Professional Documents
Culture Documents
์ ้านอนุมูลอิสระของ
เรื่อง การศึกษาฤทธิต
สารสกัดจากพืชวงศ์ Piperaceae ด้วย
วิธี DPPH assay
โดย
นายกุลบุรุษ เซอร์เกอร์
นายภูมิ บุญเลิศ
นายภูรินท์ เงินถม
ครูที่ปรึกษา
นางวราภรณ์ ปฏิโค
นายพิทยา ปฏิโค
รายงานนีเ้ ป็ นส่วนหนึง่ ของการนำเสนอโครงงานนักเรียนชัน
้
มัธยมศึกษาปี ที่ 6
ห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่ง
แวดล้อม ปี การศึกษา 2564
ตามหลักสูตรห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ ของ สสวท.
โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัดจันทบุรี
โครงงานวิทยาศาสตร์
์ ้านอนุมูลอิสระของ
เรื่อง การศึกษาฤทธิต
วิธีDPPH assay
โดย
นายกุลบุรุษ เซอร์เกอร์
นายภูมิ บุญเลิศ
นายภูรินท์ เงินถม
รายงานนีเ้ ป็ นส่วนหนึง่ ของการนำเสนอโครงงานนักเรียนชัน
้
มัธยมศึกษาปี ที่ 6
ห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่ง
แวดล้อม ปี การศึกษา 2564
ตามหลักสูตรห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ ของ สสวท.
โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัดจันทบุรี
ชื่อโครงงาน ์ ้านอนุมูลอิสระของสารสกัดจากพืช
การศึกษาฤทธิต
วงศ์ Piperaceae ด้วยวิธี DPPH assay
สถานศึกษา โรงเรียนเบญจมราชูทศ
ิ จังหวัดจันทบุรี
เลขที่ 10 ถ.ศรียานุสรณ์ ต.วัดใหม่ อ.เมือง จ.จันทบุรี 22000
โทรศัพท์ 0-3931-1170 โทรสาร 0-3931-3555
บทคัดย่อ
์ ้านอนุมูลอิสระของ
จากการทำโครงงานเรื่อง การการศึกษาฤทธิต
กลัน
่ พบว่า พริกไทย พลูและชะพลูมีผลได้ร้อยละ คือ 1.11, 4.03 และ
assay จากผลการทดลอง พบว่า ค่า EC50 ของพริก ไทย ดีปลี พลู และ
ชะพลูเท่า กับ 0.106 , 0.140 , 0.061 และ 0.051 มิล ลิก รัม /มิล ลิล ิต ร
ตามลำดับ ดังนัน
้ สารสกัดจากชะพลูจงึ มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูล
จากการทำโครงงานนีท
้ ี่ผ ู้ศึกษาคาดหวังคือ การนำพริก ไทย ซึ่งเป็ นพืช
อุตสาหกรรมในผลิตภัณฑ์แปรรูป
กิตติกรรมประกาศ
โครงงานเรื่องนีป
้ ระกอบด้ว ยการดำเนิน งานหลายขัน
้ ตอน นับ
จัดทำรูปเล่มโครงงาน จนกระทั่งโครงงานนีส
้ ำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ตลอด
ระยะเวลาดังกล่าวคณะผู้จัดทำโครงงานได้รับความช่วยเหลือและคำ
โอกาสนีข
้ อขอบคุณทุกๆ ท่านดังนี ้
กราบขอบพระคุณผู้อำนวยการโรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัด
ปรึกษาโครงงาน และคุณครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ
