Professional Documents
Culture Documents
รุ นแรงของความเจ็บป่ วยทุกระดับ
การใช้กระบวนการแก้ไขปั ญหา
สุขภาพผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ วิกฤติ
เรือ้ รัง การดูแลแบบประคับประคอง
และระยะสุดท้าย การใช้ยาอย่าง
สมเหตุสมผล
อ.กิติพงษ์ พินิจพันธ์
สาขาวิชาการพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ
เนือ้ หา
แนวคิดเกี่ยวกับสุขภาพและการเจ็บป่ วย
กระบวนการพยาบาล
การสร้างเสริมสุขภาพ
การใช้กระบวนการแก้ไขปั ญหาสุขภาพ
การดูแลแบบประคับประคอง และระยะสุดท้าย
การใช้ยาอย่างสมเหตุผล
แนวคิดเกี่ยวกับสุ ขภาพและการเจ็บป่ วย
(health and illness)
องค์ประกอบที่มีอิทธิพล
ต่อสภาวะสุขภาพ
อิทธิพลส่วนบุคคล
(Individual influences)
➢ วิถชี วี ติ (Lifestyle)
➢ นำ้ หนักของร่ำงกำย (Weight)
➢ กำรควบคุมนำ้ หนักของร่ำงกำย (Diet)
➢ กำรสูบบุหรี่ (Smoking)
➢ ควำมเครียด (Stress)
➢ กำรใช้ยำ (Drug abuse)
➢ พันธุกรรม (Genetics)
อิทธิพลทางสังคมและการทางาน
(Interpersonal Social, Work influences)
➢ ควำมสัมพันธ์กบั บุคคลอืน่ (Relationships)
➢ กำรสือ่ สำร (Communications)
➢ ควำมพึงพอใจในงำน (Job satisfaction)
➢ กำรสนับสนุนทำงสังคม(Social support)
➢ ควำมสัมพันธ์ภำยในครอบครัว (family
interactions)
อิทธิพลทางสิง่ แวดล้อม
(Environmental influences)
➢ อำกำศ (Air)
➢ นำ้ (Water)
➢ อุณหภูมิ (Temperature)
➢ สำรเคมีทท่ี ำให้เกิดมลภำวะเป็ นพิษ (Chemical
pollutants)
➢ สิง่ แวดล ้อมอืน่ ทีก่ ่อให้เกิดอันตรำย (Other
environmental hazards)
อิทธิพลของระบบการดูแลสุขภาพ
(Health-Care System influences)
➢ กำรเข้ำถึงรับบริกำรทำงกำรแพทย์ (Access to medical
care)
➢ คุณภำพของกำรให้บริกำร (Quality of care)
➢ ค่ำใช้จ่ำย (Cost factors)
➢ ควำมก้ำวหน้ำทำงเทคโนโลยี (Technological
advance)
ความหมายของ “สุขภาพ”
สุ ขภาพ หมายถึง สุ ขภาวะอันสมบูรณ์ และ
มีความเป็ นพลวัตทั้งทางกาย จิต สั งคม และ
จิตวิญญาณ และไม่ ใช่ เพียงการปราศจากโรค
และการเจ็บป่ วยเท่ านั้น
ทางจิตวิญญาณ
มิติสุขภาพ 4 ด้ าน
ไม่เจ็บป่ วย สุขภาพจิตดี มีความสบายใจ
ร่ างกายแข็งแรง
สดชื่น ร่ าเริ ง แจ่มใส
ไม่พิการ ไม่เครี ยด ไม่วิตกกังวล
มีกาลังคล่องแคล่ว กระฉับทางกาย
กระเฉง (physical)
ทางจิต (mental) ไม่ซึมเศร้า
เจ็บป่ วยก็ควบคุมโรคได้ ไม่เจ็บป่ วยทางจิต
ไม่ติดยาเสพติด แอลกอฮอล์
เข้าถึงความดีงามถูกต้อง
ในสังคม เอื้ออาทร ช่วยเหลือกัน
มีคุณธรรม ไม่เห็นแก่ตวั
ทางสั งคม (social) ทางจิตวิญญาณ/ปัญญา
