You are on page 1of 82

1.

คู่สัญญาฝ่ายซึ่งตกลงจะส่งเบี้ยประกันภัย ตามประมวล
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เรียกว่าอย่างไร
( ) ก. ผู้รับประโยชน์
( ) ข. ผู้เอาประกันภัย

( ) ค. ผู้รับประกันภัย
( ) ง. ถูกทุกข้อ
2. คากล่าวที่ว่า สัญญาประกันภัยเป็นสัญญาต่างตอบแทน ถูกต้อง
หรือไม่
( ) ก. ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นหน้าที่ฝ่ายเดียวของผู้รับประกันภัยที่จะต้องจ่าย
ค่าสินไหมทดแทน
( ) ข. ถูกต้อง เพราะผู้รับประกันภัยมีหน้าที่จ่ายค่าสินไหมทดแทน และผู้
เอาประกันภัยมีหน้าที่จ่ายเบี้ยประกันภัย
( ) ค. ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นสัญญาฝ่ายเดียว
( ) ง. ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นสัญญาระหว่างผู้รับประกันภัย ผู้เอาประกันภัย
และผู้รับประโยชน์
3. เมื่อผู้เอาประกันภัยและผู้รับประกันภัยตกลงทาสัญญา
ประกันภัยแล้ว ผู้รับประกันภัยจะต้องส่งมอบกรมธรรม์ให้แก่ผู้เอา
ประกันภัยหรือไม่

( ) ก. ต้องส่งมอบกรมธรรม์ประกันภัยให้ ถ้าผู้เอาประกันภัยร้องขอ
( ) ข. ต้องส่งมอบกรมธรรม์ประกันภัยให้ แม้ผู้เอาประกันภัยจะไม่ร้องขอ

( ) ค. จะต้องส่งมอบให้หรือไม่ ย่อมแล้วแต่ผู้รับประกันภัย
( ) ง. จะส่งมอบให้หรือไม่ก็ได้ เนื่องจากกฎหมายไม่ได้บังคับไว้
4. บุคคลใดมีหน้าที่ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามกฎหมาย


( ) ก. ผู้รับประกันภัย
( ) ข. ตัวแทนประกันภัย
( ) ค. ผู้รับประโยชน์
( ) ง. นายหน้าประกันภัย
5. กรณีใดบ้างต่อไปนี้ที่สัญญาประกันภัยไม่คุ้มครอง

( ) ก. ผู้เอาประกันภัยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง
( ) ข. ผู้เอาประกันภัยทุจริต
( ) ค. ผู้เอาประกันภัยไม่ชาระเบี้ยประกันภัย

( ) ง. ถูกทั้ง ข้อ ก. และ ข.
6. หลักการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันวินาศภัย คือ
ข้อใด

( ) ก. ชดใช้ตามความเสียหายที่แท้จริง

( ) ข. ชดใช้ตามความเสียหายที่แท้จริง แต่ไม่เกินกว่าจานวนเงินเอา
ประกันภัย
( ) ค. ชดใช้เป็นเงินจานวนแน่นอนตามจานวนเงินซึ้งเอาประกันภัยไว้
( ) ง. ชดใช้ตามที่ผู้รับประกันภัยเห็นสมควร
7. นายหน้าประกันวินาศภัยประเภทนิติบุคคล ไม่ลงรายการใน
สมุดทะเบียนและสมุดบัญชีตามที่นายทะเบียนกาหนด ต้อง
ระวางโทษปรับตามข้อใด

( ) ก. ไม่เกิน 10,000 บาท


( ) ข. ไม่เกิน 20,000 บาท
( ) ค. ไม่เกิน 30,000 บาท
( ) ง. ไม่เกิน 50,000 บาท
8. กรมธรรม์ประกันภัยนั้น กฎหมายบัญญัติว่าต้องลงลายมือชื่อของ

( ) ก. ผู้รับประกันภัย
( ) ข. ผู้เอาประกันภัย
( ) ค. ผู้รับประโยชน์
( ) ง. ผู้รับประกันภัยร่วมกับผู้เอาประกันภัย
9. กรมธรรม์ประกันภัย กฎหมายกาหนดให้มีรายการดังต่อไปนี้เสมอ
คือข้อใด

( ) ก. ราคาแห่งมูลประกันภัย
( ) ข.วัตถุที่เอาประกันภัย
( ) ค. ชื่อผู้รับประโยชน์
( ) ง. ถูกเฉพาะข้อ ข. และ ค.
10. กรณีใดที่ผู้รับประกันภัยรถยนต์ไม่ต้องรับผิดตามสัญญา
ประกันภัย


( ) ก. ผู้เอาประกันภัยประมาทเลินเล่อทาให้รถยนต์เสียหาย
( ) ข. ผู้รับประโยชน์ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงทาให้รถยนต์เสียหาย
( ) ค. บุคคลภายนอกจงใจทาให้รถยนต์เสียหาย
( ) ง. ถูกเฉพาะข้อ ก. และ ข.
11. คาว่า “ค่าสินไหมทดแทน” หมายถึง