คำแนะนำและคำปรึกษาในการทำโครงงานในครัง้ นีต
้ งั ้ แต่การคิดหัวข้อ
โครงงาน การศึกษาค้นคว้าข้อมูล การทำการทดลองตลอดจนการทำ
รูปเล่ม จนโครงงานนีส
้ ำเร็จลุล่วง
เมตตาช่ว ยเหลือ ในการใช้เ ครื่อ งมือ รวมถึง สารเคมีอ ย่า งถูก วิธ ีแ ละ
ทำ โครงงานครัง้ นีจ
้ นประสบความสำเร็จ ขอขอบคุณ เพื่อน ๆ ที่ได้ให้
ศึกษา อันมีค่ายิ่ง
คณะผู้จัดทำ
สารบัญ
หน้
า
บทคัดย่อ ก
กิตติกรรมประกาศ ข
สารบัญ ค
สารบัญตาราง ง
สารบัญรูปภาพ จ
บทที่ 1 บทนำ 1
ที่มาและความสำคัญ 1
จุดประสงค์ของโครงงาน 2
สมตติฐาน 2
ตัวแปรที่ศึกษา 2
นิยามศัพท์เฉพาะ 2
นิยามเชิงปฏิบัติการ 3
ขอบเขตของการดำเนินงาน 3
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 4
บทที่ 3 วิธีดำเนินการทดลอง 11
บทที่ 4 ผลการทดลอง 15
บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 25
เอกสารอ้างอิง 27
ภาคผนวก
ก การสกัดสารสกัดจากพืช 29
ข การทดสอบสารอัลคาลอยด์ในสารสกัด 31
ค การทดสอบการต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดด้วยิ 33
วธี DPPH assay
ง
สารบัญตาราง
ตารางที่ หน้า
ตารางที่
4.9
ตารางที่
4.10
สารบัญภาพ
ภาพที่ หน้า
บทที่ 1
บทนำ
1.1 ที่มาและความสำคัญ
ในปั จจุบน
ั ประชากรส่วนใหญ่ให้ความสนใจเกี่ยวกับสุขภาพ
และการบริโภคอาหารมาก ขึน
้ เนื่องจากมีหลายปั จจัยที่พบในการ
ดำเนินชีวิตประจำวันที่ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ เช่น การรับ แสงจาก
ดวงอาทิตย์เป็ นเวลานาน ควันจากบุหรีห
่ รือท่อไอเสียรถยนต์และ
มลพิษทางอากาศ โดย อนุมูลอิสระเป็ นสาเหตุส ำคัญของการเสื่อม
สภาพของเซลล์รา่ งกายซึ่งทำให้เซลล์ที่เกิดความ เสื่อมสภาพถูก
เปลี่ย นเป็ นเซลล์ม ะเร็ง ในปี พุท ธศัก ราช 2563 ประเทศไทยมีผ ู้
ป่ วยจากโรคมะเร็ง 120000 คน ซึ่ง มีผ ู้ป่ วย 20671 คน มาจาก
การเป็ นมะเร็ง ตับ และท่อ น้ำดีใ นจำนวนนีม
้ ีผ ู้เ สีย ชีว ิต ทัง้ หมด
15912 คน (กรมการแพทย์, 2563) โดยสาเหตุหลักของโรคมะเร็ง
ตับ และท่อ น้ำดีม าจาก การที่เ ซลล์เ กิด ความผิด ปกติจ งึ ส่ง ผลให้
สามารถติด เชื้อ จากกลุ่มไวรัส ตับ อัก เสบ และเกิดจากพฤติก รรม
การบริโภคอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง เช่น อาหารที่มีการปนเปื้ อนสา
รอะฟลาทอกซิน โดยปกติเ ซลล์ร ่า งกายจะมีเ อนไซม์ท ี่ส ามารถ
เปลี่ยนอนุมูลอิสระให้กลายเป็ นโมเลกุลที่ไม่เป็ น อันตรายต่อเซลล์
นอกจากเซลล์ท ั่ว ไปในร่า งกายมีส ารที่เรียกว่า “แอนติอ อกซิแ ด
