รวมแนวข้อสอบ วิชาคณิตศาสตร์เข้าม.4

G
สง
T
วน
ลขิ
สทิ
Rm
ธเิ์ ช
ิงพ
าณ
ิ ชย
ท์ุกก
at
รณ
ี
h
แนวขอสอบคณิตศาสตร ระดับ ม.ตน หน้า|1
เตรียมสอบเขา ม.4 ชุดที่ 1 ............................................................................................................................
แนวขอสอบคณิตศาสตรระดับมัธยมศึกษาตอนตน
เตรียมสอบเขามัธยมศึกษาปที่ 4
คําชีแจง : จงเลือกคําตอบทีถูกต้ องทีสุด
15  5n  9  5n 1
1. ผลสําเร็จของ มีคา่ ตรงกับข้ อใด
h
9  5n  6  5n
1. –2 2. –3
15
3. 3 4.
7
at
รณ
ี
ุกก
2. จงแก้ สมการ x4 – 3x3 + 3x – 1 ค่า x ตรงกับข้ อใด
Rm
1. 5, 2 2. 2, 3
ิ ชย
ท์
1 3 1 5 1 5
3. , 4. 1  2,
2 2 2
าณ
ิงพ
ธเิ์ ช
3. ค่าของ 125 5 3
8 มีคา่ ตรงกับข้ อใด
T
สทิ
1. –75 2. –50
3. 50 4. 75
ลขิ
วน
G
สง
4. ผลคูณเลขสองจํานวนเป็ น 2128 ถ้ า ค.ร.น. ของเลขสองจํานวนนันคือ 112 ห.ร.ม. ของเลข

สองจํานวนเท่ากับข้ อใด
1. 9 2. 14
3. 18 4. 19
1
5. จํานวน เมือทําส่วนเป็ นจํานวนตรรกยะ จะมีคา่ ตรงกับข้ อใด
9 634
3 3
1. 3 2 2. 3 2
3. 3
332 4. 3
332
h
2x  1
6. กําหนด y = f(x) = จงเขียน x ในเทอมของ y ตรงกับข้ อใด
3x  2
at
1 2y  1
1. 2.
2  3y 3y  2
2y  1 1  2y
รณ
3. 4.
ี
3y  2 2  3y
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
ิงพ
7. กําหนด a : b = 2 : 3, b : c = 4 : 5, a + b + c = 700 จงหา a+b–c เท่ากับข้ อใด

ธเิ์ ช
1. 100 2. 160
3. 240 4. 300
T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
8. ค่าของ 3 1, 860867  14, 641 ตรงกับค่าในข้ อใด

1. –6 2. –2
3. 2 4. 12
9. หัวใจปกติเต้ น 1 ครังต่อวินาที ใน 1 ปี ธรรมดาหัวใจเต้ นกีครัง เขียนให้ อยู่ในรูป

A  10n เมือ 1  A < 10 เมือ n เป็ นจํานวนเต็ม
1. 2.275  108 2. 2.275  109
3. 3.1536  107 4. 3.1536  108
h
10. สีเหลียมจัตรุ ัส ด้ านยาวด้ านละ 14 นิว จงหาพืนทีแรเงา
at
1. 98 – 169 ตารางนิว
49 49
2.  ตารางนิว
4 2
รณ
ี
3. 112 ตารางนิว
ตารางนิว
ุกก
4. 154
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
1 1 1
ิงพ
11. กําหนด a, b, c = 3, 6, 9 ตามลําดับ จงหาค่า   เท่ากับข้ อใด

ab bc ca
1 1
ธเิ์ ช
1. 2.
9 18
2 5
3. 4.
T
9 18
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
12. กําหนดสมการ 2x – 7y – 5z = 0
x +y–z = 0
จงหา x:y:z เท่ากับข้ อใด
1. 4:1:3 2. 4 : –1 : 3
3. 2:1:3 4. 2 : –1 : 3
13. ตัวประกอบของ a(a + 1)(a + 2)(a + 3) + 1 เท่ากับข้ อใด

1. (a2 + 2a + 1)2 2. (a2 + 3a + 1)2
3. (a2 + 2a + 3)2 + 1 4. (a2 + 2a + 1)2 + 1
h
a
14. จงหาค่า k จากสมการ 4x2 + kx + 12 = 0 ซึงมี a, b เป็ นรากของสมการ และ =3
b
at
ค่า k ตรงกับข้ อใด
1. 12 2. –16
3. 16, –16 4. –12, 12
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
15. ข้ อใดไม่ถกู ต้ อง
ิงพ
1. 2x + 4y = 3 และ y = (x – 1)2 + 2 ตัดกัน 2 จุด

กราฟของสมการ 2x – y = 5 ขนานกับ กราฟของสมการ 4x – 2y = 25
ธเิ์ ช
2.
3. กราฟของสมการ 3x + 4y = 7 ตังฉากกับ กราฟของสมการ 4x – 3y = 5

T
กราฟของสมการ 4x + 5y = 6 ไม่ตดั กับกราฟของสมการ 10y + 8x = 7

สทิ
4.
ลขิ
วน
G
สง
16. กําหนดให้ 3003x = 3667 จงหาค่าของ x

1. 4 2. 5
3. 6 4. 7
17. ข้ อใดไม่ถกู ต้ อง
1. x2 + y2 + 2x –4y – 5 = 0 เป็ นกราฟ วงรี
2. x2 – 2x + 5 – 3y = 0 เป็ นกราฟ พาราโบลา
3. 3x – 4y = 5 เป็ นกราฟเส้ นตรง
x y
4.  7 เป็ นกราฟ วงกลม
3 4
h
ค่าของ (32 )2  (21 )2   34 มีคา่ ตรงกับข้ อใด
at
2
18.   (52 )2
1. 17 2. 30
17 50
รณ
ี
3. 4.
50 17
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
1
ถ้ า แล้ ว จงหา ตรงกับข้ อใด
ิงพ
19. P(a – 1) = 11 – 14a + 6a2 – a3 P( )

2
1 1
ธเิ์ ช
1. 2.
4 8
3. 4 4. 8
T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
20. จากสมการ 4x2 + kx + 5 = 0 , k เป็ นจํานวนเต็มบวกทีน้ อยทีสดุ ทีทําให้ สมการมีราก

เป็ นจํานวนจริ งค่า k ตรงกับข้ อใด
1. 7 2. 8
3. 9 4. 10
21. เส้ นตรง 3x – 4y = 12 ตัดแกน x ทีจุด A ตัดแกน y ทีจุด B เส้ นตรง 2y = –4x – 6
ตัดแกน x ทีจุด C ตัดแกน y ทีจุด B ทําให้ เกิด D ABC จงหาพืนที DABC
1. 8.25 ตารางหน่วย 2. 10.25 ตารางหน่วย
3. 10 ตารางหน่วย 4. 15 ตารางหน่วย
h
22. จากสมการ –8 – 6x – x2 – y = 0 จงพิจารณาข้ อใดต่อไปนีทีผิด
at
1. y เป็ นบวก เมือ –4 < x < –2 2. y เป็ นลบเมือ x <–4 หรื อ x > –2
3. y เป็ น 0 เมือ x = –2, –4 4. y ให้ คา่ สูงสุด 17
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
23. สีเหลียมด้ านขนานทีความยาวฐานเป็ น 3 เท่าของสามเหลียม สามเหลียมมีความสูงเป็ น
ิงพ
3 เท่าของความสูงของสีเหลียมด้ านขนาน แล้ วสีเหลียมด้ านขนานและสามเหลียม

ธเิ์ ช
ดังกล่าวจะมีพืนทีเป็ นอัตราส่วนเท่าไร
1. 1:1 2. 3:2
T
สทิ
3. 2:1 4. 4:1
ลขิ
วน
G
สง
x 2  16x  18 A B C
24. กําหนดให้ 3 2
   ค่าของผลคูณของ
x  2x  15x  36 x  4 x  3 (x  3)2
A, B, C เท่ากับข้ อใด
1. 8 2. –8
3. 6 4. –6
2 1 4 2 3 1
25. กําหนดสมการ   0,   4,   2 จงหาค่า x2 + y2 + z2
x z x y y z
เท่ากับข้ อใด
1. 5 2. 6
3. 8 4. 16
h
26. พจน์ทีสองของการกระจาย (–4x – 3y)4 ตรงกับข้ อใด
at
1. 768x3y 2. –768x3y
3. 256x3y 4. –256x3y
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
27. กําหนด A(–1, –1) B(3, –1) C(3, 4) D(–1, 4)
ท์
พืนทีวงกลมทีผ่านจุด A, B, C , D
าณ
เท่ากับข้ อใด
ิงพ
41 41
1.  2. 
ธเิ์ ช
2 2
41 41
3.  4. 
4 2
T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
28. กราฟของสมการ x2 + y2 + 4x + 8y + 10 = 0 ตัดกับกราฟของสมการ y = x ทีจุดใด

1. (–2, 2) และ (6, 6) 2. (2, 2) และ (6, 6)
3. (1, 1) และ (5, 5) 4. (–1, –1) และ (–5, –5)

29. จงหาค่า p จากสมการ x2 – 16x + 1 = p(x2 + 1) ซึงมีรากสมการ 2 รากเท่ากัน

ค่า p เท่ากับข้ อใด
1. 1, 3 2. –1, –3
3. –7, 9 4. 7, –9
h
30. ABC เป็ นสามเหลียมหน้ าจัว มุม ACB = 150o AC = BC ลาก AD ตังฉากกับ BC
at
ทีต่อออกไปที D ถ้ า AD ยาว 3 หน่วย จงหาพืนที DABC
1. 6 ตารางหน่วย 2. 9 ตารางหน่วย
รณ
12 ตารางหน่วย 15 ตารางหน่วย
ี
3. 4.
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
p p cos   q sin 
31. กําหนดให้ cot   จงหาค่า
ิงพ
q p cos   q sin 
p2 p2  q 2
ธเิ์ ช
1. 2.
q2 p2  q 2
q2 p2  q 2
3. 4.
T
p2 p2  q 2
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
 4   2 
32. ค่าของ 3 tan2  cos2  4 cos2  sin2 เท่ากับข้ อใด
6 3 6 4 3 3
1
1.  2. –1
2
1
3. 4. 1
2
2 2
33. กําหนด sin A = , cos B = เมือ A, B เป็ นมุมแหลม
3 3
จงหา 2 2
9(sin B + cos A)
1. 1 2. 9
3. 10 4. 15
h
34. โยนลูกเต๋า 2 ลูกพร้ อมกัน จงหาความน่าจะเป็ นทีลูกเต๋าลูกแรกให้ แต้ มมากกว่าหรื อเท่ากับลูกทีสอง
7 5
1. 2.
at
12 12
3 1
3. 4.
4 6
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
35. จงหาความน่าจะเป็ นทีครอบครัวหนึงในประเทศไทย จะมีบตุ รเป็ นหญิ งล้ วน
ท์ 13 คน
าณ
1 1
1. 2.
ิงพ
13 132
1 2
3. 4.
ธเิ์ ช
213 213
T
สทิ
ลขิ
วน
ทรงกรวยยอดตัด ดังรูป มีปริ มาตรเท่ากับข้ อใด

G
สง
36.
1. 26 ลูกบาศก์หน่วย
1
26
2. ลูกบาศก์หน่วย
2
26
2 3. ลูกบาศก์หน่วย
3
26
4. ลูกบาศก์หน่วย
3 5
37. กําหนดเงือนไข ABC ดังนี

1) A(1, –1) , B(10, –1)
2) เป็ นเส้ นตรงทีผ่าน
y = 2x – 3 AC
3) ความชัน BC หาค่าไม่ได้
พืนที ABC เท่ากับข้ อใด
1. 81 2. 85
3. 90 4. 100
h
at
2x  11 x  4 x  5 2x  9
38. กําหนดให้    จงหาค่า |2x2 – 6x| ตรงกับข้ อใด
x 2 x3 x 2 x 1
3 5
1. 2.
รณ
ี
2 2
3. 3 4. 5
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
ิงพ
39. จากการสํารวจนําหนักนักเรี ยน 4 คน ฐานนิยมของนําหนักนักเรี ยน 4 คนนีเป็ น 40

กิโลกรัม มัธยฐานเป็ น 39 กิโลกรัม พิสยั เท่ากับ 6 กิโลกรัม นักเรี ยน 2 คนมีนําหนัก
ธเิ์ ช
น้ อยกว่าฐานนิยม ค่าเฉลียเลขคณิตของนําหนักของนักเรียนกลุม่ นีเท่ากับเท่าใด

