Professional Documents
Culture Documents
Onet p3
Onet p3
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓
๑. ข๎อใดหมายถึงนิทานสุภาษิตทั้งหมด
๑ ไกรทอง พระอภัยมณี
๒ ไกรทอง เด็กเลี้ยงแกะ
๓ พระอภัยมณี กระตํายตื่นตูม
๔ เด็กเลี้ยงแกะ กระตํายตื่นตูม
๒. “วิ่งกรูกันไป” คําวํา กรู ความหมายตามพจนานุกรมหมายถึงข๎อใด
๑ อาการลมพัดแรงเร็ว
๒ อาการที่ต๎องไปพร๎อมกัน
๓ อาการที่ไปพร๎อม ๆ กันโดยเร็ว
๔ อาการที่เดินอยํางเร็วไปพร๎อม ๆ กัน
อํานบางตอนของเรื่อง หมาป่ากับลูกแกะ แล๎วตอบคําถาม ข๎อ ๓-๗
หมาป่ า ดํ า ลู ก แกะวํ า “เอ็ ง นี้ ช าติ ชั่ ว เอ็ ง ถื อ ดี อ ยํ า งไร จึ ง มากวนน้ํ า กิ น ของข๎ า ให๎ ขุํ น เป็ น ตมไปดั ง นี้ ”
ลูก แกะตกใจ ร๎ องตอบไปโดยไมํ เชื่ อวํ า “ทํานจะวํ า ข๎ าพเจ๎า กวนน้ําของทํ านให๎ขุํ นอยํ างไรถู ก เพราะน้ํ าในลําธารนี้
ไหลจากทํานมายังข๎าพเจ๎า หาได๎ไหลจากข๎าพเจ๎าไปยังทํานไมํ” หมาป่าก็แกล๎งหาความตํอไปวํา “เอาเถิด ถึงเอ็งจะไมํได๎
ทํ า น้ํ า ขุํ น วั น นี้ เมื่ อ ปี ก ลายนี้ เอ็ ง ก็ ไ ด๎ ดํ า วํ า ข๎ า เป็ น นั ก หนา” ลู ก แกะตั ว สั่ น ร๎ อ งตํ อ ไปวํ า “พุ ท โธํ เ อ๐ ย เมื่ อ ปี ก ลายนี้
ข๎ าพเจ๎าก็ ยั งไมํ ได๎ เกิ ดมาเห็นเดื อนเห็ นตะวั นเลย” หมาป่ าตอบไปวํ า “เอาเถอะนํะ ถึ งเอ็ งไมํได๎ ดํ าข๎า พํ อของเอ็ งก็ ดํ าข๎ า
เอ็งมีความผิดเหมือนกัน จะมาตํอล๎อตํอเถียงกันไปทําไม” วําแล๎วก็ตะครุบลูกแกะกินเป็นอาหาร
๓. เรื่องหมาป่ากับลูกแกะ เป็นนิทานประเภทใด
๑ นิทานอีสป
๒ นิทานชาดก
๓ นิทานพื้นบ๎าน
๔ นิทานสุภาษิต
๔. นิทานเรื่องนี้ให๎ข๎อคิดใดเป็นสําคัญที่สุด
๑ ให๎คบคนพาล
๒ ให๎หลีกไกลคนพาล
๓ ให๎พูดคุยดี ๆ กับคนพาล
๔ ให๎ระวังเมื่ออยูํใกล๎คนพาล
๓๐. ข๎อใดคือคําที่มีสระไมํออกเสียงทุกคํา
๑ มิ่งมิตร สมบัติ อนุมัติ
๒ สาเหตุ รสชาติ ภาคภูมิ
๓ บพิตร กิจวัตร ภัยพิบัติ
๔ บุตรธิดา ใบสมัคร อัตโนมัติ
๓๑. “ฤๅษีผู๎ทรงฤทธิ์ นิมิตให๎ฝนแล๎งในฤดูฝน ให๎ดาวฤกษ๑ไมํสํองแสง” ข๎อใดอํานคําที่ขีดเส๎นใต๎ได๎ถูกต๎องทุกคํา
๑ รึ ริด รือ เรก
๒ ริ รึด รึ เริก
๓ รือ รึด รือ เรก
๔ รือ ริด รึ เริก
๓๒. ข๎อใดเขียนผิด
๑ กุณฑล
๒ มณฑา
๓ บัณฑิต
๔ ปฑักขิณ
๓๓. “ฑ” ในข๎อใดไม่ออกเสียง ด
๑ บัณฑร
๒ มณฑป
๓ บัณฑิต
๔ บัณเฑาะว๑
๓๔. “เพื่อนฝูงแหํแหนกันมาเต็มบ๎าน” คํา แหน อํานสะกดคําอยํางไร
๑ แห-นอ
๒ แอ-หอนอ
๓ หอนอ-แอ
๔ หอ-แอ-นอ
๓๕. “ข๎าวฟ่างเขียนปริศนาคําทายลงบนกระดาษ” ข๎อความนี้คําในข๎อใดคือคํานามชี้เฉพาะ
๑ ปริศนา
๒ คําทาย
๓ ข๎าวฟ่าง
๔ กระดาษ
๓๖. “ขุนแผนขี่ม๎าสีหมอก” ประโยคนี้ข๎อใดทําหน๎าที่เป็นคํากริยาของประโยค
๑ ขี่
๒ ม๎า
๓ ขุนแผน
๔ สีหมอก
๓๗. ข๎อใดเรียงคําตามรูปสระได๎ถูกต๎อง
๑ มหึมา มหิดล มหาชน มหัศจรรย๑
๒ มหัศจรรย๑ มหาชน มหิดล มหึมา
๓ มหิดล มหาชน มหึมา มหัศจรรย๑
๔ มหัศจรรย๑ มหิดล มหึมา มหาชน
๓๘. ข๎อใดเป็นประโยคขอร๎อง
๑ นั่นคือนกอะไร
๒ ห๎ามเดินลัดสนาม
๓ จงชํวยกันรักษาความสะอาด
๔ กรุณาอํานฉลากยากํอนรับประทาน
๓๙. คําคล๎องจองและคําขวัญ มีลักษณะที่เหมือนกันในเรื่องใด
๑ คําที่ใช๎
๒ เสียงสระ
๓ เสียงสัมผัส
๔ ความหมาย
๔๐. ข๎อใดไม่ใช่คําขวัญที่ดี
๑ หัวใจคือความรัก มีศักดิ์และมีศรี
๒ พลังงานมีน๎อยนิด รู๎จักคิดกํอนจะใช๎
๓ อํานหนังสือวันละนิด ชีวิตจะก๎าวหน๎า
๔ ประเพณีมีคํา รํวมรักษาเอกลักษณ๑ไทย
ส่วนที่ ๒ : แบบปรนัย ๒ ตัวเลือก จํานวน ๑๐ ข๎อ (ข๎อ ๔๑-๕๐) ข๎อละ ๑ คะแนน รวม ๑๐ คะแนน
เลือกคําคล๎องจองให๎สัมพันธ๑กับคําที่กําหนด จากนั้นนําพยัญชนะต๎นตัวแรกของคําคล๎องจองที่เลือกไปเขียนใน
ให๎ถูกต๎องทุกชํองจะได๎คําที่มีความหมาย
คําที่กําหนด สัมพันธ๑คล๎องจองกับ
๔๑. หิวไหม สัมพันธ๑คล๎องจองกับ ๑ ไขํตุ๐น ๒ ข๎าวผัด
๔๒. ปังปอน สัมพันธ๑คล๎องจองกับ ๑ ซุกซน ๒ อํอนโยน
๔๓. ถ๎วยชาม สัมพันธ๑คล๎องจองกับ ๑ ลวดลาย ๒ งามตา
๔๔. น้ําอบ สัมพันธ๑คล๎องจองกับ ๑ ขบขัน ๒ หอมฟุ้ง
๔๕. สุขสันต๑ สัมพันธ๑คล๎องจองกับ ๑ โชคดี ๒ วันเกิด
๔๖. ภาพวาด สัมพันธ๑คล๎องจองกับ ๑ ญาติมิตร ๒ สดใส
๔๗. ป่ากว๎าง สัมพันธ๑คล๎องจองกับ ๑ สร๎างสรรค๑ ๒ วันจันทร๑
๔๘. นารี สัมพันธ๑คล๎องจองกับ ๑ เรียนรู๎ ๒ สีเทียน
๔๙. พากเพียร สัมพันธ๑คล๎องจองกับ ๑ เวียนหมุน ๒ นําหนุน
๕๐. ลุกโชน สัมพันธ๑คล๎องจองกับ ๑ ผิงไฟ ๒ โยนทิ้ง
พยัญชนะต๎นตัวแรกของคําคล๎องจองเขียนใน
ั ี
ข๎อ ๔๑. ๔๒. ๔๓. ๔๔. ๔๕. ๔๖. ๔๗. ๔๘. ๔๙. ๕๐.
เฉลยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเตรียมสอบ O-NET
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓
ส่วนที่ ๑
๑. ๔ ๒. ๓ ๓. ๑ ๔. ๒ ๕. ๒
๖. ๑ ๗. ๓ ๘. ๒ ๙. ๔ ๑๐. ๔
๑๑. ๓ ๑๒. ๑ ๑๓. ๓ ๑๔. ๔ ๑๕. ๔
๑๖. ๒ ๑๗. ๒ ๑๘. ๑ ๑๙. ๑ ๒๐. ๔
๒๑. ๑ ๒๒. ๓ ๒๓. ๒ ๒๔. ๒ ๒๕. ๓
๒๖. ๔ ๒๗. ๑ ๒๘. ๓ ๒๙. ๓ ๓๐. ๒
๓๑. ๔ ๓๒. ๔ ๓๓. ๑ ๓๔. ๔ ๓๕. ๓
๓๖. ๑ ๓๗. ๒ ๓๘. ๔ ๓๙. ๓ ๔๐. ๑
ส่วนที่ ๒
ั ี
ข อ ง ข ว ญ ส ส ว ย
ข๎อ ๔๑. ๔๒. ๔๓. ๔๔. ๔๕. ๔๖. ๔๗. ๔๘. ๔๙. ๕๐.
