Professional Documents
Culture Documents
ตัวบทกฎหมายพาณิชย์3
ตัวบทกฎหมายพาณิชย์3
ตัวบทกฎหมายพาณิ ชย์ 3
A. ข้อสอบข้อที่ 1 หน่วยที่ 1-2 เรื่ องค้ าประกัน อาจจะออก A+D หรื อ B+C
มาตรา 680 อันว่าคา้ ประกันนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลภายนอกคนหนึ่ง เรี ยกว่าผูค้ ้ าประกัน
ค้ าประกัน ผูกพันตนต่อเจ้าหนี้คนหนึ่งเพื่อชาระหนี้ในเมื่อลูกหนี้ไม่ชาระหนี้น้ นั
อนึ่งสัญญาคา้ ประกันนั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็ นหนังสื ออย่างใดอย่างหนึ่งลง
ลายมือชื่อผูค้ ้ าประกันเป็ นสาคัญ ท่านว่าจะฟ้องร้องให้บงั คับคดีหาได้ไม่
ว.2 หลักฐานเป็ นหนังสื อไม่ ใช่ แบบ ดังนั้นจึงมีลักษณะเป็ นเอกสาร, จดหมาย,หนังสื อ
หรื ออะไรก็ได้ ที่มีข้อความว่ าคา้ ประกันกันจริ งและมีลายมือชื่ อผู้คา้ ประกันเป็ นสาคัญ
แต่ ถ้าไม่ มีหลักฐานเป็ นหนังสื อหรื อลงลายมือชื่ อผู้คา้ ประกัน ก็ไม่ ได้ ทาให้ สัญญาเป็ น
โมฆะเสียเปล่ าแต่ ประการใด เพียงแต่ จะฟ้องร้ องบังคับคดีไม่ ได้
สัญญาคา้ ประกันเป็ นสัญญาอุปกรณ์
มาตรา 681 อันคา้ ประกันนั้นจะมีได้ แต่ เฉพาะเพื่อหนีอ้ นั สมบูรณ์
ว.1 หนี้น้ นั สมบูรณ์ หนีใ้ นอนาคตหรื อหนี้ที่มีเงื่อนไข จะประกันไว้เพื่อเหตุการณ์ซ่ ึงหนี้น้ นั อาจเป็ น
ว.2 หนี้ในอนาคต ผลได้จริ ง ก็ประกันได้
ว.3 หนี้ประธานบกพร่ อง หนีอ้ นั เกิดแต่ สัญญาซึ่งไม่ ผูกพันลูกหนี้ เพราะทาด้วยความสาคัญผิดหรื อเพราะ
เป็ นผูไ้ ร้ความสามารถนั้น ก็อาจจะมีประกันอย่ างสมบูรณ์ ได้ ถ้ าหากว่ าผู้คา้ ประกันรู้ เหตุ
สาคัญผิดหรื อไร้ ความสามารถนั้นในขณะที่เข้ าทาสั ญญาผูกพันตน
หนีร้ ะหว่ างเจ้ าหนีก้ ับลูกหนีเ้ ป็ นหนีป้ ระธาน และหนีร้ ะหว่ างเจ้ าหนีก้ ับผู้คา้ ประกันเป็ น
หนีอ้ ุปกรณ์ ถ้ าหนีป้ ระธานไม่ สมบูรณ์ กม็ ีผลทาให้ หนีอ้ ุปกรณ์ เสียไปด้ วย
ว.3 ถ้ าไม่ ร้ ู เหตุสาคัญผิด สัญญาก็ไม่ ผูกพันผู้คา้ ประกันที่สาคัญผิดหรื อเป็ นผู้ไร้
ความสามารถ
มาตรา 682 ท่านว่าบุคคลจะยอมเข้าเป็ น ผู้รับเรื อน คือเป็ นประกันของผูค้ ้ าประกันอีก
ว.1 ผูร้ ับเรื อน ชั้นหนึ่ง ก็เป็ นได้
