You are on page 1of 8

การมีทัศนคติที่ดตี ่ อการเรียกร้ องขอทวงสิ ทธิ (Claim)

กุญแจแห่ งความสาเร็จของโครงการก่ อสร้ างขนาดใหญ่

“Positive Thinking of Claim: Key Success Factor of Mega Projects”

โดย ดร. อภิรัตน์ ประทีปอุษานนท์ 1

แน่ นอนว่าคงไม่ มีใครอยากให้ การเคลม (เรียกร้ องขอทวงสิ ทธิ) เกิดขึน้ แต่ หากการเคลมเป็ นกลไกการเตือนภัยที่
มีประสิ ทธิภาพยิง่ คงไม่ มีใครปฏิเสธทีจ่ ะรับรู้ ความจริง และหาวิธีดาเนินการกับมันก่อนทีจ่ ะสายเกินไป

บทนา
นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 ผูเ้ ขียนได้รับหน้าที่เป็ นนักวิเคราะห์และที่ปรึ กษาทางด้านการเรี ยกร้องขอทวงสิ ทธิ ใน
โครงการก่อสร้าง (Construction Claim Consultant) ขนาดใหญ่หลายโครงการทั้งในและนอกประเทศ
สหรัฐอเมริ กา การที่มีโอกาสได้ทาการวิเคราะห์การเรี ยกร้องขอทวงสิ ทธิ ทั้งในเรื่ องของความล่าช้า การเร่ งรัด
งาน และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น ในโครงการต่างๆ เหล่านี้ ทาให้ผเู ้ ขียนเกิดมุมมองต่ อปัญหาการเรียกร้ องขอทวง
สิ ทธิ ในโครงการก่อสร้ างต่ างๆ ว่า เป็ นงานที่ท้าทาย และที่สาคัญวิธีการจัดการที่มีประสิ ทธิภาพรวมไปถึง
ทัศนคติที่ดีต่อการเรี ยกร้องขอทวงสิ ทธิ นบั ว่าเป็ นกุญแจแห่ งความสาเร็ จของโครงการก่ อสร้ างขนาดใหญ่
(เนื่องจากความไม่เหมาะสมในการเปิ ดเผยข้อมูลรายละเอียดของโครงการต่างๆ ผูเ้ ขียนจึงขอสงวนสิ ทธิ์ ในการ
ให้ขอ้ มูลรายละเอียดในที่น้ ี)

สาเหตุสาคัญของการเรียกร้ องทวงสิ ทธิในโครงการก่อสร้ าง

การเรี ยกร้องขอทวงสิ ทธิ หรื อที่เรี ยกกันสั้นๆ ว่า “เคลม” (Claim) ปกติมีสาเหตุมาจากปั ญหาที่มีผลกระทบต่อ
ค่าใช้จ่าย และ/หรื อเวลาดาเนินงานของโครงการ ตามที่ได้ตกลงกันไว้ในสัญญา ประเด็นสาเหตุหลักที่สาคัญ
ของการเรี ยกร้องทวงสิ ทธิ ในโครงการก่อสร้างทัว่ ไป ทั้งที่เป็ นการเรี ยกร้องขอทวงสิ ทธิ ทางการเงิน (การขอเงิน
เพิ่มหรื อชดเชย หรื อ Compensation) หรื อเรี ยกร้องขอทวงสิ ทธิทางด้านเวลา (การขอขยายเวลาในการก่อสร้าง
หรื อ Time Extension) ประกอบไปด้วย
 การเปลี่ยนแปลงการก่อสร้ าง (Modification or Variation) เป็ นสาเหตุหลักที่ทาให้ตอ้ งมีการเคลมซึ่ง
พบได้บ่อย อันอาจมีสาเหตุมาจาก
o การเปลี่ยนแบบก่อสร้าง (Design Change) อาจจะเกิดขึ้นโดย เจ้าของโครงการ ที่ปรึ กษา
ผูร้ ับเหมา ผูผ้ ลิตสิ นค้าและวัตถุดิบ ลูกค้า ผูอ้ อกแบบ
o ความบกพร่ องของแบบก่อสร้าง (Design Omission) เกิดจากความบกพร่ อง และไม่ครบถ้วนใน
ตัวแบบก่อสร้าง