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเตรียมสอบ O-NET
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
2. ข๎อใดไม่ใช่จํานวนเดียวกัน
1 39,027 2 ๓๙,๒๐๗
3 สามหมื่นเก๎าพันสองร๎อยเจ็ด 4 3 หมื่น กับ 9 พัน กับ 2 ร๎อย กับ 7 หนํวย
3. ข๎อใดไม่ถูกต๎อง
1 28,156 + 51,000 < 26,158 + 51,000
2 90,700 – 37,000 < 90,700 – 73,000
3 18,501 + (44,256 – 20,278) = (18,501 + 44,256) – 20,278
4 7,878 + 9,999 + 23,807 > 7,878 + 9,999 + 23,087
4. ข๎อใดเป็นการเรียงลําดับจํานวนจากมากไปน๎อยได๎ถูกต๎อง
1 40,125 41,025 42,051 45,021 2 31,479 34,179 37,194 39,147
3 58,620 56,260 52,068 50,286 4 60,591 60,951 61,059 69,105
5. ข๎อใดเป็นแบบรูปของจํานวนที่เพิ่มขึ้นทีละ 3
1 9,543 9,545 9,547 9,549 9,551 2 10,101 10,104 10,107 10,110 10,113
3 15,333 15,337 15,341 15,345 15,349 4 35,003 35,033 35,333 38,333 68,333
6. ข๎อใดเป็นแบบรูปของจํานวนที่ลดลงทีละ 25
1 125 150 175 200 225 2 1,000 995 990 985 980
3 2,225 2,200 2,175 2,150 2,125 4 18,025 18,000 17,975 17,955 17,930
7. ความสัมพันธ๑ข๎อใดแตกตํางจากข๎ออื่น
1 50,050 50,000 49,950 49,900 49,850 2 22,225 22,200 22,175 22,150 22,125
3 8,000 7,996 7,992 7,988 7,984 4 1,234 1,238 1,242 1,246 1,250
9. 4 8, 5 9 +
3 2, 7 4 6
8 1, 4 0 5
ควรเติมเลขโดดใดลงใน
1 4 2 5 3 6 4 7
10. 9 ,5 8 3
–
4 6 ,8 0 5
4 3 ,7 7 8
ควรเติมเลขโดดใดลงใน
1 0 2 1 3 2 4 3
17. การหารในข๎อใดที่เป็นการหารไมํลงตัว
1 840 7 2 976 8 3 8,040 6 4 5,587 9
18. ผลหารในข๎อใดมีคํามากที่สุด
1 1,284 6 2 1,284 7 3 1,284 8 4 1,284 9
1 70 2 84 3 154 4 176
22. แท็งก๑น้ําใบหนึ่งมีความจุ 2,500 ลิตร มีน้ําเต็มแท็งก๑ ใช๎น้ําไป 1,230 ลิตร 800 มิลลิลิตร
เหลือน้ําในแท็งก๑เทําไร
1 1,230 ลิตร 800 มิลลิลิตร 2 1,269 ลิตร 200 มิลลิลิตร
3 1,270 ลิตร 200 มิลลิลิตร 4 1,270 ลิตร 800 มิลลิลิตร
33. สิ่งของในข๎อใดไม่มีมุม
1 กลํองนม 2 แผํนซีดี
3 ตู๎เย็น 4 โต๏ะนักเรียน
34. รูปในข๎อใดมีแกนสมมาตรมากกวํา 1 แกน
1 2
3 4
35. ข๎อความในข๎อใดไม่ถูกต๎อง
__
1 กข เป็นสัญลักษณ๑แทนสํวนของเส๎นตรง กข
2 กขค มี ก ข และ ค เป็นมุมยอดของรูปสามเหลี่ยม
3 รังสีสามารถตํอสํวนปลายออกไปโดยไมํจํากัดความยาว
4 รูปวงกลมเป็นรูปที่ไมํมีแกนสมมาตร
36. รูปที่หายไปของแบบรูปเรขาคณิตตํอไปนี้คือรูปในข๎อใด
1 2
3 4
1 2
3 4
38. แผนภูมิรูปภาพแสดงการขายหนังสือของร๎านค๎าแหํงหนึ่ง กําหนดให๎รูปหนังสือ 1 รูป แทนหนังสือที่ขายได๎
จํานวน 10 เลํม รูปหนังสือการ๑ตูน 5 รูป รูปหนังสือนิทาน 3 รูป ร๎านค๎าแหํงนี้ขายหนังสือการ๑ตูนกับหนังสือนิทาน
รวมกันกี่เลํม
1 8 เลํม 2 30 เลํม 3 50 เลํม 4 80 เลํม
ใช๎แผนภูมิแทํงตํอไปนี้ตอบคําถามข๎อ 39-40
วิชาที่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนแหํงหนึ่งชอบเรียนที่สุด
ส่วนที่ 1
1. 3 2. 1 3. 2 4. 3 5. 2
6. 3 7. 4 8. 3 9. 3 10. 1
11. 2 12. 4 13. 1 14. 2 15. 1
16. 3 17. 4 18. 1 19. 3 20. 3
21. 4 22. 2 23. 2 24. 1 25. 4
26. 4 27. 3 28. 2 29. 4 30. 3
31. 3 32. 2 33. 2 34. 1 35. 4
36. 1 37. 4 38. 4 39. 4 40. 2
ส่วนที่ 2
1. ข๎อใดเป็นสิ่งมีชีวิต
1 ABC
2 ABD
3 CDE
4 BCD
2. สํวนประกอบของทานตะวันในข๎อใดที่เรานํามาใช๎รับประทานได๎
1 ใบ
2 ผล
3 ราก
4 เมล็ด
3. เมื่อตัดใบของต๎นมะมํวงออกจนหมด เพราะเหตุใดต๎นมะมํวงถึงตาย
1 ต๎นมะมํวงไมํสามารถยึดกับดินได๎
2 ต๎นมะมํวงไมํสามารถดูดซึมน้ําและแรํธาตุได๎
3 ต๎นมะมํวงไมํสามารถสร๎างอาหารและหายใจได๎
4 อากาศร๎อนเกินไป เมื่อไมํมีใบปกคลุมต๎นมะมํวงจึงแห๎งตาย
4. ข๎อใดเป็นสัตว๑กินพืชทั้งหมด
1 เสือ วัว นก
2 ช๎าง ม๎า ควาย
3 สิงโต เสือ เหยี่ยว
4 วัว กระตําย จระเข๎
5. สัตว๑ในข๎อใดมีกระดองไว๎หํอหุ๎มรํางกายและป้องกันอันตรายจากศัตรู
1 ปลา กบ งู
2 ปู เตํา หอย
3 กุ๎ง อึ่งอําง ปลา
4 กบ ลูกอ๏อด ผีเสื้อ
6. พฤติกรรมในข๎อใดเป็นการใช๎อวัยวะไม่ถูกต้องกับหน๎าที่
1 ดูดาวบนท๎องฟ้าในเวลากลางคืนโดยใช๎ตา
2 ฟังเพลงชาติไทยจากวิทยุโดยใช๎หู
3 สูดอากาศหายใจเข๎าปอดโดยใช๎ปาก
4 เตะฟุตบอลในสนามโดยใช๎เท๎า
7. ข๎อใดเป็นวิธีการดูแลรักษาความสะอาดอวัยวะตําง ๆ ของรํางกายได๎ถูกต๎อง
1 ตะโกนเสียงดังใสํหูเพื่อน
2 สั่งน้ํามูกเบา ๆ ขณะป่วยเป็นหวัด
3 ขยี้ตาโดยใช๎มือเมื่อมีฝุ่นละอองเข๎าตา
4 แปรงฟันกํอนรับประทานอาหารวันละสามครั้ง
8. นักเรียนปลูกต๎นถั่วเขียว 2 ต๎น ต๎นที่ 1 ครอบถุงดําไว๎ ต๎นที่ 2 ไมํได๎ครอบถุงดํา ต๎นถั่วเขียวทั้ง 2 ต๎นได๎รับน้ํา
และอากาศเหมือนกันทุกประการ จากการทดลองนักเรียนมีวัตถุประสงค๑เพื่อต๎องการทราบสิ่งใด
1 น้ํามีผลตํอการเจริญเติบโตของต๎นถั่วเขียวหรือไมํ
2 แสงมีผลตํอการเจริญเติบโตของต๎นถั่วเขียวหรือไมํ
3 อาหารมีผลตํอการเจริญเติบโตของต๎นถั่วเขียวหรือไมํ
4 อากาศมีผลตํอการเจริญเติบโตของต๎นถั่วเขียวหรือไมํ
9. ข๎อใดเป็นวิธีการดูแลพืชที่ไม่ถูกต๎อง
1 รดน้ําเช๎าเย็นทุกวัน
2 กําจัดศัตรูพืช
3 ใสํปุ๋ยคอก
4 ตัดใบออก
10. ใครเลี้ยงสัตว๑ในที่ที่เหมาะสมที่สุด
1 ดาวเลี้ยงสุนัขไว๎ในคอกใต๎ถุนบ๎าน
2 เดํนเลี้ยงนกเขาในกรงสีทอง
3 แดงเลี้ยงปลานิลในสระ
4 ดําเลี้ยงกวางกลางทุํงนา
11. พฤติกรรมในข๎อใดเป็นการตอบสนองตํออุณหภูมิของสัตว๑
1 แมวเลียอุ๎งเท๎า
2 แมวกินอาหาร
3 ไกํขันในตอนเช๎า
4 เตําหดหัวเข๎าไปในกระดอง
12. ถ๎านักเรียนกําลังอุํนนมในหม๎อต๎ม แล๎วมือพลาดไปโดนภาชนะสํวนที่เป็นโลหะ นักเรียนจะมีพฤติกรรมการตอบสนอง
ตํอสิ่งเร๎าในข๎อใด
1 หลับตาและใช๎มือปิดหู
2 สะดุ๎งและรีบชักมือออกทันที
3 น้ําลายไหลและใช๎มือปิดปากทันที
4 สะดุ๎งและใช๎มือจับภาชนะหม๎อต๎มแนํน
13. ผีเสื้อกับดอกไม๎มีความสัมพันธ๑กันในลักษณะในข๎อใด
1 ภาวะได๎ประโยชน๑รํวมกัน
2 ภาวะอิงอาศัย
3 ภาวะพึ่งพา
4 ภาวะปรสิต
14. ข๎อใดไม่จัดเป็นแหลํงที่อยูํอาศัยของสิ่งมีชีวิต
1 ดิน
2 น้ํา
3 ป่าไม๎
4 อากาศ
15. ข๎อใดไม่ใช่แนวทางการอนุรักษ๑ทรัพยากรธรรมชาติ
1 ตรวจสอบเครื่องยนต๑ให๎อยูํในสภาพดีอยูํเสมอ
2 ทิ้งขยะมูลฝอยลงสูํแหลํงน้ํา
3 ปลูกหญ๎าแฝกเพื่อคลุมดิน
4 ปลูกพืชหมุนเวียน
16. ข๎อใดเป็นวิธีการป้องกันการสูญพันธุ๑ของสิ่งมีชีวิตที่ยั่งยืน
1 บุกรุกป่าเพื่อสร๎างที่พักตากอากาศ
2 สร๎างฟาร๑มเลี้ยงกุ๎งบริเวณป่าชายเลน
3 ตัดไม๎ในป่าสงวนเพื่อนํามาทําเครื่องเรือน
4 สร๎างจิตสํานึกในการอนุรักษ๑ให๎กับเยาวชนและคนในพื้นที่
17.
