Professional Documents
Culture Documents
แบบฝึกหัดบทพากย์เอราวัณ
แบบฝึกหัดบทพากย์เอราวัณ
ชัน...............................เลขที
้ ่......................
๑
๒.๗ ในช้างเอราวัณ ดอกบัว ๑ กลีบมีเทพธิดา ๗ องค์
สรุ ปแล้วมีเทพธิดาทั้งหมด...........................................................................................องค์
๒.๘ ในช้างเอราวัณ เทพธิดา ๑ องค์มีนางบริ วาร ๗ คน
สรุ ปแล้วมีนางบริ วาร ทั้งหมด ……………....................................................………… คน
๓. อธิบายความหมายของคาต่อไปนี้
๓.๑ อมริ นทร์ หมายถึง.......................................................................................................................
๓.๒ โบกขรณี หมายถึง......................................................................................................................
๓.๓ เทพอัปสร หมายถึง....................................................................................................................
๓.๔ ดวงมาลย์ หมายถึง.....................................................................................................................
๓.๕ เวไชยันต์ หมายถึง................. ..................................................................................................
๔. “สามสิ บสามเศียรโสภา เศียรหนึ่งเจ็ดงา ดัง่ เพชรรัตน์รูจี” ใช้ภาพพจน์แบบใด........................................
๕. โวหารที่ใช้ในบทประพันธ์ขา้ งต้น มีลกั ษณะเด่นอย่างไร .......................................................... ..............
๖. อิทธิพลความเชื่อเกี่ยวกับความเชื่อของ “ช้างเอราวัณ” ส่ งผลต่อสังคมไทย คือ
.......................................................................................................................................................................
๏ บรรดาโยธาจัตุรงค์ เปลี่ยนแปลงกายคง
เทพไทเทวัญ
๏ ทัพหน้าอารักขไพรสัณฑ์ ทัพหลังสุ บรรณ
กินนรนาคนาคา
๏ ปี กซ้ายฤาษิตวิทยา คนธรรพ์ปีกขวา
ตั้งตามตารับทัพชัย
๏ ล้วนถืออาวุธเกรี ยงไกร โตมรศรชัย
พระขรรค์คทาถ้วนตน
๒
๏ ลอยฟ้ ามาในเวหน รี บเร่ งรี้ พล
มาถึงสมรภูมิชยั ฯ
๓
๑๘. อธิบายความหมายของคาศัพท์ต่อไปนี้