ไม่ทาร้ายกัน (spiritual) มีความสงบสุขภายในจิตใจ
ความเชื่ อมโยงระหว่ างสุ ขภาพทางกายกับมิติสุขภาพอื่นๆ
การเจ็บป่ วยทางกาย
(เช่น เอดส์ มะเร็ ง อัมพาต ไตวาย
พิการ)
จิต
▪วิตกกังวล สั งคม
▪กลัวตาย กลัวสู ญเสี ย ▪ถูกให้ออกจากงาน
ขาดรายได้ ▪ญาติรังเกียจ
▪รู ้สึกมีปมด้อย ไร้ค่า ▪สังคมรังเกียจ
▪ท้อแท้ สิ้ นหวัง ▪เข้าสังคมไม่ได้
▪ซึมเศร้า หรื อแยกตัวเอง
▪คิดอยากฆ่าตัวตาย
▪คิดอยากทาร้าย หรื อแก้ จิตวิญญาณ (ปัญญา)
แค้น (เช่น ผูป้ ่ วยเอดส์) ▪ขาดความฉลาดรู ้เท่าทัน
▪ไม่เข้าใจสรรพสิ่ งตามความเป็ นจริ ง
▪เข้าไม่ถึงความดีงามถูกต้อง
▪ไม่มีความสงบสุ ขภายในจิตใจ
ความเชื่ อมโยงระหว่ างสุ ขภาพทางจิตวิญญาณ (ปัญญา) กับมิติสุขภาพอื่นๆ
จิตวิญญาณ (ปัญญา)
▪มีความฉลาดรู ้เท่าทัน
▪เข้าใจสรรพสิ่ งตามความเป็ นจริ ง
▪เข้าถึงความดีงามถูกต้อง
▪มีความสงบสุขภายในจิตใจ
สั งคม
จิต ▪อยูร่ ่ วมกับผูอ้ ื่นด้วยดี
▪นอนหลับสนิท ▪เอื้ออาทร ช่วยเหลือกัน
▪สบายใจ อารมณ์ผอ่ นคลาย ▪มีกลุ่มเพื่อนรักษ์สุขภาพ
▪ไม่มีความเครี ยด วิตกกังวล หรื อ ▪มีครอบครัวอบอุ่น
ซึมเศร้า กาย ▪มีแรงสนับสนุนจาก
▪รู ้สึกตัวเองมีคุณค่า ครอบครัว และสังคม
▪หลัง่ ฮอร์โมนเอาดอร์ฟินและฮอร์โมนกลุ่ม
อื่นๆที่มีผลดีต่อสุขภาพ
▪เพิ่มภูมิคุม้ กันโรค
▪มีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี
▪รู ้จกั แสวงหาบริ การสุขภาพอย่างเหมาะสม
ปลอดภัย และประหยัด
▪ร่ างกายแข็งแรง
▪ควบคุมโรคได้ถา้ เจ็บป่ วย
ลักษณะสาคัญของภาวะสุขภาพและสุขภาพเบีย่ งเบน
การเจ็บป่ วย คือการเสียดุลยภาพ
การเกิดโรค หมายถึงภาวะทีม่ ีพยาธิสภาพ
เกิดขึน้ ทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้าน
โครงสร้างหรือหน้าทีต่ า่ ง ๆ ของร่างกาย
จิตใจ ทาให้เกิดอาการและอาการแสดงที่
Getting ill ชัดเจน
การเจ็บป่ วย (Illness) = เสียดุลยภาพ
หมายถึงสภาวะการเสียความสมดุลของ
ร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และจิต
วิญญาณ ไม่ว่าจากสาเหตุใดก็ตาม
Health problem
ปั ญหาสุขภาพในวัยผู้ใหญ่ ปั ญหาสุขภาพในวัยผู้สูงอายุ
1. อุบตั ิเหตุ 1. โรคไร้เชือ้
2. โรคติดเชือ้ 2. โรคติดเชือ้
3. โรคไร้เชือ้ 3. ปั ญหาสุขภาพจิต
4. ปั ญหาสุขภาพจิต
วัยรุน่ (adolescence) อายุ 13 ปี ถึง 18 ปี
การแบ่งบุคคลที่อายุ
13 ปี ขึน้ ไป วั
ย ผู
ใ ้ หญ่ ต อนต้
น (early adulthood) อายุ 18 ปี ถึ ง 35 ปี
เป็ น 4 ช่วงวัย
วัยผูใ้ หญ่ตอนกลาง (middle adulthood) อายุ 35 ปี ถึง 60 ปี
จิตใจ สังคม/อารมณ์
- ความเครียด -การอยู่ร่วมกัน
- วิธีคิด สติ ปัญญา -สงคราม
- ความเชื่อ โลกทัศน์ -โครงสร้างสังคม
