Professional Documents
Culture Documents
งคม A-Level
ครงั้ ท ี่ 24 (3 ตุลาคม 2565)
#24
Phase 2 : สรุปเ อหาแบบ Intensive
สาระศาสนา
ตอน 1 : ความรู้เ องต้นเ ยวกับศาสนา + ศาสนาพุทธ
คอร์สเรียนออนไลน์ สังคม+ไทย Jax สอนสังคมและภาษาไทย ✘ห้ามน เอกสารออกไปเผยแพร่ทุกรูปแบบ
สั
ำ
ที่
นื้
บื้
กี่
หัวข้อสาระ ศาสนา
หัวข้ อหลัก หัวข้ อย่ อย
. ความหมายของศาสนา
. มูลเหตุของการเกิดศาสนา
. องค์ประกอบของศาสนา
. ความรู้ เ องต้ นเ ยวกับ
. ประเภทของศาสนา
ศาสนา . ความส คัญของศาสนา
. ประโยชน์ของศาสนา
. ข้ อแตกต่างของศาสนากับลัทธิ
. ความรู้เ องต้ นเ ยวกับศาสนาพุทธ
. นิกาย
. พุทธประวัติ
. คัมภีร์
. การสังคายนาพระไตรปิ ฎก
. ชาดก
. ศาสนาพุทธ
. พุทธศาสนสุภาษิต
. ชาวพุทธตัวอย่าง พุทธสาวก พุทธสาวิกา
. วันส คัญทางพระพุทธศาสนา
. หลักธรรมส คัญ ควรรู้
. ศาสนพิธี
. ประเพณีส คัญของชาวพุทธไทย
. ความรู้เ องต้ นเ ยวกับศาสนาคริ สต์
. ประวัตศิ าสนา
. ประวัตพิ ระเยซู
. ศาสนาคริสต์ . คัมภีร์
. นิกาย
. พิธีกรรม (ศีล)
. หลักธรรมส คัญ
ำ
บื้
บื้
ำ
บื้
ำ
กี่
กี่
ที่
กี่
บื้
บื้
บื้
บื้
บื้
บื้
ำ
ำ
ำ
ำ
ำ
ำ
กี่
กี่
กี่
กี่
กี่
กี่
ข้ อสอบปี ล่ าสุด
. พระพุทธเจ้ าทรงเน้ นเ องกฎแห่ งกรรม ทรงพิจารณา งสอนว่ า คนทุกคนต้ องได้ รับผลแห่ งกรรม ตน
กระท ไว้ จะปฏิเสธหรื อหลีกหนีไม่ รับผลแห่ งกรรม นไม่ ได้
จากข้ อความข้ างต้น แสดงให้เห็นว่ าพระพุทธเจ้าทรงแสดงหลักการลักษณะประชาธิปไตย สอดคล้ องกับเ องใด
. ทรงยึดหลักการธรรมาธิปไตย
. ทรงถือหลักสิทธิ และเสรี ภาพ
. ทรงเน้ นหลักการความเสมอภาค
. ทรงรับฟั งความคิดเห็น
. ทรงบัญญัตกิ ารลงมติ เป็ นเอกฉันท์
. “การคิดโดยไม่ ร้ ู นสูญเปล่ า การรู้ โดยไม่ คดิ ก็หลายเป็ นคนเอาตัวไม่ รอด คนเราจึงต้ องเรี ยนรู้ ฝึ กทักษะ
การคิด เ อคิดได้ คิดดี ก็พดู ดี และท ดี เ อคิดเป็ นแล้ ว ปฏิบตั ดิ ไี ม่ เป็ น การคิด นก็ไม่ เกิดผล
เพราะขาดคุณธรรมในจิตใจ” จากค กล่ าวข้ างต้ นสอดคล้ องตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาในข้ อใด
. หลักการโยนิโสมนสิการ
. หลักอปริ หานิยธรรม
. หลักสารี ยธรรม
. หลักปฏิจจสมุปบาท
. หลักการจิตตนิยาม
คอร์สเรียนออนไลน์ สังคม+ไทย Jax สอนสังคมและภาษาไทย ✘ห้ามน เอกสารออกไปเผยแพร่ทุกรูปแบบ
1
2
3
4
ำ
ำ
1
2
3
4
5
1
2
3
4
5
1
2
3
4
5
1
2
3
4
5
มื่
ำ
ลี้
ตั้
ำ
ที่
นั้
ำ
รื่
รื่
6
ที่
7
ที่
พื่
ำ
พื่
ำ
ำ
พื่
ำ
อื่
ที่
มื่
ำ
ที่
นั้
สั่
ม่
ำ
ำ
ำ
ำ
ำ
ที่
ำ
นั้
ที่
พื่
ำ
ที่
ำ
ที่
รื่
5
. “จรถ ภิกขฺ เว จาริกํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย”
พุทธศาสนสุภาษิตดังกล่ าวตรงกับการประพฤติตนของบุคคลใดต่ อไป มาก สุด
. เด็กชาย ก บริ จาคเงิน ท งานได้ ให้ กบั องค์กรการกุศล
. เด็กหญิง ข เป็ นอาสาสมัครช่วยเหลือผู้สงู อายุในชุมชน
. เด็กชาย ค นมาท อาหารให้ คณ ุ ตาใส่บาตรทุกเช้ า
. เด็กหญิง ง งสมาธิทกุ วันพระ
. เด็กหญิง จ อ่านหนังสือธรรมะทุกวันส คัญทางพระพุทธศาสนา
5
ตื่
นั่
ำ
ลื่
มั่
ำ
นั้
ขั้
ำ
ที่
พื่
ำ
ำ
ำ
7
อื่
ที่
ำ
5
8
ยิ่
ำ
ทั้
3
ที่
4
พื่
พื่
4
รื่
นี้
รั้
ที่
ำ
5
พื่
ตื่
ที่
พื่
ำ
ม่
ำ
ที่
นั้
นี้
พื่
ำ
ที่
มั่
ำ
นี้
ำ
ที่
ำ
มาของศาสนา
. ความไม่ ร้ ู ในปรากฏการณ์ธรรมชาติวา่ คืออะไร เกิดจากอะไร
. ความกลัว กลัวเพราะไม่ร้ ู
. ความศรั ทธา เคารพต่อธรรมชาติ เช่น การกราบไหว้ พระอาทิตย์
. ความมีปัญญา เ อธรรมชาติถกู ให้ ค ตอบด้ วยวิทยาศาสตร์ ศาสนาจึงด รงอยูด่ ้ วยสถานะเป็ น
เค องมือยึดเห ยวทางจิตใจ ไม่ได้ อธิบายธรรมชาติโลกอย่างแต่ก่อน
