You are on page 1of 14

บทความวิจัย วารสารวิชาการ วิศวกรรมศาสตร์ ม.อบ.

ปีที่ 8 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2558 37

การศึกษาพฤติ กรรมการไหลของลมร้อนโดยการจาลองด้วย EasyFEM


และเทคนิ คชาร์โดว์กราฟ
Study of Hot Air Flow Behavior using EasyFEM Simulation
and Shadowgraph Techniques
วุฒชิ ยั สิทธิวงษ์
คณะเกษตรศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรนิ ทร์ 32000
Wuttichai Sittiwong
Faculty of Agriculture and Technology, Rajamangala University of Technology Isan Surin Campus 32000
Tel : 0-4415-3093 E-mail: sittiwong@gmail.com

บทคัดย่อ Abstract
งานวิจยั นี้มวี ตั ถุ ประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการ This research aims to study hot air flow behavior
ไหลของลมร้อ นด้ว ยการจ าลองพลศาสตร์ข องไหลเชิง using Computational Fluid Dynamics (CFD) simulation.
คานวณ (Computational Fluid Dynamics, CFD) โดยใช้ This was accomplished using the finite element
โปรแกรมไฟไนต์เอลิเมนต์ ทีช่ ่อื Easy Finite Element software which is formally known as Easy Finite
(EasyFEM) และทาการเปรียบเทียบกับ ผลการทดลอง Element (EasyFEM). Results of the EasyFEM simulations
จากภาพถ่ายที่ใช้เทคนิคชาร์โดว์กราฟ (Shadowgraph were compared with those from visualization using
technique) โดยกาหนดให้ลมร้อนไหลผ่านวัตถุ หน้ าตัด shadowgraph technique. The various studies all
สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม และวงกลม ที่จ ัดวางไว้เป็ น แบบ involved hot air flow at a constant velocity of 2 m/s
เดี่ยวและแบบกลุ่ม อุณหภูมิลมร้อนที่ใช้ใน การจาลอง and at variable temperatures of 60C 80C and
และการทดลองจะถูกเปลีย่ นแปลง 3 ค่าคือ 60C 80C 100C through solid objects of various shapes and
และ 100C ความเร็วของลมร้อนคงทีท่ ่ี 2 m/s ทุกกรณี quantities. The cross section shapes used in these
จากผลการทดลองพบว่า เทคนิคชาร์โดว์กราฟสามารถ studies include are triangle, square and circle. From
แสดงพฤติกรรมการไหลของลมร้อนได้อย่างชัดเจน เมื่อ the experimental results, it was found that shadowgraph
เปรียบเทียบกับผลทีไ่ ด้จาก EasyFEM จากมุมการเปลีย่ นแปลง techniques obviously revealed the hot air flow
ของอากาศร้อนทีไ่ หลผ่านวัตถุ หรือมุม Separation point behaviors. When comparing with EasyFEM results,
ของทัง้ 2 วิธี ได้ผลแตกต่างกันเฉลีย่ 2 องศา อย่างไรก็ the angles of hot air flow separation were different
ตาม ผ ลการจ า ลอ งข องไ หลพลศา สต ร์ จ ะ แ สดง about 2 degrees. However, the detail behavior of the
รายละเอียดของพฤติกรรมการไหลของลมร้อนมากกว่า air flow obtained from EasyFEM is higher than that
แต่ ผ ลที่ไ ด้จ ากเทคนิ ค ชาร์โ ดว์ก ราฟให้ร ายละเอีย ดที่ from shadowgraph technique. The detail behavior at
สามารถมองเห็นพฤติกรรมได้ต่อเนื่องด้วยตาเปล่า continuous air flow can be seen with naked eye in
คาหลัก การไหลของลมร้อน การจาลองพลศาสตร์ของ the shadowgraph.
ไหล โปรแกรมไฟไนต์เอลิเมนซ์ เทคนิคชาร์โดว์กราฟ Keywords: Hot air flow, computational fluid dynamics,
finite element software, shadowgraph technique
38 บทความวิจัย วารสารวิชาการ วิศวกรรมศาสตร์ ม.อบ. ปีที่ 8 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2558

1. บทนา ไหลพลศาสตร์ แต่ ยงั ไม่มกี ารศึกษาพฤติกรรมการไหล


ในป จั จุ บ ัน เทคโนโลยีท างคอมพิว เตอร์เ ข้า มามี ของอากาศในเครื่อ งอบแห้ง หรือ ปล่ อ งความร้อ น ด้ว ย
บทบาทในการพัฒนาประเทศไม่ว่าจะเป็ นด้านวิศวกรรม ภาพจริง อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมการไหลของอากาศยัง
การทหาร ธรณีวทิ ยา การแพทย์ ซึ่งแตกต่างจากอดีตที่ มีความสาคัญในงานด้านอื่นๆ เช่น การออกแบบรูปทรง
ผ่านมา เช่น ในทางการแพทย์ การศึกษาพฤติกรรมของ วัตถุเพื่อลดหรือเพิม่ แรงต้านจากอากาศพลศาสตร์ ดังเช่น
การไหลของเลือดในร่างกายมนุ ษย์ไม่สามารถกระทาได้ ปรัชญา มุขดา และคณะ [7] ศึกษาอากาศพลศาสตร์ใน
จากของจริง การจาลองการไหลของเลือ ดโดยใช้วิธีไ ฟ การวิ่งตามกันของรถบรรทุกขนาดเล็ก โดยวิธีคานวณ
ไนต์เอลิเมนต์มาช่วยวิเคราะห์ จึงเป็ นหนึ่งในวิธีการที่ ของไหลพลศาสตร์ การศึ ก ษาท าการเปรี ย บเที ย บ
สามารถจาลองให้ได้เสมือนจริง [1] ด้านการป้องกันภัย สัมประสิทธิแรงต้
์ านของวัตถุทรงกลมโดยการทดสอบใน
ธรรมชาติ พฤติกรรมด้านชลศาสตร์การไหลของน้ าทัง้ ใน อุ โ มงค์ล มและ CFD ทดสอบสัม ประสิท ธิแ์ รงต้ า นของ
แม่น้ า ทุ่งน้ าหลาก และการไหลผ่านสิง่ กีดขวางหรือ รถบรรทุ กขนาดเล็กจ าลองอัตราส่ วน 1:20 ของรถจริง
โครงสร้างทางชลศาสตร์ภายใต้สภาวะการไหลแบบคงที่ เช่นเดียวกับ ยุทธชัย เกี้ยวสันเทียะ และประโยชน์ ชมพู
และแบบไม่คงที่ สามารถใช้แบบจาลองคณิตศาสตร์ชนิด บุตร [8] ที่ศกึ ษาการลดอัตราการสิน้ เปลืองน้ ามันเชือ้ เพลิง
สองมิ ติ โ ดยใช้ ส มการการไหลต่ อ เนื่ อ งและสมการ ของรถกระบะโดยการคลุมผ้าใบทีช่ ่วงท้ายกระบะด้วยการ
โมเมนตัมของการไหล [2] ที่กล่าวมาเหล่านี้เป็ นตัวอย่าง จาลองสภาพการไหลของอากาศผ่านตัวรถกระบะโดยใช้
การช่ ว ยแก้ ป ญ ั หาในการออกแบบผ่ า นการทดลอง โปรแกรมพลศาสตร์ ข องไหลเชิง ค านวณร่ ว มกับ การ
(experiment) ลดเวลาการทางาน ลดต้นทุน และลดความ ทดลองโดยใช้รถกระบะจริง
เสีย่ งต่อความเสียหาย นอกจาก นี้ ภาคภู มิ สุ ภ าชาติ และคณะ [9]
ประพันธ์พงษ์ สมศิลา และอาไพศักดิ ์ ทีบุญมา [3] ทาการศึกษาวิธกี ารกระจายลมเย็นภายในรถตู้โดยสาร
ศึกษาอิทธิพลของอัตราส่วนสมมูลต่ อประสิทธิภาพการ ด้วยวิธคี านวณพลศาสตร์ของไหล 2 มิติ โดยมีความยาว
ไหลเวียนอากาศภายในเครื่องอบแห้งแสงอาทิตย์ ทีส่ ร้าง ของรถตู้ 4.2 เมตร สูง 1.3 เมตร เงื่อนไขความเร็วลมที่
ขึน้ โดยการวัดอุณหภูมิและความเร็วของอากาศภายใน ออกจากช่องกระจายลมเย็น 2, 3 และ 4 เมตรต่อวินาที
เครื่องอบแห้ง เท่านัน้ จากผลการวิจยั มีวตั ถุประสงค์เพื่อ จากการศึกษาพบว่าทีค่ วามเร็วลม 4 m/s ทิศทางของลม
ใช้เป็ นแนวทางในการออกแบบและสร้างเครื่องอบแห้ง เย็นที่ออกจากช่องลมทามุม 0 จากด้านหน้า และ 90
แสงอาทิต ย์ใ ห้มีป ระสิท ธิภ าพสูง นอกจากนี้ ยัง ศึก ษา จากหลังคา
พฤติก รรมการไหลเวีย นของอากาศภายในโรงอบแห้ง ปพน พุทธธนาศักดิ ์ [10] ศึกษาปญั หาการไหลของ
แบบต่ า งๆ โดยใช้ก ารค านวณเชิง พลศาสตร์ข องไหล ห้องสะอาดสาหรับกระบวนการประกอบหัวอ่านฮาร์ดดิสก์
ภายในโรงเรือ น และน าเสนอในรู ป ของ temperature โดยใช้แบบจาลองคอมพิวเตอร์ ด้วยระเบียบวิธไี ฟไนต์โว
contour กับ velocity vector ซึง่ พอสรุปได้ว่าการกระจาย ลุมทีใ่ ช้แบบจาลองการไหลปนป ั ่ ่วน k-  และเก็บข้อมูล
ตัวของอุณหภูมคิ ่อนข้างสูงบริเวณใต้หลังคา [4-5] ความเร็ว อุณหภูมแิ ละความดันในห้องสะอาดขณะใช้งาน
อาไพศักดิ ์ ทีบุญมา และประพันธ์พงษ์ สมศิลา [6] จากการศึกษาพบว่าความเร็วลมทีอ่ อกจากหัวจ่ายลมมีค่า
สร้างบ้านจาลอง ขนาด 1x1.5x1.2 m และปล่องความ เกิน มาตรฐานและลดความป นป ั ่ ่ว นของอากาศบริเ วณ
ร้อน ขนาด 0.8x0.5x0.1 m เพื่อศึกษาผลของปล่องความ เครื่องด้วยการเพิม่ ความยาวม่านพลาสติก
ร้อนทีม่ ตี ่อการปรับอากาศของบ้านพักอาศัยในฤดูหนาว ทนงเกียรติ เกียรติศริ โิ รจน์ และคณะ [11] ศึกษาผล
โดยที่ปล่องความร้อนวางเอียงกับแนวระดับ 20 องศา ของสนามแม่เหล็ก ไฟฟ้าที่มีต่อการถ่ ายเทความร้อนใน
ตามมุมเอียงของหลังคา จากผลการทดลองพบว่า เมื่อ ของเหลวไดอิเลกทริก การทดลองพบว่าของเหลวมีการ
ติด ตัง้ ปล่ อ งความร้อ น อุ ณ หภู มิข องบ้า นสูง ขึ้น ร้อ ยละ หมุนวน โดยสังเกตเม็ดพลาสติกเล็กๆ ทีล่ อยในของเหลว
14.5 จากงานวิจยั ทีก่ ล่าวในข้างต้นพบว่ามีทงั ้ การทดลอง การหมุ น วนจะรุ น แรงขึ้น เมื่อ ป้ อนแรงดัน ไฟฟ้ าสูง ขึ้น
โดยการวิเคราะห์ผลเชิงข้อมูลตัวเลขและการจาลองของ ขวัญชัย ไกรทอง และ อติพงศ์ นันทพันธุ์ [12] ประยุกต์ใช้
บทความวิจัย วารสารวิชาการ วิศวกรรมศาสตร์ ม.อบ. ปีที่ 8 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2558 39