หน้า 1 จาก 8
o ความผิดพลาดของแบบก่อสร้าง (Design Error) เกิดจากความผิดพลาดในการออกแบบ
o การเปลี่ยนวิธีการก่อสร้าง (Construction Change) เพื่อเป็ นการปรับปรุ งประสิ ทธิภาพในการ
ก่อสร้าง (Constructability) หรื อเป็ นการเปลี่ยนแปลงอันเนื่องจากสภาพหน้างาน (Site
Condition) ซึ่ งต้องอนุ มต
ั ิโดยเจ้าของงาน ที่ปรึ กษา หรื อผูร้ ับเหมา
o ความบกพร่ องหรื อผิดพลาดในการก่อสร้าง (Construction Omission or Error) เป็ นผลมาจาก
การก่อสร้างที่ไม่ได้มาตราฐาน
o ความเสี ยหายที่เกิดจากเหตุสุดวิสัย (Damages) ซึ่งอาจเกิดได้จากทุกฝ่ ายที่ปฎิบตั ิงานใน
โครงการ หรื ออาจเกิดจากสภาพดินฟ้าอากาศที่ผดิ ปกติ (Force Majeure)
 การทางานทีด่ ้ อยประสิทธิภาพ (Inefficiency, disruption, loss of productivity) ซึ่งทาให้งานเกิดความ
ล่าช้า หรื อมีค่าใช้จ่ายสู งเกินกว่าที่กาหนด โดยอาจมีสาเหตุมาจาก การสั่งงานซ้ าซ้อน (Interference)
การขาดการประสานงานหรื อการสื่ อสารที่ดี (Lack of coordination and communication) การทางาน
หลายฝ่ ายพร้อมกันในพื้นที่จากัด (Stacking of trades) การขาดแคลนสิ่ งอานวยความสะดวก/
สาธารณูปโภคที่จาเป็ น และการขาดการรักษาความปลอดภัยที่ดีในโครงการ (Insufficient safety and
infrastructure) นอกจากนั้น ยังอาจมีสาเหตุมาจากบุคลากรในการทางานขาดประสบการณ์ หรื อไม่มี

ความชานาญเพียงพอ (Inexperience manpower) ทาให้งานล่าช้าหรื อนาไปสู่ ความเสี ยหาย


 ความล่ าช้ า (Delay) ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจาก การอนุมตั ิแบบก่อสร้างล่าช้า (Delayed design approval) การ
มอบพื้นที่ในการก่อสร้างไม่ตรงตามกาหนด (Delayed work handover) การให้ขอ้ มูลที่จาเป็ นต่อการ
ก่อสร้างไม่ทนั การณ์ (Delayed response to requests for information) การตรวจสอบงานที่ชกั ช้า
(Delayed inspection) ความล่าช้าเหล่านี้ อาจมีสาเหตุมาจากเจ้าของงาน ที่ปรึ กษา หรื อผูอ ้ อกแบบก็ได้
ในทางตรงข้ามผูร้ ับเหมา และตัวแทนก็อาจเป็ นสาเหตุให้งานล่าช้าได้โดยการจัดส่ งและแก้ไขแบบที่ใช้
ในการทางาน (Shop drawing) ล่าช้า การส่ งวัสดุไม่ทนั กาหนด (Delayed material delivery) การมีจานวน
คนทางานไม่เพียงพอ (Insufficient manpower) นอกไปจากนั้น ความล่าช้าของโครงการยังอาจมีสาเหตุ
มาจากการเปลี่ยนแปลงงาน การทางานที่ไม่มีประสิ ทธิ ภาพ และสภาพดินฟ้าอากาศที่ผิดปกติ ดังที่กล่าว
ข้างต้น
 การสั่งเร่ งรัดงาน (Acceleration) เพื่อให้แล้วเสร็ จภายในเวลาที่ส้ นั กว่าที่กาหนดไว้ในสัญญา ซึ่งอาจ
เกิดขึ้นได้ในกรณี ที่เจ้าของงานพบว่าโครงการก่อสร้างอาจเสร็ จไม่ทนั ตามกาหนดเวลา จึงดาเนินการ
สั่งให้ผรู ้ ับเหมาเร่ งงานให้เสร็ จตรงตามกาหนดเวลาเดิม (Owner-directed acceleration) โดยเมื่อมีการ
พิสูจน์ได้วา่ ฝ่ ายใดเป็ นต้นเหตุทาให้งานล่าช้าจนทาให้ตอ้ งมีการเร่ งรัดงาน ฝ่ ายนั้นก็จะต้องเป็ น
ผูร้ ับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเร่ งรัดงานที่เกิดขึ้น กรณี การเร่ งงานที่ผรู ้ ับเหมาดาเนิ นการโดยไม่ได้รับ
คาสัง่ จากเจ้าของงาน หรื อได้รับแต่ไม่มีการออกเอกสารสั่งเร่ งงานอย่างเป็ นทางการให้ จะเรี ยกว่า การ
สั่งเร่ งรัดงานอันเนื่องมาจากเงื่อนไขการก่อสร้าง (Constructive Acceleration)