T
1. 39.5 กิโลกรัม 2. 39 กิโลกรัม

สทิ
3. 38.5 กิโลกรัม 4. 38 กิโลกรัม

ลขิ
วน
G
สง
40. ข้ อมูล 4 จํานวน มีคา่ เฉลียเลขคณิต มัธยฐาน ฐานนิยม เป็ น 25, 26 และ 30 ตามลําดับ จงหา
ข้ อมูลทีมีคา่ น้ อยทีสุด
1. 16 2. 18
3. 20 4. 22
41. จากรูป เป็ นรูป 5 เหลียม บรรจุในวงกลม

ABCDE O มุม BOC = 80 องศา
AB = BC = CD มุม AED กางกีองศา
E
1. 110 องศา
2. 120 องศา
A O D
3. 125 องศา
4. 130 องศา
h
B C
at
42. วงกลมแบนในสามเหลียม ซึงมี AB = 10 , BC = 8 , AC = 6
จงหาพืนทีวงกลมนี
รณ
ี
1. 3 ตารางนิว 2. 4 ตารางนิว
ุกก
5 ตารางนิว ตารางนิว
Rm
3. 4. 6
ิ ชย
ท์
าณ
ิงพ
43. จากรูป จงหาว่ามุม AFC ตรงกับข้ อใด

ธเิ์ ช
A
D 1. a–b
a
T
2. a+b
สทิ
F b B
3. 2a – b
ลขิ
E 4. 2a + b
วน
C
G
สง
44. นายต้ นคิดนําลวดเส้ นหนึงมาขดเป็ น ด้ านเท่า แล้ วขดเป็ นวงกลมล้ อมรอบ
แล้ วขดเป็ น  จัตรุ ัส ล้ อมรอบวงกลมอีกทีหนึง วัดความยาวด้ านของ  จัตรุ ัส
ได้ 8 นิวพอดี จะต้ องใช้ ลวดทังหมดยาวเท่าไร
1. 75.9 นิว 2. 77.9 นิว
3. 69.9 นิว 4. 79.9 นิว

45. เวลาในการแกว่งครบหนึงรอบของลูกตุ้มนาฬิกาแปรผันตรงกับรากทีสองของความยาวของ
ลูกตุ้มนาฬิกา ถ้ าลูกตุ้มนาฬิกายาว 64 เซนติเมตร จะแกว่ง 10 ครังใน 16 วินาที
จงหาความยาวของลูกตุ้มนาฬิกาเป็ นเซนติเมตรซึงแกว่ง 60 ครัง ในเวลา 2 นาที
1. 64 เซนติเมตร 2. 81 เซนติเมตร
3. 100 เซนติเมตร 4. 121 เซนติเมตร
h
at
นายชลชาติขบั รถจากกรุงเทพฯไปราชบุรีเป็ นระยะทาง 120 กิโลเมตร หลังจากแล่นไปได้
รณ
ี
46.
ครึงทางด้ วยอัตราเร็วคงที เครื องเกิดขัดข้ องต้ องลดความเร็วลงชัวโมงละ 8 กิโลเมตร
ุกก
Rm
ทําให้ ถงึ ปลายทางช้ าไป 22.5 นาที เดิมเขาขับรถด้ วยอัตราเร็วเท่าไรต่อชัวโมง
70 กิโลเมตร 60 กิโลเมตร
ิ ชย
ท์
1. 2.
3. 50 กิโลเมตร 4. 40 กิโลเมตร
าณ
ิงพ
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
47. ชาย 2 คน หญิ ง 5 คน ทํางานอย่างหนึงแล้ วเสร็จภายใน 8 วัน ชาย 3 คน หญิง 6 คน

G
สง
ทํางานอย่างเดียวกันแล้ วเสร็จภายใน 6 วัน ถ้ าชาย 2 คน ทํางานนีคนเดียวจะเสร็จในกีวัน

1. 10 วัน 2. 12 วัน
3. 18 วัน 4. 36 วัน
48. ทุ่งหญ้ าแห่งหนึงมีหญ้ างอกสมําเสมอตลอดเวลา สามารถเลียงโคนมได้ 70 ตัว ในเวลา 24 วัน หรื อเลียง
ได้ 30 ตัว ในเวลา 60 วัน ถ้ าต้ องการให้ เลียงโคนมได้ นาน 96 วัน จะต้ องเลียงโคนมกีตัว
1. 10 2. 15
3. 16 4. 20
h
ชายผู้หนึงแจวเรื อตามนําไป 2 ชัวโมง แล้ วหยุดแจวปล่อยให้ เรื อลอยไปตามกระแสนํา 1 ชัวโมง ปรากฏ
at
49.
ว่าเขาอยู่ห่างจากจุดเริ มต้ น 16 กิโลเมตร แต่ถ้าเขาแจวทวนนําขึนไป 6 ชัวโมง แล้ วหยุดแจวปล่อยให้

เรื อลอยตามกระแสนํามา 2 ชัวโมง เขาจะอยูห่ ่างจากจุดเริ มต้ น 14 กิโลเมตรดังนัน ความเร็วของ
รณ
ี
กระแสนํากีกิโลเมตรต่อชัวโมง
ุกก
Rm
1
1. 2 2. 2
2
3
ิ ชย
ท์
3. 2 4. 3
4
าณ
ิงพ
ธเิ์ ช
T
สทิ
50. ชายคนหนึงนังอยู่บนยอดตึกซึงสูง 60 เมตร สังเกตเห็นเด็กคนหนึงกําลังเดินตรงเข้ ามาเป็ น

ลขิ
มุมก้ ม 30 องศา ถ้ าเด็กคนนีเดนด้ วยอัตราเร็วสมําเสมอ 10 เมตรต่อนาที แล้ วนานเท่าใด

วน
จึงจะเห็นเด็กคนนีอีกครังหนึงเป็ นมุมก้ ม 60 องศา (กําหนด 3  1.73 )

G
สง
1. 5.24 นาที 2. 5.42 นาที
3. 6.48 นาที 4. 7.32 นาที

เตรียมสอบเขา ม.4 ชุดที่ 2 .......................................................................................................................
1. กําหนดให้ x และ y เป็ นจํานวนจริ งใดๆ ซึง x0 และ y0 ถ้ า x2 y2 = xy
h
แล้ วข้ อใดต่อไปนีเป็ นจริ ง
1. x2 + y2 > 0 2. x2 – y2 < 0 3. x2 + x3y3 > 0 4. x2 – x3y3 < 0
at
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
2. ถ้ า x x x x...  2 แล้ ว x มีคา่ เท่ากับข้ อใด
1. 2 2. 2 3. 2 2 4. 4
ิงพ
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
4a  b
3. ถ้ า =1 แล้ ว (a + b)2 : (a – b)2 มีคา่ เท่าไร
3a  2b
1. 1 : 2 2. 1 : 4 3. 2 : 1 4. 4 : 1
1
4. ถ้ า 2 เท่าของ A เท่ากับ 100% ของ B แล้ ว ของ B เป็ นกีเปอร์ เซ็นต์ของ A
40
1. 30% 2. 40% 3. 50% 4. 60%
h
5. ข้ อใดต่อไปนีเป็ นเท็จ เมือ A เป็ นค่ามุมใดๆ
at
2 3
1. sin A = 2. cos A = 3. tan A = 2.5 4. cosec A = 3
3 2
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
1 1 1
6. ถ้ า   0 และ x+y+z=8 แล้ ว ค่าของ x2 + y2 + z2 เท่ากับข้ อใด
x y z
ิงพ
1. 0 2. 16 3. 32 4. 64
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
7. กําหนดให้ x + x–1 = 10 แล้ ว x3 + x–3 มีคา่ เท่ากับข้ อใด

1. 700 2. 760 3. 840 4. 970
8. ถ้ า (x – 34)(x – 54) = 37 แล้ ว (x – 44)2 มีคา่ ตรงกับข้ อใด

1. 37 2. 47 3. 137 4. 370
h
x2
9. กําหนดให้  2 3x  c เป็ นกําลังสองสมบูรณ์ แล้ ว c มีคา่ เท่ากับเท่าใด
4
at
1. 4 2. 8 3. 12 4. 16
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ถ้ าผลบวกของรากของสมการ x2 + kx – k2 = 0 มีคา่ เป็ น
ท์ แล้ วผลคูณของรากของ
าณ
10. 3k – 12
สมการดังกล่าวมีคา่ เท่ากับเท่าใด
ิงพ
1. –5 2. –7 3. –9 4. –12
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
11. ห.ร.ม. ของ x2 – 11x + 24 กับ 2x2 – x – 15 เท่ากับเท่าไร

1. x + 3 2. x – 3 3. x + 1 4. x – 1
12. กําหนดให้ 9xy + x2y2 – 3x3 – 3y3 = 5 และ 3y – x2 = 2

ดังนัน ค่าของ 2y2 – 6x มีคา่ เท่ากับเท่าใด
1. –7 2. –5 3. –3 4. –1
h
1
 x 2  y2 
13. เขียน x 4  y 4  ในรูปอย่างง่ายได้ ตรงกับข้ อใด
 
at
1 1 1 1 x 2 y2 x2  y2
1. 2  2 2. 2
 2 3. 4.
x y x y x 2  y2 x 2  y2
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
14. พืนทีของรูปสีเหลียมผืนผ้ าเท่ากับ 75 ตารางนิว มีเส้ นรอบรูปยาว 35 นิว
ิงพ
จะมีเส้ นทแยงมุมยาวกีนิว
ธเิ์ ช
1. 11.5 นิว 2. 12.5 นิว 3. 13.5 นิว 4. 14.5 นิว

T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
15. กําหนดให้ ABCD เป็ นรูปสีเหลียมด้ านขนาน ซึง E เป็ นจุดกึงกลางของด้ าน BC และ BD
ตัด AE ทีจุด F แล้ วข้ อใดต่อไปนีผิด
1. 3EF = EA 2. 3BF = FD
3. 2(พ.ท. ABE) = พ.ท. BCD 4. 2(พ.ท. ABE) = พ.ท. ACD
16. จากรูป
D
กําหนดให้ DAB  DCB  90o
แล้ วค่าของ b ตรงกับข้ อใด c

1. d2  c 2  a 2 d
2. d2  a 2  c 2 C
b
3. a 2  c2  d 2
A a B
4. c2  a 2  d 2
h
at
รณ
ี
17. จากรูป กําหนดให้ AB // CD
ุกก
ดังนัน ค่าของ x + y เท่ากับข้ อใด
Rm
39o
A B
1. 71o 5y
ิ ชย
ท์
2. 81o
าณ
3. 91o
x–y 2x
4. 101o C D
ิงพ
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
คําตอบของสมการ มีคา่ ตรงกับข้ อใด

วน
18. px2 – qx – r = 0
q  q 2  4pr q  q 2  4pr
G
สง
1. 2.
2p 2p
q  q 2  4pr q  q 2  4pr
3. 4.
2p 2p
19. กําหนดให้ p, q และ r เป็ นจํานวนเฉพาะบวกทีมีคา่ น้ อยกว่า 100 โดยที p<q<r

อยากทราบว่าจะมีชดุ ของ p, q, r ทังหมดกีชุด
1. 6 ชุด 2. 7 ชุด 3. 8 ชุด 4. 9 ชุด
h
20. มีจํานวนนับทังหมดกีจํานวนทีหาร 1,000,000 ลงตัว
1. 36 จํานวน 2. 40 จํานวน จํานวน จํานวน
at
3. 49 4. 50
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
กําหนดให้ 54 1
แล้ วค่าของ
ท์
ตรงกับข้ อใด
าณ
21. 2 a+b+c
19 1
a
1
ิงพ
b
c
1. 10 2. 8 3. 11 4. 9
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
22. จํานวนๆหนึงเมือเพิมขึน 6% และลดลง 4% จะมีคา่ ต่างกัน 250 แล้ วจํานวนดังกล่าวตรงกับข้ อ

ใด
1. 2,000 2. 2,500 3. 4,000 4. 5,000
23. ถ้ ากําหนดความยาวของด้ านทังสามของรูปสามเหลียมให้ อยากทราบว่า รูปสามเหลียมในข้ อใด