๑๘.๑ นิวาส หมายถึง.......................................................................................................................
๑๘.๒ เหมหงส์ หมายถึง.................................................................................................................
๑๘.๓ อโณทัย หมายถึง..................................................................................................................
๑๘.๔ บรรเทือง หมายถึง...............................................................................................................
๏ เสด็จทรงรถแก้วโกสี ย ์ ไพโรจน์รูจี
จะแข่งซึ่งแสงสุ ริยใ์ ส
๏ เทียมสิ นธพอาชาไนย เริ งร้องถวายชัย
ชันหูระเหิดหฤหรรษ์
๏ มาตลีสารถีเทวัญ กรกุมพระขรรค์
ขับรถมากลางจัตุรงค์
๏ เพลารอยพลอยประดับดุมวง กึกก้องกากง
กระทบกระทัง่ ธรณี
๏ มยุรฉัตรชุมสายพรายศรี พัดโบกพัชนี
กบี่ระบายโบกลม
- หนึ่งบทมี ๑๖ คา ๓ วรรค
วรรคละ ๖ - ๔ - ๖ คาตามลาดับ
- สัมผัสบังคับ ท้ายวรรคแรกกับวรรคที่สอง
สัมผัสระหว่างบท ส่ งจากคาสุ ดท้ายบทแรก
ไปยังคาท้ายวรรคแรกในบทต่อไป
๗
ตอนที่ ๓ พิจารณาโวหารภาพพจน์ จากคาประพันธ์ ที่กาหนดให้ แล้วเติมลงในช่ องว่าง
๏ ชักรถรี่ เรื่ อยเฉื่อยมา พุม่ บุษปมาลา …………………………………
กงรถไม่จดธรณิ นทร์
๘
๖. คาพากย์ยาวและคาพากย์ส้ นั แตกต่างกันอย่างไร
๑. บทพากย์หนังใหญ่เรี ยก คาพากย์ยาว บทพากย์โขนเรี ยก คาพากย์ส้ นั
๒. บทพากย์โขนเรี ยก คาพากย์ยาว บทพากย์หนังใหญ่เรี ยก คาพากย์ส้ นั
๓. คาพากย์ยาวแต่งตั้งแต่ตน้ จนจบเรื่ องรามเกียรติ์
๔. คาพากย์ส้ นั แต่งดาเนินเรื่ องติดต่อกันเป็ นตอนยาว
๗. “อินทรชิต” มีความหมายว่าอย่างไร
๑. ผูใ้ กล้ชิดพระอินทร์ ๒. ผูส้ ังหารพระอินทร์ ๓. ผูช้ นะพระอินทร์ ๔. ผูร้ ับใช้พระอินทร์
๘. บทพากย์เอราวัณ แต่งด้วยคาประพันธ์ชนิดใด
๑. กาพย์สุรางคนางค์ ๒. กาพย์ขบั ไม้ ๓. กาพย์ยานี ๔. กาพย์ฉบัง
๙. ช้างเอราวัณ มีลกั ษณะอย่างไร
๑. กายสี ดา ๓๓ เศียร ๒. กายสี ขาว ๓๓ เศียร ๓. กายสี เขียว ๓ เศียร ๔. กายสี ทอง ๓ เศียร
๑๐. จุดเด่นของบทพากย์เอราวัณอยูท่ ี่ใด
๑. บทพรรณนาต่างๆที่ไพเราะงดงาม ๒. การดาเนินเรื่ องสนุกสนาน
๓. บทเจรจาที่คมคาย ๔. แง่คิดที่เป็ นคติธรรมลึกซึ้ง
๑๑. สั ตภัณฑ์ บรรพตทั้งหลาย อ่อนเอียงเพียงปลาย
ประนอมประนมชมชัย
โวหารภาพพจน์ที่ปรากฏในคาประพันธ์ขา้ งต้นคือข้อใด
