ขึ้ น ได
อยางไร (นักเรียนตอบตามความเขาใจของตนเอง)
3. ครูเชื่อมโยงความรูเดิมของนักเรียนสูการเรียนเรื่องชีวิตของพืชโดยใช
คําถามวา เมล็ดพืชงอกไดอยางไร ครูชักชวนนักเรียนหาคําตอบจากการ
อานเรื่องชีวิตของพืช
86 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
นักเรียน ครูบันทึกคําตอบของนักเรียนบนกระดานเพื่อใชเปรียบเทียบ
กับคําตอบภายหลังการอานเนื้อเรื่อง
5. นักเรียนอานคําสําคัญ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (หากนักเรียน
อา นไม ได ครู ควรสอนอ า นให ถูกต อง) จากนั้ น ครูชักชวนใหนักเรีย น
อธิบายความหมายของคําสําคัญจากเนื้อเรื่องที่จะอาน
6. นักเรียนอานเนื้อเรื่องในหนังสือเรียนหนา 26-27 โดยครูฝกทักษะการ
อานตามวิธีการอานที่เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน เรื่องชีวิต
ของพืชเปนการเขียนในรูปแบบนิทาน สามารถใหนักเรียนแสดงบทบาท
สมมติ ป ระกอบการอ านได จากนั้ น ครู ใช คํา ถามเพื่อตรวจสอบความ ถ า นั ก เรี ย นไม ส ามารถตอบ
เขาใจจากการอาน โดยใชคําถามดังนี้ คํ า ถามหรื อ อภิ ป รายได ต ามแนว
6.1 เมล็ดพืชอยูที่สวนใดของพืช (เมล็ดพืชอยูในผลของพืช) คําตอบ ครูควรใหเวลานักเรียนคิด
6.2 เมล็ ด พื ช หลุ ด ออกจากผลได อ ย า งไร (ผลตกจากต น แล ว แตก อยางเหมาะสม รอคอยอยางอดทน
เมล็ดพืชจึงกระเด็นออกจากผล) แ ล ะ รั บ ฟ ง แ น ว ค ว า ม คิ ด ข อ ง
6.3 ลักษณะของพื้นดินเปนอยางไร (ดินแหง) นักเรียน
6.4 หลั งจากฝนตกสภาพพื้ น ดิ น เป น อย า งไร (ดิน มีความชื้น และมี
อากาศพอเหมาะ)
6.5 ในเมล็ดมีสิ่งใด (ตนออนของพืช)
6.6 หลั งจากฝนตก เมล็ ดพื ช ที่ อยู บ นดิ น มี การเปลี่ย นแปลงหรือไม
อยางไร (เมล็ดพืชมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้ เมล็ดพืชเริ่มงอก โดย
เมล็ดคอย ๆ พอง เปลือกหุมเมล็ดปริออก รากสีขาวงอกออกจาก
เมล็ดและเจริญเติบโตลงไปในดิน ยอดออนและใบเลี้ยงโผลขึ้น
เหนือดิน)
6.7 การเปลี่ยนแปลงของเมล็ดตามขอ 6.6 เรียกวาอะไร (การงอก)
6.8 เมล็ดพืชตองการสิ่งใดบางในการงอก (น้ําและอากาศที่พอเหมาะ)
6.9 เมล็ดใชอากาศจากที่ใดในการงอก (ในดิน)
6.10 หลังจากงอกแลวพืชมีการเปลี่ยนแปลงอยางไรอีกบาง (รากยาว
ลึ ก ลงไปในดิ น ยอดสู ง ขึ้ น ใบเลี้ ย งลี บ เล็ ก ลง ใบแท แ ผ อ อก
กลายเปนตนกลา)
6.11 หลั ง จากอ า นเรื่ อ งชี วิ ต ของพื ช นั ก เรี ย นคิ ด ว า เมล็ ด พื ช เป น
สิ่ งมี ชี วิ ต หรื อไม เพราะเหตุ ใด (เมล็ ดพื ช เปน สิ่งมีชีวิต เพราะ
สามารถเจริญเติบโตได)
7. ครูอาจวาดแผนภาพ หรือใชวีดิทัศนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของเมล็ดพืช
ขณะงอกเพื่ อประกอบเนื้ อเรื่ องระหว า งการอภิป ราย และให ความรู
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 87
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
แกนักเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับใบเลี้ยงและใบแท โดยใบเลี้ยงเปนใบแรก
ของพืชที่อยูในเมล็ด ทําหนาที่สะสมอาหารเพื่อเลี้ยงตนออน เมื่อเมล็ด
งอกและเจริญเติบโตขึ้น ใบเลี้ยงจะลีบเล็กลงและหลุดรวงไป สวนใบแท
เปนใบพืชทั่วไปที่เราเห็น เปนสวนหนึ่งของพืช ทําหนาที่สรางอาหาร
ขั้นสรุปจากการอาน (10 นาที)
8. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายเพื่อใหไดขอสรุปวา เมล็ดเปนสวนของ
พืชที่อยูในผล เมื่อเมล็ดพืชไดรับน้ําและอากาศที่เหมาะสมเมล็ดจะงอก
โดยรากพืชจะงอกและเจริญเติบโตลงในดิน สวนยอดจะเจริญเติบโตขึ้น การเตรียมตัวลวงหนาสําหรับครู
เหนือดิน เมื่อมีใบแท ใบเลี้ยงจะลีบเล็กลงและหลุดรวงไป
เพื่อจัดการเรียนรูในครัง้ ถัดไป
9. นักเรียนตอบคําถามจากเรื่องที่อานใน รูหรือยัง ในแบบบันทึกกิจกรรม
หนา 34-35 ในครั้ ง ถั ด ไป นั ก เรี ย นจะได ทํ า
10. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายเพื่อเปรียบเทียบคําตอบของนักเรียน กิจ กรรมที่ 2.1 พืช ตองการอะไรในการ
ในรูหรือยังกับ คําตอบที่ เคยตอบในคิด กอนอาน ซึ่งครูบันทึกไว บ น เจริญเติบโต ซึ่งจะมีการปลูกพืชจากเมล็ด
กระดาน จากนั้นใหนักเรียนฝกเขียนคําวา งอก ตนกลา ในเขียนเปน ใหครูอภิปรายรวมกับนักเรียนเพื่อเลือก
ในแบบบันทึกกิจกรรมหนา 35 เมล็ดพืชที่ตองการปลูก จากนั้นเตรียมแช
11. ครูชักชวนนักเรียนลองตอบคําถามทายเรื่องที่อาน ดังนี้ เมล็ดพืช ในน้ําอยางนอย 1 คืน ก อนถึ ง
11.1 มีสิ่งใดบางที่ชวยในการเจริญเติบโต เวลาเรียน
11.2 ในการเจริญเติบโตพืชจะมีเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงอยางไรอีกบาง
ครูบันทึกคําตอบของนักเรียนบนกระดาน โดยยังไมเฉลย แตชักชวน
ใหนักเรียนหาคําตอบจากการทํากิจกรรม
88 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
แนวคําตอบในแบบบันทึกกิจกรรม
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 89
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
งอก
งอก
ตนกลา
ตนกลา
90 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
เวลา 3 ชั่วโมง
จุดประสงคการเรียนรู
1. สั ง เกต และอธิ บ ายผลของน้ํ า และแสงตอ
การเจริญเติบโตของพืช
2. รวบรวมข อมู ล เกี่ ย วกั บ สิ่ งที่ จํ า เป น ต อ การ
เจริญเติบโตของพืช
วัสดุ อุปกรณสําหรับทํากิจกรรม
สิ่งที่ครูตองเตรียม/กลุม
ทักษะแหงศตวรรษที่ 21
1. เมล็ดพืช 60 เมล็ด
C5 ความรวมมือ
2. กระถาง 4 ใบ
C6 การใชเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
3. ดิน 1 ถุง
4. กลองกระดาษทึบ 1 กลอง สื่อการเรียนรูและแหลงเรียนรู
5. ภาชนะใสน้ํา 1 ใบ 1. หนังสือเรียน ป.2 เลม 2 หนา 28-32
6. ชอน 1 คัน 2. แบบบันทึกกิจกรรม ป.2 เลม 2 หนา 36-43
สิ่งที่นักเรียนตองเตรียม/กลุม 3. วีดีทัศนตวั อยางการปฏิบัติการวิทยาศาสตร
สําหรับครู เรื่อง น้ําและแสงมีผลตอการ
ไมบรรทัด 1 อัน
เจริญเติบโตของพืชอยางไร
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร http://ipst.me/8769
S1 การสังเกต
S2 การวัด
S6 การจัดกระทําและสื่อความหมายขอมูล
S8 การลงความเห็นจากขอมูล
S13 การตีความหมายขอมูลและลงขอสรุป
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 91
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
แนวการจัดการเรียนรู
1. ครูทบทวนความรูพื้นฐานและตรวจสอบความรูเดิมของนักเรียนเกี่ยวกับ
การเจริญเติบโตของพืช โดยนําถั่วงอกมาใหนักเรียนสังเกต จากนั้นให
นักเรียนรวมกันอภิปรายโดยใชคําถาม ดังนี้
ในการทบทวนความรูพื้นฐาน
1.1 นักเรียนรูจักสิ่งนี้หรือไม มันคืออะไร (รูจัก มันคือถั่วงอก)
ครู ค วรให เ วลานั ก เรี ย นคิ ด อย า ง
1.2 ถั่วงอกเจริญเติบโตมาจากสวนใดของพืช (เมล็ด)
เหมาะสม รอคอยอย า งอดทน
1.3 ถั่ ว งอกมี ส ว นประกอบอะไรบ า ง (ต น ถั่ ว งอกประกอบด ว ย ลําตน
นักเรียนตองตอบคําถามเหลานี้ ได
ใบเลี้ยง ใบแท ราก)
ถูกตอง หากตอบไมไ ดห รื อ ลื ม ครู
1.4 มีสิ่งใดบางที่จะทําใหเมล็ดพืชงอกเปนถั่วงอก (น้ํา และอากาศ)
ตองใหความรูที่ถูกตองทันที
1.5 นั กเรี ย นจะทํ า อย า งไรให ถั่ว งอกเจริ ญ เติ บ โตเปน ตน ถั่ว ที่ ส มบู ร ณ
(นักเรียนตอบตามความเขาใจของตนเอง เชน รดน้ํา ใหตนถั่วไดรับ
แสง อากาศ)
2. ครูเชื่อมโยงความรูพื้นฐานของนักเรียนเขาสูกิจกรรมที่ 2.1 โดยใชคําถาม
วาเมื่อพืชงอกแลว พืชตองการอะไรในการเจริญเติบโตบาง
ในการตรวจสอบความรู เ ดิ ม
3. นักเรียนอานชื่อกิจกรรม และทําเปนคิดเปน จากนั้นรวมกันอภิปราย
ครูเพีย งรับ ฟงเหตุผ ลของนัก เรี ย น
เพื่อตรวจสอบความเขาใจเกี่ยวกับจุดประสงคในการทํากิจกรรม โดยใช
และยั ง ไม เ ฉลยคํ า ตอบใด ๆ แต
คําถาม ดังนี้
ชักชวนใหนักเรียนไปหาคําตอบดวย
3.1 กิ จ กรรมนี้ นั ก เรี ย นจะได เ รี ย นเรื่ อ งอะไร (สิ่ ง ที่ จํ า เป น ต อ การ
ตนเองจากการทํากิจกรรม
เจริญเติบโตของพืช)
3.2 นักเรียนจะไดเรียนรูเรื่องนี้ดวยวิธีใด (การสังเกตและรวบรวมขอมูล)
3.3 เมื่อเรียนแลวนักเรียนจะทําอะไรได (อธิบายผลของน้ํา แสง และสิ่งที่
จําเปนอื่น ๆ ตอการเจริญเติบโตของพืช)
4. นักเรียนบันทึกจุดประสงคลงในแบบบันทึกกิจกรรม หนา 36
5. นักเรี ย นอ า นสิ่ งที่ ต อ งใช ในการทํ า กิ จ กรรม หากนักเรีย นไมรูจัก วั ส ดุ
อุปกรณบางอยาง ครูควรนําวัสดุอุปกรณนั้นมาแสดงใหดู หรือถานักเรียน
ไมรูวิธีการใชอุปกรณ ครูควรแนะนําและสาธิตวิธีการใชอุปกรณ
6. นักเรียนอานทําอยางไร ตอนที่ 1 ทีละขอ โดยครูใชวิธีฝกทักษะการอาน
ที่เหมาะสมกั บ ความสามารถของนั กเรี ยน จากนั้น ครูต รวจสอบความ
เขาใจเกี่ยวกับวิธีการทํากิจกรรม จนนักเรียนเขาใจลําดับการทํากิจกรรม
โดยใชคําถามดังนี้
6.1 ทําไมตองแชเ มล็ดพืช ก อนปลูก (เพื่อทําใหเปลื อกของเมล็ ด ที่ แข็ ง
ออนนิ่มและงอกไดงาย)
6.2 เราตองปลูกพืชทั้งหมดกี่กระถาง (4 กระถาง)
92 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 93
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรและ
ทักษะแหงศตวรรษที่ 21
ที่นักเรียนจะไดฝกจากการทํากิจกรรม
S1 การสังเกตการเจริญเติบโตของพืชในแตละ
กระถาง
S2 การวัดความสูงของลําตนพืชในกระถางที่ 1
และ 2 และระบุหนวยการวัด
S8 การลงความเห็นจากขอมูลที่ไดจากการ
สังเกตการเจริญเติบโตของพืชวา พืชใน
กระถางใดเจริญเติบโตดีกวากัน
C5 การรวมกันปลูกพืช ดูแลพืช และสังเกต
การเจริญเติบโตของพืชในแตละกระถาง
94 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
8. เมื่ อ นั ก เรี ย นเข า ใจวิ ธี ก ารทํ า กิ จ กรรมในทํ า อย า งไรแล ว ครู แ จกวั ส ดุ
อุปกรณ จากนั้นใหนักเรียนเริ่มปฏิบัติตามขั้นตอนของกิจกรรม
9. หลังจากทํากิจกรรมแลว ครูนําอภิปรายผลการทํากิจกรรม โดยใชคําถาม
ดังตอไปนี้
9.1 พืชในกระถางใดเจริญเติบโตได (พืชในกระถางที่ 1 และกระถางที่ 3
ซึ่งไดรับน้ําและแสง) ถ า นั ก เรี ย นไม ส ามารถตอบ
9.2 เมื่อผานไป 5 วัน พืชในแตละกระถางมีการเปลี่ยนแปลงอยางไรบาง คํ า ถามหรื อ อภิ ป รายได ต ามแนว
- พื ชในกระถางที่ 1 เป นอย างไร (ต นพื ชสู งเพิ่มขึ้น ลําตนและใบมี คําตอบ ครูควรใหเวลานักเรียนคิด
สีเขียวเขม) อยางเหมาะสม รอคอยอยางอดทน
- พืชในกระถางที่ 2 เปนอยางไร (ความสูงของตนพืชคอนขางคงที่ แ ล ะ รั บ ฟ ง แ น ว ค ว า ม คิ ด ข อ ง
ลําตนผอมและเอน ใบและลําตนซีดเหลือง)
นักเรียน
- พืชในกระถางที่ 3 เปนอยางไร (ลําตนและใบมีสีเขียวเขม)
- พื ช ในกระถางที่ 4 เป น อย า งไร (ลํ า ต น โค ง งอ ใบและลํ า ต น
ซีดเหลือง บางตนเหี่ยวและตาย)
9.3 ตนพืชในกระถางที่ 1 และ 2 มีการเปลี่ยนแปลงเหมือนหรือแตกตาง
กันอยางไร (แตกตางกัน กระถางที่ 1 ลําตนพืชสูงเพิ่มขึ้น ลําตนและ
ใบมีสีเขียวกวากระถางที่ 2)
9.4 ตนพืชในกระถางที่ 1 หรือ 2 มีการเจริญเติบโตมากกวากัน (กระถาง
ที่ 1)
9.5 เพราะเหตุใด พืชในกระถางที่ 1 เจริญเติบโตดีกวาพืชในกระถางที่ 2
(เพราะพืชในกระถางที่ 1 ไดรับน้ําทุกวัน)
9.6 ตนพืชในกระถางที่ 3 และ 4 มีการเปลี่ยนแปลงเหมือนหรือแตกตาง
กันอยางไร (แตกตางกัน กระถางที่ 3 ใบและลําตนพืชมีขนาดใหญ
กวา และมีสีเขียวเขมกวากระถางที่ 4)
9.7 ตนพืชในกระถางที่ 3 หรือ 4 มีการเจริญเติบโตมากกวากัน (กระถาง
ที่ 3)
9.8 เพราะเหตุใด พืชในกระถางที่ 3 เจริญเติบโตดีกวาพืชในกระถางที่ 4
(เพราะพืชในกระถางที่ 3 ไดรับแสงทุกวัน)
9.9 เพราะเหตุใดตนพืชบางตนในกระถางที่ 4 จึงเหี่ยวและตาย (เพราะ
ไมไดรับแสง)
10. ครู แ ละนั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายและลงข อ สรุ ป ว า น้ํ า และแสงเป น
สิ่งจําเปนตอการเจริญเติบโตของพืช (S13)
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 95
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
96 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 97
