Professional Documents
Culture Documents
ข้อเสนอโครงงานทางวิศวกรรมเคมี
ชื่อโครงงาน การออกแบบเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานสาหรับกระบวนการทีส่ ภาวะไครโอเจนิกส์
Energy optimization in cryogenic process
แก๊สธรรมชาติเป็นแหล่งพลังงานที่ถูกนามาใช้อย่างหลากหลายในด้านต่าง ๆ แต่สาหรับกระบวนการแยกแก๊สธรรมชาติในส่วนของ
หน่วยแยกอีเทนที่ใช้เทคโนโลยีหอกลั่น Demethanizer และ Turbo-Expander มีข้อจากัดในด้านการใช้พลังงาน และต้นทุนดาเนินการที่สูง
เนื่องมาจากกระบวนการต้องดาเนินที่สภาวะไคโอเจนิกส์ (Cryogenic) เพื่อการดาเนินการตามสภาวะดังกล่าวจึงจาเป็นจะต้องมีหน่วยทา
ความเย็น และการแลกเปลี่ยนความร้อนระหว่างหลายสาย สาหรับรายงานฉบับนี้มีจุดประสงค์ได้แก่การออกแบบโรงงานแยกแก๊สธรรมชาติ
ในส่วนของหน่วยแยกอีเทน (Ethane Recovery Unit) โดยมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและลดต้นทุนของกระบวนการ
โดยใช้โปรแกรม Aspen Plus V11 เป็นโปรแกรมจ าลองในการออกแบบกระบวนการ โมเดลทางเทอร์โมไดนามิกส์ที่เลือกใช้คือ Peng-
Robinson โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการออกแบบแผนผังการไหลของกระบวนการ การเลือกชนิดและการกาหนดขนาดของอุปกรณ์ และการ
ออกแบบแผนผังที่แสดงรายละเอียดของระบบท่อและอุปกรณ์ (Piping and Instrumentation Diagram) รวมทั้งได้มีการค านวณปัจจัย
ทางด้านเศรษฐศาสตร์ ความปลอดภัย และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยจากผลลัพธ์กระบวนการที่ออกแบบสามารถลดพลังงานลง เมื่อ
เทียบกับกระบวนการแบบ Gas Subcooled process (GSP) ซึ่งเป็นกระบวนการอย่างง่ายในระบบหน่วยแยกอีเทน
Abstract
Natural gas is a widely used as energy source in various fields, but there are limitations in terms of energy
consumption and high cost for natural gas separation processes using demethanizer tower and turbo-expander
technology. The process must be carried out in cryogenic condition. The purpose of this report is to design a natural
gas separation plant in part of the ethane recovery unit to increase energy efficiency and minimize utility cost by using
Aspen Plus V11 as a process design simulation program. The used thermodynamic model is Peng-Robinson. The report
contains the contents of the process flow diagram, the design of device sizing and Piping and Instrumentation Diagram
(P&ID), including the calculation of economic factors, safety and environmental impact. The result is the designed
process can reduce energy compared to the Gas Subcooled process (GSP), which is a simple process of the natural gas
separation.