ว.2ผูค้ ้ าประกันหลายคน ถ้ าบุคคลหลายคนยอมตนเข้ าเป็ นผู้คา้ ประกันในหนีร้ ายเดียวกันไซร้ ท่านว่าผูค้ ้ า
ประกันเหล่านั้นมีความรับผิดอย่ างลูกหนี้ร่วมกัน แม้ถึงว่าจะมิได้เข้ารับค้ าประกัน
รวมกัน
ผู้รับเรื อน ไม่ ใช่ ผ้ คู า้ ประกันลูกหนี ้ ความรั บผิดชอบของผู้รับเรื อนจึงมิได้ เกิดขึน้ เมื่อ
ลูกหนีไ้ ม่ ใช้ หนี ้ แต่ จะเกิดขึน้ เมื่อผู้คา้ ประกันไม่ ใช้ หนี ้
มาตรา 683 อันคา้ ประกันอย่างไม่มีจากัดนั้นย่อมคุม้ ถึงดอกเบี้ย และค่าสิ นไหมทดแทนซึ่ง
ลูกหนี้คา้ งชาระ ตลอดจนค่าภาระติดพันอันเป็ นอุปกรณ์แห่งหนี้รายนั้นด้วย
ขอบเขตความรับผิดของผูค้ ้ าประกัน (ถ้าไม่ Limited ก็ใช้มาตรานี้ แต่ถา้ Limited ก็ตาม
หน้า 2 จาก 30
ข้อตกลง)
มาตรา 684 ผู้คา้ ประกันย่ อมรับผิดเพื่อค่ าฤชาธรรมเนียมความซึ่งลูกหนีจ้ ะต้ องใช้ ให้ แก่ เจ้ าหนี้
ค่าฤชาธรรมเนียมความ แต่ถา้ โจทก์ฟ้องคดีโดยมิได้เรี ยกให้ผคู ้ ้ าประกันชาระหนี้ น้ นั ก่อนไซร้ ท่านว่าผูค้ ้ าประกัน
เป็ นค่าใช้จ่ายอุปกรณ์ หาต้องรับผิดเพื่อใช้ค่าฤชาธรรมเนียมเช่นนั้นไม่
ค่ าฤชาธรรมเนียมความเป็ นค่ าใช้ จ่ายอุปกรณ์ อีกอย่างหนึ่งซึ่ งผู้คา้ ประกันจะต้ องรั บผิด
หมายเหตุ; ถ้ าไม่ ได้ ฟ้องผู้คา้ ประกันตั้งแต่ เริ่ มฟ้องคดี จะเรี ยกร้ องค่ าธรรมเนียมจากผู้คา้
ประกันไม่ ได้
มาตรา 685 ถ้าเมื่อบังคับตามสัญญาค้ าประกันนั้น ผู้คา้ ประกันไม่ ชาระหนี้ท้งั หมดของลูกหนี้
ผลของการบังคับชาระหนี้ รวมทั้งดอกเบีย้ ค่ าสิ นไหมทดแทน และอุปกรณ์ ด้วยไซร้ หนีย้ ังเหลืออยู่เท่ าใด ท่านว่า
เอาแก่ผคู ้ ้ าได้ไม่ครบ ลูกหนีย้ ังคงรับผิดต่อเจ้ าหนีใ้ นส่ วนที่เหลือนั้น
B. ผลก่อนชาระหนี้
มาตรา 686 ลูกหนีผ้ ิดนัดลงเมื่อใด ท่ านว่ าเจ้ าหนีช้ อบที่จะเรียกให้ ผ้ คู า้ ประกันชาระหนีไ้ ด้ แต่
ลูกหนี้ผิดนัด นั้น
แต่ ไม่ ได้ เรี ยกให้ ผ้ คู า้ ประกันชาระหนีไ้ ด้ ทันที ต้ องไล่ เบีย้ เอาจากลูกหนีถ้ ึงที่สุดก่ อน
มาตรา 687 ผู้คา้ ประกันไม่ จาต้ องชาระหนีก้ ่ อนถึงเวลากาหนดที่จะชาระ แม้ถึงว่าลูกหนี้จะ
กรณี ที่ลูกหนี้ไม่อาจถือ ไม่อาจถือเอาประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาเริ่ มต้นหรื อเวลาสิ้ นสุ ดได้ต่อไปแล้ว
ประโยชน์แห่งเงื่อนเวลา
