You are on page 1of 10

วิธีการทางประวัติศาสตร์

ด.ช.กิตติธัช โพธิ์ราศรี ม.3/11 เลขที่1


การกำหนดหัวเรื่องที่จะศึกษา

หัวข้อ พระยาพิชัยดาบหักคือใคร

การเก็บรวบรวมข้อมูล
ประวัติ
วัยเยาว์
พระยาพิชัยดาบหัก

เดิมชื่อ จ้อย ต่อมาเจ้าเมืองพิชัยได้นำบุตร (ชื่อเฉิด) มาฝากที่
วัดเพื่อร่ำเรียนวิชา เฉิดกับพวกมักหาทางทะเลาะ
เกิดในปี พ.ศ. 2284 ที่บ้านห้วย วิวาทกับจ้อยเสมอ เขาจึงตัดสินใจหนีออกจากวัดขึ้น
คา เมือง พิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ มี ไปทางเหนือโดยมิได้บอกพ่อแม่และอาจารย์ เดิน
ตามลำน้ำน่านไปเรื่อยๆ เมื่อเหนื่อยก็หยุดพักตามวัด
พี่น้อง 4 คน แต่เสียชีวิตไป 3 คน
ที่วัดบ้านแก่ง จ้อย ได้พบกับครูฝึกมวยคนหนึ่งชื่อ
เด็กชายจ้อยมีนิสัยชอบชกมวยมา เที่ยง จึงฝากตัวเป็นศิษย์แล้วเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น
ตั้งแต่เยาว์วัย บิดาได้พร่ำสอนเสมอ ทองดี ครูเที่ยงรักนายทองดีมากและมักเรียกนาย
ทองดีว่านายทองดี ฟันขาว (เนื่องจากท่านไม่เคี้ยว
ถ้าจะชกมวยให้เก่งต้องขยันเรียน หมากพลูดังคนสมัยนั้น) ด้วยความสุภาพเรียบร้อย
หนังสือด้วย เมื่ออายุได้ 14 ปี บิดา และขยันขันแข็งเอาใจใส่การฝึกมวยช่วยการงาน
บ้านครูเที่ยงด้วยดีเสมอมา ทำให้ลูกหลานครูเที่ยง
นำไปฝากกับท่านพระครูวัดมหาธาตุ อิจฉานายทองดีมาก จนหาทางกลั่นแกล้งต่างๆ
เมืองพิชัย จ้อยสามารถอ่านออก นานา นายทองดี ฟันขาว เห็นว่าอยู่บ้านแก่งต่อไปคง
ลำบาก ประกอบครูเที่ยงก็ถ่ายทอดวิชามวยให้จบ
เขียนได้จนแตกฉานและซ้อมมวยไป หมดสิ้นแล้วจึงกราบลาครูขึ้นเหนือต่อไป
ด้วย
การเก็บรวบรวมข้อมูล

ชื่อเสียง

เมื่อเดินถึงบางโพได้เข้าพักที่วัดวังเตาหม้อ (ปัจจุบันคือวัดท่าถนน) พอดี


กับมีการแสดงงิ้ว จึงอยู่ดูอยู่เจ็ดวันเจ็ดคืน นายทองดี ฟันขาว สนใจงิ้ว
แสดง ท่าทางหกคะเมน จึงจดจำไปฝึกหัดจนจดจำท่างิ้วได้ทั้งหมดสามารถ
กระโดดข้ามศีรษะคนยืนได้อย่างสบาย จากนั้นก็ลาพระสงฆ์วัดวังเตาหม้อขึ้น
ไปท่าเสา ขอสมัครเป็นลูกศิษย์ครูเมฆซึ่งมีชื่อเสียงในการสอนมวย ครูเมฆ
รักนิสัยใจคอจึงถ่ายทอดวิชาการชกมวยให้จนหมดสิ้น
การเก็บรวบรวมข้อมูล

