You are on page 1of 104

แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเตรียมสอบ O-NET

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓

คาชี้แจง ให้ระบายคาตอบที่ถูกต้องลงในวงกลมตัวเลือกให้เต็มวง (ห้ามระบายนอกวง)

ส่วนที่ ๑ : แบบปรนัย ๔ ตัวเลือก แตํละข๎อมีคําตอบที่ถูกต๎องที่สุดเพียงคําตอบเดียว จํานวน ๔๐ ข๎อ (ข๎อ ๑-๔๐)


ข๎อละ ๑ คะแนน รวม ๔๐ คะแนน

๑. ข๎อใดหมายถึงนิทานสุภาษิตทั้งหมด
๑ ไกรทอง พระอภัยมณี
๒ ไกรทอง เด็กเลี้ยงแกะ
๓ พระอภัยมณี กระตํายตื่นตูม
๔ เด็กเลี้ยงแกะ กระตํายตื่นตูม
๒. “วิ่งกรูกันไป” คําวํา กรู ความหมายตามพจนานุกรมหมายถึงข๎อใด
๑ อาการลมพัดแรงเร็ว
๒ อาการที่ต๎องไปพร๎อมกัน
๓ อาการที่ไปพร๎อม ๆ กันโดยเร็ว
๔ อาการที่เดินอยํางเร็วไปพร๎อม ๆ กัน
อํานบางตอนของเรื่อง หมาป่ากับลูกแกะ แล๎วตอบคําถาม ข๎อ ๓-๗
หมาป่ า ดํ า ลู ก แกะวํ า “เอ็ ง นี้ ช าติ ชั่ ว เอ็ ง ถื อ ดี อ ยํ า งไร จึ ง มากวนน้ํ า กิ น ของข๎ า ให๎ ขุํ น เป็ น ตมไปดั ง นี้ ”
ลูก แกะตกใจ ร๎ องตอบไปโดยไมํ เชื่ อวํ า “ทํานจะวํ า ข๎ าพเจ๎า กวนน้ําของทํ านให๎ขุํ นอยํ างไรถู ก เพราะน้ํ าในลําธารนี้
ไหลจากทํานมายังข๎าพเจ๎า หาได๎ไหลจากข๎าพเจ๎าไปยังทํานไมํ” หมาป่าก็แกล๎งหาความตํอไปวํา “เอาเถิด ถึงเอ็งจะไมํได๎
ทํ า น้ํ า ขุํ น วั น นี้ เมื่ อ ปี ก ลายนี้ เอ็ ง ก็ ไ ด๎ ดํ า วํ า ข๎ า เป็ น นั ก หนา” ลู ก แกะตั ว สั่ น ร๎ อ งตํ อ ไปวํ า “พุ ท โธํ เ อ๐ ย เมื่ อ ปี ก ลายนี้
ข๎ าพเจ๎าก็ ยั งไมํ ได๎ เกิ ดมาเห็นเดื อนเห็ นตะวั นเลย” หมาป่ าตอบไปวํ า “เอาเถอะนํะ ถึ งเอ็ งไมํได๎ ดํ าข๎า พํ อของเอ็ งก็ ดํ าข๎ า
เอ็งมีความผิดเหมือนกัน จะมาตํอล๎อตํอเถียงกันไปทําไม” วําแล๎วก็ตะครุบลูกแกะกินเป็นอาหาร
๓. เรื่องหมาป่ากับลูกแกะ เป็นนิทานประเภทใด
๑ นิทานอีสป
๒ นิทานชาดก
๓ นิทานพื้นบ๎าน
๔ นิทานสุภาษิต
๔. นิทานเรื่องนี้ให๎ข๎อคิดใดเป็นสําคัญที่สุด
๑ ให๎คบคนพาล
๒ ให๎หลีกไกลคนพาล
๓ ให๎พูดคุยดี ๆ กับคนพาล
๔ ให๎ระวังเมื่ออยูํใกล๎คนพาล

๕. “ข๎าพเจ๎าก็ยังไมํได๎เกิดมาเห็นเดือนเห็นตะวันเลย” คําในข๎อใดมีความหมายเกี่ยวกันกับคําวํา เดือน และ ตะวัน


๑ แถง ดวงจันทร๑
๒ ดวงจันทร๑ ทินกร
๓ ดวงอาทิตย๑ ทินกร
๔ ดวงตะวัน ดวงอาทิตย๑
๖. คําในข๎อใดสะกดด๎วยมาตรา กด ทุกคํา
๑ ผิด เกิด เถิด ชาติ
๒ ขุํน ธาร ทําน เดือน
๓ ธาร เกิด ชาติ เหมือน
๔ เถียง เดือน เถิด กลาย
๗. เรื่อง หมาป่ากับลูกแกะ ที่นํามาข๎างต๎นมีคําควบกล้ํา ร, ล และ ว กี่คํา
๑ คําควบกล้ํา ร = ๑ ล = ๑ ว = ๑
๒ คําควบกล้ํา ร = ๒ ล = ๑ ว = ๑
๓ คําควบกล้ํา ร = ๒ ล = ๒ ว = ๑
๔ คําควบกล้ํา ร = ๒ ล = ๓ ว = ๒
๘. ข๎อใดมีเสียงพยัญนะของตัวสะกดตํางจากข๎ออื่น
๑ สิว
๒ ไกว
๓ ขําว
๔ เกลียว
๙. คําประพันธ๑ตํอไปนี้มีคําที่สะกดด๎วยมาตรา ก กา กี่คํา
“หมาใหญํก็ไลํเหํา หมูในเล๎าแลดูหมา
ปูแสมแลปูนา กะปูม๎าปูทะเล”
๑ ๑๙ คํา
๒ ๒๐ คํา
๓ ๒๑ คํา
๔ ๒๒ คํา
อํานบทประพันธ๑ตํอไปนี้ แล๎วตอบคําถามข๎อ ๑๐-๑๕
“นกเอ๐ยนกกระจาบ เห็นใบพงลงคาบคํอยเพียรขน
มาสอดสอยด๎วยจะงอยปากของตน ราวกับคนชํางพินิจคิดทํารัง
ชํางละเอียดเสียดสลับออกซับซ๎อน อยูํพักร๎อนนอนรํมได๎สมหวัง
แม๎นทําการหมั่นพินิจคิดระวัง ให๎ได๎ดังนกกระจาบไมํหยาบเอย”
๑๐. บทประพันธ๑ข๎างต๎นให๎ข๎อคิดในเรื่องใดเป็นสําคัญ
๑ ให๎รู๎จักวิธีการทํางาน
๒ ให๎คิดสร๎างวิถีการทํางาน
๓ ให๎รู๎จักสั่งสมประสบการณ๑
๔ ให๎คิดไตรํตรองในการทํางาน
๑๑. บทประพันธ๑ข๎างต๎นแตํงด๎วยคําประพันธ๑ชนิดใด
๑ สักวา
๒ กลอนแปด
๓ กลอนดอกสร๎อย
๔ กาพย๑สุรางคนางค๑
๑๒. สาระสําคัญของบทประพันธ๑นี้คือข๎อใด
๑ การสร๎างรังของนกกระจาบ
๒ วิธีการสร๎างรังของนกทั่ว ๆ ไป
๓ แนวทางที่เป็นแบบอยํางในการสร๎างรัง
๔ วิถีชีวิตของบรรดานกกระจาบทั้งหลาย
๑๓. ข๎อใดใช๎การเปรียบเทียบ
๑ เห็นใบพงลงคาบคํอยเพียรขน
๒ แม๎นทําการหมั่นพินิจคิดระวัง
๓ ราวกับคนชํางพินิจคิดทํารัง
๔ อยูํพักร๎อนนอนรํมได๎สมหวัง
๑๔. “มาสอดสอยด๎วยจะงอยปากของตน” จะงอย หมายถึงข๎อใด
๑ ปากแหลมยาว
๒ มีลักษณะปากยื่นออกไป
๓ ปากโค๎งคล๎ายกับปากเป็ด
๔ ปลายที่มีลักษณะโค๎งหรืองุ๎มลง
๑๕. “ชํางละเอียดเสียดสลับออกซับซ๎อน” ข๎อใดคือสัมผัสสระทุกคูํ
๑ เสียด กับ ส(ลับ) ซับ กับ ซ๎อน
๒ (ละ)เอียด กับ เสียด ซับ กับ ซ๎อน
๓ (ส)ลับ กับ ซับ(ซ๎อน) เสียด กับ ส(ลับ)
๔ (ละ)เอียด กับ เสียด (ส)ลับ กับ ซับ(ซ๎อน)
๑๖. ข๎อใดคือคําที่มีอักษรนําออกเสียงพยางค๑เดียวทุกคํา
๑ อยําง อยาก จรัส
๒ หรูหรา หนักหนา อยาก
๓ เถลไถล หนักหนา อรําม
๔ หวาดหวั่น เหยียดหยาม ตลาด
๑๗. ข๎อใดอํานสะกดคําวํา “หลบหลีก” ถูกต๎อง
๑ หอ-ลอ-บอ หฺลบ หอ-ลอ-อี-กอ หฺลีก
๒ หอ-ลอ-โอะ-บอ หฺลบ หอ-ลอ-อี-กอ หฺลีก
๓ หอ-ลอ-โอะ-บอ หฺลบ หอ-ลอ-กอ-อี หฺลีก
๔ หอ-ลอ-เอะ-บอ หฺลบ หอ-ลอ-อี-กอ หฺลีก
๑๘. “พํอสบายใจแล๎วที่เห็นลูกทั้งสองทําตัวได๎เหมาะสมตามบทอาขยานและรู๎จักใช๎เวลาวํางให๎เป็นประโยชน๑
ด๎วยการศึกษาหาความรู๎อยูํเสมอ ได๎เวลาอาหารแล๎วเราไปกินก๐วยเตี๋ยวราดหน๎าฝีมือแมํกันเถอะ” ข๎อความข๎างต๎น
มีคําที่ประวิสรรชนีย๑ และไมํประวิสรรชนีย๑กี่คํา
๑ ประวิสรรชนีย๑ ๑ คํา ไมํประวิสรรชนีย๑ ๓ คํา
๒ ประวิสรรชนีย๑ ๑ คํา ไมํประวิสรรชนีย๑ ๔ คํา
๓ ประวิสรรชนีย๑ ๒ คํา ไมํประวิสรรชนีย๑ ๓ คํา
๔ ประวิสรรชนีย๑ ๓ คํา ไมํประวิสรรชนีย๑ ๑ คํา

๑๙. “กินก๐วยเตี๋ยวราดหน๎า” ข๎อใดไม่ใช่ความหมายของคําวํา กิน


๑ อํา
๒ ดื่ม
๓ หม่ํา
๔ เคี้ยว
๒๐. “ฝ้ายนําเพลงกลํอมเด็กไปร๎องให๎ครูและเพื่อน ๆ ฟัง ทุกคนฟังอยํางตั้งใจ เมื่อเพลงจบ เสียงปรบมือดังก๎อง
ครูพิมพากลําวชมเสียงฝ้ายดีมาก” เพลงกล่อมเด็ก หมายถึงเพลงในข๎อใด
๑ มดแดง
๒ เด็กน๎อย
๓ นกกระจาบ
๔ นกกาเหวํา
๒๑. จากเรื่องในข๎อ ๒๐ มีคําควบกล้ํา ล, ร กี่คํา
๑ ควบกล้ํา ล = ๓ คํา ร = ๒ คํา
๒ ควบกล้ํา ล = ๒ คํา ร = ๑ คํา
๓ ควบกล้ํา ล = ๑ คํา ร = ๓ คํา
๔ ควบกล้ํา ล = ๔ คํา ร = ๔ คํา
๒๒. ข๎อใดคือคําขึ้นต๎นและคําลงท๎ายของเพลงพวงมาลัย
๑ ขึ้นต๎น เอ๐ย ลงท๎าย เอย
๒ ขึ้นต๎น สักวา ลงท๎าย เอย
๓ ขึ้นต๎น เอ๎อระเหย ลงท๎าย เอย
๔ ขึ้นต๎น เอ๎อระวาเหย ลงท๎าย เอย
๒๓. ความหมายปัจจุบันของสํานวน “ศรศิลป์ไมํกินกัน” คือข๎อใด
๑ ไมํรักกัน
๒ ไมํลงรอยกัน
๓ ทําอะไรกันไมํได๎
๔ ไมํควรทําร๎ายกัน
๒๔. ข๎อใดที่เขียน “บรร” ผิด
๑ บรรษัท
๒ บรรทึก
๓ บรรหาร
๔ บรรยงค๑
๒๕. ประโยคใดใช๎การันต๑ไม่ถูกต๎อง
๑ ครูยืนสังเกตการณ๑
๒ เขาเกิดในตระกูลพราหมณ๑
๓ สุปัญญาฝึกเชาว๑นภาษาไทย
๔ นักเรียนบอกประโยชน๑ของการเรียนภาษาไทย
๒๖. ข๎อใดอํานสะกดคําที่มีการันต๑ได๎ถูกต๎อง
๑ ยักษ๑ สะกดวํา ยอ-อัก-กอ-ษอ-การันต๑
๒ ชอล๑ก สะกดวํา ชอ-อะ-ลอ-การันต๑-กอ
๓ ศุกร๑ สะกดวํา ฝอ-อุก-กอ-รอ-การันต๑
๔ สวัสดิ์ สะกดวํา สอ-วอ-อะ-สอ-ดอ-อิ-การันต๑

๒๗. ข๎อใดไม่ได้หมายถึง “เมือง”


๑ ธารี
๒ พารา
๓ นคเรศ
๔ ธานินทร๑
๒๘. ข๎อใดเขียนถูกในความหมายวํา “ประกอบด๎วย”
๑ กปอร
๒ กปรอ
๓ กอปร
๔ กรอป
๒๙. คําวํา “พรหม” พยัญชนะตัวใดไม่ออกเสียง
๑ พ
๒ ร
๓ ห
๔ ม

๓๐. ข๎อใดคือคําที่มีสระไมํออกเสียงทุกคํา
๑ มิ่งมิตร สมบัติ อนุมัติ
๒ สาเหตุ รสชาติ ภาคภูมิ
๓ บพิตร กิจวัตร ภัยพิบัติ
๔ บุตรธิดา ใบสมัคร อัตโนมัติ
๓๑. “ฤๅษีผู๎ทรงฤทธิ์ นิมิตให๎ฝนแล๎งในฤดูฝน ให๎ดาวฤกษ๑ไมํสํองแสง” ข๎อใดอํานคําที่ขีดเส๎นใต๎ได๎ถูกต๎องทุกคํา
๑ รึ ริด รือ เรก
๒ ริ รึด รึ เริก
๓ รือ รึด รือ เรก
๔ รือ ริด รึ เริก
๓๒. ข๎อใดเขียนผิด
๑ กุณฑล
๒ มณฑา
๓ บัณฑิต
๔ ปฑักขิณ
๓๓. “ฑ” ในข๎อใดไม่ออกเสียง ด
๑ บัณฑร
๒ มณฑป
๓ บัณฑิต
๔ บัณเฑาะว๑
๓๔. “เพื่อนฝูงแหํแหนกันมาเต็มบ๎าน” คํา แหน อํานสะกดคําอยํางไร
๑ แห-นอ
๒ แอ-หอนอ
๓ หอนอ-แอ
๔ หอ-แอ-นอ
๓๕. “ข๎าวฟ่างเขียนปริศนาคําทายลงบนกระดาษ” ข๎อความนี้คําในข๎อใดคือคํานามชี้เฉพาะ
๑ ปริศนา
๒ คําทาย
๓ ข๎าวฟ่าง
๔ กระดาษ
๓๖. “ขุนแผนขี่ม๎าสีหมอก” ประโยคนี้ข๎อใดทําหน๎าที่เป็นคํากริยาของประโยค
๑ ขี่
๒ ม๎า
๓ ขุนแผน
๔ สีหมอก
๓๗. ข๎อใดเรียงคําตามรูปสระได๎ถูกต๎อง
๑ มหึมา มหิดล มหาชน มหัศจรรย๑
๒ มหัศจรรย๑ มหาชน มหิดล มหึมา
๓ มหิดล มหาชน มหึมา มหัศจรรย๑
๔ มหัศจรรย๑ มหิดล มหึมา มหาชน
๓๘. ข๎อใดเป็นประโยคขอร๎อง
๑ นั่นคือนกอะไร
๒ ห๎ามเดินลัดสนาม
๓ จงชํวยกันรักษาความสะอาด
๔ กรุณาอํานฉลากยากํอนรับประทาน
๓๙. คําคล๎องจองและคําขวัญ มีลักษณะที่เหมือนกันในเรื่องใด
๑ คําที่ใช๎
๒ เสียงสระ
๓ เสียงสัมผัส
๔ ความหมาย

๔๐. ข๎อใดไม่ใช่คําขวัญที่ดี
๑ หัวใจคือความรัก มีศักดิ์และมีศรี
๒ พลังงานมีน๎อยนิด รู๎จักคิดกํอนจะใช๎
๓ อํานหนังสือวันละนิด ชีวิตจะก๎าวหน๎า
๔ ประเพณีมีคํา รํวมรักษาเอกลักษณ๑ไทย
ส่วนที่ ๒ : แบบปรนัย ๒ ตัวเลือก จํานวน ๑๐ ข๎อ (ข๎อ ๔๑-๕๐) ข๎อละ ๑ คะแนน รวม ๑๐ คะแนน
เลือกคําคล๎องจองให๎สัมพันธ๑กับคําที่กําหนด จากนั้นนําพยัญชนะต๎นตัวแรกของคําคล๎องจองที่เลือกไปเขียนใน
ให๎ถูกต๎องทุกชํองจะได๎คําที่มีความหมาย

