You are on page 1of 28

1.

เนือ้ หา หน้า 190


2. ตัวอย่างบทความง่ายๆ หน้า 192
3. แบบทดสอบฝึ กฝี มือ หน้า 196
4. เฉลย หน้า 212

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 189


เนื้อหา
1. GAT 2. วันวาเลนไทน์(01) คือ วันแห่งความรัก(02)

Eng 150 คะแนน


ข้อสอบ GAT มีคะแนนเต็ม 300 คะแนน แบ่งเป็น
ให้เวลา PART ละ 1 ชั่วโมง 30 นาที เชื่อมโยง 150 คะแนน
องค์ประกอบของ PART เชือ่ มโยง 3. สกปรก(01) ไม่มมี ารยาท(02) ถ่อย(03) เป็นบุคลิกของพี่ปนั (04)
 เป็นการวัดทักษะการอ่าน การเขียน การคิดเชิงวิเคราะห์ และแก้ปัญหา
 ข้อสอบจะมี 2 บทความให้อ่าน อ่านเพื่อจับความสัมพันธ์ของกลุ่มคำตอบ
 ใน 2 บทความจะมี ข้อความที่ต้องเชื่อมโยงรวม 20 ข้อความ
โดยในบทความ ข้อความที่โจทย์ต้องการให้เชื่อมโยงจะทำตัวหนามาให้
 ตอบผิดติดลบ !!! 4. ฮานามิ(01) เลย์(02) โปเต้(03) ชีโตส(04)เป็นขนมที่เด็กๆชอบกิน(05)

2. สัญลักษณ์การเชื่อมโยง

A→ F→
x
สัญลักษณ์ที่ 1 ใช้เมื่อเป็นเหตุเป็นผล, เกิดขึ้นไปลำดับถัดมา
สัญลักษณ์ที่ 3 ใช้เมื่อเป็นการยับยั้ง, ป้องกัน, ห้าม, ถูกลด

Keyword คือ ส่งผลให้ , ทำให้เกิด , เนื่องจาก


หรือคำที่บอกว่าเมื่อสิ่งนี้มี จึงทำให้เกิดสิ่งนี้ Keyword คือ ช่วยป้องกัน, แก้ไข, ทำให้ลดลง, ทำให้แย่ลง
วิธีเขียน : เหตุ → ผล วิธีเขียน : ต้นเหตุ →
x สิ่งที่ลดลง, สิ่งที่ถูกยับยั้ง
ตัวอย่าง ตัวอย่าง
1. กินผักผลไม้(01) ทำให้สุขภาพดี(02) 1. ยาอมดีด๊ ี(01) ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ(02)

2. นายสมชาย(01) เสียใจเพราะโดนแฟนทิง้ (02) 2. ความขีเ้ กียจ(01) ทำให้ผลการเรียน(02) แย่ลง

3. นักศึกษาคนนัน้ (01) เป็นผู้ปั้นรูปปัน้ ยักษ์(02) 3. จำนวนสัตว์นำ้ ตามแหล่งน้ำธรรมชาติ(01)น้อยลง มีสาเหตุมาจาก


ขยะมูลฝอย(02)

4. อาการปวดหัว(01) ของฉัน เป็นผลมาจากการนอนไม่พอ(02)

4. เสียงดังโวยวายจากเพือ่ นบ้าน(01) ส่งผลให้บรรยากาศในการอ่าน


หนังสือ(02) เลวร้ายมาก

D
สัญลักษณ์ที่ 2 ใช้เมื่อเป็นส่วนประกอบ, องค์ประกอบ, ความหมาย

99H
สัญลักษณ์ที่ 4 ใช้เมื่อไม่เกี่ยวข้อง, ไม่ส่งผลต่อใคร

Keyword คือ เช่น , ได้แก่ , เป็น , ตัวอย่าง , เรียกว่า , คือ


วิธีเขียน : คำใหญ่ คำเล็ก ,
คำหลัก อธิบายความหมาย
ตัวอย่าง
1. วิชาวิทยาศาสตร์(01) ประกอบไปด้วย ฟิสกิ ส์(02) เคมี(03) ชีวะ(04)

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 190


3. เรียนรู้ความสับสนก่อนเจอข้อสอบจริง  จะใช้คำแม่หรือคำลูก
1. ปัญหาวัยรุน่ (01) มีหลายเรื่อง เช่น ชอบความรุนแรง(02) มีปัญหา
 จุดสับสนว่าต้องใช้ A หรือ D
เรือ่ งเพศ(03) ติดยาเสพติด(04) และอีกมากมาย การแก้ไขปัญหา
1. สาเหตุที่ทำให้สุขภาพดี(01) มีหลายอย่าง เช่น ออกกำลังกาย(02),
เหล่านี้ต้องเริ่มที่ ครอบครัวอมรมสั่งสอนและให้ความอบอุน่ กับเด็ก
กินอาหารทีม่ ปี ระโยชน์(03), พักผ่อนอย่างเพียงพอ(04)
(05)

2. สาเหตุที่ทำให้สุขภาพดี(01) มีหลายอย่าง เช่น ออกกำลังกาย(02),


กินอาหารทีม่ ปี ระโยชน์(03), พักผ่อนอย่างเพียงพอ(04)

 จุดสับสนว่าต้องใช้ A หรือ F
1. กระแสฮิตเล่น social network มากขึน้ ทุกวัน(01) ทำให้คนพูดคุย
กัน(02)น้อยลง

2. กระแสฮิตเล่น social network มากขึน้ ทุกวัน(01) ทำให้คนพูดคุย


กันน้อยลง(02)

 ชื่อรองหรือฉายา ต้องเป็นองค์ประกอบของชื่อหลัก
1. ราชาผลไม้(01) ของประเทศไทยเป็นฉายาของทุเรียน(02)

2. ธนาคารแห่งประเทศไทย(01) บางคนเรียกว่า ธนาคารกลาง(02)


หรือแบงค์ชาติ(03)

 การตัดหรือเพิ่มคำแต่ความหมายเดิม / คำซ่อน / สลับคำ / เปลี่ยนคำ


1. หัวหน้าที่ดีต้องเป็นแบบอย่างให้ลูกน้องเคารพนับถือ(01) แต่ถ้า
หากหัวหน้าไม่รับผิดชอบหน้าทีก่ ารงาน(02) ย่อมบั่นทอนความ
เคารพนับถือจากลูกน้อง

2. ข้อความในตารางที่โจทย์กำหนดให้เป็น :
สาเหตุที่ทำให้นกในทุ่งหญ้าทั้งสามชนิดเสี่ยงต่อภาวการณ์สูญพันธุ์
ข้อความในบทความ :
สาเหตุที่ทำให้นกในทุ่งหญ้าเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
***ถือว่าเป็นข้อความเดียวกัน***
3. ข้อความในตารางที่โจทย์กำหนดให้เป็น :
ภูมิคุ้มกันโรคติดต่อ
ข้อความในบทความ :
ภูมิคุ้มกันที่สามารถป้องกันโรคติดต่อได้
***ถือว่าเป็นข้อความเดียวกัน***
4. ข้อความในตารางที่โจทย์กำหนดให้เป็น :
เศรษฐกิจฟื้นตัวไม่เท่าเทียมกัน
ข้อความในบทความ :
เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างไม่สมดุล
***ถือว่าเป็นข้อความเดียวกัน***

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 191


ตัวอย่างบทความง่ายๆ
บทความฝึกฝีมือ
บทความที่ 1 – สุดยอดอาหารล้างพิษในร่างกาย
เมื่อพูดถึงการล้างพิษในร่างกายนัน้ อาหารจัดได้วา่ เป็นยาที่ดีที่สุด คุณจะแปลกใจว่าในอาหารโปรดหลายชนิดนั้นช่วยล้าง
พิษในร่างกายคุณได้ ไม่ว่าจะเป็น ตับ ลำไส้ ไต หรือผิวพรรณ ทั้งยังช่วยป้องกันการก่อตัวของสารพิษได้อีกด้วย นอกจากนี้ยงั
ปกป้องสารพิษจากมลภาวะรอบตัว การเสพติดอาหาร ควันบุหรี่มือสอง รวมไปถึงสารพิษชนิดอื่นๆ ด้วยการรับประทานอาหารที่
ช่วยล้างพิษในร่างกาย เช่น ผลไม้อร่อยๆ ผักสด ถั่ว และน้ำมันชนิดต่างๆ ดังนี้
1. แอปเปิล้ เพราะในแอปเปิ้ลอุดมไปด้วยเพคติน ซึง่ เป็นเส้นใยอาหารชนิดที่สามารถดักจับคอเลสเตอรอลและโลหะหนัก
ในร่างกายได้ ช่วยกำจัดสารพิษแล้วขับออกมาทางลำไส้ ถ้าจะให้ดีควรเลือกทานแอปเปิ้ลที่ปลูกแบบออแกนิก
2. อะโวคาโด เรามักจะคิดแค่ว่าอะโวคาโดเป็นอาหารคลีน แต่ความจริงแล้วอะโวคาโดนี้เป็นแหล่งของสารอาหารที่ทรงพลัง
ทั้งยังมีคอเลสเตอรอลต่ำ และช่วยขยายหลอดเลือด และช่วยปิดกั้นสารพิษที่เข้ามาทำลายหลอดเลือดแดง นอกจากนี้ยังอุดมไป
ด้วยสารอาหารที่มีชื่อว่ากลูตา้ ไธโอน ช่วยต้านทานสารก่อมะเร็งได้อย่างน้อยถึง 30 ชนิดด้วยกัน อีกทั้งยังช่วยล้างพิษตับจาก
สารเคมีต่างๆ ได้
3. บีทรูท ในหัวบีทรูทนั้นมีสารประกอบตามธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์ที่ช่วยในการฟอกเลือด และจัดเป็นพืชที่ช่วยในการ
ล้างพิษตับได้อย่างดีเยี่ยม

เลข ที่วา่ งสำหรับร่างรหัสคำตอบ


ข้อความทีก่ ำหนด
กำกับ คำตอบที่1 คำตอบที่2 คำตอบที่3 คำตอบที่4
01 อาหารที่ช่วยล้างพิษในร่างกาย
02 แอปเปิ้ล
03 อะโวคาโด
04 เพคติน
05 สารก่อมะเร็ง

บทความจาก : https://www.health-th.com/articles/

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 192


บทความที่ 2 – 5 ท่าบริหารกล้ามเนื้อ ลดความเมื่อยล้าขณะขับขี่
ความกังวลเกี่ยวกับปัญหารถติดกลายเป็นปัญหาแรกๆ ทีค่ นใช้รถใช้ถนนในเมืองใหญ่ให้ความสำคัญ แต่แท้ที่จริงแล้ว คน
ที่ต้องใช้ชวี ติ อยูห่ ลังพวงมาลัยนานๆ เป็นเหตุให้ต้องเผชิญกับอาการปวดเมือ่ ย บางรายอาจร้ายแรงเรื้อรังและก่อให้เกิดปัญหาด้าน
สุ ขภาพในที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิง่ กับคนที่ต้องขับรถเป็นประจำทุกวันและอยู่บนท้องถนนเป็นเวลานาน
วันนี้ Uber ประเทศไทย ขอนำเสนอ 5 วิธบี ริหารร่างกายง่ายๆ ช่วยยืดกล้ามเนือ้ แก้อาการเมื่อยล้า ขณะนั่งอยู่หลัง
พวงมาลัย เสมือนกับว่าได้เข้าสปานวดผ่อนคลายกันเลย!
ท่าที่ 1 ท่ากล้ามเนือ้ หลังแขนท่อนล่าง คว่ำแขนเหยียดศอกให้สุด กระดกข้อมือขึ้นลง ใช้มืออีกข้างดันมือเข้าหาลำตัว
ท่าที่ 2 ท่ายืดกล้ามเนื้อต้นคอ หันศีรษะลงตรงๆ ใช้มือสองข้างประสานไว้กับหลังศีรษะ ใช้แรงกดลงเบาๆ
ท่าที่ 3 ท่ายืดท้องแขน ยกแขนขึ้นงอข้อศอกไปด้านหลัง จากนั้นใช้แขนฝั่งตรงข้ามผลักข้อศอกไปด้านหลัง
ท่าที่ 4 ท่ายืดกล้ามเนื้อสะบัก เหยียดแขนไขว้ไปฝั่งตรงข้าม ใช้แขนอีกข้างงอศอกล็อคและออกแรงดึงไปฝั่งตรงข้าม
ท่าที่ 5 ท่ายืดกล้ามเนื้อบ่า เอียงศีรษะไปด้านข้างใช้มือข้างเดียวกับที่เอียงไปช่วยดึงศีรษะไป มืออีกข้างจับขอบเก้าอี้
จากคำแนะนำ 5 ท่าเบื้องต้นให้คุณผู้อ่านได้เห็นถึงวิธีการผ่อนคลายกล้ามเนื้อขณะขับรถแล้ว อย่าลืมว่า การนั่งขับรถให้ถูกวิธีก็เป็น
อีกตัวช่วยหนึ่งในการช่วยให้การขับขี่ของคุณสบาย และยังสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ขับขี่ปลอดภัยยิ่งขึ้นอีกด้วย