( ) ก. ค่าเสียหายที่จะต้องจ่ายตามสัญญาประกันวินาศภัย
( ) ข. ค่าเบี้ยประกันภัย
( ) ค. ราคาทรัพย์สินที่เอาประกันภัย
( ) ง. จานวนเงินเอาประกันภัย
12.กรณีใดที่สัญญาประกันภัยไม่มีผลผูกพันคู่สัญญา

( ) ก. ผู้เอาประกันภัยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง
( ) ข. ผู้เอาประกันภัยจงใจทาให้ทรัพย์สินเสียหาย

( ) ค. ผู้เอาประกันภัยไม่มีส่วนได้เสียในทรัพย์สินที่เอาประกันภัย
( ) ง. ถูกทุกข้อ
13. สัญญาประกันภัยมีผู้เกี่ยวข้องอยู่ 3 ฝ่าย คือ

( ) ก. ผู้เอาประกันภัย ผู้รับประกันภัย และผู้ชาระเบี้ยประกันภัย


( ) ข. ผู้เอาประกันภัย ผู้รับประกันภัย และตัวแทนนายหน้าประกันภัย
( ) ค. ผู้เอาประกันภัย ผู้รับประกันภัย และผู้ขอเอาประกันภัย
() ง. ผู้เอาประกันภัย ผู้รับประกันภัย และผู้รับประโยชน์
14. ผู้รับประกันภัยรับช่วงสิทธิ์ได้ในกรณีใด

() ก. วินาศภัยอันเกิดจากการกระทาผิดของบุคคลภายนอก
( ) ข. วินาศภัยอันเกิดจากการกระทาผิดของผู้เอาประกันภัย
( ) ค. วินาศภัยอันเกิดจากการกระทาผิดของผู้รับประโยชน์
( ) ง. ถูกทุกข้อ
15. ผู้เอาประกันภัยกับผู้รับประโยชน์จะเป็นบุคคลเดียวกันได้
หรือไม่ เพราะเหตุใด

( ) ก. ได้ เพราะกฎหมายระบุไว้
( ) ข. ไม่ได้ เพราะกฎหมายห้ามไว้
( ) ค. ไม่ได้ เพราะไม่ถูกต้องตามหลักการประกันภัย
( ) ง. ได้หรือไม่ แล้วแต่บริษัทจะอนุมัติให้เป็นรายๆไป
16. ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ “ราคาแห่งมูล
ประกันภัย” หมายความถึง

( ) ก. ราคาของวัตถุที่เอาประกันภัย
( ) ข. ราคาของวัตถุที่เอาประกันภัย หักด้วยราคาความเสื่อมสภาพ

( ) ค. ราคาของส่วนได้เสียที่กาหนดไว้ในสัญญาประกันภัย
( ) ง. ราคาที่จะได้รับการชดใช้เมื่อเกิดความเสียหาย
17. สัญญาประกันภัยเกิดขึ้นเมื่อใด

( ) ก. เมื่อผู้เอาประกันภัยได้รับกรมธรรม์ประกันภัยจากบริษัทประกันภัย
แล้ว
( ) ข. เมื่อผู้เอาประกันภัยได้รับกรมธรรม์และชาระเบี้ยให้กับบริษัทแล้ว
( ) ค. เมื่อผู้เอาประกันภัยได้ชาระเบี้ยประกันภัยให้แก่บริษัทประกันภัยแล้ว
( ) ง. เมื่อบริษัทประกันภัยตกลงรับประกันภัย แม้มิได้มีลายลักษณ์อักษร

18. หากผู้เอาประกันภัยทาประกันภัยมาแล้วต้องการยกเลิก
กรมธรรม์ประกันภัย จะได้รับการคืนเบี้ย จากบริษัทประกันภัยอย่างไร

( ) ก. คืนตามอัตราที่ผู้รับประกันภัยกาหนด

( ) ข. คืนตามอัตราเบี้ยประกันภัยระยะสั้น หรือตามที่ระบุไว้ในเงื่อนไข
กรมธรรม์
( ) ค. คืนโดยหักเบี้ยประกันสาหรับระยะเวลาที่กรมธรรม์มผี ลบังคับแล้วออก
ตามส่วน
( ) ง. คืนตามการเฉลี่ย
19. การชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกระทาได้ด้วยวิธีใด

( ) ก. จ่ายเป็นตัวเงิน
( ) ข. จัดการหาของทดแทน
( ) ค. จัดซ่อมแซมให้กลับสู่สภาพเดิม

( ) ง. ถูกทุกข้อ
20. บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยจะ
ควบรวมกับบริษัทประกันภัยวินาศภัยอื่นได้หรือไม่

( ) ก. ได้ แต่ต้องได้รับอนุญาตจากปลัดกระทรวงการคลัง
( ) ข. ได้ แต่ต้องได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน
( ) ค. ไม่ได้ เนื่องจากกฎหมายห้ามไว้

( ) ง. ได้ แต่ต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
21. พระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ.2535 แก้ไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที 2 ) พ.ศ. 2561 เป็น
กฎหมายที่ตราขึ้นไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการกากับดูแลใคร

( ) ก. สาขาของบริษัทประกันวินาศภัย
( ) ข. บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย
( ) ค. ตัวแทนประกันวินาศภัย และนายหน้าประกันวินาศภัย