ชื่อเสียง
ขณะนั้นนายทองดี ฟันขาว อายุได้ 18 ปี ต่อมาได้มีโอกาสชกมวยในงาน
ไหว้พระแท่นศิลาอาสน์ กับนายถึก ศิษย์เอกของครูนิล นายถึกไม่สามารถป้องกัน
ได้ ถูกเตะสลบไปนานประมาณ 10 นาที ครูนิลอับอายมากจึงท้าครูเมฆชกกัน
นายทองดี ฟันขาว ได้กราบอ้อนวอนขอร้อง ขอชกแทนครูเมฆและได้ตลุยเตะต่อย
จนครูนิลฟันหลุดถึง 4 ซี่ เลือดเต็มปากสลบอยู่เป็นเวลานาน ชื่อเสียงนายทองดี
ฟันขาว กระฉ่อนไปทั่วเมืองทุ่งยั้ง ลับแล พิชัย และเมืองฝาง นายทองดีอยู่กับครู
เมฆประมาณ 2 ปี ก็ขอลาไปศึกษาการฟันดาบที่เมืองสวรรคโลก ด้วยความฉลาด
มีไหวพริบ เขาใช้เวลาเพียง 3 เดือน ก็เรียนฟันดาบสำเร็จเป็นที่พิศวงต่อครูผู้
สอนยิ่งนัก หลังจากนั้นก็ไปเที่ยวเมืองสุโขทัยและเมืองตากระหว่างทางได้รับศิษย์
ไว้ 1 คน ชื่อบุญเกิด (หมื่นหาญณรงค์) โดยเมื่อครั้งที่บุญเกิดถูกเสือคาบไปนั้น
ทองดีได้ช่วยบุญเกิดไว้โดยการแทงมีดที่ปากเสือ จนเป็นที่ร่ำลือไปทั่ว
การเก็บรวบรวมข้อมูล

รับราชกาล
เมื่อท่านเดินทางถึงเมืองตาก ขณะ เจ้าเมืองตากพอใจมากให้เงิน 3 พระยาวชิรปราการพร้อมด้วยหลวง
นั้นได้มีพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาที่วัด ตำลึง และชักชวนให้อยู่ด้วย นายทอง พิชัยอาสา และทหารเข้าสู้รบกับทัพ
ใหญ่เจ้าเมืองตาก สมเด็จพระเจ้า ดี ฟันขาว จึงได้ถวายตัวเป็นทหาร พม่าหลายคราวจนได้รับชัยชนะ ได้ช้าง
กรุงธนบุรีจัดให้มีมวยฉลองด้วย นาย ของเจ้าเมืองตาก (สมเด็จพระเจ้า ม้าอาหารพอสมควร สมเด็จพระเจ้า
ทองดี ฟันขาว ดีใจมากเข้าไปเปรียบ กรุงธนบุรี) ตั้งแต่บัดนั้น เป็นที่ กรุงธนบุรีได้รับการต้อนรับจาก
มวยกับครูห้าวซึ่งเป็นครูมวยมือดี โปรดปรานมากและได้รับยศเป็น ประชาชนและยกย่องขึ้นเป็นผู้นำ เมื่อ
ของเจ้าเมืองตากและมีอิทธิพลมาก "หลวงพิชัยอาสา" เมื่อเจ้าเมืองตาก กอบกู้เอกราชได้แล้ว สมเด็จพระเจ้า
นายทองดี ฟันขาว ใช้ความว่องไวใช้ ได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ ให้เป็น กรุงธนบุรีขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครอง
หมัดศอกและเตะขากรรไกรจนครูห้าว พระยาวชิรปราการ ครองเมือง กรุงธนบุรีและได้โปรดเกล้าฯ ให้หลวง
สลบไป เจ้าเมืองตากจึงถามว่า กำแพงเพชร หลวงพิชัยอาสาได้ พิชัยอาสา เป็นเจ้าหมื่นไวยวรนาถ เป็น
สามารถชกนักมวยอื่นอีกได้หรือไม่ ติดตามไปรับใช้อย่างใกล้ชิดและเป็น ทหารเอกราชองครักษ์ในพระองค์
นายทองดี ฟันขาว บอกว่าสามารถชก เวลาเดียวที่พม่ายกทัพล้อม กรุง
ได้อีก เจ้าเมืองตากจึงให้ชกกับครู ศรีอยุธยา
หมึกครูมวยร่างสูงใหญ่ ผิวดำ นาย
ทองดี เตะซ้ายเตะขวา บริเวณขา
กรรไกร จนครูหมึกล้มลงสลบไป
ชีวิตคู่
นางสนมรับใช้พระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งถูกยกให้เป็นเมียของพระยาพิชัยดาบ
หัก ทหารเอกคู่กายพระเจ้าตาก หลังเสร็จศึกจากต่อสู้กับพม่าจนดาบหักคามือและ
ได้รับชัยชนะกลับมา เมื่อพระยาพิชัยดาบหักขึ้นปกครองเมืองพิชัย นางลำยง จึง
ได้รับสามัญญานามว่า "พระนางสะวิสุตา" ทั้งนี้พระยาพิชัย มีลูกหลานที่สืบทอด
วงศ์ตระกูล มาจนถึงปัจจุบัน โดยในสมัย ร.๖ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้า
อยู่หัว โปรดพระราชทานนามสกุล "วิชัยขัทคะ" ให้ลูกหลานของท่าน มีความหมาย
โดยอนุโลมว่า ดาบวิเศษ นับเป็นเชื้อสายสกุลไทยที่เก่าแก่อีกสกุล ตั้งแต่สมัยกรุง
ศรีอยุธยา
ประเมิณหลักฐาน