เครื่องแลกเปลีย่ นความร้อนแบบไหลตามขวางดัดแปลง เทีย่ งตรง นัน้ คือปญั หาของการใช้ CFD และปญั หาอีก
จากคอนเดนเซอร์ ร ะบบปรับ อากาศรถยนต์ เพื่อ ใช้ ประการหนึ่ ง คือ ซอฟแวร์ ท่ี ใ ช้ เ พื่ อ จ าลองป ญ ั หาทาง
แลกเปลีย่ นความร้อนระหว่างน้ าร้อนทีอ่ ุณหภูมปิ ระมาณ วิศ วกรรมส่ ว นใหญ่ เ ป็ น ซอฟแวร์ท่ีมีลิข สิท ธิ ์ ราคาสู ง
65C กับอากาศทีอ่ ุณหภูมหิ อ้ ง และยังพัฒนาแบบจาลอง สาหรับการศึกษาและการพัฒนาต่ อยอด เนื่องจากเป็ น
ทางคณิตศาสตร์เพื่อใช้ประเมินค่าประสิทธิผลของเครื่อง ลิขสิทธิของต่
์ างชาติ
แลกเปลี่ย นความร้อ น ในการทดลองใช้อุ โ มงค์ล มเป็ น จากงานวิจยั และปญั หาดังกล่าวข้างต้น งานวิจยั นี้
อุ ป กรณ์ ห ลัก ท าหน้ า ที่ส่ ง อากาศผ่ า นคอนเดนเซอร์ จึงมีวตั ถุประสงค์เพื่อศึกษาการเคลื่อนทีข่ องลมร้อนผ่าน
รถยนต์ทอ่ี ตั ราการไหลของอากาศที่ 0.1-0.4 กก./วินาที วัตถุรปู ทรงต่างๆ โดยใช้โปรแกรมไฟไนต์เอลิเมนต์อย่าง
น้ าร้อนอุณหภูมิ 65C ทาการวัดอุณหภูมอิ ากาศและน้ า ง่าย (easy finite element) หรือ EasyFEM ซึง่ เป็ นซอฟแวร์
พบว่าค่าประสิทธิผลของเครื่องแลกเปลีย่ นความร้อนอยู่ ทีค่ นไทยสร้างและพัฒนา [15] มาใช้เปรียบเทียบกับเทคนิค
ระหว่าง 0.4 และ 0.9 ชาร์โดว์กราฟ (shadowgraph technique) ซึง่ เป็ นเทคนิค
อุทยั ประสพชิงชนะ และคณะ [13] วิเคราะห์อตั รา ที่สามารถทาให้มองเห็นการเคลื่อนที่ของลมร้อนที่เป็ น
การถ่ า ยเทความร้ อ นในสภาวะคงตั ว ผ่ า นแผ่ น ครี บ ตัว กลางโปร่ ง ใส (transparent media) [18-20] ซึ่ง
สีเ่ หลีย่ มผืนผ้าด้วยแบบจาลองทางคณิตศาสตร์ เทียบกับ แตกต่ า งจากการทดลองอื่น ที่ ใ ช้เ ปรีย บเทีย บผลการ
ผลการทดลองที่ใช้แผ่นครีบสี่เหลี่ยมผืนผ้าตรง ทาจาก ทดลองกับ ผลของ CFD ด้ว ยข้อ มู ล เชิง ตัว เลข เช่ น
เหล็ก คาร์บ อน และอลู มิเ นี ย ม ให้ ล มร้อ นไหลผ่ า นวัด เปรี ย บเที ย บด้ ว ยค่ า ของอุ ณ หภู มิ ท่ี จุ ด ต่ า งๆ ซึ่ ง ไม่
อุณหภูมิและความเร็วลม ซึ่งพอสรุปผลได้ว่าอัตราการ สามารถมองเห็น พฤติก รรมการเปลี่ย นแปลงหรือ การ
ถ่ายเทความร้อนผ่านแผ่นครีบมีค่าแตกต่างจากผลลัพธ์ท่ี เคลื่อนที่ของของไหลนัน้ ได้ ซึ่งเหมาะสาหรับการจาลอง
ได้จากการคานวณวิธีการเชิงวิเคราะห์เป็ น ร้อยละ 11.8 การอบแห้ง การถ่ า ยเทความร้อ น การออกแบบครีบ
ขณะทีค่ ่าความแตกต่างกรณี 3 มิติ เป็ นร้อยละ 5.4 ระบายความร้ อ น การศึ ก ษาอากาศพลศาสตร์ การ
ั หาการถ่ า ยเทความร้ อ น
การศึ ก ษาเพื่ อ แก้ ป ญ เคลื่อนทีข่ องอากาศเพื่อออกแบบหัวจ่าย หรืออื่นๆ ทีเ่ กิด
ปญั หาการเคลื่อนทีข่ องความร้อน ปญั หาของแข็ง ปญั หา ความแตกต่างของความหนาแน่นของของไหล เป็ นต้น
ของแข็ง เนื่ อ งจากอุ ณ หภู ม ิ ป ญ ั หาการไหลแบบศัก ย์
ปญั หาการไหลแบบหนืด ปญั หาการไหลความเร็วสูง และ 2. อุปกรณ์และวิ ธีการทดลอง
อื่นๆ ด้วยวิธีการหาคาตอบโดยประมาณ (approximate งานวิจ ัยนี้ มีว ัต ถุ ป ระสงค์เพื่อ เปรีย บเทียบผลการ
solution) ของระบบสมการโดยใช้ระเบียบวิธเี ชิงตัวเลข ทดลองการเคลื่อ นที่ข องลมร้ อ นผ่ า นวัต ถุ รู ป หน้ า ตั ด
(numerical method) มาช่วยในการคานวณหรือพลศาสตร์ รูปทรงต่างๆ ด้วยภาพถ่ายทีไ่ ด้จากเทคนิคชาร์โดว์กราฟ
ของไหลเชิงคานวณ (computational fluid dynamics, กับ ผลของการค านวณด้ว ยระเบีย บวิธีเ ชิง ตัว เลขจาก
CFD) จึงเป็ นวิธกี ารหรือเครื่องมือที่มีบทบาทในปจั จุบนั โปรแกรมไฟไนต์เอลิเมนต์อย่างง่าย หรือ EasyFEM [15]
อย่างมาก [14-17] จึงทาให้เกิดการสร้างโปรแกรมสาเร็จรูป ดังนัน้ งานวิจยั นี้จงึ แบ่งเป็ น 2 ส่วน คือ
ขึน้ มากมาย แต่ปญั หาของการใช้งานโปรแกรมสาเร็จรูป 1. การถ่ า ยภาพลมร้อ นผ่ า นวัต ถุ ห น้ า ตัด รูป ทรง
คือ ผู้ใ ช้ต้อ งก าหนด สภาวะเริ่ม ต้น (initial condition) ต่างๆ ด้วยเทคนิคชาร์โดว์กราฟ
ขบวนการ (pre-process) ตัวแปร (parameter setup) ให้ 2. การจาลองการไหลของลมร้อนผ่านวัตถุ หน้าตัด
ถูกต้อง และการวิเคราะห์ผลลัพธ์ผู้ใช้งานต้องมีความรู้ รูปทรงต่างๆ ด้วยโปรแกรม EasyFEM
เป็ น อย่ า งดี จึง จะสามารถวิเ คราะห์ผ ลข้อ มู ล ได้ อ ย่ า ง การเปรีย บเทีย บผลจากการทดลองและผลจาก
ถูกต้อง [14] ดังนัน้ CFD จึงเป็ นเพียงเครื่องมือ ไม่ได้เข้า EasyFEM ภายใต้สภาวะเดียวกัน คือ ลมร้อนอุณหภูมิ
มาทดแทนทฤษฏี (theory) และใช้ ผ ลการทดลอง ของลมร้อนทีไ่ หลผ่านวัตถุเป็ น 60C, 80C และ 100C
(experimental results) เพื่อ ยืน ยัน หรือ ปรับ เทีย บ ไหลผ่านท่อหน้าตัดสามเหลี่ยม ขนาด 2.5x2.5 cm ท่อ
(calibration) ผลที่ได้จาก CFD จึงจะเชื่อมันได้ ่ ถงึ ความ กลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 2.5 cm และท่อหน้าตัดสีเ่ หลีย่ ม
จัตุรสั ขนาด 2.5x2.5 cm ด้วยความเร็ว 2 m/s การเปรียบเทียบ
40 บทความวิจัย วารสารวิชาการ วิศวกรรมศาสตร์ ม.อบ. ปีที่ 8 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2558