สิ่งแวดล้อม
- อุณหภูมิ
- มลพิษ ภัยพิบตั ิ ต่าง ๆ
- สภาพการทางาน
ปฏิกิริยาตอบสนอง
ของคนต่อการเจ็บป่ วย
เกิดความสมดุล เสียสมดุล
ปฏิกิริยาทางจิตใจ
ตกใจ เสียใจ ไม่ยอมรับ
เข้าใจ ยอมรับ
2. เปลีย่ นแปลงความรับผิดชอบของสมาชิกในครอบครัว
1. เจ็บป่ วยเล็กน้ อย
ปวดศีรษะ กระทบการ
ไม่สบาย
ทาหน้ าที่ชวขณะ
ั่
ความเจ็บป่ วย
สามารถแบ่งได้หลายระดับ
2. เจ็บป่ วยปานกลาง
3. เจ็บป่ วยวิกฤต
ปั จจัยภายใน
ด้านร่างกาย : มีไข้ ชีพจรเต้นไม่สม่าเสมอ ระบบการไหลเวียน
ผลกระทบของความเจ็บป่ วย เปลี่ยนแปลง หัวใจเต้นผิดปกติ ระบบการย่อยผิดปกติ ระบบการ
ขับถ่ายเปลี่ยนแปลง
ด้านจิตใจ : ตกใจ เสียใจ ไม่ยอมรับ
ด้านสังคม : 1) บทบาทของสมาชิกในครอบครัวเปลี่ยนไป
2) เปลี่ยนแปลงความรับผิดชอบของสมาชิกในครอบครัว
3) ครอบครัวมีความวิตกกังวล และอาจเกิดความขัดแย้งกัน เนื่องจากต้อง
เพิ่มภาวะความรับผิดชอบมากขึน้
การฟื ้ นฟูสภาพ
การส่งเสริมสุขภาพ กำรป้ องกันโรค การดูแลรักษา
ร่างกาย
(health promotion) (prevention) (curation)
(rehabilitation)
การสร้างเสริมสุขภาพ
(health promotion)
การพึ่งตนเอง
พฤติกรรมการดูแลตนเอง
ในวัยผู้ใหญ่ การพึ่งบริการสุขภาพ
และการแก้ปัญหาของ การดูแลตนเองในสภาวะปกติ
บุคคลภายใต้บริบทชีวิต
Self-care
การดูแลตนเอง
การดูแลสุขภาพตนเองใน การดูแลสุขภาพตนเอง
สภาวะปกติ เมื่อเจ็บป่ วย
เป็ นการดูแลสุขภาพตนเอง และสมาชิกในครอบครัวให้ม ี
ตนเองไม่ให้ตดิ โรค
การดูแลสุขภาพตนเองเมื่อเจ็บป่ วย
*ทางเลือกใหม่ในการดูแลสุขภาพแบบผสมผสาน การดูแลแบบผสมผสานในการบาบัด
ทางการพยาบาล
โดยบุคลาการทางแพทย์ ในระบบการแพทย์กระแสหลัก
หรือการแพทย์แผนปั จจุบนั มีลกั ษณะ : " ไม่กระทาต่อ
ร่างกายอย่างรุนแรงหรือ ไม่ใช้เภสัชภัณฑ์ท่ีเป็ นสารเคมี
มี 6 กลุม่ หลักคือ
Alternative care
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการ
การเน้นความสัมพันธ์ ของกาย การใช้สารชีวภาพบาบัด และ
บริโภคอาหาร เช่น อาหารต้าน
และจิต เช่น จิตนาการบาบัด ส่งเสริมสุขภาพ เช่น การรักษาด้วย
มะเร็ง การล้างพิษ การสวนล้าง
ดนตรีบาบัด ศิลปะบาบัด โอโซน สุมนไพร
ลาไส้ใหญ่
องค์การอนามัยโลกเสนอทัศนะว่า ทักษะความรู ้
การดูแล ( บาบัด/ ทางการดูแลหรือการแพทย์ระบบอื่นน่าจะช่วยเสริม
หรือชดเชยการแพทย์แผนปั จจุบนั ให้สมบูรณ์ย่ิงขึน้ ซึง่
การแพทย์ ) เสริม จุดเด่นของการดูแลทางเลือก คือ การดูแลสุขภาพแบบ
องค์รวม ( ความสมดุลของร่างกาย จิต สังคม
วิญญาณ )
1. อาหารและโภชนาการ
เทคนิควิธีการพืน้ ฐานใน
การดูแลสุขภาพแบบ 2. การผ่อนคลายความเครียด