หน้า 2 จาก 8
เมื่อพิจารณาถึงปัญหาซึ่งเป็ นสาเหตุของการเคลมในระหว่างการก่อสร้าง ผูท้ ี่มีส่วนเกี่ยวข้องน่าจะตระหนักได้ถึง
ความจริ งที่วา่ การเคลมกับงานก่อสร้ างเป็ นสิ่ งคู่กนั แม้ โครงการก่อสร้ างทีป่ ระสบความสาเร็จก็ยงั มีเหตุทาให้ เกิด
การเคลมขึน้ ได้

เมื่อมีปัญหาที่ตอ้ งเปลี่ยนแปลงแบบ (Plan/Specification) หรื อรู ปแบบ (Method) การทางาน ที่อาจส่ งผลกระทบต่อ
ค่าใช้จ่าย และ/หรื อ เวลาในการก่อสร้างไม่ทางใดก็ทางหนึ่งได้ เจ้าของงานจะเป็ นผูส้ ั่งเปลี่ยนแปลง โดยมี
เอกสารสั่งเปลี่ยนแปลงงานอย่างเป็ นทางการ ซึ่งเรี ยกกันว่า Change Order, Variation Order or Modification ใน
กรณี ที่มีปัญหาเกิดขึ้นและไม่มีคาสั่งเปลี่ยนแปลงงานจากเจ้าของงานจะเนื่ องด้วยเหตุใดก็ตาม ผูเ้ สี ยหายก็อาจขอ
เรี ยกร้องทวงสิ ทธิ หรื อเคลมค่าใช้จ่ายและ/หรื อเวลาเพิ่มได้ ซึ่งปั ญหาประเภทหลังนี้มีชื่อเรี ยกที่แตกต่างกัน เช่น
Claim, Constructive Change, Issue, Modification, Variation, และ Contractor Change Request บทความนี้ จะขอ

กล่าวถึงการขอเรี ยกการเรี ยกร้องสิ ทธิประเภทหลังที่เรี ยกว่า “การเคลม” นี้เป็ นหลัก

โดยทัว่ ไป โครงการก่อสร้ างขนาดใหญ่ ในต่ างประเทศโครงการหนึ่งๆ จะมีการเคลมเกิดขึน้ รวมแล้วเป็ นจานวน


มากกว่า 100 รายการ จากประสบการณ์ของผูเ้ ขียน จานวนการเคลมและการสัง่ เพิม่ งาน (Modifications) ที่มาก
ที่สุดเกิดขึ้นในโครงการก่อสร้างศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ซึ่งมีจานวนสู งถึงกว่า 6,000
รายการ เมื่อโครงการเสร็ จแล้ว รายการเคลมที่ไม่สามารถตกลงกันได้ในระหว่างงานก่อสร้าง จะถูกรวบรวม
และนามาวิเคราะห์โดยวิธีมาตราฐานสากล โดยทีมงานและผูเ้ ชี่ยวชาญทางด้านการวิเคราะห์ปัญหางานก่อสร้าง
ทั้งนี้ ด้วยวิธีการจัดการที่มีประสิ ทธิภาพ เอกสารประกอบการพิจารณาที่ดี และทัศนคติที่ดีต่อการเคลม จะทาให้
คู่กรณี ทุกฝ่ ายในโครงการส่ วนใหญ่สามารถพิจารณาวิเคราะห์ปัญหา และตกลงกันได้อย่างเป็ นธรรม โดยไม่ตอ้ ง
นาข้อขัดแย้งขึ้นสู่ กระบวนการของศาล ที่จะทาให้สิ้นเปลืองทั้งเวลาและทรัพยากรมากกว่ากันมาก