เป็ นรูปสามเหลียมมุมป้าน
1. 9, 40, 41 2. 3.5, 4, 5 3. 3, 4.1, 5 4. 3, 3.5, 5
h
at
24. เมือปี พ.ศ. 2540 อายุของจัน : อายุของนัท เป็ น 2 : 9 และถ้ าปี พ.ศ. 2547 จันอายุ 52 ปี
อยากทราบว่าอัตราส่วนของ อายุของนัท : อายุของจัน ในปี พ.ศ. 2550ตรงกับข้ อใด
รณ
ี
1. 4 : 11 2. 5 : 13 3. 11 : 4 4. 13 : 5
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
ิงพ
ธเิ์ ช
T
1
25. มานะขับรถจากเชียงใหม่ไปสงขลา วันแรกเขาขับได้ ทาง ของระยะทางทังหมด วันทีสองขับได้
สทิ
3
1 1
ทาง ของระยะทางทีเหลือจากวันแรก และวันสุดท้ ายขับได้ ของทีเหลือจากทังสองวัน
ลขิ
4 3
วน
ปรากฏว่าเขายังเหลือทางอีก 475 กิโลเมตร อยากทราบว่าถ้ าเขาขับรถ ไป–กลับ เชียงใหม่สงขลา

G
สง
รวมระยะทางได้ ทงหมดกี
ั กิโลเมตร
1. 1,425 กิโลเมตร 2. 1,525 กิโลเมตร
3. 2,850 กิโลเมตร 4. 3,050 กิโลเมตร
8 4
26. ผลบวกของ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของ และ มีคา่ เท่าไร
9 7
4 2 2 8
1. 8 2. 4 3. 8 4. 4
63 63 63 63
h
27. กําหนดรูปสามเหลียมรูปหนึงมีด้านทังสามยาว 12, 20 และ a หน่วย แล้ ว a มีคา่ เท่าไร
at
1. 12 < a < 20 2. 8 < a < 32 3. 10 < a < 30 4. 6 < a < 40
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
28. ชาย 3 คน ได้ แก่ พรชัย สุรศักดิ และสมภพ ออกวิงจากจุดเดียวกัน เมือเวลา 12.30 น. แต่ละ
คนวิงรอบสนามรูปสีเหลียมผืนผ้ า โดยพรชัยวิงรอบสนามใช้ เวลา 8 นาที สุรศักดิวิงรอบสนามใช้
ิงพ
เวลา 10 นาที ถ้ าทังสามคนมาพบกันทีจุดเริ มต้ นอีกครังในเวลา 13.50 น. อยากทราบว่า สมภพ

ธเิ์ ช
วิงรอบสนามใช้ เวลากีนาที
T
1. 24 นาที 2. 16 นาที 3. 15 นาที 4. 12 นาที

สทิ
ลขิ
วน
G
สง
(1012 )a  1013
29. กําหนดให้  1214 แล้ วค่าของ a เขียนเป็ นตัวเลขโรมัน ได้ ตรงกับข้ อใด
1005
1. CXXI 2. CXXIII 3. CXXIV 4. CXXV
7
20
15
x
h
ค่าของ x+y มีคา่ เท่ากับเท่าไร
1. 18 หน่วย 2. 20 หน่วย 3. 21 หน่วย 4. 23 หน่วย
at
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
R a N Q
ิงพ
ธเิ์ ช
a
T
สทิ
S M a K b P
ลขิ
3
วน
กําหนด PQRS เป็ นรูปสีเหลียมผืนผ้ า และ RSKN เป็ นรูปสีเหลียมจัตรุ ัส โดยที MN = MP

G
สง
อยากทราบว่า อัตราส่วนของ a มีคา่ เท่าใด

b
1  10 1  10 2 10 3 10
1. 2. 3. 4.
3 3 3 2
32. ณัติซือเสือมาตัวละ 50 บาท ถ้ าขายในราคาตัวละ 80 บาท ในเวลา 1 เดือน จะขายเสือได้

1,000 ตัว แต่ถ้าลดราคาเสือลงทุกๆ 1 บาท จะทําให้ ขายเสือได้ มากขึนเดือนละ 50 ตัว ถ้ าณัติ
ต้ องการขายให้ ได้ กําไรมากทีสุดใน 1 เดือน จะต้ องตังราคาเสือตัวละกีบาท
1. 70 บาท 2. 65 บาท 3. 50 บาท 4. 40 บาท
h
at
33. ถ้ าขยายทรงกลมให้ มีเส้ นผ่านศูนย์กลางเพิมขึนเป็ น 2 เท่า แล้ วปริ มาตรของทรงกลมใหม่จะเป็ นกี
เท่าของปริ มาตรของทรงกลมเดิม
รณ
ี
1. 4 เท่า 2. 8 เท่า 3. 16 เท่า 4. 24 เท่า
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
ิงพ
ธเิ์ ช
34 ถ้ าทรงกระบอกมีรศั มียาว 2 2 หน่วย สูง 27 หน่วย มีปริมาตรเท่ากับลูกบาศก์ลกู หนึง แล้ ว

ลูกบาศก์ลกู นีด้ านยาวด้ านละกีหน่วย
T
สทิ
1 1 1 1
1. 4 3 2. 5 3 3. 6 3 4. 7 3
ลขิ
วน
G
สง
35. ผลบวกของคําตอบทีเป็ นจํานวนจริ งทังหมดของสมการ x6 – 9x4 + x3 = 9x เท่ากับข้ อใด

1. –2 2. 0 3. –1 4. 1
36. มีจดุ อยู่ 7 จุด อยู่บนเส้ นรอบวงของวงกลม จะลากเส้ นตรงต่อจุดเหล่านีได้ มากทีสุดทังหมดกีเส้ น

1. 21 เส้ น 2. 18 เส้ น 3. 17 เส้ น 4. 14 เส้ น
h
at
37. จากจํานวนตังแต่ 30 ถึง 80 อยากทราบว่า ความน่าจะเป็ นทีจะหยิบได้ จํานวนคูห่ รื อจํานวนหาร
รณ
ี
ด้ วย 5 ลงตัว เท่ากับข้ อใด
21 31 21 31
ุกก
1. 2. 3. 4.
Rm
50 50 51 51
ิ ชย
ท์
าณ
ิงพ
ธเิ์ ช
T
สทิ
38. คะแนนชุดหนึงเรียงลําดับจากน้ อยไปหามาก ดังนี 2, 4, 4, 5, 5, A, 8, 8, 10 ซึงมีฐาน

ลขิ
วน
นิยมเพียงค่าเดียวและ ถ้ ามัธยฐานน้ อยกว่าฐานนิยมอยู่ 3 แล้ วค่าเฉลียเลขคณิตของคะแนนชุดนี

G
เท่ากับเท่าไร
สง
1. 6 คะแนน 2. 5.5 คะแนน 3. 5 คะแนน 4. 4.5 คะแนน

39. ผลบวกของจํานวนเฉพาะบวกทีหาร 66,810 ลงตัว มีคา่ เท่าใด

1. 158 2. 159 3. 162 4. 167
h
at
40. มีกระดาษ 4 แผ่น เขียนเลข 1, 2, 3 และ 4 ลงในกระดาษทัง 4 แผ่น สุมหยิบมา 1 ใบ
จดเลขไว้ แล้ วใส่กล่องเขย่า และหยิบขึนมาอีก 1 ใบ เปิ ดดูแล้ วจดไว้ ถ้ าตัวเลขทีจดครังแรก คือ x
รณ
ี
และตัวเลขทีจดครังที 2 คือ y อยากทราบว่า ความน่าจะเป็ นที x2y + y หารด้ วย 5 ลงตัว
เป็ นเท่าใด
ุกก
Rm
3 5 7 8
1. 2. 3. 4.
16 16 16 16
ิ ชย
ท์
าณ
ิงพ
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
 4x  2y 0
1. 2x  y  มีคา่ ตรงกับข้ อใด
h
 2 
1. 0 2. 1
3. –1 4. ไม่มีข้อใดถูก
at
รณ
ี
ุกก
Rm
1 3 1
10  12  15
2. ค่าของ 2 4 4 ตรงกับข้ อใด
ิ ชย
ท์
7 1
1 1
8 2
าณ
2 4
1. 3 2. 3
5 5
ิงพ
2 4
3. 6 4. 6
5 5
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
3. ไทยเสียกรุงศรี อยุธยาครังที 2 เมือวันพฤหัสบดี ขึน 7 คํา พ.ศ. 2310 อยากทราบว่าในปี นันตรง

G
สง
กับ ปี อะไรทางจันทรคติ
1. ปี ระกา 2. ปี จอ
3. ปี กุน 4. ปี ชวด
4. จํานวนนับทีน้ อยทีสุดที หารด้ วย 10 แล้ วเหลือเศษ 8 , หารด้ วย 8 แล้ วเหลือเศษ 6 ,
หารด้ วย 6 แล้ วเหลือเศษ 4 หารด้ วย 4 เหลือเศษ 2 เลขจํานวนนันคือ

1. 16 2. 118
3. 122 4. 136
h
5. จํานวนนับทีมากทีสุดทีหาร 188, 153 และ 300 แล้ วเหลือเศษเท่ากัน เศษทีเท่ากันเท่ากับข้ อใด
at
1. 12 2. 10
3. 8 4. 6
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
6. ถ้ า 1105(3334 – 2223) = X6 แล้ วค่า X เท่ากับข้ อใด
ิงพ
1. 11136 2. 22206
3. 55506 4. 50506
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
7. พระนอน มีความยาว 1 เส้ น 3 วา 2 ศอก 1 คืบ 7 นิว พระนอนนีมีความยาวกีนิว

1. 2250 2. 2275
3. 4260 4. 4267
1 1 1 1
8. ค่าของ    ...  มีคา่ ตรงกับข้ อใด
1 2 2 3 3 4 15  16
1. 3 2. 6
3. 9 4. 12
h
9. ตัวประกอบของ a4 + 2a3 + a2 – 1 ตรงกับข้ อใด
1. (a2 + a – 1)2 2. (a2 + a + 1)(a2 – a – 1)
at
3. (a2 + a + 1)(a2 + a – 1) 4. (a2 – a + 1)(a2 – a – 1)
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
10. ถ้ า x3 + 5x2 + kx + 8 หารด้ วย x2 + x + 2 ลงตัว จงหาค่า k
าณ
1. 2 2. 4
ิงพ
3. 6 4. 8
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
631x
11. ถ้ า  1002 แล้ ว จงหาค่า x
79
1. 7 2. 8
3. 9 4. 10
 4  4   4(4 0  4  41 )42 
12. จงหาค่าของ  3   
 4   4  30 
1. 8 2. 16
3. 24 4. 32
h
13. การแยกตัวประกอบ ข้ อใดถูกต้ อง
r3  r  2 3 1 
1. 27q3 – = 3q  
 9q  rq  2 
8 2 2 4r
at
2
2. 2(3x–1) + 9(3x – 1) – 110 = (6x – 13)(3x + 9)
2a 2  9a  9 4a 2  9 (a  3)(a  1)
3.  2 
5a  30 3a  5a  18 5(2a  3)
รณ
ี
4. x4 + x2y2 + y4 = (x2 + xy – y2)(x2 + xy + y2)
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
14. กําหนด P(x + 2) = 3x2 + 10x + 3 จงหา P(2x) ตรงกับข้ อใด
ิงพ
1. 12x2 + 20x + 3 2. 12x2 – 20x + 3

ธเิ์ ช
3. 12x2 – 4x – 15 4. 12x2 – 4x – 5
T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
15. กําหนด 5+ 3 และ 5– 3 เป็ นรากสมการในข้ อใด

1. x2 – 10x + 22 = 0 2. x2 + 10x – 22 = 0
3. x2 + 16x + 16 = 0 4. x2 – 16x – 23 = 0
x3  x2  1 A B C 1
16. กําหนดให้    ค่าของ ตรงกับ
(x  1)(x  2)(2x  1) x  1 x  2 2x  1 ABC
ข้ อใด
1. 9 2. 18
1 1
3. 4.
9 18
h
at
x 2  7x  10 x 2  3x  10
17. กําหนดให้  2 ค่าของ x2 – 2x ตรงกับข้ อใด
x 2  7x  12 x  3x  8
1. 0 2. 2
รณ
ี
3. 4 4. 8
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
18. x3 + 2x2 + 3x + 2 และ x3 + 2x2 + a ต่างหารด้ วย x+2 แล้ วเหลือเศษเท่ากัน
ิงพ
จงหาค่า a
ธเิ์ ช
1. –8 2. –4
3. 4 4. 8
T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
8a 4
19. จากสมการ x(x – 2a) = 2
 7a 2 ผลบวกของรากของสมการตรงกับข้ อใด
x  2ax
1. 2a 2. 4a
3. 6a 4. 8a
20. ให้ a และ b เป็ นรากของสมการ x2 – 3x + 4 = 0 จงหาค่า m จากสมการ