นท์” ที่สามารถ เปลี่ยนอนุมูลอิสระให้เป็ นสารที่ไม่เป็ นอันตรายต่อ
เซลล์ส ารแอนติอ อกซิแ ดนท์ท ี่ส ามารถ พบได้โ ดยทั่ว ไป ได้แ ก่
วิตามินอี, วิตามินซี, และเบตาแคโรทีน
การรับประทานอาหารที่มีสารแอนติออกซิแดนท์จึงสามารถ
ป้ องกันอันตรายจากสาร อนุมูลอิสระที่มีผลต่อเซลล์ได้ ผู้บริโภค
ส่วนใหญ่นิยมรับประทานอาหารเสริมหรือยาที่มี ส่วนประกอบของ
สารแอนติออกซิแดนท์จากธรรมชาติ จากการค้นคว้าเอกสารทาง
วิชาการ พบว่า พืชวงศ์ Piperaceae บางชนิด เช่น พริกไทย ดีปลี
์ ้าน อนุมูลอิสระและเป็ นพืชที่สามารถ
พลู และชะพลูมีสารที่มีฤทธิต
หาได้งา่ ยภายในจังหวัดจันทบุรี ผู้วิจัยเห็นว่าหากได้ศึกษา ส่วน
ประกอบพืชที่อยู่ในวงศ์ Piperaceae ทัง้ 4 ชนิดเพื่อนำมาศึกษา
์ ารต้านอนุมูล
องค์ประกอบทางเคมีของ ส่วนสกัดที่แสดงฤทธิก
อิสระและนำไปเปรียบเทียบผลได้ร้อยละและประสิทธิภาพ การ
ต้านอนุมูลอิสระ เพื่อนำมาซึง่ ข้อมูลหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่
สามารถนำไปใช้เป็ นแนวทาง ในการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารเสริม,
ช่วยเพิ่มมูลค่าของพืชท้องถิ่นจังหวัดจันทบุรีและสามารถนำ
ประยุกต์ใช้ในทางอุตสาหกรรมเภสัชในอนาคต
2
1.2 จุดประสงค์ของโครงงาน
1.2.1 เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบผลได้ร้อยละของสารสกัด
จากพืชวงศ์ Piperaceae 4 ชนิด ได้แก่ พริกไทย ดีปลี
พลู และชะพลู
1.2.2 เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบประสิทธิภาพการต้าน
อนุมูลอิสระของสารสกัดจาก พืชวงศ์ Piperaceae 4
ชนิดได้แก่ พริกไทย ดีปลี พลู และชะพลู
1.3 สมมติฐาน
1.3.1 ผลได้ร้อยละของสารสกัดจากพืชวงศ์ Piperaceae
ทัง้ 4 ชนิดมีคา่ แตกต่างกัน 1.3.2 สารสกัดจากชะพลูมี
ประสิทธิภาพการต้านอนุมูลอิสระดีที่สุด
1.4 ตัวแปรที่ศึกษา
ตอนที่ 1 การศึกษาและเปรียบเทียบผลได้ร้อยละของสาร
สกัดจากพืชวงศ์ Piperaceae 4 ชนิดได้แก่ พริกไทย ดีปลี
พลู และชะพลู
ตัวแปรต้น พืชวงศ์ Piperaceae ได้แก่ พริกไทย ดีปลี พลู และชะพลู
ตัวแปรตาม ผลได้ร้อยละของสารสกัดของพืชแต่ละชนิด
ตัวแปรควบคุม น้ำหนักเริ่มต้นของพืชแต่ละชนิด วิธีการสกัด
กระบวนการอบ
ตอนที่ 2 การศึกษาและเปรียบเทียบประสิทธิภาพการต้าน
อนุมูลอิสระของสารสกัดจากพืช วงศ์ Piperaceae 4 ชนิด
ได้แก่ พริกไทย ดีปลี พลู และชะพลู
ตัวแปรต้น สารสกัดพืชวงศ์ Piperaceae 4 ชนิด ได้แก่ พริก
ไทย ดีปลี พลู และชะพลู ตัวแปรตาม ประสิทธิภาพการต้าน
อนุมูลอิสระ DPPH
ตัวแปรควบคุม ความเข้มข้นของสารสกัด สารมาตรฐานการ