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
แนวคําตอบในแบบบันทึกกิจกรรม
สังเกตและอธิบายผลของน้ําและแสงตอการเจริญเติบโต
ของพืช
ขึ้นอยูกับการอภิปรายของนักเรียน
ขึ้นอยูกับผลการวัดความสูงตนพืชของนักเรียน
98 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
ขึ้นอยูกับการอภิปรายของนักเรียน
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 99
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
100 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
รวบรวมขอมูลเกี่ยวกับสิ่งที่จําเปนตอการเจริญเติบโตของพืช
การเจริญเติบโต
การสรางอาหาร การงอกของเมล็ด การสรางอาหาร ไดเปนปกติ
การสรางอาหาร การหายใจ
การลําเลียงอาหาร
และธาตุอาหาร การงอกของเมล็ด
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 101
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
การรดน้ํา
1 2
ตนพืชในกระถางที่ 1 สูงกวา ใบและลําตนมีสีเขียวเขม
และมีขนาดใหญกวา สวนตนพืชในกระถางที่ 2 ใบและลําตนเหี่ยว
1 น้ํา
2 น้ํา
การไดรับแสง
102 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
3 4
ตนพืชในกระถางที่ 3 ใบและลําตนมีสีเขียวเขม และมีขนาด
ใหญกวา สวนตนพืชในกระถางที่ 4 ใบและลําตนเหี่ยว บางตนตาย
3 แสง
4 แสง
1 3
ตนพืชในกระถางทั้งสองใบไดรับน้ําและแสง ทําใหตนพืช
เจริญเติบโตดี
2 4
ตนพืชในกระถางที่ 2 ไดรับแสงแตไมไดรับน้ํา สวนตนพืชในกระถางที่ 4
ไดรับน้ําแตไมไดรับแสง สงผลใหตนพืชในกระถางที่ 2 ความสูงคอนขางคงที่
ผอมและเหี่ยว พืชในกระถางที่ 4 ลําตนและใบเหี่ยว และมีบางตนตาย
ดีกวา
ดีกวา
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 103
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
น้ํา
พืชใชน้ําในการงอกของเมล็ด การสรางอาหาร การลําเลียงอาหาร
และธาตุอาหาร
แสง
พืชใชแสงในการสรางอาหาร
อากาศ
พืชใชอากาศในการงอก การหายใจ และการสรางอาหาร
ธาตุอาหาร
ธาตุอาหารชวยใหพืชเจริญเติบโตไดเปนปกติ
104 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
คําถามของนักเรียนที่ตั้งตามความอยากรูของตนเอง
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 105
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
แนวการประเมินการเรียนรู
การประเมินการเรียนรูของนักเรียนทําได ดังนี้
1. ประเมินความรูเดิมจากการอภิปรายในชั้นเรียน
2. ประเมินการเรียนรูจากคําตอบของนักเรียนระหวางการจัดการเรียนรูและจากแบบบันทึกกิจกรรม
3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรและทักษะแหงศตวรรษที่ 21 จากการทํากิจกรรมของนักเรียน
106 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
ตาราง แสดงการวิเคราะหทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรตามระดับความสามารถของนักเรียน
โดยอาจใชเกณฑการประเมิน ดังนี้
ทักษะกระบวนการ ระดับความสามารถ
รายการประเมิน
ทางวิทยาศาสตร ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรุง (1)
S1 การสังเกต การบรรยาย สามารถใชประสาท สามารถใชประสาท สามารถใชประสาท
รายละเอียดเกี่ยวกับ สัมผัสรวบรวมขอมูล สัมผัสรวบรวมขอมูล สัมผัสรวบรวมขอมูลการ
การเจริญเติบโตของ เกี่ยวกับการเจริญเติบโต เกี่ยวกับการเจริญเติบโต เจริญเติบโตของตนพืชทั้ง
ตนพืชทั้ง 4 กระถาง ของตนพืชทั้ง 4 กระถาง ของตนพืชทั้ง 4 กระถาง 4 กระถางไดเพียงบาง
เชน สีและขนาดของ ไดดวยตนเอง โดยไม ได จากการชี้แนะของครู ลักษณะ แมวาจะได
ใบและลําตน เพิ่มเติมความคิดเห็น หรือผูอื่น รับคําชี้แนะจากครูหรือ
ผูอื่น
S2 การวัด การใชไมบรรทัดวัด สามารถใชไมบรรทัดวัด สามารถใชไมบรรทัดวัด สามารถใชไมบรรทัดวัด
ความสูงของลําตนพืช ความสูงของลําตนพืชใน ความสูงของลําตนพืชใน ความสูงของลําตนพืชใน
ในกระถางที่ 1 และ 2 กระถางที่ 1 และ 2 และ กระถางที่ 1 และ 2 และ กระถางที่ 1 และ 2 ได
และระบุหนวยได ระบุหนวยไดอยาง ระบุหนวยไดอยาง คลาดเคลื่อนเล็กนอย แต
ถูกตองดวยตนเอง ถูกตอง จากการชี้แนะ ระบุหนวยไดถูกตอง
ของครูหรือผูอื่น แมวาจะไดรับคําชี้แนะ
จากครูหรือผูอื่น
S6 การจัดกระทํา การนําขอมูลที่ไดจาก สามารถนําขอมูลที่ได สามารถนําขอมูลที่ได สามารถนําขอมูลที่ได
และสื่อความหมาย การอานใบความรูและ จากการอานใบความรู จากการอานใบความรู จากการอานใบความรู
ขอมูล สืบคนขอมูล เกี่ยวกับ และสืบคนขอมูล และสืบคนขอมูล และสืบคนขอมูล
สิ่งที่จําเปนตอการ เกี่ยวกับสิ่งที่จําเปนตอ เกี่ยวกับสิ่งที่จําเปนตอ เกี่ยวกับสิ่งที่จําเปนตอ
เจริญเติบโตของพืชมา การเจริญเติบโตของพืช การเจริญเติบโตของพืช การเจริญเติบโตของพืช
จัดกระทําโดยการ มาจัดกระทําโดยการ มาจัดกระทําโดยการ มาจัดกระทําโดยการ
เขียนผังมโนทัศนและ เขียนผังมโนทัศนและสื่อ เขียนผังมโนทัศนและสื่อ เขียนผังมโนทัศนและสื่อ
สื่อใหผูอื่นเขาใจ ใหผูอื่นเขาใจได ดวย ใหผูอื่นเขาใจได จากการ ใหผูอื่นเขาใจไดเพียง
ตนเอง ชี้แนะของครูหรือผูอื่น บางสวน แมวาจะได
รับคําชี้แนะจากครูหรือ
ผูอื่น
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 107
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
ทักษะกระบวนการ ระดับความสามารถ
รายการประเมิน
ทางวิทยาศาสตร ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรุง (1)
S8 การลง การลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก
ความเห็นจาก ขอมูลที่ไดจากการ ขอมูลที่ไดจากการสังเกต ขอมูลที่ไดจากการสังเกต ขอมูลที่ไดจากการสังเกต
ขอมูล สังเกตการเจริญเติบโต การเจริญเติบโตของพืช การเจริญเติบโตของพืช การเจริญเติบโตของพืช
ของพืชวา พืชใน วา พืชในกระถางใด วา พืชในกระถางใด วา พืชในกระถางใด
กระถางใดเจริญเติบโต เจริญเติบโตดีกวากันได เจริญเติบโตดีกวากันได เจริญเติบโตดีกวากันได
ดีกวากัน อยางถูกตองและชัดเจน อยางถูกตองและชัดเจน ไมถูกตอง แมวาจะได
ไดดวยตนเอง จากการชี้แนะของครู รับคําชี้แนะจากครูหรือ
หรือผูอื่น ผูอื่น
S13 การตีความหมาย สามารถตีความหมาย สามารถตีความหมาย สามารถตีความหมาย
การตีความหมาย ขอมูลจากการสังเกต ขอมูลจากการสังเกตการ ขอมูลจากการสังเกตการ ขอมูลจากการสังเกตการ
ขอมูลและลง การเจริญเติบโตของ เจริญเติบโตของพืชทั้ง 4 เจริญเติบโตของพืชทั้ง 4 เจริญเติบโตของพืชทั้ง 4
ขอสรุป พืชทั้ง 4 กระถาง การ กระถาง การอาน กระถาง การอาน กระถาง การอาน
อานใบความรู การ ใบความรู การสืบคน ใบความรู การสืบคน ใบความรู การสืบคน
สืบคนขอมูลและลง ขอมูลและลงขอสรุปได ขอมูลและลงขอสรุปได ขอมูลและลงขอสรุปได
ขอสรุปไดวาน้ํา แสง วาน้ํา แสง อากาศ และ วาน้ํา แสง อากาศ และ วาน้ํา แสง อากาศ และ
อากาศ และ ธาตุอาหารเปนสิ่งที่ ธาตุอาหารเปนสิ่งที่ ธาตุอาหารเปนสิ่งที่
ธาตุอาหารเปน จําเปนตอการ จําเปนตอการ จําเปนตอการ
สิ่งที่จําเปนตอการ เจริญเติบโตของพืชได เจริญเติบโตของพืช จาก เจริญเติบโตของพืชได
เจริญเติบโตของพืช ดวยตนเอง การชี้แนะจากครูและ เพียงบางสวน แมวาจะได
ผูอื่น รับคําชี้แนะจากครูหรือ
ผูอื่น
108 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 109
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
110 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
แนวการจัดการเรียนรู
1. ครูตรวจสอบความรูเดิมเกี่ยวกับวัฏจักรชีวิตของพืชดอก โดยใหนักเรียน
สังเกตผลและเมล็ดในผลจากผลไมจริงที่นักเรียนคุนเคย หรือสังเกตจาก
ภาพ เชน ผลแตงโมผาซีกเห็นเมล็ดอยูภายใน จากนั้นรวมกันอภิปรายโดย
ใชแนวคําถามดังตอไปนี้
ในการตรวจสอบความรูเดิม
1.1 ภาพนี้คือภาพอะไร (ผลแตงโมผาซีก)
ค รู เ พี ย ง รั บ ฟ ง เ ห ตุ ผ ล ข อ ง
1.2 ผลแตงโมประกอบดวยสวนใดบาง (เปลือกของผล เนื้อผล และเมล็ด
นั ก เรี ย นเป น สํ า คั ญ และยั ง ไม
ของแตงโม)
เฉลยคําตอบใด ๆ ใหกับนักเรียน
1.3 เมล็ดแตงโมมีลักษณะอยางไร (นักเรียนตอบตามสิ่งที่สังเกตได เชน
แ ต ชั ก ช ว น นั ก เ รี ย น ไ ป ห า
เมล็ดเห็นเปนวงรีเล็ก ๆ สีดํา)
คํ า ตอบที่ ถู ก ต อ งจากกิ จ กรรม
1.4 เมล็ดแตงโมมีประโยชนอยางไรบาง (นักเรียนตอบตามประสบการณ
ตาง ๆ ในบทเรียนนี้
เดิม เชน กิน เอาไปปลูกได)
1.5 ถานําเมล็ดแตงโมไปปลูก เมล็ดจะมีการเปลี่ยนแปลงอยางไร (เมล็ดจะ
งอกและเจริญเติบโตเปนตนกลา) ในกรณีที่นักเรียนยังไมเขาใจคําวา
ตนกลา ใหครูนําอภิปรายเพิ่มเติมโดยอาจเชื่อมโยงไปยังเรื่องชีวิตของ
พืช เมล็ดที่งอกแลวจะเจริญเติบโตเปนตนกลาหรือตนพืชขนาดเล็กที่
เพิ่งงอกจากเมล็ด
1.6 ตนกลาจะมีการเปลี่ย นแปลงอีกหรื อไม อยางไร (นักเรียนตอบตาม
ความเข า ใจของตนเอง ซึ่ ง ครู อ าจจดคํ า ตอบของนั ก เรี ย นไว บ น
กระดาน)
2. ครูเชื่ อมโยงความรูเ ดิมของนั กเรี ยนไปสูกิจ กรรมที่ 2.2 โดยใชคําถามวา
แตงโมและพืชชนิดอื่น ๆ มีการเปลี่ยนแปลงขณะเจริญเติบโตอยางไรบาง
3. นักเรียนอานชื่อกิจกรรม และ ทําเปนคิดเปน จากนั้นรวมกันอภิปรายเพื่อ
ตรวจสอบความเขาใจจุดประสงคในการทํากิจกรรม โดยใชคําถามดังนี้
3.1 กิจกรรมนี้นักเรียนจะไดเรียนเรื่องอะไร (วัฏจักรชีวิตของพืชดอก)
3.2 นั กเรี ย นจะได เ รีย นรูเ รื่องนี้ดวยวิธีใด (ปลู กและดูแลพืช สังเกตการ
เปลี่ยนแปลงขณะเจริญเติบโตของพืช และสรางแบบจําลอง)
3.3 เมื่อเรียนแลวนักเรียนจะทําอะไรได (บรรยายวัฏจักรชีวิตของพืชดอก
ได)
4. นักเรียนบันทึกจุดประสงคลงในแบบบันทึกกิจกรรม หนา 44 และ อานสิ่งที่
ตองใชในการทํากิจกรรม
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 111
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
112 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 113
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
114 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 115
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
17. หลังจากทํากิจกรรมครูสามารถใหนักเรียนสังเกตวัฏจักรชีวิตของพืชดอก
เพิ่มเติมไดจากวีดิทัศนหรือภาพถายจากแหลงขอมูลที่นาเชื่อถือ
18. นั ก เรี ย นร ว มกั น อ า นรู อ ะไรในเรื่ อ งนี้ ในหนั ง สื อ เรี ย น หน า 36 ครู นํ า
อภิ ป รายเพื่ อนํ าไปสูขอสรุป เกี่ ย วกั บ สิ่งที่ ได เรี ยนรูในเรื่องนี้ จากนั้นครู
กระตุนใหนักเรียนตอบคําถามในชวงทายของเนื้อเรื่อง โดยใหนักเรียน การเตรียมตัวลวงหนาสําหรับครู
รวมกันอภิปรายแนวทางการตอบคํ าถามทีล ะคําถาม ซึ่งครูควรเน น ให
นักเรียนตอบคําถามพรอมอธิบายเหตุผลประกอบ ดังนี้
เพื่อจัดการเรียนรูในครัง้ ถัดไป
18.1 ถาเรานําเมล็ดพืชมาเก็บไวโดยไมนําไปปลูกตอ จะมีผลตอวัฏจักร ในครั้ ง ถั ด ไป นั ก เรี ย นจะได เ รี ย น
ชีวิตของพืชนั้นหรือไม อยางไร (ถาไมนําเมล็ดไปปลูกตอจะมีผ ล หนวยที่ 4 ดิน บทที่ 1 รูจักดิน ครูควร
ตอวัฏจักรชีวิตของพืชดอก เพราะเปนการหยุดการเปลี่ยนแปลงใน เตรียมรูป หรือ ตัวอยาง หิน ดิน ทราย
วัฏจักรชีวิตของพืชดอกไวที่ระยะเมล็ด พืชนั้นจะไมมีโอกาสงอก ผงฝุน ใหนักเรียนสังเกตเพื่อตรวจสอบ
เปนตนใหม เพื่อสืบพันธุใหกําเนิดพืชรุนตอไปได) ความรูเดิม
18.2 นอกจากพืชจะไดรับธาตุอาหารจากดินแลว ดินยังมีประโยชนอื่น ๆ
อีก นักเรียนอยากรูหรือไมวาดินมีกี่ชนิด และแตละชนิดมีลักษณะ
อยางไร (นักเรียนตอบตามความเขาใจของตนเอง เชน ดินมี 3 ชนิด
แตละชนิดจะใชประโยชนไดแตกตางกัน)
116 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
แนวคําตอบในแบบบันทึกกิจกรรม
ปลูกและดูแลพืชใหไดรับน้ําและแสงที่เหมาะสมเพื่อใหพืชเจริญเติบโต
สรางแบบจําลองเพื่อบรรยายวัฏจักรชีวิตของพืชดอก
ทานตะวัน/พริก (ขึ้นอยูกับการเลือกของนักเรียน)
กระถาง
หลังอาคารเรียน
เชา
การบันทึกขึ้นอยูกับการดูแลรักษาพืชของนักเรียน