๑. อุปลักษณ์ ๒. บุคคลวัต ๓. อติพจน์ ๔. ปรพากย์
๑๒. คาศัพท์ในข้อใดไม่ ใช่ เครื่ องผูกช้าง
๑. ซองหาง ๒. กระวิน ๓. ชนัก ๔. ตระพอง
๑๓. ข้อใดมีคาที่มีความหมายเหมือนกันทุกคา
๑. ชลธาร ชลาลัย มหรรณพ ๒. นิลุบล มารศรี นงคราญ
๓. ปักษิน สกุณา มยุรี ๔. สิ งขร ภูผา อัมพร
๑๔. คาในข้อใดมีความหมายว่า “ดอกบัว”
๑. ผกา ๒. โกเมศ ๓. คีรี ๔. นครา
๑๕. ใครเป็ นผูเ้ ตือนพระลักษณ์ให้ระวังพระองค์เมื่อเห็นพระอินทร์แปลงกาย
๑. พระราม ๒. สุ ครี พ ๓. หนุมาน ๔. ช้างเอราวัณ
๑๖. คาที่พิมพ์ตวั หนาข้อใดไม่ได้หมายถึง “ช้ าง”
๑. หัสดินอินทรี คาบช้างก็วางไอยรา ๒. เร่ งพลโยธาพานรินทร์ เร่ งรัดหัสดิน
๓. ผ้าทิพย์ปกตระพอง ห้อยพูท่ ุกหูคชสาร ๔. เหมือนองค์อมริ นทร์ ทรงคชเอราวัณ
๙
๑๗. ข้อใดไม่มีคาที่มีความหมายว่า “พระอินทร์ ”
๑. เหมือนองค์อมริ นทร์ ๒. เสด็จทรงรถแก้วโกสี ย ์
๓. เหตุไฉนสหัสนัยน์เสด็จดล ๔. ให้องค์อนุชานารายณ์
๑๘. พระลักษณ์พา่ ยแพ้ต่ออินทรชิต เพราะเหตุใด
๑. อ่อนแอ ๒. หลงใหล ๓. โงเขลา ๔. เชื่องช้า
๑๙. ชักรถรี่เรื่อยเฉื่อยมา พุ่มบุษปมาลา
กงรถไม่ จดธรณินทร์
ข้อความที่ขีดเส้นใต้ หมายถึงข้อใด
๑. รถวิ่งเป็ นวงกลมทัว่ แผ่นดิน ๒. แผ่นดินขนาดใหญ่ไม่เท่าล้อรถ
๓. ล้อรถขนาดใหญ่เท่าแผ่นดิน ๔. ล้อรถไม่สัมผัสพื้นดิน
๒๐. เครื่องประดับแก้วเก้าโกมิน ซองหางกระวิน
สร้ อยสายชนักถักทอง
ข้อใดไม่ เกีย่ วข้ องกับคาที่ขีดเส้นใต้ในคาประพันธ์ขา้ งต้น
๑. เพชร ทับทิม มรกต ๒. บุษราคัม โกเมน นิล
๓. มุกดา เพทาย ไพฑูรย์ ๔. ไข่มุก ประพาฬ พลอย
๒๑. ศรเต็มไปทั่วราศรี ต้ ององค์อนิ ทรีย์
พระลักษณ์ กก็ ลิง้ กลางพล
“ศร” ในคาประพันธ์ขา้ งต้นคือข้อใด
๑. พรหมาสตร์ ๒. นาคบาศ ๓. พลายวาต ๔. จันทรานิตย์
๒๒. ศัพท์ในข้อใดหมายถึงกองทัพ ๔ เหล่า คือ เหล่าช้าง เหล่าม้า เหล่ารถ เหล่าพลเดินเท้า
๑. อารักขไพรสัณฑ์ ๒. สัตภัณฑ์บรรพต ๓. โยธาจัตุรงค์ ๔. โยธาพานริ นทร์
๒๓. การพรรณนาในข้อใดให้สัมผัสทางเสี ยง
๑. ลมหวนอวลกลิ่นมาลา เฟื่ องฟุ้ งวนา นิวาสแถวแนวดง
๒. ผึ้งภู่หมู่คณาเหมหงส์ ร่ อนราถาลง แทรกไซ้ในสร้อยสุ มาลี
๓. ปักษาตื่นตาขานขัน หาคูเ่ คียงประสาน สาเนียงเสนาะในไพร
๔. เดือนดาวดับเศร้าแสงใส สร่ างแสงอโณทัย ก็ผา่ นพยับเรื องรอง
๒๔. ล้วนถืออาวุธเกรียงไกร โตมรศรชัย
พระขรรค์คทาถ้ วนตน
คาประพันธ์ขา้ งต้นมีคาแสดงชื่ออาวุธกี่ชนิด