ผลการทดลองและการจ าลองด้ ว ยมุ ม ของลมร้ อ นที่ แตกต่างจากรูปที่ 1(ข) เป็ นภาพถ่ายเทียนไขเล่มเดิมด้วย


เคลื่อนทีผ่ ่านวัตถุโดยใช้โปรแกรมสาเร็จรูปวิธกี ารวัดระยะ เทคนิ ค ชาร์โ ดว์กราฟ สามารถมองเห็นพฤติก รรมของ
หรือ มุ ม ของการไหลของลมร้อ นใช้โ ปรแกรมสาเร็จ รู ป อากาศรอบๆ เปลวเทียนได้อย่างชัดเจน นอกจากนัน้ ยัง
วิธกี ารวัดจะทาการปรับเทียบค่าขนาดของวัตถุ กบั รูปที่ มองเห็นไส้เทียนไขได้อย่างชัดเจน
บันทึกได้ก่อนทาการวัดระยะการเคลื่อนทีข่ องลมร้อน แต่ งานวิจ ัย นี้ จัด ชุ ด ทดลองก าเนิ ด ลมร้อ น และชุ ด
การแสดงผลในภาพการทดลองเป็ นเพียงการแสดงให้เห็น ชาร์โดว์กราฟ วางเป็ นแบบตัว Z ดังแสดงในรูปที่ 2 ซึ่ง
มุมและตาแหน่งทีใ่ ช้วดั เท่านัน้ ประกอบด้วย ชุดชาร์โดว์กราฟ หมายเลข 1 ถึง 7 และชุด
การทดลอง ชิ้นทดสอบทัง้ 3 แบบ มีความยาวตลอด ทดลองลมร้อนหมายเลข 8 ถึง 11 โดยมีรายละเอียดดังนี้
พื้นที่หน้าตัดการไหลของลมร้อน ทาให้การไหลของลม หมายเลข 1 ชุดกาเนิดแสง (light source) ประกอบด้วย
ร้อนผ่านวัตถุเป็ นแบบ 2 มิติ และความเร็วของลมร้อนถูก ส่วนสาคัญ 2 ส่วน คือ ตัวกาเนิดแสงใช้หลอดไฟซินอน
วัดและควบคุมทีท่ างออกของปล่อง (HID xenon) ค่า Kelvin scale (K) 4,300 K ค่าความส่อง
2.1 เทคนิ คชาร์โดว์กราฟ สว่าง 3,500 lumen และเลนส์นูนสองด้าน (convex lens)
สิง่ ที่ไ ด้จากเทคนิ ค ชาร์โ ดว์ก ราฟ (Shadowgraph มีระยะจุดรวมแสง (focus) 20 cm
Technique) หรือ shadowgram ไม่ใช่ภาพถ่ายของวัตถุ หมายเลข 2 รูเข็ม (pin-hole) หรือรูรบั แสงแบบ
แต่เป็ นภาพเงา [18] ซึง่ เป็ นเทคนิคทีเ่ หมาะกับการใช้เพื่อ Diaphragm ขนาดรูรบั แสงเล็กสุด 2 mm ทาหน้าทีก่ รอง
ศึก ษาพฤติ ก รรมหรือ ปรากฏการณ์ ข อง transparent แสง รูรบั แสงยิง่ แคบ ภาพยิง่ ชัดลึก
media ดังทีไ่ ด้กล่าวไว้ขา้ งต้น เทคนิคชาร์โดว์กราฟ อาศัย หมายเลข 3 กระจกเงา (plane mirror) เส้นผ่าน
หลัก การการหัก เหของแสงที่เ คลื่อ นที่ผ่ า นตัวกลางที่ ม ี ศูนย์กลาง 30 cm ทาหน้าทีส่ ะท้อนแสง ลดพืน้ ทีท่ ดลอง
ความหนาแน่ นแตกต่ างกันทาให้เกิดเงา ซึ่งไม่สามารถ หมายเลข 4 และ 5 กระจกเงาโค้ ง (parabolic
มองเห็นด้วยตาเปล่า เช่นในรูปที่ 1 ภาพถ่ายเทียนไข (ก) mirror) ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 30 cm ระยะรวมแสง
ถ่ายโดยตรง (ข) ถ่ายด้วยเทคนิคชาร์โดว์กราฟ 150 cm จานวน 2 บาน ทาหน้าทีเ่ ปลีย่ นทิศทางการเคลื่อนที่
ของแสงที่กระจายในแนวรัศมีจากแหล่งกาเนิดแสงเป็ น
แนวขนานผ่ า นห้ อ งทดสอบ และเปลี่ย นทิ ศ ทางการ
เคลื่อนทีข่ องแสงในแนวขนานเป็ นรวมแสง
หมายเลข 6 จอรับภาพสีพ้นื ดาด้าน ทาหน้าทีเ่ ป็ น
จอรับ ภาพเพื่อ ศึกษาพฤติกรรมของลมร้อ นที่ไ หลผ่ า น
วัตถุรปู ทรงต่างๆ
หมายเลข 7 กล้องถ่ายภาพ HS (high speed) ยีห่ อ้
Casio รุ่น EX-FH20 ถ่ายภาพเคลื่อนไหว 1,000 fps
ภาพนิ่งต่อเนื่อง 40 fps
หมายเลข 8, 9, 10 และ 11 เป็ นชุดทดลองซึง่ ประกอบด้วย
ชุ ด พัด ลมหอยโข่ง (centrifugal fan) หรือ โบลเวอร์
(blower) ทาหน้าที่กาเนิดลมให้ไหลผ่านวัตถุ ชุดตัวให้
รูปที่ 1 ภาพถ่ายเทียนไข (ก) ถ่ายโดยตรง (ข) ถ่ายด้วยเทคนิค ความร้อนแบบครีบ (coil finned heater) ทาหน้าทีเ่ ป็ น
ชาร์โดว์กราฟ แหล่ ง ความร้อ นเพื่อ เปลี่ย นแปลงความหนาแน่ น ของ
อากาศที่ไหลผ่านวัตถุ ท่อรังผึง้ (honeycomb) ทาหน้าที่
รูปที่ 1(ก) แสดงภาพถ่ายเทียนไขที่จุดไฟแล้วด้วย เรียงกระแสลมจากโบลเวอร์ให้เคลื่อนที่แ บบราบเรีย บ
กล้องถ่ายภาพโดยตรง จากรูปจะเห็นเพียงแสงจากเปลว (laminar) และสุดท้ายคือห้องทดสอบทีม่ วี ตั ถุรปู ทรงต่างๆ
เทีย นและไส้เ ทีย นเล็ก น้ อ ยเท่ า นัน้ ไม่ สามารถมองเห็น วางขวางการเคลื่อนที่ของลมเพื่อศึก ษาพฤติกรรมการ
พฤติก รรมหรือ ปรากฏการณ์ ร อบๆ เปลวเทีย นได้ ซึ่ง เปลีย่ นแปลง ตามลาดับ
บทความวิจัย วารสารวิชาการ วิศวกรรมศาสตร์ ม.อบ. ปีที่ 8 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2558 41

velocity potential ที่ดา้ นหน้าวัตถุ ค่าความหนาแน่ น


เปลีย่ นแปลงตามอุณหภูมิ ค่าความดัน (fluid pressure)
มีค่าเป็ นศูนย์ ขอบเขตด้านออก (pressure outlet) กาหนดให้
ภาระโหลด normal velocity potential derivative (U) ผนัง
ทางเข้าเป็ น 2 ดังรูปที่ 3