14(a2 + b2)m2 + 6(a+b)m + ab = 0
1. –1, –2 2. 1, 2
2 2
3. , –1 4. ,1
7 7
h
21. กําหนด a : 25 = b : 20 และ b:c=3:4 แล้ ว a:c เท่ากับอัตราส่วนในข้ อใด
at
1. 5:4 2. 6:8
3. 15 : 16 4. 20 : 12
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
22. กําหนดให้ (a  b)  c = (a + b)(b – c) ข้ อใดมีคา่ น้ อยทีสุด
ิงพ
1. (1  2)  3 2. (1  3)  2
3. (2  1)  3 4. (2  3)  1
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
23. จงหาค่า y – intercept เมือกําหนด y = f(x) = 0.3x2 – 3.1x – 7

1. –70 2. –7
3. 7 4. 70
24. คําตอบของอสมการ 3x2 + 6x  0 คือข้ อใด

1. x  –2 2. x  –2
3. –2  x  0 4. –2  x < 0
h
25. ข้ อใดไม่เป็ นอัตราส่วนของความยาวของด้ านของสามเหลียมมุมฉาก
at
1. 1 : 0.75 : 1.25 2. 7 : 24 : 25
3. 8 : 15 : 11 4. 12 : 35 : 37
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
26. พืนทีวงกลมซึงผ่านจุด A(–10, –15), B(2, –15) และ C(2, –10) เท่ากับข้ อใด
1. 40 2. 50
ิงพ
3. 42.25 4. 52.25
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
27. กําหนดจุด A(–1, 1) , B(5, 1) , C(7, 5) และ D(1, 5) เป็ นจุดระนาบ จงพิจารณาข้ อใดต่อไปนี
ถูกต้ อง
1. ABCD เป็ น  ผืนผ้ า 2. ACขนานแกน x
3. ABCD มีพืนที 24 ตารางหน่วย 4. ABC เป็ น  หน้ าจัว
28. จากรูป จงหาความยาว AB
6 1. 40 หน่วย
6 2. 42 หน่วย
8
8 3. 46 หน่วย
10 4. 48 หน่วย
10
h
8
at
รณ
ี
29. วงกลม A และวงกลม B รัศมีเท่ากันเท่ากับ 3 นิว ตัดกันทีจุด C และจุด D วงกลมทังสอง
ุกก
Rm
ผ่านจุดศูนย์กลางของกันและกันดังรูป ความยาวเส้ นรอบรูปทีเป็ นเส้ นทึบเท่ากับข้ อใด
ิ ชย
ท์
C
1. 4
าณ
A B 2. 8
8
ิงพ
3.
3
ธเิ์ ช
D 16
4.
3
T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
30. จํานวนคี 4 จํานวนเรียงกันบวกกันได้ 376 ผลรวมของ จํานวนทีหนึง สองเท่าของจํานวน

ทีสอง สามเท่าของจํานวนทีสาม และ สีเท่าของจํานวนทีสี เท่ากับ 950
จงหาจํานวนกลาง 2 จํานวน
1. 83, 85 2. 93, 95
3. 95, 97 4. 85, 87
31. ร้ านค้ าแห่งหนึงซือพัดลมมา 3 เครื อง โคมไฟ 5 อัน เป็ นเงิน 2,550 บาท เขาขายพัดลมไปได้
กําไร 8% ขายโคมไฟขาดทุน 4% แต่เมือรวมแล้ วขายไปทังหมดได้ กําไร 114 บาท จงหาทุนของ
พัดลมและโคมไฟต่อ 1 หน่วย
1. พัดลม 600 บาท โคมไฟ 150 บาท 2. พัดลม 600 บาท โคมไฟ 130 บาท
3. พัดลม 650 บาท โคมไฟ 130 บาท 4. พัดลม 650 บาท โคมไฟ 150 บาท
h
at
ข้ าวสารถังละ 100 บาท จํานวน 9 ถัง ผสมกับข้ าวสารถังละ 120 บาท จํานวน 4 ถัง ขายไปถัง
รณ
ี
32.
ละ 120 บาท จะได้ กําไรหรื อขาดทุนกีเปอร์ เซ็นต์
ุกก
Rm
1. กําไร 8.7% 2. กําไร 13%
ขาดทุน 9.7% ขาดทุน 10.7%
ิ ชย
ท์
3. 4.
าณ
ิงพ
ธเิ์ ช
T
สทิ
33. อ้ น ฝากเงินกับธนาคารแห่งหนึงเป็ นเงิน 25,000 บาท ธนาคารคิดดอกเบียแบบทบต้ น 4.5%

ลขิ
วน
ต่อปี เมือครบกําหนด 3 ปี เขาจะได้ รับเงินรวมทังหมดเท่าไร

G
สง
1. 26,529 2. 27,529
3. 28,529 4. 29,529
34. กล่องรูปสีเหลียมรูปลูกบาศก์ มีพืนทีผิวทังหมด 216 ตารางนิว จะมีเส้ นทแยงมุมกล่องยาวเท่ากับ

ข้ อใด
1. 6 2 นิว 2. 6 3 นิว
3. 8 2 นิว 4. 10 3 นิว
h
35. มุมภายในรูปสิบสองเหลียมจะกางกีองศา
1. 108o 2. 120o
at
3. 144o 4. 150o
รณ
ี
ุกก
เป็ นรูปสีเหลียมด้ านขนาน M เป็ นจุดบน PS ทีทําให้
Rm
36. PQRS PM : MS = 1 : 2 ,
MN // PQ ลาก PR ตัด MN ทีจุด O
ิ ชย
ท์
อัตราส่วนพืนที PMO ต่อ พืนที PQRS เท่ากับข้ อใด
าณ
1 1
1. 2.
4 8
ิงพ
1 1
3. 4.
9 18
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
37. ปริ ซึมฐานเป็ นรูปสามเหลียม ด้ านทังสามยาว 72 ซม. 58 ซม. 50 ซม. แท่งปริ ซึมยาว 10 ซม.
G
สง
ปริ มาตรของปริ ซึมนีเท่ากับเท่าใด

1. 14,000 ลบ.ซม. 2. 14,400 ลบ.ซม.
3. 480 ลบ.ซม. 4. 4,800 ลบ.ซม.

38. พีระมิดฐานเป็ นรูปสีเหลียมจัตรุ ัส ยาวด้ านละ 12 ซม. สูงเอียง 10 ซม. ข้ อใดต่อไปนีถูกต้ อง

1. อัตราส่วนปริ มาตร : พืนทีผิวทังหมด = 1 : 1
4. พืนทีผิวข้ าง = 284 ตร.ซม.
h
at
39. กําหนดตารางคะแนนสอบนักเรี ยนกลุม่ หนึงดังนี ถ้ าตารางนีมีความกว้ างอัตรภาคชันเท่ากัน
ทุกชัน จงพิจารณาข้ อใดต่อไปนีถูกต้ อง
รณ
ี
คะแนน fi xi 1. a = 21
2. b = 30
ุกก
a–b 2 25.5
Rm
c–d 5 35.5 3. c = 31
4. ถูกทุกข้ อ
ิ ชย
ท์
  
าณ
ิงพ
ธเิ์ ช
T
สทิ
40. ในการหาค่าเฉลียเลขคณิตของคะแนนของนักเรี ยน 50 คน ได้ คา่ เฉลียเลขคณิตเท่ากับ 20

ลขิ
ปรากฏว่าอาจารย์คิดคะแนนผิดไป 2 คน คนแรกอ่าน 10 เป็ น 17 คนทีสองอ่าน 14 เป็ น 12

วน
จงหาค่าเฉลียเลขคณิตทีถูกต้ อง
G
สง
1. 19.90 2. 20.90
3. 19.10 4. 20.10
x 5 x  3 x 1 x 7
41. กําหนดให้     0 จงหาค่า |x2 + 8x| ตรงกับข้ อใด
x 6 x 4 x 2 x 8
1. –65 2. –15
3. 15 4. 65
h
42. กําหนดคะแนนสอบของนักเรียนห้ องหนึงดังตาราง ค่าเฉลียเลขคณิตเท่ากับข้ อใด
at
คะแนน 21–30 31–40 41–50 51–60 61–70 71–80 81–90
ความถี 2 5 8 14 6 9 6
รณ
ี
ุกก
1. 57.1 2. 58.1
Rm
3. 59.1 4. 60.1
ิ ชย
ท์
าณ
ิงพ
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
มีมมุ เป็ นมุมฉาก มุม เท่ากับ 30 องศา จงหาความยาว

วน
43. ABC B AB = 6 BAC AC

1. 2 3 2. 3 3
G
สง
3. 4 3 4. 5 3
44. กําหนด sec A + tan A = 3 , 0  A  90 จงหา sec A – tan A เท่ากับข้ อใด

1
1. 3 2.
3
3 2
3. 4.
2 3
h
at
45. ถังใบหนึงมีท่อ 3 ท่อ ท่อที 1 และท่อที 2 นําไหลเข้ าเต็มถังในเวลา 30 และ 20 นาที ตามลําดับ
ท่อที 3 เปิ ดนําไหลออกหมดในเวลา 40 นาที ถ้ าเปิ ด 3 ท่อพร้ อมกันนําเต็มถังใน
กีนาที
รณ
ี
1 1
1. 16 นาที 2. 17 นาที
ุกก
7 7
Rm
1 1
3. 18 นาที 4. 19 นาที
6 6
ิ ชย
ท์
าณ
ิงพ
ธเิ์ ช
T
สทิ
หยิบไพ่ 1 ใบจากสํารับ จงหาความน่าจะเป็ นทีจะหยิบได้ ไพ่ หรื อ หรื อไพแดง หรื อ

ลขิ
46. Jack Queen

วน
ดอกจิก เท่ากับข้ อใด

G
สง
1 1
1. 2.
2 13
15 17
3. 4.
26 26
47. ผู้ชาย 3 คน ผู้หญิ ง 2 คน ยืนเข้ าแถวเป็ นเส้ นตรง จงหาความน่าจะเป็ นทีชายยืนชิดกันและหญิ ง

ยืนชิดกันเสมอ
1 1
1. 2.
2 5
1 1
3. 4.
6 10
h
48. จากรูป 6 เหลียมด้ านเท่า ด้ านยาวด้ านละ 6 นิว พืนทีทีแรเงา 1 ชิน เท่ากับข้ อใด
at
1. 6 – 9 ตารางนิว
2. 8 – 9 ตารางนิว
รณ
12 – 18 3 ตารางนิว
ี
3.
4. 16 – 18 3 ตารางนิว
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
ิงพ
ธเิ์ ช
49. x แปรผันโดยตรงกับผลบวก 2 จํานวน จํานวนแรกแปรผันโดยตรงกับ y2 จํานวนที 2

แปรผกผันกับ z ถ้ า x = 16 , y = 2 , z = 1 และถ้ า x = 5 , y = 1 , z = 2
T
สทิ
จงหาค่า y เมือ x = 5 , z = 8
3 3
ลขิ
1. 2. 
วน
2 2
3 3
3. 4. 
G
สง
2 2
50. กําหนดให้ y เท่ากับผลบวกของจํานวนสามจํานวน จํานวนแรกคงที จํานวนทีสองและสามแปรผัน

ตรงกับ x และ x2 ตามลําดับ ขณะ x = 1, y = –6 ; x = –2, y = 6 และ x = 2, y = –6 เมือนํา
สมการแสดงความสัมพันธ์ระหว่าง y กับ x มาเขียนกราฟบนระนาบแกนมุมฉาก กราฟทีได้ จะตัด
แกน X ทีจุดใด
1. (–2, 0), (5, 0) 2. (–1, 0), (4, 0)
3. (–2, 0), (3, 0) 4. (–3, 0), (3, 0)
h
at
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
ิงพ
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง

1. ให้ m เป็ นจํานวนทีมีคา่ น้ อยทีสุดทีหารด้ วย 15 และ 18 ลงตัว
n เป็ นจํานวนทีมีคา่ มากทีสุดทีหาร 210 และ 270 ลงตัว
h
ข้ อใดต่อไปนีเป็ นจริ ง
1. m – n > 0 2. m – n = 0
at
3. 3m – n < 0 4. m – 3n < 0
รณ
ี
ุกก
Rm
2 1
2. ถังใบหนึงจุนําได้ V ลิตร ถ้ าใช้ นําไป ของถัง และนํานํามาเติมลงถัง ของปริ มาณนําที
ิ ชย
ท์
5 5
ใช้ ไป แล้ วถังใบนีจะเหลือนําอยู่ในถังกีลิตร
าณ
12V 15V 17V 20V
1. 2. 3. 4.
25 25 25 25
ิงพ
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
3. กําหนดให้ A = 0.725 + 0.1  0.2 – 0.025

