You are on page 1of 2

8 วิธีเสริ มจิตใจให้เข้มแข็ง กลยุทธ์หยุดยั้งความคิดแง่ร้าย

ร่ างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงย่อมมีพลังในการต่อสู้โรคภัยไข้เจ็บ เช่นเดียวกับจิตใจที่เข้มแข็งก็ส่งผลดีต่อหลายสิ่ งหลายอย่างใน


ชีวิตคนเรา ทำให้เกิดความมัน่ ใจในตัวเอง มีความกล้าหาญ ไม่ยอ่ ท้อต่ออุปสรรคใดๆ ซึ่งสิ่ งเหล่านี้จะนำพาเราไปสู่ ความสำเร็ จ
ในชีวิต

แต่กายและใจที่แข็งแกร่ งนั้น ต้องอาศัยการออกกำลังและฝึ กฝนเป็ นประจำ ดังนั้น เมื่อฝึ กกายบริ หารแล้ว อย่าละเลยที่จะฝึ กจิตใจ
ให้เข็มแข็ง ด้วย 8 วิธีง่ายๆต่อไปนี้

1. ทำสมาธิ
จิตที่ตอ้ งเผชิญกับเรื่ องราวต่างๆในชีวิตประจำวัน ทั้งดีและไม่ดี จำต้องมีเวลาหยุดพัก เพื่อชำระล้างจิตใจให้สะอาด ผ่องใส เช่น
เดียวกับการชำระล้างร่ างกาย เตรี ยมรับวันใหม่

การทำสมาธิเป็ นการฝึ กจิตที่ดีที่สุด ช่วยให้จิตมีพลังเข้มแข็ง ด้วยวิธีการง่ายๆ เช่น นัง่ ในท่าที่สบาย หลับตา หายใจเข้าช้าๆ กลั้น
ไว้ชวั่ ครู่ แล้วค่อยๆผ่อนลมหายใจออกช้าๆ จะช่วยให้จิตผ่อนคลายขึ้น นิ่งขึ้น และสงบขึ้น

นอกจากการทำสมาธิจะช่วยให้จิตมีพลังแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรงด้วย เพราเมื่อจิตสงบ ร่ างกายจะหลัง่ ฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟิ


นออกมา ช่วยลดอาการเจ็บปวด เพิ่มภูมิตา้ นทานโรค ลดความตึงเครี ยด ลดความดันโลหิต ลดระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้
เส้นเลือดมีความยืดหยุน่ ช่วยให้การไหลเวียนเลือดเป็ นปกติ ป้ องกันการเกิดโรคหัวใจและเส้นเลือดหัวใจตีบตัน

2. มองโลกในแง่ ดี
การมองโลกในแง่ร้ายจะทำให้จิตใจเต็มไปด้วยความกังวล ท้อถอย หวัน่ ไหว และเป็ นทุกข์ และสภาพจิตใจเช่นนี้จะนำพาคุณไป
สู่ ความล้มเหลว ไม่วา่ จะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม

ขณะที่การมองโลกในแง่ดี ให้ผลตรงกันข้าม ลองหลับตาและจินตนาการถึงงานที่คุณทำอยูน่ ้ นั ดำเนินไปด้วยดี ความสำเร็ จกำลัง


รออยูเ่ บื้องหน้า และเมื่อลืมตาขึ้น คุณจะพบว่าตัวเองพร้อมจะทำสิ่ งที่มุ่งหวังให้สำเร็ จด้วยใจที่แข็งแกร่ งเกินร้อย

3. เข้ าใจเรื่องความไม่ เที่ยง


การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้เป็ นธรรมดาของโลก พระพุทธองค์ทรงสอนว่า ทุกสิ่ งในโลกนี้เป็ นอนิจจัง ไม่มีอะไรคงที่เที่ยงแท้
แน่นอน คนที่ไม่เข้าใจเรื่ องนี้จะไม่สามารถทำใจรับกับการเปลี่ยนแปลงใดๆที่เกิดขึ้นได้เลย ผลที่ตามมาคือความเสี ยใจ เศร้าใจ
และทุกข์ทรมานใจ

ส่ วนคนที่เข้าใจคำสอนนี้ดี เหมือนได้รีบวัคซีนที่ท ำให้จิตใจเข้มแข็ง พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงอยูต่ ลอดเวลาด้วยอารมณ์และ


จิตใจที่เบิกบาน

4. เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆทุกวัน
เมื่ออายุเพิ่มขึ้น จิตของเรามักคิดอยูแ่ ต่ในกรอบเดิมๆมากยิง่ ขึ้น เราจะรู้สึกว่าชีวิตในแต่ละวันเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
จนเกิดความเบื่อหน่าย พาให้ใจเศร้าหมองไปเรื่ อยๆ