พํอมีลักษณะผิวดําคล้ํา ผมหยักศกสีดํา หนังตาชั้นเดียว และมีปานแดงที่ต๎นแขน
แมํมีลักษณะอารมณ๑ร๎อน ตัวสูง ผิวขาว ผมตรงสีน้ําตาล และหนังตาชั้นเดียว
ลักษณะในข๎อใดทีไ่ ม่สามารถถํายทอดทางพันธุกรรมได๎
1 หนังตาชั้นเดียว ผมหยักศก
2 ผมตรงสีน้ําตาล ผิวดําคล้ํา
3 อารมณ๑ร๎อน ปานแดง
4 ผิวขาว ตัวสูง
18. ข๎อใดไม่ใช่อาหารหลัก 5 หมูํ
1 นมสด ไขํไกํ
2 น้ํามันพืช เนย
3 น้ําอัดลม น้ําชาเขียว
4 ส๎มเขียวหวาน กล๎วยไขํ
ประเภท ชนิดของวัตถุ
วัตถุ
ของเล่น ของใช้ พลาสติก ยาง ผ้า โลหะ
A / /
รถจักรยาน / / / /
ผ๎าหํม / /
B / /
สายยาง / /
ลูกโป่ง / /
27. ข๎อใดไม่ใช่แหลํงพลังงานหมุนเวียน
1 พลังงานดวงอาทิตย๑
2 พลังงานเชื้อเพลิง
3 พลังงานน้ํา
4 พลังงานลม
28. เหตุการณ๑ในข๎อใดแสดงให๎เห็นวําโลกมีแรงโน๎มถํวง
1 เฮลิคอปเตอร๑บินสํารวจป่าไม๎
2 ปลํอยลูกโป่งสวรรค๑
3 ค๎างคาวบินหาอาหาร
4 ใบไม๎รํวงลงสูํพื้น
29. การปฏิบัติในข๎อใดเป็นการอนุรักษ๑น้ํา
1 ปิดก๏อกน้ําในห๎องครัวไมํสนิท
2 ล๎างถังยาฆําแมลงในคลองสํงน้ํา
3 ปลํอยน้ําล๎างรถลงสูํคลองหน๎าหมูํบ๎าน
4 นําน้ําสุดท๎ายจากการซักผ๎าไปรดต๎นไม๎
30. แหลํงกําเนิดแสงในข๎อใดเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
1 ดวงอาทิตย๑ ดวงดาว
2 หลอดไฟ เลเซอร๑
3 เทียนไข โคมไฟระย๎า
4 ไฟฉาย เส๎นใยแก๎วนําแสง
31.ถ๎านักเรียนต๎องการพืชสวนครัวเพื่อใช๎รับประทานในครอบครัว นักเรียนจะเลือกใช๎ดินในข๎อใดจึงเหมาะสม
1 ดินเนื้อหยาบ
2 ดินเหนียว
3 ดินทราย
4 ดินรํวน
32. ดินจากตําบลในข๎อใดมีฮิวมัสมากที่สุด
1 ตําบล ก ดินเม็ดสีเทาเม็ดดินขนาดเล็ก
2 ตําบล ข ดินเม็ดสีดําเม็ดดินขนาดเล็ก
3 ตําบล ค ดินเม็ดสีแดงเม็ดดินขนาดใหญํ
4 ตําบล ง ดินเม็ดสีน้ําตาลอํอนเม็ดดินขนาดใหญํ
33. แหลํงน้ําในข๎อใดเป็นแหลํงน้ําจากธรรมชาติ
1 แมํน้ําเจ๎าพระยา ทะเลสาบสงขลา
2 คลองชลประทาน คลองประดิษฐ๑
3 เขื่อนภูมิพล เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
4 บํอเลี้ยงกุ๎ง บํอเลี้ยงปลานิล
34. ข๎อใดกลําวถูกต๎องเกี่ยวกับสมบัติบางประการของน้ํา
A. น้ํามีจุดเดือดเทํากับ 100 C
O
1 ข๎อ A B และ C
2 ข๎อ B C และD
3 ข๎อ A B และ D
4 ข๎อ A C และ D
35. ข๎อใดไม่ใช่ความสําคัญของอากาศ
1 ทําให๎เกิดสงครามเย็น
2 ทําให๎กังหันลมในทุํงนาหมุน
3 ใช๎ในการหายใจของสิ่งมีชีวิต
4 ป้องกันรังสีจากดวงอาทิตย๑ที่สํองมายังโลก
36. ถ๎านักเรียนต๎องเดินทางไปแขํงขันประกวดโครงงานวิทยาศาสตร๑ที่ประเทศเวียดนาม นักเรียนสามารถตรวจสอบ
สภาพอากาศกํอนเดินทางได๎จากหนํวยงานในข๎อใด
1 กรมทรัพยากรธรณี
2 กรมอุตุนิยมวิทยา
3 กรมชลประทาน
4 กรมสรรพากร
37. ถ๎านักเรียนทําการทดลองเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของอากาศ พบวํา อากาศมีการเคลื่อนที่จากบริเวณที่มีอุณหภูมิ
20 องศาเซลเซียส ไปยังอุณหภูมิ 35 องศาเซลเซียส ผลจากการเคลื่อนที่ของอากาศดังกลําวคือข๎อใด
1 ลม
2 ฝน
3 ฟ้าร๎อง
4 ฟ้าแลบ
38. ข๎อใดเป็นวัตถุบนท๎องฟ้าที่มองเห็นที่โรงเรียนในขณะนักเรียนเชิญธงชาติขึ้นสูํยอดเสาธง
1 ดาวศุกร๑
2 ดาวหาง
3 ดวงจันทร๑
4 ดวงอาทิตย๑
39. ข๎อใดไม่ใช่ประโยชน๑ของพลังงานจากดวงอาทิตย๑
1 ตากผ๎าแห๎งเร็ว
2 ทําเนื้อแดดเดียว
3 เกิดภาวะโลกร๎อน
4 ชํวยในการสังเคราะห๑แสงของพืช
40. ข๎อใดกลําวถูกต๎องเกี่ยวกับกลางวันและกลางคืน
1 โลกหมุนรอบดวงอาทิตย๑
2 โลกหมุนรอบตัวเอง
3 ดวงจันทร๑หมุนรอบโลก
4 โลกหมุนรอบดวงจันทร๑
ส่วนที่ 2 : แบบปรนัย 4 ตัวเลือก แตํละข๎อมีคําตอบที่ถูกต๎อง 2 คําตอบ จํานวน 5 ข๎อ (ข๎อ 41-45) ข๎อละ 2 คะแนน
(คําตอบละ 1 คะแนน) รวม 10 คะแนน
41. สิ่งมีชีวิตในข๎อใดมีความสัมพันธ๑กันระหวํางสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตเหมือนกบกับแมลง
1 สิงโตกับกวาง
2 เหยี่ยวกับกระตําย
3 นกเอี้ยงกับควาย
4 โปรโตซัวในลําไส๎ปลวก
42. พฤติกรรมในข๎อใดเป็นการใช๎ทรัพยากรธรรมชาติอยํางประหยัด คุ๎มคํา และลดภาวะโลกร๎อน
1 เดินทางโดยรถยนต๑สํวนตัวทดแทนรถโดยสารสาธารณะ
2 ทิ้งถํานไฟฉายที่เสื่อมสภาพลงในถังขยะอันตราย
3 เลือกใช๎กลํองโฟมใสํอาหารกลางวันแทนปิ่นโต
4 รองน้ําใสํแก๎วขณะแปรงฟัน
43. สิ่งของในข๎อใดที่ต๎องใช๎พลังงานไฟฟ้าในการทํางานหรือเคลื่อนที่
1 ตุ๏กตาไดโนเสาร๑ไขลาน ลูกฟุตบอล
2 รถจักรยาน หํวงยาง
3 โทรศัพท๑เคลื่อนที่ ไฟฉาย
4 คอมพิวเตอร๑ นาฬิกาปลุก
44. พิจารณาข๎อความตํอไปนี้ มีเหตุการณ๑ที่ขีดเส๎นใต๎ในข๎อใดที่ใช๎แรงดึง
1 เปิดหน๎าตําง
2 ถอนตะปู
3 ยกตะกร๎า
4 เข็นรถ
45.
จากแผนผังนี้ สถานที่ในข๎อใดอยูํทางทิศตะวันตกของโรงเรียน
1 บ๎าน
2 ร๎านค๎า
3 ทุํงนา
4 วัด
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเตรียมสอบ O-NET
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ส่วนที่ 1
1. 1 2. 4 3. 3 4. 2 5. 2
6. 3 7. 2 8. 2 9. 4 10. 3
11. 1 12. 2 13. 1 14. 4 15. 2
16. 4 17. 3 18. 3 19. 1 20. 4
21. 1 22. 4 23. 2 24. 1 25. 3
26. 3 27. 2 28. 4 29. 4 30. 1
31. 4 32. 2 33. 1 34. 3 35. 1
36. 2 37. 1 38. 4 39. 3 40. 2
ส่วนที่ 2
41. 1 , 2
42. 2 , 4
43. 3 , 4
44. 2 , 3
45. 2 , 4
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเตรียมสอบ O-NET
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ส่วนที่ 1 : แบบปรนัย 4 ตัวเลือก แตํละข๎อมีคําตอบที่ถูกต๎องที่สุดเพียงคําตอบเดียว จํานวน 40 ข๎อ (ข๎อ 1-40) : ข๎อละ 1 คะแนน
1. พระพุทธศาสนามีความสําคัญตํอสังคมไทยอยํางไร
1 เป็นต๎นกําเนิดรากฐานทางวัฒนธรรมไทย
2 เป็นที่สําหรับให๎คนไทยได๎พักพิงยามลําบาก
3 เป็นแหลํงสําหรับแลกเปลี่ยนวัตถุมงคล
4 เป็นแหลํงพบปะสังสรรค๑
2. พระพุทธเจ๎าทรงประกาศพระพุทธศาสนาเมื่อใด
1 ตอนเสด็จออกผนวช
2 ตอนตรัสรู๎
3 ตอนแสดงธัมมจักกัปปวัตนสูตร
4 ตอนเสด็จโปรดพุทธบิดา
3. สามเณรสังกิจจะมีคุณธรรมที่โดดเดํนทางด๎านใด
1 ความขยัน 2 ความอดทน
3 ความเสียสละ 4 วาจาสัตย๑
4. ถ๎าต๎องการศึกษาศีล 10 ข๎อ ของสามเณร ควรศึกษาจากพระไตรปิฎกเลํมใด
1 พระวินัยปิฎก 2 พระสุตตันตปิฎก
3 พระอภิธรรมปิฎก 4 พุทธธรรมคัมภีร๑
5. สัจจะ ทมะ ขันติ เป็นธรรมที่บุคคลใดควรนําไปยึดเป็นหลักปฏิบัติในการดําเนินชีวิต
1 สามเณร 2 พระภิกษุ
3 ภิกษุณี 4 ฆราวาส
6. ผู๎ให๎ยํอมเป็นที่รัก ตรงกับพุทธศาสนสุภาษิตบทใด
1 ททมาโน ปิโย โหติ
2 โมกฺโข กลฺยาณิยา สาธุ
3 ปิยํ ปิโย โหติ
4 มโน ปิโย โหติ
7. ผู๎ที่จะแสดงตนเป็นพุทธมามกะจะต๎องมีอายุครบกี่ปีขึ้นไป
1 5 ปี 2 7 ปี
3 9 ปี 4 15 ปี
8. การกําหนดลมหายใจเข๎า-ออก เป็นการเจริญสมาธิแบบใด
1 การกําหนดกาย 2 การกําหนดจิต
3 อานาปานสติ 4 สติปัฏฐาน
9. การจัดกิจกรรมในข๎อใดควรจัดโต๏ะหมูํบูชา
1 การจัดงานวันเด็ก
2 การจัดงานกีฬาสี
3 การจัดงานปีใหมํ
4 การจัดพิธีพุทธมามกะ
10. นักเรียนควรปฏิบัติตนตํอศาสนวัตถุอยํางไร
1 ปฏิบัติตนตามอัธยาศัย
2 ไมํควรเข๎าไปใกล๎เพราะจะเป็นบาป
3 วิงวอนขอพรเพื่อให๎ประสบความสําเร็จ
4 แสดงความเคารพด๎วยกาย วาจา ใจ
11. ข๎อใดเป็นการปฏิบัติตนตามประเพณีและวัฒนธรรมในครอบครัว
1 แสดงความเคารพผู๎อาวุโสกวํา
2 ทําโทษน๎องเมื่อทําความผิด
3 โกหกพํอแมํเพื่อให๎พ๎นผิด
4 ไมํทํากิจกรรมกับครอบครัว
12. นักเรียนจะสืบทอดประเพณีและวัฒนธรรมไทยได๎อยํางไร
1 ประยุกต๑ให๎ทันสมัยมากขึ้น
2 ชักชวนให๎ผู๎อื่นปฏิบัติแตํตนเองไมํต๎องปฏิบัติ
3 ผสมผสานกับประเพณีและวัฒนธรรมของชาติตําง ๆ
4 ปฏิบัติตนตามประเพณีและวัฒนธรรมไทยให๎ถูกต๎อง
13. ข๎อใดกลําวถูกต๎องเกี่ยวกับวันจักรี