มาตรา 688 เมื่อเจ้าหนี้ทวงให้ผคู ้ ้ าประกันชาระหนี้ ผูค้ ้ าประกันจะขอให้เรี ยกลูกหนี้ชาระ
ผูค้ ้ าประกันต้องชาระหนี้ ก่อนก็ได้ เว้ นแต่ ลูกหนีจ้ ะถูกศาลพิพากษาให้ เป็ นคนล้ มละลายเสี ยแล้ ว หรื อไม่ ปรากฏว่ า
ทันทีมี 2 กรณี ลูกหนีไ้ ปอยู่แห่ งใดในพระราชอาณาเขต
มาตรา 689 ถึงแม้จะได้เรี ยกให้ลูกหนี้ชาระหนี้ดงั กล่าวมาในมาตราก่อนนั้นแล้วก็ตาม ถ้ าผู้คา้
เจ้าหนี้ ตอ้ งบังคับชาระหนี้ ประกันพิสูจน์ ได้ ว่า ลูกหนี้น้ ันมีทางที่จะชาระหนีไ้ ด้ และการที่จะบังคับให้ ลูกหนีช้ าระ
เอาจากลูกหนี้ก่อน หนีน้ ้ ันจะไม่เป็ นการยากไซร้ ท่านว่าเจ้าหนี้จะต้องบังคับการชาระหนี้ รายนั้นเอาจาก
ทรัพย์สินของลูกหนี้ก่อน
มาตรา 690 ถ้ าเจ้ าหนีม้ ีทรัพย์ ของลูกหนีย้ ึดถือไว้ เป็ นประกันไซร้ เมื่อผูค้ ้ าประกันร้องขอ
เจ้าหนี้มีทรัพย์สินของ ท่านว่าเจ้าหนี้จะต้องให้ชาระหนี้เอาจากทรัพย์ซ่ ึงเป็ นประกันนั้นก่อน
ลูกหนี้อยูใ่ นครอบครอง
มาตรา 691 ถ้าผูค้ ้ าประกันต้องรับผิดร่ วมกันกับลูกหนี้ ท่านว่าผูค้ ้ าประกันย่อมไม่มีสิทธิ
กรณี ผคู ้ ้ าประกันไม่มีสิทธิ ดังกล่าวไว้ในมาตรา 688,689,690
เบี่ยงบ่าย
ร่ วมกันกับลูกหนี ้ = เป็ นลูกหนีร้ ่ วม ทั้ง3 มาตราก่ อนหน้ าก็เป็ นหมันใช้ การไม่ ได้
หน้า 3 จาก 30
A
มาตรา 702 อันว่าจานองนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลหนึ่ง เรี ยกว่าผูจ้ านอง เอาทรัพย์สินตราไว้
ความหมายสัญญาจานอง แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรี ยกว่าผูร้ ับจานอง เป็ นประกันการชาระหนี้ โดยไม่ส่งมอบ
ทรัพย์สินนั้นให้แก่ผรู ้ ับจานอง
ผูร้ ับจานองชอบที่จะได้รับชาระหนี้จากทรัพย์สินที่จานองก่อนเจ้าหนี้สามัญ มิ
พักต้องพิเคราะห์วา่ กรรมสิ ทธิ์ในทรัพย์สินจะได้โอนไปยังบุคคลภายนอกแล้วหรื อหาไม่
ถ้าสังหาริมทรัพย์ จะเรียกว่ า จานา
แต่ ถ้าอสังหาริมทรัพย์ จะเรี ยกว่ า จานอง
EX.ว.2 ก.กู้เงิน ข. 20000 บาท โดยเอาที่ดินจานองไว้ เป็ นประกัน ต่ อมา ก.ขายที่ดินแปลง
นั้นแก่ ค. หรื อยกที่ดินให้ โดยเสน่ หา ก.ย่อมมีสิทธิ ทาได้ แต่ ค.ผู้รับโอนจะต้ องรั บภาระ
จานองมาด้วย
การชาระหนีต้ ามลาดับดังนี ้
1. จดทะเบียนบุริมสิ ทธิ