องค์รวม 3. การหลีกเลี่ยงสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดีตอ่ สุขภาพ
4. การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอการ
5. เยียวยาทางจิตใจภายใน
1. Movement Intervention ; breathing exercise
Movement therapy เช่น กำรเต้นรำ ชี่กง
วิธีการบาบัดที่นามาใช้
ในการพยาบาล 2.Cognitive Intervention ; Contraction,
Guided imagery, yoga
บทบาทในการให้คาปรึกษา การ
ให้คาแนะนา (educator)
บทบาทเป็ นผูช้ ่วยเหลือ (assist)
Empowerment
แพทย์เชีย
่ วชาญมากขึน้
การดูผป
ู้ ่ วยแบบแยกส่วน
การเสียชีวต
ิ คือความล้มเหลวทาง
การแพทย์
ค่าใช้จา่ ยทีเ่ พิม
่ ขึน้ อย่างมหาศาล
การแพทย์ในปั จจุบนั ทีส่ นใจแต่มติ ทิ างกาย
ดูแลโดยผูเ้ ชีย่ วชาญเฉพาะโรคแบบแยกส่วน
การขาดความตระหนักในการดูแลผูป้ ่ วยระยะสุดท้าย
Palliative care = End of life care?
Palliative care คนละความหมายกับ end of life care
•Palliative care คือแนวทางการดูแลผู้ป่วยทีม่ ี
โรคคุกคามต่อชีวติ สามารถให้ดแู ลผู้ป่วยได้
ตัง้ แต่เริ่มต้นวินิจฉัย
•End of Life Care คือ การดูแลผู้ป่วยวาระ
สุดท้ายทีถ่ ูกวินิจฉัยว่ามีเวลาทีเ่ หลืออยู่
3-6 เดือน
ความตระหนัก
ทีมสุขภาพ
ขาดองค์ความรู้ Palliative care
มีระเบียบ กฎเกณฑ์ (Opioids)
สังคม วัฒนธรรม
ความเชือ่
http://www.who.int/ncds/management/palliative-care/pc-
infographics/en/
• ความตายเป็ นมิตหิ นึ่งของชีวติ
• ไม่เร่งหรือยืดเยือ้ ความตาย
• ปลดเปลือ้ งอาการไม่สขุ สบาย
• ให้ผปู้ ่ วยมีชวี ติ อยูอ่ ย่าง active ทีส่ ดุ
• ดูแลด้านจิตสังคมและจิตวิญญาณ
• จัดหาระบบการช่วยเหลือ
• ทางานเป็ นทีม
• หลีกเลีย่ งการรักษาทีไ่ ม่เกิดประโยชน์
WHO, 2005
Palliative/ D
Life Prolonging Care Hospice E
A
Care T
H
Disease Progression
http://www.who.int/ncds/management/palliative-
care/pc-infographics/en/
ผูป้ ่ วยทีม่ ี advance disease หรือ progressive life limiting
condition ท่านจะประหลาดใจหรือไม่ถา้ ผูป ้ ่ วยจะเสียชีวติ ในไม่ก่ี
เดือน/สัปดาห์/วัน ข้างหน้า
• ควรพิจารณาโดยอาศัยการประเมินทางคลินิก โรคร่วม
สังคมและปั จจัยอื่นๆประกอบด้วย เพือ่ ให้เห็นในภาพรวม
• ถ้าไม่ประหลาดใจ ควรเริม ่ ดาเนินการวางแผนการดูแล
เพือ่ ให้ผปู้ ่ วยมีคณ
ุ ภาพชีวติ ทีด่ ี และเตรียมตัวสาหรับการ
เสือ่ มถอยของโรค
Thomas K, et al. Prognostic Indicator Guidance 4th Ed, Oct 2011.
Thomas K, et al. Prognostic Indicator Guidance 4th Ed, Oct 2011.
Thomas K, et al. Prognostic Indicator Guidance 4th Ed, Oct 2011.