ขณะทีใ่ นประเทศไทย โครงการขนาดใหญ่ มูลค่ ากว่าพันล้านบาทหลายโครงการมีรายการเคลมรวมกับการสั่ ง


เปลีย่ นแปลงงานจากเจ้ าของงานไม่ ถึง 10 รายการ ซึ่ งนับเป็ นเรื่ องที่แตกต่างกันอย่างมากจากโครงการขนาด
เดียวกันในต่างประเทศ อีกทั้งคนส่ วนใหญ่ก็มกั จะมีทศั นคติที่ไม่ดีต่อการเคลม อันทาให้ไม่ตอ้ งการให้มีการรับ
แจ้งเคลมในระหว่างการดาเนินโครงการ ฝ่ ายผูร้ ับเหมาก็กลัวที่จะแจ้งรายการเคลมอันอาจส่ งสัญญาณว่า
โครงการกาลังมีปัญหาได้ ทั้งนี้ท้ งั นั้นก็เนื่องจากโครงการที่มีรายการเคลมมาก มักจะถูกมองว่าเป็ นโครงการที่
ไม่ประสบความสาเร็ จ อันทาให้โครงการก่อสร้างในประเทศไทยมักจะทาการปกปิ ดปัญหาต่างๆ ในการ
ก่อสร้าง หรื อปฏิเสธไม่ยอมรับความเป็ นจริ ง ก่อให้เกิดปั ญหาความล่าช้า การก่อสร้างไม่เป็ นไปตามกาหนดการ
ของโครงการ มีการเปลี่ยนแปลงแบบก่อสร้างเป็ นจานวนมาก ค่าใช้จ่ายต่างๆ พุง่ สู งขึ้น จนในท้ายที่สุดก็อาจ
นาไปสู่ ความล้มเหลวของโครงการโดยรวมได้

หน้า 3 จาก 8
การปฏิเสธไม่ ยอมรับรู้ ความจริงตั้งแต่ ตอนแรก อาจทาให้ ปัญหาทวีความรุ นแรงมากขึน้ ได้ โดยธรรมชาติ
โครงการก่อสร้างยิง่ มีขนาดใหญ่ยงิ่ จะมีปัญหามาก โครงการที่มีระบบการจัดการกับการเคลมที่ดี มีส่วนทาให้
โครงการนั้นๆ สามารถแก้ปัญหาได้เร็ ว และยุติธรรมต่อทุกฝ่ าย อันจะนาไปสู่ ความสาเร็ จของโครงการใน
ท้ายที่สุด ระบบการจัดการกับการเคลมทีด่ ีจึงนับเป็ นกลไกการเตือนภัยทีส่ าคัญ เพื่อให้ ทุกฝ่ ายที่เกีย่ วข้ องได้ รีบ
ดาเนินการจัดการหาทางแก้ ไขก่ อนทีจ่ ะลุกลามไปเป็ นปัญหาใหญ่ทไี่ ม่ สามารถแก้ไขได้ ต่อไป เฉกเช่นเดียวกับ
สัญญานเตือนภัยในตึกสู งที่ช่วยให้เจ้าหน้าที่ดบั เพลิงและทุกคนที่เกี่ยวข้องมาช่วยกันดับเพลิงก่อนที่ไฟจะ
ลุกลามไปจนไม่สามารถดับได้

นอกจากนั้น จานวนของการเคลมไม่ได้เป็ นการบ่งบอกถึงความสาเร็ จหรื อความล้มเหลวของโครงการก่อสร้าง


ได้ ดังที่เห็นกันได้ในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ในต่างประเทศ ที่ถึงแม้จะมีจานวนการเคลมที่ไม่สามารถ
เจรจาตกลงกันได้ในระหว่างงานก่อสร้างเป็ นจานวนมาก แต่หลังจากโครงการแล้วเสร็ จการเคลมต่างๆ ที่ยงั คง
ค้างอยูก่ จ็ ะถูกนามาวิเคราะห์ และพิจารณาในภาพรวมใหม่ ซึ่ งส่ วนมากก็จะสามารถตกลงกันได้ โดยไม่ตอ้ งขึ้น
ศาล อันน่าจะถือได้วา่ โครงการนั้นประสบความสาเร็ จ