1
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
ในปัจจุบันแก๊สธรรมชาติมีบทบาทมากขึ้นในการนามาใช้ประโยชน์ในแต่ละภาคอุตสาหกรรม เช่น การใช้แก๊สมีเทนในโรงงานไฟฟ้า
ส าหรับผลิตพลังงานไฟฟ้า ใช้เป็นสารให้ความร้อนในโรงงานอุตสาหกรรม ใช้เป็นเชื้อเพลิงในยานพาหนะ และใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต
ปุ๋ยเคมี การใช้อีเทนและโพรเพนในการผลิตเอทีลีนและโพรพีลีน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นสาคัญสาหรับผลิตเม็ดพลาสติก มีการนาบิวเทนมาผสมกับ
โพรเพนเป็นแก๊สหุงต้ม นอกจากนี้การใช้แก๊สธรรมชาติสามารถช่วยลดการสร้างก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน และแก๊ส
ธรรมชาติมีความปลอดภัยสูงเนื่องจากมีน้าหนักที่เบากว่าอากาศซึ่งจะลอยขึ้นเมื่อเกิดการรั่ว
ดังนั้นจากปัญหาดังกล่าว รายงายฉบับนี้ได้มีรายละเอียดเกี่ยวกับการออกแบบกระบวนการแยกแก๊สธรรมชาติในส่วนของหน่วย
แยกแก๊สมีเทนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงานและเพิ่มกาไรสุทธิของกระบวนการโดยยังคงตามสเปคที่ต้องการ
วัตถุประสงค์ของโครงงาน
1. ออกแบบกระบวนการแยกแก๊สธรรมชาติ ในส่วนของหน่วยแยกอีเทนโดยใช้โปรแกรมจ าลองในการค านวณสมดุลมวลและ
สมดุลพลังงาน ออกแบบผังการไหลของกระบวนการ การพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การเลือกวัสดุและการกาหนด
ขนาดของอุปกรณ์ การออกแบบขนาดของท่อ การออกแบบระบบควบคุม การวิเคราะห์เชิงเศรษฐศาสตร์ และการวิเคราะห์
ปัจจัยทางด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม
2. เพือ่ พัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงานและเพิ่มผลกาไรของกระบวนการ โดยสารผลิตภัณฑ์ยังคงสแคตามทีต่ ้องการ โดยมีค่า
Recovery ของอีเทนที่ก้นหออย่างน้อย 97.5 เปอร์เซ็นต์ และอัตราส่วนโมลของมีเทนต่ออีเทนที่ก้นหอมีค่าไม่เกิน 0.015 และ
มีสภาวะอุณหภูมิไม่เกิน 50 องศาเซลเซียส ความดันมากกว่า 30 บาร์ และแก๊สมีเทนที่ออกจากยอดหอมีค่าดัชนี Wobbe อยู่
ในช่วง 1220-1340 BTU/SCF ที่สภาวะความดัน 44 บาร์เกจ อุณหภูมิไม่เกิน 50 องศาเซลเซียส
2
ขอบเขตของการทาโครงการ
ออกแบบกระบวนการแยกแก๊สธรรมชาติที่สภาวะไคโอเจนิกส์ซึ่งเป็นส่วนที่มีหน้าที่แยกสารอีเทนออกจากตัวที่เบากว่าได้แก่มีเทน โดย
รับสายป้อนมาจากสายขาออกจากกระบวนการกาจัดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ แก๊สไฮโดรเจนซัลไฟด์ และน้า ขนาด 390 MMSCFD ที่สภาวะ
อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส และความดัน 42 บาร์เกจ มีองค์ประกอบได้แก่ มีเทน 80.36 เปอร์เซ็นต์, อีเทน 9.23 เปอร์เซ็นต์, โพรเพน 5.06