รูปที่ 2 ชุดทดลองเพือ่ ถ่ายภาพด้วยเทคนิคชาร์โดว์กราฟ

หลักการทางานของเทคนิค ชาร์โดว์กราฟ เริม่ จาก


แสงที่ มีค่ า ความสว่ า งสู ง กระจายตัว ในแนวรัศ มีจ าก
แหล่ ง ก าเนิ ด (หลอด xenon) ผ่ า นเลนส์นู น ท าให้แ สง
เปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่เข้าหาจุดรวมแสงที่ระยะ 20
cm จากเลนส์ ทีจ่ ุดรวมแสง แสงจะผ่านรูเข็มเพื่อตัดแสง
หรือกรองแสงเพื่อให้ภาพมีความคมชัด แสงจากจุดรวม
แสงจะกระจายออกอีกครัง้ (กลับหัว ) ตกกระทบลงบน
กระจกเงาทีท่ าหน้าทีเ่ ปลีย่ นทิศทางของแสงเพื่อลดพืน้ ที่
การทดลอง แสงสะท้อนผ่านกระจกเงาตกกระทบกระจก
เว้าโค้งทีร่ ะยะ 1,500 cm (จากรูเข็ม) แสงจะเปลีย่ นแนว
เคลื่อนทีจ่ ากรัศมีเป็ นแนวขนาน แสงแนวขนานผ่านห้อง รูปที่ 3 ขอบเขตของแบบจาลองและรูปร่างของ Mesh
ทดสอบตกกระทบกระจกโค้งบานที่ 2 และสะท้อนตกลง
การวิเคราะห์ปญั หาการไหลแบบศักย์ทงั ้ หมดจะแบ่ง
บนพื้นจอสีดา และบันทึกภาพด้วยกล้องถ่ายภาพวิดโี อ
โมเดลด้วยเอลิเมนต์สามเหลี่ยมแบบมีระเบียบ ดังแสดงใน
ความเร็วสูง
รูปที่ 3 ทีม่ ี Number of node และ Number of TRIANGLE
2.2 ซอฟต์แวร์ Easy Finite Element
ดังตารางที่ 1
การจ าลองการไหลของลมร้ อ นในงานวิ จ ัย นี้ ใ ช้
โดยคาแนะนาของคู่มอื การใช้งาน EasyFEM ใน
EasyFEM เวอร์ชนั 1.0 เป็ นไฟไนต์เอลิเมนต์ซอฟต์แวร์
ั หาการไหลแบบ การกาหนดค่าช่องไฟของจุดต่อเป็ น 1 คือการแบ่งระยะ
(finite element software) แก้ป ญ
ั หา ช่องไฟของจุดต่อจะเท่ากันตลอดขอบเขตของ wall (ใน
ศัก ย์ (potential flow) ที่สามารถสร้า งรูป ร่ า งป ญ
รูป ที่ 3) และค่า number of node กาหนดจากคาสั ่ง
(geometry) จนถึงแสดงผลลัพธ์ (displaying results)
mesh size ทีต่ ้องกาหนดขนาด size (ต่ าสุด 0.1 หน่ วย)
จากคู่ มื อ การใช้ ง านส าหรับ งานวิ จ ัย นี้ เป็ น การ
และ minimum element จะเป็ นค่าทีก่ าหนดขึน้ โปรแกรมจะ
วิเ คราะห์ป ญั หาการไหลแบบศัก ย์ (potential flow)
generate mesh เมื่อค่าทีก่ าหนดให้สามารถเกิดเอลิเมนต์ทม่ี ี
ภายใต้ ส มมุ ติ ฐ านว่ า เป็ น การไหลแบบไร้ ค วามหนื ด
ขนาดเล็ก กว่ า ค่ า ๆ นั น้ และการก าหนดกระบวนการ
(inviscid flow) ทีไ่ ม่มกี ารไหลแบบหมุนวน (irrotational
คานวณการทาซ้า (iteration process) จะแสดงผลได้เมื่อ
flow) ของไหลมีความหนาแน่ นคงที่ (incompressible
ค่าร้อยละของการเปลี่ยนแปลงในแต่ละเอลิเมนต์นนั ้ น้อย
flow) อุณหภูมขิ องวัตถุท่ลี มร้อนไหลผ่านมีอุณหภูมคิ งที่
กว่าค่าทีก่ าหนด ในการทดลองนี้ค่าทีก่ าหนดเริม่ ต้นได้ค่า
กาหนดความเร็วของลมเข้า (velocity inlet) 2 m/s กาหนดให้
42 บทความวิจัย วารสารวิชาการ วิศวกรรมศาสตร์ ม.อบ. ปีที่ 8 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2558

ตัวเลขต่ าสุด ของการกาหนดและอื่น ๆ คือ Size 0.1 บริเ วณดัง กล่ า วมี ค วามหนาแน่ น แตกต่ า งจากความ
หน่ วย minimum element เป็ น 3 iteration process หนาแน่นเริม่ ต้น
6000 ค่าความเผื่อ 0.000001 แสดงผลทุก 10 ค่า เป็ นต้น

ตารางที่ 1 เงือ่ นไขการคานวณและผลของการสร้างขอบเขตของ


แบบจาลอง
ลาดับ แบบวัตถุ แบบ Number Number of
(ท่อหน้ าตัด) การวาง of node TRIANGLE
1 สามเหลีย่ ม เดีย่ ว 3547 6923
2 สามเหลีย่ ม กลุ่ม 4056 7915
3 สีเ่ หลีย่ ม เดีย่ ว 3744 7312
4 สีเ่ หลีย่ ม กลุ่ม 4514 8816
5 วงกลม เดีย่ ว 3803 7431
6 วงกลม กลุ่ม 4474 8751 รูปที่ 5 ภาพถ่ายด้วยเทคนิคชาร์โดว์กราฟ

ผลลัพธ์ท่ไี ด้จาก EasyFEM จะแสดงเป็ นแถบสี รูปที่ 6 การไหลของลมร้อนอุณหภูมิ 60C ผ่าน


แสดงค่าศักย์ แถบสีแสดงฟงั ก์ชนั การไหล แถบสีแสดงค่า วัตถุหน้าตัดรูปสามเหลีย่ ม (ก) จาก EasyFEM (ข) จาก
ความดัน และเวกเตอร์ของความเร็ว ดังแสดงตัวอย่างใน เทคนิคชาร์โดว์กราฟ จะเห็นว่าพฤติกรรมการเคลื่อนที่
รูปที่ 4 ของลมร้อ นผ่ า นวัต ถุ มีแ นวโน้ ม ไปในทิศ ทางเดีย วกัน
โดยเฉพาะ separation point ส่วนหาง ผลจาก EasyFEM ดู
ได้จากแถบสีฟงั ก์ชนั การไหลทีใ่ ช้เทียบความเร็วลมทีผ่ ่าน
วัตถุ (ที่ความเร็วปกติ 2 m/s แสดงด้วยแถบสีเขียว)
บริเวณ separation point ส่วนหางของวัตถุเส้นสีจะแสดง
ให้เห็นเป็ นสีแดงแสดงถึงความเร็วลมที่สูงกว่าความเร็ว
เริ่ม ต้น ความเร็ว สูง สุด ของลมร้อ นอยู่ท่ีป ระมาณ 3.53
m/s บริเวณส่วนหลังของวัตถุเป็ นสีม่วง แสดงถึงศักย์การ
ไหลที่ต่ า กว่ า เริ่ม ต้ น ซึ่ง เป็ น พฤติก รรมการไหลแบบ
ั ่ ่ว นหรือ อากาศหมุน วน (wake) ขึ้น ตามหลัก
ป นป
รูปที่ 4 เวกเตอร์ความเร็วลมผ่านวัตถุหน้าตัดรูปสามเหลีย่ ม aerodynamics เกิดจากการเหนี่ยวนาอากาศด้านหลัง
วัตถุ เป็ นบริเวณทีล่ มร้อนมีความเร็วต่าสุด (0.114 m/s)
3. ผลการวิ จยั เปรียบเทียบผลทีไ่ ด้จาก EasyFEM กับการทดลอง
3.1 ลมร้อนอุณหภูมิ 60C ผ่านวัตถุรปู ทรงสามเหลี่ยม พบว่าผลจาก EasyFEM ขนาดมุมของลมร้อนส่วนหน้า
แบบเดี่ยว หรือมุมของลมร้อนที่ Separation point มีค่า 30 และมุม
ในรูปที่ 5 แสดงภาพตัวอย่างกรณีของการทดลอง ของลมร้อนส่วนหาง 160 (40จากแนวการเคลื่อนทีข่ อง
ลมร้อนไหลผ่านวัตถุหน้าตัด สามเหลี่ยม จะเห็นได้ว่าที่ ลมร้อน) และผลที่ได้จากการทดลอง พบว่าขนาดมุมของ
อุณหภูมิลมร้อน 60C (ค่าความหนาแน่ น ของอากาศ ลมร้อนส่วนหน้า 32 และมุมของลมร้อนส่วนหาง 164
3
1.06 kg/m ) ความเร็วลม 2 m/s สามารถเห็น ภาพเงา (42จากแนวการเคลื่อนทีข่ องลมร้อน) จากผลทัง้ 2 การ
ของลมร้อ นที่ก ระจายอยู่บ ริเ วณส่ว นท้า ย (separation เคลื่อนที่ของลมร้อนมีมุมใกล้เคียงกันร้อยละ 97 การ
point) ของวัตถุได้อย่างชัดเจน ส่วนท้ายของวัตถุมองเห็น วิเคราะห์ผลจากภาพถ่ายสามารถมองเห็นพฤติกรรมการ
ภาพเงาที่แตกต่างกันได้ชดั เจน แสดงถึงความแตกต่าง เคลื่อนทีข่ องลมร้อนได้อย่างชัดเจน
ของความหนาแน่ น ของอากาศ และสัน นิ ษ ฐานได้ ว่ า
บทความวิจัย วารสารวิชาการ วิศวกรรมศาสตร์ ม.อบ. ปีที่ 8 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2558 43