1 เป็นวันที่มีการพระราชทานรัฐธรรมนูญให๎แกํประชาชน
2 เป็นวันสถาปนากรุงเทพมหานคร
3 เป็นวันเสด็จขึ้นครองราชย๑ของรัชกาลที่ 9
4 ตรงกับวันที่ 10 ธันวาคม ของทุกปี
14. นักเรียนควรปฏิบัติตนอยํางไรในวันสําคัญทางศาสนา
1 ไปเที่ยวสวนสัตว๑ 2 รดน้ําขอพรผู๎ใหญํ
3 ไปทําบุญตักบาตรที่วัด 4 นําดอกมะลิไปกราบแมํ
15. การกระทําในข๎อใดเป็นการทําประโยชน๑ให๎แกํชุมชนมากที่สุด
1 ดูแลที่อยูํอาศัยของตนเองให๎สะอาด
2 ไมํทิ้งขยะลงบนพื้นในชุมชน
3 รํวมมือกันสร๎างห๎องสมุดชุมชน
4 ไมํให๎คนแปลกหน๎าเข๎ามาในชุมชน
16.ข๎อใดเป็นการออกเสียงโดยตรงในชั้นเรียน
1 การเลือกหัวหน๎าห๎องเรียน
2 การเลือกประธานนักเรียน
3 การเลือกคณะกรรมการนักเรียน
4 การเลือกตัวแทนนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
17. การตัดสินใจของบุคคลใดทําให๎เกิดการเปลี่ยนแปลงในโรงเรียน
1 หัวหน๎าห๎องเรียน
2 สมาชิกในชั้นเรียน
3 ผู๎อํานวยการโรงเรียน
4 ผู๎ปกครองของนักเรียน
18. การเปลี่ยนแปลงในข๎อใดเป็นผลมาจากการตัดสินใจของสมาชิกในห๎องเรียน
1 การจัดงานกีฬาสีของโรงเรียน
2 การจัดป้ายนิเทศในห๎องเรียน
3 การจัดประชุมครูและผู๎ปกครอง
4 การสร๎างลานกีฬาในโรงเรียน
19. ถ๎านักเรียนพบผู๎ใหญํที่รู๎จักควรทักทายอยํางไร
1 โอบกอด
2 จับมือ
3 โค๎งคํานับ
4 ยกมือไหว๎
20. การยอมรับความแตกตํางกันของคนในชุมชนจะกํอให๎เกิดผลอยํางไร
1 สังคมเกิดความสงบสุข
2 สังคมเกิดความวุํนวาย
3 สังคมเกิดความแตกแยก
4 สังคมเกิดความเสื่อมโทรม
21. ข๎อใดไม่ใช่สินค๎าที่จําเป็นตํอการดํารงชีวิต
1 อาหาร
2 ที่อยูํอาศัย
3 ยารักษาโรค
4 สิ่งอํานวยความสะดวก
22. การเลือกซื้อสินค๎าในข๎อใดเหมาะสมที่สุด
1 ซื้อสินค๎าฟุ่มเฟือย
2 เลือกซื้อสินค๎าตามคําโฆษณา
3 เปรียบเทียบราคากํอนตัดสินใจซื้อ
4 เลือกซื้อสินค๎าคุณภาพดี ราคาแพง
23. นักเรียนควรเลือกรับประทานอาหารในข๎อใด
1 รับประทานอาหารที่ชอบ
2 รับประทานอาหารที่มีประโยชน๑
3 รับประทานอาหารที่มีรสชาติอรํอย
4 รับประทานอาหารที่มีการตกแตํงสวยงาม
24. การออมเงินมีประโยชน๑ตํอนักเรียนอยํางไรมากที่สุด
1 ทําให๎มีเงินใช๎จํายยามจําเป็น
2 ทําให๎มีเงินสําหรับให๎ผู๎อื่นยืม
3 ทําให๎มีเงินซื้อสิ่งของราคาแพง
4 ทําให๎มีเงินเพื่อแสดงถึงการมีฐานะ
25. ข๎อใดเป็นการทํางานที่กํอให๎เกิดรายได๎ที่สุจริตและเหมาะสมกับนักเรียนมากที่สุด
1 การเปิดร๎านขายอาหารตามสั่ง
2 การรับจ๎างรดน้ําต๎นไม๎หลังเลิกเรียน
3 การทําความสะอาดบริเวณโรงเรียน
4 การทําความสะอาดห๎องนอนของตนเอง
26. ในฐานะผู๎บริโภคนักเรียนควรใช๎ทรัพยากรอยํางไรจึงจะเหมาะสมที่สุด
1 ใช๎อยํางคุ๎มคํา 2 ใช๎อยํางเต็มที่
3 ใช๎ให๎มากที่สุด 4 ใช๎ตามใจตนเอง
27. ข๎อใดกลําวถูกต๎องเกี่ยวกับทรัพยากรกับความต๎องการของมนุษย๑
1 ทรัพยากรมีไมํจํากัดแตํความต๎องการของมนุษย๑มีจํากัด
2 ทรัพยากรมีจํากัดและความต๎องการของมนุษย๑มีจํากัด
3 ทรัพยากรมีจํากัดแตํความต๎องการของมนุษย๑มีไมํจํากัด
4 ทรัพยากรมีไมํจํากัดและความต๎องการของมนุษย๑มีไมํจํากัด
28. ข๎อใดเป็นลักษณะของภาษีมูลคําเพิ่ม
1 เก็บจากผู๎มีรายได๎โดยตรง
2 เก็บจากผู๎ประกอบการโดยตรง
3 เก็บจากผู๎ที่กระทําผิดกฎหมาย
4 เก็บจากคําใช๎จํายในชีวิตประจําวัน
29. สถานที่ในข๎อใดไม่ได้มาจากการเสียภาษีของประชาชน
1 สถานีตํารวจ 2 โรงเรียนรัฐบาล
3 ห๎างสรรพสินค๎า 4 สวนสาธารณะ
30. ข๎อใดเป็นผลที่เกิดจากการแขํงขันทางการค๎า
1 ทําให๎ผู๎ซื้อมีโอกาสเลือกซื้อสินค๎าได๎ตามความพอใจ
2 ทําให๎สินค๎าคุณภาพดี ราคาถูกขายไมํได๎
3 ทําให๎สินค๎ามีคุณภาพลดลง
4 ทําให๎สินค๎ามีราคาสูงขึ้น
31. พุทธศักราชในประเทศไทยเริ่มนับเมื่อใด
1 เริ่มนับจากปีที่พระพุทธเจ๎าประสูติ
2 เริ่มนับจากปีที่พระพุทธเจ๎าตรัสรู๎
3 เริ่มนับจากปีที่พระพุทธเจ๎าปรินิพพาน
4 เริ่มนับจากปีที่พระพุทธเจ๎าปรินิพพานไปแล๎ว 1 ปี
32. ค.ศ. 2100 ตรงกับ พ.ศ. ใด
1 พ.ศ. 2463 2 พ.ศ. 155
3 พ.ศ. 1647 4 พ.ศ. 2553
33. การสืบค๎นประวัติของโรงเรียนมีประโยชน๑อยํางไร
1 ทําให๎โรงเรียนมีชื่อเสียง
2 ทําให๎มีนักเรียนเพิ่มมากขึ้น
3 ทําให๎มีคนรู๎จักโรงเรียนมากขึ้น
4 ทําให๎ทราบความเป็นมาของโรงเรียน
34. ข๎อใดเป็นขั้นตอนแรกในการสืบค๎นเหตุการณ๑สําคัญของชุมชน
1 ตรวจสอบข๎อมูลที่ได๎
2 ตั้งหัวข๎อที่จะศึกษา
3 รวบรวมข๎อมูลที่ได๎
4 นําเสนอข๎อมูลให๎นําสนใจ
35. ข๎อใดเป็นสาเหตุที่ทําให๎ผู๎คนเลือกตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ที่มีความเจริญทางเทคโนโลยี
1 ต๎องการความสะดวกสบาย
2 ต๎องการความเป็นสํวนตัว
3 ต๎องการอยูํใกล๎ธรรมชาติ
4 ต๎องการอากาศบริสุทธิ์
36. ชุมชนที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมมีพิธีกรรมใดที่เหมือนกัน
1 พิธีบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอให๎ฝนตกตามฤดูกาล
2 พิธีการทําบุญให๎แกํผู๎ที่ลํวงลับไปแล๎ว
3 พิธีบวชป่าเพื่อไมํให๎คนตัดต๎นไม๎
4 พิธีบูชาแมํยํานางของเรือ
37. พระมหากษัตริย๑พระองค๑ใดทรงสถาปนากรุงเทพมหานครเป็นราชธานี
1 พํอขุนศรีอินทราทิตย๑
2 พระเจ๎าตากสินมหาราช
3 สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1
4 สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
38. ข๎อใดเป็นพระราชกรณียกิจในพระเจ๎าตากสินมหาราช
1 ประดิษฐ๑ตัวอักษรไทย
2 กอบกู๎เอกราชคืนจากพมํา
3 ทําสงครามเก๎าทัพสู๎กับพมํา
4 ชําระและรวบรวมคัมภีร๑ทางพระพุทธศาสนา
39. พระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยูํหัวภูมิพลอดุลยเดช กํอให๎เกิดประโยชน๑แกํชาติไทยอยํางไร
1 ชาติไทยเป็นชาติมหาอํานาจ
2 ประชาชนชาวไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
3 ชาติไทยเป็นผู๎นําทางด๎านเทคโนโลยี
4 เศรษฐกิจของชาติเจริญก๎าวหน๎า
40. คนไทยทุกคนควรนําแบบอยํางที่ดีของชาวบ๎านบางระจันมาปฏิบัติอยํางไรเพื่อให๎ชาติไทยสงบสุข
1 มีความสามัคคีกัน
2 มีความกตัญ๒ูกตเวที
3 มีความเมตตากรุณา
4 มีความใฝ่รู๎ใฝ่เรียน
ส่วนที่ 2 : แบบปรนัย 4 ตัวเลือก แตํละข๎อมีคําตอบที่ถูกต๎อง 2 คําตอบ จํานวน 10 ข๎อ (ข๎อ 41-50) ข๎อละ 1 คะแนน
ตอบถูก 1 คําตอบ ได๎ 0.5 คะแนน
ตอบถูก 2 คําตอบ ได๎ 1 คะแนน
41. แผนที่มีประโยชน๑ตํอนักเรียนอยํางไร
1 ทําให๎เรียนเกํงขึ้น
2 ทําให๎ทราบลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ตําง ๆ
3 ทําให๎เป็นผู๎นําในการเดินทาง
4 ทําให๎เดินทางไปสถานที่ตําง ๆ ได๎โดยไมํหลงทาง
42. ภาพถํายทางอากาศให๎ข๎อมูลเกี่ยวกับเรื่องใด
1 ลักษณะนิสัยของคนในพื้นที่
2 การประกอบอาชีพของคนในพื้นที่
3 สภาพแวดล๎อมในพื้นที่
4 ตําแหนํงที่ตั้งของสิ่งตําง ๆ
43. ข๎อใดเป็นสภาพแวดล๎อมในภูมิประเทศภูเขาสูง
1 อากาศร๎อนชื้น 2 อากาศหนาวเย็น
3 มีทรัพยากรป่าไม๎มาก 4 มีเส๎นทางคมนาคมขนสํงที่สะดวก
44. ข๎อใดเป็นสิ่งแวดล๎อมที่พบในชุมชนริมแมํน้ํา
1 น้ําตก 2 บ๎านเรือนแพ
3 การทําประมงน้ําจืด 4 การเพาะปลูกพืชแบบขั้นบันใด
45. การเปลี่ยนแปลงในข๎อใดเกิดจากการกระทําของธรรมชาติ
1 การเกิดสึนามิ
2 การตัดไม๎ทําลายป่า
3 การทิ้งขยะลงในแหลํงน้ํา
4 โคลนถลํม
46. การเปลี่ยนแปลงในข๎อใดเป็นการเพิ่มขึ้นของสิ่งแวดล๎อม
1 การจับสัตว๑น้ํา
2 การปลูกต๎นไม๎
3 การสร๎างสะพานลอย
4 การเก็บของป่ามาจําหนําย
47. ข๎อใดเป็นแหลํงน้ําที่มนุษย๑สร๎างขึ้น
1 คลอง 2 สระวํายน้ํา
3 แมํน้ํา 4 เขื่อน
48. สาเหตุใดที่ทําให๎ดินเสื่อมสภาพลง
1 การปลํอยควันจากทํอไอเสีย
2 การใช๎สารเคมีกําจัดศัตรูพืช
3 การปลูกพืชชนิดเดียวกันเป็นเวลานาน