เปอร์เซ็นต์ , ไอโซบิวเทน 1.27 เปอร์เซ็นต์ , นอร์มัลบิวเทน 1.09 เปอร์เซ็นต์ , ไอโซเพนเทน 0.35 เปอร์เซ็นต์ , นอร์มัล เพนเทน 0.22
เปอร์เซ็นต์, นอร์มัลเฮกเซน 0.23 เปอร์เซ็นต์ และแก๊สไนโตรเจน 2.19 เปอร์เซ็นต์
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากโครงงาน
สามารถนากระบวนการที่ออกแบบไปพัฒนาต่อยอดเพื่อการพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่มีคณ
ุ ภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถ
ช่วยเพิ่มผลกาไร และลดต้นทุนของกระบวนการได้ และสามารถนากระบวนการไปพัฒนาต่อยอดเพื่อเพิ่มความแม่นยาจากการใช้โปรแกรม
จาลองสภาวะกระบวนการ
3
ทฤษฎีและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
1. กระบวนการแยกแก๊สธรรมชาติ
รายละเอียดของกระบวนการ
หน่ ว ยแยกแก๊ ส ธรรมชาติ ร วม (Ethane Recovery Unit) เริ ่ ม ต้ น จากการรั บ สายป้ อ นที ่ ม าจากกระบวนการก าจั ด แก๊ ส
คาร์ บ อนไดออกไซด์ แก๊ ส ไฮโดรเจนซัล ไฟด์ และน ้ า ซึ ่ง ก าจั ด องค์ ป ระกอบเจื อ ปนในแก๊ ส ธรรมชาติ เพื ่ อป้ อ งกั นการแข็งตั ว ของแก๊ส
คาร์บอนไดออกไซด์ในขณะอยู่ในระบบ และป้องกันไม่ให้ปรอทและน้ากัดกร่อนอุปกรณ์ ซึ่งนิยมใช้วิธี Adsorption หรือ Absorption แก๊ส
ธรรมชาติที่กาจัดแก๊สกรดแล้วจะผ่านเข้าไปสู่ส่วน Cryogenic section ซึ่งใช้ Turbo-expander เพื่อปรับความดันและอุณหภูมิ จากนั้นจึง
ป้อนเข้าสู่หอแยกมีเทน (de-Methanizer) แก๊สมีเทนและองค์ประกอบที่เบากว่ามีเทนจะถูกกลั่นแยกออกไปทางยอดหอ และองค์ประกอบที่
เป็นไฮโดรคาร์บอนที่มีคาร์บอนตั้งแต่ 2 อะตอมขึ้นไปที่ (Ethane plus stream) ซึ่งอยู่ในเฟสของเหลว และจะออกทางส่วนล่างของหอแยก
มีเทน ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลวจากหอแยกมีเทนผ่านเข้าสู่หอแยกอีเทน (de-Ethanizer) และหอแยกโพรเพน (de-Propanizer) เพื่อแยกอี
เทนและโพรเพนออ และสารตัวหนักอื่นต่อไปตามลาดับ
ตารางที่ 1 องค์ประกอบสารตัวเบาที่พบมากในแก๊สธรรมชาติในขอบเขตที่พิจารณา
องค์ประกอบ
1 ไฮโดรเจน
2 มีเทน
3 เอทิลีน
4 อีเทน
5 โพพิลีน
6 โพเพน
7 ไอโซบิวเทน
8 นอร์มัลบิวเทน
4
ในการออกแบบกระบวนการจาเป็นต้องเลือกใช้โมเดลทางเทอร์โมไดนามิกส์ให้เหมาะสมกับประเภทของสารในระบบ สาหรับแก๊ส
ธรรมชาติทมี่ อี งค์ประกอบดังแสดงในตารางที่ 1 และมีแก๊สชนิดอื่นเจือปน เช่น ไนโตรเจน และคาร์บอนไดออกไซด์ พิจารณาโมเดลทางเทอร์
โมไดนามิกส์โดยใช้ Eric Carlson's Recommendations โดยหน่วย Ethane recovery มีสายป้อนที่มีองค์ประกอบเป็นสารไฮโดรคาร์บอน
ที่เป็นสารไม่มีขั้วทั้งหมด จึงเหมาะกับการใช้ EOS model ดังแสดงในรูปที่ 2
เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
5
รูปที่ 3 เทคโนโลยี Gas Subcooled Process อย่างง่าย
6