( ) ง. ถูกทุกข้อ
22. หลักทรัพย์ประกันที่บริษัทประกันภัยวางไว้กับนายทะเบียนมี
วัตถุประสงค์ตามข้อใด

( ) ก. เพื่อเป็นหลักประกันแก่เจ้าหนี้ของบริษัทประกันภัย
( ) ข. เพื่อให้รัฐบาลยึดไปใช้หนี้ค่าภาษีอากร
( ) ค. เพื่อไว้ใช้จ่ายคืนผู้ถือหุ้นของบริษัทประกันภัยก่อนใครอื่น เมื่อผู้ถือ
หุ้นร้องขอ
( ) ง. เพื่อเป็นหลักประกันแก่ผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์ในอันที่จะ
ได้รับชาระหนี้ เมื่อบริษัทประกันภัยเลิกกิจการหรือล้มละลาย
23. ข้อใดเป็นคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นนายหน้า
ประกันวินาศภัย

( ) ก. บรรลุนิติภาวะ
( ) ข. มีภูมิลาเนาในประเทศไทย
( ) ค. ไม่เป็นตัวแทนประกันวินาศภัย

( ) ง. ถูกทุกข้อ
24. รัฐมนตรีมีอานาจสั่ง เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกัน
วินาศภัยเมื่อปรากฏว่าบริษัทประกันวินาศภัยกระทาการใด

( ) ก. ประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยต่อไปจะทาให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอา
ประกันภัยหรือประชาชน
( ) ข. หยุดประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
( ) ค. ประวิงการจ่ายเงินที่ต้องใช้ตามกรมธรรม์ประกันภัย หรือประวิงการคืน
เบี้ยประกันภัยที่ต้องจ่ายหรือคืนโดยไม่มีเหตุอันสมควร หรือจ่าย
หรือคืนไปโดยไม่สุจริต
() ง. ถูกทุกข้อ
25. นายหน้าประกันวินาศภัยที่ประสงค์จะยื่นคาขอต่อใบอนุญาต
จะต้องยื่นคาขอต่อใบอนุญาตต่อผู้ใด

( ) ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
( ) ข. ปลัดกระทรวงพาณิชย์
( ) ค. นายทะเบียน
( ) ง. ปลัดกระทรวงการคลัง
26. การเสี่ยงภัยแท้จริง (Pure Risk) ได้แก่

( ) ก. การเสี่ยงภัยจากน้าท่วมบ้าน
( ) ข. การเสี่ยงภัยจากการค้าขายขาดทุนของพ่อค้า
( ) ค. การเสี่ยงภัยจากการพนัน
( ) ง. การเสี่ยงภัยจากการซื้อขายหุ้น
27. นายเก่งมีบ้านไม้รวมที่ดินราคา 800,000 บาท ทาประกัน
อัคคีภัยโดยได้ระบุจานวนเงินเอาประกันภัยไว้ 500,000 บาท จานวน
เงินเอาประกันภัยที่นายเก่งระบุไว้ถือว่า


( ) ก. ต่ากว่ามูลค่าที่แท้จริง
( ) ข. สูงกว่ามูลค่าที่แท้จริง
( ) ค. ใกล้เคียงมูลค่าที่แท้จริง
( ) ง. ผิดทุกข้อ
28. ระยะเวลาในการบอกล้างโมฆียกรรม กรณีไม่เปิดเผยข้อความ
จริงและแถลงข้อความเท็จ

( ) ก. 1 ปี นับแต่ทาสัญญาประกันภัย
( ) ข. 2 ปี นับแต่ทาสัญญาประกันภัย

( ) ค. 1 เดือน นับแต่ทราบมูลเหตุจะบอกล้างได้
( ) ง. ถูกทุกข้อ
29.สัญญาประกันภัยค้าจุนคือข้อใด


( ) ก. สัญญาประกันภัยซึ่งผู้รับประกันภัยตกลงว่าจะชดใช้ค่าสินไหม
ทดแทนแก่บุคคลอีกคนหนึ่งในนามของผู้เอาประกันภัย
( ) ข. สัญญาประกันภัยซึ่งผู้รับประกันภัยตกลงว่าจะชดใช้วัตถุที่เอา
ประกันภัย
( ) ค. สัญญาประกันภัยซึ่งผู้รับประกันภัยตกลงว่าจะชดใช้ความเสียหาย
ของบุคคลภายนอก
( ) ง. ถูกทุกข้อ
30. ข้อใดไม่ได้จัดอยู่ในความหมายของการเสี่ยงภัย (RISK)

( ) ก. เป็นภัยที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
( ) ข. เป็นภัยที่เกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้
( ) ค. ความเป็นไปได้ของความสูญเสียหรือเสียหาย

( ) ง. มหันต์ภัย
31. สมศรีปลูกบ้านซึ่งสร้างด้วยไม้อยู่ในชุมชนซอยราชวิถี 6 และได้
เกิดเพลิงไหม้ขึ้น ในกรณีเช่นนี้ สภาวะภัย (Hazard) คืออะไร