G
สง
B = 0.725 – 0.15  0.2 + 0.4

C = 0.725 – 0.15 + 0.2  0.4
D = 0.725 – 0.1 + 0.2  0.025
แล้ ว A+B+C+D มีคา่ เท่าใด
1. 2.7 2. 2.75 3. 2.8 4. 2.85
5 7 27
4. ถ้ า   แล้ วจํานวนนับทีหาร a ลงตัวมีกีจํานวน
6 a 24
1. 2 2. 4 3. 6 4. 8
h
at
5. กําหนดให้ P, Q และ R เป็ นจํานวนเต็ม
ถ้ า P  Q  R = 96 และ P > Q > R > 1 แล้ ว P มีคา่ มากทีสุดทีเป็ นไปได้ คือเท่าใด
รณ
ี
1. 8 2. 16 3. 24 4. 36
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
ิงพ
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
6. ถ้ ารูปสามเหลียมรูปหนึงเกิดจากการตัดกันของเส้ นตรง 3 เส้ นบนระนาบเดียวกัน โดยทีเส้ นตรง

วน
3 เส้ นกําหนด้ วยสมการดังนี

G
สง
L1 : 2x – 3y = – 21, L2 : x + y = 2 และ L3 : y = –3
แล้ วพืนทีของรูปสามเหลียมรูปนีเป็ นกีตารางหน่วย
1. 20 2. 40 3. 60 4. 80
7. กราฟของสมการ 2x – y = 6 ตัดแกน X และแกน Y ทีจุด A และ B ตามลําดับ และ

กราฟของสมการ 4x – 2y = 8 ตัดแกน X และแกน Y ทีจุด C และ D ตามลําดับ แล้ ว
พืนทีของ  ABCD มีพืนทีเป็ นกีตารางหน่วย
1. 5 2. 7 3. 9 4. 11
h
8. คูอ่ นั ดับในตารางทีกําหนดให้ สอดคล้ องกับสมการใด
at
x –2 –1 0.5 1 2
รณ
ี
y –2 0 3 4 6
ุกก
Rm
1. y = –2x – 2 2. y = 2x + 2
ิ ชย
ท์
3. 3y – 2x = 2 4. 3y – 2x + 6 = 0
าณ
ิงพ
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
ถ้ า เป็ นจํานวนจริ งใดๆ โดยที a = 0 แล้ วกราฟของสมการ และ

วน
9. a, b ax + ay – a2b = b
a2b – b = ax – ay ตัดกันทีจุดใด
G
สง
a b a b
1. (ab, ) 2. (ab, ) 3. ( , ab) 4. ( , ab)
b a b a
10. พืนทีของรูปสามเหลียมซึงเกิดจากการตัดกันของเส้ นตรง x + 6y = 12 เส้ นตรง 2x – 3y = 9

และแกน Y เป็ นกีตารางหน่วย
1. 15 2. 18 3. 20 4. 24
h
a b c
11. ถ้ า และ a + b + c = 16 แล้ ว c – b – a มีคา่ เท่าใด
at
 
4  a 7  b 13  c
4 7 4 3
1. 2. 3. 4.
7 4 3 4
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
2a  b
ถ้ า และ แล้ ว ทีทําให้ มีคา่ เท่าใด
ิงพ
12. a = 4x – 1 b = 3x + 2 x 3
a  2b
ธเิ์ ช
1. – 1 2. 0 3. 1 4. 2
T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
13. มีวสั ดุทํารัวยาว 100 เมตร ต้ องการล้ อมรัวทีดินทีอยู่ริมฝั งแม่นําเป็ นรูปสีเหลียมผืนผ้ า

โดยมีความยาวของด้ านกว้ าง x เมตร และพืนทีของทีดินทีล้ อมได้ A ตารางเมตร
ถ้ า 3  x  10 แล้ วพืนที A มีคา่ อยู่ในช่วงใด
1. 282  A  800 2. 318  A  1,200
3. 100  A  982 4. 100  A  800
14. กําหนดให้ m เป็ นจํานวนเต็มบวก

x 1 2  x
ถ้ า  แล้ ว x มีคา่ เท่าใด
m 2m
1 2 3 4
1. 2. 3. 4.
3 3 3 3
h
15. ถ้ ารูปสีเหลียมผืนผ้ ารูปหนึงมีความยาวของด้ านต่างๆ ตามทีกําหนดดังรูป
at
7x + 3y หน่วย
รณ
8x – 2y หน่วย 4x + y หน่วย
ี
ุกก
Rm
11 หน่วย
ิ ชย
ท์
แล้ วความยาวรอบรูปและพืนทีของรูปสีเหลียมนีมีคา่ เป็ นเท่าใดตามลําดับ
าณ
2 2 1 2
1. 32 ; 58 2. 33 ; 62
3 3 3 3
ิงพ
1
3. 35 ; 70 4. 45 ; 72
3
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
16. ถ้ า a เป็ นค่าน้ อยทีสุดของ x จากอสมการ (3x – 11) – (x – 10)  6x – 5

G
สง
2x  1
และ b เป็ นค่ามากทีสุดของ x จากอสมการ –52–x
3
แล้ ว (a – b)2 มีคา่ เท่าใด
1. 6 2. 9 3. 16 4. 25
3x  1 5  8x
17. ถ้ า x  แล้ วข้ อใดถูกต้ อง
2 3
1. x < –5 2. x < –7 3. x > –7 4. x > –5
h
18. แม่แบ่งเงินทังหมดออกเป็ น 3 ส่วน ให้ นาย ก นาย ข และนาย ค โดยมีวิธีการแบ่งดังนี
at
จํานวนเงินทีแบ่งให้ นาย ก คูณกับจํานวนเงินทังหมดได้ ผลลัพธ์เป็ น 160
จํานวนเงินทีแบ่งให้ นาย ข คูณกับจํานวนเงินทังหมดได้ ผลลัพธ์เป็ น 140
รณ
ี
จํานวนเงินทีแบ่งให้ นาย ค คูณกับจํานวนเงินทังหมดได้ ผลลัพธ์เป็ น 100
ุกก
แล้ วจํานวนเงินทังหมดมีกีบาท
Rm
1. 18 2. 20 3. 24 4. 25
ิ ชย
ท์
าณ
ิงพ
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
19. เดิมสมคิดมีเงินมากกว่าเดชา 800 บาท ถ้ าสมคิดแบ่งเงินให้ เดชาไปหนึงในสีของจํานวนเงิน

ทีมีอยู่ ทําให้ สมคิดเหลือเงินมากกว่าเดชาเพียง 300 บาท แล้ วเดิมสมคิดมีเงินกีบาท
G
สง
1. 1,600 2. 1,400 3. 1,200 4. 1,000

20. ในการวิงแข่งขันครังหนึงเรวดีวิงได้ ระยะทาง 15 เมตรขณะทีสมศรี วิงได้ 10 เมตร ถ้ าเรวดีตอ่

ให้ สมศรี ออกวิงไปก่อน 10 นาที แล้ วอีกกีนาทีเรวดีจึงจะวิงทันสมศรี โดยทีทังสองวิงด้ วย
อัตราเร็วสมําเสมอ
1. 15 นาที 2. 18 นาที 3. 20 นาที 4. 23 นาที
h
at
รณ
ี
1
21. ปั จจุบนั บุตรมีอายุเป็ น ของบิดา ถ้ าอีก 17 ปี ข้ างหน้ า บิดาจะมีอายุเป็ นสองเท่าของบุตร
3
ุกก
แล้ วขณะนีบิดาอายุกีปี
Rm
1. 54 2. 51 3. 50 4. 49
ิ ชย
ท์
าณ
ิงพ
ธเิ์ ช
T
สทิ
22. ถ้ า ผู้ใหญ่ 3 คน และ เด็ก 5 คน ช่วยกันทํางานอย่างหนึงเสร็จใน 17 วัน และ

ลขิ
วน
ผู้ใหญ่ 5 คน และ เด็ก 3 คน ช่วยกันทํางานอย่างเดียวกันเสร็จใน 15 วัน

G
สง
แล้ วอัตราส่วนการทํางานของผู้ใหญ่กบั เด็กเป็ นเท่าใด

1. 3 : 1 2. 3 : 2 3. 4 : 3 4. 5 : 3
23. พ่อค้ าคนหนึงนับเงินทีได้ จากการขายสินค้ าเป็ นเงินทังสิน 4,968 บาท ปรากฏว่า

มีธนบัตรฉบับละหนึงร้ อยบาทเป็ นสามเท่าของธนบัตรฉบับละห้ าร้ อยบาท
จํานวนเหรี ยญสิบบาทเป็ นสองในสามของจํานวนธนบัตรฉบับละหนึงร้ อยบาทและฉบับ
ห้ าร้ อยบาทรวมกัน
จํานวนเหรี ยญบาทเป็ นครึงหนึงของจํานวนเหรี ยญสิบบาท
ถ้ าเขานําธนบัตรทังหมดผากธนาคารจะเหลือเงินเหรี ยญคิดเป็ นมูลค่าทังหมดกีบาท
1. 142 2. 150 3. 168 4. 170
h
at
รณ
ี
ุกก
Rm
24. สมศรี มีเหรียญบาทและเหรียญสลึงคิดเป็ นเงิน 20 บาท นับดูมีจํานวนเหรี ยญมากกว่า
ิ ชย
ท์
50 เหรียญ แต่ไม่ถึง 60 เหรี ยญ อยากทราบว่าสมศรี มเี หรี ยญบาทได้ กีเหรี ยญ
าณ
1. 7 หรื อ 8 เหรี ยญ 2. 8 หรื อ 9 เหรี ยญ
3. 6, 7 หรื อ 8 เหรี ยญ 4. 7, 8 หรื อ 9 เหรี ยญ
ิงพ
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
1 1 1
25. ถ้ า : : 2:3:4 และ 3a – 7b + 8c = 34 แล้ วผลคูณ abc มีคา่ เท่าใด
bc ac ab
1. 184 2. 192 3. 196 4. 210
26.  ABC เป็ นรูปสามเหลียมซึง AB : BC : CA = 2 : 5 : 4 อัตราส่วนของส่วนสูงทังสาม

ของ  ABC นีเป็ นเท่าใด
1. 4 : 5 : 4 2. 3 : 2 : 5 3. 5 : 8 : 10 4. 4 : 5 : 10
h
at
27. สมรักษ์ เลิกต่อยมวยไปขายไข่ไก่ เขาบรรจุไข่ไก่ใส่กล่องๆละเท่าๆกัน จํานวน 300 กล่อง
รณ
ี
2
ปรากฏว่าเกิดอุบตั เิ หตุรถชนกันระหว่างนําไข่ไก่ไปส่งทีตลาด ทําให้ ไข่ไก่แตก โดยที ของ
3
ุกก
จํานวนกล่อง มีไข่แตกไป 20% ส่วนกล่องทีเหลือไข่ไก่แตกไป ถ้ าตรวจสอบแล้ วพบว่า
Rm
55%
ไข่ไก่ทียังไม่แตกเหลืออยู่จํานวน 3,075 ฟอง
ิ ชย
ท์
อยากทราบว่าสมรักษ์ ได้ บรรจุไข่ไก่ไปขายกล่องละกีฟอง
าณ
1. 15 2. 20 3. 25 4. 30
ิงพ
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
รูปสีเหลียมผืนผ้ ารูปหนึงมีความยาว a และ b เซนติเมตร โดยที a : b = 1 : 2 ถ้ าพืนทีของ

G
สง
28.
รูปสีเหลียมผืนผ้ าเท่ากับพืนทีรูปสีเหลียมจัตรุ ัสซึงมีความยาวเส้ นรอบรูปเท่ากับ 16 เซนติเมตร
แล้ ว a และ b มีคา่ กีเซนติเมตร
1. 2, 4 2. 2 2 , 4 2 3. 2 3 , 4 3 4. 3, 6
29. ถ้ า 1 3 1 2 x 1 แล้ ว x มีคา่ เท่าใด

1. 4,096 2. 3,969 3. 3,844 4. 3,721
h
at
30. ค่าของ ( 2 + 1)6 – ( 2 – 1)6 เป็ นเท่าใด
รณ
ี
1. 120 2 2. 130 2 3. 140 2 4. 150 2
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
ิงพ
ธเิ์ ช
T
สทิ
31. จงพิจารณาข้ อความต่อไปนี