ประเภทของศาสนา
แบ่ งตามความเ อเ องพระเจ้ า
. เทวนิยม : ศาสนา เ อว่าพระเจ้ าสร้ างโลกและสรรพ ง
หากเ อในพระเจ้ าองค์เดียวจัดเป็ นศาสนาประเภท เอกเทวนิยม (เช่น คริ สต์ และ อิสลาม)
แต่ถ้าเ อในพระเจ้ าหลายองค์ จัดเป็ นประเภท พหุเทวนิยม (เช่น พรามหณ์ - ฮินดู)
. อเทวนิยม : ศาสนา ไม่เ อว่าพระเจ้ าสร้ างโลกหรื อสรรพ ง แต่เ อว่าทุก งเกิดจากธรรมชาติ
แต่อาจเ อว่าพระเจ้ ามีอยูจ่ ริ ง เช่น พุทธศาสนา
องค์ ประกอบของศาสนา
. ศาสดา : ผู้ก่อ ง หรื อประกาศศาสนา
. หลักค สอน หรื อ คัมภีร์ มีการจัดรวบรวมไว้ เป็ นหมวดหมู่ โดยมีจดุ มุง่ หมายร่วมกันในทุกศาสนาคือ
“ งสอนให้ คนเป็ นคนดี” จุดมุง่ หมายส คัญอยู่ “ความดีงาม”
. ศาสนพิธี : การประกอบพิธีตา่ งๆ เ อให้ มีบรรยากาศของความศัก สิท เรี ยกความศรัทธา
. นักบวช : ในบางศาสนาอาจไม่มีนกั บวช เช่น อิสลาม และศาสนาคริ สต์นิกายโปรเตสแตนท์
. ศาสนสถาน : วัด โบสถ์ มัสยิด เทวาลัย
. ศาสนิกชน : ผู้นบั ถือ
สั่
รื่
1
ชื่
ำ
รื่
ชั่
ชื่
ชื่
ถิ่
ชื่
ตั้
นี่
มื่
ที่
ที่
รื่
ชื่
ชื่
นึ่
ที่
บื้
ชื่
ที่
นี่
พื่
ำ
ำ
พื้
กี่
ที่
ที่
สิ่
สิ่
กี่
ชื่
ำ
สิ่
ญี่
7
สัญลักษณ์
เอกลักษณ์เฉพาะของศาสนา
ศาสนาพุทธ VS พราหมณ์
เหมือน ต่ าง
เ อเ องการเวียนว่ายตายเกิด พุทธเ อเ อง อนัตตา (ความไม่มีตวั ตน)
พราหมณ์เ อเ องอัตตา (ความมีตวั ตน)
ศาสนาคริสต์ VS อิสลาม
เหมือน ต่ าง
. เป็ นเทวนิยม . เน้ นว่าพระเจ้ ามีภาวะเดียว
. เ อเ องวันพิพากษาโลก . พระเยซูเป็ นศาสนาทูตของพระอัลเลาะห์
. ชีวิตเกิดค งเดียว
ศาสนาคริสต์ VS พราหมณ์
เหมือน
พระเจ้ าใน ร่าง
คริ สต์เ อเ อง “ตรี เอกานุภาพ” / พราหมณ์เ อเ อง “พระตรี มรู ติ
1
2
3
3
ชื่
ชื่
รื่
ชื่
รื่
ำ
➡︎
➡︎
➡︎
➡︎
รื่
รั้
1
ชื่
1
2
ที่
รื่
ชื่
ำ
สี้
รื่
ชื่
รื่
นึ่
เ อง พระพุทธศาสนา
เป็ นศาสนาประเภท : อเทวนิยม
คัมภีร์ : พระไตรปิ ฎก
) พระวินัยปิ ฎก : ระเบียบวินยั ศีล สิกขาบท ของพระภิกษุสามเณร
พระภิกษุ ถือศีล ข้ อ
พระภิกษุณี ถือศีล ข้ อ
สามเณร ถือศีล ข้ อ
แม่ชี ถือศีล ข้ อ
) พระสุตตันตปิ ฎก (พระสูตร) : เ องราวประกอบธรรมะ
) พระอภิธรรมปิ ฎก : หลักธรรมล้ วน ๆ ไม่พดู ถึงคน สถาน และเวลา
➡︎
➡︎
➡︎
➡︎
ตั้
อื่
รื่
ที่
8
2
นี้
1
2
0
3
7
1
1
ทั้
ญี่
ขึ้
ขึ้
ที่
พื้
ำ
อื่
พิ่
ที่
ขึ้
9
กระบวนการแสวงหาความจริงสูงสุด
เ อน ไปสูก่ ารหลุดพ้ น ตรัสรู้เป็ นองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้ าหลังจากออกผนวชด้ วยพระองค์เอง
ณ ริ ม งแม่ อโนมา พระพุทธเจ้ าได้ ทรงท งต่างๆ เรี ยงตามล ดับดัง
) ศึกษากับอาจารย์ (ฝึ กปฏิบตั โิ ยคะ) อาฬารดาบส กาลามโคตร กับ อุทกดาบส รามสูตร
โดยได้ ส เร็จฌานสมาบัติ จากอาฬารดาบส และได้ ฌานสมบัติ น จากอุทกดาบส
) บ เพ็ญตบะ คือ การทรมานตนเองให้ ล บาก
) ทรงบ เพ็ญทุกรกิริยา ณ ต บลอุรุเวลาเสนานิคม แคว้ นมคธ
) ทรงบ เพ็ญเพียรทางจิต (เดินทางสายกลาง คือ มัชฌิมาปฏิปทา)
ปฐมเทศนา(วันอาสาฬหบูชา)
พระพุทธเจ้ าทรงแสดงธรรมโปรดปั ญจวัคคีย์ ง ในหัวข้ อธรรม อ “ธัมมจักกัปปวัตนสูตร”
งแบ่งออกเป็ น ตอน คือ
. ทางสุดโต่ง ทาง ท ให้ ไม่บรรลุธรรม ได้ แก่
กามสุขลั ลิกานุโยค หมายถึง การหมกมุน่ อยูใ่ นกาม
อัตตกิลมถานุโยค หมายถึง การทรมานตนให้ ล บากโดยไร้ ประโยชน์
. ทางสายกลาง(มัชฌิมาปฏิปทา) พระพุทธเจ้ าทรงตรัสรู้ อันได้ แก่ มรรค
. อริ ยสัจ
. ทรงสรุป และ อัญญาโกณฑัญญะบรรลุโสดาบัน ทูลขอบวชเป็ นพระสงฆ์รูปแรกของศาสนาพุทธ
วันส คัญทางพุทธศาสนา
. วันวิสาขบูชา ( น เดือน )
เป็ นวัน พระพุทธเจ้ าประสูติ ตรัสรู้ ปริ นิพพาน จึงเรี ยกว่า “วันพระพุทธ”