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 117
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
118 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
ทานตะวัน
ลําตนสูงและอวบขึ้น จํานวนใบเพิ่มขึ้น
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 119
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
ทานตะวัน
ใบใหญขึ้น ชอดอกขยายใหญขึ้น
ใบใหญขึ้น ชอดอกขยายใหญขึ้น
120 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
ทานตะวัน
ชอดอกเจริญเติบโตเต็มที่ กลีบดอกเริ่มเหี่ยว
กลีบดอกเหี่ยวมากขึ้น มีผลสีเทาอยูตรงกลางชอดอก
ผลเปนสีเทาเขมขึ้น ในผลมีเมล็ด
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 121
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
ทานตะวัน
122 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
รดน้ํา
มีแสง
เมล็ด
ตนกลา
ดอก ผล
เมล็ด
เมล็ด
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 123
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
เปนการเปลี่ยนแปลงที่มีการหมุนเวียนเปนแบบรูปคงที่ซ้ําเดิม
และดําเนินตอเนื่อง
ทานตะวัน
คงทีซ่ ้ําเดิม
วัฏจักร
เมล็ ด งอกเป น ต น กล า ตน กลา เจริญเติบโตเปน ตน พืชที่เ จริญเติบโตเต็ม ที่
ตนพืชเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่จะออกดอก เมื่อดอกมีการสืบพันธุจะเจริญเติบโต
เปนผล ซึ่งในผลมีเมล็ด เมล็ดจะงอกและเจริญเติบโตตอไปเปนวัฏจักร
วัฏจักรชีวิต
ของพืชดอก
124 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
วัฏจักรชีวิตของพืชดอกไมจําเปนตองเริ่มจากเมล็ด เพราะไมวาจะเริ่มที่
ระยะใดของการเจริญเติบโตจะมีการเปลี่ยนแปลงตามลําดับตอเนื่องกันไป
และวนกลับมาที่จุดเดิม เชน เริ่มปลูกตั้งแตระยะตนกลา จากนั้นตนกลา
จะเจริญเติบโตมีดอก มีผล และภายในผลมีเมล็ด ถานําเมล็ดมาปลูกก็จะ
เจริญเติบโตเปนตนกลาไดอีก
คําถามของนักเรียนที่ตั้งตามความอยากรูของตนเอง
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 125
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
แนวการประเมินการเรียนรู
การประเมินการเรียนรูของนักเรียนทําได ดังนี้
1. ประเมินความรูเดิมจากการอภิปรายในชั้นเรียน
2. ประเมินการเรียนรูจากคําตอบของนักเรียนระหวางการจัดการเรียนรูและจากแบบบันทึกกิจกรรม
3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรและทักษะแหงศตวรรษที่ 21 จากการทํากิจกรรมของนักเรียน
126 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
ตาราง แสดงการวิเคราะหทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรตามระดับความสามารถของนักเรียน
โดยอาจใชเกณฑการประเมิน ดังนี้
ทักษะกระบวนการ ระดับความสามารถ
รายการประเมิน
ทางวิทยาศาสตร ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรุง (1)
S1 การสังเกต การบรรยาย สามารถใชประสาท สามารถใชประสาท สามารถใชประสาท
รายละเอียดขอมูล สัมผัสเก็บรายละเอียด สัมผัสเก็บรายละเอียด สัมผัสเก็บรายละเอียด
การเปลี่ยนแปลง ขอมูลการเปลี่ยนแปลง ขอมูลการเปลี่ยนแปลง ขอมูลการเปลี่ยนแปลง
ขณะเจริญเติบโตของ ขณะเจริญเติบโตของ ขณะเจริญเติบโตของ ขณะเจริญเติบโตของ
พืชดอก พืชดอกไดดวยตนเอง พืชดอกได จากการ พืชดอกไดเพียง
โดยไมเพิ่มเติมความ ชี้แนะของครูหรือผูอื่น บางสวน แมวาจะได
คิดเห็น หรือมีการเพิ่มเติม รับคําชี้แนะจากครูหรือ
ความคิดเห็น ผูอื่น
S6 การจัดกระทํา การนําขอมูลที่ไดจาก สามารถนําเสนอขอมูลที่ สามารถนําเสนอขอมูล สามารถนําเสนอขอมูล
และสื่อความหมาย การสังเกตการ ไดจากการสังเกตการ ที่ไดจากการสังเกตการ ที่ไดจากการสังเกตการ
ขอมูล เปลี่ยนแปลงขณะ เปลี่ยนแปลงขณะ เปลี่ยนแปลงขณะ เปลี่ยนแปลงขณะ
เจริญเติบโตของพืชดอก เจริญเติบโตของพืช เจริญเติบโตของ
เจริญเติบโตของ
มาจัดกระทําโดยสราง ดอก มาจัดกระทําโดย พืชดอก มาจัดกระทํา
พืชดอก มาจัดกระทํา
เปนแบบจําลองไดอยาง สรางเปนแบบจําลอง โดยสรางเปน
โดยสรางเปน ถูกตองและสื่อใหผูอื่น ไดอยางถูกตองและสื่อ แบบจําลองไดอยาง
แบบจําลอง และสื่อ เขาใจวัฏจักรชีวิตของ ใหผูอื่นเขาใจวัฏจักร ถูกตอง แตไมสามารถ
ใหผูอื่นเขาใจวัฏจักร พืชดอกไดชัดเจน ชีวิตของพืชดอก สื่อใหผูอื่นเขาใจวัฏจักร
ชีวิตของพืชดอก ดวยตนเอง ไดชัดเจน จากการ ชีวิตของพืชดอกได
ชี้แนะของครูหรือผูอื่น
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 127
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
ทักษะกระบวนการ ระดับความสามารถ
รายการประเมิน
ทางวิทยาศาสตร ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรุง (1)
เจริญเติบโตไปเปน ตนกลาจะเจริญเติบโต เจริญเติบโตเปน เปลี่ยนแปลงในระยะ
ตนพืชที่เจริญเติบโต ไปเปนตนพืชที่ ตนกลา ตนกลาจะ ตาง ๆ
เต็มที่ มีการสราง เจริญเติบโตเต็มที่ มีการ เจริญเติบโตไปเปน
ดอก ดอก สรางดอก ดอกมีการ ตนพืชที่เจริญเติบโต
เจริญเติบโตไปเปน สืบพันธุและเจริญเติบโต เต็มที่ มีการสรางดอก
ผล ในผลมีเมล็ด และ ไปเปนผล ในผลมีเมล็ด ดอกมีการสืบพันธุและ
เมล็ดจะงอกได และเมล็ดจะงอกได เจริญเติบโตไปเปนผล
ในผลมีเมล็ด และเมล็ด
จะงอกได
S13 การ การตีความหมาย สามารถตีความหมาย สามารถตีความหมาย สามารถตีความหมาย
ตีความหมายขอมูล ขอมูลจากการสังเกต ขอมูลจากการสังเกต ขอมูลจากการสังเกต
ขอมูลจากการสังเกต
และลงขอสรุป และการเรียง และการเรียงบัตรภาพ และการเรียงบัตรภาพ และการเรียงบัตรภาพ
บัตรภาพเกี่ยวกับการ เกี่ยวกับการ เกี่ยวกับการ เกี่ยวกับการ
เปลี่ยนแปลงขณะ เปลี่ยนแปลงขณะ เปลี่ยนแปลงขณะ เปลี่ยนแปลงขณะ
เจริญเติบโตของ เจริญเติบโตของพืชดอก เจริญเติบโตของ เจริญเติบโตของ
พืชดอก และลง และลงขอสรุปไดดวย พืชดอก และลงขอสรุป
พืชดอก และลงขอสรุป
ขอสรุปไดวา พืชดอก ตนเองวาพืชดอกมีการ ไดโดยอาศัยการชี้แนะ ไดไมครบถวนสมบูรณ
มีการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนแปลงขณะ ของครูหรือผูอื่นวา
วาพืชดอกมีการ
ขณะเจริญเติบโตเปน เจริญเติบโตเปนวัฏจักร พืชดอกมีการ เปลี่ยนแปลงขณะ
วัฏจักร เปลี่ยนแปลงขณะ เจริญเติบโตเปนวัฏจักร
เจริญเติบโตเปนวัฏจักร
แมวาจะไดรับคําชี้แนะ
จากครูหรือผูอื่น
S14 การสราง การสรางแบบจําลอง สามารถสราง สามารถสราง สามารถสราง
แบบจําลอง บรรยายวัฏจักรชีวติ แบบจําลองบรรยาย แบบจําลองบรรยาย แบบจําลองบรรยาย
ของพืชดอก ที่ วัฏจักรชีวิตของพืชดอก วัฏจักรชีวิตของ วัฏจักรชีวิตของพืชดอก
ประกอบดวยการ ที่ประกอบดวยการ พืชดอกที่ประกอบดวย ที่ประกอบดวย
เปลี่ยนแปลงในระยะ เปลี่ยนแปลงในระยะ การเปลี่ยนแปลงใน การเปลี่ยนแปลงใน
ตาง ๆ ขณะ ตาง ๆ ขณะ ระยะตาง ๆ ขณะ ระยะตาง ๆ ขณะ
เจริญเติบโตของ เจริญเติบโตของ เจริญเติบโตของ เจริญ เติบโตของ
พืชดอก และระบุ พืชดอก และระบุ พืชดอก และระบุ พืชดอก แตไมสามารถ
128 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
ทักษะกระบวนการ ระดับความสามารถ
รายการประเมิน
ทางวิทยาศาสตร ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรุง (1)
ระยะเวลาในการ ระยะเวลาในการ ระยะเวลาในการ ระบุระยะเวลาในการ
เปลี่ยนแปลงจาก เปลี่ยนแปลงจากระยะ เปลี่ยนแปลงจากระยะ เปลี่ยนแปลงจากระยะ
ระยะหนึ่งไปอีกระยะ หนึ่งไปอีกระยะหนึ่ง ได หนึ่งไปอีกระยะหนึ่งได หนึ่งไปอีกระยะหนึ่งได
หนึ่ง ถูกตองดวยตนเอง ถูกตอง จากการชี้แนะ แมวาจะไดรับการ
จากครูหรือผูอื่น ชี้แนะจากครูหรือผูอื่น
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 129
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
130 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 131
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
132 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
สรุปผลการเรียนรูของตนเอง
รูปหรือขอความสรุปสิ่งที่ไดเรียนรูจากบทนี้ตามความเขาใจของนักเรียน
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 133
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
แนวคําตอบในแบบฝกหัดทายบท
มนุษย หญา นก
ลูกบอล เมฆ ดวงอาทิตย หมวก เสื้อผา รองเทา
การสังเกตพืชมีลําตนสูงและใหญขึ้น
จํานวนใบเพิ่มขึ้น ขนาดใบใหญขึ้น มีการแตกกิ่ง
134 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
น้ํา
เหี่ยวและตาย
แสง
ใบซีด ลําตนยืดยาว และตาย
อากาศ
แหง เหี่ยว และตาย
ธาตุอาหาร
เปนโรค และตาย
ตนกลามะละกอจะเจริญเติบโต
อยางตอเนื่องจนเจริญเติบโตเต็มที่และมีดอก เมื่อดอกสืบพันธุ จะเจริญเติบโตไปเปนผล ในผลมีเมล็ด
เมล็ดจะงอกและเจริญเติบโตเปนตนกลาอีกครั้ง และตนกลาจะเจริญเติบโตตอไป
มีการเปลี่ยนแปลงขณะเจริญเติบโตที่มีการหมุนเวียนเปนแบบรูปที่
คงที่ซ้ําเดิม และดําเนินตอเนื่อง
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 135
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
136 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 3 แสงและสิ่งมีชีวิต
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 137
138 คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
ภาพรวมการจัดการเรียนรูประจําหนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
รวมคิด รวมทํา
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 139
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
บทที่ 1 รูจักดิน
จุดประสงคการเรียนรูประจําบท
เมื่อเรียนจบบทนี้ นักเรียนสามารถ
1. ระบุสวนประกอบของดิน
2. จําแนกชนิดของดินโดยใชลักษณะเนื้อดิน สมบัติการ
จับตัว และการอุมน้ําของดินเปนเกณฑ
3. อธิบายการใชประโยชนจากดิน
เวลา 13 ชั่วโมง
แนวคิดสําคัญ
ดินเปนทรัพยากรธรรมชาติที่พบไดทั่วไป ดินตามที่
ตาง ๆ จะมีสวนประกอบเหมือนกัน แตอาจมีลักษณะและ
สมบัติแตกตางกัน เมื่อใชลักษณะเนื้อดิน สมบัติการจับตัว
และการอุมน้ําของดินเปนเกณฑสามารถจําแนกดินไดเปน บทนี้มีอะไร
3 ช นิ ด ได แ ก ดิ น เหนี ย ว ดิ น ร ว น แล ะดิ น ทร า ย เรื่องที่ 1 ดินในทองถิ่น
ซึ่งดินแตละชนิดสามารถนําไปใชประโยชนไดแตกตางกัน กิจกรรมที่ 1.1 ดินมีสวนประกอบอะไรบาง
ตามลักษณะ สมบัติและชนิดของดิน กิจกรรมที่ 1.2 ดิ น ในท อ งถิ่ น มี ลั ก ษณะและสมบั ติ
อยางไร
เรื่องที่ 2 ประโยชนของดิน
สื่อการเรียนรูและแหลงเรียนรู
กิจกรรมที่ 2 ดินมีประโยชนอยางไร
1. หนังสือเรียน ป.2 เลม 2 หนา 40-63
2. แบบบันทึกกิจกรรม ป.2 เลม 2 หนา 59-85
140 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรและทักษะแหงศตวรรษที่ 21
กิจกรรมที่
รหัส ทักษะ
1.1 1.2 2
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร
S1 การสังเกต • •
S2 การวัด
S3 การใชจํานวน
S4 การจําแนกประเภท •
S5 การหาความสัมพันธระหวาง
สเปซกับสเปซ
สเปซกับเวลา
S6 การจัดกระทําและสื่อความหมายขอมูล
S7 การพยากรณ
S8 การลงความเห็นจากขอมูล • • •
S9 การตั้งสมมติฐาน
S10 การกําหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ
S11 การกําหนดและควบคุมตัวแปร
S12 การทดลอง
S13 การตีความหมายขอมูลและลงขอสรุป • • •
S14 การสรางแบบจําลอง
ทักษะแหงศตวรรษที่ 21
C1 การสรางสรรค
C2 การคิดอยางมีวิจารณญาณ •
C3 การแกปญหา
C4 การสื่อสาร • • •
C5 ความรวมมือ • • •
C6 การใชเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 141
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
แนวคิดคลาดเคลื่อน
แนวคิดคลาดเคลื่อนที่อาจพบและแนวคิดที่ถูกตองในบทที่ 1 รูจักดิน มีดังตอไปนี้
แนวคิดคลาดเคลื่อน แนวคิดที่ถูกตอง
ดินในที่ตาง ๆ ลวนมีลักษณะเหมือนกัน (Kusnick, 2002) ดิ น ในที่ ต า ง ๆ อาจมี ลั ก ษณะแตกต า งกั น ขึ้ น อยู กั บ
