You are on page 1of 5

คำนามภาษาอังกฤษมีมากมายหลายประเภท ขึ ้นอยูก่ บั ผู้เขียนด้ วยว่าจะแบ่งออกเป็ นอย่างไร

บ้ าง ซึง่ บางครัง้ การจัดประเภทก็สามารถรวมกันได้ ถ้ าเนื ้อหามีลษั ณะคล้ ายกัน หรื อบาง


เนื ้อหาที่ผ้ เู ขียนเห็นว่าไม่คอ่ ยสำคัญก็ไม่ถกู นำมาจัดประเภทก็ได้
ในบทเรี ยนนี ้ขอแบ่งคำนามออกเป็ นประเภทที่มาคูก่ นั ได้ ดงั นี ้ คือ
คำนามทัว่ ไป (Common Noun) และคำนามเฉพาะเจาะจง (Proper Noun)
คำนามทัว่ ไป (Common Noun)
คำนามทัว่ ไปคือ คำที่ใช้ แทนคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ ทัว่ ๆ ไป ไม่เป็ นการเจาะจง ลองมาดู
ตัวอย่างกัน

คน: boy, girl, man, woman, father, mother


สัตว์: cat, dog, bird, lion, tiger
สิ่งของ: car, pen, map, bed
สถานที่: church, school, post office, police station

คำนามเฉพาะ (Proper Noun)


คือ ชื่อของคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่
คน:
Sam Smith, David Beckham, Barak Obama, Britney Spears,
Simon, Somsee, Somchai, Saichon
สัตว์:
Simba, Angel,Jerry, Buddy, Adam, Alwin, Bruno, Pluto,
Kenney, Braily, Toto
สิ่งของ: ปกติจะเป็ นยี่ห้อของสินค้ าต่างๆ
Toyota, Lux, Samsung, Sony, Apple, Pantine, Panasonic,
Honda
สถานที่: หมูบ่ ้ าน เมือง ประเทศ ทวีป
London, Tokyo, Canada, Italy, Asia, Africa, Singapore, China,
Uinited States, England
ชื่อองค์กรต่างๆ:บริ ษัท ห้ างร้ าน โรงเรี ยน โรงแรม
Oxford University, Toyota Corporation, DBS Bank
วัน เดือน วันหยุด :
December, June, Monday, Sunday, Valentine, Christmas
สัญชาติ :
Thai, Japanese, Chinese, American, English, Australian

สิ่งก่อสร้ าง :
Big Ben, Buckingham Palace, the Taj Mahal, the Great wall of
China, the Statue of Liberty
ธรรมชาติ: แม่น้ำ ลำคลอง ทะเล ทะเลทราย มหาสมุทร ภูเขา เกาะ
the Nile River, Mount Fuji, the Pacific, the Red Sea, the Grand
Canyon, the Sahara
คำนามเฉพาะจะขึ ้นต้ นด้ วยตัวใหญ่เสมอ ไม่ว่าจะอยูส่ ว่ นไหนของประโยค

Verb หรื อ คำกริ ยา ในภาษาอังกฤษให้ เข้ าใจกัน ต้ องบอกเลยว่า Verb นันเป็


้ นส่วน
ประกอบที่สำคัญมากสำหรับภาษา (ทุกภาษาเลยนะ) เพราะเวลาจะสื่อสาร ถ้ าขาด Verb
ไป ก็อาจจะสื่อสารได้ ไม่เต็มที่ หรื อเวลาแต่งประโยค ถ้ าขาด Verb ไป (V. แท้ ) ในภาษา
อังกฤษก็จะถือว่าประโยคนัน้ “ไม่ใช่” ประโยคเลยทีเดียว

Verb คืออะไร?
Verb หรื อคำกริ ยา เป็ นคำที่ใช้ บอกลักษณะของ “การกระทำ” (Actions) หรื อบอก
“สภาพ” (State) เช่น

run (วิ่ง)
drink (ดื่ม)
think (คิด)
hate (เกลียด)
complain (บ่น, ร้ องเรี ยน)

ซึง่ ในภาษาอังกฤษนัน้ ประโยค (Sentence) จะถือว่าสมบูรณ์และเป็ นประโยคได้ ก็ตอ่ เมื่อ


มี [Subject + Verb] คือต้ องมีประธาน และกริ ยานัน่ เอง แต่! ก็ไม่ใช่ Verb ทุกแบบจะ
ทำหน้ าที่เป็ น Verb แท้ ของประโยคได้ นะ เราลองไปดูกนั ดีกว่า ว่า Verb มีกี่ประเภท
หน้ าตาเป็ นยังไงบ้ าง?

Verb ในภาษาอังกฤษ มีกี่ประเภท?


การแบ่งประเภทของ Verb นันแบ่
้ งได้ หลายแง่มมุ มาก ดังนันวิ
้ ้งค์เลยสรุ ปเป็ นแผนภาพไว้ ให้ ดู
ง่าย ๆ

Finite Verbs (กริ ยาแท้ — ผันได้ ตาม Tense)


Non-Finite Verbs (กริ ยาไม่แท้ — ไม่ผนั ตาม Tense)
Linking Verbs (กริ ยาที่เชื่อม S. กับ Adj. เข้ าด้ วยกันเพื่อบอกสภาพ ลักษณะ)
Helping/Auxiliary Verbs (กริ ยาช่วย ต้ องมาคูก่ บั กริ ยาแท้ เสมอ)
ถ้ าสรุปแบบสัน้ ๆ Verbs ก็จะแบ่งได้ เป็ น 4 ประเภทใหญ่ ๆ ตามด้ านบนเลย แต่เดี๋ยวก่อน!
อย่างที่วิ ้งค์บอกไว้ ตอนแรกว่ามันมีการมอง Verb หลายแง่มมุ เพราะงันเดี้ ๋ยววิ ้งค์จะอธิบาย
เพิ่มรายละเอียดแต่ละแบบให้ ฟังนะจ๊ ะ แต่ขอให้ เก็ทกันก่อนว่าถ้ าแบ่งตามประเภทจริ ง ๆ ก็จะมี
4 แบบ

You might also like