( ) ก. บ้านตั้งอยู่ในชุมชนซอยราชวิถี 6
( ) ข. โอกาสที่จะเกิดเพลิงไหม้
( ) ค. การเกิดเพลิงไหม้
( ) ง. ถูกทุกข้อ
32. ตารางกรมธรรม์ประกันภัย (SCHEDULE) หมายถึง

( ) ก. กาหนดการนัดหมายงานส่งมอบกรมธรรม์ประกันภัย
( ) ข. กาหนดการนัดหมายการชาระเบี้ยประกันภัยภายในระยะเวลาที่
กรมธรรม์ประกันภัยกาหนด
( ) ค. ตารางการคืนเบี้ยประกันภัย กรณีผู้เอาประกันภัยบอกเลิกกรมธรรม์
ประกันภัย
() ง. เป็นส่วนของกรมธรรม์ประกันภัยทีส่ รุปรายละเอียดทั้ง หมดในการ
ประกันภัย
33. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของการประกันภัย

( ) ก. ทาให้เกิดการออมทรัพย์

( ) ข. ทาให้เกิดกาไร
( ) ค. ช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
( ) ง. ก่อให้เกิดเสถียรภาพในการประกอบธุรกิจ
34. ข้อใดแสดงได้ว่าผู้เอาประกันภัยมีส่วนได้เสียในเหตุที่เอา
ประกันภัยของตน

( ) ก. ผู้เอาประกันภัยซึ่งเป็นผู้เช่าบ้านได้ทาประกันภัยเฟอร์นิเจอร์และ
เครื่องใช้ไฟฟ้า
( ) ข. ผู้เอาประกันภัยนารถยนต์ที่ตนเช่าซื้อไปทาประกัน
( ) ค. ผู้เอาประกันภัยทาประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลของบุตรที่ยังไม่
บรรลุนิติภาวะ

( ) ง. ถูกทุกข้อ
35. ข้อใดหมายถึงผู้มีส่วนได้เสียในเหตุที่เอาประกันภัย

( ) ก. เจ้าของทรัพย์สิน
( ) ข. ผู้ให้เช่าซื้อ
( ) ค. ผู้ครอบครองทรัพย์ตามสัญญาเช่าซื้อ

( ) ง. ถูกทุกข้อ
36. เหตุการณ์ใดที่บริษัทประกันภัยมักกาหนดเป็นข้อยกเว้นไว้ใน
กรมธรรม์ประกันภัยและจะไม่คุ้มครองความเสียหาย

( ) ก. ภัยสงคราม
( ) ข. ภัยจลาจล
( ) ค. การปฏิวัติ

( ) ง. ถูกทุกข้อ
37. วิธีการใดไม่ถือว่าเป็นการป้องกันการเกิดภัย (Prevention)

( ) ก. การติดป้ายห้ามสูบบุหรี่ไว้ในปั๊มน้ามัน
( ) ข. การดับเพลิงเมื่อเกิดไฟไหม้

( ) ค. การตรวจสอบสภาพรถก่อนออกเดินทาง
( ) ง. การติดตั้งเครื่องตัดไฟอัตโนมัติไว้ในโรงงาน
38. คาว่าจานวนเงินเอาประกันภัย Sum Insured หมายถึง

ก จานวนเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย
ข จานวนเงินสูงสุดที่ผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิด
ค จานวนเงินสูงสุดที่ผู้เอาประกันภัยจะสามารถเรียกร้องได้
ง ถูกทั้งข้อ ข และข้อ ค
39. ภัยใดต่อไปนี้ที่เกิดจากความเสียหายทางเศรษฐกิจ
(Economic Perils หรือ Business Perils)

( ) ก. ภาวะค่าเงินบาทลอยตัว
( ) ข. ธุรกิจล้มละลาย
( ) ค. ภาวะเงินเฟ้อ
( ) ง. ถูกทุกข้อ

40. การจัดการเสี่ยงงภัยแบบใดที่เป็นความหมายของการประกันภัย

( ) ก. การลดความเสี่ยงภัย

( ) ข. การโอนความเสี่ยงภัย
( ) ค. การรับความเสี่ยงภัยไว้เอง
( ) ง. การหลีกเลี่ยงความเสี่ยงภัย
41. หลักการเฉลี่ยภัยจะใช้ได้ในกรณีใดบ้าง

( ) ก. มีกรมธรรม์ประกันภัยสองฉบับขึ้นไป
( ) ข. คุ้มครองวัตถุที่เอาประกันภัยชนิดเดียวกัน
( ) ค. คุ้มครองภัยชนิดเดียวกัน

( ) ง. ถูกทุกข้อ
42. ข้อใดพูดถึงความหมายของคาว่า “สภาวะภัย (Hazard)” ที่
ถูกต้อง

( ) ก. สภาพหรือเงื่อนไขที่ทาให้ภาวะความเสี่ยงภัยเพิ่มขึ้นหรือลดน้อยลง
( ) ข. สภาพหรือเงื่อนไขที่ทาให้ภาวะความเสี่ยงภัยลดน้อยลง
( ) ค. สภาพหรือเงื่อนไขที่ทาให้ภาวะความเสี่ยงภัยคงที่
( ) ง. สภาพหรือเงื่อนไขที่ทาให้ภาวะความเสี่ยงภัยเพิ่มขึ้น
43. ข้อใดเป็นเหตุทาให้ขาดคุณสมบัติในการเป็นนายหน้า
ประกันวินาศภัย

