Professional Documents
Culture Documents
ระบบดับเพลิงด้วยแก๊สไนโตรเจน - วิศวกรดับเพลิง
ระบบดับเพลิงด้วยแก๊สไนโตรเจน - วิศวกรดับเพลิง
ระบบดับเพลิงด้วยแก๊สไนโตรเจน
ระบบดับเพลิงด้วยแก๊สไนโตรเจน(IG-100)
ไนโตรเจนเป็นสารดับเพลิงชนิดหนึ่งในกลุ่มของแก๊สเฉื่อยซึ่งถูกจัดอยู่ในกลุ่มของสารสะอาดดับเพลิง ที่มีความ
สามารถในการดับเพลิง ด้วยลดออกซิเจนภายในพื้นที่ป้องกัน โดยถูกนำมาใช้ดับเพลิงแทนสารดับเพลิงฮาล่อน
1301 ตามมาตรฐาน NFPA 2001 Standard on Clean Agent Fire Extinguishing Systems
1. สารดับเพลิงแก๊สเฉื่อยชนิดเดียว คือ
1.1 IG-100 เป็นแก๊สไนโตรเจน 100%
1.2 IG-01 เป็นแก๊สอาร์กอน 100%
2. สารดับเพลิงแก๊สเฉื่อยชนิดสารผสม คือ
2.1 IG-541 เป็นส่วนผสมของแก๊ส 3 ชนิดคือ ไนโตรเจน(52%) อาร์กอน(40%) และ คาร์บอนไดออกไซด์(8%)
2.2 IG-55 เป็นส่วนผสมของแก๊ส 2 ชนิดคือ ไนโตรเจน(50%) และอาร์กอน(50%)
คุณสมบัติของแก๊สไนโตรเจน
วิธีการทำงานของระบบดับเพลิงด้วยแก๊สไนโตรเจน
แก๊สไนโตรเจนจะถูกบรรจุอยู่ในถังทนความดันซึ่งปกติจะถูกอัดความดันไว้ภายในถังประมาณ 200-300 bar เมื่อ
ระบบถูกกระตุ้นให้ทำงาน แก๊สจะถูกฉีดออกจากถังผ่านหัววาล์วซึ่งจะมีวาล์วลดความดันที่หัวถัง(Regulator) เพื่อ
ลดความดันลงเหลือประมาณ 60 bar ไปยังระบบท่อทางต่างๆและไปยังหัวฉีดสารในท้ายที่สุด
ข้อดีของระบบดับเพลิงด้วยแก๊สไนโตรเจน
1. แก๊สไนโตรเจนเป็นแก๊สที่ใช้ในอุตสาหกรรมทั่วไป หาได้ง่ายและมีราคาถูก
2. เนื่องจากไม่นำไฟฟ้าจึงทำให้ไม่เป็นอันตรายต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า และใช้งานได้อย่างกว้างขวางตั้งแต่พื้นที่ป้องกัน
ขนาดเล็ก จนถึงพื้นที่ป้องกันขนาดใหญ่ เช่น ห้องไฟฟ้า ห้องเซิฟเวอร์ ห้องอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ ฯลฯ
3. ไม่มีส่วนผสมของกรดฮาโลคาร์บอน
4. ไม่กัดกร่อนและไม่เป็นพิษ
5. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
6. ขณะระบบทำงานไม่บดบังทัศนวิสัยในการอพยพออกจากพื้นที่มากนัก ทำให้ง่ายต่อการอพยพออกจากพื้นที่
ข้อจำกัดในการออกแบบและติดตั้ง
1. พื้นที่ที่ต้องการป้องกัน(Protected area) จะต้องเป็นพื้นที่ปิด(Enclosure) เสมอ
2. การเดินท่อและการติดตั้งหัวฉีดสาร(Nozzle) จำเป็นจะต้องทำอย่างระมัดระวัง และต้องผ่านการคำนวณโดย
โปรแกรม เพื่อให้แน่ใจว่า สารดับเพลิงจะมีความดันเพียงพอที่จะสามารถฉีดออกไปได้ตามที่คู่มือของแต่ละผลิตภัณฑ์
กำหนดไว้
3. การออกแบบจะต้องออกแบบให้ระบบฉีดสารตามความเข้นข้นของสารที่ออกแบบไว้น้อยกว่า 95% ภายในระยะ
เวลาไม่เกิน 60 วินาที(สำหรับเชื้อเพลิง Class B และไม่เกิน 120 วินาที(สำหรับเชื้อเพลิง Class A และ C) และจะ
ต้องกักเก็บสารไว้ภายในห้องให้ได้อย่างน้อย 10 นาที หรือมากกว่า หากจำเป็น
4. จะต้องทำการทดสอบท่อ ด้วยความดันไม่น้อยกว่า 40 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว(psi) เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 10 นาที
โดยหลังจากผ่าน 10 นาทีไปแล้วความดันภายในท่อจะต้องไม่น้อยกว่า 80% ของความดันที่ทดสอบ
5. จะต้องติดตั้งช่องระบายความดัน(Relief pressure damper,Relief vent) โดยขนาดของช่องระบายความดันนั้น
จะต้องได้รับการคำนวณอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันความเสียหายอันเนื่องมาจากความดันที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วใน
ช่วงแรกเริ่มของการทำงานของระบบ
6. หลังจากติดตั้งทุกอย่างเสร็จแล้ว จะต้องทำการทดสอบรั่วของห้อง(Room integrity test) โดยผู้เชี่ยวชาญและ
ได้รับใบรับรองด้านการทดสอบ เพื่อที่จะมั่นใจได้ว่า สารจะไม่รั่วไหลออกจากห้องก่อนเวลาอันควร(ควรจะทำการ
ตรวจสอบทุกๆ 12 เดือน) และผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน
7. ผู้ออกแบบ ติดตั้ง ควรได้รับใบรับรองโดยตรงจากผู้ผลิต เพราะในแต่ละผลิตภัณฑ์จะมีความแตกต่างในการติดตั้ง
เล็กๆน้อยๆ ซึ่งอาจมีผลกระทบโดยตรงต่อการดับเพลิง
เพราะถึงแม้เทคโนโลยีจะพัฒนามากเพียงใด สารดับเพลิงที่ปลอดภัยต่อชีวิตมนุษย์มากที่สุดก็ยังคงเป็นน้ำเช่นเคย
ที่มา
1. NFPA 2001 Standard on Clean Agent Fire Extinguishing Systems
2. Material safety datasheet of Nitrogen3. Rotarex design manual
นายมาเฮศ ราย
Certified Water Based System Professional NFPA Certification Number: CWBSP-21-55
บทความที่เกี่ยวข้อง
สาเหตุของไฟไหม้ข้ามคลังสินค้า
กุมภาพันธ์ 3, 2023 บทความ
น้ำ
มาตรฐานการสำรองหัวกระจายน้ำดับเพลิง
สิงหาคม 30, 2021 slider, บทความ
การทำงานของโฟมดับเพลิงกับเหตุโรงงานระเบิดที่บางพลี
บริษัทสิงหาคม
วิศวกรดับเพลิง
30, 2021 จำกัด
บทความ
ข้อมูลองค์กร +
ติดต่อเรา +
เครือข่ายสังคมออนไลน์