จากสาเหตุต่างๆ นานัปประการที่อาจนาไปสู่ การเคลมในการก่อสร้าง จึงไม่เป็ นเรื่ องน่าแปลกใจที่โครงการ


ก่อสร้างขนาดใหญ่และมีความซับซ้อนสู งจะมีการเคลมเกิดขึ้นเป็ นจานวนมาก การดาเนินการกับการเคลมที่ดี
จึงไม่ควรจะใช้วธิ ี การปกปิ ดปั ญหาหรื อหลีกหนีความเป็ นจริ ง รวมทั้งไม่ควรจะต้องมีความรู ้สึกกลัวหรื อกังวล
ใดๆ กับปั ญหาการเคลมดังกล่าว ในทางตรงกันข้าม วิธีจดั การกับการเคลมที่ดีควรจะเริ่ มต้นด้วยทัศนคติที่ดีต่อ
การเคลม เพื่อจะได้ร่วมมือกันหาวิธีในการรับมือและจัดการกับปัญหาซึ่งเป็ นสาเหตุของการเคลมอย่างมี
ประสิ ทธิภาพ เคล็ดลับของการบริ หารการเคลมที่ประสบความสาเร็ จ เริ่ มต้ นที่ทัศนคติหรื อวิธีคิดของทุกๆ ฝ่ าย
ที่มสี ่ วนเกี่ยวข้ องกับโครงการ ความคิดหรื อทัศนคติที่ดีต่อการเคลมของทุกฝ่ ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องนี้ นบั ว่ามีผล
อย่างมากต่อความสาเร็ จของโครงการในท้ายที่สุด

๖ เครื่ องมือสร้ างความเชื่ อมั่นในตนเองเพื่อให้ เกิดทัศนคติทดี่ ีต่อการเคลม


ในการมองการเคลมในแง่บวก ผูด้ าเนินการจาเป็ นจะต้องมีความเชื่ อมัน่ ในตนเองว่าจะสามารถดาเนินการกับ
ปั ญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ เครื่ องมือที่จะช่วยสร้างความเชื่อมัน่ ในตนเองที่สาคัญ ๖ ประการ ได้แก่

1. Team Capability ความสามารถทีแ่ ท้จริงของทีมงาน เครื่ องมือสร้างความเชื่ อมัน่ ในตนเองที่สาคัญ


ประการแรก คือ ทีมงานที่รับผิดชอบและวิเคราะห์การเคลม ซึ่งควรจะต้องมีความรู ้ความสามารถหลาย
ด้าน รวมทั้งต้องมีความรู ้และความเข้าใจเป็ นอย่างดีในเรื่ องของสัญญางานก่อสร้างนั้นๆ โดยเฉพาะที่
เกี่ยวข้องกับจุดอ่อนจุดแข็งของสัญญา ขอบเขตของงานที่ระบุไว้ในสัญญา สิ ทธิ หน้าที่ของผูท้ ี่เกี่ยวข้อง
และสิ่ งที่ควรหรื อไม่ควรปฎิบตั ิ นอกจากนั้น ยังควรจะต้องมีความสามารถในการประสานงานและ

