You are on page 1of 37

1

ผลงานปริวรรต
เรื่อง ตานานเมืองเชียงรุ่ง
(สิบสองปันนา)

งานสารวจและอนุรักษ์เอกสารโบราณล้านนาและลุ่มนาโขง
ของ
โครงการจัดตังพิพิธภัณฑ์อารยธรรมลุ่มนาโขง
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
2

งานปริวรรตอักษรธรรมล้ านนา เรื่อง


ตานานพื้นเมืองเชียงรุ่ง (เมืองสิบสองปันนา)
ตามโครงการ สารวจและอนุรักษ์เอกสารโบราณล้ านนาและลุ่มนา้ โขง
ของโครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์อารยธรรมลุ่มนา้ โขง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
**********************
ชื่อเอกสาร : ตานานพื้นเมืองเชียงรุ่ง (เมืองสิบสองปันนา)
หมวดเอกสาร : ตานาน
อักษร : ไทลื้อ
ภาษา : ไทลื้อ
ประเภท : พับสา
สถานที่ : -บ้ านมอง (บ้ านมังราย) เขตปกครองตนเองชนชาติไท เชียงรุ่ง (เมืองสิบสองปันนา)
ผู้รวบรวม/ปริวรรต : โครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์อารยธรรมลุ่มนา้ โขง /นายชูชาติ ใจแก้ ว
บทนา/เนื้อหาโดยย่อ :
เอกสารชุดนี้ ได้ จากการที่คณะทางานได้ เดินทางไปสารวจข้ อมูลทางวัฒนธรรมที่บ้านมอง เขตปกครอง
ตนเองชนชาติไท เชียงรุ่ง (เมืองสิบสองปั นนา) ประเทศจีน และได้ พบกับปราชญ์ ชาวบ้ านที่อ่านเขียนอักษร
ไทลื้อได้ ซึ่งอักษรดั่งกล่าวนี้เป็ นอักษรประเภทเดียวกันกับอักษรธรรมล้ านนา เอกสารฉบับนี้เป็ นเอกสารที่พบที่
บ้ านมอง หรือบ้ านมังราย โดยหมู่บ้านนี้ต้ังชื่อตามพระนามของพระญามังรายตามคาบอกเล่าของบ้ านคืออ้ ายแสง
คาอ้ าย ที่เล่ าว่ าบรรพบุรุษของตนนั้นเป็ นทหารจากเชียงแสนที่พระญามังรายส่งมารบกับทหารจีน เมื่อชนะแล้ ว
ผู้นาทัพให้ อยู่ท่สี บิ สองปันนาหรือที่หมู่บ้านแห่งนี้และตั้งชื่อหมู่บ้านมอง หรือบ้ านมังราย1
เอกสารที่ใช้ ปริวรรตมีสองฉบับ ฉบับหนึ่งบันทึกด้ วยลายมือของท่าน อีกฉบับหนึ่งเป็ นแบบตัวพิมพ์แบบ
สมัยใหม่ พับสาทั้งสองฉบับที่พบนั้น ทางทีมงานได้ ทาการบันทึกภาพพร้ อมทั้งขออนุญาตเจ้ าของเพื่อนาไปสู่การ
ปริวรรตและเผยแพร่โดยมิได้ นาต้ นฉบับจริงมา และได้ รับการอนุญาตเรียบร้ อยแล้ ว
ในเนื้ อหาทั้งสองฉบั บ ได้ เล่ า ตานานการก่อสร้ า งเมืองเชี ยงรุ่ ง และตานานหมู่ บ้ า นต่ า งๆ โดยเนื้ อหา
ได้ กล่ าวกว้ างถึงเมืองลาว พม่ า และเมืองปั กกิ่งของจีนในยุคนั้น ที่กล่ าวถึงความสัมพั นธ์เชิ งอานาจปรากฏอยู่
แม้ ว่าในตานานที่เล่านั้นมีเรื่องอภินิหารปรากฏอยู่บ้างและการผูกเรื่องบางเรื่องก็เกี่ยวข้ องกับตานานพระเจ้ าเลียบ
โลกที่ปรากฏในล้ านนาเช่ นกัน เรื่ องราวที่บันทึกนี้มีลักษณะของการบันทึกที่ผ่านความทรงจามากกว่าข้ อมูลทาง
ประวัติศาสตร์ แต่กระนั้นก็ยังคงปรากฏร่องรอยของประวัติศาสตร์อยู่บ้างเช่นเรื่องการถวายปันนาการให้ กับราช
สานักจีน หรือการผัดเปลี่ยนอานาจระหว่างพม่ากับจีนที่มีเหนือเมืองเชียงรุ่ง และเรื่องราวที่เกี่ยวกับพระญามังราย

1 ประวัติศาสตร์ จากคาบอกเล่า ของอ้ ายแสง คาอ้ าย อายุ 87 ปี ให้ สมั ภาษณ์เมื่อ 5 เมษายน 2557
3

การสู้รบและการขยายอานาจของรัฐยุคก่อน ตานานการสร้ างพระธาตุ และประเพณีความเชื่อเกี่ยวกับการตั้งถิ่น


ฐานของคนไตที่มักอาศัยบนพื้นที่ราบ กับชนชาติอ่นื ที่อาศัยอยู่บนพื้นที่สงู เช่น อาข่า มูเซอ เป็ นต้ น
หากเราอ่านเรื่องราวที่บันทึกไว้ น้ ีท้งั หมด เราย่อมเห็นร่ องรอยคติความเชื่อของผู้คนชนชาติไตที่มีความ
ผูกพั นกันทั้งทางชาติพันธุ์ คติความเชื่อทางศาสนาพุทธที่เข้ ามามีอิทธิพลทางความคิดอยู่มาก ดังจะเห็นได้ จาก
การเล่ าในตานานต่าง ๆ มักจะอ้ างถึงการเสด็จมาของพระพุทธเจ้ า อันเป็ นต้ นเค้ าเดียวกันกับตานานพระเจ้ า
เลียบโลกในล้ านนา ความเชื่อมโยงเหล่านี้มักปรากฏในเกร็ดที่เล่าในเอกสารชุดนี้แล้ ว
อย่ างไรก็ตามการปริ วรรตในครั้ งนี้ ได้ ถือเอาเพี ยงแค่ สองฉบั บที่เป็ นฉบั บแบบลายมือและแบบอักษร
ตัวพิมพ์ใช้ ในการเปรียบเทียบหรือตรวจทานเพราะทั้งนี้พบว่าบางครั้งข้ อมูลด้ านชื่อในเอกสารที่เป็ นฉบับลายมือ
กับแบบตัวพิ มพ์ น้ั นไม่ ตรงกัน ผู้ ปริ วรรตจึ งถือเอาชื่ อหรื อข้ อความที่น่าเชื่ อถือและน่ าจะเป็ นมากกว่ าโดยการ
เทียบเคียงข้ อมูลกับข้ อมูลปัจจุบันลงไป เพื่อให้ ได้ เนื้อหาที่สมบูรณ์ย่งิ ขึ้น
อนึ่ง ในการปริวรรตครั้งนี้ได้ ถือเอาฉบับตัวพิมพ์เป็ นหลัก การปริวรรตจึง ถือเอาตามหน้ าเอกสารฉบับ
ตัวพิมพ์ท้งั หมด และถือเอาฉบับลายมือเป็ นเอกสารเทียบเคียง ทั้งนี้เนื่องจากฉบับตัวพิมพ์น้ันมีความชัดเจนของ
ตัวอักษรและอ่านง่ายกว่าฉบับลายมือ และการปริวรรตนั้นปริวรรตตามเอกสารต้ นฉบับทุกประการ ดังนั้น การตัด
คา การย่อหน้ าจึงเป็ นไปตามเอกสารชั้ นต้ นทุกประการ ซึ่งอาจไม่ถูกต้ องตามหลัก อักขรวิธีของภาษาไทยกลาง
แต่ตามหลักปริวรรตแล้ วพึงเป็ นไปเช่นนี้ เพราะจะง่ายต่อการตรวจทานและสืบค้ นเทียบเคียงคาต่อคาได้ ง่ายกว่า
พิพิธภัณฑ์อารยธรรมลุ่มนา้ โขงหวังเป็ นอย่างยิ่งว่า การปริวรรตงานภาษาและวัฒนธรรมลุ่มนา้ โขงฉบับนี้
คงจะเป็ นประโยชน์ต่อผู้สนใจใฝ่ รู้สบื ไป
4

ภาคปริวรรต

หน้าปก
หน้ าทับ2ภายเค้ ากอบพืน3เมืองเชียงรุ่งตั้่งแต่เจ้ าราชโต4มาตั้งแปง
เมืองและปฐมหัวทีน้ันแลพืนบ้ านพืนเมือง 12 พันนาก็อยู่ซา้ 5แล
ปลีเต้ าสีสกั ราชได้ 13476 ตัว เดือน 10 จาเรินขึ้น 13 ค่าแต้ มแล้ ว
ตัวข้ าน้ อยนามบัญญัติช่ ือว่า อ้ ายแสงคา อายุได้ 81 ปี แล แต้ ม7ไว้ ห้ ือหลานสู
เจ้ าทั้งหลายกอยอ่านท่องหื้อรู้พืนเมืองพืนบ้ าน 3 ห้ วย 4 หนอง 5 จอม 12 เชียง 12 ฟ้ าก็ห้ ือรู้ซา้

2 หน้ าทับ-หน้ าพับ หรื อหน้ าปก

3 พืน- ออกเสียงว่าปื น หมายถึง ประวัติศาสตร์ รวมถึงตานาน นิทานหรื อเรื่ องเล่าของสถานที่ตา่ งๆ

4 ราชโต-ราชา+ตัว หมายถึงองค์ราชา แต่ผ้ บ


ู นั ทึกใช้ ไม้ โทแทน ซึง่ เป็ นการเขียนตามเสียงพูดหรือสาเนียงของไทลื ้อสิบสองปั นนา
5 ซ ้า-ทังหมด/ทั
้ งมวล/ทั
้ งปวง

6 ตรงกับ พ.ศ.2528

7 แต้ ม-เขียน/บันทึก
5

หน้า 18
สรีสขุ สวัสดี วิธูรัตถัสสะโสฬะพระญากอยยา 12 ตน ราชาโน อันว่า พญาหงษ์ 3 ตัว มี 3 หงอน
ตัวหนึ่งก็ลุกมาจากแต่เมืองสางช้ อย ชื่อว่าเพ่ อจิ่น9นั้นมาแล
ตัวหนึ่ง ลุกแต่พันธุมัธทราช ชื่อว่าเมืองแกว10มาแล ตัวหนึ่ง ก็ลุกแต่เมืองหังสา11
เชียงใหม่มาแล ดังเขาทังสามตัวนั้น ก็มารอดดงหิมวัน อันมีบวกสระหลวงอันมีในกลาง
ดงนั้น ก็มารอดมีหนึ่งวันเดียวกันแล เพื่อจักมาเหล้ นลอยนา้ บวกสระหลวง ยามนั้นชุตัวก็มักใคร่อยู่สร้ าง
สระหลวงหิมวัน12ที่น้ัน เพื่อใค่ไซร้ ดอกแก้ วมอนเจียง โพซะไรไกรสอน13 ยามวอนแต่น้ันเขาทังสาม
สี่ตัวก็หาสักขี14ก็บ่มีไว้ กบั ป่ าหิมวันแท้ แล ยามนั้นพญาหงส์สาทังสาม ก็เจียรจากันว่าดูรา
หงส์เราทังสามก็จุงร้ องด้ วยปัญญาสมปานแต่เราเทอะ ยามนั้นเขาทังสามก็พร้ อมบินขึ้นอากาศ
แล้ ว ก็เอาปลายหางคลี่อ้าซม15กันแล้ ว ก็บังลับตาวันที่ในดอยหิมวันก็เป็ นอันมืดมัวโทโส16แท้แล
ยามนั้นฝูงแรดช้ างและราชสีห์และเสือหมีผีป่าทั้งหลายก็ร้องไห้ เพื่อบ่ช่างหันหาเลี้ยงอินทรีย์ชีวิตนั้นแล
ยามนั้นอินตา17เจ้ าก็จ่ิงปลงกรุณาหื้อวิสกุ มั มะเทวบุตรตนหนึ่ง ว่าเจ้ าจุ่งลงไปห้ ามทะเสียยังพยา
อนทรายอันเกิดมีแต่มนุสสาโลกนั้นเตอะ ยามนั้นวิสกุ มั มะเทวบุตรก็ลงมากลับเพศ18เป็ นราชหงส์
สาตัวหนึ่ง ก็บินลงมากลางฟ้ าที่น้ันแล้ ว ก็กล่าวว่าดูราหงส์เจ้ าทั้งสามเหย สูเจ้ ามากระทาฤทธีต่อ
กันเพื่อเหตุอนั ใดชา ยามนั้นพญาหงส์ท้งั สามก็กล่าวต่อพญาหงส์คาว่าข้ าทั้งสามก็จักแข่งฤทธีเพื่อหื้อ
มีสกั ขีไว้ ในป่ าหิมวันตัวใดแลมีสกั ขีกจ็ ักหื้อผู้น้ันอยู่แก่ดงดีชะแล
ยามนั้นพญาหงส์ตัวกลับเพศจิ่งกล่าวว่าบ่ควรเจ้ าทั้งสามมากระทาร้ ายเจ้ าทั้งสามจุ่งลงไป
บัดเดียวนี้เตอะ อันว่าป่ าหิมวันที่น้ั่นก็หากมีสกั ขีแห่งข้ าไว้ ยังหงอนแลขนปี กเป็ นมึงหมายไว้ แต่อนิ
ตาเตอะ ว่าสันนั้นแล้ ว ดังพญาหงส์ท้งั สามก็ไคร่หันสักขีแห่งข้ าก็จุ่งลงไปผ่อดูเตอะ ยามนั้นพญาหงส์

8 หน้ าเอกสารพับสา

9 เมืองปั กกิ่ง

10 เวียดนาม

11 หงสาวดี พม่า

12 หิมวัน-ป่ าหิมพาน

13 ไกรสอน-เกษร

14 สักขี-พยาน/เครื่ องหมาย

15 ซม หมายถึงเอาซ้ อนกันหรื อเอาชนกัน

16 มืดมิดสนิทมองไม่เห็นดวงอาทิตย์

17 อินตา-อินทรา/พระอินทร์

18 กลับเพศ คือการแปลงกาย
6

คาก็ห้ ือตนกลับเพศหายไปแล้ ว ก็เอาตนลงมาเอาขนและหงอนนั้นคลี่ห้ ือเป็ นเผือ19ไม้ เอาหงอนอันมีรัศมี


คลี่ห้ ือเป็ นดอกแดงงามแล้ วก็เผยตากไว้ ริมบวกสระอันมีในดอยที่น้ั่นก็ห้ ือมีเป็ นต้ นเป็ นกิ่งเป็ นค่า
ไว้ งามตามากนัก ยามนั้นพญาหงส์ 3 ตัวก็ลงมาผ่อ20หันยังมีเป็ นสักขี เป็ นดังหงส์คาเจ้ ากล่าว
หน้า 2
นั้นแท้แล ดังเขาสามตัว ก็ลวดฝากกันไปแล้ ว พันดั่งพญาหงส์สามตัว เขาก็บ่ยอมใจด้ วยง่าย
ยามนั้นพญาหงส์ตัวหนึ่งก็ลวดตายเสียที่น้ันแล้ ว ดังวิญญาณพญาตัวนั้น ก็ไปเข้ าต้ นไม้ ช่ือว่าดอกไม้
หงอนหงส์สบื มาแล ตัวหนึ่งก็ตายไปเข้ าท้องยักษ์อยู่เมืองอารโว ก็ช่ือว่ายักษ์อารโวอั้นแล ตัวหนึ่ง
ก็ตายไปเข้ าท้องยักษ์อยู่ดงหลวงไว้ ช่ ือว่ายักษ์อาระโวว่าอั้นแล
(เจ้าราชตัวมาตั้งเมืองเชียงรุ่งชื่อว่าทุติยะกัป21)
(เจ้าราชตัวมาตั้งเมืองเชียงรุ่งชื่อว่าทุติยกัป)
เจ้ าราชตัว(องค์) ท่านเกิดเมืองพาราณสีหลวง ท่านก็ห้ ือเสนาเค้ าเมืองเป็ นเจ้ าและท่าน
ชวนเอานางเทวีตนชื่อว่านางสิวิกายก็เข้ าป่ าไม้ หิมพานนานว่าได้ สามปี ปลาย 7 เดือน 7 วัน
จิ่งมารอดกลางดงหิมวัน อันมีบวกสระหลวงนั้นแล ยามนั้นเจ้ าแลนางทังสองนั่งอยู่ไว้ กม็ ีว่ามีหมื่น
โยชนะหนึ่งก่อนแล เจ้ าและนางก็ชวนกันลงจากที่น้ันแล้ ว ก็ออกไปก็ไปหันใส่เจ้ าระสี4
ตนอยู่ไว้ ก่อนแล ยามนั้นนางเทวีกเ็ ข้ าไปไหว้ สาเจ้ าระสีแล้ วก็ต้านต่อแสนไช22กับด้ วยเจ้ า
ระสีแล้ ว ยามนั้นเจ้ าระสีจ่ิงถามว่า มหาราชเจ้ าทั้งสองนี้ลุกเสด็จเขตธานีเมืองใดมานั้นชา
ยามนั้นเจ้ าก็กล่าวว่าภันเตข้ าแด่เจ้ าระสีตนวิเศษดังข้ าน้ อยทั้งสองก็ลุกแต่เมืองพา
ราณสีหลวงพุ้นมาแล ดังข้ าทั้งสองก็เอาบ้ านเมืองหื้อเสนาเค้ าเมืองเป็ นเจ้ าเสียแล้ วแลข้ าน้ อยก็ชวน
เอานางเทวีเข้ าป่ าไม้ หิมพานมา นับว่าได้ สามปี ปลาย 7 เดือน 7 วันก็จ่ิงมารอดดงหิมวัน
ก็มาหันเจ้ าระสี 4 ตนอยู่ไว้ ก่อนข้ าแล ก็ยินดีกบั เจ้ าระสีท้งั 4 ตน เท่าว่าดงหิมวันที่น้ ี
ก็ยังบ่เป็ นเขตแดนใผเทื่อข้ อยขอเจ้ าระสีมีโสมนัสสชมชื่นยินดี ยามนั้นเจ้ าระสีจ่ิงกล่าว
ว่ามหาราชเหยดั่งในดงที่น้ ีกย็ ังบ่เป็ นของใผเทื่อเท่าว่าเป็ นป่ าไม้ ดงหลวงไว้ กย็ ังบ่เป็ น
เขตแดนใผเทื่อ เท่าว่าดงหิมวันที่น้ ีกย็ ังบ่เป็ นเขตแดนใผเทื่อข้ อยขอเจ้ าระสีมีโสมนัสสะ
ชมชื่นยินดี ยามนั้นเจ้ าระสีจ่ิงกล่าวว่ามหาราชเฮยดั่งในดงที่น้ ีกย็ ังบ่เป็ นของใผเทื่อเท่า
ว่าเป็ นป่ าไม้ ดงหลวงไว้ กม็ ีหมื่นโยชนะหนึ่งก่อนแลก็ยังบ่เป็ นเขตแดนใผเทื่อเท่าว่าวันภาย
หน้ ามาก็จักเป็ นบ้ านเป็ นเมืองแก่คนและเทวดาทั้งหลายก็จักมาประสมชุมนุมกันก็จักปรากฏเป็ นเมืองยาม