คําที่กําหนด สัมพันธ๑คล๎องจองกับ
๔๑. หิวไหม สัมพันธ๑คล๎องจองกับ ๑ ไขํตุ๐น ๒ ข๎าวผัด
๔๒. ปังปอน สัมพันธ๑คล๎องจองกับ ๑ ซุกซน ๒ อํอนโยน
๔๓. ถ๎วยชาม สัมพันธ๑คล๎องจองกับ ๑ ลวดลาย ๒ งามตา
๔๔. น้ําอบ สัมพันธ๑คล๎องจองกับ ๑ ขบขัน ๒ หอมฟุ้ง
๔๕. สุขสันต๑ สัมพันธ๑คล๎องจองกับ ๑ โชคดี ๒ วันเกิด
๔๖. ภาพวาด สัมพันธ๑คล๎องจองกับ ๑ ญาติมิตร ๒ สดใส
๔๗. ป่ากว๎าง สัมพันธ๑คล๎องจองกับ ๑ สร๎างสรรค๑ ๒ วันจันทร๑
๔๘. นารี สัมพันธ๑คล๎องจองกับ ๑ เรียนรู๎ ๒ สีเทียน
๔๙. พากเพียร สัมพันธ๑คล๎องจองกับ ๑ เวียนหมุน ๒ นําหนุน
๕๐. ลุกโชน สัมพันธ๑คล๎องจองกับ ๑ ผิงไฟ ๒ โยนทิ้ง

พยัญชนะต๎นตัวแรกของคําคล๎องจองเขียนใน

ั ี

ข๎อ ๔๑. ๔๒. ๔๓. ๔๔. ๔๕. ๔๖. ๔๗. ๔๘. ๔๙. ๕๐.
เฉลยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเตรียมสอบ O-NET
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓

ส่วนที่ ๑

๑. ๔ ๒. ๓ ๓. ๑ ๔. ๒ ๕. ๒
๖. ๑ ๗. ๓ ๘. ๒ ๙. ๔ ๑๐. ๔
๑๑. ๓ ๑๒. ๑ ๑๓. ๓ ๑๔. ๔ ๑๕. ๔
๑๖. ๒ ๑๗. ๒ ๑๘. ๑ ๑๙. ๑ ๒๐. ๔
๒๑. ๑ ๒๒. ๓ ๒๓. ๒ ๒๔. ๒ ๒๕. ๓
๒๖. ๔ ๒๗. ๑ ๒๘. ๓ ๒๙. ๓ ๓๐. ๒
๓๑. ๔ ๓๒. ๔ ๓๓. ๑ ๓๔. ๔ ๓๕. ๓
๓๖. ๑ ๓๗. ๒ ๓๘. ๔ ๓๙. ๓ ๔๐. ๑

ส่วนที่ ๒

๔๑. ๑ ๔๒. ๒ ๔๓. ๒ ๔๔. ๑ ๔๕. ๒

๔๖. ๑ ๔๗. ๑ ๔๘. ๒ ๔๙. ๑ ๕๐. ๒

ั ี
ข อ ง ข ว ญ ส ส ว ย

ข๎อ ๔๑. ๔๒. ๔๓. ๔๔. ๔๕. ๔๖. ๔๗. ๔๘. ๔๙. ๕๐.
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเตรียมสอบ O-NET
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

คาชี้แจง ให๎ระบายคําตอบที่ถูกต๎องลงในวงกลมตัวเลือกให๎เต็มวง (ห๎ามระบายนอกวง)

ส่วนที่ 1 : แบบปรนัย 4 ตัวเลือก แตํละข๎อมีคําตอบที่ถูกต๎องที่สุดเพียงคําตอบเดียว จํานวน 40 ข๎อ (ข๎อ 1-40)


ข๎อละ 1 คะแนน รวม 40 คะแนน

1. จํานวน 58,409 เขียนในรูปกระจายได๎ตามข๎อใด


1 5+8+4+0+9 2 50,000 + 8,000 + 409
3 50,000 + 8,000 + 400 + 9 4 50,000 + 8,000 + 400 + 90

2. ข๎อใดไม่ใช่จํานวนเดียวกัน
1 39,027 2 ๓๙,๒๐๗
3 สามหมื่นเก๎าพันสองร๎อยเจ็ด 4 3 หมื่น กับ 9 พัน กับ 2 ร๎อย กับ 7 หนํวย

3. ข๎อใดไม่ถูกต๎อง
1 28,156 + 51,000 < 26,158 + 51,000
2 90,700 – 37,000 < 90,700 – 73,000
3 18,501 + (44,256 – 20,278) = (18,501 + 44,256) – 20,278
4 7,878 + 9,999 + 23,807 > 7,878 + 9,999 + 23,087
4. ข๎อใดเป็นการเรียงลําดับจํานวนจากมากไปน๎อยได๎ถูกต๎อง
1 40,125 41,025 42,051 45,021 2 31,479 34,179 37,194 39,147
3 58,620 56,260 52,068 50,286 4 60,591 60,951 61,059 69,105

5. ข๎อใดเป็นแบบรูปของจํานวนที่เพิ่มขึ้นทีละ 3
1 9,543 9,545 9,547 9,549 9,551 2 10,101 10,104 10,107 10,110 10,113
3 15,333 15,337 15,341 15,345 15,349 4 35,003 35,033 35,333 38,333 68,333

6. ข๎อใดเป็นแบบรูปของจํานวนที่ลดลงทีละ 25
1 125 150 175 200 225 2 1,000 995 990 985 980
3 2,225 2,200 2,175 2,150 2,125 4 18,025 18,000 17,975 17,955 17,930

7. ความสัมพันธ๑ข๎อใดแตกตํางจากข๎ออื่น
1 50,050 50,000 49,950 49,900 49,850 2 22,225 22,200 22,175 22,150 22,125
3 8,000 7,996 7,992 7,988 7,984 4 1,234 1,238 1,242 1,246 1,250

8. จํานวนที่ 20 ของแบบรูป 345 370 395 420 445 … คือจํานวนในข๎อใด


1 770 2 795 3 820 4 845

9. 4 8, 5 9 +
3 2, 7 4 6
8 1, 4 0 5
ควรเติมเลขโดดใดลงใน
1 4 2 5 3 6 4 7
10. 9 ,5 8 3

4 6 ,8 0 5
4 3 ,7 7 8

ควรเติมเลขโดดใดลงใน
1 0 2 1 3 2 4 3

11. ร๎านค๎าแหํงหนึ่งบริจาคข๎าวสารชํวยผู๎ประสบภัยน้ําทํวม จํานวน 3,905 กิโลกรัม และชวนร๎านค๎าอื่นให๎รํวมบริจาค


ได๎มาอีก 50,895 กิโลกรัม มีข๎าวสารที่บริจาคทั้งหมดกี่กิโลกรัม
1 89,890 กิโลกรัม 2 54,800 กิโลกรัม
3 54,700 กิโลกรัม 4 53,795 กิโลกรัม

12. มาโนชมีเงินออม 35,790 บาท ปราณีมีเงินออมมากกวํามาโนช 2,350 บาท ปราณีมีเงินกี่บาท


1 33,440 บาท 2 12,290 บาท
3 38,040 บาท 4 38,140 บาท

13. ที่หมูํบ๎านแหํงหนึ่งมีประชากรหญิง 47,852 คน มีประชากรชายน๎อยกวําประชากรหญิง 9,088 คน หมูํบ๎านแหํงนี้


มีประชากรชายกี่คน
1 38,764 คน 2 38,774 คน
3 56,930 คน 4 56,940 คน

14. จากข๎อ 13 หมูํบ๎านแหํงนี้มีประชากรทั้งหมดกี่คน


1 56,940 คน 2 86,616 คน
3 86,626 คน 4 95,704 คน
15. ผลคูณในข๎อใดมีคําน๎อยที่สุด
1 200 x 3,000 x 0 2 8 x 1 x 90

3 1,000 x 1 x 100 4 5x7x9

16. “คุณแมํซื้อขนมปังกรอบ 9 ถุง ราคาถุงละ 35 บาท” ควรเติมข๎อความในข๎อใด เพื่อให๎เป็นโจทย๑ปัญหาที่หาคําตอบ


ด๎วยการคูณ
1 คุณแมํมีขนมปังกรอบกี่ถุง 2 คุณแมํมีเงินกี่บาท
3 คุณแมํต๎องจํายเงินเทําไร 4 คุณแมํจะต๎องจํายด๎วยธนบัตรชนิดใด จึงจะได๎เงินทอน

17. การหารในข๎อใดที่เป็นการหารไมํลงตัว
1 840 7 2 976 8 3 8,040 6 4 5,587 9

18. ผลหารในข๎อใดมีคํามากที่สุด
1 1,284 6 2 1,284 7 3 1,284 8 4 1,284 9

19. (350 5) + (12 x 7) มีคําเทํากับข๎อใด

1 70 2 84 3 154 4 176

20. มณีซื้อผ๎าพับหนึ่งยาว 30 เมตร 50 เซนติเมตร นําไปทําผ๎ามํานยาว 11 เมตร 55 เซนติเมตร เหลือผ๎ายาวเทําไร


1 7 เมตร 55 เซนติเมตร 2 19 เมตร 45 เซนติเมตร
3 18 เมตร 95 เซนติเมตร 4 30 เมตร 50 เซนติเมตร
21. ข๎อความในข๎อใดไม่ถูกต๎อง
1 พํอซื้อทุเรียน 1 ลูก หนัก 2,000 กรัม 2 แมํซื้อปลาชํอน 1 ตัว หนัก 9 ขีด
3 ส๎ม 8 ลูก หนัก 1 กิโลกรัม 4 เสื้อ 1 ตัว หนัก 1,500 ขีด

22. แท็งก๑น้ําใบหนึ่งมีความจุ 2,500 ลิตร มีน้ําเต็มแท็งก๑ ใช๎น้ําไป 1,230 ลิตร 800 มิลลิลิตร
เหลือน้ําในแท็งก๑เทําไร
1 1,230 ลิตร 800 มิลลิลิตร 2 1,269 ลิตร 200 มิลลิลิตร
3 1,270 ลิตร 200 มิลลิลิตร 4 1,270 ลิตร 800 มิลลิลิตร

23. น้ําส๎มคั้น 1 ขวดมีปริมาตร 220 ลูกบาศก๑เซนติเมตร ถ๎าต๎องการน้ําส๎มคั้น 1 ลิตร ต๎องซื้อน้ําส๎มคั้นกี่ขวด


1 4 ขวด 2 5 ขวด 3 10 ขวด 4 100 ขวด

24. มณีมีธนบัตรใบละหนึ่งพันบาท 1 ใบ ธนบัตรใบละห๎าร๎อยบาท 1 ใบ ธนบัตรใบละหนึ่งร๎อยบาท 5 ใบ


ธนบัตรใบละห๎าสิบบาท 40 ใบ เงินเหรียญสิบบาท 15 เหรียญ เงินเหรียญห๎าบาท 30 เหรียญ มณีมีเงิน
ทั้งหมดกี่บาท
1 4,300 บาท 2 4,500 บาท 3 3,300 บาท 4 3,500 บาท
25. แก๎วซื้อของเป็นเงิน 170 บาท แก๎วต๎องให๎เงินตามข๎อใดจึงจะพอดีกับราคาของที่ซื้อ
1 ธนบัตรใบละหนึ่งร๎อยบาท 1 ใบ ธนบัตรใบละยี่สิบบาท 3 ใบ
2 ธนบัตรใบละหนึ่งร๎อยบาท 1 ใบ ธนบัตรใบละห๎าสิบบาท 1 ใบ เหรียญสิบบาท 3 เหรียญ
3 ธนบัตรใบละห๎าสิบบาท 3 ใบ ธนบัตรใบละยี่สิบบาท 2 ใบ
4 ธนบัตรใบละยี่สิบบาท 8 ใบ เหรียญสิบบาท 1 เหรียญ
26. ไขํไกํราคาฟองละ 4 บาท มีธนบัตรใบละหนึ่งพันบาท 1 ใบ จะซื้อไขํไกํได๎กี่ฟอง
1 40 ฟอง 2 100 ฟอง
3 150 ฟอง 4 250 ฟอง

27. บันทึกรายรับ รายจํายของเด็กชายวัชระ มีดังนี้


คุณแมํให๎เงิน 100 บาท
ซื้อขนม 25 บาท
ซื้อพวงมาลัย 15 บาท
ให๎น๎อง 12 บาท
เด็กชายวัชระเหลือเงินกี่บาท
1 36 บาท 2 40 บาท 3 48 บาท 4 52 บาท

28. กนกเริ่มทําการบ๎านเวลา 18.50 น. เขาทําการบ๎านเสร็จเมื่อเข็มยาวชี้ที่ตัวเลข 11 และเข็มสั้นชี้ระหวําง


ตัวเลข 7 กับตัวเลข 8 กนกทําการบ๎านเสร็จเวลาใด
1 20.05 น. 2 19.55 น. 3 19.50 น. 4 19.45 น.

29. จากข๎อ 28 กนกใช๎เวลาทําการบ๎านกี่นาที


1 50 นาที 2 55 นาที 3 60 นาที 4 65 นาที

30. ประชาออกจากบ๎านเวลา 6.35 น. เครื่องบินออกจากสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 10.25 น. ถึงสนามบิน


เชียงใหมํเวลา 11.35 น. ประชาใช๎เวลาเดินทางจากบ๎านถึงสนามบินเชียงใหมํนานเทําไร
1 1 ชั่วโมง 5 นาที 2 1 ชั่วโมง 10 นาที 3 5 ชั่วโมง 4 6 ชั่วโมง
31. จากบันทึกกิจกรรมที่ระบุเวลาของเด็กหญิงบงกชตํอไปนี้ ข๎อใดไม่ถูกต๎อง
วันเสาร๑ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2555
7.00 น. ออกจากบ๎าน
9.30 น. ถึงบ๎านป้าแก๎ว
11.30 น. ถึงร๎านอาหาร
15.25 น. ออกจากร๎านอาหาร
16.00 น. ถึงห๎างสรรพสินค๎า
18.45 น. ออกจากห๎างสรรพสินค๎า
19.45 น. กลับถึงบ๎าน
1 เด็กหญิงบงกชออกจากบ๎านเวลาเจ็ดโมงเช๎า
2 เด็กหญิงบงกชใช๎เวลาที่ร๎านอาหารนาน 3 ชั่วโมง 55 นาที
3 เด็กหญิงบงกชใช๎เวลาที่ห๎างสรรพสินค๎ามากกวําที่ร๎านอาหาร
4 เด็กหญิงบงกชใช๎เวลาตั้งแตํออกจากบ๎านจนกลับถึงบ๎านเป็นเวลา 12 ชั่วโมง 45 นาที
32. สิ่งของในข๎อใดมีลักษณะเป็นทรงกลม
1 กําไลข๎อมือ 2 ลูกเบสบอล 3 ชอล๑ก 4 ซองจดหมาย

33. สิ่งของในข๎อใดไม่มีมุม
1 กลํองนม 2 แผํนซีดี
3 ตู๎เย็น 4 โต๏ะนักเรียน
34. รูปในข๎อใดมีแกนสมมาตรมากกวํา 1 แกน
1 2

3 4

35. ข๎อความในข๎อใดไม่ถูกต๎อง
__
1 กข เป็นสัญลักษณ๑แทนสํวนของเส๎นตรง กข
2 กขค มี ก ข และ ค เป็นมุมยอดของรูปสามเหลี่ยม
3 รังสีสามารถตํอสํวนปลายออกไปโดยไมํจํากัดความยาว
4 รูปวงกลมเป็นรูปที่ไมํมีแกนสมมาตร

36. รูปที่หายไปของแบบรูปเรขาคณิตตํอไปนี้คือรูปในข๎อใด

1 2
3 4

37. รูปที่ 20 ของแบบรูปที่กําหนดให๎คือรูปในข๎อใด

1 2
3 4
38. แผนภูมิรูปภาพแสดงการขายหนังสือของร๎านค๎าแหํงหนึ่ง กําหนดให๎รูปหนังสือ 1 รูป แทนหนังสือที่ขายได๎
จํานวน 10 เลํม รูปหนังสือการ๑ตูน 5 รูป รูปหนังสือนิทาน 3 รูป ร๎านค๎าแหํงนี้ขายหนังสือการ๑ตูนกับหนังสือนิทาน
รวมกันกี่เลํม
1 8 เลํม 2 30 เลํม 3 50 เลํม 4 80 เลํม

ใช๎แผนภูมิแทํงตํอไปนี้ตอบคําถามข๎อ 39-40

วิชาที่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนแหํงหนึ่งชอบเรียนที่สุด

39. โรงเรียนแหํงนี้มีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ทั้งหมดกี่คน