158 (29จากแนวการเคลื่อนทีข่ องลมร้อน) และผลจาก


การทดลองได้ ขนาดมุ ม ส่ ว นหน้ า ของวัต ถุ 32 และ
ส่วนท้าย 161 (39จากแนวการเคลื่อ นที่ข องลมร้อน)
จากการเปรียบเทียบผลของมุมการเคลื่อนทีข่ องลมร้อน
ใกล้เคียงกันร้อยละ 98

รูปที่ 6 การไหลของลมร้อนอุณหภูม ิ 60C ผ่านวัตถุหน้าตัด


สามเหลีย่ ม (ก) ระดับแถบสีความเร็วของอากาศ (m/s)
จาก EasyFEM (ข) จากเทคนิคชาร์โดว์กราฟ

3.2 ลมร้อนอุณหภูมิ 80C ผ่านวัตถุหน้ าตัดสามเหลี่ยม


แบบเดี่ยว
รูปที่ 7 การไหลของลมร้อนอุณหภูมิ 80C ผ่าน รูปที่ 7 การไหลของลมร้อนอุณหภูม ิ 80C ผ่านวัตถุหน้าตัด
วัตถุ หน้ า ตัดสามเหลี่ย ม (ก) ระดับแถบสีค วามเร็ว ของ สามเหลีย่ ม (ก) ระดับแถบสีความเร็วของอากาศ (m/s)
อากาศ (m/s) จาก EasyFEM (ข) จากเทคนิคชาร์โดว์กราฟ จาก EasyFEM (ข) จากเทคนิคชาร์โดว์กราฟ
ความเร็วลม 2 m/s ทีอ่ ุณหภูมิ 80C (ค่าความหนาแน่ น
ของอากาศ 1.0004 kg/m3) 3.3 ลมร้อนอุณหภูมิ 100C ผ่านวัตถุหน้ าตัดสามเหลี่ยม
จากรูปจะเห็นว่าพฤติกรรมการเคลื่อนทีข่ องลมร้อน แบบเดี่ยว
ผ่านวัตถุไม่แตกต่างกันมากนัก ผลจาก EasyFEM ซึง่ ดู รูปที่ 8 การไหลของลมร้อนอุณหภูมิ 100C ผ่าน
ได้จากแถบสีฟงั ก์ชนั การไหลทีใ่ ช้เทียบความเร็วลมทีไ่ หล วัตถุ หน้ า ตัดสามเหลี่ย ม (ก) ระดับแถบสีค วามเร็ว ของ
ผ่านวัตถุ ในส่วนท้ายของวัตถุบริเวณ separation point อากาศ (m/s) จาก EasyFEM (ข) จากเทคนิคชาร์โดว์
ความเร็วสูงสุดประมาณ 3.34 m/s ความเร็วต่ าสุดประมาณ กราฟ (ค่าความหนาแน่นของอากาศ 0.9467 kg/m3)
0.05 m/s สาเหตุทท่ี าให้ความเร็วต่ าดังทีไ่ ด้กล่าวไว้ในส่วน พฤติกรรมการเคลื่อนทีข่ องลมร้อนอุณหภูมิ 100C
ก่อนหน้านี้ คือ รูปทรงของวัตถุทาให้เกิดอากาศหมุนวน ผ่านวัต ถุ ห น้ า ตัด สามเหลี่ยมไม่ต่ างจากพฤติกรรมการ
ความเร็วจึงลดลงโดยเฉพาะวัตถุรูปทรงต้านการเคลื่อนที่ เคลื่อนทีข่ องลมร้อนใน 2 กรณีแรก ความเร็วสูงสุดประมาณ
หรือ bunt body ผลของการเคลื่อนที่ของลมร้อนจาก 3.47 m/s ความเร็วต่ าสุดประมาณ 0.05 m/s แต่ความ
EasyFEM ได้ขนาดมุมส่วนหน้าของวัตถุ 39 และส่วนท้าย แตกต่างทีเ่ ห็นได้ชดั จากการใช้เทคนิคชาร์โดว์กราฟ คือ
44 บทความวิจัย วารสารวิชาการ วิศวกรรมศาสตร์ ม.อบ. ปีที่ 8 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2558

เมื่ออุ ณหภูมิสูง ความคมชัดของภาพการเคลื่อ นที่ของ (m/s) ภาพจาก EasyFEM (ข) ภาพจากเทคนิคชาร์โดว์


อากาศจะลดลง สาเหตุ เ นื่ อ งจากความหนาแน่ น ของ กราฟ
ตัว กลางที่แ สงส่ อ งผ่ า นต่ า ท าให้ภ าพเงาไม่ ค มชัด ซึ่ง
สัมพันธ์กบั ผลทีไ่ ด้จาก EasyFEM ทีอ่ ุณหภูมสิ งู ส่วนหาง
separation point แถบสีแสดงกระจายตัวต่ ากว่าสองกรณี
แรก สาเหตุจากความหนาแน่ นต่ าทาให้การบีบอัดอากาศ
บริเวณ separation point ต่า ส่วนทิศทางและมุมระหว่าง
รูปภาพทัง้ สองกรณี พบว่าผลจาก EasyFEM ได้มุมส่วน
หน้าของวัตถุ 28 และส่วนท้าย 160 (42จากแนวการ
เคลื่อนทีข่ องลมร้อน) กรณีการทดลอง ขนาดมุมส่วนหน้า
ของ 30 และส่วนท้าย 163(43จากแนวการเคลื่อนที่
ของลมร้อน) จากการเปรียบเทียบผลของมุมการเคลื่อนที่
ของลมร้อนใกล้เคียงกันร้อยละ 98

รูปที่ 9 การไหลของลมร้อนอุณหภูม ิ 60C ผ่านวัตถุหน้าตัด


สีเ่ หลีย่ ม (ก) ระดับแถบสีความเร็วของอากาศ (m/s)
จาก EasyFEM (ข) ภาพจากเทคนิคชาร์โดว์กราฟ

เมื่อ ท าการเปรีย บเทีย บผลทัง้ สองแล้ว จะเห็น ว่ า


พฤติกรรมการเคลื่อนทีข่ องลมร้อนผ่านวัตถุมีแนวโน้มไป
ในทางเดียวกัน ผลทีไ่ ด้จาก EasyFEM ซึง่ ดูได้จากแถบสี
พบว่าวัตถุรูปทรงสีเ่ หลีย่ มมีอทิ ธิพลต่อพฤติกรรมของลม
ร้อนมากกว่ารูปทรงสามเหลีย่ มตามหลัก aerodynamics
รูปที่ 8 การไหลของลมร้อนอุณหภูม ิ 100C ผ่านวัตถุหน้าตัด วัต ถุ รู ป ทรงสี่เ หลี่ย มมีค่ า สัม ประสิท ธิแ์ รงต้ า น (drag
สามเหลีย่ ม (ก) ระดับแถบสีความเร็วของอากาศ (m/s) coefficient, Cd) เท่ากับ 1.05 สูงกว่ารูปทรงสามเหลีย่ ม
จาก EasyFEM (ข) จากเทคนิคชาร์โดว์กราฟ (0.5) และทรงกลม (0.47) ดังนัน้ ผลจาก EasyFEM จึง
เห็นการกระจายตัวของอากาศเมื่อผ่านวัตถุซง่ึ ได้ชดั เจน
3.4 ลมร้อนผ่านวัตถุหน้ าตัดสี่เหลี่ยมแบบเดี่ยว จากเส้ น สี ท่ี ก ระจายทั ว่ (เมื่ อ เที ย บกั บ วั ต ถุ รู ป ทรง
รูปที่ 9 การไหลของลมร้อนอุณหภูมิ 60C ผ่าน สามเหลี่ยม) มุมของลมร้อนที่ปะทะวัตถุท่ี separation
วัตถุหน้าตัดสีเ่ หลีย่ ม (ก) ระดับแถบสีความเร็วของอากาศ point จึงสูงกว่ากรณีรปู ทรงอื่น
บทความวิจัย วารสารวิชาการ วิศวกรรมศาสตร์ ม.อบ. ปีที่ 8 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2558 45