4 การเผาขยะ
49. ชุมชนชนบทมีลักษณะอยํางไร
1 มีประชากรหนาแนํน
2 มีตึกอาคารสูง
3 มีอากาศบริสุทธิ์
4 มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผํกัน
50. ข๎อใดเป็นสิ่งแวดล๎อมที่พบได๎ในชุมชนเมือง
1 รถไฟฟ้า 2 ตึกสูง
3 น้ําตก 4 ทุํงนา
เฉลยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเตรียมสอบ O-NET
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ส่วนที่ 1
1. 1 2. 3 3. 3 4. 1 5. 4
6. 1 7. 2 8. 3 9. 4 10. 4
11. 1 12. 4 13. 2 14. 3 15. 3
16. 1 17. 3 18. 2 19. 4 20. 1
21. 4 22. 3 23. 2 24. 1 25. 2
26. 1 27. 3 28. 4 29. 3 30. 1
31. 4 32. 1 33. 4 34. 2 35. 1
36. 1 37. 4 38. 2 39. 2 40. 1
ส่วนที่ 2
1. ข๎อใดเป็นการปฏิบัติตนที่ถูกต๎องเกี่ยวกับการดูแลรักษาตา
1 นั่งดูโทรทัศน๑ใกล๎หน๎าจอ 2 อํานหนังสือบนรถประจําทาง
3 จ๎องดูดวงอาทิตย๑ในเวลากลางวัน 4 อํานหนังสือในที่ที่มีแสงสวํางเพียงพอ
2. นักเรียนมีวิธีการดูแลรักษาหัวใจให๎ทํางานปกติได๎อยํางไร
1 รับประทานอาหารที่มีไขมันเป็นสํวนประกอบ
2 ออกกําลังกายด๎วยการวํายน้ําเป็นประจํา
3 เคี้ยวอาหารให๎ละเอียดกํอนกลืน
4 ดื่มน้ําสะอาดวันละ 3-4 แก๎ว
3. ข๎อใดเป็นปัจจัยที่มีผลตํอการเจริญเติบโตของรํางกาย
1 การศึกษาที่ได๎รับ 2 ฐานะของครอบครัว
3 การออกกําลังกายอยํางหักโหม 4 การรับประทานอาหารครบ 5 หมูํ
4. นักเรียนควรปฏิบัติตนอยํางไร เพื่อให๎รํางกายเจริญเติบโตสมวัย
1 รับประทานอาหารรสจัด 2 ดื่มน้ําอัดลมแทนน้ําเปลํา
3 เลํนกีฬากับเพื่อนเป็นประจํา 4 เลํมเกมคอมพิวเตอร๑กํอนนอน
5. อาหารในข๎อใดมีประโยชน๑ตํอการเจริญเติบโตของรํางกาย
1 ทอฟฟี่ 2 น้ําอัดลม
3 ผลไม๎สด 4 ขนมกรุบกรอบ
6. ข๎อใดเป็นพัฒนาการทางด๎านรํางกาย
1 อํานหนังสือภาษาตํางประเทศได๎ดี 2 ยอมรับฟังความคิดเห็นของเพื่อน
3 มีสํวนสูงเพิ่มขึ้น 2 เซนติเมตร 4 รู๎สึกดีใจเมื่อผู๎อื่นชื่นชมเพื่อน
7. การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัวควรทําอยํางไร
1 ไมํต๎องชํวยแมํทํางานบ๎านเพราะไมํใชํหน๎าที่ตนเอง
2 ไปเลํนกับเพื่อนข๎างบ๎านหลังกลับจากโรงเรียน
3 ชํวยพํอแมํทํางานบ๎านเทําที่ทําได๎
4 ให๎พํอแมํชํวยทําการบ๎านให๎
8. ข๎อใดกลําวถูกต๎องเกี่ยวกับความแตกตํางของเพศชายและเพศหญิง
1 เพศชายชอบเลํนกีฬาที่ใช๎กําลังน๎อย เพศหญิงชอบเลํนกีฬาที่ใช๎กําลังมาก
2 เพศชายเลํนกีฬาที่ไมํใช๎กาํ ลัง เพศหญิงชอบเลํนรุนแรง
3 เพศชายพูดลงท๎ายด๎วยคํะ เพศหญิงพูดลงท๎ายด๎วยครับ
4 เพศชายมีความเข๎มแข็ง เพศหญิงมีความอํอนโยน
9. การปฏิบัติตนได๎เหมาะสมกับเพศจะสํงผลอยํางไร
1 เป็นที่ชื่นชมของผู๎อื่น 2 ไมํมีใครอยากพูดคุยด๎วย
3 ได๎เงินคําขนมเพิ่มจากคุณแมํ 4 เพื่อน ๆ ให๎ความเคารพนับถือ
10. ข๎อใดไม่ใช่การสร๎างสัมพันธภาพในกลุํมเพื่อน
1 แบํงปันขนมให๎เพื่อน 2 แกล๎งเพื่อนที่อํอนแอกวํา
3 อธิบายการบ๎านให๎เพื่อนฟัง 4 ขอโทษเพื่อนเมื่อตนเองทําผิด
11. นักเรียนจะมีวิธีป้องกันตนเองจากการถูกลํวงละเมิดทางเพศอยํางไร
1 อํานหนังสือการ๑ตูนโป๊กับเพื่อน
2 ให๎เพื่อนชายที่สนิทเดินไปสํงบ๎าน
3 พูดคุยกับคนแปลกหน๎าที่แตํงตัวดีเทํานั้น
4 ไมํอยูํในที่ลับตาคนตามลําพังกับเพศตรงข๎าม
12. ครอบครัวเดี่ยวมีลักษณะอยํางไร
1 บ๎านที่อยูํหลังเดี่ยวไมํติดกับใคร
2 บ๎านที่มีเฉพาะพํอแมํลูกอาศัยอยูํด๎วยกัน
3 บ๎านที่สมาชิกในบ๎านใช๎นามสกุลเดียวกัน
4 บ๎านที่มีพํอแมํลูกและปู่ยําตายายอยูํด๎วยกัน
13. สถานการณ๑ใดนําไปสูํการถูกลํวงละเมิดทางเพศ
1 เลํนเกมที่ร๎านกับเพื่อนเวลากลางวัน
2 นั่งดูคลิปวิดีโอโป๊กับเพื่อนตํางเพศ
3 ไมํรับของจากคนแปลกหน๎า
4 เดินกลับบ๎านกับพี่ชาย
14. เมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเพศนักเรียนควรปฏิบัติอยํางไร
1 ปลํอยไว๎เฉย ๆ เพราะไมํใชํเรื่องร๎ายแรง
2 คิดแก๎ไขปัญหาด๎วยตนเอง
3 นําเรื่องนี้ไปเลําให๎เพื่อนฟัง
4 ปรึกษาพํอแมํผู๎ปกครอง
15. ครอบครัวในข๎อใดมีสัมพันธภาพในครอบครัวที่ดี
1 พํอทําร๎ายรํางกายแมํตํอหน๎าลูก
2 แมํลงโทษลูกด๎วยการตีทุกครั้ง
3 พี่น๎องทะเลาะกันเป็นประจํา
4 ลูกพูดจาไพเราะกับพํอแมํ
16. อวัยวะใดมีหน๎าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของรํางกาย
1 สมอง 2 หัวใจ
3 ปอด 4 ตา
17. การเคลื่อนไหวในข๎อใดเป็นการเคลื่อนไหวแบบเคลื่อนที่
1 การนั่ง การวิ่ง 2 การคลาน การเดิน
3 การวิ่ง การยืน 4 การนอน การกระโจน
18. ข๎อใดไม่ใช่การเคลื่อนไหว
1 การป่วย 2 การนอน
3 การนั่ง 4 การยืน
19. การเคลื่อนไหวรํางกายโดยการออกกําลังกายเป็นประจํามีประโยชน๑อยํางไร
1 ทําให๎รํางกายแข็งแรง 2 ทําให๎รํางกายทรุดโทรม
3 ทําให๎เกิดการเจ็บป่วยงําย 4 ทําให๎เรียนหนังสือเกํงขึ้น
20. การเคลื่อนไหวรํางกายอยํางถูกวิธีมีประโยชน๑อยํางไร
1 ปฏิบัติกิจกรรมได๎อยํางมีประสิทธิภาพ
2 ชํวยพัฒนาสมองทําให๎ผลการเรียนดี
3 กล๎ามเนื้อเกิดการบาดเจ็บ
4 หน๎าตา ผิวพรรณดีขึ้น
21. ข๎อใดจัดเป็นการละเลํนพื้นเมืองทั้งหมด
1 โพงพาง รีรีข๎าวสาร งูกินหาง
2 ไม๎หึ่ง โพงพาง แชร๑บอล
3 โพงพาง ฟุตบอล หมากเก็บ
4 งูกินหาง วิ่งเปี้ยว วอลเลย๑บอล
22. นักเรียนจะมีหลักในการเลํนเกมอยํางไรให๎ปลอดภัย
1 เลํนเกมที่มีอุปกรณ๑ประกอบ
2 เลํนเกมที่ต๎องใช๎แรงมาก
3 เลํนเกมที่ใช๎ผู๎เลํนน๎อย
4 เลํนเกมที่ตนเองถนัด
23. การเลํนเกมประเภททีมควรยึดหลักการปฏิบัติตนในข๎อใด
1 เกลือจิ้มเกลือ
2 สามัคคีคือพลัง
3 เกมแพ๎แตํคนไมํแพ๎
4 เสือสองตัวอยูํถ้ําเดียวกันไมํได๎
24. การเลํนเกมเป็นประจําสํงผลอยํางไร
1 รํางกายแข็งแรง อารมณ๑แจํมใส
2 ทํางานรํวมกับเพื่อนไมํได๎
3 ครอบครัวเกิดความสงบสุข
4 พํอแมํรักและเข๎าใจมากขึ้น
25. การเลือกออกกําลังกายในข๎อใดปฏิบัติได๎เหมาะสม
1 ออกกําลังกายโดยใช๎อุปกรณ๑ประกอบราคาแพง
2 ออกกําลังกายรํวมกับเพื่อนที่สนิทเทํานั้น
3 ออกกําลังกายตามเพื่อนในกลุํม
4 ออกกําลังกายที่ไมํยากเกินไป
26. กํอนออกกําลังกายนักเรียนควรปฏิบัติอยํางไร
1 ดื่มน้ํามาก ๆ
2 อบอุํนรํางกาย
3 รับประทานอาหารให๎อิ่ม
4 อาบน้ําชําระรํางกายให๎สะอาด
27. เพลงใดไม่ควรนํามาใช๎ประกอบจังหวะ
1 เพลงไตรรงค๑ 2 เพลงรักเมืองไทย
3 เพลงระบําชาวไพร 4 เพลงสรรเสริญพระบารมี
28. การดันพื้นชํวยสร๎างเสริมสมรรถภาพทางกายด๎านใด
1 ความคลํองแคลํววํองไว
2 ความอํอนตัวของกล๎ามเนื้อ
3 ความมั่นคงและการทรงตัว
4 ความแข็งแรงและความอดทนของกล๎ามเนื้อ
29. การฝึกเดินด๎วยปลายเท๎าเป็นประจําจะสํงผลอยํางไร
1 ทําให๎มีสายตาดี 2 ทําให๎มีบุคลิกภาพดี
3 ทําให๎น้ําหนักตัวลดลง 4 ทําให๎มีขาเรียวสวยงาม
30. กิจกรรมนันทนาการมีประโยชน๑อยํางไร
1 ทําให๎มีชื่อเสียงในสังคม
2 ชํวยผํอนคลายความเครียด
3 ทําให๎ครอบครัวมีความอบอุํน
4 เป็นที่รักและชื่นชมของเพื่อน ๆ
31. ข๎อใดเป็นลักษณะของผู๎ที่มีสุขภาพดี
1 อารมณ๑ดีไมํโกรธงําย
2 มีความเครียดวิตกกังวล
3 ชอบอยูํคนเดียวตามลําพัง
4 เจ็บป่วยต๎องไปหาหมอบํอย ๆ
32. นักเรียนจะแสดงออกถึงการมีจิตสํานึกที่ดีตํอสังคมสํวนรวมได๎อยํางไร
1 ขีดเขียนบริเวณกําแพงโรงเรียน
2 เด็ดดอกไม๎ในสวนสาธารณะ
3 ทิ้งขยะลงแมํน้ํา ลําคลอง
4 ทิ้งขยะลงถังขยะทุกครั้ง
33. การปฏิบัติตนตามหลักสุขบัญญัติแหํงชาติ สํงผลตํอรํางกายอยํางไร
1 ทําให๎เกิดอุบัติเหตุได๎รับบาดเจ็บ
2 รํางกายอํอนแอเจ็บป่วยงําย
3 มีสุขภาพกายและจิตใจที่ดี
4 จิตใจเศร๎าหมองไมํแจํมใส
34. การปฏิบัติตนในข๎อใดทําให๎ฟันผุ
1 ใช๎ฟันกัดน้ําแข็ง
2 เคี้ยวอาหารไมํละเอียด
3 แปรงฟันโดยไมํแปรงลิ้น