เปรียบเทียบ ชนิดของตัวทำละลาย ความเข้มข้นของ DPPH ที่ใช้
ทดสอบ
1.5 นิยามศัพท์เฉพาะ
1.5.1 สารสกัด คือ สารที่ได้จากการสกัดพืช 4 ชนิดด้วย อะซิ
โตน, เอทานอล 95% และน้ำกลั่น จากนัน
้ นำไประเหยให้แห้ง
1.5.2 ประสิทธิภาพการต้านอนุมูลอิสระ คือ ประสิทธิภาพใน
การกำจัดอนุมูลอิสระ DPPH โดย วัดค่าเป็ น percent radical
1.6 นิยามเชิงปฎิบัติการ
Percent radical scavenging หมายถึง เปอร์เซ็นต์ความ
สามารถในการยับยัง้ อนุมูลอิสระ ของสารสกัด เทียบกับสาร
มาตรฐาน
โดยที่ A = ค่าการดูดกลืนแสงของสารชุดควบคุม
(สารละลาย DPPH ผสมเมทานอล)
B = ค่าการดูดกลืนแสงของชุดทดสอบ (สาร
ตัวอย่างผสม DPPH)
1.7 ขอบเขตของการดำเนินงาน
1.7.1 พืชที่นำมาศึกษา ได้แก่ พริกไทย ดีปลี พลู และชะพลู ในจังหวัด
จันทบุรี
1.7.2 สถานที่ คือ ห้องปฏิบัติการโรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัด
จันทบุรี
4
บทที่ 2
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ศึกษาและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ตามหัวข้อต่อไปนี ้
2.1 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ต้า นอนุม ูล อิส ระของสารที่ส นใจ ใช้ห ลัก การของ DPPH ในรูป ของ
โมเลกุลอื่น โดยมีตัวรับอิเล็กตรอนคือสารต้านอนุมูลอิสระหรือสารสกัด
ความยาวคลื่น ที่ 515 นาโน เมตร เป็ นตัว ชีว้ ัด ของปฏิก ิร ิยาที่เ กิด ขึน
้
2.1.2 พริกไทย
ชื่อวงศ์ : Piperaceae
ใบรูปไข่ โคนมนหรือเบีย
้ วไม่ เท่ากัน ปลายแหลม ขอบ
ลักษณะกลม ไม่มีกลีบรองดอกและกลีบดอก
2.1.3 ดีปลี
ชื่อวงศ์ : Piperaceae
ลักษณะทางพันธุ์ศาสตร์ของดีปลี
1) ลำต้น ไม้เถามีรากฝอยออกบริเวณข้อเพื่อใช้ยึดเกาะ
แตกกิง่ ก้านสาขามาก
ขอบใบเรียบเป็ นคลื่นเล็กน้อย
2.1.4 พลู
ชื่อวงศ์ : Piperaceae
ลักษณะทางพันธุ์ศาสตร์ของพลู
กลิ่นหอมเฉพาะ
มีกลิ่นฉุน
และดอกเพศเมียจะแยกกันอยู่ คนละดอก
2.1.5 ชะพลู
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Piper sarmentosum Roxb.
ชื่อวงศ์ : Piperaceae
ลักษณะทางพันธุ์ศาสตร์ของชะพลู
1) ลำต้น มีลก
ั ษณะตั่งตรง สูงประมาณ 30-50
พุ่ม เติบโตได้ดีในพื้นที่ดินชุ่ม
บริเวณปลายยอด และช่อใบ
ออกดอกมากในฤดูฝน
ภาพที่ 2.5 ภาพแสดงใบของชะพลู
2.2 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
์ ้านอนุมูลอิสระของสาร
จากการท าโครงงานเรื่อง การศึกษาฤทธิต
สกัดสารที่สอดคล้องกับงานวิจัยดังนี ้
์ ้านอนุมูลอิสระดีที่สุดโดยมีค่า EC50 =
สกัดน้ำของพริกไทยดำมีฤทธิต