สภาพแวดลอม (Kusnick, 2002)
สัตวที่อยูในดินเปนสวนประกอบของดิน (Kusnick, 2002) สั ต ว ที่ ยั ง มี ชี วิ ต ไม ใ ช ส ว นประกอบของดิ น โดยดิ น
ประกอบดวยเศษหิน ซากพืช ซากสัตว น้ํา และอากาศ
(Kusnick, 2002)
ดินสกปรกและไมมีประโยชน (Melanie, 2010) ดิ น มี ป ระโ ยช น ม าก เช น การนํ า ดิ น ไปปลู ก พื ช
ทําเครื่องปนดินเผา หรือการกอสราง (Melanie, 2010)
ดินเปนของแข็ง (Melanie, 2010) ดินไมไดเปนเพีย งของแข็ งเทานั้น แตดินประกอบด ว ย
เศษหิ น ที่ เ ป น ของแข็ ง และพื้ น ที่ ว า งที่ ไ ม ใ ช ข องแข็ ง
ซึ่งชองวางระหวางเม็ดดิ น คื อที่ว างสําหรับ น้ํา อากาศ
ซึ่งเปนสวนประกอบหนึ่งของดิน (Melanie, 2010)
ถาครูพบวามีแนวคิดคลาดเคลื่อนใดที่ยังไมไดแกไขจากการทํากิจกรรมการเรียนรู ครูควรจัดการเรียนรูเพิ่มเติมเพื่อแกไข
ตอไป
142 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
บทนี้เริ่มตนอยางไร (1 ชัว่ โมง)
1. ครูตรวจสอบความรูเดิมของนักเรียนเกี่ยวกับดิน โดยนํารูปหรือตัวอยาง
หิ น ดิ น ทราย และฝุ น ตามลํ าดั บ ดั งรู ป มาให นั กเรี ยนสั งเกตและ
ใชคําถามดังตอไปนี้
ในการตรวจสอบความรูเดิมครู
รับฟงเหตุผลของนักเรียนเปนสําคัญ
ครูยังไมเฉลยคําตอบใด ๆ แตชักชวน
ใหหาคําตอบที่ถูกต องจากกิจกรรม
ตาง ๆ ในบทเรียนนี้
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 143
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
4. นักเรียนอานชื่อบท และแนวคิดสําคัญ ในหนังสือเรียน หนา 42
จากนั้นครูใชคําถามวา จากการอานแนวคิดสําคัญ นักเรียนคิดวา
จะได เ รี ย นเกี่ ย วกั บ เรื่ อ งอะไรบ า ง (จะได เ รี ย นเกี่ ย วกั บ เรื่ อ ง
ส ว นประกอบของดิ น การจํ าแนกประเภทของดิ น โดยใช ลั กษณะ
เนื้อดิน สมบัติการจับตัวและการอุมน้ําของดินเปนเกณฑ และการใช
ประโยชนจากดิน)
5. ครูชักชวนใหนักเรียนสังเกตรูป และอานเนื้อเรื่องในหนา 42 โดยครู
ฝกทักษะการอานตามวิธีการอานที่เหมาะสมกับความสามารถของ
นักเรียน ครูตรวจสอบความเขาใจจากการอาน โดยใชคําถามดังนี้
5.1 จากรูป นักเรียนคิดวาจะพบดินบริเวณใดบาง (นักเรียนอาจชี้ไป
ที่ภาพบริเวณที่มีหินหรือตะกอนกระจัดกระจายอยูเทานั้น แต
จริง ๆ แลว ดินจะพบไดตั้งแตบริเวณที่มีการผุพังของภูเขาหิน
ไปจนถึงบริเวณทางน้ํา)
5.2 บริเวณที่เขียนวาภูเขาหินพบดินไดหรือไม (นักเรียนตอบไดตาม
ความเขาใจของตนเอง เชน พบดินได พบดินไมได)
5.3 จากรู ป ลั ก ษณะของวั ต ถุ ที่ ป กคลุ ม ผิ ว โลกบริ เ วณภู เ ขาหิ น
ดานบนและดานลางแตกตางกันหรือไม อยางไร (นักเรียนตอบ ถานักเรียนไมสามารถตอบ
ได ต ามความเข า ใจของตนเอง เช น แตกตางกัน โดยบริเวณ คําถามหรืออภิปรายไดตามแนว
ภู เ ขาหิ น จะพบเศษหิ น และเม็ ด ดิ น ขนาดใหญ และบริ เ วณ คําตอบ ครูควรใหเวลานั กเรียน
ที่ ต่ํ าลงมา ขนาดของเศษหิ น และเม็ ดดิ น มักจะมีขนาดเล็กลง คิดอยางเหมาะสม รอคอยอยาง
เนื่องจากการผุพังของหินหรือตะกอน) อดทน และรั บฟ งแนวความคิ ด
6. ครูชักชวนนักเรียนตอบคําถามเกี่ยวกับดิน ในสํารวจความรูกอนเรียน ของนักเรียน
7. นักเรียนทําสํารวจความรูกอนเรียน ในแบบบันทึกกิจกรรม หนา
60-61 โดยนักเรียนอานคําถามแตละขอ ครูตรวจสอบความเข าใจ
ของนั กเรี ย น จนแน ใจวานักเรีย นสามารถทําไดดวยตนเอง จึงให
นักเรียนตอบคําถาม โดยคําตอบของแตละคนอาจแตกตางกันและ
อาจตอบถูกหรือผิดก็ได
8. ครูสังเกตการตอบคําถามของนักเรียนเพื่อตรวจสอบวานักเรี ย นมี
แนวคิดเกี่ยวกับดินอยางไร โดยอาจสุมใหนักเรียน 2-3 คน นําเสนอ
คํ า ตอบของตนเอง ครู ยั ง ไม ต อ งเฉลยคํ า ตอบ แต จ ะให นั ก เรี ย น
ยอนกลับมาตรวจสอบอีกครั้งหลังจากเรียนจบบทนี้แลว ทั้งนี้ครูควร
บันทึกแนวคิดคลาดเคลื่อนหรือแนวคิดที่นาสนใจของนักเรียน แลว
144 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
นํ า มาใช ใ นการออกแบบการจั ด การเรี ย นรู เ พื่ อ แก ไ ขแนวคิ ด
คลาดเคลื่อนใหถูกตอง และตอยอดแนวคิดที่นาสนใจของนักเรียน การเตรียมตัวลวงหนาสําหรับครู
เพื่อจัดการเรียนรูในครั้งถัดไป
ในครั้ ง ถั ด ไป นั ก เรี ย นจะได
เรี ย นเรื่ อ งที่ 1 ดิ น ในท อ งถิ่ น ซึ่ ง
เกี่ ย วข อ งกั บ ดิ น ที่ อ าจพบในท อ งถิ่ น
ต า ง ๆ ครู อ าจเตรี ย มดิ น ที่ พ บตาม
สถานที่ตาง ๆ หรือรูปดินกับสถานที่ที่
พบดินนั้น ๆ มาเพื่อใหนักเรียนเลนเกม
ดิ น นี้ ค วรอยู ที่ ใ ด ในขั้ น ตรวจสอบ
ความรูเดิมของนักเรียน
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 145
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
แนวคําตอบในแบบบันทึกกิจกรรม
การสํารวจความรูกอนเรียน นักเรียนอาจตอบคําถามถูกหรือผิดก็ไดขึ้นอยูกับความรูเดิมของนักเรียน
แตเมื่อเรียนจบบทเรียนแลว ใหนักเรียนกลับมาตรวจสอบคําตอบอีกครั้งและแกไขใหถูกตอง ดังตัวอยาง
146 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 147
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
เรื่องที่ 1 ดินในทองถิ่น
ในเรื่องนี้นักเรียนจะไดเรียนรูเกี่ยวกับสวนประกอบ
และลักษณะของดินตามสภาพแวดลอมในแตละทองถิ่น
จุดประสงคการเรียนรู
1. สังเกตและระบุสวนประกอบของดินจากแหลงตาง ๆ
2. สังเกตและเปรียบเทียบลักษณะเนื้อดินของดินเหนียว
ดินรวน ดินทราย และดินในทองถิ่น
3. สังเกตและเปรียบเทียบการจับตัวและการอุมน้ําของ
ดินเหนียว ดินรวน ดินทราย และดินในทองถิ่น
4. ระบุ ช นิ ด ของดิ น ในท อ งถิ่ น โดยเปรี ย บเที ย บกั บ
ลักษณะเนื้อดิน สมบัติการจับตัว และการอุมน้ําของ
ดินเหนียว ดินรวน และดินทราย
เวลา 7 ชั่วโมง
วัสดุ อุปกรณสําหรับทํากิจกรรม
สื่อการเรียนรูและแหลงเรียนรู
จานกระดาษหรือภาชนะใสดิน แกวพลาสติกใส
ไมหรือตะเกียบไมสําหรับเขี่ยดิน แวนขยาย ชอนพลาสติก 1. หนังสือเรียน ป.2 เลม 2 หนา 44-54
ถุงพลาสติกใส ยางรัดของ น้ํา ชุดทดลองการอุมน้ําของดิน 2. แบบบันทึกกิจกรรม ป.2 เลม 2 หนา 62-77
ชอนสําหรับตักดิน ชอนโตะ ปากกาเคมี ตัวอยางดินจาก
แหลงตาง ๆ ในทองถิ่น ตัวอยางดินเหนียว ดินรวน และ
ดินทราย สีเมจิกหรือปากกาเคมี
148 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
แนวการจัดการเรียนรู (60 นาที)
ขั้นตรวจสอบความรู (10 นาที)
1. ครู ตรวจสอบความรู เดิ มของนั กเรี ยนเกี่ ยวกั บดิ น โดยใช คํ าถามว า ในการตรวจสอบความรู เ ดิ ม
เคยสั งเกตดิ นตามที่ ต าง ๆ หรื อไม ดิ นตามที่ ต าง ๆ ที่ เคยสั งเกตมี ครูเพีย งรับ ฟงเหตุผ ลของนัก เรี ย น
ลักษณะเหมื อนหรื อแตกต างกั น (นั กเรี ยนตอบตามความเข าใจของ และยั ง ไม เ ฉลยคํ า ตอบใด ๆ แต
ตนเอง แตควรมีเหตุผลประกอบ) ชักชวนใหนักเรียนไปหาคําตอบดวย
2. ครูเชื่อมโยงความรูเดิมของนักเรียนสูการเรียนเรื่อง ดินในทองถิ่น โดย ตนเองจากการอานเนื้อเรื่อง
ใชคําถามวา รูหรือไมวาดินตามที่ตาง ๆ มีลักษณะอยางไรบาง จากนั้น
ครูชักชวนนักเรียนหาคําตอบจากการอานเรื่องดินในทองถิ่น
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 149
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
ยอหนาที่ 2
4.5 บริเวณปาชายเลนมีลักษณะเปนอยางไร และสวนใหญพบดินชนิดใด
(บริเวณปาชายเลนมีลักษณะเปนพื้นที่ที่น้ําทะเลทวมถึง มักพบดินที่ ความรูเพิ่มเติมสําหรับครู
มีความเค็มสูง สวนใหญเปนดินเหนียว)
ยอหนาที่ 3 เมื่ อ หิ น มี ก ารผุ พั ง ทั้ ง ทางกายภาพ
4.6 บริเ วณพื้น ที่ล าดเชิงเขามีลั ก ษณะเปน อย า งไร และสวนใหญพ บ และทางเคมี จ ะทํ า ให เ กิ ด ตะกอนขนาด
ดิน ชนิด ใด (บริเ วณพื้น ที่ ล าดเชิ งเขามีลั ก ษณะเปน พื้ น ที่ล าดที่ มี ตาง ๆ ซึ่งตะกอนเหลานั้นก็คือแรตาง ๆ ที่
การชะลางพังทลายไดงาย ดินบริเวณนี้จึงขาดความอุดมสมบูรณ ซึ่ง อยูในหินตนกําเนิด โดยตัวอยางแรที่อยูใน
บริเวณเชิ งเขาจะพบดิ นชนิ ดใดก็ ได ขึ้นอยูกับ หินตน กําเนิด เชน หินตนกําเนิดและผลจากการผุพัง แสดง
ถาเปนหินทราย ดินบริเวณนี้มักจะเปน ดิน ทราย) ดังตาราง
4.7 นักเรียนคิดวา เพราะเหตุใดดินบริเวณที่ลาดเชิงเขาสวนใหญถึงมัก
แร ผลจากการผุพัง
ขาดความอุดมสมบูรณ (เพราะดินบริเวณนี้มีการชะลางพังทลาย
แรเฟลดสปาร แรดิน
ไดงาย)
แรควอตซ ทราย
ยอหนาที่ 4
การผุ พั ง ของหิ น ให เ ป น ตะกอนจะ
4.8 ดิ นที่ พบบริ เวณที่ ราบมี ลั กษณะเป นอย างไร และส ว นใหญ พบดิ น
เกิดขึ้นพรอมกับการยอยสลายของซากพืช
ชนิ ด ใด (บริ เ วณที่ ร าบเป น แอ ง สะสมตะกอนซากพื ช ซากสั ต ว
ซากสั ต ว ซึ่ ง เป น อิ น ทรี ย วั ต ถุ ผ ส ม
ดินบริเวณนี้จึงเปนดินที่มีความอุดมสมบูรณ โดยดินบริเวณนี้จะพบดิน
คลุกเคลากันกับตะกอนที่ผุ พังมาจากหิ น
ชนิดใดก็ไดขึ้นอยูกับหินตนกําเนิด เชน ถาเปนทรายแปง บริเวณนี้จะ
จนเกิดเปนดิน ซึ่งกระบวนการเกิดดินตอง
เปนดินรวน)
อาศัยระยะเวลา
4.9 นักเรียนคิดวาเพราะเหตุใดดินบริเวณที่ราบหรือแองสะสมตะกอน
ดิ น ส ว นใหญ จึ ง มี ค วามอุ ด มสมบู ร ณ (เพราะเป น บริ เ วณที่ มี
การสะสมตัวของซากพืช ซากสัตว)
ยอหนาที่ 1-4
4.10 เราสามารถพบดิ น เหนี ย ว ดิ น ทราย หรื อ ดิ น ร ว นที่ บ ริ เ วณอื่ น
นอกจากที่ กลาวมาแลว ไดหรื อไม เพราะเหตุ ใด (เราสามารถพบ
ดิ น เหนี ย ว ดิ น ทราย และดิ น ร ว นในบริ เ วณอื่ น ได เนื่ อ งจาก
การจะบอกว า เป น ดิ น ชนิ ด ใด ขึ้ น อยู กั บ หิ น ต น กํ า เนิ ด และ
สภาพแวดลอมในอดีตและปจจุบัน)
150 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
ขั้นสรุปจากการอาน (15 นาที)
การเตรียมตัวลวงหนาสําหรับครู
5. ครูใหนักเรียนรวมกันสรุปเรื่องที่อานซึ่งควรสรุปไดวา นักวิทยาศาสตร เพื่อจัดการเรียนรูในครั้งถัดไป
จําแนกดินออกเปนดินเหนียว ดินรวน และดินทราย ซึ่งแตละบริเวณ
ในครั้ ง ถั ด ไป นั ก เรี ย นจะได ทํ า
อาจพบดิ น ที่ เ หมื อ นหรื อ แตกต า งกั น ขึ้ น อยู กั บ ลั ก ษณะของ
กิจกรรมที่ 1.1 ดินมีสวนประกอบอะไรบาง
หินตนกําเนิดและสภาพแวดลอมทั้งในอดีตและปจจุบัน
ครูใหนักเรียนแตละกลุมเตรียมยางรัดของ
6. นักเรียนตอบคําถามในรูหรือยัง ในแบบบันทึกกิจกรรม หนา 62
ถุ ง พลาสติ ก และดิ น ในท อ งถิ่ น ครู ใ ห
7. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายเพื่อเปรียบเทียบคําตอบของนักเรียน นักเรีย นระบุแหลงที่เก็บ ตัวอยางดิน โดย
ในรู ห รื อ ยั ง กั บ คํ า ตอบที่ เ คยตอบและบั น ทึ ก ไว ใ นคิ ด ก อ นอ า น ดิ น ที่ นํ า มาจะต อ งไม เ ป น ดิ น ที่ ใ ส ถุ ง ขาย
จากนั้นใหนักเรียนฝกเขียนคําวา ดิน ในเขียนเปน ในแบบบัน ทึก และครูบอกวิธีเก็บตัวอยางดิน โดยตองขุด
กิจกรรม หนา 62 ดิ น ลึ ก ลงไปประมาณ 10-15 เซนติ เ มตร
8. ครูใหนักเรียนอานคําถามในยอหนาสุดทายของเรื่องที่อาน และให จากนั้นจึงเก็บดินที่กนหลุมขึ้นมาประมาณ
นั ก เรี ย นร ว มกั น อภิ ป รายเพื่ อ ตอบคํ า ถาม ดั ง นี้ ดิ น แต ล ะชนิ ด ที่ 25 กํามือ แบงดิน เปน สองสว น สว นแรก
นั ก วิ ท ยาศาสตร จํ า แนกไว มี ส ว นประกอบ ลั ก ษณะ และสมบั ติ 10 กํ า มื อ เพื่ อ ใช ใ นกิ จ กรรมที่ 1.1 และ
เหมื อ นหรื อ แตกต า งกั น จะจํ า แนกชนิ ด ดิ น ที่ พ บในท อ งถิ่ น แบบ สวนที่สอง 15 กํามือ เพื่อใชในกิจกรรมที่
นักวิทยาศาสตรไดอยางไร (นักเรียนตอบตามความเขาใจของตนเอง) 1.2 ซึ่ ง นั ก เรี ย นต อ งนํ า ดิ น ส ว นที่ 2 ไป
ครูยังไมเฉลยคําตอบ แตชักชวนใหนักเรียนหาคําตอบจากการทํ า ตากแดดให แ ห ง และทุ บ ให ล ะเอี ย ด แล ว
กิจกรรม รอนดวยมุงไนลอน (ผาตาขายสีฟาที่ ใช ใน
งานกอสราง) กอนที่จะนํามาใชในการทํา
กิจกรรม
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 151
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
แนวคําตอบในแบบบันทึกกิจกรรม
3 ดินเหนียว
ดินรวน และดินทราย
ดิน
ดิน