19เผือไม้- ใบไม้

20 ผ่อ- ดู/มองดู

21 ทุติยกัป-กัปที่สอง/ยุคที่สอง

22 สนทนาปราศรัย
7

หน้า3
(พืนขัว23ฟ้ ารัว่ )
นั้นพระญาจักกะวะติราชบุตรได้ ยินคาเจ้ าระสีกล่าวสันนั้นเจ้ าก็มีใจมักใค่สร้ างเมืองลูกนี้ก ็
ไหว้ สาเจ้ าระสีว่า ภันเต ข้ าแด่เจ้ าระสีด่งั ป่ าหิมวันนี้กนั ว่าบ่เป็ นเขตแดนใผเทื่อนี้ข้า
จักขอตั้งเมืองลูกนี้ก่อนแล ผิว่าข้ าได้ ต้งั เมืองแล้ วดั่งเจ้ าระสีท้งั 4 ตนข้ าก็จักหื้อเป็ นครูเมืองชะแล
ยามนั้นเจ้ าระสีกอ็ นุญาตหื้อเจ้ าเสียแล้ ว ยามนั้นเจ้ าก็มาเอาก่าง24น้ อยขาแสงอันได้ กบั บุญ
นั้นมาเจ้ าก็เอาปื นธนูใส่แล้ วก็ยิงขึ้นเมืออากาศกลางหาวก็เป็ นเสียงอันนานเหมือนดั่งฟ้ าผ่าแสนที
นั้นก็เป็ นอันมืดมัวโทโสยามนั้นคนทั้งหลายอันอยู่ไว้ ท่หี นึ่งเขาก็หันเป็ นช่องไว้ เป็ นรูไว้ แลก็ว่าเมืองฟ้ ารั่ว
ละกาภายลูนมาก็จ่ิงได้ ช่ ือว่าหัวขัวฟ้ ารั่วสืบมาแลก็อยู่ท่เี ชียงตุง๊ หั้นแล
(พืนดอยทง)
อันหนึ่งคนทั้งหลายก็อยู่ในดอยที่หนึ่งดั่งปื นธนูกไ็ ปรอดก็เป็ นครางนั้นคนก็กลัว ก็เอามือทง25หัวไว้ ชุคนภาย
ลูนมาดอยลูกนั้นก็จ่ิงได้ ช่ ือว่าดอยทงก็ได้ สบื กันมาแล

(พืนดอยโว26 (วัว))
พันดั่งปื นธนูกไ็ ปรอดดอยสามเต้ านา้ เข้ าลูกก็ข้ นึ จับใส่หว่างผาแลวังฟ้ าก็ข้ นึ อากาศภาย
บนในดงหิมพานก็กลายเป็ นบ้ านเป็ นเมืองน้ อยเมืองใหญ่ท้งั่ หลายได้ ค่าหมื่นโยชน์ปลายร้ อยซาว2นั้น
ที่ใดก็มีคนแลช้ างม้ าวัวควายเป็ ดไก่หมูหมาเข้ าของเงินคาก็มีชุท่ชี ุแห่งแลยามนั้นพญาก็ชม
ชื่นยินดีแท้แลก็จ่ิงมาใส่ช่ ือว่ากูกไ็ ด้ ลง27บ้ านลงเมืองมาตั้งก็จ่ิงได้ ช่ือว่าเมืองเชียงรุ่งว่าอันแล ก็มี
ไว้ 12 โยชนะก่อนแลอันว่าหัวก่าง28อันยิงไปก่อนนั้นก็ได้ ช่ ือว่าเมืองออนก็มีสามสมดอยผาที่น้ัน
ก็ได้ ช่ ือว่าชานแงน29อั้นแล กูกเ็ มือเอาข้ าวทิพย์เมือไว้ กเ็ ป็ นจานไว้ แลอันว่าผาดอยหลวงนั้นก็ได้ ช่ือว่า
พระบาทหัวตองอันนี้กูกเ็ อานา้ ทิพย์วิเศษไว้ รูถา้ ผาที่น้ันก่อนแลดั่งบ้ านเมืองอันอยู่ในดอยหลวงนั้นก็จ่ิง
ได้ ช่ ือว่าเมืองสูงก่อนแล อันหนึ่งปื นก่างไปแผวรอดก็ได้ ช่ ือว่าผาลับน้ อยก็อยู่ท่เี มืองวังหั้นแล

23 ตานานสะพานฟ้ารั่ว

24 หน้ าไม้

25 เอามือบังหัวไว้

26 โว-วัว

27 ฉบับเขียนด้ วยลายมือเขียนว่า หลง

28 หัวลูกธนู

29 ฉบับลายมือ เขียนว่า ชาวแง้ น


8

ดังปื นก่างทิพย์กแ็ ผว30ตกแท่นไกลก็กลายเป็ นบ้ านเป็ นเมืองก็ช่ือว่าเชียงแสนเชียงรายก็ได้ เข้ า


กับเมืองเชียงรุ่งนั้นแล ปื นธนูกห็ ลงจับใส่นา้ แม่ฟองหลวงสามสมแผวรอดประตูหลวงเมืองม่านปากหนึ่งก็
เข้ ากับเมืองเชียงรุ้งก่อนแล ก็จับใส่แดนดินขึ้นไปหาเมืองวิเทหราช ชื่อว่าเมืองแสหลวงก็
หน้า4
(พืนเมืองพง)
เป็ นอันเขตแดนเมืองผาเงา ผาตอง ก็หากเป็ นแดนเมืองเชียงรุ่งก่อนแล ยังมีเมืองน้ อยเมือง
ทั้งหลาย เมืองธานีและเมืองสะเก็ด31ทั้งหลาย ก็หากเป็ นแดนเมืองเชียงรุ่งซา้ แล ดั่งหนเมืองก็มี 3
ขาเหมือนก่างไว้ แล ดั่งขาก่างก็ตกไปรอดเมืองมหิยังคะก็กลายเป็ น 3 เหมือนก่างไว้ แล
พันดังเมืองยองนี้ขวบปี ไหนก็จ่ิงได้ แปงก่างน้ อยมาถวายเมืองเชียงรุ่ง ก็สบื กันมาแล ก่างนิเมือง
ยองมาถวายกลองหวงไว้ เวียงคาเชียงรุ่ง ฆ้ องนิไว้ เมืองยาง ถวายฆ้ องน้ อยนี้ไว้ เชียงแสนเชียง
รายถวายแส่ง32นี้ไว้ เมืองผาตองแล ดั่งก่าง33อันนี้ขวบปี ไหนก็จักเอามาส่วยถวายป่ อก34หนึ่งแลก็ได้
สืบกันมาถึงบัดนี้แล
พืนวัดป่ าเชตกาดล้ าน (ตานานการสร้ างวัดป่ าเชตและการตั้งกาดล้ าน)
ก็มาแปงวัดหลวงที่เจ้ าระสีอยู่ก่อนนั้น วัดราชฐานหลวงป่ าเชตวัณณะอารามและก็ต้งั
บ้ านใหม่ไว้ ช่ ือว่าบ้ านใหม่สรีแยงก็ห้ ือหัววัดเชต์น้ันแล ก็ต้งั เป็ นโรงไว้ ท่ฝี ่ ายของ ก็จ่ิงว่าโรงของ
บ้ านก็ช่ ือว่าบ้ านโรงของสืบมาแล ดั่งเมื่อลูนนี้กไ็ ด้ ช่ือว่าฝ่ ายของชะแล

พืนวัดหลวงกาดหลวงกาดลี
ตนหนึ่งก็แปงวัดราชฐานที่หอสนามหลวงเจ้ าอยู่ห้ันแล ก็ห้ ือเป็ นครูเมืองชะแล ก็ต้ังกาดไว้ ช่ือ
ว่ากาดหลวงเมืองพะราหะระย้ อนเพื่อเจ้ าไว้ ละเมืองมาตั้งไว้ แล คันว่าขวบปี ไหนแล้ วหัวเมืองทั้งหลายก็
มาสะสมกันท่านา้ แลเหล้ นปอย35เดือน 6 สังขานปี ใหม่พายเรือท่านา้ ก็ร้องว่าท่ากาดลีกส็ บื กันมาแล
ดังเชียงก็จ่ิงก็จ่ิงมีกาดไว้ กาดชื่อว่ากาดลีกาดหลวงสืบมาก่อนแล
พืนวัดสรีปายเมืองแลธาตุปางเมือง
ตนหนึ่งก็แปงวัดราชฐานที่กลางใจเมืองเชียงรุ่งหันแล ปางเมื่ออินทาเจ้ าฟ้ าก็เอาแสงแก้ ว

30 แผว-ถึง/ไปถึง

31 เมืองบริ วาร

32 ฉาบ เครื่ องตีประกอบจังหวะในวงกลอง

33 ฉบับเขียนลายมือเขียนว่า พาน (ออกเสียงว่า ปาน คล้ ายฆ้ องแต่ไม่มีโหม่งตรงกลาง)

34 ครัง้ หรื อ หน

35 ฉบับคัดลายมือ เขียนว่า ปอยหลวง


9

จิตลูกหนึ่งหื้อแม่นกเขียน36เอาลงมาอยู่ท่ที า่ นา้ ที่หนึ่งแล้ วทัด37เมื่อระสีเจ้ าไปแอ่วก็ไปหัน


ก็เมือเลยไล่เอาได้ มาแล้ ว ก็มาจูก่อธาตุไวที่กลางใจเมืองเชียงรุ่ง ก็ได้ ช่ ือว่าธาตุหลวงศรี
ใจเมืองเชียงรุ่งชะแล
หน้า 5
ดั่งวัดจิ่งได้ ช่ ือว่าวัดราชฐานหลวงสรีใจเมืองหัวกาดทรายเมืองเชียงรุ่งนั้นแล ดั่งกาดก็มาตั้งใส่
ที่วางกลางธาตุแลวัดไว้ กเ็ ข้ าที่ดอนทรายก็ร้องดักชื่อว่ากาดทรายนั้นแล ยามนั้นเจ้ าก็เอาคนในเรือนมา
ไป้ 38วัดแลกาดทรายนั้น ก็จ่ิงได้ ช่ ือว่าบ้ านทรายนั้นแล ดังโรงนั้นก็ได้ ร้องว่าโรงทรายนั้นแล
อันว่ากลางใจเมืองเชียงรุ่งนี้กม็ ีบวกสระนา้ กัด39บวกสระนา้ อุ่นบวกหนึ่งแลยามนัน้เจ้ าก็ขวบปี ไหน
ก็เซาะเอานางเทวีแลขุนเมืองทั้งหลายมาอาบนา้ พุ่งป๊ อกหนึ่งก็มาเหล้ นปอยอุ่นทุนแทนเมืองเดือน
สามเพ็งขึ้นธาตุใจเมืองนั้นแล
พืนบ้านเบียดบ้านหุง
เจ้ าก็ห้ ือขุนหอสนามมาป่ าน40ก็มาไว้ ช่ือว่าพญาปางเมืองสืบมาชื่อว่าพญาหลวงพาน
ก็ได้ ลุกในเชียงมาตั้งก็จ่ิงร้ องว่าเชียงไชยนั้นแล ก็ได้ ป่านแขกในเมืองแลต่างเมืองอันมาอาบ
นา้ พุน้ันแล นา้ บวกสระนา้ กัด พันดั่งเจ้ าแลนางก็มาปลูกต้ นสรีไว้ บ้านทรายไว้ ช่ือว่าก่อสรีนางเมืองสืบมาแล
ดังเจ้ าก็มาปลูกกอสรีไว้ ก็ช่ ือว่ากอสรีหลักแก่นเจ้ า ก็ห้ ือเพิ่นแปงแทนไว้ ก็ได้ ช่ือว่า
หลักแก่นแท่นคาสืบมาแล ดั่งคนบ้ านทรายนี้มี 2 คนพี่น้อง ดั่งน้ องชายไปไปตั้งบ้ านแถมที่หนึ่งชื่อว่า
บ้ านเบียดมีลูกหลานหลายมาก็ไปตั้งแถมบ้ านหนึ่งชื่อว่าบ้ านหุงนั้นแล
พืนวัดบ้านทุงหลวง
ตนหนึ่งก็ห้ ือเพิ่นแปงวัดราชฐานที่รองทุงนา้ ไว้ ท่หี นึ่งหื้อเจ้ าระสีอยู่ห้ันแล ดังคนไป้ วัดและโป่ 41
กาดก็ออกบ้ านทรายไปแลก็มีสามเรือนก็ไปตั้งเป็ นบ้ านไว้ ท่ที ุงนา้ หั้นแล ก็จ่ิงได้ ช่ ือว่าบ้ านทุงสามเรือน
บ้ านทุงไตเรือนสืบมานั้นแล ดังกาดจิ่งได้ ช่ ือว่ากาดทุงสืบกันมาแล ก็มีกาดก่อนแล
1.กาดทราย 2.กาดทุง 3.กาดล้ าน 4.กาดลี 5.กาดหลวง ห้ ากาดนี้กม็ ีกบั
เมืองเชียงรุ่งสืบมาแล
มีเจ้ าจันทวิตักและนางเทวีช่ ือว่านางสุรวิณาทั้งสองขาเจ้ าก็ฆ่ายักษ์ทฆิ ันตรยักษ์ตายแล้ ว

36 นกกระเรี ยน

37 ในขณะที่

38 เฝ้า

39 น ้าเย็น

40 จัดการ กระทา ดูแล

41 หัวหน้ า
10

ก็จ่ิงมาขนาบหื้อนางยักขณีตัวแม่น้ัน ชื่อว่าเรวัตตะยักขะณี ก็ห้ ือมันไปเอายาทิพย์มาโผดมาผายคนทั้ง


หน้า 6
หลายอันตายไปนานก็คืนมาเหมือนเก่านั้นแล ก็อยู่ท่บี ้ านหวายบ้ านเราสันเก่าแล้ วดั่งคนทั้งหลายก็ลวด
ลวดตั้งเป็ นบ้ านไว้ ช่ ือว่าบ้ านลามแสนเชียงแลงแล้ วก็จ่ิงมาตั้งบ้ านก่อบ้ านท่าเรือว่าบ้ านเตื้อนั้นแล ดั่งบ้ านก่อ
ก็ลุกบ้ านลามแสนมาตั้งแล ดั่งพืนลามแสนนี้กค็ นตายแล้ ว ชี้คืนเอามาสันเก่านั้น ก็จ่ิงได้ ช่ือว่า
ข้ าลามแสนเพื่ออั้นแล ก็ต้งั เมืองที่เชียงแลงหั้นแล
พืนบ้านพอก42บ้านใหม่
จาด้ วยเจ้ าสุวรรณหอยสังแลนางเทวีช่ือว่านางอุปปวดีตัวเป็ นลูกพญายักษ์กจ็ ่ิงมาสร้ างบ้ าน
แต่งเมืองที่หางนา้ แม่ของที่เชียงใต้ ห้ันแล ยามนั้นยังมีพ่อค้ าวัวหมู่หนึ่งมี 500 คนเขาก็มีวัวห้ าร้ อยตัว
ก็ออกแต่เมืองอัมมวดีพ้ ุนมาแลชื่อว่าเมืองตาริว่าอั้น ก็มาแก้ ปัญหาต่อพญาอากะระวัตตะ
ยักษ์ช่ ือว่าเทพธัมม์เสียแล้ ว พันดั่งพญายักษ์กแ็ ก้ บ่ได้ กค็ ้ าน43เสียแล้ ว ก็ห้ ือพญายักษ์หอบเอาลูกคนทั้ง
หลายมากองกันแล้ วก็มาเอานา้ ต้ นกันฑีมาหดหล่อแล้ วคนทั้งหลายก็ได้ สติใหม่คืนมาเหมือนเก่าแล้ ว
ก็จ่ิงมาตั้งบ้ านไว้ ออนทางว่าบ้ านพอกบ้ านใหม่ออน44เพิ่นนั้นแล ภายลุนมาก็ร้างเปล่าแถมเล้ า
พืนบ้านหงส์และวัดหลวงบ้านคว้าง
จาด้ วยเจ้ าเมืองอารโวก่อนแล ปางเมื่อเป็ นหงส์มาก็ตายเป็ นพญายักษ์ช่ือว่ายักอาระโว
ก็กลับเพศเป็ นครุฑราชตัวหนึ่งก็มาลักเอาแสงไข่นกเขียน45อันชุก่อไว้ ใจเมืองเชียงรุ่งนั้นว่า
จักเอาไปเมืองอารโวว่าอั้นยามนั้นอินทาเจ้ าจิ่งกลับเพศเป็ นแม่นกเขียนตัวใหญ่กไ็ ปฟาดครุฑราช
ก็บ่ได้ ไปแล ภายลุนมาดั่งวิญญาณยักษ์อารโวก็ได้ เกิดมาเป็ นลูกพญาอารโวเสียแล้ ว
ก็ได้ ชวนเอานาเทวีน้ ีแล คนเมืองทั้งหลายก็ได้ จอม46ระมั่งคาก็มารอด ดงหิมวันที่ตีนดอยหลวงแล้ ว ดั่ง
ระมังคาตัวพญายักษ์กลับเพศนั้น ก็กบั หายไปเข้ ารูถา้ ไปเสียแล้ ว ยามนั้นพญาก็ลวดบ่ช่าง
พอกไปก็ลวดตั้งเป็ นเมืองไว้ ช่ ือว่าเมืองเชียงรุ่งชาแล ก็ห้ ือเพิ่นทั้งหลายกางเหี้ยวกางน้ างไว้ ท่หี นึ่ง
ก็ได้ ช่ ือว่าบ้ านน้ างนั้นแล ก็ห้ ือเพิ่นแหที่ทา่ นา้ ไว้ ท่หี นึ่งชื่อว่าบ้ านจอมแห ก็ห้ ือเพิ่นเอาปลาเมือถวาย
เจ้ าสืบมาแล ก็ห้ ือเพิ่นไปตั้งบ้ านไว้ ท่หี นึ่ง ว่าหื้อกวางคาได้ ตายว่าอั้นแล ก็ได้ ช่ือว่าบ้ านเชียง

42 กลับหรื อพื ้น

43 แพ้

44 ก่อน เบื ้องต้ น

45 นกกระเรี ยน

46 ติดตาม-ภาษาไทยใหญ่
11

หน้า 7
ตายนั้นแล ก็ห้ ือเพิ่นไปแหที่คลองบึงนั้นก็ได้ ช่ือว่าบ้ านบึงสืบมาบ้ านบึงหนองคาหั้นแล ก็ไปตั้งบ้ านไว้
ใกล้ ปากถ้ าที่กวางคาตายนั้นไว้ สองบ้ านชื่อว่าบ้ านกวางทรายคานั้นก็แปงวัดหลวงที่บ้านกวาง ไว้ ช่ ือว่าวัด
อโสกาธัมมราชสืบมาแล ก็ไปตั้งบ้ านขัวสุงแถมแล หึงบ่นานเท่าใดดั่งพญาก็ยังใคร่ได้
กวางคานั้นอยู่ใจ้ ๆ47ก็ชวนเอาคนเมืองและเสนาทั้งหลายก็ไปขับเถื่อนแถมเล้ าก็เสียหลงหนเข้ า
แดนพญายักษ์ยับได้ ว่าจักกินว่าอั้น ยามนั้นพญาก็ขอต่อพญายักษ์ว่าข้ ายังมีลูกยิง 7 สาวก็
จักเอามาน้ อมถวายหื้อตัวเจ้ าชะแล ยามนั้นพญายักษ์กจ็ ่ิงว่ากันสัจจะมีด่งั อั้นก็วางปล่อยพญาพอกมาแล้ วก็ห้ ือ
เสนาอามาตย์ท้งั หลายไปแปงศาลาไว้ ท่แี ดนเมืองแล้ วก็ได้ เอาลูกยิง 6 สาวไปอ่อยยักษ์กซ็ า้ แล้ วแล
ก็เอาข้ าหอคนเรือนไปอ่อยก็ซา้ แล อันว่าคนบ้ านคนเมืองทั้งหลายก็กลัวตายกับด้ วยยักษ์ดอยก็ชวนกันล่วงพ้ นแดน
เมืองไป
ก็ไปยั้งไว้ ท่หี นึ่งก็เป็ นที่กว้ างขวางแท้ แล เขาก็ต้ังเป็ นเมืองไว้ ได้ ช่ ือว่าเมืองโลง (ล่วง)สืบมาย้ อนว่า
ได้ ล่วงพ้ นเมืองเชียงรุ่งไปตั้ง ก็จ่ิงใส่ช่ ือว่าเมืองลวงนั้นแล ก็ลุกเชียงรุ่งคนอันลุกแต่เมือง
อารโวอันกับเจ้ ามาตั้งเมืองเชียงรุ่งนั้นมีบ้านเต้ อ48 บ้ านฟาน บ้ านหมอหลวง บ้ านทุง่ เรา บ้ านท่าบ้ านหนิว
บ้ านกิว๋ 49ชื่อหนองคาเชียงตาย บ้ านดอนแท่น บ้ านใหม่บงเทิง50 บ้ านน้ าง บ้ านชางไช บ้ านหลวงจอมวังค่านี้กเ็ ป็ น
ข้ า
กับเจ้ าออกแต่เมืองอารโวสวนตานมาแล
เจ้าบุญปั นเป็ นเจ้าเมืองเชียงรุ่ง
จาด้ วยเจ้ าบุญปันท่านนี้เกิดเมืองหุนที่บ้านนา้ อุ่นแล แม่กต็ ายละแต่น้อย
พ่อก็มาเอาแม่น้า51 ก็มาชังลูกก็จุส่อ52หื้อผัวเอาลูกไปปล่อยเถื่อนเสียนั้น ยามนั้นเจ้ าก็มีหมา
น้ อยตัวเป็ นคู่กห็ ลงหนทางก็เข้ าเขตแดนดงนั้นไป ยามนั้นพญายักษ์หลวงเจ้ าทีฆกะหันใส่กว็ ่า
จักกินว่าอั้นแล นาบุญท่านมีพญายักษ์กก็ นิ บ่ได้ กเ็ อาเป็ นลูกเก็บเสียแล้ ว ก็ลวดสอนศาสตร์สอน
เชิงหื้อแล้ ว ถึงเมื่ออายุทา่ นได้ 14 ปี ก็ขอต่อพ่อเลี้ยงยักษ์ว่าจักไปไจ53พ่อว่าอั้นก็เสียหลงหนทาง