์ ้านอนุมูลอิสระ
ไทยดำ และสารสกัดทัง้ 3 ชนิดของพริกไทยล่อนมีฤทธิต
ต่ำมาก ( EC50 > 100 µg/ml)
์ ้านอนุมูลอิสระค่อนข้างต่ำ)
ประมาณ 6% และ 30% ตามลำดับ (มีฤทธิต
อย่างไรก็ตามพบว่าส่วน
์ ้านอนุมูลอิสระของสาร
จากการท าโครงงานเรื่อง การศึกษาฤทธิต
วิจัยดังนี ้
10
บทที่ 3
วิธีดำเนินการทดลอง
์ ้านอนุมูลอิสระของ
ในการท าโครงงานเรื่อง การศึกษาฤทธิต
สารสกัดจากพืชวงศ์ Piperaceae ด้วยวิธี DPPH assay มีวิธีดำเนิน
การทดลองตามขัน
้ ตอนต่าง ๆ ดังต่อไปนี ้
กรวยกรอง 3 อัน
กระดาษกรอง 10 อัน
ขวดรูปชมพู่ ขนาด 250 มิลลิลิตร 3 อัน
หลอดทดลองขนาดเล็ก 4 หลอด
หลอดทดลองขนาดกลาง 4 หลอด
โกร่งบดสาร 1 อัน
บีกเกอร์ ขนาด 250 มิลลิตร 6 อัน
ขวดปรับปริมาตร 100 มิลลิตร 5 อัน
ขวดปรับปริมาตร 500 มิลลิลิตร 5 อัน
แท่งแก้วคนสาร 6 อัน
หลอดหยด 6 อัน
เทอร์โมมิเตอร์ 1 อัน
พืนที่นำมาศึกษา
พริกไทย 100 กรัม
12
3.1.2 เครื่องมือพิเศษ
ชนิดเครื่องมือ
จำนวน
ตู้อบความร้อน 1
เครืองชัง่ ทศนิยม 2 ตำแหน่ง อัน
เครื่อง UV-Visible Spectrophotometer 1
Hot plate อัน
1
อัน
2
อัน
3.2 สารเคมี
ชื่อสารเคมี
ปริมาณ
อะซิโตน 500
เอทานอล (Ethanol 95%) มิลลิลิตร
น้ำกลั่น 500
ผงไอโอดีน มิลลิลิตร
โพแทสเซียมไอโอไดด์ 1000
กรดไฮโดรคลอริก (Hydrocholric 1.5% v/v) มิลลิลิตร
เมทานอล (Methanol) 2 กรัม
อนุมูลอิสระ DPPH (2,2-diphenyl-1- 6 กรัม
picrylhydrazyl) 100
วิตามินซี (Ascorbic Acid) มิลลิลิตร
ยา Atropine Sulfate 3000
มิลลิลิตร
250
มิลลิกรัม
2
มิลลิลิตร
2
มิลลิลิตร
3.3 ขัน
้ ตอนการดำเนินงาน
ตอนที่ 1 เตรียมสกัดพืชตัวอย่าง
1) นำใบพลู ใบชะพลู และผลพริกไทย มาล้างทำความสะอาด แล้วตาก
ให้แห้ง
2) เมื่อแห้งแล้ว นำมาชั่งน้ำหนัก 100 กรัม
3) นำพืชที่ชั่งน้ำหนักแล้วไปอบทีค
่ วามร้อน 100 องศา
เซลเซียสเป็ นเวลา 90 นาที 4) นำพืชไปบดให้ละเอียด
แล้วชั่งน้ำหนักหลังอบ เพื่อหาผลได้ร้อยละ
13
14
์ ้านอนุมูลอิสระด้วย DPPH
ตอนที่ 5 ทดสอบประสิทธิภาพฤทธิต
assay
1) เตรียมสารสกัดจากพริกไทย ดีปลี พลู และชะพลูให้มีความเข้ม
ข้น 7 ระดับ (0.8, 0.4, 0.2, 0.1, 0.05, 0.025, 0.0125 มิลลิกรัม
ต่อมิลลิตร) ในตัวทำละลายเมทานอล
2) เตรียมสารละลายมาตรฐานวิตามินซี (ascorbic acid) ที่ความ
เข้มข้น 0.0125 - 0.1 มิลลิกรัม ต่อมิลลิลิตร
3) เตรียมสารละลาย DPPH ความเข้มข้น 0.05 มิลลิกรัมต่อ
มิลลิลิตร ในตัวทำละลายเมทานอล
4) นำสารละลาย ascorbic acid และสารสกัดจากพืชที่ความเข้ม