๑. ๓ คา ๒. ๔ คา ๓. ๕ คา ๔. ๖ คา
๑๐
๒๕. อินทรชิตเป็ นบุตรของทศกัณฐ์กบั ผูใ้ ด
๑. นางมณโฑ ๒. นางเบญจกาย ๓. นางสี ดา ๔. นางอัปสร
๒๖. การพรรณนาข้อใดให้ภาพเคลื่อนไหว
๑. กอหนึ่งเจ็ดดอกดวงมาลย์ ดอกหนึ่งแบ่งบาน มีกลีบได้เจ็ดกลีบผกา
๒. กลีบหนึ่งมีเทพธิดา เจ็ดองค์โสภา แน่งน้อยลาเพานงพาล
๓. นางหนึ่งย่อมมีบริ วาร อีกเจ็ดเยาวมาลย์ ล้วนรู ปนิรมิตมารยา
๔. จับระบาราร่ ายส่ ายหา ชาเลืองหางตา ทาทีดงั เทพอัปสร
๒๗. คาที่ขีดเส้นใต้ในข้อใดอ่านตามหลักการอ่านเดิม
๑. เมื่อนั้นจึงพระจักรี พอพระสุ ริยศ์ รี อรุ ณเรื องเมฆา
๒. ลมหวนอวลกลิ่นมาลา เฟื่ องฟุ้ งวนา นิวาสแถวแนวดง
๓. บ้างเปิ ดแกลแก้วแววไว โปรยทิพมาลัย ซ้องสาธุการบูชา
๔. ทัพหน้าอารักขไพรสัณฑ์ ทัพหลังสุ บรรณ กินนรนาคนาคา
๒๘. ข้อใดมีคาที่หมายถึง “ชาวสวรรค์พวกหนึ่ง มีความชานาญด้านการดนตรี และขับร้อง”
๑. ทาทีดงั เทพอัปสร ๒. คนธรรพ์ปีกขวา
๓. ทัพหลังสุ บรรณ ๔. ไปเข้าด้วยราพณ์อาธรรม์
๒๙. มยุรฉัตรชุมสายพรายศรี พัดโบกพัชนี
กบี่ระบายโบกลม
คาศัพท์ในข้อใดไม่ ใช่ เครื่ องสูง
๑. มยุรฉัตร ๒. ชุมสาย ๓. พัดโบก ๔. กบี่
๓๐. ลักษณะของช้างเอราวัณปรากฏอยูใ่ นวรรณคดีเรื่ องใด
๑. สุ ภาษิตพระร่ วง ๒. สมบัติอมริ นทร์คากลอน
๓. ไตรภูมิพระร่ วง ๔. มหาเวสสันดรชาดก
๑๑
เฉลย
ตอนที่ ๑,๓,๔
๑๒
ตอนที่ ๑ พิจารณาบทประพันธ์ แล้วตอบคาถามต่ อไปนีใ้ ห้ ถูกต้ อง
พิจารณาบทประพันธ์ แล้วตอบคาถามต่ อไปนีใ้ ห้ ถูกต้ อง
๏ อินทรชิตบิดเบือนกายิน เหมือนองค์อมริ นทร์
ทรงคชเอราวัณ
๏ ช้างนิมิตฤทธิแรงแข็งขัน เผือกผ่องผิวพรรณ
สี สังข์สะอาดโอฬาร์
๏ สามสิ บสามเศียรโสภา เศียรหนึ่งเจ็ดงา
ดัง่ เพชรรัตน์รูจี
๏ งาหนึ่งเจ็ดโบกขรณี สระหนึ่งย่อมมี
เจ็ดกออุบลบันดาล
๏ กอหนึ่งเจ็ดดอกดวงมาลย์ ดอกหนึ่งแบ่งบาน
มีกลีบได้เจ็ดกลีบผา
๏ กลีบหนึ่งมีเทพธิดา เจ็ดองค์โสภา
แน่งน้อยลาเพานงพาล
๏ นางหนึ่งย่อมมีบริ วาร อีกเจ็ดเยาวมาลย์
ล้วนรู ปนิรมิตมายา
๏ จับระบาราร่ ายส่ ายหา ชาเลืองหางตา
ทาทีดงั เทพอัปสร
๏ มีวิมานแก้วงามบวร ทุกเกศกุญชร
ดังเวไชยันต์อมริ นทร์
๑๓
๒.๘ ในช้างเอราวัณ เทพธิดา ๑ องค์มีนางบริ วาร ๗ คน
สรุ ปแล้วมีนางบริ วาร ทั้งหมด …………….๒๗,๑๗๖,๙๑๙………… คน
๓. อธิบายความหมายของคาต่อไปนี้
๓.๑ อมริ นทร์ หมายถึง....................พระอินทร์...............................................................................