47 เนืองๆ หรื ออยากได้ อยู่ตลอด

48 เต้ อ จับหรื อกระทบ ภาษาไทยใหญ่

49 ฉบับลายมือ เขียนว่าบ้ านติ ้ว

50 ฉบับลายมือ เขียนว่า บ้ านใหม่หลวงบุญเติง

51 แม่เลี ้ยง

52 ยุยงสนส่อ

53 ไปเยี่ยม
12

ก็ตกเข้ ามาเมืองเชียงรุ่งเสียแล้ ว ก็ได้ ไปเป็ นลูกเก็บนางพิณแก้ ว54บ้ านใหม่สรีแยงทัด55เมื่อ


พญาอารโวก็ห้ ือขุนเสนาเอาลูกยิงหล้ าตนชื่อว่านางภมปันหน่อเมืองลูกหล้ า ก็เอาไปอ่อยยัง
หน้า 8
ยักษ์ดอยก็มาผ้ ายบ้ านใหม่สรีแยงอันมีหมื่นหลังเรือน ยามนั้นเจ้ าก็มาสุบสอดเข้ าเครื่องแล้ ว 56ก็ไปโปรดเอานาง
เสียแล้ ว ภายลูนมาก็ได้ เป็ นลูกเขยพญาอารโวเสียแล้ ว ก็ได้ มาตั้งอยู่เป็ นเมืองใหม่อยู่ท่ี
เหนือปางยองหั้นแล ก็ได้ เป็ นเจ้ าสิบสองปันนาเชียงรุ่งแล้ วได้ 7 เจ่น 57เจ้ าแลพันดั่งพญาอารโว
นี้ได้ เป็ นเจ้ าแท้เจ่นเดียวชะแล
พืนหัวเมืองบ้านน้าง
จาด้ วยเจ้ าบุญนาณณัคคะ58แลนางราชเทวี ชื่อว่านางอุปปัคคะมีเจ้ าทั้งสองก็มาฆ่ายักษ์ตายแล้ วก็จ่ิง
มาเอานา้ ต้ นกัณฑีมาหดหล่อดูกคนทั้งหลายก็คืนมาดั่งเก่าแล้ วก็มาตั้งบ้ านนางออนทางลุกบ้ านก็ไปตั้ง
บ้ านหัวเมืองภายลูนมาก็ได้ 5 พัน 8 ร้ อยปี แล้ ว ก็ลวดร้ างเปล่าแถมเล้ าแล
พืนน้ าหี้ ผาหน่อหมาควาย
ปางเมื่อพระเจ้ ากกุสนั โทเจ้ าลงมาสร้ างโพธิสมภารวันนั้น พันดั่งเมืองเชียงรุ่งก็มีค่า 59ยิง
ไว้ 42 คนก่อนแล ก็ยังมีหมากผาก็บุออกมาที่หัวเมืองหั้นก็เหมือนลึงค์ไว้ กไ็ ด้ ช่ือว่าหมากผา
หน่อหัวเมืองนั้นแล ดังยิงทั้งหลายก็ชวนกันเอาโย(นี)ไปสุบหมากผาอันนั้นอยู่ชุวันแล ดั่งนา้ ราคะคนยิง
ก็พอย้ อยลงเป็ นร่องเป็ นทางไหลล่องมาเป็ นแม่ไว้ กไ็ ด้ ช่ือว่านา้ หีสบื มาชื่อนา้ หี้น้ันแล
ยามนั้นยังมีหมาหลวงตัวหนึ่งมันลุกแต่เมืองสางควายหลวงอยู่นอนกับด้ วยยิงทั้งหลาย
กันว่าเกิดลูกมาก็เป็ นคนชายแล ดั่งหมาควายตัวนั้นก็ลวดขบตายเสียแล กันว่าเกิดมาเป็ นคนยิง
ดั่งหมาก็จ่ิงเอาไว้ อย่างนั้นดั่งคนก็บ่แพร่บ่กนึ แท้แล
อ้ายเกิกกล้า
จาด้ วยเจ้ าเตเมท่านเลียบโลกมารอดเมืองเชียงรุ่ง ก็บ่หันคนชายสักคนก็หันค่า60หมาควาย
หลวงตัวเดียวอยู่นอนกับด้ วยยิงอยู่ไว้ ยามนั้นเจ้ าก็มาพิจารณาฆ่าหมา เจ้ าก็มาเนรมิต
เป็ นแมงเกิกกล้ าเสียแล้ ว ก็เข้ าไปอยู่ในเผียกกล้ าไว้ ยามนั้นยิงทั้งหลายก็บ่ร้ ูว่าเป็ นคนชาย

54 ฉบับลายมือ ว่านางปิ่ นแก้ ว

55 ทัด หรื อตรงขณะ..

56 แต่งชุดนักรบ

57 สมัย เช่น 7 เจ่น หมายถึงสืบราชวงศ์ได้ ถึง 7 สมัย

58 ฉบับลายมือเขียนว่า เจ้ าบุญนาคคะ

59 มีแต่

60 เห็นแต่
13

ก็มีลึงค์ไว้ ยามนั้น เจ้ าก็มาพิจารณาฆ่าหมาตายเสียแล้ วก็เอาไปใส่ท่นี า้ ของเสียแล้ ว


หน้า 9
ภายลูนมาจิ่งร้ องว่าแก่งหมาเน่าเพื่ออั้นแล พันดั่งยิงทั้งหลายก็บ่ลืมด้ วยราคะหมาด้ วยง่าย ก็มาเอา
เลือดหมามาก่านตาซิ่นไว้ จิ่งได้ ช่ ือว่าซิ่นหมาควายนั้น ก็เอามาก่านคาดหัวไว้ ก็ช่ือว่าคาดหัว
ไหมเบียดนั้น ดังหมาก็ไว้ เวรหื้ออ้ ายเกิกกล้ าไว้ เดียวนี้กนั ว่าหมาหันเผียกกล้ าอยู่ท่ไี หน ก็ลวด
ไปนอนไปเกลือกนั้นแล พันดั่งเป็ นเมืองแม่ยาป่ าหมาควายนี้ได้ ร้อยปี ปลายก่อนแล พันดั่งอ้ ายเกิกกล้ า
เป็ นเจ้ าเมืองเชียงรุ่งนี้มีไว้ สองเจ่นเจ้ าก่อนแล
พรานป่ าตั้งบ้านอยู่นี้ 6 บ้าน 6 หัว
จักจาด้ วยพรานป่ า 7 คน ชื่อว่าสมเด็จ 7 ราช ครูเขาเจ้ าก็ลุกแต่เมืองมัทธราชพุ้นมา
ด้ วยลาดับคราวนานว่าได้ 7 เดือนปลายก็มารอดดงหิมวันเมืองเชียงรุ่ง อันเปล่าไว้ ด่งั เขาเจ้ า 7
คนนี้ช่ ือว่าระสีพรานป่ าว่าอั้นแล เขาก็เอากับไฟมีเหล็กมาป่ ายหื้อเป็ นไฟแล้ ว ก็มาจิเผา
ป่ าไม้ แล้ ว ก็เป็ นปางปฐมะ ดั่งเขาเจ้ าก็ได้ ร้ ูได้ หัน ก็เป็ นอันฐานะที่สมควรตั้งบ้ านแปงเมือง
แท้ แล ดั่งเขาก็เอากันแอ่วไปชุท่ชี ุแห่งก็ผ่อหันยังบวกสระ อันมีในดงก็มีไว้ 6 บวก
ก็บ่เหมือนกัน เขาก็ผ่อหันรอยตีนและรอยบาท ก็บ่เหมือนกันของอันมีนา้ แลในบวก ก็บ่เหมือนกัน
แท้แล พันดั่งบวกสระหลวงอันสะอาดแท้ ก็มีผักป้ านและจังกรบัวเทศ เขาก็บิดหว่ายมาตั้ง
อยู่ท่ปี างยองไฟ ตกนั้นแล ก็จ่ิงตั้งออกเป็ นปางใหญ่ไว้ ออนที่หนึ่งแล้ วแลก็ได้ ช่ือว่าบ้ านพรานก็ต้งั
ออกออนทางนานแล ยามนั้น ก็มีชายนาและข้ าดาเถื่อน ทัมมิละ ก็ลวดย้ านออกเป็ นปางก็จ่ิงว่า
ปางลอ ปางเถื่อน ปางเผียว ปางยาง ปางของ ปางกอง ก็มีไว้ 6 ปางก่อนแล ดั่งบวกสระก็มีไว้
6 บวกชะแล รวมทั้งมวล ก็มีสบิ สองนั้นแล ก็จ่ิงได้ ช่ือว่าเมืองสิบสองปันนา นครเชียงรุ่งนั้นแล
เวลานั้นก็บ่มีเจ้ าบ่มีนายสังแล นับค่าคนค้ าคนขายมาสะสมชมอยู่กบั ด้ วยแก่กนั บ่ดายแล
พืนไตลื้ อเราลุกไหนมา
จาด้ วยไตลื้อเราก็ยังตั้งเป็ นบ้ านเป็ นเมืองอยู่ไว้ ก็อยู่เหนือเมืองแสหลวงพุ้นก่อนแล ยามนั้น
ก็ผ่อมีการศึกสงครามมารอด ดั่งไตลื้อเราก็มีสามเมืองบ่ดาย ดังเมืองหนึ่ง ชื่อว่าเมืองซางไต เมือง
หน้า 10
ป่ าซาง เมืองป่ าเข้ า ก็มีด่งั สามเมือง ดั่งคนลื้อเราก็บ่มีหลาย ก็ชวนกันพ่ายหนีลงมาตั้งเมืองไว้ อยู่
ที่หนึ่งชื่อว่าเมืองแย้ นแชงเชียงกู่น้ันแล ก็อยู่ไว้ เหิงนานแท้แล ยามนั้นพันดั่งภาษา61ห้ อก็คืนมาเป็ นโจร
ผ่าทางเอาคัว ก็ลวดกลัวก็แตกเป็ นหมู่ หนึ่งหมู่ สองหมู่ สาม ไปแล้ ว ดันดั่งหมู่ถ้วนหนึ่ง ก็ลวดพ่ายเข้ า
ป่ าหิมวันไปก็ไปยั้งอยู่ท่หี นึ่ง ก็ต้งั เป็ นเมืองไว้ ชื่อว่าเมืองล้ านช้ างนั้นแล
พันดั่งหมู่ถ้วนสองนี้กไ็ ปตั้งไว้ ท่นี า้ คง ชื่อว่าแม่สาละเว ก็ได้ ต้งั เป็ นเมืองไว้ กช็ ่ือว่าเมือง

61 ภาษา-ชนชาติ ภาษาห้ อ=ชนชาติจีน


14

อโยธิยานก็เป็ นเมืองไทยนั้นแล ก็หากเป็ นไตลื้ออยู่แล


พันดั่งหมู่ถ้วนสามก็ลงมาตามแม่นา้ ของ ก็เอากันลงเมือตามนา้ มารอดถึงเมืองเชียงรุ่ง ก็มายั้ง
เซาอยู่น้ันแล พันดั่งเชื้อไตลื้อเรา ก็เป็ นอันเชื้อใหญ่เชื้อหลวงแท้แล เราก็รักษากันก็บ่ลืม
เสียบุญคุณพ่อแม่ ปู่ หมอนตานายแห่งเราชะแล
พืนเชียงทาย
จาด้ วยพระเจ้ าโคตมะเจ้ าเลียบโลก มารอดเมืองเชียงรุ่ง ยังมีบ้านหนึ่งนอนหลับก็บ่ต่นื สัก
คน พระพุทธเจ้ าก็ทกั ว่า ดั่งคนบ้ านนี้กต็ ายเสียซา้ แล้ วกา ดั่งบ้ านลูกนั้นก็จ่ิงได้ ช่ือว่าบ้ านเชียงทาย(ตาย)นั้นแล
ดั่งห้ อคามาทายพันว่าลังหยินแล ดั่งนกจอกฟ้ าไว้ ทายห้ อค่าที่น้ัน ก็จ่ิงได้ ช่ ือว่าเชียงทายแล
พืนบ้านดอนแทน (ทัน)
เมื่อถึงบ้ านหนึ่งเขาก็ทนั ใส่บ้านเข้ า(ข้ าว)พระเจ้ า62 ก็กล่าวว่าบ้ านลูกนี้ ชื่อว่าบ้ านดอนทัน
นั้นแล ก็มีสองชื่อก่อนแล ปางเมื่อยังมีอ่อนยิงสาวทั้งหลายไปเอาหมากแทน63ร้ อนใส่ถุงเสื้อมาแล้ ว
ก็มาเอาค้ อนแส่หมากทันตกใส่ดินเสียแล้ ว ก็ร้องว่าดูราน้ องค่อยเอาหมากแทนออกถุงเสื้อ
ก็เป็ นอันหมดใหม่ ดั่งยิงสาวก็ได้ แล้ วก็ลวดกินชะแล ยามนั้นชายผู้หนึ่งก็จ่ิงว่า หมากแทนร้ อนนี้
อันกูพ่ีแส่ตกดินนั้นน้ องกินก็ได้ เป่ าก็ช่ ือว่าหมากแทนนร้ อนนั้นแล อันว่าหมากแทนกัด64นั้นกูพ่ีหากเอา
หน้า 11
ออกถุงเสื้อหื้อน้ องกินก็เป็ นอันบ่ได้ เป่ า ก็เป็ นก็เป็ นหมากแทนกัดนั้นแล ยามนั้นภายลูนมาดั่ง
เขาสองขาก็เอากันตั้งเป็ นบ้ านไว้ ได้ ช่ ือว่าบ้ านดอนหมากแทนสืบมาว่า บ้ านดอนแทนนั้นแล
พืนเชียงแห
พระเจ้ าก็ไปแผวบ้ านหนึ่งก็ลวดแลงแจ้ งที่ห้ันแล ยามนั้นตนท่านกล่าวว่า
กูตถาคตมาเลียบโลกแลงแจ้ งเสียที่น้ ีแล ดั่งบ้ านลูกนี้เมือหน้ ามาก็จักได้ ก้านกุ่งรุ่งเรือง
ชะแล ก็ได้ ช่ ือว่าเชียงรุ่งเชียงแรงนั้นแล
พืนวัดป่ าเชต์
จาด้ วยวัดป่ าเชต์ก่อนแลยังมีนายอนาถบิณฑิเสฎฐีผ้ ูหนึ่ง ก็มาสร้ างวัดหลวง
ป่ าเชตวัณณอารามหลังหนึ่ง ทานหื้อพระพุทธเจ้ าที่บ้านใหม่สรีแยงที่น้ัน ก็มีหมื่นหลังเรือน
ก่อนแล ก็ชวนกันมาทานพระพุทธเจ้ าอยู่ห้ันแล ดั่งพระพุทธเจ้ าก็ไปซ่วย65ขานา้ ร่อง ก็จ่ิงร้ องว่าจิ่งร้ องว่ารอง
ขาสืบมานั้นแล พันดั่งเชตกุมารตนลูกแล้ ว ลูกไภ้ กม็ าแปงโบสถและธาตุล้อมก่อตนก็อยู่นอก

62 ทันใส่บาตรพระพุทธเจ้ า

63 พุทราร้ อน

64 พุทราเย็น

65 ล้ าง
15

ข่วงอารามก็สบื มาบัดนี้แล ยามนั้นยังมีเจ้ าแผ่นดิน ก็ร้องป่ าวไพร่เมืองทั้งหลายมาสร้ าง