แต่การเรี ยนรู้สิ่งใหม่ๆ เป็ นการสร้างเครื อข่ายโยงใยเส้นประสาทให้เกิดขึ้นใหม่ ยิง่ เรี ยนรู้ทกั ษะหรื อสิ่ งใหม่ๆมากเท่าไร ก็ส่งผล
ให้จิตใจกลับมาคึกคักสดใส เช่น ลองเดินทางในเส้นทางใหม่ที่ไม่เคยไป รับประทานอาหารที่แปลกไปจากเดิมๆ จากที่เคยรับ
ประทานแต่เนื้อสัตว์ ก็เปลี่ยนเป็ นผัก ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายดีข้ ึนด้วย
5. มีเป้าหมายชัดเจน
การวางเป้ าหมายที่ชดั เจนในชีวิต ทำให้รู้วา่ เราต้องการสิ่ งใด และวางแผนเพื่อไปสู่ จุดหมายให้สำเร็ จ แต่ระหว่างการเดินทาง
อาจเต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนาม ที่ส่งผลต่อจิตใจ ทำให้รู้สึกผิดหวัง ท้อแท้ สับสน จนอาจล้มเลิกที่จะเดินตามฝัน

คนที่มีจุดหมายชัดเจนแน่วแน่จะมีก ำลังใจที่เข้มแข็ง มองอุปสรรคว่าเป็ นเรื่ องที่เกิดขึ้นชัว่ คราว อาจทำให้ทอ้ ใจบ้าง แต่ไม่ได้


ทำให้ทอ้ ถอย และมุ่งมัน่ เดินหน้าทำต่อไปจนประสบความสำเร็ จ

6. อย่ าหลงอยู่กบั อดีตที่เลวร้ าย


มีค ำกล่าวว่า “อดีตก็คืออดีต มีประโยชน์อนั ใดที่จะเก็บมาครุ่ นคิดคำนึง เพราะมิอาจย้อนเวลาไปแก้ไขได้” ดังนั้น การปล่อยให้ใจ
หลงวนเวียนคิดติดอยูก่ บั อดีตที่เลวร้าย ย่อมไม่ใช่เรื่ องฉลาด เพราะมีแต่ท ำให้ใจอ่อนแอลงไปทุกวันๆ

ทางที่ควรทำเพื่อให้ใจเข้มแข็งขึ้นคือ ปล่อยเรื่ องราวเลวร้ายที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต ให้มนั อยูใ่ นอดีตนัน่ แหละ และเดินหน้าทำทุก


อย่างให้ดียงิ่ ขึ้นในปัจจุบนั เมื่อปัจจุบนั ดีแล้ว อนาคตก็จะดีไปด้วย นัน่ ย่อมหมายถึง จิตใจก็แข็งแกร่ งขึ้นด้วย

7. อยู่กบั ปัจจุบันขณะ
สำหรับคนที่จิตใจมักล่องลอย คิดฟุ้ งซ่าน วิธีที่จะช่วยดึงสมาธิกลับมาจดจ่อกับสิ่ งที่อยูต่ รงหน้า ในขณะที่ใจเริ่ มหันเหจากสิ่ งที่
กำลังทำอยูก่ ค็ ือ พูดกับตัวเองว่า “หยุด.. อยูต่ รงนี้”

บางคนอาจใช้ค ำเฉพาะ เช่น ถ้ากำลังทำความสะอาดบ้าน และใจเริ่ มวอกแวก จงพูดซ้ำๆว่า “เช็ดถู” เพื่อดึงตัวเองกลับมาอยูก่ บั


ปัจจุบนั ซึ่งนอกจากจะทำให้ท ำงานตรงหน้าได้สำเร็ จแล้ว ยังช่วยให้ใจสงบ มีสมาธิและสติที่แน่วแน่

8. ปลดปล่อยความทุกข์ ใจ
สุ ดท้ายแล้ว ยามที่รู้สึกว่าจิตใจเริ่ มอ่อนล้ากับปัญหารอบข้างที่รุมเร้าอยู่ จงพูดคุยกับเพื่อนสนิทที่รู้ใจสักคน ซึ่งคอยให้ก ำลังใจ
ยามท้อแท้ ก็จะช่วยฟื้ นฟูจิตใจให้กลับมาเข้มแข็ง

หรื อหากไม่รู้จะระบายความทุกข์อดั อั้นใจกับใคร ก็ลองพูดต่อหน้าพระพุทธรู ป เสร็ จแล้วไหว้พระสวดมนต์ ทำสมาธิ ก็จะทำให้


จิตใจสงบ และมีพลังใจในการต่อสู้กบั ปัญหาต่อไป

Credit : ธรรมะทันชีวิต

You might also like