เลข ที่วา่ งสำหรับร่างรหัสคำตอบ


ข้อความทีก่ ำหนด
กำกับ คำตอบที่1 คำตอบที่2 คำตอบที่3 คำตอบที่4
01 ท่ายืดท้องแขน
02 ท่ากล้ามเนื้อหลังแขนท่อนล่าง
03 ใช้ชีวิตอยู่หลังพวกมาลัยนานๆ
04 อาการปวดเมื่อย
05 วิธีบริหารร่างกายง่ายๆ ช่วยยืด
กล้ามเนื้อ

บทความจาก : https://www.health-th.com/articles/

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 193


บทความที่ 3 – พลิกมุมคิดใหม่ ไม่กลับมาอ้วนอีก
ปัญหาน้ำหนักตัวที่วนเวียนกลับมาอยู่เรื่อย อาจเป็นผลมาจากความคิดในหัวเราก็ได้ ดังนั้นถ้าอยากเอาชนะไขมันรอบเอว
แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ต้องรู้วิธีเทรนสมองให้มาเข้าข้างเราค่ะ

เราทุกคนรู้ดีว่าเคล็ดลับการลดน้ำหนักคือกินอาหารที่ให้แคลอรีต่ำกว่าแคลอรีที่เราเบิร์นออกไป ทําตามนี้คุณจะมีสิทธิ์ใส่
ยีนส์ตัวโปรดที่เคยใส่ตอนผอมได้ในเวลาไม่นาน แล้วทําไมไม่เห็นทุกคนจะผอมเพรียวหุ่นเป๊ะเหมือนซูเปอร์โมเดลอย่าง ไฮดี คลูม
(Heidi Klum) เลยล่ะ นี่เป็นเพราะการคุมน้ำหนักไม่ให้เด้งกลับมาโยโย่อีกนั้นไม่ได้ขนึ้ อยูก่ ับการนับแคลอรีเข้าปากหรอกค่ะ สาว
ส่วนใหญ่มีความรู้ทางโภชนาการที่เน้นเพียงแค่นับจํานวนแคลอรีที่เข้าและออกจากร่างกายเท่านัน้ แต่ยงั ขาดปัจจัยสําคัญที่มีผลต่อ
การลดน้ำหนักไปสองอย่างคือ “การเปลีย่ นแปลงความคิด และพฤติกรรม”

ถ้าจะอธิบายให้งา่ ยขึน้ ก็ต้องบอกว่า หากคุณไม่อยากหล่นจากสวรรค์ของคนหุ่นดี เวลาอกหักครั้งต่อไปคุณต้องฝึกสมองให้


คิดเป็น การเลิกนิสยั การกินทีไ่ ม่ดตี อ่ สุขภาพจะสําเร็จได้ก็ดว้ ยการท้าทายและฝึกความคิด ความรู้สึก และปฏิกิริยาตอบสนองที่เรา
เคยทําซ้ำๆมาตลอดชีวิต เราไม่อยากพูดให้เป็นทฤษฎีจิตวิทยามากเกินไป แต่หมอและผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนักหลายคนเห็น
ตรงกันว่า ถ้าอยากลดรอบเอวได้ถาวร เราจําเป็นต้องเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ของเรากับอาหาร หมายถึงเราต้องมีสติรู้ว่าตัวเอง
กําลังกินตามอารมณ์ และตั้งเป้าเลิกพฤติกรรมนี้ให้ได้ นอกจากนัน้ ยังต้องฝึกใจตัวเองให้คุ้นชินกับพฤติกรรมการกินทีด่ ีต่อสุขภาพ
ด้วย
นักจิตวิทยาพฤติกรรมพบว่า หากเลิกคิดอะไรในแง่ลบไปที่ละเรื่อง เราสามารถเปลี่ยนนิสัยให้กลายเป็นคนคิดบวกได้ พฤติกรรม
การกินก็เหมือนกัน มาลองทําตามเคล็ดลับดีๆและแบบฝึกหัดที่เรานํามาฝาก จะได้ไม่ตอ้ งแจ้นไปปรึกษาจิตแพทย์ให้เปลืองเวลา

เลข ที่วา่ งสำหรับร่างรหัสคำตอบ


ข้อความทีก่ ำหนด
กำกับ คำตอบที่1 คำตอบที่2 คำตอบที่3 คำตอบที่4
01 การลดน้ำหนัก
02 นิสัยการกินที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
03 การเปลี่ยนแปลงความคิด
04 การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม

บทความจาก : https://www.health-th.com/articles/

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 194


บทความที่ 5 – ประโยชน์ของการวิง่
ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าการวิ่งนั้นสามารถช่วยลดน้ำหนักและปรับรูปร่างได้ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าความจริงแล้วประโยชน์
ของการวิง่ นั้นคือ ดีต่อร่างกายแทบทุกส่วน รวมไปถึงยกระดับอารมณ์ของคุณขึ้นมาได้ดว้ ย การวิ่งนัน้ ช่วยให้คุณสุขภาพดีขึ้นอย่าง
เหลือเชื่อ และแม้ว่าการออกกำลังกายอาจไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนจะชื่นชอบ แต่ลองมาดูกันก่อนว่าการวิ่งมีประโยชน์มากมายขนาดไหน
บางทีคุณอาจมองการวิ่งด้วยมุมมองใหม่ๆ แล้วอยากลองวิ่งดูสักทีก็ได้นะ
1. ปรับปรุงสุขภาพของคุณ เชื่อหรือไม่ว่าการวิ่งนัน้ เป็นวิธสี ุดยอดของการยกระดับสุขภาพทั้งเรือนร่าง จากการวิจัยพบว่า
การวิ่งจะช่วยเพิ่มระดับของคอเลสเตอรอลที่ดี ในขณะที่ช่วยยกระดับการทำงานของปอดและช่วยให้ใช้งานปอดได้ดขี นึ้ ทัง้ ยังเพิ่ม
ระดับของภูมิคุ้มกัน และยังลดความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือดได้ด้วย
2. ป้องกันโรค สำหรับผู้หญิง การวิ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านม และยังลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอด
เลือดสมอง แพทย์หลายคนแนะนำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานระยะแรกให้ออกกำลังกายด้วยการวิ่ง รวมไปถึงยังเหมาะกับผู้ป่วยโรค
ความดันโรคหิตสูง โรคกระดูกพรุน และยังช่วยป้องกันความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจได้ โดยการวิ่งจะช่วยให้หลอดเลือดแดงมี
ความยืดหยุ่นขึน้ เสริมสร้างความแข็งแรงของหัวใจ ลดโอกาสที่จะมีอาการหัวใจวายได้อย่างมาก
3. ช่วยลดน้ำหนัก การวิ่งเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยให้คุณลดน้ำหนักหรือรักษาน้ำหนักไว้ให้คงที่ ซึ่งการวิ่งนี้จะช่วยเผา
ผลาญพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นอันดับสอง เมื่อเทียบกันเป็นพลังงานต่อนาที ซึ่งเป็นรองแค่การเล่นสกีเท่านั้น
4. เพิ่มความมั่นใจของคุณ การวิ่งไม่เพียงแต่มีประโยชน์ต่อร่างกายเท่านั้น แต่ยังช่วยกระตุ้นความมั่นใจและความนับถือ
ตัวเองขึ้นมาได้ด้วย ด้วยการตั้งเป้าหมายอย่างมีวินยั และมุง่ มั่นในการวิง่ จะช่วยให้คุณได้รู้สึกมีอำนาจในตนเอง
5. บรรเทาความเครียด ความเครียดเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาสุขภาพและปัญหาทางด้านอารมณ์ นอกจากนี้ยงั ลดความ
อยากอาหารและคุณภาพการนอนหลับก็ลดลงไปด้วย เมื่อคุณวิ่งจะมีการบังคับให้รา่ งกายใช้พลังงานและฮอร์โมนส่วนเกิน จึงช่วย
ลดอาการปวดหัวจากความตึงเครียดได้

เลข ที่วา่ งสำหรับร่างรหัสคำตอบ


ข้อความทีก่ ำหนด
กำกับ คำตอบที่1 คำตอบที่2 คำตอบที่3 คำตอบที่4
01 ใช้งานปอดได้ดีขึ้น
02 โรค
03 มะเร็งเต้านม
04 โรคหลอดเลือดสมอง
05 การวิ่ง
06 ร่างกายใช้พลังงานและฮอร์โมนส่วนเกิน
07 อาการปวดหัวจากความตึงเครียด