วัดหลวงจอมทองยามเมื่อพุทธศักราชได้ 28 ตัว ไว้ ถ้าพุทธเจ้ าเลียบโลกมารอด
ที่ปราสาทอันตนพี่ท้งั สามอันย่าไว้ บาทะนั้น ยามนั้นพระพุทธเจ้ าโคตมะก็อยากนา้ ก็ผ่อหันทมิละก้ อ66คนหนึ่ง
พานา้ มามันก็ดีไปพบใส่ข้าวไหดั่งก้ อมิละผู้น้ันก็ว่านา้ เขียมก็บ่ทานหื้่อพระพุทธเจ้ าหั้นแล ยาม
นั้นพระพุทธเจ้ า ก็จ่ิงใส่ช่ ือว่าปราสาทนา้ เขียมสืบมาว่าพระบาทนา้ คิมนั้นแล ก็มีพระเจ้ าทั้ง 4 ตนก็มาไว้
ปาทะก็มาย่าซ้ อนกันทั้งสี่พระองค์เจ้ าหั้นแล ก็ไปรอดบ้ านหนึ่งเขาก็เอามาทานก็อวดอู้กนั
ว่าเราก็บ่ได้ ร้ ูได้ หันสักเทื่อ ก็มัวเมาอยู่ไว้ ด่ังบ้ านลูกนั้น ชื่อว่าบ้ านมัวเมา ลุนมาว่าบ้ านไห
ท่ามูน้ันแล ก็เข้ าไปรอดบ้ านหนึ่งเขาก็เอาดอกไม้ มาทานก็ได้ ช่ือว่าบ้ านดอกใหม่น้ันแล พระพุทธเจ้ า
ก็ข้ นึ เมือดอยหลวงที่หนึ่งก็เป็ นที่พญายักษ์หลวงเจ้ าที่ฆ่าอารวกะยักษ์น้ันแล ก็แม่นเมื่อยักษ์กไ็ ปพร้ อม
ที่พญาสุวัณณะ ยามนั้นพระพุทธเจ้ า ก็ไปนั่งแท่นพญายักษ์ไว้ ยามนั้นยังมีเสนาหลวงพญายักษ์ก ็
หน้า 12
เคียดใหญ่67ว่ามึงเป็ นไผแลเข้ ามานั่งแท่นพญาตู ยามนั้นเสนาก็สยอง68ไปแผวที่พญายักษ์แล้ วก็
บอกขียาหื้อพญารู้แล้ ว ก็เคียดมักนักดั่งพญาก็พอกมา ก็มาหันสัพพัญญูเจ้ าแท่นอยู่ห้ันแล มันก็ว่า
สมณะท่านหัวหมด69พ้ อยมานั่งแท่นกูน้ันชา ยามนั้นพญายักษ์กม็ าเนรมิตรเป็ นวัวก็เข้ ามา ยาม
นั้นพระพุทธเจ้ าก็เนรมิตรเป็ นเสือก็ว่าจักกินวัว พันดั่งพญายักษ์กก็ ลับเพศหลายเชื้อหลายชอง
ก็บ่อาจแพ้ 70สัพพัญญูเจ้ าได้ แล ก็ลวดน้ อมสัพพัญญูเจ้ าแล้ ว ก็สอนสรณคม 9 ห้ องปันหื้อ
พญายักษ์แล้ ว ดั่งเขี้ยวงาพญายักษ์ท้งั 4 เหล้ ม ก็หล่อนตกลงมาแล้ วยามนั้นพระพุทธเจ้ าจิ่งว่ากูมานั่งแท่น
แก้ วพญายักษ์ด่งั ดอยลุกนี้กไ็ ด้ ช่ ือว่า ดอยลูกนั่ง71นั้นแล ยามนั้นพระพุทธเจ้ าก็บวชเป็ นสาวกะ
โสดาแล สัพพัญญูเจ้ าก็ชวนพญายักษ์มารอดที่กาดทราย ก็กลัวคนทั้งหลายเข้ ากาดตื่น
ดั่งสัพพัญญูเจ้ าก็ชวนพญายักษ์กลายซวาดไปหั้นแล พันดั่งกาดนั้นก็จ่ิงได้ ช่ือว่ากาดทราย ก็สบื มาก็ว่า
กาดทรายนั้นแล ยามนั้นคนทั้งหลายก็ใคร่หันหน้ าพญายักษ์กเ็ อาหน้ ามอดอนทองดั่งดอนลูกนั้นอยู่ริมกาดนั้น
ก็ได้ ช่ ือว่าดอนม้ อสืบมาก็ว่าดอนมอนั้นแล ยามนั้นสัพพัญญูเจ้ าก็ชวนพญายักษ์ไปแอ่วแผวเชียงใต้
หันก็ว่าจักบวช พันดั่งพญายักษ์กก็ ลัวคนทั้งหลายก็ลวดหนีไปทัดเสียหั้นแล ยามนั้นสัพพัญญูเจ้ าก็ห้ ือ
เพิ่นไปขับหา ก็ไปหันใส่หน้ าบื้อลื้อแล ยามนั้นสัพพัญญูเจ้ าจิ่งทานายไว้ ว่าเมือหน้ ามาก็

66 ก้ อ-อีก้อ หรื อ อาข่า

67 โมโห

68 เหาะ

69 หัวโล้ น

70 ชนะ

71 ฉบับลายมือ เขียนได้ วา่ ดอยดงน ้า


16

ได้ ร้องว่าบ้ านลื้อนั้นแล ยามนั้นสัพพัญญูเจ้ าก็ร้องพญายักษ์มาแล้ วก็บวชหื้อเป็ นอาระวักกะโสดาแล้ ว


ก็สอนพญายักษ์ว่า คันว่าเสียงกลองหลวงวัดสรีไจยเมืองหัวกาดทรายเชียงรุ่งนั้น ยังตีอยู่พันดั่งยักขาทั้ง
หลายสูกบ็ ่ห้ ือแอ่วล่าฆ่ากินสัตว์ท้งั หลาย สัพพัญญูเจ้ าบวชพญาอารวะกะยักษ์ท่วี ัดหลวงจอมทอง
ปี พุทธศักราชได้ 28 ตัว ก็ส่งั สอนพญายักษ์แล้ ว ก็ห้ ือพญายักษ์พอกสู่ท่อี ยู่แห่งตนแล้ ว พันดั่ง
พระพุทธเจ้ าก็หว่ายหน้ าท่องพญายักษ์กล็ ่วงพ้ นวัดใจเมืองแล้ ว ดั่งวัดใจเมืองนี้ ก็เป็ นที่สายตาสัพพัญญู
เจ้ าตนนั้นแล พันดั่งวัดหลวงใจเมืองนี้ ดั่งวิหารและพระเจ้ าหลวงนี้ ก็ตกเป็ นเจ้ าแผ่นดินสร้ างแล ดั่ง
โบสถนี้ปันตกท่าว 4 ลวงแลชื่อว่าลวงทราย ลวงทุ้ง ลวงของ ลวงห้ วย สืบมานั้นแล พันดั่งจอมของนี้
ก็ปันตกท้าว 4 กาด ชื่อว่ากาดหลวง กาดทุ้ง กาดทราย กาดล้ าน มาสร้ างแล พันดั่งกาแพงนี้กเ็ ป็ น
หน้า 13
ตกสังฆะเจ้ าทั้งเมือง ก็มีครูเมืองเชียงเป็ นเค้ าภิกขุเจ้ าทั้งหลายก่อนแล ดั่งโรงนอนนี้กป็ ันตกบ้ าน
ทรายไตเรือนแปงแลเจ้ าทั้งหลายเฮยตั้งแต่สพั พัญญูเจ้ ามาบวชพญายักษ์เอาวัสสาที่วัดจอมทอง
สืบมาแล สัพพัญญูกม็ าบวชพญายักษ์แล้ วสัพพัญญูกผ็ ่อหันยังทุ่งนาที่กบ็ ่มีนา้ ใสยามนั้น
สัพพัญญูเจ้ าก็เอาค้ อนเท้ าเหล็กไปขีดหื้อเป็ นช่องนา้ รองมาถึงที่หนึ่งก็สอเอาไปปายก็เข้ า
ไปตกทุง่ นา ก็กลายเป็ นนา้ เหมืองใสนายอง คนทั้งหลายก็ใส่ช่ ือเหมืองพระเจ้ านั้นแล ดั่งที่สอนั้น
สืบมาว่าบ้ านห้ วยสอนั้นแล อันอยู่ฝ่ายหล่ากองนั้นก็ได้ สืบมาชื่อว่าบ้ านหล่านั้นแล สัพพัญญูเจ้ าก็ลุก วัด
จอมทองก็จ่ิงไปสอนสิงห์สองตัวผัวเมียได้ ไหว้ แล้ ว ก็จ่ิงมาไว้ บาทะหัวบ้ านเชียงทายแล ก็จ่ิงลงไป
ไหว้ บาทะที่นาค 9 ตัว เอาอยู่แควงบ้ านลื้อได้ ไหว้ แล้ ว ก็จ่ิงไว้ บาทะในดอยถา้ ดงหนา หื้อยักษ์ 2 ตัว
ได้ ไหว้ แล้ ว ก็จ่ิงมาเอาเกสาหื้อพญาเจิงบ้ านยิง พญานามะศักบ้ านจอมแหชื่อว่าพญาพญาปรัมมะพรหมวง
ไชยะแลหื้อเขาสามคน เป็ นเค้ าไพร่เมืองทั้งหลายมาจุก่อเจติยาธาตุหลวงปางเยือ หื้อมาขั้นหน
ทางพญายักษ์แล้ ว ก็จ่ิงข้ ามไปเมืองเชียงแรงก็ไปไหว้ บาทะดอยทัชฌานแผ่ไปว่าดอยซานทาสานนั้นแล ก็จ่ิง
ข้ ามไปดอยหลวงลวงกู่แล ก็ข้ามไปเมืองกัณธรัฐะเมืองแกวและเมืองแหนแล ลาหูและเมืองพูฝาง
แลเมืองตักกสิลาปาลิไยยนคร ปาฬิ72พูเสอแล้ ว ก็เข้ ากวางเซียวไว้ พระบาทแล ก็จ่ิงได้ ช่ือว่าเขา
กวางซีแล ยามนั้นแลเข้ าไปเมืองวิเทหราชนี้เป็ นเมืองแสแล้ ว ก็เข้ าไปเมืองสางงอยสืบมา
ว่าเวียงหลวงเพ้ อจิน สัพพัญญูกเ็ อาบอกเข็มร้ อยเหล้ มไว้ ชาววิเทหราช ก็จ่ิงข้ ามไปดินมีหัวสืบมา
ว่าดอยเมืองกัว แผ่ไปว่าดอยเมืองพูหวานแสนแส่สบื ไปว่าแสนสาวเอาดอกไม้ มาไหว้ พระเจ้ า
ว่าสามแสนแผ่ไปว่าซาวแซ้ นใต้ ซาวแซ้ นเหนือสืบมาแล ก็เข้ าไปเมืองล้ านช้ างล้ านนาเชียงใหม่
แผ่ไปว่าพญาสรีสญ ั ชัยยะไถ่หลานน้ อยออกเป็ นไท ก็ช่ือว่าเมืองไถ่สบื มาว่าเมืองไทยนั้นแล
พระเจ้ าก็เข้ าไปพันธารัฐเขาก็เอาก้ องแก้ วใส่นา้ มาทานพระเจ้ าก็ช่ือว่าเมืองแก้ วอะเยนั้น
พี่น้องชื่อว่าเมืองเยหนองแผ่ไปว่าเมืองยีน้ันแลพระเจ้ าไปรอดเข้ า ก็เอาดอกไม้ มาผ่าวบูชา

72 ฉบับลายมือ ว่า เมืองปาทิพเู สอ


17

หน้า 14
ก็เอาแผ่นผ้ าบกหัวขึ้นอากาศก็ได้ ช่ ือว่าเมืองยัว73นั้นแล มีอ้ายจันอ้ ายพมก็ได้ ช่ือว่าแจ้ นภูจ่าย
สืบมานั้นแล
พืนสร้างธาตุอยู่นี้
ดั่งธาตุจอมแลเป็ นธาตุแก้ วแสงพญาปรัมมะจักบ้ านนาทุหลวงวัณณพรหมแล พญาจันทพรหม
บ้ านกองหลวงทุหลวงนามศักดิ์สองพี่น้องก็เอาแก้ วมหานิลหนึ่งตนพรหมทั้ง 2 แลค้ อนวชิรเพ็ก743 อันแล
หน่วยขี้เต่าไฟหมอนนิดละผักตบแก้ วแสง มีสามพี่น้องก็ช่ ือว่าธาตุบ้านกองหลวง อันออกแต่นาเนิง
นาปานมาตั้งบ้ านถึงบ้ านกอม่วง บ้ านทับมาดมาตั้งก็มีไว้ หลังเรือนก่อนแล
พืนสร้างธาตุเชียงทาย
ดังธาตุอนิ ทร์แถลง75เชียงทายก็ก่อกวม76บาทะพระบาทไว้ นา้ ลึกมี 44 วาศอกเพื่อว่ากลัวคนบาป
หนาทั้งหลายม้ าง77ฟงซานนั้นแล ธาตุจอมหงส์78 ธาตุจอมทองก็เป็ นธาตุบาทะแล ธาตุจอมของนี้เกสาดินธาตุ
ดอนเบียน79นี้เป็ นธาตุผ้าเช็ดก็อยู่ท่นี ายอง ขัวมุงนาแขกหั้นแล ธาตุปางเยอนี้เกสาดินสองเส้ น
ธาตุจอมหมอกนี้ ดูกกระหม่อมจอมหัว ธาตุบัวน้ อยนี้ธาตุเกสาม่าน เอามาจุห้างเรือพวงคาลาหนึ่ง
เรือเงินลาหนึ่งก็คาดกับกันแล้ ว ก็เอาจุท่เี หนือผิวนา้ ของ80หันแล ดั่งธาตุจอมแป จอมซาง จอมแจ๋น(จันทร์)นี้
เป็ นธาตุแก้ วแสง ธาตุบ้านขามหวาน ก่อปี จุลศักราช 13 ตัว บ้ านธาตุแหลม81สร้ างก่อปี จุลศักราช
113 ตัว ธาตุหลวงปู่ หลานก่อปี จุลศักราช 1282 ตัว ธาตุบ้านแอ่นเมืองลวงก่อปี จุลศักราช 1316
ตัว เมืองมันฑเล เป็ นวันสัพพัญญูเจ้ า มีพระเจ้ า 4 ล้ าน 4 แสน 6 หมื่น 4 พัน 3 ร้ อย 7 ตน ที่อยู่
ที่ไป้ 82ของเมืองม่อนยาวแล ธาตุจอมยองลวง83สูงมี 13 วา มีเท่านี้แล

73 ฉบับลายมือว่าเมืองยก

74 ฆ้ อนเพ็ชร

75 พระอินทร์ แถลงแปลงกายลงมาสร้ าง

76 ครอบ

77 ทาลาย

78 ฉบับลายมือว่าธาตุจอมหัว

79 ฉบับลายมือ ว่าธาตุดอนเบียด

80 น ้าโขง

81 ฉบับลายมือว่าบ้ านแลบ

82 เฝ้า

83 ลวงเป็ นคานาหน้ าหน่วยวัดพื ้นที่


18

หน้า 15
จาด้ วยพืนภาษาไต84เรา ก็เป็ นเชื้อใหญ่เชื้อหลวงแท้แล ดั่งกาปาก85หนังสือวัฒนธัมม์
แต่ก่อน และมาถึงสมัยเรา ดั่งชาวไตกับเมืองไต ก็ยังบ่ผิดแผกเสียกัน ก็มีมากหลวงหลาย
เหลือนั้นบ่กาไตนอกจากเมืองบ่สะสมกันก็มีอยู่ชุประเทศหลายแห่งแท้แล
1.ไตลื้อก็มีอยู่ประเทศห้ อ86 2.ไตแลม 3.นี้ไตน้ อยก็เป็ นไทย87 4.นิไตลาว 5.นี้ไต
แดงเขมร 6.นี้ไตดาเวียดนาม 7.นี้ไตขาว 8.นี้ไตอิสานอินเดีย 9.นี้ไตอบุม 10.
นี้ไตเหนืออยู่ประเทศห้ อ ไตหย่า ฝูงนี้เป็ นต้ น นอกจากศาสนาอันบ่ได้ ว่ารอด ก็ยังมีมากหลาย
แท้แล
เราเกิดมาก็เป็ นเนื้อเลือดชาวไตแลวก็จักได้ มีอานาจรักษากัน เชื้อเครือบ้ านเมือง
ภาษาหนังสือ แลวัฒนธัมม์ เหมือนกันซา้ 88 คันว่าเราบ่รักษากัน ก็จักเป็ นการอันลืมเสียบุญ
คนพ่อแม่ ปู่ หม่อนตานายแห่งเราเสียแล ดั่งไตเรานี้ร้องว่าอย่างนี้อย่างหน้ า ที่แท้ กห็ าก
เป็ นไตเนื้อเลือดอันเดียวกัน กาอู้จาก็เหมือนกันเสี้ยง ก็มีไตลื้อ ไตแลม ไตขืน ไตคา
ตี่ม่านฝูงนี้กห็ ากเหมือนกันเสี้ยงนัก ค่าลิก89ตัวก็สนั เดียวกัน ตัวพื้นเมืองตัวธัมม์เมืองลาว ตัวไตขาว
ตัวเมืองแกว ตัวเมืองขืนไตหลวง ตัวมัคคธเมืองอินเดีย ตัวไตสิบสองปันนานี้ ตัวธัมม์เมืองแลม
ตัวเชียงกู้ฝูงนี้ ดั่งไตหลวงนี้กม็ ีหลายเหลือไตอย่างอื่น กาจาลอ90ม่าน91แล
พันดั่งนา้ ดินเมืองไต ทางกว้ างและผัดมน92มีไว้ (611,23) หลักผัดมน ดังนามีไว้ 61,133 พันนา คน
ไตเรามีในเมืองไตเราทั้งเสี้ยง (3,718,706) คนแล
จาด้วยเวียงเค้า93มีดงั ่ นี้
1.ต่องกี 2.ดอยแหลม 3.ปางหลวง 4.ลายข่า 5.เมืองปั่น 6.เมืองไหย 7.นิฝาย
ของ 8.ลางเคือ 9.หมอกใหม่ 10.อินเดีย 11.หยองส้ วย 12.ส้ อยหญ่อง 13.ลอมจอม

84 ประวัติศาสตร์ ชนชาติไต (ไท)

85 ภาษาพูด

86 ประเทศจีน

87 คนไทยประเทศไทย

88 ซ ้า หมายถึงทุกอย่าง หรื อทุกประการ

89 ตัวอักษร

90 ผสม หมายถึงภาษาไทยใหญ่ผสมภาษาพม่า

91 คนไต และคนล้ านนา เรี ยกพม่า ว่า ม่าน

92 วงรอบ

93 เมืองหรื อเวียงที่ตงก่
ั ้ อน
19

14.คคลิ 15.สีแสง 16.ปางลอง


17.หัวเปี ยง 18.ปิ่ นตยา 19.นา้ จาง 20.ปูเหนิง 21.แสนหวี 22.สีป้อ 23.หล้ าเสี้ยว
หน้า 16
24.จ้ อกเม 25.เมืองสู่ 26.ตางยาน 27.มุแจ้ 28.นา้ คา 29.เมืองมาว 30.มะเอียว 31.
เกซี บ้ านจาม 32.กุ่งแกน 33.นี้กดขาย 34.เมืองกืน 35.ปางยาง 36.หัวปาง 37
นา้ สัน 38.เมืองมิด 39.กุงหลวง 40.นา้ ตุง 41.ยาวงาน 42.ปางผ่าน 43.หนองเขียว 44.เชียงตุง
45.เมืองยางหลวง 46.เมืองพยาก 47.ท่าขี้เหล็ก 48.เมืองยอง 49.เมืองโก 50.เมืองตวน
51.เมืองสาด 52.ปางหวาย
ดั่งภาษาน้ อยอันอยู่ก้อ94กันในเมืองไตนี้มีไว้ 15 ภาษา
1.ไต 2.ม่าน95 3.ป่ ะโอ 4.ปะหล่อง 5.ข้ าว้ า 6.ไตหลอง 7.ไตขาง 8.ไตยาง
9.ลีซอ 10.มูเซอ 11.ทะนุ 12.ก้ ออาข่า 13.อะเคื้อ 14.นิก้วย 15.ไตดอย ไตเรามี
15 ภาษาแล
จาด้ วยบ้ านเมืองทั้งหลายเข้ ากับเมืองสิบสองปันนา เชียงรุ่งนั้นมีไว้ 4496 เมืองชะแล

1.สรีวิสุภวสต นครเชียงรุ่ง 25.ลมฺ มรฐ เมืองฮำ


2.สอถตรฐ เมืองออง 26.เหยฺ ยเหรฐ เมืองยำงน้อย
3.อติปรมรฐ เมืองลวง 27.ลำมเหตรฐ เมืองล้ำ
4.ปุพพฺ รฐ เมืองหุน 28.มเหรตฺ ถตรฐ เมืองยำงหย่วน
5.ปพฺพสทรฐ เมืองปาน 29.เชยตรฐ เมืองพง
6.พนฺธปุตตฺ หิตรฐ เชียงลอ 30.พหุวจนรฐ เมืองอุตตระ
7.อมรฐ เมืองม้ า 31.ทกฺ ขิณวรฐ เมืองอุเหนือ
8.เขมรฐตุงคฺ ปุรี นครเชียงตุง 32.ปรมฺ มรฐ เมืองบ่ำง
9.สิริเปกฺขารฐ เมืองแลม 33.โรหรฐ เมืองเชียงตอง
10.เตมิยรฐ เมืองแช่ 34.ปพฺ พำรฐ เมืองลำห้อ
11.เชยฺยโชติกติ ตฺ รฐ เมืองเชียงเจิง 35.กนฺ ธรฐ เมืองกล้ำ
12.วิกติ ตฺ รฐ เมืองฮาย 36.ขนฺธรฐ เมืองบ่อน้ อย
13.วิตกฺกรฐ เมืองงาด 37.สุรฐ เมืองปั่น
14.อญฺญรฐ เมืองขาง 38.สนคฺคปุริรฐ เมืองเชียงฟ้ า
15.คภทฺธรฐ เมืองมาง 39.สิธํ วรฐ เมืองกึงม้ า