1 30 คน 2 95 คน 3 105 คน 4 115 คน
40. ข๎อใดเป็นการเรียงลําดับวิชาที่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ชอบจากน๎อยที่สุดไปมากที่สุด
1 พลศึกษา สังคมศึกษา วิทยาศาสตร๑ คณิตศาสตร๑ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ
2 ภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร๑ คณิตศาสตร๑ ภาษาไทย สังคมศึกษา พลศึกษา
3 ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย คณิตศาสตร๑ วิทยาศาสตร๑ สังคมศึกษา พลศึกษา
4 ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร๑ ภาษาไทย วิทยาศาสตร๑ พลศึกษา สังคมศึกษา
ส่วนที่ 2 : ระบายตัวเลือก จํานวน 5 ข๎อ (ข๎อ 41-45) ข๎อละ 2 คะแนน รวม 10 คะแนน
ให๎ระบายตัวเลือกคําตอบที่ถูกต๎อง 1 คําตอบ จากตัวเลือกที่กําหนดให๎
1 86,769 2 15,813 3 295
4 259 5 44,983 6 11,583
7 9 8 43,984 9 12
41. ผลบวกของห๎าหมื่นสิบเอ็ดกับสองพันเจ็ด มีคํามากกวํา ผลคูณของหนึ่งพันห๎ากับเจ็ดอยูํเทําไร
42. แมํซื้อไกํ 2 ตัว ราคาตัวละ 65 บาท ซื้อกุ๎ง 5 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 115 บาท แมํให๎ธนบัตรใบละหนึ่งพันบาท
1 ใบ แมํจะได๎รับเงินทอนกี่บาท
43. แมํค๎านําดอกกุหลาบ 75 ดอก มามัดเป็นชํอ ชํอละ 3 ดอก ถ๎าแมํค๎าต๎องการขายให๎ได๎เงิน 225 บาท แมํค๎าต๎องขาย
ดอกกุหลาบชํอละกี่บาท
จากข๎อมูลที่กําหนดให๎ตอบคําถาม ข๎อ 44-45
ร๎านขายหนังสือแหํงหนึ่ง ตั้งเป้าการขายหนังสือประเภทตําง ๆ ตลอดปี ดังนี้

รายการหนังสือ จานวน (เล่ม)


การ๑ตูน 22,150
นวนิยาย 19,231
หนังสือแปล 10,567
ธรรมะ 20,995
นิตยสาร 13,826

44. หนังสือที่ร๎านขายหนังสือตั้งเป้าการขายมากที่สุด มีจํานวนมากกวําหนังสือที่ตั้งเป้าการขายไว๎น๎อยที่สุดอยูํกี่เลํม


45. ร๎านขายหนังสือตั้งเป้าการขายหนังสือไว๎ทั้งหมดกี่เลํม
เฉลยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเตรียมสอบ O-NET
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ส่วนที่ 1

1. 3 2. 1 3. 2 4. 3 5. 2
6. 3 7. 4 8. 3 9. 3 10. 1
11. 2 12. 4 13. 1 14. 2 15. 1
16. 3 17. 4 18. 1 19. 3 20. 3
21. 4 22. 2 23. 2 24. 1 25. 4
26. 4 27. 3 28. 2 29. 4 30. 3
31. 3 32. 2 33. 2 34. 1 35. 4
36. 1 37. 4 38. 4 39. 4 40. 2

ส่วนที่ 2

41. 5 42. 3 43. 7 44. 6 45. 1


แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเตรียมสอบ O-NET
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

คาชี้แจง ให้ระบายคาตอบที่ถูกต้องลงในวงกลมตัวเลือกให้เต็มวง (ห้ามระบายนอกวง)

ส่วนที่ 1 : แบบปรนัย 4 ตัวเลือก แตํละข๎อมีคําตอบที่ถูกต๎องที่สุดเพียงคําตอบเดียว จํานวน 40 ข๎อ (ข๎อ 1-40)


ข๎อละ 1 คะแนน รวม 40 คะแนน

1. ข๎อใดเป็นสิ่งมีชีวิต

A. เคลื่อนไหวได๎ด๎วยตนเอง B. หายใจได๎ C. ขับถํายไมํได๎


D. เจริญเติบโตทุกวัน E. สืบพันธุ๑และมีลกู ไมํได๎

1 ABC
2 ABD
3 CDE
4 BCD
2. สํวนประกอบของทานตะวันในข๎อใดที่เรานํามาใช๎รับประทานได๎
1 ใบ
2 ผล
3 ราก
4 เมล็ด
3. เมื่อตัดใบของต๎นมะมํวงออกจนหมด เพราะเหตุใดต๎นมะมํวงถึงตาย
1 ต๎นมะมํวงไมํสามารถยึดกับดินได๎
2 ต๎นมะมํวงไมํสามารถดูดซึมน้ําและแรํธาตุได๎
3 ต๎นมะมํวงไมํสามารถสร๎างอาหารและหายใจได๎
4 อากาศร๎อนเกินไป เมื่อไมํมีใบปกคลุมต๎นมะมํวงจึงแห๎งตาย
4. ข๎อใดเป็นสัตว๑กินพืชทั้งหมด
1 เสือ วัว นก
2 ช๎าง ม๎า ควาย
3 สิงโต เสือ เหยี่ยว
4 วัว กระตําย จระเข๎
5. สัตว๑ในข๎อใดมีกระดองไว๎หํอหุ๎มรํางกายและป้องกันอันตรายจากศัตรู
1 ปลา กบ งู
2 ปู เตํา หอย
3 กุ๎ง อึ่งอําง ปลา
4 กบ ลูกอ๏อด ผีเสื้อ

6. พฤติกรรมในข๎อใดเป็นการใช๎อวัยวะไม่ถูกต้องกับหน๎าที่
1 ดูดาวบนท๎องฟ้าในเวลากลางคืนโดยใช๎ตา
2 ฟังเพลงชาติไทยจากวิทยุโดยใช๎หู
3 สูดอากาศหายใจเข๎าปอดโดยใช๎ปาก
4 เตะฟุตบอลในสนามโดยใช๎เท๎า
7. ข๎อใดเป็นวิธีการดูแลรักษาความสะอาดอวัยวะตําง ๆ ของรํางกายได๎ถูกต๎อง
1 ตะโกนเสียงดังใสํหูเพื่อน
2 สั่งน้ํามูกเบา ๆ ขณะป่วยเป็นหวัด
3 ขยี้ตาโดยใช๎มือเมื่อมีฝุ่นละอองเข๎าตา
4 แปรงฟันกํอนรับประทานอาหารวันละสามครั้ง
8. นักเรียนปลูกต๎นถั่วเขียว 2 ต๎น ต๎นที่ 1 ครอบถุงดําไว๎ ต๎นที่ 2 ไมํได๎ครอบถุงดํา ต๎นถั่วเขียวทั้ง 2 ต๎นได๎รับน้ํา
และอากาศเหมือนกันทุกประการ จากการทดลองนักเรียนมีวัตถุประสงค๑เพื่อต๎องการทราบสิ่งใด
1 น้ํามีผลตํอการเจริญเติบโตของต๎นถั่วเขียวหรือไมํ
2 แสงมีผลตํอการเจริญเติบโตของต๎นถั่วเขียวหรือไมํ
3 อาหารมีผลตํอการเจริญเติบโตของต๎นถั่วเขียวหรือไมํ
4 อากาศมีผลตํอการเจริญเติบโตของต๎นถั่วเขียวหรือไมํ

9. ข๎อใดเป็นวิธีการดูแลพืชที่ไม่ถูกต๎อง
1 รดน้ําเช๎าเย็นทุกวัน
2 กําจัดศัตรูพืช
3 ใสํปุ๋ยคอก
4 ตัดใบออก
10. ใครเลี้ยงสัตว๑ในที่ที่เหมาะสมที่สุด
1 ดาวเลี้ยงสุนัขไว๎ในคอกใต๎ถุนบ๎าน
2 เดํนเลี้ยงนกเขาในกรงสีทอง
3 แดงเลี้ยงปลานิลในสระ
4 ดําเลี้ยงกวางกลางทุํงนา
11. พฤติกรรมในข๎อใดเป็นการตอบสนองตํออุณหภูมิของสัตว๑
1 แมวเลียอุ๎งเท๎า
2 แมวกินอาหาร
3 ไกํขันในตอนเช๎า
4 เตําหดหัวเข๎าไปในกระดอง
12. ถ๎านักเรียนกําลังอุํนนมในหม๎อต๎ม แล๎วมือพลาดไปโดนภาชนะสํวนที่เป็นโลหะ นักเรียนจะมีพฤติกรรมการตอบสนอง
ตํอสิ่งเร๎าในข๎อใด
1 หลับตาและใช๎มือปิดหู
2 สะดุ๎งและรีบชักมือออกทันที
3 น้ําลายไหลและใช๎มือปิดปากทันที
4 สะดุ๎งและใช๎มือจับภาชนะหม๎อต๎มแนํน
13. ผีเสื้อกับดอกไม๎มีความสัมพันธ๑กันในลักษณะในข๎อใด
1 ภาวะได๎ประโยชน๑รํวมกัน
2 ภาวะอิงอาศัย
3 ภาวะพึ่งพา
4 ภาวะปรสิต

14. ข๎อใดไม่จัดเป็นแหลํงที่อยูํอาศัยของสิ่งมีชีวิต
1 ดิน
2 น้ํา
3 ป่าไม๎
4 อากาศ
15. ข๎อใดไม่ใช่แนวทางการอนุรักษ๑ทรัพยากรธรรมชาติ
1 ตรวจสอบเครื่องยนต๑ให๎อยูํในสภาพดีอยูํเสมอ
2 ทิ้งขยะมูลฝอยลงสูํแหลํงน้ํา
3 ปลูกหญ๎าแฝกเพื่อคลุมดิน
4 ปลูกพืชหมุนเวียน
16. ข๎อใดเป็นวิธีการป้องกันการสูญพันธุ๑ของสิ่งมีชีวิตที่ยั่งยืน
1 บุกรุกป่าเพื่อสร๎างที่พักตากอากาศ
2 สร๎างฟาร๑มเลี้ยงกุ๎งบริเวณป่าชายเลน
3 ตัดไม๎ในป่าสงวนเพื่อนํามาทําเครื่องเรือน
4 สร๎างจิตสํานึกในการอนุรักษ๑ให๎กับเยาวชนและคนในพื้นที่
17.
พํอมีลักษณะผิวดําคล้ํา ผมหยักศกสีดํา หนังตาชั้นเดียว และมีปานแดงที่ต๎นแขน
แมํมีลักษณะอารมณ๑ร๎อน ตัวสูง ผิวขาว ผมตรงสีน้ําตาล และหนังตาชั้นเดียว

ลักษณะในข๎อใดทีไ่ ม่สามารถถํายทอดทางพันธุกรรมได๎
1 หนังตาชั้นเดียว ผมหยักศก
2 ผมตรงสีน้ําตาล ผิวดําคล้ํา
3 อารมณ๑ร๎อน ปานแดง
4 ผิวขาว ตัวสูง
18. ข๎อใดไม่ใช่อาหารหลัก 5 หมูํ
1 นมสด ไขํไกํ
2 น้ํามันพืช เนย
3 น้ําอัดลม น้ําชาเขียว
4 ส๎มเขียวหวาน กล๎วยไขํ

19. ตาราง ประเภท และชนิดของวัสดุที่ใช๎ทําวัตถุ

ประเภท ชนิดของวัตถุ
วัตถุ
ของเล่น ของใช้ พลาสติก ยาง ผ้า โลหะ
A / /
รถจักรยาน / / / /
ผ๎าหํม / /
B / /
สายยาง / /
ลูกโป่ง / /

จากตาราง A และ B ได๎แกํข๎อใด ตามลําดับ


1 ตุ๏กตาหมี เสื้อกันฝน
2 ลูกฟุตบอล หํวงยาง
3 ลูกฟุตบอล รํม
4 เก๎าอี้ กางเกง
20. ข๎อใดเป็นการเปลี่ยนแปลงสมบัติของวัสดุจนเกิดสารใหมํที่มีประโยชน๑
1 การเกิดสนิมที่รั้วประตูบ๎าน
2 การบิดผ๎าเช็ดตัวจนแห๎ง
3 การเผาถุงพลาสติก
4 การทําขนมคุกกี้
21. วัตถุในข๎อใดที่แมํเหล็กสามารถดึงดูดได๎
1 ตะปู ลูกกุญแจ
2 ดินสอ ยางลบ
3 ผ๎าเช็ดตัว โบผูกผม
4 ซองจดหมาย ปฏิทิน
22. การกระทําในข๎อใดทําให๎เกิดไฟฟ้าสถิต
1 ปรบมือให๎เพื่อนที่ชนะการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร๑
2 ชี้นิ้วให๎เพื่อนดูนกบนต๎นไม๎ในฤดูร๎อน
3 แปรงฟันกํอนเข๎านอนในเวลากลางคืน
4 หวีผมกํอนไปโรงเรียนในฤดูหนาว
23. ข๎อใดเป็นพลังงานกล
1 เสียงจากโทรศัพท๑
2 รถกระบะแลํนบนถนน
3 แสงสวํางจากหลอดไฟ
4 ต๎มน้ําด๎วยกระติกต๎มน้ําไฟฟ้า
24. ข๎อใดกลําวถูกต๎องเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้า
1 มนุษย๑สามารถใช๎แสงอาทิตย๑ผลิตกระแสไฟฟ้าได๎ เรียกวํา โซลาร๑เซลล๑
2 พลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานที่ไมํมีวันหมดไปจากโลก
3 ไฟฟ้าไมํใชํพลังงานเพราะเป็นสิ่งที่มนุษย๑ผลิตขึ้นเอง
4 ฟ้าร๎อง ฟ้าแลบ ฟ้าผํา ไมํจัดเป็นพลังงานไฟฟ้า
25. พฤติกรรมในข๎อใดเป็นการปฏิบัติที่ถูกต๎องและปลอดภัยเกี่ยวกับการใช๎ไฟฟ้า
1 เสียบปลั๊กไฟพัดลมขณะตัวเปียก
2 เมื่อแก๎วแตกรีบใช๎มือเก็บเศษแก๎วทันที
3 บอกผู๎ใหญํทันทีเมื่อพบเห็นสายไฟขาด
4 ลืมถอดปลั๊กเตารีดเมื่อรีดเสื้อนักเรียนแล๎ว
26. พฤติกรรมในข๎อใดเป็นการชํวยประหยัดพลังงานมากที่สุด
1 เปิดทีวีแล๎วเผลอหลับ
2 เปิดไฟในห๎องนอนทั้งคืน
3 รีดเสื้อผ๎าครั้งละหลาย ๆ ตัว
4 นําถ๎วยแกงจืดร๎อน ๆ ใสํตู๎เย็น

27. ข๎อใดไม่ใช่แหลํงพลังงานหมุนเวียน
1 พลังงานดวงอาทิตย๑
2 พลังงานเชื้อเพลิง
3 พลังงานน้ํา
4 พลังงานลม
28. เหตุการณ๑ในข๎อใดแสดงให๎เห็นวําโลกมีแรงโน๎มถํวง
1 เฮลิคอปเตอร๑บินสํารวจป่าไม๎
2 ปลํอยลูกโป่งสวรรค๑
3 ค๎างคาวบินหาอาหาร
4 ใบไม๎รํวงลงสูํพื้น
29. การปฏิบัติในข๎อใดเป็นการอนุรักษ๑น้ํา
1 ปิดก๏อกน้ําในห๎องครัวไมํสนิท
2 ล๎างถังยาฆําแมลงในคลองสํงน้ํา
3 ปลํอยน้ําล๎างรถลงสูํคลองหน๎าหมูํบ๎าน
4 นําน้ําสุดท๎ายจากการซักผ๎าไปรดต๎นไม๎
30. แหลํงกําเนิดแสงในข๎อใดเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
1 ดวงอาทิตย๑ ดวงดาว
2 หลอดไฟ เลเซอร๑
3 เทียนไข โคมไฟระย๎า
4 ไฟฉาย เส๎นใยแก๎วนําแสง
31.ถ๎านักเรียนต๎องการพืชสวนครัวเพื่อใช๎รับประทานในครอบครัว นักเรียนจะเลือกใช๎ดินในข๎อใดจึงเหมาะสม
1 ดินเนื้อหยาบ
2 ดินเหนียว
3 ดินทราย
4 ดินรํวน
32. ดินจากตําบลในข๎อใดมีฮิวมัสมากที่สุด
1 ตําบล ก ดินเม็ดสีเทาเม็ดดินขนาดเล็ก
2 ตําบล ข ดินเม็ดสีดําเม็ดดินขนาดเล็ก
3 ตําบล ค ดินเม็ดสีแดงเม็ดดินขนาดใหญํ
4 ตําบล ง ดินเม็ดสีน้ําตาลอํอนเม็ดดินขนาดใหญํ
33. แหลํงน้ําในข๎อใดเป็นแหลํงน้ําจากธรรมชาติ
1 แมํน้ําเจ๎าพระยา ทะเลสาบสงขลา
2 คลองชลประทาน คลองประดิษฐ๑
3 เขื่อนภูมิพล เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
4 บํอเลี้ยงกุ๎ง บํอเลี้ยงปลานิล
34. ข๎อใดกลําวถูกต๎องเกี่ยวกับสมบัติบางประการของน้ํา