บทความจาก : https://www.health-th.com/articles/

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 195


แบบทดสอบฝึกฝีมือ
แนวข้อสอบความถนัดแพทย์
PART เชือ่ มโยง
บทความที่ 1
2012 วันสิ้นโลก
เมื่อเร็วๆ มานี้ องค์การ NASA ได้เคยทำให้สาธารณะชนเกิดความหวาดหวั่นด้วยการออกมาเปิดเผยว่าการพลิกกลับ
ของขั้วแม่เหล็กโลกจะทำให้ความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กโลกอ่อนลงและไร้ความมั่นคงแต่ไม่ถึงกับลดลงถึงระดับศูนย์
แต่จากการศึกษาร่วมกันของนักวิทยาศาสตร์ด้านคอมพิว เตอร์จำนวนหนึ่ง กับกลุ่มนักธรณีฟิสิกส์และนักดาราศาสตร์
ฟิสิกส์พบว่า ทั้งโลกและดวงอาทิตย์จะสิ้นสุดระยะเวลาที่ใช้ในกระบวนการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็ก(Magnetic Pole Reversal) ใน
ปี ค.ศ. 2012 โดยครั้งล่าสุดกระบวนการนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อหลายล้านปีที่ผ่านมาจนทำให้สัตว์จำพวกไดโนเสาร์สูญพันธ์จนหมดสิ้น
จากการค้นคว้าวิจัยและการวิเคราะห์ร่วมกันใน Hyderabad ได้คาดการณ์ว่าการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงครั้งใหม่นี้จะเกิดขึ้นในปี
ค.ศ. 2012
คำถาม....? โลกจะเป็นอย่างไรเมื่อขั้วแม่เหล็กโลกกำลังพลิกด้าน
การพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กโลก คือ กระบวนการที่ขั้วแม่เหล็กเหนือและขั้วแม่เหล็กใต้สลับตำแหน่งกัน เมื่อการพลิก
กลับของขั้วแม่เหล็กนี้เกิดขึ้น ณ ขณะเวลาใดเวลาหนึ่ง (ซึ่งไม่สามารถทำนายได้ว่าจะกินเวลานานเท่าใด อาจกินเวล าแค่ 1 ช.ม.
หรืออาจเป็นเดือนก็ได้) มันหมายถึงว่าค่าการเหนี่ยวนำของสนามแม่เหล็กโลกจะลดลงจนมีค่าเป็นศูนย์หน่วยเกาส์ และโลก ณ
ขณะเวลานั้นจะสูญเสียอำนาจแห่งสนามแม่เหล็กโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
คำถาม....? จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไม่มีสนามแม่เหล็กโลก
โดยปกติสนามแม่เหล็กโลก จะเป็นเสมือนโล่กำบังที่ช่วยปกป้องโลกไว้อีกชั้นหนึ่งโดยเฉพาะการช่วยกำบังโลกจากพายุ
สุริยะที่เกิดจากดวงอาทิตย์ แต่เมื่อไม่มีสนามแม่เหล็กโลกในเวลาที่ว่านั้น สิ่งมีชีวิตบนโลกจะต้องเจอกับหายนะ นั่นก็คือ พายุสุริยะ
(บางคนเรียกลมสุริยะ) พายุสุริยะ คือ พลังงานที่เกิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ที่เกิดจากธาตุไฮโดรเจนบนพื้นผิวดวงอาทิตย์ ซึ่งจะถูก
ปล่อยออกมาสู่อวกาศด้วยแรงระเบิดมหาศาล ซึ่งพายุสุริยะนั้นประกอบด้วย รังสีคอสมิก(และอีกมากมาย) และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
อันมหาศาล
คำถาม....? เราจะเป็นอย่างไรเมื่อต้องเผชิญกับพายุสุริยะ
‘ฮารัลด์ เลสช์’ (Harald Lesch) ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย ‘มิวนิค’ ได้สร้างแบบจำลองสนามแม่เหล็กโลกขึ้นมา
ศึกษาในเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ เพื่อหาคำตอบว่าโลกเราจะเป็นอย่างไรหากไม่มีสนามแม่เหล็ก แบบจำลองที่ ‘ฮารัลด์ เลสช์’ สร้าง
ขึ้นพบว่า ถ้าโลกเราถูกพายุสุริยะกระหน่ำ ผลที่ได้สร้างความประหลาดใจอย่างยิ่ง จากภาพจำลองที่คอมพิวเตอร์สร้างขึ้น แสดงให้
เห็นว่า เมื่อมวลอนุภาคคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากพายุสุริยะมาถึงโลก จะทำปฏิกิริยากับชั้นบรรยากาศเกิดเป็นสนามแม่เหล็กชุดใหม่
มาแทนที่และทรงพลังพอที่จะทานแรงปะทะของรังสีคอสมิก ทำให้รังสีคอสมิกที่เป็นอันตรายจากดวงอาทิตย์เบนออกสู่อวกาศ แต่
ทว่าโลกเรานั้นสามารถรอดพ้นจากอันตรายจากรังสีคอสมิกไปได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจากกระบวนการนี้ไม่ได้เป็นผลดีต่อสิ่งมีชีวิตบนโลก
เลย ตามหลั ก แล้ ว กระแสไฟฟ้ า จะไหลไปสู่ ที่ ๆ มี ค วามต่ า งศั ก ย์ ที่ น้ อ ยกว่ า และสนามแม่ เหล็ ก ชุ ด ใหม่ ที่ จ ะเกิ ด ขึ้ น จากคลื่ น
แม่เหล็กไฟฟ้านั้นไม่ได้เสถียรเหมือนแม่เหล็กโลกเดิม ฉะนั้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ทำปฏิกิริยากับบรรยากาศโลกย่อมไม่ได้หยุดอยู่
เพียงแค่นั้น สิ่งที่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะกระทำต่อไปนั้นก็คือ การปลดปล่อยพลังงานไฟฟ้าอันมหาศาลสู่ ที่ๆมีความต่างศักย์ที่น้อย
กว่า นั่นก็คือพื้นผิวโลก เหตุการณ์ที่ว่านี้คือ พายุฟ้าผ่านั่นเอง พายุฟ้าผ่านี้ อาจกินเนื้อที่ทั้งทวีปหรือทั่วโลก สายฟ้าที่กระหน่ำลง
มาจากก้อนเมฆอิเล็กตรอนนั้น จะกระหน่ำผ่าลงมาทุกๆที่โดยไม่หยุดจนกว่าพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากพายุ สุริยะจะหมดลง

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 196


และจะเกิดขึ้นอีกถ้าพายุสุริยะลูกต่อไปมาถึง หรือจนกว่าการกลับขั้วของแม่เหล็กโลกจะเสร็จสมบูรณ์จนทำให้กระบวนการสร้าง
สนามแม่เหล็กโลกจะทำงานได้อีก สิ่งมีชีวิตบนโลกมากมายจะต้องตาย และเทคโนโลยีต่างๆที่มนุษย์สร้างขึ้นจะถูกทำลายลงในครั้ง
นี้ แต่ ถ้ ารังสี คอสมิ ก สามารถหลุ ดรอดมาจากสนามแม่ เหล็ก ไฟฟ้ าได้ สิ่ งมี ชีวิต ที่ รอดจากการถู กฟ้ าผ่ า ก็ อาจจะต้อ งตายจาก
โรคมะเร็งและความร้อน
คำถาม....? เมื่ อสนามแม่ เหล็ กโลกเกิ ดการพลิก ตั วอย่ างสมบู รณ์ จะเกิ ดอะไรขึ้น กั บ โลก สิ่ งที่ จะกล่ าวต่ อไปนี้ อ าจจะ
เหลือเชื่อ แต่ตามหลักการแล้วย่อมเป็นไปได้ การพลิกด้านของขั้วแม่เหล็กโลกนี้ไม่ได้ทำให้เกิดความหายนะจากพายุสุริยะแค่เพียง
อย่างเดียว แต่อาจเกิดหายนะจากการหมุนกลับทางของโลกที่จะเกิดตามมาอีก ยกตัวอย่างเช่น การหมุนของมอเตอร์ มอเตอร์แบบ
ธรรมดามี 2 ขั้ว โดยให้สัญลักษณ์ A และ B ก่อนที่ขั้วแม่เหล็กโลกจะพลิกตัว ให้เปรียบโดยการใช้ไฟฟ้าขั้ว + ต่อเข้ากับ A และ
ไฟฟ้าขั้ว - ต่อเข้ากับ B มอเตอร์จะหมุนไปทางใดทางหนึ่ง แต่เมื่อเราต่อขั้วไฟฟ้ากลับด้านกัน ย่อมทำให้มอเตอร์เกิดการหมุน
ทิศทางตรงกันข้ามกับครั้งแรก และนี่ก็เปรียบกับการพลิกด้านของขั้วแม่เหล็กโลกนั่นเอง
คำถาม....? แล้วสิ่งมีชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อไป
เมื่อโลกหมุนกลับทาง สิ่งมีชีวิตที่เหลืออาจจะต้องเจอกับภัยธรรมชาติมากมาย โลกหมุนกลับทางย่อมทำให้ทุกสิ่งเปลี่ยน
ทั้งกระแสน้ำทะเล กระแสลม รวมถึงแผ่นดินเปลี่ยนไป จากนี้จะเกิดอะไรขึ้นย่อมไม่มีใครรู้ได้ มนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่มีชีวิตรอด จะ
ปรับตัวอย่างไรเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก มนุษย์ที่เหลือจะทำอย่างไรเมื่อวันนั้นมาถึง............
ในแง่ความคิดของผู้มีญาณในไทย
ผู้มีญ าณทั้งหลายได้บรรยายภาพที่ได้เห็นมาว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตบ้าง เช่น ประเทศไทยในอนาคตจะเหลือแค่
ภาคเหนือและภาคอีสานเท่านั้น ที่เป็นพื้นที่แผ่นดินผืนใหญ่ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะรอดพ้นภัย อย่างเช่นที่เชียงใหม่ จะเกิดการ
ยุบตัวและการเลื่อนของผิวดิน ภูเขาจะถล่มลงมา... แต่จะเริ่มเห็นลางภัยพิบัติในครั้งนี้ชัดเจนขึ้นในอีกประมาณ 5 ปีนับจากนี้ และ
จำเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ เช่น มีภัยพิบัติมากกว่าเดิมในหลายๆที่ ไปจนถึงเวลาที่แกนโลกพลิกตัวจริงๆ ในอีก 10-15 ปี

ขอบคุณบทความจากหนังสือ แนวข้อสอบวิชาเฉพาะแพทย์

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 197


เลข ที่วา่ งสำหรับร่างรหัสคำตอบ
ข้อความทีก่ ำหนด
กำกับ คำตอบที่1 คำตอบที่2 คำตอบที่3 คำตอบที่4 คำตอบที่5
01 สิง่ มีชวี ติ บนโลกมากมายจะต้องตาย
02 รังสีคอสมิก
03 ทำปฏิกริ ยิ ากับชัน้ บรรยากาศ
04 ดวงอาทิตย์ขนึ้ ทางทิศตะวันตก
05 สนามแม่เหล็กโลก
06 พายุสรุ ยิ ะ
07 พายุฟา้ ผ่า
08 ปฏิกริ ยิ านิวเคลียร์ทเี่ กิดจากธาตุ
ไฮโดรเจนบนพืน้ ผิวดวงอาทิตย์
09 ทัง้ กระแสน้ำทะเล กระแสลม รวมถึง
แผ่นดินเปลีย่ นไป
10 เทคโนโลยีต่างๆที่ม นุษ ย์สร้างขึ้น จะถูก
ทำลายลง
11 คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
12 การพลิกด้านของขั้วแม่เหล็กโลก
13 โรคมะเร็ง
14 ความร้อน
15 สนามแม่เหล็กชุดใหม่
16 โลกหมุนกลับทาง

