You are on page 1of 3

ทุนการศึกษาจากรุ่นพี่สาขาวิชาสังคมศึกษา

ส่วนที่ 1 : ประวัติส่วนตัว

ชื่อ-สกุล : นายมูฮัมมัด บือราเฮง


ชั้นปี : กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่4
ภูมิลำเนา : อาศัยอยู่ บ้านเลขที่ 462/16 หมู่ที่ 1 ตำบลรือเสาะออก
อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส
GPAX : 3.48
เรียงความหัวข้อเรื่อง แรงบันดาลใจของการเป็นครูของฉัน
การเป็นครูของผมเริ่มต้นขึ้นเมื่อเหลืออีกสองเดือน มหาวิทยาลัยจะปิดการรับสมัครรอบสุดท้าย ซึ่ง
ขณะนั้นผมยังลังเลว่าจะเรียนสายอาชีพหรือเรียนสายครู ในช่วงที่เพื่อนทุกคนต่างมีที่เรียนกันเกือบจะครบทั้ง
ห้อง ตัดภาพมาที่ตัวเองยังคงนึกภาพตัวเองในอนาคตไม่ออกหรือมืดแปดด้าน ในแต่ละคืนที่นั่งคิด นอนคิดว่า
จะทำอย่างไรดีกับอนาคตตัวเองก็ยังคงคิดไม่ออกสักที ในคืนหนึ่งขณะทีน่ อนคิดมาสักพักแล้ว กำลังจะปิดตาลง
ก็เหลือบไปเห็นแม่ ผู้ทำงานของโรงเรียนยังไม่เสร็จ ตอนนั้นจำได้ว่าเวลาเลยเที่ยงคืนมาแล้ว ทำไมแม่ยังไม่นอน
อีก ในใจก็ได้ครุ่นคิดว่าแม่ก็ทำวันพรุ่งนี้ก็ได้นิ ทำไมต้องไม่หลับไม่นอนเพื่องานอีก แต่ก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ จึง
ลุกไปหาแม่ที่กำลังเขียนชื่อ เลขต่าง ๆ บนกระดาษหลายแผ่นทีเดียว สายตาก็เหลือบไปเห็นบนหัวกระดาษ ซึ่ง
เป็นรายงาน ที่ชื่อว่า “โครงการอาหารกลางวัน” ก็เลยถามแม่ว่า นี่แม่ต้องทำเยอะขนาดนี้เลยหรอ แม่ก็ตอบว่า
ใช่ งานครูก็เป็นแบบนี้แหละ ด้วยความที่เป็นห่วงก็เลยไปหยิบน้ำกับขนมที่อยู่ในครัวมาวางไว้ข้างๆ แม่ แล้วก็
คุยเรื่องงานพร้อมกับกัดขนมกินไปด้วย
วันต่อหลายวันก็ยังคงเห็นแม่ทำงานจนดึกดื่น และก็ตื่นในเวลาหัวรุ่งเพื่อทำอาหารไปขายในตอนเช้าที่
ตลาดนัด ขายได้สักพักก็กลับมาอาบน้ำเพื่อไปสอนที่โรงเรียนต่อซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่ห่างจากบ้านประมาณ 2
กิโล ผมจะเห็นสภาพที่แม่เหน็ดเหนื่อยจากที่โรงเรียนแล้วกลับมานั่งลงบนเตียงแล้วก็หลับไป กลายเป็นกิจวัตร
ที่คนุ้ ชิน ในใจขณะนั้นก็คิดสงสารที่แม่ต้องทำงานหนักเพื่อลูกๆ ขนาดนี้ จึงเป็นสาเหตุที่ผมกลับมาคิดว่าจะทำ
ยังไงที่จะช่วยแม่ได้บ้าง ตอนนั้นมีความคิดโง่ ๆ ผุดขึ้นมาคือไม่อยากให้แม่ทำงานเหนื่อยแบบนี้แล้ว เราต้อง
สอบเป็นผู้อำนวยการให้ได้แล้วมาบรรจุที่โรงเรียนแม่ หลังจากนั้นก็แบ่งเบาภาระแม่ไม่ต้องให้แม่ทำงานหนัก
อีก จึงได้พูดคุยกับพี่สาวผู้ซึ่งเป็นที่ปรึกษาให้กับผมในทุกๆ เรื่อง ซึ่งพี่ก็แนะนำการหาข้อมูลที่จะเรียนต่อใน
ระดับมหาวิทยาลัย ผมก็หาข้อมูลเพื่อที่จะศึกษาต่อ ตอนนั้นอยู่ในช่วง TCAS รอบที่ 4 หรือรอบแอดมิชชั่น ให้
เลือก 4 ลำดับที่เราสนใจจะเรียน ผมจึงลงลำดับแรกเป็น คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (เคยมีความ
สนใจอยู่ในช่วงหนึ่ง แต่คิดว่าคะแนนคงไม่ถึงเลยลงอันดับหนึ่งเล่นๆไป) ลำดับต่อมาก็จะเป็น สาขาวิชาสังคม
ศึกษา มหาวิทยาลัยทักษิณ , สาขาวิชาสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และสาขาวิชาสังคมศึกษา
มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จ ตามลำดับ ในที่สุดก็ได้รับเลือกให้เข้าศึกษาในสาขาวิชาสังคมศึกษา
มหาวิทยาลัยทักษิณ ซึ่งก็ดีใจมากที่ได้เรียน และก็ไม่ได้ไกลจากบ้านเท่าไรนัก
เมื่อได้เข้ามาเรียนที่นี่รู้สึกได้รับประสบการณ์อะไรมากมายเหลือเกิน ตลอดระยะเวลาสามปีกับอีกหนึ่ง
เทอม รู้สึกว่าตัวเองเติบโตขึ้น มุมมอง ทัศนคติที่เปลี่ยนไป เห็นโลกกว้างมากขึ้น (ไม่ใช่พื้นที่บนพื้นผิวโลกนะ
ครับ ฮา) ทำให้มุมมองในตอนแรกที่อยากจะช่วยแม่ได้เพิ่มเป้าหมายที่หลากหลายขึ้น เช่น อยากที่จะเปลี่ยน
ระบบการศึกษาไทย (อันนี้คิดไว้เผื่อมีโอกาสได้เปลี่ยนให้ดีขึ้น) อยากที่จะให้เด็กในชนบทได้รับการศึกษาได้
ทั่วถึง (โรงเรียนที่แม่ผมสอนอยู่มีเด็กทั้งโรงเรียน 60 คน และอีกหลายคนในชุมชนไม่ได้มีโอกาสได้เรียน ยิ่ง
สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 เด็กหลุดจากระบบการศึกษาไปหลายคน) ในส่วนตรงนี้ผมคิดว่าหากได้บรรจุ
หรือได้มีโอกาสได้สอนนักเรียนก็อยากที่จะช่วยเด็กได้มีโอกาสเหมือนที่เราได้โอกาสจากผู้อื่นได้มาเรียนและได้
เป็นครูในวันนี้
แรงบันดาลใจในวันนั้นจากแม่ และแรงบันดาลใจตลอดช่วงเวลาที่เรียนที่นี่ได้หล่อหลอมตัวผมในวันนี้
และผมยังคงเชื่อมั่นว่า สิ่งที่ได้เรียนรู้จากรั้วแห่งนี้ ครอบครัวสังคมศึกษานี้ จะถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับ
เด็กในอนาคตให้มีประสิทธิภาพอย่างสูงสุดแน่นอน

You might also like