ทีผ่ วิ รอบวัตถุ โดยเฉพาะด้านหลัง separation point กรณีของลมร้อนอุณหภูมิ 80C และ 100C เคลื่อนที่
แถบสีแสดงฟงั ก์ชนั การไหลอยู่ระดับต่ ากว่าสีท่คี วามเร็ว ผ่านวัตถุรปู ทรงกลมแบบเดีย่ วนัน้ พฤติกรรมของอากาศ
ลมเริม่ ต้นปกติมาก (ความเร็วต่ าสุดที่ 0.05 m/s) มุมการ ที่ไหลผ่านวัตถุไม่แตกต่างกัน พอสรุปได้ดงั นี้
เคลื่อนทีข่ องลมร้อน ที่ separation point จาก EasyFEM กรณีอุณหภูมิ 80C มุมการเคลื่อนที่ของลมร้อน
เป็ น 41 ส่ว นการทดลองมีข นาดของมุ ม หัก เหของลม จาก EasyFEM เป็ น 37 และ 155 (28จากแนวแกน)
ร้อนเท่ากัน 38 จากการเปรียบเทียบผลบอกได้ว่ามี ผลจากการทดลองเป็ น 38และ 157 (29จากแนวแกน)
ความเหมือนร้อยละ 93 ทีส่ ว่ นต้นกับส่วนหาง ตามลาดับ
กรณีของลมร้อนอุณหภูมิ 80C และ 100C เคลื่อนที่
ผ่านวัตถุหน้ าตัดสี่เหลี่ยมแบบเดี่ยวนัน้ พฤติก รรมของ
อากาศรอบๆ วัตถุไม่แตกต่างกันมากสรุปได้ดงั นี้ กรณี
อุณหภูมิ 80C มุมการเคลื่อนทีข่ องลมร้อนจาก EasyFEM
เป็ น 34 ส่ว นการทดลองมีข นาดของมุ ม หัก เหของลม
ร้อนเท่ากัน 34 ในกรณีอุณหภูม ิ 100C มุมการเคลื่อนที่
ของลมร้อนจาก EasyFEM เป็ น 35 ส่วนการทดลองมี
ขนาดของมุมหักเหของลมร้อนเท่ากัน 35 จากผลการ
ทดลองทัง้ สามกรณีดว้ ยวิธกี ารทัง้ 2 แบบ การกระจายตัว
ของอากาศลดลงเมื่ออุณหภูมเิ พิม่ ขึน้ สาเหตุท่เี ป็ นไปได้
ในกรณีการเพิม่ อุณหภูมมิ ผี ลทาให้แรงต้านการเคลื่อนที่
(Drag force, Fd) ลดลงดังสมการ 1/2V2CdA เมื่อตัวแปร
หลักของสมการนี้คอื ค่าความหนาแน่ นของอากาศ () ที่
เป็ นทีเ่ ปลีย่ นแปลงตามอุณหภูม ิ
3.5 ลมร้อนผ่านวัตถุหน้ าตัดวงกลมแบบเดี่ยว
รูปที่ 10 การไหลของลมร้อนอุณหภูมิ 60C ผ่าน
วัตถุหน้าตัดวงกลม (ก) ระดับแถบสีความเร็วของอากาศ
(m/s) ภาพจาก EasyFEM (ข) ภาพจากเทคนิคชาร์โดว์
กราฟเมื่อทาการเปรียบเทียบผลแล้วจะเห็นว่า พฤติกรรม
การเคลื่อ นที่ข องลมร้อ นผ่ านวัต ถุ มีแ นวโน้ ม ไปในทาง
เดียวกัน ผลจาก EasyFEM ซึง่ ดูได้จากแถบสีและมุมที่
วัดได้ พบว่าวัตถุ รูปวงกลม มีอทิ ธิพลต่อพฤติกรรมของ รูปที่ 10 การไหลของลมร้อ นอุ ณหภูม ิ 60C ผ่ านวัต ถุ ห น้ าตัด
ลมร้อนน้อยกว่ารูปสามเหลีย่ มและสีเ่ หลีย่ ม เนื่องจาก Cd วงกลม (ก) ระดับแถบสีความเร็วของอากาศ (m/s) จาก
ของวัตถุรูปทรงกลมมีค่าต่ าสุด (0.47, 0.5, 1.05 ตามลาดับ ) EasyFEM (ข) ภาพจากเทคนิคชาร์โดว์กราฟ
ความเร็วลมทีผ่ วิ และส่วนหลังวัตถุต่ากว่าความเร็วเริม่ ต้น
(ความเร็วต่าสุดที่ 0.05 m/s) กรณีอุณหภูมิ 100C มุมการเคลื่อนทีข่ องลมร้อน
มุมของลมร้อนจาก EasyFEM แบ่งเป็ น 2 มุม คือ จาก EasyFEM เป็ น 38 และ 157 (29จากแนวแกน)
มุมต้น 36 และมุมปลาย 156 จากมุมต้น (30 จากแนวแกน) ผลจากการทดลองเป็ น 37 และ 153 (26จากแนวแกน) ที่
ผลจากการทดลอง ได้ 36 กับ 157 (31จากแนวแกน) ส่วนต้นกับส่วนหาง ตามลาดับ
เท่ากันดังรูป
46 บทความวิจัย วารสารวิชาการ วิศวกรรมศาสตร์ ม.อบ. ปีที่ 8 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2558

3.6 เส้ นชัน้ ความดันของลมร้อนผ่านวัตถุหน้ าตัด


รูปทรงต่างๆ
จากรูปที่ 11 แสดงเส้นชัน้ ความดัน (bar) ของลม
ร้อนอุณหภูมิ 100C ผ่านวัตถุ หน้าตัดสามเหลี่ยม (ก)
หน้าตัดกลม (ข) และหน้าตัดสีเ่ หลีย่ ม (ค) จาก EasyFEM
เห็นได้ชดั เจนถึงความแตกต่างของค่าความดันที่บริเวณ
ส่วนหน้าของวัตถุจากระดับแถบสีความดัน คือ ความดัน
สู ง สุ ด เกิ ด ขึ้น กับ วั ต ถุ ห น้ า ตั ด สี่ เ หลี่ ย ม วงกลม และ
สามเหลีย่ ม ตามลาดับ สาเหตุจากวัตถุรูปทรงสีเ่ หลีย่ มมี
ค่ า สั ม ประสิ ท ธิ แ์ รงต้ า นสู ง กว่ า วั ต ถุ รู ป วงกลมและ
สามเหลีย่ ม ดังทีไ่ ด้กล่าวในข้างต้นแล้ว
จากรูปที่ 11(ก) แสดงเส้นชัน้ ความดัน (bar) ของลม
ร้อนอุณหภูมิ 100C ผ่านหน้าตัดสามเหลีย่ ม จากแถบสี
แสดงให้เห็นว่าความดันอากาศบริเวณด้านหน้ าสูงและ
ความดัน ด้า นหลังต่ ากว่ าความดันของอากาศรอบวัต ถุ
ส่วนท้ายของวัตถุ เกิดการแยกตัวของชัน้ ความดัน หรือ
Separation และเกิดการหมุนวนของอากาศความดันต่ า
(เส้นสีน้ าเงิน) บริเวณส่วนท้ายของวัตถุ ซึง่ แตกต่างจาก
พฤติกรรมของลมร้อนไหลผ่านวัตถุหน้าตัดวงกลม รูปที่
11(ข) และสีเ่ หลี่ยมทีเ่ กิด Seperation บริเวณส่วนหน้า
ของวัตถุ รูปที่11(ค) เช่นเดียวกับภาพที่ได้จากเทคนิค
ชาร์โดวกราฟ

รูปที่ 11 เส้นชัน้ ความดัน (bar) ของลมร้อนอุณหภูม ิ 100C ผ่าน


วัตถุหน้าตัดสามเหลีย่ ม (ก) ท่อกลม (ข) และสีเ่ หลีย่ ม (ค)
จากEasyFEM

3.7 ลมร้อนไหลผ่านวัตถุรปู ทรงต่างๆ แบบกลุ่ม


กรณี ข องลมร้ อ นไหลผ่ า นวัต ถุ ห น้ า ตัด สี่เ หลี่ย ม
สามเหลี่ยมและวงกลม ทีจ่ ดั ไว้แบบกลุ่ม ดังแสดงให้เห็น
บทความวิจัย วารสารวิชาการ วิศวกรรมศาสตร์ ม.อบ. ปีที่ 8 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2558 47

รูปที่ 12 การไหลของลมร้อนอุณหภูมิ 60C ผ่านวัตถุ ชัดเจนซึ่งไม่พบปรากฏการณ์ น้ีกบั การเคลื่อนที่ของลม


หน้าตัดสีเ่ หลี่ยม (ก) สามเหลีย่ ม (ข) วงกลม (ค) ด้วย ร้อนผ่านวัตถุ แบบเดี่ยวทัง้ ด้วยวิธี EasyFEM และการ
เทคนิคชาร์โดว์กราฟ ทดลอง นอกจากนี้ จากภาพถ่ายยังพบว่ามุมของอากาศ
ผ่านวัตถุดา้ นหน้าทีอ่ ากาศไหลผ่านถูกบีบเข้าหาตัววัตถุ
หรือกล่าวได้ว่ามุมของอากาศทีไ่ หลผ่านวัตถุแถวหน้าทัง้
สองด้าน (จุด A) แคบกว่าวัตถุแถวหลัง (จุด C)