หน้า 4 จาก 8
สื่ อสารให้ผเู ้ กี่ยวข้องได้รับทราบ ที่สาคัญจะต้องเป็ นผูท้ ี่มีทศั นคติที่ดีตอ่ การเคลม มีความพร้อมที่จะ
รับทราบปั ญหา มีความสามารถในการวิเคราะห์และประเมินสาเหตุของการเคลม เพื่อหาทางแก้ไข
ร่ วมกับผูท้ ี่เกี่ยวข้องก่อนที่จะสายเกินไป Success Key: Positive Thinking and Open-Mind
2. Planning Ahead การวางแผนการทางานล่วงหน้ า ก่อนเริ่ มโครงการ ควรจะมีการจัดวางระบบ
ควบคุม โครงการ (Project Control System) ซึ่งประกอบด้วยระบบย่อยต่างๆ ได้แก่ ระบบควบคุมความ
เสี่ ยง (Risk and contract control) ระบบควบคุมความคืบหน้าหรื อเวลาในการทางาน (Time control)
ระบบควบคุมค่าใช้จ่าย (Cost control) ระบบควบคุมเอกสาร (Document control) ระบบควบคุมการ
เปลี่ยนแปลงงาน (Change control) ระบบบริ หารทรัพยากรและการสื่ อสาร (Human resource and
communication management) การวางแผนและจัดระบบที่ดี จะช่วยสร้างความมัน ่ ใจในการจัดการกับ
การเคลม และเอกสารต่างๆ รวมทั้งจะเป็ นสิ่ งที่สาคัญในการพิจารณาและวิเคราะห์ปัญหาและ
ผูร้ ับผิดชอบ Success Key: Effective Planning and Control System
3. Claim Warning System ระบบการแจ้ งเตือนปัญหา โดยควรจะมีความคิดว่า ยิ่งรับรู ้ปัญหาได้เร็ ว
โอกาสในการแก้ไขก็จะสู งตามไปด้วย โครงการขนาดใหญ่ในต่างประเทศจะมีการระบุไว้ในสัญญาเลย
ว่า ในกรณี ที่เกิดปั ญหาซึ่ งทาให้ตอ้ งมีการเคลม ผูเ้ สี ยหายจะต้องแจ้งให้เจ้าของงานหรื อตัวแทนที่ระบุไว้
ในสัญญาทราบอย่างเป็ นทางการในทันที (Strictly notice requirement) อีกทั้งยังมักจะระบุไว้อย่างชัดเจน
ถึงระยะเวลาในการแจ้งการเคลมไม่ให้ชา้ เกินไป ตัวอย่างเช่น จะต้องแจ้งการเคลมภายในระยะเวลา ๑๕
วันหลังจากเกิดปั ญหา ทั้งนี้ เนื่ องจากการแจ้งปั ญหาล่าช้าอาจทาให้ผลกระทบที่ตามมาสู งเกินเหตุหรื อ
อาจทาให้ไม่สามารถบรรเทาปัญหาได้ Success Key: Strictly claim notice requirement in writing only
4. Claim Evaluation and Analysis การประเมินและวิเคราะห์ การเคลมตามวิธีมาตราฐานสากล โดย
ปกติในงานก่อสร้างขนาดใหญ่มกั จะมีปัญหามากมายนับไม่ถว้ น แต่ปัญหาที่สาคัญที่สุดจะเป็ นเรื่ องของ
ผลกระทบที่มีต่อสายงานวิกฤติ (Critical path in a project schedule which if any activity on the path were
delayed, the project would be delayed) ซึ่ งถูกวางแผนเอาไว้ในตารางการทางาน (Schedules) ความท้า

ทายในกรณี น้ ีจะเป็ นเรื่ องของการวิเคราะห์และพิสูจน์ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสายงานวิกฤติโดยใช้ตาราง


บันทึกผลการทางาน (Schedule updates) หลังจากนั้นก็จะต้องมีการพิจารณาและประเมินถึงต้นเหตุและ
ผูร้ ับผิดชอบ (Determination of causation and responsibility) ต่อปั ญหาที่มีผลกระทบต่อสายงานวิกฤติ
สุ ดท้ายคือการวิเคราะห์ความเสี ยหาย (Cost and damage analysis) การจัดการและวิเคราะห์การเคลมด้วย
วิธีที่ได้มาตราฐานนี้จะช่วยให้เกิดความคิดและทัศนคติที่ดีต่อการเคลม ทาให้เห็นว่าการเคลมเป็ นเรื่ องที่
ท้าทาย และทุกปัญหาต้องมีทางออกที่เป็ นธรรมต่อทุกฝ่ าย Success Key: Challenging schedule and
cost analysis, determination of causation and responsibility
5. Jointly Resolution and Participation Building การสร้ างการมีส่วนร่ วมและแรงสนับสนุนจาก
ทุกฝ่ าย หลังจากที่ศึกษาวิเคราะห์ปัญหาอย่างถ่องแท้แล้ว ทุกฝ่ ายควรร่ วมมือกันหาทางแก้ไขปั ญหา
หรื อบรรเทาให้เกิดผลกระทบต่อโครงการโดยรวมน้อยที่สุด เมื่อเกิดปั ญหาในงานก่อสร้างความรู ้สึก