152 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 153
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
แนวการจัดการเรียนรู
1. ครูตรวจสอบความรูเดิมเกี่ยวกับสวนประกอบของดิน โดยใชคําถาม
วา ดินแตละชนิดมีสวนประกอบเหมือนหรื อแตกตางกัน อยางไร
(นั ก เรี ย นตอบตามความเข า ใจของตนเอง เช น ดิ น ทุ ก ชนิ ด มี
สวนประกอบเหมือนกัน ประกอบดวย เศษหิน ซากพืช ซากสัตว น้ํา ในการตรวจสอบความรู เ ดิ ม
และอากาศ แตจะมีปริมาณเศษหิน ซากพืช ซากสัตว น้ําและอากาศ ครูเพียงรับฟงเหตุผลของนักเรียน
แตกตางกันไปในดินแตละชนิดและในแตละบริเวณ)
และยั ง ไม เ ฉลยคํ า ตอบใด ๆ แต
2. ครู เ ชื่ อ มโยงความรู เ ดิ ม ของนั ก เรี ย นเข า สู กิ จ กรรมที่ 1.1 โดยใช
คําถามดังนี้ ดินตามที่ตาง ๆ ในทองถิ่นมีสวนประกอบอะไรบาง เรา ชั ก ชวนให นั ก เรี ย นไปหาคํ า ตอบ
จะเรียนรูใ นกิจกรรมที่ 1.1 ดวยตนเองจากการทํากิจกรรม
3. นั ก เรี ย นอ า นชื่ อ กิ จ กรรม และทํ า เป น คิ ด เป น ในหนั ง สื อ เรี ย น
จากนั้ น ร ว มกั น อภิ ป รายเพื่ อ ตรวจสอบความเข า ใจเกี่ ย วกั บ
จุดประสงคในการทํากิจกรรม โดยใชคําถามดังนี้
3.1 กิจกรรมนี้นักเรียนจะไดเรียนรูเกี่ยวกับเรื่องอะไร (สวนประกอบ
ของดินจากแหลงตาง ๆ)
3.2 นักเรียนจะไดเรียนรูเรื่องนี้ดวยวิธีใด (การสังเกต)
3.3 เมื่อเรียนรูแลวนักเรียนจะทําอะไรได (ระบุสวนประกอบของดิน
ได)
4. นักเรียนบันทึ กจุ ดประสงคลงในแบบบั นทึ กกิจกรรม หนา 63 และ
อานสิ่งที่ตองใชในการทํากิจกรรม
5. นักเรี ย นอ านทํ า อย า งไรทีล ะข อ และครู ถามนั กเรีย นวามีคําศัพท
ใดบางที่ไมเขาใจเพื่อครูจะไดชวยอธิบาย จากนั้นรวมกันอภิปราย
เพื่อตรวจสอบความเข า ใจว า จะทํ า กิ จ กรรมอย า งไร จนนักเรี ย น
เขาใจลําดับการทํากิจกรรม โดยอาจใชคําถามดังนี้
ทําอยางไร ขอที่ 1
5.1 นั ก เรี ย นเก็ บ ตั ว อย า งดิ น มาจากที่ ใ ดบ า ง (คํ า ตอบขึ้ น อยู กั บ
แหลงดินที่เก็บตัวอยางดินมาทํากิจกรรม เชน สวนหลังบาน
ขอเสนอแนะเพิ่มเติม
สวนสาธารณะ แปลงผักในโรงเรียน)
5.2 นักเรียนเก็บตัวอยางดินมาอยางไร (คําตอบขึ้นอยูกับวิธีการที่ ครูสามารถวางแผนในการแบงเวลาการ
นั ก เรี ย นใช ใ นการเก็ บ ตั ว อย า งดิ น ซึ่ ง นั ก เรี ย นควรตอบ จัดกิจกรรมการเรียนการสอนของตนเองได
คล ายคลึ งกั บ วิ ธี เ ก็ บ ตั วอย า งดิ นที่ แนะนํ า ไวในการเตรียมตัว
ลวงหนาสําหรับครูในเรื่องที่ 1 เชน ขุดดินจากสวนหลังบาน
154 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 155
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
6. เมื่อนักเรียนเขาใจวิธีการทํากิจกรรมในทําอยางไรแลว ครูแจกวัสดุ
อุปกรณ และใหนักเรียนเริ่มปฏิบัติตามขั้นตอนที่กลาวมา แตยกเวน
แวนขยายที่ครูจะแจกใหเมื่อนักเรียนสังเกตเนื้อดินดวยตาเปลาและ
บี้ดิน พรอมบันทึกผลเรียบรอยแลว
7. หลังจากทํากิจกรรมแลว ครูนําอภิปรายผลการทํากิจกรรม โดยใช
คําถามดังนี้
7.1 เมื่ อ สั ง เกตดิ น ของตนเองในจานกระดาษโดยใช ไ ม เ ขี่ ย ดิ น
พบอะไรบาง (คําตอบขึ้นอยูกับผลการทํากิจกรรม เชน การ ถ า นั ก เรี ย นไม ส ามารถตอบ
สั งเกตดิ น โดยการใช ไม เ ขี่ ย ดิ น ในจานกระดาษ จะพบกรวด คํ า ถามหรื อ อภิ ป รายได ต ามแนว
ทราย เศษหิ น ซากพื ช ซากสั ต ว นั ก เรี ย นบางกลุ ม อาจพบ คําตอบ ครูควรใหเวลานักเรียนคิด
สิ่งมีชีวิต เศษกระดาษ และเศษพลาสติก หรืออื่น ๆ การบี้ดิน อยางเหมาะสม รอคอยอยางอดทน
ทําใหพบวา ดินมีเนื้อหยาบหรือละเอียด และดินชื้นหรือแหง)
และรับฟงแนวความคิดของนักเรียน
7.2 เมื่อนําดินที่ใสถุงพลาสติกไปวางไวกลางแดด แลวสังเกตภายใน
ถุ ง นอกจากมี ดิ น แลว ยั งพบอะไรอี กบาง (จะเห็ น ละอองน้ํ า
จั บ อยู ภ ายในถุ งพลาสติ กเป น ฝ า ขาว ๆ และเมื่อเปดถุงออก
แลวสัมผัสภายในถุงจะรูสึกเปยก ชื้นมือ เพราะมีละอองน้ําจับ
อยูภายในถุงพลาสติก)
7.3 เมื่ อ ใส ก อ นดิ น ลงในน้ํ า แล ว สั ง เกตทั น ที นั ก เรี ย นจะพบ
อะไรบาง (พบฟองแกสลอยขึ้นสูผิวน้ําและบางสวนเกาะอยูที่
กอนดิน)
7.4 จากสิ่งที่สังเกตไดเ มื่ อใส กอนดินลงในน้ํา นักเรียนคิดว าเป น
ส ว นประกอบใดของดิ น เพราะเหตุ ใด (นั กเรีย นอาจตอบวา
สิ่งที่สังเกตไดเปนฟองแกส คิดวาเปนอากาศ เพราะเมื่อเวลา
ผานไปไมนานฟองแกสบางสวนจะแตกและหายไปในอากาศ)
ถานักเรียนไมสามารถตอบได ครูอาจใหนักเรียนลองแตะที่ฟอง
แกสนั้นแลวสังเกตการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะเห็นวาฟองแกสนั้น ๆ
จะแตกและหายไป ซึ่ ง เมื่ อ แก ส หายไปแล ว ครู อ าจเว น ช ว งให
นักเรี ย นลองคิ ด ว า ทํ า ไมแก ส ที่ เ คยกองอยู กับ ก อนดิ น จึงหายไป
ทําไมเราถึงมองไมเห็น ซึ่งนักเรียนอาจตอบไดวาแกสที่หายไปใน
อากาศก็คืออากาศ เราจึงมองไมเห็น
7.5 เมื่อใชไมคนดินใหเขากับน้ํา วางไวสักครู จะพบอะไรบาง (จะ
เห็นเศษใบไม เศษหญา ซากสัตว เชน ซากมด ลอยขึ้นมา และ
156 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 157
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
158 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
แนวคําตอบในแบบบันทึกกิจกรรม
สังเกตและระบุสวนประกอบของดินจากแหลงตาง ๆ
นักเรียนตอบตามสิ่งที่สังเกตพบ เชน
ดินแตกออกเปนเม็ด ๆ มีเม็ดทรายติดนิ้ว
ดินมีเนื้อหยาบหรือละเอียด
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 159
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
160 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
น้ํา ละอองน้ําเกาะอยูที่ผิวดานในของ
ถุงพลาสติก
อากาศ
ฟองแกสลอยขึ้นมาและบางสวนเกาะอยูที่กอนดิน
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 161
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
นักเรียนตอบตามสิ่งที่สังเกตพบ
เชน ดินอาจมีเศษหิน กรวด ทราย น้ํา อากาศ เศษรากตนไม เศษใบไม
ซากมด ขาแมลง
162 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
คําถามของนักเรียนที่ตั้งตามความอยากรูของตนเอง
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 163
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
แนวการประเมินการเรียนรู
การประเมินการเรียนรูของนักเรียนทําได ดังนี้
1. ประเมินความรูเดิมจากการอภิปรายในชั้นเรียน
2. ประเมินการเรียนรูจากคําตอบของนักเรียนระหวางการจัดการเรียนรูและจากแบบบันทึกกิจกรรม
3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรและทักษะแหงศตวรรษที่ 21 จากการทํากิจกรรมของนักเรียน
164 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
ตาราง แสดงการวิเคราะหทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรตามระดับความสามารถของนักเรียน
โดยอาจใชเกณฑการประเมิน ดังนี้
ทักษะกระบวนการ ระดับความสามารถ
รายการประเมิน
ทางวิทยาศาสตร ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรุง (1)
S1 การสังเกต การบรรยายรายละเอียด สามารถใชประสาทสัมผัส สามารถใชประสาทสัมผัส สามารถใชประสาทสัมผัส
เกี่ยวกับลักษณะดิน และ เก็บรายละเอียดขอมูล เก็บรายละเอียดขอมูล เก็บรายละเอียดขอมูล
สวนประกอบของดินใน เกี่ยวกับลักษณะดินและ เกี่ยวกับลักษณะดิน และ ลักษณะดินหรือ
ทองถิ่น สวนประกอบของดินใน สวนประกอบของดินใน สวนประกอบของดินใน
ทองถิ่นไดดวยตนเอง โดย ทองถิ่นได จากการชี้แนะ ทองถิ่นไดเพียงบางสวน
ไมเพิ่มความคิดเห็น ของครูหรือผูอื่น หรือมีการ แมวาจะไดรับคําชี้แนะจาก
เพิ่มเติมความคิดเห็น ครูหรือผูอื่น
S8 การลงความเห็ น การลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก
จากขอมูล ขอมูลที่ไดจากการ ขอมูลที่ไดจากการ ขอมูลที่ไดจากการ ขอมูลที่ไดจากการ
สังเกตเห็นฟองที่ลอย สังเกตเห็นฟองที่ลอย สังเกตเห็นฟองที่ลอยขึ้นมา สังเกตเห็นฟองแกสได
ขึ้นมาจากดินวา ในดินมี ขึ้นมาจากดินวา ในดินมี จากดินวา ในดินมีอากาศ ถูกตองบางสวน แมวาจะ
อากาศเปนสวนประกอบ อากาศเปนสวนประกอบ เปนสวนประกอบ จากการ ไดรับคําชี้แนะจากครูหรือ
ไดดวยตนเอง ชี้แนะของครูหรือผูอื่น ผูอื่น
S13 การ การตีความหมายขอมูล สามารถตีความหมาย สามารถตีความหมายขอมูล สามารถตีความหมาย
ตีความหมายขอมูล จากการสังเกต การ ขอมูลจากการสังเกต การ จากการสังเกต การอภิปราย ขอมูลจากการสังเกต การ
และลงขอสรุป อภิปราย และลงขอสรุป อภิปราย และ และลงขอสรุปไดถูกตอง อภิปราย และ
ไดวา ดินประกอบดวย ลงขอสรุปไดถูกตองดวย จากการชี้แนะของครูหรือ ลงขอสรุปไดถูกตอง
เศษหิน ซากพืช ตนเองวา ดิน ผูอื่นวา ดินประกอบดวย บางสวน แมวาจะไดรับคํา
ซากสัตว น้ํา และอากาศ ประกอบดวยเศษหิน เศษหิน ซากพืช ซากสัตว ชี้แนะจากครูหรือผูอื่น วา
ซากพืช ซากสัตว น้ํา และ น้ํา และอากาศ ดินประกอบดวยเศษหิน
อากาศ ซากพืช ซากสัตว น้ํา และ
อากาศ
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 165
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
ทักษะแหง ระดับความสามารถ
รายการประเมิน
ศตวรรษที่ 21 ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรุง (1)
C4 การสื่อสาร การนําเสนอขอมูล สามารถนําเสนอขอมูลจาก สามารถนําเสนอขอมูลจาก สามารถนําเสนอขอมูลจาก
จากการสังเกตและ การสังเกตและการ การสังเกตและการอภิปราย การสังเกตและการอภิปราย
การอภิปรายเกี่ยวกับ อภิปรายเกี่ยวกับ เกี่ยวกับสวนประกอบของดิน เกี่ยวกับสวนประกอบของดิน
สวนประกอบของดิน สวนประกอบของดิน เพื่อใหผูอื่นเขาใจไดอยาง เพื่อใหผูอื่นเขาใจไดอยาง
ใหผูอื่นเขาใจงาย เพื่อใหผูอื่นเขาใจไดอยาง ถูกตอง และรวดเร็ว จากการ ถูกตอง แตตองใชเวลา โดย
ถูกตอง และรวดเร็วดวย ชี้แนะของครูหรือผูอื่น ตองอาศัยคําชี้แนะจากครู
ตนเอง หรือผูอื่น
C5 ความ การทํางานรวมกับ สามารถทํางานรวมกับผูอื่น สามารถทํางานรวมกับผูอื่น สามารถทํางานรวมกับผูอื่น
รวมมือ ผูอื่น และการแสดง และการแสดงความคิดเห็น และการแสดงความคิดเห็น และการแสดงความคิดเห็นใน
ความคิดเห็นในการ ในการสังเกตและอภิปราย ในการสังเกตและอภิปราย การสังเกตและอภิปราย
สังเกตและอภิปราย เกี่ยวกับสวนประกอบของ เกี่ยวกับสวนประกอบของดิน เกี่ยวกับสวนประกอบของดิน
เกี่ยวกับ ดิน รวมทั้งยอมรับความ รวมทั้งยอมรับความคิดเห็น ไดในบางชวงของการทํา
สวนประกอบของ คิดเห็นของผูอื่น ตั้งแต ของผูอื่น บางชวงเวลาที่ทํา กิจกรรม แตไมคอยสนใจ
ดิน รวมทั้งยอมรับ เริ่มตนจนสําเร็จ กิจกรรม ความคิดเห็นของผูอื่น
ความคิดเห็นของ
ผูอื่น
166 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 167
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
แนวการจัดการเรียนรู
1. ครูทบทวนความรูพื้นฐานที่ไดเรียนผานมาในกิจกรรมที่ 1.1 เกี่ยวกับ
สวนประกอบของดิน โดยใชคําถามดังตอไปนี้ ใ น ก า ร ท บ ท ว น ค ว า ม รู พื้ นฐ าน
1.1 ดินมีสวนประกอบอะไรบาง (ดินประกอบดวย เศษหิน ซากพืช ครูควรใหเวลานักเรียนคิดอยางเหมาะสม
ซากสัตว น้ํา และอากาศ) รอคอยอย า งอดทน นั ก เรี ย นต อ งตอบ
1.2 นั ก วิ ท ยาศาสตร จํ า แนกดิ น ออกเป น กี่ ช นิ ด อะไรบ า ง คําถามเหลานี้ไดถูกต อง หากตอบไม ได
(นักวิทยาศาสตรจําแนกดินออกเปน 3 ชนิด ไดแก ดินเหนียว
หรือลืมครูตองใหความรูที่ถูกตองทันที
ดินรวน และดินทราย)
2. ครูตรวจสอบความรูเดิมเกี่ยวกับลักษณะและสมบัติของดิน โดยใช
แนวคําถามดังนี้
2.1 นักเรียนเขาใจคําวา สมบัติของดิน วาอยางไร (นักเรียนตอบ
ตามความเข า ใจของตนเอง เช น สมบั ติ ข องดิ น คื อ
ในการตรวจสอบความรูเดิม ครู
ลักษณะเฉพาะของดินแตละชนิด)
หากนั ก เรี ย นยั ง ไม ส ามารถตอบได ครู อ าจยกตั ว อย า งให เพียงรับฟงเหตุผลของนักเรียนและ
นักเรี ย นสั งเกตลั กษณะเฉพาะของดิ น ทรายวา มีเนื้อหยาบ เพื่อ ยังไมเฉลยคําตอบใด ๆ แตชักชวน