A. น้ํามีจุดเดือดเทํากับ 100 C
O

B. น้ํามี 3 สถานะ คือ ของแข็ง ของเหลว และแก๏ส


C. น้ําเป็นแหลํงทรัพยากรธรรมชาติที่ใช๎แล๎วไมํมีวันหมด
D. รูปรํางของน้ําจะเปลี่ยนแปลงตามภาชนะที่บรรจุ

1 ข๎อ A B และ C
2 ข๎อ B C และD
3 ข๎อ A B และ D
4 ข๎อ A C และ D
35. ข๎อใดไม่ใช่ความสําคัญของอากาศ
1 ทําให๎เกิดสงครามเย็น
2 ทําให๎กังหันลมในทุํงนาหมุน
3 ใช๎ในการหายใจของสิ่งมีชีวิต
4 ป้องกันรังสีจากดวงอาทิตย๑ที่สํองมายังโลก
36. ถ๎านักเรียนต๎องเดินทางไปแขํงขันประกวดโครงงานวิทยาศาสตร๑ที่ประเทศเวียดนาม นักเรียนสามารถตรวจสอบ
สภาพอากาศกํอนเดินทางได๎จากหนํวยงานในข๎อใด
1 กรมทรัพยากรธรณี
2 กรมอุตุนิยมวิทยา
3 กรมชลประทาน
4 กรมสรรพากร
37. ถ๎านักเรียนทําการทดลองเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของอากาศ พบวํา อากาศมีการเคลื่อนที่จากบริเวณที่มีอุณหภูมิ
20 องศาเซลเซียส ไปยังอุณหภูมิ 35 องศาเซลเซียส ผลจากการเคลื่อนที่ของอากาศดังกลําวคือข๎อใด
1 ลม
2 ฝน
3 ฟ้าร๎อง
4 ฟ้าแลบ
38. ข๎อใดเป็นวัตถุบนท๎องฟ้าที่มองเห็นที่โรงเรียนในขณะนักเรียนเชิญธงชาติขึ้นสูํยอดเสาธง
1 ดาวศุกร๑
2 ดาวหาง
3 ดวงจันทร๑
4 ดวงอาทิตย๑

39. ข๎อใดไม่ใช่ประโยชน๑ของพลังงานจากดวงอาทิตย๑
1 ตากผ๎าแห๎งเร็ว
2 ทําเนื้อแดดเดียว
3 เกิดภาวะโลกร๎อน
4 ชํวยในการสังเคราะห๑แสงของพืช
40. ข๎อใดกลําวถูกต๎องเกี่ยวกับกลางวันและกลางคืน
1 โลกหมุนรอบดวงอาทิตย๑
2 โลกหมุนรอบตัวเอง
3 ดวงจันทร๑หมุนรอบโลก
4 โลกหมุนรอบดวงจันทร๑
ส่วนที่ 2 : แบบปรนัย 4 ตัวเลือก แตํละข๎อมีคําตอบที่ถูกต๎อง 2 คําตอบ จํานวน 5 ข๎อ (ข๎อ 41-45) ข๎อละ 2 คะแนน
(คําตอบละ 1 คะแนน) รวม 10 คะแนน
41. สิ่งมีชีวิตในข๎อใดมีความสัมพันธ๑กันระหวํางสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตเหมือนกบกับแมลง
1 สิงโตกับกวาง
2 เหยี่ยวกับกระตําย
3 นกเอี้ยงกับควาย
4 โปรโตซัวในลําไส๎ปลวก
42. พฤติกรรมในข๎อใดเป็นการใช๎ทรัพยากรธรรมชาติอยํางประหยัด คุ๎มคํา และลดภาวะโลกร๎อน
1 เดินทางโดยรถยนต๑สํวนตัวทดแทนรถโดยสารสาธารณะ
2 ทิ้งถํานไฟฉายที่เสื่อมสภาพลงในถังขยะอันตราย
3 เลือกใช๎กลํองโฟมใสํอาหารกลางวันแทนปิ่นโต
4 รองน้ําใสํแก๎วขณะแปรงฟัน
43. สิ่งของในข๎อใดที่ต๎องใช๎พลังงานไฟฟ้าในการทํางานหรือเคลื่อนที่
1 ตุ๏กตาไดโนเสาร๑ไขลาน ลูกฟุตบอล
2 รถจักรยาน หํวงยาง
3 โทรศัพท๑เคลื่อนที่ ไฟฉาย
4 คอมพิวเตอร๑ นาฬิกาปลุก
44. พิจารณาข๎อความตํอไปนี้ มีเหตุการณ๑ที่ขีดเส๎นใต๎ในข๎อใดที่ใช๎แรงดึง

เวลา 7.00 น. เคนได๎ยินเสียงนาฬิกาปลุก เคนรีบตื่นทันทีเพราะวันนี้ต๎องไปโรงเรียน เคนเปิดหน๎าตําง


เห็นคุณพํอถอนตะปูเพื่อซํอมเก๎าอี้ เคนรีบอาบน้ําแตํงตัว แล๎วยกตะกร๎าผ๎าไปให๎แมํบ๎านซัก จากนั้นเคน
เดินทางไปโรงเรียนโดยรถรับสํงนักเรียน ในระหวํางทางรถเกิดเสีย เคนและเพื่อน ๆ ตํางพากันลงมาชํวย
คุณลุงคนขับรถเข็นรถเพื่อไปอูํซํอมรถใกล๎ ๆ โรงเรียน จากนั้นเคนและเพื่อน ๆ จึงเดินเข๎าโรงเรียนด๎วยความ
ภาคภูมิใจที่ได๎ชํวยเหลือคุณลุงคนขับรถ

1 เปิดหน๎าตําง
2 ถอนตะปู
3 ยกตะกร๎า
4 เข็นรถ
45.

จากแผนผังนี้ สถานที่ในข๎อใดอยูํทางทิศตะวันตกของโรงเรียน
1 บ๎าน
2 ร๎านค๎า
3 ทุํงนา
4 วัด
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเตรียมสอบ O-NET
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ส่วนที่ 1

1. 1 2. 4 3. 3 4. 2 5. 2
6. 3 7. 2 8. 2 9. 4 10. 3
11. 1 12. 2 13. 1 14. 4 15. 2
16. 4 17. 3 18. 3 19. 1 20. 4
21. 1 22. 4 23. 2 24. 1 25. 3
26. 3 27. 2 28. 4 29. 4 30. 1
31. 4 32. 2 33. 1 34. 3 35. 1
36. 2 37. 1 38. 4 39. 3 40. 2

ส่วนที่ 2

41. 1 , 2

42. 2 , 4

43. 3 , 4

44. 2 , 3

45. 2 , 4
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเตรียมสอบ O-NET
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

คาชี้แจง ให้ระบายคาตอบที่ถูกต้องลงในวงกลมตัวเลือกให้เต็มวง (ห้ามระบายนอกวง)

ส่วนที่ 1 : แบบปรนัย 4 ตัวเลือก แตํละข๎อมีคําตอบที่ถูกต๎องที่สุดเพียงคําตอบเดียว จํานวน 40 ข๎อ (ข๎อ 1-40) : ข๎อละ 1 คะแนน

1. พระพุทธศาสนามีความสําคัญตํอสังคมไทยอยํางไร

1 เป็นต๎นกําเนิดรากฐานทางวัฒนธรรมไทย
2 เป็นที่สําหรับให๎คนไทยได๎พักพิงยามลําบาก
3 เป็นแหลํงสําหรับแลกเปลี่ยนวัตถุมงคล
4 เป็นแหลํงพบปะสังสรรค๑
2. พระพุทธเจ๎าทรงประกาศพระพุทธศาสนาเมื่อใด
1 ตอนเสด็จออกผนวช
2 ตอนตรัสรู๎
3 ตอนแสดงธัมมจักกัปปวัตนสูตร
4 ตอนเสด็จโปรดพุทธบิดา
3. สามเณรสังกิจจะมีคุณธรรมที่โดดเดํนทางด๎านใด
1 ความขยัน 2 ความอดทน
3 ความเสียสละ 4 วาจาสัตย๑
4. ถ๎าต๎องการศึกษาศีล 10 ข๎อ ของสามเณร ควรศึกษาจากพระไตรปิฎกเลํมใด
1 พระวินัยปิฎก 2 พระสุตตันตปิฎก
3 พระอภิธรรมปิฎก 4 พุทธธรรมคัมภีร๑
5. สัจจะ ทมะ ขันติ เป็นธรรมที่บุคคลใดควรนําไปยึดเป็นหลักปฏิบัติในการดําเนินชีวิต
1 สามเณร 2 พระภิกษุ
3 ภิกษุณี 4 ฆราวาส
6. ผู๎ให๎ยํอมเป็นที่รัก ตรงกับพุทธศาสนสุภาษิตบทใด
1 ททมาโน ปิโย โหติ
2 โมกฺโข กลฺยาณิยา สาธุ
3 ปิยํ ปิโย โหติ
4 มโน ปิโย โหติ
7. ผู๎ที่จะแสดงตนเป็นพุทธมามกะจะต๎องมีอายุครบกี่ปีขึ้นไป
1 5 ปี 2 7 ปี
3 9 ปี 4 15 ปี
8. การกําหนดลมหายใจเข๎า-ออก เป็นการเจริญสมาธิแบบใด
1 การกําหนดกาย 2 การกําหนดจิต
3 อานาปานสติ 4 สติปัฏฐาน
9. การจัดกิจกรรมในข๎อใดควรจัดโต๏ะหมูํบูชา
1 การจัดงานวันเด็ก
2 การจัดงานกีฬาสี
3 การจัดงานปีใหมํ
4 การจัดพิธีพุทธมามกะ
10. นักเรียนควรปฏิบัติตนตํอศาสนวัตถุอยํางไร
1 ปฏิบัติตนตามอัธยาศัย
2 ไมํควรเข๎าไปใกล๎เพราะจะเป็นบาป
3 วิงวอนขอพรเพื่อให๎ประสบความสําเร็จ
4 แสดงความเคารพด๎วยกาย วาจา ใจ
11. ข๎อใดเป็นการปฏิบัติตนตามประเพณีและวัฒนธรรมในครอบครัว
1 แสดงความเคารพผู๎อาวุโสกวํา
2 ทําโทษน๎องเมื่อทําความผิด
3 โกหกพํอแมํเพื่อให๎พ๎นผิด
4 ไมํทํากิจกรรมกับครอบครัว
12. นักเรียนจะสืบทอดประเพณีและวัฒนธรรมไทยได๎อยํางไร
1 ประยุกต๑ให๎ทันสมัยมากขึ้น
2 ชักชวนให๎ผู๎อื่นปฏิบัติแตํตนเองไมํต๎องปฏิบัติ
3 ผสมผสานกับประเพณีและวัฒนธรรมของชาติตําง ๆ
4 ปฏิบัติตนตามประเพณีและวัฒนธรรมไทยให๎ถูกต๎อง
13. ข๎อใดกลําวถูกต๎องเกี่ยวกับวันจักรี
1 เป็นวันที่มีการพระราชทานรัฐธรรมนูญให๎แกํประชาชน
2 เป็นวันสถาปนากรุงเทพมหานคร
3 เป็นวันเสด็จขึ้นครองราชย๑ของรัชกาลที่ 9
4 ตรงกับวันที่ 10 ธันวาคม ของทุกปี
14. นักเรียนควรปฏิบัติตนอยํางไรในวันสําคัญทางศาสนา
1 ไปเที่ยวสวนสัตว๑ 2 รดน้ําขอพรผู๎ใหญํ
3 ไปทําบุญตักบาตรที่วัด 4 นําดอกมะลิไปกราบแมํ
15. การกระทําในข๎อใดเป็นการทําประโยชน๑ให๎แกํชุมชนมากที่สุด
1 ดูแลที่อยูํอาศัยของตนเองให๎สะอาด
2 ไมํทิ้งขยะลงบนพื้นในชุมชน
3 รํวมมือกันสร๎างห๎องสมุดชุมชน
4 ไมํให๎คนแปลกหน๎าเข๎ามาในชุมชน
16.ข๎อใดเป็นการออกเสียงโดยตรงในชั้นเรียน
1 การเลือกหัวหน๎าห๎องเรียน
2 การเลือกประธานนักเรียน
3 การเลือกคณะกรรมการนักเรียน
4 การเลือกตัวแทนนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
17. การตัดสินใจของบุคคลใดทําให๎เกิดการเปลี่ยนแปลงในโรงเรียน
1 หัวหน๎าห๎องเรียน
2 สมาชิกในชั้นเรียน
3 ผู๎อํานวยการโรงเรียน
4 ผู๎ปกครองของนักเรียน
18. การเปลี่ยนแปลงในข๎อใดเป็นผลมาจากการตัดสินใจของสมาชิกในห๎องเรียน
1 การจัดงานกีฬาสีของโรงเรียน
2 การจัดป้ายนิเทศในห๎องเรียน
3 การจัดประชุมครูและผู๎ปกครอง
4 การสร๎างลานกีฬาในโรงเรียน
19. ถ๎านักเรียนพบผู๎ใหญํที่รู๎จักควรทักทายอยํางไร
1 โอบกอด
2 จับมือ
3 โค๎งคํานับ
4 ยกมือไหว๎
20. การยอมรับความแตกตํางกันของคนในชุมชนจะกํอให๎เกิดผลอยํางไร
1 สังคมเกิดความสงบสุข
2 สังคมเกิดความวุํนวาย
3 สังคมเกิดความแตกแยก
4 สังคมเกิดความเสื่อมโทรม

21. ข๎อใดไม่ใช่สินค๎าที่จําเป็นตํอการดํารงชีวิต
1 อาหาร
2 ที่อยูํอาศัย
3 ยารักษาโรค
4 สิ่งอํานวยความสะดวก
22. การเลือกซื้อสินค๎าในข๎อใดเหมาะสมที่สุด
1 ซื้อสินค๎าฟุ่มเฟือย
2 เลือกซื้อสินค๎าตามคําโฆษณา
3 เปรียบเทียบราคากํอนตัดสินใจซื้อ
4 เลือกซื้อสินค๎าคุณภาพดี ราคาแพง
23. นักเรียนควรเลือกรับประทานอาหารในข๎อใด
1 รับประทานอาหารที่ชอบ
2 รับประทานอาหารที่มีประโยชน๑
3 รับประทานอาหารที่มีรสชาติอรํอย
4 รับประทานอาหารที่มีการตกแตํงสวยงาม
24. การออมเงินมีประโยชน๑ตํอนักเรียนอยํางไรมากที่สุด
1 ทําให๎มีเงินใช๎จํายยามจําเป็น
2 ทําให๎มีเงินสําหรับให๎ผู๎อื่นยืม
3 ทําให๎มีเงินซื้อสิ่งของราคาแพง
4 ทําให๎มีเงินเพื่อแสดงถึงการมีฐานะ
25. ข๎อใดเป็นการทํางานที่กํอให๎เกิดรายได๎ที่สุจริตและเหมาะสมกับนักเรียนมากที่สุด
1 การเปิดร๎านขายอาหารตามสั่ง
2 การรับจ๎างรดน้ําต๎นไม๎หลังเลิกเรียน
3 การทําความสะอาดบริเวณโรงเรียน
4 การทําความสะอาดห๎องนอนของตนเอง
26. ในฐานะผู๎บริโภคนักเรียนควรใช๎ทรัพยากรอยํางไรจึงจะเหมาะสมที่สุด
1 ใช๎อยํางคุ๎มคํา 2 ใช๎อยํางเต็มที่
3 ใช๎ให๎มากที่สุด 4 ใช๎ตามใจตนเอง
27. ข๎อใดกลําวถูกต๎องเกี่ยวกับทรัพยากรกับความต๎องการของมนุษย๑
1 ทรัพยากรมีไมํจํากัดแตํความต๎องการของมนุษย๑มีจํากัด
2 ทรัพยากรมีจํากัดและความต๎องการของมนุษย๑มีจํากัด
3 ทรัพยากรมีจํากัดแตํความต๎องการของมนุษย๑มีไมํจํากัด
4 ทรัพยากรมีไมํจํากัดและความต๎องการของมนุษย๑มีไมํจํากัด
28. ข๎อใดเป็นลักษณะของภาษีมูลคําเพิ่ม
1 เก็บจากผู๎มีรายได๎โดยตรง
2 เก็บจากผู๎ประกอบการโดยตรง
3 เก็บจากผู๎ที่กระทําผิดกฎหมาย
4 เก็บจากคําใช๎จํายในชีวิตประจําวัน