( ) ก. ถูกศาลพิพากษาจาคุกข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา

( ) ข. ศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย
( ) ค. ป่วยเป็นโรคมะเร็ง
( ) ง. ถูกทุกข้อ
44. หน้าที่ของอนุญาโตตุลาการตามสัญญาประกันภัยคืออะไร

( ) ก. พิจารณาชี้ขาดข้อพิพาทระหว่างผู้เอาประกันภัยและ/หรือผู้เสียหาย

กับผู้รับประกันภัย
( ) ข. พิจารณาค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัย ในกรณีที่มี
ความเห็นแตกต่างในจานวนแห่งความสูญเสียหรือเสียหายกับบริษัท
ประกันภัย
( ) ค. ดาเนินคดีกับผู้รับประกันภัยในกรณีที่มีความเห็นแตกต่างใน
จานวนแห่งความสูญเสียหรือเสียหายกับผู้เอาประกันภัย
( ) ง. ผิดทุกข้อ
45. วิธีการจัดการความเสี่ยงภัยแบบใดที่ธุรกิจประกันภัยถือเป็น
“ Self Insurance ”

( ) ก. การหลีกเลี่ยงการเสี่ยงภัย
( ) ข. การปกป้องการเสี่ยงภัย
( ) ค. การป้องกันความเสี่ยงภัย
( ) ง. การเก็บความเสี่ยงภัยไว้เอง

46. ลักษณะของการเสี่ยงภัยที่จะรับประกันภัยได้ จะต้องมี

( ) ก. โอกาสที่จะเกิดความเสียหายสามารถคาดคะเนหรือคานวณได้
( ) ข. เหตุการณ์ที่จะเกิดความเสียหายในขณะใดขณะหนึ่ง
( ) ค. ความเสียหายต้องเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ
( ) ง. ถูกทุกข้อ

นายอานาจถูกฟ้าผ่าในขณะที่กาลังเดินอยูก่ ลางทุ่งโล่งขณะฝนตก
โดยที่ได้ใส่สร้อยคอทองคาหนัก 5 บาทออกไปด้วย

47. จากเหตุการณ์ข้างต้น ตัวภัย (Peril) ในกรณีนี้ได้แก่

( ) ก. โอกาสที่จะเกิดฟ้าผ่า
( ) ข. ฟ้าผ่า
( ) ค. นายอานาจ
( ) ง. การใส่สร้อยคอทองคา
นายอานาจถูกฟ้าผ่าในขณะที่กาลังเดินอยูก่ ลางทุ่งโล่งขณะฝนตก
โดยที่ได้ใส่สร้อยคอทองคาหนัก 5 บาทออกไปด้วย

48.โอกาสที่นายอานาจจะถูกฟ้าผ่าถือเป็น..
.
( ) ก. ตัวภัย (Peril)

( ) ข. การเสี่ยงภัย (Risk)
( ) ค. สภาวะภัย (Hazard)
( ) ง. ความเสียหาย (Loss
นายอานาจถูกฟ้าผ่าในขณะที่กาลังเดินอยูก่ ลางทุ่งโล่งขณะฝนตก
โดยที่ได้ใส่สร้อยคอทองคาหนัก 5 บาทออกไปด้วย

49. ข้อใดมิใช่สภาวะภัย (Hazard)

( ) ก. นายอานาจเดินอยู่กลางทุง่ โล่ง
( ) ข. นายอานาจเดินอยู่ขณะฝนตก
( ) ค. นายอานาจใส่สร้อยคอทองคาเดินอยู่
( ) ง. นายอานาจถูกฟ้าผ่า

50. นายประสิทธิ์สูบบุหรี่และเผลอหลับไปจนทาให้เกิดไฟไหม้บ้าน
ตนเองและเพื่อนบ้านใกล้เคียง สภาวะภัยเช่นนี้เรียกว่าเป็นสภาวะภัย
แบบใด

( ) ก. สภาวะภัยทางกายภาพ (Physical Hazard)


( ) ข. สภาวะภัยทางศีลธรรม (Moral Hazard)
( ) ค. สภาวะภัยทางอุปนิสัย (Morale Hazard)
( ) ง. ไม่มีข้อใดถูก
51. ข้อใดเป็นสภาวะภัยทางศีลธรรม (Moral Hazard)

( ) ก. เสียบปลั๊ก พัดลมไว้ตลอดทั้งวันทั้งคืน
( ) ข. สภาพบ้านที่อยู่ในชุมชนแออัด
( ) ค. สูบบุหรี่ในสถานที่ที่มีวัตถุไวไฟ

( ) ง. การเผาทรัพย์สินเอาประกันภัย
52. เมื่อมีการประกันอัคคีภัยต่ากว่ามูลค่าที่แท้จริงของ
ทรัพย์สิน จะมีผลอย่างไร