จากสิ ท ธิ บ ั ต ร Multiple Reflux Stream Hydrocarbon Recovery Process [2] น าเสนอ Ethane recovery process ใน
รูปแบบที่มีสายของเหลวของ Reflux เข้าหอแยกมีเทนหลายสายดังแสดงในรูปที่ 5 เริ่มต้นแก๊สสายป้อนที่อุณหภูมิ 90 องศาฟาเรนไฮต์ ความ
ดัน 800 psia ถูกแบ่งออกเป็นสองสายในสัดส่วนที่ต่างกันและถูกลดอุณหภูมิ ส่งผลให้เกิดเฟสของเหลวขึ้นจึงผ่านดรัมเพื่อแยกเฟสที่อุณหภูมิ
-31 องศาฟาเรนไฮต์ ความดัน 795 psia ซึ่งของเหลวที่ออกจากดรัมจะถูกป้อนเข้าหอแยกมีเทนที่ -70 องศาฟาเรนไฮต์ 257 psia โดยปรับ
ความดันโดยใช้วาล์ว ส่วนไอจากดรัม ถูกแบ่งสัดส่วนออกเป็นสองสายและลดอุณหภูมิรวมถึงปรับความดัน โดยสายไอสายหนึ่งใช้ Turbo-
expander ในการลดอุณหภูมิของไอก่อนจะป้อนเข้าหอแยกมีเทนที่อุณหภูมิ -115 องศาฟาเรนไฮต์และความดัน 252 psia สายไออีกสาย
หนึ่งลดอุณหภูมิโดยใช้สายผลิตภัณฑ์จากยอดหอซึ่งมีอุณหภูมิต่าที่สุดในหอที่ -164 องศาฟาเรนไฮต์ และปรับความดันโดยใช้วาล์วก่อน
ป้อนเข้าหอแยกมีเทนที่ความดัน 252 psia โดยรวมในระบบมีสายที่ถูกป้อนเข้าหอแยกมีเทนทั้งหมด 4 สาย และผลิตภัณฑ์ก้นหอจะเป็น
ไฮโดรคาร์บอนตั้งแต่ คาร์บอนสองอะตอมขึ้นไป ส่วนผลิตภัณฑ์ยอดหอมีมีเทนเป็นองค์ประกอบหลัก จากข้อมูลการออกแบบนี้แสดงค่า
Ethane recovery อยู่ที่ 95.79 เปอร์เซ็นต์ และกาลังที่ใช้ในระบบอยู่ที่ 56720 แรงม้า
7
รูปที่ 6 Ethane recovery process แบบมีสายเข้าหอแยกมีเทนห้าสาย
จากการศึกษาสิทธิบัตร Synthesis and Design of Demethanizer Flowsheets for Low Temperature Separation Process
[3] นาเสนอกระบวนการ NGL Recovery ผ่านโปรแกรมจาลอง HYSYS โดยมีพื้นฐานมาจากเทคโนโลยี GSP ดังแสดงในรูปที่ 7 คือนาสาย
ผลิตภัณฑ์จากยอดหอแลกเปลี่ยนความร้อนกับแก๊สที่เป็นสายป้อนเพื่อลดอุณหภูมิของสายป้อน จากนั้นจะผ่าน Refrigeration cycle เพื่อให้
อุณหภูมิสายป้อนต่าลงโดยมีการใช้โพรเพนเป็นสารให้ความเย็น หลั งจากผ่านการลดอุณหภูมิส่งผลให้มีบางส่วนควบแน่นเป็นของเหลว จึงมี
การแยกสถานะของไอและของเหลว จากนั้นจึงปรับความดันของไอและของเหลวโดนใช้วาล์วและ Turbo-expander ก่อนป้อนเข้าสู่หอแยก
มีเทนซึ่งมีสายป้อนเข้าหอทั้งหมด 3 สาย หอแยกมีเทนเป็น Absorption column แบบมี Reboiler ประกอบด้วยจานวนชั้นทั้งหมด 30 ชั้น
สายป้อนเข้าหอทั้ง 3 สายถูกป้อนที่ชั้นต่างกันคือชั้นที่ 1 ชั้นที่ 12 และชั้นที่ 23
8
2. หลักการของอุปกรณ์ในกระบวนการ
De-methanizer
ในกระบวนการแยกแก๊สธรรมชาติ หอแยกมีเทนมักเป็นหอกลั่น (Distillation column) ที่ดาเนินการที่สภาวะอุณหภูมิต่าและที่
ความดันสูง ซึ่งหอกลั่นถูกให้อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม หลักการขอหอกลั่นคืออาศัยความแตกต่างของการกลายเป็นไอของ