4 รับประทานทอฟฟี่เป็นประจํา
35. นักเรียนควรปฏิบัติตนอยํางไรเพื่อให๎ฟันมีสุขภาพที่ดี
1 แปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร
2 ดื่มน้ําอัดลมหลังรับประทานอาหาร
3 ดื่มฟลูออไรด๑เป็นประจําทุกสัปดาห๑
4 เลือกใช๎ยาสีฟันที่มีราคาแพง
36. กํอนรับประทานอาหารและหลังขับถํายควรปฏิบัติตนอยํางไร
1 แปรงฟันให๎สะอาด
2 ล๎างหน๎าให๎สะอาด
3 ล๎างมือให๎สะอาด
4 ตัดเล็บให๎สั้น
37. ข๎อใดเป็นหลักการรับประทานอาหารที่เหมาะสมที่สุด
1 รับประทานอาหารไมํซ้ํากันในแตํละวัน
2 รับประทานอาหารที่ปรุงสุกนานแล๎ว
3 รับประทานอาหารที่คุณแมํทําเทํานั้น
4 รับประทานอาหารเมื่อรู๎สึกวําหิว
38. การรับประทานอาหารในข๎อใดทําให๎มีสุขภาพดี
1 อาหารที่ปรุงสุกใหมํ ๆ
2 อาหารที่มีสีสันฉูดฉาด
3 อาหารที่มีแมลงวันตอม
4 อาหารที่ปรุงแบบสุก ๆ ดิบ ๆ
39. ข๎อใดกลําวไม่ถูกต๎อง
1 โรคติดตํอเกิดได๎ทั้งกับคนและสัตว๑
2 โรคติดตํอเป็นโรคที่สามารถป้องกันได๎
3 โรคติดตํอสามารถติดตํอจากคนสูํคนเทํานั้น
4 โรคติดตํอสามารถติดตํอจากสัตว๑ไปสูํคนได๎
40. ข๎อใดควรปฏิบัติเมื่อมีอาการน้ํามูกไหล
1 สูดน้ํามูกกลับเข๎าจมูกแรง ๆ
2 ใช๎ผ๎าสะอาดเช็ดน้ํามูกเบา ๆ
3 สั่งน้ํามูกแรง ๆ
4 ใช๎สําลีอุดจมูก
ส่วนที่ 2 : แบบปรนัย 4 ตัวเลือก เลือกคําตอบมากกวํา 1 คําตอบ
ข๎อ 41 = 2 คะแนน ข๎อ 42 = 3 คะแนน ข๎อ 43 = 2 คะแนน ข๎อ 44 = 3 คะแนน
ข๎อ 41-44 ตอบถูก 1 คําตอบให๎ 1 คะแนน
41. ข๎อใดจับคูํยาสามัญประจําบ๎านและอาการเจ็บป่วยได๎ถูกต๎อง (ให๎เลือก 2 คําตอบ)
1 ทิงเจอร๑ไอโอดีน : วิงเวียนศีรษะ
2 ยาธาตุน้ําแดง : ท๎องอืด ท๎องเฟ้อ
3 แอมโมเนียหอม : ท๎องรํวงอยํางรุนแรง
4 พาราเซตามอล : ปวดศีรษะ เป็นไข๎
42. ข๎อใดปฏิบัติได๎ถูกต๎อง (ให๎เลือก 3 คําตอบ)
1 ข๎ามถนนบริเวณทางม๎าลาย
2 วิ่งเลํนบนเรือที่กําลังแลํนอยูํ
3 ยืนเข๎าแถวขึ้นรถประจําทาง
4 หยุดรถเมื่อสัญญาณไฟจราจรเป็นสีแดง
43. การปฏิบัติตนในข๎อใดทําให๎เกิดอุบัติเหตุในโรงเรียน (ให๎เลือก 2 คําตอบ)
1 ใช๎ไม๎วิ่งไลํตีกันกับเพื่อน
2 เดินจับราวบันไดขณะขึ้น-ลงบันได
3 บอกครูหรือภารโรงเมื่อโต๏ะ เก๎าอี้ ชํารุด
4 ปิดสวิตช๑ไฟฟ้าขณะที่มือเปียกน้ํา
44. ถ๎าโดนมีดบาดมีเลือดออก สามารถห๎ามเลือดได๎อยํางไร (ให๎เลือก 3 คําตอบ)
1 นําน้ําแข็งวางบนบาดแผล
2 กดบาดแผลโดยใช๎นิ้วหัวแมํมือ
3 ใช๎ผ๎าเช็ดหน๎ากดบาดแผลไว๎
4 ใช๎เชือกรัดบริเวณใต๎บาดแผล
เฉลยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเตรียมสอบ O-NET
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
1. ข๎อใดเป็นงานทัศนศิลป์ที่พบได๎ในชีวิตประจําวัน
1 โอํงมังกร
2 กระจก
3 ถังน้ําพลาสติก
4 โทรศัพท๑เคลื่อนที่
2. ธงชาติไทยใช๎แมํสีกี่สี
1 1 สี 2 2 สี
3 3 สี 4 4 สี
3. การใช๎สีเทียนวาดภาพอิสระเป็นการฝึกอวัยวะใด
1 มือกับหู 2 ตากับขา
3 หูกับตา 4 มือกับตา
4. ภาพคนเลํนหิมะทําให๎เกิดความรู๎สึกใด
1 สดชื่น 2 หนาวเย็น
3 อบอุํน 4 เย็นสบาย
5. ข๎อใดเป็นการวาดรูปรํางให๎เป็นรูปทรง
1 การใช๎เส๎นที่หลากหลายวาดภาพ
2 การใช๎สีระบายภาพ
3 การใช๎สีหลายสีระบายภาพ
4 การลงแสงเงาให๎ภาพ
6. ถ๎านักเรียนต๎องการสร๎างสรรค๑งานปั้นที่ประหยัดที่สุด ควรเลือกใช๎วัสดุในข๎อใด
1 ดินน้ํามัน
2 ดินเหนียว
3 ปูนปลาสเตอร๑
4 กระดาษผสมกาว
7. การปั้นลอยตัวแตกตํางจากการปั้นประเภทอื่น ๆ อยํางไร
1 มองเห็นได๎ทั้งด๎านหน๎าและด๎านข๎าง
2 มองเห็นได๎ด๎านหน๎าด๎านเดียว
3 มองเห็นด๎านหลังด๎านเดียว
4 มองเห็นได๎ทุกด๎าน
8. หลังจากสร๎างสรรค๑ผลงานปั้นทุกครั้ง นักเรียนควรปฏิบัติอยํางไร
1 เก็บวัสดุอุปกรณ๑ทั้งหมดไปทิ้ง
2 เก็บเศษวัสดุอุปกรณ๑ทั้งหมดไว๎
3 ให๎เพื่อนเก็บวัสดุอุปกรณ๑ทั้งหมด
4 เก็บเศษวัสดุที่ไมํใช๎ทิ้งถังขยะ เก็บวัสดุ อุปกรณ๑ที่ยังใช๎ได๎ให๎เป็นระเบียบ
9. ข๎อใดเป็นภาพพิมพ๑ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
1 ภาพรอยเท๎าที่เกิดจากการย่ําของสุนัข
2 ภาพลายนิ้วมือของคนที่เกิดจากการกดสี
3 ภาพเหรียญที่เกิดจากการฝนสี
4 ภาพกุญแจที่เกิดจากการฝนสี
10. การพิมพ๑ภาพจากนิ้วมือ เป็นการพิมพ๑ภาพแบบใด
1 การกดสี 2 การฝนสี
3 การพับสี 4 การระบายสี
11. รูปรํางในข๎อใดไม่ใช่โครงรํางใบหน๎าคน
1 2
3 4
12. ภาพใบหน๎าผู๎สูงอายุจะเป็นอยํางไร
1 มีริ้วรอยเหี่ยวยํน 2 มีแก๎มแตํงตึง
3 มีผิวสีขาวชมพู 4 มีตากลมใส
13. งานปะติดเหมือนกับงานวาดอยํางไร
1 ใช๎อุปกรณ๑ในการสร๎างสรรค๑ที่เหมือนกัน
2 มีลักษณะงานเหมือนกัน
3 มีขั้นตอนการสร๎างสรรค๑ที่เหมือนกัน
4 ใช๎ความรู๎เรื่องสี การออกแบบ และความคิดสร๎างสรรค๑เหมือนกัน
14. ใครสร๎างสรรค๑ผลงานปะติดได๎ประหยัดที่สุด
1 กระปุก ใช๎กระดาษหนังสือพิมพ๑เกําสร๎างภาพปะติด
2 กร ใช๎กระดาษสีเพียงสีเดียวในการสร๎างภาพปะติด
3 กิ่ง ใช๎กระดาษสีที่หลากหลายในการสร๎างภาพปะติด
4 แก๎ว ใช๎กระดาษนิตยสารใหมํในการสร๎างภาพปะติด
15. งานทัศนศิลป์ในแตํละท๎องถิ่นไมํได๎สร๎างขึ้นจากอะไร
1 อาชีพของคนในท๎องถิ่น
2 ความต๎องการของผู๎นําท๎องถิ่น
3 ลักษณะภูมิประเทศของท๎องถิ่นนั้น ๆ
4 ความเชื่อ ขนบธรรมเนียมและประเพณีแตํละท๎องถิ่น
16. การแกะสลักในข๎อใดเป็นผลงานที่โดดเดํนของภาคใต๎
1 การแกะสลักช๎าง
2 การแกะสลักตุ๏กตาไม๎
3 การแกะสลักเรือกอและ
4 การแกะสลักหนังใหญํวัดขนอน
17. การอนุรักษ๑งานทัศนศิลป์ในท๎องถิ่นข๎อใดเหมาะสมที่สุดสําหรับนักเรียน
1 ชักชวนชาวตํางชาติมาเที่ยวชมงานทัศนศิลป์ในท๎องถิ่น
2 ขาดเรียนเพื่อไปขายของที่ระลึกให๎กับนักทํองเที่ยว
3 ตั้งใจศึกษาที่มาและวิธีการสร๎างงานทัศนศิลป์ในท๎องถิ่น
4 ศึกษางานทัศนศิลป์อยํางเดียวไมํต๎องเรียนวิชาอื่น
18. ข๎อใดกลําวถึงภาพลายเส๎นได๎ถูกต๎อง
1 ภาพที่ไมํลงสี 2 ภาพวาดจากสีไม๎
3 ภาพวาดจากพูํกันและสีน้ํา 4 ภาพที่ใช๎สีลงแสงเงา
19. ถ๎านักเรียนต๎องการวาดภาพที่แสดงถึงความนุํมนวลและพลิ้วไหว ควรเลือกใช๎เส๎นชนิดใด
1 เส๎นตรง 2 เส๎นขด
3 เส๎นหยัก 4 เส๎นโค๎ง
20. ข๎อใดคือผลงานการออกแบบจากจินตนาการ
1 2
3 4
21. เพลงชาติไทยเป็นเพลงที่แสดงให๎เห็นถึงสิ่งใด
1 ความเป็นเอกราช
2 ความขยันหมั่นเพียร
3 ความเจริญรุํงเรืองของชาติ
4 ความมั่นคงของประเทศชาติ
22. จังหวะเป็นสิ่งสําคัญตํอการบรรเลงบทเพลงอยํางไร
1 ทําให๎บทเพลงมีทํวงทํานองที่แปลกใหมํ
2 ทําให๎ผู๎บรรเลงมีความชํานาญด๎านดนตรีมากขึ้น
3 ทําให๎บทเพลงมีเนื้อหา ความหมายสมบูรณ๑ขึ้น
4 ทําให๎การบรรเลงดนตรีมีความพร๎อมเพรียงและไพเราะ
23. ข๎อใดไม่ใช่หลักการขับร๎องเพลงที่ถูกต๎อง
1 ร๎องเพลงตามจังหวะและทํานอง
2 แสดงสีหน๎าเบื่อหนํายขณะร๎องเพลง
3 แสดงอารมณ๑เหมาะสมกับเนื้อหาของเพลง
4 ฝึกอํานเนื้อร๎องตามวรรคตอนของเพลง
24. ดนตรีพื้นเมืองในแตํละภูมิภาคสะท๎อนให๎เห็นถึงสิ่งใด
1 วิถีการดํารงชีวิตของคนในท๎องถิ่น
2 จํานวนประชากรของคนในท๎องถิ่น
3 ภูมิอากาศของแตํละท๎องถิ่น
4 ความเจริญในท๎องถิ่น
25. บทเพลงสําคัญของชาติมีบทบาทหน๎าที่อยํางไร
1 ทําให๎คนในชาติเกิดความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย๑
2 ทําให๎คนไทยเกิดความกตัญ๒ูตํอชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย๑
3 ทําให๎ประชาชนทุกคนมีความเข๎มแข็ง
4 ทําให๎เกิดความฮึกเหิม
26. การตรวจสอบเครื่องดนตรีกํอนการบรรเลงจะเกิดผลอยํางไร
1 ทําให๎เครื่องดนตรีดูใหมํขึ้นเวลาบรรเลง
2 ทําให๎บรรเลงดนตรีได๎ถูกต๎อง ไมํมีข๎อผิดพลาด
3 ทําให๎บรรเลงดนตรีได๎ไพเราะขึ้นกวําเดิม
4 ทําให๎ผู๎ฟังเข๎าใจความหมายของบทเพลงมากขึ้น