( ) ก. สัญญาประกันภัยยังคงสมบูรณ์
( ) ข. ผู้เอาประกันภัยต้องมีส่วนประกันภัยตนเอง
( ) ค. ต้องมีการเฉลี่ยความเสียหาย
( ) ง. ถูกทุกข้อ

53. วัตถุประสงค์สาคัญในการกาหนดให้ผู้เอาประกันภัยต้อง
รับผิดชอบในความเสียหายส่วนแรก (Excess / Deductible) คือ

( ) ก. เพื่อลดจานวนเงินที่ผู้รับประกันภัยจะต้องจ่ายให้ลดลง

( ) ข. เพื่อที่จะให้ผู้เอาประกันภัยมีความระมัดระวังภัยมากขึ้น
( ) ค. เป็นการเฉลี่ยความรับผิดระหว่างผู้เอาประกันภัยและผู้รับประกันภัย
( ) ง. ไม่มีข้อใดถูก
54. สาเหตุใกล้ชิด (Proximate Cause) หมายถึง

( ) ก. ต้นเหตุที่ทาให้เกิดความเสียหายโดยตรง หรือเป็นเหตุต่อเนื่องโดยไม่
ขาดตอนที่ทาให้เกิดความเสียหาย
( ) ข. ต้นเหตุที่ทาให้เกิดความเสียหายโดยตรง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่
ต่อเนื่องกันและทาให้เกิดความเสียหาย
( ) ค. ต้นเหตุที่ทาให้เกิดความเสียหายโดยอ้อม หรือเป็นเหตุต่อเนื่องโดยไม่
ขาดตอนที่ทาให้เกิดความเสียหาย
( ) ง. ต้นเหตุที่ทาให้เกิดความเสียหายทางอ้อม ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่
ต่อเนื่องกันและทาให้เกิดความเสียหาย
55. ตัวแทนประกันภัยและนายหน้าประกันภัยต่างกันอย่างไร

( ) ก. ตัวแทนประกันภัยเป็นผู้ทาหน้าที่ชี้ช่อง แต่นายหน้าประกันภัยไม่ได้
ทาหน้าที่เป็นผู้ชี้ช่อง

( ) ข. ตัวแทนประกันภัยเป็นผู้ซึ้งบริษัทประกันภัยมอบหมายให้ทาการ
ชักชวนบุคคลทาสัญญาประกันภัย แต่นายหน้าประกันภัยเป็นผู้ชี้ช่องหรือ
จัดการให้บุคคลทาสัญญาประกันภัยกับบริษัทประกันภัย
( ) ค. ตัวแทนประกันภัยทาการเพื่ออหวังบาเหน็จ แต่นายหน้าประกันภัย
ทาการเพื่อหวังรับค่าตอบแทนจากตัวการ
( ) ง. ตัวแทนประกันภัยและนายหน้าประกันภัยเป็นนิติบุคคลเท่านั้น
56. โดยทั่ว ไปสัญญาประกันภัยจะสมบูรณ์ตามกฎหมาย ผู้เอา
ประกันภัยจะต้องมีส่วนได้เสียในเหตุที่เอาประกันภัยในเวลาใด

( ) ก. ขณะยื่นขอเอาประกันภัย
( ) ข. ขณะทาสัญญาประกันภัย
( ) ค. ก่อนยื่นขอเอาประกันภัย
( ) ง. ก่อนที่มีการเสี่ยงภัย
57. สัญญาประกันภัยที่เป็นโมฆียะ หมายถึงอะไร

( ) ก. สัญญาประกันภัยนั้นจะใช้บังคับไม่ได้
( ) ข. สัญญาประกันภัยนั้นเป็นสัญญาที่บกพร่อง
( ) ค. สัญญาประกันภัยนั้นจะใช้บังคับได้โดยไม่มีเงื่อนไข
( ) ง. สัญญาประกันภัยนั้นมีผลสมบูรณ์แต่อาจถูกบอกล้างได้

58. สัญญาประกันภัยที่ผู้เอาประกันภัยยกเอาภัยใดโดยเฉพาะเป็น
ข้อพิจารณาเบี้ยประกันภัยเพิ่มขึน้ หากภัยนั้นหมดไปแล้ว

( ) ก. ผู้เอาประกันภัยชอบที่จะได้ลดเบี้ยประกันภัยส่วนที่เพิ่มนั้นลงมาอยู่ใน
อัตราปกติ
( ) ข. ผู้เอาประกันภัยจะได้ลดเบี้ยประกันภัยต่อเมื่อบริษัทประกันภัย
ยินยอม
( ) ค. ผู้เอาประกันภัยไม่มีสิทธิได้ลดเบี้ยประกันภัยเลย
( ) ง. ไม่มีผลผูกพัน เพราะบังคับคดีไม่ได้
59. อายุความฟ้องร้องตามสัญญาประกันวินาศภัยมีระยะเวลา
เท่าใด
( ) ก. 1 ปี

( ) ข. 2 ปี
( ) ค. 6 เดือน
( ) ง. 3 เดือน
60. กรมธรรม์ประกันภัยที่ผู้รับประกันภัยต้องส่งมอบให้กับผู้เอา
ประกันภัยนัน้