. วันอาสาฬหบูชา ( น เดือน )
แสดงปฐมเทศนา “ธัมมจักกัปปวัตนสูตร” / เกิดพระสงฆ์องค์แรก
. วันมาฆบูชา ( น เดือน )
เป็ นวันจาตุรงคสันนิบาต พระพุทธเจ้ าแสดง “โอวาทปาติโมกข์” /โอวาท
4
ที่
2
ำ
ขึ้
ขึ้
ที่
ขึ้
8
1
1
ขึ้
5
ค่
5
ำ
1
1
1
ำ
ค่
ค่
5
ที่
1
ำ
ค่
1
ำ
5
ค่
ำ
ค่
7
ำ
ค่
ำ
ำ
3
ำ
6
3
ที่
6
ำ
8
สิ่
1
1
8
1
ทั้
ำ
ทั้
น้
ำ
ำ
ชื่
3
นี้
ขั้
ที่
8
8
10
หลักธรรม
. อริยสัจ = ความจริ งอันประเสริ ฐ ประการ ธรรม น ไปสูก่ ารพ้ นทุกข์ ใช้ แก้ ไขปั ญหาในชีวิต
. ทุกข์ ผล สภาวะทนได้ ยาก ความไม่ สบายกายไม่ สบายใจ
(ธรรม ควรรู้ ) ได้ แก่ ขันธ์ (นามรูป จิต เจตสิก), โลกธรรม , ธรรมนิยาม(ไตรลักษณ์),
) สมาธิสกิ ขา / จิตสิกขา (อธิจิตตสิกขา) = การอบรมจิต ให้ สงบเรี ยบร้ อย เป็ นปกติ ได้ แก่
สัมมาสมาธิ : จิต ง นชอบ จิตสงบไม่ฟงุ้ ซ่าน
สัมมาสติ : ระลึกรู้ตวั ชอบ ไม่หลงใหล
สัมมาวายามะ : เพียรระวังตนชอบ ไม่ให้ ท ความ วและห นรักษาความดีให้ ดี ง น
7
ลี้
ตั้
4
มั่
ชื่
3
5
ำ
5
8
สิ่
3
ำ
4
4
6
3
4
สิ่
5
ำ
5
ำ
ชั่
6
3
สิ่
ำ
ที่
ชั่
ที่
1
4
ำ
มั่
ำ
0
นี้
ชั่
8
ชื่
5
3
4
ขั้
ที่
1
2
9
ยิ่
5
5
ขึ้
3
8
11
. ขันธ์ = องค์ประกอบแห่งชีวิตมนุษย์ ประการ ( รูป นาม)
*การเกิด นของขันธ์ เป็ นการเ มต้ นของทุกข์ในชีวิต
) รู ป (รู ปธรรม) : รู ปร่ าง ร่างกายของมนุษย์อนั ประกอบไปด้ วยธาตุ คือ
ดิน (เ อหนังมังสา กระดูกของร่างกายเรา)
(เลือด หนอง ลาย ในร่างกาย)
ลม (แก๊ สในร่างกาย ในกระเพาะอาหาร)
ไฟ (อุณหภูมิความร้ อนของร่างกาย)
) เวทนา (นามธรรม) : ความรู้ สกึ มี ประเภท คือ สุข ทุกข์ เฉยๆ
) สัญญา (นามธรรม) : ความจ ได้ หมายรู้ ก หนดรู้ งต่าง ๆ ได้ โดยไม่หลงลืม
) สังขาร (นามธรรม) : ความคิด จะปรุงแต่งจิตให้ กระท งต่าง ๆ
) วิญญาณ (นามธรรม) : ความรั บรู้ ผ่ านทางสัมผัสต่ างๆ ง (อายตนะ คือ ตา หู จมูก น กาย ใจ)
5
น้
ำ
ำ
8
ขึ้
สิ่
ที่
สิ่
สิ่
น้
ำ
ขึ้
สิ่
ที่
ที่
ที่
ที่
ที่
ที่
ที่
กี่
กี่
กี่
ขึ้
ำ
ขึ้
5
ำ
ทั้
ที่
ที่
สื่
3
8
5
สิ่
ำ
ริ่
ซึ่
ำ
1
2
สื่
สิ่
สิ่
4
ำ
สิ่
2
สิ่
ลี่
ทั้
6
ทั้
สิ่
ทั้
6
กี่
กี่
ขึ้
สิ่
อื่
ที่
ทั้
ลิ้
12
. ภาวิต = ภาวะ พัฒนาแล้ ว เป็ นผลของภาวนา
. ภาวิตกาย : พัฒนาการด้ านร่างกาย มีความเข้ มแข็ง ปราศจากโรคภัย
. ภาวิตศีล : พัฒนาการด้ านความประพฤติ อยูใ่ นเบญจศีล และระเบียบวินยั ของสังคม
. ภาวิตจิต : พัฒนาการด้ านจิต จิตสงบ มีสมาธิ จิตเข้ มแข็ง เบิกบาน เพียบพร้ อมด้ วยคุณธรรม
. ภาวิตปั ญญา : พัฒนาการด้ านปั ญญา รู้ เข้ าใจ ง งหลายตามความเป็ นจริ ง สามารถใช้ ความรู้แก้ ปัญหา
. วิมุตติ = หลุดพ้ นจากกิเลสสาเหตุแห่งทุกข์ ผู้ปฏิบตั ธิ รรม ได้ วิมตุ ติ จะมีความสุข เรี ยกว่า “วิมตุ ติสขุ ”
. วิกขัมภนวิมุตติ : หลุดพ้ นด้ วยข่มไว้ คือข่มกิเลสและอกุศลกรรมต่างๆได้ วคราวด้ วยสติสมั ปชัญญะ
. ตทังควิมุตติ : หลุดพ้ นด้ วยองค์ นๆ คือ หลุดพ้ นจากกิเลสด้ วยธรรม เป็ นคูป่ รับหรื อตรงกันข้ าม
เช่น ละการฆ่าสัตว์ด้วยเมตตา
. สมุจเฉทวิมุตติ : หลุดพ้ นด้ วยตัดขาด คือ หลุดพ้ นจากกิเลสโดยใช้ มรรคญาณ คือ โสตาปั ตติ
มรรค สกทาคามิมรรค อนาคามิมรรค และอรหัตตมรรค เป็ นเค องตัด
. ปฏิปัสสัทธิวมิ ุตติ : หลุดพ้ นด้ วยสบงระงับ เป็ นความหลุดพ้ น งยืน เกิดจากสมุจเฉทวิมตุ ติหมด งกิเลส
. นิสสรณวิมุตติ : หลุดพ้ นด้ วยสลัดออกได้ เป็ นสภาวะ จิตหลุดพ้ นออกไปจากกิเลส งปวงจิตเป็ นสุข
ำ
ลี้
ทั่
ตั้
นั้
มั่
ชื่
ที่
สิ่
8
4
ำ
ทั้
ที่
สิ่
สิ่
นึ่
ที่
ที่
พื่
ที่
ยั่
ชั่
ที่
ำ
สิ่
ที่
มั่
ที่
ำ
พื่
4
กี่
รื่
ชั่
ทั้