สารที่แตกต่างกันในการแยกสารออกจากกัน ภายในหอมีการไหลสวนกันของสายไอและสายของเหลว โดยสายไอไหลจากด้านล่างสู่ด้านบน
ของหอกลั่นและสัมผัสกับสายของเหลวซึ่งไหลลงจากด้านบนของหอกลั่น การสัมผัสกันของสายไอและสายของเหลวทาให้สารตัวเบาที่มีจุด
เดือดต่ากว่าที่อยู่ในสายของเหลวกลายเป็นไอเมื่อเจอกับสายไอที่อุณหภูมิสูงกว่า ส่วนสารตัวหนักที่มีจุดเดือดสูงกว่าในสายไอจะควบแน่นเมื่อ
สัมผัสกับสายของเหลวที่อุณหภูมิต่ากว่า จึงทาให้เ กิดการแยกกันโดยที่ยอดหอพบว่ามีสารตัวเบาที่จุดเดือดต่าอยู่มาก และที่ก้นหอมีสารตัว
หนักที่จุดเดือดสูงอยู่มาก ในการออกแบบหอกลั่นมีแนวทางดังแสดงในรูปที่ 8
9
Joule-Thomson Expansions
ในกระบวนการแยกแก๊สธรรมชาติจาเป็นต้องมีการลดอุณหภูมิของแก๊สด้วยวิธีการต่าง ๆ หนึ่งในวิธีการลดอุณหภูมิคือการลดความ
ดันโดยใช้วาล์วภายใต้กระบวนการแบบ Adiabatic ปรากฏการณ์การลดอุณหภูมิโดยการลดความดันนี้เป็นกระบวนการที่เอนทัลปีคงที่เมื่อ
ความดันปลายน้อยกว่าความดันเริ่มต้น ซึ่งเกิดจากมีตัวกักการไหลของแก๊สหรือจากการเปลี่ยนแปลงของหน้าตัดท่อ ค่าอุณหภูมิของแก๊สจะ
เปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ขึ้นกับอุณหภูมิ เริ่มต้น ความดันเริ่มต้น ความดันที่เปลี่ยนไปและขึ้นกับองค์ประกอบของแก๊สด้วย แก๊ส บางตัวเช่น
ไฮโดรเจนและฮีเลียมเมื่อขยายตัวแล้วจะทาให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นแทน
Turbo-expander
Turbo-expander ถู ก น ามาใช้ ใ นหน่ ว ย Ethane Recovery เพื ่ อ เพิ ่ ม ประสิ ท ธิ ภ าพแทนการใช้ Joule-Thomson valve ซึ่ ง
สามารถลดอุณหภูมิได้มากกว่าใช้ Joule-Thomson valve เมื่อแก๊สผ่านเข้ามาและเกิดการขยายตัวหรือเป็นการลดความดันจะเป็นการให้
งานจากการลดลงของเอนทัลปีของแก๊สที่เอนโทรปีคงที่ ซึ่งการลดลงของเอนทัลปีนี้ทาให้อุณหภูมิของแก๊สลดลง งานที่ได้จากการขยายตัวของ
แก๊สถูกนาไปใช้ขับ Compressor ที่ใช้เพิ่มความดันให้กับแก๊สได้
Compressor
Compressor เป็นหนึ่งอุปกรณ์ที่นิยมใช้ในกระบวนการลดอุณหภูมิ เป็นเครื่องมือในการเพิ่มความดันให้กับ ของไหลในเฟสไอ การ
เปลี่ยนแปลงไปของความดันให้มีค่าเพิ่มขึ้นส่งผลให้อุณหภูมิของสารที่เฟสไอเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นเช่นกัน แบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก คือ
Positive displacement ซึ่งเป็นระบบที่บีบอัดของไหลโดยอาศัยหลักการการลดปริมาตรของไอหรือเพิ่มความหนาแน่นเพื่อเพิ่มความดัน
ให้กับไอ ตัวอย่างเช่น Reciprocating compressor และ Rotary compressors ประเภทที่สองคือแบบ Dynamic ตัวอย่างเช่น Centrifugal