29. สถานที่ในข๎อใดไม่ได้มาจากการเสียภาษีของประชาชน
1 สถานีตํารวจ 2 โรงเรียนรัฐบาล
3 ห๎างสรรพสินค๎า 4 สวนสาธารณะ
30. ข๎อใดเป็นผลที่เกิดจากการแขํงขันทางการค๎า
1 ทําให๎ผู๎ซื้อมีโอกาสเลือกซื้อสินค๎าได๎ตามความพอใจ
2 ทําให๎สินค๎าคุณภาพดี ราคาถูกขายไมํได๎
3 ทําให๎สินค๎ามีคุณภาพลดลง
4 ทําให๎สินค๎ามีราคาสูงขึ้น
31. พุทธศักราชในประเทศไทยเริ่มนับเมื่อใด
1 เริ่มนับจากปีที่พระพุทธเจ๎าประสูติ
2 เริ่มนับจากปีที่พระพุทธเจ๎าตรัสรู๎
3 เริ่มนับจากปีที่พระพุทธเจ๎าปรินิพพาน
4 เริ่มนับจากปีที่พระพุทธเจ๎าปรินิพพานไปแล๎ว 1 ปี
32. ค.ศ. 2100 ตรงกับ พ.ศ. ใด
1 พ.ศ. 2463 2 พ.ศ. 155
3 พ.ศ. 1647 4 พ.ศ. 2553
33. การสืบค๎นประวัติของโรงเรียนมีประโยชน๑อยํางไร
1 ทําให๎โรงเรียนมีชื่อเสียง
2 ทําให๎มีนักเรียนเพิ่มมากขึ้น
3 ทําให๎มีคนรู๎จักโรงเรียนมากขึ้น
4 ทําให๎ทราบความเป็นมาของโรงเรียน
34. ข๎อใดเป็นขั้นตอนแรกในการสืบค๎นเหตุการณ๑สําคัญของชุมชน
1 ตรวจสอบข๎อมูลที่ได๎
2 ตั้งหัวข๎อที่จะศึกษา
3 รวบรวมข๎อมูลที่ได๎
4 นําเสนอข๎อมูลให๎นําสนใจ
35. ข๎อใดเป็นสาเหตุที่ทําให๎ผู๎คนเลือกตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ที่มีความเจริญทางเทคโนโลยี
1 ต๎องการความสะดวกสบาย
2 ต๎องการความเป็นสํวนตัว
3 ต๎องการอยูํใกล๎ธรรมชาติ
4 ต๎องการอากาศบริสุทธิ์
36. ชุมชนที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมมีพิธีกรรมใดที่เหมือนกัน
1 พิธีบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอให๎ฝนตกตามฤดูกาล
2 พิธีการทําบุญให๎แกํผู๎ที่ลํวงลับไปแล๎ว
3 พิธีบวชป่าเพื่อไมํให๎คนตัดต๎นไม๎
4 พิธีบูชาแมํยํานางของเรือ
37. พระมหากษัตริย๑พระองค๑ใดทรงสถาปนากรุงเทพมหานครเป็นราชธานี
1 พํอขุนศรีอินทราทิตย๑
2 พระเจ๎าตากสินมหาราช
3 สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1
4 สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
38. ข๎อใดเป็นพระราชกรณียกิจในพระเจ๎าตากสินมหาราช
1 ประดิษฐ๑ตัวอักษรไทย
2 กอบกู๎เอกราชคืนจากพมํา
3 ทําสงครามเก๎าทัพสู๎กับพมํา
4 ชําระและรวบรวมคัมภีร๑ทางพระพุทธศาสนา
39. พระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยูํหัวภูมิพลอดุลยเดช กํอให๎เกิดประโยชน๑แกํชาติไทยอยํางไร
1 ชาติไทยเป็นชาติมหาอํานาจ
2 ประชาชนชาวไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
3 ชาติไทยเป็นผู๎นําทางด๎านเทคโนโลยี
4 เศรษฐกิจของชาติเจริญก๎าวหน๎า
40. คนไทยทุกคนควรนําแบบอยํางที่ดีของชาวบ๎านบางระจันมาปฏิบัติอยํางไรเพื่อให๎ชาติไทยสงบสุข
1 มีความสามัคคีกัน
2 มีความกตัญ๒ูกตเวที
3 มีความเมตตากรุณา
4 มีความใฝ่รู๎ใฝ่เรียน
ส่วนที่ 2 : แบบปรนัย 4 ตัวเลือก แตํละข๎อมีคําตอบที่ถูกต๎อง 2 คําตอบ จํานวน 10 ข๎อ (ข๎อ 41-50) ข๎อละ 1 คะแนน
ตอบถูก 1 คําตอบ ได๎ 0.5 คะแนน
ตอบถูก 2 คําตอบ ได๎ 1 คะแนน
41. แผนที่มีประโยชน๑ตํอนักเรียนอยํางไร
1 ทําให๎เรียนเกํงขึ้น
2 ทําให๎ทราบลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ตําง ๆ
3 ทําให๎เป็นผู๎นําในการเดินทาง
4 ทําให๎เดินทางไปสถานที่ตําง ๆ ได๎โดยไมํหลงทาง
42. ภาพถํายทางอากาศให๎ข๎อมูลเกี่ยวกับเรื่องใด
1 ลักษณะนิสัยของคนในพื้นที่
2 การประกอบอาชีพของคนในพื้นที่
3 สภาพแวดล๎อมในพื้นที่
4 ตําแหนํงที่ตั้งของสิ่งตําง ๆ
43. ข๎อใดเป็นสภาพแวดล๎อมในภูมิประเทศภูเขาสูง
1 อากาศร๎อนชื้น 2 อากาศหนาวเย็น
3 มีทรัพยากรป่าไม๎มาก 4 มีเส๎นทางคมนาคมขนสํงที่สะดวก
44. ข๎อใดเป็นสิ่งแวดล๎อมที่พบในชุมชนริมแมํน้ํา
1 น้ําตก 2 บ๎านเรือนแพ
3 การทําประมงน้ําจืด 4 การเพาะปลูกพืชแบบขั้นบันใด
45. การเปลี่ยนแปลงในข๎อใดเกิดจากการกระทําของธรรมชาติ
1 การเกิดสึนามิ
2 การตัดไม๎ทําลายป่า
3 การทิ้งขยะลงในแหลํงน้ํา
4 โคลนถลํม
46. การเปลี่ยนแปลงในข๎อใดเป็นการเพิ่มขึ้นของสิ่งแวดล๎อม
1 การจับสัตว๑น้ํา
2 การปลูกต๎นไม๎
3 การสร๎างสะพานลอย
4 การเก็บของป่ามาจําหนําย
47. ข๎อใดเป็นแหลํงน้ําที่มนุษย๑สร๎างขึ้น
1 คลอง 2 สระวํายน้ํา
3 แมํน้ํา 4 เขื่อน
48. สาเหตุใดที่ทําให๎ดินเสื่อมสภาพลง
1 การปลํอยควันจากทํอไอเสีย
2 การใช๎สารเคมีกําจัดศัตรูพืช
3 การปลูกพืชชนิดเดียวกันเป็นเวลานาน
4 การเผาขยะ
49. ชุมชนชนบทมีลักษณะอยํางไร
1 มีประชากรหนาแนํน
2 มีตึกอาคารสูง
3 มีอากาศบริสุทธิ์
4 มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผํกัน
50. ข๎อใดเป็นสิ่งแวดล๎อมที่พบได๎ในชุมชนเมือง
1 รถไฟฟ้า 2 ตึกสูง
3 น้ําตก 4 ทุํงนา
เฉลยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเตรียมสอบ O-NET
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ส่วนที่ 1

1. 1 2. 3 3. 3 4. 1 5. 4
6. 1 7. 2 8. 3 9. 4 10. 4
11. 1 12. 4 13. 2 14. 3 15. 3
16. 1 17. 3 18. 2 19. 4 20. 1
21. 4 22. 3 23. 2 24. 1 25. 2
26. 1 27. 3 28. 4 29. 3 30. 1
31. 4 32. 1 33. 4 34. 2 35. 1
36. 1 37. 4 38. 2 39. 2 40. 1

ส่วนที่ 2

41. 2 , 4 42. 3 , 4 43. 2 , 3 44. 2 , 3 45. 1 , 4

46. 2 , 3 47. 2 , 4 48. 2 , 3 49. 3 , 4 50. 1 , 2


แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเตรียมสอบ O-NET
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

คาชี้แจง ให้ระบายคาตอบที่ถูกต้องลงในวงกลมตัวเลือกให้เต็มวง (ห้ามระบายนอกวง)

ส่วนที่ 1 : แบบปรนัย 4 ตัวเลือก แตํละข๎อมีคําตอบที่ถูกต๎องที่สุดเพียงคําตอบเดียว จํานวน 40 ข๎อ (ข๎อ 1-40)


ข๎อละ 1 คะแนน รวม 40 คะแนน

1. ข๎อใดเป็นการปฏิบัติตนที่ถูกต๎องเกี่ยวกับการดูแลรักษาตา

1 นั่งดูโทรทัศน๑ใกล๎หน๎าจอ 2 อํานหนังสือบนรถประจําทาง
3 จ๎องดูดวงอาทิตย๑ในเวลากลางวัน 4 อํานหนังสือในที่ที่มีแสงสวํางเพียงพอ
2. นักเรียนมีวิธีการดูแลรักษาหัวใจให๎ทํางานปกติได๎อยํางไร

1 รับประทานอาหารที่มีไขมันเป็นสํวนประกอบ
2 ออกกําลังกายด๎วยการวํายน้ําเป็นประจํา
3 เคี้ยวอาหารให๎ละเอียดกํอนกลืน
4 ดื่มน้ําสะอาดวันละ 3-4 แก๎ว
3. ข๎อใดเป็นปัจจัยที่มีผลตํอการเจริญเติบโตของรํางกาย
1 การศึกษาที่ได๎รับ 2 ฐานะของครอบครัว
3 การออกกําลังกายอยํางหักโหม 4 การรับประทานอาหารครบ 5 หมูํ
4. นักเรียนควรปฏิบัติตนอยํางไร เพื่อให๎รํางกายเจริญเติบโตสมวัย
1 รับประทานอาหารรสจัด 2 ดื่มน้ําอัดลมแทนน้ําเปลํา
3 เลํนกีฬากับเพื่อนเป็นประจํา 4 เลํมเกมคอมพิวเตอร๑กํอนนอน
5. อาหารในข๎อใดมีประโยชน๑ตํอการเจริญเติบโตของรํางกาย
1 ทอฟฟี่ 2 น้ําอัดลม
3 ผลไม๎สด 4 ขนมกรุบกรอบ
6. ข๎อใดเป็นพัฒนาการทางด๎านรํางกาย

1 อํานหนังสือภาษาตํางประเทศได๎ดี 2 ยอมรับฟังความคิดเห็นของเพื่อน
3 มีสํวนสูงเพิ่มขึ้น 2 เซนติเมตร 4 รู๎สึกดีใจเมื่อผู๎อื่นชื่นชมเพื่อน
7. การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัวควรทําอยํางไร

1 ไมํต๎องชํวยแมํทํางานบ๎านเพราะไมํใชํหน๎าที่ตนเอง
2 ไปเลํนกับเพื่อนข๎างบ๎านหลังกลับจากโรงเรียน
3 ชํวยพํอแมํทํางานบ๎านเทําที่ทําได๎
4 ให๎พํอแมํชํวยทําการบ๎านให๎
8. ข๎อใดกลําวถูกต๎องเกี่ยวกับความแตกตํางของเพศชายและเพศหญิง
1 เพศชายชอบเลํนกีฬาที่ใช๎กําลังน๎อย เพศหญิงชอบเลํนกีฬาที่ใช๎กําลังมาก
2 เพศชายเลํนกีฬาที่ไมํใช๎กาํ ลัง เพศหญิงชอบเลํนรุนแรง
3 เพศชายพูดลงท๎ายด๎วยคํะ เพศหญิงพูดลงท๎ายด๎วยครับ
4 เพศชายมีความเข๎มแข็ง เพศหญิงมีความอํอนโยน
9. การปฏิบัติตนได๎เหมาะสมกับเพศจะสํงผลอยํางไร

1 เป็นที่ชื่นชมของผู๎อื่น 2 ไมํมีใครอยากพูดคุยด๎วย
3 ได๎เงินคําขนมเพิ่มจากคุณแมํ 4 เพื่อน ๆ ให๎ความเคารพนับถือ
10. ข๎อใดไม่ใช่การสร๎างสัมพันธภาพในกลุํมเพื่อน

1 แบํงปันขนมให๎เพื่อน 2 แกล๎งเพื่อนที่อํอนแอกวํา
3 อธิบายการบ๎านให๎เพื่อนฟัง 4 ขอโทษเพื่อนเมื่อตนเองทําผิด
11. นักเรียนจะมีวิธีป้องกันตนเองจากการถูกลํวงละเมิดทางเพศอยํางไร

1 อํานหนังสือการ๑ตูนโป๊กับเพื่อน
2 ให๎เพื่อนชายที่สนิทเดินไปสํงบ๎าน
3 พูดคุยกับคนแปลกหน๎าที่แตํงตัวดีเทํานั้น
4 ไมํอยูํในที่ลับตาคนตามลําพังกับเพศตรงข๎าม
12. ครอบครัวเดี่ยวมีลักษณะอยํางไร
1 บ๎านที่อยูํหลังเดี่ยวไมํติดกับใคร
2 บ๎านที่มีเฉพาะพํอแมํลูกอาศัยอยูํด๎วยกัน
3 บ๎านที่สมาชิกในบ๎านใช๎นามสกุลเดียวกัน
4 บ๎านที่มีพํอแมํลูกและปู่ยําตายายอยูํด๎วยกัน
13. สถานการณ๑ใดนําไปสูํการถูกลํวงละเมิดทางเพศ
1 เลํนเกมที่ร๎านกับเพื่อนเวลากลางวัน
2 นั่งดูคลิปวิดีโอโป๊กับเพื่อนตํางเพศ
3 ไมํรับของจากคนแปลกหน๎า
4 เดินกลับบ๎านกับพี่ชาย
14. เมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเพศนักเรียนควรปฏิบัติอยํางไร
1 ปลํอยไว๎เฉย ๆ เพราะไมํใชํเรื่องร๎ายแรง
2 คิดแก๎ไขปัญหาด๎วยตนเอง
3 นําเรื่องนี้ไปเลําให๎เพื่อนฟัง
4 ปรึกษาพํอแมํผู๎ปกครอง
15. ครอบครัวในข๎อใดมีสัมพันธภาพในครอบครัวที่ดี
1 พํอทําร๎ายรํางกายแมํตํอหน๎าลูก
2 แมํลงโทษลูกด๎วยการตีทุกครั้ง
3 พี่น๎องทะเลาะกันเป็นประจํา
4 ลูกพูดจาไพเราะกับพํอแมํ
16. อวัยวะใดมีหน๎าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของรํางกาย
1 สมอง 2 หัวใจ
3 ปอด 4 ตา
17. การเคลื่อนไหวในข๎อใดเป็นการเคลื่อนไหวแบบเคลื่อนที่
1 การนั่ง การวิ่ง 2 การคลาน การเดิน
3 การวิ่ง การยืน 4 การนอน การกระโจน

18. ข๎อใดไม่ใช่การเคลื่อนไหว
1 การป่วย 2 การนอน
3 การนั่ง 4 การยืน
19. การเคลื่อนไหวรํางกายโดยการออกกําลังกายเป็นประจํามีประโยชน๑อยํางไร

1 ทําให๎รํางกายแข็งแรง 2 ทําให๎รํางกายทรุดโทรม
3 ทําให๎เกิดการเจ็บป่วยงําย 4 ทําให๎เรียนหนังสือเกํงขึ้น
20. การเคลื่อนไหวรํางกายอยํางถูกวิธีมีประโยชน๑อยํางไร
1 ปฏิบัติกิจกรรมได๎อยํางมีประสิทธิภาพ
2 ชํวยพัฒนาสมองทําให๎ผลการเรียนดี
3 กล๎ามเนื้อเกิดการบาดเจ็บ
4 หน๎าตา ผิวพรรณดีขึ้น
21. ข๎อใดจัดเป็นการละเลํนพื้นเมืองทั้งหมด
1 โพงพาง รีรีข๎าวสาร งูกินหาง
2 ไม๎หึ่ง โพงพาง แชร๑บอล
3 โพงพาง ฟุตบอล หมากเก็บ
4 งูกินหาง วิ่งเปี้ยว วอลเลย๑บอล
22. นักเรียนจะมีหลักในการเลํนเกมอยํางไรให๎ปลอดภัย
1 เลํนเกมที่มีอุปกรณ๑ประกอบ
2 เลํนเกมที่ต๎องใช๎แรงมาก
3 เลํนเกมที่ใช๎ผู๎เลํนน๎อย
4 เลํนเกมที่ตนเองถนัด
23. การเลํนเกมประเภททีมควรยึดหลักการปฏิบัติตนในข๎อใด
1 เกลือจิ้มเกลือ
2 สามัคคีคือพลัง
3 เกมแพ๎แตํคนไมํแพ๎
4 เสือสองตัวอยูํถ้ําเดียวกันไมํได๎
24. การเลํนเกมเป็นประจําสํงผลอยํางไร
1 รํางกายแข็งแรง อารมณ๑แจํมใส
2 ทํางานรํวมกับเพื่อนไมํได๎
3 ครอบครัวเกิดความสงบสุข
4 พํอแมํรักและเข๎าใจมากขึ้น
25. การเลือกออกกําลังกายในข๎อใดปฏิบัติได๎เหมาะสม
1 ออกกําลังกายโดยใช๎อุปกรณ๑ประกอบราคาแพง
2 ออกกําลังกายรํวมกับเพื่อนที่สนิทเทํานั้น
3 ออกกําลังกายตามเพื่อนในกลุํม
4 ออกกําลังกายที่ไมํยากเกินไป
26. กํอนออกกําลังกายนักเรียนควรปฏิบัติอยํางไร
1 ดื่มน้ํามาก ๆ
2 อบอุํนรํางกาย
3 รับประทานอาหารให๎อิ่ม
4 อาบน้ําชําระรํางกายให๎สะอาด
27. เพลงใดไม่ควรนํามาใช๎ประกอบจังหวะ
1 เพลงไตรรงค๑ 2 เพลงรักเมืองไทย
3 เพลงระบําชาวไพร 4 เพลงสรรเสริญพระบารมี
28. การดันพื้นชํวยสร๎างเสริมสมรรถภาพทางกายด๎านใด
1 ความคลํองแคลํววํองไว
2 ความอํอนตัวของกล๎ามเนื้อ
3 ความมั่นคงและการทรงตัว
4 ความแข็งแรงและความอดทนของกล๎ามเนื้อ
29. การฝึกเดินด๎วยปลายเท๎าเป็นประจําจะสํงผลอยํางไร