รูปที่ 12 การไหลของลมร้อนอุณหภูม ิ 60C ผ่านวัตถุหน้าตัด


สีเ่ หลีย่ ม (ก) สามเหลีย่ ม (ข) วงกลม (ค) ด้วยเทคนิค
ชาร์โดว์กราฟ

การทดลองใช้ความเร็วลมที่ไหลผ่านวัตถุแบบกลุ่ม
และอุณหภูมขิ องลมร้อนเท่ากับการทดลองในกรณีลมร้อน
ไหลผ่านวัตถุแบบเดีย่ ว คือ 2 m/s อุณหภูมิ 60C, 80C
และ 100C จากรูปสามารถมองเห็นพฤติกรรมการเคลื่อนที่
ของลมร้อนความเร็ว 2 m/s อุณหภูมิ 60C เคลื่อนที่จาก
ด้านหน้าของวัตถุไปด้านหลังได้อย่างชัดเจน และชัดเจน
ในทุ ก กรณี จึ ง น าเสนอเฉพาะภาพถ่ า ยด้ ว ยเทคนิ ค
ชาร์โดว์กราฟ ของอุณหภูมิ 60C เท่านัน้ จากรูปจะเห็น
ได้ว่าลมร้อนที่ไหลผ่านวัตถุมพี ฤติกรรมทัวไปไม่
่ ต่างกับ
การไหลของลมร้อนผ่านวัตถุแบบเดีย่ ว ความชัดเจนของ
การเคลื่อนที่ของลมร้อนเกิดขึน้ บริเวณส่วนท้ายของวัตถุ
ที่ Separation point ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในรูปที่ รูปที่ 13 ระดับสีความเร็วของลมร้อน (m/s) อุณหภูม ิ 60C ไหล
12(ก) จะเห็นแนวการเคลื่อนทีข่ องอากาศเป็ น 2 ส่วน คือ ผ่านวัตถุหน้าตัดสีเ่ หลีย่ ม (ก) สามเหลีย่ ม (ข) วงกลม
ส่ว นหัว (A) และส่ว นท้า ยของวัต ถุ (B) แถวแรกอย่ า ง (ค) ด้วย EasyFEM
48 บทความวิจัย วารสารวิชาการ วิศวกรรมศาสตร์ ม.อบ. ปีที่ 8 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2558

รูปที่ 13 ระดับสีความเร็วของลมร้อน (m/s) อุณหภูม ิ


60C ไหลผ่านวัตถุหน้าตัดสีเ่ หลีย่ ม (ก) สามเหลีย่ ม (ข)
วงกลม (ค) ด้วย EasyFEM ผลจากโปรแกรม EasyFEM
แสดงพฤติกรรมการเคลื่อนทีข่ องลมร้อนด้วยแถบสีแสดง
เส้นฟงั ก์ชนั การไหล รูปที่ 13(ก) ลมร้อนผ่านวัตถุรูปทรง
สีเ่ หลี่ยมแบบกลุ่ม รูปที่ 13(ข) ลมร้อนผ่านวัตถุรูปทรง
สามเหลี่ยมแบบกลุ่ม และรูปที่ 13(ค) ลมร้อนผ่านวัตถุ
รูปทรงกลมแบบกลุ่ม
จากผลทีไ่ ด้จะเห็น ชัดเจนว่าลมร้อนทีผ่ ่านวัตถุแถว
แรกแล้ ว เส้ น ฟ งั ก์ ช ัน การไหลเปลี่ ย นแปลงมี รู ป ทรง
เหมือนหยดน้ า (streamlined body) หรือ Airfoil สาเหตุ
เกิดจากพฤติกรรมการไหลของของไหลผ่านวัตถุ เกิดการ
ไหลแบบปนป ั ่ ่วน (turbulence) ด้านหลังวัตถุ ความดัน
ด้านหลังต่ าตามหลัก Aerodynamics เกิดการเหนี่ยวนา
อากาศด้านหลังวัตถุและอากาศจะไหลกลับมาบรรจบกัน
(convergence point) ประกอบกับ อากาศบริเ วณ
รูปที่ 14 การไหลของลมร้อนอุณหภูม ิ 60C ผ่านวัตถุหน้าตัด
Separation point ของวัตถุแถวสอง (ทัง้ สองด้านของวัตถุ
วงกลมแบบกลุ่ม (ก) ระดับแถบสีความเร็วของอากาศ
แถวหน้ า ) ที่กระจายตัว ออกท าให้บีบ เส้น ทางการไหล (m/s) จาก EasyFEM (ข) เทคนิคชาร์โดว์กราฟ
Streamline ที่ผ่านวัตถุแถวแรก โดยเฉพาะวัตถุรูปทรง
มน ทื่อ (blunt body) เช่นเดียวกับวัตถุรูปทรงกลมที่ 4. สรุป
พฤติกรรมการเคลื่อนที่ของ streamline ที่ผ่านวัตถุเข้า จากปญั หาที่มาของงานวิจยั นี้ คือการใช้โปรแกรม
แนวบรรจบกันอย่างชัดเจน สาเร็จรูป CFD ที่มลี ขิ สิทธิหรื ์ อซือ้ ลิขสิทธิของต่
์ างชาติ
รูปที่ 14 การไหลของลมร้อนอุณหภูมิ 60C ผ่าน ยากทีจ่ ะพัฒนาต่อยอดเพื่อการศึกษาไทย และปญหาการ ั
วัตถุหน้ าตัดวงกลมแบบกลุ่ม (ก) จาก EasyFEM (ข) ปรับเทียบผล CFD เพื่อยืนยันความถูกต้องจะใช้ผลทาง
เทคนิคชาร์โดว์กราฟ จะเห็นว่าเห็นพฤติกรรมของลมร้อน ตัว เลขในการปรับ เทีย บซึ่ง มองไม่ เ ห็น พฤติก รรมการ
ชัดเจนทัง้ 2 วิธี แต่ผลของ EasyFEM ให้รายละเอียด เปลีย่ นแปลง ดังนัน้ งานวิจยั นี้จงึ ใช้โปรแกรมไฟไนต์เอลิ
พฤติก รรมที่เ กิด ขึ้น ด้า นหลัง วัต ถุ ไ ด้ดีก ว่ า ส่ ว นความ เมนต์อย่างง่าย (easy finite element) หรือ EasyFEM ที่
แตกต่างของมุมของอากาศร้อนที่เคลื่อนที่ผ่านวัตถุหรือ เป็ น ซอฟแวร์ท่คี นไทยสร้า ง มาใช้เปรียบเทียบกับ การ
มุมของเส้น streamline ที่ separation point ระหว่าง 2 ถ่ ายภาพด้วยเทคนิ คชาร์โ ดว์กราฟ ซึ่ง เป็ นเทคนิค ที่
วิธกี าร ได้ผลการวิจยั ทุกกรณีของการทดลองต่างกันไม่ สามารถทาให้มองเห็นการเคลื่อนทีข่ องลมร้อนได้ดว้ ยตา
เกิน 2 เปล่า ผลจาก CFD เปรียบเทียบกับ ผลการทดลองด้วย
ภาพถ่าย มีผลไม่แตกต่างกันมากในทุกกรณี
งานวิจ ัยนี้ เปรีย บเทีย บผลของมุม ของของไหลใน
บริเวณ separation point ทีค่ วามเร็วของลมร้อน 2 m/s ผล
เบื้องต้นที่ได้จาก CFD จะให้รายละเอียดและข้อมูลเชิง
ตัว เลขในมิติอ่นื ๆ ได้ม ากกว่ า เทคนิ ค ชาโดว์ก ราฟ แต่
อย่ า งไรก็ ต ามผลการทดลองที่ ไ ด้ เ ป็ น รู ป ภาพ หรื อ
ภาพเคลื่อ นไหว แสดงพฤติก รรมการเปลี่ย นแปลงที่
สามารถมองเห็นได้ย่อมมีประโยชน์ในการวิเคราะห์ขอ้ มูล
บทความวิจัย วารสารวิชาการ วิศวกรรมศาสตร์ ม.อบ. ปีที่ 8 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2558 49

ได้ดกี ว่าข้อมูลเชิงตัวเลขเพียงอย่างเดียว และทีส่ าคัญคือ และหลอดเลือดบายพาส. วิ ศ ว ก ร ร ม สา ร มก. 69: 80-