2. จานอง
3. กู้เงิน (เจ้ าหนีส้ ามัญ)
มาตรา 703 อันอสังหาริ มทรัพย์น้ นั อาจจานองได้ไม่วา่ ประเภทใดๆ
ทรัพย์สินที่จานองได้ สังหาริ มทรัพย์อนั จะกล่าวต่อไปนี้ก็อาจจานองได้ดุจกัน หากว่าได้จดทะเบียนไว้
แล้วตามกฎหมาย คือ
1) เรื อที่มีระวางตั้งแต่ 5 ตันขึ้นไป
2) แพ
3) สัตว์พาหนะ
4) สังหาริ มทรัพย์อื่นใดๆซึ่งกฎหมายหากบัญญัติไว้ให้จดทะเบียนเฉพาะการ
มาตรา 704 สั ญญาจานองต้ องระบุทรัพย์ สินซึ่งจานอง
ต้องระบุทรัพย์สิน
มาตรา 705 การจานองทรัพย์สินนั้น นอกจากผู้เป็ นเจ้ าของในขณะนั้นแล้ ว ท่ านว่ าใครอื่นจะ
ผูจ้ านองต้องเป็ นเจ้าของ จานองหาได้ไม่
มาตรา 706 บุคคลมีกรรมสิ ทธิ์ในทรัพย์ สินแต่ ภายในบังคับเงื่อนไขเช่ นใด จะจานอง
กรรมสิ ทธิ์ที่มีเงื่อนไข ทรัพย์สินนั้นได้แต่ภายในบังคับเงื่อนไขเช่นนั้น
มาตรา 707 บทบัญญัติมาตรา 681 ว่าด้วยค้ าประกันนั้น ท่านให้ใช้ได้ในการจานอง อนุโลม
ตามควร
มาตรา 708 สั ญญาจานองนั้นต้ องมีจานวนเงินระบุไว้ เป็ นเรื อนเงินไทยเป็ นจานวนแน่ ตรงตัว
หน้า 6 จาก 30
สารทัว่ ๆไป จานา ทั้งมิได้บอกกล่าวเป็ นหนังสื อแจ้ง การจานาแก่ลูกหนี้แห่งสิ ทธิน้ นั ด้วยไซร้ ท่านว่า
การจานาย่อมเป็ นโมฆะ
สิทธิซึ่งมีตราสาร = ใบประทวนสิ นค้ า, ตั๋วเงิน,ใบหุ้น,ใบหุ้นกู้,พันธบัตร และใบตราส่ ง
มาตรา 751 ถ้ าจานาตราสารชนิดออกให้ แก่ บุคคลเพื่อเขาสั่ งท่ าน ห้ามมิให้ยกขึ้นเป็ นข้อต่อสู ้
การจานาตราสารชนิด บุคคลภายนอก เว้นแต่จะได้สลักหลังไว้ที่ ตราสารให้ ปรากฏการจานาเช่ นนั้น
ออกให้บุคคลเพื่อเขาสั่ง อนึ่ง ในการนี้ไม่จาเป็ นต้องบอกกล่าวแก่ลูกหนี้แห่ งตราสาร
ตราสารชนิดออกให้ แก่เขาสั่ง = ตั๋วเงินทั้ง 3 ประเภทได้ แก่ ตั๋วแลกเงิน, ตั๋วสัญญาใช้ เงิน
,และเช็ค
เช่ นเช็คผู้ถือ เพียงแต่ สลักหลังแล้ วส่ งมอบเป็ นอันสมบูรณ์
มาตรา 753 ถ้ าจานาใบหุ้น หรื อใบหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อ ท่านห้ามมิ ให้ยกขึ้นเป็ นข้อต่อสู ้บริ ษทั
การจานาใบหุน้ หรื อใบ หรื อบุคคลภายนอก เว้นแต่จะได้จดลง ทะเบียนการจานานั้นไว้ในสมุดของบริ ษทั ตาม
หุน้ กูช้ นิดระบุชื่อ บทบัญญัติท้ งั หลาย ในลักษณะ 22 ว่าด้วยการโอนหุน้ หรื อหุน้ กู้