compressor ซึ่งพบได้มากในการใช้งานในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมและการแยกแก๊สธรรมชาติ ใช้หลักการเปลี่ยนพลังงานจากความเร็วของ
ของไหลให้เป็นความดันที่เพิ่มขึ้น
3. แนวทางการออกแบบหอกลั่น
สาหรับกระบวนการแยกแก๊สธรรมชาติ เนื่องมาจากจุดประสงค์การออกแบบคือเพื่อแยกอีเทนออกจากมีเทนซึ่งเป็นสารในสายป้อน
ที่มีเฟสเป็นแก๊ส ซึ่งการควบแน่นแก๊สให้กลายเป็นของเหลวนั้นต้องใช้หอกลั่นที่มีสภาวะการดาเนินการแบบไคโอเจนิกส์ จากเหตุผลดังกล่าว
ทาให้การใช้น้าหล่อเย็นเพื่อการควบแน่นของไหลในสายที่ออกจากยอดหอนั้นไม่สามารถดาเนินการได้ เนื่องมาจากที่ยอดหอมีอุณหภูมิติดลบ
ประมาณ -90 ถึง -160 องศาเซลเซียส เนื่องจากเป็นอุณหภูมิในช่วงที่แก๊สมีเทนมีสถานะเป็นไอและอีเทนเป็นของเหลว แต่น้าหล่อเย็น มี
อุณหภูมิเพียง 35 องศาเซลเซียส ดังนั้นตามข้อแนะนาของหลักการออกแบบจะใช้มีเทนเป็นสารให้ความเย็นแทนการใช้น ้าหล่อเย็น แต่
เนื่องมาจากการใช้มีเทนเป็นสารให้ความเย็นส่งผลให้ต้องใช้พลังงานรวมถึงต้นทุนในการดาเนินการที่สูงขึ้นมาก จึงมีแนวทางการออกแบบ
การลดอุณหภูมิของสายป้อนโดยการใช้สายที่ออกจากยอดหอมารับความร้อนเพื่อลดอุณหภูมิสายป้อนลงบางส่วน และใช้โพรเพนลดอุณหภูมิ
เป็น -22 องศาเซลเซียส
การก าหนดความดั น ของหอกลั ่ น อ้ า งอิ งจากสภาวะของสายขาออกที ่ Turbine ซึ ่ งเป็ น หนึ ่ งในสายป้ อ นเข้ า สู่ ห อกลั ่ น De-
methanizer ซึ่งมีข้อจากัดคือสภาวะขาออกที่ Turbine ต้องคงความเป็นไอเพื่อป้องกันการเกิดการควบแน่นขึ้นภายในอุปกรณ์
10
วิธีการดาเนินการ
การดาเนินโครงการแบ่งขั้นตอนโดยภาพรวมออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ การเข้าใจภาพรวมของกระบวนการและศึกษาสภาวะการ
ดาเนินงานจากเทคโนโลยีในปัจจุบันและส่วนที่สองคือ การออกแบบกระบวนการโดยใช้สภาวะตามโจทย์ที่ได้รับมอบหมายจริง
1. เข้าใจภาพรวมของกระบวนการและศึกษาสภาวะการดาเนินงานจากเทคโนโลยีในปัจจุบัน
เริ่ม วิเคราะห์ผล
เข้าใจภาพรวมของ
Matching
กระบวนการ
เลือกโมเดลทางเทอโมไดนามิกส์ ใช่
ไม่ สรุปผล
ใส่/ปรับ
พารามิเตอร์
จบ
Simulation
รูปที่ 9 ขั้นตอนการดาเนินการสร้างแบบจาลองและตรวจสอบความแม่นยาของการจาลอง
ขั้นตอนที่ 1 : เข้าใจภาพรวมกระบวนการ
ขั้นตอนที่ 2 : การเลือกโมเดลทางเทอร์โมไดนามิกส์
2. การออกแบบกระบวนการโดยใช้สภาวะตามโจทย์
ขั้นตอนที่ 3 : การเลือกวัสดุและกาหนดขนาดของอุปกรณ์
ขั้นตอนที่ 5 : วิเคราะห์ปัจจัยทางด้านเศรษฐศาสตร์
ขั้นตอนที่ 6 : วิเคราะห์ปัจจัยทางด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม
รูปที่ 10 แนวทางการออกแบบกระบวนการ
12
ตารางที่ 2 ตารางแผนการทางานในแต่ละขั้นตอนตลอดระยะเวลาโครงการ
13
ผลการดาเนินการเบื้องต้น
การใช้โปรแกรมจาลองการออกแบบ