27. ข๎อใดกลําวถึงความสําคัญของดนตรีกับคนในท๎องถิ่นถูกต๎อง
1 ดนตรีทําให๎คนในท๎องถิ่นมีความขยันหมั่นเพียร
2 ดนตรีทําให๎คนในท๎องถิ่นมีความสุข สนุกสนาน
3 ดนตรีชํวยให๎คนในท๎องถิ่นมีการศึกษาที่ดีขึ้น
4 ดนตรีชํวยทําให๎คนในท๎องถิ่นทันสมัย
28. ข๎อใดคือความแตกตํางของเครื่องดนตรีพื้นบ๎านภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับภาคอื่น
1 เครื่องดนตรีที่ใช๎จะสวยงามกวําภาคอื่น
2 อุปกรณ๑ที่ใช๎ทําเครื่องดนตรีทันสมัยกวําภาคอื่น
3 ไมํเน๎นความสวยงามแตํเน๎นการใช๎งานมากกวําภาคอื่น
4 เครื่องดนตรีมีลักษณะใหญํและใช๎งานงํายกวําภาคอื่น
29. การแสดงประกอบเพลงที่เกี่ยวข๎องกับธรรมชาติและสัตว๑เป็นการฝึกทักษะด๎านใด
1 ความกล๎าหาญ
2 ความมีน้ําใจ
3 ความคิดสร๎างสรรค๑
4 ความอดทนเข๎มแข็ง
30. ดนตรีมีบทบาทสําคัญในการจัดกิจกรรมอยํางไร
1 ทําให๎งานสนุกสนาน ครื้นเครง
2 ทําให๎มีผู๎เข๎ารํวมงานมากขึ้น
3 ทําให๎บรรยากาศในงานเรียบงําย
4 ทําให๎ผู๎มารํวมงานสบายใจ
31. การแสดงทําทางประกอบเพลงในน้ํามีปลา ในนามีข๎าว ควรแสดงด๎วยอารมณ๑ความรู๎สึกอยํางไร
1 เศร๎าสร๎อย
2 ฮึกเหิม คึกคัก
3 เข๎มแข็ง เด็ดเดี่ยว
4 มีความสุข สนุกสนาน
32. การเป็นผู๎ชมที่ดีมีความสําคัญตํอนาฏศิลป์ไทยอยํางไร
1 เป็นการชํวยอนุรักษ๑นาฏศิลป์ไทย
2 เป็นการสํงเสริมให๎ผู๎แสดงมีชื่อเสียง
3 ทําให๎การแสดงนาฏศิลป์ทันสมัยขึ้น
4 ทําให๎การแสดงนาฏศิลป์ได๎รับความนิยม
33. ภาษาทําทางนาฏศิลป์ไทยข๎อใดที่มีลักษณะของการสะดุ๎งตัวและสะอื้น
1 ทําโกรธ
2 ทําประชดประชัน
3 ทําเสียใจ
4 ทําเยาะเย๎ย ถากถาง
34. หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 การแสดงรําวงมาตรฐานมีลักษณะเป็นอยํางไร
1 ชายหญิงนั่งล๎อมวงปรบมือตามจังหวะและรํายรํารอบ ๆ วง
2 ชายหญิงแตํงตัวชุดไทยเดิมรํายรําบนเวทีเป็นวง
3 ชายหญิงแตํงตัวตามสมัยนิยมและผู๎รําจะต๎องซื้อบัตรเพื่อขึ้นไปรําบนเวที
4 ชายหญิงจับคูํกันแตํงตัวตามสบายและเลํนรําวงในลานกลางแจ๎ง
35. เซิ้งบั้งไฟมีขึ้นเพื่อจุดประสงค๑ในข๎อใด
1 เพื่อให๎ชาวบ๎านอยูํดีมีความสุข
2 เพื่อให๎คนไทยในท๎องถิ่นร่ํารวย
3 เพื่อผํอนคลายความเหน็ดเหนื่อย
4 เพื่อให๎ฝนตกตามฤดูกาล
36. ข๎อใดไม่ใช่ที่มาของนาฏศิลป์ไทย
1 การเลียนแบบทําทางของคน
2 การละเลํนของชาวบ๎านในท๎องถิ่น
3 การรับความรู๎ที่ถํายทอดมาจากครูอาจารย๑
4 การเลียนแบบศิลปวัฒนธรรมของชาติอื่น ๆ
37. ผู๎แสดงที่ดีควรมีลักษณะอยํางไร
1 แสดงเฉพาะเรื่องที่สนใจ
2 ทุํมเทและแสดงอยํางเต็มที่
3 เลือกแสดงกับผู๎แสดงที่ชอบเทํานั้น
4 มาฝึกซ๎อมทุกวันแตํมาไมํตรงเวลานัด
38. นิทานในข๎อใดเหมาะสมที่จะนํามาแสดงทําทางเคลื่อนไหวเลียนแบบในชั้นเรียนมากที่สุด
1 กระตํายกับเตํา
2 แจ็คผู๎ฆํายักษ๑
3 ผาแดงนางไอํ
4 หัวล๎านนอกครู
39. ข๎อใดเป็นการบูรณาการนาฏศิลป์กับกลุํมสาระการเรียนรู๎การงานอาชีพและเทคโนโลยีที่ถูกต๎อง
1 บริหารรํางกายกํอนการแสดง
2 ตรวจสอบอุปกรณ๑ไฟฟ้าตําง ๆ
3 ประดิษฐ๑งอบที่ใช๎ในการแสดงระบําชาวนา
4 ค๎นคว๎าประวัติความเป็นมาของการแสดงฟ้อนเล็บ
40. ข๎อใดคือประโยชน๑ที่ได๎รับจากการนํานาฏศิลป์บูรณาการกับกลุํมสาระการเรียนรู๎อื่น
1 ได๎รับความรู๎เพิ่มมากขึ้น
2 ทําให๎สุขภาพรํางกายสมสํวน
3 สํงเสริมให๎มีบุคลิกภาพดีขึ้น
4 ทําให๎เป็นคนที่มีความสามารถพิเศษ
ส่วนที่ 2 : ข๎อ 41-42 เลือกคําตอบที่ถูกต๎องให๎ครบจํานวน 5 คําตอบ ตอบถูก 1 คําตอบ ให๎ 1 คะแนน
(คะแนนเต็ม 10 คะแนน ข๎อละ 5 คะแนน)
41. ข๎อใดเป็นงานทัศนศิลป์ท๎องถิ่น
1 หมอนตุ๏กตา
2 หนังตะลุง
3 ตุ๏กตาไม๎แกะสลัก
4 โทรศัพท๑เคลื่อนที่
5 ตะกร๎าหวาย
6 ผ๎าไหมทอมือ
7 แจกันพลาสติกสีหวาน
8 กระเป๋ายํานลิเภา
42. ข๎อใดที่เกี่ยวข๎องกับดนตรีพื้นบ๎าน (5 คําตอบ)
1 มีความเรียบงําย ไมํซับซ๎อน
2 มีจังหวะ ทํานองที่ทันสมัยเหมาะกับคนในสังคม
3 แสดงถึงวิถีชีวิต ความเป็นอยูํของคนในท๎องถิ่น
4 ใช๎เครื่องดนตรีสากลมาบรรเลงผสมผสานกับการแสดง
5 บทเพลงสํวนใหญํมีเนื้อหาปลุกใจให๎กับคนในสังคม
6 ใช๎เครื่องดนตรีในท๎องถิ่นบรรเลงประกอบการแสดง
7 บทเพลงสํวนใหญํจะมีลักษณะเป็นคํากลอนร๎องโต๎ตอบกันและใช๎ภาษาท๎องถิ่น
8 เป็นภูมิปัญญาท๎องถิ่นของชาวบ๎าน ที่เป็นมรดกของท๎องถิ่น
เฉลยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเตรียมสอบ O-NET
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ส่วนที่ 1
1. 1 2. 2 3. 4 4. 2 5. 4
6. 2 7. 4 8. 4 9. 1 10. 1
11. 3 12. 1 13. 4 14. 1 15. 2
16. 3 17. 3 18. 1 19. 4 20. 4
21. 1 22. 4 23. 2 24. 1 25. 1
26. 2 27. 2 28. 3 29. 3 30. 1
31. 4 32. 1 33. 3 34. 3 35. 4
36. 4 37. 2 38. 1 39. 3 40. 1
ส่วนที่ 2
41. 2 , 3 , 5 , 6 , 8
42. 1 , 3 , 6 , 7 , 8
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเตรียมสอบ O-NET
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
1. ข๎อใดเรียงลําดับขั้นตอนการจัดเก็บของเลํนได๎ถูกต๎อง
1. แยกประเภทของเลํน
2. จัดเก็บของเลํนเข๎าที่
3. ทําความสะอาดของเลํน
4. ทําความสะอาดกลํองใสํของเลํน
เลํน
1 1 2 3 4
2 1 3 2 4
3 1 3 4 2
4 4 3 2 1
2. การจับแก๎วน้ําที่ไมํมีหู ข๎อใดถูกต๎องที่สุด
1 ใช๎นิ้วกลางกับนิ้วโป้งจับที่ปากแก๎ว
2 ใช๎นิ้วทั้งห๎าจับก๎นแก๎ว
3 วางนิ้วทั้งห๎าครํอมที่ปากแก๎ว
4 วางนิ้วชี้ กลาง นาง และก๎อยจับด๎านหน๎าและนิ้วโป้งด๎านหลังกึ่งกลางแก๎ว
3. ข๎อใดเป็นการแตํงกายที่เหมาะสมกับสถานที่มากที่สุด
1 สวมชุดนักเรียนไปโรงเรียน
2 สวมชุดนอนไปเดินตลาดนัด
3 สวมเสื้อแขนสั้นและกางเกงขาสั้นไปวัด
4 สวมชุดวํายน้ําไปรํวมงานวันเกิด
4. บุคคลใดปฏิบัติตนไม่เหมาะสมตามบทบาท หน๎าที่
1 แมํซํอมแซมเสื้อผ๎าให๎น๎อง 2 พํอตัดหญ๎าในสนาม
3 ตัวเราล๎างแก๎วน้ํา 4 น๎องถูพื้นบ๎าน
5. ถ๎าล๎างจานชามไมํสะอาดจะเกิดผลอยํางไร
1 จานชามตกแตก 2 เปลืองน้ําประปา
3 เป็นแหลํงสะสมเชื้อโรค 4 เสียเวลาในการล๎างมากขึ้น
6. การกวาดพื้นที่ถูกต๎องควรปฏิบัติอยํางไร
1 กวาดจากมุมห๎องไปกลางห๎อง
2 กวาดจากหน๎าห๎องไปกลางห๎อง
3 กวาดจากกลางห๎องไปยังมุมห๎อง
4 กวาดจากสํวนใดสํวนหนึ่งของห๎องไปกลางห๎อง
7. ข๎อใดตํอไปนี้เป็นลําดับขั้นตอนการล๎างผลไม๎ที่ถูกต๎อง
1. จัดเรียงผลไม๎ใสํจาน
2. นําผลไม๎ใสํตะกร๎าเพื่อให๎สะเด็ดน้ํา
3. ใช๎มือถูผิวผลไม๎เบา ๆ
1 3 2 1
2 1 3 2
3 2 3 1
4 3 1 2
8. ถ๎าจัดวางรองเท๎าได๎เป็นระเบียบจะเกิดผลอยํางไร
1 มีเวลาวํางมากขึ้น
2 หยิบใช๎งานได๎สะดวก
3 ประหยัดเวลาในการจัดเก็บ
4 มีรองเท๎ามาวางด๎วยกันมากขึ้น
9. การเพาะเมล็ดวิธีใดให๎ผลผลิตมากที่สุด
1 เพาะในภาชนะสําเร็จรูป
2 เพาะในกระป๋องนม
3 เพาะในแปลง
4 เพาะในกระบะ
10. ถ๎ามีวัชพืชต๎นเล็ก ๆ ขึ้นที่แปลงผัก นักเรียนจะทําอยํางไร
1 ใช๎กรรไกรตัดหญ๎าตัด
2 ใช๎จอบขุดวัชพืช
3 ใช๎สารเคมีโรยให๎ทั่วแปลงผัก
4 ใช๎มือถอนขึ้นมา
11. ข๎อใดไม่ใช่ขั้นตอนการทําความสะอาดห๎องเรียนที่ถูกต๎อง
1 ใช๎ผ๎าขี้ริ้วชุบน้ําบิดหมาดเช็ดหน๎าตําง
2 ใช๎ไม๎กวาดขนไกํปัดฝุ่นบนโต๏ะ
3 เคาะแปรงลบกระดานในถังขยะ
4 ใช๎ไม๎กวาดดอกหญ๎ากวาดหยากไยํบนเพดาน
12. ชุดสีขาวดําแบบสุภาพควรสวมใสํในโอกาสใด
1 งานศพ 2 งานแตํงงาน
3 งานกีฬาสี 4 งานวันเกิด
13. “ใช๎กาวยางติดพื้นรองเท๎าที่หลุดเข๎าไปดังเดิม” ข๎อความนี้ใช๎เทคโนโลยีข๎อใดในการทํางาน
1 กาวยาง 2 พื้นรองเท๎าที่หลุด
3 ไขควง 4 กาวลาเทกซ๑
14. ถ๎ารดน้ําผักที่ปลูกมากเกินไปจะเกิดผลอยํางไร
1 ผักเนําตาย 2 ผักเป็นโรค
3 ผักมีหนอนเจาะ 4 ผักเหี่ยวแห๎ง
15. วัสดุท๎องถิ่นในข๎อใดใช๎ทําเครื่องแขวนได๎เหมาะสมที่สุด