๓.๒ โบกขรณี หมายถึง...................สระบัว...................................................................................
๓.๓ เทพอัปสร หมายถึง...................นางฟ้ า....................................................................................
๓.๔ ดวงมาลย์ หมายถึง..................ดอกไม้ (ดอกบัว).......................................................................
๓.๕ เวไชยันต์ หมายถึง................. ปราสาท วิมานของพระอินทร์...................................................
๔. “สามสิ บสามเศียรโสภา เศียรหนึ่งเจ็ดงา ดัง่ เพชรรัตน์รูจี” ใช้ภาพพจน์แบบใด........อุปมา......................
๕. สานวนภาษาโวหารที่ใช้ในบทประพันธ์ขา้ งต้น มีลกั ษณะเด่นอย่างไร ..........พรรณนาโวหาร ...............
๖. อิทธิพลความเชื่อเกี่ยวกับความเชื่อของ “ช้างเอราวัณ” ส่ งผลต่อสังคมไทย คือ
............ช้างทรงของพระอินทร์ เป็ นสัญลักษณ์ของการกระทาความดี ความอุดมสมบูรณ์...........................
๏ เสด็จทรงรถแก้วโกสี ย ์ ไพโรจน์รูจี
จะแข่งซึ่งแสงสุ ริยใ์ ส
๏ เทียมสิ นธพอาชาไนย เริ งร้องถวายชัย
ชันหูระเหิดหฤหรรษ์
๏ มาตลีสารถีเทวัญ กรกุมพระขรรค์
ขับรถมากลางจัตุรงค์
๏ เพลารอยพลอยประดับดุมวง กึกก้องกากง
กระทบกระทัง่ ธรณี
๏ มยุรฉัตรชุมสายพรายศรี พัดโบกพัชนี
กบี่ระบายโบกลม
๑๖
๒๔. “อึงอินทเภรี ตีระงม” คาว่า อินทเภรี หมายถึง......................กลอง ที่ใช้บอกสัญญาณออกรบ..................
๒๕. จากบทประพันธ์ขา้ งต้นในบทที่ ๑ และ ๒ จินตภาพที่ชดั เจนที่สุดคือจินตภาพทางด้าน…....เสี ยง..........
๒๖. บทประพันธ์ใด มีการใช้โวหารภาพพจน์ประเภท “อติพจน์” กล่าวเกินจริ ง ..............
.เสี ยงพลโห่ร้องเอาชัย เลื่อนลัน่ สนัน่ ใน พิภพเพียงทาลาย.............................................................................................
๒๗. บทประพันธ์ใดมีการใช้โวหารภาพพจน์ประเภท “บุคลาธิษฐาน หรื อ บุคคลวัต” การกาหนดให้สิ่งที่ไม่ใช่คน
แสดงอาการเหมือนคน…. สัตภัณฑ์บรรพตทั้งหลาย อ่อนเอียงเพียงปลาย ประนอมประนมชมชัย.................
๒๘. “ลูกครุ ฑพลัดตกฉิมพลี หัสดินอินทรี คาบช้างก็วางไอยรา” จากบทประพันธ์น้ ี
คาว่า “ฉิมพลี” หมายถึง...............................ต้นงิ้วเชิงเขาพระสุ เมรุ ....................................................
คาว่า “หัสดินอินทรี ” หมายถึง.......................นกขนาดใหญ่ในป่ าหิมพานต์.......................................