94 ก้ อ หมายถึงเพื่อนกันหรื อสหายกัน

95 พม่า

96 แต่รายชื่อในตารางมีอถึง 47 เมือง ส่วนฉบับลายมือมีเพียง 36 เมือง โดยลาดับที่ 25-35 ไม่มีปรากฏ


20

16.วณฺณตรฐ เมืองวัง 40.ชรกุพปฺ นคฺคมรฐ เมืองบ่อแห


17.ธโทรฐ เมืองลาไต 41.ปุรชนิปิกฺกมฺมรฐ เมืองเชียงแห
18.มหิยงฺครฐ เมืองยอง 42.สิงหฺ ารฐ เมืองสิง
19.ปุเชยฺยรฐ เมืองสูง 43.วมทฺธรฐ เมืองมิง
20.มทฺธรฐ เมืองวัง 44.ตทเชตฺตรฐ เชียงแสน
21.อรคฺคนท เมืองหย่วน 45.นหปุริหริพรฺมมฺ เชยฺย เมืองกุร
22.วกฺขนฺตุรฐ เมืองขัน 46.นครเชียงใหม่
23.กขรเชยฺยรฐ เชียงแขง 47.เมืองตุม
24.เมืองติง
ต่อไปจักจาด้วยน้ าห้า
พืนนา้ ห้ านี้ ปางเมื่อพระเจ้ ากกุสนั ทะ ลงมาโพธิสมภาร ยามนั้นมียักษ์อรแวกตัวหนึ่ง
แควนหยาบช้ าวระ ตัวมันบ่มีความอินดูขุณณาสัตว์และคน ที่อยู่มันนี้อยู่ท่ดี อยฟ้ าปัน อันมีหัวของมันก็มี
บริวารว่าหมื่นตัวก่อนแล ยามนั้นอินทร์ตาเจ้ าก็ปลดธนูกงแสง หื้อเจ้ าเตมียกุมารคนหนึ่งอันอยู่เมื อง
จามปานคร ก็มาฆ่าเสียยังยักษ์สองตัวผัวเมีย ตายแช่ท่ดอยปวกเต่ ีี าคานั้นแล ยักษ์มีบริวารทั้ง
หลายก็กลัวเตมียกุมาร ก็ลวดแล่นเข้ าเถื่อนเสียแล้ ว ก็กลับเพศเป็ นคนนั้นแล ก็ได้ ช่ือว่าคนเถื่อน
ว่าอั้นแล เขานี้ตาหลวงตัวพองเขี้ยวใหญ่ เขาก็เอาหนังสัตว์มานุ่งตาง97เสื้อผ่าก็มีหน้ าก่าน98
ไว้ ผิวหึกหนังชา ชื่อว่าชาวปลายตีนเผยออง99 ก็ร้องว่ามูเซอ ก็อยู่ไหนก็บ่เป็ นหมั้นนั้นแล จาด้ วยยักษ์ 2
ตัวผัวเมียอันตายแช่หนองไว้ น้ัน ถึงเมื่อพระเจ้ ากัสสปะเลียบโลกมารอด พระบาทบ้ านตึงหั้นก็เป็ น
หน้า 8
อันเหม็นโอ่แท้แล ดั่งพระเจ้ ากัสสปะก็หนถอยพอก100มาอยู่ท่พี ระบาทบ้ านหน101ไว้ แล้ วก็เอาวีโบกขระ
พัดใส่ยักษ์สองตัวผัวเมียก็ไหลไปค้ างไว้ ท่หี นึ่งก็เป็ นเวียงเชียงเจิงนั้นแล พันดั่งตัวแม่กไ็ หลไปตาก
หงายไว้ ท่ตี ้งั ไว้ ช่ ือว่าหอเผือกเมืองแช่น้ันแล ดังเมืองแช่น้ ีกไ็ ด้ ช่ ือว่าเมืองลม ก็ร้องกับวีโบกขระพัด
นั้นแล พระเจ้ าก็เอาค้ อนเท้าเหล็กมาขีดหื้อนา้ ไหลขึ้นมาภายวันออก ก็เข้ ากลางเมืองฮายก็ตก
ขึ้นมาเชียงรุ่ง ก็ไปป่ อง102นา้ ของ ดั่งนา้ แม่น้ ีกไ็ ด้ ช่ือว่านา้ ห้ ายักษ์ สืบกันมาจิ่งว่านา้ ห้ าชะแล

97 ออกเสียงว่า ต๋าง แปลว่า แทน

98 ใบหน้ ามีรอย หรื อทารอยไว้ บนใบหน้ า

99 ชาวหงายอุ้งเท้ า

100 กลับ หรื อหันหลังกลับ

101 อ่านว่า หุน ตามสาเนียงไตลื ้อ

102 ทะลุ
21

พืนน้ าหนองฟอง
ยามนั้นพระเจ้ ากัสสปะก็มาย่าบาทะนา้ คิมนั้น ก็ผ่อหันนา้ หนองไว้ ท่หี นึ่ง ก็เอาค้ อนเท้ าเหล็ก
ขีดขว้ างแห้ งแล้ ว ดั่งนา้ ก็เป็ นเปลียวเป็ นฟองไหลออกไปถึงเมืองพระเจ้ าโคตมะ ก็ได้ ต้ังเป็ นบ้ านไว้
ชื่อว่าบ้ านหนองฟองนั้นแล
พืนน้ าออดน้ ากล้าน้ าห้วยแก้ว
จาด้ วยครุฑราช 2ตัว ตัวหนึ่งมันก็อยู่ในดอยดงนั้น ก็เลยกินสัตว์และเอามาเป็ นอาหารมันอยู่บ่
ขาดแลก็ถึงเมื่อพระเจ้ าโคตมะก็เลียบโลกมารอด ก็มาสอนศีล 5 ศีล 8 หื้อแล้ ว ก็มาอด
กั้นอาหารไว้ 7 วัน ก็ลวดตายไปแล ดั่งนา้ เน่าครุฑราชสามตัวก็ไหลออกมา ก็ไหลล่อง
มาก็ได้ ช่ ือว่านา้ อดต่อสืบมาว่านา้ ออด ก็ไปป่ องนา้ ห้ า เวลาเมื่อครุฑราชสามตัวนั้น อดกั้น
ทางกินข้ าวนั้น ดั่งนา้ ตาครุฑราชก็ไหลตกลงมา เยียว103ออกก็ไหลล่องมาก็ช่ือว่านา้ ตาแก้ วสืบมา
ก็ว่านา้ ตาห้ วยแก้ วนั้นแล พันดั่งนา้ ตาเน่าก็ไหลออกตัวครุฑราชสามนั้นก้ ได้ ช่ือว่านา้ ตากล้ านั้นแล
ก็ไหลลงมาป่ องนา้ โงกนั้นแล
ต่อไปจักจาด้วยน้ าเหมืองเสนา104
อันว่าเมือง(เชียง)รุ่งนี้ ก็ไหลเข้ าเมืองมีไว้ 3 แม่ก่อนแล
1.นา้ ของ 2.นา้ ห้ ายักษ์ 3.นา้ ห้ า 4.นา้ เหมืองห้ วยคา 5.นา้ เหมืองแช่ลาย 6.นา้
หน้า 19
เหมืองศีล 7.นา้ เหมืองห้ วยเรา 8.นา้ เหมืองห้ วยตอง 9.นา้ เหมืองห้ วยซม 10.นา้ เหมืองห้ วย
ขวาก 11.นา้ เหมืองห้ วยปางฝาด 12.นา้ เหมืองห้ วยทั้งหลายอันเอาใส่นานั้นแล
จาด้ วยสามห้ วย สี่นอง เก้ าจอม สิบสองเชียง
1.ห้ วยส้ อ 2.ห้ วยขวาก 3.ห้ วยเฟื อง
1.หนองฟอง 2.หนองตม 3.หนองสามขา 4.หนองคา
1.ขัวสุง 2.ขัวหิน 3.ขัววัวลองปางตอง 4.ขัวสาน 5.ขัวมุงนาแขกอยู่นายอง
6.ขัวหินพระเจ้ าอยู่หัวของ
1.จอมหมอก 2.จองตอง 3.จอมสิง 4.จอมซาง 5.จอมเป็ ด 6.จอมแล 7.จอม
ของ 8.จอมคาง105 9.จอมแจน106

103 ย้ อย

104 ฉบับลายมือ ว่าน ้าเหมืองแสนา

105 ออกเสียงว่า กาง

106 จอมจันทร์
22

1.เชียงมู้ 2.เชียงติ 3.เชียงใต้ 4.เชียงทาย107 5.เชียงแรง 6.เชียงหอย 7.เชียง


ผาคัง108 8.เชียงเตอ 9.เชียงคิง109 10.เชียงมน 11.เชียงรุ่ง 12.เชียงไชยช้ างพอง ทั้งเสี้ยงมีสบิ
สองนั้นแล
แคว้นเมืองสิบสองปันนา
ดั่งเมืองสิบสองปันนานี้มี 12 แคว้ นก่อนแล ก็จ่ิงชื่อว่าสิบสองปันนานั้นแล
1.แคว้ นของ 2.แคว้ นเมืองผา 3.แคว้ นคาเต 4.แคว้ นหลอด110 5.แคว้ นเสาหิน
6.แคว้ นเครือคา 7.แคว้ นลูลาง 8.แคว้ นมอ 9.แคว้ นราย 10.แคว้ นดาย 11.แคว้ น
ไหม่ 12.แคว้ นหน ทั้งเสี้ยงมีเท่านี้แล
น้ าดินกว้างมีเท่านี้
นา้ ดินสิบสองปันนาเจ้ าแสนหวีฟ้าตายกวานนา้ ดินสลิดติดต่อกันนี้ ดังหนวั นออกต่อแกวนี้มีไว้
80 ลี้ หนใต้ ต่อลาวมี 30 ลี้ ภายวันตกขึ้นมีไว้ 20 ลี้ ภายหนเหนือต่อเมืองบ่อนี 60 ลี้
มีสนั นี้แล หนังสือลูกนี้พร้ อมกันเอาแต่เมืองลา เมืองแม้ น เมืองแสหลวงตินอ่านหนังสือไว้
หน้า 20
กับเมืองเชียงรุ่งก่อนแล
พันนาเชียงรุ่ง พันนาเมืองฮา พันนาอีงู พันนาเมืองแช่ พันนาเมืองหุน พันนาเมืองฮาย พันนาเมื องผาง
พันนาเชียงตอง พันนาเมืองลา พันนาเมืองมาง พันนาเชียงเจิง พันนาเมืองลวง
พืนพระญามังราย111
จาด้ วยพระญามังรายมีลูกสี่ชายก่อนแล ผู้ถ้วนหนึ่งนั้นชื่อว่าพระญาสือ ก็อยู่เมืองเชียงราย ถ้ วนสองชื่อว่า
พันนา ถ้ วนสาม ชื่อว่าท้าวยู ถ้ วนสี่ช่ ือว่าพระมหาเถียร เขาเจ้ าทังสี่คนพี่น้อง ก็จบเภททั้งสาม
ก็ชวนกันแปงหนังสือออกมาแผ่ชุบ้านชุเมือง ก็จ่ิงได้ ช่ือว่าหนังสือพันนาสืบกันมาถึงบัดเดียวนี้แล
ยามนั้นผู้พ่ีพระญาสือก็มาตั้งเวียงใหม่ท่หี นึ่งชื่อว่าเชียงเงินยางหลวงเชียงแสน เมื่อเดียวตัวท่านก็มา
สร้ างพุทธศาสนา 4 คนเป็ นเค้ าแปงหนังสือนั้นแล ยามนั้นอินทร์ตาเจ้ าก็เอาแก้ วสัตตนาโกสะหื้อ
พระญาเวสสุวรรณลงมาไว้ รังต่อไว้ ยามนั้นยังมีชายทุกข์น้อยผู้หนึ่งก็ไปเอารังต่อ ก็ผ่อหันยังแก้ ว
สันตะนาโกสะก็เอาไว้ กบั ตัวหั้นแล ยามนั้นพระญาสือก็ได้ ร้ ูว่าอ้ ายน้ อยคนนี้กม็ ีใจแก่น112แท้แล

107 อ่านเป็ นเจียงตาย

108 ผาคราง

109 ฉบับลายมือเขียนว่า เชียงคืน

110 ฉบับลายมือว่า แคว้ นหลวง

111 พระราชประวัติพญามังราย

112 ใจมัน่ คง หรื อมีใจซื่อตรง


23

มากูกจ็ ักเก็บเอามาเป็ นลูกกูดีแล ยามนั้นพันดั่งเจ้ าว้ อง113ห้ อก็ได้ ยินเสียงปัพพติข่าวสารว่า ยังมี


พระญามังรายอันเป็ นเจ้ าอยู่เมืองเชียงรายนั้น ว่ามีฤทธีกล้ าใหญ่นัก มากูกจ็ ักเอาริพลขุนศึกไปรบ
ต่อมันหื้อได้ มาเป็ นข้ าใช้ กูเทอะ
ยามนั้นเจ้ าว้ องก็ห้ ือเสนาปัดเอาริพลคนหาญ นับว่าได้ สบิ สองอักโขเภณี ก็ลงด้ วยมัคคา
ก็มารอดแผวเมืองล้ านช้ างเขตแดนเมืองลาวนั้น พระญามังรายก็ปัดเอาริพลคนหาญเข้ าไปรบต่อ
ห้ อก็บ่ได้ ยามนั้นพระญาสือก็ห้ ืออ้ ายน้ อยแสงต่อเอาริพลคนศึกนับว่าได้ 2 พันคน ก็ไปรบต่อห้ อ ยาม
นั้น ฝ่ ายริพลคนศึกห้ อก็บ่แพ้ 114อ้ ายน้ อยแสงต่อ ก็เอากันพอกเมือเมืองว้ องดั่งเก่าหั้นแล
ยามนั้นพระญาก็จ่ิงใส่ช่ ือว่าเจ้ าแสงต่อ ยามนั้นอ้ ายน้ อยจิ่งว่าดั่งศึกห้ อก็บ่มีแล้ ว กลัวว่ามีแถมข้ า
น้ อยขอพ่อพระญาข้ า น้ อยดีเมือจอม115ห้ อหื้อมันถึงเวียงเขา ยามนั้นพระญาก็ปลงอาชญาหื้ออ้ ายน้ อยไปจอมห้ อ
ก็ได้ สามเดือนปลาย แล้ วก็ไปรอดถึงเวียงหลวงเพื่อจิ่น116 ยามนั้นเจ้ าว้ องก็ร้องเอาเสนาเค้ า
หน้า 21
ชื่อจินตุนอูเ๋ ยี่ย117 หื้อเป็ นเค้ าหัวเมืองทั้งหลายมาพร้ อมกัน ยามนั้นเจ้ าว้ องจิ่งว่าพันดั่งริพลขุนหาญ
เราทั้งหลายก็ยังบ่แพ้ อ้ายน้ อย เขาก็มีคนสองพันบ่ดาย ย้ อนเพื่อบุญท่านมีหลวงหลาย พึงควร
เราห้ างบัณณการส่วยถวาย หื้อสูพิจารณาคดีรีบๆไวๆ ยามนั้นเจ้ าว้ องก็เอาลูกยิงสาวชื่อ
ว่านางวัณณะจันทร์หอมยอดฟ้ า น้ อมหื้อเจ้ าน้ อยแสงต่อ เป็ นอัคคมเหสีเทวีห้ันแล ก็ได้ เป็ น
ลูกเขยเจ้ าว้ องอยู่เหิงบ่นาน ก็มีลูกสามคน ยามนั้นเจ้ าก็ถามพ่อเจ้ าว้ องว่า ยังมีเมืองใดยัง
ใคร่รบต่อเมืองเรา ยามนั้นพ่อเจ้ าว้ องจิ่งว่ามีค่าเมืองว่าต่อ ยามใดก็ยังใคร่มารบเมืองเราอยู่บ่
ขาด ยามนั้นเจ้ าก็มาสั่งลูกทั้งสามว่าอยากกินจิ้นส้ า 118ปลาดิบ ยามนั้นเจ้ าก็เอาริพลคนศึกออกไป
ก็เสียไปตกขมทางหลวงหลวงเมืองตาต่อ ก็ลวดเสี้ยงชีวิตหั้นแล ยามนั้นนางวัณณะจันทร์หอมยอดฟ้ า ก็จ่ิ ง
กล่าวว่าลูกทั้งสาม ก็ค่อยปลดกงธนูจาม119ก่าม120บุญไผมันเถอะ ยามนั้นผู้พ่ีช่ ือว่าท้ าวซุนอาน ก็ปลดกงธนู
ก็ลงมามาตกเพ่อจิ่นเหมือนเก่า ก็ได้ เป็ นเจ้ าแทนศักดิ์พ่อแล

113 อุปราชเมืองคุณหมิง

114 แพ้ หมายถึงชนะ ในที่นี่หมายกองทัพจีนไม่อาจเอาชนะกองทัพของอ้ ายน้ อยแสงต่อได้

115 จอม หมายถึงไปหรื อติดตาม ภาษาไทยใหญ่

116 เมืองปั กกิ่ง

117 ฉบับลายมือ เขียนว่า จินตุนภูแย

118 เนื ้อส้ า

119 จาม แปลว่าทดลอง หรื อลองดู

120 วาสนา ภาษาไทยใหญ่


24

ลูกชายผู้ถ้วนสอง
ผู้ถ้วนสองชื่อว่าท้าวซุนฟ้ าลี้ ก็ปลดกงธนูกม็ าตกใส่เมืองเชียงรุ่งที่หน้ าผาริมนา้ ของ ก็ร้อง
ครางอยู่ห้ันแล ยามนั้นแม่เจ้ าก็เอาริพลขุนหาญหื้อมา 4 ตื้อ 4 ล้ าน ก็ร้องกับด้ วยห้ อสี่ต้ อื 5
ล้ านไหลหล่อชมปื นก็ได้ สบื กันมาเหิงบ่นานเท่าใด ก็ค้ายไปอยู่ท่ปี ื นธนูตกหั้นแล เจ้ าก็อยู่กบั ด้ วยข้ า 4
แสนหมอนม้ า
ลูกชายผูถ้ ว้ น สาม
ยามนั้นผู้ถ้วนสามชื่อว่าท้าวซานแจ121 ก็ปลดกงธนูกม็ าตกใส่เมืองแสนหวีส่ปี ้ อ ก็หากเป็ น
เมืองไตเรา ยามนั้นแม่กเ็ อาริพลขุนหาญหื้อมาแสนหนึ่งแล ดังเมืองลูกนั้นก็จ่ิงได้ ช่ือว่าแสน
หวีส่ปี ้ อ ก็ได้ สบื กันมาถึงบัดเดี่ยวนี้แล
ยามนั้นสามปี ขวบเข้ ามาก็จักได้ ไปสมมาคาระวะพ่อแม่ ยามนั้นเจ้ าก็ชวนเอาอ้ ายแจ๋น (จั๋น)
บ้ านฟ้ าเมืองฮาไปสดับกับตาม ก็เมือรอดหนทางยามนั้นอินทราเจ้ าฟ้ าก็มาเนรมิตรเป็ นวัวพีตัวหนึ่ง
หน้า 22
แทนเมื่อเจ้ าและอ้ ายแจ๋น(จัน)เมือรอดนั้นดั่งเจ้ าก็ว่าดั่งวัวพีตัวนี้ ก็ดีแปงลาบแต๊หนอว่าอั้นแล้ วก็ไป
รอดเวียงหลวงเป่ อจิ่นดั่งขุนหัวเมืองต่างประเทศก็มาประชุมตอมพร้ อมกันก็ว่าเมื่อเดียวนี้สังมาเหม็นโอ่เหม็น
คาว ยามนั้นขุนเมืองทั้งหลาย ก็มาจกคอฮาก122 พันดั่งกะลา123และห้ อก็ฮากออกมา ก็เป็ นกะโลภูซา้ กัน124
ดั่งเจ้ าเมืองสิบสองปันนา ก็หากเป็ นจินซาเป้ อหว่างออกมา ยามนั้นเจ้ าก็ดีอายขุนหลวงต่างประ
เทศก็ลวดหนีออกเวียงไปหั้นแล ตั้งแต่น้ันมา พันดั่งเมืองสิบสองปันนา ก็จ่ิงได้ ใส่เงินหัวเรือนสืบ
มา หนึ่งปี ไหน ทั้งเมืองสิบสองปันนา ออกเงินล้ างหากหื้อเจ้ าว้ องตนพี่น้ัน 558 ร่องปลาย 2 แถบ 8
ผืนหมายไว้ มีสนั นี้
ยามนั้นเจ้ าก็พ่าย125เข้ าเมืองล้ านช้ างไป ก็ไปนอนอยู่หินสีมาสวนกรเมืองล้ านช้ าง ทัด
เมื่อเจ้ าเมืองล้ านช้ างก็บ่มี ก็ปล่อยกดสลดก็มาหันใส่เจ้ าสิบสองปันนา อันหนีออกหอว้ องมา
ก็เอาเมือเป็ นเจ้ าเมืองล้ านช้ างเสียแล ก็ยังกึด126ค่าอ้ ายจัน ก็มาขับหาเจ้ าอยู่ มันก็ว่าเจ้ า
เหยเจ้ าอยู่ใจ้ ๆ ยามนั้นพันดั่งเมืองสิบสองปั นนาก็บ่หันเจ้ าพอกมาก็จ่ิงขับหาเจ้ า ก็ว่าเจ้ า
เหยเจ้ าตั้งหั้นมาดั่งไตลื้อเรา กันว่าติต้ังเค้ าขับก็จ่ิงว่าเจ้ าเหยเจ้ าก็สบื แต่เจ้ าหนี