จากหลักฐานที่ได้มามีความเชื่อถือ ข้อมูลเรียบ
เรียงโดยผู้จัดทำที่หน้าเชื่อถือ เช่น สำนักข่าว
หนังสือจากหน่วยราชกาล
ตีความข้อมูล
พระยาพิชัยดาบหัก เป็นขุนนางในสมัยอยุธยาตอนปลายและธนบุรี ปรากฏชื่อในพระราชพงศาวดารเนื่องจาก
เป็นทหารเอกคู่พระทัยของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี และเป็นผู้มีส่วนกอบกู้เอกราชของชาติไทยหลังการเสียกรุง
ศรีอยุธยาครั้งที่สอง มีชื่อเสียงอย่างยิ่งจากความกตัญญูกตเวทีและความกล้าหาญ หนึ่ง ใน สี่ทหารเสือของ
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ได้แก่ หลวงราชเสน่หา (กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท), หลวงพิชัยอาสา (พระยา
พิชัยดาบหัก), พระยาเชียงเงิน (พระยาสุโขทัย), หลวงพรหมเสนา (เจ้าพระยานครสวรรค์)
เดิมท่านชื่อ จ้อย เกิดที่บ้านห้วยคา อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ในสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา ศึกษาอยู่กับท่าน
พระครูวัดมหาธาตุหรือวัดใหญ่ เมืองพิชัย ภายหลัง จ้อยได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นทองดี หรือ ทองดีฟันขาว มีความ
สามารถและชื่อเสียงอย่างยิ่งทั้งทางเชิงมวยและเชิงดาบ จนได้เข้ารับราชการกับสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ตั้งแต่
ครั้งดำรงตำแหน่งเป็นพระยาตาก ต่อมานายทองดีได้รับแต่งตั้งเป็นองครักษ์มีบรรดาศักดิ์เป็น "หลวงพิชัย
อาสา" เมื่อรับราชการมีความดีความชอบจึงได้รับแต่งตั้งเป็น เจ้าหมื่นไวยวรนาถ พระยาสีหราชเดโช และพระยา
พิชัย ผู้สำเร็จราชการครองเมืองพิชัย ซึ่งรับพระราชทานเครื่องยศเสมอเจ้าพระยาสุรสีห์ ตามลำดับ
ภายหลังข้าศึกยกทัพมาตีเมืองพิชัย 2 ครั้ง ในการรบครั้งที่ 2 พระยาพิชัยถือดาบสองมือออกต่อสู้จนดาบหักไป
ข้างหนึ่ง และรักษาเมืองไว้ได้ ดังนั้นจึงไดัรับสมญานามว่า "พระยาพิชัยดาบหัก"
ขอบคุณครับ

You might also like