๏ อากาศบดบังสุ ริยศ์ รี เทวัญจันทรี
ทุกชั้นอานวยอวยชัย
๏ บ้างเปิ ดแกลแก้วแววไว โปรยทิพมาลัย
ซ้องสาธุการบูชา
๏ ชักรถรี่ เรื่ อยเฉื่อยมา พุม่ บุษปมาลา
กงรถไม่จดธรณิ นทร์
๏ เร่ งพลโยธาพานริ นทร์ เร่ งรัดหัสดิน
วานรให้เร่ งรี บมา
๑๗
๏ ทรงเครื่ องศัสตราแย่งยล ฤๅจะกลับเป็ นกล
ไปเข้าด้วยราพณ์อาธรรมม์
๏ พระผูเ้ รื องฤทธิ์แข็งขัน คอยดูสาคัญ
อย่าไว้พระทัยไพรี
๏ เมื่อนั้นอินทรชิตยักษี ตรัสสัง่ เสนี
ให้จบั ระบาราถวาย
๏ ให้องค์อนุชานารายณ์ เคลิบเคลิ้มวรกาย
จะแผลงซึ่งศัสตราศรพล
๏ อินทรชิตสถิตเหนือเอรา วัณทอดทัศนา
เห็นองค์พระลักษณ์ฤทธิรงค์
๏ เคลิบเคลิม้ หฤทัยใหลหลง จึงจับศรทรง
พรหมาสตร์อนั เรื องเดชา
๏ ทูนเหนือเศียรเกล้ายักษา หมายองค์พระอนุชา
ก็แผลงสาแดงฤทธิรณ
๏ อากาศก้องโกลาหล โลกลัน่ อึงอล
อานาจสะท้านธรณี
๏ ศรเต็มไปทัว่ ราศี ต้ององค์อินทรี ย ์
พระลักษณ์กก็ ลิ้งกลางพล
๑๘
ตอนที่ ๓ พิจารณาโวหารภาพพจน์ จากคาประพันธ์ ที่กาหนดให้ แล้วเติมลงในช่ องว่าง
๏ ชักรถรี่ เรื่ อยเฉื่อยมา พุม่ บุษปมาลา …………………………………
อติพจน์
กงรถไม่จดธรณิ นทร์
๑๙
๖. คาพากย์ยาวและคาพากย์ส้ นั แตกต่างกันอย่างไร
๑. บทพากย์หนังใหญ่เรี ยก คาพากย์ยาว บทพากย์โขนเรี ยก คาพากย์ส้ นั
๒. บทพากย์โขนเรี ยก คาพากย์ยาว บทพากย์หนังใหญ่เรี ยก คาพากย์ส้ นั
๓. คาพากย์ยาวแต่งตั้งแต่ตน้ จนจบเรื่ องรามเกียรติ์
๔. คาพากย์ส้ นั แต่งดาเนินเรื่ องติดต่อกันเป็ นตอนยาว
๗. “อินทรชิต” มีความหมายว่าอย่างไร
๑. ผูใ้ กล้ชิดพระอินทร์ ๒. ผูส้ ังหารพระอินทร์ ๓. ผูช้ นะพระอินทร์ ๔. ผูร้ ับใช้พระอินทร์
๘. บทพากย์เอราวัณ แต่งด้วยคาประพันธ์ชนิดใด
๑. กาพย์สุรางคนางค์ ๒. กาพย์ขบั ไม้ ๓. กาพย์ยานี ๔. กาพย์ฉบัง
๙. ช้างเอราวัณ มีลกั ษณะอย่างไร
๑. กายสี ดา ๓๓ เศียร ๒. กายสี ขาว ๓๓ เศียร ๓. กายสี เขียว ๓ เศียร ๔. กายสี ทอง ๓ เศียร
๑๐. จุดเด่นของบทพากย์เอราวัณอยูท่ ี่ใด