1 ดอกไม๎แห๎ง
2 ผ๎าทอพื้นเมือง
3 เปลือกหอย
4 ก๎อนหิน
16. อุปกรณ๑ข๎อใดใช๎ตอก เคาะ ทุบวัสดุตําง ๆ
1 ค๎อน
2 คีม
3 มีด
4 เลื่อยฉลุ
17. ข๎อมูลราคาสินค๎ามีประโยชน๑ตํอนักเรียนอยํางไร
1 ชํวยให๎ซื้อสินค๎าได๎รวดเร็ว
2 ชํวยเปรียบเทียบราคาสินค๎า
3 ชํวยให๎ซื้อสินค๎าได๎คุณภาพดี
4 ชํวยให๎มีข๎อมูลไปพูดคุยกับผู๎อื่น
18. ข๎อใดใช๎ความคิดยืดหยุํนมากที่สุด
1 นําแกนกระดาษชําระมาประดิษฐ๑ที่ใสํปากกาแทนกลํองกระดาษ
2 นําหลอดพลาสติกมาประดิษฐ๑เป็นเครื่องแขวน
3 นํากล๎วยสุกมาทําขนมกล๎วยกวน
4 ใช๎กาวลาเทกซ๑ติดวัสดุทุกชนิด
19. เพราะเหตุใดจึงต๎องซํอมแซมของใช๎ด๎วยตนเอง
1 เพราะประหยัดคําใช๎จําย
2 เพราะประหยัดเวลา
3 เพราะต๎องการได๎รับคําชมเชย
4 เพราะเป็นหน๎าที่ที่ต๎องทํา
20. ถ๎ามีทรายย๎อมสี กาว และไม๎อัด นักเรียนจะประดิษฐ๑สิ่งของในข๎อใด
1 ที่ทับกระดาษ 2 ภาพติดผนัง
3 ดอกไม๎ประดิษฐ๑ 4 เข็มกลัด
21. ถ๎าต๎องการรู๎ประวัติความเป็นมาของจังหวัดที่นักเรียนอาศัยอยูํจะต๎องหาข๎อมูลจากแหลํงใด
1 พี่ชาย
2 พิพิธภัณฑ๑ของจังหวัด
3 คุณตา
4 ที่วําการอําเภอ
22. การใช๎คอมพิวเตอร๑ข๎อใดเป็นประโยชน๑ตํอนักเรียนมากที่สุด
1 วาดภาพสํงครู
2 สํงจดหมายทางอินเทอร๑เน็ต
3 ค๎นหาบทความมาใช๎ประกอบการทํารายงาน
4 พิมพ๑บันทึกประจําวันไว๎อํานเอง
23. ขั้นตอนใดจะได๎ข๎อมูลที่นําเชื่อถือมาใช๎อ๎างอิง
1 การสรุปผล
2 การเลือกแหลํงข๎อมูล
3 การกําหนดหัวข๎อที่ต๎องการ
4 การค๎นหาและรวบรวมข๎อมูล
24. การนําเสนอข๎อมูลวิธีใดสามารถทําคนเดียวและนําเสนอข๎อมูลภาพเคลื่อนไหวได๎
1 การทําเอกสารรายงาน
2 การนําเสนอด๎วยโปรแกรมคอมพิวเตอร๑
3 การจัดทําป้ายประกาศ
4 การนําเสนอข๎อมูลหน๎าชั้นเรียน
25. การปฏิบัติตนข๎อใดดูแลรักษาอุปกรณ๑คอมพิวเตอร๑ไม่ถูกต๎อง
1 ไมํขีดเขียนบนอุปกรณ๑คอมพิวเตอร๑ทุกชิ้น
2 วางเครื่องดื่มบริเวณที่มีเครื่องคอมพิวเตอร๑
3 ศึกษาวิธีการใช๎งานอุปกรณ๑คอมพิวเตอร๑กํอนใช๎
4 ใช๎ผ๎าแห๎งเช็ดทําความสะอาดเป็นประจํา
26. ถ๎าต๎องการทราบการเจริญเติบโตของต๎นถั่วเขียว นักเรียนจะใช๎การค๎นหาข๎อมูลวิธีใด
1 การอํานนิตยสาร
2 การสัมภาษณ๑
3 การใช๎แบบสอบถาม
4 การสังเกตด๎วยตนเอง
27. ชิ้นสํวนของเลํนพลาสติกแตกหัก นักเรียนจะซํอมแซมอยํางไร
1 ใช๎ไขควงหมุนชิ้นสํวนที่แตกหักเข๎าไปดังเดิม
2 ใช๎ประแจไขชิ้นสํวนที่แตกหักเข๎าไปดังเดิม
3 ใช๎ด๎ายเย็บชิ้นสํวนที่แตกหักเข๎าไปดังเดิม
4 ใช๎กาวติดชิ้นสํวนที่แตกหักเข๎าไปดังเดิม
28. การประดิษฐ๑ของใช๎ของตกแตํงจากวัสดุในท๎องถิ่นมีประโยชน๑อยํางไร
1 คนในท๎องถิ่นได๎ทํางานประดิษฐ๑ชนิดเดียวกัน
2 วัสดุในท๎องถิ่นมีราคาแพงมากขึ้น
3 เพิ่มมูลคําของวัสดุในท๎องถิ่น
4 ลดปริมาณขยะในท๎องถิ่น
29. สิ่งของเครื่องใช๎ที่ประหยัดพลังงานตรงกับข๎อใด
1 ก๏อกน้ําที่มีเครื่องหมาย มอก.
2 ขวดแก๎วที่มีเครื่องหมายรีไซเคิล
3 เครื่องคิดเลขพลังงานแสงอาทิตย๑
4 พัดลมที่รับประกัน 5 ปี
30. การตรวจดูวํากระเป๋าสะอาดหรือไมํหลังเช็ดแล๎วตรงกับกระบวนการใด
1 การวางแผนการทํางาน
2 การประเมินผล
3 การปฏิบัติงานตามแผน
4 การกําหนดเป้าหมายในการทํางาน
31. เพราะเหตุใดต๎องถูพื้นจากด๎านในไปด๎านนอก
1 เพราะพื้นจะได๎เงางาม
2 เพราะต๎องการประหยัดน้ํา
3 เพราะผ๎าขี้ริ้วจะได๎ไมํสกปรก
4 เพราะพื้นจะได๎ไมํเปื้อนซ้ําอีก
32. ต๎นไม๎ต๎นเล็ก ควรใช๎อุปกรณ๑ใดรดน้ํา
1 สายยาง 2 บัวรดน้ํา
3 กระป๋อง 4 กระบอกฉีดน้ํา
33. การติดตํอสื่อสารด๎วยข๎อความ (SMS) เป็นการสื่อสารโดยใช๎อุปกรณ๑ชนิดใด
1 กล๎องดิจิทัล
2 โทรทัศน๑
3 วิทยุ
4 โทรศัพท๑เคลื่อนที่
34. เครื่องมือใดใช๎เก็บข๎อมูลจากการสัมภาษณ๑
1 เครื่องบันทึกเสียง
2 โทรทัศน๑
3 คอมพิวเตอร๑
4 วิทยุ
35. อุปกรณ๑ในข๎อใดใช๎เลื่อนตัวชี้และคลิกคําสั่ง
1 ซีพียู 2 เมาส๑
3 จอภาพ 4 ลําโพง
36. กระดาษชนิดใดที่ควรนํามาพับจรวด
1 กระดาษสมุดที่ไมํใช๎แล๎ว 2 กระดาษลัง
3 กระดาษชําระ 4 กระดาษแก๎ว
37. การใช๎สิ่งของเครื่องใช๎ในข๎อใดมีสํวนชํวยอนุรักษ๑สิ่งแวดล๎อม
1 กลํองโฟม
2 เสื้อผ๎าที่ทําจากขนสัตว๑
3 กระป๋องอะลูมิเนียม
4 ถุงพลาสติกที่ยํอยสลายได๎ตามธรรมชาติ
38. เพราะเหตุใดจึงต๎องอํานคูํมือที่แนบมากับสิ่งของกํอนใช๎งาน
1 เพราะจะได๎ใช๎งานอยํางถูกวิธี
2 เพราะจะได๎ฝึกทักษะการอําน
3 เพราะจะได๎นําไปแนะนําผู๎อื่น
4 เพราะจะได๎ไมํเสียเปรียบร๎านค๎า
39. นักเรียนควรนํากระดาษสมุดที่เหลือใช๎มาใช๎ซ้ําอยํางไรจึงจะมีประโยชน๑มากที่สุด
1 พับจรวดเลํนกับเพื่อน
2 วาดภาพแล๎วนําไปติดผนัง
3 ทําบันทึกชํวยจํา
4 ใช๎เช็ดกระจกเงาที่บ๎าน
40. อุปกรณ๑ใดใช๎กําจัดฝุ่นบนแผงแป้นอักขระ
1 กระดาษชําระ
2 ผ๎าชุบน้ํา
3 แปรงขนอํอน
4 แผํนขัด
ส่วนที่ 2
41. ข๎อใดแสดงวํา ด.ญ.นารี มีเจตคติที่ดีตํอการอนุรักษ๑ทรัพยากรและสิ่งแวดล๎อม (ให๎เลือก 4 คําตอบ)
1 ด.ญ.นารีถํายภาพหมวกที่ประดิษฐ๑จากกลํองนมเหลือใช๎
2 ด.ญ.นารีปิดก๏อกน้ําขณะแปรงฟัน
3 ด.ญ.นารีชํวยเพื่อนจัดป้ายนิเทศเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติในประเทศไทย
4 ด.ญ.นารีทิ้งขวดแก๎วใช๎แล๎วลงในถังขยะที่มีเครื่องหมาย
5 ด.ญ.นารีชํวยเพื่อนขายสินค๎าที่ประดิษฐ๑จากกระดาษสา
6 ด.ญ.นารีนําขวดน้ําพลาสติกมาประดิษฐ๑กระเช๎าแขวนปลูกต๎นไม๎ในบ๎าน
7 ด.ญ.นารีปิดสวิตช๑ไฟในห๎องที่ไมํใช๎งาน
ตารางที่ 1 1 2 3 4
ความหมาย งานที่มีคนหลายคน งานซํอมแซม งานดูแลรักษา งานสร๎างสิ่งของ
ชํวยกันทํา ของใช๎ที่ใช๎อุปกรณ๑ และทําความสะอาด ที่มีประโยชน๑
หลายอยําง ของใช๎หรือสถานที่
ที่ใช๎รํวมกัน
ตารางที่ 2 1 2 3 4
ประโยชน์ของงาน ยืดอายุการใช๎งาน ประหยัดเวลาและ ได๎รับคําชมเชย มีทักษะและ
และสร๎าง แรงงาน ความชํานาญ
บรรยากาศที่ดี ในการทํางาน
ตารางที่ 3 1 2 3 4
งานที่เกี่ยวข้อง ซํอมแซมของเลํน จัดหนังสือ ทําที่คั่นหนังสือ ทําความสะอาด
และอุปกรณ๑ จากวัสดุธรรมชาติ ห๎องเรียน
การเรียน
ตามตารางเรียน
ตัวอย่าง
1 2 3
คาตอบ
ตัวอย่าง
โจทย๑กําหนดให๎เลือกตัวเลือกจากหมวดชิ้นงานประดิษฐ๑ หมวดวัสดุในท๎องถิ่น และหมวดอุปกรณ๑
มาใช๎ตามลําดับ ซึ่งหากผู๎สอบต๎องการเลือกงานประดิษฐ๑ที่ทับกระดาษ (หมายเลข 1) โดยเลือกวัสดุหินแมํน้ํา
(หมายเลข 7) และเลือกชนิดของอุปกรณ๑ คือ กาวซิลิโคน ปืนยิงกาว สีโปสเตอร๑ พูํกัน จานสี (หมายเลข 0)
ผู๎สอบจะต๎องกรอกรหัสคําตอบ 1 7 0 ลงในชํองวํางที่กําหนดให๎
รหัส หมวดชิ้นงานประดิษฐ์ รหัส หมวดวัสดุในท้องถิ่น
0 เข็มกลัด 0 เปลือกหอย
1 ดอกไม๎ประดิษฐ๑ 1 กระดาษสา กระดาษยํน
2 เครื่องแขวน 2 กระดาษ เมล็ดธัญพืช
3 บัตรอวยพร 3 ผ๎าพื้นเมือง
4 กระเป๋าใสํเงิน 4 เกล็ดปลา
ส่วนที่ 1
1. 3 2. 4 3. 1 4. 4 5. 3
6. 1 7. 1 8. 2 9. 3 10. 4
11. 4 12. 1 13. 1 14. 1 15. 3
16. 1 17. 2 18. 1 19. 1 20. 2
21. 2 22. 3 23. 2 24. 2 25. 2
26. 4 27. 4 28. 3 29. 3 30. 2
31. 4 32. 2 33. 4 34. 1 35. 2
36. 1 37. 4 38. 1 39. 3 40. 3
ส่วนที่ 2
41. 2 , 4 , 6 , 7
42. 3 1 4
43. ข้อที่ รหัส
1 (1 1 4)
2 (3 2 1)
3 (4 3 0)
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเตรียมสอบ O-NET
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ส่วนที่ 1
1. 4 2. 1 3. 2 4. 2 5. 4
6. 2 7. 4 8. 2 9. 3 10. 2
11. 4 12. 1 13. 2 14. 4 15. 1
16. 2 17. 2 18. 3 19. 4 20. 2
21. 2 22. 2 23. 4 24. 3 25. 1
26. 3 27. 4 28. 2 29. 2 30. 3
31. 3 32. 4 33. 2 34. 4 35. 3
36. 2 37. 4 38. 2 39. 1 40. 1
ส่วนที่ 2
41. 1 , 2
42. 2 , 4
43. 2 , 3
44. 1) 4 2) 3 3) 4 4) 2