121 ฉบับลายมือว่าซานแจ้ น

122 ล้ วงคอเพื่อให้ อาเจียน

123 คนอินเดีย ในภาษาไทยใหญ่

124 มีอาการลักษณะเดียวกัน

125 ออกเสียงว่า ป่ าย แปลว่าหนี

126 ค้ าง คงเหลือ หรื อคงค้ าง ตกค้ าง ภาษาไทยใหญ่


25

พ่ายนั้นแล
อ้ ายจันก็ลักหนีทา่ นก็เข้ าเมืองล้ านช้ างไป ก็ไปหันใส่เจ้ าอยู่เมืองล้ านช้ างไว้ ก็ลวด
อยู่กบั ด้ วยกันหั้นแล พันเมืองสิบสองปันนาก็มพี ระญาเจืองเป็ นเจ้ า ก็หย้ าหนีบ127ไพร่เมือง ก็บ่ได้ อยู่ดีกนิ
หวาน ยามนั้นยังมีขุนเสนาเค้ าคนหนึ่งก็ว่าเราจักได้ ไปขับไค่เจ้ าเราพอกมาว่าอั้น เสนา
เค้ าก็มาหื้อขุน 12 คนไปหาชะแล
พันดั่งเขา 12 คน ก็ไปหันใส่เจ้ าอยู่เมืองล้ านช้ าง ก็พอกมาบอกหื้อเสนาเค้ าเมืองแล ก็
เลือกหาคนมาในเมืองพันนาไหนหื้อมา 20 คน รวมก้ อกันทั้งเสี้ยงนี้มี 233 คน ทั้งขุนหอสนาม 4 คน นั้นแล
ก็มาห้ างช้ างห้ างมา ก็เข้ าเมืองล้ านช้ างไป ยามนั้นเจ้ าก็ห้ ือขุนทั้งสองประเทศเล่นปอยหลวง
15 วันแล้ ว ขุนหอคาเชียงรุ่งก็ขอเอาเจ้ าพอก ยามนั้นเจ้ าก็ห้ ืออ้ ายจันพอก พันดั่งขุนสิบ
หน้า 23
สองพันนาก็ว่าหื้อพอกทั้งสองคนว่าอั้น ยามนั้นเจ้ าก็เหลือบ่ได้ ก็ห้ ืออ้ ายจันอยู่เมืองล้ านช้ าง
เจ้ าก็มาทานายไว้ ว่า วันภายหน้ ามานี้จ่ิงได้ ช่ ือว่าจันทาปุรี ยามเมื่อเจ้ าดีพอกมาก็มา
สมมาอ้ ายจัน ดั่งอ้ ายจันก็มาสมมาเจ้ า ก็ใส่ข้อยข้ ากันก็รักแพงกัน เจ้ าก็ส่งั เสนาแล
กับทังอ้ ายจัน ตั้งหั้นมาดั่งประเทศลาวนี้กจ็ ่ิงว่า คนอายุแก่กใ็ ส่ข้อยหนุ่ม หมู่อายุหนุ่มก็
ใส่ข้อยผู้อายุแก่ พ่อก็ใส่ข้อยลูกแล ลูกก็ใส่ข้อยพ่อก็สบื แต่เจ้ าแสนหวีฟ้าเชียงตุง
มานั้นแล
ยามนั้นสองเขือเจ้ าก็มาแผงเชื้อหน่วยภมมะเสียนแลหน่วยล้ า และเงินคาครอบครัวทั้งหลายอันค่าหา
ได้ หนั่งกัน128ก็มาแยกผ่าสามก็เอาหื้ออ้ ายจันสองส่วน เจ้ าก็เอาส่วนเดียวตั้งหั้นมาพัน
ดั่งเมืองเชียงรุ่งนี้ ก็ร้องต่อเมืองแก้ วจันทาปุรีเพื่ออั้นแล ยามเมื่อเจ้ าพอกมานั้น พันดั่งอ้ าย
จันก็เอาคนกับหื้อเจ้ ามาสิบสองพันนา เจ้ าก็มารอดดอยสามเส้ านา้ เข้ าลงภายหล้ าของนั้น
พันดั่งนางเทวีกม็ าได้ พยาธ129ก็ลวดเสี้ยงชีวิตหั้นแล ก็ส่งสะการหยาดนา้ ทานจอมเสียแล้ ว ก็เลือก
หาที่ควรแล้ ว ก็เอานางไปไว้ ปลายดอยสามลูกแล้ ว ก็มาเลือกเอาคนอันขกุล130กับนางตั้งแต่เมือง
แก้ วมานั้น ค่าสิบเรือนหนึ่งก็ไปตั้งบ้ านไว้ 2 บ้ านวันไหนก็ไปเผี้ยวกวาดเทื่อหนึ่ง ลุนมามาดั่งชื่อ
บ้ านได้ ช่ ือว่าบ้ านเผี้ยวบ้ านหนึ่ง ก็ห้ ือไปตองนั้นก็ได้ ช่ือว่าบ้ านตองอั้นแล พันดั่งดาบกล้ ากายาศึก ดาแก้ ว
เหล็กลอดเถี่ยน131หนึ่งก็เอาหื้อน้ องชายนางรักษาไว้ ไปตองขมตองปางนั้นแล แม่นเมื่อจุลศักราชได้

127 กดขี่

128 ได้ เหมือนกัน

129 ไม่สบายหรื อการเจ็บป่ วยด้ วยโรค

130 ตระกูล

131 เถี่ยน-ด้ าม
26

150 ตัว พุทธศักราชา 164 ตัว เจ้ าก็มารอดเมืองเชียงรุ่ง ก็มาตั้งเวียงเชียงที่น้ันแล เจ้ า


แสนหวีฟ้าพอกมาเป็ นเจ้ าเมืองสิบสองพันนา ยามนั้นเจ้ าว้ องห้ อตัวท่าน หื้อหมวกหัวคา132
สามล้ านหน่วยหนึ่ง จุ่มหยิ่น133ลูกหนึ่ง ดาบภมคาเถี่ยนหนึ่ง หอกกรรแสงอันหนึ่ง ทีรบนาคหัวเสืออันหนึ่ง
ก็เอาแต่เมืองว้ องหลวงเป่ อจิ่นลงมา ตัวท่านหื้อเจ้ าฟ้ าหลวงหมวกคาเป็ นเจ้ าสิบสองพันนานั้นแล
เหิงบ่นานเท่าใดก็ยังมีนางกอมใช้ ผ้ ูหนึ่ง มันก็ไปเอาหลัว134ก็ไปกินช่อหญ้ าพูลอก ก็เป็ นอันตัวดี
ร่างงามแท้แล ยามนั้นเจ้ าก็ไคร่หนุ่ม ก็ห้ ือนางกอมใช้ ไปเอามากิน ก็ห้ ือเสนาแก้ วหาญ
หน้า24
เฝ้ าไว้ ถึง 7 วันปลาย 7 ยามก็จ่ิงแล้ วว่าอั้นก็ห้ ือเฝ้ าอยู่ห้ันแล ยามนั้นก็มีนางเมียตัวถ้ วน7ก็บ่ตามคา
เจ้ าสั่งไว้ ก็ไปบิดรีบตอง ก็ลอกคาบแผวแอวไปถึง ก็เป็ นหัวคนดีงามแท้แล ดั่งว่าไป
ข้ าก็ยังบ่ได้ ลอกเทื่อ ก็ยังเป็ นหางงูไว้ แล ยามนั้นเจ้ าก็อายคนทั้งหลายก็ลวดพ่าย
เข้ าป่ าไม้ พันดั่งนางอัคคมเหสีเทวี ก็เอาคนข้ ายิงร้ อย ข้ าชายร้ อยส่งกับตามเจ้ า ก็ลวด
เข้ าไปรูถา้ ดงนั้นไปแล ก็ลวดตายเป็ นเทวดาเมืองสิบสองพันนาเชียงรุ่งมาถึงวันนี้แล
พันดังมี 2 คนพี่น้อง ตัวน้ องยิงก็ขาเจ็บ เทียวทางก็บ่พอไว ก็ไปรอดที่ปากถา้ ก็บ่หันไผสัก
คนก็พอกมาหอ ยามนั้นนางเทวีกว็ ่าดั่งสู 2 คนพี่น้องนี้ ก็หากเป็ นคนเจ้ าฟ้ าแล้ ว หื้อสูไปอยู่ท่รี ิม
ปากถา้ หั้นเทอะ ยามนั้นเขาสองคนพี่น้องก็ไปตั้งตูบอยู่ท่ปี ากถา้ ดินดอยหลวง ดั่งนั้นยังมีอ่อนชายบ้ าน
คว้ างคนหนึ่งมันก็ไปยิงนก ก็ไปหันใส่เขาสองคนพี่น้อง ก็เป็ นอันทุกข์ยากแท้ แล ยามนั้นบ่าวชาย
บ้ านคว้ างก็ลวดมีใจมักใคร่สร้ างต่ออ่อนยิงนั้น ดั่งพี่ชายนั้นก็อนุญาตหื้อเขาสองคนเป็ นผัวเมีย
กันแล้ ว ก็ชวนมาไป้ 135อยู่บ้านคว้ างหั้นแล จิ่งว่าดั่งคนเมืองทั้งหลายแล้ วดี เมื่อเอาเทวดาลงนี้จ่ิงว่าแม่ท่ี
นั่งอยู่บ้านคว้ านสืบมาถึงวันนี้แล พันดั่งตัวพี่ชายก็ถอยลงมาตั้งไว้ ตีนดอย ก็ได้ ช่ ือว่าบ้ านยั้งสืบมาว่าบ้ านยางนั้นแล
ก็เป็ นคนไป้ เจ้ าฟ้ าหลวงบัวคามาถึงวันนี้แล
พืนบ้านเท่าบ้านคิม
ดั่งไตบ้ านเท่าบ้ านคิมนี้เป็ นข้ ากับนางออกแต่เมืองแกวมา มี 30 สิบหลังเรือนก่อนแล ไต
ม้ าเมืองราย ไตม้ าเชียงเจิงเป็ นคนเมืองมาวหลวง เจ้ าแสนหวีฟ้าไถ่เอามาแปงรถม้ า พันดั่งนาง
เทวีกม็ ีขีหมองใจล่วงลา้ ก็ลวดเสี้ยงตายไปหั้นแล เมื่อนั้นขุนเสนาอามาตก็ลากเอา
ขอนนางเทวีเมือไว้ กลางดงหันวันตก ที่อนั เจ้ าฟ้ าหลวงบัวคาไปไว้ ห้ันแล ดั่งดงที่น้ันก็ได้ ช่ ือ
ว่าดงนางเทวี ก็อยู่ท่ตี ีนดอยหลวงดงนางนั้นแล เจ้ าก็มีลูกชาย 3 ชาย คนหนึ่งก็มักเล่นไพ่

132 มงกุฎทองคา

133 ตราประทับ

134 ฟื น

135 เฝ้า
27

ก็เสียเพิ่นฆ่าเสียแล ผู้หนึ่งก็ไป(เอา)เมียเมืองล้ านช้ าง ก็เสี้ยงชีวิตหั้นแล ยังกึดค่าเจ้ าสุวัณณคา


เสาก็ได้ แทนเมืองพ่อก็ได้ เป็ นเมืองเชียงรุ่งแลดั่งทุตา136ห้ อและทุตาม่านก็กาแขน
หน้า 25
เจ้ ากษัตริย์ใหม่ข้ นึ สู่หอคา นั่งแท่นเป็ นเจ้ าแล้ ว ยามนั้นทูตาห้ อและม่าน ก็มาปลงอาชญาหื้อเจ้ า
สุวัณณบัวลมผู้ไปขับใคร่ หาเจ้ ามานั้น ก็ยกขึ้นเป็ นเมืองลื้อกาที่จุ่มหยิ่นกระทาการเมืองหั้นแล
เจ้ าสุวัณณะคาเส้ าอายุได้ 16 ปี ก็จุติไปเมื่อปี จุลศักราชได้ 199 ตัว ท่านก็ ก็มี
ลูกชายสองคน ถ้ วนพี่กไ็ ปค้ าก็ตายเสีย ผู้น้องชื่อว่าเจ้ าสามลอขึ้นแทนยศศักดิ์พ่อเจ้ าว้ องห้ อ
ก็เอาลูกยิงสาวมาหื้อเป็ นอัคคมเหสีเทวี ยามนั้นม่วนก็เอานางมาถวายคนหนึ่ง เจ้ าก็เอา
เมียไตลื้อแถม 5 คน ปองกันมี 7 คน ก่อนแลดั่งนั้นบ่นานเท่าใดดั่งนางห้ อและนางม่านก็ประสูตรได้ ลูก
ชายทั้งสองคนหั้นแล ถึงเมื่อเจ้ าสองพี่น้องก็ใหญ่มาอายุได้ 8 ปี ขวบเข้ ามา ดั่งนางม่านก็คึดว่า
จักหื้อลูกตนเป็ นเจ้ าแทนยศศักดิ์พ่อว่าอั้น ก็ชวนรู้เอานางลื้อ 5 คนมาค่อนตอมกันแล้ วก็ติเตียนนางห้ อ
ว่าเจ้ าน้ อยลูกนางห้ อนี้ คันว่าใหญ่มาก็จักแพ้ บ้านแพ้ เมือง ก็สนส่อหื้อเจ้ าสามลอตนเป็ นผัวอยู่
ไจ้ ๆ ยามนั้นเจ้ าก็ฟังคานางม่านจุส่อ ก็ลวดฟันแพ ก็เอานางเทวีและกับเจ้ าน้ อยทั้งสอง ก็เอา
ข้ าก่อมไปหื้อ 3 คู่ผัวเมียแล้ วก็เอาไหลล่องของเสียแล ก็ไหลไปค้ างไว้ ท่หี นึ่งนา้ ปันเค้ านั้นก็บอกหื้อ
นางก่อมใช้ ท้งั หลายว่า สูค่อยแข็งใจเอาแพหื้อจอดฝั่งกา้ หน้ าเทอะ ยามนั้นก่อมใช้ กเ็ อาแพไปจอด
แล้ วดั่งป่ าไม้ ท่นี ้ัน ก็เป็ นราบเพียงงามแท้ ดั่งนั้นก็ลวดตกเป็ นบ้ านเมืองไว้ ก็ได้ ช่ ือว่าเมืองเชียงแข็ง
ย้ อนว่าได้ บอกนางก่อมใช้ ว่าแข็งใจนั้นแล เมืองเชียงแข็งตั้งปี จุลศักราช 507 ตัวแล
พืนฟ้ าสุทโธ
ยังมีเมืองอันหนึ่ง เมืองอังวะ ตนเป็ นพระญาเจ้ าชื่อว่าฟ้ าสุทโธธัมมราชาว่าอั้น ก็ได้ ชนะปราบ
แพ้ ในชุมพูทวีปแล้ ว ก็มายกเอาศาสนาขึ้นมา ก็เอาริพลขุนศึกขึ้นมารอดเชียงรุ่ง ดั่งขุนสิบ
สองพันนา ชื่อว่าเจ้ าอุ่นเมือง ก็เอาริพลขุนศึกแลช่างขับช่างฟ้ อน ก็มีลูกน้ องกับนาย ก็ไปแผว
เขตนา้ แดนดินต่อกันหมื่นหินนา้ เป็ นเทือกกองทรายไว้ ท่หี นทางลงไปบ้ านท่าปิ งนั้นแล ดั่งพระญาสุทโธ
ธัมมราชาก็ชวนเอาริพลขุนศึกไป3ท้ าวก็ไปตั้งทัพอยู่ท่บี ้ านหินหลวง ก็แปงวัดราชฐานไว้ แล้ วก็ลง
ไปแปงวัดราชฐานบ้ านปุ่ งจอมเมืองหุน ก็มีพระหลวงเชียงแง่เป็ นเค้ าไพร่เมืองทั้งหลาย ก็เอาพระญา
หน้า 26
สุทโธยั้งอยู่ท่วี ัดบ้ านปุ่ งจอมเมือง ก็ได้ เดือนปลาย 22 วันแล้ ว ดั่งริพลคนศึกก็ไปขับเถื่อน137 ก็เสียหมาหลวง
หายตัวหนึ่ง เขาก็ไหว้ สาพระญาหลวงเชียงแง่ เขาก็ว่าหมาหลวงก้ หายที่เถื่อนยองว่าอั้น ยาม
นั้นพระญาก็ร้องเอาแรบกับกัน ดั่งแรบฟองจิ่งว่าเถื่อนยองนี้ นา้ ย้ อยทังแสนกองไปวันออก ก็เป็ น

136 ทูต

137 ล่าสัตว์ป่า
28

บ้ านอ้ อหลวงชะแล นา้ ย้ อยทังวันตกก็เป็ นของหัว 5 ข้ อยทังมวลแล มีบ้านยยาสานหัวห้ านี้ มีบ้านยยา