มาตรา 756 การที่จะตกลงกันไว้เสี ยแต่ก่อนเวลาหนีถ้ ึงกาหนด ชาระเป็ นข้อความอย่างใดอย่ าง
คู่สัญญาไม่อาจตกลงกัน หนึ่งว่ า ถ้ าไม่ ชาระหนี้ ให้ ผ้ ูรับจานา เข้าเป็ นเจ้ าของทรัพย์ สินจานา หรื อให้ จัดการแก่
เพื่อบังคับจานาก่อนหนี้ ทรัพย์สินนั้นเป็ น ประการอื่นนอกจากตามบทบัญญัติท้งั หลายว่าด้วยการบังคับจานา นั้น
ถึงกาหนดชาระ ไซร้ ข้ อตกลงเช่ นนั้นท่ านว่ าไม่ สมบูรณ์
EX.ดากู้เงินแดง 10,000 บาท โดยเอาแหวนเพชรราคา 100,000 บาทมาจานาไว้ กับแดง
และทาข้อตกลงกันว่ า ถ้ าถึงกาหนดชาระหนี ้ ดาไม่ ชาระหนี ้ ให้ แหวนเพชรตกเป็ นของ
แดงหรื อให้ แดงนาแหวนเพชรออกขายได้ ทันที ข้อตกลงดังกล่ าวไม่ สมบูรณ์
หมายเหตุ; ตามมาตรานีใ้ ช้ เฉพาะก่ อนหนีถ้ ึงกาหนดชาระ ถ้ าหนีถ้ ึงกาหนดชาระแล้ วการ
ตกลงดังกล่ าวไม่ ต้องห้ าม คือ เมื่อถึงกาหนดชาระแล้ วไม่ ชาระหนี ้ ผู้จานาบอกผู้รับจานา
ได้ ว่าให้ ยึดทรั พย์ที่จานาได้ เลย
มาตรา 758 ผู้รับจานาชอบที่จะยึดของจานาไว้ ได้ ท้งั หมด จนกว่า จะได้รับชาระหนีแ้ ละค่า
สิ ทธิยดึ ทรัพย์ที่จานา อุปกรณ์ ครบถ้ วน
มาตรา 761 ถ้ามิได้กาหนดไว้เป็ นอย่างอื่นในสัญญา หากมีดอกผล นิตินยั งอกจากทรัพย์สิน
สิ ทธิในการจัดการดอกผล นั้นอย่างไร ท่านให้ผรู ้ ับจานาจัดสรรใช้เป็ นค่า ดอกเบี้ยอันค้างชาระแก่ตน และถ้าไม่มี
นิตินยั ชาระหนี้ ดอกเบี้ยค้างชาระ ท่านให้จดั สรรใช้ตน้ เงินแห่งหนี้ อนั ได้จานาทรัพย์สินเป็ นประกันนั้น
ดอกผลนิตินัย เช่ น เงินที่ได้ จากการที่ให้ ผ้ อู ื่นเช่ ารถ , เงินปั นผลหุ้น
มาตรา 762 ค่าใช้จ่ายใด ๆ อันควรแก่การบารุ งรักษาทรัพย์สิน จานานั้น ผูจ้ านาจาต้องชดใช้
สิ ทธิและหน้าที่ของผู ้ ให้แก่ผรู ้ ับจานา เว้นแต่จะได้กาหนดไว้ เป็ นอย่างอื่นในสัญญา
จานา
หน้า 13 จาก 30
EX. ว.2 ผู้ที่ได้ ตั๋วเงินไว้ ในครอบครองคนปั จจุบัน ซึ่ งแสดงให้ ปรกฎสิ ทธิ ด้วยการสลัก
หลังไม่ ขาดสาย ตาม ม.905 ว.แรกเป็ นผู้ทรงโดยชอบด้ วยกฎหมาย ไม่ จาต้ องสละคืนตั๋ว
เงินให้ แก่ ผ้ ทู รงคนก่ อนๆ ที่ตั๋วเงินหลุดจากครอบครองไป เว้ นแต่ ผ้ ทู ี่ได้ ตั๋วเงินไว้ ใ น
ครอบครองคนปั จจุบัน (ผู้ทรงคนปั จจุบัน) ได้ ตั๋วเงินมาโดยทุจริ ต หรื อได้ มาด้ วยความ