สิ่
ที่
ชั่
สิ่
พื่
ำ
นึ่
ซึ่
ชั่
13
. สติปัฏฐาน = ธรรมอันเป็ น งแห่งสติ ใช้ สติพจิ ารณา ง งหลาย เป็ นทางสายเอก น ไปสู่การหลุดพ้น
. กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน : การใช้ สติจบั กาย พิจารณาอิริยาบถ ยืน เดิน ง ใช้ สติจบั ลมหายใจ(อานาปานสติ)
. เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน : ใช้ สติพิจารณาความรู้สกึ สุข ทุกข์ หรื อเฉยๆ ความรู้สกึ ล้ วนไม่เ ยง เป็ นทุกข์
. จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน : การพิจารณาจิตดูวา่ จิตมีราคะ โทสะ โมหะ หดหู่ ฟุง้ ซ่าน หรือเป็ นสมาธิ
. ธรรมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน : การใช้ สติพจิ ารณาธรรม เช่น ขันธ์ นิวรณ์ อายตนะ อริยสัจ
กรรมให้ ผลตามเวลา
. ทิฏฐธรรมเวทนียกรรม = กรรมให้ ผลในชาติ
. อุปปั ชชเวทนียกรรม = กรรมให้ ผลในชาติหน้ า
. อปราปรเวทนียกรรม = กรรมให้ ผลในชาติตอ่ ๆ ไป
. อโหสิกรรม = กรรม เลิกให้ ผล คือให้ ผลเสร็จไปแล้ ว หรื อหมดโอกาสจะให้ ผลต่อไป
กรรมให้ ผลตามหน้ า
. ชนกกรรม = กรรม แต่งมาดีหรื อ ว
. อุปถัมภกกรรม = กรรม สนับสนุน คือ ถ้ ากรรมเดิมหรื อชนกกรรมแต่งดี ส่งให้ ดี ง น
กรรมเดิมแต่งให้ ว ก็สง่ ให้ ว ง น
. ปุปปี ฬกกรรม = กรรมบีบ นหรื อขัดขวางกรรมเดิม คอยเบียนชนกกรรม เช่นเดิมแต่งมาดี เบียนให้ ว
เดิมแต่งมา ว เบียนให้ ดี
. อุปฆาตกกรรม = กรรมตัดรอน เป็ นกรรมพลิกหน้ ามือเป็ นหลังมือ เช่นเดิมชนกกรรมแต่งไว้ ดีเลิศ กลับทีเดียว
ลงเป็ นขอทานหรือตายไปเลย หรือเดิมชนกกรรมแต่งไว้ เลวมาก กลับทีเดียวเป็ นพระราชาหรือมหาเศรษฐี ไปเลย
กรรมให้ ผลตามความหนักเบา
. ครุ กรรม = กรรมหนัก กรรมฝ่ ายดี เช่น ท สมาธิจนได้ ฌาน กรรมฝ่ าย ว เช่น ท อนันตริ ยกรรม มีฆา่ บิดา
มารดา เป็ นกรรม จะให้ ผลโดยไม่มีกรรม นมาขวางหรื อ นได้
. พหุลกรรม = กรรม ท จนชิน
. อาสันนกรรม = กรรม ท เ อใกล้ ตาย หรื อ เอาจิตใจจดจ่อในเวลาใกล้ ตาย อาสันนกรรม ย่อมส่งผลให้ ไปสู่
ดีหรื อ วได้ เปรี ยบเหมือนโคแก่ อยูป่ ากคอก แม้ แรงจะน้ อย แต่เ อเปิ ดคอกก็ออกได้ ก่อน
. กตัตตากรรม = กรรมสักแต่วา่ ท คือ เจตนาไม่สมบูรณ์ อาจจะท ด้ วยความประมาทหรื อรู้เท่าไม่ถงึ การณ์
แต่ก็อาจส่งผลดีร้ายให้ ได้ เหมือนกัน ในเ อไม่มีกรรม นจะให้ ผลแล้ ว
3
4
ำ
1
1
2
1
2
3
4
1
2
3
4
1
2
3
4
2
2
ที่
4
ชั่
ที่
ชั่
1
ำ
2
ชั่
ที่
ที่
ที่
ที่
ที่
ที่
ำ
ตั้
ที่
ซึ่
ชั่
ำ
คั้
มื่
ยิ่
ขึ้
ที่
ำ
ชั่
มื่
ที่
ำ
อื่
ที่
นี้
ที่
สิ่
อื่
ทั้
5
กั้
5
ำ
มื่
ชั่
นั่
ำ
ยิ่
ที่
ขึ้
ำ
4
ที่
ชั่
14
. สติ สัมปชัญญะ = ธรรมมีอปุ การะมาก
. สติ : ความระลึกได้
. สัมปชัญญะ : ความรู้ตวั
. โกศล = ธรรมพาเจริ ญ
. อปายโกศล : รู้จกั ความเ อม
. อายโกศล : รู้จกั ความเจริ ญ
. อุปายโกศล : ละเ อมสร้ างเจริ ญ
3
4
สื่
ำ
ชั้
รื่
ที่
สื่
ำ
ที่
อื่
ที่
ชั่
ที่
15
. ปั ญญา = ความรอบรู้
. สุตมยปั ญญา : ฟั ง
. จินตามยปั ญญา : คิด
. ภาวนามยปั ญญา : ลงมือท
. ฆราวาสธรรม = หลักธรรมของผู้ครองเรื อน
. สัจจะ : ความ อสัตย์
. ทมะ : การฝึ กตน ข่มใจ
. ขันติ : อดทน
. จาคะ : เสียสละ
สิ่
ที่
ที่
ที่
ำ
ที่
นี้
ำ
อื่
นี่
16
. โภคอาทิยะ = แบ่งทรัพย์เ อเ ยงชีพ
. ญาติพลี : สงเคราะห์ญาติ
ิ ลี : ต้ อนรับแขก
. อติถพ
. ปุพพเปตพลี : ท บุญอุทิศให้ ผ้ ลู ว่ งลับ
. ราชพลี : บ รุงราชการ เช่น เสียภาษี
. เทวดาพลี : สักการะบ รุงหรื อท บุญอุทิศ ง เคารพบูชาความเ อถือ
. สัปปุริสธรรม = ธรรมของคนดี
. ธัมมัญ ตา : รู้จกั หลักของเหตุผล
. อัตถัญ ตา : รู้จกั ผล เกิดจากเหตุ