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 198


บทความที่ 2
วาฬ
มนุษย์รู้จักปลาวาฬมานานแสนนานแล้ว Aristotle นักปราชญ์ชาติกรีกในสมัยพุทธกาลได้เคยหลงผิดว่าปลาวาฬเป็นปลา
และความหลงผิดนี้ได้ติดตามมาจนกระทั่งปี พ.ศ. 2236 John Ray นักชีววิทยาชาวอังกฤษก็ได้เป็นบุคคลแรกที่ตระหนักความจริง
ว่า ปลาวาฬมิใช่ปลาแต่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เพราะมันออกลูกเป็นตัวและเลี้ยงลูกอ่อนของมันด้วยนม ตามปกติปลาวาฬจะ
ตั้งครรภ์นาน 1 ปี และเวลาคลอดลูกส่วนหางของลูกจะโผล่ออกมาก่อน ลูกปลาวาฬสีน้ำเงิน (blue whale) ที่คลอดใหม่ๆ มีลำตัว
ยาวประมาณ 6 เมตร และหนักประมาณ 2 ตัน และเนื่องจากนมปลาวาฬมีโปรตีนและไขมันสูง ลูกปลาวาฬจึงเจริญเติบโตเร็ว นัก
ชีววิทยายังได้สังเกตเห็นอีกว่า หากเราเจาะครรภ์ปลาวาฬก่อนคลอดลูก เราจะพบว่าลูกปลาวาฬในท้องมีขนตามตัว แต่ขนเหล่านี้
หลุดจากร่างของตัวอ่อนไปก่อนที่มันจะถูกคลอดออกมา
เมื่อดูเผินๆ ปลาวาฬมีลำตัวที่ดูคล้ายตอร์ปิโดหรือในทางตรงกันข้าม ตอร์ปิโดก็ดูคล้ายปลาวาฬ มันมีศีรษะใหญ่ ไม่มีคอ
ตาของมันมีขนาดเล็ก รูจมูกของมันอยู่บนหลัง มันหายใจได้เช่นเดียวกันกับคน โดยผ่านรูจมูก 2 รู ตามธรรมดาปลาวาฬชอบกิน
สัตว์น้ำ เช่น กุ้ง ปลาหมึก แมวน้ำ และปลาต่างๆ เป็นอาหาร เวลาว่ายน้ำมันใช้หางโบกขึ้นลงๆ ทำให้ว่ายน้ำได้เร็ว โดยเฉพาะ
ปลาวาฬพิฆาต(Orcunus orca) นั้น สามารถว่ายน้ำได้เร็วถึง 56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนความสามารถด้านการดำน้ำลึกนั้น นัก
ชีววิทยาได้สังเกตเห็นว่าปลาวาฬสามารถกลั้นลมปราณได้นานเป็นชั่วโมง เพราะออกซิเจนมิได้อยู่ที่ปอดของมันเพียงแห่งเดียวแต่
อยู่ในส่วนที่เป็นกล้ามเนื้อด้วย การมีออกซิเจนในตัวมากเช่นนี้ ทำให้เนื้อปลาวาฬมีสีแดงเข้มจัดกว่าเนื้อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิด
อื่นๆ
นอกจากความสามารถในการดำน้ำแล้ว ปลาวาฬยังสามารถส่งเสียง และทำเสียงสัญญาณต่างๆ ได้อีกมากมายด้วยและ
นับตั้งแต่วินาทีที่มันถูกคลอดออกจากท้องของแม่มัน จนกระทั่งถึงวินาทีสุดท้ายก่อนที่มันจะตายมันจะส่งเสียงและรับเสียงต่างๆ
ตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน หรือในยามที่มันออกล่าเหยื่อ มันก็จะส่งคลื่นเสียงออกไปกระทบตัวเหยื่อก่อน จากนั้นมันจะ
คอยฟังคลื่นที่สะท้อนจากเหยื่อ ข้อมูลที่ได้จะบอกมันให้รู้ชนิดและตำแหน่งของเหยื่อ และถึงแม้ปลาวาฬจะไม่มีคอและไม่มีสายเสียง
ก็ ต าม แต่ มั น ก็ สามารถส่ งเสี ย งร้ อ งออกไปได้ ไกลๆ เสี ย งของปลาวาฬบางพั น ธุ์ ดั งพอๆกั บ เครื่ อ งบิ น เจ็ ต นั ก ชี ว วิท ยายั งได
สังเกตเห็นอีกว่า ปลาวาฬเวลาสนทนากันมันจะส่งเสียงร้องลักษณะหนึ่งเพื่อพูดคุย แต่เวลามันจะฆ่าเหยื่อมันจะร้องอื้ออึงอีกแบบ
หนึ่ง หรือเวลาที่มันว่ายน้ำเป็นกลุ่ม มันจะส่งเสียงร้องที่มีทำนองต่างออกไป เพื่อบอกเพื่อนปลาร่วมทะเลให้รู้ทิศและตำแหน่งที่มัน
กำลังว่ายน้ำอยู่ ปลาวาฬจะส่งเสียงร้องเป็นจังหวะ เช่น ปลาวาฬสีน้ำเงิน เวลาอพยพย้ายถิ่น จะส่งเสียงร้องนาน 20 วินาที สลับ
กับการว่ายน้ำเงียบ 20 วินาที ปัจจุบันนักอนุรักษ์ปลาวาฬใช้ข้อมูลเสียงของปลาวาฬในการบอกจำนวน ชนิด และกิจกรรมต่างๆ ที่
ปลาวาฬกระทำ เพราะข้อมูลเสียงนี้ชัดเจน แม่นยำ และถูกต้องยิ่งกว่าการสังเกตดูปลาวาฬด้วยตาจากระยะไกลๆ
ในอดีตเมื่อ 1,000 ปีก่อนนี้ ชนเผ่า Basque ในยุโรปเป็นชนเผ่าแรกที่ดำรงชีวิตโดยการจับปลาวาฬมาเป็นอาหาร ต่อมา
ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 16 ชาวแคนาดา อังกฤษ และเนเธอร์แลนด์ก็ได้เริ่มเข้ามาประกอบอาชีพเป็นนักล่าปลาวาฬด้วย และ
กิจกรรมล่าปลาวาฬได้มีการดำเนินการกันอย่างกว้างขวางและจริงจัง เพราะมนุษย์พบว่าแทบทุกส่วนของปลาวาฬมีประโยชน์ เช่น
ไขใช้ทำสบู่ น้ำมันหล่อลื่น เชื้อเพลิงจุดตะเกียง เนื้อใช้บริโภคและกระดูกปลาวาฬใช้ทำเป็นปุ๋ย
จากรายงานการสำรวจปลาวาฬ พบสาเหตุสำคัญทำให้โลกต้องสูญเสียปลาวาฬมากที่สุดว่า เกิดจากการที่ปลาวาฬถูก
เรือชน และเมื่ออัตราการเกิดลด เพราะปลาวาฬผสมพันธุ์กันในตระกูลเดียวกัน และมลภาวะของทะเลมีมากขึ้นทุกวัน จึงทำให้
จำนวนปลาวาฬลดลงทุกปี

ขอบคุณบทความจากหนังสือ แนวข้อสอบวิชาเฉพาะแพทย์

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 199


เลข ที่วา่ งสำหรับร่างรหัสคำตอบ
ข้อความทีก่ ำหนด
กำกับ คำตอบที่1 คำตอบที่2 คำตอบที่3 คำตอบที่4 คำตอบที่5
01 สัตว์เลีย้ งลูกด้วยนม
02 อยูท่ ี่ปอด
03 อยูใ่ นส่วนทีเ่ ป็นกล้ามเนือ้
04 กลัม้ ลมปราณได้นานเป็นชัว่ โมง
05 ส่งเสียงและรับเสียงต่างๆ
06 ปลาวาฬ
07 ออกลูกเป็นตัว
08 มีออกซิเจนในตัวมาก
09 เนือ้ ปลาวาฬมีสแี ดงเข้มจัดกว่า
เนือ้ สัตว์เลีย้ งลูกด้วยนมชนิดอืน่ ๆ
10 รู้ชนิดและตำแหน่งของเหยื่อ
11 เวลาสนทนากัน
12 ผสมพันธุ์กันในตระกูลเดียวกัน
13 จำนวนปลาวาฬลดลงทุกปี
14 ถูกเรือชน
15 อัตราการเกิดลด
16 เลี้ยงลูกอ่อนของมันด้วยนม
17 มลภาวะของทะเล

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 200


บทความที่ 3
โยเกิร์ต กินแล้ว “เกิด” ประโยชน์
โยเกิร์ตเป็นผลิตภัณฑ์นมที่เป็นหนึ่งในนมเปรี้ยวที่มีประโยชน์มากมาย ทําได้จากนมชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น นมสด นม
ถั่วเหลือง หรือนมพร่องมันเนย
โยเกิร์ตจะต้องได้จากแบคทีเรียที่ใช้หมักนม และแบคทีเรียที่ใช้หมักนมนั้นมี 2 ชนิด คือ แล็กโทบาซิลลัส เอซิโดฟิลัส
กับสเตรปโทค็อกคัส เทอร์โมฟิลัส ซึ่งเป็นแบคทีเรียกลุ่มที่ผลิตกรดแลกติกทั้งคู่ แบคทีเรียเหล่านี้ช่วยย่อยน้ำตาลแลกโทสในนมให้
เป็นกรดแลกติกทําให้มีภาวะกรดและมีรสเปรี้ยว ปัจจุบันนี้ รสเปรี้ยวในโยเกิร์ตตามท้องตลาดมักจะได้จากการปรุงแต่งด้วย น้ำตาล
น้ำผลไม้ และรสสังเคราะห์ต่าง ๆ ซึ่งล้วนทําให้ผู้บริโ ภคได้รับคุณค่าจากโยเกิร์ตได้ไม่เต็มที่ ดังนั้นเพื่อประโยชน์สูงสุด ผู้บริโภคจึง
ควรอ่านฉลากผลิตภัณฑ์ก่อนซื้อ และเลือกโยเกิร์ต ที่ผ่านการปรุงแต่งน้อยที่สุด
โยเกิร์ตนั้นมีประโยชน์มากมาย ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้ มกัน ช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร เพราะมีงานวิจัยยืนยัน
มาแล้ว พบว่าผู้ป่วยเด็กหายจากอาการท้องเสียเร็วขึ้น หลังจากได้รับประทานโยเกิร์ต และโยเกิร์ตมีสมบัติพิเศษที่ไม่เหมือน นม
ทั่วไป คือ ย่อยง่าย เพราะน้ำตาลแลกโทสซึ่งเป็นตัวหลักที่ทําให้เกิดการแพ้นมหรือท้องเสี ย ถูกเปลี่ยนสภาพให้กลายเป็น น้ำตาล
กลูโคสและกาแลกโทส ซึ่งสามารถดูดซึมได้ทันที นอกจากนี้แบคทีเรียที่ใช้หมักโยเกิร์ต ยังมีเอนไซม์ช่วยย่อยโปรตีนนมที่มีชื่อว่าเค
ซีน ซึ่งเป็นโปรตีนย่อยยาก เมื่อโดนย่อยแล้วก็จะทําให้ ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายขึ้น ลดปัญหาภูมิแพ้ต่อน้ ำตาลแลกโทสและ
โปรตีนเคซีน
กรดแลกติกซึ่งเป็นส่วนประกอบของโยเกิร์ตช่วยยับยั้งจุลชีพที่ไม่เป็นมิตรในลําไส้ได้ เช่น Salmonella typhi ที่ก่อให้เกิด
โรคไข้รากสาดน้อ ยหรือไข้ไทฟอยด์ เชื้อ Corynebacterium diphtheriae ซึ่งก่ อให้เกิ ดโรคคอตี บ และเชื้อ Escherichia coli ซึ่ ง
ก่อให้เกิดโรคท้องร่วง กรดแลกติกจะไปทําให้เชื้อไม่เป็นมิตรไม่สามารถทําอันตรายต่อร่างกายได้ นอกจากนี้กรดตัวนี้ยัง ช่วยทําให้
ร่างกายดูดซึมแคลเซียมดีขึ้น เพราะมันช่วยทําให้การย่อยแคลเซียมในน้ำนมดีขึ้นนั่นเอง
แบคทีเรียที่ใช้หมักโยเกิร์ตชนิดต่าง ๆ ยังช่วยสังเคราะห์วิตามินบีและวิตามิ นเคในลําไส้ ทําให้ร่างกายได้วิตามินเหล่านี้
เป็นผลพลอยได้ไปด้วย ส่วนแบคทีเรียกลุ่มแล็กโทบาซิลลัสจะมีสมบัติพิเศษที่ช่วยควบคุมปริมาณคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์
ในเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุ ของโรคหลอดเลือดหัวใจ แล็กโทบาซิลลัสสามารถจับกับ สารก่อมะเร็ง โลหะหนัก และกรดน้ำดี ซึ่งมีพิษ
ช่วยยับยั้งกลุ่มแบคทีเรียในลําไส้ที่สร้างสารไนเตรตได้ ซึ่ งสารไนเตรตเป็นสารก่อมะเร็งตัวหนึ่ง และแล็กโทบาซิลลัสยังช่วยเปลี่ยน
สารฟลาโวนอยด์จากพืชให้เกิดเป็นสารต้านมะเร็งได้
โยเกิร์ตนั้นมีประโยชน์มากมาย แต่โยเกิร์ตก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นที่ทำให้สุขภาพเราดี หากเรารับประทานแต่
โยเกิร์ตโดยไม่รับประทานอย่างอื่นเลย ร่างกายก็จะได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน ถ้าไม่ออกกำลังกายและขาดการพักผ่อนที่เพียงพอ
สุขภาพก็จะเสื่อมโทรม อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ดังนั้น เพื่อสุขภาพที่ดี เราจึงควรรับประทานแต่พอดี ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
และนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 201