ลขิ
ก. 1.14318864 มีคา่ เท่ากับ 1.06

วน
ข. x4 – 6x3 + x2 + 24x + 16 ถอดรากทีสองได้ เป็ น x2 – 3x + 4

G
สง
ข้ อใดต่อไปนีสรุปได้ ถกู ต้ อง
1. ข้ อ ก และข้ อ ข ผิด 2. ข้ อ ก และข้ อ ข ถูกล
3. ข้ อ ก ถูกข้ อเดียว 4. ข้ อ ข ถูกข้ อเดียว
xy
32. กําหนดให้ xy = เมือ x>0 และ y>0
xy
ถ้ า a > 0, b > 0 และ c > 0 แล้ ว (a  b)  c มีคา่ เท่าใด
abc abc
1. 2.
abc 2a  2b  2c
abc abc
3. 4. 2
ab  ac  bc a b  b2 c  c2a
h
at
33. ให้ a  0 = a – 543 และ a  b = a  (b – 1) โดยที a และ b เป็ นจํานวนจริ ง
รณ
ี
แล้ ว 2539  345 มีคา่ เท่าใด
ุกก
1. 1,996 2. 1,966 3. 1,696 4. 1,669
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
ิงพ
ธเิ์ ช
34. ( 3  12  27    108)2 มีคา่ เท่าใด

T
1. 21 3 2. 273 3. 1,323 4. 3,969

สทิ
ลขิ
วน
G
สง
35. ถ้ า a>b>0 และ c>0 แล้ ว (a  b)2 c  (a  b)2 c มีคา่ เท่าใด

1. 0 2. c 3. 2b c 4. 2a c
36. ถ้ า a และ b เป็ นจํานนจริ งใดๆ และ ab=a+b–2 แล้ ว (5  1)  7 มีคา่ เท่าใด
1. 6 2. 7 3. 8 4. 9
h
(2ab  c)2
37. ถ้ า |x| และ a = 3, b = – 4, c = – 5 และ y=–1 แล้ ว x มีคา่ เท่าใด
|y|
at
1. 17 2. 19 3. 21 4. 23
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
1 4 1
38. ถ้ า x0 และ แล้ ว x มีคา่ เท่าใด
ิงพ
3
36 x 3  2x  4 8x 3  
2   2
(0.75)  1  0.75
ธเิ์ ช
1. 2.8 2. 2.4 3. 1.8 4. 1.4

T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
39. ข้ อใดถูกต้ อง
1. รากทีสองของ 169 คือ 13 2. รากทีสองของ ( 196)2 คือ –14
3. รากทีสองของ 3 เขียนอยู่ในรูปเศษส่วนไม่ได้ 4. รากทีสองของ 2 เป็ นจํานวนตรรกยะ
B
C D
h
ถ้ า AC = 4 และ BD = 10 แล้ วผลต่างขอพืนที ของรูปสีเหลียมจัตรุ ัสบนด้ าน BC กับ
พืนทีของรูปสีเหลียมจัตรุ ัสบนด้ าน AB เป็ นกีตารางหน่วย
at
1. 49 2. 64 3. 81 4. 100
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
ิงพ
ธเิ์ ช
D C
A B
T
สทิ
I
ลขิ
H
วน
E F G
G
สง
ปริ ซึมทรงสีเหลียมมุมฉาก ถ้ า CH = 6, GH = 4, FG = 2 และ DF = 2 29

แล้ ว EF ยาวกีหน่วย
1. 8 2. 10 3. 12 4. 14
42. บันไดอันหนึงยาว 50 ฟุต พาดถึงหน้ าต่างของตึก สูงจากพืนดิน 48 ฟุต ถ้ ากลับบันไดไป

พาดกับกําแพงอีกด้ านหนึง ปลายบันไดจะจรดกําแพงสูงจากพืนดินเพียง 14 ฟุต แล้ วผนังตึก
ห่างจากกําแพงกีฟุต
1. 62 2. 64 3. 68 4. 72
h
C
at
A B
D O E
รณ
ี
ุกก
Rm
CA ตังฉากกับ CB และต่างก็สมั ผัสกับวงกลม ซึงมีจดุ ศูนย์กลางที O รัศมี 4 หน่วย
ิ ชย
ท์
ถ้ า BE = 1 หน่วย แล้ ว AD ยาวกีหน่วย
10 8 5 4
าณ
1. 2. 3. 4.
3 3 3 3
ิงพ
ธเิ์ ช
T
สทิ
D C
ลขิ
วน
G
สง
A B E
กําหนดให้ พนที
ื ของรูปสีเหลียมจัตรุ ัส ABCD เท่ากับ 256 ตารางหน่วย และพืนทีรูป
สามเหลียมมุมฉาก ECF เท่ากับ 200 ตารางหน่วย BE ยาวกีหน่วย
1. 6 2. 8 3. 10 4. 12
45. อัตราส่วนของรัศมีของวงกลมสองวงซึงมีจดุ ศูนย์กลางร่วมกันเป็ น 1 : 3 ถ้ า AC เป็ นเส้ น

ผ่านศูนย์กลางของวงกลมวงใหญ่ BC เป็ นคอร์ ดของวงกลมวงใหญ่ ซึงสัมผัสวงกลมวงเล็ก
และ AB = 12 หน่วย แล้ ววงกลมวงใหญ่มีรัศมีกีหน่วย
1. 16 2. 18 3. 20 4. 24
h
at
รณ
ี
46. ถ้ า ABC เป็ นรูปสามเหลียมหน้ าจัว ซึงมี  = 120o และ AC = 1 หน่วย แล้ วรูป
ุกก
B
Rm
สามเหลียมนีพืนทีกีตารางหน่วย
ิ ชย
ท์
2 3 2 3
1. 2. 3. 4.
6 6 12 12
าณ
ิงพ
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
รูปสามเหลียมรูปหนึงมีความยาวของด้ านทังสามเป็ น และ เซนติเมตร รัศมีของ

G
สง
47. 60 80 100
วงกลมแนบในรูปสามเหลียมนียาวกีเซนติเมตร
1. 10 2. 20 3. 30 4. 40
48. จากรูป E H
F G
D
C
A B
h
ลูกบาศก์ ABCDEFGH มี AH = a หน่วย ปริ มาตรของลูกบาศก์นีเป็ นกีเท่าของปริ มาตร
ของลูกบาศก์ทีมีพืนทีฐาน a2 ตารางหน่วย
3 2 3 2
at
1. 2. 3. 4.
9 9 2 2
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
A
ิงพ
T S
ธเิ์ ช
O
U R
T
y
สทิ
B C
x
Q
ลขิ
P
วน
กําหนด O เป็ นจุดศูนย์กลางของวงกลม, ABC เป็ นรูปสามเหลียมด้ านเท่าแนบในวงกลม

G
สง
มีด้านยาวด้ านละ y หน่วย และ PQRSTU เป็ นรูปหกเหลียมด้ านเท่ามุมเท่าแนบในวงกลม

เดียวกันมีด้านยาวด้ านละ x หน่วย แล้ ว x และ y สัมพันธ์กนั อย่างไร
1. y2 = 3x2 2. 3y2 = x2 3. 2y4 = x2 4. 2x – y = 0
A
O
B
D C
h
กําหนด O เป็ นจุดศูนย์กลางของวงกลม DC สัมผัสวงกลมทีจุด D ถ้ า DC = 15 หน่วย
และ BC = 5 หน่วย แล้ วพืนทีของรูปสามเหลียม BCD เป็ นกีตารางหน่วย
1. 20 2. 25 3. 30 4. 35
at
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
ิงพ
51. ABCD เป็ นรูปสีเหลียมขนมเปี ยกปูน ทีมีเส้ นทแยงมุมทังสองยาว 6 และ 8 เซนติเมตร

ข้ อใดถูกต้ อง
ธเิ์ ช
1. เส้ นทแยงมุมเส้ นหนึงจะแบ่งรูปสีเหลียมออกเป็ นรูปสามเหลียมสองรูปทีเท่ากันทุกประการ

T
2. เส้ นทแยงมุมทังสองแบ่งครึงซึงกันและกันทําให้ เกิดรูปสามเหลียมมุมฉาก 4 รูป

สทิ
3. พืนทีรูปสีเหลียม ABCD เท่ากับ 48 ตารางเซนติเมตร

ลขิ
วน
4. เส้ นรอบรูปของรูปสีเหลียม ABCD ยาว 20 เซนติเมตร

G
สง
P
Q
h
กําหนดจุด R และ S เป็ นจุดตัดของวงกลมสองวง ทีมีเส้ น PQ สัมผัสวงกลมทังสองทีจุด
P และ Q ถ้ า PRQ
 = 130o แล้ ว PSQ  เป็ นเท่าใด
at
1. 45o 2. 50o 3. 65o 4. 70o
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
ิงพ
ธเิ์ ช
O
T
สทิ
A E
ลขิ
B C D
วน
G
สง
วงกลมทังสองมี O เป็ นจุดศูนย์กลางร่วมกัน, C เป็ นจุดกึงกลางของ AE , BC = 3 หน่วย

 = 90o และ OB = 5 หน่วย แล้ ว DE ยาวกีหน่วย
BOE
7 6 5 4
1. 2. 3. 4.
3 3 3 3
A
B
F
E
D C
ABCD เป็ นรูปสีเหลียมแนบในวงกลม มุม   EAD

BAC  ดังรูป จะมีรูปสามเหลียมทีคล้ าย
h
กันกีคู่
1. 2 2. 3 3. 4 4. 5
at
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
55. รูปสามเหลียมหน้ าจัว ABC มีด้าน AB เท่ากับด้ าน AC ถ้ า
ท์ P เป็ นจุดจุดหนึงบนด้ าน
าณ
AB ทีทําให้ AP = PC = CB แล้ ว BAC  มีขนาดเท่าใด
ิงพ
1. 30o 2. 36o 3. 48o 4. 60o

ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
56. รูปสามเหลียม ABC แนบในวงกลม โดยที B  C  4A ถ้ าจุด B และจุด C เป็ นจุด
ยอด ซึงอยู่ติดกันของรูปหลายเหลียมด้ านเท่าทีมีด้าน n ด้ าน และแนบในวงกลมนี แล้ ว n
มีคา่ เท่าใด
1. 5 2. 7 3. 9 4. 15
57. จากรูป M
B
O
P
h
Q
กําหนดให้ O เป็ นจุดศูนย์กลางของวงกลม มี AC และ BC เป็ นคอร์ ดของวงกลม
at
มี PQ และ MN เป็ นเส้ นสัมผัสทีสัมผัสวงกลมทีจุด A และ B ตามลําดับ
ถ้ า PAC
 = 70o และ MBC  = 30o แล้ ว AOB
 เท่ากับกีองศา
รณ
ี
1. 160 2. 150 3. 120 4. 110
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
58. จากรูป A
ิงพ
ธเิ์ ช
3
T
สทิ
C B
ลขิ
วน
กําหนด ABC มี   75 o
BAC และ  C
B   15 o แล้ ว 
B เท่ากับกีองศา
G
สง
1. 30 2. 45 3. 60 4. 80
D C
A B
h
กําหนด ABCD เป็ นรูปสีเหลียมจัตรุ ัส A, B, C, D และ O เป็ นจุดศูนย์กลางของวงกลมทัง
5 วง ทีมีรัศมีเท่ากัน แล้ วพืนทีมรส่วนทีแรเงาคิดเป็ นร้ อยละเท่าใดของพืนทีวงกลมทีมี A เป็ น
at
จุดศูนย์กลาง (ตอบเป็ นค่าประมาณจํานวนเต็มสิบ และกําหนดให้  = 3.1)
1. 61 % 2. 71 % 3. 81 % 4. 91 %
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
ิงพ
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
รูปดาว 7 แฉก เกิดจากการต่อด้ านของรูป 7 เหลียมด้ านเท่าตรงกลางออกไปจนด้ านแต่ละด้ าน

บรรจบกัน แล้ วผลบวกของมุมยอดทัง 7 มุมของดาว 7 แฉกนีมีคา่ กีองศา
1. 120 2. 180 3. 270 4. 360
61. จากรูป A
D E
B C
จากรูป ABC มีจดุ D และจุด E เป็ นจุดกึงกลางของ AB และ AC ตามลําดับ
h
ถ้ า AB = AC และพืนทีรูปสีเหลียม DECB เท่ากับ 24 ตารางเซนติเมตร
แล้ ว BC ยาวกีเซนติเมตร
at
1. 10 2 2. 8 2 3. 6 2 4. 4 2
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
62. จากรูป C
ิงพ
D
ธเิ์ ช
E
T
สทิ
B F A
ลขิ
กําหนดให้ ABC เป็ นรูปสามเหลียมมุมฉาก FE  AC, BD  AC