. อัตตัญ ตา : รู้จกั ตนเอง
. มัตตัญ ตา : รู้จกั ความพอๆ
. กาลัญ ตา : รู้ จกั กาลเทศะ
. ปริสัญ ตา : รู้ จกั สถาน
. ปุคคลัญ ตา : รู้จกั บุคคล
คอร์สเรียนออนไลน์ สังคม+ไทย Jax สอนสังคมและภาษาไทย ✘ห้ามน เอกสารออกไปเผยแพร่ทุกรูปแบบ
2
1
2
3
4
5
2
1
2
3
4
5
6
7
8
9
1
3
1
2
3
4
5
6
7
3
1
2
3
4
8
9
0
0
1
มั่
ำ
7
6
5
ญุ
ญุ
ญุ
ญุ
ซื่
ำ
ลั้
ขี่
5
ญุ
ญุ
7
ำ
ญุ
ที่
พื่
ที่
ำ
ลี้
ที่
ตั้
มั่
มั่
ที่
สิ่
ทั่
ที่
สื่
ำ
กี่
สิ่
ที่
นั้
ชื่
17
. กุลจิรัฏฐิตธิ รรม = หลักธรรมส หรับการบริ หารจัดการครอบครัวให้ เจริ ญ และ ง ง
. นัฏฐคเวสนา : การรู้จกั หา ค้ นหา ข้ าวของเค องใช้ เค องมือ งของทุกอย่าง หายไปให้ กลับคืนมา
. ชิณณปฏิสังขรณา : การรู้จกั ซ่อมแซม งของ ช รุด ใช้ งานไม่ได้ ให้ กลับมาใช้ งานใหม่
. ปริมติ ปานโภชนา : ความประมาณตนในการอุปโภค และบริ โภคไม่ให้ ใช้ หรื อกินเกินความจ เป็ น
. อธิปัจจสีลวันตสถาปนา : สามี และภรรยา พึงเป็ นผู้ด รงอยูใ่ นศีลธรรมอยูเ่ ป็ นนิจ โดยศีล นฐาน คือ ศีล
. ทิศ = บุคคลประเภทต่างๆ เราต้ องเ ยวข้ องสัมพันธ์ ดุจทิศ อยูร่ อบตัวจัดเป็ น ทิศ
. ปุรัตถิมทิส : ทิศเ องหน้ า = บิดา มารดา
. ทักขิณทิส : ทิศเ องขวา = ครูอาจารย์
. ปั จฉิมทิส : ทิศเ องหลัง = สามีภรรยา
. อุตตรทิส : ทิศเ องซ้ าย = มิตรสหาย
. อุปริมทิส : ทิศเ องบน = พระสงฆ์ สมณพราหมณ์
. เหฏฐิมทิส : ทิศเ องล่าง = ลูกจ้ างกับนายจ้ าง
ที่
สิ่
รื่
ที่
กื้
ำ
ทั้
ที่
รื่
ที่
ำ
ำ
สิ่
พื่
สื่
อื่
มั่
คั่
ำ
ที่
อื่
พื้
ำ
อื่
อื่
18
การบริหารจิตและการเจริญปั ญญา
. การบริหารจิต
หลักสติปัฏฐาน : การ งสติเ อพิจารณา งต่างๆ ให้ ร้ ูและเข้ าใจตามความเป็ นจริ งของมัน
. กายานุปัสสนา : การ งสติก หนดพิจารณากาย
. เวทนานุปัสสนา : การ งสติก หนดพิจารณาความรู้สกึ
. จิตตานุปัสสนา : การ งสติก หนดพิจารณาจิต
. ธัมมานุปัสสนา : การ งสติก หนดพิจารณาธรรม
. การเจริญปั ญญา
หลักโยนิโสมนสิการ : เป็ นกระบวนการคิดอย่างละเอียดลึก ง การคิดอย่างแยบคาย การคิดอย่างถูกวิธีและมี
หลักเหตุและผล มีวิธีคดิ แบบ
โยนิโส มาจาก โยนิ งแปลว่าเหตุ ต้ นเค้ า แหล่งเกิดปั ญญา อุบาย วิธี ทาง
มนสิการ แปลว่า การทําในใจ การคิดคํานึง ใส่ใจ พิจารณา
โยนิโสมนสิการ หมายถึง การท ในใจโดยแยบคาย การคิดพิจารณาอย่างละเอียด ถ้ วนและลึก ง หรื อการคิด
ถูกวิธี มีระเบียบ มีเหตุผล และสร้ างสรรค์ มี วิธี ดัง
. วิธีคดิ แบบสืบสาวเหตุปัจจัย คือ คิดแบบมีเหตุผล เช่นพระพุทธเจ้ าทรงตรัสรู้โดยใช้ วิธีการคิดแบบสืบสาว
หาเหตุจากปั จจัย พระองค์ งค ถาม นมาเ ยวกับเวทนา ได้ แก่ ความรู้สกึ สุขทุกข์ โดยทรงพิจารณาว่าเวทนา เป็ นสุข
เป็ นทุกข์ เกิด นโดยมีอะไรเป็ นปั จจัย แล้ วพระองค์ก็สบื สาวไปก็ทรงค้ นพบว่า มีผสั สะ เป็ นต้ น
. วิธีคดิ แบบแยกแยะส่ วนประกอบ คือ การคิดจ แนกแยกแยะองค์รวมของ งต่าง ๆ ออกเป็ นองค์ยอ่ ย ๆ
ท ให้ มองเห็นความและความสมพันธ์ขององค์ประกอบย่อยเหล่า นว่ามีความเ ยว กับเ องกัน เป็ นเหตุเป็ นผลและ
งพาอาศัยกันอย่างไร จึงประสานสอดคล้ องกันเป็ นองค์รวม วิธีคดิ แบบ จะท ให้ เรารู้และเข้ าใจ งต่าง ๆ ตามสภาพ
ความเป็ นจริ ง
. วิธีแบบสามัญลักษณะ คือ คิดแบบไตรลักษณ์ (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา) คือคิดแบบรู้เท่าทันธรรมดา ชีวิต
ของคนเราก็เป็ นเช่น เป็ นอนิจจังไม่เ ยงแท้ ทุกขังมีแต่ความทุกข์อนัตตาไม่มีตวั ตน แน่นอน
. วิธีคดิ แบบอริยสัจ หรื อ วิธีคดิ แบบแก้ ปัญหา คือ การพิจารณาปั ญหามีอะไรบ้ าง (ทุกข์) สาเหตุอยู่ ใด