สามารถมองเห็นพฤติกรรมการเคลื่อนที่ของลมร้อนได้ 90.
อย่างต่อเนื่องด้วยกล้องถ่ายภาพเคลื่อนไหว หรือกล้อง [2] สนิท วงษา และ ยาสุยูกิ ชิมซิ .ึ 2555. การประยุกต์ใช้
วีดโิ อ ผลทีเ่ กิดขึน้ ระหว่างการทดลองกับ CFD มีความ โปรแกรม D Flood ในการจาลองสถานการณ์น้ าท่วม
แตกต่างกันบ้างเล็กน้อย พอสรุปได้ดงั นี้ ใหญ่ภาคกลางของประเทศไทยปี 2554. 7th THAICID
1. กรณี วัตถุรูปทรงหน้าตัดสามเหลีย่ มแบบเดี่ยว NATIONAL SYMPOSIUM 2555, นนทบุร,ี ประเทศ
อุณหภูมิ 60C 80C และ 100C เป็ น 164/160, ไทย, 19 มิถุนายน 2555: 1-10.
161/158 และ 163/160 ตามลาดับ ซึง่ แตกต่างกัน [3] ประพัน ธ์พ งษ์ สมศิล า และ อ าไพศัก ดิ ์ ทีบุ ญ มา.
เฉลี่ย 3 องศา เช่ น เดียวกัน กับ กรณี ว ัต ถุ หน้ า ตัด รูป 2556. อิทธิพลของอัตราส่วนสมมูลต่อประสิทธิภาพ
สี่เหลี่ยม ส่วนของวัตถุ หน้ าตัดวงกลม แบ่งการแยกตัว การไหลเวียนอากาศภายในเครื่องอบแห้งแสงอาทิตย์.
ของลมร้อนเป็ น 2 มุม ทีม่ คี ่า 30/36 กับ 164/160, วารสารวิชาการ วิศวกรรมศาสตร์ ม.อบ. 6: 46-54.
[4] ประพัน ธ์พ งษ์ สมศิล า และ อ าไพศัก ดิ ์ ทีบุ ญ มา.
37/38 กับ 155/157 และ 38/37 กับ 157/153
2556. ลักษณะของอุณหภูมแิ ละความเร็วอากาศ
ตามลาดับ
ภายในโรงเรื อ นอบแห้ ง แสงอาทิ ต ย์ ช นิ ด หลัง คา
2. กรณี วัต ถุ แ บบกลุ่ ม ได้ผ ลจากการทดลองกับ
สามเหลีย่ มหน้าจัว.่ งานประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัย
CFD ต่างกันไม่เกิน 2 องศา เช่น กรณีลมร้อนไหลผ่าน
มหาสารคามวิจยั ครัง้ ที่ 9, มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
วัตถุ หน้ าตัดวงกลมได้ผลการทดลองเป็ น 38/40 กับ
มหาสารคาม, ประเทศไทย, 12-13 กันยายน 2556.
159/158 เป็ นต้น [5] ประพัน ธ์พ งษ์ สมศิล า และ อ าไพศัก ดิ ์ ทีบุ ญ มา.
จากผลการทดลองกับ ผลจากการจ าลองมีค วาม 2556. อิทธิพลของอากาศภายในโรงอบแห้งยางพารา
แตกต่ า งกัน ซึ่งสาเหตุ เ บื้อ งต้น พอสัน นิ ษ ฐานได้ว่ า การ พลังงานแสงอาทิตย์ชนิดหลังคามุมเอีย ง. งานประชุม
คลาดเคลื่อนจากการวัด แบบจาลองทีบ่ างค่าทีไ่ ม่ได้นามา วิช าการ มหาวิท ยาลัย มหาสารคามวิจ ัย ครัง้ ที่ 9,
พิจารณา เช่น friction loss หรือค่าความหนาแน่ นของ มหาวิทยาลัยมหาสารคามมหาสารคาม, ประเทศไทย,
อากาศที่มีค่ า คลาดเคลื่อ นระหว่ า งการใช้จ ากอุ ณ หภู มิ 12-13 กันยายน 2556.
ทางเข้าของลมร้อนก่อนไหลผ่านวัตถุซง่ึ เปลีย่ นแปลงเมื่อ [6] อ าไพศักดิ ์ ทีบุญมา และ ประพัน ธ์พ งษ์ สมศิลา.
ลมร้อนสูญเสียความร้อนให้กบั สิง่ แวดล้อมซึง่ แตกต่างกับ 2556. ผลของปล่องความร้อนทีท่ ตี ่อการปรับอากาศ
การจาลองที่ถูกกาหนดให้อยู่ในสภาวะคงที่ เป็ นต้น แต่ ของบ้านพักอาศัยในฤดูหนาว. งานประชุมวิชาการ
อย่างไรก็ตามผลที่ได้จากพฤติกรรมการไหลของลมร้อน มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจยั ครัง้ ที่ 9, มหาวิทยาลัย
จากผลที่ไ ด้ทงั ้ สองวิธีสามารถนามาเทียบกันและนาไป มหาสารคาม, ประเทศไทย, 12-13 กันยายน 2556.
ประยุกต์ใช้กบั งานต่างๆ ทีไ่ ด้กล่าวไปแล้วข้างต้น [7] ปรัชญา มุขดา, กุลเชษฐ์ เพียรทอง และ วิระพันธ์ สี
หานาม. 2551. การลดลงของสัมประสิทธิแรงต้ ์ านใน
กิ ตติ กรรมประกาศ กรณี วิ ง ตามกั น ของรถบรรทุ ก เล็ ก . การประชุ ม
ผูว้ จิ ยั ขอขอบคุณ คณะเกษตรศาสตร์และเทคโนโลยี วิชาการเครือข่ายวิศวกรรมเครื่องกลแห่งประเทศไทย
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรนิ ทร์ ครัง้ ที่ 22, มหาวิท ยาลัย ธรรมศาสตร์ ศู น ย์ ร ัง สิต ,
และ รศ.ดร.กุลเชษฐ์ เพียรทอง ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล ประเทศไทย, 15-17 ตุลาคม 2551.
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ที่ ใ ห้ [8] ยุทธชัย เกี้ยวสันเทียะ และ ประโยชน์ ชมพูบุตร.
การสนับสนุนการทาวิจยั มา ณ โอกาสนี้ดว้ ย 2551. การลดอัตราการสิน้ เปลืองน้ ามันเชือ้ เพลิงของ
รถกระบะโดยการคลุมผ้า ใบที่ช่วงท้ายกระบะ. การ
เอกสารอ้างอิ ง ประชุ ม วิช าการเครือ ข่ า ยวิศ วกรรมเครื่อ งกลแห่ ง
[1] ขนิษฐา สุตพันธ์ และ มงคล มงคลวงศ์โรจน์ . 2552. ประเทศไทยครัง้ ที่ 22, มหาวิท ยาลัย ธรรมศาสตร์
การจาลองเชิงคานวณของการไหลในหลอดเลือดตีบ ศูนย์รงั สิต, ประเทศไทย, 15-17 ตุลาคม 2551.
50 บทความวิจัย วารสารวิชาการ วิศวกรรมศาสตร์ ม.อบ. ปีที่ 8 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2558

[9] ภาคภูมิ สุภาชาติ, อดิศกั ดิ ์ นาถกรณกุล และ ณัฏฐ์ [19] วุฒชิ ยั สิทธิวงษ์, กุลเชษฐ์ เพียรทอง, วิระพันธ์ สีหานาม,
กาศยปนันทน์ . การประชุมวิชาการด้านพลังงาน อนิรุตต์ มัทธุจกั ร และชัยเดช เกษมนิมติ รพร. 2554. ผล
สิ่ ง แวดล้ อ ม และวั ส ดุ ครั ้ง ที่ 1, ค ณะพลั ง งา น ของอุ ณ หภู มิต่ อ พฤติ ก รรมของล าพุ่ ง น้ า มัน ดีเ ซล
สิง่ แวดล้อมและวัสดุ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอม ความเร็วสูง. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เกล้าธนบุร,ี ประเทศไทย, 31 สิงหาคม 2550. มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, 13(1): 97-113.
[10] ปพน พุทธธนาศักดิ.์ 2553. การศึกษาการไหลของ [20] วุฒชิ ยั สิทธิวงษ์, กุลเชษฐ์ เพียรทอง, วิระพันธ์ สีหานาม,
อากาศและการประหยัด พลัง งานในห้อ งสะอาดที่ อนิรุตต์ มัทธุจกั ร และชัยเดช เกษมนิมติ รพร. 2554.
ประกอบหั ว อ่ า นฮาร์ ด ดิ ส ก์ , วิ ท ยานิ พ นธ์ ผลของอุ ณหภู มิต่ อพฤติกรรมของลาพุ่ งน้ ามันดีเซล
วิศวกรรมศาสตร์มหาบัณฑิต คณะวิศวกรรมศาสตร์ ความเร็วสูง . วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. วารสารวิ ท ยาศาสตร์ แ ละเทคโนโลยี ม หาวิ ท ยาลั ย
[11] ทนงเกีย รติ เกียรติศิริโ รจน์ , สันติ หวัง นิพ พานโต อุบลราชธานี, 13(2): 33-43.
และ จิรวรรณ เตียรถ์สุวรรณ. 2542. ผลของการใช้
สนามไฟฟ้ าในการเพิ่ ม การถ่ า ยเทความร้ อ นใน
ของเหลวไดอิเลกทริก. วารสารวิจยั และพ้ฒนา มจธ.
22: 93-106.
[12] ขวัญชัย ไกรทอง และ อติพงศ์ นันทพันธุ์ . 2548.
การประยุกต์ใช้เครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนแบบไหล
ตามขวางดัดแปลงจากคอนเดนเซอร์ระบบปรับอากาศ
รถยนต์. วารสารมหาวิทยาลัยนเรศวร. 13(1): 13-23.
[13] อุทยั ประสพชิงชนะ, วรเชษฐ์ ภิรมย์ภกั ดิ,์ กิตติพงศ์
บุญโล่ง และ ปราโมทย์ ลายประดิษฐ์. 2555. การ
วิเคราะห์อตั ราการถ่ ายเทความร้อนในสภาวะคงตัว
ผ่ า นแผ่ น ครี บ สี่ เ หลี่ ย มผื น ผ้ า ตรงด้ ว ยวิ ธี ผ ลต่ า ง
สืบเนื่องโดยใช้ค่าสัมประสิทธิการพาความร้
์ อนเฉพาะ
จุ ด แ ล ะ ร ว ม ผ ล ข อ ง ก า ร แ ผ่ รั ง สี ค ว า ม ร้ อ น .
วารสารวิชาการพระจอมเกล้าพระนครเหนือ . 22(3):
511-525.
[14] FLUENT 6.3 User’s guide. 2006. Lebanon: Fluent Inc.
[15] ปราโมทย์ เดชะอาไพ. 2547. ไฟไนต์เอลิเมนต์ในงาน
วิศวกรรม, สานักพิมพ์แห่ งจุ ฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย,
กรุงเทพฯ.
[16] ปราโมทย์ เดชะอาไพ. 2546. ระเบียบวิธเี ชิงตัวเลข
ในงานวิศ วกรรม, ส านั ก พิม พ์แ ห่ ง จุ ฬ าลงกรณ์
มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.
[17] ปราโมทย์ เดชะอาไพ. 2548. ไฟไนต์เอลิเมนต์อย่าง
ง่ายพร้อมซอฟต์แวร์, สานักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.
[18] G.S. Settle. 2001. Schliren and Shadowgraph
technique. Springer-Verlag Berlin Heidelberg NewYork,
Germany.

You might also like