ขอบคุณบทความจากหนังสือ แนวข้อสอบวิชาเฉพาะแพทย์

เลข ที่วา่ งสำหรับร่างรหัสคำตอบ


ข้อความทีก่ ำหนด
กำกับ คำตอบที่1 คำตอบที่2 คำตอบที่3 คำตอบที่4 คำตอบที่5
01 โยเกิรต์
02 นมพร่องมันเนย
03 นมเปรีย้ ว
04 รสเปรีย้ ว
05 ภาวะกรด
06 กรดแลกติก
07 แบคทีเรียที่ใช้หมักนม
08 จุลนิ ทรียท์ ี่เป็นอันตราย
09 แล็กโทบาซิลลัส เอซิโดฟิลสั
10 สเตรปโทค๊อกคัส เทอร์โมฟิลัส
11 Salmonella typhi
12 E.coli
13 ภูมิคุ้มกัน
14 ดูดซึมแคลเซียม
15 ย่อยง่าย
16 วิตามินบี
17 วิตามินเค
18 โรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร
19 โรคหลอดเลือดหัวใจ
20 สารต้านมะเร็ง

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 202


บทความที่ 4
หยินหยาง พลังยิ่งใหญ่
เชื่อว่าผู้อ่านทุกท่านคงเคยได้ยินคําว่า “หยิน-หยาง” และเคยเห็นสัญลักษณ์สีขาวดํา กันจนชินตาแล้ว แต่หลายคนอาจ
เข้าใจความหมายผิด คิดว่าเป็นการทํานายเกี่ยวกับโชคชะตาราศี การเสี่ยงทายอนาคต แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่... มั นเป็น
เรื่องเกี่ยวกับธรรมชาติและร่างกายมนุษย์ต่างหาก
คนจีนเชื่อว่าพลังงานแห่งจักรวาลมีอยู่ 2 ขั้ว คือ หยินและหยาง (Yin-Yang)
หยาง เป็นพลังงานที่เข้มแข็งและสร้างสรรค์ หากมากไปก็ออกฤทธิ์ร้อน หยางเกี่ยวข้องกับดวงอาทิตย์ ความสว่าง ความ
สร้างสรรค์จากสมองซีกขวา เป็นขั้วบวก เป็นสัญลักษณ์ของเพศชาย
หยิน เป็นพลังฤทธิ์เย็น เกี่ยวข้องกับดวงจันทร์ ความมืด และความตาย หยินเกิดจาก สมองซีกซ้าย เป็นขั้วลบ เป็น
สัญลักษณ์ของเพศหญิง
หยินและหยางเป็นพลังที่ทั้งส่งเสริมซึ่งกันและกัน และหักล้างกันในคราวเดียว ดังนั้น 2 พลังนี้ต้องสมดุล จึงจะเกื้อกูลซึ่ง
กันและกัน ชีวิตไหลลื่นไม่ติดขัดหรือเจ็บป่วย จึงต้องปรับสภาวะด้วยอาหารพลังตรงข้ามกัน หรือลดอาหารที่ส่งพลังเดียวกัน
อาหารเป็ น วิ ถี แ ห่ ง วิ วั ฒ นาการ ซึ่ งทํ า ให้ สิ่ง มี ชี วิ ต ชนิ ด หนึ่ งเปลี่ ย นไปเป็ น อี ก ชนิ ด หนึ่ ง เพราะการกิ น คื อ การนํ า เอา
สิ่งแวดล้อมทั้งหมดเข้าไปภายในร่างกาย เช่น แสงแดด ดิน น้ำ และ อากาศ การแบ่งอาหารเป็นหยินและหยาง เป็นสิ่งจําเป็น
สําหรับการปรุงอาหารที่สมดุล ปัจจัยของการเจริญเติบโตและโครงสร้างของอาหารที่แตกต่างกันจะเป็นตัวบ่งชี้ว่า อาหารชนิดนั้นมี
แนวโน้มเป็นหยินหรือหยาง
อาหารหยินมีแนวโน้มที่จะมีลักษณะดังนี้ : มีโพแทสเซียมมาก เติบโตได้ดีในสภาพ ภูมิอากาศอบอุ่นหรือร้อน ถ้าเป็นพืช
จะโตเร็ว มีลําต้นใหญ่กว่า สูงกว่า อ่อนกว่า เหลวเป็นน้ำ เติบโตเป็นแนวตั้งตรงขึ้นไปในอากาศ และเติบโตไปแนวนอนข้างใต้พื้นดิน
มีใบที่ใหญ่กว่า ขอบใบเรียบ ผลสุกเร็ว
อาหารหยินจะมีพลังหยินอยู่มาก เมื่อกินอาหารหยินเข้าไป ก็จะทําให้ร่างกายเย็นขึ้น นุ่มขึ้น สงบ ช้าลง ต้องการเวลา
นอนหลับมากขึ้น อาหารชนิดนี้จึงเรียกอีกอย่างว่าอาหารฤทธิ์เย็น
อาหารหยางมีแนวโน้มที่จะมีลักษณะดังนี้: มีโซเดียมมาก เติบโตได้ดีในสภาพภูมิอากาศหนาวหรือเย็น หรือเติบโตในฤดู
หนาว เติบโตช้า ลําต้นเล็ก สั้น แข็ง มีน้ำเป็นองค์ประกอบน้อย เติบโตไปตามแนวนอนเหนือพื้นดิน และเติบโตเป็นแนวตั้งตรงลงไป
ในดิน มีใบเล็กกว่า ขอบใบเป็นหยัก แข็งขึ้นเมื่อปรุงสุกแล้ว
อาหารหยางจะมีพลังหยางอยู่มาก การกินอาหารหยางจึงทําให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น แข็งขึ้น อารมณ์หุนหัน เคลื่อนไหว
รวดเร็ว ใช้เวลานอนหลับสั้น อาหารชนิดนี้จึงเรียกอีกอย่างว่า อาหารฤทธิ์ร้อน
ในการจัดประเภทของอาหารนั้นต้องสังเกตวงจรของการเจริญเติบโตของพืชนั้น ๆ ใน หน้าหนาวพลังของพืชผักจะลงไป
อยู่ที่ราก พลังชีวิตของพืชจะเข้มข้น แห้งกว่า เก็บไว้ได้นานกว่า ให้ความอบอุ่น ดังนั้น พืชจะมีพลังหยางมากกว่า ส่วนหน้า ร้อน
พืชจะเป็นหยินมากกว่า มีน้ำมากกว่า เหี่ยวเฉาและเน่าได้ง่าย จะให้ความเย็นแก่ร่างกายในหน้าร้อน
วงจรประจําปีนี้แสดงให้เห็นการสลับไปมาระหว่างพลังของหยินและหยางเมื่อฤดูกาลเปลี่ยนแปลง สามารถใช้ได้กับทุก ๆ
ส่วนของโลก อาหารที่กําเนิดในเขตร้อนมักจะเขียวชอุ่ม ฉ่ำและอุดมสมบูรณ์ ก็จะจัดไว้ในกลุ่มอาหารหยินมากกว่า ในขณะที่อาหาร
ซึ่งมีกําเนิดจากเขตอากาศหนาวจะอยู่ในกลุ่มอาหารหยางมากกว่า
หากกิ น อาหารแบบใดแบบหนึ่งมากเกิ น ไปจนพลั ง หยิ น หยางเสีย สมดุล สมดุ ลแห่งพลัง ทั้ งสองก็จะถู กทํ าลาย และ
ร่างกายก็จะเจ็บป่วย โดยจะแบ่งภาวะการเสียสมดุลเป็น 2 แบบ คือ ภาวะเย็นเกินและภาวะร้อนเกิน
อาการของภาวะเย็นเกิน ได้แก่ สมองเฉื่อย คิดช้า, มึนหัวตื้อๆ, เหน็บชา, ท้องอืด จุก เสียดแน่น, หนาวสั่นได้ง่าย, เป็น
หวัด น้ำมูกใส แต่ไม่เจ็บคอ, ตาแฉะ ขี้ตามาก หนังตาบวม, หน้าซีด หน้ามืด วิงเวียนบ่อย, ตะคริว นิ้วล็อก ข้อติด บวมตามข้อ, รู
มาตอยด์, ไตวาย, ภูมิแพ้ หอบหืด
อาการของภาวะร้อนเกิน ได้แก่ หิวน้ ำ หิวข้าวง่าย, อ่อนล้า อ่อนเพลีย, เครียด คุม อารมณ์ไม่อยู่ , เหงื่อออกง่าย, ลม
หายใจร้อน, คอแห้ง, ปวดหัว ตัวร้อน, นอนไม่หลับ, ร้อนใน, เป็นสิว กระ, งูสวัด เริม ขึ้นง่าย, ผิวแห้ง ผื่นคัน , หน้าแดง ตาแห้ง

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 203


ริมฝีปากแตกแห้ง, ตาแดง มีน้ำตามาก, เท้าร้อน, เลือดกําเดาไหล, ปัสสาวะสีเข้ม, อุจจาระแข็ง ท้องผูก, ไทรอยด์เป็นพิษ, หลอด
โลหิตตีบตัน, ความดันสูง, คอเลสเตอรอล, เบาหวาน โรคอ้วน
อาการต่าง ๆ ที่กล่าวไปทั้งหมดนั้น สามารถรักษาได้ด้วยสมดุลแห่งพลังในจั กรวาล การปรับสมดุลอาหารจะสามารถ
เพิ่มสมดุลหยินหยางในร่างกายได้ มี 2 แบบ สําหรับคนแต่ละประเภท
การปรับสมดุลสําหรับผู้มีภาวะร้อนเกินเพื่อบรรเทาภาวะร้อนเกิน การบริโภคอาหารฤทธิ์เย็นสามารถช่วยได้ ได้แก่ ผัก
ใบเขียว ของรสขม และผลไม้ที่มีน้ำมาก เช่น ส้มทั้งหลาย สับปะรด ฝรั่ง แอปเปิล มะละกอ มังคุด แตงไท แตงโม ชมพู่ สาลี่ แก้ว
มังกร แคนตาลูป มะระ สะเดา เฉาก๊วย น้ำเต้าหู้ ลูกเดือย หรือจะเป็นอาหารที่ผ่านการต้ม นึ่ง ตุ๋นก็ช่วยได้ และหากไปรับประทาน
อาหารฤทธิ์ร้อนการปรับสมดุลจะแย่ลง จึงควรงดน้ำเย็นจัด น้ำแข็ง น้ำหวาน เหล้า เบียร์ บุหรี่
หากต้องการให้ภาวะเย็นเกินทุเลาลง ก็ต้องปรับสมดุล ในแบบผู้มีภาวะเย็นเกิน ทําได้โดยการดื่มน้ำอุ่นตอนเช้าตื่นนอน
และก่อนนอน หรืออาจจะกินอาหารฤทธิ์ร้อนเพิ่มเติมจากปกติ ก็สามารถช่วยแก้ได้ เช่น เกลือ ไข่ เนื้อ สัตว์ปีก เนยเค็ ม ปลา ขิง
พริกไทย กระเทียม ผักชี หัวหอม งาดํา หรือจะปรุงอาหารด้วยการทอด ย่าง รมควันก็ได้ และควรลดอาหารฤทธิ์เย็นเพราะมัน ทํา
ให้ปรับสมดุลได้ช้าลง
หลักการหยินหยางนี้ไม่ได้ใช้กับเฉพาะคนแก่เท่านั้ น คนทุกเพศทุกวัยก็สามารถปรับใช้ได้ หากนําหลักของหยินหยางมา
ใช้ในการเลือกทานอาหารให้ได้สมดุล ร่างกายของเราก็จะแข็งแรง เติบโตสมวัย สมบูรณ์ อายุยืน สุขภาพดี ร่างกายมีประสิทธิภาพ
ในการทํางานอย่างเต็มที่ อารมณ์ดี และมีความสุข
...วันนี้ คุณปรับสมดุล “หยิน-หยาง” แล้วหรือยัง...