ข้นต่างๆ มาผสมกับสารละลาย DPPH ในอัตราส่วน 1:1 แล้วนำ
ไปบ่มในที่มืดที่อุณภูมิห้องเป็ นเวลา 30 นาที
5) วัดค่าการดูดกลืนแสงของสารละลายในข้อ 4) ด้วย UV-Visible
Spectrophotometer ที่ ความยาวคลื่น 515 nm โดยมี blank
เป็ นเมทานอล
6) น าค่าที่วัดได้มาหาค่า percent radical scavenging จากสูตร
โดยที่ A = ค่าการดูดกลืนแสงของสารชุดควบคุม
(สารละลาย DPPH ผสมเมทานอล)
B = ค่าการดูดกลืนแสงของชุดทดสอบ (สารตัวอย่างผสม
DPPH)
7) สร้างกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่าง percent
radical scavenging กับ ความเข้มข้นของสารสกัด
บทที่ 4
ผลการทดลอง
์ ้านอนุมูลอิสระของ
จากการท าโครงงานเรื่อง การศึกษาฤทธิต
สารสกัดจากพืชวงศ์ Piperaceae ด้วยวิธี DPPH assay ได้ผลการ
ทดลองดังนี ้
4.1 การศึกษาและเปรียบเทียบผลได้ร้อยละของสารสกัด
จากพืชวงศ์ Piperaceae 4 ชนิดได้แก่ พริกไทย ดีปลี
พลูและชะพลู
เมื่อนำพืชที่นำมาศึกษาทัง้ สี่ชนิด ได้แก่ พริกไทย ดีปลี พลู
และชะพลู มาสกัดด้วยอะซิโตน เอทานอล 95% และน้ำกลั่น พบ
ว่าได้ผลได้ร้อยละของพืชในขัน
้ ตอนการสกัด ดังตารางที่ 4.1, 4.2
และ 4.3
16
ดีปลี -* 14.25 -
*เนื่องจากดีปลีไม่มีการอบเพื่อหาผลได้ร้อยละ
17
พืชที่นำมาศึกษา ผลการทดสอบกับสารละลายแวก
เนอร์
พริกไทย เกิดตะกอน
ดีปลี เกิดตะกอน
พลู เกิดตะกอน
ชะพลู เกิดตะกอน
น้ำกลัน
่ ไม่เกิดตะกอน
จากตารางแสดงผลการทดสอบสารสกัดกับสารละลายแวกเนอร์
พบว่า สารสกัด จากพืช ทัง้ สี่ช นิด และ Atropine Sulfate มีก ารตก
ตะกอนเกิดขึน
้ ในขณะที่น้ำกลั่นไม่ตกตะกอน แสดงว่า สารสกัดจากพืช
ทัง้ สี่ชนิดมีสารอัลคาลอยด์เป็ นองค์ประกอบ
18
4.2 การศึกษาและเปรียบเทียบประสิทธิภาพการต้าน
อนุมูลอิสระของสารสกัดจากพืช วงศ์Piperaceae 4 ชนิด
ได้แก่ พริกไทย ดีปลีพลูและชะพลู
เมื่อนำพืชที่นำมาศึกษาทัง้ สี่ชนิด ได้แก่ พริกไทย ดีปลีพลูและ
ชะพลูมาตรวจสอบประสิทธิภาพ ในการต้านอนุมูลอิสระ พบว่าได้ผล
การทดสอบ ดังตารางที่ 4.5, 4.6, 4.7, 4.8 และ 4.9
ผลการทดลองค่าการดูดกลืนแสงและเปอร์เซ็นต์การออกฤทธิ ์
ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดจาก พริกไทย
19
์ ้านอนุมูล
ผลการทดลองค่าการดูดกลืนแสงและเปอร์เซ็นต์การออกฤทธิต
อิสระของสารสกัดจากดีปลี
20
์ ้านอนุมูล
ผลการทดลองค่าการดูดกลืนแสงและเปอร์เซ็นต์การออกฤทธิต
อิสระของสารสกัดจากพลู
21
์ ้านอนุมูล
ผลการทดลองค่าการดูดกลืนแสงและเปอร์เซ็นต์การออกฤทธิต
อิสระของสารสกัดจากชะพลู
22
์ ้านอนุมูล