เชื่อมโยงไปสูคําวา “สมบัติของดิน” ใหนักเรียนไปหาคําตอบดวยตนเอง
2.2 นักเรียนคิดวาดิน มีสมบัติอะไรบ าง (นักเรียนตอบตามความ จากการทํากิจกรรม
เขาใจของตนเอง เชน การจับตัว การอุมน้ําของดิน)
2.3 ดิ น ที่ นั ก เรี ย นเคยเห็ น มี ลั ก ษณะเนื้ อ ดิ น เป น อย า งไรบ า ง
(นักเรียนตอบตามความเขาใจของตนเอง เชน เนื้อดินหยาบ
เนื้อดินละเอียด)
3. ครู เ ชื่ อ มโยงความรู เ ดิ ม ของนั ก เรี ย นเข า สู กิ จ กรรมที่ 1.1 โดยใช
คําถามดังนี้ อยากรูหรือไมวา ดินทั้ง 3 ชนิด จะมีลักษณะและสมบัติ
เหมือนและแตกตางกันอยางไรบาง เราจะเรียนรูในกิจกรรม 1.2
4. นั ก เรี ย นอ า นชื่ อ กิ จ กรรม และทํ า เป น คิ ด เป น จากนั้ น ร ว มกั น
อภิปรายเพื่อตรวจสอบความเขาใจเกี่ยวกั บจุดประสงคในการทํ า
กิจกรรม โดยใชคําถามดังนี้
4.1 กิจกรรมนี้นักเรียนจะไดเรียนรูเ กี่ยวกับเรื่องอะไร (ชนิดของดิน
ในทองถิ่นตามลักษณะเนื้อดิน สมบัติการจับตัวและการอุมน้ํา
ของดินวาใกลเคียงกับดินชนิดใด ระหวางดินเหนียว ดินรวน
หรือดินทราย)
4.2 นักเรียนจะไดเรียนรูเรื่องนี้ดวยวิธีใด (สังเกตและเปรียบเทียบ)
168 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 169
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
6.8 นักเรียนสามารถลงความเห็นวาดินในทองถิ่นเปนดินชนิดใดได
อยางไร (เปรียบเทียบลักษณะและสมบัติของดินในทองถิ่นกับ
ดิ น เหนี ย ว ดิ น ร ว น และดิ น ทราย ว า มี ลั ก ษณะและสมบั ติ
ใกลเคียงกับดินชนิดใดมากที่สุด)
7. เมื่อนักเรียนเขาใจวิธีการทํากิจกรรมในทําอยางไร ตอนที่ 1 แลว
ครูแจกวัสดุอุปกรณ และใหนักเรียนเริ่มปฏิบัติตามขั้นตอน
8. หลังจากทํากิจกรรม ตอนที่ 1 แลว ครูนําอภิปรายผลการทํากิจกรรม
โดยใชคําถามดังนี้
8.1 ลั กษณะเนื้ อดิ น ของดิ น เหนี ย ว ดิ น ร ว น ดิ น ทราย และดิ น ใน
ทองถิ่นที่สังเกตพบมีลักษณะอยางไร (คําตอบขึ้นอยูกับผลการ ถานักเรียนอาจไมสามารถตอบ
ทํากิจกรรม เชน ดินเหนียวเปนดินที่มีเม็ดเล็กละเอียดจับแลว คํ า ถามหรื อ อภิ ป รายได ต ามแนว
รูสึกนุมมือ ดินรวนเปนดินที่มีเม็ดคอนขางเล็กละเอียดจับแลว คําตอบ ครูควรใหเวลานักเรียนคิด
รูสึกนุมมือ บางครั้งสากมือเล็กนอย ดินทรายเปนดินที่มีเม็ด
อยางเหมาะสม รอคอยอยางอดทน
คอนขางหยาบจับแลวสากมือ และดินในทองถิ่น เมื่อจับแลว
แ ล ะ รั บ ฟ ง แ น ว ค ว า ม คิ ด ข อ ง
รูสึกนุมมือ)
8.2 ดินเหนียว ดินรวน ดินทราย และดินในทองถิ่นที่นักเรียนนํามา นักเรียน
สามารถปนใหเปนกอนไดหรือไม เมื่อปนแลวมีลักษณะอยางไร
(คําตอบขึ้นอยูกับผลการทํากิจกรรม เชน ดินเหนียวจะปนเปน
กอนไดแลวไมแตกออก ดินรวนจะปนเปนกอนแลวแตกออก
บางส ว น ส ว นดิ น ทรายป น เป น ก อนไม ได ส ว นดิน ในทองถิ่น
อาจจะปนเปนกอนไดหรือปนเปนกอนไมได)
8.3 ดิ น แต ล ะชนิ ด จั บ ตั ว ได เ หมื อนกั น หรื อไม เพราะเหตุใด (ดิน
แต ล ะชนิ ด จั บ ตั ว ได ไ ม เ หมื อ นกั น เมื่ อ สั ง เกตจากดิ น เหนีย ว
สามารถปนเปนกอนได โดยไมแตกออกแสดงวาดินนั้น จับ ตัว
ไดดี ดินรวนปนเปนก อนไดแตแตกออกบางสว นแสดงว า ดิน
จั บ ตั ว กั น ได บ างส ว น ดิ น ทรายป น เป น ก อนไมไดแสดงวาดิน
จับตัวไดไมดี สวนดินในทองถิ่นอาจมีสมบัติการจับตัวตรงกั บ
ดินเหนียว ดินรวน หรือดินทราย ชนิดใดชนิดหนึ่ง)
9. ครู เป ดโอกาสให นั กเรี ย นตอบหรื อซั กถามในสิ่ งที่ อยากรู เ พิ่ ม เติ ม
เกี่ยวกับลักษณะเนื้อดินและสมบัติการจับตัวของดิน จากนั้นรวมกัน
อภิปรายและลงข อสรุ ปวา ดินในทองถิ่นอาจมีลั กษณะเนื้ อดิ นและ
สมบัติการจับตัวของดินคลายกับดินเหนียว ดินรวน หรือดินทรายก็ได
170 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
ขึ้นอยูกับลักษณะเนื้อดินและการจับตัวของดินในทองถิ่นวาคลายกับ
ดินชนิดใด (S13)
10. นักเรี ย นตอบคํ า ถาม ฉั น รู อ ะไร ตอนที่ 1 และร ว มกั น อภิ ป ราย
เพื่อใหไดแนวคําตอบที่ถูกตอง
11. ครูทบทวนความรูพื้นฐานที่เรียนผานมาแลวในกิจกรรมที่ 1.2 ตอนที่
1 เกี่ยวกับลักษณะเนื้อดินและสมบัติการจับตัวของดิน โดยใชคําถาม
ดังนี้
11.1 ดินเหนียว ดินรวน และดินทรายมีลักษณะเนื้อดินเหมือนหรือ ในการทบทวนความรูพื้นฐาน คุณครู
แตกตางกัน อยางไร (ดินทั้ง 3 ชนิดมีลักษณะเนื้อดินแตกตาง ควรใหเวลานักเรียนคิดอยางเหมาะสม
กัน โดยดินเหนียวเปนดินที่มีเม็ดเล็กละเอียดจับแลวรูสึกนุมมือ รอคอยอย า งอดทน นั ก เรี ย นต อ งตอบ
ดินรวนเปนดินที่มีเม็ดคอนขางเล็กละเอียดจับแลวรูสึกนุมมื อ
คําถามเหลานี้ไดถูกตอง หากตอบไม ได
บางครั้งสากมือเล็กนอย ดินทรายเปนดินที่มีเม็ดคอนขางหยาบ
หรือลืมครูตองใหความรูที่ถูกตองทันที
จั บ แล ว สากมื อ และดิ น ในท อ งถิ่ น ที่ ก ลุ ม ของนั ก เรี ย นนํ า มา
ขึ้นอยูกับผลการทํากิจกรรม เชน เมื่อจับแลวรูสึกนุมมือ)
11.2 ดินเหนียว ดินรวน และดินทรายมีสมบัติการจับตัวเหมือนหรือ
แตกตางกัน อยางไร (ดินทั้ง 3 ชนิดมีสมบัติการจับตัวแตกตาง
กัน โดยดินเหนียวจะปนเปนกอนไดแลวไมแตกออก ดินรวนจะ
ปนเปนกอนแลวแตกออกบางสวน สวนดินทรายปนเปนกอน
ไม ได ส ว นดิ น ในท องถิ่ นอาจจะป น เป นก อนไดหรือไมไดก็ได
ขึ้นอยูกับผลการทํากิจกรรม)
12. ครูเชื่อมโยงความรูเดิมของนักเรียนเขาสูกิจกรรมที่ 1.2 ตอนที่ 2
โดยใชคําถามวาเรารูมาแลววาดินในทองถิ่นมีลักษณะเนื้อดินและ
สมบัติการจับตัวคลายกับดินชนิดใด นักเรียนคิดวาดินในทองถิ่นจะมี
สมบัติการอุมน้ําคลายกับดินชนิดใด
13. นักเรียนบันทึกจุดประสงคลงในแบบบันทึกกิจกรรม หนา 71 จากนั้น
ครูนําชุดทดลองการอุมน้ําของดิน มาใหนักเรียนสังเกต 1 ชุด พรอมที่
ครูอธิ บายว าชุ ดทดลองการอุ มน้ํ าของดิ นประกอบด วย 2 ส วน คื อ ความรูเพิ่มเติมสําหรับครู
1) ขวดพลาสติกใสสวนบน มีลักษณะคลายกรวย
2) ขวดพลาสติกใสสวนลาง เปนภาชนะรองรับน้ํา
บริ เ วณขวดพลาสติ ก ใสส ว นล า ง
มี ก ารเจาะรู บ ริ เ วณส ว นบน เพื่ อ ช ว ยใน
การระบายอากาศและใหน้ําไหลได
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 171
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
172 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 173
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
174 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 175
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
แนวคําตอบในแบบบันทึกกิจกรรม
สังเกตและเปรียบเทียบลักษณะของเนื้อดินและการจับตัวของดินเหนียว
ดินรวน ดินทราย และดินในทองถิ่น
ระบุชนิดดินในทองถิ่น โดยใชลักษณะเนื้อดิน และสมบัติการจับตัวเปนเกณฑ
176 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
นักเรียนตอบตามสิ่งที่สังเกต
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 177
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
นักเรียนตอบตามสิ่งที่สังเกตได
นักเรียนตอบตาม
ผลการทํากิจกรรม เชน ดินในทองถิ่นมีลักษณะและสมบัติคลายดินเหนียว
178 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
นักเรียนตอบตามความเขาใจ
ของตนเอง เชน
ดินรวน ดินทราย
ดินเหนียว ดินรวน
ดินทราย ดินเหนียว
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 179
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
ดินเหนียว
ดินรวน และดินทราย ตามลําดับ
ดินเหนียว
ดินรวน
ดินทราย
นักเรียนตอบตามผลการทํากิจกรรม
มีลักษณะเนื้อดิน สมบัติการจับตัวและการอุมน้ําใกลเคียงกับดินเหนียว เชน ดินเหนียว
180 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
ลักษณะเนื้อดินของดินแตละชนิดมีผลตอสมบัติการจับตัวของดิน
โดยดินที่มีเนื้อละเอียดจะจับตัวกันไดดีกวาดินที่มีเนื้อหยาบ
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 181
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
182 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
ดินแตละชนิดมีการอุมน้ํา รูไดจากปริมาณน้ําที่ไหลผานดินออกมานอยกวา
ปริมาณน้ํากอนเทลงดิน โดยน้ําที่หายไปจะเขาไปแทรกอยูในเนื้อดินโดยดิน
อุมน้ําไว
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 183
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
184 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
คําถามที่นักเรียนตั้งตามความอยากรูของตนเอง
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 185
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
แนวการประเมินการเรียนรู
การประเมินการเรียนรูของนักเรียนทําได ดังนี้
1. ประเมินความรูเดิมจากการอภิปรายในชั้นเรียน
2. ประเมินการเรียนรูจากคําตอบของนักเรียนระหวางการจัดการเรียนรูและจากแบบบันทึกกิจกรรม
3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรและทักษะแหงศตวรรษที่ 21 จากการทํากิจกรรมของนักเรียน
186 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
ตาราง แสดงการวิเคราะหทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรตามระดับความสามารถของนักเรียน
โดยอาจใชเกณฑการประเมิน ดังนี้
ทักษะกระบวนการ ระดับความสามารถ
รายการประเมิน
ทางวิทยาศาสตร ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรุง (1)
S1 การสังเกต การบรรยาย สามารถใชประสาทสัมผัส สามารถใชประสาทสัมผัส สามารถใชประสาท
รายละเอียดเกี่ยวกับ เก็บรายละเอียดเกี่ยวกับ เก็บรายละเอียดเกี่ยวกับ สัมผัสเก็บรายละเอียด
ลักษณะเนื้อดิน สมบัติ ลักษณะเนื้อดิน สมบัติการ ลักษณะเนื้อดิน สมบัติ เกี่ยวกับลักษณะเนื้อดิน
การจับตัวและการอุมน้ํา จับตัวและการอุมน้ําของ การจับตัวและการอุมน้ํา สมบัติการจับตัวและการ
ของดิน ดินไดดวยตนเอง โดยไม ของดินได จากการชี้แนะ อุมน้ําของดินไดเพียง
เพิ่มความคิดเห็น ของครูหรือผูอื่น โดยไม บางสวน แมวาจะมีการ
เพิ่มความคิดเห็น ชี้แนะของครูหรือผูอื่น
โดยไมเพิ่มความคิดเห็น
S4 การจําแนกประเภท การจําแนกชนิดของ สามารถจําแนกชนิดของ สามารถจําแนกชนิดของ สามารถจําแนกชนิดของ
ดินในทองถิ่น จากการ ดินในทองถิ่น จากการ ดินในทองถิ่น จากการ ดินในทองถิ่น จากการ
เปรียบเทียบกับ เปรียบเทียบกับลักษณะ เปรียบเทียบกับลักษณะ เปรียบเทียบกับลักษณะ
ลักษณะเนื้อดิน เนื้อดิน สมบัติการจับตัว เนื้อดิน สมบัติการจับตัว เนื้อดิน สมบัติการจับตัว
สมบัติการจับตัวและ และการอุมน้ําของ และการอุมน้ําของ และการอุมน้ําของ
การอุมน้ําของ ดินเหนียว ดินรวน และ ดินเหนียว ดินรวน และ ดินเหนียว ดินรวน และ
ดินเหนียว ดินรวน ดินทรายเปนเกณฑ ได ดินทรายเปนเกณฑ ได ดินทรายเปนเกณฑ ได
และดินทรายเปน ดวยตนเอง จากการชี้แนะของครูหรือ เพียงบางสวน แมวาจะ
เกณฑ ผูอื่น ไดรับคําชี้แนะจากครู
หรือผูอื่น
S8 การลงความเห็น การลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก
จากขอมูล ขอมูลวาดินในทองถิ่น ขอมูลไดวาดินในทองถิ่น ขอมูลไดวาดินในทองถิ่น ขอมูลไดวาดินในทองถิ่น
ควรเปนดินชนิดใด ควรเปนดินชนิดใด โดยใช ควรเปนดินชนิดใด โดยใช ควรเปนดินชนิดใด แต
โดยใชเหตุผลและ เหตุผลและขอมูลที่ไดจาก ขอมูลที่ไดจากการ ไมไดใชขอมูลและไม
ขอมูลที่ไดจากการ การรวบรวมขอมูลดวย รวบรวมโดยวิธีการตาง ๆ สามารถบอกเหตุผลได
รวบรวม วิธีการตาง ๆ ไดดวย และบอกเหตุผลได จาก แมวาจะไดรับคําชี้แนะ
ตนเอง การชี้แนะของครูหรือผูอื่น จากครูหรือผูอื่น
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 187
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
ทักษะกระบวนการ ระดับความสามารถ
รายการประเมิน
ทางวิทยาศาสตร ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรุง (1)
S13 การตีความหมาย การตีความหมาย สามารถตีความหมาย สามารถตีความหมาย สามารถตีความหมาย