หน้า 5 จาก 8
แรกๆ ที่มกั จะเกิดขึ้นกับผูท้ ี่เกี่ยวข้อง คือ ความกลัวต่อข้อผิดพลาดบกพร่ องที่เกิดขึ้น ความโกรธต่อผูท้ ี่มี
ส่ วนเกี่ยวข้องกับปั ญหา และความกังวลที่จะต้องรับผิดชอบในสิ่ งที่ไม่ได้กระทา รวมถึงความกังวลที่
จะต้องทางานเพิ่มโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนที่ยตุ ิธรรม ความรู ้สึกเหล่านี้จะทาให้เกิดความเครี ยดอันเป็ น
อุปสรรคในการแก้ไขปั ญหาและเป็ นกาแพงไปสู่ ความสาเร็ จของโครงการ ดังนั้นการพิจารณาและเจรจา
การเคลมอย่างยุติธรรมโดยทันที (Fairly and timely claim negotiation and settlement) จะช่วยทาให้ทุกฝ่ าย
เกิดกาลังใจ ขจัดความคิดในแง่ลบ คลายความกังวล และร่ วมแรงร่ วมใจกันหาทางรับมือกับปัญหาอย่าง
มีสติ ดังที่กล่าวมาแล้ว ปั ญหาและความล่าช้าที่เกิดขึ้นในระหว่างงานก่อสร้างเป็ นเรื่ องปกติ แต่โครงการ
ที่ประสบความสาเร็ จจะต้องได้รับความร่ วมมือจากทุกฝ่ ายในการเร่ งรัดงาน (Acceleration) หรื อเปลี่ยน
ลาดับการทางาน (Work Resequencing) จนทาให้งานนั้นสามารถฝ่ าฟันอุปสรรคได้อย่างสาเร็ จตาม
กาหนด Success Key: Fairly and timely claim negotiation and settlement
6. Use of Experts การใช้ ผ้ เู ชี่ ยวชาญหรื อทีป่ รึกษาเฉพาะเรื่ อง ผูเ้ ชี่ยวชาญที่มีความเข้าใจถึงวิธีการ
ดาเนินการกับการเคลม (Claim consultant) จะสามารถวิเคราะห์ระบบที่ตอ้ งได้รับการปรับปรุ ง (Gap
analysis) เพื่อรับมือกับการบริ หารจัดการกับปั ญหาและการเคลมที่อาจเกิดขึ้น ชี้ แนะให้มองเห็ นปั ญหา

ในมุมมองที่แตกต่างออกไป อีกทั้งยังช่วยให้ทีมงานวิเคราะห์ปัญหาได้อย่างเป็ นมาตราฐานสากล ใน


งานก่อสร้างขนาดใหญ่ ทีมงานมักจะต้องเผชิญกับปั ญหาหน้างานก่อสร้างอยูเ่ ป็ นประจา อีกทั้งยัง
จะต้องโดนกดดันจากหลายๆ ฝ่ าย ทุกเรื่ องทุกปั ญหาดูเร่ งรี บไปหมด การมีผเู ้ ชี่ยวชาญหรื อที่ปรึ กษาจะ
สามารถช่วยให้เข้าใจถึงสาเหตุอย่างถ่องแท้ รวมทั้งสามารถมุ่งความสนใจไปยังสิ่ งที่เร่ งด่วนที่สุด ณ
เวลานั้นได้ Success Key: Third opinion or specialists help create lateral thinking

เคล็ดลับของการบริ หารการเคลมที่ประสบความสาเร็ จ เริ่ มต้ นที่ทัศนคติหรื อวิธีคิดของทุก ฝ่ ายที่มสี ่ วนเกี่ยวข้ อง


กับโครงการ ความคิดหรื อทัศนคติที่ดีต่อการเคลมของทุกฝ่ ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องนี้นบั ว่ามีผลอย่างมากต่อ
ความสาเร็ จของโครงการในท้ายที่สุด ผูด้ าเนินการกับการเคลมจะมีความคิดหรื อทัศนคติที่ดีได้ก็ดว้ ยความ
เชื่อมัน่ ในตนเองว่าจะสามารรับมือกับการเคลมได้อย่างสาเร็ จ หลักวิธีการสร้างความเชื่อมัน่ ในตนเองที่สาคัญ
เริ่ มจากการมีทศั นคติที่ดีต่อการเคลม มีการวางแผนงานล่วงหน้าอย่างมีประสิ ทธิ ภาพ มีระบบการแจ้งเตือนที่
รายงานปัญหาในทันทีที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นจะต้องทาการวิเคราะห์และประเมินการเคลมตามวิธีมาตราฐาน
สากล โดยใช้ผเู ้ ชี่ยวชาญหรื อที่ปรึ กษาเฉพาะด้าน พร้อมๆ กับดาเนินการแก้ไขปั ญหาตามความเร่ งด่วน และที่
สาคัญจะต้องมีการร่ วมแรงร่ วมใจกันจากทุกฝ่ ายในการแก้ไขปั ญหาให้เกิดผลกระทบต่อโครงการโดยรวมน้อย
ที่สุด