วน
ถ้ า AF = BC = 9 หน่วย และ BF = 3 หน่วย แล้ ว AE เท่ากับกีหน่วย

G
สง
1. 5.8 2. 6.4 3. 7.0 4. 7.2

A F B
D C
E
กําหนดให้ DO = 15 หน่วย BO = 5 หน่วย และ EO = 9 หน่วย แล้ ว DC ยาวกีหน่วย
h
1. 40 2. 44 3. 48 4. 52
at
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
ิงพ
A
E
ธเิ์ ช
D
T
สทิ
B F C
ลขิ
ถ้ า AD = AE และ CE = CF แล้ วขนาดของมุม DEF เท่ากับกีองศา

วน
1. 30o 2. 45o 3. 60o 4. 90o

G
สง
C
D
F
A E B
h
1 1 1
ถ้ า DC  AC , CF  CB และ EB  AB แล้ วอัตราส่วนของพืนทีของรูป
4 3 6
สีเหลียม CDEF กับพืนทีของรูปสามเหลียม ABC เป็ นเท่าใด
at
18 19 18 19
1. 2. 3. 4.
28 52 72 72
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
ิงพ
A
ธเิ์ ช
E O
T
X
สทิ
ลขิ
B C D
วน
ถ้ า และมุม เท่ากับ องศา แล้ วมุม เท่ากับกีองศา

G
สง
OX = XD BAC 40 CXD
1. 60o 2. 80o 3. 100o 4. 120o
a n  a n an  an
67. ถ้ า x และ y แล้ ว x2 – y2 มีคา่ เท่าใด
2 2
1. 0 2. 1 3. 2 4. 3
h
68. ถ้ า x– 2 หาร 2 x2 + mx + 18 – 8 ลงตัว แล้ ว m มีคา่ เท่าใด
at
1. 2 2. –2 3. 3 4. –3
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
69. ถ้ า x–y=3 และ x+y=2 แล้ ว x2 – y2 มีคา่ เท่าใด
ท์
าณ
1. 2 2. 3 3. 6 4. 12
ิงพ
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
70. ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของพหุนามสองพหุนามเป็ น x – 7 และ x3 – 10x2 + 11x + 70

ตามลําดับ ถ้ าพหุนามหนึงเป็ น x2 – 5x – 14 แล้ วพหุนามทีเหลือเป็ นเท่าใด
1. x2 + 12x + 35 2. x2 – 12x + 35
3. x2 – 12x – 35 4. x2 + 12x – 35
71. ถ้ า (35  10) + (35  15) = 25p และ (q  7) + (75  7) = 700 แล้ วค่าสัมบูรณ์ของ
จํานวนทีน้ อยกว่า q2 – p2 อยู่ 3 เป็ นเท่าใด
1. 603 2. 600 3. 587 4. 579
h
1
72. ถ้ า x+ =3 แล้ ว x–3 + x–2 + x–1 + x0 + x1 + x2 + x3 มีคา่ เท่าใด
at
x
1. 14 2. 21 3. 29 4. 38
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
73 ถ้ า x5 + 2x4 + mx3 + x2 + 2x – 1 หารด้ วย x3 + 1 เหลือเศษ 3 แล้ ว m มีคา่ เท่าใด
ิงพ
1. –4 2. –3 3. 4 4. 3
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
74. กําหนดให้ P(x) = x5 + 2x4 – x3 – 3x2 + 3x + 4

G
สง
Q(x) = x4 – 3x3 + 3x2 – x + 3

และ R(x) = x + 1
P(x)
จงหา P(1) – Q(x) + ตรงกับข้ อใด
R(x)
1. 4x3 + x2 – 2x + 5 2. 2x4 – 2x3 + x2 – 2x + 7
3. 4x3 – 5x2 + 7 4. x4 + 2x3 – x2 + 2x + 5
4 a
75. ถ้ า x6  6
 (x 3  3 )2  b เมือ a,b เป็ นค่าคงตัว แล้ ว ab มีคา่ เท่าใด
x x
1. 8 2. –8 3. 4 4. –4
h
76. ถ้ า (k2 + 5k – 6)3 + (2k2 – 4k + 2)3 = (3k2 + k – 4)3 + 12
แล้ ว (k2 + 5k – 6)(2k2 – 4k + 2)(3k2 + k – 4) มีคา่ เท่าใด
at
1. –4 2. –2 3. 2 4. 4
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
7 1 7 1
ท์
3 3
าณ
77. ให้ a , b
2 2
แล้ วค่าของ ตรงกับข้ อใดต่อไปนี
ิงพ
a6 – b6 – 3a2b2(a2 – b2)
1. 7 2. 14 3. 21 4. 28
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
78. ถ้ าพหุนาม ax2 + bx + 2 และ bx2 – ax + 1 หารด้ วย x+1 เหลือเศษ 8 และ 3

ตามลําดับ แล้ ว a2 + 5b มีคา่ เท่าใด
1. 4 2. 6 3. 9 4. 10
xy2  xz2
79. มีคา่ เท่ากับข้ อใด
y  z
1. xz + xy 2. xz – xy 3. xz – 1 4. xz + x
h
80. ถ้ า 6x2 – x3 + 21x – 18 หารด้ วยพหุนาม P(x) ได้ ผลหาร (x + 3) ซึงเท่ากับเศษของ
at
การหาร แล้ วผลคูณของสัมประสิทธิของทุกพจน์ของ P(x) มีคา่ เท่าใด
1. –48 2. –56 3. 54 4. 63
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
81. ถ้ า x2 + bx + c = (x + 3 )(x + 2) แล้ ว bc เป็ นเท่าใด
ิงพ
1. 3 2  2 3 2. 2 3 3. 6 4. 30
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
x 3  3y 3  (3y  1)x 2  (x  3)y 2  4xy

82. ถ้ า x2 + y2 = 4(x +y) แล้ ว มีคา่ เท่าใด
x 3  xy2  3x 2 y  3y 3
1. 1 2. 12 3. 14 4. 16
83. จาก 3x + 2y = 0 ……..(1)

2x – 3y = 26 ……..(2)
3 4
จงหาค่า  เท่ากับเท่าใด
xy x
7 8 9 11
1.  2.  3.  4. 
10 10 10 10
h
at
84. ถ้ า x2 – 2x – 24 เป็ นตัวประกอบของพหุนาม P(x) และ x2 – x – 2 เป็ นตัวประกอบของ
พหุนาม Q(x) แล้ วนิพจน์ใดต่อไปนีเป็ นตัวประกอบของ P(x)Q(x)
รณ
ี
1. x2 – 4x – 12 2. x2 – 8x + 12
3. x2 – 7x + 6 4. x2 – 6x + 8
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
ิงพ
x 5 y  8x2 y 4   x 2  2xy  4y2  P(x)

ถ้ า 
แล้ ว คือพหุนามในข้ อใด
ธเิ์ ช
85.  4 2 3 5  2 2  P(x)
 x y  4x y  16y   x  4y  x  2y
1. 2x2y 2. xy 3. x2y0 4. y2x
T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
86. ถ้ า y79 – 1 หารด้ วย y+1 เหลือเศษ a แล้ วค่า p ซึงสอดคล้ องกับสมการ a3 – 9 = pa

1. 9.5 2. 8.5 3. 7.5 4. 6.5
87. กําหนดให้ a, b, c เป็ นจํานวนเต็ม และ a > 0 ถ้ า x3 + bx2 + cx + 1 หารด้ วย

ax2 – 2x – 1 ลงตัว แล้ ว a + b + c มีคา่ เท่าใด
1. –3 2. –1 3. 1 4. 3
h
at
1 1

(3x  12y) 2 (4x  y)2
88. ถ้ า  486 และ (x2 + 1)(4x + y – 9) แล้ ว x – 4y มีคา่ เท่าใด
รณ
ี
3
2 
(12x 2  45xy  12y ) 2
5 6 7 8
ุกก
1.  2.  3.  4. 
Rm
3 3 3 3
ิ ชย
ท์
าณ
ิงพ
ธเิ์ ช
T
สทิ
89. จํานวนรากของสมการ 2 sin x cos x + 2 sin x – cos x = 1 โดยที 0  x  360o

ลขิ
วน
G
สง
1. 1 2. 2 3. 3 4. 4
C
D
A  B
h
กําหนด AB เป็ นเส้ นผ่านศูนย์กลางของวงกลม โดยมี AC เป็ นเส้ นสัมผัสวงกลมทีจุด A,
 
ABD และ CD = a หน่วย AB เป็ นเท่าใดในเทอมของ a และ 
a cos2  a sin 2  a a cos 
at
1. 2. 3. 4.
sin  cos  sin  cos  sin2 
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
2 1 2
91. กําหนดให้ 0o < x < 90o ค่า x ทีทําให้ sin x cos x – sin x – cos x + =0
2 2 4
าณ
ตรงกับข้ อใด
ิงพ
1. 30o 2. 45o
ถูกมากกว่า 1 ข้ อ
ธเิ์ ช
3. 60o 4.
T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
2 tan A
92. กําหนดให้ tan 2A  ถ้ า cot 20o = b แล้ ว tan 40o ในเทอมของ b
1  tan2 A
มีคา่ เท่าใด
b 2b b 2b
1. 2. 2
3. 4. 2
b 1 b 1 b 1 b 1
93. จากรูป C
12
30 135o
o
A B
h
กําหนด ABC เป็ นรูปสามเหลียมใดๆ ถ้ า AC = 12 เซนติเมตร มุม A = 30o และ
มุม B = 135o แล้ วพืนที ABC เท่ากับกีตารางเซนติเมตร (กําหนด 3  1.732 )
1. 12.141 2. 13.176 3. 14.732 4. 15.842
at
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
94.
าณ
B
ิงพ
30 D
ธเิ์ ช
20 ม.
T
สทิ
60
A E 60 ม. C
o
ตึกใบหยกสอง ตึกใบหยกหนึง
ลขิ
วน
G
สง
เด็กชายคนหนึงอยูท่ ีจุด E มองเห็นยอดตึกใบหยกสอง ณ จุด B เป็ นมุมเงย 60o เด็กชายอีกคน

อยู่ทีจุด D ของตึกใบหยกหนึง จะเห็นยอดตึกใบหยกสอง ณ จุด B เป็ นมุมเงย 30o
ถ้ าตึกใบหยกหนึงอยู่ห่างจากจุด E 60 เมตร และตึกใบหยกหนึงสูง 20 เมตร
ตึกใบหยกสองสูงประมาณกีเมตร (กําหนด 3  1.732 )
1. 52 2. 64 3. 82 4. 104
95. กําหนดให้ 0o < A < 90o ค่าของมุม A ทีสอดคล้ องกับสมการ cos2 A – sin2 A = 0
1. 30o 2. 45o 3. 60o 4. 90o
h
96. ถ้ า sin2 A = 4 cos2 A และ sec4 A – sec2 A = k tan4 A แล้ ว k มีคา่ เท่าใด
7 5 3 1
1. 2. 3. 4.
at
4 4 4 4
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
ท์
าณ
97. ถ้ า x<0 และ (x tan 60o)2 – x (cot 30o)2 = 8 (sin 60o)2 แล้ ว x มีคา่ เท่าใด
ิงพ
1. 1 2. 0 3. –1 4. –2
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
98. ถ้ า ABC เป็ นรูปสามเหลียมซึงมีมมุ B เป็ นมุมฉากแล้ ว sin A cos C tan2 C เท่ากับเท่าใด
1. 1 – sin2 A 2. 1 – cos2 A
3. 1 + sin2 C 4. 1 + cos2 C
99. ABC เป็ นรูปสามเหลียม ซึงมีมมุ B เป็ นมุมฉาก

B B
ถ้ า sin A cos A tan A + sin C cos C tan C + cosec sec = m
2 2
เมือ m เป็ นค่าคงตัวทีเป็ นจํานวนจริ งแล้ ว m มีคา่ เท่าใด
1. 3 2. 2 3. 1 4. 0
h
at
100. ชายคนหนึงนังอยู่บนยอดตึกซึงสูง 60 เมตร สังเกตเห็นเด็กคนหนึงกําลังเดินตรงเข้ ามาเป็ น
รณ
ี
มุมก้ ม 30 องศา ถ้ าเด็กคนนีเดนด้ วยอัตราเร็วสมําเสมอ 10 เมตรต่อนาที แล้ วนานเท่าใด
ุกก
จึงจะเห็นเด็กคนนีอีกครังหนึงเป็ นมุมก้ ม 60 องศา (กําหนด 3  1.73 )
Rm
1. 5.24 นาที 2. 5.42 นาที 3. 6.48 นาที 4. 7.32 นาที
ิ ชย
ท์
าณ
ิงพ
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
tan A  tan B 4
101. กําหนดให้ tan(A + B) = เมือ 0o < A + B < 90o ถ้ า sin A =
1  tan A tan B 5
G
สง
1
และ tan B = แล้ ว cosec2 (A + B) มีคา่ เท่าใด
3
13 12 11 10
1. 2. 3. 4.
12 11 10 9
102. ชายคนหนึงสูง 6 ฟุต ยืนอยู่ในทีราบแนวเดียวกับเสาไฟฟ้าละห่างจากเสาไฟฟ้า 30 ฟุต ปรากฏว่า