ผลการทดลองค่าการดูดกลืนแสงและเปอร์เซ็นต์การออกฤทธิต
อิสระของ ascorbic acid
ตารางที่ 4.9 แสดงค่า percent radical scavenging ของสารละลาย
มาตรฐานทีค
่ วามเข้มข้นต่างๆ
พริกไทย 0.1064
ดีปลี 0.1401
พลู 0.0612
ชะพลู 0.0518
Ascorbic acid 0.0525
23
์ ้านอนุมูลอิสระของพริก
ภาพที่ 4.1 กราฟแสดงเปอร์เซ็นต์การออกฤทธิต
ไทย ดีปลี พลู และชะพลูในแต่ละ ความเข้มข้น
ภาพที่
24
์ ้านอนุมูลอิสระของ
ภาพที่ 4.3 กราฟแสดงเปอร์เซ็นต์การออกฤทธิต
บทที่ 5
สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
์ ้านอนุมูลอิสระของ
จากการท าโครงงานเรื่อง การศึกษาฤทธิต
สารสกัดจากพืชวงศ์ Piperaceae ด้วยวิธี DPPH assay สามารถสรุป
ผลการทดลอง อภิปรายผล และมีข้อเสนอแนะ ดังต่อไปนี ้
5.1 สรุปผล
ตอนที่ 1 : การศึกษาและเปรียบเทียบผลได้ร้อยละของสารสกัด
จากพืชวงศ์ Piperaceae 4 ชนิด ได้แก่ พริกไทย ดีปลี พลู และ
ชะพลู
จากการศึกษาผลได้ร้อยละของสารสกัดจาก พริกไทย ดีปลี พลู
และชะพลู พบว่า สารสกัดจาก ชะพลูมีผลได้ร้อยละมากที่สุดรองลงมา
คือพลู และพริกไทย ตามลำดับ โดยเมื่อเปรียบเทียบผลได้ร้อยละ ก่อน
และหลังอบแล้ว พบว่าพลูมีผลได้ร้อยละมากที่สุด และเปรียบเทียบผล
ได้ร้อยละก่อนและหลังระเหย พบว่าชะพลูมีผลได้ร้อยละมากที่สุด
ตอนที่ 2 : การศึกษาและเปรียบเทียบประสิทธิภาพการต้านอนุมูล
อิสระของสารสกัดจากพืชวงศ์ Piperaceae 4 ชนิดได้แก่ พริก
ไทย ดีปลี พลูและชะพลู
จากการศึกษาประสิทธิภาพการต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดจาก
พริกไทย ดีปลี พลูและชะพลู พบว่า เมื่อทดสอบสารสกัดจากพืชทัง้ 4
ชนิดด้วยสารละลายแวกเนอร์ ผลการทดสอบเกิดตะกอนทัง้ หมด เมื่อนำ
์ ้านอนุมูลอิสระด้วยวิธี DPPH
สารสกัดจากพืชทัง้ 4 ชนิดมาหาฤทธิต
assay พบว่า สาร สกัดจากชะพลู มีประสิทธิภาพการต้านอนุมูลอิสระสูง
ที่สุด โดยมีค่า EC50 ที่ 0.0518 มิลลิกรัมต่อ มิลลิลิตร ซึ่งใกล้เคียงกับค่า
5.2 อภิปรายผล
ตอนที่ 1 : การศึกษาและเปรียบเทียบผลได้ร้อยละของสารสกัด
จากพืชวงศ์ Piperaceae 4 ชนิด ได้แก่ พริกไทย ดีปลี พลู และ
ชะพลู
จากการศึกษาผลได้ร้อยละของสารสกัดจาก พริกไทย ดีปลี พลู
และชะพลู พบว่า สารสกัดจาก พืชมีผลได้ร้อยละแตกต่างกัน เนื่องจาก
มีสารองค์ประกอบภายในแตกต่างกัน โดยหลังอบ พลูมีผลได้ร้อย ละ
มากที่ส ุด แสดงว่า มีอ งค์ป ระกอบที่เ ป็ นน้ำหรือ สารที่ร ะเหยง่า ยน้อ ย
ที่สุด เมื่อเปรียบเทียบผลได้ร้อยละ ก่อนและหลังระเหย ชะพลูมีผลได้
ร้อยละมากที่สุด แสดงว่ามีสารเคมีที่สกัดได้จากตัวทำละลายอะซิโตน