1 ทําให๎มีสายตาดี 2 ทําให๎มีบุคลิกภาพดี
3 ทําให๎น้ําหนักตัวลดลง 4 ทําให๎มีขาเรียวสวยงาม
30. กิจกรรมนันทนาการมีประโยชน๑อยํางไร
1 ทําให๎มีชื่อเสียงในสังคม
2 ชํวยผํอนคลายความเครียด
3 ทําให๎ครอบครัวมีความอบอุํน
4 เป็นที่รักและชื่นชมของเพื่อน ๆ
31. ข๎อใดเป็นลักษณะของผู๎ที่มีสุขภาพดี
1 อารมณ๑ดีไมํโกรธงําย
2 มีความเครียดวิตกกังวล
3 ชอบอยูํคนเดียวตามลําพัง
4 เจ็บป่วยต๎องไปหาหมอบํอย ๆ
32. นักเรียนจะแสดงออกถึงการมีจิตสํานึกที่ดีตํอสังคมสํวนรวมได๎อยํางไร
1 ขีดเขียนบริเวณกําแพงโรงเรียน
2 เด็ดดอกไม๎ในสวนสาธารณะ
3 ทิ้งขยะลงแมํน้ํา ลําคลอง
4 ทิ้งขยะลงถังขยะทุกครั้ง
33. การปฏิบัติตนตามหลักสุขบัญญัติแหํงชาติ สํงผลตํอรํางกายอยํางไร
1 ทําให๎เกิดอุบัติเหตุได๎รับบาดเจ็บ
2 รํางกายอํอนแอเจ็บป่วยงําย
3 มีสุขภาพกายและจิตใจที่ดี
4 จิตใจเศร๎าหมองไมํแจํมใส
34. การปฏิบัติตนในข๎อใดทําให๎ฟันผุ
1 ใช๎ฟันกัดน้ําแข็ง
2 เคี้ยวอาหารไมํละเอียด
3 แปรงฟันโดยไมํแปรงลิ้น
4 รับประทานทอฟฟี่เป็นประจํา
35. นักเรียนควรปฏิบัติตนอยํางไรเพื่อให๎ฟันมีสุขภาพที่ดี
1 แปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร
2 ดื่มน้ําอัดลมหลังรับประทานอาหาร
3 ดื่มฟลูออไรด๑เป็นประจําทุกสัปดาห๑
4 เลือกใช๎ยาสีฟันที่มีราคาแพง
36. กํอนรับประทานอาหารและหลังขับถํายควรปฏิบัติตนอยํางไร
1 แปรงฟันให๎สะอาด
2 ล๎างหน๎าให๎สะอาด
3 ล๎างมือให๎สะอาด
4 ตัดเล็บให๎สั้น
37. ข๎อใดเป็นหลักการรับประทานอาหารที่เหมาะสมที่สุด
1 รับประทานอาหารไมํซ้ํากันในแตํละวัน
2 รับประทานอาหารที่ปรุงสุกนานแล๎ว
3 รับประทานอาหารที่คุณแมํทําเทํานั้น
4 รับประทานอาหารเมื่อรู๎สึกวําหิว
38. การรับประทานอาหารในข๎อใดทําให๎มีสุขภาพดี
1 อาหารที่ปรุงสุกใหมํ ๆ
2 อาหารที่มีสีสันฉูดฉาด
3 อาหารที่มีแมลงวันตอม
4 อาหารที่ปรุงแบบสุก ๆ ดิบ ๆ
39. ข๎อใดกลําวไม่ถูกต๎อง
1 โรคติดตํอเกิดได๎ทั้งกับคนและสัตว๑
2 โรคติดตํอเป็นโรคที่สามารถป้องกันได๎
3 โรคติดตํอสามารถติดตํอจากคนสูํคนเทํานั้น
4 โรคติดตํอสามารถติดตํอจากสัตว๑ไปสูํคนได๎
40. ข๎อใดควรปฏิบัติเมื่อมีอาการน้ํามูกไหล
1 สูดน้ํามูกกลับเข๎าจมูกแรง ๆ
2 ใช๎ผ๎าสะอาดเช็ดน้ํามูกเบา ๆ
3 สั่งน้ํามูกแรง ๆ
4 ใช๎สําลีอุดจมูก
ส่วนที่ 2 : แบบปรนัย 4 ตัวเลือก เลือกคําตอบมากกวํา 1 คําตอบ
ข๎อ 41 = 2 คะแนน ข๎อ 42 = 3 คะแนน ข๎อ 43 = 2 คะแนน ข๎อ 44 = 3 คะแนน
ข๎อ 41-44 ตอบถูก 1 คําตอบให๎ 1 คะแนน
41. ข๎อใดจับคูํยาสามัญประจําบ๎านและอาการเจ็บป่วยได๎ถูกต๎อง (ให๎เลือก 2 คําตอบ)
1 ทิงเจอร๑ไอโอดีน : วิงเวียนศีรษะ
2 ยาธาตุน้ําแดง : ท๎องอืด ท๎องเฟ้อ
3 แอมโมเนียหอม : ท๎องรํวงอยํางรุนแรง
4 พาราเซตามอล : ปวดศีรษะ เป็นไข๎
42. ข๎อใดปฏิบัติได๎ถูกต๎อง (ให๎เลือก 3 คําตอบ)
1 ข๎ามถนนบริเวณทางม๎าลาย
2 วิ่งเลํนบนเรือที่กําลังแลํนอยูํ
3 ยืนเข๎าแถวขึ้นรถประจําทาง
4 หยุดรถเมื่อสัญญาณไฟจราจรเป็นสีแดง
43. การปฏิบัติตนในข๎อใดทําให๎เกิดอุบัติเหตุในโรงเรียน (ให๎เลือก 2 คําตอบ)
1 ใช๎ไม๎วิ่งไลํตีกันกับเพื่อน
2 เดินจับราวบันไดขณะขึ้น-ลงบันได
3 บอกครูหรือภารโรงเมื่อโต๏ะ เก๎าอี้ ชํารุด
4 ปิดสวิตช๑ไฟฟ้าขณะที่มือเปียกน้ํา
44. ถ๎าโดนมีดบาดมีเลือดออก สามารถห๎ามเลือดได๎อยํางไร (ให๎เลือก 3 คําตอบ)
1 นําน้ําแข็งวางบนบาดแผล
2 กดบาดแผลโดยใช๎นิ้วหัวแมํมือ
3 ใช๎ผ๎าเช็ดหน๎ากดบาดแผลไว๎
4 ใช๎เชือกรัดบริเวณใต๎บาดแผล
เฉลยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเตรียมสอบ O-NET
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

คาชี้แจง ให้ระบายคาตอบที่ถูกต้องลงในวงกลมตัวเลือกให้เต็มวง (ห้ามระบายนอกวง)

ส่วนที่ 1 : จํานวน 40 ข๎อ (ข๎อที่ 1-40 ข๎อละ 1 คะแนน รวม 40 คะแนน)

1. ข๎อใดเป็นงานทัศนศิลป์ที่พบได๎ในชีวิตประจําวัน

1 โอํงมังกร
2 กระจก
3 ถังน้ําพลาสติก
4 โทรศัพท๑เคลื่อนที่
2. ธงชาติไทยใช๎แมํสีกี่สี

1 1 สี 2 2 สี
3 3 สี 4 4 สี
3. การใช๎สีเทียนวาดภาพอิสระเป็นการฝึกอวัยวะใด
1 มือกับหู 2 ตากับขา
3 หูกับตา 4 มือกับตา
4. ภาพคนเลํนหิมะทําให๎เกิดความรู๎สึกใด
1 สดชื่น 2 หนาวเย็น
3 อบอุํน 4 เย็นสบาย
5. ข๎อใดเป็นการวาดรูปรํางให๎เป็นรูปทรง
1 การใช๎เส๎นที่หลากหลายวาดภาพ
2 การใช๎สีระบายภาพ
3 การใช๎สีหลายสีระบายภาพ
4 การลงแสงเงาให๎ภาพ
6. ถ๎านักเรียนต๎องการสร๎างสรรค๑งานปั้นที่ประหยัดที่สุด ควรเลือกใช๎วัสดุในข๎อใด
1 ดินน้ํามัน
2 ดินเหนียว
3 ปูนปลาสเตอร๑
4 กระดาษผสมกาว
7. การปั้นลอยตัวแตกตํางจากการปั้นประเภทอื่น ๆ อยํางไร
1 มองเห็นได๎ทั้งด๎านหน๎าและด๎านข๎าง
2 มองเห็นได๎ด๎านหน๎าด๎านเดียว
3 มองเห็นด๎านหลังด๎านเดียว
4 มองเห็นได๎ทุกด๎าน
8. หลังจากสร๎างสรรค๑ผลงานปั้นทุกครั้ง นักเรียนควรปฏิบัติอยํางไร
1 เก็บวัสดุอุปกรณ๑ทั้งหมดไปทิ้ง
2 เก็บเศษวัสดุอุปกรณ๑ทั้งหมดไว๎
3 ให๎เพื่อนเก็บวัสดุอุปกรณ๑ทั้งหมด
4 เก็บเศษวัสดุที่ไมํใช๎ทิ้งถังขยะ เก็บวัสดุ อุปกรณ๑ที่ยังใช๎ได๎ให๎เป็นระเบียบ
9. ข๎อใดเป็นภาพพิมพ๑ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
1 ภาพรอยเท๎าที่เกิดจากการย่ําของสุนัข
2 ภาพลายนิ้วมือของคนที่เกิดจากการกดสี
3 ภาพเหรียญที่เกิดจากการฝนสี
4 ภาพกุญแจที่เกิดจากการฝนสี
10. การพิมพ๑ภาพจากนิ้วมือ เป็นการพิมพ๑ภาพแบบใด
1 การกดสี 2 การฝนสี
3 การพับสี 4 การระบายสี

11. รูปรํางในข๎อใดไม่ใช่โครงรํางใบหน๎าคน
1 2

3 4

12. ภาพใบหน๎าผู๎สูงอายุจะเป็นอยํางไร
1 มีริ้วรอยเหี่ยวยํน 2 มีแก๎มแตํงตึง
3 มีผิวสีขาวชมพู 4 มีตากลมใส
13. งานปะติดเหมือนกับงานวาดอยํางไร
1 ใช๎อุปกรณ๑ในการสร๎างสรรค๑ที่เหมือนกัน
2 มีลักษณะงานเหมือนกัน
3 มีขั้นตอนการสร๎างสรรค๑ที่เหมือนกัน
4 ใช๎ความรู๎เรื่องสี การออกแบบ และความคิดสร๎างสรรค๑เหมือนกัน
14. ใครสร๎างสรรค๑ผลงานปะติดได๎ประหยัดที่สุด
1 กระปุก ใช๎กระดาษหนังสือพิมพ๑เกําสร๎างภาพปะติด
2 กร ใช๎กระดาษสีเพียงสีเดียวในการสร๎างภาพปะติด
3 กิ่ง ใช๎กระดาษสีที่หลากหลายในการสร๎างภาพปะติด
4 แก๎ว ใช๎กระดาษนิตยสารใหมํในการสร๎างภาพปะติด
15. งานทัศนศิลป์ในแตํละท๎องถิ่นไมํได๎สร๎างขึ้นจากอะไร
1 อาชีพของคนในท๎องถิ่น
2 ความต๎องการของผู๎นําท๎องถิ่น
3 ลักษณะภูมิประเทศของท๎องถิ่นนั้น ๆ
4 ความเชื่อ ขนบธรรมเนียมและประเพณีแตํละท๎องถิ่น
16. การแกะสลักในข๎อใดเป็นผลงานที่โดดเดํนของภาคใต๎
1 การแกะสลักช๎าง
2 การแกะสลักตุ๏กตาไม๎
3 การแกะสลักเรือกอและ
4 การแกะสลักหนังใหญํวัดขนอน
17. การอนุรักษ๑งานทัศนศิลป์ในท๎องถิ่นข๎อใดเหมาะสมที่สุดสําหรับนักเรียน
1 ชักชวนชาวตํางชาติมาเที่ยวชมงานทัศนศิลป์ในท๎องถิ่น
2 ขาดเรียนเพื่อไปขายของที่ระลึกให๎กับนักทํองเที่ยว
3 ตั้งใจศึกษาที่มาและวิธีการสร๎างงานทัศนศิลป์ในท๎องถิ่น
4 ศึกษางานทัศนศิลป์อยํางเดียวไมํต๎องเรียนวิชาอื่น
18. ข๎อใดกลําวถึงภาพลายเส๎นได๎ถูกต๎อง
1 ภาพที่ไมํลงสี 2 ภาพวาดจากสีไม๎
3 ภาพวาดจากพูํกันและสีน้ํา 4 ภาพที่ใช๎สีลงแสงเงา
19. ถ๎านักเรียนต๎องการวาดภาพที่แสดงถึงความนุํมนวลและพลิ้วไหว ควรเลือกใช๎เส๎นชนิดใด
1 เส๎นตรง 2 เส๎นขด
3 เส๎นหยัก 4 เส๎นโค๎ง
20. ข๎อใดคือผลงานการออกแบบจากจินตนาการ
1 2

3 4
21. เพลงชาติไทยเป็นเพลงที่แสดงให๎เห็นถึงสิ่งใด
1 ความเป็นเอกราช
2 ความขยันหมั่นเพียร
3 ความเจริญรุํงเรืองของชาติ
4 ความมั่นคงของประเทศชาติ
22. จังหวะเป็นสิ่งสําคัญตํอการบรรเลงบทเพลงอยํางไร
1 ทําให๎บทเพลงมีทํวงทํานองที่แปลกใหมํ
2 ทําให๎ผู๎บรรเลงมีความชํานาญด๎านดนตรีมากขึ้น
3 ทําให๎บทเพลงมีเนื้อหา ความหมายสมบูรณ๑ขึ้น
4 ทําให๎การบรรเลงดนตรีมีความพร๎อมเพรียงและไพเราะ