ระบบการบริ หารจัดการเคลมที่ดีจะช่วยกาจัดความรู ้สึกในแง่ลบไม่วา่ จะเป็ นความกลัว ความกังวล หรื อความ


โกรธ เมื่อได้รับการแจ้งว่ามีการเรี ยกร้องขอทวงสิ ทธิ หรื อ การเคลมเกิดขึ้นในโครงการ ความรู ้สึกในแง่ลบ
เหล่านี้มกั จะนาไปสู่ การดาเนิ นการหรื อการจัดการกับการเคลมที่ไม่มีประสิ ทธิ ภาพ ทาให้เกิดแนวโน้มที่จะทา

หน้า 6 จาก 8
ให้โครงการโดยรวมล้มเหลว ดังนั้นหากต้ องการประสบความสาเร็จในการจัดการกับการเคลม ควรจะเริ่มต้ น
ตั้งแต่ ทศั นคติหรื อวิธีการคิด โดยจะต้ องเปลีย่ นความคิดหรื อทัศนคติในทางลบให้ เป็ นความคิดหรื อทัศนคติใน
ทางบวก การคิดในทางบวกอยู่เสมอว่าจะสามารถจัดการกับการเคลมได้ อย่างมีประสิ ทธิภาพและประสบ
ความสาเร็จ ผสานรวมกับความมั่นใจในความสามารถ การพัฒนาความร่ วมมือและแรงสนับสนุนจากทุกฝ่ าย
รวมไปถึงการใช้ ผ้ เู ชี่ ยวชาญและทีป่ รึกษา นับเป็ นหลักการสาคัญในการสร้ างความเชื่ อมั่นในการดาเนินการกับ
การเคลม โดยจะต้ องนึกถึงความสาเร็จในการเคลม ให้ มากกว่าความล้มเหลวอยู่ตลอดเวลา

Ronald Reagan Building (Federal


Triangle Project), Washington, DC.
$720M. During the construction, Dr.
Apirath as a team member of claim
consultants developed as-built
schedules from daily engineering
records and analyzed project delays and
costs to prove delay claims.

“Big Dig” Central Artery/Tunnel


Project, Boston, Massachusetts. $14.6
Billion. During the construction of this
Project, Dr. Apirath worked with one
of its subcontractors to prepare
effective claim reports, identify critical
delays, determine causes and the
responsible parties of project delays,
and ultimately evaluate project
damages.

หน้า 7 จาก 8
Penuelas Combined Cycle Power Plant, Penuelas,
Puerto Rico. $450 million combined cycle power plant
construction project consisting of a combined cycle
507MW gas turbine powered cogeneration plant, an
LNG pipeline, water lines, and a 2M gallon per day
desalination plant.
Dr. Apirath worked with the Owner’s counsel to
evaluate the designer’s performance, analyze design
deficiencies and errors, determine causes of the design
failures and damages, and identify the responsible party.

1
Dr. Apirath is a construction claim consultant and schedule expert. She has more than 10 years of experiences
in the analysis of delay claim, inefficiency claim, acceleration claim, change order claim, differing site condition claim,
and defective design claim from the United States. Her project experiences include many mega construction
projects such as Big Dig underground expressway project in Boston, Power Plant in Pueto Rico, Ronald Reagan
Federal Triangle Building Project in Washington D.C., Dubai Mall in UAE and other mega building construction
projects worldwide. Project experiences in Thailand include The MET Condominium in Bangkok, Samut Prakarn
Wastewater Treatment in Samut Prakarn, and Oil & Gas projects at CUEL Limited and Chevron Asia South
Limited. Dr. Apirath has a Ph.D. in Civil Engineering in Construction Engineering and Management from Virginia
Polytechnic Institute, USA.

หน้า 8 จาก 8

You might also like