สานยม บ้ านโกแช่แล้ ง บ้ านหนองยองบ้ านอ้ อยแล หัวหน้ าวันตก หัวศีลวันออก ตั้งปางปื นปางปัน
บ้ านน้ อย สินน้ อย สินหลวง ช้ างชาติแสนกอง นา้ ตกบ้ านอ้ อฝูงนี้ ก็ไปเถื่อนยอง ยามนั้นข้ าอามาตก็ไหว้
พระญาเชียงแง่ ว่าดั่งหมาก็ไปหายเสียแดนบ้ านอ้ อ ก็บ่มีเงินส้ าย ก็เอาเถื่อนยองหื้อพระญาเชียง
แง่ห้ันแล ดั่งเถื่อนยองนี้กเ็ อาขุนหลวงเถ้ าไปเลียบท่องปันไว้ ก็ต้งั แต่ยาคืนหลวงนี้ลงมา
นา้ คาหลวงจับใส่ทางหลวงเมืองขืน แผวกิ่วคอควาย ย้ ายลงที่สบนา้ นั้นแล ก็ปานถึงไม้ น้ ิวหลวงที่กลางเมือง
และจับใส่กองเชียงอาด พาดมาที่พิงเยียว เทียวมาที่หมากหินที่ชุมนุม ที่สามต่อล่อลงมาป่ าคาหลวง
ก็ลงมาที่นา้ คาน้ อยจับใส่ผาพื้นหลวงแล้ วดั่งเถื่อนลูกนี้กเ็ อาหื้อพระญาหลวงเชียงแง่ส้ายค่าหมาหลวง
นั้นแล พระญาก็ห้ ือคนเมืองทั้งหลาย ส่งพระญาสุทโธมาถึงเชียงรุ่ง เป็ นเดือน 5 ออก 7 ค่า เป็ นวันผัสไต
ศักราชได้ 542 ตัว ดั่งเขตเถื่อนชาวดอยหัว 4 ทั้งมวลนั้น ดั่งบ้ านไร่เก่าก็เป็ นคนฟ้ าสุทโธแล
บ้ านใหม่เป็ นคนเมืองมาง บ้ านหอยนี้เป็ นคนพระญาเชียงเงิน บ้ านหนองนี้เป็ นคนเลี้ยงวัวควายพระญาเชียงแง่
บ้ านแงม
นี้เป็ นคนข้ าเชียงลาบดาวสี่แสน บ้ านนาเป็ นคนเจ้ าแผ่นดินเชียงรุ่ง บ้ านเหนือก็ไปเข้ าสองบ้ านนี้
ก็เป็ นคนหว่ายเรือข้ าท่านา้ บ้ านเมืองฝูงแตกก็แล่นออกมายั้งเซาบ้ านตีนตก ยามนั้นพระญาเชียง
แง่บ่ห้ ือกว่า138ไหน เขานี้ได้ โปหม่อมน้ อยลูกเจ้ าแผ่นดินเชียงรุ่งมา ดั่งเจ้ าหม่อมน้ อยนิอ้ ุม
ก็ไห้ เจ่กไ็ ห้ เขาก็มาชวนกันแปงหอน้ อยไว้ เอาเจ้ าตัวเดียวนอนอยู่ ก็ลวดเทส139
เสียไห้ ไปชะแล ดั่งบ้ านเมืองคาเจ้ าดีมาก็คนทั้งหลายนี้ บ่พอกก็เอาค่าเจ้ าน้ อยตัวเดียวพอกไป
บ้ านเหนือเอาถวายชะแล บ้ านนาขัดหัวบ้ านเหนือขัดบ้ านถวาย ดั่งบ้ านใต้ กล็ ุกบ้ านเหนือมาอยู่ ก็ช่ือว่าบ้ านท่าวัว
ใต้ เขาก็เข้ ากับวัดหลวงบ้ านก้ อ แถมมาบ้ านกองหลวงนี้เป็ นคนห้ ออีเว เขาอยู่เมืองแช่ลงมา
หน้า 27
กินจ้ างอยู่เมืองสิบสองพันนา มีส่คี นพ่อแม่ลูก ยามนั้นยังมียางหลวงที่หนึ่งมีไม้ น้ ิว140หลวงอยู่ท่กี ลางเมือง
ก็มีงูหลวงตัวหนึ่งใหญ่เท่าลาตาน ดั่งห้ ออีเวก็ไปรับจ้ างพระญา ก็ห้ ือเปิ่ นเอาหมากข้ ามป้ อม
มาไว้ ท่กี ลางยางแล้ ว ดั่งห้ ออีเวสี่คนพ่อแม่ลูก ก็ต้อ141เอาหมากขามป้ อมไส่รูงหู ลวง ก็บ่ช่าง
ออกมากินคนเสียหั้นแล เขาก็ไปขอกับเจ้ าและไพร่เมืองทั้งหลาย ไปตั้งบ้ านที่กอหมากขามป้ อมแล้ ว
ก็จ่ิงได้ ช่ ือว่าบ้ านกองป้ อม สืบมาว่าบ้ านกอง142หลวง ก็กนิ ปี ใหม่ห้อชะแล ดั่งบ้ านกองน้ อยนี้เป็ นคนเจ้ ายาขา

138 กว่าแปลว่าไป ในภาษาไทยใหญ่

139 ตัด

140 ต้ นไม้ งิ ้ว

141 ต้ อ แปลว่าขนย้ าย

142 กอง แปลว่าถนน


29

ม้ าเจ้ าหัก มันก็เป็ นลูกน้ อง ก็ขอกับเจ้ าว่าขอไปตั้งบ้ านที่กองใต้ น้ันแล สืบมาก็จ่ิงว่าบ้ านกอง
ใต้ ลุนมาว่าบ้ านกองใหม่ชะแล ดั่งบ้ านช้ างนี้ไปออนนี้ช่ ือว่าบ้ านแยงนิอ่แี ยงมาตั้งและมันก็เป็ นคน
บ้ านใหม่เก่ามาสร้ างไร่สวนอยู่ไว้ กม็ ีหลายเรือนมา ก็จ่ิงร้ องบ้ านอี่แยงแล ทุติยานี้ช่ ือว่า บ้ าน
แกบก็เข้ ากับพระญาหลวงบ้ านก้ อ เหตุว่าเป็ นเขตแดนพระญาเชียงแง่ เป็ นที่เลี้ยงช้ างม้ า วัวควาย
พระญาหลวงเชียงแง่ ยามนั้นพระญาขันคา ก็จ่ิงชวนเข้ าไปในเชียง ดั่งพระญาหลวงเค้ าจิ่งต่างขึ้นเป็ นชา
เป็ นพระญากับช้ าง ตั้งแต่ห้ันมา กันว่าบ้ านก้ อจักแม143วัดหลวงนี้ ดั่งไม้ โปกนี้นิมีน้อยก็ปันน้ อย ก้ อมีหลาย
ก็ปันหลายนั้นแล หันว่ามันเป็ นเขตแดนพระญาหลวงเชียงแง่
พืนข้าน้ าอุ่น
จาด้ วยข้ านา้ อุ่น 2 บ้ าน ก่อนแล เขานี้เป็ น 3 เถื่อนเมืองงดเมืองขาง เขานี้เป็ นคนอืบ144ข้ าว
ก็ชวนเอาลูกเมียออกบ้ านเมืองมา ถึงเมืองหุนก็มายั้งเซาที่ทางสมกันที่บ้านตีนตกนาทึกเป็ นสล่าไว้
ยามนั้นพระญาบ้ านนาจิ่งสูอยู่ไว้ ก่อน พ่อพระญาหลวงเชียงแง่น้ ี มีเถื่อนยองไว้ กห็ ้ ือเขามาตั้งนา้ อุ่น
หื้อพระญาได้ อาบสีไค ก็ได้ สามสี่เดือนมา ถึงยามเห็ดไร่ใส่นามา เขาก็ขอพ่อพระญาเจ้ า
ว่าข้ าขอไปตั้งบ้ านที่เถื่อนยอง พระญาก็ห้ ือเขาไปตั้งบ้ าน ชื่อว่าบ้ านตั้งนา้ อุ่นสืบมาว่าบ้ านนา้ อุ่นนั้นแล
ก็เป็ นคนพระญาหลวงเชียงแง่ ยามนั้นเจ้ าก็มาทานายไว้ ห้ ือมีพันหมื่นสี่คนตั้งไว้ แล้ วเจ้ าก็ตอง145หัน
ก็แปงวัดหลวงไว้ กบั หลังหนึ่ง ก็แปงกลองหลวงไว้ แล้ ว เวลามีการสังมาก็ห้ ือสูตีกลองหลวง
พระญาเจ้ าก็ค่อยเอาริพลคนหาญมาละแล ยามนั้นแรบฟองทั้งหลายไหว้ ว่าดั่งบ้ านตั้งนา้ อุ่นนี้ ก็จักหัน
หน้า 28
ดั่งรือพระญาจิ่งว่าหื้อสูมาเปลี่ยนกันก็ยากแท้ แล เท่าว่าหื้อสูส่วยโหลปี ว่าคาร้ อยก็ได้ ขวบหนึ่งไหนหื้อ
มาเกี่ยวข้ าวหื้อวันหนึ่ง ดั่งข้ านา้ อุ่นนี้บ่มีหลายและมีบ้านหินน้ อยนา้ ตุง ชั้นชาติแสนกอง บ้ านอ้ อหลวงบ้ านปัน
บ้ านตีน เขาฝูงนี้ ก็มาอยู่จอมที่บ้านนา้ อุ่นก็ลวดมีหลายมาชะแล ดั่งบ้ านนา้ อุ่นบ้ านนี้เขาก็ร้องคน
บ้ านก้ อนี้ว่า บ้ านก้ อลามสืบมาแล
พืนวัดบัวคา
เจ้ าเมืองสิบสองพันนา ชื่อว่าเจ้ าอุ่นเมืองก็ไปรับเจ้ ากษัตริย์องั วะชื่อว่าพระสุทโธธัมมราชา
ที่แดนดินเชียงตก ก็ข้ นึ มาเมืองเชียงรุ่ง ก็ออกไปรบฟันอโยธิยาน146 พันดั่งเจ้ าแสนหวีฟ้าอุ่น
เมืองก็ได้ พยาธิลวดตายเสียที่เมืองพยากหั้นแล สักราชได้ 950147เจ้ าก็มีลูกชายสอง

143 ซ่อมแซม ภาษาไทยใหญ่

144 กลันอยาก

145 ตองหัน แปลว่าคิดเห็น หรื อพิจารณาเห็นว่า...

146 อโยธยา

147 พุทธศักราช 2131


30

คนผู้พ่ีช่ ือว่าเจ้ าสรีสนุ ันทา ตนน้ องชื่อว่าเจ้ าอินเมือง เจ้ าสรีสนุ ันทา เป็ นเจ้ าได้ 6 เดือน ก็ลวด
ตายเสียแล้ วแล ภายลุนมาเจ้ าว้ องห้ อ ก็จ่ิงทานเจ้ าอินเมืองเป็ นเจ้ าแสนหวีฟ้าเชียงรุ่ง
ก็จ่ิงแต่งมูมาตมูเพ ก็ส่งพระสุทโธไปแผวเมืองอังวะแล้ ว ดั่งพระสุทโธก็ปันจุ่มยิ่นงาช้ างหื้อ
กว้ างสามนิ้ว มีขวางก็ขวากรูปเขาสเนโรมีเขาสตรพันทัง 7 แวดล้ อม ภายรตมีนา้ สมุทร
แลก้ อนเส้ าสามลูกรบปาอานนท์ 2 ตัว ภายเหนือมีพระจันทร์อาทิตย์ ก็จ่ิงทานลูกยิงหื้อเจ้ าอิน
เมืองว่านางบัวคา หื้อเจ้ าเป็ นอัคคมเหสีเทวีและช้ างอาจพังพรายหื้อสองตัว ป้ ายเครื่องบัลลังการ
ครอบครัวทั้งมวลก็ปันหื้อเจ้ าเชียงรุ่ง ก็ได้ สองสามปี มา ดั่งนั้นบัวคาก็มีลูกคนหนึ่ งชื่อว่าเจ้ าหน่อเมือง
ก็มีแล ดั่งนางก็ใค่ห้ ือมีช่ ือมีเสียงกับเมืองเชียงรุ่ง ก็มาสร้ างวิหารหลวงหลังหนึ่งก็มาสร้ างพระเจ้ า
หลวงองค์หนึ่งนั่งแท่นแก้ ว ก็หว่ายหน้ าไปหนเหนืออังวะหั้นแล ก็ใส่ช่ือว่าสุวัณณปทุมมอาราม
สืบมาว่าวัดหลวงบัวคา ก็ไว้ เป็ นหมายกับเมืองเชียงรุ่ง สักราชได้ พุทธศักราช 254 วัสสา
จุลสักราช 132 ตัวแล
จักจาด้วยเจ้าหม่อมคาลือ
เจ้ าหม่อมคาลือเป็ นลูกเจ้ าหม่อมสอ ดั่งเจ้ าหม่อมแสงก็เป็ นน้ องชาย ก็มาฆ่าพี่ชาย
หน้า 29
ดั่งลูกพี่ชายชื่อว่าเจ้ าหม่อมคาลือ ก็ไปอยู่กบั เจ้ าฟ้ าเชียงตุง ภายลุนมาก็มารบพ่ออาว
ก็ตายเสีย ก็ได้ เป็ นเจ้ าสิบสองพันนาแทนพ่อแล้ วในปี สักราช 1245 ตัว ก็มาเอาเมียถ้ วนหนึ่ง
ชื่อว่า นางหอม ถ้ วนสอง ชื่อว่า นางลอด ถ้ วนสาม ชื่อว่า นางกองคา ถ้ วนสี่ ชื่อว่า นางบัวทิพย์ ภายลุนมา
เจ้ าฟ้ าเชียงตุง ก็เอาลูกยิงมาเป็ นอัคคมเหสีเทวี พี่น้องนางแว่นทิพย์ ก็อยู่กบั เจ้ าก็ได้
สองสามปี มา ก็ผ่อมีนางเมืองลา ชื่อว่านางหอมก็มาส่อหื้อผัวก็บ่ใค่ห้ ือนางแว่นทิพย์ ก็ลวดออก
มาตั้งเวียงที่ริมบ้ านดอนหลวง ก็ได้ ช่ ือว่าเวียงดอนเชียงใหม่ ก็เป็ นเวียงนางแว่นทิพย์เวียงเชียงตุงมาตั้ง
แลก็เหิงมาบ่นานเท่าใด ก็ลวดพอกไปเชียงตุงแล้ ว ก็เอาริพลขุนศึกมารบเมืองเชียงรุ่งก็บ่แพ้
ก็ลวดก่อเอาเมืองเชียงแขง เมืองอุ่น เมืองงาด เมืองนา เมืองแห เมืองหลวย เมืองยุ เมืองวะ
เชียงขาง เมืองยอง ข้ าสามท้ าว รวมทั้งมวลมี 11 เมือง ก็ลวดได้ เข้ ากับเจ้ าฟ้ าเชียงตุง
นางแว่นทิพย์สบื มาถึงบัดเดียวนี้แล
พืนบ้านก้อ148
จาด้ วยพืนก้ อปุรีก่อน ยังมีชายปุริโสมันเกิดมาที่ม่อนสามท้ าว เป็ นภาษาปุรัง149
พ่อแม่ตายละไว้ ไปอยู่จอมเจ้ าระสีมีวันหนึ่งไปกบ150ใส่ยิงสาวห้ วยเอาตองกล้ วยปกหัวออก

148 อีก้อ หรื ออาข่า

149 ไตหลอย หรื อปรัง

150 พบ
31

มาถาม มันก็บอกหื้อเจ้ าระสีร้ ูแล้ วก็เอาหมากนับ151หื้อเถาหนึ่งกับตัวกันว่ายิงสาวห้ วยออกมาแถม


ก็เอาสุบหัวหื้อมันหื้อมันเถอะเนอ ตกวันลุนมามันไปหาขุดมันแถมก็ไปพบใส่ยิงสาวห้ วยแถม
มันก็เอาหมากนับสุบใส่คอยิงสาวห้ วย เอาตองกล้ วยปกหัวก็ลวดชวนไปก็หันยังหน้ าตา อันตัวดี
หน้า 30
ร่างงามก็ลวดใค่ได้ เป็ นเมีย ก็ชวนมาหาเจ้ าระสีเตื่อมช่วยก็มาเอาตาแหลวคาเขียว
มาแวดก็สรุปคาถาใส่กเ็ อานา้ ส้ มป่ อยมาปัดใส่ยิงสาวห้ วยก็ใค่โข152อยู่ ตอง153แท้กห็ ากเหมือนไต
กันว่าไตว่าไป เขาว่าพอก ยิงสาวห้ วยลอกเป็ นไตแล้ ว ก็เอาไหมนิลมามาแปงไหมกอนมัดมือ หื้อ
เขาสองคน หื้อเป็ นผัวเป็ นเมียกันแล ดั่งไหมกอนนี้ช่ ือว่าไหมมิสสาสืบมาถึงบัดเดี่ยวแล พันดั่งหมาก
เดยห้ อยคอ ก็เป็ นหมากนับเจ้ าระสี เอาสุบคอแต่เมื่อหัวที เขาทังสองก็ขอกับเจ้ าระสีแล้ วก็
ขึ้นดอยหลวงป่ าไม้ ก่อตั้งแปงเรือนไว้ ก็จ่ิงใส่ช่ือว่าก่อปุริโส สืบตามมาถึงบัดเดียวนี้แล มันก็มา
ขอซิ่นเสื้อ หนังพ่อมหาเสฏฐี กบ็ ่มี พ่อเสฏฐีกเ็ อาถุงปิ้ ง154ก้ นรั่วหื้อหน่วยหนึ่งก็เตียวตางมาก็เก็บได้
ผ้ าก้ อม155อ่อนน้ อยผืนหนึ่ง ก็เอามาแปงเสื้อหื้อเมียก็บ่ค้ ุม พอค่าห่อได้ นมสองเต้ าบ่ดาย พันดั่งถุงปิ้ ง
ก็เอามาสุบหื้อเมียแปงซิ่นก็บ่ค้ ุม ก็พอค่าได้ ท่เี ผียดละอายคนทั้งหลายบ่ดายแล ก็เป็ นรีตก้ อนุ่งซิ่น
ก้ อมสืบตามมาถึงบัดเดียวนี้แล
จาด้ วยสามชายพี่น้อง เกิดร่วมท้ องแม่เดียวกัน อยู่ในเมืองเขมารัฐคือว่าเมืองขืน พ่อเขา
ชื่อว่าสมิโอ แม่เขาชื่อว่าโอทธลา ก็ตายเสียแล้ ว ยังค่าพ่ออยู่ไว้ มันก็ส่งั ยังลูก ทังสามว่า
พ่อก็บ่มีสงั มีค่าพร้ าดาบเถี่ยนเดียว กันว่าพ่อตายไปนี้ หื้อเอาขอนพ่อไปไว้ ท่ดี อยหลวง9ห้ าน ลูก
อย่าคร้ านอดเอาเถอะเนอ กันว่ามันสั่งเตือนเสียแล้ ว ก็ลวดตายไปแท้ ห้ันแล ยามนั้นชายผู้พ่ีน้ ีอา
ยุได้ 16 ปี ชื่อว่าโอทธเล ถ้ วนสองชื่อว่า โอมิไตย อายุได้ 14 ปี ถ้ วนสามชื่อว่าโอมิ
สานก็ยังน้ อย ก็เอาไปฝากพี่้น้ องขะกุล อันจักไปค้ าต่างประเทศ ขงเขตเมืองไกลแล้ ว ก็ชวนกันเอา
ขอนพ่อไปไว้ ปลายดอยหลวง9ห้ าน แล้ วก็ต้งั คาผาถนา ดั่งพี่ชายนี้ว่าขอหื้อได้ กนิ หมากเขือเหลืองสาม
ซ้ ากับปลาร้ าสามซอง ดั่งน้ องชายนี้ว่าขอหื้อข้ อยได้ สองมือยกหว่าน 156เหล้ าสองสอกเท่านั่งนอน ขอพ่อ
ปันพรดีห้ ือข้ า ดั่งเขาสองพี่น้องก็ต้งั คาผาถนา ก็บ่เหมือนกัน ก็ลงดอยหลวงมารอดท่านา้ ก็มาฟัน
ไม้ ไผ่แปงแพ ก็ล่องนา้ ไปรอดกลางฟอง ก็ยังมีปลาหลวงตัวหนึ่งก็หกเข้ าแพมา ดั่งพี่ชาย

151 ลูกประคา

152 หัวเราะ

153 มองอย่างพินิจพิเคราะห์

154 ถุงเป้ง

155 ฉบับลายมือ ว่าผ้ าอ้ อม

156 ถ้ วย ภาษาไทยใหญ่
32

ว่าจักกินซา้ น้ องชายว่าปลาตัวหลวงนี้กนิ บ่ซาเอาเกลือทาแห้ งไว้ หลายวันพี่กบ็ ่ฟัง ว่าจักแปงกินซา้