( ) ก. ต้องมีเนื้อความต้องตามสัญญาประกันภัย
( ) ข. ไม่จาเป็นต้องมีเนื้อความต้องตามสัญญาประกันภัย
( ) ค. จะมีเนื้อความต้องตามสัญญาประกันภัยหรือไม่ก็ได้
( ) ง. จะมีเนื้อความอย่างไรก็ได้ ทั้งนี้แล้วแต่ผู้รับประกันภัยจะเห็นสมควร
61.ตามที่ ป.พ.พ.บัญญัติว่า กรมธรรม์ประกันภัยที่ผู้รับประกันภัย
ต้องส่งมอบให้กับผู้เอาประกันภัย ต้องระบุวันทาสัญญา
ประกันภัยด้วย “ วันทาสัญญาประกันภัย ” หมายถึง

() ก. วันที่สัญญาประกันภัยเกิดขึ้น
( ) ข. วันที่ผู้เอาประกันภัยกรอกใบคาขอเอาประกันภัย
( ) ค. วันที่ตัวแทนประกันภัยเสนอขายกรมธรรม์ประกันวินาศภัย
( ) ง. วันที่ตัวแทนประกันภัยได้รับเบี้ย ประกันภัยงวดแรกจากผู้เอา
ประกันภัย
62. สัญญาประกันภัยสิ้นผลบังคับเมื่อใด

( ) ก. ผู้รับประกันภัยล้มละลาย
( ) ข. ผู้เอาประกันภัยตาย
( ) ค. ผู้รับประโยชน์ตาย
() ง. ผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประกันภัยบอกเลิกสัญญาประกันภัย
63. “ ผู้เอาประกันภัยต้องสร้างโรงงานเสร็จเรียบร้อย กรมธรรม์
ประกันอัคคีภัยจึงจะมีผลบังคับให้ความคุ้มครอง ” เป็นเงื่อนไข
ลักษณะใด


( ) ก. เงื่อนไขบังคับก่อน
( ) ข. เงื่อนไขบังคับหลัง
( ) ค. เงื่อนไขแห่งความรับผิด
( ) ง. ไม่มีข้อใดถูก
64. “ ถ้าผู้เอาประกันภัยโอนทรัพย์สินอันเป็นวัตถุที่ขอเอา
ประกันภัยไปยังบุคคลภายนอกให้ถือว่ากรมธรรม์ประกันภัยฉบับ
นั้น สิ้นผลบังคับลงทันที่ เป็นเงื่อนไขลักษณะใด

( ) ก. เงื่อนไขบังคับก่อน

( ) ข. เงื่อนไขบังคับหลัง
( ) ค. เงื่อนไขแห่งความรับผิด
( ) ง. ไม่มีข้อใดถูก
65. เมื่อเกิดความเสียหายขึ้น ผู้เอาประกันภัยต้องแจ้งให้บริษัท
ประกันภัยทราบโดยโดยไม่ชักช้าและต้องส่งมอบหลักฐานและเอกสาร
ตามที่ระบุในเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยประกันภัย จากข้อความ
ข้างต้นถือเป็นเงื่อนไขลักษณะใด

( ) ก. เงื่อนไขบังคับก่อน
( ) ข. เงื่อนไขบังคับหลัง
( ) ค. เงื่อนไขแห่งความรับผิด
( ) ง. ไม่มีข้อใดถูก
66. บริษัทประกันวินาศภัย ซึ่งมิใช่สาขาของบริษัทประกันวินาศ
ภัยต่างประเทศจะเปิดสาขาได้ ต้องได้รับใบอนุญาตจากใคร

( ) ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
( ) ข. เลขาธิการคณะกรรมการกากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ

ประกันภัย
( ) ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
( ) ง. ปลัดกระทรวงการคลัง
67. ข้อใดไม่ถูกต้องตามกฎหมายในกรณีที่ได้ทาประกันภัยทรัพย์สิน
สิ่งเดียวกันกับหลายบริษัทประกันภัย

( ) ก. ผู้เอาประกันภัยจะได้รับการชดใช้จากแต่ละบริษัทประกันภัยเท่าๆกัน

( ) ข. ผู้เอาประกันภัยจะได้รับการชดใช้ทั้ง หมดตามจานวนที่ตนได้รับ
ความเสียหายจริง
( ) ค. ผู้รับประกันภัยจะต้องทาการชดใช้แบ่งตามสัดส่วนที่ตนได้รับ
ประกันภัยไว้
( ) ง. ผู้รับประกันภัยจะต้องทาการชดใช้ก่อนหลังตามลาดับวันเวลาการรับ
ประกันภัย
68. ผู้ใดกระทาการเป็นนายหน้าประกันวินาศภัยโดยไม่ได้รับ
อนุญาตจากนายทะเบียนต้องระวางโทษ

( ) ก. จาคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจา ทั้ง


ปรับ
( ) ข. จาคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจา ทั้ง

ปรับ
( ) ค. จาคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจา ทั้งปรับ
( ) ง. จาคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจา ทั้งปรับ
69. นายแว่นเป็นตัวแทนประกันวินาศภัยแล้ว จะมาขอรับ
ใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันวินาศภัยอีกจะกระทาได้หรือไม่