(สมุทยั ) แนวทางและเป้าหมายของการแก้ ปัญหา งไว้ (นิโรธ) พิจารณาวีการ ด เนินงานเ อบรรลุเป้าหมาย (มรรค)
งเราสามารถใช้ เป็ นหลักยึดในการพิจารณาถึงความเป็ นจริ งและน ไปสูก่ ารคิด ตามกระบวนการ
. วิธีคดิ แบบอรรถธรรมสัมพันธ์ คิดตามหลักการและความมุง่ หมาย เป็ นการคิดแบบสุตบุรุษ หรื อสัปปุริส
ธรรมอันเป็ นคุณสมบัตขิ องคนดี คือ รู้จกั เหตุ รู้จกั ผลรู้จกั ตน รู้จกั ประมาณ รู้จกั บุคคล รู้จกั ชุมชน
. วิธีคดิ แบบเห็นคุณ – โทษและทางออก คือ มองในเชิงคุณค่าว่า ง น ๆ มีคณ ุ ในแง่ไหน มีโทษในแง่ไหน
มอง งคุณและโทษ แล้ วก็หาทางออก จะแก้ ไข
. คิดแบบคุณค่ าแท้ - คุณค่ าเทียม รู้จกั แยกแยะ งดี วได้ อย่างมีเหตุผล
. วิธีคดิ แบบปลุกเร้ าคุณธรรม คิดแบบปลุกเร้ าคุณธรรมหรื อชุดความดี หมายถึง การบ เพ็ญความดี งจะ
ต้ องกระท ให้ ถงึ สุด
. วีคดิ แบบเป็ นอยู่ในขณะปั จจุบนั คือ คิดอยูใ่ นปั จจุบนั แนว ต้ องบมีวิปัสสนากรรฐานเป็ นเค องมือ
. วิธีคดิ แบบวิภชั ชวาท (แบบจ แนก) คือ คิดแบบรอบด้ าน แยกแยะ มอง งต่าง ๆในหลาย ๆ มุมอย่าง
ละเอียดรอบคอบ
ขึ้
1
ที่
0
1
2
3
4
นี้
ที่
1
4
0
ตั้
ำ
ซึ่
ตั้
ที่
ขึ้
ที่
พื่
ำ
สั้
ตั้
ตั้
ตั้
ตั้
กี่
1
ำ
0
4
ำ
ำ
ำ
ที่
ำ
ตั้
สิ่
นี้
สิ่
ำ
ชั่
นั้
ซึ้
นี้
นี้
ำ
ที่
ำ
สิ่
กี่
ำ
นั้
ที่
สิ่
นื่
สิ่
พื่
ถี่
สิ่
นี้
ำ
ซึ้
รื่
ที่
ที่
ซึ่
ที่
19
พุทธศาสนสุภาษิต
นิพพ
ฺ านํ ปรมํ สุขํ : นิพพานเป็ นสุขอย่าง ง
วายเมเถว ปุริโส ยาว อตฺถสฺส นิปปฺ ทา : เกิดเป็ นคนควรพยายามเ อยไป จนกว่าผล หมายจะส เร็จ
ำ
อื่
ที่
ที่
ยิ่
นั่
รื่
นี้
สิ่
ตื่
รื่
ำ
ค้
ำ
ยิ่
นั้
ขึ้
ยิ่
รื่
ที่
20
ศาสนพิธี
. ทานพิธี = พิธีถวายทาน
เช่น ถวายสังฆทาน ทอดกฐิ น ทอดผ้ าป่ า
. ปกิณกพิธี = พิธีเบ็ดเตล็ด
เช่น พิธีแสดงความเคารพ การประเคนของ การกรวด การกล่าวค อาราธนาต่างๆ
ำ
ำ
ขึ้
สั่
ำ
บื้
บื้
ญู
ำ
รื่
น้
ทั้
ำ
ลื่
ที่
ล้
ำ
น้
ำ
ำ
รั้
กึ่
21
ตะลุยโจทย์
. หลักค สอนของแต่ ละศาสนามีความแตกต่ างกันในเ องใด
. การมีความอดทน
. การมีความรักความเมตตา
. การสงเคราะห์ชว่ ยเหลือกัน
. การท ความดี ละเว้ นความ ว
. การบรรลุเป้าหมายของศาสนา
. ศีลอุโบสถหมายถึงข้ อใด
. ศีล
. ศีล
. ศีล
. ศีล
. ศีล
คอร์สเรียนออนไลน์ สังคม+ไทย Jax สอนสังคมและภาษาไทย ✘ห้ามน เอกสารออกไปเผยแพร่ทุกรูปแบบ
ดิ์
1
6
7
8
5
ำ
1
2
3
4
5
1
2
3
4
5
1
2
3
4
5
1
2
3
4
5
1
2
3
4
5
ำ
5
8
1
2
3
0
2
1
ำ
ฟื้
7
1
น้
ำ
ทั่
รื่
ที่
ำ
ตั้
ชื่
ชื่
ำ
ชั่
พื่
ลี้
ทั่
รื่
มั่
ที่
รื่
22
. ฉลาดเป็ นคนฉุนเฉียวง่ าย ชอบอาฆาตมาดร้ ายแต่ หายเร็ว ในเ องสติปัฏฐาน พระพุทธเจ้ าทรงเปรี ยบจิต
เช่ น อยู่ในประเภทใด
. จิตหดหู่
. จิตมีราคะ
. จิตมีโทสะ
. จิตมีโมหะ
. จิตไม่ใหญ่
ที่
4
รื่
4
4
รื่
รื่
4
ำ
ำ
ที่
ชั้
ที่
รื่
ที่
ต่
ำ
ำ
รื่
23
. ธรรม เป็ นเหตุให้ ระลึกถึงกัน มีความเคารพกัน ช่ วยเหลือกัน และสามัคคีพร้ อมเพรี ยงกัน คือธรรมใด
. อธิปไตย
. อริ ยวัฑฒิ
. สาราณียธรรม
. อปริ หานิยธรรม
. ทิฏฐธัมมิกตั ถสังวัตตนิกธรรม
. คุณค่ าทางจริยธรรมของนิยาม มีหลายประการ ยกเว้ นข้ อใด
. ท ให้ ร้ ูสภาวะของความทุกข์
. ท ให้ ใจกว้ างตรวจสอบปั ญหาหลายๆ ด้ าน
. ท ให้ เข้ าจกฎแห่งกรรมว่ามีผลต่อชีวิตมาก สุด
. ท ให้ มองเห็นว่าชีวิตประกอบด้ วยปั จจัยหลากหลาย
. ท ให้ เห็นว่าชีวิตเป็ นกระบวนการทางธรรมชาติ มีเหตุปัจจัยต่อเ อง
. ผู้ มีปณิธานอย่ างแรงกล้ า จะให้ ผ้ ู นับถือศาสนาต่ างๆ ได้ เข้ าใจหลักธรรม ตนนับถือ
แล้ วสร้ างความปรองดองกันในทุกศาสนาคือใคร
. ท่าน ป.อ. ปยุตฺโต
. ท่านพุทธทาสภิกขุ
. ท่านปั ญญานันทภิกขุ