หน้า31
น้ องชายว่าบ่ชู ก็แบ่งกันเถอะ พันชายว่าถ้ าแบ่งกันนี้ พี่จักเอาหัวไป น้ องค่อยเอาปลายหาง ก็เอา
ไม้ มาแทก157แล้ วหักคึ่ง ก็มาแทกปลาแล้ ว ก็เอาพร้ าดาบมาฟันปลาก็ปุดใส่แพ ก็ปุดขาดเป็ น
สองไป ต่างคนก็ต่างไหลล่องนา้ บ่หันแล ดั่งน้ องชายนี้ไปค้ างดอนทรายที่เมืองโกลัมมพาก็ไปกิน
จ้ างเลี้ยงควายหื้อพ่อเสฏฐี ก็ได้ หลายปี มา ก็บ่ห้ ือสัตว์สกั ตัว ดั่งพ่อเสฏฐีว่าคันว่าเกิดเป็ นควายผู้ปอน 158ตา
แดงเขากวย159ยามได้ ก็จ่ิงเอาหื้อยามนั้น เหิงบ่นานเท่าใดก็เกิดมีควายผู้ปอนเขากวย
พันดั่งเสฏฐีกเ็ อาหื้อชายทุกขเป็ นของคิงตัวมันหั้นแล ยามนั้นยังมีลูกยิงสาวพระญาเจ้ าเมืองก็มีไข้
บ่หายก็เอาหมอมาตวาย160 ก็ว่าหื้อเอาควายผู้ปอนตาแดงเขากวยมาทอ161ก่อนจิ่งหาย ก็ห้ ือเสนา
ไปหาก็บ่มี มีค่าควายอ้ ายชายทุกขตัวเดียว มันก็บ่ขาย ก็พอกไปบอกหื้อพระญาเจ้ าเมือง ก็ว่า
หื้อเอามาเสียก่อน ยามนั้นเสนาก็ไปเอาควายชายแท้ ยามนั้นชายก็ไหว้ หาคุณพ่อพ่อแม่มา
เตื่อมช่วย ยามนั้นพันดั่งเทวดาอันเป็ นพ่ออยู่ดอยหลวง 9 ห้ าน ก็มาบอกหื้อลูกแห่งตนว่า หื้อไป
ขอเอาไก่แอ้ นแลผ้ าขาวสองผืนที่เป็ นค่าควายแล้ ว ก็ออกเวียงไปหาที่ทางค่าสามสมก็เอา
ไก่ใส่กอนนอนอยู่คันว่าไก่ขันทักและยินเสียงเสือหมี ขันสองตั้ง ยินเสียงก็เออแล กอก162หมากนา้
เต้ า ขันถ้ วนสามยินเสียงประลังวัวต่าง เสียงม้ าแห่นแลเสียงขับ ก็ค่อยลุกนอนเนอ ยามนั้นมันก็
เข้ าไปหาพ่อพระญาเจ้ า ก็ขอเอาไก่และผ้ าขาวสองผืนได้ แล้ ว ก็ออกเวียงไปหาที่ทางค่า
สามสม163แล หื้อมีนา้ แม่หลวงได้ แล้ ว ก็เอาไก่ไส่คอนแล้ วนอนอยู่ ไก่ขันตั้งแลเสียงวอกกางเสือ
หมีขัน 2 ตั้งเสียงกอกหมากนา้ เต้ า เสียงหมากเดยแนนมาแข้ นสามตั้ง เสียงฟ้ าลังช้ างมา
แห่นหากันเสียงนันโห่ร้อง ก็มืนตาผ่อก้ หันยังคนหลวงหลายแวดล้ อม ก็ได้ เป็ นเจ้ าแก่
คนทั้งหลาย ก็ได้ สร้ างเป็ นเวียงใหม่ ก็มาแปงสร้ างเรือนแขกต่างเมืองมาเซาที่ทา่ นา้ ก็แปงทาง
สะเปา164 ต่างเมืองมาสืบแสนไชย ก็ห้ ือเปิ่ นแต้ มรูปสามชายพี่น้อง แบ่งปลาฟันแพปุดขาด

157 วัด

158 ควายเผือก

159 เขาโค้ ง

160 ทานาย

161 มาทัก

162 ขันที่ทาจากน ้าเต้ า

163 ทางสามแพร่ง

164 สาเภา
33

ที่ทสิ าประตูไว้ ก็ส่งั คาไว้ ว่า กันไผแลมาหันไห้ แลโข165นี้ ห์้อชวนมาหากูราชา ยามนั้นพันดั่ง


พี่ชายมันก็ไปค้ างดอนทรายออกมาแล้ ว ก็ขอกินจ้ างเปิ่ น ไปรอดถึงเมืองน้ องชาย ก็ไปหันใส่ก ็
หน้า 32
ใค่ไห้ ใค่หัว คนใช้ เขาหันก็ชวนเมือหาพระญา ก็หันว่าเป็ นพี่ชายแห่งตน ก็ห้ ืออยู่เวียงไว้
ดั่งพี่ชายก็ถามข่าวสารน้ องชาย ได้ ต้ังเวียงใหม่น้ัน ชุประการ ดั่งน้ องชายก็บอกหื้อพี่ ตั้งเค้ าถึงปลาย
เสียแล้ ว ดี่งพี่ชายก็ใค่ไปตั้งเวียงใหม่ ก็ขอยืมไก่แอ่นแลผ้ าขาวดั่งน้ องชาย ก็เอาหื้อยืมแล้ ว
มันก็คนิงใจว่า กูน้ ีเป็ นพี่ชายนิบ่ควรอยู่ท่ตี ่า ควรกูต้ังเวียง ก็ควรอยู่ท่สี ูง มันก็ข้ นึ ดอยหลวง
ก็ไปรอดปลายดอย ก็มากึดตองก้ หันค่าหมอกเหมยมุงไว้ ก็บ่หันขอบหันริม ก็มาถางป่ าคา
ก็เอาไก่ใส่กอนแล้ วก็นอนอยู่ ไก่ขันตั้งก็ยินเสียงเสือหมีวอกช้ างขันสองตั้งก็ได้ ยินเสียงกอก
หมากนา้ เต้ า และเสียงมากเดยหมากนับ เสียงก้ อหลวงหลายเตียวกว่าขับเสิน กว่า 166ตามทางก็มาถึง
ชายโอทธเลอยู่ไว้ ก็ได้ เป็ นนายก้ อทั้งหลาย ก็มาฆ่าไก่แดงแล้ วก็เอาขนมาปักสองหมิดต่าง
ดอกไม้ กเ็ ป็ นรีตก้ อเอาขนไก่ปักหัวสืบมาแท้แล สองมามันก็กดึ ว่าดั่งซิ่นเสื้อก็บ่เหมือนน้ องไภ้
น้ องชายมาหันก็เป็ นดีอาย ก็ห้ ือเปิ่ นแปงขึ้น167ไดแลชานแล้ ว ก็มาแขวนฝาเรือนไว้ ก็เป็ นรีตก้ อ มีข้ นึ
ไดสองปาก ชานสองอันก็ได้ สบื ตามมาถึงบัดเดี่ยวนี้แล ยามนั้นชายนโอธทเลก็ได้ เป็ นลูกเขย
ชายปุริโส เมื่อก่อนแบ่งออกเป็ นสองเชื้อไป จิ่งว่าก้ อก่อปุริหมวกหัวเพียง เพื่อเอาตองกล้ วยปกหัว
ก้ อจิ้จอนี้หัวแหลม เพื่อเอาขนไก่ปักหัวแหลมไว้ เหมือนปลายดอยก็เอาผ้ าขาวสักย้ อยใส่จิกหมวก
หัวไว้ ก็ได้ สบื ตามมาถึงบัดเดี่ยวนี้แล ยามนั้นพันดั่งน้ องชายก็คึดรู้พ่ีชายมา ก็ไปขับหากันก็หันอยู่
ดอยหลวงป่ าไม่ก่อก็เป็ นนายก้ อเสียแล้ ว น้ องชายก็ถามหาไก่แอ่นพอก ดั่งพี่กว็ ่าดั่งไก่แอ่นน้ อยนั้น
พี่กไ็ ด้ ฆ่าเสีย ก็เอามขนมันหย้ องหัวหื้อเมียแล้ ว ดั่งน้ องชายก็เคียด168มากนัก ก็กล่าวว่ามึงไปเรือนน้ อง
ก็บ่เอาเสื้อผ้ ามาห่มหื้อ ยามนั้นพี่ขายก็ว่าพี่บ่ได้ ฟังคาน้ องไหมกินแหนง คันว่าพี่ไปเรือนน้ อง
ก็แปงแท่นหน้ าไฟหื้อพี่ คันว่าพี่กดั หนาวก็ค่อยเอาหลัวใส่ไฟ พันดั่งขนไก่แดงอันเอาหย้ องหมวก
หัวหื้อเมีย ก็เป็ นรีตก้ อเอาขนได้ ปักหมวกสืบมาบัดเดียวนี้แล ตั้งหั้นมาไตเราจิ่งร้ องก้ อว่าอ้ ายต่า
ก้ อร้ องไตจิ่งว่าน้ องชายถึงบัดเดียวนี้แล ตั้งหั้นมาไตเราเอาเมีย ก็จ่ิงเอาตองกล้ วยมาแปงหมวก
หัวแหลมไว้ เอาสุบกวมไก่หมูก่อน ก็ได้ สบื ตามมาบัดเดียวนี้แล ย้ อนว่าได้ เป็ นเขยก้ อชะแล
หน้า 33
ก็ได้ หลายปี มาเขาสองพี่น้อง ก็ชวยกันว่าจักมาไจขอนพ่อ อันเอาไว้ ดอยหลวง 9 ห้ าน ต่างก็

165 หัวเราะ

166 ไป ภาษาไทยใหญ่

167 บันได

168 ออกเสียงว่า เกี๊ยด แปลว่าโกรธ


34

ต่างคนชวนเอาเสนาจากเมืองมาถึงฝั่งนา้ ของ แทนเมื่อคนเมืองเชียงรุ่งยังท้ากันว่า คันไผแลเอาไฟใส่นา้


บ่ห้ ือวอด ก็จักได้ เป็ นเขยเมืองดั่งดอยลูกนั้นก็จ่ิงได้ ช่ ือว่าดอยหลวงสามท่าสร้ างสืบมา ยามนั้นผู้พ่ีชาย
ก็อยู่ทา่ เหนือ ก็เอาไม้ ก่อมาจุไฟแล้ ว ก็เอาใส่นา้ ก็จมไปไฟก็วอดเสียแล้ ว ดั่งท่านา้ นั้นก็จ่ิงว่า
ท่าก้ อเอาไม้ ก่อใส่นา้ ดอยนี้จ่ิงว่าท่าบ้ านก้ อสืบตามมาบัดเดียวนี้แล ยามนั้นน้ องชายอยู่ไปหัวของก็เอา
ขี้วัวแห้ งมาสุมไฟ แล้ วเอาใส่นา้ ก็บ่วอด169 ก็ยังแลง170อยู่ไว้ ดั่งท่านา้ ที่น้ันจิ่งว่าท่าเชียงแลง สืบมา
ถึงบัดเดียวนี้แล เขาก็ได้ ข้ามของมารอดประตูเมือง ก็มายั้งอยู่ไว้ ก็มาเอานา้ หื้อคนไหนเปลือกไข่แล้ วหื้อ
ซ่วย171ขา ดั่งผู้พ่ีน้ ีกเ็ อาถะกาเดียว ขาก็บ่หมดได้ ดั่งน้ องนี้กเ็ อาไม้ มาขูดดินหื้อหมดแล้ วจิ่งเอา
ขนไก่มาชุบราด ก็ยังบ่ซา้ ขาก็หมดดีแท้แล ดั่งประตูอนั คนทั้งหลายยั้งไว้ น้ัน ก็ช่ือว่าประตูหลวงทุ่งยั้ง
สืบมาถึงบัดเดียวนี้แล ก็อยู่ใกล้ บ้านเชียงลานหั้น ลูกหั้นก็ไปยือหน้ าผาอันค้ างกันอยู่ด่ังพี่ชายก็เอา
ขาธนูห้ ืแขวนแล้ ว ยิงไปใส่หมากผาก็บ่เข้ า ปื นธนูกย็ อยเป็ นขะโจนไป พันดั่งน้ องชายก็มาเอา
ขี้จืง172มาติดปลายปื นธนูแล้ งยิงไป ก็ไปติดไว้ แท้ แล พันดั่งพระญาเจ้ าก็มายกหมู่ข้าวคามาตั้ง
หมู่ข้าวดินมาตั้ง ดั่งพี่น้ ีไปกินหมู่ข้าวคา น้ องชายนี้ไปกินหมู่ข้าวดิน ภายลุนมาก็ได้ เป็ น
เจ้ า จิ่งร้ องว่าเจ้ าแผ่นดินสืบตามมาถึงบัดเดียวนี้แล ดั่งพี่ชายก็บ่มีผญา ก็ได้ เป็ นข้ าน้ องชาย
ก็ชวนลูกน้ องไปตั้งแปงปางเซา173อยู่ปลายดอยหลวงเหมือนเก่าแถมมาก็ได้ ละไปเมืองไปอยู่ดอย
เป็ นข้ าเจ้ า ก็จ่ิงได้ ช่ ือว่าข้ าทัมมิละ ชาวดอยสืบมาถึงบัดเดียวนี้แล ก็มีไว้ สามชื่อแท้แล ก็จ่ิงอยู่
กับด้ วยเจ้ าแผ่นดินเชียงรุ่งชื่อว่าก้ อปางของ ก้ อปางเบียว ก้ อปางกอง ก้ อปางยาง ก้ อปางยอง และก้ อปางเถื่อน
หัวทีกม็ ี 6 บ้ านบ่ดายแล
จักจาด้ วยภาษาข้ ามูเซออันอยู่เชียงรุ่ง ก็ต้งั เป็ นเขตแดนเมือง ก็ต้งั เป็ นแคว้ นไว้
มีแคว้ นของ แคว้ นเมืองผ้ า แคว้ นคาเต แคว้ นหลอด แคว้ นหนอง แคว้ นเสาหิน
แคว้ นเครือคา แคว้ นรูลาง แคว้ นมอ แคว้ นราย แคว้ นดาย แคว้ นใหม่กม็ ีข้าสิบสองแคว้ น
หน้า 34
ก็มีไตสิบสองปันนา มีปันนาบ่าวชายเชียงรุ่ง ปันนาเมืองแช่ ปันนาเมืองลวง ปันนาเมืองลอ ปันนาเมืองลา
ปันนาเชียงตอง ปันนาเมืองล้ า ปันนาอีงู ปันนาภูเหนือ ปันนาเมืองหน่อ ยังไว้ ปันนาหนึ่งนี้ไว้ ห้ ือพระญาหลวง
ปางเมืองไชยช้ าง จิ่งว่าเมืองเชียงรุ่งนี้มีหนี้กบั เมืองไว้ จิ่งได้ ช่ ือว่าสามห้ วย สี่หนอง 6 ขัว 9 จอม
12 เชียง มี 12 แคว้ น มี 6 ปาง มี 3 แม่นา้ ไหลเข้ าเมือง มีนา้ น้ อย 12 แม่ไหลเข้ าเมือง

169 ไม่ดบั

170 ยังมีไฟติดอยู่

171 ล้ าง

172 ยางจากแมลงชนิดหนึ่งที่อยู่ตามโพลงไม้

173 ที่พกั
35

มีนา 611335 ปันนาก็กบั ลืบสืบมาถึงบัดเดียวนี้แล เจ้ าทั้งหลายเฮย ก็มี 6 บ้ าน 6 แท้แล อันว่า


3 ห้ วยนี้ มีห้วยสอ ห้ วยกิ ห้ วยขวาก อันว่าหนองนี้มีหนองคา หนองสามขา หนองฟอง หนองเติงบ้ าน
อันว่า 6 ขัวนี้มีขัวหินหัก พระเจ้ าอยู่หัวของ ขัวมุงนา อยู่หัวของ ขัวหินอยู่หนองฟอง ขัว
สานอยู่เชียงฟ้ า ขัววัวรุงอยู่ปางตอง ขัวสูงอยู่เชียงใต้ อันว่า 9 จอมนี้ มีจอมหมอก จอมตอง
จอมสิงอยู่หัวกาดหลวง จอมซางอยู่หัวบ้ านสกม จอมแลอยู่เชียงตุ้ง จอมแจ้ งอยู่บ้าน
หลิ่ง จอมของอยู่หัวของ จอมกางอยู่บ้านหมอน้ อย จอมเบียดอยู่นายอง ใกล้ ขัวมุงนาแขก
1. อันว่า 12 เชียงนี้มีเชียงรุ่งเจ้ าราชาตัวมาตั้ง 2.เชียงมูน้ ีมีเจ้ าบุญปันมาตั้ง 3.เชียง
มนพระญาอาวโวสวนตานมาตั้ง 4.เชียงตี้เจ้ าแสนหวีฟ้ามาตั้ง 5.เชียงแลงมีเจ้ าจันทา
วิตักมาตั้ง 6.เชียงใต้ มีเจ้ าสุวัณณหอยสังมาตั้ง 7.เชียงยุงน้ อยเจ้ าสีดาคาเอาเมียลอมาตั้ง
8.เชียงขางพ่อเจ้ าเจิงหาญตั้ง 9.เชียงผาครางสองชายพี่น้อง ชื่อว่าเจ้ าแผ่นดินหัวทีมาตั้ง
10.เชียงเจิง 11.เชียงฟ้ า 12.เชียงไชยช้ าง พระญาหลวงปางเมืองตั้ง
ดั่งนา้ แม่น้ ีมีนา้ แม่ของคา นา้ ห้ ายักษ์ ชื่อว่านา้ ห้ า นา้ ออดครุชชาสาน ชื่อว่านา้ ออด
อันว่านา้ น้ อยนี้มี 1.นา้ เหมืองปางหยาด 2.นา้ เมืองแช่ลาย 3.นา้ เหมืองพระเจ้ าใส่นายอง 4.นา้ เหมือง
นา้ ตอง 5.นา้ เหมืองนา้ ฮา 6.นา้ เหมืองห้ วยคา 7.นา้ เหมืองห้ วยเรา 8.นา้ เหมืองนา้ สิน 9.นา้
เหมืองห้ วยขวาก 10.นา้ เหมืองห้ วยคีม 11.นา้ เหมืองห้ วยไคร 12.นา้ เหมืองห้ วยกองทั้งหลายอันไหล
เขาในเมืองมาใส่นาเมืองเชียงรุ่ง กับลืบสืบตามมาบัดเดียวนี้แล เจ้ าทั้งหลายเฮย อันหมาย
ไว้ น้ ีมีโจ่174เจ้ าฟ้ าว้ อง175ตนชื่อว่ากินงานแว้ นควางตี่ โจสักราชได้ 542 ตัว แต้ มไว้ กบั เมืองเชียงรุ่ง เจ้ าทั้งหลาย
อ่านท่องหื้อรู้พืนเมืองพืนบ้ านก็ห้ ือรู้จ่ิงดีแล เราเป็ นคนเชียงรุ่งบ่ร้ ูคว้ าพืนเมืองพืนบ้ านก็บ่พอดีแลคันเรารู้กเ็ อา
อุบ176หื้อลูกหื้อหลานรู้กจ็ ่ิงดีเมือหน้ าบ่หายชะแล

174 ตังแต่

175 ฉบับตัวพิมพ์ข้อความสิ ้นสุดแค่ตรงคาว่า เจ้ าฟ้าว้ อง เนื ้อหาต่อจากนันได้
้ จากฉบับลายมือ
176 พูดคุยหรื อเล่า เป็ นภาษาไทยใหญ่
36

ภาคผนวก
ภาพเอกสารพับสาต้นฉบับ ฉบับบ้านมอง เชียงรุ่ง (เมืองสิบสองปั นนา) บางส่วน
37

You might also like