เอทานอล และน้ำเป็ นองค์ประกอบมากที่สุด
ตอนที่ 2 : การศึกษาและเปรียบเทียบประสิทธิภาพการต้านอนุมูล
อิสระของสารสกัดจากพืชวงศ์ Piperaceae 4 ชนิดได้แก่ พริก
ไทย ดีปลี พลูและชะพลู
จากการศึกษาประสิทธิภาพการต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดจาก
พริกไทย ดีปลี พลูและชะพลู พบว่า เมื่อทดสอบสารสกัดจากพืชทัง้ 4
ชนิดด้วยสารละเลยแวกเนอร์ ผลการทดสอบเกิดตะกอนทัง้ หมด แสดง
ว่าในสารสกัดจากพืชทัง้ 4 ชนิดมีสารอัลคาลอยด์เป็ นองค์ประกอบ ซึ่ง
์ ้านอนุมูลอิสระได้
อาจมีฤทธิต
์ ้านอนุมูลอิสระด้วยวิธี
เมื่อนำสารสกัดจากพืชทัง้ 4 ชนิดมาหาฤทธิต
DPPH assay พบว่า สาร สกัดจากพืชทัง้ 4 ชนิดมีประสิทธิภาพการ
ต้านอนุมูลอิสระต่างกันโดยสารสกัดจากชะพลู มีประสิทธิภาพ การ
ต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุด และสารสกัดจากชะพลู และพลูมี
ประสิทธิภาพแตกต่างกันน้อย ซึ่งอาจบ่ง บอกถึงองค์ประกอบทางเคมี
ที่ใกล้เคียงกัน
5.3 ข้อเสนอแนะ
5.3.1 ควรหาผลดีปลีสดมาสกัดเนื่องจากจะทำให้เปรียบเทียบ
ผลได้ร้อยละของดีปลีได้ด้วย 5.3.2 ควรศึกษาประสิทธิภาพการต้าน
อนุมูลอิสระของสารสกัดจากส่วนต่างๆของพืชเพิ่มเติม 5.3.3 ควร
ศึกษาประสิทธิภาพการต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดจากพืชโดยใช้วิธี
การสกัดที่ แตกต่างกัน
5.3.4 ควรมีการวิเคราะห์องค์ประกอบทางพฤกษเคมีของสารสกัดจาก
พืชเพิ่มเติม
27
เอกสารอ้างอิง
28
ภาคผนวก ก
ภาคผนวก ก : การสกัดสารสกัดจากพืช
30
31
ภาคผนวก ข
ภาคผนวก ข : การทดสอบสารอัลคาลอยด์ในสารสกัด
32
33
ภาคผนวก ค
ภาคผนวก ค : การทดสอบการต้านอนุมูลอิสระของสารสกัด
ด้วยวิธี DPPH assay
34
การคำนวณ EC50
นำค่าความเข้มข้นในช่วงที่เหมาะสมมาหาค่า EC50 โดยใช้สมการ
กราฟแนวโน้ม(กราฟเส้นตรง) ของแต่ละเส้นแล้วแทนค่า y = 50 ใน
แต่ละสมการ ดังนี ้
สมการแนวโน้มของพริกไทย คือ
y = 345x + 13.30 จะได้x = 0.1064
สมการแนวโน้มของดีปลีคือ
y = 315x + 5.84 จะได้x = 0.1402
สมการแนวโน้มของพลูคือ
y = 363x + 27.80 จะได้x = 0.0612
สมการแนวโน้มของชะพลูคือ
y = 328x + 33.00 จะได้x = 0.0518
ดังนัน
้ ค่า EC50 ของพริกไทย ดีปลีพลูและชะพลูเท่ากับ
0.01064 , 0.1402 , 0.0612 และ 0.0518 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร
ตามล าดับ
สมการแนวโน้มของ ascorbic acid คือ
y = 394x + 29.30 จะได้x = 0.0525
ดังนัน
้ ค่า EC50 ของ ascorbic acid เท่ากับ 0.0525 มิลลิกรัมต่อ
มิลลิลิตร