ขอบคุณบทความจากหนังสือ แนวข้อสอบวิชาเฉพาะแพทย์

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 204


เลข ที่วา่ งสำหรับร่างรหัสคำตอบ
ข้อความทีก่ ำหนด
กำกับ คำตอบที่1 คำตอบที่2 คำตอบที่3 คำตอบที่4 คำตอบที่5
01 พลังหยาง
02 พลังหยิน
03 สมดุลของพลังหยินและหยาง
04 พลังหยินและหยางเสียสมดุล
05 การปรับสมดุลอาหารหยิน-หยาง
06 อาหารหยิน
07 อาหารหยาง
08 ส้มเขียวหวาน
09 อาหารทีเ่ กิดในเขตหนาว
10 พลังงานแห่งจักรวาล
11 การปรั บ สมดุ ล สำหรั บ ผู้ มี ภ าวะเย็ น
เกิน
12 ร้อนใน
13 สมองคิดช้า
14 การปรับ สมดุ ล สำหรั บ ผู้ มี ภ าวะร้อ น
เกิน
15 หน้ามืด
16 มีน้ำตามาก
17 ภาวะร้อนเกิน
18 ภาวะเย็นเกิน
19 ร่างกายเย็นขึ้น
20 ร่างกายอบอุ่นขึ้น

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 205


บทความที่ 5
โอบามาแคร์ ขอดูแลเธอ
หลายคนเมื่อได้ยินคําว่า “โอบามาแคร์” (Obamacare) แล้วอาจจะคิดว่าเป็นนโยบาย ที่โอบามาลงพื้นที่ไปดูแลทุกข์สุข
ของประชาชนโดยตรงเลยหรือเปล่า หรือโอบามาจะมีกลองไว้ให้ ประชาชนตีร้องทุกข์ แต่ในความจริงมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น
“โอบามาแคร์ ” คื อชื่ อเล่ น ของกฎหมายประกั น สุขภาพที่ มี ชื่อ ยาวอย่างเป็ น ทางการว่า The Patient Protection and
Affordable Care Act (PPACA) เป็นผลงานชิ้นโบแดงของประธานาธิบดี บารัค โอบามา และพรรคเดโมแครต มีจุดประสงค์เพื่อ
ต้องการขยายความคุ้มครองประกันสุขภาพ ให้ครอบคลุมชาวอเมริกันราว 15% หรือ 40-50 ล้านคน
ประเด็นสําคัญของโอบามาแคร์ มีดังนี้
1. ชาวอเมริกันที่เป็นผู้ทุพพลภาพ ผู้มีรายได้ต่ำ หรือผู้สูงวัยที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป จะต้องได้รับประกันสุขภาพจาก
รัฐบาล ส่วนบุคคลที่ไม่เข้าข่ายได้รับประกันสุขภาพจากรัฐบาล หรือจากนายจ้างจะต้องซื้อประกันสุขภาพด้วยตนเอง
2. ขยายจํานวนผู้ที่จะใช้บริการรักษาพยาบาลของรัฐ ภายใต้โครงการเมดิเคดเพิ่มขึ้น เพราะเดิมทีคนที่มีสิทธิใช้บริการนี้
คือคนจน ที่รายได้ต่ำกว่าเส้นวัดระดับความยากจน 40 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าเป็น “โอบามาแคร์” คนที่มีรายได้สูงกว่าเส้นวัดระดับความ
ยากจนไม่เกิน 33 เปอร์เซ็นต์ ก็ยังสามารถใช้บริการได้
3. กําหนดให้ผู้ประกอบการที่มีพนักงานหรือลูกจ้างทํางานเต็มเวลามากกว่า 50 คน จะต้องช่วยทําประกันสุขภาพให้
ลูกจ้าง อย่างไรก็ดีข้อกําหนดนี้ได้รับการชะลอออกไปจนถึงปี 2015 เพื่อให้ภาคธุรกิจได้มีเวลาเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตาม
กฎหมาย
4. แม้ว่าผู้ที่กําลังจะทําประกันมีปัญหาสุขภาพอยู่ก่อนแล้ว ก็ห้ามบริษัทประกันปฏิเสธ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้บุคคลที่
มีสภาพความเจ็บป่วยมาก่อน (pre-existing conditions) สามารถซื้อประกันสุขภาพได้
5. อนุญาตให้บุตรสามารถได้รับสิทธิประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันสุขภาพของบิดา มารดาได้จนอายุถึง 26 ปี
6. ห้ามมิให้บริษัทประกันกําหนดเพดานมูลค่าสิทธิประโยชน์ตลอดชีพสําหรับบริการที่จําเป็น
7. คิดเบี้ยประกันสุขภาพทุกคนอย่างเท่าเทียม
เป็นนโยบายที่ฟังดูดี แต่ก็ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยเพราะเห็นว่า “โอบามาแคร์” เป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของ
ประชาชนในการตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพ พรรครีพับลิกันจึง เห็นพ้องต้องกันว่าประเด็นต่าง ๆ ของโอบามาแคร์เกิดผลกระทบไป
ขัด แย้ งอุดมการณ์ พ รรค และใช้ข้อเสียตรงนี้เป็ นหัวข้อในการส่งคํ าร้องไปยั งศาลสู งของสหรัฐฯ ให้พิ จารณาว่าขัด รัฐธรรมนู ญ
หรือไม่ และในที่สุดศาลได้ตัดสินด้วยคะแนนโหวต 5 เสียงต่อ 4 ว่าการบังคับให้ประชาชนซื้อประกันสุขภาพตามกฎหมายโอบามา
แคร์ ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะการบังคับของรัฐไม่ใช่การค้าขายเพื่อหาผลกําไร
ในเมื่อยังไม่สําเร็จในครั้งนี้ พรรครีพับลิกันก็ยังไม่ย่อท้อ จึ งได้เรียกร้องประชาชนที่ไม่เห็น ด้วยกับ “โอบามาแคร์” คว่ำ
กฎหมายฉบับนี้ โดยเลือกมิตต์ รอมนีย์ในโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง
อุปสรรคของโครงการนี้ยังไม่จบลงแต่เพียงเท่านี้ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ค.ศ. 2013 ก็นับ ว่าเป็นสัปดาห์ที่สองแล้วสําหรับ
Government Shutdown (การปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ชั่วคราว) ส่งผลให้จนถึงตอนนี้ลูกจ้างรัฐบาลกลาง
กว่า 700,000 คน ยังคงต้องถูกพักงานโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน ส่วนทางประเทศไทยเองก็หวั่นว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ไทย
หรือ ไม่ เนื่ อ งจากอเมริ ก าก็ นั บ ว่ า เป็ น ลู ก ค้ า รายใหญ่ ข องเรา เพราะเหตุ ก ารณ์ นี้ น อกจากจะ ทํ า ให้ เจ้ า หน้ า ที่ ถู ก พั ก งานแล้ ว
พิพิธภัณฑ์และอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ รวมถึงอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพอันเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ ก็ต้องปิดให้บริการโดยไม่มี
กําหนด ทําให้ทางสหรัฐฯ สูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวครั้งยิ่งใหญ่ และขณะเดียวกันนี้เอง ภาวะ “หน้าผาการคลัง” หรือ Fiscal
Cliff ก็กําลังจะมาผสมโรงทําให้รัฐบาลต้องคิดไม่ตกกันอีกทาง
ชนวนเหตุสําคัญที่ทําให้เกิดวิกฤต “ชัตดาวน์” และกําลังขยายวงสู่ “ฟิสคัล คลิฟฟ์” นั้น มีที่มาที่ไปจากความขัดแย้งเรื่อง
กฎหมาย “โอบามาแคร์” (Obamacare) ฉบับนี้

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 206


โอบามาแคร์ ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับงบประมาณโดยตรง กําลังถูกทั้งสองพรรคใช้ เป็น “เครื่องต่อรอง” ทางการเมือง
โดยฝ่ายเดโมแครตของโอบามาที่ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ต้องการให้กฎหมายงบประมาณบรรจุโอบามาแคร์ลงไปด้วย แต่รี
พับลิกันซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่ ในสภาผู้แทนราษฎรไม่เห็นด้วย และเสนอให้เลื่อนการบังคับใช้โอบามาแคร์ออกไปอีกหนึ่งปี
มิฉะนั้นจะไม่ผ่านร่างงบประมาณสําหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานต่าง ๆ ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ด้วยเหตุนี้เองจึงนํามาสู่
เหตุการณ์ชัตดาวน์ในรอบ 17 ปี ที่กําลังปั่นป่วนสหรัฐฯ รวมไป ถึงตลาดการเงินทั่วโลกอยู่ในขณะนี้
การที่พรรครีพับลิกันต้องคัดค้านกฎหมายนี้แบบหัวชนฝานั้น แท้จริงแล้วมีเหตุ ผลไม่ใช่ แค่ขัดอุดมการณ์พรรคเท่านั้น
แต่เพราะกฎหมายโอบามาแคร์ยังทําให้นายจ้างรู้สึกกังวลด้วย จึงตัดชั่วโมงการทํางานของลูกจ้างเหลือเพียงสัปดาห์ละ 30 ชั่วโมง
และธุรกิจหลายแห่ง เช่น วอลมาร์ท หันมาจ้างพนักงานประเภทชั่วคราวแทน เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับของกฎหมายประกัน
สุขภาพโอบามาแคร์ตามสาระสําคัญข้อ 3 ที่กล่าวไว้ข้างต้น
รอมนีย์นําประเด็นดังกล่าวมาใช้โจมตีประธานาธิบดีโอบามา โดยเรียกโอบามาแคร์ว่าเป็นกฎหมายที่ขัดขวางการจ้างงาน
(job-kiler) พร้อมอ้างผลสํารวจของหอการค้าอเมริกันที่ระบุว่า กฎหมายดังกล่าวลดโอกาสที่บริษัทถึงสามในสี่จะจ้างงานเพิ่ม
นอกจากนี้ รายละเอียดสําคัญต่าง ๆ ของโอบามาแคร์ โดยเฉพาะข้อที่ให้ผู้ ประกอบการที่มีพนักงานหรือลูกจ้างทํางาน
เต็มเวลามากกว่า 50 คน จะต้องช่วยทําประกันสุขภาพให้ลูกจ้างส่งผลให้ผู้ประกอบการภาคธุรกิจที่สนับสนุนพรรครีพับลิกั นอยู่
ต้องสูญเสียรายได้ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นที่ถูกใจของคนผิวขาวฐานะยากจนและชนชั้นกลางซึ่งเป็นฐานเสียงใหญ่ของพรรค คน
เหล่านี้ก็จะเทคะแนนให้พรรคเดโมแครต คู่แข่งตลอดกาลของรีพับลิกัน หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ สาระต่าง ๆ ของโอบามาแคร์นั้น
ทําให้ฐานเสียงรีพับลิกันเปลี่ยนไปเลือกอีกฝ่าย ส่งผลให้เพิ่มความเสี่ยงที่รีพับลิกันจะเป็นฝ่ายค้านต่ออีกสมัย
ด้วยความเสี่ยงดังกล่าวและการขัดอุดมการณ์พรรค อีกทั้งยังทําให้บริษัทนายทุนพรรครีพับลิกันได้รับผลกระทบ ทั้งหมด
นี้จึงกดดันให้ทางพรรครีพับลิกันเห็นพ้องต้องกันว่าควรเสนอ Anti Obamacare ให้ผูกกับงบประมาณ โดยมีเงื่อนไขคือเสนอให้
เลื่อนการบังคับใช้โอบามาแคร์ ออกไปอีกหนึ่งปี มิฉะนั้นจะไม่ผ่านร่างงบประมาณสําหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานต่างๆ ของ
รัฐบาลกลางสหรัฐฯ แต่ “โอบามาไม่แคร์” จึงตัดสินใจไม่ลงนาม ทําให้การเสนอของรีพับลิกัน ในครั้งนี้ไม่เป็นผล
อย่างไรก็ดี การตัดสินใจอันเด็ดเดี่ยวของโอบามาในครั้งนี้ก็ได้ส่งผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบ
ทางบวกก็คือทําให้สร้างประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ให้กับตัวเอง อีกทั้งยังกระตุ้นให้เกิดการปฏิรูปประกันสุขภาพอย่างจริงจัง
กว่าเมื่อก่อน ประชาชนตระหนักถึงความสําคัญของประกันชีวิตและคนยากจนจํานวนมากก็ยังสามารถเข้าถึงสิทธิในด้านนี้ด้วย
นอกจากนี้ การไม่ลงนามยังส่งผลร้ายแรงคือไม่สามารถอนุมัติกฎหมายงบประมาณได้ ทําให้หายนะที่คาดไม่ถึงที่เรียกว่า
“Shutdown” ได้บังเกิดขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งของสอง พรรคการเมือง โดยมีแพะคือประชาชนชาวอเมริกัน
บทสรุปของ “โอบามาแคร์” จะเป็นเช่นไร ก็ต้องติดตามกันต่อไป...