ขอมูลและลงขอสรุป ขอมูลจากการสังเกต ขอมูลจากการสังเกต และ ขอมูลจากการสังเกต และ ขอมูลจากการสังเกต
และนําขอมูลที่ไดมา นําขอมูลที่ไดมากําหนด นําขอมูลที่ไดมากําหนด และนําขอมูลที่ไดมา
กําหนดเกณฑ ในการ เกณฑ และจําแนกชนิด เกณฑ และจําแนกชนิด กําหนดเกณฑ และ
จําแนกชนิดของดิน ของดินตามเกณฑที่ ของดินตามเกณฑที่ จําแนกชนิดของดินตาม
และลงขอสรุปไดวา กําหนดได และลงขอสรุป กําหนดได และลงขอสรุป เกณฑที่กําหนดได
ดินในทองถิ่นเปนดิน ไดถูกตองดวยตนเองวาดิน ไดถูกตอง จากการชี้แนะ บางสวน และลงขอสรุป
ชนิดใดตองพิจารณา ในทองถิ่นเปนดินชนิดใด ของครูหรือผูอื่นวาดินใน ไดอยางไมสมบูรณวาดิน
ความเหมือนหรือ ตองพิจารณาความเหมือน ทองถิ่นเปนดินชนิดใดตอง ในทองถิ่นเปนดินชนิดใด
ความแตกตางของ หรือความแตกตางของ พิจารณาความเหมือนหรือ ตองพิจารณาความ
ลักษณะเนื้อดิน ลักษณะเนื้อดิน สมบัติการ ความแตกตางของ เหมือนหรือความ
สมบัติการจับตัวและ จับตัวและการอุมน้ําของ ลักษณะเนื้อดิน สมบัติ แตกตางของลักษณะ
การอุมน้ําของดินใน ดินในทองถิ่นกับดินเหนียว การจับตัวและการอุมน้ํา เนื้อดิน สมบัติการจับตัว
ทองถิ่นกับดินเหนียว ดินรวน และดินทราย ของดินในทองถิ่นกับ และการอุมน้ําของดินใน
ดินรวน และดินทราย ดินเหนียว ดินรวน และ ทองถิ่นกับดินเหนียว
ดินทราย ดินรวน และดินทราย
แมวาจะไดรับคําชี้แนะ
จากครูหรือผูอื่น
188 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 189
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
เรื่องที่ 2 ประโยชนของดิน
ในเรื่ อ งนี้ นั ก เรี ย นจะได เ รี ย นรู เ กี่ ย วกั บ การใช
ประโยชนจากดินในทองถิ่นและการใชประโยชนจากดิน
โดยทั่วไป
จุดประสงคการเรียนรู
รวบรวมขอมูลและนําเสนอประโยชนของดิน
เวลา 3 ชั่วโมง
วัสดุ อุปกรณสําหรับทํากิจกรรม
-
สื่อการเรียนรูและแหลงเรียนรู
1. หนังสือเรียน ป.2 เลม 2 หนา 55-60
2. แบบบันทึกกิจกรรม ป.2 เลม 2 หนา 78-82
3. วีดิทัศน เรื่อง ประโยชนของดิน
https://www.youtube.com/watch?v=JOjokPd7NYA
190 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 191
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
ยอหนาที่ 1
4.1 มนุษยถ้ําคือใคร (คือคนที่อาศัยอยูในถ้ํา)
ความรูเพิ่มเติมสําหรับครู
4.2 ในยุคกอนประวัติศาสตรมนุษยถ้ํานําดินมาใชประโยชนอยางไร
ภาพเขีย นสีห รืองานศิล ปจิตรกรรม
บาง (ปนหมอไหอยางหยาบ ๆ เพื่อใชเปนภาชนะ)
นั้ น ในสมั ย ก อ นชาวบ า นได นํ า ดิ น ใน
หากนักเรียนไมรูจั กคําว าภาชนะ ครูอาจอธิบายความหมาย
ทองถิ่นที่มีสีตาง ๆ หรือก็คือนําแรไปผสม
ของภาชนะเพิ่มเติมวาเปนอุปกรณที่ใชบรรจุหรือใสสิ่งตาง ๆ ลงไป
กับ ยางไม เพื่อเกิดเปน สีตาง ๆ มาสราง
เชน หมอ ชาม จาน
ผลงานศิลปะ
ยอหนาที่ 2
4.3 มนุษยถ้ํานําดินมาใชประโยชนในงานศิลปะอะไร (ใชดินสีตาง ๆ
เขียนภาพบนที่ผนังถ้ํา)
4.4 มนุษยถ้ํานําดินมาสรางงานศิลปะไดอยางไร (ทําไดโดยนําดิน
สีตาง ๆ ผสมกับยางไม ไขสัตวหรือน้ําผึ้ง แลวนําไปขีดเขียน ถ า นั ก เรี ย นไม ส ามารถตอบ
หรือพนบนผนังถ้ํา) คํ า ถามหรื อ อภิ ป รายได ต ามแนว
4.5 ภาพเขียนผนังถ้ําที่นําดินมาเปนสีในการสรางพบที่ใดบาง (เขาปลา คําตอบ ครูควรใหเวลานักเรียนคิด
รา จังหวัดอุทัยธานี และถ้ําอัลตามิรา ประเทศสเปน) อยางเหมาะสม รอคอยอยางอดทน
แ ล ะ รั บ ฟ ง แ น ว ค ว า ม คิ ด ข อ ง
ขั้นสรุปจากการอาน (15 นาที)
นักเรียน
5. ครูใหนักเรียนรวมกันสรุปเรื่องที่อานซึ่งควรสรุปไดวา ดินมีประโยชน
มากมายและมนุ ษ ย ไ ด มี ก ารนํ า ดิ น มาใช ป ระโยชน ตั้ ง แต ยุ ค ก อ น
ประวัติศาสตรจนถึงปจจุบัน การเตรียมตัวลวงหนาสําหรับครู
6. นักเรียนตอบคําถามในรูหรือยัง ในแบบบันทึกกิจกรรม หนา 78 เพื่อจัดการเรียนรูในครัง้ ถัดไป
7. ครูและนักเรียนรวมกันอภิปรายเพื่อเปรียบเทียบคําตอบของนักเรียน
ในครั้ ง ถั ด ไป นั ก เรี ย นจะได ทํ า
ในรูหรือยัง กับคําตอบที่เคยตอบและบันทึกไวในคิดกอนอาน
กิจกรรมที่ 2 ดินมีประโยชนอยางไร
8. ครูใหนักเรียนอานคําถามในยอหนาสุดทายของเรื่องที่อาน และให
นักเรียนรวมกันอภิปรายเพื่อตอบคําถาม ดังนี้ ในกิ จ กรรมนี้ นั ก เรี ย นจะได เ รี ย นรู
- ในปจจุบันมีการนําดินมาใชประโยชนอะไรอีกบาง เกี่ย วกับ การใชป ระโยชนจ ากดิน และมี
ครู ไ ม เ ฉลยคํ า ตอบ แต ชั ก ชวนให นั ก เรี ย นหาคํ า ตอบจากการทํ า การสืบคนขอมูลการใชประโยชนของดิน
กิจกรรม ในท อ งถิ่ น ครู ค วรบอกให นั ก เรี ย นไป
สืบคนขอมูลจากแหลงตาง ๆ มากอน เชน
สื บ ค น จ า ก อิ น เ ท อ ร เ น็ ต ส อ บ ถ า ม
ผูปกครอง หรือสังเกตดวยตนเอง
192 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
แนวคําตอบในแบบบันทึกกิจกรรม
มนุษยถ้ํานําดินมาสรางหมอไหเพื่อเปนภาชนะ และนําดินมาทําสี
เพื่อผลิตงานศิลปะ เชน ภาพเขียนบนผนังถ้ํา
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 193
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
กิจกรรมที่ 2 ดินมีประโยชนอยางไร
กิจกรรมนี้นักเรียนจะไดรวบรวมขอมูลการใชประโยชน
จากดินในทองถิ่นของตนเอง และสืบคนขอมูลประโยชนของ
ดิน เพื่อบรรยายและนําเสนอประโยชนของดิน
เวลา 2 ชั่วโมง
จุดประสงคการเรียนรู
รวบรวมขอมูลและนําเสนอประโยชนของดิน
วัสดุ อุปกรณสําหรับทํากิจกรรม
-
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร
S8 การลงความเห็นจากขอมูล
S13 การตีความหมายขอมูลและลงขอสรุป สื่อการเรียนรูและแหลงเรียนรู
1. หนังสือเรียน ป.2 เลม 2 หนา 56-59
ทักษะแหงศตวรรษที่ 21 2. แบบบันทึกกิจกรรม ป.2 เลม 2 หนา 79-82
C4 การสื่อสาร
C5 ความรวมมือ
194 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
แนวการจัดการเรียนรู
1. ครูทบทวนความรูพื้นฐานในเรื่องที่ 1 และเรื่องที่ 2 โดยใชคําถามดังนี้
1.1 ดินจําแนกออกเปนกี่ชนิด อะไรบาง (นักเรียนตอบตามความเขาใจ
ของตนเอง เช น ดิ น จํ า แนกออกเป น 3 ชนิ ด ได แ ก ดิ น เหนี ย ว
ดินรวน และดินทราย) ในการทบทวนความรูพื้นฐาน
1.2 ดิ น แต ล ะชนิ ด มี ส มบั ติ ใ ดแตกต า งกั น บ า ง (ลั ก ษณะเนื้ อ ดิ น ครู ควรใหเวลานักเรีย นคิดอยาง
การจับตัว และการอุมน้ํา) เหมาะสม รอคอยอย า งอดทน
1.3 ดิ น แต ล ะชนิ ด นํ า ไปใช ป ระโยชน ไ ด เ หมื อ นหรื อ แตกต า งกั น นักเรีย นตองตอบคําถามเหลา นี้
เพราะเหตุใด (ดินแตละชนิดจะนําไปใชประโยชนไดแตกต างกัน
ไดถูกตอง หากตอบไมไดหรือลืม
เพราะมีลักษณะและสมบัติไมเหมือนกัน)
2. ครู เ ชื่ อ มโยงความรู พื้ น ฐานของนั ก เรี ย นเข า สูกิ จ กรรมที่ 2 โดยใช ครูตองใหความรูที่ถูกตองทันที
คําถามดังนี้ นอกจากการใชประโยชนจากดินที่เรารูมาแลว นักเรียน
คิดวาดินยังมีประโยชนอยางไรอีกบาง เราจะเรียนรูในกิจกรรมที่ 2
3. นักเรียนอานชื่อกิจกรรม และ ทําเปนคิดเปน จากนั้นรวมกันอภิปราย
เพื่อตรวจสอบความเขาใจเกี่ยวกับจุดประสงคในการทํากิจกรรม โดย
ใชคําถามดังนี้
3.1 กิจ กรรมนี้นัก เรีย นจะไดเ รีย นรูเ กี่ย วกับ เรื่อ งอะไร (ประโยชน
ของดิน)
3.2 นักเรียนจะไดเรียนรูเรื่องนี้ดวยวิธีใด (การรวบรวมขอมูล)
3.3 เมื่อเรียนรูแลวนักเรียนสามารถทําอะไรได (นําเสนอประโยชนของ
ดิน)
4. นักเรียนบันทึกจุดประสงคลงในแบบบันทึกกิจกรรม หนา 79
5. นั ก เรี ย นอ า นทํ า อย า งไร โดยฝ ก อ า นตามความเหมาะสม จากนั้ น
รวมกันอภิปรายเพื่อสรุปขั้นตอนการทํากิจกรรม โดยใชคําถามดังนี้
ทําอยางไร ขอที่ 1-2
5.1. นั กเรี ย นสื บ ค น ข อมู ล เกี่ย วกั บ เรื่ องอะไร (ประโยชนของดิน ใน
ทองถิ่นของตนเอง)
5.2. นักเรียนสืบคนขอมูลโดยวิธีการใดบาง (นักเรียนตอบตามความ
เปนจริง เชน สอบถามผูปกครอง อินเทอรเน็ต)
5.3. นักเรียนตองนําขอมูลที่แตละคนสืบคนมาไปทําอะไร (นําขอมูลที่
ไดมารวมกัน เพื่ออภิปรายและสรุปการใชประโยชนของดิ น ใน
ทองถิ่น บันทึกผล)
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 195
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
ทําอยางไร ขอที่ 3
5.4. ใบความรูที่นักเรียนจะอานเกี่ยวกับเรื่องอะไร (ประโยชนของดิน)
5.5. เมื่ อ อ า นใบความรู เ สร็ จ แล ว นั ก เรี ย นต อ งทํ า อะไร (อภิ ป ราย ขอเสนอแนะเพิ่มเติม
เกี่ยวกับประโยชนของดิน)
5.6. หลังจากอานและอภิปรายแลวตองทําอะไรตอไป (เขียนแผนผัง ถานักเรียนไมรูจักแผนผังความคิด ครู
ความคิดเกี่ยวกับประโยชนของดิน) อาจแนะนําหรือแสดงตัวอยางการเขียน
5.7. เมื่อแผนผังความคิดของนักเรียนสมบูรณแลวตองทําอะไรตอไป
แผนผังความคิดใหกับนักเรียนกอน
(นําเสนอแผนผังความคิด)
6. เมื่อนักเรียนเขาใจวิธีการทํากิจกรรมในทําอยางไรแลว ครูใหนักเรียน
เริ่มปฏิบัติตามขั้นตอน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรและ
7. หลั งจากทํ า กิ จ กรรมแล ว ครู นํ า อภิ ป รายผลการทํากิจ กรรม โดยใช ทักษะแหงศตวรรษที่ 21 ที่นักเรียนจะได
คําถามดังนี้ ฝกจากการทํากิจกรรม
7.1 จากการสื บ ค น ข อ มู ล ในท อ งถิ่ น ของกลุ ม ตนเอง นํ า ดิ น มาใช
ประโยชนอะไรบาง (นักเรียนตอบตามขอมูลที่สืบคนได) S8, C4 อภิปรายและลงความเห็น
7.2 จากใบความรู ดินทั้ง 3 ชนิดนําไปใชประโยชนเหมือนหรือแตกตาง เกี่ยวกับการใชประโยชนของ
กันไดอยางไร (ดินเหนียว ใชปลูกขาว ทําเครื่องปนดินเผา ดินรวน ดินในทองถิ่น
ใช ป ลู ก พื ช ทั่ ว ๆ ไป และดิ น ทราย ใช ป ลู ก มั น สํ า ปะหลั ง การ C5 เขียนแผนผังความคิดและนําเสนอ
กอสราง)
7.3 จากใบความรู นอกจากประโยชนของดินทั้ง 3 ชนิดที่กลาวมาแลว
ดินยังมีประโยชนอะไรอีกบาง (เปนแหลงที่อยูอาศัยของสิ่งมีชีวิต
เปนแหลงวัตถุดิบในการผลิตสี เปนที่ยึดเกาะของรากพืช เปนแหลง
ธาตุอาหารและน้ําของพืช เปนแหลงอาหารของสัตว)
7.4 จากขอมูลที่รวบรวมไดทั้งหมด ดินมีประโยชนอะไรบาง (นักเรียน
ตอบตามขอมูลที่รวบรวมได เชน ดินเปนที่ยึดเกาะของรากพืช และ
กั ก เก็ บ น้ํ า ให พื ช เป น แหล ง ที่ อ ยู อ าศั ย ของพื ช สั ต ว เป น แหล ง
กักเก็บน้ํา ความรอน เปนแหลงวัสดุสําหรับกอสรางและงานศิลปะ)
8. ครู เ ป ด โอกาสให นั ก เรี ย นซั ก ถามในสิ่ ง ที่ อ ยากรู เ พิ่ ม เติ ม เกี่ ย วกั บ
ประโยชน ของดิ น จากนั้ น ร ว มกั น อภิ ป รายและลงข อสรุป ว า ดิน มี
ประโยชนมากมาย เชน ใชในการเพาะปลูก การกอสราง แหลงกักเก็บ
อาหาร
9. นักเรียนตอบคําถาม ฉันรูอะไร และรวมกันอภิปรายเพื่อใหไดแนว
คําตอบที่ถูกตอง
196 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 197
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
แนวคําตอบในแบบบันทึกกิจกรรม
รวบรวมขอมูลและนําเสนอประโยชนของดิน
นักเรียนวาดรูปหรือเขียนบรรยายการใชประโยชนจากดิน
198 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
นักเรียนเขียนแผนผังความคิดเรื่องประโยชนของดิน
แหลงที่อยู
แหลงอาหารของสัตว
ที่ยึดเกาะของรากพืช
แหลงวัตถุดิบในการผลิตสี
แหลงวัตถุดิบในการกอสราง
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 199
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
ดินทุกชนิดมีประโยชนมาก ซึ่งการใชประโยชนจากดินตองพิจารณาถึง
ลักษณะและสมบัติของดินแตละชนิดใหเหมาะสมกับการใชงาน
200 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
คําถามที่นักเรียนตั้งตามความอยากรูของตนเอง
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 201
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
แนวการประเมินการเรียนรู
การประเมินการเรียนรูของนักเรียนทําได ดังนี้
1. ประเมินความรูเดิมจากการอภิปรายในชั้นเรียน
2. ประเมินการเรียนรูจากคําตอบของนักเรียนระหวางการจัดการเรียนรูและจากแบบบันทึกกิจกรรม
3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรและทักษะแหงศตวรรษที่ 21 จากการทํากิจกรรมของนักเรียน