Thomas K, et al. Prognostic Indicator Guidance 4th Ed, Oct 2011.
Cancer นาง ก. อายุ 54 ปี เป็ น CA colon,
liver metastasis, jaundice
แพทย์แนะนาให้ใส่ stent เพือ่ ลด
Organ failure
อาการตัวเหลือง ผูป้ ่ วยอ่อนเพลีย
เบื่ออาหาร น้าหนักลด
Frialty/Dementia
40 อยูบ
่ นเตียง ไม่สามารถทากิจกรรมสว่ นใหญ่ได้ ต้องชว ่ ยเหลือ ปกติ หรือ รูส ึ ต ัวดีหรือง่วงซม
้ ก ึ
เป็นสว่ นใหญ่ โรคมีการลุกลามมาก ่
เป็นสวนใหญ่ ลดลง +/- สบสน ั
30 อยูบ
่ นเตียง ไม่สามารถทากิจกรรมใดๆ ต้องชว่ ยเหลือทุก ปกติหรือ รูส ึ ต ัวดีหรือง่วงซม
้ ก ึ
ตลอดเวลา โรคมีการลุกลามมาก อย่าง ลดลง +/- สบสน ั
20 อยูบ
่ นเตียง ไม่สามารถทากิจกรรมใดๆ ต้องชว่ ยเหลือทุก จิบนา้ ได้ รูส ึ ต ัวดีหรือง่วงซม
้ ก ึ
ตลอดเวลา โรคมีการลุกลามมาก อย่าง เล็กน้อย +/- สบสน ั
10 อยูบ
่ นเตียง ไม่สามารถทากิจกรรมใดๆ ต้องชว่ ยเหลือทุก ึ หรือไม่รส
ทาความสะอาดปาก ง่วงซม ึ ต ัว
ู้ ก
ตลอดเวลา โรคมีการลุกลามมาก อย่าง เท่านน
ั้ ั
+/- สบสน
0 ี ชวี ต
เสย ิ - - - -
กำรใช้ยำอย่ำงสมเหตุผล
ทีม่ าความสาคัญ
มีการใช้ยาไม่เหมาะสมมากกว่าร้อยละ 50 ของการใช้ยา
ยาปฏิชีวนะ มีการสัง่ ใช้อย่างไม่สมเหตุผลในอัตราที่สูงมาก (ร้อยละ 41-91)
การใช้ยาอย่างไม่สมเหตุเกิดได้กบั ยาทุกกลุ่ม และกับผูส้ งั่ ใช้ยาทุกระดับ
ผลเสี ย
ทาให้มีการใช้ยาที่ไม่จาเป็ น เพิม่ ความเสี่ ยงจากการใช้ยา
ทาให้เกิดปัญหาเชื้อดื้อยาในวงกว้าง
สร้างความสิ้ นเปลืองให้แก่ระบบประกันสุ ขภาพ และตัวผูป้ ่ วยเอง
กระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยไม่ช่วยแก้ไขปัญหาการเจ็บป่ วยของผูป้ ่ วย
ความหมาย
“การใช้ยาโดยมีข้อบ่ งชี้ เป็ นยาที่มปี ระสิ ทธิภาพจริง สนับสนุนด้วยหลักฐานที่
น่าเชื่อถือ ให้ประโยชน์กบั ผูป้ ่ วยมากกว่าความเสี่ ยงจากการใช้ยาอย่างชัดเจน มี
ราคาเหมาะสม คุม้ ค่าตามหลักเศรษฐศาสตร์สาธารณสุ ข เป็ นการใช้ ยาตามขั้นตอน
ทีถ่ ูกต้ องตามแนวทางการพิจารณาการใช้ยา โดยใช้ยาในขนาดที่พอเหมาะกับผูป้ ่ วย
ในแต่ละกรณี ด้วยวิธีการให้ ยาและความถี่ในการให้ยาที่ถูกต้องตามหลักเภสัช
วิทยาคลินิก ด้วยระยะเวลาการรักษาที่เหมาะสม ผูป้ ่ วยให้การยอมรับ และสามารถ
ใช้ยาดังกล่าวได้อย่างถูกต้องและต่อเนื่อง กองทุนในระบบประกันสุ ขภาพหรื อระบบ
สวัสดิการสามารถให้เบิกจ่ายค่ายานั้นได้อย่างยัง่ ยืนไม่เลือกปฏิบตั ิ”