รูปที่ 11 แผนผังการไหลของกระบวนการจากโปรแกรมจาลองการออกแบบ
14
ตารางที่ 3 ผลลัพธ์จากการจาลองกระบวนการ
15
11PSV
101A
P-292 P-292
TO SAFE LOCATION
FIC FIC
01 01
11PSV
101B
FI
01
P-236 FI
TI
FT
FCV FT
01 FCV TT
01 P-299 P-266
V-120
PC TI
P-239 101 PCV
V-133
P-282 V-133
NOTE
TT
PT V-132
V-134
V-132 P-265
101
V-124 V-125 V-126 V-133 V-133
V-119
HH V-108
V-100 P-276
MH LG LT LI AHH ESD LG LT
102 102 100 101
xxx 101 101
V-101 LL
E-19 V-107 LC
P-211 101
V-108
V-127
TI
TT
P-272 P-273 P-275
V-121 V-121
V-123
V-122 V-122
V-121 V-121
16
PS V
101
TT
TI 02
PS V
101
TT
TT 02
SLOPE
NO POCKET
VE NT
SLOPE
NO POCKET
TO SAFE LOCATION
FIC
02
FI
02
FT
FIC FCV DRAI N
02 Note
01 02
FI PI
TI SLOPE TT TI
01
01 01
NO POCKET
FT TT PT
FCV
01 01 01
01
PS V
102
Note
TI TT
03
PSV
102 TT
TI
03
VE NT
SLOPE
NO POCKET
DRAI N
TT TI
17
RELIFE
PIC
401
PI
401
FL
PT
401
TIC TI TT
401 401 401
FL #1
TT
#18 501
TI
501
#20
Level LIC
flash 401
TT TI
FL
#33 601 601
#40
LI LT #58
301 301
TT TI
401 401
LIC
301 TIC
401
FL
UTILITY
FLASH FL
18
PIC
301
PI
301
FL
PT
301
TIC TI TT
101 101 101
FL #1
#7
#27
#37
LT LI
301 301
LIC
301
FL
19
ปัญหาที่พบ
1. จากการคานวณไฮดรอลิคเบื้องต้นพบว่าขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อบางส่วนมีขนาดมาก
2. เมื่อทาการกาหนดขนาดของอุปกรณ์พบว่าขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของหอกลั่นมีขนาดมาก
3. บริเวณคอมเพลสเซอส์ MC-201 ใช้กาลังมาก
20
เอกสารอ้างอิง
[1] Sanjiv N. Patel, Jorge H. Foglietta. US 7793517 B2, United States Patent, 14 September 2010. Google
Patents, https://patents.google.com/patent/US7793517?oq=US+7793517+B2
[2] David M. Thom, Jeffrey R. Garrison, David Farr. US 2020/0072546 A1, United States Patent Application
Publication, 5 March 2020. Google Patents,
https://patents.google.com/patent/US20200072546A1/en?oq=US+2020%2f0072546+A1
[3] Dr. Megan Jobson. (2011). Synthesis and Design of Demethaniser Flowsheets for Low Temperature
Separation Processes. Faculty of Engineering and Physical Sciences.The University of Manchester.
[4] Natural Gas Liquids from the Associated Flare Gas Stream: Monetized in Real-Time via Various Qualitative
Products - Scientific Figure on ResearchGate. Available from:
https://www.researchgate.net/figure/Solid-adsorption-dehydration-component-in-ethane-recovery-plant-
Source-Adapted-from_fig5_321649427 [accessed 3 Nov, 2022]
21