การประเมินจากการทํากิจกรรมที่ 2 ดินมีประโยชนอยางไร
ระดับคะแนน
3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง
202 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
ตาราง แสดงการวิเคราะหทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรตามระดับความสามารถของนักเรียน
โดยอาจใชเกณฑการประเมิน ดังนี้
ทักษะกระบวนการ ระดับความสามารถ
รายการประเมิน
ทางวิทยาศาสตร ดี (3) พอใช (2) ควรปรับปรุง (1)
S8 การลงความเห็น การลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็น
จากขอมูล ขอมูลวาในทองถิ่นมีการ ขอมูลวาในทองถิ่นมีการ ขอมูลวาในทองถิ่นมีการ จากขอมูลวาในทองถิ่น
นําดินมาใชประโยชน นําดินมาใชประโยชน นําดินมาใชประโยชน มีการนําดินมาใช
อยางไรบาง และดิน อยางไรบาง และดิน อยางไรบาง และดิน ประโยชนอยางไรบาง
สามารถนํามาใช สามารถนํามาใช สามารถนํามาใช และดินสามารถ
ประโยชนอะไรไดอีกบาง ประโยชนอะไรไดอีกบาง ประโยชนอะไรไดอีกบาง นํามาใชประโยชนอะไร
โดยใชเหตุผลและขอมูล โดยใชเหตุผลและขอมูลที่ โดยใชเหตุผลและขอมูลที่ ไดอีกบาง โดยใช
ที่ไดจากการรวบรวม ไดจากการรวบรวมได ไดจากการรวบรวมได เหตุผลและขอมูลที่ได
ดวยตนเอง จากการชี้แนะของครูหรือ จากการรวบรวมได
ผูอื่น เพียงบางสวน แมวาจะ
ไดรับคําชี้แนะจากครู
หรือผูอื่น
S13 การตีความหมาย การตีความหมายขอมูลที่ สามารถตีความหมาย สามารถตีความหมาย สามารถตีความหมาย
ขอมูลและลงขอสรุป ไดจากการรวบรวมโดย ขอมูลที่ไดจากการ ขอมูลที่ไดจากการ ขอมูลที่ไดจากการ
วิธีตาง ๆ และอภิปราย รวบรวมโดยวิธีตาง ๆ และ รวบรวมโดยวิธีตาง ๆ รวบรวมโดยวิธีตาง ๆ
เปรียบเทียบกับผูอื่น อภิปรายเปรียบเทียบกับ และอภิปรายเปรียบเทียบ และอภิปราย
และนํามาลงขอสรุปและ ผูอื่น และนํามาลง กับผูอื่น และนํามา เปรียบเทียบกับผูอื่น
บอกเหตุผลไดวาการ ขอสรุปและบอกเหตุผล ลงขอสรุปและบอกเหตุผล และนํามาลงขอสรุปแต
เลือกดินไปใชประโยชน ไดวาการเลือกดินไปใช ไดวาการเลือกดินไปใช ไมสามารถบอกเหตุผล
ตองพิจารณาจากสิ่งใด ประโยชนตองพิจารณา ประโยชนตองพิจารณา ไดวาการเลือกดินไปใช
จากสิ่งใดไดดวยตนเอง จากสิ่งใดไดจากการ ประโยชนตองพิจารณา
ชี้แนะของครูหรือผูอื่น จากสิ่งใด แมวาจะได
รับคําชี้แนะจากครูหรือ
ผูอื่น
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 203
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
204 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 205
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
6.2 เราสามารถนําดินชนิดใดก็ไดมาปนและสรางเปนบานดินใชหรือไม
อยางไร (นักเรียนตอบตามความคิดของตนเอง แตควรตอบไดวา
ในการเลือกดินมาปนหรือสรางเปนบานดินควรเปนดินที่จับตัวกัน
ไดดี เนื้อละเอียดอยางดินเหนียว)
7. นั ก เรี ย นร ว มกั น ตอบคํ า ถามสํ า คั ญ ประจํ า หน ว ยอี ก ครั้ ง ดั ง นี้
“การใชประโยชนจากดินตองพิจารณาสิ่งใดบาง” ถาคําตอบยังไม
ถูกตอง ใหนักเรียนรวมกันอภิปรายเพื่อใหไดคําตอบที่ถูกตอง
206 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
สรุปผลการเรียนรูของตนเอง
ครูกระตุนในนักเรียนนําความรูที่ไดเรียนรูมาทั้งบท
สรุปเปนขอความหรือรูปตามความเขาใจของนักเรียน
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 207
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
แนวคําตอบในแบบฝกหัดทายบท
208 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | หนวยที่ 4 ดินรอบตัวเรา
นักเรียนออกแบบและสรางผลงานการนําดินมาใชประโยชน
ใหเหมาะสมกับชนิดของดิน
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 209
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | แบบทดสอบทายเลม
แนวคําตอบในแบบทดสอบทายเลม
210 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | แบบทดสอบทายเลม
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 211
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | แบบทดสอบทายเลม
212 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | แบบทดสอบทายเลม
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 213
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | แบบทดสอบทายเลม
214 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | แบบทดสอบทายเลม
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 215
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | บรรณานุกรม
บรรณานุกรม
กรมวิชาการ. (2546). แนวการจัดกิจกรรมพัฒนาผูเรียน. กรุงเทพฯ: คุรุสภาลาดพราว
กระทรวงศึกษาธิการ. (2546). พระราชบัญญัติการศึกษาแหงชาติ พ.ศ. 2542 และที่แกไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.
2545. กรุงเทพฯ : องคการรับสงสินคาและพัสดุภัณฑ.
กองยา สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา. (2016). พระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 และฉบับแกไขเพิ่มเติม. สืบคน
30 มิถุนายน 2564 จาก https://www.fda.moph.go.th/sites/drug/SitePages/AD-Rule01.aspx
สถาบั น ส ง เสริ ม การสอนวิ ท ยาศาสตร แ ละเทคโนโลยี , กระทรวงศึ ก ษาธิ ก าร.(2561). ตั ว ชี้ วั ด และสาระ
การเรียนรูแกนกลาง กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตร (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพชุมชนสหกรณการเกษตรแหงประเทศไทย จํากัด.
สํานักงานราชบัณฑิตยสภา. (2557). ทักษะแหงศตวรรษที่ 21. สืบคน 30 เมษายน 2560, จาก http://www.royin.go.th
สํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตรและเทคโนโลยีแหงชาติ. (2558). การรูดิจิทัล (Digital literacy). สืบคน 30 เมษายน
2561, จาก https://www.nstda.or.th/th/nstda-knowledge/142-knowledges/2632
Allen M. (2014). Misconcept in primary science: New York: McGraw-Hill Education.
Balzak, D., Chafiqi, F., & Kendil, D. (2009). Students misconceptions about light in Algeria. Retrived
August 12, 2018 from https://spie.org/ETOP/2009/etop2009_4.7.35.pdf
Barman, C., Stein, R. M., McNair, S., & Barman, N.S. (2006). Students’ ideas about plants and plant
growth: The American Biology Teacher, 68(2), 73–79.
BSCS, 2006. Investigating life cycles. BSCS science tracks: Connecting science & literacy (2nd ed.). Colorado,
USA.
Chew, C., Foong, C.S., & Tiong, H. B. (2013). Physics matters GCE O’ level (4th ed.). Marshall Cavendish
Education.
Darko, E., Heydarizadeh, P., Schoefs, B., & Sabzalian, M. R. (2014). Photosynthesis under artificial light:
the shift in primary and secondary metabolism. Philosophical Transactions of the Royal
Society B: Biological Sciences. 369.
Fries-Gaither, J. (2009). Common misconceptions about biomes and ecosystems. สื บคน 7 มกราคม 2560,
จ า ก http: / / beyondpenguins. ehe. osu. edu/ issue/ tundra- life- in- the- polar- extremes/ common-
misconceptions-about-biomes-and-ecosystems
Ho, P. L., Yusoff, A. R., & Nanda, A. (2004). i-Science textbook 6. Singapore: SNP Panpac.
216 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | บรรณานุกรม
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 217
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | คณะทํางาน
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
ชั้นประถมศึกษาปที่ ๒ เลม ๒
คณะที่ปรึกษา
ศาสตราจารย ดร.ชูกิจ ลิมปจํานงค ผูอํานวยการสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและ
เทคโนโลยี
ดร.กุศลิน มุสิกุล ผูชวยผูอํานวยการสถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตร
และเทคโนโลยี
คณะผูจัดทําคูมือครู
ดร.กุศลิน มุสิกุล สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
นางชุติมา เตมียสถิต สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
นางกิ่งแกว คูอมรพัฒนะ สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
นางสาวดวงกมล เหมะรัต สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
นางสาววราภรณ ถิรสิริ สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
นางสาวลัดดาวัลย แสงสําลี สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
ดร.เทพกัญญา พรหมขัติแกว สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
ดร.ณัฐธิดา พรหมยอด สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
ดร.เบ็ญจวรรณ หาญพิพัฒน สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
ดร.ศานิกานต เสนีวงศ สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
ดร.พจนา ดอกตาลยงค สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
นางสาวสุณิสา สมสมัย สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
ดร.วันชัย นอยวงค สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
ดร.เสาวลักษณ บัวอิน สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
นางสาวรตพร หลิน สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
นางสาวภคมน เนตรไสว สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
นางสาวลักษมี เปรมชัยพร สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
นางสาวจีรนันท เพชรแกว สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
นางสาวกมลลักษณ ถนัดกิจ สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
ดร.วิลานี สุชวี บริพนธ สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
นางสาวเพียงรวี ทองนุน สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
218 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | คณะทํางาน
คณะผูพิจารณาคูมือครู
นางรอยพิมพ กาพยไชย โรงเรียนอนุบาลเชียงใหม
นางลําดวน สายเมืองนาย โรงเรียนอนุบาลเมืองเชียงราย
นางนงนุช แทนกอง โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต สีลม
นางอัญชลี ทัตตะรุจิ โรงเรียนดาราคาม
นางรัตนา อาจชมภู โรงเรียนอนุบาลมหาสารคาม
นายกฤษณุชา วิวัฒนกันตัง โรงเรียนพรศิรกิ ุล
นางอารีรัตน มังดินดํา โรงเรียนบานหนองเขิน
นายสราวุธ พัฒนมาศ โรงเรียนเทศบาล2 "อิสาณธีรวิทยาคาร"
ดร.ลําใย สายโงน สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต2
นายวิเชียร จันทร สํานักงานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต2
คณะทํางานฝายเสริมวิชาการ
ฝายนวัตกรรมเพื่อการเรียนรู สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
นางสาวภัทราพร ชื่นรุง สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
คณะบรรณาธิการ
ผูชวยศาสตราจารยรัชดา สุตรา ขาราชการบํานาญ
นางณัฐสรวง ทิพานุกะ ขาราชการบํานาญ
หมอมหลวงพิณทอง ทองแถม ขาราชการบํานาญ
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี 219
คูมือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ป.2 เลม 2 | คณะทํางาน
สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี (สสวท.)
The Institute for the Promotion of Teaching Science and
Technology (IPST) www.ipst.ac.th
220 สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี
สถาบั
สถาบันนส�ส�งงเสริ
เสริมมการสอนวิ
การสอนวิททยาศาสตร�
ยาศาสตร�แและเทคโนโลยี
ละเทคโนโลยี
กระทรวงศึ
กระทรวงศึกกษาธิ ษาธิกการาร