กรอบแนวคิดในการใช้ยาอย่างสมเหตุผลและตัวอย่าง
1. ข้อบ่งชี้ (Indication)
ใช้ยาเมื่อมีความจาเป็ น (เกิดประโยชน์มากกว่าโทษ)
ตัวอย่าง
การให้ยาลดไขมันในผูป้ ่ วยที่ไขมันในเลือดสู งและมีความเสี่ ยงต่อการเกิด
โรคหลอดเลือดหัวใจ
การใช้ยา ABO ในผูป้ ่ วยที่เป็ นหวัดที่ไม่มีการติดเชื้อแบคทีเรี ย
การให้ยาคลายกล้ามเนื้อในผูส้ ู งอายุ
เวียนหัว ท้องผูก ง่วงซึ ม ปากแห้ง ความจาเสื่ อม
กรอบแนวคิดในการใช้ยาอย่างสมเหตุผลและตัวอย่าง
2. ประสิ ทธิผล (Efficacy)
ยานั้นเป็ นประโยชน์ต่อผูป้ ่ วยอย่างแท้จริ ง
ดูกลไกการออกฤทธิ์
ยาคลายกล้ามเนื้อ ใช้ในโรคกล้ามเนื้อหดเกร็ ง ไม่ใช่ใช้ในโรคที่มีการอักเสบของกล้ามเนื้อ
เช่น RA, OA
มีหลักฐานเชิงประจักษ์สนับสนุนเพียงพอ
พาราเซตามอล ใช้แก้ปวดลดไข้
กลูโคซามีน ใช้ลดภาวะข้อเสื่ อม ยังมีขอ้ ขัดแย้ง
ประโยชน์แตกต่างจากยาหลอกและมีความหมายทางคลินิก
ยาลดบวม ผลไม่ต่างจากยาหลอก
ใช้ยา bromhexine ลดเสมหะได้ 4 ml (ผูป้ ่ วยแยกความต่างไม่ได้)
กรอบแนวคิดในการใช้ยาอย่างสมเหตุผลและตัวอย่าง
3. ความเสี่ ยง (Risk)
คานึงถึงความปลอดภัยของผูป้ ่ วยเป็ นหลัก
ประโยชน์มากกว่าโทษ
ยาลดไขมันในผูป้ ่ วยไขมันสู ง หรื อผูป้ ่ วยเบาหวานที่มีความเสี่ ยงโรคหัวใจ
การใช้ยาคลายกล้ามเนื้อ (Orphenadrine) ในผูส้ ู งอายุ
ไม่มีขอ้ ห้ามในผูป้ ่ วย
การใช้ Atorvastatin พาราเซตามอล ในคนที่เป็ นโรคตับ
การใช้แอสไพริ นในเด็กต่ากว่า 12 ปี
กรอบแนวคิดในการใช้ยาอย่างสมเหตุผลและตัวอย่าง
4. ค่าใช้จ่าย (Cost)
ใช้ยาอย่างพอเพียงและคุม้ ค่า
การใช้ยาตามชื่อสามัญ (พาราเซตามอล กับ ไทลินอล)
การใช้ยาต้นแบบที่ผลิตจากต่างประเทศ
ยากลุ่มยับยั้ง COX-II กับ NSAIDs
กรอบแนวคิดในการใช้ยาอย่างสมเหตุผลและตัวอย่าง
6. ขนาดยา (Dose)
ใช้ยาถูกขนาด ไม่นอ้ ยหรื อมากเกินไป ไม่ปรับยาเอง
8. ความถี่ในการให้ยา
ใช้ยาด้วยความถี่ที่เหมาะสม
Amoxicillin ใช้วนั ละ 2-3 ครั้ง (ไม่ควรใช้ 4 ครั้ง)
Cloxacillin ใช้วนั ละ 4 ครั้ง
9. ระยะเวลาในการให้ยา (Duration of treatment)
ใช้ยาในระยะเวลาการรักษาที่เหมาะสม ไม่นานหรื อสั้นเกินไป
การใช้ยารักษาแผลในกระเพาะควรใช้ต่อเนื่อง 4 สัปดาห์
การใช้ยารักษาสิ วใช้ต่อเนื่อง 6-8 สัปดาห์
กรอบแนวคิดในการใช้ยาอย่างสมเหตุผลและตัวอย่าง
ข้อซักถามครับ
คบส.ลำพูน 2561