. พระอาจารย์ชา สุภทฺโท
. พระอาจารย์ น ภูริทตฺโต
. หากต้ องการศึกษาประมวลพระธรรมเทศนา ประวัติ และเ องราวต่ างๆ ควรสืบค้ นจากพระคัมภีร์ใดเป็ น
หลักฐาน น
. ฎีกา
. วินยั ปิ ฎก
. อรรถกถา
. สุตตันตปิ ฎก
. อภิธรรมปิ ฎก
. อกุศลกรรมและกุศลกรรมเป็ นกรรมประเภทใด
. กรรมตามมูลเหตุ
. กรรม ให้ ผลตามหน้ า
. กรรมตามการแสดงออก
. กรรม ให้ ผลตามกาลเวา
. กรรม ให้ ผลตามล ดับความแรง
คอร์สเรียนออนไลน์ สังคม+ไทย Jax สอนสังคมและภาษาไทย ✘ห้ามน เอกสารออกไปเผยแพร่ทุกรูปแบบ
1
1
1
1
1
4
5
6
7
8
ที่
ำ
1
2
3
4
5
1
2
3
4
5
1
2
3
4
5
1
2
3
4
5
1
2
3
4
5
ที่
ำ
ำ
ำ
ำ
ำ
ชั้
ที่
ที่
ที่
ที่
1
มั่
ำ
ที่
ที่
ที่
ที่
ที่
รื่
นื่
ที่
24
. วิธีคดิ แบบใดเป็ นแบบคุณค่ าแท้ - คุณค่ าเทียม
. กอบ อรถยนต์คนั ใหญ่เพราะโก้ งสบาย
. กุล อรถยนต์เพราะชอบรูปลักษณ์สวยเท่
. กานต์ อรถยนต์มือสองเพราะเ อนชักชวน
. กร อรถยนต์รุ่นเล็กเพราะใช้ ได้ ดี ประหยัด มัน
. ก้ อง อรถยนต์ ห้ อดังเพราะเป็ น นิยม ขายต่อง่าย
ทั้
ขึ้
รื่
กี่
ชื่
ชื่
ชื่
ยี่
รื่
สิ่
ที่
ที่
พื่
นั่
ที่
ที่
ที่
น้
3
ำ
ที่
พี่
25
. พระพุทธศาสนาให้ อสิ รภาพแก่ ชาวอินเดียสมัยพุทธกาลในด้ านใดมาก สุด
. การเดินทาง
. ระบบวรรณะ
. ระบบการศึกษา
. การนับถือศาสนา
. การประกอบอาชีพ
มั่
ที่
ที่
ที่
ที่
ที่
กี่
ที่
ที่
26
. ใครคือผู้นิพนธ์ หนังสือไตรภูมพ
ิ ระร่ วง
. พระเจ้ าลิไท
. พระเจ้ ากือนา
. พระเจ้ าอโศกมหาราช
. พระเจ้ าอนุรุทธมหาราช
. พ่อขุนรามค แหงมหาราช
. วันใดคือวันพระธรรม
. มาฆบูชา
. วิสาขบูชา
. อัฏฐมีบชู า
. ธรรมสวนะ
. อาสาฬหบูชา
ยิ่
ชื่
นึ่
ดี่
กี่
นี้
ทั้
1
ที่
6
ทั้
ำ
4
ยี่
ยี่
ที่
สื้
ำ
27
. บุคคลในข้ อใดปฏิบตั ติ นตามหลักสัมมากัมมันตะในมรรคมีองค์ ได้ ถกู ต้ อง สุด
. เพชรฉายไม่คดิ เบียดเบียนใครให้ เดือดร้ อน และคิด จะช่วยเหลือผู้ นทุกเ อ
. นฤมลได้ สมาทานศีลแปดและเจริ ญภาวนาอยู่ วัดทุกวันพระ
. ปราโมทย์ งใจท งานอย่างสุจริ ต เ อสร้ างอนาคต นคง
. เกษมพิจารณา ง เห็นตามสภาพความเป็ นจริ งอยูเ่ สมอ
. สมชายมีความพยายามท ใน ง เป็ นบุญกุศลทุกๆ วัน
. สมรักษ์ เป็ นหัวหน้ าบริษทั จ หน่ ายอุปกรณ์ การแพทย์ มีพนักงาน อยู่ในความรับผิดชอบจ นวนมาก
สมรักษ์ ควรยึดถือหลักปฏิบตั ติ น ข้ อใดในการปกครองพนักงาน งหมด
. หลักอัตตาธิปไตย
. หลักธรรมาธิปไตย
. หลักโลกาธิปไตย
. หลักกามุปาทาน
. หลักอัตตวาทุปาทาน
. หลักธรรมในข้ อใดสามารถน มาใช้ ในการด รงชีวติ แบบพอเพียงได้ ดี สุด
. หลักสังคหวัตถุ
. หลักพรหมวิหาร
. หลักสติปัฏฐาน
. หลักโภควิภาค
. หลักอริ ยสัจ
สิ่
4
4
4
อื่
4
ที่
ำ
ำ
สิ่
ที่
พื่
ที่
ตั้
ำ
ที่
7
ที่
ที่
สื่
มั่
ทั้
ที่
8
อื่
ที่
สิ่
มื่
ที่
ำ
พื่
28
. ข้ อใด ไม่ ใช่ ระเบียบพิธีของการถวายผ้ าอาบ ฝน ถูกต้ อง
. วัน นิยมก หนดถวายผ้ าอาบ ฝนให้ พระภิกษุสามเณรคือวันอาสาฬหบูชา
. ค ถวายผ้ าอาบ ฝน ในกรณี ไม่มีเค องบริ วารไม่ต้องกล่าวค ว่า สปริ วารานิ
. หลังจากประเคนของถวายพระแล้ ว พระสงฆ์อนุโมทนา ชาวบ้ านรับพร แสดงว่าเสร็จพิธี
. ให้ เจ้ าของผ้ าเขียน อพระใส่ลงในบาตรแล้ วจับสลาก เจ้ าของผ้ าจับได้ ราย อพระรูปใดก็ถวายผ้ าอาบ ฝนแด่
พระรูป น
. ก่อนจะมีพิธีถวายผ้ าอาบ ฝน พระสงฆ์จะแสดงธรรม กัณฑ์เ ยวกับประวัตแิ ละอานิสงค์ของการถวาย
ผ้ าอาบ ฝน
. ประยุทธได้ ศกึ ษาธรรมจนเข้ าใจชัดว่ าทุก งต้ องเป ยนแปลงไปตามกาลเวลา งมีชีวติ เ อเกิดแล้ วก็
เป ยนแปลงไปตามวัยและตายไปใน สุด เขาจึง งใจ จะประพฤติดปี ฏิบตั ชิ อบ งทางกาย ทางวาจา
และทางใจ ตามหลักสุจริต หลักธรรมดังกล่ าวเ ยวเ องกับวันส คัญทางศาสนาวันใด