ประมาทเลินเล่ ออย่างร้ ายแรง
ม. 1008 การลงลายมือชื่ อต้ องไม่ ปลอมหรื อลงลาบมือชื่ อโดยปราศจากอานาจอีกด้ วย
มาตรา 908 อันว่าตั๋วแลกเงินนั้น คือหนังสื อตราสารซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่ า ผู้สั่งจ่ าย สั่ง
ตัว๋ แลกเงิน บุคคลอีกคนหนึ่งเรี ยกว่า ผูจ้ ่าย ให้ใช้เงินจานวนหนึ่งแก่บุคคลคนหนึ่ง หรื อให้ใช้ตาม
คาสั่งของบุคคลหนึ่งซึ่งเรียกว่ าผู้รับเงิน
มาตรา 909 อันตั๋วแลกเงินนั้น ต้องมีรายการดังกล่าวต่อไปนี้ คือ
รายละเอียดของตัว๋ แลก 1) คาบอกชื่อว่าเป็ นตัว๋ แลกเงิน
เงิน 2) คาสั่งอันปราศจากเงื่อนไขให้จ่ายเงินเป็ นจานวนแน่นอน
3) ชื่อ หรื อยีห่ ้อผูจ้ ่าย (นายจันทร์)
4) วันถึงกาหนดใช้เงิน (3 เดือนนับแต่วนั นี้)
5) สถานที่ใช้เงิน (123 สุขมุ วิท61 กทม.)
6) ชื่อ หรื อยีห่ ้อผูร้ ับเงิน หรื อคาจดแจ้งว่าให้ใช้เงินแก่ผถู ้ ือ (นายอังคารหรื อตามคาสั่ง)
7) วันและสถานที่ออกตัว๋ เงิน ( 1 พ.ค. 2536 กทม.)
8) ลายมือชื่อผูส้ ั่งจ่าย (นายอาทิตย์)
ตั๋วแลกเงิน
สถานที่ออกตั๋ว........กรุงเทพฯ
วันที.่ ..1..เดือน..พค....พศ....2536
กาหนด....3 เดือน.....นับแต่วันนี้โปรดจ่ายเงินจานวน .......10,000 บาท
ให้ แก่....นาย อังคาร.......หรื อตามคาสั่ง
ถึง.......นาย จันทร์
ที่อยู่.....123 สุขุมวิท 61 กทม.
ลงชื่ อ.....นาย อาทิตย์
ผู้สั่งจ่ าย
มาตรา 912 อันตั๋วแลกเงินนั้นจะออกคาสั่ งให้ ใช้ เงินตามคาสั่ งของผู้สั่งจ่ ายก็ได้
อนึ่งจะสั่ งจ่ ายเอาจากตัวผู้สั่งจ่ ายเอง หรื อสั่ งจ่ ายเพื่อบุคคลภายนอกก็ได้
มาตรา 913 อันวันถึงกาหนดของตัว๋ แลกเงินนั้น ท่านว่าย่อมเป็ นอย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าว
วันถึงกาหนดของตัว๋ แลก ต่อไปนี้ คือ
เงิน 1) ในวันใดวันหนึ่งที่กาหนดไว้ หรื อ
2) เมื่อสิ้ นระยะเวลาอันกาหนดไว้นบั แต่วนั ที่ลงในตัว๋ นั้น หรื อ
หน้า 17 จาก 30
3) วันถึงกาหนดใช้เงิน
4) สถานที่ใช้เงิน
5) ชื่อ หรื อยีห่ ้อของผูร้ ับเงิน
6) วันและสถานที่ออกตัว๋ สัญญาใช้เงิน
7) ลายมือชื่อผูอ้ อกตัว๋
มาตรา 984 ตราสารอันมีรายการขาดตกบกพร่ องไปจากที่ท่าน ระบุบงั คับไว้ใน มาตรา ก่อนนี้