๑. บทพรรณนาต่างๆที่ไพเราะงดงาม ๒. การดาเนินเรื่ องสนุกสนาน
๓. บทเจรจาที่คมคาย ๔. แง่คิดที่เป็ นคติธรรมลึกซึ้ง
๑๑. สั ตภัณฑ์ บรรพตทั้งหลาย อ่อนเอียงเพียงปลาย
ประนอมประนมชมชัย
โวหารภาพพจน์ที่ปรากฏในคาประพันธ์ขา้ งต้นคือข้อใด
๑. อุปลักษณ์ ๒. บุคคลวัต ๓. อติพจน์ ๔. ปรพากย์
๑๒. คาศัพท์ในข้อใดไม่ ใช่ เครื่ องผูกช้าง
๑. ซองหาง ๒. กระวิน ๓. ชนัก ๔. ตระพอง
๑๓. ข้อใดมีคาที่มีความหมายเหมือนกันทุกคา
๑. ชลธาร ชลาลัย มหรรณพ ๒. นิลุบล มารศรี นงคราญ
๓. ปักษิน สกุณา มยุรี ๔. สิ งขร ภูผา อัมพร
๑๔. คาในข้อใดมีความหมายว่า “ดอกบัว”
๑. ผกา ๒. โกเมศ ๓. คีรี ๔. นครา
๑๕. ใครเป็ นผูเ้ ตือนพระลักษณ์ให้ระวังพระองค์เมื่อเห็นพระอินทร์แปลงกาย
๑. พระราม ๒. สุ ครี พ ๓. หนุมาน ๔. ช้างเอราวัณ
๑๖. คาที่พิมพ์ตวั หนาข้อใดไม่ได้หมายถึง “ช้ าง”
๑. หัสดินอินทรี คาบช้างก็วางไอยรา ๒. เร่ งพลโยธาพานรินทร์ เร่ งรัดหัสดิน
๓. ผ้าทิพย์ปกตระพอง ห้อยพูท่ ุกหูคชสาร ๔. เหมือนองค์อมริ นทร์ ทรงคชเอราวัณ
๒๐
๑๗. ข้อใดไม่มีคาที่มีความหมายว่า “พระอินทร์ ”
๑. เหมือนองค์อมริ นทร์ ๒. เสด็จทรงรถแก้วโกสี ย ์
๓. เหตุไฉนสหัสนัยน์เสด็จดล ๔. ให้องค์อนุชานารายณ์
๑๘. พระลักษณ์พา่ ยแพ้ต่ออินทรชิต เพราะเหตุใด
๑. อ่อนแอ ๒. หลงใหล ๓. โงเขลา ๔. เชื่องช้า
๑๙. ชักรถรี่เรื่อยเฉื่อยมา พุ่มบุษปมาลา
กงรถไม่ จดธรณินทร์
ข้อความที่ขีดเส้นใต้ หมายถึงข้อใด
๑. รถวิ่งเป็ นวงกลมทัว่ แผ่นดิน ๒. แผ่นดินขนาดใหญ่ไม่เท่าล้อรถ
๓. ล้อรถขนาดใหญ่เท่าแผ่นดิน ๔. ล้อรถไม่สัมผัสพื้นดิน
๒๐. เครื่องประดับแก้วเก้าโกมิน ซองหางกระวิน
สร้ อยสายชนักถักทอง
ข้อใดไม่ เกีย่ วข้ องกับคาที่ขีดเส้นใต้ในคาประพันธ์ขา้ งต้น
๑. เพชร ทับทิม มรกต ๒. บุษราคัม โกเมน นิล
๓. มุกดา เพทาย ไพฑูรย์ ๔. ไข่มุก ประพาฬ พลอย
๒๑. ศรเต็มไปทั่วราศรี ต้ ององค์อนิ ทรีย์
พระลักษณ์ กก็ ลิง้ กลางพล
“ศร” ในคาประพันธ์ขา้ งต้นคือข้อใด
๑. พรหมาสตร์ ๒. นาคบาศ ๓. พลายวาต ๔. จันทรานิตย์