23. ข๎อใดไม่ใช่หลักการขับร๎องเพลงที่ถูกต๎อง
1 ร๎องเพลงตามจังหวะและทํานอง
2 แสดงสีหน๎าเบื่อหนํายขณะร๎องเพลง
3 แสดงอารมณ๑เหมาะสมกับเนื้อหาของเพลง
4 ฝึกอํานเนื้อร๎องตามวรรคตอนของเพลง
24. ดนตรีพื้นเมืองในแตํละภูมิภาคสะท๎อนให๎เห็นถึงสิ่งใด
1 วิถีการดํารงชีวิตของคนในท๎องถิ่น
2 จํานวนประชากรของคนในท๎องถิ่น
3 ภูมิอากาศของแตํละท๎องถิ่น
4 ความเจริญในท๎องถิ่น
25. บทเพลงสําคัญของชาติมีบทบาทหน๎าที่อยํางไร
1 ทําให๎คนในชาติเกิดความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย๑
2 ทําให๎คนไทยเกิดความกตัญ๒ูตํอชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย๑
3 ทําให๎ประชาชนทุกคนมีความเข๎มแข็ง
4 ทําให๎เกิดความฮึกเหิม
26. การตรวจสอบเครื่องดนตรีกํอนการบรรเลงจะเกิดผลอยํางไร
1 ทําให๎เครื่องดนตรีดูใหมํขึ้นเวลาบรรเลง
2 ทําให๎บรรเลงดนตรีได๎ถูกต๎อง ไมํมีข๎อผิดพลาด
3 ทําให๎บรรเลงดนตรีได๎ไพเราะขึ้นกวําเดิม
4 ทําให๎ผู๎ฟังเข๎าใจความหมายของบทเพลงมากขึ้น
27. ข๎อใดกลําวถึงความสําคัญของดนตรีกับคนในท๎องถิ่นถูกต๎อง
1 ดนตรีทําให๎คนในท๎องถิ่นมีความขยันหมั่นเพียร
2 ดนตรีทําให๎คนในท๎องถิ่นมีความสุข สนุกสนาน
3 ดนตรีชํวยให๎คนในท๎องถิ่นมีการศึกษาที่ดีขึ้น
4 ดนตรีชํวยทําให๎คนในท๎องถิ่นทันสมัย
28. ข๎อใดคือความแตกตํางของเครื่องดนตรีพื้นบ๎านภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับภาคอื่น
1 เครื่องดนตรีที่ใช๎จะสวยงามกวําภาคอื่น
2 อุปกรณ๑ที่ใช๎ทําเครื่องดนตรีทันสมัยกวําภาคอื่น
3 ไมํเน๎นความสวยงามแตํเน๎นการใช๎งานมากกวําภาคอื่น
4 เครื่องดนตรีมีลักษณะใหญํและใช๎งานงํายกวําภาคอื่น
29. การแสดงประกอบเพลงที่เกี่ยวข๎องกับธรรมชาติและสัตว๑เป็นการฝึกทักษะด๎านใด
1 ความกล๎าหาญ
2 ความมีน้ําใจ
3 ความคิดสร๎างสรรค๑
4 ความอดทนเข๎มแข็ง
30. ดนตรีมีบทบาทสําคัญในการจัดกิจกรรมอยํางไร
1 ทําให๎งานสนุกสนาน ครื้นเครง
2 ทําให๎มีผู๎เข๎ารํวมงานมากขึ้น
3 ทําให๎บรรยากาศในงานเรียบงําย
4 ทําให๎ผู๎มารํวมงานสบายใจ
31. การแสดงทําทางประกอบเพลงในน้ํามีปลา ในนามีข๎าว ควรแสดงด๎วยอารมณ๑ความรู๎สึกอยํางไร
1 เศร๎าสร๎อย
2 ฮึกเหิม คึกคัก
3 เข๎มแข็ง เด็ดเดี่ยว
4 มีความสุข สนุกสนาน
32. การเป็นผู๎ชมที่ดีมีความสําคัญตํอนาฏศิลป์ไทยอยํางไร
1 เป็นการชํวยอนุรักษ๑นาฏศิลป์ไทย
2 เป็นการสํงเสริมให๎ผู๎แสดงมีชื่อเสียง
3 ทําให๎การแสดงนาฏศิลป์ทันสมัยขึ้น
4 ทําให๎การแสดงนาฏศิลป์ได๎รับความนิยม
33. ภาษาทําทางนาฏศิลป์ไทยข๎อใดที่มีลักษณะของการสะดุ๎งตัวและสะอื้น
1 ทําโกรธ
2 ทําประชดประชัน
3 ทําเสียใจ
4 ทําเยาะเย๎ย ถากถาง
34. หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 การแสดงรําวงมาตรฐานมีลักษณะเป็นอยํางไร
1 ชายหญิงนั่งล๎อมวงปรบมือตามจังหวะและรํายรํารอบ ๆ วง
2 ชายหญิงแตํงตัวชุดไทยเดิมรํายรําบนเวทีเป็นวง
3 ชายหญิงแตํงตัวตามสมัยนิยมและผู๎รําจะต๎องซื้อบัตรเพื่อขึ้นไปรําบนเวที
4 ชายหญิงจับคูํกันแตํงตัวตามสบายและเลํนรําวงในลานกลางแจ๎ง
35. เซิ้งบั้งไฟมีขึ้นเพื่อจุดประสงค๑ในข๎อใด
1 เพื่อให๎ชาวบ๎านอยูํดีมีความสุข
2 เพื่อให๎คนไทยในท๎องถิ่นร่ํารวย
3 เพื่อผํอนคลายความเหน็ดเหนื่อย
4 เพื่อให๎ฝนตกตามฤดูกาล

36. ข๎อใดไม่ใช่ที่มาของนาฏศิลป์ไทย
1 การเลียนแบบทําทางของคน
2 การละเลํนของชาวบ๎านในท๎องถิ่น
3 การรับความรู๎ที่ถํายทอดมาจากครูอาจารย๑
4 การเลียนแบบศิลปวัฒนธรรมของชาติอื่น ๆ
37. ผู๎แสดงที่ดีควรมีลักษณะอยํางไร
1 แสดงเฉพาะเรื่องที่สนใจ
2 ทุํมเทและแสดงอยํางเต็มที่
3 เลือกแสดงกับผู๎แสดงที่ชอบเทํานั้น
4 มาฝึกซ๎อมทุกวันแตํมาไมํตรงเวลานัด
38. นิทานในข๎อใดเหมาะสมที่จะนํามาแสดงทําทางเคลื่อนไหวเลียนแบบในชั้นเรียนมากที่สุด
1 กระตํายกับเตํา
2 แจ็คผู๎ฆํายักษ๑
3 ผาแดงนางไอํ
4 หัวล๎านนอกครู
39. ข๎อใดเป็นการบูรณาการนาฏศิลป์กับกลุํมสาระการเรียนรู๎การงานอาชีพและเทคโนโลยีที่ถูกต๎อง
1 บริหารรํางกายกํอนการแสดง
2 ตรวจสอบอุปกรณ๑ไฟฟ้าตําง ๆ
3 ประดิษฐ๑งอบที่ใช๎ในการแสดงระบําชาวนา
4 ค๎นคว๎าประวัติความเป็นมาของการแสดงฟ้อนเล็บ
40. ข๎อใดคือประโยชน๑ที่ได๎รับจากการนํานาฏศิลป์บูรณาการกับกลุํมสาระการเรียนรู๎อื่น
1 ได๎รับความรู๎เพิ่มมากขึ้น
2 ทําให๎สุขภาพรํางกายสมสํวน
3 สํงเสริมให๎มีบุคลิกภาพดีขึ้น
4 ทําให๎เป็นคนที่มีความสามารถพิเศษ
ส่วนที่ 2 : ข๎อ 41-42 เลือกคําตอบที่ถูกต๎องให๎ครบจํานวน 5 คําตอบ ตอบถูก 1 คําตอบ ให๎ 1 คะแนน
(คะแนนเต็ม 10 คะแนน ข๎อละ 5 คะแนน)
41. ข๎อใดเป็นงานทัศนศิลป์ท๎องถิ่น
1 หมอนตุ๏กตา
2 หนังตะลุง
3 ตุ๏กตาไม๎แกะสลัก
4 โทรศัพท๑เคลื่อนที่
5 ตะกร๎าหวาย
6 ผ๎าไหมทอมือ
7 แจกันพลาสติกสีหวาน
8 กระเป๋ายํานลิเภา
42. ข๎อใดที่เกี่ยวข๎องกับดนตรีพื้นบ๎าน (5 คําตอบ)
1 มีความเรียบงําย ไมํซับซ๎อน
2 มีจังหวะ ทํานองที่ทันสมัยเหมาะกับคนในสังคม
3 แสดงถึงวิถีชีวิต ความเป็นอยูํของคนในท๎องถิ่น
4 ใช๎เครื่องดนตรีสากลมาบรรเลงผสมผสานกับการแสดง
5 บทเพลงสํวนใหญํมีเนื้อหาปลุกใจให๎กับคนในสังคม
6 ใช๎เครื่องดนตรีในท๎องถิ่นบรรเลงประกอบการแสดง
7 บทเพลงสํวนใหญํจะมีลักษณะเป็นคํากลอนร๎องโต๎ตอบกันและใช๎ภาษาท๎องถิ่น
8 เป็นภูมิปัญญาท๎องถิ่นของชาวบ๎าน ที่เป็นมรดกของท๎องถิ่น
เฉลยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเตรียมสอบ O-NET
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ส่วนที่ 1

1. 1 2. 2 3. 4 4. 2 5. 4
6. 2 7. 4 8. 4 9. 1 10. 1
11. 3 12. 1 13. 4 14. 1 15. 2
16. 3 17. 3 18. 1 19. 4 20. 4
21. 1 22. 4 23. 2 24. 1 25. 1
26. 2 27. 2 28. 3 29. 3 30. 1
31. 4 32. 1 33. 3 34. 3 35. 4
36. 4 37. 2 38. 1 39. 3 40. 1

ส่วนที่ 2

41. 2 , 3 , 5 , 6 , 8

42. 1 , 3 , 6 , 7 , 8
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเตรียมสอบ O-NET
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

คาชี้แจง ให้ระบายคาตอบที่ถูกต้องลงในวงกลมตัวเลือกให้เต็มวง (ห้ามระบายนอกวง)

ส่วนที่ 1 : แบบปรนัย 4 ตัวเลือก แตํละข๎อมีคําตอบที่ถูกต๎องที่สุดเพียงคําตอบเดียว จํานวน 40 ข๎อ (1-40) ข๎อละ 1 คะแนน


รวม 40 คะแนน

1. ข๎อใดเรียงลําดับขั้นตอนการจัดเก็บของเลํนได๎ถูกต๎อง

1. แยกประเภทของเลํน
2. จัดเก็บของเลํนเข๎าที่
3. ทําความสะอาดของเลํน
4. ทําความสะอาดกลํองใสํของเลํน
เลํน
1 1 2 3 4
2 1 3 2 4
3 1 3 4 2
4 4 3 2 1
2. การจับแก๎วน้ําที่ไมํมีหู ข๎อใดถูกต๎องที่สุด

1 ใช๎นิ้วกลางกับนิ้วโป้งจับที่ปากแก๎ว
2 ใช๎นิ้วทั้งห๎าจับก๎นแก๎ว
3 วางนิ้วทั้งห๎าครํอมที่ปากแก๎ว
4 วางนิ้วชี้ กลาง นาง และก๎อยจับด๎านหน๎าและนิ้วโป้งด๎านหลังกึ่งกลางแก๎ว
3. ข๎อใดเป็นการแตํงกายที่เหมาะสมกับสถานที่มากที่สุด

1 สวมชุดนักเรียนไปโรงเรียน
2 สวมชุดนอนไปเดินตลาดนัด
3 สวมเสื้อแขนสั้นและกางเกงขาสั้นไปวัด
4 สวมชุดวํายน้ําไปรํวมงานวันเกิด

4. บุคคลใดปฏิบัติตนไม่เหมาะสมตามบทบาท หน๎าที่

1 แมํซํอมแซมเสื้อผ๎าให๎น๎อง 2 พํอตัดหญ๎าในสนาม
3 ตัวเราล๎างแก๎วน้ํา 4 น๎องถูพื้นบ๎าน
5. ถ๎าล๎างจานชามไมํสะอาดจะเกิดผลอยํางไร
1 จานชามตกแตก 2 เปลืองน้ําประปา
3 เป็นแหลํงสะสมเชื้อโรค 4 เสียเวลาในการล๎างมากขึ้น
6. การกวาดพื้นที่ถูกต๎องควรปฏิบัติอยํางไร
1 กวาดจากมุมห๎องไปกลางห๎อง
2 กวาดจากหน๎าห๎องไปกลางห๎อง
3 กวาดจากกลางห๎องไปยังมุมห๎อง
4 กวาดจากสํวนใดสํวนหนึ่งของห๎องไปกลางห๎อง
7. ข๎อใดตํอไปนี้เป็นลําดับขั้นตอนการล๎างผลไม๎ที่ถูกต๎อง

1. จัดเรียงผลไม๎ใสํจาน
2. นําผลไม๎ใสํตะกร๎าเพื่อให๎สะเด็ดน้ํา
3. ใช๎มือถูผิวผลไม๎เบา ๆ

1 3 2 1
2 1 3 2
3 2 3 1
4 3 1 2
8. ถ๎าจัดวางรองเท๎าได๎เป็นระเบียบจะเกิดผลอยํางไร
1 มีเวลาวํางมากขึ้น
2 หยิบใช๎งานได๎สะดวก
3 ประหยัดเวลาในการจัดเก็บ
4 มีรองเท๎ามาวางด๎วยกันมากขึ้น
9. การเพาะเมล็ดวิธีใดให๎ผลผลิตมากที่สุด
1 เพาะในภาชนะสําเร็จรูป
2 เพาะในกระป๋องนม
3 เพาะในแปลง
4 เพาะในกระบะ
10. ถ๎ามีวัชพืชต๎นเล็ก ๆ ขึ้นที่แปลงผัก นักเรียนจะทําอยํางไร
1 ใช๎กรรไกรตัดหญ๎าตัด
2 ใช๎จอบขุดวัชพืช
3 ใช๎สารเคมีโรยให๎ทั่วแปลงผัก
4 ใช๎มือถอนขึ้นมา

11. ข๎อใดไม่ใช่ขั้นตอนการทําความสะอาดห๎องเรียนที่ถูกต๎อง
1 ใช๎ผ๎าขี้ริ้วชุบน้ําบิดหมาดเช็ดหน๎าตําง
2 ใช๎ไม๎กวาดขนไกํปัดฝุ่นบนโต๏ะ
3 เคาะแปรงลบกระดานในถังขยะ
4 ใช๎ไม๎กวาดดอกหญ๎ากวาดหยากไยํบนเพดาน
12. ชุดสีขาวดําแบบสุภาพควรสวมใสํในโอกาสใด
1 งานศพ 2 งานแตํงงาน
3 งานกีฬาสี 4 งานวันเกิด
13. “ใช๎กาวยางติดพื้นรองเท๎าที่หลุดเข๎าไปดังเดิม” ข๎อความนี้ใช๎เทคโนโลยีข๎อใดในการทํางาน
1 กาวยาง 2 พื้นรองเท๎าที่หลุด
3 ไขควง 4 กาวลาเทกซ๑
14. ถ๎ารดน้ําผักที่ปลูกมากเกินไปจะเกิดผลอยํางไร
1 ผักเนําตาย 2 ผักเป็นโรค
3 ผักมีหนอนเจาะ 4 ผักเหี่ยวแห๎ง
15. วัสดุท๎องถิ่นในข๎อใดใช๎ทําเครื่องแขวนได๎เหมาะสมที่สุด
1 ดอกไม๎แห๎ง
2 ผ๎าทอพื้นเมือง
3 เปลือกหอย
4 ก๎อนหิน
16. อุปกรณ๑ข๎อใดใช๎ตอก เคาะ ทุบวัสดุตําง ๆ
1 ค๎อน
2 คีม
3 มีด
4 เลื่อยฉลุ
17. ข๎อมูลราคาสินค๎ามีประโยชน๑ตํอนักเรียนอยํางไร
1 ชํวยให๎ซื้อสินค๎าได๎รวดเร็ว
2 ชํวยเปรียบเทียบราคาสินค๎า
3 ชํวยให๎ซื้อสินค๎าได๎คุณภาพดี
4 ชํวยให๎มีข๎อมูลไปพูดคุยกับผู๎อื่น
18. ข๎อใดใช๎ความคิดยืดหยุํนมากที่สุด
1 นําแกนกระดาษชําระมาประดิษฐ๑ที่ใสํปากกาแทนกลํองกระดาษ
2 นําหลอดพลาสติกมาประดิษฐ๑เป็นเครื่องแขวน
3 นํากล๎วยสุกมาทําขนมกล๎วยกวน
4 ใช๎กาวลาเทกซ๑ติดวัสดุทุกชนิด
19. เพราะเหตุใดจึงต๎องซํอมแซมของใช๎ด๎วยตนเอง
1 เพราะประหยัดคําใช๎จําย
2 เพราะประหยัดเวลา
3 เพราะต๎องการได๎รับคําชมเชย
4 เพราะเป็นหน๎าที่ที่ต๎องทํา
20. ถ๎ามีทรายย๎อมสี กาว และไม๎อัด นักเรียนจะประดิษฐ๑สิ่งของในข๎อใด
1 ที่ทับกระดาษ 2 ภาพติดผนัง
3 ดอกไม๎ประดิษฐ๑ 4 เข็มกลัด
21. ถ๎าต๎องการรู๎ประวัติความเป็นมาของจังหวัดที่นักเรียนอาศัยอยูํจะต๎องหาข๎อมูลจากแหลํงใด
1 พี่ชาย
2 พิพิธภัณฑ๑ของจังหวัด
3 คุณตา
4 ที่วําการอําเภอ
22. การใช๎คอมพิวเตอร๑ข๎อใดเป็นประโยชน๑ตํอนักเรียนมากที่สุด
1 วาดภาพสํงครู
2 สํงจดหมายทางอินเทอร๑เน็ต
3 ค๎นหาบทความมาใช๎ประกอบการทํารายงาน
4 พิมพ๑บันทึกประจําวันไว๎อํานเอง
23. ขั้นตอนใดจะได๎ข๎อมูลที่นําเชื่อถือมาใช๎อ๎างอิง
1 การสรุปผล
2 การเลือกแหลํงข๎อมูล
3 การกําหนดหัวข๎อที่ต๎องการ
4 การค๎นหาและรวบรวมข๎อมูล
24. การนําเสนอข๎อมูลวิธีใดสามารถทําคนเดียวและนําเสนอข๎อมูลภาพเคลื่อนไหวได๎
1 การทําเอกสารรายงาน
2 การนําเสนอด๎วยโปรแกรมคอมพิวเตอร๑
3 การจัดทําป้ายประกาศ
4 การนําเสนอข๎อมูลหน๎าชั้นเรียน