ขอบคุณบทความจากหนังสือ แนวข้อสอบวิชาเฉพาะแพทย์

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 207


เลข ที่วา่ งสำหรับร่างรหัสคำตอบ
ข้อความทีก่ ำหนด
กำกับ คำตอบที่1 คำตอบที่2 คำตอบที่3 คำตอบที่4 คำตอบที่5
01 สาระสำคัญกฎหมายโอบามาแคร์
02 ผูท้ พุ พลภาพได้รบั ประกันสุขภาพจาก
รัฐ
03 รีพบั ลิกนั เป็นฝ่ายค้าน
04 การเสนอ Anti Obamacare ผูกกับ
งบประมาณ
05 ขัดอุดมการณ์พรรค
06 บุตรอายุไม่เกิน 26 ปี สามารถใช้สทิ ธิ
ประกันสุขภาพของบิดามารดาได้
07 ธุรกิจเอกชนทีส่ นับสนุนรีพบั ลิกนั เสีย
ประโยชน์
08 เสียรายได้จากการท่องเทีย่ วจำนวน
มาก
09 ผูท้ ี่มอี ายุมากกว่า 65 ปี ได้รบั ประกัน
สุขภาพจากรัฐ
10 คนผิวขาวรายได้ต่ำ
11 Government Shutdown
12 ห้ามบริษัทประกัน ปฏิเสธ ไม่ว่าคนที่
ทำประกันจะมีสุขภาพอย่างไร
13 สร้างประวัติศาสตร์
14 โอบามาไม่ลงนาม
15 แย่งฐานเสียงรีพับลิกัน
16 กฎหมายงบประมานไม่ผ่าน
17 ผู้ป ระกอบการบางรายจะต้อ งช่วยทำ
ประกันสุขภาพให้ลูกจ้าง
18 ปฏิรูปประกันสุขภาพครั้งใหญ่
19 เจ้า หน้าที่ข้าราชการจำนวนมากต้อ ง
พักงาน
20 ชนชั้นกลาง

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 208


บทความที่ 6
นกเงือก ยังไม่สายที่จะอนุรักษ์
นกเงือก หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Hornbill มีถึง 54 ชนิดในโลก พบได้ในป่าเขตร้อน ของทวีปเอเชียและแอฟริกา
เท่านั้น ในประเทศไทยมีนกเงือกอยู่ถึง 12 ชนิด นกเงือกมีสีที่ไม่ค่อยสะดุดตา สีขนก็มักเป็นสีขาว-ดํา หรือสีน้ำตาล เทา มีขนาด
ใหญ่ถึงใหญ่มาก บางชนิดอาจมีขนาดตัวถึง 1.5 เมตร ความกว้างของปีกที่กางออกอาจถึง 2 เมตร แต่มันมีรูปร่างที่น่าตลกคือ
ปากใหญ่ผิดสัดส่วนกับหัว แถมมีโหนกเหนือปาก ทําให้แลดูเกะกะ ลักษณะของโหนกที่ว่านี้ ดูเหมือนจะหนักแต่ที่จริงข้างในเป็น
โพรง ยกเว้น โหนกของนกชนหิน (Helmeted Hornbill) ที่ตนั เหมือนงาช้าง ซึ่งเราก็ใช้โหนกนี่แหละในการจําแนกชนิดของนกเงือก
หนังของนกเงือกจะมีบ างส่ วนเป็ นสีฉูดฉาด เช่น หนังบริเวณคอ ขอบตา นกเงือกมี ขนตายาวสวยงาม ขาสั้น ชอบ
กระโดด ลิ้นสั้น จึงต้องกินอาหารโดยเอาอาหารไว้ที่ปลายปาก แล้วโยนกลับลงคอไป โดยปกตินกเงือกจะกินทั้งผลไม้และสั ตว์เล็ก
ๆ แต่นกเงือกเอเชียจะกินผลไม้พวกไทรเป็นหลัก
นกเงือกมีเสียงร้องที่ดังและบินเสียงดังมาก โดยเฉพาะนกเงือกขนาดใหญ่ ซึ่งเสียงดัง นี้ เกิดจากที่อากาศผ่านช่องว่าง
ระหว่างโคนขนปีกที่ไม่มีขนคลุมด้านใต้ เมื่อกระพือปีกแต่ละครั้ง จึงเกิดเสียงดัง
การทํารังของนกเงือก ถือเป็นลักษณะเด่นเฉพาะตัวของนกในวงศ์ Bucerotidae คือ ทํารังในโพรงไม้ที่มีอยู่โดยธรรมชาติ
หรือที่มีสัตว์อื่นทําให้เกิดขึ้ น เพราะมันไม่สามารถเจาะรังได้ เอง แต่ที่แปลกคือเมื่อเข้าไปอยู่ในโพรงแล้วนกเงือกตัวเมียจะปิดปาก
โพรงด้วยวัสดุต่างๆ เช่น มูลของมันเอง เศษไม้ ดิน เป็นต้น ผสมกันพอกปากโพรงให้เล็กลงจนเหลือเพี ยงช่องแคบๆ แค่พอที่ตัวผู้
จะส่งอาหารผ่านด้วยจะงอยปาก นกเงือกตัวเมียจะออกไข่ ฟักไข่ และเลี้ยงลูกอยู่ภายในโพรง จนกว่าลูกนกโตพอที่ จะบินได้ จึง
กะเทาะปากโพรงออกมาซึ่งทั้งหมดกินเวลาประมาณ 3-4 เดือน
นกเงือกมีฤดูผสมพันธุ์ที่เริ่มต้นราวกลางเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ เราจะเห็นนกเงือกอยู่กันเป็นคู่ส่วนใหญ่ ช่วงเวลา
นี้ทําให้นกเงือกแบ่งหน้าที่กัน เป็นหน้าที่ของตัวผู้และหน้าที่ของตัวเมีย โดยการเสาะหารังเป็นหน้าที่ ของตัวผู้ ส่วนตัวเมียจะคอย
ติดตามไปดูและตัดสินใจเลือกโพรง เพราะตนจะต้องอยู่ในโพรงนี้ไปอีกนาน ในการสร้างโพรงรังของนกเงือก ตัวผู้จะเชิญชวน ตัวเมีย
ให้เข้าไปดูรังด้วยการโผบินไปเกาะปากโพรง แล้วยื่น หัวเข้าไปสํารวจภายใน บินเข้าออกหลายครั้ง ขณะเดียวกันก็เกี้ยวพาราสี กัน
ด้วย ตัวผู้จะกระแซะเข้าใกล้ตัวเมียและพยายามป้อนผลไม้ให้ตัวเมีย บางคู่อาจใช้เวลานานหลายวันกว่าตัวเมียจะสนใจและยอมบิน
เข้ามาดูรัง
เมื่ อได้โพรงที่เหมาะเป็ นที่ ถูกใจแล้ว ตัวเมี ยจะเริ่มงานทั นที โดยถ้าปากโพรงแคบไปมัน จะเจาะปากโพรงให้กว้างอี ก
เล็กน้อย กะเทาะวัสดุปิดรังเก่าๆ ออก แล้วมุดเข้าไปในโพรง จากนั้นตัวเมียจะทําความสะอาดภายในโพรงโดยการคาบเศษเมล็ด
ผลไม้เก่า ๆ โยนเศษขนของปีก่อนทิ้ง แล้วเริ่มปิดปากโพรงเสียใหม่ วัสดุที่หาได้จะถูกผสมกับมูลของตัวเมียรวมทั้งอาหารที่สํารอก
ออกมาแล้วพอกลงบนปากโพรงที่เปรียบเหมือนประตู เมื่อวัสดุนี้แห้งจะแข็งและเหนียวมาก ตัวผู้อาจช่วยหาวัสดุเช่นดินหรือเปลือก
ไม้มาให้ นอกจากนี้ตัวผู้จะคอยเฝ้าเป็นเพื่อนอยู่ข้างนอกเกือบตลอดเวลา และคอยป้อนอาหารหลังจากตัวเมียเสร็จงานปิดโพรงใน
แต่ละวัน โดยใช้เวลาปิด ปากโพรงอยู่ราว 3-7 วัน เมื่อตัวเมียขังตัวเองอยู่ ภายในโพรงเรียบร้อยแล้ว ตัวผู้จะทําหน้าที่ดูแลอย่าง
เคร่งครัด โดยการป้อนอาหาร ราววันละ 2-3 ครั้ง อาหารส่วนมากเป็นพวกผลไม้ เมื่อเวลาผ่านไปราว 5-7 สัปดาห์ ลูกนกจะฟัก
ออกเป็นตัว
หลังจากลูกนกฟักแล้วจะทําให้ตัวผู้ต้องรับภาระหนักมาก โดยภาระที่ว่าก็คือต้องป้อน อาหารขึ้นเป็นวันละ 10 ครั้ง หรือ
มากกว่านั้น ชนิดอาหารที่นํามาป้อนจะมีความหลากหลาย มากขึ้น และยังต้องหาอาหารเสริมโปรตีนมาเลี้ยงลูก เช่น พวกแมลง
สัตว์เลื้อยคลาน ทําให้ช่วงนี้ พ่อนกจะดูโทรมกว่าปกติมากๆ
นกเงือกเป็นนกที่สะอาดสะอ้าน ทั้งแม่และลูกจะถ่ ายมูลผ่านช่องแคบ ๆ แต่ลูกนกไม่สามารถถ่ายมูลให้พุ่งพ้นปากโพรง
ได้ จึงตกอยู่แค่ปากโพรง เมื่อพ่อนกป้อนอาหารเสร็จก็จะมีภาระหนักที่ต้องคาบเอามูลของลูกมันทิ้ง จากพฤติกรรมนี้ทําให้ ทํานาย
ได้ว่ารังใดมีลูกนกฟักเป็น ตัวแล้ว จะพบว่าที่โคนต้นไม้ที่เป็นรังนกเต็มไปด้วยมูลนกและเมล็ดผลไม้ ซึ่งจะงอกเป็นต้นกล้า เต็มไป
หมด เมื่อเวลาล่วงเข้าประมาณสัปดาห์ที่ 10-15 พ่อนกจะเริ่มลดอาหารลง ก็แสดงว่าใกล้เวลาที่ลูกนกและแม่นกจะออกจากโพรง
เสียที เมื่อออกจากโพรงแล้วลูกนกจะบินได้เกือบทันที เพราะซ้อมกระพือปีกไว้บ้างแล้วขณะอยู่ในโพรง พ่อแม่นกจะคอยดูแลโดย