๒๒. ศัพท์ในข้อใดหมายถึงกองทัพ ๔ เหล่า คือ เหล่าช้าง เหล่าม้า เหล่ารถ เหล่าพลเดินเท้า
๑. อารักขไพรสัณฑ์ ๒. สัตภัณฑ์บรรพต ๓. โยธาจัตุรงค์ ๔. โยธาพานริ นทร์
๒๓. การพรรณนาในข้อใดให้สัมผัสทางเสี ยง
๑. ลมหวนอวลกลิ่นมาลา เฟื่ องฟุ้ งวนา นิวาสแถวแนวดง
๒. ผึ้งภู่หมู่คณาเหมหงส์ ร่ อนราถาลง แทรกไซ้ในสร้อยสุ มาลี
๓. ปักษาตื่นตาขานขัน หาคูเ่ คียงประสาน สาเนียงเสนาะในไพร
๔. เดือนดาวดับเศร้าแสงใส สร่ างแสงอโณทัย ก็ผา่ นพยับเรื องรอง
๒๔. ล้วนถืออาวุธเกรียงไกร โตมรศรชัย
พระขรรค์คทาถ้ วนตน
คาประพันธ์ขา้ งต้นมีคาแสดงชื่ออาวุธกี่ชนิด
๑. ๓ คา ๒. ๔ คา ๓. ๕ คา ๔. ๖ คา
๒๑
๒๕. อินทรชิตเป็ นบุตรของทศกัณฐ์กบั ผูใ้ ด
๑. นางมณโฑ ๒. นางเบญจกาย ๓. นางสี ดา ๔. นางอัปสร
๒๖. การพรรณนาข้อใดให้ภาพเคลื่อนไหว
๑. กอหนึ่งเจ็ดดอกดวงมาลย์ ดอกหนึ่งแบ่งบาน มีกลีบได้เจ็ดกลีบผกา
๒. กลีบหนึ่งมีเทพธิดา เจ็ดองค์โสภา แน่งน้อยลาเพานงพาล
๓. นางหนึ่งย่อมมีบริ วาร อีกเจ็ดเยาวมาลย์ ล้วนรู ปนิรมิตมารยา
๔. จับระบาราร่ ายส่ ายหา ชาเลืองหางตา ทาทีดงั เทพอัปสร
๒๗. คาที่ขีดเส้นใต้ในข้อใดอ่านตามหลักการอ่านเดิม
๑. เมื่อนั้นจึงพระจักรี พอพระสุ ริยศ์ รี อรุ ณเรื องเมฆา
๒. ลมหวนอวลกลิ่นมาลา เฟื่ องฟุ้ งวนา นิวาสแถวแนวดง
๓. บ้างเปิ ดแกลแก้วแววไว โปรยทิพมาลัย ซ้องสาธุการบูชา
๔. ทัพหน้าอารักขไพรสัณฑ์ ทัพหลังสุ บรรณ กินนรนาคนาคา
๒๘. ข้อใดมีคาที่หมายถึง “ชาวสวรรค์พวกหนึ่ง มีความชานาญด้านการดนตรี และขับร้อง”
๑. ทาทีดงั เทพอัปสร ๒. คนธรรพ์ปีกขวา
๓. ทัพหลังสุ บรรณ ๔. ไปเข้าด้วยราพณ์อาธรรม์
๒๙. มยุรฉัตรชุมสายพรายศรี พัดโบกพัชนี
กบี่ระบายโบกลม
คาศัพท์ในข้อใดไม่ ใช่ เครื่ องสูง
๑. มยุรฉัตร ๒. ชุมสาย ๓. พัดโบก ๔. กบี่
๓๐. ลักษณะของช้างเอราวัณปรากฏอยูใ่ นวรรณคดีเรื่ องใด
๑. สุ ภาษิตพระร่ วง ๒. สมบัติอมริ นทร์คากลอน
๓. ไตรภูมิพระร่ วง ๔. มหาเวสสันดรชาดก
๒๒