25. การปฏิบัติตนข๎อใดดูแลรักษาอุปกรณ๑คอมพิวเตอร๑ไม่ถูกต๎อง
1 ไมํขีดเขียนบนอุปกรณ๑คอมพิวเตอร๑ทุกชิ้น
2 วางเครื่องดื่มบริเวณที่มีเครื่องคอมพิวเตอร๑
3 ศึกษาวิธีการใช๎งานอุปกรณ๑คอมพิวเตอร๑กํอนใช๎
4 ใช๎ผ๎าแห๎งเช็ดทําความสะอาดเป็นประจํา
26. ถ๎าต๎องการทราบการเจริญเติบโตของต๎นถั่วเขียว นักเรียนจะใช๎การค๎นหาข๎อมูลวิธีใด
1 การอํานนิตยสาร
2 การสัมภาษณ๑
3 การใช๎แบบสอบถาม
4 การสังเกตด๎วยตนเอง
27. ชิ้นสํวนของเลํนพลาสติกแตกหัก นักเรียนจะซํอมแซมอยํางไร
1 ใช๎ไขควงหมุนชิ้นสํวนที่แตกหักเข๎าไปดังเดิม
2 ใช๎ประแจไขชิ้นสํวนที่แตกหักเข๎าไปดังเดิม
3 ใช๎ด๎ายเย็บชิ้นสํวนที่แตกหักเข๎าไปดังเดิม
4 ใช๎กาวติดชิ้นสํวนที่แตกหักเข๎าไปดังเดิม
28. การประดิษฐ๑ของใช๎ของตกแตํงจากวัสดุในท๎องถิ่นมีประโยชน๑อยํางไร
1 คนในท๎องถิ่นได๎ทํางานประดิษฐ๑ชนิดเดียวกัน
2 วัสดุในท๎องถิ่นมีราคาแพงมากขึ้น
3 เพิ่มมูลคําของวัสดุในท๎องถิ่น
4 ลดปริมาณขยะในท๎องถิ่น
29. สิ่งของเครื่องใช๎ที่ประหยัดพลังงานตรงกับข๎อใด
1 ก๏อกน้ําที่มีเครื่องหมาย มอก.
2 ขวดแก๎วที่มีเครื่องหมายรีไซเคิล
3 เครื่องคิดเลขพลังงานแสงอาทิตย๑
4 พัดลมที่รับประกัน 5 ปี
30. การตรวจดูวํากระเป๋าสะอาดหรือไมํหลังเช็ดแล๎วตรงกับกระบวนการใด
1 การวางแผนการทํางาน
2 การประเมินผล
3 การปฏิบัติงานตามแผน
4 การกําหนดเป้าหมายในการทํางาน
31. เพราะเหตุใดต๎องถูพื้นจากด๎านในไปด๎านนอก
1 เพราะพื้นจะได๎เงางาม
2 เพราะต๎องการประหยัดน้ํา
3 เพราะผ๎าขี้ริ้วจะได๎ไมํสกปรก
4 เพราะพื้นจะได๎ไมํเปื้อนซ้ําอีก
32. ต๎นไม๎ต๎นเล็ก ควรใช๎อุปกรณ๑ใดรดน้ํา
1 สายยาง 2 บัวรดน้ํา
3 กระป๋อง 4 กระบอกฉีดน้ํา
33. การติดตํอสื่อสารด๎วยข๎อความ (SMS) เป็นการสื่อสารโดยใช๎อุปกรณ๑ชนิดใด
1 กล๎องดิจิทัล
2 โทรทัศน๑
3 วิทยุ
4 โทรศัพท๑เคลื่อนที่
34. เครื่องมือใดใช๎เก็บข๎อมูลจากการสัมภาษณ๑
1 เครื่องบันทึกเสียง
2 โทรทัศน๑
3 คอมพิวเตอร๑
4 วิทยุ
35. อุปกรณ๑ในข๎อใดใช๎เลื่อนตัวชี้และคลิกคําสั่ง
1 ซีพียู 2 เมาส๑
3 จอภาพ 4 ลําโพง
36. กระดาษชนิดใดที่ควรนํามาพับจรวด
1 กระดาษสมุดที่ไมํใช๎แล๎ว 2 กระดาษลัง
3 กระดาษชําระ 4 กระดาษแก๎ว
37. การใช๎สิ่งของเครื่องใช๎ในข๎อใดมีสํวนชํวยอนุรักษ๑สิ่งแวดล๎อม
1 กลํองโฟม
2 เสื้อผ๎าที่ทําจากขนสัตว๑
3 กระป๋องอะลูมิเนียม
4 ถุงพลาสติกที่ยํอยสลายได๎ตามธรรมชาติ
38. เพราะเหตุใดจึงต๎องอํานคูํมือที่แนบมากับสิ่งของกํอนใช๎งาน
1 เพราะจะได๎ใช๎งานอยํางถูกวิธี
2 เพราะจะได๎ฝึกทักษะการอําน
3 เพราะจะได๎นําไปแนะนําผู๎อื่น
4 เพราะจะได๎ไมํเสียเปรียบร๎านค๎า
39. นักเรียนควรนํากระดาษสมุดที่เหลือใช๎มาใช๎ซ้ําอยํางไรจึงจะมีประโยชน๑มากที่สุด
1 พับจรวดเลํนกับเพื่อน
2 วาดภาพแล๎วนําไปติดผนัง
3 ทําบันทึกชํวยจํา
4 ใช๎เช็ดกระจกเงาที่บ๎าน
40. อุปกรณ๑ใดใช๎กําจัดฝุ่นบนแผงแป้นอักขระ
1 กระดาษชําระ
2 ผ๎าชุบน้ํา
3 แปรงขนอํอน
4 แผํนขัด
ส่วนที่ 2
41. ข๎อใดแสดงวํา ด.ญ.นารี มีเจตคติที่ดีตํอการอนุรักษ๑ทรัพยากรและสิ่งแวดล๎อม (ให๎เลือก 4 คําตอบ)
1 ด.ญ.นารีถํายภาพหมวกที่ประดิษฐ๑จากกลํองนมเหลือใช๎
2 ด.ญ.นารีปิดก๏อกน้ําขณะแปรงฟัน
3 ด.ญ.นารีชํวยเพื่อนจัดป้ายนิเทศเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติในประเทศไทย
4 ด.ญ.นารีทิ้งขวดแก๎วใช๎แล๎วลงในถังขยะที่มีเครื่องหมาย
5 ด.ญ.นารีชํวยเพื่อนขายสินค๎าที่ประดิษฐ๑จากกระดาษสา
6 ด.ญ.นารีนําขวดน้ําพลาสติกมาประดิษฐ๑กระเช๎าแขวนปลูกต๎นไม๎ในบ๎าน
7 ด.ญ.นารีปิดสวิตช๑ไฟในห๎องที่ไมํใช๎งาน

42. จงหาความสัมพันธ๑ของ “การทํางานเพื่อสํวนรวม” (คะแนนเต็ม 3 คะแนน)

ตารางที่ 1 1 2 3 4
ความหมาย งานที่มีคนหลายคน งานซํอมแซม งานดูแลรักษา งานสร๎างสิ่งของ
ชํวยกันทํา ของใช๎ที่ใช๎อุปกรณ๑ และทําความสะอาด ที่มีประโยชน๑
หลายอยําง ของใช๎หรือสถานที่
ที่ใช๎รํวมกัน
ตารางที่ 2 1 2 3 4
ประโยชน์ของงาน ยืดอายุการใช๎งาน ประหยัดเวลาและ ได๎รับคําชมเชย มีทักษะและ
และสร๎าง แรงงาน ความชํานาญ
บรรยากาศที่ดี ในการทํางาน
ตารางที่ 3 1 2 3 4
งานที่เกี่ยวข้อง ซํอมแซมของเลํน จัดหนังสือ ทําที่คั่นหนังสือ ทําความสะอาด
และอุปกรณ๑ จากวัสดุธรรมชาติ ห๎องเรียน
การเรียน
ตามตารางเรียน
ตัวอย่าง

1 2 3

คาตอบ

43. แบบกลุํมคําตอบสัมพันธ๑กัน (คะแนนเต็ม 3 คะแนน ตอบถูกครบ 3 หมวด ได๎ 1 คะแนน)

ตัวอย่าง
โจทย๑กําหนดให๎เลือกตัวเลือกจากหมวดชิ้นงานประดิษฐ๑ หมวดวัสดุในท๎องถิ่น และหมวดอุปกรณ๑
มาใช๎ตามลําดับ ซึ่งหากผู๎สอบต๎องการเลือกงานประดิษฐ๑ที่ทับกระดาษ (หมายเลข 1) โดยเลือกวัสดุหินแมํน้ํา
(หมายเลข 7) และเลือกชนิดของอุปกรณ๑ คือ กาวซิลิโคน ปืนยิงกาว สีโปสเตอร๑ พูํกัน จานสี (หมายเลข 0)
ผู๎สอบจะต๎องกรอกรหัสคําตอบ 1 7 0 ลงในชํองวํางที่กําหนดให๎
รหัส หมวดชิ้นงานประดิษฐ์ รหัส หมวดวัสดุในท้องถิ่น
0 เข็มกลัด 0 เปลือกหอย
1 ดอกไม๎ประดิษฐ๑ 1 กระดาษสา กระดาษยํน
2 เครื่องแขวน 2 กระดาษ เมล็ดธัญพืช
3 บัตรอวยพร 3 ผ๎าพื้นเมือง
4 กระเป๋าใสํเงิน 4 เกล็ดปลา

รหัส หมวดอุปกรณ์ ข้อที่ รหัส


0 เข็ม ด๎าย กรรไกร ซิป 1
1 กรรไกร กาวลาเทกซ๑ 2
2 กาวซิลิโคน ปืนยิงกาว 3
3 ตะปู ค๎อน เอ็นตกปลา
4 กาวลาเทกซ๑ กรรไกร ด๎าย
เฉลยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเตรียมสอบ O-NET
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ส่วนที่ 1

1. 3 2. 4 3. 1 4. 4 5. 3
6. 1 7. 1 8. 2 9. 3 10. 4
11. 4 12. 1 13. 1 14. 1 15. 3
16. 1 17. 2 18. 1 19. 1 20. 2
21. 2 22. 3 23. 2 24. 2 25. 2
26. 4 27. 4 28. 3 29. 3 30. 2
31. 4 32. 2 33. 4 34. 1 35. 2
36. 1 37. 4 38. 1 39. 3 40. 3

ส่วนที่ 2

41. 2 , 4 , 6 , 7

42. 3 1 4
43. ข้อที่ รหัส
1 (1 1 4)
2 (3 2 1)
3 (4 3 0)
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเตรียมสอบ O-NET
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

คาชี้แจง ให้ระบายคาตอบที่ถูกต้องลงในวงกลมตัวเลือกให้เต็มวง (ห้ามระบายนอกวง)


ส่วนที่ 1 : แบบปรนัย 4 ตัวเลือก แต่ละข้อมีคาตอบที่ถูกต้องที่สุด เพียงคาตอบเดียว
จานวน 40 ข้อ (ข้อ 1-40) ข้อละ 1 คะแนน รวม 40 คะแนน
1. Spiders _____ eight legs.
1 is
2 got
3 has
4 have got
2. A: __________________________
B: She lives in Bangkok, Thailand.
1 Where does she live?
2 Where does she lives?
3 When does she live?
4 What does she live?
3. English is my favorite _____ .
1 country
2 subject
3 town
4 place
4. A: Is Tim listening to music?
B: _____________________
1 Yes, he does.
2 Yes, he is.
3 Yes, he listens.
4 Yes, he isn’t.
5. My brother likes painting. He wants to be a _____ .
1 pilot 2 nurse
3 soldier 4 painter
6. Australia is the _____ island in the world.
1 bigger
2 biggest
3 more big
4 most big
7. Penguins ____ fly.
1 does
2 is
3 can
4 can’t
8. _____ the evening, Peter usually plays football with his friends.
1 On
2 In
3 At
4 From
9. A: _____ do you visit your granny?
B: Twice a week.
1 When
2 Where
3 How often
4 How many
10. Billy always tells jokes and makes people laugh. He’s _____ .
1 angry
2 funny
3 shy
4 lazy
11. I’m thirsty. Can I have some _____, please?
1 glass
2 bread
3 jacket
4 juice
12. A: Does he like playing tennis?
B: ______________________
1 Yes, he does.
2 He didn’t.
3 No, he don’t.
4 Yes, he can.
13. There is _____ rice in the bowl.
1 a lot
2 a little
3 a
4 not
14. You _____ eat a lot of biscuits. It’s bad for your health.
1 can
2 must
3 should
4 shouldn’t
15. A: ________________ next week?
B: I’m going to go fishing with my brother.
1 What are you going to do
2 Where are you going to go
3 What time are you going
4 What day are you going to do
16. There isn’t _____ butter in the kitchen.
1 some
2 any
3 an
4 a lot
17. Please don’t tell other people about it. It’s a ____ .
1 subject
2 secret
3 story
4 strong
18. A: What did you give to your sister on her birthday?
B: _______________________________________
1 I give her a new doll.
2 I did give her a new doll.
3 I gave her a new doll.
4 I’m going to give her a new doll.
19. The rabbit is _____ the white dog and the brown dog.
1 in 2 at
3 to 4 between
20. A: What does your mother do?
B: ______________________
1 She has two sons.
2 She is a teacher.
3 She is kind.
4 She is cooking a meal.
21. A: Where are you from?
B: ________________
1 I’m Tony.
2 I’m from Japan.
3 I’m a new student.
4 I’m nine years old.
22. I’m going to _____ fruit.
1 drink
2 eat
3 drinking
4 eating
23. I always have _____ for lunch.
1 noddles
2 noodel
3 noodle
4 noodles
24. A: _____ cap are these?
B: They are Nick’s caps.
1 Who
2 What
3 Whose
4 How many
25. Robbie has a T-shirt. It is _____ T-shirt.
1 his
2 him
3 he
4 he’s
26. They are not Joe’s books. They are ____ books.
1 myself
2 me
3 my
4 my’s
27. Liz and Mike _____ English at this moment.
1 study
2 studies
3 is studying
4 are studying
28. A: _____ Mr. James a butcher?
B: Yes, he is.
1 Does 2 Is
3 Can 4 Do
29. A: ______________________
B: It’s six o’ clock.
1 When is the time?
2 What time is it?
3 What time does it?
4 When does the time?
30. Collecting stamps is my _____ .
1 doing
2 shopping
3 hobby
4 sport
31. The bank is _____ the road.
1 to
2 in
3 on
4 under
32. A: Would you like to go to the shopping mall with me?
B: __________________________
1 No, I’m not.
2 Sorry. I like the shopping mall.
3 Yes. I’m busy today.
4 Sure. Let’s go.
33. Mrs. Smith likes ____ . She cooks dinner for her children every day.
1 cook
2 cooking
3 cooker
4 cookies
34. Everybody likes Sandy. She’s _____ .
1 unhappy
2 scary
3 heavy
4 friendly
35. Whales _____ in the sea.
1 lives
2 is living
3 live
4 are living
36. A _____ is a place where we buy books.
1 book shopping
2 bookshop
3 book place
4 papershop
37. There __________ strawberries in the basket.
1 is any
2 isn’t some
3 aren’t some
4 aren’t any
38. My baby is very ill. I’m going to take him to the _____ .
1 store
2 hospital
3 post office
4 barber shop
39. A: What was the weather like yesterday?
B: ______________________________
1 It was hot and sunny.
2 It is hot and sunny.
3 It hot and sunny.
4 It can hot and sunny.
40. Yesterday, I _____ to the restaurant and _____ a pizza for my mother.
1 go / bought
2 went / bought
3 go / buy
4 went / buy
ส่วนที่ 2 : แบบปรนัย 4 ตัวเลือก
ข้อ 41 ถึงข้อ 43 มีคาตอบที่ถูกต้อง 2 คาตอบ (คาตอบละ 1 คะแนน)
ข้อ 44 แต่ละข้อย่อยมีคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคาตอบเดียว จานวน 4 ข้อย่อย
(ข้อย่อยละ 1 คะแนน) รวม 10 คะแนน
41. I plan to _____ France someday.
1 live
2 study
3 go
4 travel
42. I usually _____ the Internet before I go to bed.
1 buy
2 use
3 take
4 surf
43. The school is far from my house, so ____________ .
1 I can run to school
2 I have to ride a bike to school
3 I have to get up early
4 I don’t have to go to school
44. Hi, Jenny!
I’m writing to tell you about my winter holidays. My family and I are going to go on an ice
holiday in Finland next week!
We’re going to stay in an ice hotel, and we’re going to sleep in beds made of ice! On Day 1,
we’re going to skate on a frozen lake. On Day 2 we’re going to visit a sheep farm. On Day 3, we’re
going to swim in the sea—we’re going to wear wetsuits! On Day 4, we’re going to ride in the sledge
pulled by reindeer, just like Santa!
What are you going to do for your holiday?
Bye for now,
Miriam
1) Where is Miriam going to go on her winter holidays?
1 She is going to England. 2 She is going to New Zealand.
3 She is going to Switzerland. 4 She is going to Finland.
2) What is she going to do on Day 1?
1 She is going to visit a sheep farm.
2 She is going to swim in the sea.
3 She is going to skate on a frozen lake.
4 She is going to ride in the sledge.
3) According to the passage, what is she going to wear on Day 3?
1 A suit.
2 A swimsuit.
3 A vest.
4 A wetsuit.
4) What is she going to do on Day 4?
1 She is going to swim in the sea.
2 She is going to ride in the sledge.
3 She is going to dress like a Santa.
4 She is going to ride in a snowmobile.
เฉลยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเตรียมสอบ O-NET
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ส่วนที่ 1

1. 4 2. 1 3. 2 4. 2 5. 4
6. 2 7. 4 8. 2 9. 3 10. 2
11. 4 12. 1 13. 2 14. 4 15. 1
16. 2 17. 2 18. 3 19. 4 20. 2
21. 2 22. 2 23. 4 24. 3 25. 1
26. 3 27. 4 28. 2 29. 2 30. 3
31. 3 32. 4 33. 2 34. 4 35. 3
36. 2 37. 4 38. 2 39. 1 40. 1

ส่วนที่ 2
41. 1 , 2
42. 2 , 4
43. 2 , 3
44. 1) 4 2) 3 3) 4 4) 2

You might also like