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 209


ป้อนอาหารและสอนร่อนไปในหมู่ไม้ให้ลูกนกอีกราว 5-6 เดือน หรือจนกว่าฤดูทํารังใหม่จะใกล้เข้ามา ก็เป็นอันว่า ลูกนกสามารถ
หากินดูแลตัวเองได้
ด้วยลักษณะการดํารงชีวิตดังที่กล่าวมาแล้ว นกเงือกจึงมีบทบาทที่สําคัญในระบบนิเวศของป่าดงดิบ นั่นคือช่วยกระจาย
พันธุ์พืชโดยการสํารอกเมล็ดผลไม้ทิ้งหรือถ่ายเมล็ดออกมา ชีวิตของนกเงือกต้องอยู่กับป่าที่สมบูรณ์ มีต้นไม้ใหญ่ ที่มีโพรงให้ทํารัง
มีแหล่งอาหารที่เพียงพอ จึงอาจใช้นกเงือกเป็นตัวบ่งชี้ความอุดมสมบูร ณ์ของป่าได้ เนื่องจากสถานการณ์ ของป่าไม้บ้านเราลด
น้อยลงไปทุกที ประกอบกับการที่นกถูกล่าเพื่อนํามาเลี้ยงหรือนํามาใช้ทําเครื่องประดับ ทําให้โอกาสที่นกเงือกจะสืบทอดพันธุ์ต่อไป
ให้คนรุ่นหลังๆ ได้ชื่นชมเห็นทีจะเลือนราง ถ้าทุกฝ่ายรวมทั้งพวกเรายังหลงฟุ้งเฟ้อกับการพัฒนาประเทศโดยปราศจากการวางแผน
ที่รอบคอบ จริงจัง จริงใจ และโปร่งใส มรดกไทยที่ธรรมชาติได้สั่งสมมาช้านาน ไม่จําเพาะแต่นกเงือกเท่านั้น คงถึงกาลอวสานเป็น
แน่แท้

ขอบคุณบทความจากหนังสือ แนวข้อสอบวิชาเฉพาะแพทย์

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 210


เลข ที่วา่ งสำหรับร่างรหัสคำตอบ
ข้อความทีก่ ำหนด
กำกับ คำตอบที่1 คำตอบที่2 คำตอบที่3 คำตอบที่4 คำตอบที่5
01 นกเงือก
02 ลิน้ สัน้
03 เอาอาหารไว้ทปี่ ลายปากแล้วโยน
กลับลงคอไป
04 บินเสียงดังมาก
05 โคนปีกทีไ่ ม่มขี นคลุมด้านใต้
06 ฤดูผสมพันธ์เริม่ ต้นราวกลางเดือน
มกราคมและกุมภาพันธ์
07 นกเงือกแบ่งหน้าทีก่ นั
08 หน้าทีข่ องตัวผู้
09 หน้าทีข่ องตัวเมีย
10 ตัดสินใจเลือกโพรง
11 ทำความสะอาดภายในโพรง
12 คอยเฝ้าเป็นเพื่อน
13 คอยป้อนอาหาร
14 ลูกนกฟักเป็นตัว
15 ตัวผู้รับภาระหนักมาก
16 ป้อนอาหารถี่ขึ้น
17 คาบเอามูลของลูกไปทิ้ง
18 ทำนายได้ว่ารังใดมีลูกนกฟักเป็นตัว
แล้ว
19 อยู่ในป่าที่อุดมสมบูรณ์
20 ตัวบ่งชี้ความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้
21 ป่าไม้บ้านเราลดน้อยลง

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 211


เฉลย แนวข้อสอบความถนัดแพทย์ PART เชือ่ มโยง
บทความที่ 1 2012 วันสิน้ โลก
เลขกำกับ ข้อความที่กำหนด ที่ว่างสำหรับร่างรหัสคำตอบ
01 สิ่งมีชีวิตบนโลกมากมายจะต้องตาย 99H
02 รังสีคอสมิก 13A 14A
03 ทำปฏิกิริยากับชั้นบรรยากาศ 07A 15A
04 ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก 99H
05 สนามแม่เหล็กโลก 06F
06 พายุสุริยะ 02D 11D
07 พายุฟ้าผ่า 01A 10A
08 ปฏิกิริยานิวเคลียร์ที่เกิดจากธาตุไฮโดรเจนบนพื้นผิวดวง 06A
อาทิตย์
09 ทั้งกระแสน้ำทะเล กระแสลม รวมถึงแผ่นดินเปลี่ยนไป 99H
10 เทคโนโลยีต่างๆที่มนุษย์สร้างขึ้นจะถูกทำลายลง 99H
11 คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า 03A
12 การพลิกด้านของขั้วแม่เหล็กโลก 05F 16A
13 โรคมะเร็ง 01A
14 ความร้อน 01A
15 สนามแม่เหล็กชุดใหม่ 02F
16 โลกหมุนกลับทาง 04A 09A

บทความที่ 2 Digital technology เปลีย่ นโลก


เลขกำกับ ข้อความที่กำหนด ที่ว่างสำหรับร่างรหัสคำตอบ
01 สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 06D
02 อยู่ที่ปอด 99H
03 อยู่ในส่วนที่เป็นกล้ามเนื้อ 99H
04 กลั้มลมปราณได้นานเป็นชั่วโมง 99H
05 ส่งเสียงและรับเสียงต่างๆ 10A 11A
06 ปลาวาฬ 04D 05D 12D
07 ออกลูกเป็นตัว 01A
08 มีออกซิเจนในตัวมาก 02D 03D 04A 09A
09 เนื้อปลาวาฬมีสแี ดงเข้มจัดกว่าเนือ้ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 99H
ชนิดอืน่ ๆ
10 รู้ชนิดและตำแหน่งของเหยื่อ 99H
11 เวลาสนทนากัน 99H
12 ผสมพันธุ์กันในตระกูลเดียวกัน 15A
13 จำนวนปลาวาฬลดลงทุกปี 99H
14 ถูกเรือชน 13A
15 อัตราการเกิดลด 13A
16 เลี้ยงลูกอ่อนของมันด้วยนม 01A
17 มลภาวะของทะเล 15A

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 212


บทความที่ 3 โยเกิรต์ กินแล้ว “เกิด” ประโยชน์

เลขกำกับ ข้อความที่กำหนด ที่ว่างสำหรับร่างรหัสคำตอบ


01 โยเกิร์ต 06D 13A 15D 18F
02 นมพร่องมันเนย 01A
03 นมเปรี้ยว 01D
04 รสเปรี้ยว 99H
05 ภาวะกรด 99H
06 กรดแลกติก 04A 05A 08F 14A
07 แบคทีเรียที่ใช้หมักนม 01A 09D 10D
08 จุลินทรีย์ที่เป็นอันตราย 11D 12D
09 แล็กโทบาซิลลัส เอซิโดฟิลัส 06A 16A 17A 19F 20A
10 สเตรปโทค๊อกคัส เทอร์โมฟิลัส 06A 16A 17A
11 Salmonella typhi 99H
12 E.coli 99H
13 ภูมิคุ้มกัน 99H
14 ดูดซึมแคลเซียม 99H
15 ย่อยง่าย 99H
16 วิตามินบี 99H
17 วิตามินเค 99H
18 โรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร 99H
19 โรคหลอดเลือดหัวใจ 99H
20 สารต้านมะเร็ง 99H

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 213


บทความที่ 4 หยินหยาง พลังยิง่ ใหญ่

เลขกำกับ ข้อความที่กำหนด ที่ว่างสำหรับร่างรหัสคำตอบ


01 พลังหยาง 02A 02F
02 พลังหยิน 01A 01F
03 สมดุลของพลังหยินและหยาง 12F 13F 15F 16F
04 พลังหยินและหยางเสียสมดุล 03F 17D 18D
05 การปรับสมดุลอาหารหยิน-หยาง 03A 11D 14D
06 อาหารหยิน 02D 08D 11F 14A 19A
07 อาหารหยาง 01D 09D 11A 14F 20A
08 ส้มเขียวเหวาน 99H
09 อาหารที่เกิดในเขตหนาว 99H
10 พลังงานแห่งจักรวาล 01D 02D
11 การปรับสมดุลสำหรับผู้มีภาวะเย็นเกิน 18F
12 ร้อนใน 99H
13 สมองคิดช้า 99H
14 การปรับสมดุลสำหรับผู้มีภาวะร้อนเกิน 17F
15 หน้ามืด 99H
16 มีน้ำตามาก 99H
17 ภาวะร้อนเกิน 12F 16D
18 ภาวะเย็นเกิน 13D 15D
19 ร่างกายเย็นขึ้น 99H
20 ร่างกายอบอุ่นขึ้น 99H

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 214


บทความที่ 5 โอบามาแคร์ ขอดูแลเธอ

เลขกำกับ ข้อความที่กำหนด ที่ว่างสำหรับร่างรหัสคำตอบ


01 สาระสำคัญกฎหมายโอบามาแคร์ 02D 06D 09D 12D 17D
02 ผู้ทุพพลภาพได้รับประกันสุขภาพจากรัฐ 05A 07A 15A
03 รีพับลิกันเป็นฝ่ายค้าน 04A
04 การเสนอ Anti Obamacare ผูกกับงบประมาณ 99H
05 ขัดอุดมการณ์พรรค 04A
06 บุตรอายุไม่เกิน 26 ปี สามารถใช้สิทธิประกันสุขภาพของ 05A 07A 15A
บิดามารดาได้
07 ธุรกิจเอกชนที่สนับสนุนรีพบั ลิกนั เสียประโยชน์ 04A
08 เสียรายได้จากการท่องเที่ยวจำนวนมาก 99H
09 ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ได้รับประกันสุขภาพจากรัฐ 05A 07A 15A
10 คนผิวขาวรายได้ต่ำ 99H
11 Government Shutdown 08A 19A
12 ห้ามบริษัทประกันปฏิเสธ ไม่ว่าคนที่ทำประกันจะมีสุขภาพ 05A 07A 15A
อย่างไร
13 สร้างประวัติศาสตร์ 99H
14 โอบามาไม่ลงนาม 04F 13A 16A 18A
15 แย่งฐานเสียงรีพับลิกัน 03A 10D 20D
16 กฎหมายงบประมานไม่ผ่าน 11A
17 ผู้ ป ระกอบการบางรายจะต้ อ งช่ ว ยทำประกั น สุ ข ภาพให้ 05A 07A 15A
ลูกจ้าง
18 ปฏิรูปประกันสุขภาพครั้งใหญ่ 99H
19 เจ้าหน้าที่ข้าราชการจำนวนมากต้องพักงาน 99H
20 ชนชั้นกลาง 99H

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 215


บทความที่ 6 นกเงือก ยังไม่สายทีจ่ ะอนุรักษ์

เลขกำกับ ข้อความที่กำหนด ที่ว่างสำหรับร่างรหัสคำตอบ


01 นกเงือก 02D 04D 06D 19D 20D
02 ลิ้นสั้น 03A
03 เอาอาหารไว้ที่ปลายปากแล้วโยนกลับลงคอไป 99H
04 บินเสียงดังมาก 99H
05 โคนปีกที่ไม่มีขนคลุมด้านใต้ 04A
06 ฤดูผสมพันธ์เริ่มต้นราวกลางเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 07A
07 นกเงือกแบ่งหน้าทีก่ ัน 08D 09D 14A
08 หน้าที่ของตัวผู้ 12D 13D
09 หน้าที่ของตัวเมีย 10D 11D
10 ตัดสินใจเลือกโพรง 99H
11 ทำความสะอาดภายในโพรง 99H
12 คอยเฝ้าเป็นเพื่อน 99H
13 คอยป้อนอาหาร 99H
14 ลูกนกฟักเป็นตัว 15A
15 ตัวผู้รับภาระหนักมาก 16D 17D
16 ป้อนอาหารถี่ขึ้น 99H
17 คาบเอามูลของลูกไปทิ้ง 18A
18 ทำนายได้ว่ารังใดมีลูกนกฟักเป็นตัวแล้ว 99H
19 อยู่ในป่าที่อุดมสมบูรณ์ 99H
20 ตัวบ่งชี้ความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ 99H
21 ป่าไม้บ้านเราลดน้อยลง 01F

ความถนัดแพทย์ | PART3 เชื่อมโยง 216

You might also like