( ) ก. ได้ แต่ต้องขออนุญาตจากบริษัทประกันวินาศภัย

( ) ข. ไม่ได้ เพราะกฎหมายห้ามไว้
( ) ค. ได้ แต่ต้องขออนุญาตจากนายทะเบียน
( ) ง. ได้ แต่ต้องขออนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
70. อัตราเบี้ยประกันภัยที่บริษัทประกันภัยกาหนดต้องได้รับความ
เห็นชอบจาก

( ) ก. ปลัดกระทรวงการคลัง
( ) ข. นายทะเบียน

( ) ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
( ) ง.ปลัดกระทรวงพาณิชย์
71. ผู้มีอานาจพิจารณาอุทธรณ์คาสั่งเพิกถอนใบอนุญาตของนาย
ทะเบียน คือใคร

( ) ก. ปลัดกระทรวงการคลัง
( ) ข. นายทะเบียน
( ) ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

( ) ง. คณะกรรมการกากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
72. นายหน้าประกันวินาศภัยที่ถูกนายทะเบียนสั่งเพิกถอน
ใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันวินาศภัย สามารถยื่นอุทธรณ์คาสั่ง
เพิกถอนใบอนุญาตได้ภายในกาหนดเวลา


( ) ก. 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคาสั่ง
( ) ข. 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคาสั่ง
( ) ค. 60 วัน นับแต่วันที่ได้รับคาสั่ง
( ) ง. 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับคาสั่ง
73. นายหน้าประกันวินาศภัยที่ต้องโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงที่สุด
ให้จาคุกในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทาโดยทุจริต จะต้องพ้นโทษ
มาแล้วกี่ปีจึงจะสามารถขอรับใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัยได้
อีก

( ) ก. 1 ปี
( ) ข. 2 ปี
( ) ค. 3 ปี
( ) ง. 5 ปี
74. นายสมหมาย อายุ 40 ปี มีสัญชาติไทย มีภูมิลาเนาอยู่ใน
ประเทศมาเลเซียได้สอบความรู้เกี่ยวกับการประกันวินาศภัยแล้วจึง
มายื่นคาขอรับใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันวินาศภัย ดังนี้นาย
ทะเบียนจะออกใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันวินาศภัยให้นายแดง
ได้หรือไม่

( ) ก. ไม่ได้ เนื่องจากกฎหมายกาหนดไว้

( ) ข. ได้ โดยยื่นคาร้องขอผ่อนผันต่อนายทะเบียน
( ) ค. ได้ โดยยื่นคาร้องขอผ่อนผันต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
( ) ง. ได้ เพราะกฎหมายไม่ได้บัญญัติว่าผู้ขอจะต้องมีภูมิลาเนาในประเทศ
75. นางสาวพรทิพย์เป็นนายหน้าประกันวินาศภัยได้กระทาการรับ
เบี้ยประกันภัยในนามบริษัทประกันภัยโดยมิได้รับมอบอานาจเป็น
หนังสือจากบริษัทประกันภัย มีบทลงโทษอย่างไร

( ) ก. จาคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจาทั้งปรับ



( ) ข. จาคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจาทั้งปรับ
( ) ค. จาคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจาทั้งปรับ
( ) ง. จาคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจาทั้งปรับ
76. นายหน้าประกันวินาศภัยประสงค์จะยื่นคาขอต่อใบอนุญาต
ของตน จะต้องยื่นคาขอต่ออายุภายในกาหนดเวลากี่วันก่อนที่
ใบอนุญาตจะสิ้นอายุ

( ) ก. 15 วัน
( ) ข. 1 เดือน
( ) ค. 2 เดือน
( ) ง. 6 เดือน
77. การจัดตั้งบริษัทประกันภัยภายในประเทศ จะต้องมีกรรมการที่
เป็นคนไทยคิดเป็นสัดส่วนเท่าใด

( ) ก. 2:4
( ) ข. 3:4
( ) ค. 2:4
( ) ง. 3:5
78. การจัดตั้งนายหน้านิติบุคคล จะต้องมีคณะกรรมการที่สอบ
ผ่านความรู้ด้านการประกันภัยกับนายทะเบียนอย่างน้อยกี่คน

( ) ก. 1 คน
() ข. 2 คน
( ) ค. 3 คน
( ) ง. 4 คน
79. นายหน้านิติบุคคลจะเลิกกิจการจะต้องแจ้งให้นายทะเบียน
ทราบภายในกี่วัน

( ) ก. 7 วัน
( ) ข. 15 วัน
( ) ค. 30 วัน
( ) ง. 60 วัน
80. หากเงินกองทุนประกันวินาศภัย มีมูลค่าต่ากว่าที่กฎหมาย
กาหนด บริษัทประกันวินาศภัย ต้องการเสนอปรับโครงสร้าง
เงินกองทุน ภายในระเยะเวลาเท่าใด

( ) ก. 7 วัน
( ) ข. 15 วัน
( ) ค. 30 วัน
( ) ง. 60 วัน

You might also like