. วันมาฆบูชา
. วันวิสาขบูชา
. วันอัฏฐมีบชู า
. วันเข้ าพรรษา
. วันอาสาฬหบูชา
นั้
น้
ำ
ชื่
ชื่
น้
ำ
ชื่
3
น้
ำ
น้
ที่
นั้
ำ
ำ
ที่
ที่
สิ่
รื่
ำ
น้
ชั้
ำ
ำ
ตั้
ที่
กี่
ลี่
ที่
ที่
นื่
ที่
ที่
ำ
กี่
ำ
นั้
ชื่
ที่
สิ่
ำ
ทั้
ที่
มื่
น้
ำ
29
. ความพยายามระวังมิให้ ความ วเกิด นในจิต พยายามละความ ว เกิด นแล้ วให้ หมดไป พยายามสร้ าง
ความดี ยังไม่ มีให้ มี และพยายามรั กษาความดี มีอยู่แล้ วจัดเข้ าในอริยมรรคมีองค์ ข้ อใด
. สัมมากัมมันตะ
. สัมมาอาชีวะ
. สัมมาวายามะ
. สัมมาทิฏฐิ
. สัมมาสติ
. นิพนธ์ เป็ นคนมีสัจจะ มีความ อสัตย์ เป็ น นฐาน ห นฝึ กฝนข่ มจิตรั กษาใจเ อลดละกิเลส
อีก งมีความอดทนต่ อค พูดของผู้ นและเสียสละ ข้ อความ แสดงว่ านิพนธ์ ประพฤติตามหลักธรรมข้ อใด
. อคติ
. ปธาน
. อิทธิบาท
. พรหมวิหาร
. ฆราวาสธรรม
. พระไตรปิ ฎกเป็ นคัมภีร์ นต้น บันทึกค สอนของพระพุทธเจ้า หมวดใหญ่ คือ พระวินยั ปิ ฎก พระสุตตันตปิ ฎก
และพระอภิธรรมปิ ฎก ถ้ าต้ องการศึกษาพระสูตร งประมวลหรือรวมค สอนประเภทเดียวกันไว้ เป็ นหมวดหมู่
เราควรศึกษาจากหมวดใด
. สังยุคคนิกาย พระสุตตันตปิ ฎก
. อังคุตตรนิกาย พระสุตตันตปิ ฎก
. ทีฆนิกาย พระสุตตันตปิ ฎก
. มัชฌิมนิกาย พระสุตตันตปิ ฎก
. ขุททกนิกาย พระสุตตันตปิ ฎก
4
ำ
4
ทั้
ชั้
ที่
ำ
ที่
ยิ่
ซื่
ชั่
ยี่
ตื่
อื่
ขึ้
พื้
ที่
ซึ่
มั่
3
นี้
ชั่
ที่
ำ
ขึ้
พื่
8
30
. ข้ อใดไม่ จดั อยู่ในหลักอปริหานิยธรรม ประการ กษัตริย์ลจิ ฉวีแคว้ นวัชชียดึ ถือปฏิบตั ิ
. เคารพบูชาเจดีย์หรื ออนุสาวรี ย์ประจ ชาติ
. ห นประชุม มีความพร้ อมเพรี ยงกัน ไม่ขดั ต่อหลักการเดิม
. จัดการคุ้มครองอารักขาพระอรหันต์ งหลายภายในแคว้ นวัชชี
. แต่ง งรัชทายาทให้ คอยสอดส่องดูแลความเดือดร้ อนของประชาชน
. ให้ ความคุ้มครองเหล่ากุลสตรี งหลายไม่ให้ ถกู รังแก และเคารพนับถือผู้ใหญ่
ญู
ที่
ชั่
ำ
ำ
สิ่
ทั้
ำ
พื่
กี่
สิ่
ที่
มื่
รื่
ที่
7
ทั้
ลี้
สิ่
ำ
มิ่
ำ
ที่
ำ
4
ที่
มื่
ลี้
ซึ่
ที่
ำ
พื่
ำ
อื่
อื่
พิ่
ำ
ำ
พื่
ำ
รื่
ำ
นึ่
ที่
มั่
คั่
นั้
ที่
9
ชั่
ที่
31
. โครงการพัฒนาประเทศบางอย่ างของภาครั ฐ ไม่ ประสบความส เร็จ ส่ วนห งมักสืบเ องมาจากการมอง
เห็นปั ญหาของภาครั ฐ ไม่ ตรงกับปั ญหา ประชาชนก ลังประสบอยู่ ส่ วนใหญ่ จงึ มักกลายเป็ นโครงการ รั ฐ
อยากท ให้ ประชาชน ไม่ ใช่ เป็ นโครงการ ประชาชนต้ องการอย่ างแท้ จริง ท ให้ ประชาชนไม่ ให้ ความร่ วมือ
หรื อมีส่วนร่ วมกับโครงการ น ดัง น การศึกษาวิจยั เ อศึกษาสภาพปั ญหาจึงเป็ น งจ เป็ น สุด เพราะจะ
ท ให้ ภาครั ฐเข้ าใจปั ญหาของประชาชนได้ อย่ างแท้ จริง เ อ นกระบวนการพัฒนา นก็จะสามารถด เนิน
ไปได้ อย่ างถูกต้ อง และได้ รับการตอบสนองจากประชาชนเป็ นอย่ างดี
หลักพระพุทธศาสนาสอนว่า “ตนเป็ น งแห่งตน” การ งตนก็คือการ งธรรมะ นเอง อย่าง พระพุทธเจ้ าท่าน
ตรัสเต็มไว้ วา่ “จงมีธรรมเป็ นเกาะเป็ น ง จงมีตนเป็ นเกาะเป็ น ง” จงมีธรรมเป็ นเกาะเป็ น ง อันแรกสอนว่า จง
มีตนเป็ น ง แล้ วขยายความว่า จงมีตนเป็ น งก็คือให้ มีธรรมเป็ น ง นเอง
การมีธรรมเป็ น งก็ให้ ประพฤติธรรม เ อประพฤติธรรมแล้ ว งตนได้ ถ้ าไม่ประพฤติธรรมก็ งตนไม่ได้
คนเรามันต้ อง งตนเอง ช่วยตนเอง อย่าคอยไป งคน น อาศัยคน นอยูต่ ลอดไป
ที่
ที่
พึ่
พึ่
ำ
ที่
ที่
รื่
พึ่
นั้
ำ
ที่
นั้
พื่
พึ่
ที่
ที่
มั่
ที่
ที่
พึ่
ที่
พึ่
พึ่
ที่
พึ่
ที่
มื่
ำ
ที่
อื่
สิ่
ทั้
พื่
ที่
พื่
ำ
ำ
พึ่
มื่
พึ่
อื่
ที่
ที่
นั้
พึ่
พึ่
พึ่
นั่
ำ
ที่
พึ่
1
พึ่
ำ
นึ่
นั่
สิ่
อื่
ำ
นื่
ที่
นั้
พึ่
พึ่
ที่
ที่
ำ
ที่