เงาของชายคนนีทอดยาว 10 ฟุต ถ้ าชายคนนีเดินเข้ าไปใกล้ เสาไฟฟ้าอีก 10 ฟุต แล้ วเงาของชาย
คนนีจะทอดเงายาวกีฟุต
2 2 1
1. 7 2. 6 3. 8 4. 9
3 3 3
h
at
รณ
ี
103. ถ้ า 25 sin A = 7 แล้ ว tan A มีคา่ เท่าใด
ุกก
24 25 24 7
Rm
1. 2. 3. 4.
25 24 7 24
ิ ชย
ท์
าณ
ิงพ
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
104. รันยืนอยู่บนหน้ าผาสูง 20 เมตร มองเห็นเรื อ 2 ลํา ทอดสมอในทะเลเป็ นมุมก้ ม 30o และ 60o
วน
ตามลําดับ ถ้ าไม่คิดความสูงของรันและกําหนดให้ 3 = 3a แล้ ว เรื อ 2 ลํานีอยู่ห่างกันกีเมตร

G
สง
40a 120
1. 40a 2. 3. 120a 4.
3 a
h
แต่ละเส้ นของภาพหน้ าตัดยาว 1 หน่วย และมุมทุกมุมเป็ นมุมฉาก ถ้ า AB = CD แล้ วปริ มาตร
ของรูปทรงนีมีคา่ กีลูกบาศก์หน่วย
1. 72 2. 72 2 3. 18 4. 18 2
at
รณ
ี
ุกก
Rm
ิ ชย
106. ต้ องใช้ กระดาษห่อของขวัญอย่างน้ อยกีตารางหน่วย ในการห่อของขวัญกล่องทรงลูกบาศก์ขนาด
ท์
าณ
27 ลูกบาศก์หน่วย (ไม่คิดรอยต่อของกระดาษ)
ิงพ
1. 486 2. 324 3. 162 4. 54

ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
วน
G
สง
107. กระบะรถบรรทุกคันหนึงยาว 3.5 เมตร กว้ าง 2 เมตร บรรทุกข้ าวเปลือกสูง 1 เมตร และขาย
ข้ าวราคาเกวียนละ 5,000 บาท ถ้ าขายข้ าวได้ หมดแล้ วจะได้ เงินกีบาท
1. 15,000 2. 17,500 3. 18,000 4. 18,500
h
ปริ ซึมทีกําหนดให้ ถ้ า AB = 5 เซนติเมตร BC = 24 เซนติเมตร และ BD = 25 เซนติเมตร
แล้ วพืนทีผิวของปริ ซึมเท่ากับกีตารางเซนติเมตร
1. 203 2. 328 3. 448 4. 896
at
รณ
ี
ุกก
Rm
109. บริ ษัทจัดสรรทีดินแห่งหนึงเตรี ยมทีดินไว้ 10 ไร่ เนืองจากทีดินแปลงนีเป็ นทีราบลุม่ บริ ษัทจึงใช้ วิธี
ขุดสระนําขนาดใหญ่รูปสีเหลียมผืนผ้ า กว้ าง 20 วา ยาว 50 วา ลึก 3 เมตร แล้ วนําดินทีขุดได้ ไป
ิ ชย
ถมทีดินทีเหลือให้ เสมอกัน หลังจากถมดินแล้ ว ทีดินแห่งนีสูงจากเดิมกีเมตร
ท์
าณ
1. 0.1 2. 0.5 3. 1.0 4. 1.5
ิงพ
ธเิ์ ช
T
สทิ
ลขิ
3 ซม.
วน
G
สง
144o
9 ซม.
กําหนดให้ วงกลมสองวงมีจดุ ศูนย์กลางร่วมกันทีจุด O ส่วนทีแรเงาในรูปมีพืนทีกีตารางเมตร

147  154 249 252
1. 2. 3. 4.
5 5 5 5

รวมแนวข้อสอบ วิชาคณิตศาสตร์เข้าม.4

Uploaded by

Document Information

Original Title

Copyright

Available Formats

Share this document

Share or Embed Document

Sharing Options

Did you find this document useful?

Is this content inappropriate?

Copyright:

Available Formats

รวมแนวข้อสอบ วิชาคณิตศาสตร์เข้าม.4

Uploaded by

Copyright:

Available Formats

G

คําชีแจง : จงเลือกคําตอบทีถูกต้ องทีสุด

4. ผลคูณเลขสองจํานวนเป็ น 2128 ถ้ า ค.ร.น. ของเลขสองจํานวนนันคือ 112 ห.ร.ม. ของเลข

7. กําหนด a : b = 2 : 3, b : c = 4 : 5, a + b + c = 700 จงหา a+b–c เท่ากับข้ อใด

8. ค่าของ 3 1, 860867  14, 641 ตรงกับค่าในข้ อใด

9. หัวใจปกติเต้ น 1 ครังต่อวินาที ใน 1 ปี ธรรมดาหัวใจเต้ นกีครัง เขียนให้ อยู่ในรูป

11. กําหนด a, b, c = 3, 6, 9 ตามลําดับ จงหาค่า   เท่ากับข้ อใด

13. ตัวประกอบของ a(a + 1)(a + 2)(a + 3) + 1 เท่ากับข้ อใด

1. 2x + 4y = 3 และ y = (x – 1)2 + 2 ตัดกัน 2 จุด

3. กราฟของสมการ 3x + 4y = 7 ตังฉากกับ กราฟของสมการ 4x – 3y = 5

กราฟของสมการ 4x + 5y = 6 ไม่ตดั กับกราฟของสมการ 10y + 8x = 7

16. กําหนดให้ 3003x = 3667 จงหาค่าของ x

19. P(a – 1) = 11 – 14a + 6a2 – a3 P( )

20. จากสมการ 4x2 + kx + 5 = 0 , k เป็ นจํานวนเต็มบวกทีน้ อยทีสดุ ทีทําให้ สมการมีราก

3. y เป็ น 0 เมือ x = –2, –4 4. y ให้ คา่ สูงสุด 17

3 เท่าของความสูงของสีเหลียมด้ านขนาน แล้ วสีเหลียมด้ านขนานและสามเหลียม

28. กราฟของสมการ x2 + y2 + 4x + 8y + 10 = 0 ตัดกับกราฟของสมการ y = x ทีจุดใด

3. (1, 1) และ (5, 5) 4. (–1, –1) และ (–5, –5)

29. จงหาค่า p จากสมการ x2 – 16x + 1 = p(x2 + 1) ซึงมีรากสมการ 2 รากเท่ากัน

ทรงกรวยยอดตัด ดังรูป มีปริ มาตรเท่ากับข้ อใด

37. กําหนดเงือนไข ABC ดังนี

39. จากการสํารวจนําหนักนักเรี ยน 4 คน ฐานนิยมของนําหนักนักเรี ยน 4 คนนีเป็ น 40

น้ อยกว่าฐานนิยม ค่าเฉลียเลขคณิตของนําหนักของนักเรียนกลุม่ นีเท่ากับเท่าใด

1. 39.5 กิโลกรัม 2. 39 กิโลกรัม

3. 38.5 กิโลกรัม 4. 38 กิโลกรัม

41. จากรูป เป็ นรูป 5 เหลียม บรรจุในวงกลม

AB = BC = CD มุม AED กางกีองศา

43. จากรูป จงหาว่ามุม AFC ตรงกับข้ อใด

3. 69.9 นิว 4. 79.9 นิว

3. 100 เซนติเมตร 4. 121 เซนติเมตร

ครึงทางด้ วยอัตราเร็วคงที เครื องเกิดขัดข้ องต้ องลดความเร็วลงชัวโมงละ 8 กิโลเมตร

47. ชาย 2 คน หญิ ง 5 คน ทํางานอย่างหนึงแล้ วเสร็จภายใน 8 วัน ชาย 3 คน หญิง 6 คน

ทํางานอย่างเดียวกันแล้ วเสร็จภายใน 6 วัน ถ้ าชาย 2 คน ทํางานนีคนเดียวจะเสร็จในกีวัน

ว่าเขาอยู่ห่างจากจุดเริ มต้ น 16 กิโลเมตร แต่ถ้าเขาแจวทวนนําขึนไป 6 ชัวโมง แล้ วหยุดแจวปล่อยให้

50. ชายคนหนึงนังอยู่บนยอดตึกซึงสูง 60 เมตร สังเกตเห็นเด็กคนหนึงกําลังเดินตรงเข้ ามาเป็ น

มุมก้ ม 30 องศา ถ้ าเด็กคนนีเดนด้ วยอัตราเร็วสมําเสมอ 10 เมตรต่อนาที แล้ วนานเท่าใด

จึงจะเห็นเด็กคนนีอีกครังหนึงเป็ นมุมก้ ม 60 องศา (กําหนด 3  1.73 )

1. 5.24 นาที 2. 5.42 นาที

3. 6.48 นาที 4. 7.32 นาที

คําชีแจง : จงเลือกคําตอบทีถูกต้ องทีสุด

1. กําหนดให้ x และ y เป็ นจํานวนจริ งใดๆ ซึง x0 และ y0 ถ้ า x2 y2 = xy

7. กําหนดให้ x + x–1 = 10 แล้ ว x3 + x–3 มีคา่ เท่ากับข้ อใด

8. ถ้ า (x – 34)(x – 54) = 37 แล้ ว (x – 44)2 มีคา่ ตรงกับข้ อใด

11. ห.ร.ม. ของ x2 – 11x + 24 กับ 2x2 – x – 15 เท่ากับเท่าไร

12. กําหนดให้ 9xy + x2y2 – 3x3 – 3y3 = 5 และ 3y – x2 = 2

1. 11.5 นิว 2. 12.5 นิว 3. 13.5 นิว 4. 14.5 นิว

แล้ วค่าของ b ตรงกับข้ อใด c

คําตอบของสมการ มีคา่ ตรงกับข้ อใด

19. กําหนดให้ p, q และ r เป็ นจํานวนเฉพาะบวกทีมีคา่ น้ อยกว่า 100 โดยที p<q<r

22. จํานวนๆหนึงเมือเพิมขึน 6% และลดลง 4% จะมีคา่ ต่างกัน 250 แล้ วจํานวนดังกล่าวตรงกับข้ อ

23. ถ้ ากําหนดความยาวของด้ านทังสามของรูปสามเหลียมให้ อยากทราบว่า รูปสามเหลียมในข้ อใด

ปรากฏว่าเขายังเหลือทางอีก 475 กิโลเมตร อยากทราบว่าถ้ าเขาขับรถ ไป–กลับ เชียงใหม่สงขลา

เวลา 10 นาที ถ้ าทังสามคนมาพบกันทีจุดเริ มต้ นอีกครังในเวลา 13.50 น. อยากทราบว่า สมภพ

1. 24 นาที 2. 16 นาที 3. 15 นาที 4. 12 นาที

กําหนด PQRS เป็ นรูปสีเหลียมผืนผ้ า และ RSKN เป็ นรูปสีเหลียมจัตรุ ัส โดยที MN = MP

อยากทราบว่า อัตราส่วนของ a มีคา่ เท่าใด

32. ณัติซือเสือมาตัวละ 50 บาท ถ้ าขายในราคาตัวละ 80 บาท ในเวลา 1 เดือน จะขายเสือได้

34 ถ้ าทรงกระบอกมีรศั มียาว 2 2 หน่วย สูง 27 หน่วย มีปริมาตรเท่ากับลูกบาศก์ลกู หนึง แล้ ว

35. ผลบวกของคําตอบทีเป็ นจํานวนจริ งทังหมดของสมการ x6 – 9x4 + x3 = 9x เท่ากับข้ อใด

36. มีจดุ อยู่ 7 จุด อยู่บนเส้ นรอบวงของวงกลม จะลากเส้ นตรงต่อจุดเหล่านีได้ มากทีสุดทังหมดกีเส้ น

38. คะแนนชุดหนึงเรียงลําดับจากน้ อยไปหามาก ดังนี 2, 4, 4, 5, 5, A, 8, 8, 10 ซึงมีฐาน

นิยมเพียงค่าเดียวและ ถ้ ามัธยฐานน้ อยกว่าฐานนิยมอยู่ 3 แล้ วค่าเฉลียเลขคณิตของคะแนนชุดนี

1. 6 คะแนน 2. 5.5 คะแนน 3. 5 คะแนน 4. 4.5 คะแนน