ถ้ารายการในตัว๋ สัญญาใช้ ย่ อมไม่ สมบูรณ์ เป็ นตั๋วสั ญญาใช้ เงิน เว้นแต่ในกรณี ดงั่ จะกล่าวต่อไปนี้ คือ
เงินขาดตกบกพร่ อง ตั๋วสั ญญาใช้ เงินซึ่งไม่ ระบุเวลาใช้ เงิน ท่านให้ถือว่าพึงใช้เงินเมื่อ ได้เห็น
ถ้าสถานที่ใช้ เงินมิได้แถลงไว้ ในตัว๋ สัญญาใช้เงิน ท่านให้ถือเอาภูมิลาเนาของผู ้
ออกตราสารนั้นเป็ นสถานที่ใช้เงิน
ถ้ าตั๋วสั ญญาใช้ เงินไม่ ระบุสถานที่ออกตั๋ว ท่านให้ถือว่าตัว๋ นั้นได้ ออก ณ ภูมิลาเนา
ของผูอ้ อกตัว๋
ถ้ามิได้ลงวันออกตั๋ว ท่านว่าผูท้ รงโดยชอบด้วยกฎหมายคนหนึ่ง คนใดทาการโดย
สุจริ ตจะจดวันตามที่ถูกต้องแท้จริ งลงก็ได้
มาตรา 988 อันเช็คนั้น ต้องมีรายการดังกล่าวต่อไปนี้ คือ
รายการในเช็ค 1) คาบอกชื่อว่าเป็ นเช็ค
2) คาสั่งอันปราศจากเงื่อนไขให้ใช้เงินเป็ นจานวนแน่นอน
3) ชื่อ หรื อยีห่ ้อและสานักของธนาคาร
4) ชื่อ หรื อยีห่ ้อของผูร้ ับเงิน หรื อคาจดแจงว่าให้ใช้เงินแก่ผถู ้ ือ
5) สถานที่ใช้เงิน
6) วันและสถานที่ออกเช็ค
7) ลายมือชื่อผูส้ ั่งจ่าย
มาตรา 990 ผู้ทรงเช็คต้องยื่นเช็คแก่ธนาคารเพื่อให้ใช้เงินคือว่า ถ้าเป็ นเช็คให้ ใช้ เงินในเมือง
การยืน่ เช็คเพื่อให้ใช้เงิน เดียวกันกับที่ออกเช็คต้องยืน่ ภายในเดือนหนึ่งนับแต่วนั ออกเช็คนั้น ถ้าเป็ นเช็คให้ ใช้ เงิน
ที่อื่นต้องยืน่ ภายในสามเดือน ถ้ ามิฉะนั้นท่ านว่ าผู้ทรงสิ้นสิ ทธิที่จะไล่ เบีย้ เอาแก่ ผ้ สู ลัก
หลังทั้งปวงทั้งเสี ยสิ ทธิอันมีต่อผู้สั่งจ่ ายด้ วยเพียงเท่ าที่จะเกิดความเสี ยหายอย่ างหนึ่ง
อย่ างใดแก่ ผ้ สู ั่ งจ่ ายเพราะการที่ละเลยเสี ยไม่ยื่นเช็คนั้น
อนึ่งผูท้ รงเช็คซึ่งผูส้ ั่งจ่ายหลุดพ้นจากความรับผิดไปแล้วนั้น ท่านให้รับช่วงสิ ทธิ
ของ ผูส้ ั่งจ่ายคนนั้นอันมีต่อธนาคาร
มาตรา 991 ธนาคารจาต้องใช้เงินตามเช็คซึ่งผูเ้ คยค้ากับธนาคาร ได้ออกเบิกเงินแก่ตน เว้นแต่
หน้าที่ของธนาคารในการ ในกรณีดังกล่าวต่อไปนี้ คือ
หน้า 25 จาก 30
เพิม่ เติม
มาตรา 911 ผู้สั่งจ่ ายจะเขียนข้ อความกาหนดลงไว้ ว่าจานวนเงินอันจะพึงใช้ น้ นั ให้ คิดดอกเบีย้
ตัว๋ แลกเงินอาจกาหนด ด้วยก็ได้ และในกรณี เช่นนั้น ถ้ามิได้ กล่าวลงไว้เป็ น อย่างอื่น ท่านว่าดอกเบีย้ ย่อมคิด
ดอกเบี้ยลงไปก็ได้ แต่วันที่ลงในตั๋วเงิน